- 2 - “ตกลงจะได้เรื่องไหม นุชกับพี่นิตเลิกขำทีเหอะ แน่ใจว่าพึ่งได้..หืม” รุ่นพี่ตัวโตเปรยเสียงขุ่น สังเกตคำพูด รู้สึกพี่โย่สนิทกับพี่นุชเป็นพิเศษ ถึงเรียกชื่อคุ้นเคยกันแบบนี้
“น้องทำหน้าสงสัยใหญ่แล้ว ให้นุชอธิบายหรือโย่บอกน้องเองดีค่ะ” สาวมั่นหน้าสวยหยุดหัวเราะ
พยักพเยิดมาทางลูกดิ่ง หนุ่มหน้าใสงงหนักเข้าไปอีก ตกลงพวกพี่มีเรื่องอะไรกับเขา...?
“ทานข้าวเสร็จก่อน..ค่อยคุยทีเดียว” โยโย่ตัดบท จังหวะสายตาดันเห็นอาหารที่สั่ง พนักงานยกใส่ถาดมาพอดี
“เอางั้นก็ได้ กลัวกินข้าวไม่อร่อยสิ” ตบท้ายมีหยอก โยโย่มองนุชจรีกลั้วยิ้มด้วยสาตาดุๆ
แต่ไม่ได้พูดอะไร ทุกคนพลอยหุบปากรอพนักงานลงอาหารให้เรียบร้อย
บรรยากาศมื้อค่ำของสองสาวสองหนุ่ม ดูเหมือนมีเพียงคนเดียวที่เก็บอาการเอาไว้
มียิ้มพูดคุยตอบคำถามบ้าง ส่วนใหญ่ผูกขาดโดยนุชจรี
ส่วนหนุ่มตัวโตวางตัวปกติ ไม่ค่อยพูดตามนิสัย หมอผานิตคนสวยยิ้มตลอดเวลา
ท่าทางสนใจฟังนุชจรีหาเรื่องคุยด้วยสีหน้ามีความสุข
“ผลไม้หรือของหวานดี” สุภาพบุรุษเคราดกถามสาวๆ
“ผลไม้เถอะ นุชไม่อยากแบกน้ำหนัก น้องดิ่งรับผลไม้หรือไอศครีม” นุชจรีมีใจถามลูกดิ่ง
สายตาคมเข้มของรุ่นพี่จ้องรอคำตอบเช่นกัน
“ไม่ดีกว่าครับ ผมอิ่มมาก” ลูกดิ่งปฏิเสธอย่างสุภาพ
“โห!..กินไม่เห็นเยอะ มิน่าหุ่นเพรียวได้ใจ..อิอิ” ตบท้ายหัวเราะร่าโดนหมอผานิตตีแขนไปที
“เพี๊ยะ!..นุชทะลึ่งใหญ่แล้ว” หมอคนสวยทำตาดุ แต่หน้าหวานกลับกลั้วยิ้มตามด้วย
“โธ่! พี่นิต..นุชหยอกน้องเค้าหรอก” หน้าสวยมุ่ยใส่หมอผานิต คนตีกลับยิ้มหวานงามพิศกว่าเดิมอีก
“ไม่รู้จักโต” หมอคนสวยดุไม่จริงจัง ลูกดิ่งมองสลับไปมาด้วยความรู้สึกคลุมเครือในความสัมพันธ์พวกพี่ๆ
ที่ดูสนิทกันมาก แต่เรียกหมอผานิตพี่ทุกครั้ง ทั้งพี่โย่และพี่นุช
“ตกลงผลไม้นะ” คนตัวโตตัดบท ชูแท่งไฟเรียกพนักงานรับออร์เดอร์ ไม่รอใครทัดทาน
ระหว่างพนักงานเคลียร์โต๊ะจนกลับไป นุชจรีเปิดประเด็นขึ้น
“พี่กับโย่เป็นเพื่อนกัน เราสนิทกันตอนอยู่ต่างประเทศ คบมาหลายปีแล้วตั้งแต่ตอนนั้นจนเดี๋ยวนี้” ลูกดิ่งฟังนิ่ง
“โย่เป็นเพื่อนที่พี่ไว้ใจ และนับถือน้ำใจมาก” ลูกดิ่งปรายตาเรียวมองหน้ารุ่นพี่
สีหน้าฝ่ายถูกมองยังคงเรียบเฉยไม่ได้แสดงท่าทางอะไร แถมไม่เบรกเพื่อนที่กำลังพูดอีกด้วย
“ถึงเวลาที่พี่ต้องตอบแทนเพื่อนบ้างแล้ว” ลูกดิ่งหันมองหน้านุชจรี คิ้วเรียวเลิกขึ้นเล็กน้อย
เขาไม่เข้าใจ..สาวมั่นกำลังพูดถึงเรื่องอะไร
“พี่กับพี่หมอนิตเป็นแฟนกัน” รุ่นน้องหน้าใสตาเบิกกว้างเผลอตะลึงไปครู่ใหญ่
เมื่อได้ยินคำพูดจากปากสาวมั่นตรงหน้า
“พี่หมอนิตเป็นรุ่นพี่ตอนพี่เรียนมัธยม เราเรียนโรงเรียนหญิงล้วน พี่จีบพี่นิตแล้วเราก็คบกัน
ปัญหาคือไม่สามารถให้ครอบครัวรู้ พ่อแม่พี่นิตเคร่งมาก ช่วงนั้นเราคบกันลับๆ แต่ความลับไม่มีในโลก
ก่อนพี่จะไปเรียนต่อต่างประเทศ พ่อแม่พี่นิตรู้เรื่องของพวกพี่ พวกท่านยื่นคำขาดให้เลิกติดต่อกัน
พี่นิตจำใจเลิกกับพี่ เพราะพ่อกับแม่สุขภาพไม่ดี พี่นิตไม่ต้องการให้กระทบกระเทือนพวกท่าน
เกือบสามปีที่เราไม่ได้ติดต่อกันเลย แต่พี่ไม่เคยลืมพี่นิต คนที่ช่วยพี่ให้ได้พบพี่นิตอีกครั้งคือโย่
พี่อาศัยโย่เป็นตัวเชื่อมรับสมอ้างคบกับพี่นิต สร้างภาพให้ผู้ใหญ่เข้าใจว่าโย่กับพี่นิตเป็นแฟนกัน
ความจริงโย่ไปรับพี่นิตทุกครั้ง เพื่อมาพบพี่ทำมาตลอดตั้งแต่กลับจากนอก..
กระทั่งปลายปีที่ผ่านมา พ่อแม่พี่นิตป่วยก่อนจะเสียไปไล่ๆกัน พี่กับพี่นิตเราอยู่ด้วยกันมาระยะหนึ่งแล้ว
บ้านพี่นิตตอนนี้คงมีแค่น้องชายลำพัง พี่นิตออกมาอยู่กับพี่สองคน ที่พี่พูดทั้งหมด เพราะเพื่อนมาปรึกษา
คนที่มันชอบเกิดกังวลเรื่องพี่นิต จึงอยากให้พี่กับพี่นิตช่วยเคลียร์ให้หน่อย..อิอิ”
ลูกดิ่งหน้าแดงแปร๊ดทันควัน เมื่อนุชจรีหัวเราะพร้อมสายตาเจ้าเล่ห์มองหนุ่มหน้าใสอย่างกรุ้มกริ่ม
“คะ..คือ..ผม” น้องอ้ำอึ้งพูดไม่ออก
“เชื่อที่นุชพูดเถอะน้องดิ่ง พี่กับโย่เรานับถือเป็นพี่น้อง ที่ผ่านมาต้องขอบใจโย่ที่เสียสละให้พวกพี่มาตลอด
พอโย่ออกปากเจอคนที่ชอบ พี่ก็ดีใจไปด้วย ยังไงน้องดิ่งอย่าเพิ่งตัดรอนนะคะ ลองดูกันก่อนอย่าด่วนตัดสินใจอะไรไปตอนนี้”
หมอคนสวยยืนยันสำทับอีกคน ลูกดิ่งใบ้กินไปแล้ว เหมือนทุกคนจ้องเขาเป็นตาเดียว
“เชื่อพี่..โยโย่ไม่ใช่คนที่รักชอบใครง่าย มีคนมากมายเข้าหา ตั้งแต่ที่พี่รู้จักมีนับไม่ถ้วน
แต่ไม่เคยมีใครที่โย่เทคแคร์เอาใจใส่เหมือนดิ่ง พี่ไม่ได้อวยกันเองหรอกจร้า..นิสัยโย่จริงใจ..จริงจังและมั่นคง”
นุชจรีพูดให้เครดิตโยโย่กับลูกดิ่ง สองสาวรู้สึกจะเชียร์ให้สองหนุ่มเป็นแฟนกันออกนอกหน้า ลูกดิ่งเริ่มหายใจลำบาก
“ผะ..ผมเป็นผู้ชายอ่าครับ คือ..ไม่ใช่รังเกียจนะครับ แต่ผมไม่อยากทำให้พี่เขาผิดหวัง หากคาดหวังแล้ว
ผมตอบรับความรู้สึกพี่เขาไม่ได้ ผมกลัวทำพี่เขาเสียใจครับ” พูดจบถอนหายใจพรู
“ฟังไว้เพื่อน น้องบอกมาแบบนี้..เอาไงโย่” นุชจรีหันมาถามหนุ่มเคราดกที่นั่งนิ่งมาตลอด
“พี่เคารพการตัดสินใจของดิ่ง ช่วงนี้ขอโอกาสได้ไหม” เสียงทุ้มอ่อนฟังแล้วลูกดิ่งรู้สึกไม่ดีเท่าไหร่ รีบตอบรุ่นพี่ไป
“ครับ..ผมตกลงกับพี่แล้ว ผมไม่รังเกียจ..ออกจะดีใจด้วยซ้ำ ที่พี่มีความรู้สึกดีๆ ให้ผม
ขอเวลาผมเรียนรู้ทำความเข้าใจกับตัวเองอีกหน่อย สุดท้ายถ้าผมไม่สามารถตอบรับความรู้สึกพี่ได้
ผมต้องขอโทษพี่ล่วงหน้าด้วยนะครับ” น้องยืดอกหันมาสู้ตารุ่นพี่ สองสาวที่นั่งเป็นสักขีพยาน
ต่างเผยยิ้มอย่างให้กำลังหนุ่มตัวโตสุดหล่อ
“ครับ..ถ้าพี่ทำให้ดิ่งรักตอบไม่ได้ คงไม่โทษใคร พี่ยอมรับมัน” นุชจรีกัดปากกลั้นเสียงกรี๊ดไปแล้ว
หมอผานิตถึงกับค้อนคนรักรุ่นน้อง แต่ใครจะเข้าใจเธอ ตอนนี้เธอฟินไปกับคำพูดและบรรยากาศของสองหนุ่มหล่อ
ที่นั่งจ้องตากัน..ไปแล้วเรียบร้อย
ถึงลูกดิ่งจะออกตัวล่วงหน้า เพื่อนสุดหล่อจะพูดเป็นสคริปพระเอก แต่ในสายตาสาวๆ ต่างคิดว่า
ไม่นานลูกดิ่งต้องเทใจให้โยโย่แน่ ใครจะกล้าปฏิเสธหนุ่มหล่อน้ำใจงามได้ลงคอ ความอบอุ่นอ่อนโยนซึ่งเป็นพื้นฐานนิสัย
ของโยโย่ ที่ถูกหลอกจากท่าทางนิ่งเฉยภายนอก หากใครเข้าถึงและสัมผัสนิสัยส่วนลึกล่ะก็ เชื่อแน่ต้องตกหลุมรักทุกคน
โดยเฉพาะลูกดิ่ง เป็นคนที่โยโย่เลือก มีหรือที่หนุ่มผู้สวมมาดขรึม จะไม่สามารถทำให้รุ่นน้องผู้ซื่อตรงจนใสซื่อ
กลายมาเป็นคนรักอย่างตั้งใจ เชื่อแน่โยโย่ต้องทำสำเร็จ
“เอาเถอะ..พวกพี่จะรอฉลอง” หมอผานิตตัดจบ เมื่อเห็นถาดผลไม้ที่สั่ง พนักงานกำลังเดินถือมา
สองหนุ่มค่อยละสายตาจากกัน ไม่มีใครเอ่ยอะไรขึ้นมาอีก ถือว่าทุกคนได้เคลียร์ความคลุมเครือ
ที่รุ่นน้องกังวลให้เกิดความกระจ่าง..เกี่ยวกับความสัมพันธ์ของหมอผานิตและโยโย่หมดแล้ว..?
>
>
>
“คุณโย่ครับ นายท่านฝากเอาไว้ ถ้าคุณกลับมาให้ไปพบที่ห้องท่านด้วยครับ” รปภ.ยืนตะเบ๊ะให้โยโย่
เขาเดินออกมาขอให้หนุ่มหล่อลดกระจกเพราะมีเรื่องแจ้งให้ทราบ โยโย่เห็นแบบนั้นยอมลดกระจกลงฟัง
“พ่อมาหรือครับ” เขาถามด้วยความสงสัย ไม่มีการแจ้งล่วงหน้าว่าพ่อจะมาสโมสร
“ครับ..มาตั้งแต่ทุ่ม..เรียกนักเตะประชุมด้วยครับ เพิ่งเลิกประชุมสามทุ่มนี่เอง” โยโย่แค่พยักหน้ารับรู้
ไม่แปลกที่เขาจะไม่ได้รับการติดต่อจากเกรียง เพราะเขาปิดมือถือ..ไม่อยากให้ใครโทรเข้าเครื่อง ระหว่างทานมื้อค่ำ
ซึ่งนัดหมอผานิตและนุชจรีมา อยากใช้เวลาทั้งหมดเคลียร์ปัญหาคาใจให้ลูกดิ่งหายกังวล จึงไม่ได้เปิดโทรศัพท์
“ขอบใจ” เขาบอกสั้นๆ ก่อนขับรถดิ่งไปยังอาคารห้องพัก
“ประชุมนักเตะ ผมกับพี่ไม่อยู่จะมีปัญหาไหมครับ” ลูกดิ่งกังวล เขาได้ยินที่ รปภ.รายงานรุ่นพี่ด้วย
“ไม่มีอะไรหรอก..เรียกประชุมด่วนไม่ใช่ความผิดนักเตะ เพราะอยู่นอกเหนือเวลาฝึก
ความจริงต้องแจ้งล่วงหน้า สบายใจได้ครับ” รุ่นพี่บอก
“เหรอครับ..แต่เรื่องที่ประชุมล่ะครับ” น้องยังไม่คลายกังวล
“เดี๋ยวพี่ไปพบพ่อ จะกลับมาเล่าให้ฟัง” ฟังคำยืนยันจากพี่แบบนี้ ลูกดิ่งค่อยเบาใจ
ต่างกับคนพูดที่บอกน้องไปแบบนั้น แต่หางคิ้วกระตุก พ่อมาแบบไม่แจ้งล่วงหน้า ความรู้สึกเขาบอกไม่ปกติ
ประเด็นคืออะไร ไม่ว่าจะเป็นอะไร เรื่องดีหรือร้ายเขาพร้อมรับมือทุกสถานการณ์
โดยเฉพาะถ้าเกี่ยวกับรุ่นน้องคนนี้ล่ะก็ เขาจะไม่ให้ลูกดิ่งเดือดร้อนเป็นอันขาด
“ดิ่งเข้าห้องไปก่อนนะ พี่แวะห้องพ่อ” หลังพากันขึ้นมายังห้องพัก โยโย่บอกลูกดิ่งเสียงนุ่ม
ให้รุ่นน้องเลยไปยังห้องพวกเขา ส่วนตัวเองจะแวะห้องพ่อที่อยู่ชั้นเดียวกัน แต่อยู่ฝั่งขวาห้องแรก
“ครับ” รุ่นน้องรับคำ เดินไปแตะคีย์การ์ด เข้าไปรอฟังข่าวจากพี่
คล้อยหลังรุ่นน้อง โยโย่เปิดโทรศัพท์ ยกหูคุยกับปลายสายนานพอสมควร ยังไม่มีวี่แววจะไปพบพ่อ
กระทั่งวางสายร่างสูงใหญ่องอาจหยุดยืนหน้าประตู กดกริ่งเบาๆ สายตาคมแน่วแน่...รอคนในห้องมาเปิด ชั่วอึดใจประตูก็เปิดออก
“หวัดดีครับพ่อ” คำทักทายปกติไม่มีการยกมือไหว้ ประธานสโมสรบริษัทไบอันปิโตเลียมกรุ๊ปแค่พยักหน้ารับ
ก่อนหันหลังเดินกลับเข้าข้างในส่งสัญญาณมือให้ลูกชายเดินตาม
“ปิดประตูให้เรียบร้อย” เสียงทุ้มเรียบบอกโยโย่ เขาทำตามอย่างไม่อิดออด
แม้บรรยากาศไม่ชอบมาพากล แต่โยโย่พร้อมรับมือกับคนที่ได้ชื่อว่า ‘พ่อ’ ผู้ให้กำเนิด...
ขออภัยที่มาเลทไปหน่อย
วันนี้ไปส่ง..รักรั่วๆ...ของพรต&รัน ให้กับนักอ่านที่รอคอยพร้อมกันหมดทั่วประเทศ
คาดว่าไม่เกินวันศุกร์ ใกล้ไกลคงถึงมือทุกท่านที่รอคอย ขออภัยอีกครั้งนะคะที่ล่าช้า
ติดเรื่องปกมีปัญหา ต้องจ้างวาดใหม่ และบ็อกเซทต้องใช้เวลา เลยล่าช้าไปกว่าสามอาทิตย์
แต่วันนี้ไปส่งให้แล้วค่ะ หากใครไม่ได้รับ รีบติดต่อมาด่วนนะคะ อย่าปล่อยเนิ่นนานตามหนังสือคืนไม่ได้
ปล.ฝากรีปริ้นหนังสือของ..พี่วี&พี่กล ไว้ด้วยนะคะ รูปเล่มของพี่กล เป็นปกหน้าหลัง
ในเล่มเดียวกัน เอารูปมาลงให้ดูแล้วค่ะ แบ่งเป็นหน้าหลังกับเรื่องสั้นพี่วีนะคะ มะขามหวาน..น้ำตาลเปรี้ยวค่ะ

ขอบคุณอีกครั้งนะคะ
เจอกันวันพุธค่ะ กำลังเข้ม..และข้นคลั่ก 