เวลาก็เหมือนจงใจเดินเร็วขึ้นอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน บาริสต้าก้องและวิน ทำงานเข้าขากันอย่างดีในตอนค่ำของวันนั้น เป็นเรื่องที่น่าตกใจอยู่เหมือนกัน ที่ก้องเหมือนกลายเป็นเคลวินอย่างสมบูรณ์แบบ วินได้เห็นรอยยิ้มและเสียงหัวเราะที่อบอวลอยู่หลังบาร์นั้นทำให้หัวใจของวินพองโตเอามากๆ
สามทุ่มตรง หลังจากที่วินออกเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จแล้ว ก้องบอกเขาว่าให้ลงมารอที่บาร์ ซึ่งเมื่อเขาลงมาก็ไม่พบกับใครเลย วินหงุดหงิดเล็กน้อยที่ต้องนั่งรอก้องอยู่นานสองนาน
“หายไปไหนของเค้าวะ" วินบ่นออดแอดเบาๆ "หลอกให้รอป่ะเนี่ย"
ผ่านเวลาไปเกือบสี่ทุ่ม วินตากแข็งเป็นหินเมื่อซัดกาแฟไปแก้วที่สามแล้ว ความโกรธทวีความรุนแรงขึ้นเป็นสามเท่าตามแก้วกาแฟ แถมตอนนี้คนในบาร์ก็ค่อยๆหมดแล้วด้วย
“ไม่ไหวแล้วโว้ย" วินลุกขึ้นอย่างโกรธขึ้ง ก่อนจะเดินออกจากบาร์ไปยัง Lobby ทันที เพื่อขึ้นไปนอน หมอนี่ทำให้เขารออย่างไม่มีเหตุผลเพื่ออะไร วินคิดว่าถ้าก้องกัลบมาที่ห้องเมื่อไหร่ คงจะได้พ่นไฟใส่ให้สาสมกับเวลาหนึ่งชั่วโมงที่ให้เขารอด้วยความตื่นเต้นอยากรู้
“คงคิดว่าฉันอยากรู้เรื่องของนายมากสินะ" วินว่าขณะเดินผ่าน Lobby ”ถ้าไม่อยากเล่าให้ฟังก็ไม่ต้องมาทำให้อยากรู้กันเซ่"
“คุณวิน" เสียงอันคุ้นหูร้องทักขึ้นทันก่อนที่วินจะกดลิฟท์
“อ้าวจีโอ" วินทัก "หวัดดีคับ ยังอยู่โรงแรมอีกเหรอครับ"
“ใช่ใช่ ผมรอคุณอยู่อ่ะ" จีโอว่า
“รอผม" วินทำหน้าสงสัย "มีอะไรหรือเปล่าคับ"
“เรื่องเคลวิน" จีโอตอบ "คุณเห็นเค้าหรือเปล่า"
“ผมรอเค้ามาชั่วโมงนึงแล้วจีโอ เคลวินของคุณอ่ะ" วินว่ากลับด้วยความโมโห "เค้านัดผมไว้สามทุ่มที่บาร์ ผมนั่งดื่มกาแฟรอเค้าจนตาผมแข็งเป็นหินแล้ว"
“โอ้ จริงเหรอ" จีโอร้อง "เค้าหายไปไหนของเค้านะ ผมมีเรื่องสำคัญมากจะคุยกับเค้าด้วยอ่ะสิ แต่ผมก็อยากกลับบ้านแล้วเหมือนกัน"
“จะฝากผมไว้เหรอครับ ที่รอพบผมอ่ะ" วินถาม
“อ่อ ใช่ๆครับ" จีโอว่า "ฝากบอกเค้าทีว่า เรื่องสาขาของเมอร์เคียว ที่จะเปิดที่สตรัมเบิร์กเดือนหน้า ผมทำแผนธุรกิจให้เค้าแล้ว เหลือให้เค้ามาเซ็นรับทราบก็พอครับ ส่วนเรื่องอัตราส่วนการถือหุ้น ก็ให้เป็นไปตามที่ตกลงกันไว้ได้เลย"
วินฟังคำพูดของจีโออย่างไม่เชื่อหู ต้องมีการเข้าใจผิดอะไรแน่ๆ
“เดี๋ยวนะ" วินว่า "ผมตามไม่ทัน เมื่อกี้คุณว่าอะไรนะ"
“ให้ผมจดให้มั้ย" จีโอว่า "ยาวไปล่ะสิคุณวิน"
“ไม่ใช่คับ" วินว่า "เรื่องพวกนั้นอ่ะ หุ้นส่วนโรงแรมอ่ะ ก้อ...เอ้ย เคลวินเค้าเป็นหุ้นส่วนโรงแรมอะไรกับเค้าด้วยเหรอคับ"
“อ้าว นี่เค้าไม่ได้บอกคุณเหรอคับว่าเขาเป็นเจ้าของที่นี่อ่ะ" จีโอว่า "ผมนึกว่าคุณรู้แล้วซะอีก ที่มาพักที่นี่กะเค้าอ่ะ"
วินเหลือบตาไปมองบาร์ครั้งหนึ่ง
คืนนี้ฉันจะให้นายรู้เรื่องของชั้นไง....
วินหันกลับมาหาจีโอ
“คุณจีโอ" วินพูดเสียงแข็ง "ผมมีเรื่องจะคุยกับคุณ"
“ห๊ะ...” จีโอพูดเสียงตลก พลางตกใจที่วินมีสีหน้าเคร่งขรึมขึ้นมาทันที "ผ...ผมต้องรีบกลับนะ เดี๋ยวโดนอีแหม่มที่บ้านว่าเอาแน่เลย"
“รบกวนไม่นานหรอกคับ" วินว่า "เชิญในบาร์หน่อยคับ"
วินเดินนำหน้าเข้าไปอย่างไม่รีรอ พลางนั่งรงที่โซฟาที่ติดกับประตูที่สุด อย่างเร่งรีบ จีโอเดินเข้ามานั่งตาม พลางขยับตัวไม่เป็นสุข เมื่อสายตาของวินจับจ้องอย่างแข็งกร้าว
“ม...มีอะไรคับ" จีโอถามเสียงสั่น
“ผมอยากรู้เรื่อของเคลวิน......ทุกเรื่อง" วินว่า "ผมไม่สน ว่าเคลวินจะขอให้คุณพูดหรือไม่พูด แต่ผมต้องการรู้เดี๋ยวนี้"
“เอ่อ...คือ" จีโอพูด "ถ...ถ้าเคลวินรู้ผมก็ตายสิครับ"
“ถ้าคุณตายเพราะเค้า.....เดี๋ยวเค้าก็จะตายเพราะผมเอง" วินว่า "เมื่อวาน ผมก็ได้ยินที่เคลวินพูดกับคุณด้วย"
“โอ้...แรง" จีโอทำหน้าตลก ก่อนจะยิ้มแหยๆ "ผมล้อเล่นคุณอ่ะ...เรื่องหุ้นส่วนเมื่อกี้น่ะ"
“ผมไม่ตลกนะคับ" วินว่า "และผมก็ไม่เชื่อด้วย ว่ามันไม่ใช่เรื่องจริง"
จีโอถอนหายใจ พลางมองหน้าวิน สีหน้าแววตาแบบนี้ มันก็จริงอย่างที่เพื่อนเขาว่า จีโอผ่อนตัวลงก่อนจะนั่งประสานมือกันอย่างสุภาพ และมองหน้าวินกลับ
“เค้าบอกคุณเหรอ" จีโอว่า "เรื่องของเค้าอ่ะ ผมจะไม่เล่าอะไรทั้งนั้น เดี๋ยวผมซวยเอาจะยุ่ง"
“เค้าบอกจะให้ผมรู้วันนี้" วินว่า "ผมก็นั่งรอเค้ามาชั่วโมงนึงเลยจีโอ ถ้าเค้ามาหายตัวไปแบบนี้ ผมก็ไม่รอแล้ว...แล้วเมื่อกี้คุณก็พูดเรื่องที่ผมไม่เข้าใจเกี่ยวกับตัวก้อง...ก้อง เคลวินอีก ผม....”
“คุณเรียกเค้าว่าอะไรนะ" จีโอถาม "ชื่อเมื่อกี้อ่ะ"
“ชื่อไหนครับ" วินถามอีก
“ชื่ออีกชื่อที่คุณเรียกเคลวิน" จีโอถาม
“ก้องครับ" วินว่า "ก็เค้าชื่อก้องไม่ใช่เหรอ"
จีโอทำหน้าตกใจและเคร่งเครียดขึ้นมาทันที เค้าถอนหายใจอย่างรุนแรง พลางมองมาทางวินอย่างตระหนกกังวล วินรับรู้ถึงเรื่องบางอย่างที่น่ากลัว จีโอเป็นผู้ชายอามรณ์ดี อะไรก็ตามที่ทำให้อารมณ์ของเขาเปลี่ยนไปได้หวบห้าบขนาดนี้ได้ มันต้องไม่ใช่เรื่องเล็กแน่ๆ
“เขาไม่เคยลืมจริงๆสินะ" จีโอพูดขึ้น "มันเป็นอย่างนั้นจริงๆสินะ เค้าถึงกลับมาที่นี่.....”
วินนั่งฟังสิ่งที่จีโอพูดอย่างสงบนิ่ง เค้าไม่หวั่นกับความจริงใดใดองก้องอีกแล้ว
เพราะเดี๋ยวหมอนั่นต้องชดใช้เขาอย่างสาสมแน่ๆ
“เพราะคุณเองก็เหมือนเค้ามากจริง" จีโอว่าพลางถอนหายใจ "ถ้าผมเล่าให้คุณฟัง คุณจะบอกเค้ามั้ยเนี่ย ว่าผมเป็นคนเล่า"
“เล่ามาเถอะครับ" วินว่า "เพราะผมก็กะอยู่เหมือนกันว่าถ้าเค้าไม่เล่าเอง ผมจะหาทางรู้เองให้ได้อยู่ดี"
จักรยานคู่ใจของวิน ปั่นไปตามถนนของสตราส์เบิร์กในยามค่ำคืน แสงไฟสีเหลืองอันสวยงาม กลับยิ่งทำให้ถนนดูมืดหม่นลงไปอย่างไม่น่าเชื่อ วินสามารถจำทางไปยังโบสถ์เซนต์พอลได้อย่างแม่นยำ ด้วยอารมณ์ที่พลุ่งพล่านอยู่ตอนนี้ “เรื่องแรกเลยที่เค้าปิดบังคุณแน่ๆ ลองเป็นแบบนี้แล้ว ก็คือ...เคลวินเค้าไม่ได้ชื่อก้อง" จีโอพูด "เคลวินเป็นชื่อจริงของเค้า คนที่นี่เรียกเค้าว่าเคลวินกันทุกคน ก็อย่างที่คุณเห็น แต่ถ้าเป็นชื่อเล่นแบบคนไทย เค้าชื่อไกด์"
วินรู้สึกจำอะไรได้ขึ้นมาบางอย่างที่ย่านกลางเมืองของสตราส์เบิร์ก
“แล้วเค้าก็ไม่ได้เป็นพ่อครัวด้วยใช่ไหมครับ" วินถามต่ออีก
“อืมมมม เค้าก็เป็นนะ" จีโอว่า "เค้าทำอาหารเก่งขึ้นมาเลยตั้งแต่ย้ายไปปารีส"
“งั้นก็แสดงว่าเค้าเป็นคนที่นี่สินะคับ" วินถามอีก
“ก็ใช่.....เค้าเคยอยู่ที่นี่กับเคลลี่" จีโอพูด
“แฟนของเค้า" วินพูดต่อ "ผมเคยเห็นรูปถ่ายของผู้หญิงคนนี้ ในกระเป๋าของเค้า"
วินกัดฟันเพราะลมหนาวตีใส่หน้าขณะปั่นจักรยานขึ้นสะพาน มันเป็นเรื่องที่เขาไม่เคยรู้มาก่อนเกี่ยวกับเจ้าบาริสต้า ถ้าเขารู้ก่อนหน้านี้ อะไรๆคงเปลี่ยนแปลงไปเยอะมาก เขาไม่เคยมีความรู้สึกโกรธรุนแรงกับใครมากเท่านี้มาก่อน เขาต้องไปพอหมอนั่นเดี๋ยวนี้ “หือ.....” จีโอว่า "รูปเหรอ ผู้หญิงเหรอ ไม่ใช่แล้วๆ เคลลี่นะคุณไม่ใช่แคลลี่ เคลลี่เป็นผู้ชายนะคุณ"
วินทำสีหน้างงงัน
“อะไรนะครับ" วินว่า
“เคลลี่เป็นน้องชายของเคลวิน" จีโอว่า "ทั้งคู่ย้ายจากเมืองไทยมาอยู่ที่นี่...น้องชายของเขานั่นแหละ ที่ชื่อก้อง"
“อย่างงี้เองน่ะเหรอครับ" วินว่าพางกำหมัดแน่น "แล้วเค้าย้ายไปปารีสทำไม น้องชายเค้าไปไหนล่ะครับ"
“น้องชายเค้าเสียแล้ว เมื่อสองปีที่แล้ว" จีโอพูด "และนั่นแหละที่ทำให้เคลวินเค้าเป็นแบบนี้น่ะ"
วินจอดจักรยานอย่างลวกๆที่หน้าโบสถ์เซนต์พอล ก่อนจะเดินตัดตรงไปยังสุสานที่อยู่ด้านตะวันตกของโบสถ์ ทั้งหมดที่เขาต้องการตอนนี้ ก็คืออยากเห็นหน้าเจ้าบาริสต้าที่รู้จักดี หรืออย่างน้อยก็เคยรู้จักให้ชัดๆ เพื่อที่จะได้ตอบคำถามเขาให้ชัดเจน “เกิดอะไรขึ้นครับจีโอ" วินถาม "เรื่องที่เค้าไม่อยากให้ผมรู้ ที่บอกว่าผมเหมือนมาก เหมือนน้องชายเค้าใช่หรือเปล่า"
จีโอพยักหน้าทันที
“แต่นายเหมือนจริงๆนา" จีโอว่า
“เกิดอะไรขึ้นกับน้องชายเค้า" วินถามต่อ "ก...ก้องน่ะ"
“นายต้องเข้าใจก่อนนะว่า เคลวินกับเคลลี่ เค้าไม่เหลือครอบครัวที่ไหนอีกที่เมืองไทย" จีโอว่า "เท่าที่รู้ก็คือ ทั้งคู่ย้ายมาใช้ชีวิตที่นี่ คนพี่เป็นนักธุรกิจ สานต่ธุรกิจของครอบครัว คนน้องไม่สนใจอะไร อยากเป็นพ่อครัว อยากเปิดร้านอาหาร"
วินรู้สึกเหมือนมีคนเปิดสวิตซ์ไฟในสมองช้าๆ ทีละดวงๆ
“เมื่อก่อนเคลวินเป็นคนที่เข้มงวดกับน้องชายมาก เจ้าเคลลี่เองก็ตามใจพี่ชายจนบางครั้งชั้นก็คิดเหมือนกันว่านี่ตชีวิตเค้าเอง หรือชีวิตพี่ชายกันแน่" จีโอว่า "พี่น้องคู่นี้ชอบทะเลาะกันอยู่เรื่อย เรื่องบางเรื่องไม่เป็นเรื่องก็ยังทะเลาะกัน บางทีแค่เรื่องเลี้ยงข้าวกันมื้อนึงก็ยังทะเลาะกันเป็นตุเป็นตะ"
วินหลับตาลงครั้งหนึ่ง
“เค้าเสียยังไง" วินว่า "คุณเล่าได้ไหม"
จีโอถอนหายใจครั้งหนึ่ง
“โอเวอร์โดส" จีโอพูดเสียงสั่น "เคลลี่ติดโคเคนอยู่สองปี ตอนที่เค้าไปทำงานที่ปารีส"
“เป็นไปได้เหรอคับ" วินถาม "ไหนว่าไกด์เค้าดูแลดีไง"
“ใช่ เพราะดูแลดีไง ดูแลในแบบของเค้า" จีโอพูด "ถึงจะดูแลดียังไง จุดยืนของเคลวินไม่เคยเปลี่ยน เค้าไม่อยากให้น้องไปทำงานที่ปารีส แต่ผมก็เข้าใจเคลลี่นะ การได้เปิดร้านอาหารที่ปารีส คงเป็นอะไรที่สุดยอดในชีวิตเด็กคนหนึ่งนั่นแหละ เคลลี่ไปเรียนเอง อยู่เองที่ปารีสคนเดียว....อยู่แบบไม่มีที่พึ่งที่ไหน ไม่รู้จักใคร แล้วก็....ไม่ขอเงินจากเคลวินเลยซักเหรียญ"
ถึงตรงนี้ วินทรุดตัวลงเบาๆ
วินมองไปรอบๆสุสาน ที่มีแสงไฟสีเหลืองสลัวๆ ส่องไปจางๆ ที่มุมหนึ่งของสุสาน ร่างๆหนึ่งนั่งกอดเข้าอยู่ตรงั้น วินกำหมัดแน่น พลางเดินเข้าไปหาร่างนั้น “แล้วเค้าก็ไม่กลับมาที่นี่อีกเลย" วินพูดต่อ "จนกระทั่งผมมาอยู่กับเค้า"
“เค้าบอกนายเหรอ ว่าเค้าชื่อก้องน่ะ" จีโอพูด "เค้าทำแบบนั้นจริงๆเหรอ"
“เค้าไม่ใช่แค่บอกว่าเค้าชื่อก้องหรอกจีโอ" วินว่า "ที่ปารีส เค้าเป็นน้องชายของเค้า เค้าใช้ชีวิตอยู่คนเดียว ไปเป็นบารีสต้าอยู่ในร้านอาหารเล็กๆ เช่าห้องเล็กๆ จะกระทั่งผมเข้ามาในชีวิตเค้านั่นแหละ"
“กะแล้ว" จีโอว่า "เค้าหายไปจากที่นี่ มันต้องมีอะไรแน่ๆ ผมเองก็รับทำงานต่อจากเค้า ไม่มีเวลาตามหาเค้าเลย"
“ผมพอจะเข้าใจอะไรบางอย่างแล้วล่ะครับจีโอ" วินว่า "ขอบคุณมากที่เล่าความจริงให้ผมฟัง ผมสาบานว่าจะไม่บอกเค้า ว่าคุณเป็นคนเล่า"
“แหม ถึงยังไงเค้าก็รู้ว่าเป็นผมอยู่ดีแหละ" จีโอว่า "ผมเองก็ฝากบอกเคลวินเรื่องธุรกิจสาขาด้วยและกัน คุณจำทั้งหมดได้ใช่ไหม ไม่งงนะ"
“ได้ครับ" วินว่า "ไม่งงหรอก จริงๆแล้ว ผมก็เป็นนักธุรกิจคนนึงเหมือนกัน....เคลวินของคุณเค้าก็ไม่รู้เรื่องนี้หรอก"
“คุณสองคนนี่อยู่ด้วยกันมาได้ยังไงโดยไม่รู้จักกันจริงๆ" จีโอว่า "คุณไว้ใจเขาได้ยังไงกันนะ"
“ผมก็ไว้ใจไปแล้ว" วินว่า
“คุณคงเสียใจมากใช่ไหมเนี่ย" จีโอว่า "ผมทำลายความเชื่อใจเค้าของคุณหรือเปล่า"
“ก็ไม่ถึงขนาดนั้นอ่ะครับ" วินว่า "คงเป็นอย่างที่คุณว่า ผมคงเหมือนน้องชายเค้ามาก ตลอดเวลาที่อยู่ด้วยกัน เค้าคงดูแลผม เหมือนที่เค้าเคยดูแลก้อง"
จีโอมองหน้าวินครั้งหนึ่ง
“ถึงคุณจะเหมือนเค้า แต่คุณก็คือคุณนะ" จีโอว่า
“ครับ...ผมเข้าใจ"
มืออุ่นๆวางลงที่ไหล่ของไกด์เบาๆ เขาหันไปมองภาพสะท้อนของก้องที่แจ่มชัดอยู่ข้างๆ
“กลับกันเหอะ" วินพูดเบา "อากาศเย็นลงแล้วล่ะ"
“ขอโทษ" ไกด์พูด "ที่ให้นั่งรออยู่ตั้งนาน ไม่ได้ลืมนะ แต่ว่าลุกไปไม่ไหว"
วินยิ้มให้ครั้งหนึ่ง
“อื้อ" วินว่า "ก็ไม่ได้นั่งรอจริงจังอยู่แล้ว ใครจะไปอยากรู้เรื่องของนายวะก้อง บ้าแล้ว"
ไกด์ยิ้มให้วินเบาๆ
“ลุกได้แล้วค้าบ พรุ่งนี้ต้องกลับปารีสนะ" วินว่า
“โอเค" ไกด์ตอบ ก่อนจะลุกขึ้นทันที
วินเหลือบตามองป้ายหลุมศพนั้น
R.I.P
Kenly W.
1988 – 2008
“ฉันไม่ได้อยากมาแทนนายซักนิด" วินคิดในใจ "แต่พี่ชายนายคนนี้ ฉันจะดูแลต่อเองนะก้อง"
ความรู้สึกที่รุนแรงในหัวใจวินตอนนี้ มีแต่ความรู้สึกนี้เต็มไปหมด
….......