= 2 = “เชื่อก็เชื่ออยู่ คนอย่างผมไม่เชื่อมั่นตัวเองไม่มาหรอกพี่” ยุทธบอกพี่เลี้ยงหน้าระรื่น..แอบยักคิ้วกวนอีกสองจึก
“หึหึ!..ให้มันได้นะมึง พลาดมากูกระทืบซ้ำ” เกรียงอดขำท่าทางกวนได้โล่ของรุ่นน้องไม่ไหว
แทบสำลักข้าวตาม..เลยคาดโทษแทนซะงั้น
“ฮะฮ่าๆ..พี่ไม่มีทางได้ตื๊บผมหรอก นอกจากเปิดเหล้าฉลองให้ผม” ยุทธหัวเราะร่า ท้าพนันอีกต่างหาก
“มั่นใจขึ้นมาเลยนะ ตะกี้ยังงี่เง่าอยู่แหม่บๆ เอาวะพี่รับปาก ถ้าเรามีชื่อติดเปิดเหล้าเลี้ยง..ตกลงตามนั้น
แต่ต้องแดกข้างนอก ในนี้ผิดระเบียบ สำคัญแดกแล้วกลับมาค้างไม่ได้ เตรียมหลุมหลบภัยไว้ล่วงหน้าด้วยล่ะ”
กลายเป็นพันธะสัญญากันไปเรียบร้อย ตั้งแต่ต้นจนจบลูกดิ่งไม่พูดสักคำ กลับตกกระไดพลอยโจนอย่างมึนๆ งงๆ
มีเพียงสายตาคมหวานของรุ่นพี่ตัวโตที่นั่งอยู่ข้างๆ ชำเลืองให้รู้สึกร้อนวูบวาบตลอดเวลา
>
>
>
“ช่วยจัดการตามที่ผมขอให้เรียบร้อยด้วยครับ” โยโย่โทรทางไกลหาผู้ดูแลมรดก ‘ฮาริฟา’
อาศัยจังหวะที่ลูกดิ่งกำลังอาบน้ำ เขาปลีกตัวออกมาโทรนอกห้องนอน
[รับทราบครับ พรุ่งนี้ผมให้อิงอรจัดการช่วงเย็นที่พวกคุณลงซ้อมทีม
ใช้เวลาไม่ถึงยี่สิบนาทีคงเรียบร้อย] ปลายสายรับปากมั่นเหมาะ
“ผมไม่ไว้ใจ เหมือนมีลับลมคมในบางอย่าง..คงต้องคอยจับตาดู
หลังมื้อค่ำอีนอคกับเรนไปพบใครไม่รู้ที่ห้องรับรอง สองคนนั้นเพิ่งมาถึง กลับมีคนมาหาที่นี่..
น่าแปลกตรงเป็นคนไทย เพื่อนของเรนผมก็ไม่คุ้นหน้า คนที่มาพบเป็นผู้ชายสองคน อายุน่าจะพอกับผม
เข้าดูกล้องใช้รหัสที่คุณให้ผมไว้ผ่านคอมฯ ผมคิดว่ามันไม่ชอบมาพากล ยังไงเรื่องนี้อย่าให้พลาด
ห้ามสองคนนั่นรู้ตัวเป็นอันขาด” โยโย่กำชับจริงจัง
[ครับ..คุณโย่ เรื่องที่คุณให้สืบประวัติคุณอาทวีป ผมได้รายละเอียดแล้วครับ ส่งไปทางเมลล์
คุณเข้าไปอ่านดูเถอะ คงไม่มีข้อสงสัยเพิ่มเติมอีก เพราะข้อมูลที่ได้มาละเอียดยิบทีเดียว] ฮาริฟาบอกโยโย่
จังหวะลูกดิ่งเปิดประตูเดินออกมาพอดี ในมือมีผ้าขนหนูเช็ดผมไปด้วย
“ผมอาบเสร็จแล้วครับ” รุ่นน้องบอกรุ่นพี่ซึ่งคุยโทรศัพท์อยู่ตรงโซฟา
“ไว้คุยวันหลัง” โยโย่บอกปลายสายค่อยวาง แล้วหันมองรุ่นน้อง
“ดิ่งรอพี่อาบน้ำแป๊บนะ” ลูกดิ่งทำหน้างง..
“ทำไมให้ผมรอครับ” เขาคิดว่ารุ่นพี่อาจมีธุระคุยด้วย ถึงบอกแบบนี้
“รอเข้านอนพร้อมกัน จูบราตรีสวัสดิ์” ประโยคนี้ทำเอาหน้าขาวสะอาดสะอ้าน
เพิ่งอาบน้ำมาใหม่ๆ ถึงกับเห่อแดงทันควัน
โยโย่ยิ้มกรุ้มกริ่ม ท่าทางมีความสุขไปกับอาการเขินจัดของลูกดิ่ง รุ่นน้องหน้าใสเบือนหน้าหนี
แกล้งเดินไปเปิดตู้เย็นควานหาขวดน้ำมาดื่ม ร่างสูงใหญ่ยอมหันหลังก้าวอาดๆ เข้าห้องอย่างอารมณ์ดี
ทิ้งลูกดิ่งมองตามแผ่นหลังกว้างของรุ่นพี่ด้วยอาการ..พูดไม่ออกเพียงลำพัง...?
“ดิ่งครับ..เข้านอนเถอะ” คนตัวโตโชว์แผงอกแน่นเปรี๊ยะ ไรขนดกดำลามไล่เป็นแพ
เขานุ่งกางเกงวอร์มตัวเดียว ไม่ต้องเดาไม่ใส่ชั้นในแน่นอน เพราะอีกสักครู่ก็ต้องถอดขึ้นเตียงตามความเคยชิน
“พี่นอนก่อนเถอะครับ” ลูกดิ่งกำลังหาทางเลี่ยง ไม่กล้านอนกับรุ่นพี่ หลังโดนระเบิดเวลาไปก่อนหน้า
“ดิ่ง..พรุ่งนี้ต้องตื่นเช้าวิ่ง สี่ทุ่มครึ่งแล้วครับ” โยโย่ใจเย็น เดินมาท้าวข้อศอกกับพนักพิงโซฟา
ชะโงกหน้าเข้าใกล้ใบหูขาวที่ขึ้นสี หลังถูกรุ่นพี่พูดใกล้หูจนสัมผัสลมอุ่นเป่ารด
“ผะ..ผมยังไม่ง่วง” เขาอึกอัก เริ่มหาข้ออ้างไปเรื่อย
“กลัวอะไร” โยโย่ถือวิสาสะช้อนคางมนของรุ่นน้องให้หันมาสบตา
“เปล่าครับ” ลูกดิ่งพยายามขืน แต่รุ่นพี่ไม่ยอมผ่อนให้ เลยหลุบตาไม่กล้าสบตอบ
กลัวรุ่นพี่รู้ความคิด ยอมรับตอนนี้หัวใจเต้นตึกตัก ควบคุมตัวเองไม่อยู่จริงๆ
“พี่ไม่ทำอะไรเราหรอก ไม่ชอบขืนใจใคร” เสียงทุ้มออกตัดพ้อนิดๆ
ทำเอาลูกดิ่งช้อนตาเรียวจ้องหน้าพี่ค้นหาความจริง เห็นหน้าตัวเองในแก้วตาดำของพี่ชัดแจ๋ว
“ผมไม่ได้หมายความแบบนั้น” เขารู้สึกผิดทันที ดันดูถูกน้ำใจพี่โย่อย่างไม่มีเหตุผล
แต่ก็อดระแวงไม่ได้ นับเป็นคืนแรกที่ฐานะของพวกเขาเปลี่ยนจากพี่น้องกลายเป็น ‘แฟน’
ก่อนหน้ารุ่นพี่ก็จูบมัดจำไปแล้ว ทั้งที่อยู่บ้านเขาเองด้วยซ้ำ พอมาอยู่ในห้องแบบนี้ ไม่ระแวงก็ไม่ใช่แล้วม้าง!!
“คนเป็นแฟนกันไม่จำเป็นต้องมีเซ็กส์เสมอไป คนรักกันต้องการแสดงความรู้สึกผ่านการกระทำ
ใช้วิธีร่วมรักสร้างความผูกพัน ต้องเกิดจากความยินยอมทั้งสองฝ่าย ถ้าเป็นการฝืนใจคงไม่มีใครมีความสุขหรอกครับ
ที่พี่อยากสัมผัสดิ่งกอดจูบเราบ้าง เพราะเราเป็นแฟนกันแล้ว” เจอลูกไม้นี่ลูกดิ่งพูดไม่ออก จนคำพูดดื้อๆ
โยโย่เห็นน้องเงียบไม่โต้แย้ง ค่อยลดระยะห่างใบหน้าขยับเข้าหาจนปลายจมูกแทบชนกัน
เขาไม่บุ่มบ่ามประกบริมฝีปากเหมือนทุกครั้ง ลูกดิ่งเผลอกลืนน้ำลายเหนียวหนืด
เมื่อสัมผัสลมหายใจอุ่นเป่ารดจมูกตัวเองอยู่ ถึงตอนนี้เขาเลือกหลับตาลงช้าๆ
ปล่อยรุ่นพี่แนบริมฝีปากนุ่มสากไรหนวดในความรู้สึกชัดยิ่งกว่าลืมตาเสียอีก
คงเพราะสมาธิดันจดจ่ออยู่กับสิ่งที่กำลังเกิดขึ้น เรียวลิ้นชื้นค่อยเลาะเล็มริมฝีปากเขาอย่างไม่เร่งรีบ
ซอกซอนไรฟันบอกใบ้ให้เปิดทางให้
ลูกดิ่งเผยอเปิดพื้นที่ให้รุ่นพี่รุกล้ำเข้าไปไล่ต้อน เกี่ยวกระหวัดดูดดุนลิ้นสลับหยอกเอินอย่างช่ำชอง
เล่นเอาลูกดิ่งที่ไม่ประสายอมดุนลิ้นสู้เพื่อปกป้องพื้นที่ตัวเอง กลายเป็นการยั่วเย้ากระตุ้นอารมณ์โยโย่
เผลอครางเสียงต่ำอย่างพึงพอใจ
“อืมม” ลูกดิ่งรู้สึกดีอย่างประหลาด หูแว่วเสียงรุ่นพี่ครางทุ้ม
จึงรุกไล่กวาดต้อนลิ้นรุ่นพี่..แบบสะเปะสะปะตามความเข้าใจ
กลับยิ่งสร้างความรัญจวนชวนคลั่ง ในความไม่ประสาอ่อนหัดของรุ่นน้องให้โยโย่เสียอย่างนั้น
จนอารมณ์เขาชักเตลิดตามไปแล้ว
ขืนปล่อยให้จูบต่อเขาอาจผิดคำพูด จาบจ้วงรุ่นน้องขืนใจเอาจนได้ ยิ่งสูดกลิ่นกายหนุ่มหอมกรุ่นติดจมูก
เรียกเลือดลมสูบฉีดส่วนกลางลำตัวโป่งนูนดันกางเกงวอร์มไปแล้ว ดีที่ยืนอยู่หลังพนักพิงโซฟาในท่าค้อมตัวก้มจูบลูกดิ่ง
ซึ่งเขาเชยคางมนช้อนขึ้นจูบดูดดื่มอยู่ขณะนี้
ไม่เช่นนั้นลูกดิ่งต้องสัมผัสความพยศของท่อนเนื้อขนาดเขื่อง กำลังผงาดเป็นแน่
ไม่ใช่กลัวน้องจะรู้ แต่เขากลัวน้องขวัญกระเจิง จึงไม่อยากให้ลูกดิ่งเห็นสภาพร่างกายส่วนนี้เข้า
“พอก่อนครับ..อืมมม” เขาเป็นฝ่ายถอนจูบ จับหน้ารุ่นน้องถอยห่างเสียเอง
ลูกดิ่งปรือตามองรุ่นพี่หวานฉ่ำตามอารมณ์ ริมฝีปากสีสดเงาวาวแดงก่ำไปแล้ว ยิ่งเผยอปากแบบนั้น
พานทำโยโย่แทบสะกดกลั้นความต้องการเอาไว้ไม่ไหว
“พี่เข้าห้องน้ำก่อน ดิ่งนอนเลยนะครับ” พูดแค่นั้น ตัดใจหันหลังก้าวดุ่มๆ
ตรงดิ่งไปจัดการอารมณ์ตัวเองให้เรียบร้อย ไม่เช่นนั้นเขาอาจหน้ามืดกดรุ่นน้องคาโซฟาเข้าให้...
ลูกดิ่งนั่งหน้าแดงเคลิ้มไปกับรสจูบเช่นกัน มีเผลอเอามือลูบปากอย่างลืมตัว นั่งตาลอยอยู่ครู่ใหญ่
เขารู้สึกปวดหนึบช่วงล่างออกอาการตามอารมณ์ไปด้วย เผอิญสวมกางเกงในจึงไม่แสดงตัวให้เห็นอาการว่า
‘น้องชายเขาตั้งตระหง่าน มีอารมณ์ไปกับรสจูบพี่โย่’ ลูกดิ่งไม่ปฏิเสธ เขารู้สึกแบบนั้น..ถึงได้นั่งหน้าแดงก่ำอยู่แบบนี้
>
>
“พี่มีเรื่องจะบอก” สองหนุ่มต่างวัยนอนเคียงกันบนเตียง ท่ามกลางความมืด
หลังโยโย่ใช้เวลาในห้องน้ำไปพอสมควร เขาปลดปล่อยความต้องการของร่างกายให้เบาบางลง
จึงสามารถอยู่ใกล้รุ่นน้องเนื้อหอม ซึ่งนอนส่งกลิ่นหนุ่มโชยให้ได้สูดดมอยู่ข้างๆ
“ครับ..” ลูกดิ่งขานรับ ไม่ได้หันมองรุ่นพี่
รับรู้จากหางตาขณะนี้รุ่นพี่เปลี่ยนท่านอนเป็นตะแคงข้าง..หันหน้ามาทางเขา
“เรน..คืออดีตคนรักของพี่สมัยมัธยม” ลูกดิ่งอึ้งไปครู่ใหญ่
“ตกใจหรือครับ” โยโย่เห็นน้องเงียบ อดถามไม่ได้
“เปล่าครับ” ลูกดิ่งรีบบอก เมื่อได้สติว่าเขานิ่งไปดื้อๆ
“พี่ไม่รู้..เรนกลับมาครั้งนี้มีจุดประสงค์อะไรแน่ ที่พี่คาดการณ์เอาไว้ ไม่ว่าจะมาด้วยเหตุผลใด
ล้วนไม่เป็นผลดีต่อพี่และดิ่ง” โยโย่พูดต่อเนื่อง โดยลูกดิ่งนิ่งฟังเงียบ
พอรุ่นพี่ทิ้งช่วง เขาจึงแทรกถามให้คลายความสงสัย
“ทำไมพี่คิดว่าพี่เรนมีจุดประสงค์ที่ไม่เป็นผลดี หรือพี่เขาเป็นคนรักเก่าของพี่” ลูกดิ่งยกประเด็นที่เห็นชัดขึ้นมาถาม
“เรื่องนั้นไม่มีผลต่อความรู้สึกพี่เลย เรื่องของพี่กับเรนมันจบไปแล้ว ที่พี่กังวลคือดิ่งต่างหาก
พี่เกรงว่าเรนจะพุ่งเป้ามาที่ดิ่ง” โยโย่ตัดสินใจบอกความในใจ โดยนำสิ่งที่แอบได้ยินเรนคุยโทรศัพท์มาชั่งน้ำหนัก
เขามั่นใจว่าเรนต้องใช้ลูกดิ่งเดินเกมตามแผนคุณย่า
“ผมไม่เข้าใจ ผมกับพี่เรนเพิ่งคุยช่วงพักเบรก เราเพิ่งรู้จักกัน พี่พูดเหมือนพี่เรนรู้จักผมมาก่อน
แต่ผมมั่นใจไม่เคยเจอพี่เรน” ลูกดิ่งตีความว่ารุ่นพี่คงไม่พอใจ ที่เห็นเขาคุยถูกคอกับเรนช่วงเบรก
จึงหาทางป้องกันไม่ให้พวกเขาสนิทกันเสียมากกว่า
“เข้าใจถูกแล้วครับ เรนรู้ข้อมูลของดิ่ง พี่แน่ใจเขารู้รายละเอียดดีในระดับหนึ่ง
ที่สำคัญเขารู้ว่าดิ่งคือคนรักของพี่ รู้ด้วยเราเป็นแฟนกัน หน้าที่ของเขามาทำให้เราเลิกกัน”
โยโย่ไม่เสียเวลายืดเยื้อ พุ่งเข้าจุด
“พี่เอาอะไรมาพูด ผมกับพี่เพิ่งตกลงเป็นแฟนกันวันนี้ กระทั่งพี่ยุทธ พี่เกรียง
หรือแม่ผมเองยังไม่มีใครรู้ แล้วพี่เรนเพิ่งเจอหน้า เขารู้ได้ยังไงครับ หรือพี่เป็นคนบอก” ลูกดิ่งงงหนัก
“ฟังนะ..วันที่พี่คุยกับพ่อตอนเรากลับจากร้านอาหาร ที่นัดพี่ผานิตกับนีรนุชเพื่อนพี่มาด้วย จำวันนั้นได้ไหม”
“ครับ”
“พ่อรู้ว่าพี่ชอบดิ่ง” โยโย่พูดต่อ
“พี่สารภาพกับพ่อพี่หรือครับ” ลูกดิ่งอยู่ไม่นิ่งแล้ว เขาตะแคงตัวหันมาประจันหน้าโยโย่ ต่างนอนจ้องกันแล้ว
“ใช่..พี่ยอมรับกับพ่อว่ารักดิ่ง..พ่อเห็นพี่จูบเราจากกล้องในสนาม เรื่องของพี่กับเรนที่เลิกกัน
เพราะย่าพี่ไม่ชอบที่พี่มีคนรักเป็นผู้ชาย จึงแยกเรนไปจากพี่ด้วยเงื่อนไขที่เขายอมรับ ยอมทิ้งพี่ไป..แต่นั่นไม่สำคัญอีกแล้ว
เพราะพี่ไม่ได้รู้สึกอะไรกับเรน ดิ่งสบายใจได้ ไม่ต้องกังวลว่าพี่จะกลับไปคบกับเรน พี่รักดิ่ง..ต้องการดิ่งเป็นคนรักเท่านั้น”
ลูกดิ่งหน้าร้อนจนรู้ตัวว่า คงแดงแปร๊ดไปแล้ว เขาฟังออกบ่อยแต่ไม่ยักชินคำบอกรักของพี่โย่สักที
ฟังทีไรหัวใจพาลกระเด็นกระดอนเสียทุกครั้ง คงเป็นเพราะแววตาคมที่เห็นเป็นประกายวาวในความมืด
กำลังจ้องตาเขาอยู่ขณะนี้ เหมือนจะสื่อแทนคำพูดได้ดียิ่งกว่าอีก
“พ่อพี่ต้องการขัดขวางเรื่องของเรา” ลูกดิ่งเริ่มจับประเด็นได้แล้ว
“พ่อพี่รับปากไม่ยุ่ง กรณีของเรนเป็นคำสั่งย่าพี่ พ่อพี่ขัดใจย่าไม่ได้ ย่าเป็นคนติดต่อเรนมา
รออีกสักระยะพี่จะพาดิ่งไปพบย่าด้วยตัวเองแน่”โยโย่เลื่อนมือไปจับมือน้องมากุมไว้
“พี่ครับ..ถ้าผู้ใหญ่มีปัญหา ผมว่าเรา..” ลูกดิ่งพูดไม่ทันจบ โดนนิ้วชี้ของโยโย่แตะปากห้ามไม่ให้พูดเสียก่อน
“ไม่มีคำว่ายุติหรือเลิกเป็นอันขาด พี่เคยถูกย่าเผด็จการชีวิตมาแล้วจะไม่ยอมให้ประวัติศาสตร์ซ้ำรอยอีก
ขออย่างเดียว..ดิ่งคงไม่หันหลังทิ้งพี่ไปเหมือนอดีตที่พี่เคยเจอใช่ไหม” เจอไม้นี้ลูกดิ่งพูดไม่ออก
เขาอาศัยเงียบเพราะไม่รู้ควรตอบยังไงดี
“รับปากพี่สิ..ดิ่งจะไม่เห็นแก่ผลประโยชน์ หรืออุปสรรคที่ย่าสรรหามาขัดขวางเราเด็ดขาด
ต้องร่วมมือฟันฝ่าไปด้วยกัน รับปากพี่ได้ไหมครับ” แววตาน้ำเสียงทอดอ่อนอย่างลุ้นรอคำตอบ
ช่างเป็นบุคลิกที่ลูกดิ่งไม่คิดว่าจะได้เห็นพี่โย่ผู้สวมบทขรึมสีหน้าเฉย คนซึ่งคาดเดาความคิดลำบากจะพูดออกมา
พอเจอแบบนี้เข้า..ถึงกับใจอ่อนยวบ..
“ผมจะไม่คืนคำ รับปากเป็นแฟนพี่แล้ว ถ้าต้องเลิกกัน ผมจะฟังจากปากพี่เป็นคนขอเลิกด้วยตัวเอง
ตราบใดที่พี่ไม่ยอมเลิกกับผม สัญญาผมจะอยู่ตรงนี้ ไม่ไปไหนแน่ครับ” คำพูดซื่อๆ ไม่เสริมแต่งให้สวยหรู
แต่โยโย่พอได้ฟัง ถึงกลับตื้นตันใจจนทนไม่ไหว รั้งร่างเพรียวสมส่วนของรุ่นน้องเข้ามากอดแทนการขอบคุณ
“ขอบคุณมากครับ ขอบคุณที่ให้โอกาส ขอบคุณที่ยอมเป็นแฟนพี่ ขอบคุณที่วันนี้อยู่ด้วยกัน
พี่ไม่คิดว่าชีวิตพี่จะสามารถรักใครได้ กระทั่งพี่รู้จักดิ่ง ถึงรู้ชีวิตพี่ยังมีคนสำคัญให้ดูแล ไม่ได้ตัวคนเดียวอย่างที่ผ่านมา
เรื่องของเรา..หลังคัดตัวนักเตะ ผ่านแมทอุ่นเครื่องเรียบร้อย พี่จะไปคุยกับแม่ญาดาอย่างเป็นทางการ”
“พี่ครับ..อย่าเพิ่งดีกว่า ผมขอเวลาทำใจหน่อย” ลูกดิ่งปรามทันควัน
เขาแอบตกใจพอพี่พูดเรื่องนี้ เขาเกรงแม่จะตั้งรับไม่ทัน
“ไม่ได้ครับ ดิ่งยังไม่รู้จักคุณย่าพี่ ถ้าช้าล่ะก็แม่จะรู้จากปากของย่าพี่ ซึ่งพี่มั่นใจว่า..บรรยากาศคงไม่น่ารื่นรมย์
ผลร้ายจะตกมาอยู่ที่เราสองคน พี่เป็นผู้ชาย..ต้องกล้ายืดอกเดินเข้าไปบอกกับแม่ ไม่ต้องรอให้ใครใช้จุดนี้มาสร้างปัญหาให้
หากแม่จะมีปฏิกิริยาก็ขอให้รู้จากปากพี่เอง ที่เหลือเป็นหน้าที่ของพี่ต้องแก้ไข ดิ่งไม่ต้องกังวล
ขอให้เชื่อใจพี่..รับปากได้ไหมครับ” น้ำเสียงหนักแน่นจริงจัง ทุกอย่างรุ่นพี่วางแผนเป็นขั้นตอนไว้หมดแล้ว
ลูกดิ่งจนปัญญาโต้แย้ง
“ครับ..ถ้าพี่ยืนยันมาขนาดนี้ ผมคงทำอะไรไม่ได้ เพียงแต่มันดูเร็วจนเกินไป
บางทีผมคิดว่าเราน่าจะใช้เวลาสักระยะ เกิดไม่เป็นอย่างที่หวัง พี่กับผมจะแย่เอานะครับ”
“ดิ่งคงหมายถึงความไม่แน่นอนใช่ไหม ถ้าเป็นเรื่องนี้พี่รับปากได้ ว่าพี่รักดิ่ง
ไม่จำเป็นต้องให้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์ นิสัยพี่รักคือรัก ไม่รักคือไม่ ไม่ต้องให้ใครมาบอก
พี่รู้ใจตัวเองดี ขอให้เชื่อใจไว้ใจในความรักของพี่ สิ่งนี้แหละที่พี่ต้องการ” ลูกดิ่งถอนใจยาว
ถึงขั้นนี้คงต้องยอมรับ เตรียมเผชิญปัญหาที่จะตามมา เมื่อพี่โย่ยืนกรานคงต้องปล่อยเป็นหน้าที่รุ่นพี่
เขาทำได้แค่ยืนข้างๆ ในเมื่อเส้นทางชีวิตแบบนี้ เขาเองไม่มีประสบการณ์ กำลังจะขึ้นม.5 อายุเพิ่ง 17
ดันมีคนรักเป็นหนุ่มฮ็อตชื่อดัง ทายาทเศรษฐี..สำคัญคุณย่าไม่ปลื้มอีกต่างหาก..?
“ตกลงครับ ผมแล้วแต่พี่ เอาไงเอากัน” คำตอบรุ่นน้อง โยโย่เผยยิ้มกว้างออกมาทันที
“ฟอด!..ฟอด!!..อ่า..ชื่อใจจัง” แถมการหอมแก้มใสอีกสองฟอด
“นอนเถอะครับ..ผมง่วงแล้ว” ลูกดิ่งเขินจัด เขาวางตัวไม่ถูกจริงๆ ตั้งแต่เล็กจนโต
เพิ่งโดนจูบโดนหอมโดนกอด..แถมเป็นแฟนผู้ชายเสียด้วย ช่างห่างไกลจากความคิดก่อนหน้าสิ้นเชิง...
“ครับนอนนะ ขอพี่กอดเราด้วย” มีหรือที่ลูกดิ่งจะสามารถปฏิเสธ หันหลังได้จังหวะพอดี
รุ่นพี่ตามประกบกอดเขาไว้เรียบร้อย กว่าจะหลับลง คงต้องรอให้ระบบการเต้นของหัวใจคงที่เสียก่อน เมื่อไหร่จะชินเล่าหนอ..?
มาอัพให้ก่อนสัญญา 1 วัน เพราะต้องไปต่างจังหวัด จะอัพได้อีกทีคงวันอังคารค่ะ
ขอบคุณมากๆ สำหรับกำลังใจที่เม้นท์ให้กันทุกตอน กดบวกเป็ด บวกคะแนนให้อีกต่างหาก
ขอบคุณจริงๆ จากใจคนเขียน รักคนอ่านที่น่ารักเสมอ...
ปล. เรื่องราวกำลังเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ อิอิ 