สวัสดีปีใหม่...พี่ๆน้องๆทุกท่านครับผม
ไอ้หน่อยกัยเฮียมี่และสมาชิกทุกคนกับอีกหนึ่งตัวสบายดีครับผม
วันนี้มีเรื่องจะมาเล่าให้ฟังครับ...
คำเตือน....นิยายเรื่องนี้เป็นเรื่องที่แต่งขึ้นมาจากมโนครับผม
พฤติกรรมการบริโภค
เรียกง่ายๆก็...นิสัยในการกินนั่นล่ะครับ
คุณๆอยากรู้มั๊ยครับว่า...
แต่ละคนมีนิสัยการกินเป็นอย่างไรกันบ้าง
เริ่มจาก....
พ่อ...ต้องนิ่มๆเปื่อยๆไม่ต้องเคี้ยวมาก
เพราะพ่อแกเริ่มมีฟันชุดที่สามเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของร่างกายแล้ว(ฟันปลอม)
ดังนั้นของโปรดของพ่อ...ปลาหมึก ไม่ต้องพูดถึงเลยครับ ได้แค่มอง
แม่..รสไม่จัด อาหารไชนีส สไตล์...
พวกจับฉ่าย ปลานึ่ง ไก่ตุ๋นยาจีน อะไรทำนองนี้ ก็ลูกคนจีนน่ะครับ
เจ๊นิด...อาหารที่แกทำเอง
แกมีฝีมือครับ ทำได้หมด ไทย จีน ฝรั่ง คาว หวาน
เฮียมี่...รสชาติมาทีหลัง..
ขอให้..ใหม่ สด และสะอาด
ส่วนผม....ไอ้หน่อย...ซ้ำๆซากๆ...ซ้ำซากจำเจ
งงกันแล้วสิครับ
ซ้ำซากอะไรของมัน
คือ...ผมออกจิตนิดๆ
ความอยากอาหารจะถาโถมมาราวกับพายุ แล้วสลายไปจนไม่เหลือซาก
ในที่นี้ไม่ได้หมายถึงกินจุ กินมากมายหรอกนะครับ
ผมจะบังเกิดความอยากอาหารชนิดใดชนิดหนึ่งอย่างแรงกล้า
แล้วจะคงอยู่สักระยะสั้นๆ สุดท้ายคือเบื่อหน่าย
ยกตัวอย่างเช่น
วันหนึ่งไอ้หน่อยดูรายการอาหาร แล้วเกิดความอยาก
“อยากกิน...ผัดกระเพราไข่เจียว”
เย็นวันนั้นตัองดั้นด้นไปซื้อมากินให้ได้
ถ้าติดขัดร้านนั้นปิด
คือ..ต้องผัดกระเพราเจ๊ปอเท่านั้น ร้านอื่นแทนกันไม่ได้
ถ้ายังไม่มาวางตรงหน้า ไอ้หน่อยก็จะไม่อยากกินอะไร
พาลเบื่ออาหารไปหมด
และเมื่อจัดหามาได้ไอ้หน่อยจะกินมันทุกวัน
จนมาวันหนึ่งก็สักวันที่สี่ที่ห้าเห็นจะได้
“ไม่อร่อยอ่ะ”
แล้วเมนูผัดกระเพราจะเป็นเมนูที่ไอ้หน่อยไม่แตะ ไม่ชำเลืองมองอีกนานนับเดือน
จนกว่าจะเกิดความอยากขึ้นมาอย่างแรงกล้าอีกครั้ง
แล้วก็ต้องทุรนทุรายไปเสาะหามากินติดๆกันสักสี่ห้าวัน
เป็นแบบนี้มาตลอดๆ
วันหนึ่งไอ้หน่อยอยากกินไก้วิงค์แซ่บ kfc ด้วยดูโฆษณา
“เฮีย...อยากกินไก่อ่ะ”
เย็นนั้นหลังเลิกงาน เฮียพาผมไปห้างเขียว ได้กินสมใจหายอยาก
วันที่สอง...
“วันนี้กินอะไรดีครับ”
อะไรในที่นี้ของเฮีย มันคืออาหารว่างรองท้องนะครับ
ดินเนอร์ที่บ้านทรายทองประมาณหนึ่งทุ่ม
อาหารว่างก็พวก ลูกชิ้นทอด ขนมจีบซาลาเปา ขนมครก เค๊ก ไอศกรีม น้ำแข็งไส
“ผมอยากกินเอฟซีอีกอ่ะ”
“จัดให้ครับ”
เฮียพาผมไปกิน เหมือนเมื่อวาน
แต่วันนี้เฮียไม่กินด้วย แถมทำหน้าเบื่อๆเล็กน้อย
วันที่สาม...
“วันนี้...”
“วิงค์แซ่บนะเฮีย..ผมอยาก...”
“ซื้อกลับไปกินที่บ้านละกันครับ”
แล้วไอ้หน่อยก็บริโภค ไก่เทคโฮมสามวันติด
แต่เทคโฮมวันที่สามนี่สิครับ
“เฮีย...ผมอิ่ม”
กินไปได้ชิ้นเดียว เหมือนไก่มันมารอจ่อตรงคอหอย
พร้อมจะออกมาโลดเต้นข้างนอกทุกเมื่อ
“อ้าว..เหลือเยอะแยะ”
เฮียทำหน้ารู้ทัน
“ก็..วันนี้ไม่อร่อยอ่ะ..สงสัยคนทอดไก่ฝีมือตก..แหะๆ”
“ตกลงว่าจะไม่กินแล้วใช่ไหมครับ”
เฮียปรายสายตามองไก่ที่นอนอยู่ในจานอีกหลายชิ้น
“โห..ก็เฮียดูดุ๊กดิ๊กดิ..นั่งมองไก่ตาละห้อย สงสัยจะอยากกิน”
ผมหันไปเจอดุ๊กดิ๊กนอนหลับอยู่ใกล้ๆ
“นั่นน่ะ...หลับ..ครับ”
“หลับแล้วฝันไงเฮีย ฝันอยากกินไก่”
ผมแถจนแสบสีข้าง
หลังจากนั้นผมจะไม่แตะเมนูนี้อีกเป็นเดือนๆเลยครับ
แค่เห็นก็เอ่อรอจ่อที่คอหอย
แล้วจะกลับมากินอาหารแบบปกติไปสักระยะ
ไม่นานสักสองสามอาทิตย์
ก็จะบังเกิดความอยากอย่างรุนแรงขึ้นมาอีกครั้ง
บางเมนูที่ผมเคยอยากบริโภคแบบนี้ก็มี
กระเพราหมูสับไข่เจียว...ต้องเจ้าประจำเท่านั้น
วิงค์แซ่บkfc…มีโคสลอว์เป็นเครื่องเคียง
โรตี....แบบไม่ใส่ไส้อะไร...
โรยหน้าด้วยนมน้ำตาล...กินแทนข้าวเลยครับ
ป๊อบคอร์น(อันนี้บ่อยนิดนึง)...รสหวานโอนลี่
เมนูนี้มีเม้าท์นิดนึง...
วันนั้นผมนั่งกินป๊อบคอร์นไปดูหนังไป เฮียแกดูอย่างเดียวไม่กิน
ข้างหนึ่งเป็นเฮีย
อีกข้างเป็นเด็กผู้ชายวัยรุ่นน่าจะอายุไม่เกินยี่สิบ
มากันสามคน
คนที่นั่งติดกับผมแกคงจะหนาว เห็นห่มเสื้อกันหนาวตลอด
แต่จะให้ดีน้องน่าจะสละเวลาใส่เสื้อหนาวให้มันดี
เพราะน้องห่มแล้วคอยกระพือไปมา
กลิ่นเสื้อกันหนาวที่คงจะเก็บไว้ในตู้นานๆมัน...อับ
ถ้าเป็นกลิ่นน้ำหอมพี่จะไม่มายด์สักนิด
ผมก็นะ..อดทนกับกลิ่นอับๆ
คิดในใจว่าดีกว่ากลิ่นถุงเท้าเน่าๆล่ะวะ
ดูหนังได้สักหนึ่งในสามของเรื่อง
ผมยังกินป๊อบคอร์นอยู่ครับ
แต่รู้สึกคล้ายๆมีคนมอง
หันไปทางขวา..เฮียก็จ้องจอหนังอยู่ตามปกติ
หันไปทางซ้าย...สบตากับหนุ่มน้อยกลิ่นอับข้างๆ
ผมโดนเมิน...ไอ้เด็กอับๆมันเบือนหน้ากลับไปทางจอหนัง
สักพักก็รู้สึกอีกล่ะว่ามีคนมอง
ผมใช้ความสามารถเฉพาะตัว
หน้าตรงแต่หางตาเหลือบแลไปด้านข้าง
ไอ้เด็กคนเดิมมันหันมามองผมอีกล่ะ
พอผมหันขวับไป
มันก็รีบหันกลับไปมองจอ
อะไรวะ ผมไม่เป็นอันดูหนัง
อาศัยแสงสว่างจากจอหนัง พิจารณาเด็กข้างๆ
หัวเกรียนๆ ตัวโตๆ หน้าบ้านๆ
ชิส์..ไม่สเป๊ก
ผมหันกลับมาเอนจอยกับหนังต่อ
สักพัก
อีกล่ะ...แม่ม...มองกูอยู่ได้
ไม่อยากจะแสดงกริยาวาจาไพร่
ด้วยผมเป็นถึงสะใภ้บ้านทรายทอง
จึงจำต้องทำไม่รู้ไม่ชี้
เอาสิ แกจะจ่ายเงินเข้าโรงหนัง
แต่มานั่งดูชั้นแทนดูหนังก็เงินของแก
เมื่อคิดได้ปลงได้ ใครก็ทำอะไรผมไม่ได้
ผมก็ดูหนังกินป๊อบคอร์นของผมไป
ในใจก็แอบปลื้มเล็กๆ
ไงๆไอ้หน่อยก็คงหน้าตาดีในที่สลัวๆล่ะวะ
ผมก็ชายตาหน้าตรงเป็นระยะ
เฮ๊ย..ไอ้เด็กอับๆนี่มันคิดอะไรกับผมป่ะเนี่ย
แกเด็กแบบเป็นลูกชั้นได้เลยนะ(ถ้าผมทำเป็น)
สักกลางๆเรื่อง..
ว๊า..ป๊อบคอร์นหมดซะละ
ผมโน้มตัวลงวางกล่องเปล่าลงแอบๆที่พื้นใต้เก้าอี้
เฮียส่งน้ำส่งทิชชูเปียกมาให้อย่างเคยชิน
ทิชชูเปียกนี่เฮียแกพกติดตัวประจำครับ
เช็ดหน้าเช็ดมือ
แม้แต่เกิดปวด..นอกสถานที่ก็ไม่ต้องลำบากใจ
เช็ดปากเช็ดมือดื่มน้ำทิพย์แล้ว
ผมเอนกายลงพิงพนักเก้าอี้
ก่อนจะดูหนังต่อ
ผมก็อดจะหันไปมองคนข้างๆไม่ได้
หนุ่มอับนั่นมันคงเริ่มรู้ตัวแล้วว่า
กูมาดูหนัง
มันหน้าตรงมองจอไม่วอกแวก
จนหนังจบ
ไฟสว่าง
เฮียรุก ผมรับ.....เย้ย
ม่ายช่าย..เอ๊ะ...ก็ถูกแล้วนี่นา...คริคริ
เฮียลุกขึ้นยืน
ผมลุกขึ้นยืน
เด็กอับและผองเพื่อนลุกขึ้นยืน
ทุกๆคนในโรงหนังลุกขึ้นยืน...แปลกตรงไหน จะบอกเพื่อ...
เด็กอับมองหน้าผมเพียงหนึ่งวินาทีด้วยหน้ายิ้มๆกลั้นขำ
แล้วเดินจากไป
จากการวิเคราะห์ของผม...
เด็กอับ...พึงพอใจในตัวผม
เด็กอับ...ใคร่สานสัมพันธ์อันจะนำไปสู่ความรักและการครองคู่กับผม
เด็กอับ..พบทางสว่าง..รสนิยมที่แท้จริงของตน
จากการวิเคราะห์ของเฮีย..
เด็กอับ...
ตกตะลึง
ฉงน
สงสัย
ในความสามารถในการกินป๊อบคอร์นของผม
แล้วคุณๆล่ะ...
วิเคราะห์กันได้ว่าอย่างไร...
กลับเข้าเรื่องกันต่อครับ
ไอ้น้องนิว...
พฤติกรรมการบริโภคของน้องผม
กับข้าวเยอะๆข้าวน้อยๆ กับข้าวในที่นี้เน้นสุขภาพครับ
ผักเยอะๆเนื้อสัตว์ไม่ติดมัน
คือ ไอ้นิวมันเคยอ้วนไงครับ แล้วตอนนี้มันก็หุ่นดีแล้ว
ดังนั้นไอ้น้องนิวมันจะกลัวอ้วนครับ
ถ้าไปกินอาหารบุฟเฟ่ต์หรืออาหารที่มันชอบ มันก็กินไม่ยั้ง
แล้วไปลดปริมาณอาหารในวันอื่น
บวกกับการออกกำลังกายอย่างหักโหม
“เฮีย..แถวๆมอลล์บางกะปิ นิวไปกินสุกี้มาอร่อยและไม่แพงด้วยนะ”
ไอ้น้องนิวเปิดประเด็นขึ้นมาตอนเจอกันช่วงปีใหม่
“เรื่องไรจะถ่อไปถึงโน่น เอ็มเคก็อร่อย”
ผมว่าเอ็มเคก็โออยู่นะครับ นั่งสบาย สาขาก็มากมาย
“แต่นี่อร่อยมาก ถูกมากนะเฮีย”
“ชั้นเอาค่าน้ำมันรถที่ถ่อไปถึงบางกะปิไปกินเอ็มเคแถวบ้านดีกว่าเหอะ”
ก็เขวเล็กๆ เพราะไอ้น้องนิวไม่ใช่คนที่พูดอะไรเว่อร์ๆ บวกสองบวกสาม
“น้ำจิ้มอร่อยนะเฮีย ของสดด้วย”
ไอ้นิวยังไม่เลิก
“นิวไปกินบ่อยเหรอ”
เฮียมี่ถามก่อนที่ผมจะเอ็ดมันว่า..แกได้ค่าคอมรึไงฟ๊ะ
“ครั้งเดียวเฮีย นิวไปกับน้องๆที่ทำงาน”
“โธ่...นึกว่าไปสักสิบครั้ง..ชิส์”
ผมก็นึกว่ามันไปตลอดๆจนเอามาโม้ได้
“ถูกกว่าแล้วไง น้ำจิ้มอร่อยแล้วไง ของสดแล้ว...”
ผมได้ทีร่ายยาว
“ออกทีวีด้วยนะเฮีย”
ไอ้นิวมันยิ้มเยาะๆด้วยรู้ทันว่า..
ไอ้หน่อยมันจะกระตือรือร้นขึ้นมาทันที
“ห๋า...จริงอ่ะ..บอกพิกัดมาดิ๊”
แล้วผมกับเฮียก็ตามรอยไอ้น้องนิวไปกินสุกี้รายการทีวีแถวบางกะปิ
ขอบคุณทุกคอมเม้นท์และการติดตามครับผม
ยังมีต่อนะครับ