
สวัสดียามบ่ายครับผม
ตอนนี้ยิ่งพิมพ์ยิ่งมันส์
นิ้วหงิกเลยอะครับ

เพียงแต่กระซิบว่าสุดที่รัก ฉันก็จะมิอาจจากไป
“ชายกลาง แกพานังพจมานมากกกถึงในบ้านเราเชียวรึ”
“หม่อมแม่อย่าเรียกพจมานเขาแบบนั้นนะครับ”
“ทำไม ชั้นจะเรียกไม่ได้ อีนังบ้านนอก”
“ชายไม่ยอม หม่อมแม่ ชายรักพจมาน”
“พี่ชายกลางคะ อย่าพูดกับหม่อมแม่แบบนี้สิคะ
น้องไม่เป็นไรหรอกค่ะ”
“โถ...แม่คุณของพี่”
“แก ๆ อีนังแม่มดแกทำเสน่ห์ยาแฝดใส่ลูกชั้น
แก แกออกไปจากบ้านทรายทองของชั้นได้แล้ว ออกไป”
“ถ้าหม่อมแม่ไล่พจมาน ก็เหมือนไล่ชายด้วยนะครับ”
“อวดดี พวกแกออกไปจากบ้านชั้น ทั้งคู่เลย”
“แม่ยอดขมองอิ่มของพี่ เราไปตายเอาดาบหน้ากันเถอะจ๊ะ”
“ได้ค่ะ พี่ชายกลาง พี่ไปไหน น้องไปด้วย”
ชายกลางกับพจมาน ก้มลงกราบหม่อมแม่
แล้วจูงมือกันออกมา
ทันใดนั้น
“เดี๋ยว อย่าเพิ่งไป หล่อนน่ะเข้ามาให้ชั้นดูใกล้ๆสิ”
ยื่นหน้าหัวเห็ดเข้าไปจนชิด
“ยัยบ้า มาซะชิด หันหลังมาย่ะ ชั้นจะดูข้างหลังหล่อน”
“อุ๊ย จะดีเหรอคะ คุณหญิงแม่”
“ทำตามที่หม่อมแม่สั่งเถอะจ๊ะ น้องพจมาน”
“ต๊าย ตาย หนูจ๋า หนูพจมาน ทายาทหมื่นร้าน”
“ห๊ะ อะไรนะคะ”
“ก็ปานรูปเป็ดน้อยที่แก้มก้นซ้ายของหนูไงจ๊ะ
ทายาทที่หายสาบสูญไป เนี่ยร้านชำของหนูทั้งหมื่นร้าน
รอหนูกลับมา โอยๆ แม่จะเป็นลม โถ แม่คุณ ดูสิ
สง่าราศีออกขนาดนี้
แม่มองข้ามไปได้ยังไง”
“ในที่สุด ความรักของพี่ชายกลางกับน้องพจมาน
ก็ผ่านพ้นอุปสรรค พี่ชายดีใจที่สุดเลย”
“คริ คริ ว่าแล้วต้องได้ผล”
“ได้ผล ผลอะไรจ๊ะน้องรัก”
“ก็กางเกงตูดขาดของน้องไงคะพี่ชายกลาง”
“ห๊ะ น้องยากจนถึงขนาดใส่กางเกงไร้เป้าเลยเหรอเนี่ย”
“อิอิ ไม่ช่ายค่ะพี่ชายกลาง ดูให้ดีสิคะ”
“ฮะ ฮะ ฮ่ะ รักแท้ แพ้รอยสัก”

“หน่อยๆ นั่งลงสิ เป็นอะไรรึป่าว”
“ท่าจะเพี้ยน ยืนยิ้มอยู่ได้”
“ง่ะ”
ฝันสลายเลยผม
(ขอโทษเจ้าของบทประพันธ์อย่างสูงครับ)
ทรุดตัวลงนั่ง อย่างสงบเสงี่ยม
“แหะ แหะ ขอโทษครับ แล้วก็ สวัสดีครับ”
ยกมือไหว้เจ๊วา ตั้งแต่โดนเฮียลากเข้ามาในบ้าน
ก็ตรงดิ่งไปห้องหอ ไม่ได้ทักทายเจ้าของบ้าน
“ย่ะ”
รับไหว้แบบเสียไม่ได้
“เจ๊จะพูดอะไร จะถามอะไร ผมพร้อมแล้วครับ”
เฮียทรุดตัวลงนั่งข้างๆผม
“เชอะ ให้ชั้นรอนานขนาดนี้ลองแกไม่พร้อมสิ
แม่จะแพ่นกระบาลให้”
ผมอ้าปากหวอด้วยความแปลกใจ
เจ๊วา ตัวตนที่แท้ของแก ก็แค่ พี่สาวที่รักน้อง
พูดแขวะ ก็ด้วยความหมั่นไส้
ไม่ได้ร้ายกาจทีเดียว
“แล้วนี่พวกแกได้กันแล้วเหรอ กี่ครั้งแล้วหล่ะ”
จ้องมาตาเขม็ง
ถามออกมาง่ายๆ ราวกับเป็นเรื่องปกติ
“เออ คือ ผม..”
“เราอยู่เฉยๆ ไม่ต้องพูดอะไร”
เฮียหันมากระซิบผม
“เรารักกันครับเจ๊ ทั้งกายทั้งใจ เป็นของกันและกันแล้ว
เจ๊ห้ามผมไม่ได้หรอก”
“แล้วชั้นห้ามอะไรแกรึยัง ห๊ะ”
เจ๊วาชี้หน้าเฮีย
“ชั้นแค่จะเตือนแกไว้ ถุงยงถุงยางอะใช้มั่งรึป่าว”
“แหะ แหะ ไม่ทันแล้วเจ๊”
“แก แก๊ ไอ้มี่ เสียแรง เรียนหมอ แกไม่รู้รึไง ว่ามันเสี่ยง”
“ผมรู้ครับ แต่นาทีนั้นมันจำเป็นอะครับ”
“จำเป็นบ้าอะไร หน้ามืดหล่ะไม่ว่า”
“ต่อไปไม่แล้วครับ จะกว้านซื้อมาไว้ให้ใช้ได้ทั้งปีเลยครับ”
“ไอ้บ้า แล้วแกอย่าลืมดูวันหมดอายุด้วยนะยะ”
“ครับๆ จะรีบใช้ให้ทันแน่นอน”
ปล่อยหมอๆเขาคุยกัน
ผมก้มหน้าลงมองเท้าตัวเอง
นี่ผมก้าวเข้ามาในครอบครัวของเฮียแล้ว
แถมเจ๊วาก็ไม่ได้รังเกียจอะไรผมมากนัก
ตราบใดที่เฮียยืนอยู่เคียงข้างผม
อุปสรรคทุกอย่าง ต้องฝ่าฟันไปได้
“แล้วพวกแกจะเอายังไง”
“ก็ตามเกณฑ์มาตรฐานสากลหล่ะเจ๊
อาทิตย์ละ 3-4ครั้ง แล้วแต่หน่อยจะว่าง”
“ไอ้เด็กเวร เลิกเล่นได้แล้ว”
เจ๊วาขว้างหมอนอิงมาที่หน้าเฮีย
เฮียรับได้ฉับไว
ผมหยิกหมับทันใด ใครจะไม่อาย
“เฮีย บ้าจริง พูดออกมาได้งัย ไม่อายปาก”
“อูยส์ เจ็บครับ ยอมแล้วครับ”
“เฮ้อ หวานเลี่ยน ชั้นจะอ๊วก”
หลังจากซักฟอกจนพอใจ
เจ๊วาแกก็ตัดสินชี้ชะตาเฮียกับผม
“พวกแก2คน ต้องเรียนจบปริญญาตรีก่อน
ชั้นถึงจะยอมรับ ความสัมพันธ์ ที่ยากจะเข้าใจ”
“ขอบคุณครับ”
ผมกับเฮียยกมือไหว้ ขอบคุณแก โดยไม่ได้นัดหมาย
เจ๊วาแอบเช็ดหางตาเร็วๆ
“แต่แกก็รู้นะมี่ แกเป็นลูกชายคนเดียว
แกต้องมีลูกมาสืบสกุล
ส่วนจะรักจะชอบกัน ชั้นไม่สน
แกต้องแต่งงาน มีเมีย มีลูก”
“ไม่ เราคุยกันแล้วนะเจ๊
เจ๊จะเปลี่ยนคำพูดไม่ได้ ผมไม่ยอม”
เฮียลุกขึ้นทันที ดึงมือผมให้ลุกตาม
“เดี๋ยวคุยกันก่อน”
“ไม่คงไม่คุยแล้ว เจ๊ไม่รับผิดชอบคำพูด
ผมไม่ฟังอีกแล้ว”
“เอาสิ แกอยากให้เรื่องนี้ถึงหูแม่มั๊ยหล่ะ”
เฮียหมดแรง ทรุดตัวลงนั่ง
“น่าอาย มีลูกชายคนเดียว ก็ดันเป็นพวกรักร่วมเพศ”
“...”
เฮียเอื้อมมือมากุมมือผม
ผมได้แต่บีบกระชับ ให้กำลังใจ
หน้าชาด้วยความละอายใจ
ผมเป็นต้นเหตุของความยุ่งยากที่จะเกิดขึ้น
“ระหว่างนี้พวกแกก็คบกันไป การเรียนอย่าให้เสีย
พอเรียนจบแกก็แต่งงาน มีลูกให้แม่ ที่เหลือให้เวลามันตัดสิน”
“เจ๊คิดว่า จะซื้อเวลา รอพวกผมเลิกกันใช่ไหม เสียเวลาป่าว”
“แกคิดเหรอว่า รักผิดเพศแบบพวกแกจะไปกันรอด”
“ถ้ามันจะไม่รอดก็ขอให้เกิดจากเราสองคนเถอะครับ
เจ๊อย่าเข้ามาทำให้มันเป็นสาเหตุให้เราเลิกกัน ผมขอร้อง”
เฮียเข้าไปคุกเข่าลงตรงหน้าแล้วก้มลงกราบที่ตักเจ๊วา
“ชายรักชายมันก็ยากมากอยู่แล้ว เจ๊วาช่วยมี่ด้วยครับ
ช่วยมี่ด้วย มี่รักน้อง มี่ขาดน้องไม่ได้ ฮือ ฮือ มี่เสียใจ
มี่ขอโทษ ฮือ ฮือ มี่ยอมทุกอย่าง เจ๊อย่าให้เราเลิกกันเลยนะ
ไม่มีน้องมี่ก็จะไม่มีใคร ฮือ ฮือ”
เฮียเหมือนเด็กตัวเล็กๆ
ร้องไห้สะอึกสะอื้น
คร่ำครวญ เหมือนเด็กที่เคยถูกตามใจมาตลอด
แต่พอขัดใจ ก็ดื้อรั้น
เมื่อใช้ไม้แข็งไม่ได้ ก็ใช้ไม้อ่อน
ทั้งหมด เพราะเฮียรักผม
เหตุการณ์ในวันนี้ สำหรับผม
มันยิ่งใหญ่กว่าการบอกรัก
ผมไม่ต้องการแหวนเพชร
ไม่ต้องการงานเลี้ยง
เพราะ...ผมได้หัวใจรักของเฮียแต่เพียงคนเดียว
“ฮือ ฮือ”
“อ้าว..แล้วกัน ร้องทำไมยะ”
“ผม ผมสงสารเฮีย ฮือ ฮือ”
“เฮ้อ มี่เอ๊ย แกจะมีเมียรึแกจะมีลูก
ชั้นละคิดภาพอนาคตแกไม่ออกเลย ให้ตาย”
“ตกลงเจ๊ยอมให้เราคบกันแล้วใช่ไหม”
“อืม”
“ผมไม่แต่งงานนะ”
“อืม”
“แล้วถ้าแม่รู้...”
“ชั้นจนปัญญาจริงๆ เอาเหอะยังไงเรียนให้จบก่อนแล้วกัน”
“เห็นไหมครับ ความรักชนะทุกสิ่ง”
เฮียลืมตัว โผเข้ามากอดผม
“ยู๊ด หยุดก่อน พวกแกต้องทำข้อตกลงกับชั้นก่อน”
“มี่...แกก่อน” เจ๊วาชี้หน้าเฮีย
ตอนนี้เป็นการเป็นงาน นั่งคุยกันที่โซฟา
หลังจากผลัดกันลุกผลัดกันนั่งจนวุ่นวาย
“ครับ”
“แกต้องตั้งใจเรียน เกรดอย่าน้อยกว่า3.5”
“ได้ครับ”
“อย่าแสดงท่าทาง...เอ้อ...ชู้สาวให้มันโจ่งแจ้ง”
“ครับๆ ผมสัญญา จะทำในที่มิดชิด”
“ไอ้บ้า”
เจ๊วาแกก็สั่งโน่น ว่านั่น ติตรงนั้น ห้ามตรงนี้ของแกไป
ที่ขัดตา ก็เฮียนี่แหละครับ
เก็บอาการดีใจไม่อยู่
ทะลึ่งทะเล้นตลอดเวลา ผิดวิสัย
“แล้วเรา...”
“ครับ”
มาถึงตาผมแล้ว ตื่นเต้นราวกับฟังผลสอบ
เจ๊วากวาดสายตามองผมอย่างพิจารณา
มองจากหัว ลงมาถึงเท้า
แล้วมองย้อนจากเท้า ขึ้นไปที่หัว
“ข้อ.1....”
“ฮะ ฮะ ฮ่า เยอะแน่หน่อย ถ้าลองเป็นข้อๆ ฟังหูชาเลยหล่ะ”
เฮียหัวเราะให้กำลังใจ
“อย่ากวน แกเงียบไปเลย เอาหล่ะ ตั้งใจฟัง”
“ครับ หึ หึ”
เฮียยังไม่วายแหย่ผม
“ข้อ1. ตั้งใจเรียน สอบเข้าให้ได้ เรียนให้จบ”
“ครับ”
สอบเข้า เจ๊แกไม่ได้ระบุนี่นา เอ็นไม่ติดก็คงไม่ผิด
“ข้อ2.ห้ามแต่งหน้า ทาปาก นุ่งกระโปรง แล้ว...”
“ง่ะ ผมไม่ได้เป็นตุ๊ดอะครับ”
“เออ เออ ชั้นรู้ กันไว้ก่อน”
“ก๊ากกกกกกกก”
คงรู้นะครับว่าใคร
“ข้อ3.ห้ามทำนม แปลงเพศ ศัลยกรรมทุกประเภท”
“ค...ครับ”
ผมมีแนวโน้มขนาดนั้นเลยหรือเนี่ย
“ข้อ4.ห้ามกรี๊ดกร๊าด กระตุ้งกระติ้ง ดัดจริต”
“แร๊ง...แรงจริงๆ”
เฮียแกอดไม่ได้
“ข้อ5.ห้ามแสดงความรักต่อหน้าคนอื่น
โดยเฉพาะในที่สาธารณะ”
ผมไม่ใช่พวกชอบโชว์นะเจ๊
คิดเถียงอยู่ในใจ
พยักหน้าหงึกๆ
“โอ๊ยมากมายก่ายกอง ไม่ไหวแล้วเจ๊”
เฮียเห็นหน้าผมที่เริ่มเครียด
“อะ อะ ข้อสุดท้าย ที่เหลือคิดได้ ค่อยเพิ่มเติมทีหลัง”
“โห เพิ่มได้อีก”
“ข้อสุดท้าย ทั้งสองคน ใช้ถุงยางทุกครั้ง
ไม่มีก็ไม่ต้องยุ่งกัน”
“ครับๆ มีครับ รับรอง ไม่ให้ขาดสต๊อก”
“วู๊...ผมไม่เอาด้วยอะ”
ทนไม่ไหว ฟังอยู่อย่างเดียว ยิ่งเข้าเนื้อ
“อ้าว ทำไงหล่ะเจ๊ น้องไม่ชอบใช้ถุงอะ”
“เพี๊ยะ ไอ้เฮียบ้า”
ตบต้นแขนแกแรงๆ เตือนสติ
“ไม่ได้นะ ที่โรงเรียนไม่สอนสุขศึกษารึไง”
“โหเจ๊ ผมไม่ได้หมายถึงแบบนั้น”
ผมอดรนทนไม่ไหว กลัวแกเข้าใจผิดว่าผมชอบ..
“แล้วแกสองคนก็บันยะบันยันกันมั่ง
อย่าหักโหม จะเสียการเสียงาน”
จริงๆตอนนั้น เครียดมากครับ
เฮียมี่กับเจ๊วาทะเลาะกันรุนแรง เสียงดัง
พี่แม่บ้านแกก็ด้อมๆมองๆมาด้วยความเป็นห่วง
กลัวจะเกิดโศกนาฎกรรม
ผมได้แต่นั่งใจสั่น
รอการตัดสินโชคชะตา
ข้อตกลงก็ตามที่เล่า
ส่วนเรื่องแต่งงานของเฮีย เจ๊วาแกก็แบ่งรับแบ่งสู้
แกกลัวเฮียโมโห แล้วทำอะไรมุทะลุ
อีกอย่างแกเคยให้สัญญาว่าจะไม่ยุ่งกับเรื่องผม
ถ้าเฮียเอ็นติด
เจ๊วาออกไปขึ้นเวรที่โรงพยาบาล
ผมกะเฮียกลับขึ้นมาบนห้อง
หลังจากทานมื้อเย็นฝีมือพี่แม่บ้าน
แกใจดีกับผมมาก
ส่งยิ้มมาให้ เป็นกำลังใจ
“เห็นมั๊ย ในที่สุดเจ๊วาก็ยอมรับเรื่องของเรา”
“ครับ”
“ฟอด ฟอด อย่าทำหน้าบึ้งสิครับ”
ผมอดกังวลเรื่องแต่งงานของเฮียไม่ได้
แต่ยังไม่อยากพูดทำลายบรรยากาศในตอนนี้
“ไม่ต้องห่วงนะครับ ถึงเฮียจะมีหลานให้แม่ไม่ได้
แต่เฮียจะเป็นลูกที่ดี เท่าที่ลูกคนหนึ่งจะเป็นได้”
“เฮีย ฮือ ฮือ ผมรักเฮีย ฮือ ฮือ”
โอบกอด จูบซับน้ำตาให้ผม
“สาวแตกแล้วเรา เดี๋ยวร้อง เดี๋ยวร้อง”
“อึก อึก ก็ผมดีใจนี่นา”
กอดตอบ
คนๆนี้ดีที่สุด อบอุ่นที่สุด
“อ้อ อีกอย่าง”
“ครับ”
“เฮียจะเป็นคนที่รักเรามากที่สุด”
“ไม่ทอดทิ้ง”
“ไม่ทำให้เสียใจ เสียน้ำตา”
“และ..เฮีย”
“จะดูแลเราให้ดีที่สุด”
“ขอบคุณครับ ผมก็จะเชื่อฟัง จะรัก เฮียคนเดียว”
“งั้น ตอนนี้...”
“ห๊ะ อะไรอ่า”
“ให้เฮียดูแลเรา”
“ดูว่า”
“แผลหาย”
“ใช้งานได้รึยัง”
“ว๊ากกกกกกก ไอ้เฮียลามก”

พรุ่งนี้ไม่อยู่บ้านครับ
ขโมยขโจร ไม่ต้องมาเยือนนะครับ
บ้านเราไม่มีเงินทองมากมาย
เราฝากไว้ที่แบงค์อะครับ...5555
มาลงอีกที วันอาทิตย์ครับผม
แฮป...ปี้ปี้
ในวันหยุดกัน
ครับผม

ปัจฉิมลิขิตครับ
เฮีย 3
แกรอจนชักอารมณ์เสีย
แกฝากมาบอกว่า
ตอนต่อไป
ขอเฮีย
เป็น
พระเอก
