
เธอยังมีฉันอยู่ทั้งคน
นอนไม่หลับ หันไปมองไอ้นิว
เป็นเด็กแบบมันได้ก็ดีนะ
กินแล้วก็นอน
ไม่มีเรื่องให้ อนาทรร้อนใจ
ไอ้นิว มันอ่อนกว่าผม3ปี
ส่วน เจ๊นิดเป็นพี่ผม 2ปี
ถึงเจ๊จะเป็นผู้ใหญ่กว่าเพื่อนในวัยเดียวกัน
ดูแกก็ร่าเริง มีความสุข
ผมที่อยู่กึ่งกลาง ระหว่าง พี่สาวกับน้องชาย
กลับรู้สึกร้อนรุ่มในอก
แม่....เข้ารับการผ่าตัดแล้ว
อาการซึมเศร้าก็บรรเทา
จากกำลังใจของครอบครัว ญาติพี่น้อง
พ่อ.....ถึงแม้จะไม่ได้มาให้เห็นหน้า
แต่ก็ส่งเงินมาให้ใช้จ่ายอย่างสบาย
นานๆครั้งก็แนบจดหมายมา ถามไถ่
พร่ำเขียนคำขอโทษกับความผิดพลาดในอดีต
มอบหมายความรับผิดชอบในการดูแลแม่ให้ดี
มองเผินๆ ผมน่าจะมีความสุข
เรียนๆเล่นๆ
เพื่อนฝูงก็มากขึ้น
จนเมื่อ..
เมื่อได้รับโทรทางไกล
“เฮีย เฮียมี่ ผมคิดถึงเฮีย”
ดีใจมาก ตั้งแต่เฮียกลับไปเรียนได้เกือบๆ2เดือน
จม.มีมาสม่ำเสมอตามคำสัญญา
ถึงแม้จะไม่มากมายเหมือนก่อน
เดือนแรก
เฮียกลับมา 2ครั้ง ในวันหยุด
เก็บเกี่ยวความหวานบรรเทาอาการคิดถึง
เดือนที่2
เดือนนี้เฮียเริ่มมีเทส เก็บคะแนน
จะวันหยุด ปลายเดือนแล้ว
ยังไม่ได้เติมความหวานให้กันเลย
เฮียคงจะโทรมาบอกว่า คิดถึง จะรีบกลับมาหา
แต่......
“มีคนอื่นใช่ไหม”
“......”
“เฮียถามว่าเราคบคนอื่นอยู่ใช่ไหม”
“ปล่าว..ผมเปล่ามีใครนะเฮีย”
“บอกมา มันเป็นใคร”
“เฮ๊ย เฮียจะบ้าเหรอ ผมไม่มีใคร”
“บ้าสิ จะบ้าตายอยู่แล้ว”
“ไม่มีใครจริงๆครับ”
“จริงนะ”
“ครับ”
“อย่าโกหกกันนะ”
“ถ้าไม่เชื่อ ก็มาดูเองสิ”
ชักมีน้ำโหแล้ว รักทางไกลมันเป็นแบบนี้เอง
ทำไมไม่เชื่อใจกัน
วางหูไปด้วยอารมณ์หงุดหงิด
ถึงแม้เฮียจะขอโทษซ้ำๆ กับอาการโมโหหึง
ไม่ได้ดีใจหรือภูมิใจในคุณค่า
แต่เสียความรู้สึก
โดนกล่าวหาในสิ่งที่ไม่ได้ทำ
“หน่อย มึงชอบสีอะไร”
“หน่อย มึงชอบนักร้องคนไหน”
“หน่อย มึงชอบกินอะไร”
“หน่อย หมากับแมวมึงชอบอะไร”
“หน่อย มึงกินเผ็ดได้มั๊ย”
“หน่อย......ฯลฯ”
“หน่อย... ..”
“ไอ้เชี้ยปิง ถ้าถามอีกคำเดียว กูจะเอารองเท้ายัดปากมึง”
เวรกรรมอะไรเนี่ย
ยังหงุดหงิดกับโทรศัพท์เมื่อคืนไม่หาย
มาเจอยี่สิบคำถามจากมันอีก
มองค้อนมัน เหลือบเห็น
มันจดยุกยิกลงกระดาษ
ชะโงกดู มันยัดใส่กระเป๋ากางเกง
ช่างแม่ง
“หน่อย..สเป๊กมึงเป็นไง”
“อืม.........”
“ต้องพูดเพราะๆรึป่าววะ”
“ใครก็ชอบคนพูดดีๆ”
“ถ้าปากหมา แต่จริงใจหล่ะ”
“ถ้ามันขัดแย้งในตัวเองขนาดนั้น ก็ไปไกลๆเลย”
“แล้ว...”
“วู๊ มึงเป็นเชี้ยไรวะ ตอแยกูทั้งวัน”
“งั้น กูถามอีกข้อเดียว”
“เออ สุดท้ายท้ายสุดนะมึง รมณ์บ่จอย”
“ถ้า...ถ้าเป็นเฮียกูหล่ะ”
ลงนอนพลิกตัวไปมาในความมืด
เฮียมี่คงเข้าใจผิดเรื่องเฮียปาน
นอกจากเฮียปานแล้ว ก็ไม่มีใครมายุ่งกับผม
มิน่า ไอ้ปิงมันถึงถามนู่นนี่ ไม่เลิกลา
เฮียปาน…
อดอมยิ้มไม่ได้ หลังๆแกพูดจาดีขึ้น
มึง-กู ไม่มีให้ระคายหู
มือไม้ไม่มีมาลวนลาม
มีแต่คำพูดหวานหู
รอยยิ้มกรุ้มกริ่ม
เฮียมี่...
หลังๆมีแต่คำตัดพ้อ
คำถามซอกแซก จนอึดอัด
ทั้งๆที่เรียนหนัก
แต่ไม่น่ากลายเป็นคนขี้หงุดหงิด
ไร้เหตุผล
คำพูดหวานๆไม่หลุดมาให้ได้ยิน
มีแต่คำต่อว่า
จน....เริ่มท้อ
“เฮียหน่อย จะพลิกตัวอีกนานมั๊ย นิวจะได้ลงไปนอนพื้น”
ไอ้นิวลุกขึ้นนั่ง ขยี้ตา
“เออๆ โทษทีคิดอะไรเพลินไปหน่อย”
ลุกขึ้นมานั่งบ้าง
รำคาญตัวเองอยู่เหมือนกัน
“นิว”
“หืม”
ไอ้นิวล้มตัวลงนอน
ผมนั่งกอดหมอน มองหน้ามัน
“ถ้ามีคนให้แกเลือก”
“เลือกไรอะ...ฮ้าว”
บาปจริงเลยผม มันคงจะง่วงมาก
แต่ดีหล่ะ
คนที่ครึ่งหลับครึ่งตื่นมันจะตอบจากจิตใต้สำนึก
(ทฤษฏี ที่คิดขึ้นได้สดๆร้อนๆ)
“ถ้าแกต้องเลือกขนม2ถุง”
ลุกพรวด ตาโตเลยนะไอ้นิว
คนอย่างมันต้องเอาของกินมาล่อ
“ถุงแรกเป็นขนมที่แกคุ้นเคย รสชาดถูกปาก”
มันทำหน้าคิดตาม
“อีกถุง ไม่เคยกิน แต่ถุงมันสะดุดตา”
“....”
“แกจะเลือกถุงไหน”
“เอาหมดไม่ได้เหรอ”
อยากเหมือนกัน.....อ๊ะๆ..วันทอง
“ต้องเลือก”
“ถ้าเป็นนิว”
“นิวจะแอบชิมของใหม่นิดนึง”
“ถ้าไม่อร่อยเท่าของเดิม”
“ก็ไม่เอา”
“แล้ว...แล้วถ้าเป็นคนหล่ะ”
“ถ้าเป็นคนนิวไม่รู้”
ผมถอนหายใจ ปลงไม่ตก
“แต่...ถ้าเป็นปลานะเฮีย”
“ระวังจะหลุดทั้งสองมือ”

-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
เล่าสู่กันฟังครับ
เมื่อเช้าก่อนเฮียไปทำงาน
"กระเป๋ายังไม่แพ็คเลยนะ หน่อย"
"ทันน่ะ เฮีย ขอพิมพ์นิยายรักของเราก่อน"
ยิ้มหวานเอาใจผู้นำครอบครัว
"ตามใจ"
"..."
"แต่ถ้าเฮียเลิกงานมา กระเป๋ายังไม่เรียบร้อย"
"......."
"จะไม่มีแรงทั้งเก็บกระเป๋า ทั้งเขียนนิยายเลย คอยดู"