สนามรัก..นักบอล
Part 29
50% การฟิตซ้อมของรุ่นน้อง ในโครงการของสโมสรต้องการปั้นเด็กรุ่นใหม่ก้าวสู่เส้นทางนักเตะมืออาชีพ
โดยไม่ซื้อนักเตะในและนอกประเทศมาเสริมทีม รุ่นน้องทุกคนต่างรู้ตัวกันแล้ว
สัปดาห์นี้คืออาทิตย์สุดท้ายที่พวกเขาจะได้พิสูจน์ฝีเท้า ตลอดระยะเวลาร่วมเดือนเข้ามาฝึกที่นี่
ได้ความรู้บวกประสบการณ์..เพิ่มพูนทักษะให้พวกเขาเป็นอย่างมาก
แต่ไม่ใช่เป้าหมายหลัก ทุกคนลุ้นรอประกาศหลายชื่อ ซึ่งจะมีขึ้นเย็นวันนี้ วันศุกร์คงต้องแยกย้ายกันกลับ
เหลือเฉพาะพวกที่มีชื่อติดนักเตะของสโมสรเท่านั้น ฟังดูน่าใจหาย..แต่ความจริงหนีไม่พ้น มีสมหวังผิดหวัง
ล้วนเป็นวัฏจักรการแข่งขันทั่วไป
เพียงแต่มีใครสามารถยืดอกยอมรับความผิดหวัง หรือใครพร้อมจะลุกขึ้นสู้อีกเพื่อรอโอกาสในวันข้างหน้า
ย่อมขึ้นอยู่กับมุมมองผสมแนวคิดของแต่ละบุคคล ซึ่งมีต้นทุนพื้นฐานมาไม่เหมือนกัน
ทุกคนแสดงความสามารถเต็มที่ ผลัดลงทีมตามคำสั่งสต๊าฟโค้ช สามวันติดประธานสโมสรคุณทวี
นั่งรวมกลุ่มสต๊าฟโค้ชดูการซ้อมจริงจัง นักเตะหลายคนแปลกใจแอบมีคำถาม งานนี้ประธานลงทุนมาดูด้วยตัวเองเชียว
นับครั้งได้ที่คุณทวีจะติดขอบสนาม ดูการซ้อมทีมแบบนี้
แต่ไม่เหนือความคาดหมายนักเตะรูปหล่อ ฉายาเทพบุตรแข้งทอง
ที่เห็นพ่อของเขาจับเจ่าข้างสนามยันเลิกซ้อมสองวันติด คงอยากดูฝีมือคนรักของเขาเสียมากกว่า..?
“โย่..พ่อมึงจ้องน้องไม่วางตาเชียววะ” เกรียงกระซิบบอกเพื่อนรัก พยักพเยิดไปยังคุณทวีที่นั่งกับสต๊าฟโค้ช
สายตาคมกริบมองที่ลูกดิ่งขณะนี้ น้องลงทำหน้าที่ผู้รักษาประตู อีกทีมเป็นอีนอคนายทวารฝั่งตรงข้าม
สองเพื่อนซี้ รวมนักเตะรุ่นพี่หลายคนถูกจับนั่งข้างสนาม ให้รุ่นน้องดวลฝีเท้ากันเต็มที่
มีรุ่นพี่ตัวสำรองกับตัวหลักไม่กี่คนลงผสมทีม..ไม่ให้เกิดความเหลื่อมล้ำฝีมือกันมากนัก
“อืม..” โยโย่รับคำเบาๆ
“มึงสบายใจได้ ลูกดิ่งเล่นดีผิดหูผิดตา เซฟลูกโชว์เน้นๆ อีกต่างหาก
ไอ้หรั่งอีนอคโดนยิงนำไปแล้ว 1 น้องมึงยังเหนียว” เกรียงชมจากใจไม่ได้แกล้งยอให้เพื่อนรู้สึกดี
จากสายตาเขาเห็นพัฒนาการของลูกดิ่งก้าวหน้ามากทีเดียว ลูกดิ่งทุ่มเทในเกมหาข้อผิดพลาดน้อยมาก
ฟอร์มการเล่นเป็นที่น่าจับตามอง
“ว่าก็ว่า..ที่มึงยื่นคำขาดกับพ่อ เดิมทีกูแอบตะหงิดใจ ว่ามึงใช้เส้นบังคับให้ได้มา..ทีมจะไปรอดหรือวะ?
ตอนนี้กูยอมรับเลยโย่ น้องเล่นดีกว่าประตูสโมสรนอกเสียอีก แบบนี้ค่อยเบาใจ” เกรียงยิ้มให้เพื่อน
นึกย้อนไปวันที่โยโย่เรียกคุยส่วนตัว เล่าให้เขาฟังถึงปัญหา พร้อมกับยื่นเงื่อนไขให้ลูกดิ่งลงทำหน้าที่นายทวารมือหนึ่ง..
เขาแอบคิดว่าโยโย่ใช้อารมณ์เป็นหลัก แต่ไม่ได้ตำหนิออกไปตรงๆ จังหวะนั้นพูดผิดหูคงไม่ดีเท่าไหร่..
เขาเลือกรอจังหวะ ถ้าลงทีมแล้วเห็นความแตกต่าง จะใช้เหตุผลคุยกับเพื่อนแทน ให้นึกถึงส่วนรวมมาก่อนความรู้สึกส่วนตัว
วันนี้เขายอมรับอย่างเปิดใจ ‘ลูกดิ่งเล่นดีกว่าอีนอค’ ถึงน้องยังเด็ก แมทใหญ่ระดับชาติไม่มีประสบการณ์
แต่กลับอ่านทางบอลขาด ป้องกันได้รัดกุม แทบจะเทียบมือกาวอย่างเทพด้วยซ้ำ รอบ่มกระดูกบอลสะสมประสบการณ์
อีกสักหน่อย ต้องเกิดเพชรในวงการลูกหนังเพิ่มขึ้นแน่นอน..
“กูไม่ใช่คนตาบอด..หลงจนไม่ลืมหูลืมตา ยึดเอาความรู้สึกตัวเองเป็นใหญ่ ที่กูกล้าพนันกับพ่อ
เพราะกูรู้ลูกดิ่งมีพรสวรรค์..มุ่งมั่นตั้งใจสูง สำคัญมีไหวพริบปฏิภาณ หาได้ยากในเด็กกลุ่มนี้..
เทียบกับยุทธรายนั้นคล่องตัวบวกทักษะพลิ้วไหว ทำให้เล่นบอลได้เป็นธรรมชาติ
กรณีลูกดิ่งใช้สมองผสมทักษะ ไม่ประมาทคู่ต่อสู้ มีพัฒนาการก้าวกระโดดล้ำหน้ากว่าใครทั้งหมด”
โยโย่ไม่ได้อวย เขาพูดจากความรู้สึก เกรียงเองไม่มีคำพูดแย้ง ยอมรับลูกดิ่งโดดเด่นมาก
เมื่อลงประชันฝีมือวัดกับรุ่นพี่อย่างอีนอค สามารถควบคุมสมาธิ ป้องกันลูกยิงอย่างที่เห็นกันอยู่
“หึหึ! สดใหม่..กรุ๊บกรอบเลยมึง ยิ่งเล่นยิ่งท็อปฟอร์มวะ” เกรียงแซวโยโย่ พร้อมกับยักคิ้วให้เพื่อนรักไปที
“ของมันแน่อยู่แล้ว ดูก่อน..ใครเป็นพี่เลี้ยง” กลับโดนโยโย่ยักคิ้วคืน พร้อมประโยคชวนให้หมั่นไส้
“ไม่ยกหางสักนิด..เพื่อนกู” เกรียงส่ายหัวระอา คนหน้านิ่งกระตุกยิ้มมุมปากอย่างเท่
“มึงดูผสุดิ..กูสังเกตนานแล้ว จ้องไอ้ยุทธอยู่คนเดียว คู่นี่ชักยังไงวะ” เกรียงเปลี่ยนเรื่อง
บุ่ยปากให้โยโย่สังเกตหมอหน้าขาว วันนี้มาทำหน้าที่แพทย์สนาม สองวันแรกหมอผานิตคนสวยกับเพื่อนสาวนุชจรีมากันเอง
“กูไม่รู้” โยโย่ตัดบทสั้นๆ
“เหอะ..เชื่อมึงก็แดกหญ้า..ก่อนหน้าผสุตื๊อจีบน้องรักของมึงไม่เก็บอาการ พักหลังไม่เห็นวุ่นวายด้วย
ทักทายปกติไม่มีหยอดมีชวนอย่างเคย แต่ดันสนิทไอ้ยุทธทั้งที่เป็นไม้เบื่อไม้เมากันตั้งแต่ต้น มึงไม่รู้หรือแกล้งไม่รู้”
เกรียงเหน็บเพื่อนซี้
“บางเรื่อง..ทำเป็นไม่รู้บ้างก็ได้” โยโย่ปรายตามองหน้าเพื่อน เกรียงเห็นท่าทางแบบนั้น อดแยกเขี้ยวใส่ไปจนได้
“ร้ายนะมึง มีคนแยกคู่แข่ง วิ่งฉิวไม่เห็นฝุ่น..เพื่อนกู”
เกรียงตีความคำพูดของโยโย่ ถึงกับทึ่งความเจ้าเล่ห์ของเพื่อนเขา
“กูไม่เคยมองผสุเป็นคู่แข่ง เพราะรู้กูมาวินเห็นๆ ที่กูแข่งคือตัวกูเองไม่ใช่ผสุ..ตอนนี้ก็กำลังแข่ง
เมื่อไหร่น้องจะเต็มร้อยให้กูไม่เหลือช่องว่าง” คำเฉลยจากปากเพื่อนสุดหล่อ เกรียงถึงกับจนคำถาม
ตั้งแต่รู้จักกันมา คบหากระทั่งเดี๋ยวนี้ ไม่เคยที่โยโย่มุ่งมั่นลงเดิมพันกับความรักเหมือนครั้งนี้
ไม่มีแววตาล้อเล่นให้เห็น จริงใจหนักแน่น เห็นท่าต้องยอมรับ..งานนี้เพื่อนเขารักจริงหวังแต่ง..
“ไม่เห็นมึงเป็นแบบนี้มาก่อน เสน่ห์ลูกดิ่งทำเพื่อนกูกู่ไม่กลับ” เขาอดหยอกจนได้
“ใช่แค่กูหรอก..มึงดูเรน” โยโย่เปรยให้เกรียงสังเกตหนุ่มตัวเล็กน่ารัก
ที่มาคอยบริการข้างสนาม สองวันแรกเทคแคร์ดูแลลูกดิ่งอย่างไม่สนใจใคร
ส่วนรุ่นน้องรับไมตรีด้วยรอยยิ้มใสซื่อ เขารู้ลูกดิ่งวางตัวปกติไม่มีแสดงอาการตีตัวห่าง หรือเว้นระยะแต่อย่างใด
เขากลับไม่รู้สึกขัดตา อยากรู้เรนจะรุกคืบได้แค่ไหน จากที่เห็นหากเขาดูไม่ผิด เรนหลงเสน่ห์ลูกดิ่งเข้าแล้วเช่นกัน
ไม่ใช่จะทำหน้าที่ตามใบสั่ง บางครั้งของแบบนี้เกินความคาดหมาย นิสัยลูกดิ่ง..ใครอยู่ใกล้ได้รู้จักเข้า
ไม่เอ็นดูหลงรักคงมีน้อยต่อน้อย ไม่แปลกที่เรนจะเผลอไผล เมื่อคนอย่างเรนเจอแต่พวกชั่วโมงบินสูงทั้งนั้น
ลูกดิ่งถือเป็นความท้าทายไปแล้วตอนนี้ พื้นฐานนิสัยของเรน..มักอยากได้ของที่ได้มายากๆ
“มึงกังวลไหม ว่าน้องจะเปลี่ยนขั้ว” เกรียงแอบถามความคิดโยโย่
“กูคงต้องปรับกลยุทธ์เล็กน้อย ก่อนขั้วจะเปลี่ยน” โยโย่บอกหน้านิ่ง
“หมายความว่า..มึง” เกรียงพูดค้างไว้ ไม่ต่อให้จบประโยค
“ยังไม่ใช่เร็วๆ นี้ แต่ปล่อยเวลาเนิ่นนานไม่ได้” คำตอบของเพื่อนเกรียงเงียบไม่ซอกแซกมากความ
“ยังไงก็ดูจังหวะด้วยนะโย่ อย่าให้เดี้ยงก่อนแข่ง” สุดท้ายเป็นห่วง ของแบบนี้ไม่ต้องมีประสบการณ์
ดูแล้วคงไม่ผ่านฉลุยง่ายดายเหมือนปลอกกล้วยเข้าปากแน่
“กูรู้..ไม่ใช่ไก่อ่อนสอนขัน สำคัญถ้าน้องไม่พร้อมกูไม่ยุ่งหรอกห่า”
คำพูดหนักแน่นของเพื่อน ยืนกรานให้เขาสบายใจ ค่อยรู้สึกดีขึ้นมาหน่อย
“เออกูเข้าใจมึงหยิ่งในศักดิ์ศรี ไม่ใช้กำลัง..ฮะฮ่าๆ”
เขาอดหัวเราะออกมาจนได้ โยโย่ปรายตาเหยียดให้เพื่อนรักไปที
“แซวกู..สัด!” พร้อมกับแหวเสียงขุ่นแถมไปอีกดอก
“ขึ้นแล้วโว้ย!..กลัดมันสิมึง ขนมหวานอยู่ใกล้แค่ปลายจมูก แต่กลับไม่ได้กิน”
กัปตันทีมนึกคึก สนุกไปกับการยั่วแหย่เพื่อนอย่างเมามัน
“ฝึกความอดทนต่างหาก..” โยโย่ตอบหน้ามึน
“จิ๊!..กูจะรอวันตบะความอดทนของมึงพังทลาย”
“ปรี๊ดดด!!!” เสียงนกหวีดเป่าหมดเวลา เบรกการสนทนาสองหนุ่มกับกลุ่มนักเตะข้างสนามโดยปริยาย
ได้เวลาลุ้นการประกาศรายชื่อนักเตะของรุ่นน้องกันแล้ว เห็นสต๊าฟโค้ชสุมหัวกับประธาน
รอนักเตะทยอยเดินออกสนามเหงื่อโทรมกาย พักดื่มน้ำเช็ดเหงื่อให้หายเหนื่อยกันเสียก่อน
“มึงดูเรน..วิ่งโร่เข้าไปประกบน้องมึงก่อนเลยโย่” เกรียงบุ่ยปากให้โยโย่มองร่างหนุ่มตัวเล็ก
ที่เดินแกมวิ่งถือผ้าเย็นกับน้ำอีกขวด เป้าหมายคือลูกดิ่งอย่างไม่ต้องสงสัย
“หึ!” โยโย่ไม่ตอบ ทำเสียงขึ้นจมูกสั้นๆ
“ดูไอ้ยุทธ..เชี้ยเอร้ยน้องแทคกู” เกรียงบ่นอุบ เมื่อเห็นยุทธเดินดุ่มเข้าไปหาผสุ
แบมือยิ้มหล่อกระดิกเท้าดิกๆ ผสุรีบเปิดกระเป๋าคู่มือหยิบผ้าขนหนูเย็นส่งให้เฉย แถมน้ำเปล่าเปิดฝาขวดให้ด้วยต่างหาก
“หึหึ!” คราวนี้หนุ่มหล่อพระเอกของทีม หัวเราะในคอเบาๆ
กับภาพที่เห็นผสุหน้าขึ้นสี แต่ก็หยิบนั่นหยิบนี่บริการยุทธเฉย
“ให้มันได้อย่างนี่” เกรียงส่ายหัวไปมา
“ดีแล้ว..ไอ้ยุทธเจ็บได้ไม่ต้องกลัวไม่มีหมอรักษา” โยโย่พูดยกยิ้มมุมปากอย่างเจ้าเล่ห์
“สาด..มึงสนับสนุนนะสิ ไม่ต้องมีใครวอแวน้องมึงนี่หว่า กูว่าไม่ต้องคอยกังวลผสุ
ดูเรนโน้น..ชักถึงเนื้อถึงตัวแล้ว ชั่วโมงบินไม่ธรรมดานะเพื่อน มึงเองยังเคยตกหลุมมาแล้วนี่นา”
เกรียงเตือนเพื่อนรัก เมื่อเห็นเรนถือวิสาสะใช้ผ้าซับเหงื่อลูกดิ่งอย่างไม่แคร์สายตาใคร
คงเพราะได้ไฟเขียวเสียมากกว่า ถึงกล้าทำโจ่งครึ่ม
“นั่นเพราะกูไม่มีพี่เลี้ยง ใจอยากประชดด้วย ไม่ใช่โง่เสียหน่อย แต่ลูกดิ่งมีกูอยู่..หึ!”
โยโย่พูดทิ้งท้ายแค่นั้น ก่อนลุกยืนบิดขี้เกียจ จ้องไปยังลูกดิ่ง พอน้องเห็นรุ่นพี่มองมา
รีบวิ่งเหยาะๆ เข้ามาหาทิ้งเรนมองตามหลังหน้าเจื่อนไปทันที
“เป็นไงครับ..เหนื่อยไหม” โยโย่จ้องหน้าอมชมพู สาเหตุเลือดสูบฉีดจากการเล่นกีฬาหนักมาหมาดๆ
“นิดหน่อย..แต่สนุกครับ” น้องยิ้มกว้าง ตาเรียวสวยเป็นประกายฉายแววมีความสุขตามที่พูด
“เล่นได้ดี..ป้องกันประตูได้เยี่ยม” เขาชมจากใจ
“คิกคิก..ได้โค้ชดีนี่ครับ ทำให้ผมมั่นใจ” น้องยิ้มตาหยีส่งให้ โค้ชดีที่ว่าก็คนตัวโตตรงหน้าเขานี่แหละ
เป็นใครที่ไหน..เมื่อเขาสามารถป้องกันลูกอันตรายของรุ่นพี่ได้ แล้วลูกจากฝีเท้านักเตะคนอื่นทำไมจะอ่านไม่ขาด
“หึหึ! ดีแล้ว..ไว้ค่อยสอนเรื่องอื่นบ้าง” โยโย่พูดแค่นั้น ปล่อยน้องยืนมองทำตาปริบๆ
ประมวลคำพูดรุ่นพี่อย่างใช้ความคิด
“เชิญเข้าแถวหน้ากระดานเรียงหนึ่ง รุ่นน้องแถวหน้า รุ่นพี่แถวหลัง”
เสียงโค้ชโจ้ เรียกนักเตะรวมตัวหน้าสต๊าฟโค้ช ได้เวลาที่ทุกคนรอคอยแล้ว
“หูยยย!..ตื่นเต้นวะดิ่ง” ยุทธปรี่เข้าหารุ่นน้อง จับบ่าบอกความรู้สึก
“ผมก็เหมือนกัน” ลูกดิ่งบอกไปตามตรง เขาตื่นเต้นเช่นกัน
“มึงกลัวห่าไร..ตำแหน่งมึงมีคนเดียว ยังไงก็ไม่หลุด” ยุทธปลอบรุ่นน้องตามหลักความจริง
“ก็ไม่แน่หรอกพี่ อ่านใจโค้ชได้เหรอ” ลูกดิ่งแย้งเบาๆ
“เออๆ..เหลือกูกับไอ้ปุ้ม ลุ้นหัวใจวายกันต่อไป”
จังหวะรวมตัวเข้าแถวหน้ากระดานเรียบร้อย สองหนุ่มจึงยุติการคุย
“ก่อนประกาศรายชื่อนักเตะ คัดจากน้องๆ ที่ร่วมโครงการต่อยอดกับทางสโมสร
คุณทวีในฐานะประธานมีเรื่องจะคุยกับพวกเราเล็กน้อย เชิญครับ” โค้ชดนัยทำหน้าที่กล่าวเชิญประธานสโมสร
“คงไม่ต้องสวัสดีหรอกนะ ผมมานั่งดูการฝึกซ้อมของพวกเราตั้งแต่วันจันทร์กระทั่งวันนี้
สามวันติดไม่ได้ไปไหน ก่อนอื่นต้องขอขอบใจทุกคน ที่มุ่งมั่นตั้งใจแสดงความสามารถออกมาให้เห็น
เป็นที่น่าพอใจต่อผมและทีมสต๊าฟโค้ชทุกคนที่อยู่ที่นี่
แต่ข้อตกลงตามเงื่อนไขของเรา จำเป็นต้องคัดนักเตะตามจำนวนโควต้าที่เรามีตำแหน่งอยู่เท่านั้น
ใครที่ไม่มีรายชื่ออย่าเสียใจ มุ่งมั่นฝึกซ้อมปีหน้าคุณอาจมีโอกาสมาเป็นส่วนหนึ่งกับเราได้
โครงการนี้ใช่ว่าสโมสรจะจัดขึ้นครั้งเดียว นักเตะที่อยู่หมดสัญญาปีหน้าก็มี โครงการแขวนสตั๊ดก็มี
ดังนั้นน้องๆ ที่ไม่มีรายชื่ออย่าทิ้งความตั้งใจเป็นอันขาด แม้คุณไม่มีรายชื่อติดทีมเราวันนี้
แต่โอกาสพวกคุณยังมี จงเอาประสบการณ์ที่ได้รับจากที่นี่ ไปประยุกต์ใช้เพิ่มพูนทักษะขีดความสามารถการ
เล่นของพวกคุณให้ก้าวหน้าต่อไป ผมเชื่อว่านอกจากสโมสรของเรา เส้นทางนักเตะอาชีพของพวกคุณ
สโมสรอื่นเขาคงเล็งเห็นเช่นกัน..ผมมีเรื่องจะฝากไว้เท่านี้” เสียงปรบมือตามมาติดๆ ถือเป็นการพูดให้กำลังใจที่ดีจริงๆ
“ขอบคุณประธานทวี ที่มอบข้อคิดดีๆ ให้น้องๆ ใช้เป็นแนวทางเดินสู่ถนนนักเตะอาชีพ
จากนี้เป็นการประกาศรายชื่อ ซึ่งสต๊าฟโค้ชใช้เวลาที่พวกคุณเข้ามาฝึกซ้อม เก็บคะแนนวัดความสามารถ
จนถึงวินาทีสุดท้ายกันเลยทีเดียว ใครไม่ติดก็อย่างที่ประธานเกริ่นไว้ อย่าทิ้งความฝัน วันข้างหน้าพวกคุณยังมีโอกาส..
เชิญโค้ชอรุณ รับหน้าที่ประกาศรายชื่อนักเตะครับ” โค้ชโจ้เอ่ยจบ โค้ชอรุณเดินถือแผ่นกระดาษ
มายืนหน้าแถวนักเตะทั้งหมด พวกน้องๆ พากันใจสั่นไปแล้ว
“ไม่เสียเวลา ผมประกาศเลยนะ..ศูนย์หน้านายบรรพต จันทร์รุ่ง”
เสียงปรบมือดังขึ้น พร้อมกับยุทธหันไปจับมือแสดงความยินดีให้ปุ้ม
“ดีใจด้วย..มึง” ปุ้มจับมือยุทธเขย่า ยิ้มปากกว้างไม่หุบ เมื่อชื่อเขาติดเป็นคนแรก ตำแหน่งศูนย์หน้า
“ดีใจด้วยครับ..พี่ปุ้ม” ลูกดิ่งยื่นมือแสดงความยินดีคนต่อมา
“อืม..ขอบใจ” ปุ้มรับไมตรีจับมือตอบ ตอนนี้เขาดีใจสุดๆ ไม่มีการเกี่ยงงอนใครเป็นพิเศษ
“มิดฟิวล์ตัวรุกนายยุทธศาสตร์ ศิริศิลป์”
“เฮ้!!..ไอ้ลูกข่างกูติดเว้ย..กูติดแล้วมึง” ยุทธออกอาการกระโดดกอดลูกดิ่งไปแล้ว
รุ่นน้องกอดตอบ ปุ้มก็เข้าไปกอดด้วย ไม่มีใครตำหนิพวกเขาที่แสดงความดีใจ พวกรุ่นพี่มียิ้มบ้าง
หัวเราะแสดงความยินดีร่วมด้วย
“กองหลังนายอนุสรณ์ นิมมาน” พอเอ่ยชื่อนี้ ทุกคนก็เห็นภาพน้องต้อกระโดดกอดพี่เพชร
พี่เลี้ยงส่วนตัวไปแล้วเช่นกัน เพชรหัวเราะร่ากอดรุ่นน้องแสดงความดีใจด้วย พวกที่เหลือรู้ตัวแล้วคงไม่มีหวัง
ต่างทยอยเข้าไปแสดงความดีใจกับพวกเพื่อน โดยไม่มีใครรอฟังรายชื่อสุดท้ายด้วยซ้ำ
“ตำแหน่งสุดท้าย..ผู้รักษาประตูนายรัชวิน ราชไกร” ชื่อลูกดิ่งกลับเห็นแต่หัวโผล่ ทั้งยุทธ ปุ้ม ต้อ
และเพื่อนๆ ที่มาเข้าค่ายพากันรุมกระโดดกอดตัวกลมไปแล้ว เป็นภาพที่รุ่นพี่เห็นแล้วต้องยิ้มตาม
ไม่มีรุ่นน้องคนไหนทำหน้าเศร้าผิดหวังที่ไม่มีชื่อติด กลับมีรอยยิ้มยินดีให้เพื่อนๆ แสดงน้ำใจนักกีฬา
เตรียมใจไว้ล่วงหน้า เคารพในคำตัดสิน เป็นภาพที่พวกเขามีความสุขสุดๆ
“แสดงความยินดีด้วยครับ” เสียงผสุดึงยุทธ แทรกออกจากการรุม ยืนยิ้มกริ่มให้หมอหน้าขาว
“ยินดีอย่างเดียวคงไม่พอ เรามีข้อตกลงกันนะหมอ” เขาพูดให้ได้ยินสองคน
ขณะนี้รุ่นพี่กับเพื่อนๆ ต่างสนใจแสดงความยินดีให้ปุ้ม ต้อ ลูกดิ่งกันอย่างต่อเนื่องเป็นที่เฮฮา
“ไว้ค่อยคุยได้ไหม อย่าทำให้เสียบรรยากาศดิ”
ผสุปรามหน้าแดงก่ำ หลังตีความคำพูดยุทธออก ว่าสื่อถึงเรื่องอะไร
“คึคึ! ผมแค่เตือนความจำต่างหาก ที่จริงผมควรขอบคุณหมอด้วย” ยุทธพูดท่าทางยิ้มกรุ้มกริ่ม
“ขอบคุณเรื่องอะไร” ผสุแอบงง?
“แรงบันดาลใจส่วนหนึ่ง ทำให้ผมมาถึงจุดนี้ได้ หมอมีส่วนร่วม”
คำตอบของยุทธ เรียกเลือดวิ่งขึ้นหน้าผสุอีกระลอก
“จิ๊! แรงบันดาลใจอยากให้ฉันเอานายเนี่ยะนะ” ผสุกัดกรามพูดรอดไรฟันเบาๆ
“เปล่าสักหน่อย! แรงบันดาลใจถ้าผมชนะ..ผมได้เอาหมอต่างหาก อย่าเปลี่ยนเงื่อนไขดิ”
กลายเป็นผสุอึ้งตาค้างเสียเอง
“คำไหนคำนั้น” ยุทธย้ำอีกที แต่ผสุจิตใจล่องลอยหูอื้อไปแล้ว
ไม่ได้ยินแม้กระทั่งเสียงหัวเราะทั่วสนามอย่างมีความสุข..ของบรรดานักเตะ
ขอโทษนะคะที่มาซะค่ำเลย
เราท้องเสีย กลับมาซมตั้งแต่บ่าย เพิ่งฟื้นตอนห้าโมงเย็นนี่เอง
เอาไปครึ่งหนึ่งก่อนนะ พรุ่งนี้ไม่เกินสี่โมง เราจะมาต่อยาวๆ ในส่วนที่เหลือ
และเพิ่มตอนให้อีก 1 ตอน ชดเชยที่ทำให้รอคอยกันค่ะ
ตอนหน้า ได้เวลาเลือดกระฉูดของจริงแล้วจร้าาาาา
ปล.ขอบคุณคนอ่านที่ให้กำลังใจกันต่อเนื่องเสมอมานะคะ
รักพวกคุณทุกคนมากมายเช่นกัน
