กระทู้แนะนำหนังสือน่าอ่านคับ
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: กระทู้แนะนำหนังสือน่าอ่านคับ  (อ่าน 55255 ครั้ง)

ออฟไลน์ ExecutioneR

  • จุ๊บ จู๊บบบบบ ~~ ♥
  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4243
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1722/-40
    • FB Page
ไหนๆที่นี่ก็เป็นบอร์ดนิยาย แปลว่าสมาชิกส่วนมากก็ต้องรักการอ่านพอสมควรแหละเนอะ
แต่ใครชอบอ่านอะไรแบบไหน เอามาแชร์กันดีกว่าคับ ปิดเทอมจะได้หาอะไรไปอ่านแก้ว่างกันโนะ
และด้วยความที่ผมก็เป็นคนชอบอ่านหนังสืออยู่พอควร แล้วก็ค่อนข้างอ่านหลายแนวด้วย
แต่ส่วนมากก็จะชอบนิยายแปลมากกว่า แล้วก็บ้าพวกสืบสวนพอสมควร แต่ถึงยังไงช่วงนี้ก็ไม่ค่อยได้ซื้อหนังสือใหม่ๆมาอ่านเยย

 :sad2:

(เอ๊ะ ยังไง)

สรุปเอาเป็นว่า

ไอ้ต้นขอเริ่มก่อนเลยก็แล้วกันนะคับ...........
Share This Topic To FaceBook

ออฟไลน์ ExecutioneR

  • จุ๊บ จู๊บบบบบ ~~ ♥
  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4243
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1722/-40
    • FB Page




ผลงานเรื่องล่าสุดจากพี่คังพุล ต่อจาก "เพราะรัก"

ทำเอาคนอ่อนไหวอย่างไอ้ต้นน้ำตาตกในหลังจากอ่านเล่มสองจบ เห็นว่าจะทำเป็นหนังด้วย เมื่อไหร่ไม่รู้ แต่จะดูแน่ๆๆๆๆๆ ถึงปกติแทบไม่เคยดูหนังเกาหลีเลยก็ตาม

ตัวละครทุกตัวมีมิติและอดีตที่แบกรับ เป็นความก้าวหน้าที่เพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัดจาก "เพราะรัก" ที่ประสบความสำเร็จไปแล้วเมื่อสามสี่ปีก่อน

เรื่องย่อ : แน่นอนครับว่าตัวเอกคือ "คนบ้า" เขามีสติไม่เต็มเต็ง และหลงรักผู้หญิงคนนึงหัวปักหัวปำ แต่ใครจะรู้บ้างว่าแท้จริงแล้ว ภายใต้ภาพลักษณ์เลื่อนลอยที่มีแต่รอยยิ้มของเขานั้น แฝงไปด้วยความเศร้า ภาระ ความเจ็บปวด และความรักความอบอุ่น ที่เขามีแก่่คนรอบข้างมากเพียงใด........ (พิมพ์ไปก็จะร้องไห้ไป T__T) เขาคือคนบ้านเพียงคนเดียวของเมือง คนบ้าที่ใครๆก็รู้จัก และเขาต้องเลี้ยงน้องสาวผู้เกลียดเค้าเข้าขั้วหัวใจแต่เพียงลำพัง หลังจากที่เขาเสียพ่อและตามด้วยแม่อันเป็นที่รักของเขาไปด้วย

ดาว : ให้ 10 เต็ม 5 เลย กับความสมบูรณ์แบบของภาพยนตร์รักโรแมนติกเรื่องนี้ ใครที่เคยอ่าน "เพราะรัก" แล้วอาจจะไม่คุ้นตากับลายเส้นและความเข้มข้นที่เพิ่มขึ้นของเรื่องนี้ แต่ว่าหากได้ลองสัมผัสกับตัวตนของ "คนบ้า" คนนี้แล้ว คุณจะรักและลืมเขาไม่ลงเลยทีเดียว.......

ปล. ใครอายุต่ำกว่าสิบแปดและหาซื้อไม่ได้ มาอ่านที่ห้องผมได้ครับ (ฮา)
ปล.2 อาจจะหาซื้อยากจริงๆนะ

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 03-03-2008 00:13:25 โดย ExecutioneR »

ออฟไลน์ ExecutioneR

  • จุ๊บ จู๊บบบบบ ~~ ♥
  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4243
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1722/-40
    • FB Page



แมมฟูน 2 ....... ที่ไอ้ต้นไม่ได้ซื้อเล่มหนึ่งเพราะเล่มนี้มันโดนกว่า

การ์ตูน (อีกเช่นเคย) อ่านง่ายๆ ที่รววบรวมถ้อยคำดีๆโดนๆและเนื้อหาบาดใจจากสิ่งรอบข้างรอบตัวเราที่เราอาจจะมองข้าม มีทั้งเรื่องของ ความรัก ครอบครัว เพื่อนฝูง และอื่นๆอีกมากมาย เป็นหนังสือที่สร้างกำลังใจ และทำให้เราคิดในมุมต่างที่เราอาจไม่เคยเห็นมาก่อนไ้ด้อย่างดี

(ผมเองก็ได้แนวคิดมาจากหนังสือเล่มนี้เยอะอยู่เหมือนกัน)

ดาว : 4 จาก 5 ถือว่าคุ้มค่าเงินและสามารถเอามาอ่านได้เรื่อยๆไม่เบื่อครับ ^^


ออฟไลน์ ExecutioneR

  • จุ๊บ จู๊บบบบบ ~~ ♥
  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4243
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1722/-40
    • FB Page


เพราะรัก........

ทำไมต้องเพราะรัก......

เพราะรักทำให้เรารู้สึกอบอุ่นในหัวใจ ทำให้เราอยากจะเปลี่ยนแปลงตัวเอง ทำให้เราเปิดประตูที่เคยถูกปิดตายไปแล้วครั้งหนึ่ง และทำให้เราทำได้ทุกอย่างเพื่อให้คนที่เรารักมีความสุข.......

เพราะรัก....... คือทุกสิ่งทุกอย่างที่หล่อเลี้ยงโลกใบนี้ของเราให้งดงาม

เรื่องย่อ : เรื่องราวความรักของสี่คนสองคู่ คนแรกเป็นเด็กสาวมอห้าสุดแก่นที่แอบหลงปลื้มชายหนุ่มในวัยทำงานที่พักอยู่ในตึกเดียวกัน ส่วนเค้าเอง ผู้ชายเฉิ่มๆ ซื่อๆ ก็แอบมีใจให้สาวน้อยคนนี้เช่นเดียวกัน แต่ทว่าอุปสรรคที่ทั้งคู่มีคืออายุที่แตกต่างกันถึง 12 ปี! (แต่ทำไมทีคนแก่แถวนี้ยังเคี้ยวเด็กมอปลายหวานกรอบได้หน้าตาเฉยเลยเว้ย)

ส่วนอีกคู่คือเด็กหนุ่มวัยเดียวกันกับเด็กสาวข้างต้น ที่หลงรักผู้หญิงวัยทำงานสุดสวยคนหนึ่ง เขาเป็นคนโผงผาง ซื่อตรงกับความรู้สึก เป็นนักเลง และไม่ยอมใคร นอกจากยอมยกทั้งใจของเขาให้แก่ผู้หญิงที่เฉยชา และไม่เคยมีใจให้แก่เขาเลยแม้แต่นิดเดียวคนนี้ เพราะผู้หญิงคนนี้ก็แบกรับอดีตและความเจ็บปวดที่ตนเองยากจะลืมเลือนเอาไว้ด้วยเช่นกัน แล้วสุดท้าย เขาจะเอาชนะใจผู้หญิงที่ไม่เคยยิ้มคนนี้ได้มั๊ย อุปสรรคของคนสี่คนสองคู่นี้จะเป็นตัวแปรที่ทำลายความรักของพวกเขางหรือเปล่า........

โปรดหาอ่านเอาเอง (ฮา)

ดาว : 5 ดาวเต็มครับ อบอุ่นหัวใจ ได้แง่คิด ได้กำลังใจ บางคนอาจถึงขั้นเสียน้ำตา และตัวละครทุกตัวมีมิติที่สมบูรณ์แบบ สามารถสื่อความในใจและความรู้สึกนิดคิดผ่านออกมาทางตัวหนังสือน้อยตัวในเล่มนี้ได้เป็นอย่างดี......

ปล. ในฐานะนักเขียนนิยายสมัครเล่นนะ ผมนับถือคังพุลแบบสุดหัวใจเลย อยากทำแบบนี้ได้มั่งจัง  o13
ปล.2 เนื่องจากมันค่อนข้างเก่ามากแล้ว (สามถึงสี่ปี) ก้อาจหาอ่านยากหน่อยนะคับ เพื่อนผมยืมเล่มสองไปแล้วหายไปเลย เพิ่งไปหาซื้อได้ในงานหนังสือล่าสุดก็ได้แบบสภาพสุดโทรมมา แต่ก็ยอมคับ ไม่เก็บไม่ได้จริงๆ หนังสือเรื่องนี้ ^_^

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 03-03-2008 10:48:03 โดย ExecutioneR »

ออฟไลน์ Poes

  • คนแรกของหัวใจ คนสุดท้ายของชีวิต
  • Administrator
  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 11342
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2405/-22
 


แนวที่ชอบอ่านก็มีหลายแนว แต่ที่เอามาวันนี้ แนวผีๆ จบหักมุม ของ สรจักร ศิริบริรักษ์

วันหลังจะเอาแนวอื่นที่อ่านมาลงใหม่  :a1:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 02-03-2008 20:52:26 โดย Poes »

ออฟไลน์ ExecutioneR

  • จุ๊บ จู๊บบบบบ ~~ ♥
  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4243
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1722/-40
    • FB Page
^
^

I Love ศพใต้.. สารพัดสิ่ง (เตียงมั่ง ท้ายรถมั่ง ในตู้มั่ง) ของคุณ สรจักร มากๆๆๆๆๆคับ  :oni2: :oni2: :oni2: :oni2:

อ่านมาตั้งแต่มอต้นแน่ะ ไม่รู้เด็กสมัยนี้จะยังได้อ่านกันอยู่รึเปล่า (ฮา)

จริงๆไม่ใช่เรื่องผีนะ แต่เป็นแนวหักมุม ลึกลับ สะใจมากก
เคยอ่านรวดเดียวจบเล่ม (ไม่รู้ศพไหน) ปวดหัวเลยยย จะอ้วกก สุดยอดดดดด

จำได้แม่นๆก้อชอบหลายตอน อย่างตอนหุ่นขี้ผึ้ง ตอนแมลงวันกะเด็กเอ็นท์ก็กวนตีนดี ตอนที่มีสัตว์ประหลาดบุกไร่ฝิ่นก็คิดได้ไง และอย่างตอนศพใต้เตียงเองก็หักมุมสุดตีนนนน!!

รักมากๆคับ นักเขียนคนนี้ เสียดาย ไม่มีผลงานแนวนี้ออกมาแล้ว มีแต่รวมพวกผลงานฆาตรกรรมของฆาตรกรโรคจิตทั้งหลายแหล่แทน


ออฟไลน์ Poes

  • คนแรกของหัวใจ คนสุดท้ายของชีวิต
  • Administrator
  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 11342
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2405/-22
พี่ชอบตอน พยูน แล้วอีก ตอนที่เกี่ยวกะนักเขียนนิยายแนวฆ่าตกรรม แต่กลายเป็นฆ่าตกรซะเอง หักมุมตอนจบ

จำมะค่อยได้แระอ่านสมัยเด็ก  :m13: :m13: อย่ารวมอายุนะ เดี๋ยวนิ้วไม่พอนับ  :laugh: :laugh:

madamkung

  • บุคคลทั่วไป
กุ้งซื้อมารออ่าน อิอิ

ออฟไลน์ ExecutioneR

  • จุ๊บ จู๊บบบบบ ~~ ♥
  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4243
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1722/-40
    • FB Page



ผมบอกไปรึยังว่าผมรัก ฮาร์ลาน โคแบนนนนนนนนนน เอ๊ย โคเบน!

 :oni2: :oni2: :oni2:

อ่านทุกเรื่องของคนๆนี้ครับ แต่เล่มนี้เป็นอะไรที่ประทับใจมากหน่อย เพราะ..........

เพราะใช้เวลานานมากกกก กว่าจะอ่านจบ
เกือบปีแน่ะ 5555

อันแรกซื้อมาในงานหนังสือครั้งนึเป็นภาษาอังกฤษครับ ตอนนั้นยังไม่ได้แปล
แต่สำนวนแกแปลกไป และเนื้อเรื่องก็เครียดมาก อ่านไปได้ไม่กี่ตอนก็เลิก รู้สึกไม่สนุุกยังไงไม่รู้ (ตอนแรกโทษตัวเองว่าโง่ อ่านภาษาอังกฤษไม่ออก) แต่พอถาษาไทยออกก็ซื้อมาอ่านอีก แล้วววก็ยังอ่านไม่จบอีก -"- งงตัวเองมากมาย

ยอมรับเลยว่าเล่มนี้เครียด (อาจจะไม่เท่าเรื่องอื่นๆ แต่......) กดดัน ปริศนาเยอะสุดๆตั้งแต่ต้น ชนิดคิดตามไม่ทันเลย แต่พอได้ลองอ่านดูจนจบ ผมแทบจะร้องกรี๊ดดดดดดดดด เช็ดแม่มมมมมมมมม!! หักมุมยันหยดสุดท้าย!! สนุกสัดส๊าดดดดดดดดด!!

เป็นนิยายสืบสวนของโคเบนที่ดีที่สุดเล่มนึงที่ผมแนะนำครับ (แต่เล่มอื่นๆก็ดีสุดยอดอยู่แล้วน่ะนะ แนะนำแม่งทุกเล่ม)

เรื่องย่อ : เด็กหนุ่มคนนึงถูกจับติดคุกเพราะฆ่าคนตายโดยไม่เจตนาสมัยก่อนนู้นน และหลายปีฝ่านไปเขาได้ออกจากคุก มาทำงานในบริษัทพี่ชายตัวเอง แต่ก็ยังคงใช้ชีวิตพร้อมด้วยตราบาปและถูกคนแถวบ้านเก่าตราหน้า แต่ทว่าเขาก็ได้แต่งงานกับผู้หญิงที่เขารักและเธอก็รักเขามากคนหนึ่ง ทั้งคู่ดูเหมือนจะมีความสุขดี จนกระทั่งคลิปภาพแฟนสาวของเขาถูกส่งมาเข้ามือถือของเขา และมันเป็นคลิปแฟนสาวของเขากำลังอยู่กับชายแปลกหน้าคนหนึ่ง ในขณะที่แฟนสาวของเขาออกจากบ้านไปโดยบอกเขาว่าไปธุระเรื่องาน ซึ่งมันทำให้เขาต้องเิริ่มตามหาความจริงๆ และไปๆมาๆหมาชนไก่ มันดันไปเกี่ยวเนื่องกับคดีที่ใหญ่ที่สุดคดีหนึ่ง ถึงขั้นคนใหญ่คนโตของของกองเอฟบีไอต้องจับตามอง และรีบค้นหาความจริงของพระเอกและนางเอกของเราคู่นี้ ทั้งนี้ทั้งนั้นเรื่องทั้งหมดมันเกิดมันมาจากอดีตลับๆของแฟนของเขา อดีตไม่ลับอันอันขมขื่นของเขา และความลับ...... ที่ควรจะถูกปกปิดไปเมื่อหลายปีก่อนแล้วของใครหลายๆคนนั่นเอง

Hint : เรื่องนี้มีตัวละครสองสามตัว ที่จะมีบทในเรื่องของ ไมรอน โบลิทาร์ เล่มล่าสุดด้วย ดังนั้นจะเป็นการดีที่คุณจะอ่านเรื่องนี้ก่อนที่จะอ่านไมรอนเล่มสุดท้าย แต่ถึงอย่างนั้นมันก็ไม่ใช่อุปสรรคกับการสนุกไปกับอารมณ์ขันเจ็บปวดของไมรอน และความเลือดเย็นของวินในหลายๆคดีอยู่ดี ^^

ดาว : 4.99 จาก 5 ครับ หัก จุดศูนย์หนึ่ง ข้อหาสนุกสัดๆๆๆๆแต่ไม่ยอมทำให้ผมอ่านรวดเดียวจบเหมือนเล่มอื่นๆ 5555 โกดดดด

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 02-03-2008 22:00:55 โดย ExecutioneR »

ออฟไลน์ ExecutioneR

  • จุ๊บ จู๊บบบบบ ~~ ♥
  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4243
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1722/-40
    • FB Page
พี่ชอบตอน พยูน แล้วอีก ตอนที่เกี่ยวกะนักเขียนนิยายแนวฆ่าตกรรม แต่กลายเป็นฆ่าตกรซะเอง หักมุมตอนจบ

จำมะค่อยได้แระอ่านสมัยเด็ก  :m13: :m13: อย่ารวมอายุนะ เดี๋ยวนิ้วไม่พอนับ  :laugh: :laugh:

ชอบหลายตอนมากๆเหมือนกันครับ นับไม่พอเลยว่าชอบตอนไหนมั่ง บางอันก้ออ่านแล้วงง บางอันก้อสะใจสุดๆ บางอันก้อหล็อนจิตตก หายากนะผมว่า คนไทยเขียนได้ขนาดนี้และแนวนี้อ่ะ

ยิ่งเจ้าตัวเปนอะไรนะ เภสัช หมอ หรืออะไรสักอย่างป่ะคับ มันเลยยิ่งเข้มข้น พื้นแกปึ้กมากก ข้อมูลแน่นสุดๆ

 o13

แต่ผมก้อจำไม่ค่อยได้แล้วคับ หลสยปีแล้วนี่นะ หนังสือก้อหายไปหมดแว้ว  :sad2:

ปล. วันนี้พอก่อนดีมั๊ยเนี่ย อ่านเยอะจัด แปะหมดคงไม่ไหว จำไม่ได้ว่ามีอะไรบ้างที่บ้าน ไว้นึกอะไรออกเด็ดๆแล้วจะมาทยอยๆแปะแนะนำนะค้าบบ ใครมีอะไรดีอย่าเก็บไว้ล่ะ  :oni2:


CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ ExecutioneR

  • จุ๊บ จู๊บบบบบ ~~ ♥
  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4243
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1722/-40
    • FB Page



อีกสักเล่ม เอาใจน้องหล่อที่เพิ่งเปิดตัวเอง 5555

ไมเคิ่ล คอนเนลลี่ ตอนนี้มีอยู่ในแผงสองเล่ม อันนี้เล่มแรก อีกเล่มจำชื่อไม่ได้ ไม่ได้ซื้อ (ฮา) แต่เกี่ยวกะศาล ทนาย จะไม่ใช่ฆาตรกรรมซ่อนเงื่อน

เรื่องย่อ : เล่มนี้เกี่ยวกับตำรวจนายหนึ่งที่รีไทร์ตัวเองไปแล้ว (มั๊งนะ) ซึ่งได้รับการผ่าตัดหัวใจมาจากคนๆหนึ่ง ทำให้ร่างกายไม่ค่อยแข็งแรง (อะไรประมาณนี้แหละ) เขาจึงวางมือจากทุกๆอย่าง แต่สุดท้าย ก้อถูกคนขอร้องให้ช่วยสืบเรื่องๆหนึ่งให้ซึ่งเกี่ยวกับเจ้าของหัวใจที่เขาได้รับมานั่นเอง (รึเปล่าหว่า) ทำให้เขาต้องลุกขึ้นผจญภัยในแดนอันตรายต่างๆมากมายเพื่อความจริงที่ถูกบิดเบือน ปิดบัง และซุกซ่อน

ดาว : 3.85 จาก 5 ก็ไม่ถือว่าเลวร้าย แต่ก็ไม่ได้ดีเด่ เมื่อเทียบกับความสามารถอันสูงส่งของโคเบน เพราะตัวเอกไม่ได้แข็งแรงดีเหมือนเรื่องอื่นๆแนวนี้ ไม่ได้เก่งการต่อสู้เหมือนไมรอนหรือวิน ไม่มีคู่หูเก่งๆเหมือนที่ไมรอนมีวิน (อีกและ) ไม่ฉลาดเหมือนไมรอนหรือวิน (ก็อีกล่ะ) ไม่ได้มีเส้นสายเหมือนวิน (อ่ะ แน่นอน) แต่เป็นเหมือนคนธรรมดาๆอย่างเราๆที่เข้าไปพัวพันกับเรื่องร้ายๆ และความรักถูกรักดีของเขาก็ทำให้เขาต้องดิ้นรนต่อสู้ เนื้อเรื่องดำเนินไปเรื่อยๆ เหมือนดูหนังมากกว่าอ่านนิยายสืบสวน ไม่ค่อยหักมุม ไม่ค่อยหวือหวา เลยเข้าใจได้ง่าย ซึ่งนั่นก็ถือเป็นทั้งข้อดีและข้อเสียไปในตัวเหมือนความไม่ได้โดดเด้นอะไรของตัวเอกเหมือนกัน

เหมาะสำหรับ : คนชอบอะไรยาวๆ เรื่อยๆ ไม่กระชับเหมือนซีรี่ยส์ของไมรอน โบลิทาร์ (เพราะอันนั้นบางเล่มอ่านสอง ชม ก็จบแล้ว ไม่คุ้มตังง) เก็บรายละเอียดความระทึกไปเรื่อยๆเหมือนดูหนังสนุกๆเรื่องหนึ่ง อิ่มเอมไปกับความละเมียดละไมของตัวหนังสือ และไม่ชอบอะไรที่กดประสาทซับซ้อนมากมายเกินไปนัก

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 03-03-2008 00:10:16 โดย ExecutioneR »

ออฟไลน์ ExecutioneR

  • จุ๊บ จู๊บบบบบ ~~ ♥
  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4243
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1722/-40
    • FB Page


สุดท้ายและท้้ายสุดของหนังสือแนวนี้ในวันนี้จริงๆและ  :oni2:
มาแนะนำคับ......... แนะนำว่าอย่าซื้อ ไปยื้มเพื่อนอ่านเอาดีกว่า (ฮา)

 :a6:

งั้นๆคับ ไอ้พวกหนังสือ อันพุดดาวเนเบิ้ล มิสสะตอรี่ เนี่ย จะมีเรื่องย่ออยู่ด้านหลัง ซึ่งอันเนี๊ย อีตัวเอกชื่อเด็กซ์เตอร์ที่ชอบทดลองแล็บใต้ดินที่บ้านและมีพี่ชื่อดีดีอะไรเนี่ย (ฮา) จะมีสองบุคลิกคับ อันนึงเป็นพนักงานแล็บตรวจเลือดในคดีทั้งหลายแหล่นั่นแหละ ส่วนอีกด้านจะเป็นฆาตรกรโรคจิตสุดเนี๊ยบ ซึ่งหลังๆเริ่มงงว่าตัวเองเป็นคนฆ่าคนพวกนั้นเหรอ ทำไมกูจำไม่ได้เลยล่ะ กูว่ากูหลับนะ เอ๊ะหรือกูละเมอเดิน......

อิห่าาาาาาาานนนนนนน!! แม่งโหดสู้วินไม่ได้เลยครับ รักวินที่สุดในโลก เพราะงั้น อย่าเสียตังเลย เอาไปซื้อข้าวเลี้ยงเพื่อนที่มันให้เรายืมอ่านดีกว่า

ส่วนเรื่องอื่นๆของฮาร์ลานโคแบน เอ๊ย โคเบน อย่าง "หาย" กับ "อย่าบอกใคร" นี้สุดยอดๆๆๆๆๆๆๆๆ
แต่ผมไม่สามารถรีวิวในตอนนี้ได้ เพราะจำได้แต่ความสุดยอดๆๆๆๆๆ จนเอาเนื้อเรื่องมาตีกันไปหมดและคับ (ฮา) เนื่องด้วยซื้อมาอ่านใกล้ๆกัน 5555

ติดไว้ก่อนหนา หรือใครเคยอ่านมาก้อมารีวิวได้เลยครับ  :oni2:


ออฟไลน์ ExecutioneR

  • จุ๊บ จู๊บบบบบ ~~ ♥
  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4243
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1722/-40
    • FB Page



หยิบมาเพราะชื่อหนังสือแท้ๆเลยครับ โดนนนนนนนน ซะไม่มี!!!

และข้างในก้อไม่ผิดหวังเลยจริงๆ ผมยังเก็บเอาคำพูดสวยๆมาใช้ในนิยายตัวเองเลย อิอิ
เ็ป็นหนังสือเสริมกำลังใจ ลายเส้นการ์ตูนงามๆ โล่งๆ ตัวหนังสือหน้าละสองสามประโยค แต่กินใจมากมาย

เห็นตอนแรกนึกว่าผู้หญิงเขียน แต่จริงๆรู้สึกจะเป็นผู้ชายนะ
และที่แน่ๆมีคุณ ปราย พันแสง ให้คำนิยมและดันหลัง ซึ่งผมชอบคุณปรายมากๆ


คำนิยม

“ ผลงานชุดนี้ เป็นงานชิ้นเล็กๆ
แต่อาจจุดประกายความคิดที่ยิ่งใหญ่ในใจบางคนบ้างก็ได้ เพราะดูเหมือนว่า
ผู้รังสรรค์งานชุดนี้ จะใช้ความพยายามอย่างยิ่งยวด
ในการนำพาเราให้เข้าใกล้ความงาม ตามมุมมองของตนให้มากที่สุด
ความเรียบง่ายที่สัมผัสได้ อาจทำให้ตระหนักว่า บางครั้ง คนเราก็มิได้
อยากได้ใคร่มีอะไรมากมายหรอก เพราะบางเรื่องราวในชีวิต
เราก็พอจะคาดเดาถึงคำตอบของมันเองได้ มันสำคัญที่ว่า ภาพบางภาพ หรือคำบางคำ
ในบางเวลา
ก็สามารถสะกิดเตือนให้เราเกิดแรงบันดาลใจในการทำอะไรต่อไปได้อีกต่างหาก”

’ ปราย พันแสง



.......และหนังสือเล่มนี้ก็ไม่ได้ทำให้ผมผิดหวังเลยจริงๆครับ อิ่มเอมทุกครั้งที่หยิบมาเปิดอ่านและเห็นลายเส้นการ์ตูนสวยๆ ^_^

ดาว : 5 ดาวครับ ไม่ต้องสงสัยเลย

หาได้ตาม : มุม "จิตวิทยา" แต่เด๋วนี้คงหายากหน่อยแล้วมั๊ง


ออฟไลน์ ExecutioneR

  • จุ๊บ จู๊บบบบบ ~~ ♥
  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4243
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1722/-40
    • FB Page
ครั้งหน้าจะหาจิมมี่เหลียวมารีวิวคับ น่าจะมีคนชอบหลายคน แตผม่ยังไม่ได้ลองเสิชหาปกดูเลย สำนักพิมพ์ไหนก้อจำไม่ได้ แถมมีตั้งหลายเรื่อง ไม่รู้จะเริ่มจากอันไหนก่อนดีด้วย  o13 (จริงๆจำไม่ได้ว่าตัวเองซื้ออะไรมาบ้าง จำชื่อเรื่องไม่ได้ 5555)

ตอนนี้ไปและคับ ไปฮากะู เลิฟเล็ตเต้อก่อนดีกว่า 5555  :oni2:


detective Q

  • บุคคลทั่วไป
ของผมแบบเด็กๆเฮอๆ :o8:
เรื่องมีว่าพี่น้องฝาแฝด3คนได้รับเชิญไปร่วมเป็นผู้โฆษณาหนังเรื่องหนึ่ง
แต่อีตาศาสตราจารย์จอมขี้เกียจจึงออกอุบายไปด้วยเพราะขี้เกียจดูแลตนเอง
อ้อพี่น้อง3ฝาแฝดเป็นเพื่อนบ้านของศาสตราจารย์เองฮับ
เลยโกหกเจ้าของหนังว่าจะเกิดคดีปริศนาขึ้นและจะปิดคดีในเกาะให้ได้
พอวันเริ่มถ่ายก็ดันเกิดเรื่องจริงๆซะได้
เรือระเบิด  นักแสดงหายไป  ตำนานยักษ์ฝาแฝด  ไปจนถึง  ขั้นภูเขาหายไปก็มี
3พี่น้องฝาแฝดและผู้ร่วมสร้างหนังอีกทั้ง9คนจะรอดหรือไม่  ศาสตราจารย์จะปิดคดี
ต้องติดตามนะฮับ

[attachment deleted by admin]
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 02-03-2008 22:28:44 โดย detective Q »

ออฟไลน์ ExecutioneR

  • จุ๊บ จู๊บบบบบ ~~ ♥
  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4243
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1722/-40
    • FB Page
^
^

อ่านหนังสือน่ารักจังครับ อิอิ  :o8:

ผมเองก็อ่านนะ หนังสือเด็ก วรรณกรรมเยาวชนทั้งหลายแหล่

(ใจตรงกันเลยยย อิอิอิอิ)

ปล. รีวิวด้วยก้อดีนะคับ เช่น มันสนุกยังไง ดีตรงไหน ตรงไหนไม่ชอบ จะได้ตามไปอ่านที่บ้าน เอ๊ย ไปหาซื้ออ่านถูก (ฮา)


ออฟไลน์ ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น

  • Administrator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6853
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1320/-22



จุดเปลี่ยนแห่งศตวรรษ
อ่านแล้วทำให้มุมมองต่างๆกว้างขึ้น ไม่ควรพลาดเลย
 
 

The Turning Point ตีพิมพ์เป็นครั้งแรกเมื่อปีค.ศ. ๑๙๘๒ และได้รับการแปลเป็นภาษาไทยภายใต้ชื่อ จุดเปลี่ยนแห่งศตวรรษ โดย พระประชา สันธัมโม พระไพศาล วิสาโล และคณะ เมื่อปีพ.ศ. ๒๕๒๙ หนังสือเล่มนี้เป็นเล่มที่สองของฟริตจอฟ คาปรา นักฟิสิกส์ทฤษฎีผู้มีชื่อเสียง และเป็นนักคิดแถวหน้าของการคิดแบบองค์รวม เต๋าแห่งฟิสิกส์ ซึ่งเป็นหนังสือเล่มแรกของเขานั้น ได้แสดงให้เห็นความเชื่อมโยงของฟิสิกส์ กับฐานความคิดในปรัชญาโบราณ โดยชี้ให้เห็นความโน้มเอียงของฟิสิกส์ยุคใหม่ ที่คล้ายคลึงกับความคิดดั้งเดิมเข้าไปทุกที เล่มที่สองของเขา กล่าวถึงกระบวนทัศน์สองแบบ ซึ่งมีพื้นฐานจากรากความคิดทางวิทยาศาสตร์สองยุค และยืนยันว่าเราจำต้องเปลี่ยนกระบวนทัศน์ใหม ่เพื่อก้าวผ่านวิกฤติแห่งยุคสมัยร่วมกัน

หนังสือแบ่งเป็นสี่ส่วน ส่วนแรกว่าด้วยภาวะวิกฤติซึ่งเป็นโอกาสของการเปลี่ยนแปลงไปสู่สิ่งใหม่ เขากล่าวถึงวิกฤติแห่งยุคสมัยอันเกิดจากการใช้เทคโนโลยีเพื่อการทำลายล้าง การบริโภคอันก่อให้เกิดหายนะต่อสิ่งแวดล้อม โครงสร้างทางวัฒนธรรม และระบบคุณค่าในสังคมที่บิดเบี้ยวเหล่านี้ ก่อให้เกิดการมองแบบแยกส่วน อันเป็นเหตุที่มาของวิกฤติอย่างแท้จริง

ส่วนที่สอง เขากล่าวถึงความเป็นมา และลักษณะของกระบวนทัศน์สองแบบ ได้แก่ วิทยาศาสตร์เก่าตามแบบกลศาสตร์ของนิวตัน และวิทยาศาสตร์ใหม่ตามแบบควอนตัมฟิสิกส์ กลศาสตร์ของนิวตันก่อให้เกิดการมองโลก เป็นดังเครื่องจักรกลที่ประกอบด้วยชิ้นส่วนต่าง ๆ ประกอบเข้าด้วยกัน แต่ควอนตัมฟิสิกส์ก่อให้เกิดการมองโลก เป็นดังปรากฏการณ์ที่ปราศจากการดำรงอยู่ของตัวตนที่แน่นอน และเชื่อมกันอยู่ด้วยปรากฏการณ์ไม่อาจแยกออกจากกันได้อย่างเด็ดขาด ทั้งนี้ คาปรามิได้กล่าวว่าวิทยาศาสตร์ใหม่นั้นดีกว่าวิทยาศาสตร์เก่า เป็นแต่ว่า วิทยาศาสตร์ทั้งสองแบบใช้อธิบายชุดความจริงที่ต่างกัน มนุษย์ย่อมเข้าถึงความจริงได้ ผ่านวิทยาศาสตร์ทั้งสองแบบในระดับที่แตกต่างกัน

ในส่วนถัดมา เขากล่าวถึงผลกระทบของการมองโลกแบบแยกส่วน ตามแบบกลศาสตร์ของนิวตันในสาขาวิชาต่าง ๆ ดังเช่น ชีววิทยา แพทยศาสตร์ เภสัชศาสตร์ จิตเวชวิทยา เศรษฐศาสตร์ ซึ่งส่งผลกระทบต่อการพัฒนาในที่สุด เพราะรากความคิดเหล่านี้ฝังลึกอยู่ในตัวเราอย่างแยกไม่ออก และจะแสดงออกมาโดยที่เราไม่รู้ตัว อย่างที่เศรษฐศาสตร์ปฏิเสธปัจจัยทางสิ่งแวดล้อม สังคม และวัฒนธรรม โดยมิได้คำนึงถึงว่าเป็นปัจจัยที่พึงพิจารณาร่วมด้วย หรือแม้จะกล่าวว่าการทดลองจะต้องอยู่บนพื้นฐานของความเป็นกลาง ทิศทางการวิจัยนั้นย่อมเป็นไปตามกรอบความคิดและมุมมองของนักวิทยาศาสตร์ โดยนักวิทยาศาสตร์ก็ไม่อาจรู้ตัวได้เช่นกัน

ด้วยทัศนะการมองโลกแบบใหม่ ดังที่เขาอธิบายไว้ในตอนท้าย เราจำต้องเปลี่ยนแปลงกระบวนทัศน์ใหม่ มองเห็นความเชื่อมโยงของทุกสิ่ง เห็นความเป็นชีวิตที่สัมพันธ์กับโลกในทุกด้าน อันจะก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางความคิด ดังที่ได้เกิดขึ้นแล้วในวิทยาการสมัยใหม่หลายด้าน ทั้งทางชีววิทยาที่ว่าด้วยนิเวศน์วิทยาแนวลึก ทฤษฎีกายาที่ว่าด้วยโลกมีชีวิต การจัดการสาธารณสุขแบบองค์รวม การบำบัดรักษาทางกายผสานกับทางจิตไม่แยกจากกัน การปรับใช้เทคโนโลยีแบบยั่งยืน เป็นต้น

ฉบับภาษาเยอรมัน Wende Zeit นั้น คาปราได้เพิ่มเติมบทนำว่าด้วยความเป็นมาของความคิดแบบองค์รวมในเยอรมัน และบทปิดท้ายว่าด้วยกระบวนการทางนิเวศน์ตลอดจนทางเลือกในเยอรมัน พร้อมทั้งตัวอย่างการพัฒนา โครงการ และเอกสารตีพิมพ์ ถือว่าเป็นการขยายความเชื่อมกับรากความคิดในวัฒนธรรมเดิมของผู้อ่าน ก่อให้เกิดความเข้าใจลึกซึ้งเชื่อมโยงขึ้น ข้าพเจ้ายังไม่ได้อ่านฉบับภาษาไทย แต่ก็คิดว่า หากมีบทความเขียนอธิบายความเป็นมาความคิดแบบองค์รวมในเมืองไทย และตัวอย่างแบบรูปธรรม ของกระบวนการดำเนินงานแบบองค์รวมในเมืองไทยเพิ่มเติม ก็คงเป็นการดีไม่น้อย

หนังสือเล่มนี้ข้าพเจ้าเจอโดยบังเอิญในร้านแขกตุรกีขายของชำ จึงถือว่าบังเอิญยิ่งกว่าบังเอิญ เพราะปรกติข้าพเจ้าไม่ใช่ลูกค้าของร้านนี้ และร้านนี้ปรกติไม่ขายหนังสือ แต่วันนั้นสะดุดตาที่เห็นแผงลอยวางหนังสือเก่าอยู่หน้าร้าน ชั่วแวบที่เหลือบมองก็เห็นหนังสือเล่มนี้พอดี หยุดยืนตาโตด้วยความประหลาดใจ เพราะข้าพเจ้าเพิ่งเดินออกมาจากร้านหนังสือ ไปลูบคลำเล่ม Hidden Connection เล่มล่าสุดของคาปราอยู่ แต่หนาเหลือเกิน แถมเป็นปกแข็ง ขี้เกียจขนสมบัติบ้า และยังไม่อยากเสียกะตังค์ แต่เจ้าโชคดีก็ทำให้ต้องควักกะตังค์ให้แขกด้วยราคากาแฟแก้วหนึ่ง

ขณะอ่านหนังสือเล่มนี้ข้าพเจ้ารู้สึกเบิกบาน และก็รู้สึกว่าคาปราเขียนเล่าอธิบายอะไรได้ละเอียดละออ โดยเฉพาะส่วนที่ว่าด้วยภาพรวมของประวัติศาสตร์วิทยาศาสตร์นั้น ให้ภาพชัดเจนมาก และไม่สับสนเลย ปรกติข้าพเจ้ารังเกียจวิชาฟิสิกส์ เพราะรู้สึกว่าความรู้เรื่องอนุภาคและจักรวาลนั้น ไม่ทำให้มนุษย์รู้สึกเชื่อมโยงกับโลกเหมือนความรู้ทางนิเวศน์ หรือไม่ตระหนักถึงผลกระทบต่อโลกเหมือนความรู้ทางเคมี แต่เมื่อคาปราอธิบายเรื่องควอนตัมฟิสิกส์ ข้าพเจ้าก็รู้สึกสว่างไสว เหมือนเดินจากที่มืดสู่ที่สว่าง ฟิสิกส์ไม่ได้เป็นวิชาที่ล้าหลังอีกต่อไป ควอนตัมฟิสิกส์นั้นให้ภาพงดงามยิ่ง ในการยอมรับความไร้ตัวตน และยืนยันความคิดที่ว่า ไม่มีสิ่งใดเกิดขึ้นได้ด้วยตนเอง และทุกสิ่งนั้นล้วนอาศัยสิ่งอื่นในการเกิด ข้าพเจ้าสงสัยใจอยู่ว่า ความชื่นชมนี้เกิดจากการพบว่า ควอนตัมฟิสิกส์ตรงตามหลักพุทธหรือไม่ ข้อสงสัยนี้ข้าพเจ้าโยนทิ้งไปในไม่ช้า เมื่อนึกขึ้นมาได้ว่าคาปราคงตื่นเต้นในข้อนี้เช่นเดียวกัน

กระบวนทัศน์นั้นสำคัญมาก การอ่านหนังสือเล่มเดียว คงไม่อาจทำให้เราเปลี่ยนแปลงกระบวนทัศน์จากแยกส่วน ไปเป็นแบบองค์รวมได้อย่างฉับพลันทันที หากการใคร่ครวญไตร่ตรองอย่างลึกซึ้งถึงเหตุและผล อย่างลึกซึ้งชัดเจนต่างหาก ที่ก่อให้เกิดความเข้าใจที่แท้ ก่อให้เกิดผลกระทบต่อความคิดและการกระทำของเรา เมื่อฝึกฝนอย่างสม่ำเสมอ ก็จักฝังรากกลายเป็นนิสสัยสันดาน กลายเป็นสัญชาตญาน เมื่อนั้นคงเป็นการเปลี่ยนแปลงอย่างแท้จริง

 

เกี่ยวกับผู้เขียน



ฟริตจอฟ คาปรา เกิดปี ค.ศ. ๑๙๓๙ เมืองเวียนนา ออสเตรีย ภายหลังจบการศึกษาระดับปริญญาเอกสาขาฟิสิกส์ทฤษฎีจากมหาวิทยาลัยเวียนนา ก็ได้รับตำแหน่งเป็นอาจารย์และนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยหลายแห่ง ดังที่ ปารีส ซานตา ครูซ สแตนฟอร์ด และลอนดอน นอกจากงานทางด้านพลังงานระดับสูง และฟิสิกส์อนุภาคแล้ วคาปรายังให้ความสนใจกับทางปรัชญา และผลกระทบทางสังคมของวิทยาศาสตร์สมัยใหม่ ทั้งฟิสิกส์และทฤษฎีระบบกับนิเวศน์วิทยา เขาได้รับการยอมรับว่า เป็นผู้นำทางความคิดและการตีความทางความคิดแบบองค์รวม

หนังสือเล่มแรกของเขาคือ เต๋าแห่งฟิสิกส์ ว่าด้วยความสัมพันธ์เชื่อมโยงระหว่างฟิสิกส์กับปรัชญาดั้งเดิมทั้งพุทธ คริสต์ อิสลาม จุดเปลี่ยนแห่งศตวรรษเป็นหนังสือเล่มที่สอง อีกหลายเล่มถัดมาคือ ความคิดใหม่ ข่ายใยชีวิต และความเชื่อมโยงซ่อนกาย

ปัจจุบันคาปราพำนักอยู่ที่เบิร์กเลย์ คาลิฟอร์เนีย และทำงานวิจัยที่สถาบันวิจัยลอว์เรนซ์ เบิร์กเลย์

  
http://www.geocities.com/siamintellect/writings/b_turningpoint.htm
http://bookstore.manager.co.th/BookBrowse.asp?Keyword=%A8%D8%B4%E0%BB%C5%D5%E8%C2%B9%E1%CB%E8%A7%C8%B5%C7%C3%C3%C9&Group=7
 

ออฟไลน์ M@nfaNG

  • ชีวิตคือการตรวจสอบ...
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4453
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +847/-18
 :m1: อ่านเรื่องคนบ้ารักแล้วชอบมากกกก
คิดอยู่นานก่อนตัดสินใจซื้อเพราะราคาค่อนข้างสูง สองเล่มห้าร้อยกว่า เอิ๊กกกก
แต่อ่านจบแล้ว อิ่มในหัวใจจริงๆ ไม่เสียดายเงินเลย
บางตอนอ่านไปร้องไห้ไป :m15:
พออ่านจบ รู้สึกดีกับชีวิต
ทำให้รู้สึกว่าคนทุกคนมีสิ่งที่ดีๆอยู่ในหัวใจ  :a1:
ไม่ว่าภายนอกเค้าจะดูเป็นคนร้ายกาจ หรือบ้าบอยังไง

เพราะทุกคนก็เคยเป็นคน "บ้ารัก" กันมาแล้วทั้งนั้น  :oni2:

ส่วนเรื่องอื่นๆขอจดไปนะค่ะ  :pig4:เผื่อไปหาซื้องานหนังสือคราวหน้า
 แต่ถ้าบอกสำนักพิมพ์ด้วยก็ดีค่ะจะได้หาซื้อง่ายขึ้น :a2:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 02-03-2008 22:45:33 โดย Manfang »

ออฟไลน์ ExecutioneR

  • จุ๊บ จู๊บบบบบ ~~ ♥
  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4243
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1722/-40
    • FB Page
Jimmy Liao ชายหนุ่มผู้เคยป่วยเป็นลูคิเมีย และปัจจุบันเป็นนักเขียน นักวาด จิตรกร ผู้สร้างสรรค์ 'หนังสือภาพสำหรับผู้ใหญ่' (ไม่ใช่แบบนั้นหนาา) ออกมาหลายเล่ม และหลายเล่มก็ประสบความสำเร็จท่วมท้นในหลายๆประเทศ โดยภาพและลายเส้นของเขานั้นจะเน้นสีสันสดใสสวยงาม และแฝงไปด้วนความลึกซึ้งทางอารมณ์ คือ ผมรู้สึกเหมือนว่า รูปบางรูป เราจะมองให้มันเศร้าก็ได้ บางอารมณ์เราจะมองให้มันสดชื่นก็ได้น่ะครับ (ไม่รู้เป็นอยู่คนเดียวรึเปล่า) แล้วมันก็จะมีคำพูด หรือ สัญลักษณ์ต่างๆที่สะท้อนแง่คิดในชีวิตต่างๆลงไปด้วย ซึ่งแน่นอนว่า รวมทั้งเนื้อหาของตัวหนังสือและเรื่องราวในแต่ละๆเรื่องก็ด้วยเหมือนกันครับ


ตัวอย่างรูปวาดของจิมมี่จากเรื่องที่ทุกคนคงเดาได้แม้ผมจะไม่บอกว่าเรื่องอะไร

หนังสือของเหลียวจะมีหลายอย่างหลายเล่มมากกกกก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องราวที่จบสมบูรณ์ในตัวของมันเองอย่าง "ดวงตะวันส่องฉาย" (หรือที่รู้จักในชื่อ 'ผู้หญิงเลี้ยวซ้าย ผู้ชายเลี้ยวขวา') เรื่องราวแบบนิทานที่ให้ข้อคิดที่ลึกซึ้งอย่าง "ผู้ชายที่หลังรักดวงจันทร์" หรือ "เรื่องเล่าของชายผู้โชคดี" หรือแม้แต่ "ในใจ... ไกลกว่าสายตา" และ เรื่องน่ารักๆอ่านๆง่ายๆแต่ให้ข้อคิด อย่างเช่น "จังหวะชีวิต" หรือ "โปสการ์ดแทนความรู้สึก... ถึงเธอ" ไปจนถึงเรื่องขำๆอ่านเพลินๆ เด็กๆก็อ่านเข้าใจได้ไม่ยากอย่าง "ทำไม"



จากเรื่อง ผู้ชายที่หลงรักดวงจันทร์

เสน่ห์อย่างหนึ่งในงานของจิมมี่ที่จะเห็นได้ชัด นอกจากลายเส้นและสีสันแล้ว ทุกคนต้องเห็นแน่ๆว่าเขาชอบวาดสัตว์แปลกๆตัวใหญ่ๆตาโตๆอยู่ในฉากหลังด้วย บางทีก็ซ่อนอยู่ บางทีก็เห็นชัดเจน ไม่ว่าจะกระต่าย หนู หมา แมว นก เยอะแยะมากมาย ซึ่งผมเองก็ไม่ค่อยแน่ใจนักนะว่าเค้าจะสื่ออะไร แต่มันก็ดูโดดเด่นและเป็นเอกลักษณ์ดี


จากเรื่อง ทำไม

ผมเองก็มีหนังสือเขาหลายเล่มนะ แต่บางที (ซึ่งก้อคือส่วนมาก) จะไปนั่งอ่านเฉยๆมากกว่า (ฮา) เพราะมันแพงงงงงงงงงงงงง ครับ แพงมากกกกกกกก ซึ่งนับเป็นข้อเสียเดียวของหนังสือชุดของเหลียวเลย แต่ถ้าถามว่าคุ้มมั๊ย สำหรับผมผมตอบว่าคุ้มนะ เพราะมันอ่านได้หลายรอบดี จรรโลงใจ และได้ข้อคิดด้วย แต่ผมก็ซื้อไม่ไหวอยู่ดีครับ 5555 ไปยืนอ่านแล้วเลือกเฉพาะเล่มที่ชอบๆมาเก็บไว้ดีกว่า


โลกเหงาของหินสีฟ้า : การเดินทางเหงาๆของ'ครึ่งหนึ่ง'ของก้อนหินสีฟ้าที่ถูกมนุษย์ทำลาย มันเดินทางเพื่อตามหาส่วนเสี้ยวของมัน ไม่ว่าจะใช้เวลานานเท่าใดก็ตาม....

ล่าสุดผมซื้อชุด "สวนสวรรค์ที่สาบสูญ" มาสามเล่มเมื่อปีที่แล้วช่วงราวๆนี้แหละ แต่ซื้อมาไม่ครบเพราะไม่มีปัญญาครับ แพงเกิน ไปนั่งอ่านฟรีเอาดีกว่า 555 และไม่นานมานี้ก็เห็นหนังสือของเขาเล่มใหม่เหมือนกัน กะว่าวันหลังจะกลับมาซื้อ แต่ก็หาไม่เจอซะแล้ว..... เกี่ยวกะความรักอะไรนี่แหละ ยืนอ่านแล้วอิน ซึ้ง เปลี่ยวสุดๆไปเลย อยากได้มากกกก (เศร้า T__T)

ตัวอย่างผลงานที่ลึกซึ้งและละเอียดอ่อนของจิมมี่ที่ผมเจอมากับตัวก็อย่างเช่น "โทนี่ เด็กชายหน้าบาก" ที่อยู่ในสวนสวรรค์ฯ เขาเป็นคนขี้อายมากกก ทำให้เวลาเขาอายเขาจะหกล้มหรือได้รับบาดแผลจนหน้าเขาเป็นแผลเป็น เป็นรอยเย็บเต็มไปหมด (หน้าเหมือนตุ๊กตาผีหล็อนๆๆๆเลยอ่ะ) แต่ตรงกันข้ามกับหน้าตานั้น เขากลับเป็นเด็กที่อ่อนโยนและขี้อายแบบสุดๆ แต่ทว่าใครบ้างเล่าที่จะรู้.......

ผมเอาคำพูดหนึ่งของฉากเริ่มนิทานของโทนี่ให้น้องอ่าน เป็นประโยคที่บอกว่า "เพื่อนของผมอยู่ในกระจกเงา" อะไรประมาณนี้แหละ (ขอโทษที่ข้อมูลไม่ปึ้กครับ ไม่ได้มีหนังสืออยู่กะตัว) ผมถามน้องว่า คิดว่าแปลว่าอะไร น้องของผมตอบ "ก็เพราะเค้าน่าเกลียดมั๊ง นิสัยไม่ดี เลยไม่มีคนคบ" แต่กับผม แว่บแรกที่ผมเห็นผมกลับคิดว่า "อืมม เขาคงเหงาน่าดูเนอะ น่าสงสารว่ะ" ส่วนเพื่อนผมบอกว่า "เค้าคงเลือกที่จะพอใจแบบนั้นเองมั๊ง" ทั้งๆที่ไม่มีใครในเราสามคนได้อ่านเนื้อหาหรือรู้จักโทนี่มาก่อนเลย

นอกจากนี้ก็ยังมีคำพูดอื่นๆเรื่องราวของเด็กในสวนสวรรค์ฯอื่นๆอีกหลายคน ที่ให้ข้อคิดและสะท้อนแง่มุมในจิตใจของเราได้เป็นอย่างดี....... แล้วแบบนี้ จะไม่หลงรัก 'เสน่ห์' ของผู้ชายที่ชื่อ จิมมี่ เหลียว คนนี้ได้ยังไงครับ ^_^

ผลงานของจิมมี่นั้นจะได้รับการแปลโดยคุณ ปราย พันแสงครับ และมันก็ออกมาสวยงามจับใจในทุกๆประโยคจริงๆ

หาอ่านได้ที่ : หมวดจิตวิทยา
เหมาะสำหรับ : ทุกเพศ ทุกวัย ทุกจังหวะชีวิต และทุกจังหวะหัวใจ (ฮา)
ดาว : 3.5 - 5 ดาว ขึ้นอยู่กับเรื่องและความโดนใจ
สำนักพิมพ์ : นานมี
ข้อมูลเพิ่มเติม : วิกิพีเดีย

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 03-03-2008 00:05:51 โดย ExecutioneR »

fc_uk

  • บุคคลทั่วไป
ฟ๊อกเอามั่งครับ เอิ๊กซ์......เป็นหนังสือที่ผมรักเรยยย

โหด มันส์ ฮา และ เมาครับ..ไปหาอ่านดู

ส่วนข้อมูลข้างล่างนี่ก๊อปมาครับ ยังไงก้ออ่านดูนะครับ review สั้นๆ


 :oni2: :oni2: :oni2: :oni2: :oni2: :oni2:


พันธ์หมาบ้า



^
^
เล่มบนผมซื้อตอนมัธยม



^
^
เล่มนี้ปกแข็งมั้ง

-----------------------------------------------------------------------------------------------

ผู้แต่ง: ชาติ กอบจิตติ
สำนักพิมพ์ : หอน
จัดจำหน่าย : สายส่งศึกษิต บ.เคล็ดไทย


พันธุ์หมาบ้า จะว่าไปนวนิยายเรื่องนี้มีความต่างจากงานอื่น ๆ ของน้าชาติตรงที่เป็นงานเขียนที่มีความเข้มข้นทางเนื้อหาน้อยลง แต่สิ่งที่น้าชาติใส่เข้ามาทดแทนและเหมือนใส่ได้ถูกจริตผู้อ่านเป็นอย่างมาก สิ่งที่น้าชาติใส่ลงนั่นไปคือ… ความมันส์ !
เป็นที่ยอมรับกันถ้วนหน้าที่คำกล่าวข้างต้นต่างล้วนยืนยันถึง ความมันส์ ที่สัมผัสได้จริง (เชื่อซี่) ขณะอ่านนวนิยายเรื่องนี้ ความมันส์ดังกล่าวปรากฏไล่ไปในแต่ละคำ แต่ละวรรค แต่ละย่อหน้า และตลอดจนทั้งเล่ม ทั้งนิสัยของตัวละคร บทสนทนา กิจกรรม มูลเหตุของเรื่อง สิ่งเหล่านี้มุ่งรับใช้ความมันส์ของพันธุ์หมาบ้าสมกับวัตถุประสงค์ในการนำเสนอได้เป็นอย่างดี
หัสเดิมทีมีอยู่ว่า น้าชาติ ได้ทยอยส่งต้นฉบับนวนิยายเรื่องนี้ไล่ตีพิมพ์ลงใน นิตยสารลลนา ราวปีพ.ศ.๒๕๒๘ ไปจนจบเรื่องในปีพ.ศ.๒๕๓๐ กินเวลาสองปีกว่าที่ความมันส์ของนวนิยายเรื่องนี้ละเลงอยู่บนหน้านิตยสารลลนา และด้วยตลอดสองปีกว่าที่พันธุ์หมาบ้าปรากฏสู่สายตานักอ่านในขณะนั้น คำถามมากมายหลั่งไหลทะลักเข้าไปถึงตัวน้าชาติอย่างล้นหลาม โดยเฉพาะคำถามที่ว่า “นี่เขียนจากเรื่องจริงหรือ?” ได้รับการพูดถึงบ่อยที่สุด รองลงมาก็ความล่อแหลมในเนื้อหาโดยยึดความมันส์เป็นแก่น ที่หลายคนอดเป็นห่วงไม่ได้ เพราะพฤติกรรมอันไม่พึงประสงค์ในการแสดงออกของตัวละครแต่ละคนต่างเป็นที่หวาดหวั่นถึงการเอาเยี่ยงอย่างของเยาวชน เช่น เจอหน้าเป็นดวด ล่อบ้องเป็นนิจ หรือชีวิตอิสระเสรีของกลุ่มวัยรุ่นที่ยังขาดวุฒิภาวะต่อการกระทำต่าง ๆ ซึ่งอาจเลยเถิดไปจนกลายเป็นทางเลี้ยวที่ผิดตลอดชีวิตเลยก็ว่าได้
ทว่าน้าชาติมีคำตอบให้เพียงสั้น ๆ แต่คมคายและจุดประกายให้ขบคิดอยู่บนหน้าคำนำว่า “การอ่านไม่ทำให้ใครเสียคน คนที่ไม่อ่านสิน่าเป็นห่วง!” ช่างเป็นคำตอบที่มันส์ไม่แพ้กัน
อย่าลืมว่า ชาติ กอบจิตติ เป็นนักเขียน หากินกับวรรณกรรม มีหรือนักเขียนระดับซีไรต์จะขาดจรรยาบรรณและความรับผิดชอบกับงานศิลปะที่ตัวเองผลิต ซึ่งคำกล่าวนี้ก็สามารถพิสูจน์ยืนยันได้ด้วยตัวหนังสือพันธุ์หมาบ้านั่นเอง
อย่างกรณีที่น้าชาติยกตัวอย่างถึงเพื่อนเจ็ดคนที่เสียชีวิตก่อนวัยอันควร เพราะหลงเดินไปในทางที่ผิดก็อยู่ในคำนำเช่นกัน หรือจะหาเอาจากแก่นสารภายในเล่ม โดยหยิบจากเบื้องลึกของตัวละครเอกทั้งสอง อ๊อดโต้ และ ทัย สองคู่หูที่มีฉากชีวิต มิติ บางมุมที่สะเทือนใจ สภาวะอันกดดันบีบคั้นที่ทั้งสองต้องเผชิญ เป็นผลสืบเนื่องให้ทั้งสองออกค้นหาคำตอบเพื่อชีวิตตัวเอง คำตอบเหล่านั้น ไม่ได้มาจากการแสวงหาความรู้ภายในรั้วสถาบันการศึกษา จารีตอันเก่าคร่ำของผู้หลักผู้ใหญ่ แต่ได้มาจากการย่ำเท้ากอดคอทดลองกับมันด้วยชีวิตของตัวเอง นี่มิใช่หรือ สาระอันยิ่งใหญ่อีกคุณค่าหนึ่ง ที่เรามักมองข้ามกัน เพราะเรากลับค้นหาและให้คุณค่าจากระบบที่ถูกประดิษฐ์ขึ้นจนกลายเป็นระบอบที่คนเดินตามกัน มิต่างอะไรกับหุ่นยนต์ที่ทำตามคำสั่งเข้าไปทุกที ภาพดังกล่าวเป็นอีกสาระสอดแทรกและเป็นมุมเดียวที่น้าชาติเหยาะลงมาในพันธุ์หมาบ้า จนทำให้นวนิยายนี้ครบทุกรสชาติ
อ๊อดโต้ ทัย ล้าน เล็กฮิป และชวนชั่ว กลุ่มก๊วนหรรษา เฮฮาตลอดศก หมู่มิตรที่มีจิตเป็นหนึ่ง จิตที่คาราวะแด่สุรา นอบน้อมกัญชาประหนึ่งเทพผู้พาให้หลุดพ้น ทั้งเรื่องพวกเขาจะสาละวนอยู่กับสิ่งเหล่านี้ไม่ขาดพร่องทุกคราที่เจอะหน้ากัน ไม่ว่าทุกข์หรือโศกเศร้า ครื้นเครง จะอารมณ์ใดก็ตาม สิ่งที่ขาดไม่ได้เลยก็คือ เหล้า พวกเขาเห็นพ้องต้องกันว่าเหล้าคือพระเอกของเรื่องนี้อย่างแท้จริง
เพราะเหล้าทำให้ทัยได้มาเจออ๊อดโต้ เพราะเหล้าทำให้ชวนชั่วได้มาเจอกับทัย และก็เหล้าอีกนั่นแหล่ะที่ช่วยดำเนินเรื่องให้พลิกไปทีละหน้าจนผู้อ่านกรึ่มได้ที่ทีเดียว
นอกจากเหล้าแล้วทีเด็ดอีกอย่างของพันธุ์หมาบ้าคือ ศัพท์แฝง ที่น้าชาติประดิษฐ์ขึ้นเพื่อหลีกเลี่ยงความสมจริง… ความสมจริงที่เราได้ยินประโยคกักขฬะเหล่านี้อยู่ทุกวัน เช่น…
“กล้วย” หรือ “เครื่องปลอกกล้วย”, “บ้องฮิลล์” สถานที่เฉพาะ มันถูกสงวนไว้สำหรับพวกเขา, “โทบี้” ชื่อจักรยานยนต์คันเดียวแต่ขับเคลื่อนไปทั่วเกาะภูเก็ต คำผรุสวาทสุดแสบอย่าง “ยัดแม่” หรือแม้แต่ ฉายาของตัวละครภายในเรื่องที่หยิบมาจากชีวิตจริง คำเหล่านี้ได้กลายเป็นองค์ประกอบสำคัญที่ตรึงผู้อ่านให้เกิดอารมณ์ขันอันร้ายกาจที่น้าชาติจงใจ มิหนำซ้ำ น้าชาติยังตลกร้ายด้วยการประกาศว่า ใครก็ตามที่ชื่อดันมาเหมือนกับตัวละครเหล่านี้จะถือว่าผู้นั้นลอกเลียน และอาจถูกฟ้องกลับด้วย (เอากับแกสิ)
ส่วนการดำเนินเรื่องที่เพื่อน ๆ ช่วยผลัดกันเล่าถึงวีรกรรมของแต่ละคน อาจทำให้เรื่องเคลื่อนไปช้า ๆ ไม่ซับซ้อนชวนหัว แต่การเล่าเรื่องแบบนี้ช่วยขับให้มิติตัวละครถูกเน้นให้มีความหลากหลายขึ้น และชัดเจนจนได้ภาพที่แจ่มชัด ดูเหมือนว่าคำพูดนี้สามารถฉุกให้ผู้อ่านประหวัดไปถึงคนรอบข้างที่ได้ชื่อว่า เพื่อน เป็นการเทียบเคียงว่า ใครบ้างที่มีพฤติกรรมแบบนวนิยายเรื่องนี้ ความสมจริงของเหล่าตัวละครที่โลดแล่น ชีวิตอันผาดโผนของพวกเขาทั้งผอง ล้วนถูกเปรียบกับโลกแห่งความจริงรอบตัวผู้อ่านอย่างอดเลี่ยงไม่ได้
เมื่อถึงวัยที่ต้องเลี้ยวเพื่อเลือกทางเดินสำหรับชีวิต วัยนี้เองที่ก้อนหัวใจมันฮึกเหิม พองโต วัยที่พร้อมท้าทายทุกสิ่งที่ตระหง่านขวางหน้า บางครั้งก็พลาดเพราะรู้เท่าไม่ถึงการณ์ บางครั้งต้องใช้สมาธิอย่างเต็มเปี่ยมเพื่อประคองมิให้ตกทาง บางครั้งสติและปัญญาเป็นส่วนช่วยให้รอดพ้นวัยอันตรายนี้ได้อย่างสง่า ภาคภูมิ ไม่ว่าจะเรียกสิ่งเหล่านี้เป็นอารัมภบทหรือปรัชญาใด ๆ ก็ตาม พันธุ์หมาบ้าได้ทำหน้าที่เป็นผู้นำทางโดยมีสิ่งข้างต้นเป็นตัวชี้นำ ส่องสว่างอยู่อย่างเพียบพร้อมแล้ว เหลือแต่เพียงแค่การเปิดอ่านเพื่อสัมผัสเจตนารมณ์อันแท้จริงที่เคลือบแฝงในตัวพันธุ์หมาบ้าเท่านั้น ที่รอผู้อ่านอยู่

ที่มาครับ......

http://kaawrowkaw.wordpress.com/2007/05/01/bookreview10/


----------------------------------------------------------------------------------


ชาติ กอบจิตติ เกิดเมื่อวันที่ 25 มิถุนายน พ.ศ.2497 ที่บ้านริมคลองหมาหอน ตำบลบ้านบ่อ อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรสาคร เป็นบุตรคนที่สอง ในจำนวนพี่น้องผู้หญิง 5 คน และผู้ชาย 4 คน รวมเก้าคน ชื่อเดิมคือสุชาติ แต่เขาเห็นว่าคนใช้ชื่อนี้กันมาก จึงเปลี่ยนมาเป็น "ชาติ" พ่อของเขาเป็นพ่อค้าขายเกลือเม็ด ส่วนแม่ขายของเล็กๆน้อยๆ ต่อมาพ่อก็ไปค้าทราย และขายของชำ

เขาเริ่มเรียนชั้นประถมที่โรงเรียนวัดใหญ่ บ้านปอ แล้วย้ายไปเรียนที่โรงเรียนเอกชัยในจังหวัดเดียวกัน เพราะไปอยู่กับยายชั่วคราว เมื่อพ่อไปค้าทรายที่ราชบุรี เขามาเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 7 ที่โรงเรียนปทุมคงคาเมื่อ พ.ศ.2509 โดยอาศัยอยู่กับพระซึ่งเป็นเพื่อนของอาที่วัดตะพาน หรือวัดทัศนารุณ มักกะสัน พอเรียนจบชั้นมัธยมศึกษาปี่สามแล้วก็เรียนต่อเพาะช่าง ในสาขาภาพพิมพ์ เนื่องจากเป็นคนชอบวาดรูป ชอบเขียนหนังสือ ฝันใฝ่ที่จะเป็นนักประพันธ์ เรื่องสั้นเรื่องแรก คือ เรื่อง "นักเรียนนักเลง" เขียนลงในหนังสืออนุสรณ์ปทุมคงคา 2512



เขาแต่งงานเมื่อ พ.ศ.2520 กับเพื่อนสาวที่เรียนจบเพาะช่างมาด้วยกัน ชื่อ รุจิรา เตชะศีลพิทักษ์ ซึ่งต่อมาได้ช่วยกันทำกระเป๋าไปฝากขายตามห้าง ซึ่งมีรายได้ดี เขาทั้งคู่ไม่มีบุตรด้วยกัน ปัจจุบันจึงใช้ชีวิตอยู่เงียบๆที่ไร่ในอำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา

ปัจจุบันเขาทำงานด้านการเขียนเพียงอย่างเดียว มีการแนะนำการเขียนหนังสือสำหรับผู้ที่สนใจ และเขาได้ตั้งสำนักพิมพ์ของเขาเอง ชื่อ สำนักพิมพ์หอน โดยเอามาจากชื่อ คลองหมาหอน บ้านเกิดของเขา


ผลงานและรางวัลที่ได้รับ

เรื่องสั้นเรื่อง ผู้แพ้ ได้รับรางวัล ช่อการะเกด และรางวัลชมเชยจากการคัดเลือกเรื่องสั้นดีเด่นประจำปี 2522จากสมาคมนักเขียนแห่งประเทศไทย
เรื่องสั้นกึ่งนวนิยาย เรื่อง ทางชนะ พ.ศ. 2522
นวนิยายขนาดสั้น เรื่อง จนตรอก พ.ศ. 2523
นวนิยายเรื่องคำพิพากษา พ.ศ. 2524
ได้รับรางวัลซีไรท์ ปี 2525 และพิมพ์เผยแพร่มากกว่า20 ครั้ง

เรื่องสั้นขนาดยาว เรื่องธรรมดา พ.ศ. 2526
รวมเรื่องสั้น ชุดที่ 1 มีดประจำตัว พ.ศ.2527
นวนิยายขนาดสั้น เรื่อง หมาเน่าลอยน้ำ พ.ศ. 2530
นวนิยายขนาดยาว เรื่อง พันธุ์หมาบ้า พ.ศ. 2531
รวมเรื่องสั้น ชุดที่ 2 นครไม่เป็นไร พ.ศ. 2532
นวนิยายเรื่อง เวลา พ.ศ. 2536
ได้รับรางวัลซีไรท์ เป็นครั้งที่ 2 ปี 2537

และได้รับรางวัลนวนิยายดีเด่นจากคณะกรรมการพัฒนาหนังสือแห่งชาติ กระทรวงศึกษาธิการ ประจำปี 2537 อีกด้วย

ความเรียง-บันทึก เรื่องราวไร้สาระของชีวิต พ.ศ. 2539
เรื่องสั้นขนาดยาว รายงานถึง ฯพณฯ ท่านนายกรัฐมนตรี พ.ศ. 2539
เปลญวนใต้ต้นนุ่น รวบรวมบทความที่เขียนลงในนิตยสาร สีสัน พ.ศ. 2546

และหนังสือที่ได้รับการแปลเป็นภาษาอังกฤษ ได้แก่
Mad Dogs & Co (พันธุ์หมาบ้า)
NO WAY OUT (จนตรอก)
และ TIME (เวลา)

หนังสือเรื่อง คำพิพากษา สร้างเป็นภาพยนตร์ เปลี่ยนชื่อเป็น "ไอ้ฟัก"

จาก คำพิพากษา วรรณกรรมซีไรต์ของ ชาติ กอบจิตติ มาเป็น ไอ้ฟัก เป็นการนำเสนอในมุมมองใหม่ ด้วยเรื่องราวความรักอันบริสุทธิ์ ที่เป็นรักต้องห้าม ระหว่างคนดีอย่างไอ้ฟัก และคนบ้าอย่างสมทรง ที่นอกจากสติไม่สมประกอบแล้ว ยังเป็นเมียของพ่อ ที่สังคมไทยรับไม่ได้ และร่วมกันประณาม พิพากษาไอ้ฟักว่าผิด จนไม่อาจจะอยู่ร่วมสังคมเดียวกันได้ และยังร่วมกันทำร้ายหนุ่มผู้มีรักอันบริสุทธิ์อย่างไอ้ฟัก

http://magnet.narak.com/collection/movies/thai/ai_fuck.shtml
หนังสือ 100 นักประพันธ์ไทย ผ.ศ. ประทีป หมือนนิล



ที่มาจาก....

http://www.noknoi.com/magazine/series.php?id=150[/color]

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: กระทู้แนะนำหนังสือน่าอ่านคับ
« ตอบ #19 เมื่อ: 03-03-2008 00:30:02 »





lostlamb

  • บุคคลทั่วไป
Jimmy Liao ชายหนุ่มผู้เคยป่วยเป็นลูคิเมีย และปัจจุบันเป็นนักเขียน นักวาด จิตรกร ผู้สร้างสรรค์ 'หนังสือภาพสำหรับผู้ใหญ่' (ไม่ใช่แบบนั้นหนาา) ออกมาหลายเล่ม และหลายเล่มก็ประสบความสำเร็จท่วมท้นในหลายๆประเทศ โดยภาพและลายเส้นของเขานั้นจะเน้นสีสันสดใสสวยงาม และแฝงไปด้วนความลึกซึ้งทางอารมณ์ คือ ผมรู้สึกเหมือนว่า รูปบางรูป เราจะมองให้มันเศร้าก็ได้ บางอารมณ์เราจะมองให้มันสดชื่นก็ได้น่ะครับ (ไม่รู้เป็นอยู่คนเดียวรึเปล่า) แล้วมันก็จะมีคำพูด หรือ สัญลักษณ์ต่างๆที่สะท้อนแง่คิดในชีวิตต่างๆลงไปด้วย ซึ่งแน่นอนว่า รวมทั้งเนื้อหาของตัวหนังสือและเรื่องราวในแต่ละๆเรื่องก็ด้วยเหมือนกันครับ


ป๋มชอบหนังสือของ Jimmy Liao มากๆเลยคับ อิอิ :m1:


ออฟไลน์ krappom

  • 人は誰でもそれぞれに悩みを抱えて生きる
  • เป็ดนักโพสมือดี
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7395
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1182/-23

ด้วยๆ
อยากมีส่วนร่วม  :m23:




เอาเรื่องนี้แล้วกัน เรื่อง โคะโคะโระ (kokoro)
ตอนแรกไม่อยากอ่านเลย เพราะรู้สึกว่ามันต้องเศร้าแน่ๆ
แต่อาจารย์บังคับอ่าน ก็เลยต้องอ่านไม่งั้นก็ไม่รู้จะเอาอะไรไปสอบ
พออ่านจนจบก็แบบว่าชอบแฮะ

ผู้แต่ง : Natsume soseki
ผู้แปล : ดร.ปรียา อิงคาภิรมย์ โฮะริเอะ กับ คุณกนก ศฤงคารินทร์

เนื่องจาก ..... นิยายเรื่องนี้ถูกเขียนขึ้นมานานมากแล้ว สำนวนที่ใช้จึงค่อนข้างยาก แม้แต่คนญี่ปุ่นเองก็ไม่ค่อยเข้าใจ ตัวอักษรคันจิ(อักษรจีนที่ใช้ในภาษาญี่ปุ่น)บางคำก็เลิกใช้ไปแล้ว การแปลเนื้อเรื่องออกมาเป็นภาษาไทยให้ใกล้เคียงกับต้นฉบับที่สุดจึงเป็นเรื่องที่ยากมากทีเดียว ต้องขอบคุณและชื่นชมในความพยายามและความตั้งใจ ของอาจารย์ปรียาและคุณกนก ที่แปลหนังสือเล่มนี้ออกมาจนสำเร็จ ให้คนไทยมีโอกาสได้อ่านกัน

ตัวละครหลัก ..... ของเรื่องมีไม่กี่คน ตัวหลักๆคือ ข้าพเจ้า(วะตาฉิ), เซนเซ, คุณหนู (โอโจ้ซัง) ซึ่งต่อมากลายมาเป็นภรรยา (อ๊กซัง)ของเซนเซ), เค, คุณนายเจ้าของบ้านที่เซนเซเช่า--แม่ยายของเซนเซในเวลาต่อมา, อาของเซนเซ

เซนเซ ..... อยู่ในโลกของความอ้างว้างโดดเดี่ยวเต็มไปด้วยความหวาดระแวงมานาน เซนเซมองว่าตนเป็นคนที่ไม่มีคุณค่า เซนเซไม่พยายามเปิดเผยบาดแผลที่อยู่ส่วนลึกในใจให้ใครรับรู้ ข้าพเจ้าผ่านเข้ามาในชีวิตของเซนเซโดยบังเอิญ แต่ตัวข้าพเจ้าเกิดความพึงพอใจในตัวของเซนเซ หมั่นที่จะมาพบพูดคุยกับเซนเซ ความสัมพันธ์ระหว่างคนสองพัฒนาขึ้นจนเซนเซไว้ใจที่จะเปิดเผยเรื่องราวต่างๆ ความลับในชีวิตของเซนเซที่ไม่เคยเปิดเผยให้ใครรับรู้มาก่อน รวมทั้งภรรยาของเซนเซ เซนเซตั้งใจว่าจะเล่าความลับนี้ให้กับใครซักคนก่อนที่จะตายจากโลกนี้ไป

ภายหลัง ..... จากจักรพรรดิเมจิสิ้นพระชนม์ เซนเซตัดสินใจตายตามจักรพรรดิเมจิ ก่อนเซนเซจะตายจากโลกนี้ เซนเซตัดสินใจเขียนจดหมายฉบับยาวเล่าความลับที่เป็นเหมือนหนามทิ่มแทงใจของเซนเซมาตลอดเวลา ให้เฉพาะข้าพเจ้าเท่านั้นรู้ และ กำชับไม่ยอมให้บอกเรื่องนี้แก่ใคร รวมทั้งภรรยาของเซนเซด้วยภายหลังจากที่เซนเซตายลง

สมัยที่ ..... เซนเซเป็นนักเรียน ภายหลังจากพ่อแม่ของเซนเซตายลง เซนเซไว้ใจอาที่ดูเหมือนเป็นคนที่ดีของเซนเซ เป็นคนดูแลมรดกของพ่อแม่ แต่สุดท้ายเซนเซถูกอาโกงจนเซนเซเชื่อว่า ไม่ว่าคนดีขนาดไหนเงินก็ทำให้คนเป็นคนเลวได้ เซนเซเริ่มไม่ไว้ใจผู้คน เซนเซย้ายมาอยู่บ้านเช่าของหญิงม่ายภรรยาทหาร และที่นี่เซนเซหลงใหลในตัวคุณหนูลูกสาวเจ้าของบ้านเช่า และหมายปองในตัวคุณหนู แต่ไม่กล้าเอ่ยปากสู่ขอ จนกระทั่งเคเพื่อนที่เซนเซชื่นชมมากเผชิญปัญหาในชีวิต เซนเซจึงชวนให้เคมาอยู่บ้านเช่าด้วยกัน ความสนิทสนมระหว่างเคกับคุณหนู ทำให้เซนเซเกิดความหวาดระแวง และ อิจฉาริษยาเคผู้ซึ่งปกติมีนิสัยดื้อรั้น และ เป็นคนพูดน้อย กลับไว้ใจเซนเซยอมสารภาพต่อเซนเซว่าชอบคุณหนู เซนเซกลัวว่าเคจะได้ครอบครองคุณหนูไปก่อน เซนเซกลับหักหลังเคโดยการรีบชิงเอ่ยปากขอคุณหนูจากคุณนาย คุณนายยอมยกคุณหนูให้เซนเซ แต่นี่เป็นเหตุผลทำให้เคตัดสินใจฆ่าตัวตายภายหลังจากรู้ข่าว

ถึง ..... เซนเซจะได้ตัวคุณหนูเป็นภรรยาแต่เซนเซกลับรู้สึกผิดที่เป็นสาเหตุให้เคต้องตาย และ ความผิดนี้เป็นปีศาจที่คอยหลอกหลอนเซนเซไปตลอดชีวิต

วรรณกรรมเรื่องนี้ ..... สะท้อนภาพของมนุษย์ที่มีความขัดแย้งในใจ มีความรัก โลภ โกรธ หลง มีความเห็นแก่ตัวเป็นพื้นฐาน แม้เรื่องนี้จะถูกเขียนขึ้นมานานมากแล้วก็ตาม แต่ภาพลักษณ์ของสังคมมนุษย์ในยุคปัจจุบัน ก็ยังคงวนเวียนอยู่ในกฎเกณฑ์ดังกล่าวนี้เช่นเดิม

http://www.numtan.com/book/index.php?page=2

ปล.ก๊อปพรีวิวของเขามาล้วนๆ  :m23:

ลป.ไม่มีหนังสือเป็นของตัวเอง ยืมหอสมุดอ่านเอา  :m23: :m23:




ปล. ใครอายุต่ำกว่าสิบแปดและหาซื้อไม่ได้ มาอ่านที่ห้องผมได้ครับ (ฮา)



งั้นน้องขอไปอ่านที่ห้องพี่ต้นได้มั้ยอ่ะ (ฮา)  :o8:




ออฟไลน์ M@nfaNG

  • ชีวิตคือการตรวจสอบ...
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4453
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +847/-18
 :m4: ชอบกระทู้นี้จัง มาแนะนำกันเยอะๆนะ
งานหนังสือคราวหน้ากระเป๋าฉีกแน่เลย หุหุ
จดอย่างเดียวเลย อิอิ
อยากแนะนำมั่งแต่ยังนึกไม่ออกว่าจะเอาเล่มไหนดี  :m23:

ออฟไลน์ ExecutioneR

  • จุ๊บ จู๊บบบบบ ~~ ♥
  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4243
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1722/-40
    • FB Page

ด้วยๆ
อยากมีส่วนร่วม  :m23:

เอาเรื่องนี้แล้วกัน เรื่อง โคะโคะโระ (kokoro)


อ๋อออ ผมรู้จัก ไอ้ที่เป็นกบต่างดาวจะยึดครองโลกและมีตัวนึงชอบหัวเราะ อะคุคุคุคุคุ ใช่มะ (ฮา)





ปล. ใครอายุต่ำกว่าสิบแปดและหาซื้อไม่ได้ มาอ่านที่ห้องผมได้ครับ (ฮา)



งั้นน้องขอไปอ่านที่ห้องพี่ต้นได้มั้ยอ่ะ (ฮา)  :o8:


ผมเอาเด็กหนุ่มๆอายุต่ำกว่าสิบแปดนะคับ ไม่ใช่ไม่ต่ำกว่าแปดสิบ อ่านผิดป่าวพี่ (ฮากว่า)

เด๋วเอามารีวิวอีก แต่ส่วนมากก้อหนังสือเก่าๆแหละคับ เพราะไม่ค่อยได้ซื้อเลย ช่วงนี้
เพราะผมจะเป็นประเภท "แ้ล้วแต่อารมณ์" สุดๆ
หนังสือนี่ ต้องเห็นปกและชอบ อ่านปกหน้า ปกหลัง คำนำ คำนิยม เรื่องย่อ แล้วขนลุก
นั่นแหละ ถึงจะยอมควักตังค์ 5555


ปล. ด้วยเหตุอันใดไม่ทราบ ผมไม่สามารถเข้ากูเกิ้ลได้ครับ เลยไม่สามรถเสิชหารูปมาแปะได้ -"- นอกจากนั้นยังมีเวบ มีเีดี่ยแชร์ แรปปิด และเกทะเล้นด้วย (ฮา) งง เข้าไม่ได้ตั้งแต่เมื่อคืนและ เน็ตห่วยจริงๆ  :a6:

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 03-03-2008 10:54:21 โดย ExecutioneR »

ออฟไลน์ life_fracture

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1874
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +518/-4


เรื่อง ไอเลิฟยู หนูรักแม่ (ญี่ปุ่น)   
ผู้เขียน ยูกิโกะ โอคาสากิ
แปล มณฑา พิมพ์ทอง
จำนวนหน้า 166
ราคา 85

เรื่องย่อ
เรื่องราวแห่งความรักอันประทับใจของครอบครัวหนึ่ง ซึ่งมีแม่หูพิการ พ่อเป็นคนปกติ และมีลูกสาวชั้นประถมฯ ที่อับอายเพื่อนเพราะถูกล้อจากการเห็นแม่ใช้ภาษามือสื่อสารกับเธอ อาซาโกะผู้เป็นแม่ได้พยายามทำให้ไอซึ่งเป็นลูกสาวเห็นคุณค่าของภาษามือ จึงตัดสินใจเข้าร่วมก่อตั้งคณะละครภาษามือที่มีแต่ปัญหามากมาย เพื่อพิสูจน์ให้ไอได้ภูมิใจในตัวเอง ไอเลิฟยูหนูรักแม่ เดิมเป็นภาพยนตร์ชื่อดังที่มีผู้ชมกว่าเจ็ดแสนคน และเป็นเจ้าของรางวัลมากมาย ทั้งได้รับการกล่าวขวัญว่า สร้างปรากฏการณ์แก่โลกด้วย ทีมงานผู้จัดทำและตัวแสดงนำเป็นคนพิการจริง

ที่มา -
http://www.blisspublishing.co.th/mambo/index.php?option=com_content&task=view&id=203&Itemid=55

เหลือบตาไปเจอหนังสือเล่มนี้ที่สำนักหอสมุดของมหาวิทยาลัย
ตอนกำลังชั่งใจว่าจะนอนต่อจนหอสมุดปิดดี
หรือจะกลับไปนอนต่อที่บ้านดี
พอเห็นว่าเป็นหนังสือที่เดิมต้นฉบับเป็นภาษาญี่ปุ่น
ก็เลยลองเปิดๆ ดูข้างในอย่างผ่านๆ
เพราะไม่ค่อยชอบอ่านหนังสือแปลญี่ปุ่น

จากเปิดเล่นๆ กลายเป็นว่านั่งอ่านอย่างจริงจัง

หนังสือเล่มบางๆ ที่ทำให้ซาบซึ้งถึงคำว่าครอบครัว
และความพร้อมทางร่างกายของคนกลุ่มหนึ่งที่เขามี "น้อย" กว่าเรา
แต่ความพร้อมทางจิตใจของเขากลับ "มากมาย" อย่างน่าอัศจรรย์ใจ

ออฟไลน์ ExecutioneR

  • จุ๊บ จู๊บบบบบ ~~ ♥
  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4243
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1722/-40
    • FB Page


เจอแล้วววๆๆๆๆ
อันนี้น่าอ่านมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกครับ มาใหม่ แต่ยังไม่ได้ซื้อเลย T__T

หนังสือที่ได้รางวัลมาแล้วมากมายและถูกนำไปทำเป็นหนังด้วย
เป็นรื่องราวของ.........

บรูโน เด็กชายวัยเก้าขวบกับครอบครัวต้องย้ายจากบ้านหลังใหญ่โตในเบอร์ลิน มาอยู่บ้านหลังเล็กๆนอกเมืองที่ถูกเรียกว่าเอาท์วิธที่มีแต่ความเงียบเหงา แต่เมื่อบรูโนมองออกไปนอกหน้าต่างห้องนอน ก็สังเกตเห็นคนกลุ่มหนึ่งซึ่งเป็นผู้ชายทั้งหมดตั้งแต่เด็กจนแก่อาศัยอยู่นอกรั้วบ้านไกลออกไป คนเหล่านั้นสวมชุดนอนลายทางเหมือนกันหมด และต้องอาศัยอยู่แต่ภายในรั้ว วันหนึ่ง บรูโนตัดสินใจเดินไปสังเกตการณ์แถว ๆ รั้ว และพบกับชมูเอลซึ่งนั่งอยู่ในรั้วอีกด้าน ทั้งคู่แตกต่างกันมาก บรูโนเป็นเด็กที่มีร่างกายสมบูรณ์ ช่างพูด ร่าเริง ขณะที่ชมูเอลเป็นเด็กเงียบขรึม หน้าตาเศร้าสร้อยและผ่ายผอม จากวันนั้นเป็นต้นมา บรูโนมักจะแอบไปพูดคุยกับชมูเอลพร้อมกับเอาอาหารและขนมไปให้ มิตรภาพริมรั้วของเด็กทั้งสองเริ่มงอกงามขึ้นเรื่อย ๆ ในสถานที่เหนือความคาดหมาย........

เห็นปุ๊บขนลุกปั๊บ น่าอ่านมากมายยยยย
ท่าทางจะซึ้ง เศร้า เหงา ได้ใจ
ราคาไม่แพง จำนวนหน้าไม่หนาคับ จำหน่ายโดย แพรว

 :oni2:

ปล. ใครซื้อแล้วขอยื้มหน่อยดิ่ เด๋วให้หอมแก้มทีนึง (ฮา)

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 03-03-2008 11:20:50 โดย ExecutioneR »

ออฟไลน์ ExecutioneR

  • จุ๊บ จู๊บบบบบ ~~ ♥
  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4243
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1722/-40
    • FB Page



เอาใจคนชอบแนวสืบสวนผจญภัย (แบบที่ไม่ใช่ฆาตรกรรม) กันอีกสักหน่อย
เรื่องนี้เป็นหนึ่งในเรื่องแรกๆที่เกี่ยวกับ Templar ที่ช่วงหลังๆนี้ออกมากันเกร่อมากกกกก
ออกแนวดาวินชีโค้ดไรงี้แหละครับ เกี่ยวกับศาสนา และคริสตจักร ซึ่งก็เป็นทางเลือกหนึ่งที่ไม่เลว

เรื่องย่อ : ขอไม่เล่า เพราะย่อแล้วก็ยังยาว 5555

ความน่าสนใจ : แว่บแรกที่เห็นก็คิดว่าน่าสนใจครับ เพราะมันจะอิง fact, place และ time ได้สมจริงตามแบบฉบับของหนังสือแนวนี้ (เหมือนที่พิพาทกันมาแล้วเรื่องของดาวินชี่โค้) ทำให้ดูเหมือนกับมันเป็นเรื่องจริงเหตุการณ์จริง และประวัติศาสตร์จริง และก็อย่างที่บอกว่ามันเป็นเล่มแรกๆๆในบรรดา Templar ทั้งหมดเลย มันจึงน่าดึงดูดใจพอสมควร (ตีพิมพ์ครั้งแรกออกมาเมื่อราวๆปีที่แล้ว) ซึ่งเมื่อเทียบกับตอนนี้ไปทางไหนก็เห็นแต่เกราะอัศวินเต็มไปหมด และผมก็เบื่อ เลยไม่ได้ซื้อเล่มอื่นมาอ่านอีก

เกร็ด : แน่นอนว่าได้ความรู้เยอะ การเล่าเรื่องสลับกันหลายๆตัวละครได้อย่างไม่น่าเบื่อ ถึงจะไม่พีคมากเหมือนเล่มอื่นๆ แต่ก็สนุก น่าติดตาม อ่านได้เรื่อยๆ มีลุ้นได้ตลอด แะมีปริศนาให้ขบคิดตามไปด้วยบ้าง

ดาว : 3.85 ดาว

ไม่เหมาะสำหรับ : คนไม่ชอบอะไรเกี่ยวกับศาสนาและประวัติศาสตร์ และการผจญภัยหาความจริงของพระเอกนางเอกตามแบบฉบับของ ดาวินชี่โค้ด

เหมาะสำหรับ : คนที่ตรงกันข้ามกับด้านบน

สำนักพิมพ์ : แพรว (อมรินทร์)

ออฟไลน์ ExecutioneR

  • จุ๊บ จู๊บบบบบ ~~ ♥
  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4243
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1722/-40
    • FB Page


วินทร์ เลียววาริณ นักเขียนแนวหน้าคนหนึ่งของวงการหนังสือไทยที่ไม่พูดถึงไม่ได้ และคงเป็นไปไม่ได้ที่นักอ่านคนไหนจะไม่รู้จัก เขาได้รางวัลซีไรท์ถึงสองครั้ง และมีผลงานหลากหลายมากถึงหลายสิบเล่ม (น่าจะประมาณสามสิบได้ ถ้าจำไม่ผิด) ผลงานของวินทร์จะมีตั้งแต่เรื่องสั้น นิยาย บทความ เนื้อหาสะท้อนสังคม การเมือง มนุษย์ มีทั้งเพื่อความบันเทิง อ่านเพลินๆ ปรัชญา แง่คิด ให้กำลังใจ และอื่นๆอีกมากมายหลากหลายแนว ซึ่งสามารถเลือกได้ทั้งแบบอ่านอย่างเพลินๆ และอ่านเอาซีเรียสถึงขั้นปวดหมอง


ตัวอย่างหนังสือ (ที่แค่ปกก็น่าอ่านแล้ว) ของวินทร์

ผมเองก็แค่ "ได้อ่านบ้าง" ครับ ไม่ถึงกับอ่านทุกเล่ม ถึงจะเป็นนักเขียนที่ชื่นชอบมากก็ตาม เพราะบางอันก็ไม่ใช่แนว บางอันก็จับแล้วขนไม่ลุก และที่สำคัญคือ เยอะมากกกกก ครับ ให้ซื้อทุกเล่มคงไม่ไหว (คล้ายๆของจิมมี่เหลียวเลย) ครั้งนี้ผมเลยจะแนะนำสักเล่มสองเล่ม



วันแรกของวันที่เหลือ : เป็นรวมเรื่องสั้นที่บางตอนก็มีแต่ภาพ บางตอนก็มีภาพเยอะ ตัวหนังสือน้อย บางตอนก็เป็นเรื่องสั้นเป็นเรื่องเป็นราวจริงๆ อ่านง่ายครับ สนุก ให้ข้อคิด ให้กำลังใจ และที่สำคัญ เล่มหนังสือสวยมากครับ คุ้มเงินจริงๆ ขอบอก



หนึ่งวันเดียวกัน : รวมเรื่องสั้นคล้ายกับข้างบนครับ ชอบเหมือนกัน



อำ : "อำ" เป็นหนังสือที่กวนตีนมากครับ ฮาได้อีก (ฮาแบบเจ็บๆ) เป็นรวมเรื่องสั้นที่เป็นเรื่องจริงๆ แต่จริงๆในที่นี้คือ คุณต้องหาให้เจอ ว่าเรื่องสั้น เรื่องจริง เรื่องเล่า หรือข้อเท็จจริงที่ผู้เขียนนำเสนอมานั้น ตรงไหนจริง และตรงไหน ที่ "อำ" ลองอ่านคำนำหรือปกหลังดูก็ฮาแล้วครับ บางตอนก็ทำให้โดนหลอกได้อย่างแนบเนียนทีเดียว (แต่บางตอนก็ไม่) อ่านหนังสือเล่มนี้แล้วจะทำให้เราจับผิดคนโกหก และรู้จักแยกแยะอะไรๆได้ดีขึ้นครับ (ฮา)

ปล. คุณวินทร์ไปแจกลายเซ็นต์ที่งานหนังสือทุกครั้งครับ ไปกี่ทีๆก็เจอ ^_^ มีบู๊ทอยู่ประจำ


ask

  • บุคคลทั่วไป


หนังสือของเหลียวจะมีหลายอย่างหลายเล่มมากกกกก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องราวที่จบสมบูรณ์ในตัวของมันเองอย่าง "ดวงตะวันส่องฉาย" (หรือที่รู้จักในชื่อ 'ผู้หญิงเลี้ยวซ้าย ผู้ชายเลี้ยวขวา') เรื่องราวแบบนิทานที่ให้ข้อคิดที่ลึกซึ้งอย่าง "ผู้ชายที่หลังรักดวงจันทร์" หรือ "เรื่องเล่าของชายผู้โชคดี" หรือแม้แต่ "ในใจ... ไกลกว่าสายตา" และ เรื่องน่ารักๆอ่านๆง่ายๆแต่ให้ข้อคิด อย่างเช่น "จังหวะชีวิต" หรือ "โปสการ์ดแทนความรู้สึก... ถึงเธอ" ไปจนถึงเรื่องขำๆอ่านเพลินๆ เด็กๆก็อ่านเข้าใจได้ไม่ยากอย่าง "ทำไม"


ฟ้าเคยอ่านสองเรื่อง เรื่อง"ผู้ชายที่หลงรักดวงจันทร์" กับ "เรื่องเล่าของชายผู้โชคดี"

สนุกดีค่ะ แต่พึ่งรู้ว่าเป็นของคนวาดคนเดียวกัน

stayingpower

  • บุคคลทั่วไป








ส่วนใหญ่ชอบอ่านแนวสืบสวนสอบสวนของ bliss อ่ะ (ชอบสวน คุค)
ไล่มาตั้งแต่ คินดะอิจิยอดนักสืบ 1-9 มีครบหมดล่ะ  เหลือเล่ม 10
ตอนนี้ยังม่ะมีกะตังค์ซื้อเลย ที่เชียงใหม่ก็ไม่มีเล่ม 10 ขายด้วย งงมาก
(BTS)


แต่ถึงจะชอบแนวนี้ แต่เฮียก็ไม่ชอบอ่านพวกคริสตี้เท่าไหร่อ่ะ ชอบอ่านทางฝั่งตะวันออกมากกว่า

นอกนั้นหนังสือที่ซื้ออ่านจะเป็นพวกการ์ตูน หนังสือบทสรุปเกมส์ หนังสือคอมฯไรงี้มากกว่า
ส่วนหนังสือพวก dude หรือ I AM GUY ก็ชอบอ่านนะ แต่ไม่กล้าซื้อ ดูดในเน็ตโลด หุหุ
(นอกเรื่องม่ะนี่)

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด