ตอนที่326
5555555555555555
มาเเล้ว
สวัสดี คุณผู้อ่านที่น่ารักทุกท่าน ทั้ง ท่านใหม่ เเละท่านเดิม
จะสงกรานต์เเล้ว ดูเเตัวเองดีๆนะครับ ช่วงวันหยุดยาว ก็ขอให้เที่ยวให้สนุก
ส่วนคนที่มัีความทุกข์ ก็ขอให้ผ่านพ้นไปให้ไวนะครับ
:call:ชีวิตคนเรา ความเเน่นอน คือความไม่เเน่นอน

ตอนนี้ผมใช้เวลาพิมพ์นานมาก หลายวันมากกว่าจะเสร็จ เพราะไม่มีเวลา มันเล่ายากด้วยเเหละ
0.0.0.0.0.0.0.0.0.0.0
6โมงกว่าไอต้าร์ กับไอ่ธีร์ก็มาถึง เหมือนกัน ปัญหาตอนนี้ คือ คืนนี้ที่นอนไม่พอแน่ เพราะมากันเยอะเหมือนกัน บ้านผมก็ไม่ได้ใหญ่ด้วยสิ
แต่ก็พอๆ เบียดกันได้
“โหพี่ เครื่องโคตรดังอะ”ไอ่ธีร์ว่า
“เดี๋ยวก็ชิน”ผมบอก
“ตับจะแตกก่อนชินอะดิ นี่ขนาดในที่โล่งแจ้งนะ ยิ่งกว่าในโรงหนังอีก”
“ง่วงป่าว ถ้าง่วงพากันขึ้นไปนอนก่อนได้นะ”ผมบอก เห็นขับรถมาไกล
“ยังไม่ง่วงอะ”
ให้พวกมันเอาของไปเก็บ บนห้องก่อนจะพาไปทักทายผู้ใหญ่
แล้วก็กินข้าวเช้ากัน
พอกินข้าวเสร็จ กะจะให้ไอ่นัดพาพวกมันทัวร์รอบหมู่บ้านซะหน่อย
แต่ มันเมาซะละ (แต่เช้าเลย)
ผมก็เลยพาพวกมันเดินเล่นแถวบ้านแทน
ตอนบ่ายๆกินข้าว ก็แห่รอบหมู่บ้าน คาดเดาแล้วนะจะเหยียบ 5โล เลย กว่าจะรอบหมู่บ้าน
ผมให้ไอ่ต้าร์ถ่ายรูปให้
ไอ่นัดตอนแรกก็ถือบาตร ไอธีร์ถือกาน้ำร้อน
ผมละสงสารไอ่พวกเด็กเทพจริงๆ ต้องมาเดินตากแดด หลายกิโล
ไปๆมาๆ ก็สลับกันถือ
หันไปอีกที
โน้นนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนน
พวกมันกันไปเต้นอยู่หน้ารถเครื่องเสียงแล้ว
ผมก็หวังอย่างเดียว อย่าไปเหยียบทีนใครเค้านะ
กว่าจะรอบหมู่บ้านก็เย็นพอดี แห่เข้าวัด แล้วซักซ้อม พิธีบวช ก่อนจะบวชจริงในวันพรุ่งนี้
พอซ้อมเสร็จ ก็กลับบ้าน
อาบน้ำ
“นัด หาข้าวให้ไอ่ต้าร์ ไอ่ธีร์กินยังอะ”
“แม่หาให้แล้ว”
“แล้วเมิงกินยัง”
“ยัง”
“แล้วรออะไรละ กินข้าวกินปลามั้ง ไม่ใช่กินแต่น้ำยอดข้าว”
“เค้ารอตัวเอง”
“เป็นอะไรนิ”
“ป่าววว”
“แล้วพวกนั้นไปไหนอะ”
“ไปร้านค้า ซื้อของ”
“พูดมาได้ยัง เป็นอะไร”
“ป่าว”
“งั้นกรูจะไม่ถามอีกนะ ปะ กินข้าวกัน”
“เฮ้อออ..........................................................................................ตัวเอง เราอยู่ได้กันมากี่ปีละ”
“ทำไมอะ ดราม่าอะไร”
“เราห่างกันนานที่สุด ตอนที่เค้าไปต่างประเทศ”
“อืมม แล้ว”
“ก็ไม่แล้ว เราก็ต้องห่างกันอีกแล้ว”
“นัด วัดกับบ้าน มันไกล้กันมากหรอ”
“ก็ป่าวว แต่มันก็ไม่เหมือนกันป่าววะตัวเอง”
“คิดมาก ไปบวชนะ ไม่ได้ไปรบ”
“คงคิดมากจิงๆ”
“กินข้าวๆ เหนื่อย เดี๋ยวต้องจัดที่นอนให้พวกนั้นด้วย ง่วงนอนแล้วอะ”
“อืมมมม”
“จะกลับกรุงเทพวันไหนอะ”ผมถามมัน
“ไม่รู้ ไม่อยากกลับ”
“ต้องไปลงทะเบียนเรียนไม่ใช่หรอ วันไหนอะ”
“ไม่รู้ ลืม เดี๋ยวค่อยโทรไปถามพวกนั้น”
“ถ้าอยู่นี่ ก็ทำตัวดีๆนะนัด ซักเสื้อผ้าเองนะ อย่าให้ยายเก็บไปซักนะ” ยายผมก็แปลก ใส่ไม่ใส่ไม่รู้จับซักหมดอะ
“รู้ครับ”
“เมาปะเนี่ย”
“เมาบ้าไร ไม่มีให้กินแล้ว หมดแล้ว”
“สม”
นั่งกินข้าวสักพักพวกนั้นก็มา
“กินข้าวกันอีกป่าว”ผมถามพวกมัน
“ไม่ไหวละพี่ ซัดไปคน2จานละ”
“ได้อะไรมาอะ”
“แปรงสีฟัน”
นั่งคุยกันสักพัก พวกนั้นก็แยกย้ายไปอาบน้ำ ผมก็ไปจัดที่นอนให้พวกมัน
เที่ยงคืนก็พากันหลับ เพราะเต้นทั้งวันเหนื่อย
ตื่นเช้าก็เตรียมตัวเข้าโบสถ์ (เข้า 12.00 น.)
ตอนแห่รอบโบสถ์ เขาห้ามใช้รถแห่เลย ต้องแบก (คิดแล้วใครจะแบกตรูไหววะ)
“นัดเมิงแบกดิ เดี๋ยวพวกรูช่วยจับ”ไอ้ต้าร์ว่า
“อุ้มยังไหว แบกจะไม่ไหวหรออออออ”ไอ่ธีร์แซว แล้วพวกมันก็มองหน้ากันแล้วหัวเราะก๊ากเลย
“กรูยังไม่พูดอะไรเลย”ไอ่นัดพูด
“เบาๆก็ได้มั้ง พวกเมิงเนี่ย”ผมว่า
“เออ เกรงใจนาคหน่อยดิ”
สรุป ไอ่นัดแบก
“ไหวนะนัด”
“ไหวดิ อุ่มยังไหวเลย”
“นัด มันใช่เวลาไม”
“แซวเล่น แดดร้อนเชี่ยเลย เค้าจะแห่ยังอะ”
“ยัง”
“เดี๋ยวไปเอาแว่นที่รถแปปนะ”
“อืมม”
“อะ”มันยื่นกล่องให้ผม
“อะไร”
“แว่นไง ใส่ด้วยแสบตา”
“ดี”
“สงสารคนแก่อะ แดดร้อนๆเลย”มองไปรอบๆ คนแก่นั่งหลบแดดใต้ร่มไม้ เต็มเลย
พอได้เวลาก็เริ่มแห่
“มา ขึ้นมา”ไอ่นัดบอกผม
“ไหวนะนัด”
“ไหวดิ”
“เดินเอาดีกว่ามั้ง”
“ไม่เอา คนตัวใหญ่กว่าตัวเอง ยังมีคนแบกไหวเลย”
“แน่ใจนะ”
“อืม ขึ้นมาเหอะ”
“ไม่ต้องห่วงพี่ เดี๋ยวพวกผมช่วยจับ”
กว่าจะครบ3รอบ ก็เสียวเหมือนกันนะ
พอทำพิธีบวชเสร็จ ก็กลับวัดป่า จัดเตรียมที่หลับที่นอน
คืนแรกที่ต้องนอนในป่าช้าเก่าเป็นอะไรที่น่ากลัว(ไม) ไม่กลัวนะเฉยๆ
ค่ำๆ หลังจากทำวัดเย็นเสร็จ พวกนั้นก็เอานมกล่องมาถวาย คนละ 1 ลัง
“โยม เยอะไปป่าว”
“เผื่อหลวงพี่หิวดึกๆไงครับ”
“ถ้าหลวงพี่ฉันไม่หมด ก็แบ่งให้ท่านอื่นด้วยก็ได้”
“อืม แล้วโยม2คนอะ จะกลับวันไหน”
“อีก วัน 2 วัน ครับ”
“พรุ่งนี้หลวงพี่ต้องไปบิณฑบาตไมครับ”
“มันเป็นกิจ ของสงฆ์ที่ควรทำ”
“โหห หลวงพี่ เพิ่งบวช เอาภาษาที่เข้าใจง่ายๆพอนะ ผมโง่”ไอ่นัดว่า
“55555/5555” พวกนั้นขำ
“เดี๋ยวพรุ่งนี้ผมจะมาเป็นเด็กวัดนะครับ เค้าบิณฑบาตกี่โมงครับ”
“เดี๋ยวถามหลวงพี่ให้นะ” ผมก็เดินไปถาม ให้
“7โมง โยมจะตื่นไหวหรอ”
“ไหวดิหลวงพี่”
“ญาติ โยมเดินกันเต็มเลย” หลวงพี่ที่เดินมาคุยกับพวกเรา
“เค้าจะว่าไมครับหลวงพี่”ผมถาม
“ไม่ว่าหรอก ห้ามแต่สีกาเข้ามายามวิกาลเท่านั้นพอ”
“อ้ออครับ”
“แต่ หลัง 4ทุ่ม พระทุกรูปต้องเข้าจำวัดนะ ห้ามออกมาเดินข้างนอก”
“ครับ”
พวกนั้นอยู่คุยด้วยจนได้เวลาพระตีระฆังเข้าจำวัด พวกนั้นถึงได้กลับ
ตี3.30 ก็ตีอีกครั้ง เพื่ออาบน้ำ ล้างหน้า เตรียมตัวทําวัตรเช้า ใครจะอาบน้ำก็ได้นะ แต่อยากบอกว่าช่วงนั้นหนาวมาก อาบไม่ได้แค่ล้างหน้าก็จะแข็งแล้ว
ตี4 ทําวัตรเช้า นั่งสมาธิจนถึง 6 โมงเช้า หลังจากนั้นฉันข้าวต้มแล้ว ไปบิณฑบาต
ไอ่พวกนั้นมากันตั้งแต่ พระยังฉันข้าวต้มเลย
การบิณฑบาต ต้องแบ่งเป็น2 สาย
เพราะว่าพระเยอะ
เวลาเดินบิณฑบาตต้องถอดรองเท้า สิ่งที่ต้องระวังคือขี้ไก่ 555555
เด็กที่เดินตามพระ ก็ต้องถอดเหมือนกัน
วันแรก ก็ให้พรโยมได้เกือบทุกรูปแล้ว เพราะคุ้นหูมาตั้งแต่เด็กๆ แต่บทกรวดน้ำนี้สิ ไม่มีใครได้สวดได้เลย มีแต่เพราะเก่าที่สวด 555555
พอบิณฑบาตเสร็จ ก็กลับวัด
ฉันเพลเสร็จก็ล้างบาตร แล้วต้องรีบหาหนังสือสวดมนต์มาท่อง เพื่อที่วันพรุ่งนี้ต้องดีกว่านี้
ตอนเย็น ไอ่ธีร์กับไอ่ต้าร์ก็เข้ามาลากลับ กรุงเทพ
เหลือแต่ไอ่นัด
บิณฑบาตวันที่2 ไอ่นัดก็เป็นเด็กวัดอีกเหมือนเดิม
ดึกๆ มันก็เข้ามาหา
“หลวงพี่ พรุง่นี้ผมต้องกลับไปกรุงเทพนะครับ”
“ไปลงทะเบียนหรอโยม”
“ครับ ผมกดตังออกมานะครับ”
“อืม จะพอไมอะ ตังในบัญเหลือเท่าไร”
“น่าจะพอ ผมไปพรุ่งนี้เช้านี้นะครับ คงไม่ได้มาเดินเป็นเด็กวัด”
“ไม่เป็นไร”
“แม่หลวงพี่ก็จะกลับกับผมด้วยเลย”
“อืม อย่าขับรถไปมากนักนะ”
“ครับ ผมไปไม่กี่วัดหรอก เดี๋ยวก็กลับมาคืน”
“อย่าไปเกเรที่ไหนละ”
“ครับ”
“แล้วจะไปกี่โมง”
“แม่บอก รอใส่บาตรก่อน แล้วเดินทางเลย”
“อืม”
เช้าวันต่อมา ผมก็บิณฑบาตปกติ
โยมแม่ โยมยาย แล้วโยมนัดก็รอใส่บาตร
แต่ตอนมันใส่ เหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น
มันตักข้าวใส่บาตรเสร็จ มันก็ล้วงกระเป๋ากางเกง ผมคิดว่ามันคงหยิบปัจจัยมาใส่บาตร (ปกติคนอื่นก็ใส่) มือหนึ่งผมอุ้มบาตรอยู่ อีกมือถือฝาบาตรไว้
แต่ไม่ใช่ มันหยิบบัตรเครดิตมาใส่บาตร ผมจะห้ามก็ไม่ได้ คือไม่รู้จะพูดยังไง
เลยเอามือข้างที่เปิดฝาบาตรอยู่เข้าไปหยิบบัตรออก แต่พลาด ฝาบาตรร่วง เพร๊ง!!!!!ฝาบาตรลงไปหมุนกับถนนลาดยาง ทุกสายตา ทั้งพระ ทั้งโยม หันมามองมองแล้วแอบขำกัน ไอ่นัดมันรีบวิ่งตามไปเก็บฝาบาตรให้
ผมนี่อยากจะมุดดินไปเลย ถ้าเกิดมุดบาตรได้มุดไปแล้ว
พอเดินออกจากตรงนั้น พระเพื่อนก็แซวกันใหญ่เลย รวมทั้งหลวงพี่ ผมได้แต่หัวเราะแห้งๆ
การทำฝาบาตรตกเป็นอะไรที่น่าอายมากนะ เพราะเหมือนกับว่าเราหิวจนมือสั่น อะไรประมาณนี้
ตอนเย็น โยมตาเอาโทรศัพท์มาให้ ไอ่นัดฝากให้เอามาให้
เปิดเครื่องปุ๊บก็โทรหามันเลย
“โหล หลวงพี่ครับ”
“ไงโยมถึง กรุงเทพหรือยัง”
“ถึงแล้วครับ เมื่อเช้าหลวงพี่เป็นอะไรครับ”
“แล้วโยมเอาบัตรเครดิตมาใส่บาตรทำไม”
“เอ้า ผมเอาบัตรATMมา กลัวหลวงพี่ต้องใช้เงินไง เลยเอาบัตรเครดิตไว้ให้”
“หลวงพี่อยู่ในป่านะ อีกอย่างเป็นพระ ไม่ต้องใช้เงินเลย”
“ผมไม่รู้ เผื่อจำเป็นนี่ครับ”
“ไม่เป็นไรโยม พักผ่อนเถอะ เดี๋ยวหลวงพี่ท่องบทสวดมนต์แล้ว”
“ครับ เดี๋ยวผมโทรหาใหม่”
“ไม่ต้อง Lineมาดีกว่า ว่างเดี๋ยวตอบ แต่อย่างโทรก็พอ แต่ถ้ามีอะไรสำคัญให้โทรหาตา แล้วให้ตามาบอกหลวงพี่ก็ได้ เค้าห้ามโทรศัพท์”
“ครับ อีก 2-3 วันผมก็กลับแล้วครับ”
“อืมม”
วันต่อมาก็ บิณฑบาต ภายในวัด เพราะ การเข้าปริวาสกรรม ต้องปฏิบัติอย่างเคร่งครัด ห้ามออกจากป่าเลย
ท่านผู้อ่านสงสัยต้องหาข้อมูลเองแล้วนะ มันยาวอะ
อากาศหนาวทุกวัน จนไม่สบายเลย ตอนทำวัตร ต้องเอากระดาษทิชชู่ ยัดจมูกไว้ตลอด
ไม่งั้นน้ำมูกไหล ยิ่งตอนสมาธินะ ไหลเป็นทางเลย
คืนหนึ่ง หลังจากทำวัตร เดินจงกรมเสร็จ ประมาณเกือบ 4 ทุ่มแล้ว
ผมก็เข้านอนปกติ แต่ยังไม่หลับหรอก
จู่ๆ ก็มีเสียง กรอบๆ แกรบๆ ข้างๆ หูผมเลย คาดว่าจะห่างไปเพียงคืบเดียว ผมก็นิ่ง เสียงนั้นก็ไม่ยอมหายสักที
ในใจก็ติดว่า คงเป็นพระกุฏิข้างๆออกมาทำอะไรมั้ง
แต่ไม่ใช่ เหมือนตัวอะไรสักอย่าง มากัดอะไรอยู่ ทีนี้เริ่มสวดมนต์ใหญ่เลย จำบทไหนได้ สวดหมด ไม่กล้าขยับด้วย อาจเป็นผีเปรต ผีปอบ มีกระสือ กระหัง หรือสัมภเวสี หรือเป็นอะไรก็ได้
สักพักเสียงเงียบเว้ย
แล้วก็มีเสียงเดินไป ผมว่าแล้วต้องเป็นหมา มันก็เป็นหมาจริงด้วย มันคาบกระดูกมานอนแทะข้างๆผม
ดื่นเช้ามาผมเล่าให้พระ กุฏิข้างๆฟัง เค้าก็บอกว่าได้ยืนเหมือนกัน
เป็นเรื่องที่จี้มาก บอกเลย รู้ถึงไหน อายถึงนั่น
หลังฉันเพล เสร็จ ไอ่นัดก็เข้ามาหา
“หวัดดีหลวงพี่”
“อ้าวกลับมาเมื่อไรหรอโยม”
“เพิ่งมาถึงครับ”
“เป็นไง เรียบร้อยดีไม”
“คือออ.... ก็ดีครับ ถ้าไม่ตก 2 วิชา”
“แล้วทำยังไงให้ตก”
“ส่งงานไม่ครบ แต่ตอนนี้ครบแล้วครับ”
“เฮ้ออออ”
“หลวงพี่ทำอะไรอยู่หรอครับ”
“กำลังจะซัก จีวร”
“เดี๋ยวผมสักให้”
“ไม่เป็นไรเดี๋ยวหลวงพี่ซักเอง”
“ไม่เป็นไรครับ ผมซักเอง”
แล้วมันก็แย่งไปซักจนได้ ผมก็ไปยืนดูมันซักนั่นแหละ
“ไหนๆก็ซักแล้ว หลวงพี่บอกเพื่อนหลวงพี่ด้วยสิ เดี๋ยวผมซักให้”
“ผีเข้าหรือไงโยม”
“ป่าวครับ เค้าบอกจะได้บุญเยอะ”
“ตามใจ เดี๋ยวไปบอกท่านให้”
“ครับ”
“ซักทีละชุดนะ เดี๋ยวจะหลงกัน”
“ครับ”
จีวร สบง เป็นอะไรที่แห้งไวมาก 2 ชั่วโมงก็แห้งสนิทแล้ว
กิจของสงฆ์วันๆก็มีแค่เนี้ยแหละ เจริญพร โยม เอ้ยยย ไม่ใช่ๆ สึกนานแล้ว