
สวัสดีครับผม
ถึงบ้านปุ๊บ เข้าเล้าปั๊บ
เพิ่งกลับจากการออกไปทำหน้าที่ประชาชนคนดี
ใช้สิทธิ์ใช้เสียงเข้าคูหากากบาท
ขอบคุณทุกคอมเม้นท์ครับผม
บางคอมเม้นท์ยิ่งกว่าอยู่ในเหตุการณ์
อดีตเป็นเรื่องสุดวิสัยที่ย้อนกลับไปแก้ไขไม่ได้
เรื่องราวมันถูกกำหนดไว้แล้ว
เปลี่ยนบทไม่ได้ครับผม
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

สุดฤทธิ์สุดเดช
http://www.youtube.com/watch?v=934CK9FhK_8-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

“วันนี้เวรใคร”
พี่หรั่งถามขึ้นมาในขณะที่ทุกคนกลับจากร้านอาหาร
กลับมาถึงห้องพักแพทย์
สถานที่ที่วางกระเป๋า ตำรับตำรา ทิ้งไว้ก่อนออกไปทานมื้อเย็น
ได้เวลาเตรียมแยกย้ายไปพักผ่อนนอนหลับ
ผมเหลือบดูนาฬิกาข้างผนัง เกือบๆ3ทุ่มแล้วครับ
2-3ทุ่มสำหรับต่างจังหวัด เงียบสงบ ไม่วุ่นวาย
หากเวลานี้ยังอยู่กทม.ตามร้านอาหาร
ห้างสรรพสินค้า โรงภาพยนตร์
ยังคงมีคนจับจ่ายใช้สอย ดื่มกิน กันหนาแน่น
“ปัทมา มาค่ะ”
พี่ปัทเรียกเสียงฮาด้วยการชูมือขึ้นพร้อมกับเรียกและขานรับชื่อตัวเอง
ราวกับเด็กนักเรียนที่ขานรับการเช็คชื่อในห้องเรียน
นักศึกษาแพทย์ชั้นปีสุดท้ายกลุ่มนี้
คงทำให้เราได้คุณหมอใจดีขี้เล่นในอนาคตเพิ่มขึ้นอีก
แต่ไม่รู้ว่าหน้าที่การงาน ความรับผิดชอบที่หนักอึ้ง
จะยังทำให้พวกเขารักษาระดับอารมณ์ได้อย่างนี้ตลอดไปหรือไม่
“งั้นแยกย้ายกัน อ้อ ไอ้ปัท...ปลอดโปร่ง โล่งสบายตลอดคืนนะเพื่อน”
พี่ใหญ่อวยพรเพื่อนที่ต้องอยู่เวร ให้สถานการณ์ราบรื่น
“แล้วให้น้องนอนที่ไหนวะมี่”
พี่หรั่งทักขึ้นมากลางวงทำให้สายตาของทุกคนมารวมตัวกันที่ผม
ขยับตัวอย่างอึดอัด อดทนไว้ ไอ้หน่อย
พรุ่งนี้ผมตั้งใจไว้แล้วครับ
จะรีบกลับกทม.ให้เร็วที่สุด ด้วยรถโดยสารขบวนแรกที่มีเลย
เมื่อได้มาเห็นกับตาตัวเองแล้ว ก็คิดว่าต้องกลับไปตั้งหลักใหม่
ใช้เวลาคิดไตร่ตรองให้รอบคอบอีกทีว่าจะเอายังไงกับเฮีย
มันจะเป็นการตัดสินใจครั้งสำคัญ สำหรับความสัมพันธ์ของเรา
ตอนนี้สมองผมมันตื้อ หัวใจผมมันชาไปหมดแล้ว
ที่ยืนอยู่ได้ พูดอยู่ได้ ด้วยร่างกายเพียงอย่างเดียว
“เอาเตียงมึงกับกูมาชิดกัน ก็พอจะนอน3คนได้นะกูว่า”
พี่ใหญ่หันไปปรึกษากับพี่หรั่ง แต่สายตามองไปทางเฮีย
“เออ ได้ๆ”
พี่หรั่งพยักหน้าเห็นด้วย สายตามุ่งตรงไปในทิศทางเดียวกัน
“ไม่ได้...”
“ไม่ได้ ชั้นไม่ให้น้องนอนกับพวกแก”
เฮียมี่กับพี่ปัทแย้งขึ้นพร้อมกันโดยไม่ได้นัดหมาย
ทุกคนยกเว้นพี่ฝ้ายหันไปมองหน้าเฮีย
แล้วอมยิ้ม เบะปาก
“เอ้อ..กูว่า...”
เฮียหน้าตึงๆ พูดยังไม่จบประโยค
พี่ปัทก็พูดแทรกขึ้นมา
“ให้น้องนอนห้องพักแพทย์กับชั้นที่นี่”
“แต่...”
เฮียมี่แย้งด้วยน้ำเสียงสับสนระคนไม่มั่นใจ
แกเหลือบมองหน้าผมเต็มตาเป็นครั้งแรก
“ไม่มีแต่ นอนกันคนละห้อง
มีใครมีปัญหามั๊ย ไม่มี ตกลงตามนี้”
พี่ปัทพูดรวดเดียวแบบเผด็จการ
ไม่รอให้ใครได้ออกความเห็น
“มีมี่ไปส่งฝ้ายนะ เนี่ยปัทอยู่เวร ฝ้ายต้องเดินกลับคนเดียว”
เมื่อได้ข้อสรุป
พี่ฝ้ายที่ยืนนิ่งฟังอยู่นาน เป็นฝ่ายพูดขึ้นมาบ้าง
แล้วแกก็ดึงแขนเฮียจะชวนออกไปจากห้อง โดยไม่สนใจใคร
ราวกับโลกนี้มีกันอยู่สองคน
เฮียขืนตัวยืนนิ่ง คล้ายกับลังเลใจ
“พี่หรั่งจ๋า ไปส่งน้องใหญ่ให้ถึงเตียงเลยนะจ๊ะพี่จ๋า
น้องกลัวจะไปไม่ถึงเตียงอะจ๊ะ”
พี่ใหญ่ทำเสียงเล็กเสียงน้อย
โผเข้าไปกอดแขนพี่หรั่งแน่น
แล้วเอาหัวซุกถูไถตรงหน้าอกพี่หรั่ง
ที่ยืนตัวแข็งอย่างไม่ทันตั้งหลัก
“ได้จ๊ะที่รัก จะส่งให้ถึงตีนพี่เลย”
พี่หรั่งตอบเสียงเข้ม
มือลูบหัวพี่ใหญ่แรงๆจนเหมือนตบหัว
เมื่อเข้าใจบทบาทที่ส่งมาให้แบบปัจจุบันทันด่วน
“โอ๊ย ไอ้เอี้ยตบหัวกูทำไมวะ”
พี่ใหญ่โวยวาย คลำหัวตัวเองอย่างไม่สบอารมณ์
แกเลิกซุกอกพี่หรั่งแล้วครับ
“อ้าว รึน้องจะเอาทีนจ๊ะ ออเดอร์มาได้เลย เดี๋ยวพี่หรั่งจัดให้”
“ฮะ ฮะ ฮ่า”
หัวเราะกันไปกับบทพ่อแง่แม่งอนของชายหนุ่มตัวถึกๆ
“พอๆ แยกย้ายกันได้แล้ว พรุ่งนี้ราวน์เช้านะ”
พี่ปัทห้ามทัพก่อนจะยืดเยื้อไปกว่านี้
ผมยืนมองตามหลังคนทั้งสี่
ชายสามหญิงหนึ่งเดินหันหลังจากไป
ผู้หญิงคนเดียวในกลุ่ม ควงแขน...คนของผม
อยากเข้าไปกระชาก อยากเข้าไปถามว่า
“เฮียเลือกแล้วใช่ไหม เลือกพี่ฝ้าย ไม่ได้เลือกผม”
“อย่าคิดมากเลยจ๊ะ แล้วทุกอย่างจะดีขึ้นเอง”
พี่ปัทลูบหัวผมเบาๆ
“ฮือ ฮือ เฮียไม่รักผม เฮียทิ้งผมแล้ว”
โผกอดพี่ปัท น้ำตาที่คลอๆมาตลอดทั้งวัน
พากันพรั่งพรูออกมาราวกับทำนบแตก
พี่ปัทปล่อยให้ผมร้องไห้จนพอใจ
ลูบหลังปลอบไปตามเรื่อง
แกเหมือนคนปลอบคนไม่เป็น
หากเป็นเจ๊นิดก็คงจะมีคำสอนโดนๆมาให้ได้สติ
พี่ปัทแยกไปพักผ่อนแล้ว แกจับจองเป็นเจ้าของห้องแรก
“ของพี่อยู่ห้องนี้แล้ว หน่อยนอนอีกห้องแล้วกันนะ”
“เอ้อ..”
ผมไม่อยากนอนห้องถัดไป
ห้องที่เมื่อตอนเย็น เฮียกับพี่ฝ้ายเดินออกมา
ไม่อยากจะคิดไปไกลว่า คนสองคนเข้าไปทำอะไรในห้อง
คงไปนั่งกินข้าวกันมั๊ง หรือเข้าไปปรึกษาปัญหาคนไข้รายสำคัญ
ที่ต้องเก็บรักษาไว้เป็นความลับสุดยอด
“ไปนอนได้แล้วไปเหนื่อยมาทั้งวัน
ปัญหาเอาไว้เป็นเรื่องของพรุ่งนี้
หลับฝันดีนะ”
พูดรวดเดียวแล้วจากไป ตามสไตล์พี่ปัท
เลือกไม่ได้ เข้ามาในห้องพักที่เหลือ
มองสำรวจไปทั่วห้องที่จะต้องนอนในคืนนี้
เหมือนห้องพักในโรงแรมทั่วๆไป
มีสิ่งอำนวยความสะดวกตามมาตรฐานสากล
ทีวี ตู้เย็น ตู้เสื้อผ้า โต๊ะเครื่องแป้ง
รวมถึงห้องน้ำในตัวห้องเล็กๆ
“ของในห้องใช้ได้ทุกอย่างนะ
พวกผ้าเช็ดตัวในตู้หยิบมาใช้แล้วทิ้งไว้ในห้องน้ำได้เลย
สายๆแม่บ้านที่มาทำความสะอาดจะเก็บไปซัก”
คำพูดก่อนที่จะแยกย้ายกันของพี่ปัท
ทำให้ผมกล้าเปิดสำรวจดูโน่นนี่ในห้อง
ในตู้เย็นมีของกิน นม น้ำ ขนม ผลไม้
ในตู้เสื้อผ้า มีผ้าเช็ดตัววางซ้อนกันอย่างเป็นระเบียบหลายผืน
รองเท้าสำหรับใส่ในห้องแพคอยู่ในถุงพลาสติกอย่างดี
ตู้เซฟเล็กๆ ไว้ใส่ของมีค่า
อีกฟากของตู้มีลิ้นชักหลายชั้น
ลิ้นชักแต่ละชั้น มีชื่อนักศึกษาแพทย์ติดอยู่
คงไว้เก็บของใช้ส่วนตัว
สังเกตรายชื่อแล้ว เป็นชื่อผู้ชายหมดเลยครับ
เข้าใจหล่ะ คงแยกชายหญิง จัดสรรกันไว้แล้ว
ไม่น่าอิฉาหรอกครับ เมื่อเทียบกับงานในความรับผิดชอบ
อะไรที่พอจะอำนวยความสะดวกให้พวกเขาหายเหนื่อย
ก็อย่ารีรอเลยครับ
เดินไปที่เตียง ริมเตียงด้านหัวเตียง
ข้างหนึ่งมีโต๊ะข้างเตียง พร้อมเครื่องโทรศัพท์ภายใน
อีกข้างเป็นโคมไฟตั้งพื้น
เปิดลิ้นชักโต๊ะข้างเตียงออกมา
น้ำตาผมผลิตออกมาอีกครั้งทันทีที่มองเห็นของในนั้น
ถุงยางอนามัยสองกล่อง ยี่ห้อและขนาดที่คุ้นเคย
เจลหล่อลื่นหลอดสีฟ้า ยี่ห้อที่เคยใช้
ขาผมหมดแรงจะยืน ทรุดตัวลงนั่งข้างเตียง
มือผมสั่นจนของที่ถืออยู่ ตกลงบนตัก
บางชิ้นกระเด็นตกไปอยู่บนเตียง
สมองตื้อๆประมวลผลอยู่นาน
เฮียกับพี่ฝ้ายมีอะไรกันแล้วจริงๆ
“ก๊อกๆ”
“แกร๊ก”
“แอ๊ด”
“ปึง”
“แต๊ก”
เสียงเคาะประตูดังขึ้น
เสียงไขลูกบิด เสียงประตูเปิดแล้วปิด
ตามด้วยเสียงกดล๊อคลูกบิดประตู
หันหลังกลับไปมองด้วยความตกใจ
มองเลยจากเตียง มองผ่านโคมไฟ
เฮียมี่ยืนอยู่หลังประตู ที่กดล๊อคปิดสนิท
รีบลนลานกวาดเอาของบนตัก โยนกลับคืนลิ้นชัก
ปิดลิ้นชักด้วยมือไม้ที่สั่นเทา
อ๊าว ยังอีกกล่องบนเตียง
เอื้อมมือไปหยิบขึ้นมา ยังไม่ทันจะใส่ลิ้นชัก
“อยากได้เหรอ เอาไปสิ ฝ้ายเขาไม่หวงหรอก”
“.....”
ผมเม้มปากแน่น ที่คิดไว้ไม่มีผิด
“เอ...แล้วเฮียๆในสต๊อกนี่ไซส์เดียวกันหมดเลยเหรอ”
“.....”
กัดริมฝีปากจนเจ็บ
“ว่าไงหล่ะ ถามทำไมไม่ตอบ”
เฮียมี่ยืนกอดอก หลังพิงประตู
หน้าตาไม่บอกว่าล้อเล่น
ผมถอนหายใจยาวๆ ก่อนจะพูดในสิ่งที่น่าละอาย
“ไม่รบกวนหรอกครับ สต๊อกที่บ้านผม
มีทุกกลิ่น ทุกสี ทุกไซส์
ใช้แบบเดิมๆมันซ้ำซาก น่าเบื่อ”
“มักมาก มีหนุ่มๆในสต๊อกเยอะเลยหล่ะสิ”
เฮียเดินเข้ามาใกล้แล้วหยุดยืนข้างเตียงอีกด้าน
ระหว่างเรามีแค่เตียงที่กั้นอยู่
แถมผมยังนั่งใจสั่นอยู่บนเตียง
แต่ระหว่างใจเรา ผมไม่รู้ว่ามีอะไรมาขวางกั้น
จนผมมองเข้าไปไม่ถึงใจของเฮีย
“มักมาก แต่ก็ไม่กินซ้ำของเดิมครับ
รู้รสแล้วก็ไม่อร่อย ต้องหารสชาดใหม่ๆ จะได้ไม่เลี่ยน”
ผมห้ามปากตัวเองไม่ได้
ทำไมเราไม่จากกันด้วยดีนะ
“ปากดีนักนะ เผลอแป๊บเดียวปากเก่ง
หน่อยคนเดิมหายไปไหน ถึงได้เหลือแต่คนปากร้าย”
“แล้วเฮียมี่ของผมหล่ะ ไปอยู่ที่ไหน
ถึงได้มีแค่คนหยาบคาย จิกกัดผมอยู่ตลอดเวลา”
ขิงก็รา ข่าก็แรง
ในที่สุดผมก็เงียบ หยุดพูด หยุดทุกอย่าง
จะเหลือก็แค่การหายใจที่ติดๆขัดๆ
กับหัวใจของผมที่เต้นอย่างเหนื่อยล้า
ต่างคนต่างเงียบ
ผมจะคาดหวังอะไรอีกหล่ะ
หวังว่าเฮียจะเข้ามาโอบกอด ขอโทษ
เข้ามากระซิบที่ข้างหู ว่ารักผมคนเดียว
เข้ามาแก้ตัวว่าพี่ฝ้ายเป็นแค่เพื่อน
รอให้พระอาทิตย์ขึ้นทางทิศตะวันตก
น่าจะง่ายเสียกว่า
รวบรวมกำลังกาย กอบกู้กำลังใจ
ตั้งสติ แก้ปัญหาเฉพาะหน้า
“ผมจะไปอาบน้ำ”
ไม่มองหน้า ไม่รอคำตอบ
ผมลุกขึ้นหยิบกระเป๋าเดินไปเข้าห้องน้ำ
จัดการกับตัวเองจนสะอาด สดชื่น
พอที่จะออกไป
เผชิญหน้ากับเฮีย
ออกมาเฮียไม่อยู่ในห้อง ใจเสีย
กวาดสายตาไปทั่วห้อง จนหยุดอยู่ที่ประตูที่ปิดไม่สนิท
เสียงเฮียคุยแว่วๆดังมากระทบหู
ย่องเข้าไปใกล้ๆประตูด้วยความอยากรู้
หลังพิงผนังข้างประตู
แอบฟังการสนทนา
“เออ ไม่ทำอะไรหรอกน่า แค่ให้เข็ดหลาบ”
“.......”
“แค่สั่งสอน ไม่ผิดสัญญา รับรอง ”
“........”
“ก็ตกลงกันแล้ว ฝ้ายมันไม่ได้คิดอะไรหรอก แค่สมจริงไปนิด”
แค่นี้ผมก็เก็ทแล้วครับ
กระโจนกลับขึ้นเตียง
ดึงผ้าห่มมาห่ม นอนตะแคงหันหลังให้ประตู
เสียงประตูเปิดเข้ามาแล้วปิด
เสียงล๊อกกลอนประตู
เสียงปิดสวิสท์ไฟกลางห้อง
เหลือเพียงแสงสลัวจากโคมไฟข้างเตียงอีกฟาก
เฮียแกจะนอนที่นี่รึไงนะ
เสียงก๊อกแก๊กในห้องน้ำ
ตามด้วยเสียงน้ำไหลจากฝักบัว
ชิส์ อาบน้ำแล้วทำไมไม่ปิดประตูห้องน้ำให้สนิท
พลิกตัวไปมาอย่างกระสับกระส่าย
ทำยังไงดี คิดสิ คิดสิ
สายตาเหลือบไปสะดุดกับมือถือของเฮียที่วางอยู่ข้างหมอน
ลังเลอยู่2วินาที เอื้อมมือไปหยิบมาเปิดดู
ใจชื้นขึ้นมาบ้าง
รูปพักหน้าจอเป็นรูปผมถือป้ายทำหน้าเอ๋อ
รูปตอนงานกีฬาสีของโรงเรียน
หึ หึ ฟอร์มจัดนักนะเฮีย
เปิดไล่ดูประวัติการใช้โทรศัพท์
อ้อ...สายเข้าล่าสุดเมื่อกี้... คุยกับพี่ปัท
ประวัติสายโทรฯเข้ามีมากมาย รวมทั้งสายจากผมด้วย
สายโทรฯออกมีแค่ผม แม่ เจ๊วา
ของผมเยอะที่สุด..อิอิ...ผ่าน
แต่เอ๊ะ หลังๆทำไมมีแต่เบอร์เฮียปาน กับพี่ปัท
มีพิรุธ น่าสงสัย
ข้อความเข้า ของผมกับพี่ฝ้ายพอๆกัน ของคนอื่นประปราย
ชิส์ อยู่ด้วยกันทั้งวันทั้งคืน ยังต้องส่งข้อความมาgood night
แต่เฮียไม่ตอบ...ฮะ ฮะ
ข้อความเข้าล่าสุดเป็นของพี่ปัท
“เรียบร้อยตามแผน”
กดไล่ดู ถัดขึ้นไป ข้อความจากเฮียปาน
“ส่งขึ้นรถแล้วครับ”
รีบปิดโทรศัพท์
วางไว้ให้เหมือนเดิม
ลงนอนห่มผ้าผืนเดิม
หันหลังไปทางเดิม
แต่ใจผมไม่เหมือนเดิม
หัวใจผม
ตอนนี้
มันกำลัง
เต้นระบำ
อย่างมีความสุข

----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ตอนนี้ไม่ค้างแล้วนะครับ
เฮียมี่หรือจะทันผม
แพ้ทางกันตั้งแต่ปากประตูแล้วครับ
เอาคืนยังไงดีน้อ......
ขอตัวไปนั่งคิดนอนคิดตีลังกาคิดก่อนนะครับ...อิอิ
