
ตอนนี้ให้รุมประณามหยามเหยียดได้ครับผม
รักผมน้อยลงไม่ว่า
แต่อย่าเลิกรักกันนะครับ
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
รับน้อง3
ย้อนคิดทบทวนอดีต มาถึงเนื้อเรื่องช่วงนี้..
เวลาผ่านพ้นมามากกว่า 20 ปี...คุณๆอุแว๊กันรึยังครับ
บางเรื่องเลือนรางเหลือเกิน..ต้องขบคิดอยู่นาน
บางเหตุการณ์ฝังแน่นอยู่ในใจ รายละเอียดชัดเจน ราวเพิ่งเกิดเมื่อวันวาน
นิยายรักที่เขียน..เจตนาเดิม ตั้งใจจะอ้างอิงเรื่องจริงแค่บางส่วน
แต่พอย้อนกลับไปอ่านเนื้อเรื่องตั้งแต่อักษรตัวแรก
มีตรงไหน เหตุการณ์ไหนไม่จริงบ้างนะ เนื้อแท้ล้วนๆ
ตัดสินใจแล้วครับ ในเมื่อผมเป็นเจ้าของเรื่อง..เป็นชีวิตรักของผม
ขอเขียนตามใจปรารถนา มีแอบหวั่นๆบ้างว่าจะขัดใจคนอ่าน
เพราะตัวตนผมไม่ใช่คนดี แสนดี ส่วนลึกยังมีความต้องการ อยากรู้ อยากสัมผัส
ความรักที่แตกต่างจากที่มีอยู่
แต่รับรองไม่เกินเลย และไม่เปลี่ยนใจแน่นอนครับผม
รักแรกผ่านเข้ามาตั้งแต่อายุ12-13 ผมก็อยากลดเลี้ยว แวะข้างทางบ้างอะครับ
ชีวิตวัยรุ่นแทบไม่รู้จัก ปลื้มคนนั้น กรี๊ดคนนี้ก็อยู่แต่ภายในใจเท่านั้น
เหมือนถูกมัดมือชกกับการต้องยึดมั่น รอคอยคนเพียงคนเดียว
แต่สุดท้ายผมก็ยอมรอด้วยความเต็มใจนะครับ
ก็มีบ้างที่บางทีแอบคิดว่า เราไม่ต้องคิดไม่ต้องตัดสินใจเองเลยเหรอ
ใช้ชีวิตใสๆในวัยเด็กมาตามประสา
รู้ตัวอีกที เฮียมี่เข้ามาเป็นคนรัก เป็นเจ้าของความคิดและชีวิตของผม
จะมีสักกี่คนกันนะ ที่รักแรก เป็นรักเดียว และรักสุดท้าย
(ผมคนหนึ่งหล่ะ อ้อ เฮียมี่อีกคน)
เนื้อเรื่องต่อจากนี้หลายๆคนอาจหมั่นไส้ผมขึ้นมาแล้ว
วอกแวก วูบวาบ ได้ตลอด แต่แค่วูบไหว ใจผมยังยึดมั่นกับเฮียมี่นะครับ
เคยบอกแล้วอะครับ ว่าผมก็แรง..มิใช่น้อย
สมัยที่ผมยังวัยเอ๊าะ
ถ้าพูดถึงคำว่า “กระเทย” หรือ “ตุ๊ด” จะคิดถึงผู้ชายที่ตุ้งติ้ง
แต่งหญิงมากบ้างน้อยบ้าง หรือ บ้างก็จริตออกจนเห็นได้ชัด
ตัวผมเอง ไม่เคยคิดแต่งหญิง หรือ ฝึกกริยาให้ดูน่ารักใคร่
“เกย์” เป็นคำแปลกใหม่ที่ไม่ค่อยมีใครคิดถึง หรือเข้าใจอย่างแท้จริง
ผมมั่นใจว่าผมเป็นเกย์ และเป็น เกย์ควีน
รุก หรือ รับ มาใช้กันในช่วงหลัง
คิดภาพในอดีต มองไม่ออกหรอกครับว่าใครเป็นเกย์
“แอ๊บแมน”ยังไม่มีในบัญญัติ ผู้ชายในยุคสมัยนั้น(สะเทือนใจนิดๆอะ)
ทำให้คนที่ไม่รู้ตัวว่าเป็นชายรักชาย ก็มีมาก
สังคมรักร่วมเพศยังเป็นเรื่องที่ห่างไกลความจริง
โดยเฉพาะ คนที่เป็นเกย์ เป็นไบ
พอผมเป็นแบบที่เห็น หลายคนที่ยังสับสนกับรสนิยม ก็น่าจะอยากค้นหาตัวเอง
เฮียมี่ เป็น เกย์คิงหรือเป็นรุก แน่นอนครับ ไม่แม้จะเหลือบแลสาวๆ
เฮียปาน กับ พี่โบ้ และเฮีย3ที่ยังไม่ได้เข้าฉาก เป็นไบครับ
เกย์รับ หากอยู่ในช่วงเวลานั้น เนื้อหอมครับ ทั้งเกย์รุก ทั้งไบ
ต่างก็เข้ามาหาราวกับเจอขนมหวาน(ช่างเปรียบแท้)
จึงเป็นที่มาของการจะบอกเล่าถึงสาเหตุที่ผมมีคนเข้ามาจีบเยอะ
ส่วนจะจริงใจหรือไม่..เป็นอีกประเด็นครับ
กลับเข้ามารับน้องกันต่อครับผม เวิ่นเว้อมาเยอะ
ระบายแล้วสมองโล่งครับ เล็ทสะโก
3วัน2คืน สำหรับกิจกรรมในครั้งนี้
เช้าวันเสาร์ถูกปลุกขึ้นมา ร่วมกิจกรรมที่เป็นจุดประสงค์หลัก
ด่านต่างๆ รุ่นพี่แต่ละทีมก็งัดเอาไอเดียที่ชอบ หรือ ฝังใจ (หวังเอาคืนน้องบ้าง)
ด่านแต่ละด่านตั้งห่างๆกัน ยาวไปตามแนวชายฝั่งทะเล
บางด่านมีลดเลี้ยวขึ้นไปเชิงเขาด้านข้าง
แบ่งน้องกลุ่มละ10คน หญิงชายคละกันไป ไม่แบ่งแยกสถาบัน
เดินเข้าสู่แดนประหารไปทีละด่าน มีประมาณ7-8ด่าน
ล้วนแล้วแต่เลอะเทอะ เละเทะ
ระหว่างทางมีพี่เลี้ยงคอยดูแล2-3คนต่อกลุ่ม พี่จะตามจนไปถึงจุดสุดท้าย
พี่เลี้ยงกลุ่มผมใจดีครับ คอยปลอบคอยปลุกใจให้ฝ่าฟันด่านต่างๆ
ด่านที่3 เป็นด่านที่ผมเกลียดมากที่สุด
เป็นการกินสิ่งที่มีส่วนผสมของอาหารผลไม้ที่ไม่น่าเข้ากันได้
ทั้งหน้าตา สีสัน ที่ชวนคลื่นไส้ เหลวๆแหยะๆ สีไม่ต่างกับสิ่งปฎิกูล
“แหวะ ถุย ขากๆ อ๊าก ถุยๆ”
ผ่านด่านมาได้ด้วยความสามัคคี ช่วยกันกินจนหมดถ้วย
เดินทางสู่ด่านต่อไป
“บ้วนปากซะ ที่เหลือก็เอาล้างหน้า”
ขวดน้ำเปิดฝาเกลียวไว้แล้วยื่นส่งมาตรงหน้า จังหวะที่ผมเดินรั้งท้ายขบวน
“พี่ พี่โบ้ มาไงเนี่ย”
ตั้งแต่เช้าผมเพิ่งเจอแกครับ
“อย่าเพิ่งถาม เร็วๆ เดี๋ยวคนเห็น”
“ครับๆ ขอบคุณครับ”
พี่โบ้โผล่มาอีก2-3ครั้ง หลังผ่านด่านหินๆ
ส่งผ้าเย็นให้บ้าง ขวดน้ำดื่มให้บ้าง
จนมาถึงด่านสุดท้าย
“น้องๆทุกคนวิ่งลงทะเล ปฎิบัติ”
วิ่งลงทะเลกันด้วยความเต็มใจ
เหนียวตัว หน้าตาก็เลอะสีที่พี่บรรจงแต่งแต้ม
แต่ละคน มีจุก มีแกละ มีน้ำพุ อยู่บนหัว
ราวกับตุ๊กตาที่หาคนซื้อไม่ได้
แต่หาได้เริงร่านานนัก
พี่แกเป่านกหวีดให้วิ่งกลับขึ้นมาตรงที่พวกพี่ยืนอยู่
“วิ่งกลับลงไป ปฎิบัติ”
วิ่งลงไปในทะเลแล้ววิ่งขึ้นมาบนฝั่ง เกือบ10รอบ
เหนื่อยด้วย ร้อนด้วย เพลียแดด
“รอบสุดท้าย”
ดีใจกับครับ หมดด่านนี้ก็เป็นอันเสร็จสิ้น
มองไปด้านข้าง กลุ่มที่ผ่านด่านทะเลแล้วนั่งๆนอนๆกันอย่างสบาย
บางคนก็ลงเล่นน้ำ แต่ส่วนใหญ่หมดแรงนอนแผ่ใต้ร่มไม้
“ครั้งนี้คลานลงไป แล้วคลานกลับมาหาพวกพี่ เป็นอันจบด่าน ปฎิบัติ”
มองระยะทางแล้วท้อ ไม่ต่ำกว่า20เมตร ไหนจะขากลับ
กวาดสายตาดูพื้นทราย พี่ๆคงมาเคลีย์ทางไว้แล้ว ไม่มีของมีคม หรือเปลือกหอยที่จะเป็นอันตราย
มิน่ากำชับให้ทุกคนใส่กางเกงขายาว
แต่ยังไงต้องได้เลือดแน่ผมว่า ทำไงดีนะ
“น้องผู้หญิงกลิ้งตัวไปได้ครับ ไม่ต้องรีบ เวลาไม่จำกัด ปฏิบัติ”
พี่ๆเห็นพวกเราลังเล ตะโกนกระตุ้นเสียงดัง
“เอาวะ ไหนๆก็ไหนๆ ไปกันเหอะ”
เพื่อนคนหนึ่งปลงตก เอ่ยชวนพรรคพวกร่วมชะตากรรม
ลงคลานตามหลังเพื่อนเป็นคนท้ายๆ เจ็บทั้งฝ่ามือ ทั้งหัวเข่า
เจ็บๆแสบๆ คลานไปได้ไม่กี่ก้าว
“ลุกขึ้น กุมท้องไว้ ร้องเข้าเร็วๆ”
พี่โบ้ดึงตัวผมขึ้นมาแล้วกระซิบเบาๆ
“เฮ๊ย มีไรวะโบ้”
“น้องปวดท้องโว๊ย หน้าซีดเลย กูพาไปพักก่อนโว๊ย”
“เออ เออ มึงหายาให้กินด้วยหล่ะ”
พี่โบ้ประคองผมที่กุมท้องร้องโอยๆ เดินเร็วๆมาจนถึงหน้าบ้านพัก
ผ่านสายตาที่มองมาอย่างสนใจ
“มามะ ผมช่วย”
รุ่นน้องหวังดี อาสาเข้ามาช่วยพยุง
“ไม่ต้องๆ ไหวๆ”
พี่โบ้ปัดมือออก แล้วกระชับตัวผมเข้ามาชิดกว่าเดิม
มาถึงหน้าห้องนอนที่มีฟูกปูยาวสองแถว
“พักห้องนี้ใช่ไหม”
“ครับ”
“รีบๆไปอาบน้ำซะ แล้วมานอนพัก”
“เอ้อ”
“ทำตามที่พี่บอก อีกเดี๋ยวเพื่อนๆก็จะมากัน ให้เนียน”
“ครับๆ แล้วพี่ช่วยผมทำไมอะ”
“ใจมันสั่งมาครับ”
ก้มลงกระซิบชิดข้างแก้ม ชิดจนรู้สึกอุ่นๆที่แก้ม

งานกลางคืน
อาหาร เครื่องดื่มเพียบ ราวกับจะปลอบขวัญ
รุ่นพี่รวมตัวกันสร้างความสนุกสนาน
พี่3-4คน ดีดกีต้าร์ ตีกลอง(กลองแบบกองเชียร์นะครับ)
คนที่ถนัดร้องเพลงก็ผลัดกันขึ้นมาขับกล่อม ช่วงไหนเป็นเพลงเร็ว
ราวกับไส้เดือนพร้อมใจกันออกมาจากรู(ของใครของมัน)
วาดลวดลายกันจนเหนื่อยอ่อน
แน่นอนไส้เดือนตัวหนึ่งก็ไอ้หน่อยนี่แหละครับ
มีเซอร์ไพรส์จากรุ่นพี่ครับอยู่ๆก็มีเสียงหวานๆดังมาจากด้านหลังวงกีต้าร์
..ดนตรี..
“เดียวดายอาดูร
สิ้นสูญแล้วทุกทุกสิ่ง
เธอมาทอดทิ้ง
จากไปแสนไกลสุดไกล”
“จำใจจำทนหม่นหมอง
เพ้อร้องร่ำไห้
โอ้ยอดดวงใจ
แสนเศร้าโศกตรม”
สาวสวยเจ้าของเพลงเดินร้องเพลงออกมา พร้อมรอยยิ้มหวานๆ
เคลิ้มกันไปกับความน่ารักเป็นกันเอง
ทายถูกกันมั๊ยครับ
พัณนิดา เศวตาสัย
เสียงจริงตัวจริงครับ
ถึงแม้จะเป็นเพลงฮิตนานแล้ว
แต่ในวันนั้น ทุกคนก็ร้องคลอตามได้
คุณเอ๋(ตีซี้เลยแก) อายุมากกว่าผมน่าจะใกล้ๆ10ปี
เธอรู้จักกับรุ่นพี่คนหนึ่ง บังเอิญเธอมาพักผ่อนส่วนตัว
เลยแวะมาร้องเพลงให้ฟัง
“คอยคอยหา
ตั้งตาคอยเธอคืนกลับ
เธอไปลาลับ
จากฉันคืนวันผ่านไป”
“คอยเธอหวน
กลับมาเคียงชิดใกล้
ไยเป็นไฉน
คอยเก้อเดียวดาย”
นาทีนั้น
ผม....
แอบเปิดกระเป๋าสตางค์ มองรูปเฮีย
เฮียมี่จะรู้มั๊ย ผมคิดถึงเฮีย
กลืนก้อนสะอื้นกลับเข้าไป
หน่วงๆในอก
เมื่อไหร่จะได้พบ เมื่อไหร่จะได้เจอ
เฮียเรียนปี4แล้ว
เวลาที่จะพักผ่อนยังไม่ค่อยจะพอ
ช่วงนี้ขึ้นฝึกจริงกับคนไข้แล้วครับ
นอนไม่เป็นเวล่ำเวลา บางวันก็อดนอน เรียนต่อในตอนเช้าเลย
ทั้งๆที่เมื่อคืนต้องอยู่เวรบนตึกจนสว่าง
โทรฯไปหาก็คุยกันได้ไม่นาน
เฮ้อ เฮียกับผม ช่างยากเย็นเหลือเกิน
คุณเอ๋ร้องเพลงดังอีก3-4เพลง ก็ขอตัวกลับ
พี่ๆรับไม้ต่อ เพลงเร็วทำให้หลายคนขยับแขนขา
ผมปลีกตัวออกมาข้างนอก ถอนหายใจหนักๆ
เดินเลียบชายหาดช้าๆ ไปไม่ไกลหรอกครับ กลัวผี(ทะเล)...แป๊ก
ยืนกอดอกเหม่อมองออกไปไกลๆ
ถ้าเฮียอยู่ข้างๆผมในตอนนี้ ผมจะไม่เรียกร้อง ไม่ต้องการอะไรอีกเลย
น้ำตาผมไหลออกมา จุกแน่นที่หน้าอก
มองสูงไปบนท้องฟ้า แผ่นฟ้ามืดดำ
ดวงจันทร์ ยังมี ดวงดาวกระพริบ อยู่เคียงคู่กัน
ยิ่งมองยิ่งรู้สึกเดียวดายเหมือนชื่อเพลงที่ได้ฟัง
เหงา ว้าเหว่
ป่านนี้เฮียทำอะไรอยู่นะ
แม้กระทั่งโทรฯคุยกัน ยังได้คุยกันอาทิตย์ละ2-3ครั้ง
รับน้องเหรอ อย่าหวังเลยว่าเฮียจะมา
“คิดถึงใครอยู่เด็กน้อย”
เสียงทักดังอยู่ข้างหู
“พี่โบ้”
รีบเช็ดน้ำตาลวกๆ ก่อนขยับตัวออกห่างนิดนึง
“หน้าตาไม่ดีเลย เอ๊ะ ร้องไห้ทำไมครับ เจ็บตรงไหนรึป่าว”
พี่โบ้แตะที่ไหล่ผมเบาๆ เสียงแกร้อนรนแปลกๆ
“ป่าว..อึก อึก ป่าวครับ”
เสียงสะอื้นหลุดรอดออกมาให้ได้ยิน
“ไม่สบายเหรอครับ หืม บอกพี่โบ้สิครับ”
เสียงนุ่มๆส่งมาอย่างห่วงใย
“ฮือ ฮือ ผม...ผม คิดถึงเฮีย ฮือ ฮือ”
ไม่ไหวแล้วครับ ยิ่งแกใส่ใจ เอาใจใส่ ช่างเหมือนเฮียมี่เหลือเกิน
“ครับๆ ไม่เป็นไรครับ”
ดึงผมมากอดหลวมๆ ลูบหัวปลอบเบาๆ
“ฮือ ฮือ”
พยายามจะดันตัวออก
“เหนื่อยนักก็พักตรงนี้ก่อนนะครับ”
พี่โบ้กระชับอ้อมแขนขึ้นเล็กน้อย เสียงแกแหบพร่า
หมดแรงกำลัง ซบหน้าลงกับอกแก
“อึก อึก ขอ ขอโทษ ผมขอโทษ”
ระงับอารมณ์ที่ฟุ้งซ่าน ไม่มีเหตุผลของตัวเอง
“ไม่เป็นไรครับ พี่ไม่เป็นไร”
คางกดลงเบาๆที่ศีรษะ มือลดลงลูบหลังแผ่วๆ
น้ำเสียงแก เจือความเศร้าจนสัมผัสได้
“อ๊ะ”
“เฮ๊ย อะไรวะ”
“ปล่อย ปล่อยเดี๋ยวนี้ เรามานี่”
สามเสียงดังขึ้นพร้อมๆกับ แรงกระชากที่ไหล่
“พี่โบ้”
“ไอ้ปาน”
“เฮียปาน”

ตายๆ ไอ้หน่อยตายแน่ครับ
เฮียปานแกโผล่มารับน้องด้วย
เข็มขัดสั้นจริงๆครับ (คาดไม่ถึง...แป๊ก...อิอิ)
อะไรก็เกิดขึ้นได้ในโลกใบนี้
ตอนหน้า ได้เลือดแน่นอนครับผม

เกือบลืม
ขอบคุณทุกคอมเม้นท์ครับผม