Chapter :: 19 :: สายรุ้งแซ่ก แซ่ก แซ่ก ...
When all the world is a hopeless jumble
And the raindrops tumble all around,เสียงรองเท้าแตะกระทบพื้นตามจังหวะก้าวเดิน
ดังใกล้เข้ามา
ใกล้เข้ามา..
Heaven opens a magic lane …ห่างออกไป
ห่างออกไป..
When all the clouds darken up the skyway
There's a rainbow highway to be found,ท่วงทำนองเดิมๆ
น้ำเสียงเดิมๆ
เวลาเดิมๆ
Leading from your window pane …ทุกวัน
ทุกวัน..
To a place behind the sunJust a step beyond the rain …“วันนี้เป็นยังไงบ้างครับ?”
“ดีฮะ”
“ยังรู้สึกเจ็บแผลอยู่หรือเปล่า?”
“บ้างครั้งฮะ”
“เดี๋ยวหมอขอตรวจดูหน่อยนะ”
“ฮะ”
ผมปล่อยให้หมอเจ้าของไข้ตรวจนั่นวัดนี่ในร่างกายผมตามสบายอย่างที่เคยทำทุกวันตั้งแต่ผมฟื้นขึ้นมาและพบว่าตัวเองอยู่ในโรงพยาบาลที่เคยมานอนคราวก่อน
ดูเหมือนทั้งผมทั้งคุณแม่จะตายยากยิ่งกว่าไส้เดือนที่เราเจอในแปลงดอกไม้วันนั้น..
“เรียบร้อยแล้วครับ เดี๋ยวให้พี่สาวพยาบาลช่วยเช็ดตัวและล้างแผลให้นะครับ”
“ฮะ”
“งั้นหมอต้องขอตัวก่อน เดี๋ยวเย็นๆ จะมาดูอีกรอบนะครับ”
“ฮะ”
“เช็ดตัวกันนะคะน้องเพชร” แล้วพี่สาวพยาบาลที่เห็นหน้าคร่าตากันอยู่ทุกวันเพราะเป็นพยาบาลพิเศษที่คุณป๋าจ้างมาก็เข้ามาดึงม่านรอบเตียงปิด
“พี่สาวฮะ”
“ว่าไงคะ?”
“ข้างห้องผมนี่มีเด็กอยู่ด้วยใช่ไหมฮะ?”
“เอ.. ไม่น่าใช่นะคะ แต่ถ้าเป็นห้องสุดท้ายทางฝั่งขวามือล่ะก็มีอยู่คนนึง”
“ห้องขวาสุด?”
“ค่ะ เป็นเด็กผู้ชายอายุสักเจ็ดแปดขวบนี่ล่ะค่ะ ชื่อน้องโม แกอยู่ที่นี่มาเกือบปีแล้ว”
“เกือบปี.. เป็นอะไรเหรอฮะ?”
“เอ้อ..”
“บอกไม่ได้เหรอฮะ?”
“ขอโทษนะคะ”
“ไม่เป็นไรฮะ ..ผมแค่ถามเฉยๆ”
“ท่าทางคุณป๋าดูเหนื่อยๆ นะฮะ ได้พักผ่อนบ้างหรือเปล่า?”
“ฮื่อ พักสิ เมื่อกี๊ยังนั่งหลับในคาบที่มีสอนอยู่เลย”
“แบบนั้นไม่ดีนะฮะ”
“ฮ่าๆๆ แล้วหนูเป็นยังไงบ้าง? ยังเจ็บแผลอยู่ไหม?”
“ไม่ค่อยแล้วฮะ ..แล้วอาการคุณแม่เป็นยังไงบ้างเหรอฮะ?”
“ยังไม่รู้สึกตัวเหมือนเดิมนั่นล่ะ..”
จากคริสต์มาสก็ล่วงเลยมาถึงปีใหม่..
ตั้งแต่วันนั้นจนถึงวันนี้คุณแม่ก็ยังไม่ฟื้นเลย
“ผมขอโทษนะฮะ”
“ไม่ใช่ความผิดของหนูหรอก” คุณป๋าเอื้อมมือมาลูบหัวผมอย่างอ่อนโยน แววตาอ่อนแสงลงมากจากอาการเหนื่อยล้าสะสมในช่วงหลายวันที่ผ่านมา..
ถ้าไม่ได้คิดไปเอง มันดูอ่อนแสงที่สุดเท่าที่ผมเคยเห็นมาเลยด้วยซ้ำ
อีกไม่นานหรอก..
อีกไม่นานแสงริบหรี่นั่นก็คงจะดับลง
ถ้าถึงวันนั้น..
“คุณป๋า..”
“เป็นความผิดของป๋าเอง ป๋าไม่น่าปล่อยให้หนูอยู่กับคุณแม่แค่สองคน มันเป็นความเห็นแก่ตัวของป๋าเอง”
“.........”
“ป๋าไม่น่ารีบพาคุณแม่กลับมาบ้าน ไม่น่า..ทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นเรื่องของหนูกับคุณแม่ ป๋า..ป๋าก็แค่อยากให้เราอยู่กันเป็นครอบครัว ป๋าอยากอยู่กับคนที่ป๋ารัก..ทั้งสองคน.. แต่ป๋า..ป๋าเกือบจะเสียทั้งหนูทั้งคุณแม่ไปพร้อมๆ กัน”
“.........”
“ป๋าขอโทษนะน้องเพชร.. ป๋าขอโทษจริงๆ..”
ถ้าถึงวันนั้น..
ผมจะเป็นยังไงนะ?
“ไงไอ้เปี๊ยก หมอเขาใกล้ให้กลับบ้านได้หรือยัง?”
“ไม่รู้เหมือนกัน”
“อะไรวะ?”
“นี่เพชร อันนี้เป็นเลกเชอร์กับไฟล์เสียงของเมื่อวานกับวันก่อนนะ ส่วนของวันนี้เรายังไม่ได้แกะเลย ถ้าแกะเสร็จแล้วเดี๋ยวจะเอามาให้นะ”
“ขอบใจ”
“ไม่รู้เมื่อไหร่เพชรจะได้กลับไปเรียนเนาะ อยู่กับไอ้แว่นสองคนโดนมันกวนประสาททั้งวัน น่าเบื่อมากกกก”
“มึงกล้าพูดว่าเบื่อกูเหรอ หล่อ?”
“เออ โคตรรรรรรรรรรเบื่อเลย”
“มึงเบื่อกู?”
“ใช่”
“มึงเบื่อกู?”
“ตกลงหูหรือสมองมึงมีปัญหาเนี่ย? กูก็เพิ่งบอกไปว่าโค..อุ๊บ..อื้อๆๆ ..อ่า..ไอ้เอี้ย! ไอ้..ฮึ่ย! ทำบ้าอะไรของมึง?! เพชรก็อยู่นะ!”
“อ้อ งั้นถ้าไอ้เปี๊ยกไม่อยู่ กูจะทำอะไรก็ใช่มะ? งั้นกลับหอกูกัน”
“เฮ้ย อะไรของมึงเนี่ย? ปล่อยเลย ปล่อยๆ เพชรดูไอ้โรคจิตนี่ดิ ไม่รู้วันนี้เป็นบ้าไร จ้องหาเรื่องเราทั้งวันเลย”
“ไม่ต้องฟ้อง มึงมานี่เดี๋ยวนี้เลย ไอ้หล่อไอ้บื้อ”
“ไม่! เพชรช่วยเราด้วย”
“จับได้เดี๋ยวปล้ำแม่ง”
“เฮ้ย อย่าเข้ามานะเว้ย เล่นเชี่ยไรไม่รู้เรื่อง นี่มันห้องคนป่วยนะ มึงเกรงใจเพชรมั่งได้ไหม?”
“เดี๋ยวเราปิดตาให้”
“เฮ้ยเพชร! ไหงงั้น”
“หึหึหึหึ มาไอ้หล่อ มึงหนีกูไม่พ้นหรอก”
“อย่านะเว้ย! เอี้ย! ไอ้แว่น ไอ้โรคจิต ไอ้โอตาคุโรคจิต กูบอกว่าอย่าเข้ามา ว้ากกกกกก”
“ฮ่าๆๆๆๆ”
“ก๊อก ก๊อก หลับหรือยังครับ?” พี่เยี่ยมหน้าระรื่นเข้ามาในห้องที่ปิดไฟจนหมดเกือบ เหลือไว้เพียงแค่ไฟในห้องน้ำเพื่อให้พอมีแสงสว่างรำไร
“พี่มาช้า” ผมเหลือบมองนาฬิกาก็เห็นว่าเกือบสองทุ่มครึ่งแล้ว
“ขอโทษครับ แต่พี่ถูกลากไปฉลองน่ะ จะปฏิเสธก็ไม่ได้ด้วยสิ” พี่วางกระเป๋าไว้บนโซฟา แล้วเดินมาหาผมที่นอนอยู่บนเตียง
“พี่มาช้า”
“แต่พี่ก็เอาแชมป์มาให้ตัวเล็กได้นะ” พี่ล้วงกระเป๋ากางเกง ดึงเหรียญกลมๆ สีทองมาคล้องคอให้ผม
“.........” ผมหยิบเหรียญนั่นมาดูใกล้ๆ
“สวยไหม?”
“ฮะ”
เหรียญสีทองสะท้อนแสงจันทร์ที่ส่องเข้ามาทางหน้าต่างที่เปิดม่านเอาไว้
“แล้วรางวัลของพี่ล่ะ?”
“.........” ผมเหลือบมองหน้ากรุ้มกริ่มของพี่ มองเหรียญ แล้วก็มองพี่อีกที
“พี่ยังจำได้น้า ว่าใครบางคนบอกจะให้อะไรบางอย่างถ้าพี่เอาแชมป์มาได้”
“.........”
“ตัวเล็กคงไม่เบี้ยวพี่หรอกใช่ไหม?”
“.........” ผมมองเหรียญ มองเชือกที่ใช้ต่างกระดุมในชุดผู้ป่วย
ก่อนจะค่อยๆ ใช้มือกระตุกเชือกออกทีละปม
“เฮ้ย! เดี๋ยวๆ ตัวเล็กจะทำอะไรน่ะ” แต่พี่ก็เข้ามารวบมือของผมเอาไว้
“ก็พี่ทวง.. ผมจำได้ฮะว่าเคยพูดอะไร”
“ฮ่ะๆๆ” พี่หัวเราะเบาๆ แล้วโน้มลงมาจุ๊บหน้าผากผม “พี่ล้อเล่น”
“.........” ผมลดมือลงไปกำเหรียญเอาไว้เหมือนเดิม
พี่ขึ้นมานั่งบนเตียงผม ใช้มือเขี่ยปอยผมที่หน้าผากของผมเล่น
“เอาไว้ตัวเล็กหายดีก่อนนะ”
“พี่จะกอดผมใช่ไหมฮะ?”
“อืม”
“กอดผมคนเดียวนะฮะ”
“ครับ”
“พี่เป็นของผมคนเดียวนะ”
“ครับ คนเก่ง”
“จูบผมสิฮะ” ผมปล่อยเหรียญแล้วยื่นมือไปให้พี่
“.........” พี่รับมือผมไว้ ก้มจุ๊บที่ปลายนิ้ว ไล่มายังหลังมือ เลยมาตามแขน หน้าอก ปลายคาง และบรรจบลงที่ริมฝีปากของผม
ด้วยคำพูด..
ด้วยร่างกาย..
ผมจะผูกมัดพี่เอาไว้
พี่ต้องเป็นของผมแค่คนเดียว..
“.........” ผมยืนมองร่างที่นอนสงบนิ่งอยู่บนเตียงของคุณแม่ ที่คอมีผ้าพันแผลพันเอาไว้โดยรอบเช่นเดียวกับของผม ในปากมีท่อช่วยหายใจ สองแขนเต็มไปด้วยสายระโยงระยาง เสียงเครื่องช่วยหายใจทำงานดังฟืดฟาดๆ ตลอดเวลา เครื่องตรวจวัดสัญญาณชีพทำงานดังตี๊ดๆๆ เคล้าคลอกันไป
“.........” ผมเอื้อมมือไปจับขั้วของท่อช่วยหายใจที่เชื่อมต่อกับตัวเครื่องช่วยหายใจอีกที
จับเอาไว้พักใหญ่
ตี๊ดดดดดดดด... เสียงเครื่องตรวจสัญญาณชีพลากยาว และเจ้าของร่างบนเตียงสีขาวก็ยังนอนนิ่ง
“.........” ผมก้มมองมือตัวเอง ท่อช่วยหายใจอยู่ในนั้น ขั้วมันหลุดออกจากตัวเครื่องแล้ว
แซ่ก แซ่ก แซ่ก ...
When all the world is a hopeless jumble
And the raindrops tumble all around,เสียงรองเท้าแตะกระทบพื้นตามจังหวะก้าวเดิน
เสียงท่วงทำนองอันคุ้นเคยดังใกล้เข้ามา
ใกล้เข้ามา..
Heaven opens a magic lane …เสียงนั้นเงียบลง..
ผมหันไปมองที่หน้าประตู ใครบางคนยืนอยู่ที่นั่น
เราสบตากันผ่านประตูที่แง้มอยู่
When all the clouds darken up the skyway
There's a rainbow highway to be found,เสียงเพลงและเสียงก้าวเดินดังขึ้นอีกครั้ง
ห่างออกไป
ห่างออกไป..
Leading from your window pane …ผมก้าวออกจากห้องนั้น..
ไล่ตามเสียงเล็กๆ นั้นไป
ไล่ตามแผ่นหลังเล็กๆ นั้นไป
To a place behind the sun ..ขาเล็กๆ ยังคงก้าวเดินในจังหวะที่สม่ำเสมอ
ขึ้นบันได..
ขึ้นบันได..
ขึ้นไปอีก...
Just a step beyond the rain …ขึ้นมาจนถึงดาดฟ้า..
“.........” เพราะฝนหลงฤดูที่เพิ่งหยุดตกทำให้พื้นดาดฟ้าเฉอะแฉะ
ผมก้าวเดินอย่างระมัดระวังด้วยขาที่ยังไม่หายเจ็บดี เด็กคนนั้นยกเก้าอี้เก่าๆ ผุๆ ไปวางข้างกำแพงดาดฟ้า และเอาอีกตัวที่มีสภาพไม่แตกต่างกันไปวางซ้อนกันอีก ก่อนที่เท้าเล็กๆ จะเหยียบขึ้นไป..
ปีนขึ้นไปอย่างทุลักทุก..
เด็กน้อยค่อยๆ ยืนบนกำแพงอย่างไม่มั่นคงนัก..
Somewhere, over the rainbow
Way up high
There's a land that I heard of once in a lullaby …เสียงเพลงดังขึ้นอีกครั้ง ในทำนองที่ต่างจากเดิมเล็กน้อย
เด็กน้อยหันมามองผม แล้วหันไปชี้อะไรบางที่อยู่ห่างออกไป
อะไรบางอย่างบนท้องฟ้า..
Somewhere, over the rainbow skies are blue
And the dreams that you dare to dream
Really do come true …สายรุ้ง..
สายรุ้งสีสวยสดใส
สายรุ้งที่ปรากฏขึ้นมาหลังฝนตก
Someday I'll wish upon a star and wake up where the clouds are far behind me
Where troubles melt like lemon drops away above the chimney tops
That's where you'll find me …เด็กน้อยหันมามองผมอีกครั้ง
พร้อมรอยยิ้มที่สดใส
พร้อมทำนองเพลงที่สดใส
Somewhere, over the rainbow blue birds fly
Birds fly over the rainbowเด็กน้อยกางแขนทั้งสองข้างออก
สายลมพัดโบกผมสีอ่อนและชุดคนไข้ปลิวไสวคล้ายกำลังจะบิน
แสงแรกสาดส่องผ่านหมู่เมฆครึ้มลงมากระทบผิวสีขาวซีด
ดูราวกับเรืองแสงได้
ราวกับพระเจ้า..
Why...then oh I can't Iแล้วเสียงเพลงก็ลับหายไป
แล้วร่างของเด็กน้อยก็ลับหายไป..
“...!!!...” ผมรีบวิ่งไปเกาะกำแพงดาดฟ้า ชะโงกหน้าลงไปดูที่พื้นเบื้องล่าง เห็นร่างเล็กๆ นอนอยู่ตรงนั้น ด้วยท่าทางซึ่งไม่ต่างจากตอนที่ทิ้งตัวลงไป สองแขนกางออก ใบหน้าเหม่อมองท้องฟ้า..
ท้องฟ้าที่มีสายรุ้งพาดโค้งเป็นทางยาว
สีแดงบนพื้นซีเมนต์ค่อยๆ ขยายวงกว้างขึ้น.. กว้างขึ้น..
ท่ามกลางความอื้ออึงของผู้คน
“มีคนตกตึก!!!”
“.........” ผมเงยหน้ามองสายรุ้ง
รอยยิ้มเล็กๆ จุดขึ้นที่มุมปาก..
“Somewhere, over the rainbow … way up high… there's a land that I heard of once in a lullaby..”
ริมฝีปากผมขยับเป็นท่วงทำนองเพลงที่ติดอยู่ในหัว ฮืมๆๆ
“Somewhere, over the rainbow skies are blue… and the dreams that you dare to dream… really do come true..”
ขณะที่ขาเล็กๆ กำลังพาร่างของผมก้าวลงบันไดทีละขั้น.. ทีละขั้น..
แซ่ก แซ่ก แซ่ก..
“ตัวเล็กไปไหนมา?”
ลงมาจนเกือบถึงชั้นที่อยู่ ก็เจอเข้ากับพี่พอดี
“ไปเดินเล่นมาฮะ” ผมค่อยๆ ก้าวลงไปหาพี่ทีละขั้น.. ทีละขั้น..
“งั้นกลับเข้าห้องกันเถอะ” พี่ทำสีหน้าแปลกๆ แต่ก็ไม่ได้ซักอะไรอีก
“ฮะ” ผมคล้องแขนที่พี่ยื่นมาให้แล้วก้าวเดินไปด้วยกัน
ปากก็ฮัมทำนองเพลงเบาๆ ฮืมๆๆ
“เพลงอะไรเหรอ?”
“ไม่รู้สิฮะ”
“หืม?”
“คนที่ร้องก่อนหน้านี้ก็ไม่อยู่ให้ถามแล้วด้วย”
“แล้วเขาไปไหนแล้วล่ะ?”
“บินไปแล้วฮะ..”
“เอ๋?”
Somewhere, over the rainbow blue birds fly …TBC. 
สำหรับคนที่ถามถึงแรงบันดาลใจในการแต่งเรื่องนี้.. ก็ไม่มีอะไรมากค่ะ แค่เขียนระบายอารมณ์ ฮ่ะๆๆ
ถ้าอ่านน้องเพชรแล้วมันเครียด แนะนำให้ไปหาน้องเก้าหลานปู่ดินเลยค่ะ

(คนละเก้ากับที่เคยโผล่มาในเรื่องนี้นะ)
[[เรื่องสั้น]] My Boyfriend is Grandpapa. ♥