ตอนที่ 37กัสหลังอาหารเที่ยงที่มีสปาเก็ตตี้มีทบอลกับทาร์ตไข่ราดคาราเมลหอมๆจากร้านอาหารใกล้บริษัทที่ได้รับการแนะนำจากคุณออยเลขาคนเก่งของวินแล้ว ซึ่งมื้อนี้ผมเจริญอาหารไม่น้อยจนคุณแม่ยังแซวว่าผมคงได้มาบริษัทวินบ่อยๆเพราะร้านนี้แทนการมาหาลูกชายคุณแม่ล่ะมั้ง คุณออยที่นั่งร่วมโต๊ะที่เป็นคนแนะนำยิ้มปลื้มแถมชี้ชวนรายการอื่นๆที่คุณออยชิมแล้วว่าอร่อยให้มาลองทานครั้งหน้าด้วย ขณะที่ผมกำลังดูรายการอาหารในมือโดยข้างหนึ่งมีคุณออยนั่งประกบ วินที่นั่งอีกข้างก็คว้ามือผมไปกุมก่อนเอ่ยออกมา
“ครั้งหน้ากัสมาหาวินที่บริษัทอีกนะครับ เดี๋ยววินพามาทานอีก” สายตาอ้อนเอาใจที่วินส่งมาให้ทำผมเขินอย่างไม่ทันตั้งตัว ก่อนที่ผมจะคลี่ยิ้มน้อยๆให้คนช่างอ้อนและแกล้งหลุบตากลับมามองเมนูในมือเหมือนเดิม
“แหมไม่ค่อยเอาใจกัสเลยนะตาวิน ฮึๆ เห็นแบบนี้แม่ค่อยเบาใจได้หน่อยว่าลูกกัสของแม่จะไม่เสียใจเพราะเรา จริงมั้ยคุณออย” คุณแม่หันไปแซวลูกตัวเองที่ยังยิ้มร่าจ้องผมไม่คลาดสายตา โดยดึงคุณออยเข้าพวกด้วยก่อนเธอจะรีบพยักหน้าเห็นด้วยกับท่าน เรียกความร้อนในร่างกายวิ่งขึ้นมารวมกันที่แก้มทันที ผมหันไปสบตาหวานของวินที่มองผมไม่กระพริบแล้วก็ยิ่งเขินหนัก
“คุณออยดูท่าแล้วเราจะเป็นส่วนเกินของคู่รักยังไงไม่รู้นะ เอายังงี้ดีกว่า เดี๋ยวแม่ไปชวนคุณพ่อไปทำบุญกับหลวงตาที่วัดและถือโอกาสหาฤกษ์หายาม เอาไปบอกคุณป้าของกัสที่เราจะไปหาอาทิตย์หน้าทีเดียวเลย ตายแล้ว! บ่ายกว่าแล้วรึเนี่ย เดี๋ยวแม่เรียกตาศรมารับเลยดีกว่า” คุณแม่ผู้หญิงน่ารักที่ยังใจร้อนเหมือนเดิมเร่งให้คุณออยโทรตามพี่ศรคนขับรถให้มารับท่านทันที และประโยคของท่านนั้นคงถูกใจลูกชายตัวเองมากแน่ๆเพราะวินคลี่ยิ้มกว้างตาพราวกุมมือผมไว้เขย่าเบาๆ ผมจึงได้รู้ว่าพ่อคนเจ้าเล่ห์เค้าดีใจมากแค่ไหน
จนเมื่อคุณแม่ไปแล้วเราสามคนก็กลับถึงบริษัท หน้าบริษัทมีร้านกาแฟน่ารักเปิดอยู่แม้จะอิ่มแต่แค่คิดถึงกลิ่นหอมๆรสขมเมื่อแรกแต่มีรสหวานติดปลายลิ้นทำเอาผมนึกอยากชิมขึ้นมาเลย
“กัสอยากดื่มกาแฟเหรอครับ เอาแบบนี้เดี๋ยววินส่งหน้าร้านและไปเก็บรถก่อน และวินจะเดินกลับมารับนะครับ” เป็นคนรู้ใจกันก็ดีแบบนี้เองไม่ต้องพูดก็รู้ว่าเราต้องการอะไร ผมจึงยิ้มหวานไปให้วินแทนคำขอบคุณ
เมื่อรถจอดหน้าร้านยังไม่ทันที่ผมจะเปิดประตูลงไป กลับโดนฉุดแขนจนถลาไปหาอกแกร่งพร้อมโดนขโมยจูบแก้มฟอดใหญ่ ผมตกใจยกมือกุมแก้มข้างที่โดนขโมยจูบด้วยไม่คิดว่าวินจะกล้าทำแบบนี้ต่อหน้าคุณออย หันไปมองข้างหลังก็พบว่าคุณออยหันหน้าหนีไปทางหน้าต่างรถด้วยแก้มแดงปากคลี่ยิ้มนิดๆ ไม่ต้องเดาผมก็รู้ว่าคุณออยได้เห็นฉากสวีทที่พ่อตัวดีตั้งใจโชว์เข้าแล้ว ผมหันกลับมาถลึงตาใส่วินที่ยิ้มรับและเอื้อมมือข้ามตัวผมไปเปิดประตูรถให้ พ่อคนเจ้าเล่ห์ทำเป็นหนีความผิดนะ ‘น่าหมั่นไส้ซะจริง’
“เดี๋ยววินมารับนะครับ” วินยิ้มกลบเกลื่อนความผิดมาให้จึงได้รับค้อนวงใหญ่จากผมไปแทน ก่อนที่ผมจะลงจากรถตรงเข้าร้านกาแฟตรงหน้า
เมื่อผมผลักบานประตูกระจกใสของทางร้านเข้าไปก็มีเสียงกระดิ่งที่แขวนเหนือประตูดังขึ้น และพบกับใบหน้ายิ้มแย้มของชายหนุ่มหน้าขาวตัวโตสวมผ้ากันเปื้อนสีน้ำตาลเข้มชวนมองเข้า ผมได้แต่ยิ้มตอบและมองไปรอบร้านซึ่งพบว่าในร้านไม่มีคนเพราะเลยเวลาอาหารเที่ยงไปแล้ว
“รับอะไรดีครับ” เสียงสุภาพชวนฟังเรียกสายตาผมให้หันกลับมาทางต้นเสียง และต้องชะงักกับสายตาหยาดเยิ้มของชายหนุ่มตรงหน้า
“ขอคาปูชิโนกับอเมริกาโนอย่างละแก้ว เทคโฮมนะครับ” หลังสั่งกาแฟที่ต้องการแล้วผมแกล้งมองเมินสายตาคู่ตรงหน้า ไม่อยากคิดมากแต่ถ้าไม่เข้าข้างตัวเองนักผมรู้ว่าเจ้าของสายตาคู่หวานนั้นคิดอะไร
ผมมองไปยังตู้โชว์เค้กด้านข้างที่มีเค้กตัดเป็นชิ้นวางเรียงรายหน้าตาน่าลิ้มลอง จนอดคิดถึงมิคไม่ได้เพราะขนมเค้กเป็นของหวานที่โปรดปรานของเจ้าตัวจนผมเผลอยิ้มออกมา ก่อนเงยหน้าเตรียมสั่งเค้กสำหรับตัวเองและคุณออยเลขาที่น่ารักของวิน แต่กลับพบว่าผมถูกมองจากเจ้าของร้านกาแฟที่ทำหน้ายิ้มตาเยิ้มส่งมาให้ ผมเริ่มทำตัวไม่ถูกแม้จะเคยชินกับสายตาหวานเยิ้มแสดงความชื่นชมแค่ไหน แต่คนเดียวที่เห็นแล้วทำให้ผมรู้สึกดีจนเขินได้ก็มีแต่วินเท่านั้น ส่วนคนอื่นๆที่ส่งสายตาแบบนี้มาให้ผมจะรู้สึกตะขิดตะขวงใจไม่อยากเข้าใกล้ไปซะทุกราย
“เอ่อ ขอสตรอเบอรี่ชีทเค้กกับมอคค่าบลูเบอรี่อย่างละชิ้นด้วยนะครับ” เสียงผมคงทำให้ชายหนุ่มตรงหน้ารู้สึกตัวก่อนเขาจะยิ้มเขินเมื่อรู้ว่าผมจับได้ว่าแอบมอง จนมือไปปัดโดนแก้วกระดาษด้านข้างตกเกลื่อนพื้น
“คะ ครับได้ครับ สักครู่นะครับ” เจ้าของร้านก้มหน้ารับคำส่วนมือก็สาละวนเก็บแก้วให้เข้าที่ ผมจึงเดินเลี่ยงออกมานั่งรอที่โต๊ะใกล้ประตู เสียงกระดิ่งหน้าประตูดังขึ้นเรียกสายตาผมให้หันไปมองและต้องยิ้มเมื่อเห็นว่าเป็นใคร วินเดินตรงมาที่โต๊ะที่ผมนั่งรออยู่ด้วยรอยยิ้มหวานชวนมอง
“เป็นไงครับสั่งกาแฟเรียบร้อยรึยัง” ผมพยักหน้ารับก่อนวินจะนั่งลงที่เก้าอี้ตัวตรงข้าม
“เอาไปดื่มที่บริษัทวินนะครับหรือกัสอยากทานที่นี่” วินเลิกคิ้วประกอบคำถาม ซึ่งคำถามนี้ทำให้ผมรู้ว่าแม้เป็นเรื่องเล็กๆน้อยๆวิน
ยังใส่ใจกันถ้ามันเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับผม
“อืม กัสก็ตั้งใจแบบนั้นอยู่แล้วล่ะ วินอยากทานเค้กมั้ย เนี่ยกัสสั่งเผื่อคุณออยแล้ว” วินส่ายหน้าให้ก่อนหันไปมองรอบร้านอย่างสำรวจ ด้วยอากาศเย็นจากเครื่องปรับอากาศและอวลไปด้วยกลิ่นกาแฟทำให้วินเปิดยิ้มอย่างอารมณ์ดี ก่อนวินจะหยุดสายตาและจับจ้องไปที่ชายหนุ่มเจ้าของร้านอยู่พักหนึ่ง และหันกลับมามองผมหน้ามุ่ยก่อนหันไปที่หนุ่มคนเดิมอีกครั้ง
“กัสครับ วินไปเก็บรถแป๊บเดียวเองนะ รู้งี้ให้มาพร้อมกันก็ดีหรอก” ประโยคบอกเล่าของวินที่ไม่ได้สื่ออะไรมากมายแต่ผมรู้ว่า วินต้องการสื่ออะไร เพราะจากสายตาของวินที่หันไปจับจ้องชายหนุ่มที่ก้มหน้าชงกาแฟด้วยใบหน้านิ่งติดดุ เมื่อชายหนุ่มคนที่โดนจับจ้องเงยหน้ามาเห็นสายตาวินเข้าถึงกับสะดุ้งรีบก้มหน้าเตรียมของต่อและไม่เงยมามองอีกเลย จนของที่สั่งไว้ครบนั่นแหละถึงได้ยินเสียงเบาๆเอ่ยออกมา
“ของที่สั่งได้แล้วครับ” แถมปลายประโยคยังแอบสั่นนิดๆด้วยทำผมเริ่มสงสาร ใครก็ตามที่โดนวินจ้องด้วยหน้าตาแบบนี้ก็คงกลัวกันทั้งนั้น วินเป็นคนเดินไปจ่ายค่ากาแฟและเค้กเอง ส่วนผมที่เดินตามหลังมาทันได้ยินประโยคของคนหน้ายุ่งแถมขี้หึงอย่างร้ายกาจเข้า
“คนนั้นแฟนผม อย่ามองมากถึงไม่สึกหรอแต่ผมก็หวง” ผมโดนจับข้อมือหลังวินเอ่ยจบประโยค ก่อนวินจะหมุนตัวพาผมเดินออกนอกร้านทันที
“วินช้าๆสิ กัสเดินไม่ทันแล้ว” ร่างสูงตรงหน้าชะลอฝีเท้าลงและหันกลับมาทำหน้างอนๆปากยื่นส่งมาให้ผม
“กัสอย่าไปทำตัวน่ารักให้คนอื่นเห็นสิ วินหวงนะครับ” คนอะไรใส่ร้ายกันชัดๆ ผมทำตัวธรรมดาและไม่เคยอยากให้ใครมองด้วยสายตาแบบนั้นซะหน่อย
“กัสก็ทำตัวปกตินี่หน่าและไม่ได้อยากให้ใครมองด้วยสายตาแบบนั้นซะหน่อย ชิ” ผมงอนซะเลยให้รู้บ้างว่าไม่ใช่ผมที่จะไปเริ่มหว่านเสน่ห์กับใครก่อน
“กัสครับอย่าทำหน้าแบบนี้ วินขอโทษวินรู้ว่าไม่ใช่กัสที่จะไปเริ่มก่อน แต่รู้ตัวมั้ยเนี่ย หืม ว่ามีแต่คนมองและคิดจะเข้ามาหา นี่ถ้าไม่มีวินคอยกันไว้นะ ฮึม!! อยากเก็บกัสอยู่แต่ในห้องเลยรู้มั้ย วินหวงของวินนี่ครับ” พ่อตัวดีช่างกล้าพูดประโยคเลี่ยนๆหน้าบริษัทได้ยังไงกันรู้บ้างมั้ยว่าผมอาย ผมจึงรีบเดินหนีเข้าบริษัทไปก่อน ‘ไอ้คนขี้หวง’ ที่หัวเราะได้แล้วหลังทำให้ผมได้อายและต้องหลบหน้าพ่อตัวดีออกมาก่อน
หลังจากที่ผมเอาเค้กมอคค่าบลูเบอรี่ให้คุณออยแล้วเราก็เข้าห้องทำงานของวินกัน ซึ่งผมไปนั่งรอที่โซฟาส่วนคุณเจ้าของบริษัทก็นั่งทำงานและจิบอเมริกาโน่อย่างสบายใจ เห็นดังนั้นผมจึงเริ่มแกะสตรอเบอรี่ชีทเค้กของโปรดขึ้นมาชิมพร้อมคาปูชิโน่เย็น คนกำลังมีความสุขกับของหวานอย่างผมต้องชะงักกับสายตาของวิน ที่จับจ้องผมด้วยสายตาหยาดเยิ้มแทนการก้มหน้าตั้งใจทำงาน
“ทำงานสิครับคุณวิน แอบอู้นะเนี่ยเรา” ผมใช้ช้อนพลาสติกที่อยู่ในมือชี้ขู่ไปทางคนตาเชื่อมไม่ได้หวังให้กลัว แต่อยากให้ละสายตากลับไปทำงานซะที เล่นมองกันแบบนี้ผมจะกินลงได้ยังไงกันล่ะ ผมย่นจมูกให้วินที่ไม่มีทีท่าว่าจะกลัวกันแถมยังหัวเราะให้ได้ยินอีก ผมเลิกสนใจคนตาพราวหันมาก้มหน้าตักเค้กเข้าปากแก้เขิน สายตาหวานเชื่อมที่ได้สบมันแปลได้ว่าวินต้องการผม
ผมเงยหน้าแอบมองอีกทีก็ยังเห็นว่าวินยังมองกันอยู่แถมกวักมือเรียกผมไปหาด้วย ผมส่ายหน้าทันทีเรื่องอะไรจะเข้าใกล้ได้โดนจับกินกันพอดีก็ดูสายตาคู่นั้นสิไม่น่าไว้ใจเลย วินชี้ไปที่แก้มผมก็ทำหน้างงใส่ ‘อะไรแก้มทำไมหรือมีอะไรติดแก้ม’ ผมจับไปที่แก้มตัวเองก็ได้ยินเสียงวินหัวเราะดังขึ้น ผมจึงรีบลุกจะไปส่องกระจกในห้องน้ำแต่โดนคนเจ้าเล่ห์จับตัวได้ซะก่อน หันไปเตรียมโวยกลับโดนนิ้วหัวแม่มือของวินป้ายครีมชีทที่มุมปากออกให้ก่อนใช้ลิ้นเลียตาม
“อร่อยจัง มิน่ากัสถึงชอบ” ความร้อนแล่นพล่านไปทั้งหน้ากับท่าทางและแววตาระยับที่มองมา นิ้วเดิมถูกส่งกลับมาที่ริมฝีปากล่างลูบไล้และจับเผยอแยกออก วินก้มหน้าฉกลิ้นร้อนผ่านกลีบปากทั้งสองเข้ามาขณะที่ผมยังตั้งตัวไม่ทัน ลิ้นร้อนเกี่ยวพันแตะไล้สำรวจทั่วโพรงปากจนพอใจก่อนละมาที่แก้มนิ่ม จนผมได้ยินเสียงรำพึงจากวิน
“อืม สตรอเบอรี่ชีทเค้กนี่ อร่อยจังน้า” ไอ้ที่ว่าอร่อยนี่วินคงหมายถึงแก้มผมมากกว่า ก็ไอ้อาการที่แทบจะขย้ำและออกแรงสูดกลิ่นแก้มจนมันแทบจะหลุดติดไปกับจมูกวินอยู่แล้ว จมูกโด่งไม่หยุดแค่นั้นแต่ลามไปที่ต้นคอขาวทำเอาผมขนลุกเกรียวจนต้องออกแรงผลักใบหน้าหล่อให้ห่าง แต่แรงผมก็สู้แรงคนมากเล่ห์ไม่ไหววินยังดื้อรั้นก้มมาสูดกลิ่นที่ต้นคอผมต่อ
“หอม เหมือนกลิ่นดอกไม้เลย กัสเปลี่ยนน้ำหอมเหรอครับ หืม” ปากขยับพูดแต่จมูกก็ไม่หยุดทำงานไล้ตามซอกคอต่ำลงเรื่อยๆ
“วินหยุดเถอะ เดี๋ยวคุณออยเปิดเข้ามา” วินส่ายหน้าทำให้เส้นผมระมาโดนแก้มและคางส่วนปากก็พร่ำบ่น
“วินบอกไปแล้วว่าห้ามกวน / ฟอด / หอมจัง” เสียงเหมือนคนละเมอดังขึ้นพร้อมกับสติของผมที่เริ่มเลือนราง
“อ๊ะ วิน” ผมถลาตามแรงคนตัวโตที่ฉุดให้ผมนั่งตักเมื่อวินนั่งบนเก้าอี้ตัวใหญ่หน้าโต๊ะทำงาน
“ไม่เอาไม่เล่นแบบนี้นะ อ๊ะ วิน นี่ยังไง วิ......” ยังไม่ทันจะจับมือหนาที่สอดมาใต้เสื้อออกจากเอว เอ่ยปากห้ามไม่ครบประโยคก็โดนมืออีกข้างมาจับปลายคางให้หันไปรับจูบดูดดื่มรุนแรง ทำให้ผมเคลิ้มไปกับรสจูบที่วินมอบให้ และสะดุ้งแอ่นหน้าอกรับสัมผัสดึงรั้งที่ยอดอกความเสียวซ่านแล่นวาบจากยอด อกไปทั่วกาย
“อ๊า อึก เจ็บ บะ เบาๆ ซี้ดดด” ปากเป็นอิสระแต่ยอดอกกับโดนรุกล้ำรุนแรง ผมจึงต้องสูดปากปลดปล่อยอารมณ์ออกมา ปากซุกซนไม่หยุดแต่ไล่จูบดูดดึงติ่งหูก่อนแลบเลียหยอกเย้าและแหย่ผ่านรูหูกระตุ้นความเสียวซ่านจนผมต้องคราง มือหนาเริ่มปลดตะขอกางเกงและรูดซิบลง ผมรู้สึกถึงความตึงแน่นด้านล่างที่สัมผัสถูไถกับสะโพกของตัวเอง
“ซี้ดดด กัสครับวินไม่ไหวแล้ว อืมม” เสียงแหบพร่าเร้าอารมณ์ข้างหูเป็นแรงขับให้อารมณ์เตลิด ผมไม่ได้คิดแล้วว่าสถานที่จะเหมาะสมหรือไม่ ความเย็นวาบตลอดส่วนล่างที่ไม่รู้เสื้อผ้าผมหลุดหายไปตอนไหน มือหนาแตะกำรวบความปรารถนากลางลำตัวรูดรั้งอย่างแรงเหมือนต้องการเร่งเร้าให้ผมได้พบความสุขสม ผมขยับสะโพกให้สอดคล้องกับมือหนาที่ทำหน้าที่ขยับให้อย่างรู้ใจ ซึ่งมันบดเบียดไปโดนแท่งร้อนข้างใต้ให้เบ่งบานขึ้นแบบไม่รู้ตัว
“ซี้ดดด เสียว กัส สะ เสียว มะ ไม่ไหวแล้ว อ๊า วินนนน” ผมกรีดร้องยาวนานเมื่อถึงจุดหมายแห่งความสุข สายธารรักพุ่งเต็มมือหนาก่อนวินจะ ขยับรูดรั้งเพื่อให้ผมปลดปล่อยออกให้หมด
ผมซบหน้าพิงอกแกร่งและหอบตัวโยนไร้เรียวแรงหลังปลดปล่อย แต่แล้วต้องตกใจเมื่อถูกวินจัดท่าจับคว่ำหน้าลงไปบนโต๊ะตัวใหญ่ที่มือหนากวาดทุกอย่างลงพื้น เพื่อเตรียมให้พร้อมกับกิจกรรมที่จะเกิดขึ้น ผมเหลียวมองกลับหลังก่อนสะโพกจะถูกยกลอยเด่นต่อหน้าวิน ผมรีบเบือนหน้ากลับและสัมผัสได้ถึงจูบทักทายที่แก้มก้นทั้งสองข้างจนต้องเกร็งตัว วินไล่จูบขึ้นมาตามแนวสันหลังส่วนเสื้อที่ผมใส่มาได้ถูกถลกมากองที่หน้าอก และผมต้องสะดุ้งเมื่อรู้สึกถึงนิ้วชุ่มชื้นที่ถูกสอดเข้ามาให้ตัวเพื่อขยายช่องทางเตรียมพร้อมกับของที่ใหญ่กว่า ผมเกร็งขมิบอย่างต่อต้านเมื่อรู้สึกเจ็บปนเสียวก่อนจะขนลุกซู่เมื่อนิ้วยาวหมุนคว้าง
“อ๊า วิน อื้อ เบาๆ” ยิ่งผมครางเหมือนวินยิ่งได้ใจเพราะวินเริ่มขยับนิ้วเข้าออก และเพิ่มจำนวนนิ้วขึ้นเรื่อยๆจนครบสามนิ้วก่อนหมุนไปมา วินสะกิดโดนจุดเร่งอารมณ์ภายในยิ่งทำเอาผมกรีดร้องและเริ่มขยับสะโพกสวนเข้าออกกับนิ้วยาวทั้งสาม
“อ๊า วิน ขะ ขยับที วินนน” ความอดทนผมหมดลงจึงเหลียวไปมองหน้าหล่อที่กำลังอดกลั้นหน้าแกงก่ำ และอ้อนเสียงหวานเร่งให้วินขยับให้ ตอนนี้ใบหน้าของเราแนบสนิทกันตาหวานเชื่อมที่ได้สบเพราะแรงอารมณ์ที่ขึ้นสูง ไม่รู้อะไรดลใจให้ผมส่งลิ้นไปแลบเลียที่ริมฝีปากหนาและใจกล้าสอดลิ้นเข้าจูบดูดดื่มก่อนขยับสะโพกแรงเร็วสวนกับนิ้วยาวที่สอดใส่อยู่ อารมณ์ที่กำลังไต่ขึ้นสูงต้องหยุดชะงักเพราะวินถอดถอนนิ้วออกไป ผมผละจูบส่งสายตาตัดพ้อไปให้คนใจร้ายที่แกล้งกันได้ ปากบอกว่ารักแต่ทำไมทำกับผมแบบนี้กัน วินคลี่ยิ้มเอาใจมาให้ก่อนก้มมาฟัดแก้มและออกแรงกัดเบาๆ
“อย่ากัดปากตัวเองสิครับ / จุ๊บ / วินจะตามใจกัสหลังจากนี้แล้วที่รัก ฮึๆ” คนขี้แกล้งยื่นนิ้วมาไล้กลีบปากผมให้รู้ตัวว่าตัวเองกำลังกัดปากอยู่ ก่อนสายตาหยอกล้อจะทำให้ผมเริ่มรู้สึกตัวว่าทำตัวได้น่าอายแค่ไหนที่ร้องขอออกไป แต่ผมยังไม่ทันได้ตั้งตัววินก็ส่งแท่งร้อนมาจ่อที่สะโพกและขยับเสียดสี ผมกลั้นลมหายใจแบบไม่รู้ตัวเพราะรู้ว่ากำลังจะเกิดอะไรขึ้น ความตึงแน่นปนเสียวซ่านยิ่งทำให้ผมเกร็งตัว แต่เสียงแหบพร่าที่กระซิบข้างหูบอกให้ผ่อนคลาย ผมจึงผ่อนลมหายใจเข้าออกช้าๆเพื่อให้ร่างกายผ่อนคลายพร้อมรองรับความร้อนผ่าวใหญ่โตทางด้านหลัง
“ซี้ดดดด ที่รักดีครับ อืม อีกนิดนะ อ๊า” เสียงแหบพร่าได้อารมณ์ของวินเหมือนเป็นกำลังใจให้ผมอดทนเพื่อคนรัก และรับเอาแท่งร้อนขนาดไม่เล็กเข้ามาได้หมด
วินหยุดนิ่งให้ผมได้ปรับตัวกับสิ่งแปลกปลอมแต่คุ้นเคย ผมซบหน้ากับต้นแขนและสูดอากาศเข้าปอดเพื่อคลายความคับแน่นที่เบื้องล่าง ก่อนจะรับรู้ถึงจูบที่แผ่นหลังไล่ขึ้นมาถึงต้นคอและใบหน้าผมถูกดึงมารับจูบดูดดื่ม เรียวลิ้นที่ขยับพลิ้วไปทั่วโพรงปากและมือหนาที่ขยับปรนเปรอส่วนกลางลำตัวให้ทำผมเคลิบเคลิ้มอีกครั้ง สะโพกหนาเริ่มขยับจากช้าเปลี่ยนเป็นแรงเร็วจนผมต้องจับขอบโต๊ะรั้งไว้ และขยับสะโพกสวนตอบโต้ส่วนมือผมถูกวินนำไปจับชักพาความต้องการของตัวเอง มือหนาถูกส่งมาตะปบเข้าที่สะโพกเพื่อยึดไว้ให้การขยับของวินหนักหน่วงและถี่รัวตามแรงอารมณ์ของเราที่ขึ้นสูง
“วิน เร็วๆ กะ ใกล้ แล้ว ซี้ด อืมมม” อารมณ์หวามไหวทำให้ผมเอ่ยปากขออย่างใจต้องการ และคนที่ถูกขอก็ใจดีขยับแรงเร็วให้พร้อมเสียงครางทุ้มที่พอได้ยินก็เป็นแรงกระตุ้นให้ผมได้ทำตามเช่นกัน
“กัส ซี้ดด ดีครับ ขยับแบบนั้นแหละ อ๊า โอ้วว” เสียงเนื้อกระทบกันร่วมกับเสียงครางดังประสานจนแยกไม่ออก วินสูดปากหน้าเริ่ดหงายไปข้างหลังแต่สะโพกยังรักษาจังหวะเร่งให้ถึงจุดหมาย ผมผละจากใบหน้าได้อารมณ์ของวินมาจับขอบโต๊ะพยุงตัวและชักนำให้ตัวเองอย่างเร่งเร้า เมื่อรู้ว่าเราทั้งคู่ใกล้ถึงจุดหมายแล้วและวินาทีที่เรารอคอยก็มาถึง
“จะถึง ละ แล้ว วิน อ๊าๆๆๆๆ วินนนนน” ผมกรีดร้องเรียกชื่อคนรักเมื่อถึงจุดหมาย ตาพร่าพราวก้มหน้าซบเข้ากับท่อนแขนและขยับมือให้ตัวเองปลดปล่อยธารรักจนหมด ส่วนวินที่ใกล้ถึงจุดหมายก็ยังขยับสะโพกถี่รัวจนตัวผมโยกคลอนไปตามแรงกระแทก
“กัสสส ซี้ดดด อ๊าๆๆๆ รัก วินรักกัสนะครับ” วินครางยาวและเรียกชื่อผมพร้อมบอกรักก่อนปลดปล่อยเกร็งกระตุกเมื่อถึงจุดหมาย ผมที่ได้ยินก็หันหน้าไปมองหน้าคนรักด้วยรอยยิ้ม แม้คนที่ผมส่งยิ้มให้จะไม่เห็นเพราะกำลังแหงนเงยและปลดปล่อยธารรักอุ่นร้อนเข้ามาในตัวผม
วินหมดแรงโน้มตัวมาโอบกอดผมไว้ทั้งตัว ก่อนจะจูบซับเหงื่อที่ขมับและยกตัวผมจากโต๊ะให้มานั่งทับตัก ผมหมดแรงพิงอกคนรักและถ้าวินคิดจะทำอะไรต่อจากนี้อีกผมก็ไม่มีเรี่ยวแรงขัดขืน มือหนาเริ่มลูบไล้จมูกเริ่มซอกซอนที่ซอกคอ เสื้อที่แต่เดิมอยู่กับตัวถูกรั้งออกเหนือศีรษะเท่ากับตัวผมเปลือยเปล่า ตรงข้ามกับวินที่ยังเหลือเสื้อสวมอยู่ส่วนกางเกงกองที่ข้อเท้า ส่วนวินน้อยที่อยู่ในตัวผมเริ่มพองขยายเมื่อพ่อของมันเริ่มมีอารมณ์อีกครั้ง ผมพยายามผละออกจากอกกว้างแต่กลับโดนวินรั้งไว้
“ไม่เอาแล้ววิน กัสเหนื่อยแล้วนะ” ส่งสายตาอ้อนวอนไปให้เผื่อจะรอดพ้นพ่อคนเจ้าเล่ห์
“ต่อนะครับที่รัก เพราะกัสนั่นแหละ / ฟอดดด / ที่ทำวินคลั่งแบบนี้” วินโยน ความผิดมาให้ผมพร้อมกดจมูกสูดกลิ่นแก้มไปด้วย
“กัสทำอะไรล่ะ อ๊ะ วิน อย่าสิ อ้า” ผมไม่ยอมรับความผิดที่ไม่ได้ก่อหรอกครับเลยพยายามขยับตัวออก แต่กลับยิ่งทำให้ตัวเองเดือดร้อนเพราะแรงเสียดสีที่เบื้องล่างทำเอาเสียววูบ
“กลิ่นดอกไม้จากตัวกัสมันหอมมาก และผิวก็เนียนนุ่มมือ วินเลยมีอารมณ์มากกว่าปกติ อืมม” วินดันสะโพกกระแทกขึ้นยืนยันคำพูดอีกทางจนผมต้องครางออกมา
“อ๊ะ วิน พอเถอะนะ อุ๊บ..” ผมที่ยังพยายามฝืนเท่าที่ทำได้แต่คนเอาแต่ใจก็รั้งใบหน้าผมประกบจูบ
หลังจากนั้นผมก็โดนจูบดูดวิญญาณที่ทำเอาหลงลืมจนต้องทำตามใจคนรักไปอีกรอบ ไม่รู้ว่าหลังจากนี้ผมจะมีหน้าไปมองหน้าคุณออยเลขาที่อยู่หน้าห้องได้ยังไงกัน ที่มาทำเรื่องน่าอายกับเจ้านายของเธอในห้องทำงานอยู่แบบนี้
......................................
โปรดติดตามตอนสุดท้ายค่ะ ^O^

เลือดท่วมกันไปเลยใช่ม้า 555
ตอนหน้าตอนสุดท้ายของกัสวินแล้วค่ะ
เจอกันพรุ่งนี้นะคะ
+1และเป็ดให้ทุกเม้นท์ที่ติดตามกันค่ะ
