Unbelievable Love [END]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

โพลล์

ขอฝากหน่อย - ซาวเสียงคนที่อยากให้รวมเล่ม 'เป็นได้แค่ตัวแทน' และ 'ตัวจริงคือเธอ' อีกรอบ

รวมเล่ม
156 (88.1%)
เรื่องไรวะ ไม่รู้จัก 555+ (ดูที่ลายเซ็นคนเขียน)
21 (11.9%)

จำนวนผู้โหวตทั้งหมด: 152

โพลล์

รบกวนโหวตรวมเล่ม Unbievable+Unintentional อีกครั้ง TT_TT ขอโทษๆๆๆ

Unbelievable only
21 (8.5%)
Unintentional only
10 (4%)
Unbelievable + Unintentional
217 (87.5%)

จำนวนผู้โหวตทั้งหมด: 218

ผู้เขียน หัวข้อ: Unbelievable Love [END]  (อ่าน 849419 ครั้ง)

ออฟไลน์ rainbow67

  • Life is like a rainbow. You need both the sun and the rain to make its colors
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 242
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +763/-15
Unbelievable Love [END]
« เมื่อ11-08-2012 22:40:54 »

ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ

สรุปข้อสำคัญดังนี้



1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท, หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย, ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้งสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกเล้าฯ ในเรื่องการเมือง เชื้อชาติ  เผ่าพันธุ์  ศาสนา และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงการตั้งชื่อเรื่องด้วยคำหยาบ คำไม่สุภาพ  ล่อแหลม และชี้เป้าให้เล้าฯ ถูกเพ่งเล็ง จากทางราชการ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่นี่หรือที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อขออนุญาตเจ้าของเรื่องก่อนนะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าตัวไม่ยินยอม

5.ขอให้นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียว ถ้าเป็นเรื่องจริงก็ให้บอกว่าเรื่องจริง ถ้าเป็นเรื่องแต่งให้บอกว่าเรื่องแต่ง  ให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตามเพราะมีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6. การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insert quote ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมฯทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ


เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ
การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม

กรุณาอ่านเพิ่มเติมที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0




                           ♦♥♦♥♦♥♦♥♦♥♦♥♦♥♦♥♦♥♦♥♦♥♦♥♦♥♦♥♦♥♦♥♦♥♦♥♦♥♦♥♦♥♦♥♦♥♦♥♦♥♦♥♦♥♦♥♦♥♦♥♦♥♦♥♦♥♦♥♦♥♦



Unbelievable Love Index

Prologue 
Chapter One 
Chapter Two 
Chapter Three 
Chapter Four 
Chapter Five 
Chapter Six 
Chapter Seven 
Chapter Eight
Chapter Nine
Haven't We Met
Chapter Ten
You Again
Chapter Eleven  Part 1  Part 2
Chapter Twelve
Chapter Thirteen
The Day after Our First Night
Songkran Festival
Chapter Fourteen
Chapter Fifteen
Chapter Sixteen
Chapter Seventeen
Chapter Eighteen
Chapter Nineteen
Merry X'mas & Happy New Year
Epilogue



เจอกันที่ MEB

[attachment deleted by admin]
Share This Topic To FaceBook
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 18-12-2016 12:05:07 โดย rainbow67 »

ออฟไลน์ rainbow67

  • Life is like a rainbow. You need both the sun and the rain to make its colors
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 242
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +763/-15
Unbelievable Love : Prologue
«ตอบ #1 เมื่อ11-08-2012 22:47:13 »

UNBELIEVABLE LOVE

Prologue

 

 

“ไอ้พุ ทางนี้ๆ”

เสียงตะโกนโหวกเหวกโวยวายของพี่รหัสผมเองครับ อย่าว่าแต่ผมจะได้ยิน คนอื่นๆ ในร้านก็หันมาสนใจไอ้พุเป็นตาเดียว

ผมยิ้มแหยๆ ให้กับแขกคนอื่นๆ แล้วก็รีบเดินตัวลีบเข้าไปหาพี่แก “หูยย พี่พิท ไม่ประกาศออกไมค์ไปเลยล่ะ”

“เออ เอาไว้คราวหน้า เดี๋ยวกูทำ”

“ผมประโช้ดดดดด เข้าใจป่ะ ประชดอะ”

“ฮ่า ฮ่า ฮ่า” พี่พิทหัวเราะชอบใจ

ผมเห็นพี่แกนั่งอยู่คนเดียวก็เลยถาม “แล้วคนอื่นๆ ล่ะพี่”

“เฮียแพทกำลังมา พี่ปลายมาดึกๆ”

ไงล่ะ คล้องจองกันดีใช่ม้า น้องรหัสชื่อพุ พี่รหัสชื่อพิท ลุงรหัสชื่อแพท ยกเว้นแต่ปู่รหัสผมเท่านั้นทื่ชื่อ ปลาย เนี่ย เราสามคน คือ ผม พี่พิท และเฮียแพท ก็เคยคุยกันหลายครั้งแล้วว่าจะตัดพี่ปลายออกจากกองมรดก เอ้ย ออกจากกลุ่ม โทษฐานชื่อไม่คล้องจองคนอื่นๆ …แต่พี่ปลายแกหาข้ออ้างได้ว่า คำว่า พุ พิท แพท และปลาย ถ้าเขียนเป็นภาษาอังกฤษ ก็ใช้ตัว P เหมือนกัน พวกเราก็เลยหยวนๆ ให้ ยังไม่ตัดออกจากกลุ่ม คึคึ

นั่งกินกันไป คุยกันไปได้สักพัก เฮียแพทก็เดินเข้ามาพร้อมผู้ชายรูปร่างสูงใหญ่พอๆ กับเฮียแกอีกคน

“ไงไอ้แก่ ออกมาจากหลุมได้ซะทีนะมึง” มาถึงก็ไซด์เฮดร็อคผมเลย ไม่พอ เฮียแกยังดีดหน้าผากผมอีกทีก่อนจะปล่อย

ที่เฮียแพทเรียกผมไว้ไอ้แก่น่ะ ไม่ใช่ว่าผมหน้าแก่หรืออะไรนะครับ อย่าเข้าใจผิด ผมก็หน้าตาเหมือนเด็กปีหนึ่งทั่วๆ ไปแหละ แต่ที่ถูกเรียกว่าไอ้แก่ ก็เพราะผมไม่ค่อยจะออกมาสังสรรค์กับใครๆ เขาสักเท่าไหร่ อยู่แต่หอ ไม่ออกไปไหน เพื่อนเพิ่นก็ไม่ค่อยจะคบ ทำตัวเหมือนคนแก่ พวกพี่ๆ เขาก็เลยเรียกผมว่า ‘ไอ้แก่’ กัน

“ก็ผมต้องอ่านหนังสือบ้างอะไรบ้าง”

“ตอแหล เพื่อนมึงบอก มึงอะ โดดประจำ อย่ามาโกหก” เฮียแกด่า แล้วพี่พิทก็พลอยผสมโรงไปด้วย “แล้วมันนะ เขาติวเติวอะไรกัน มันก็ไม่ไปด้วยนะ”

“แต่ผมก็ไม่เคยสอบตกนะ” ผมรีบแก้ตัว รุมกูจัง

“ใช่เฮีย มันนี่แหละได้ A+ ของจารย์วิน ขนาดไม่ค่อยเข้าเรียนนะ” เจือกอีกแล้วพี่กู

“อ๋อ คนนี้เอง” เสียงไม่คุ้นเอ่ยขึ้น

ผมหันไปมองจึงรู้ว่าเป็นคนที่มากับเฮียแพทนั่นเอง “น้องกูบอกอยู่เหมือนกัน ไม่น่าเชื่อ อาจารย์คนนี้ แค่ A ธรรมดายังยากแล้ว ได้ A+ เนี่ย สุดยอด”

เฮียแพทเลิกคิ้วขึ้นข้างหนึ่ง โคตรเท่ห์อะ ผมชอบมาก พยายามทำเลียนแบบแต่มันไม่ได้ ทำทีไร คิ้วมันขึ้นทั้งสองข้างทุกที“จริงอะ”

“ครับ ออกตามที่อ่านเป๊ะเลย” มันจะไม่ออกตามที่อ่านได้ไง ก็ผมอ่านมันทุกบทเลย หลายรอบด้วย

คือ ผมไม่รู้ว่ามันจะออกอะไรไงครับ ตอนที่เขาเก็งข้อสอบกันก็ไม่อยู่ เลยอ่านมันหมดทุกบท อ่านจนอ๊วกอะ เคยเป็นกันป่ะ เวียนหัวไปหมด สอบเสร็จผมไข้ขึ้นเลย

“อ้าว งั้นวันนี้มึงก็ต้องเลี้ยงพวกกูดิ” เฮียแพทพูดยิ้มๆ แล้วก็นั่งลงข้างๆ ผม พร้อมกับจับหัวผมโยกไปมา เป็นอะไรกับหัวกูมากมั้ยเนี่ย เดี๋ยวดีด เดี๋ยวหมุน เดี๋ยวโยก กูเจ็บ เข้าใจมั้ย

ผมปัดมือใหญ่ๆ ของเฮียแกออก แล้วบอกกวนๆ “เลี้ยงได้ แต่ครึ่งเดือนที่เหลือ เฮียต้องเลี้ยงผมนะ”

“ผมด้วยๆ” พี่พิทขอแจม เห็นท่าทางพี่แกแล้วผมอดขำไม่ได้ “ติ๊งต๊องวะพี่ อายโต๊ะข้างๆ บ้าง”

พี่พิทแกก็หัวเราะขำตัวเอง แล้วก็มองหน้าเพื่อนเฮียแพท ก่อนจะถาม “แล้วนี่ใคร เมื่อไหร่เฮียจะแนะนำ”

“เออ ลืมไป นี่เพื่อนกู ไอ้อิฐ อยู่เศรษฐศาสตร์ปีสาม แล้วนี่ น้องกับหลานรหัสกู ไอ้พิทกับไอ้พุ”

พี่อิฐพยักหน้าทักทายยิ้มๆ ผมกับพี่พิทก็ยิ้มให้เช่นกัน เราคุยกันอยู่สักครู่ ส่วนใหญ่ก็จะเป็นเรื่องเรียน เรื่องกีฬาคณะที่กำลังจะถึง แล้วก็เรื่องไร้สาระอื่นๆ ผมรู้สึกปวดฉี่ แต่พยายามทน ไม่ยอมไป เพราะเวลากินเหล้าแล้วไปฉี่ แป๊บเดียวก็จะรู้สึกปวดอีก ต้องลุกบ่อยๆ

แต่ในที่สุดก็ทนไม่ได้ ไม่ไหวจริงๆ “พี่ ไปเข้าห้องน้ำก่อนนะ”

“ฝากด้วย” พี่พิทว่า ผมก็ได้แต่ส่ายหัว มันฝากกันได้รึไง ของแบบนี้

กว่าจะเดินฝ่าฝูงชนมาที่ห้องน้ำได้ก็แทบจะเยี่ยวราด ผมรีบเข้าไปทำธุระส่วนตัว แล้วก็เดินกลับ ไม่รู้ว่าเมาหรือเปล่า แต่เดินสะดุดขาตัวเองจะล้ม แล้วตามสัญชาตญาณผมยกมือขึ้นยันประตูห้องน้ำไว้ เพื่อช่วยพยุงตัวเอง แต่โชคร้ายประตูไม่ได้ล็อค ตัวผมซึ่งก็ไม่ใช่เล็กๆ เลยถลาตามเข้าไป

“โป๊ก!” เสียงประตูกระแทกใส่ศีรษะใครสักคน

“โอ๊ย!” เสียงร้องของผู้หญิง

“เฮอะ” เสียงผมเอง ตอนแรกจะร้องว่า เฮ้ย แต่เสียงมันขาดหายไปเมื่อได้เห็นภาพตรงหน้า

ชายหนุ่มหน้าตาดี ไม่อยากจะชมมันหรอกนะ แต่มันหล่อมาก หล่อแบบเถื่อนๆ อะครับ เห็นแล้วอิจฉา ไมกูถึงไม่หล่อแบบมันบ้างวะ กับผู้หญิงที่ไม่รู้ว่าหน้าตาดีหรือเปล่าเพราะเธอหันหลังให้ผม แต่สังเกตจากหุ่นแล้วก็น่าจะดีอะครับ

ผู้ชายนั่งอยู่บนโถส้วม ส่วนผู้หญิงนั่งอยู่บนตัวผู้ชาย ไม่ต้องอธิบายใช่มั้ยครับ ว่าเขากำลังทำอะไรกันอยู่

“มึงจะมองอีกนานมั้ย ปิดประตู!” เสียงตะคอกของผู้ชายคนนั้นทำให้ผมได้สติ

รีบปิดประตูให้มัน แล้วก็แจ้นกลับมาที่โต๊ะ ความมึนเมาทั้งหลายแทบจะไม่หลงเหลือ... เฮียแพทมองหน้าผมอย่างสงสัยแล้วถาม “เป็นไรมึง หน้าตาตื่น”

“ปะ เปล่า” ผมรีบปฏิเสธ แล้วก็รีบหาเรื่องมาคุย “เมื่อไหร่พี่ปลายจะมาเนี่ย”

“ใกล้ถึงแล้ว” พี่พิทบอก แล้วก็ชงเหล้าให้ผม

สักพักพี่ปลายก็มา เฮียแพทก็แนะนำให้รู้จักกับพี่อิฐ

แล้วพวกเราก็นั่งกินนั่งคุยกันไปจนเกือบจะห้าทุ่ม ผมก็บอกเพราะรู้ลิมิตตัวเองดี “เฮีย ผมไม่ไหวแล้ว ขอกลับก่อนนะ”

“เฮ้ย จะรีบไปไหนวะ พรุ่งนี้วันเสาร์นะ” พี่พิทโวยวายตามแบบฉบับของแก ยิ่งเหล้าเข้าปากก็ยิ่งดัง

“ไม่ไหวแล้วพี่ เดี๋ยวกลับบ้านไม่ได้” ผมบอก ลิ้นเริ่มจะพันกัน

“เดี๋ยวพี่ไปส่ง” พี่ปลายบอก

“ไม่ต้องพี่ เดี๋ยวผมไปส่งมันเอง” เฮียแพทแทรก

“พี่ไปส่งดีกว่า ทางเดียวกัน คอนโดนายอยู่ตั้งไกล เสียเวลาอ้อมไปอ้อมมา” พี่ปลายยังยืนยัน

ไม่รู้ว่าผมเมาหรือตาฝาด แต่เฮียแพทยิ้มที่มุมปากแล้วมองพี่ปลายเหมือนท้าทายก่อนจะบอก “ผมจะไปนอนห้องมันพอดี ขี้เกียจกลับ ไกล”

พี่ปลายยักไหล่เหมือนไม่เดือดร้อน “ตามใจ ถ้านายไม่ลำบาก”

“ผมไม่ลำบาก” เฮียแพทย้ำ

“แต่ผมลำบาก” อ้าว แค่คิดนะ ไหงมันถึงเสียงดังจัง

เฮียแพทหันมามองผมตาขวาง “ลำบากไรไอ้แก่”

“ก็เฮียไปทีไร ผมต้องลงมานอนพื้นทุกที ตัวโตยังกะควา-”

“เดี๋ยวกูเตะ เตียงมึงอะเล็กเอง กูออกจะหุ่นนายแบบ”

“เออๆ ขี้เกียจเถียงวะ ง่วงแล้ว ไปได้ยัง” ที่ไม่เถียงเพราะเฮียแกหุ่นดีจริงๆ ครับ นอกจากหุ่นดีแล้วยังหน้าตาดีด้วย สูสีกับไอ้คนที่อยู่ในห้องน้ำเลย เฮ้ย ไปคิดถึงมันทำไมวะ ไม่เอาๆ ไม่คิดๆ

“เป็นเชี่ยไรของมึง” เฮียแพทถามเมื่อเห็นผมสะบัดหัวไปมา

ผมส่ายหน้าปฏิเสธ แล้วเอาศอกเท้าโต๊ะ ส่ายไปส่ายมาก็ชักมึน “ไม่ได้เป็นไร ไปกันได้ยังอะ”

“รอเช็คบิลก่อนดิมึง พอจะไปก็เร่งยิกๆ เชียวนะ” เฮียแพทบ่นไป กระดกเหล้าไป

จะพากูกลับถึงบ้านมั้ยเนี่ย!

 

+++++unbelievablelove+++++

ขอบคุณที่ติดตามอ่าน แล้วเจอกันตอนต่อไป ^^
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 13-10-2013 01:56:35 โดย rainbow67 »

ออฟไลน์ rainbow67

  • Life is like a rainbow. You need both the sun and the rain to make its colors
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 242
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +763/-15
Unbelievable Love : Chapter One
«ตอบ #2 เมื่อ11-08-2012 22:56:35 »

UNBELIEVABLE LOVE

Chapter One

 

 

“ถือให้หน่อย”

สิ้นเสียงบอก กระเป๋าเป้ใบหนึ่งก็ถูกวางลงบนตักของผม

...อะไรวะ นี่มึงไม่คิดจะถามกูก่อนเลยใช่มั้ย

ตั้งใจจะบอกอย่างนั้นจริงๆ นะ แต่พอได้มองเจ้าของกระเป๋าเต็มตา ผมก็ต้องอึ้ง และยิ่งอึ้งขึ้นไปอีกเมื่อได้เห็นการแต่งกายของคนที่ยืนอยู่ข้างๆ เบาะรถเมล์ที่ผมนั่ง

ชุดนักศึกษามหาวิทยาลัย ผูกไทด์ ตราเดียวกันกับผม…

รุ่นเดียวกันนี่หว่า… ไอ้เราก็นึกว่ารุ่นเฮียแพท หรือไม่ก็พี่พิท เพราะลักษณะท่าทางมันไม่เหมือนเด็กปี 1 เลยสักนิดเดียว

ตัวสูง ไหล่กว้าง ผมทรงสกินเฮด หน้าตาไม่ต้องพูดถึง มันหล่อ ตอกย้ำด้วยสาวน้อยสาวใหญ่บนรถเมล์ที่แอบมองมาที่มันบ่อยๆ นี่ไง

พยายามไม่อิจฉา….แต่มันก็อดเอามาเปรียบเทียบกับตัวเองไม่ได้

ตัวเตี้ย หน้าเหียก นี่ถ้ากูดำด้วยนะ จบเลย

ความขี้เหร่ทั้งหลายทั้งปวงนี่ต้องโทษพ่อกับแม่ผมครับ

ส่วนสูง… พ่อเป็นคนสูงครับ ประมาณ 185 ส่วนแม่สูง 150 เอง พอผมเกิดมาก็ได้พ่อกับแม่มาอย่างละครึ่ง เลยสูงได้แค่ 170 แต่น้องผมดิมันได้พ่อมาเต็มๆ อยู่แค่ ม. 5 มันก็ 180 แล้ว

หน้าตา…พ่อผมไม่ค่อยหล่อ แต่แม่สวยมาก น้องผมมันหน้าเหมือนแม่ ส่วนผมหน้าเก้าสิบเปอร์เซ็นต์เหมือนพ่อ แล้วคิดว่าผมจะหน้าตายังไงล่ะครับ… ทีความสูงล่ะเอาไปหาร

เฮ้อ... เซ็งเป็ด เซ็งไก่ เซ็งห่าน

เซ็งมึงด้วยแหละ ผมคิดในใจแล้วก็มองค้อนไอ้คนที่ยืนอยู่ข้างๆ ถ้ามันหันมาเห็น มันคงคิดว่าผมบ้า

ไปดีกว่าก่อนที่ต่อมอิจฉาจะทำงานหนักกว่านี้ ผมคิด แต่จริงๆมันถึงป้ายที่ผมจะลงพอดี...

“อ๊ะ” ผมยื่นกระเป๋าคืนไอ้หล่อ แล้วก็เดินไปยืนรอแถวๆ ประตู

พอลงจากรถ เสียงเพลงจากมือถือก็ดังขึ้นพอดี เบอร์ในหน้าจอบอกว่าเป็นพี่ปลาย ผมกดรับแล้วรีบบอก “อยู่ข้างหน้าแล้วครับ”

[โอเค อยู่ร้าน BO นะ]

“ครับ”

วางสายจากพี่ปลายแล้วผมก็รีบจ้ำไปที่ร้านBO ตามที่พี่แกบอก... วันนี้พี่เขาจะพาผมมาเลี้ยงฉลองที่ได้ A+ วิชาของจารย์วิน ซึ่งตอนแรกผมก็ปฏิเสธไปแล้ว เพราะสงสัยว่าอีแค่ A+ ไมต้องเลี้ยงวะ ทำกะกูได้ทุนไปเยอรมัน แต่พี่แกก็ยืนยันอยู่นั่นแหละว่าจะต้องเลี้ยง ผมเลยไม่อยากขัดศรัทธา ยอมตกลง... แต่ที่จริง ชอบของฟรี คึคึ

 

“เบียร์นะ” พี่ปลายถาม แต่มือน่ะเทเบียร์ใส่แก้วให้ผมเรียบร้อยแล้ว 

นั่งกินกันไป คุยกันไป จนสามทุ่มกว่า เสียงเพลงจากมือถือของผมก็ดังขึ้น ผมมองเบอร์แล้วก็กดรับ

“ครับ”

[อยู่ไหน]

“อยู่กับพี่ปลาย”

[…….]

“ฮัลโหล”

[ที่ไหน]

“ร้าน BO ตรงห้าง CC”

[เดี๋ยวมึงขอตัวไปห้องน้ำนะ]

“ไปไมอะ”

[บอกให้ไปก็ไปเหอะน่า ไม่ต้องบอกพี่ปลายนะว่ากูโทรมา]

“ไมอะ”

[อย่าเพิ่งถาม ทำตามที่กูบอกก่อน]

“โอเค”

เสียง ตู๊ดๆๆ บอกให้รู้ว่าคนปลายสายกดตัดไปแล้ว

“ใครโทรมา” คนที่นั่งอยู่ด้วยเอ่ยถาม

“เพื่อนครับ” ผมโกหกไปตามที่เฮียแพทสั่ง ทั้งๆ ที่ไม่เข้าใจ

นั่งกินกันไปสักครู่ ผมก็บอก “เดี๋ยวไปห้องน้ำแป๊บนะครับ”

พี่ปลายก็พยักหน้าให้

ผมเดินไปเข้าห้องน้ำในห้าง เพราะร้าน BO อยู่ตรงด้านข้างของห้าง…

“เฮีย” พอเดินพ้นสายตาของพี่ปลาย ผมก็กดหาเฮียแพททันที “มีไรอะ”

[มึงอยู่ไหน]

“อยู่ในห้าง”

[เดี๋ยวมึงกลับบ้านเลยนะ ไม่ต้องกลับไปหาพี่ปลายแล้ว] เสียงเฮียแกร้อนรนแปลกๆ

“อ้าว ไมอะ”

[เดี๋ยวกูเล่าให้ฟัง ตอนนี้กลับบ้านก่อน]

“แต่กระเป๋ายังอยู่ที่โต๊ะ”

[เอ้า แล้วไมไม่เอามาด้วยวะ] ได้ยินเสียงถอนหายใจตามสไตล์พี่แก เวลาที่ไม่ได้ดังใจ

ผมชักสงสัยแล้วนะเนี่ย อะไรกันนักหนา “เฮ้ย เฮีย นี่มันเรื่องไรกันวะ ไมผมต้องให้ผมหนีพี่ปลายกลับบ้านด้วย”

เฮียแกถอนหายใจอีกละ [มึงรู้ใช่มั้ยว่าพี่ปลายเป็นเกย์]

“รู้” ตอนที่รู้ว่าพี่ปลายเป็นเกย์ผมก็เฉยๆ นะ ไม่ได้คิดอะไร ผมถามงงๆ “แล้วไง”

[วันนี้เขาไม่ได้ชวนพวกกูมาด้วย มึงรู้ใช่มั้ย]

“เขาบอกเฮียกับพี่พิทไม่ว่าง”

[ไม่ว่างเหี้ยไรล่ะ มันยังไม่ได้บอกกูซักคำ] เหี้ยเต็มหูเลย... สรุปที่โทรมาเนี่ย โมโหที่เขาไม่ชวน หรือยังไง งงนะเนี่ย

[มันชวนมึงคนเดียว เพราะมันกะจะกินมึง เข้าใจยัง] เสียงเฮียแกหงุดหงิดมาก

“อย่ามาอำ” ผมบอก ไม่เชื่อหรอก เฮียแพทบ้าไปแล้ว เออ ถ้าหน้าตาพี่ปลายแย่ๆ ก็ว่าไปอย่าง นี่ออกจะหล่อ สายผมเนี่ย มีผมนี่แหละ หน้าเหียกอยู่คนเดียว คนอื่นๆ เขาก็หล่อกันหมด

พี่ปลายหล่อแบบผู้ดี เฮียแพทหล่อแบบเซอร์ๆ ส่วนพี่พิทก็หล่อแบบตี๋อินเตอร์… แต่ละคนก็ฮ็อทๆ ทั้งนั้น แล้วพี่ปลายจะมาสนใจเด็กกะโปโลอย่างผมทำไม

ผมส่ายหัวทั้งๆ ที่รู้ว่าเฮียแพทไม่เห็น “คิดได้ไงเฮีย”

[ไอ้พุ นี่กูซีเรียส ถ้าไม่เชื่อ มึงเดินไปแอบดูก็ได้ กูว่าตอนนี้มันคงกำลังเอายาใส่ในแก้วมึงชัวร์]

ได้ยินเสียงจริงจังของเฮียแกแล้วผมก็ชักจะเริ่มเอนเอียงไปเชื่อเฮียแกละ แต่ก็ยังไม่มาก จนกระทั่งเห็นพี่ปลายกำลังหย่อนอะไรใส่ในแก้วผมนั่นแหละ ถึงกับอึ้งไปเลย เฮียแพท แม่ง เปลี่ยนอาชีพดีมั้ย

“ฮะ เฮีย” ผมเรียกเฮียแพทเสียงสั่น เป็นไปได้ไงวะ นึกว่ามีแต่ในหนัง

[มันทำจริงใช่มั้ย]

“อือ…” ผมตอบลอยๆ ก่อนจะได้ยินเสียงติ๊ดๆ พร้อมกับเสียงสบถของเฮียแพท [ชิบหายแล้ว แม่ง แบตจะหมด]

“เฮ้ย” พอรู้ว่าอีกฝ่ายจะไม่อยู่คอยกำกับแล้ว ผมก็ชักจะใจเสีย

[ไม่ต้องกลัว เดี๋ยวมึงนั่งแท็กซี่มาที่คอนโดกูนะ ไม่ต้องกลับไปหามันแล้ว]

“อะ โอ เค” เสียงผมสั่นอย่างควบคุมไม่อยู่ ทั้งๆ ที่พี่ปลายก็ยังไม่ทันได้ทำอะไรผมด้วยซ้ำ งงตัวเองมาก กูกลัวอะไรวะ

ได้ยินเสียงติ๊ดๆ อีกสองสามครั้งแล้วสัญญาณก็ขาดไป ผมรีบจ้ำจะออกไปเรียกแท็กซี่“ปึ๊ก”

“โอ๊ะ” แรงปะทะระหว่างผมกับคนที่กำลังเดินสวนเข้ามาทางประตู ทำเอาผมแทบหงายหลัง ดีแต่ว่ามีมือมารั้งไว้ แต่เสียงดุๆ ที่ตามมานี่สิ “เดินยังไงวะ ไม่...เป็นไร?”

ผมเงยหน้ามองคนถามแล้วก็ชักจะเชื่อทฤษฎีโลกกลม เพิ่งจะเจอกันเมื่อตอนเย็นนี่เอง ดึกก็ยังจะได้เจอกันอีก

“ทำไมหน้าซีด เป็นอะไร” ไอ้หล่อถามผมเสียงอ่อน

“ปะ เปล่า” พยายามบังคับเสียงไม่ให้สั่น แต่ก็ทำไม่ได้ อย่าว่าแต่เสียง ตัวยังสั่นเลย

ไอ้หล่อมันมองผมนิ่งๆ แป๊บหนึ่ง ก่อนจะพยุงไปนั่งที่ม้าหินหน้าห้าง แล้วบอก “สูดหายใจลึกๆ” และเมื่อผมทำตามมันก็บอก “นั่นแหละ สูดอีก เก่งมาก อีกที”

ที่ทำตามเนี่ยไม่ได้บ้ายอนะ แต่เป็นเพราะทำแล้วมันรู้สึกว่ามือค่อยๆ หายสั่นต่างหาก

“มือเย็นมากเลย จะเป็นลมหรือเปล่า” ไอ้หล่อมันจับมือผมไปบีบเบาๆ มือมันอุ่นดี นุ่มด้วย แต่ใหญ่กว่ามือผมอย่างเห็นได้ชัด

“พุ” ผมสะดุ้งกับเสียงเรียก หันไปมองที่มาของเสียงแล้วก็ตัวสั่นขึ้นมาอีก “เป็นอะไร”

“ปะ เปล่า” ผมตอบเสียงสั่น มองพี่ปลายหวาดๆ เผลอบีบมือไอ้หล่อจนมันสะดุ้ง “ทะ โทษ”

“ไม่เป็นไร” ไอ้หล่อบอก แล้วทำท่าเหมือนจะลุกขึ้น แต่ติดมือผมที่รั้งมันไว้ เราสองคนสบตากัน ไม่แน่ใจว่าสายตาผมที่แสดงออกไปเป็นแบบไหน จึงทำให้มันดึงผมเข้าไปกอดแล้วกระซิบบอก “ไม่เป็นไรแล้วนะ ไม่เป็นไรแล้ว”

“พุ” เสียงพี่ปลายอีกครั้ง “นี่ใคร เพื่อนเหรอ”

ผมส่ายหน้า กำลังคิดหาคำตอบ แต่ไม่ต้องแล้วเพราะไอ้หล่อมันตอบเองเลย “ผมเป็นแฟนพุ ชื่อเล่ย์”

พี่ปลายนิ่วหน้า แล้วจ้องมาที่ผม “จริงเหรอ”

ผมพยักหน้า ตอนนี้ เอายังไงก็ได้ ขอให้พ้นจากพี่ปลายไปก่อน

“พุน่าจะไม่สบาย เดี๋ยวผมพากลับบ้านก่อน” ไอ้หล่อ ซึ่งตอนนี้ผมรู้แล้วชื่อเล่ย์บอก แล้วพยุงผมให้ลุกขึ้น

“กระเป๋า” นึกได้พอดีว่าควรจะเอาตอนนี้ดีที่สุด

พี่ปลายยื่นกระเป๋าเป้สีดำที่สะพายอยู่ให้แล้วบอก “อยู่นี่ พี่หยิบมาด้วย กลัวหาย นึกว่าพุหนีกลับบ้านไปแล้ว”

เล่ย์รับกระเป๋ามาจากพี่ปลายแล้วบอก “ขอบคุณครับ”

…ส่วนผมก็ได้แต่ยิ้มแหยๆ รู้สึกเลยว่าปากสั่น

 

 

 

“…….เกิดจากอาการช็อค”

“แล้วเมื่อไหร่จะฟื้นครับ”

“หมอก็ไม่แน่ใจ แต่ไม่น่าจะเกินวันนี้”

เสียงคุยของคนสองคนลอยห่างออกไปเรื่อยๆ จนในที่สุดก็เงียบไป…  ผมลืมตาขึ้นช้า แล้วมองไปรอบๆ

…ไม่ใช่ห้องเรา

ผมค่อยๆ ลำดับเหตุการณ์ย้อนหลังที่พอจะจำได้

ผมไปกินเหล้ากับพี่ปลาย… เฮียแพทโทรมา… ผมชนกับไอ้หล่อ เออ ผมจำได้ละ มันชื่อเล่ย์… พี่ปลายมาเจอ… ไอ้เล่ย์พาผมมารอแท็กซี่… แล้วยังไงต่อ…

เสียงแกร๊กของลูกบิดที่ถูกหมุนทำผมหลุดจากภวังค์

“ฟื้นแล้ว?” คนที่เพิ่งเปิดประตูเข้ามาถามแล้วก็ชะโงกหน้าออกไปนอกประตู “ไอ้เล่ย์ แฟนมึงฟื้นแล้ว”

ใครแฟนใคร? ผมมองไอ้คนพูดงงๆ แต่ไม่ได้พูดอะไรออกไป... สักครู่ไอ้เล่ย์ก็เดินเข้ามาในห้อง “เป็นไงบ้าง?”

“สงสัยยังไม่หายช็อค” ไอ้คนไม่ทราบชื่อบอก เมื่อผมไม่พูด แต่นอนมองพวกมันตาปริบๆ

ไอ้เล่ย์เดินมานั่งข้างเตียงแล้วถาม “จำได้มั้ย เกิดไรขึ้น” แล้วมันก็ไม่รอคำตอบ เฉลยเอง “มึงเป็นลม กูเลยพามานี่ เพราะไม่รู้จักบ้านมึง”

อ๋อ เพราะอย่างนี้เอง ว่าแล้วทำไมจำอะไรไม่ได้เลย…

ผมพยุงตัวลุกขึ้นนั่ง และคำพูดแรกที่ออกมาจากปาก คือ “กระเป๋า” ก็ผมเพิ่งจะกดเงินมา ถึงจะไม่มากเท่าไหร่แต่ก็เป็นค่าขนมของผมทั้งเดือนเชียวนะ

“อยู่ข้างนอก” ไอ้เล่ย์บอก แล้วช่วยพยุงผมให้ลุกขึ้นนั่ง เรี่ยวแรงกูหายไปไหนหมดวะ แค่ลุกขึ้นนั่งนี่ถึงกับหอบเลย

พอลุกขึ้นนั่งได้ ผมก็วาดขาลงจากเตียงทันที แต่ไอ้เล่ย์มันจับไว้ก่อน “จะไปไหน”

“กลับบ้านดิ ขอบใจนะ”

“เดี๋ยวกูไปส่ง” ไอ้เล่ย์บอกพร้อมกับดันผมให้นอนลงไปใหม่ แต่ผมขืนตัวไว้ พร้อมกับสั่นศีรษะ “เกรงใจ กลับเองได้”

“มึงอย่าดื้อ ยืนยังจะไม่ไหว” มันบอกเสียงดุ หน้ามันแบบรำคาญเต็มที่เลย

อยากจะเถียงนะ แต่มันพูดถูก แค่นั่งเฉยๆ ยังไม่ค่อยมีแรงเลย

“กูว่า ให้มันกินอะไรก่อนดีกว่า แล้วค่อยพากลับบ้าน เดี๋ยวแม่งก็เป็นลมเป็นแล้งไปอีก” เสียงไอ้คนไม่ทราบชื่อบอกเพิ่งสังเกตว่ามันก็หล่อเหมือนกัน แต่คนละแบบกับไอ้เล่ย์ รายนั้นออกแนวฮาร์ดคอร์ ส่วนคนนี้ซอล์ฟหน่อย แนวคุณชาย

“เออ ดีเหมือนกัน สั่งให้หน่อย เอาพวกข้าวต้มนะ” ไอ้เล่ย์ถือโอกาสสั่งแล้วมันก็พยุงผมเดินออกไปนอกห้อง พาไปนั่งที่โต๊ะกินข้าวข้างหน้าต่าง

...วิวสวยมาก

นั่งรอสักพักก็มีคนมาเคาะประตู ไอ้คนไม่ทราบชื่อเดินไปเปิดแล้วก็รับถาดอาหารมาวางไว้ตรงหน้าผม แค่ได้กลิ่น เสียงท้องก็ร้องโครกคราก... ไอ้ท้องบ้าไม่ไว้หน้าเจ้านายเลย

หน้าร้อนวูบ ผมแอบชำเลืองมองคนที่ยืนอยู่ข้างๆ แต่มันก็เปิดผาครอบออกให้เฉยๆ ก่อนพยักหน้าให้ลงมือ แล้วเดินหายเข้าไปในห้องนอนที่ผมเพิ่งจะลุกออกมา…

กินไปได้ประมาณครึ่งถ้วย ไอ้เล่ย์ก็เดินกลับมา เปิดตู้เย็นหยิบน้ำมาเทใส่แก้วแล้วเอามาวางตรงหน้าผม... มองข้าวต้มในชามที่เหลือเพียงครึ่ง ก่อนจะเดินไปนั่งกับไอ้คนไม่ทราบชื่อ ที่กำลังดูทีวีอยู่

มันไม่ถามสักคำว่าเกิดอะไรขึ้น ทำไมผมจึงทำท่าตื่นๆ ตอนที่เจอกัน และทำไมผมจึงเป็นลม…

ผมควรจะโล่งอกหรือเปล่า ที่มันไม่สนใจ… แต่ทำไมต้องรู้สึกผิดหวังด้วยวะ

“ไปอาบน้ำก่อน เสื้อผ้าเตรียมไว้ให้แล้ว” ไอ้เล่ย์บอกหลังจากที่เห็นว่าผมกินเสร็จแล้ว

ผมส่ายหน้าปฏิเสธ “ไม่เป็นไร เดี๋ยวไปอาบที่ห้องก็ได้”

“ไปอาบ กูเหม็น” มันพูดทั้งๆ ที่ตามองทีวีอยู่

แล้วมันเกี่ยวไรกับมึงวะเดี๋ยวกูกลับเองก็ได้ ไม่จำเป็นต้องให้มึงไปส่งหรอก’ ผมแย้งในใจ แต่สุดท้ายก็เดินไปอาบน้ำตามที่มันบอก…

…กลายเป็นคนว่าง่ายไปตั้งแต่เมื่อไหร่นะเรา

 

เดินออกมาจากห้องน้ำ ผมหยิบเสื้อยืดคอกลมที่วางอยู่บนเตียงมาใส่... ตัวใหญ่มาก

ไม่เป็นไร ผมชอบใส่เสื้อตัวโคร่งๆ อยู่แล้ว แต่กางเกงนี่สิ…อุตส่าห์พยายามไม่คิดแล้วนะ แต่พอเห็นบ็อกเซอร์ที่วางอยู่บนกางเกงขาสั้นที่ไอ้เล่ย์มันเอามาเตรียมไว้ให้ ผมก็รู้สึกหน้าร้อนวูบวาบขึ้นมาทันที

จะอะไรซะอีก...  ก็ตอนฟื้นขึ้นมาบนตัวผมก็มีแค่เสื้อยืดกับกางเกงนอนสวมอยู่เท่านั้น บ๊อกซ่งบ๊อกเซอร์ไม่รู้อยู่ไหน

…แล้วกูจะอายทำไมวะ ผู้ชายเหมือนกัน

สลัดศีรษะไล่ความเขินอาย ผมหยิบบ๊อกเซอร์และกางเกงมาใส่ แล้วเดินออกไปนอกห้อง เห็นไอ้เล่ย์มันมองมาเลยถาม “เห็นเข็มขัดมั้ย”

มันชี้ไปที่โซฟาอีกตัวที่มันกับเพื่อนไม่ได้นั่ง มองตามไปก็เห็นเสื้อกับกางเกง รวมทั้งบ๊อกเซอร์พับไว้เรียบร้อย เข็มขัดนักศึกษาสีดำวางอยู่ด้านบน

ผมหยิบเข็ดขัดมาคาดเอวแล้วจับเสื้อผ้ายัดใส่กระเป๋าเป้ที่วางอยู่ใกล้ๆ กันส่วนไอ้เล่ย์ก็ลุกขึ้นยืน แล้วถาม “เอาไรป่ะ”

ผมหันไปมอง นึกว่ามันถามผม ก็เห็นมันเตะขาเพื่อนมัน “เฮ้ย ไอ้เกียร์ เอาไรมั้ย”

ไอ้คนที่ผมจะเพิ่งรู้ว่าชื่อเกียร์ส่ายหน้า ตายังมองทีวีอยู่ “ไม่เอา”

ไอ้เล่ย์พยักหน้าให้ผมเหมือนกับบอกว่า ‘ไป’ แล้วก็เดินไปหยิบหมวกกันน็อคแบบเต็มใบสีดำสนิทสองใบที่วางอยู่ตรงตู้เตี้ยข้างประตู ก่อนจะออกจากห้องไป

ตามมารยาทผมหันไปบอกไอ้คนที่กำลังดูทีวีอยู่ “ขอบใจนะ” มันก็หันมามองผมงงๆ แล้วบอก “เออ ไม่เป็นไร” ก่อนจะหันกลับไปสนใจภาพในจอทีวีต่อ

เดินออกมาจากห้อง เห็นไอ้เล่ย์กำลังก้าวเข้าไปในลิฟท์พอดี ผมเลยรีบวิ่งตามเข้าไป

 

ออกมาจากลิฟท์ ไอ้เล่ย์มันก็บอก “ไปรอข้างหน้า เดี๋ยวไปเอารถก่อน” แล้วก็ยื่นหมวกกันน็อคให้

ผมพยักหน้า แล้วไปยืนรอด้านหน้าของอาคารตามที่มันบอก พร้อมกับใส่หมวกกันน็อครอไปด้วย

ว๊าวววว… ความรู้สึกแรก ตอนที่มันขี่มอเตอร์ไซค์มาจอดตรงหน้า

ปกติผมก็ไม่ค่อยสนใจมอเตอร์ไซค์เท่าไหร่ คือ เห็นแล้วมันก็งั้นๆ อะนะ ยกเว้นแต่พวกรถใหญ่ๆ อย่างพวกฮาร์เล่ย์ นั่นแหละผมถึงจะเรียกว่าสวย แต่คันนี้ คันที่ไอ้เล่ย์ขี่มา… สวยมาก เห็นแล้ว ชอบเลย

เป็นรถผู้ชาย สีดำสนิทเกือบทั้งคัน แต่มีลูกเล่นตรงแม็กซ์สีทองแดงนี่แหละ สวยดี... อย่าว่าแต่ผมเลยครับที่ชอบ คนเดินไปเดินมาแถวนั้นต่างก็หันมามองกันทุกคน

“จะมองอีกนานมั้ย ขึ้นมา!” ได้ยินเสียงกระชากๆ ของมัน ผมเลยต้องรีบขึ้นคร่อมโดยอัตโนมัติ เพราะตอนที่มันบอก ‘ขึ้นมา!’ ผมดันไปคิดถึงตอนที่มันบอก ‘ปิดประตู!’ ตอนที่เจอกันครั้งแรกเฉยเลย

...ดีที่สวมหมวกไว้ ไม่งั้นมันคงเห็นว่าหน้าและหูของผมแดงขนาดไหน

 

“จะดึงเสื้อทำไม จะกอดก็กอด กูอนุญาต” ไอ้เล่ย์มันหันมาบอก ตอนติดไปแดง “แล้วกระเป๋า ใส่ไรไว้ กูเจ็บหลัง”

ผมเปิดกระเป๋าที่เอาวางไว้ข้างหน้าดูของข้างใน ก็เห็นแม็กซ์เย็บกระดาษ กรรไกร กล่องดินสอ เต็มกระเป๋าไปหมด เลยจะจัดใหม่ แต่ไอ้เล่ย์ มันก็ชิงบอกก่อน “จะเขียวแล้ว สะพายหลังไป”

รถออกตัวอีกครั้ง ผมเอาเป้มาสะพายหลัง แต่ยังคงจับชายเสื้อมันไว้เหมือนเดิม แต่เพราะรถที่นั่งอยู่เป็นรถผู้ชาย เบาะคนซ้อนจะสูงกว่าเบาะคนขี่ ตัวคนซ้อนก็จะเอนไปทางคนขับ ผมนั่งเกร็งไปสักพักก็ไม่ไหว ประกอบกับมันขับรถเร็วมาก ฉวัดเฉวียน แซงซ้ายป่ายขวา

มึงจะพากูกลับถึงบ้านมั้ยเนี่ย!

ในที่สุดผมก็ต้องยอมแพ้ เอนตัวไปกอดเอวมันไว้ รู้สึกเหมือนได้ยินมันหัวเราะเลย แต่คงจะหูแว่ว เพราะเสียงลมเสียงท่อไอเสียดังลั่นไปหมด ถึงมันหัวเราะจริงๆ ก็คงไม่ได้ยินอยู่ดี

 

และแล้วมันก็พาผมมาถึงบ้าน… เย้ กูรอดแล้วโว้ย!!!

อยากจะลงไปเต้นแรพให้คนแถวนั้นดู แต่ขาสั่นเลยทำไม่ได้นอกจากหันไปบอกคนมาส่ง “ขอบ..” แต่ไม่ทัน มันไปโน่นแล้ว “..คุณนะ”

“รีบขนาดนั้นไม่ต้องมาส่งก็ได้นะ” ผมบ่นงึมงำให้มดแมวแถวนั้นฟัง แล้วหันหลังเดินขึ้นหอพัก ที่ติดปากเรียกว่าบ้าน

และเมื่อเข้าไปในตัวอาคาร เสียงเฮียแพทก็ดังมาก่อนตัว “ไอ้พุ! มึงหายไปไหนมา เขาตามหากันให้ทั่ว”

“เฮ้ย เฮีย เบาๆ ดิ ตะโกนทำไม” ผมบอกด้วยเกรงใจคนแถวนั้นที่หันมามองเป็นตาเดียว

“มึงจะไม่ให้กูตะโกนเหรอ มึงหายไปเป็นวัน เนี่ยกูจะไปแจ้งความอยู่แล้ว” เฮียแพทยิ่งแหกปากหนักขึ้นกว่าเดิม ผมเลยต้องรีบบอก “เฮีย ใจเย็นๆ เดี๋ยวไปคุยกันบนห้องดีกว่า คนมองเต็มแล้ว”

แล้วผมก็ลากเฮียแพทเดินขึ้นห้องที่อยู่ชั้นห้า... ที่ต้องขึ้นบันไดเพราะมันถูก ก็เลยไม่มีลิฟท์

กว่าจะขึ้นมาถึงชั้นที่ผมอยู่ก็เดินกันเหงื่อตก พอเปิดประตูเข้าห้องได้ เฮียแพทก็ใส่เลย “เล่ามา มึงไปอยู่ทีไหนมา เสร็จไอ้ปลายไปหรือยัง”

“ย๊างงง” พูดถึงพี่ปลายแล้วก็ขนลุก ผมเล่าให้เฮียแพทฟัง ตั้งแต่ต้นจนจบ แล้วเผอิญเห็นมุมปากเขียวๆ ของเฮียแกพอดี “แล้วนี่เฮียไปทำไรมา ไมปากแตก”

“ไม่มีไร” เฮียแพทว่าพร้อมกับแตะแผลตรงมุมปากเผลอๆ แล้วโยกหัวผมเหมือนมันเขี้ยว “มึงไม่เป็นไรก็ดีแล้ว”

เห็นหน้าตาท่าทางโล่งอกโล่งใจของเฮียแกแล้วผมก็ยิ้มออกมา “ขอบคุณนะเฮีย” รู้สึกอุ่นใจเหมือนมีพี่ชายเลย “ว่าแต่เฮียรู้ได้ไงว่าพี่ปลายแกจะทำยังงั้น?”

“มึงไม่ใช่คนแรก” เฮียแพทบอก แล้วให้เหตุผล “กูถึงไม่อยากให้มึงไปไหนมาไหนกับมันสองต่อสองไง” ก่อนจะเสริมขำๆ “แบบมึงเนี่ย สเป็คมันเลย”

“ห๊ะ?” ผมทำตาโต แล้วยิ้มแหยๆ “รสนิยมประหลาดดีเนอะ”

“ฮ่า! ฮ่า! ฮ่า!” เฮียแพทหัวเราะก๊าก แล้วพยักหน้าเห็นด้วย “มันชอบของแปลกฮ่า! ฮ่า! ฮ่า!”

เออ รู้ตัวดีว่าหน้าตาแย่ แต่ไม่ต้องสนับสนุนขนาดนี้ก็ได้...

ผมทำหน้ายู่ “หัวเราะอร่อยไปมั้ย ไว้หน้ากันบ้างก็ได้”

“ฮ่า! ฮ่า! ฮ่า!”

จะหัวเราะตอกย้ำปมด้วยผมอีกนานมั้ย “เฮีย กลับบ้านไปเลยป่ะ!”

“ฮ่า! ฮ่า! ฮ่า!”

สรุปวันนั้น เฮียก็ไม่ยอมกลับบ้าน ผมเลยต้องระเห็จมานอนที่พื้นอีกตามเคย เพราะเฮียแกอ้างว่าผมทำให้แกเป็นห่วง ดังนั้นผมต้องนอนพื้น เสียสละให้แกนอนเตียง

...ได้ข่าวว่า มาทีไรเฮียก็นอนเตียงทุกทีนะ ไม่ได้เกี่ยวกับเรื่องห่วงไม่ห่วงเล้ย

 

+++++unbelievablelove+++++

ขอบคุณที่ติดตามอ่าน แล้วเจอกันตอนต่อไป ^^
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 13-10-2013 01:57:50 โดย rainbow67 »

ออฟไลน์ RoseBullet

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1027
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +108/-2
Re: Unbelievable Story
«ตอบ #3 เมื่อ11-08-2012 23:37:19 »

ไม่รู้ทำไมอ่านเรื่องนี้แล้วอมยิ้มไปตลอด ฮ่าาาา
รู้สึกน้องพุจะเสน่ห์แรง (มว๊ากกกก) นะคะ *กรี๊ดดดด*
หนุ่มหล่อกี่คนๆที่เข้ามารู้จัก ก็แลดูเหมือนจะตกหลุมน้องทุกคนเลย ชอบอ่ะ
แบบนี้มิเกิดศึกชิงนายระดับประเทศขึ้นเลยเรอะ?!
ว่าแต่พี่ปลายนี่แกคิดจะงาบน้องพุจริงง่ะ มีใส่ยาในน้ำด้วย
เฮียแพทก็แสดงความเป็นห่วงแบบมากๆ ส่วนนายเล่ย์ก็สมอ้างเป็นแฟนแถมดูแลดี๊ดีอีก
โฮะๆๆๆ อยากอ่านต่อมั่กๆ รอดูว่าจะเกิดเหตุการณ์อะไรต่อไป สนุกมากเลยจ้าาาา

ออฟไลน์ jimmyFG

  • Ich Liebe dich.
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2276
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +203/-4
    • @Facebook
Re: Unbelievable Story
«ตอบ #4 เมื่อ11-08-2012 23:50:57 »

เกือบไปแล้วไหมนั่น
เกือบไปแล้วนะพุ
ดีนะที่เล่ห์ช่วย

พี่แพทนี่ห่วงพุมากเลยเนอะๆ

รอติดตามตอนต่อไปจร้า

ออฟไลน์ Lemon_Tea

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1641
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +71/-2
Re: Unbelievable Story
«ตอบ #5 เมื่อ12-08-2012 00:52:19 »

เลย์ จากแฟนจำเป็น
เป้นแฟนตัวจริงมั้ยเนี่ย

พี่แพทไปซัดกับพี่ปลายมาเหรอ
มุมปากถึงได้เขียวแบบนั้น

แต่พี่ปลาย....  :เฮ้อ:

ออฟไลน์ janamanza

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 653
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-2
Re: Unbelievable Story
«ตอบ #6 เมื่อ12-08-2012 01:03:42 »

สนุกอ่ะ  แอบงงนิดๆตอนขึ้นตอนใหม่
แต่อ่านแล้วสนุกมากป็นเรื่องแนวที่ชอบเลย
พี่ปลายเริ่มมาก็ชั่วเลยอ่ะ
รีบมาต่อนะคะ

ออฟไลน์ Ju

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 556
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +40/-2
Re: Unbelievable Story
«ตอบ #7 เมื่อ12-08-2012 01:34:33 »

ขอแปะไว้ก่อน เดี๋ยวจะมาอ่านทีหลังนะ

ออฟไลน์ BeeRY

  • ❤。◕‿◕。ยิ้มเข้าไว้นะ。◕‿◕。❤
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 9405
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +897/-8
Re: Unbelievable Story
«ตอบ #8 เมื่อ12-08-2012 12:05:22 »

เฮียแพทอ่า ว่าแต่พี่ปลายเค้าจะกินน้องพุ ตัวเองก็อย่าคิดจะกินน้องอีกคนล่ะ
ไม่งั้นพุได้ช็อกหนีไปอยู่กับแฟนจำเป็นนายเล่ย์แน่เลย :z1:
คนมันเสน่ห์แรงก็เงี้ย มีแต่คนอยากมายุ่งด้วย :o8:

ออฟไลน์ Ju

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 556
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +40/-2
Re: Unbelievable Story
«ตอบ #9 เมื่อ12-08-2012 13:03:56 »

สนุกมากอ่า

อ่านไปก็มียิ้มบ้าง หัวเราะบ้าง (ท่าจะอินขนาด)

+เป็ด +โหวต รอตอนต่อไปนะครับ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: Unbelievable Story
« ตอบ #9 เมื่อ: 12-08-2012 13:03:56 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ koikoi

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3862
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +311/-13
Re: Unbelievable Story
«ตอบ #10 เมื่อ12-08-2012 14:48:21 »

เสน่ห์แรงจริงนะน้องพุ

Tegoshita

  • บุคคลทั่วไป
Re: Unbelievable Story
«ตอบ #11 เมื่อ12-08-2012 15:46:51 »

สายรหัสนี้...ขอ 4P ไปเลยจ้า!!!

หูยยยย เรื่องแอบลึกลับซับซ้อนซ่อนเงื่อนมาก ๆ ฮ้า
แบบว่าเราไม่เชื่อหรอกว่าน้องพุหน้าตาไม่ดี มีหนุ่มมารุมขนาดนี้ ไม่จริ๊งไม่จริง
ว่าแต่พี่ปลายจะทำแบบนั้นกับน้องจริงเหรอ ลุคพี่แกมาแนวสุภาพบุรุษเลยนะ
เจ๊ชอบมองคนแบบฉาบฉวบค่ะ 5555

เรื่องนี้ก็สนุกอีกแล้วอ่า น่ารักเป็นธรรมชาติอีกแล้ว ติดตามค่ะ  ๆ
ยังรอตาวันกับน้องพลเสมอนะ จุ๊บ ๆ

bozang

  • บุคคลทั่วไป
Re: Unbelievable Story
«ตอบ #12 เมื่อ12-08-2012 16:23:41 »

พุหน้าตาไม่ดีจริงหรอ ไม่เชื่ออะ 5555
ทำไมมีแต่คนมารุมมะตุ้ม
พี่ปลาย ร้ายกาจ ทำแบบนั้นกับน้องนุ่งได้ไง
เล่ย์ดูลึกลับนะ รออ่านต่อจ้า

ออฟไลน์ yeyong

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5857
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +917/-26
Re: Unbelievable Story
«ตอบ #13 เมื่อ12-08-2012 17:25:08 »

สนุกอ่ะ แต่ว่าปู่รหัสไม่น่าทำแบบนั้นเลยนะ

ออฟไลน์ rainbow67

  • Life is like a rainbow. You need both the sun and the rain to make its colors
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 242
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +763/-15
Unbelievable Love : Chapter Two
«ตอบ #14 เมื่อ12-08-2012 21:04:10 »

UNBELIEVABLE LOVE

Chapter Two

 

 

หลังจากเหตุการณ์วันนั้นผ่านไป วงโคจรของผมกับพี่ปลายก็ไม่ค่อยจะได้มาบรรจบกันซักเท่าไหร่ มีบ้างที่เห็นกันไกลๆ แต่พี่ปลายก็ไม่ได้เข้ามาทักหรือพูดคุยเหมือนเดิม…ประกอบกับผมยังคงรู้สึกกลัวพี่แกอยู่หน่อยๆ จึงเลี่ยงหนีทุกครั้งที่เห็นแกตั้งแต่ไกลๆ ทำให้เราไม่เคยได้ประจันหน้ากันสักที

“เฮ้ย จะไปไหนวะ” เสียงทักพร้อมกับท่อนแขนหนักๆ พาดลงมาบนไหล่ ขณะที่ผมกำลังจะเดินออกนอกรั้วมหาวิทยาลัย

ไม่ต้องเห็นหน้าก็รู้ว่าใคร “กลับบ้านดิ แล้วนี่ขาหรือแขนอะเฮีย หนักชิบ”

“มึงอยากลองมั้ย ขาอะ” ว่าพร้อมกับโบกผมไปที แล้วพูดต่อ “อย่าเพิ่งกลับ ไปกินเหล้ากันก่อน”

“กินอีกละ หยุดมั่งเถ๊อะ”

“แหม พูดเหมือนมึงกินด้วยประจำเลยนะ ชวนทีไรแม่งก็จะกลับแต่บ้าน ยังไงวันนี้มึงก็ต้องไป ห้ามปฏิเสธ”

แล้วผมก็ถูกลากมานั่งกินเหล้าที่ร้านประจำของเฮียแพทและพี่พิทข้างหลังมอ…

“เอ้า โชนนนนน” รอบที่เท่าไหร่ จำไม่ได้ เพราะยกกันบ่อยเหลือเกิน

“ไอ้พุ หมดแก้วเว้ย ห้ามจิบ แม่ง แก้วเดียวทั้งคืน” พี่พิทว่าแล้วก็ปัดมือผมออก จับแก้วเองยกกระดกใส่ปากผมจนสำลักกระอักกระไอ

“เฮ้ย ไอ้เชี่ย เบาๆ มึง เข้าปากเข้าจมูกแล้ว” เฮียแพทว่า เหมือนจะเห็นใจนะ ถ้าไม่มีรอยยิ้มกับเสียงหัวเราะอย่างสะใจตามมา

พี่อิฐที่นั่งอยู่ด้วย ยื่นทิชชู่ให้ “เอานี่”

“ขอบคุณครับ” ผมรับทิชชู่มาเช็ดปาก จมูก และคอ “ไมพี่อิฐมาคบกับเฮียแพทได้อะ ออกจะดีขนาดนี้”

เห็นฝ่ามือพิฆาตลอยมาแว๊บๆ ทางหางตา ผมรีบเอนหลบ ความซวยเลยไปตกที่พี่พิทแทน “โอ๊ย เฮีย มาตบผมไม”

“ก็มึงเสือกไปรับแทนมันทำไมล่ะ”

“ฮ่า ฮ่า ฮ่า” ไอ้พุสะใจ “ยิงนกตัวเดียวได้นัดสองตัว”

“ไม่ใช่ละ ยิงนกสองตัวใช้นกตัวเดียว” พี่พิทแก้

“ไม่ใช่เว้ย ต้องยิงนกสองตัวใช้ปืนสองนัด” เฮียแพทว่าอย่างภูมิใจ

“พอกันเลย ทั้งสามคน” พี่อิฐส่ายหน้าระอา “กระสุนนัดเดียวได้นกสองตัว”

“เออใช่” แล้วพวกเราสามคนก็ก้มหัวคารวะพี่อิฐ กับคำตอบที่… “ถูกต้องแล้วคร๊าบบบบ”

“เอ้า โชนนนน” พี่พิทครับ ชอบมากกับคำนี้

 

ผ่านไปเกือบสี่ทุ่ม….

“โอเด้เพื่อนเอ๋ยคือดั่งเคยกันนั้น สังสรรค์กันจั๊กหว่าง…ในเวลาว่างๆมาแกล้มฮ่วมกัน บรรยากาศอยู่นา… หลายคนมาเทิงเล่นลมเย็นๆได้พัดพาเหล้าเด็ดๆอยู่บ้าน ของแกล้มอยู่ท่งนา”

“โทสับมึง ไอ้พุ” บอกเฉยๆ ได้มั้ย ทำไมต้องกระทุ้งด้วย

“เลาะเลียบตามแคบน้ำ แคมหนอง ก็มีของกินเป็นอาหาร... หอยปากกว้างนั่นแหละโตการมันเป็นโตมารกัดกกข้าวในนา…” กว่าจะหาเจอ เหมือนเข้าไปในเขาวงกต“โหล?”

[ไมเสียงอ้อแอ้งี้ เมาอะดิ] ใครวะเสียงคุ้นๆ

“ใครอะ”

[จำน้องตัวเองไม่ได้รึไง]

“อ้าว เปลี่ยนเบอร์เหรอ”

[เปล่า แบตหมด โทรศัพท์ไอ้ข้าว]

“เออ แล้วโทรมามีไรอะ”

[จะกลับตอนไหน รออยู่ที่หอเนี่ย]

อึ้งครับ “เฮ้ย มาได้ไง”

[ขี่มอ’ไซค์มา]

“จากพิษณุโลกอะนะ”

[เดี๋ยวค่อยถามได้ป๊ะ หิว รีบกลับมาเร็วๆ เลย] แม่ง นี่มันเป็นน้องหรือพี่วะ

แต่… “เออๆ เดี๋ยวรีบไป”

แล้วมันก็ตัดสายไป โดยไม่กล่าวลา…. ไม่มีมารยาทเลย น้องใครวะ

“เฮีย พี่พิท พี่อิฐ เดี๋ยวผมกลับก่อนนะ น้องมา” ผมบอก แล้วคว้าเป้ขึ้นมาคล้องไหล่ “แล้วเจอกันพี่ ไปละ”

“เฮ้ย เดี๋ยวกูไปส่ง” เฮียแพทบอก แล้วทำท่าจะลุกตาม

ผมรีบโบกมือปฏิเสธ “ไม่ต้องเฮีย ไปได้ๆ กินต่อเหอะ”

“แน่ใจ?”

“แน่” ผมพยักหน้า แล้วเดินออกมา ได้ยินเสียงตะโกนตามหลังมา “ถึงแล้วโทรมาด้วยนะ”

ผมไม่ได้หันไปมอง แต่ยกมือโบกให้รู้ว่าได้ยิน แล้วก็เดินไปยืนรอรถที่หน้าร้านแต่ผ่านไปเกือบสิบนาทีก็ยังไม่มีรถผ่านมาสักคัน

รู้งี้ให้เฮียแพทไปส่งก็ดี... เปลี่ยนใจตอนนี้จะทันมั้ยเนี่ย

“บรื้นๆ”

เสียงเบิ้ลรถมอเตอร์ไซค์ดังขึ้นใกล้ๆ จุดที่ยืนอยู่ ผมไม่ได้หันไปมอง แต่ขยับหลบให้

“บรื้นๆ”

เอ้า ไอ้นี่ จะให้กูปีนกำแพงหลบเลยมั้ย…. โมโหครับ กวนตีนจริงๆ ขอมองหน้าหน่อยดิ๊“อ้าว…”

“เดี๋ยวไปส่ง” ไอ้เล่ย์ครับ

ผมส่ายหน้า “ไม่เป็นไร เดี๋ยวกลับเอง”

“ขึ้นมา” ไม่ได้เจอกันเกือบเดือน มันก็ยังไม่คิดจะฟังใครเหมือนเดิม

ผมกำลังจะอ้าปากปฏิเสธอีกครั้ง แต่อีกฝ่ายชิงพูดก่อน “เร็ว อย่าให้ต้องบังคับ”

ผมอ้าปากค้าง... นี่มึงยังไม่ได้บังคับกูอีกเรอะ

แล้วคิดว่าผมจะยอมเหรอ…

“……….”

“……….”

...ยอมก็ได้วะ

“เหม็นเหล้า” มันว่า ตอนที่ผมขึ้นไปนั่งบนรถเรียบร้อยแล้ว

“กินเหล้ามันก็ต้องเหม็นเหล้าดิ จะให้เหม็นน้ำหวานเหรอ” ผมเถียง มันก็หันมามอง เหมือนจะแปลกใจ...  ไมอะ กูก็สู้คนนะเว้ย

แต่แทนที่จะโกรธ มันกลับอมยิ้มเฉย “แค่กินใช่มั้ย นึกว่าอาบด้วย”

ผมยกเสื้อขึ้นดม “แหวะ” เหม็นมาก ก็ตอนพี่พิทกระดก ไม่สิ ตอนพี่พิทกระแทกแก้วเหล้าใส่ปากผม มันหกใส่เสื้อด้วย

“อ๊ะ” มันยื่นหมวกกันน็อคมาให้ แต่ผมไม่รับ เพราะเห็นมีแค่ใบเดียว “นายใส่เหอะ”

เอาอีกละ ชอบทำหน้ารำคาญใส่กูจัง “ทำตามที่บอกโดยไม่เถียงสักเรื่องได้มั้ย”

“นี่ยังไม่ท-” มันสวมให้เองเลย พร้อมกับหัวเราะหึๆ อย่างสะใจ ก่อนจะช่วยขยับหมวกไปมาจนเข้าที่ แล้วก็เช็คสภาพโดยการตบที่หมวกแปะหนึ่ง“ที่เดิมใช่มั้ย”

“อือ”

ลืมถามไป มันจำได้ด้วยเหรอ…

 

เมื่อมาถึงหอพูดคำว่าขอบคุณยังไม่ทันจบ ไอ้เล่ย์มันก็จากไปอย่างรวดเร็วเหมือนเดิม... เต็มใจมาส่งกูมั้ยเนี่ย!

“เหม็นเหล้า” คำแรกที่ไอ้น้องชายบังเกิดเกล้ามันทัก เหมือนไอ้คนที่เพิ่งไปเลยเนอะ น่าจะเป็นพี่น้องกันจริงๆ

“พี่พุ หวัดดีครับ” ส่วนนี่ก็เสียงไอ้ข้าว เพื่อนน้องชายผม

“หวัดดี มารอนานยังอะ”

“นานมาก” เสียงน้องผม

ไอ้ข้าวส่ายหน้า สงสัยจะเบื่อเพื่อนมัน “ไม่นานหรอกพี่ มาถึงตอนที่โทรไปหาพี่นั่นแหละ”

“งั้นเดี๋ยวเอาของไปเก็บก่อน แล้วค่อยออกไปหาไรกินกัน” ผมว่าแล้วก็ยกกระเป๋าที่วางอยู่กับพื้นขึ้นมาสะพาย “ใส่อะไรมาวะ โคตรจะหนักเลย”

“น้าปริมฝากมาให้พี่พุครับ” แม่ผมเองครับ

“เอามานี่ เดี๋ยวถือเอง เดินไปเฉยๆ เหอะ อย่าล้มก็พอ” น้องผมครับ ดึงกระเป๋าไปถือเอง แล้วก็เดินดุ่มๆ ขึ้นบันใดไป พร้อมกับบ่นพึมพำอะไรสักอย่าง…

ผมหันไปมองไอ้ข้าวเป็นเชิงถาม “มันเป็นไรมากป๊ะ”

“ทะเลาะกับแฟนมา”

 

“พุ….เคยถูห้องมั่งป่ะ”

“ก็รอพันมาถูให้อะ” ลืมแนะนำไป น้องผมมันชื่อพันครับ พันทิวา โคตรลิเก ดีนะที่ผมเกิดกลางคืน ไม่งั้นคงได้ชื่อนี้มา เพราะแม่เขาชอบ ตั้งใจไว้ว่าถ้ามีลูกจะให้ชื่อนี้ อิ อิ ซวยไอ้พันไป

แต่ไม่สงสารมันหรอก ดูปากมันดิ “ซกมกชิบเป๋ง”

“เฮ้ย ถอดรองเท้าดิ” ดูมัน เดินย่ำเข้าไปทั้งรองเท้าเลย

แต่มันก็ไม่สนใจ เดินเทิ่งๆ เข้าไปนั่งที่เตียง ใช้นิ้วคีบเสื้อกับบ๊อกเซอร์ของผมที่ถอดไว้เมื่อเช้าโยนใส่ตะกร้าอย่างหยะแหยง แล้วหันไปถามไอ้ข้าว “มึงกล้าถอดมั้ย”

ไอ้ข้าวทำหน้าลำบากใจ จดๆ จ้องๆ อยู่ตรงประตูไม่กล้าเข้ามา “อึ้ม…”

“ฮ่า ฮ่า ฮ่า” ไอ้คุณชายมันหัวเราะสะใจที่เพื่อนเห็นด้วย

ไอ้สองตัวนี่ก็เว่อร์จริงๆ มันไม่ได้สกปรกขนาดนั้นซะหน่อย ก็แค่ช่วงนี้กิจกรรมมันเยอะ กลับมาก็นอนเลย ไม่มีเวลาเก็บห้องถูพื้นแค่นั้นเอง…

ไอ้พันเดินไปแกะขวดน้ำที่วางอยู่มุมห้องมาสองขวด โยนให้เพื่อนขวดหนึ่ง แล้วก็หันมาสั่งพี่มัน “ไปอาบน้ำ เหม็น”

“ก็ไหนบอกหิว”

“ทนได้ ไปอาบเหอะ ขอร้อง”

หมั่นไส้ ผมแลบลิ้นใส่ “ครับพ่อ”

 

เดินออกมาจากห้องน้ำ...ไอ้พันกับไอ้ข้าวเหงื่อซก แต่ห้องสะอาดเรี่ยมเลย“ว้าว….”

“มึงก่อน” ไอ้พันบอกเพื่อนมัน แล้วก็หันมาทางผม “มีผ้าเช็ดตัวอีกผืนป่ะ ให้ไอ้ข้าวมันยืมหน่อย”

ผมเดินไปหยิบผ้าเช็ดตัวผืนใหม่เอี่ยม ยังไม่เคยใช้สักครั้งมาให้มัน “อ๊ะ”

“ผืนเก่าๆ ก็ได้พี่ ใหม่ไป”

“ผืนเก่าอยู่โน่น ไปเอาดิ” พยักพเยิดไปทางตะกร้าใส่ผ้าที่ยังไม่ได้ซักไอ้ข้าวทำหน้าเกือบๆ จะหยะแหยงแล้วหัวเราะแหะๆ “งั้น ผืนนี้ก็ได้พี่”

หลังจากที่แต่งตัวเสร็จแล้ว ผมก็เดินไปนั่งที่เตียง ใช้เท้าเขี่ยๆ ไอ้คนที่นอนหลับตาแผ่อยู่ตรงพื้นข้างๆ “เพี๊ยะ!” โดนมันตีเอาครับ มือหนักชิบเป๋ง

“แขวนพระ” มันบอกทั้งๆ ที่ยังหลับตาอยู่

“ไอ้ข้าวบอกทะเลาะกับแฟนมา จริงป่ะ”

“ไม่ได้ทะเลาะ เลิกกัน”

“เอ้า” หนักยิ่งกว่าทะเลาะอีก แต่ผมก็ไม่ค่อยจะห่วงมันเท่าไหร่หรอกครับ หลายรอบละ ไม่เห็นมันคบกับใครได้นาน แป๊บๆ ก็เลิก “คนไหนเนี่ย ใช่ที่ชื่อปลาป่ะ”

“ชื่อเดียร์ ปลาเลิกไปตั้งนานแล้ว” มันว่า แล้วพอดีกับไอ้ข้าวเดินออกมาจากห้องน้ำ มันก็เลยลุกเดินเข้าไปอาบต่อ

หลังจากทุกคนอาบน้ำเสร็จ ผมก็พาไอ้พันกับไอ้ข้าวลงไปทานข้าวมันไก่เจ้าอร่อยที่เปิดตั้งแต่6 โมงเย็นถึงเช้า ซึ่งขายอยู่ไม่ไกลจากหอพักนัก

“เอาหนัง เนื้อ กับเครื่องใน แต่ไม่เอาหัวใจจานใหญ่ ข้าวสาม”

เด็กรับออเดอร์พยักหน้าแล้วบอก “หยิบน้ำที่ตู้ได้เลยนะครับ”

“น้ำเปล่านะ” ไอ้พันครับ เหมือนมันจะถาม แต่ไม่ฟังใครเขาเลย เดินไปโน่นแล้ว... ถ้ากูอยากกินน้ำอัดลมจะทำไงวะเนี่ย

หลังจากไก่จานที่สองถูกนำมาเสิร์ฟพร้อมข้าวอีกสามจาน พวกเราก็เริ่มจะเงยหน้าขึ้นมาคุยกัน

“พี่พุผอมไปนะ เรียนหนักเหรอ” ไอ้ข้าวครับ เพิ่งสังเกตเห็นเหรอมึง ไม่รอทักกูตอนกลับทีเดียวเลยล่ะ

“กินเหล้าเยอะอะดิ” คุณก็น่าจะรู้ว่าใคร

“เยอะที่ไหนเล่า นานๆ ที”

“เหรอ....” มันลากเสียง ไม่เชื่อกูอีก

“กวนวะ เอานี่อะ กินเยอะๆ อิ่มแล้วจะได้นิสัยดีๆ” ตักข้าวในจานให้มันครับ เหมือนจะดี แต่จริงๆ กินไม่หมด คึคึ

กินข้าวเสร็จเราไม่ได้ไปไหนต่อ กลับมาที่หอเพราะทั้งไอ้ข้าวและไอ้พันก็เพลียจากการเดินทางจนตาจะปิดอยู่แล้ว

“มีอันเดียว?” ไอ้พันถาม เมื่อเห็นผมลากที่นอนยางพารามาปูให้

“อือ” จริงๆ ไม่คิดจะซื้อด้วยซ้ำ ถ้าเฮียแพทไม่มานอนด้วยบ่อยๆ

“งั้น เดี๋ยวให้ไอ้ข้าวมันนอน แล้วพันนอนกับพุ”

อย่าแปลกใจครับ ว่าทำไมไอ้พันมันถึงไม่เรียกผมว่าพี่ มันเรียกแค่พุนี่ก็นับว่าสุภาพแล้วครับเพราะสำหรับแถวบ้านผม ถ้าเป็นพี่น้องครอบครัวอื่น อายุห่างกันไม่มาก ปีสองปี ก็จะพูดกูมึงกัน ไม่มีเรียกพี่เรียกน้องหรอกครับ แต่พอดีแม่ผมเป็นครู พวกเราก็เลยจะสุภาพกว่าคนอื่นนิดหนึ่ง... นิดเดียวจริงๆ

 

 

 

สายๆ ของวันรุ่งขึ้น ผมก็พาเด็กบ้านนอกไปเที่ยวห้างกัน เพราะไอ้ข้าวมันเพิ่งเข้ากรุงเทพฯเป็นครั้งแรก

อยากมาสยาม อยากนั่งรถไฟฟ้ากับใต้ดิน มันบอก…และผมก็พามันทัวร์สมใจ

หลังจากที่ผจญภัยกันจนเหนื่อย ก็ตั้งใจจะไปหาไรกินที่ฟู๊ดคอร์ท เผอิญเดินผ่านร้านคริสปี้ ครีม เห็นคนต่อคิวนิดเดียว ก็เลยไปต่อคิวซื้อกับเขาบ้าง

“เป็นไง หร่อยป๊ะ” ถามไอ้ข้าวครับ เพราะไอ้พันมันเคยกินแล้ว มันไม่ชอบ บอกว่าหวานเกิน

“มีหวานน้อยกว่านี้มั้ยพี่” ไอ้ข้าวถาม พร้อมกับแกะน้ำตาลที่เคลือบอยู่ออก

“ไม่มี อันนี้หวานน้อยที่สุดแล้ว” รสออริจินอลครับ

แล้วหลังจากนั้นพวกเราก็เข้าไปกินอาหารกันที่ฟู๊ดคอร์ท อิ่มแล้วก็ไปเดินย่อย ดูนั่นดูนี่ จนมาหยุดอยู่ที่ช๊อปขายนาฬิกายี่ห้อหนึ่ง…

“ขอดูเรือนนั้นครับ” ไอ้พันบอกพนักงานขายนาฬิกาและเมื่อพนักงานคนนั้นหยิบออกมาให้ดูมันก็จับแขนผมไปแล้วเอานาฬิกาเรือนนั้นมาทาบ “สวยป๊ะ?”

“สวย” เรือนนี้ผมอยากได้มาก เห็นครั้งแรกก็ถูกใจแล้ว ชอบแบบมัน แต่ตัดใจซื้อไม่ได้สักที ถึงจะไม่แพงมาก แต่สำหรับคนที่ยังไม่ได้ทำงานอย่างผม ก็ยังรู้สึกว่ามันฟุ่มเฟือยเกินไปอยู่ดี

พลิกดูโน่นดูนี่อยู่แป๊บหนึ่ง แล้วไอ้พันก็พยักหน้าบอกพนักงาน “เอาเรือนนี้แล้วก็ตั้งเวลาให้ด้วยนะครับ”

“เฮ้ย” ผมพยายามรั้งมันไว้ “จะซื้อเหรอ แพงไปเปล่า”

“มีตังค์” ดูมันพูด อยากจะบ้องกะโหลกสักที

ทำอะไรไม่ได้ ก็ได้แต่ปล่อยเลยตามเลย เออ เรื่องของมึงละกัน ตังค์มึงนี่…แค่นี้ขนหน้าแข้งคงไม่ร่วงหรอกครับ มันรวย มีเงินเก็บหลายแสนจากค่าขายข้าวและผลไม้ที่พ่อแบ่งให้มัน

…แต่ไอ้พุได้ส่วนแบ่งนิดเดียวเพราะไม่เคยไปช่วยนอกจากไปเกะกะ

 

หลังจากที่ออกมาจากร้านนาฬิกา…

มันคงเห็นผมเงียบ ไม่ยอมพูดยอมจาเลยถามเหมือนง้อ “โกรธเหรอ”

ผมเหล่ตามองมันหน้าบึ้งๆ “สมควรโกรธมั้ยล่ะ”

“ไม่สมควร” ดูมัน…

“กวนตีน” เน้นๆ ครับแล้วแทนที่จะสลดนะ ไม่มี หัวเราะขำอีก “ไอ้ข้าว โดนัทหมดยัง”

“ยัง” ไอ้ข้าวมันชูถุงโดนัทที่หอบหิ้วมาด้วยให้ดู

“เอามาให้พี่กูกินหน่อยดิ๊ กินหวานๆ จะได้อารมณ์ดี” พูดไปหัวเราะไป หมั่นไส้มาก ผมเลยเตะมันไปที แล้วมันก็ยิ่งหัวเราะหนักขึ้นอีก…ไอ้น้องบ้า

เดินเล่นไปเรื่อยๆ จนเริ่มจะเมื่อยขา แล้วก็แวะดูหนังหนึ่งเรื่องก่อนกลับ...

“เธอๆ” เด็กนักเรียนผู้หญิงคนหนึ่งเดินเข้ามาสะกิดไอ้พัน ขณะที่พวกเรากำลังจะออกจากห้างเพื่อไปขึ้นรถแท็กซี่

“ครับ?”

“ทำของตก” เด็กนักเรียนคนนั้นพูดพร้อมยิ้มหวานให้ ก่อนจะเอากระดาษมายัดใส่มือมัน แล้วเดินจากไป…

“เสน่ห์แรงจริงเว้ยเพื่อนกู” ไอ้ข้าวแซว

“ไรวะ” ผมถามด้วยความสงสัย ไอ้พันมันเลยยื่นกระดาษแผ่นนั้นให้ดู... เป็นเบอร์โทร แล้วก็ชื่อ ‘อุ๋ย’

อิจฉา….. “ปึ้ก!”

“ไรเนี่ย” ไอ้พันถามงงๆ เพราะอยู่ดีๆ ก็โดนทุบ

“ทำไม อยากทุบอะ” ใช้สิทธิ์ความเป็นพี่เต็มที่

“ซาดิสม์” ไอ้พันบ่นงึมงำ แต่ผมไม่สนใจเดินนำหน้าออกมา

...มีความสุขได้รังแกน้อง คึคึ

 

กว่าจะกลับถึงหอก็เกือบทุ่มแล้ว พวกเราเลยแวะหาไรกินกันก่อนจะขึ้นห้อง…

“กะเพราหมูสับไข่ดาว สูตรโบราณนะ” ผมสั่ง

“อะไร สูตรโบราณ” ไอ้พันงง

“ไม่ต้องใส่ถั่ว ข้าวโพด แล้วก็ผักอื่นๆ ที่ไม่ใช่กะเพราไง” ถ้าเป็นแถวบ้านผมไม่ต้องบอกครับ เพราะที่นั่นผัดกะเพราก็คือผัดกะเพราจริงๆ ถั่วฝักยาว แครอท ข้าวโพด ไม่มีให้เห็น

“งั้นเอาด้วย” ไอ้คนไม่มีความคิดเป็นของตัวเองสั่งตาม แล้วก็หันไปถามเพื่อนมัน “มึงล่ะ เอาไร”

ไอ้ข้าวมองเมนูนานมาก…… สุดท้าย “คะน้าหมูกรอบก็ได้”

“กูก็นึกว่ามึงจะสั่งไรพิสดาร นานซะ” ไอ้พันบ่นเพื่อนเลิฟ แล้วก็เดินไปหยิบน้ำเปล่าในตู้แช่มาสามขวด โดยไม่ถามความเห็นของเพื่อนร่วมโต๊ะอีกตามเคย

พออาหารถูกนำมาเสิร์ฟ ทุกคนก็ตั้งหน้าตั้งตากิน ไม่พูดคุยกัน... เหมือนจะมีมารยาท แต่ไม่ใช่ หิวมาก ทั้งหิว ทั้งเหนื่อย

ผ่านไปเกือบสิบนาที ไอ้พันก็เอ่ยขึ้น “พุ…เดี๋ยวพันกลับพรุ่งนี้นะ”

“กี่โมง”

“เช้ามืด เดี๋ยวไปพัทยาต่อ”

“ไปไม” ผมถามแล้วก็ดูดน้ำจากขวด เผ็ดมาก… ไอ้พันรวบช้อนส้อม ข้าวในจานหมดเกลี้ยง ดูดน้ำในขวดไปอึก ก่อนจะตอบ “เอารถไปให้ญาติไอ้ข้าว”

“คันที่ขี่มาเหรอ”

“ใช่ ตอนกลับนั่งรถทัวร์” บอกโดยไม่ต้องให้ผมถาม ฉลาดเหมือนพี่มันเลย

 

 

 

เช้าวันรุ่งขึ้น… เมื่อตื่นขึ้นมา ไอ้พันกับไอ้ข้าวก็ไม่อยู่แล้ว

ผมลุกเดินเข้าห้องน้ำ กำลังจะล้างหน้า แต่เหลือบเห็นนาฬิกาที่ข้อมือเสียก่อนเป็นเรือนที่ไอ้พันมันเพิ่งจะซื้อมาครับ…

มีกระดาษแผ่นเล็กๆ สอดอยู่เมื่อดึงออกมาดูก็เห็นลายมืออันอุบาทว์ของน้องชายตัวเอง

‘ดูแลตัวเองดีๆ นะ’

 

+++++unbelievablelove+++++

ขอบคุณที่ติดตามอ่าน แล้วเจอกันตอนต่อไป ^^
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 13-10-2013 01:58:47 โดย rainbow67 »

ออฟไลน์ bulldog17

  • ❤GOT7
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3689
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +265/-12
Re: Unbelievable Story : Chapter 2 - 12/08/12
«ตอบ #15 เมื่อ12-08-2012 21:41:09 »

มีน้องน่ารักนะเนี่ย :-[

ส่วนเราเป็นน้องที่เห้มาก5555

ออฟไลน์ Ju

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 556
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +40/-2
Re: Unbelievable Story : Chapter 2 - 12/08/12
«ตอบ #16 เมื่อ12-08-2012 21:50:56 »

น้องชายตัวดีคิดไรกับพี่ชายรึเปล่าเนี่ย  :o8:

ออฟไลน์ naisojill

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 79
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-1
Re: Unbelievable Story : Chapter 2 - 12/08/12
«ตอบ #17 เมื่อ12-08-2012 22:04:27 »

ชอบอ่าาาาาา กดLikeเลย
รอตอนต่อไปอยู่นะค่ะ : )

ออฟไลน์ yeyong

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5857
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +917/-26
Re: Unbelievable Story : Chapter 2 - 12/08/12
«ตอบ #18 เมื่อ12-08-2012 22:10:48 »

คิดว่าน่าจะมีหลายคู่อยู่นะ

ออฟไลน์ jimmyFG

  • Ich Liebe dich.
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2276
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +203/-4
    • @Facebook
Re: Unbelievable Story : Chapter 2 - 12/08/12
«ตอบ #19 เมื่อ12-08-2012 22:44:36 »

พันน่ารักอ่ะ

เป็นน้องที่น่ารักมากๆ

รอติดตามจร้า

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: Unbelievable Story : Chapter 2 - 12/08/12
« ตอบ #19 เมื่อ: 12-08-2012 22:44:36 »





ออฟไลน์ kanunsak

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 197
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +40/-0
Re: Unbelievable Story
«ตอบ #20 เมื่อ12-08-2012 22:45:41 »

อร๊ายยยยยยยยยยยยยยยยย  น้องพัน ทำไมน่ารักอย่างเน้  นี่คงไม่ได้คิดอะไรหรอกช่ายป่ะ  แบบว่า.. พี่กลัวเด็กแว้นเสียใจอ่ะ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 12-08-2012 23:08:16 โดย kanunsak »

ออฟไลน์ koikoi

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3862
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +311/-13
Re: Unbelievable Story : Chapter 2 - 12/08/12
«ตอบ #21 เมื่อ12-08-2012 23:33:17 »

อ้าวทำแบบนี้เราแอบคิดนะเนี่ย

ออฟไลน์ cher7343

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1686
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +133/-4
Re: Unbelievable Story : Chapter 2 - 12/08/12
«ตอบ #22 เมื่อ12-08-2012 23:44:02 »

เพิ่งเข้ามาอ่าน ชอบอ่ะ
ดำเนินเรื่องได้ดีไม่มีติดขัด ไปเรื่อยๆ

ปล.น้องพันน่ารักจุงเลย :impress2:

ออฟไลน์ Lemon_Tea

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1641
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +71/-2
Re: Unbelievable Story : Chapter 2 - 12/08/12
«ตอบ #23 เมื่อ12-08-2012 23:49:35 »

แหม่ น้องพันก็น่ารักนะเนี่ย
แต่คงไม่เก้บตังค์ทีหลังนะ^^

bozang

  • บุคคลทั่วไป
Re: Unbelievable Story : Chapter 2 - 12/08/12
«ตอบ #24 เมื่อ13-08-2012 01:03:41 »

น้องพันน่าร้ากกกกกกกก แม้จะกวนตีนก็ตาม 55555

ออฟไลน์ BeeRY

  • ❤。◕‿◕。ยิ้มเข้าไว้นะ。◕‿◕。❤
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 9405
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +897/-8
Re: Unbelievable Story : Chapter 2 - 12/08/12
«ตอบ #25 เมื่อ13-08-2012 08:05:12 »

น้องพันน่ารักจังเลย เหมือนเห็นตัวเองเป็นพุ ชอบแกล้งน้อง แต่น้องเราก็เป็นแบบน้องพัน ยอมให้พี่ทุกอย่างอะ รักที่สวดดด :กอด1:
เดี๋ยวนี้บังเอิญเจอกันบ่อยจังเลยนะเล่ย์อะ ได้มาส่งหอเค้าสองครั้งแล้ว ครั้งที่สามจะได้ขึ้นห้องป่ะเนี่ย :z1:
รออ่านทุกเรื่องเลยนะคะ น้องนอยก็รออยู่นะ :impress2:

ออฟไลน์ RoseBullet

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1027
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +108/-2
Re: Unbelievable Story : Chapter 2 - 12/08/12
«ตอบ #26 เมื่อ13-08-2012 16:52:40 »

น้องพันน่ารักออก โดยเฉพาะตอนท้าย แหมๆ อยากให้ของพี่ก็ไม่บอกตรงๆ
พุซกมกเหรอเนี่ย ทั้งน้องทั้งเพื่อนน้องพากันรังเกียจแบบแทบปิดอาการไม่อยู่ กร๊าก
เล่ย์มาได้จังหวะอีกละ พาไปส่งบ้านด้วยเน้อ คิดอะไรปะเนี่ย
รอตอนต่อไปค่า

namtarn11

  • บุคคลทั่วไป
Re: Unbelievable Story : Chapter 2 - 12/08/12
«ตอบ #27 เมื่อ13-08-2012 17:45:37 »

ตามๆ ชอบผลงานทุกเรื่องของคนเขียนเลย ^^//เอ๊ะ แต่ว่าทั้ง 4เรื่อง นายเอกมาจากพิษณุโลกทั้งนั้นเลยอ่ะ เป็นญาติกันหมดเปล่า?
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 13-08-2012 17:52:35 โดย namtarn11 »

ออฟไลน์ JingJing

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 552
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +83/-2
Re: Unbelievable Story : Chapter 2 - 12/08/12
«ตอบ #28 เมื่อ14-08-2012 00:55:50 »

โอ๊ะสนุกอ่ะ พุน่ารัก น่ารักแบบไม่รู้ตัว ใครๆก็เอ็นดู  :man1:

ปล. ได้อ่านเรื่องนี้เป็นเรื่องที่สองของคุณคนเขียน เดี๋ยวไปตามอ่านเรื่องอื่นด้วยดีกว่า ท่าจะสนุกไม่แพ้กัน  :pig4:


ออฟไลน์ mentholss

  • "เหตุผล" หรือ "ข้ออ้าง"
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1278
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +55/-1
Re: Unbelievable Story : Chapter 2 - 12/08/12
«ตอบ #29 เมื่อ14-08-2012 11:36:13 »

รอๆๆๆๆ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด