ดูงานกันนะ 2
มาถึงสุวรรณภูมิ คนขับรถรพ.มารอรับ ช่วยยกกระเป๋า
เฮียให้กุญแจแกเพื่อขับรถกลับไปบ้าน พร้อมกับสินน้ำใจ
ผมไม่เข้าใจทำงี้ให้ยุ่งยากทำไม รพ.เขามีรถตู้มาส่งอยู่แล้ว
“เฮียไม่อยากให้เราอึดอัดแต่แรกหน่ะ แล้วขากลับรถเราก็มารับ
จะได้ถึงบ้านเร็วๆ หรือเผื่อเราอยากแวะไปหาแม่ก่อนกลับก็ยังได้นี่”
คนขับแกมากับรถตู้ แล้วขับรถเรากลับไป พอตอนกลับก็ขับรถเรามา
แล้วอาศัยรถตู้ที่ต้องมารับคนอื่นๆกลับรพ. คนขับมี4-5คนหน่ะครับ
แกคงว่างอยู่ เลยรับจ๊อบได้
ตอนนี้แม่มาอยู่กับไอ้น้องนิวที่กทม.แล้วครับ
เมียมันเป็นลูกสะใภ้ดีเด่น รักแม่สามีมากกว่าสามีซะอีก
ทุกคนมากันครบแล้ว รอเวลาเช็คอิน
ยัยจิ๊ดตรงดิ่งเข้ามาหาผมกะเฮีย
“เวลคัมค่ะ เฮียหมอเฮียหน่อย พร้อมสำหรับทริปหวานน้ำตาลเรียกพ่อรึยังคะ”
“หึหึ”
เฮียหัวเราะในลำคอ แล้วหันมายักคิ้วให้ผม
เลยหยิกที่เอวเบาๆไปที
“อู๊ยยย หยิกทำไมเนี่ย เจ็บชะมัด”
“เฮียหมอคิดบัญชีให้หนักเลยนะคะ เอ้อ จิ๊ดต้องขอตัวกลับก่อนนะคะ”
“ไปไหนก็รีบไปเลย ชิ้วๆ”
ผมรีบไล่ไป คนร่วมทริปดูงานเริ่มมองมากันแล้ว
ยัยจิ๊ดไม่ได้ไปด้วย แต่มาอำนวยความสะดวก
“จิ๊ด กลับรถเฮียหมอนะจะได้นั่งสบาย”
เฮียน่ารัก ละเอียดรอบคอบเสมอ (อวยกันเอง อิอิ)
“ขอบคุณค้า..หนูลาหล่ะค่ะ ดูงานให้แฮ๊ป...ปี้ปี้ นะคะ”
“จิ๊ด เราอย่าเชียร์ออกนอกหน้านักสิ เดี๋ยวคนอื่นก็รู้กันหมดหรอก”
ผมลากแขนยัยตัวแสบออกมา
“แหะ แหะ โทษทีอะค่ะ หนูฟินไปนึ้ดดดด”
“..........”
“เอ้อ แต่หนูมีอะไรจะบอกเฮียหน่อย”
“ว่ามา”
“หนูจัดที่นั่งบนเครื่องให้เฮียพิเศษกว่าใครเลยค่ะ”
“เพื่อ..”
“เผื่อเฮียจะมีเรื่องเขียนตั้งแต่คืนแรกเลยไงคะ อิอิ ลาหล่ะค่ะ”
แล้วหล่อนก็รีบชิ่งไป
บนเครื่องบิน
“หนูไม่ยอมอ่ะป๋า ทำไมคู่นั้นได้นั่ง2คนด้วยหล่ะ”
คนพูดหน่ะ สาวสวยผมยาวแต่งตัวเปรี้ยวปริ้ด
เฮียบอกว่าแกเป็นอนุของเจ้านาย
ป๋าก็คือหัวหน้าเฮียหน่ะครับ
ดูแล้วเหมือนพ่อกับลูก
เจ้านายแกใกล้เกษียณอายุแล้ว
อนุแกประมาณ30ต้นๆ สวยดีครับ
แต่ดูรู้ว่าแกมีจมูกจากมีดหมอ
ที่นั่งบนเครื่องจะเป็น 2-4-2
ทุกคนที่มาด้วยกันก็นั่งกันตรงแถวกลางที่เป็นที่นั่งติดกัน4ที่นั่ง
ยกเว้นผมกับเฮียได้นั่งติดกัน2คน ข้างหน้าต่าง
“เฮีย ให้เขานั่งที่เราก็ได้นะ”
“ไม่ต้องหรอก เราอยู่เฉยๆเหอะ”
เซ็งเหมือนโดนเอ็ดเลย
“หมอขา วิขอนั่งข้างหน้าต่างได้มั๊ยคะ นะคะ นะคะ”
“เฮ๊ย..”
ผมกับเฮีย ร้องขึ้นพร้อมกันเลย ก็ยัยวิแกเข้ามาจับแขนเฮีย แล้วเขย่า
“คุณคะ นั่งที่ได้แล้วนะคะ ขวางทางผู้โดยสารท่านอื่น”
“หล่อนยุ่งไรด้วย”
ยัยวิหันไปค้อนแอร์ที่เข้ามาเคลียร์ ก็เสียงเธอดังไม่ใช่น้อย
คนข้างหลังก็ยืนเบียดกันตรงช่องทางเดิน
“ที่นั่งต้องตามที่ระบุไว้นะคะ กรุณาให้ความร่วมมือด้วยค่ะ”
แอร์พูดยิ้มๆ แล้วหันมายิ้มให้ผมอีกที
อย่าบอกนะว่า แอร์เป็นสาววาย
“เฮีย ทำไมแอร์แกพูดแบบนั้น ที่นั่งมันแลกกันไม่ได้เหรอ”
“หึหึ แอร์คนนี้หน่ะ เพื่อนยัยจิ๊ด”
“โห มีเครือข่าย”
ยัยวิคนนี้แหละครับทำให้การดูงานครั้งนี้ เกือบๆทำให้ผมกับเฮียต้องทะเลาะกัน
“ชิ..”
หล่อนสะบัดหน้าใส่ผม
อะไรฟะ ตูงงจริงๆ
“หมอขา กู๊ดไนท์นะคะ”
ยิ้มหวานให้แฟนตูอีก มันน่า
“วิ กลับไปนั่งที่ได้แล้ว อย่าเรื่องมาก”
ป๋าแกดึงแขนไป
“อะไรเล่า อย่ามายุ่ง”
เฮียแกจับมือผมแน่น สะบัดไม่หลุด แถมยังไล้นิ้วลงบนฝ่ามือ
“โมโหไปทำไมหล่ะครับ วิเขาก็แบบนี้หล่ะ”
“เฮียรู้จักกันมาก่อนเหรอ หึ ปล่อยเลย”
“วิเขาเป็นน้อยพี่หมอ เจอเกือบทุกงาน”
พี่หมอคือหัวหน้าเฮียหน่ะครับ
“ไม่สนใจเขาได้มั๊ยครับ”
เฮียยิ้มกรุ้มกริ่มทั้งตาทั้งปาก
“อือ”
ผมพยักหน้าแล้วเสมองออกไปนอกหน้าต่าง
หลังจากทานอาหาร แปรงฟัน ทำธุระส่วนตัวแล้ว
ไฟบนเครื่องก็ดับให้พักผ่อน
ผมหลับแทบจะทันที
นอนน้อยมาหลายคืน จากการจัดกระเป๋า
เฮียแกไม่หยิบจับอะไรเลย
แล้วแต่ผมจะจัดให้ใส่ชุดไหน
แหมๆ อยากจะเอามาแต่ชุดนอนซะเลย
อีกอย่างที่มีผลทำให้นอนน้อย ก็เขียนนิยายนี่หล่ะครับ
ในสมองมันมีเรื่องราวมากมายอยากถ่ายทอด
“อืมม จุ๊บหน่อย เฮีย จุ๊บผมหน่อย”
“จุ๊บๆ”
“ไม่อาววว ต้องแบบนี้”
ผมโน้มคอเฮียลงมา บดเบียดริมฝีปากกับเฮีย
แลกลิ้นกันจนน้ำลายยืด
“อืมมมมมมมมม อ๊า”
ขยับตัวเข้าไปใกล้เฮีย
สอดมือข้างนึงเข้าไปลูบไล้หน้าอกแน่นๆ
เอ๊ะ อะไรมันดันตรงเอวผม
ลืมตามองหน้าเฮียใกล้ๆ
หน้าเฮียแดง โอบไหล่ผมไว้หลวมๆ
“อายก็ซุกมา หึหึ”
ก้มลงมองปัญหาอุปสรรค
ที่วางแขนกั้นอยู่ระหว่างเบาะ
“อ๊ากกกกกกกกกกกก”
ผมไม่ได้อยู่บนเตียงงงงงงงง
อายมากขอบอก
ผมไม่กล้ามองหน้าใครอีกเลยจนเครื่องลง
ตอบคอมเม้นท์ครับผม
ตอนนี้ผมเปิดร้านกาแฟเล็กๆครับ
เฮียเป็นนายทุน
คิดดอกเบี้ยแพงเกิ๊น
เจอกันเย็นๆครับ
ขอตัวไปดูร้านก่อนครับ
ทิ้งไปหลายวัน
โดนยกเค้าแล้วมั๊งครับ