หลังจากที่ผมได้ซุ่มตามอ่านทู้นี้มาหลายวัน วันนี้เพิ่งได้มีโอกาสโพสตอบคุณตั้มสักที ยาวหน่อยนะครับ ถ้าขี้เกียจอ่านก็ข้ามไปวรรคสุดท้ายเลยก็ได้ครับ หุหุ
ผมว่านิสัยหลายๆอย่างของคุณตั้มคล้ายๆกับผมเลยครับ ช่วงที่ผมคบกับแฟนได้สองสามปีแรก
ผมเป็นเมะที่ขี้ใจน้อย+ขี้งอนแบบสุดๆ เผลอๆอาจจะยิ่งกว่าคุณตั้มตอนนี้ด้วยมั้ง แหะๆ
ประมาณว่าผมอยากจะเจอเค้าทุกวัน วันไหนนัดกันไว้แล้วเค้าเกิดติดธุระมาไม่ได้ ผมก็จะงอนจะเหวี่ยง
ก่อนนอนต้องโทรมากู๊ดไนท์ผมก่อน วันไหนไม่โทรผมก็จะเหวี่ยงใส่อีก โทรไปก็ต้องรับสาย จะไปไหนมาไหนก็ต้องโทรมาบอกผมก่อน พอตอนนี้ได้มองย้อนกลับไป นิสัยผมช่วงนั้นมันแย่มากจริงๆ
อาจจะเป็นด้วยความที่อายุผมกับแฟนห่างกันเกือบหกปี ผมเป็นแฟนกับเค้าตอนเค้าอายุ 15-16 ส่วนผม 20 ต้นๆ
เลยทำให้การมองโลกของเราค่อนข้างจะแตกต่างกัน ในตอนนั้นผมมักจะมองเค้าเป็นเด็กที่ผมต้องคอยดูแลทะนุถนอมอยู่ตลอดเวลา ส่วนเค้าจะมองว่าผมเป็นคนที่จู้จี้จุกจิก คอยแต่จ้องจะจับผิดเค้า เลยทำให้ชีวิตคู่ของเราต้องจบลงหลายครั้ง
แต่สุดท้ายเค้าก็จะเป็นฝ่ายกลับมาง้อผม และผมก็จะให้อภัยเค้าทุกครั้ง
ปัญหาของคู่ผมเริ่มรุนแรงขึ้นตอนที่เค้าเข้ามหาลัยฯ สังคมของเค้าใหญ่ขึ้น ต้องพบปะผู้คนมากขึ้น มีเพื่อนมากขึ้น
เค้าเลยมีเวลาให้ผมน้อยลงไปกว่าแต่ก่อน และด้วยความที่ผมเป็นคนขึ้เหงาและขี้น้อยใจเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว
เลยทำให้ตอนนั้นผมเกิดอิจฉาเพื่อนของเค้าซะงั้น เคยถึงขนาดบอกให้เค้าเลือกมาเลยว่าจะอยู่กับเพื่อนหรือจะคบกับผมต่อ
ตอนนั้นเค้าก็เลือกผมนะ ยอมติดต่อกับเพื่อนเค้าน้อยลง แต่พอผ่านไปสักเดือนสองเดือน
สุดท้ายเค้าก็เข้ามาบอกผมตรงๆว่าเค้าขอห่างกับผมสักระยะได้มั้ย เพราะเค้าอึดอัดมากเหมือนเค้าไม่เป็นตัวของตัวเองเลย
ไอ้ผมก็ด้วยความที่ขี้น้อยใจ เลยตวาดเค้าไปว่า "เออ จะไปไหนก็ไปเลย เราเลิกกันไปเลยก็ได้"
หลังจากนั้นก็เป็นผมเองที่ต้องมานั่งเสียใจกับการกระทำของผมเอง ตอนนั้นผมนอนร้องไห้ทุกคืนเลยครับ 555
ไม่เป็นอันกินอันนอน คิดถึงแต่เค้า จนสุดท้ายท้ายที่บ้านผมคงทนสภาพผมไม่ไหว เลยโยนหนังสือธรรมะมาให้ผมอ่าน
เลยทำให้ผมรู้ตัวว่า
สุดท้ายแล้วไม่มีอะไรที่เป็นของเราเลยสักอย่าง แม้กระทั่งตัวเราเอง เรายังห้ามไม่ได้เลยว่า อย่าเจ็บนะ อย่าป่วยนะ แล้วเราจะไปหวังให้คนนู้นคนนี้มาทำตามที่เราต้องการได้ยังไง
สุดท้ายผมก็กลับไปง้อ ไปขอโทษเค้า แล้วผมก็โชคดีมากที่เค้ายอมให้อภัยผม
หลังจากนั้นอะไรหลายๆอย่างทำให้ผมและเค้าต้องพยายามปรับตัวเข้าหากัน ถ้ายังอยากจะคบกันต่อไป
เรื่องไหนยอมได้ก็ยอมครับ เรื่องไหนคิดแล้วเราต้องมานั่งเสียใจ ก็ไม่ต้องมามัวนั่งคิด หาอะไรทำให้มันวุ่นวายๆไว้ แล้วเราก็จะเลิกฟุ้งซ่านเองครับ
พยายามทำปัจจุบันที่เรายังมีเค้าอยู่ให้ดีที่สุดดีกว่า เพราะในอนาคตเราก็ไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เราจะได้ไม่ต้องมานั่งเสียใจภายหลัง เพราะในทุกๆวันเราได้ทำดีที่สุดแล้ว
ปล.1 ความฝันคุณตั้มก็คล้ายๆผมเลย อยากมีรถ อยากจะมีคอนโดสักห้องที่เป็น "บ้าน" ของเราสองคน อยากมีอะไรหลายๆอย่าง
แต่ทั้งหมดนี่ไม่ใช่เพื่อตัวเองหรอกครับ เพื่อคนที่ผมรักต่างหาก บ้านผมมันก็ไม่ได้ร่ำรวยอะไร
ได้แต่หวังว่าสักครั้งในชีวิตจะได้พาคนที่ผมรักไปเที่ยวต่างประเทศ ได้กินอาหารที่ดีๆแพงๆ กับเค้าบ้างเนอะ
ปล.2 ลองหาเพลง "ที่ว่าง" ของพอสมาฟังแล้วนึกตามดูนะครับ จะได้ไม่ทะเลาะกันเพราะ "รัก" กันมากเกินไป
เป็นกำลังใจให้คู่คุณตั้มและคุณมิ้นท์คบกันได้ยาวๆนะครับ ส่วนคู่ผมต้องรอลุ้นปีหน้า คบกันครบ 7 ปี เค้าว่ากันว่าเป็นปีอาถรรพ์ ><
Edit : เอาเพลงมาแปะให้ครับEdit2 : เราก็ว่าละว่าทำไมหน้าตากะชื่อไอดีของคุณตั้มมันคุ้นๆจัง เลยไปรื้อเฟรนลิสใน MSN สมัยพระเจ้าเหาดู
เราน่าจะเคยคุยกัน แล้วก็เจอกันมาก่อนเมื่อสักประมาณหลายปีที่แล้วได้มั้ง(นานมากๆในช่วงที่การหาแฟนใน MSN กำลังเฟื่องฟู กร๊ากกๆ)