ตอนที่321
ขอบคุณที่เป็นห่วงคราบ ตอนนี้หายดีเเล้ว
ช่วงนี้อากาศเเปลกๆ ผมเลยป่วยเลย
ไม่ใช่อะไรหรอก เเม่บอกตอนเด็กๆ เเม่เอาผมไปให้ยายเลี้ยง ไม่ได้กินนมเเม่ เลยภูมิต้านทานไม่ดี
เเถมกินนมผงก็ท้องเสียอีก โตมาได้เพราะน้ำข้าวนะเนี่ย เเม่บอก
จะดีใจดีไม

......................................................
กลับถึงห้องผมไม่อาบน้ำ นอนเลย ไม่ไหว ร่างกายรู้สึกแย่มาก
“นัด หยิบยาให้กินหน่อยดิ”
“นั่นไงละ บอกแล้ว”
“กินดักไว้เฉยๆ”
“แต่สภาพไม่ธรรมดาแล้วนะ อะยา นี่น้ำ”
“ขอบคุณครับ”
“ไม่ต้องมาพูดดี นอนเลย ตื่นมามีอะไรคุยกันยาว”
“ครับ ฝันดี”
นอนหัวหมุนติ้วๆเลย
จะอ้วก
ก็ต้องลุกไปอีกสิ รออะไร
กว่าจะลากสังขารตัวไปเองไปถึงห้องน้ำได้ เหมือนไกลมาก จาก นี่ไปอินเดียเลย
เข้าไปในห้องได้คลำหาชักโครก(รีบไม่ได้เปิดไฟ) นั่งลงกับพื้นห้องน้ำ มองมันสักพักว่าจะคุยกะไรกับมันดี
“อ้วกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก”
“อ้วกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก”
จู่ๆไปในห้องน้ำก็สว่างขึ้น แต่ผมรู้ว่าน่าจะเป็นไอ่นัดแหละ เพราะมีกันอยู่แค่นี้
“เป็นไงละ ซ่าส์ดีนัก ใครยกอะไรให้ก็รับหมด”มันมาลูบหลัง
“อ้วกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก”เมิงเห็นไมว่ากรูคุยกับชักโครกอยู่ อย่ามาคุยแทรกได้ปะวะ มันขัดจังหวะ อยากคุยก็ต่อคิวดิ
ยาที่เพิ่งกินเข้าไปยังไม่ละลายเลย ต้องออกมาคืนซะละ
“กินน้ำก่อน”
“....................” ผมไม่ตอบมันนั่งมองชักโครกอย่างเดียวเลย
กรูอ้วกยังไม่หมดเลย ให้กินน้ำละ
ตอนนั้นผมคิดถึงเพลง “ขาหมู”เลย
“..........เกลียดชังตอนแฮงค์
ปวดหัวตอนเช้า
ตกเย็นเหล้าไม่หยุดเลย..........”
“ลุกไหวไม”
“ไหว”
“ล้างหน้า ล้างปากก่อน” ผมก็เชื่อง ทำตามที่มันบอก แล้วยืนมองหน้าตัวเองสลับกับหน้ามันในกระจก
“จะมองหน้าอีกนานไม”
“......................”
“อะ กินน้ำแล้วไปนอนซะ”
ผมรับมากิน แล้วพุ่งตัวไปที่เตียง แล้วนอนเลย
ตื่นมาเย็นเลยละ ปวดหัวมาก ไม่รู้ว่าปวดเพราะไข้ หรือปวดเพราะแฮงค์
“เป็นไง ฟื้นได้แล้วหรอ”
“อือ”
“หิวยัง”
“อือ”
“แปป ตากผ้าเสร็จ ก่อน เดี๋ยวพาไปกิน หิวเหมือนกัน” มันดีตรงนี้แหละ เวลาผมงานเยอะ หรือ ไม่สบาย มันจะเป็นคนทำงานบ้าน ถึงตากผ้าจะไม่ค่อยสะบัด กวาดห้องไม่ค่อยสะอาด ถูห้อง แบบเหมือนเอาน้ำมาสาด แต่ก็ยังดีที่มันทำ มันทำให้มองเห็นว่ามันก็ยังอยากแบ่งเบาภาระได้บ้าง ส่วนชุดทำงานผม หรือชุดนักเรียน ก็เอาไปส่งซัก (เมื่อก่อนส่งซักเพราะไม่มีเวลา เดี๋ยวนี้เริ่มขี้เกียจซักรีดเอง ก็ต้องส่งซักเหมือนเดิม)
“อือ”
“กินน้ำอะไรเปรี้ยวๆหน่อยไม จะได้ดีขึ้น”
“อือ”
“พูดอย่างอื่นไม่เป็นเลยหรือไง”
“อือ”
“ยังๆ เดี๋ยวปั๊ด”
มันเปิดตู้เย็นหยิบน้ำชาเขียวน้ำผึ้งมะนาวให้ผมกล่องนึง (ซื้อมา2ลัง ตอนที่เซเว่นมันลดเหลือกล่องละ5 บาท)
“ขอบใจ”
“พูดอย่างอื่นเป็นด้วย”
“จึ”ได้แต่ จึ ในคอ ดูดหมดแล้วนอนต่อ
พอมันตากผ้าเสร็จ เข้ามาเห็นผมนอน
“เอ้า สรุปหิวไมเนี่ย”
“นิดนึง กี่โมงแล้วอะ”
“จะ2ทุ่มละ”
“เอาหรอ คิดว่าตอนเย็นนะเนี่ย”
“นอนกินบ้าน กินเมืองก็เงี้ย”
“แหม ทีตัวเองอะ”
“ปะ ลุกๆ ไอธีร์บอกจะพาไปกินอะไรอร่อยๆ”
“กินอะไรอะ”
“ไม่รู้มัน มันบอกถ้าตัวเองตื่นแล้ว ให้ไปเรียกมัน”
“เอ้า แล้วมันอยู่กับใครอะ”
“คนเดียว”
“แล้วรองเท้า เมื่อคืนละ”
“กลับไปแล้วมั้ง”
“หรอ อาบน้ำแปบ”
“ไม่ต้องอาบหรอก เดี๋ยวไข้ขึ้น” คู่อื่นมีแต่ไล่ไปอาบน้ำ ตัวกรูดีเว้ย ไม่ให้อาบน้ำ
“ล้างหน้าแปรงฟันเฉยๆก็ได้ แปปเดียวแหละ”
“ไวไว เดี๋ยวไปดูดหรี่รอ”
“เออ”
สรุปแล้ว พวกเมิง พากรูถ่อสังขารมากินแค่โจ๊ก ถึงพุทธมณฑล ไม่พาไปอีกนิดละ จะนครปฐมแล้ว
แต่โจ๊กเปิดอร่อยจิง คนเยอะด้วย ผมเพิ่งเคยกินเนี่ยแหละ
“เป็นไงพี่ได้ข่าวว่านัวสาวหรอ” ผมเงยหน้ามองหน้ามัน สลับกับไอ่นัด ผมอุส่านั่งกินเงียบๆอย่างสบายใจละนะ
“เออ เมิงพูดขึ้นก็ดีละ เกือบลืมเลย”
“อะไรๆ ไม่มีอะไร”
“เหร๊อ เห็นนั่งสีกันใหญ่เลย ถ้าสิงกันได้ คงสิงไปแล้วมั้ง”
“เมิงก็เวอร์ไปนัด ใครจะสิงละ บ้าป่าวคนเยอะแยะ”
“อ้อ ถ้าไม่มีคนก็ไม่แน่ใช่ไม”
“เลอะเทอะ กรูไม่ใช่เมิงนะ”
“เหรอ นี่ๆดูนี่” มันเอาโทรศัพท์มันขึ้นมาเปิดรูปให้ผมกับไอ่ธีร์ดู
“โหหเด็ด วันหลังพาไปบ้างดิ”
“พอๆๆ” ผมแย้งโทรศัพท์มา ลบทิ้ง
“ทำไม หลักฐานมัดตัวขนาดนี้ยังจะปฎิเสธอีกหรอ ให้หาพยานมาอีกไม”
“เรื่องของเมิง กรูไม่อยากเถียง”
“แล้วถ้าเค้าไม่ไปด้วยมันจะขนาดไหนเนี่ย”
“ก็ไม่ขนาดไหนหรอก”
“แล้วเค้าจะไว้ใจตัวเองให้ ไปในที่แบบนี้ได้ไง”
“เมิงก็เหมือนกัน”
“พอๆ กินเถอะ เถียงกันไปเถียงกันมาเดี๋ยวตีกัน อายคนอื่นเค้า”
“เนอะธีร์”ผมหาพวก
“เน๊อะธีร์”ไอ่นัดย้อนผม
กินโจ๊กเสร็จ พวกมันก็ไม่อิ่ม พากันไปนมสดอีก
ผมนี่อยากกินยาแล้วนอนมาก
แต่ก็ต้องตามใจพวกมัน
กลับถึงห้อง
“ไอ่นัดเข้าไปอาบน้ำ”
ผมนี่ รีบกินยานอนเลย ไม่ไหวแล้ว
“นอนแล้วหรอตัวเอง”
“อือ ไม่ไหวอะ ปวดหัวมาก”
“เค้าดูบอลนะ”
“ทำไรก็ทำเถอะ อย่าเปิดเสียงดังละ”
“อือ ไม่ไหวบอกนะ จะพาไปหาหมออีกรอบ”
“อืออ ไหว แค่ปวดหัว สงสัยกินน้ำเย็น”
“งั้นนอนดิ”
“จุฟทีนึงก่อน”
“จุฟ” มันก็บ้าจี้ตามผม
“แหวะ กรูจะอ้วก”
“เอ้า นอนเลย”
“อืม นอนละ เดี๋ยวตื่นไปทำงานไม่ไหว”
“ครับ”
ผมตื่นมา TV ยังเปิดอยู่เลย หันไปมองคนข้างๆ นอนอ้าปากซะน่าเอารีโมทยัดปากเลย
ผมลุกไปอาบน้ำ แต่งตัวไปทำงานเลย ไม่ปลุกมันด้วยซ้ำ
สายๆมันก็โทรมา
“อยู่ไหน”
“ทำงานดิ”
“โหแล้วเมื่อเช้าทำไมไม่ปลุกอะ ไม่ได้ไปเรียนเลย”
“อ้าวหรอ คิดว่าไม่มีเรียนไงเลยไม่ปลุก”
“โหหห”
“อย่ามาลงที่กรูนะนัด กรูใช้ให้เมิงดูบอลหรอ กรูจ้างเมิงหรือไง ห๊ะ”
“okๆ เค้าขอโทษ”
“แค่เนี้ยแหละ อารมณ์เสีย”
“เดี๋ยวๆ”
“อะไร”
“หายไข้แล้วหรอ”
“ดีขึ้นแล้ว”
“กินเข้ากินยาด้วยนะ เค้าเป็นห่วง”
“เออ”
“ดีแล้ว ยังไม่อยากเป็นม่าย ขี้เกียจหาใหม่”
“เรื่องของเมิงเหอะ แค่นี้แหละ มีอะไรLineไว้ อารมณ์ดี เดี๋ยวมาอ่านเอง”
“Line อะไร ครั้งที่แล้วเค้าLineไป ตัวเองมาตอบอีกที ผ่านไปจะ1อาทิตย์ละ”
“กรูไม่ว่าง”
“ถ้าเค้าตาย ตัวเองจะรู้ไมเนี่ย”
“ปากเสีย ก็Lineมาไว้สิ ว่าอยู่วัดไหน พออ่านเดี๋ยวไป”
“โห๊ะๆ”
“แค่เนี่ยแหละ”
บ่ายๆ มันก็Lineมา
นัด...“ทำไรอยู่”
ผม...“นั่งเปื่อยอยู่”ดีที่ผมจับโทรศัพท์พอดี
นัด... “ง้อวววววว อ่านไวนิ กลัวผัวตาย แล้วเป็นม้ายหรอ”
ผม... “กวนทีน มีอะไร”
นัด... “ป่าว ไม่มีอะไรเบื่อๆ ไม่มีไรทำ”
ผม... “หนังสือเรียนอะ หัดอ่านบ้างจะได้ไม่เบื่อ”
นัด... “โอ้ยยย ปวดหัวพอดี อ่านไม่ได้”
ผม... “นี่ถ้าเมิงไม่มีหู กรูคิดว่าปลาไหลชัด”
นัด... “ทำไมอะ”
ผม... “เลื้อย ไหล แถ เก่ง”
นัด... “อย่างอื่นก็ เลื้อย ไหลเก่งนะ”
ผม... “ถุ้ย เรื่องของเมิงเหอะ”
นัด... “ว่างงานหรอถึงนั่งเล่นโทรศัพท์” นี่เป็นครั้งแรกในรอบหลายปี ที่พิมพ์คุยกับมันยาวขนาดนี้
ผม... “มาก ว่าจะกลับแล้วเนี้ย”
นัด... “ลงมาดิ ไปหาอะไรกินกัน”
ผม... “เมิงอยู่ไหน”
นัด... “ร้านกาแฟ” ผมออกจากห้องเดินไปที่กระจก แอบเปิดม่านมองไปที่ร้านกาแฟ
ผม... “ทำไมมาไวจัง”มันจิงๆด้วย ใส่แว่น นั่งแดรก กาแฟอยู่ ชีวิตเมิง slow life มาก
นัด... “ก็ไม่มีอะไรทำไง เลยมานั่งส่องหญิง” หญิงบ้าอะไร มีแต่ 30+
นัด...”ลงมาดิ”
ผม.. “เออ เดี๋ยวลงไป”
นัด... “น่ารักที่สุด”
นัด... “เดี๋ยวพาไปล้างรถ” ผมเดินไปจะถึงมันแล้ว อยากเดินกลับขึ้นไปคืนจัง
“มาทำบ้าอะไรตอนนี้”
“เอ้า ก็ว่างไง”
“แล้วคิดว่ากรูว่างไมละ นี่มันกี่โมง”
“บ่าย2”มันก้มดูนาฬิกาแล้วตอบหน้าตาเฉย
“ใช่ไง เวลางานกรู”
“แล้วมีงานทำไมละ”
“ไม่มี”
“งั้นไง ถึงจะพาไปล้างรถ”
“แล้วทำไมไม่ล้างก่อนค่อยมา”
“เออวะ ไม่ทันละ ไปกันเถอะ เดี๋ยวพาไปกิน ชาบู จ่ายค่ากาแฟให้ด้วยนะ”พูดเสร็จ มันก็เดินไป ปล่อยให้ผมยืนงงๆ แต่ก็เดินไปจ่ายให้มันนะ
“จะพาไปไหนนัด”
“ขึ้นรถเหอะ เดี๋ยวบอก”
“เมิงนี่ทำตัวลับๆล่อๆนะ”
“ก็พาไปล้างรถไง”
“โหห เค้าไม่ไปได้อะนัด ขี้เกียจรอ”
“ก็ระหว่างรอ เราก็ไปหาอะไรกินก่อนไง”
“กินไร”
“ชาบูไง ตัวเองอยากกินไม่ใช่หรอ”
“หรอ กรูเคยบอกหรอ”
“ใช่”
“เท่าที่กรูจำได้ มีแต่เมิงนะที่บ่นอยากกินๆอะ”
“มันก็เหมือนกันนั่นแหละ ตัวเองบอกอยากกินซูชิเหมือนกันนิ”
“กรูออกไปซื้อปากซอย ชิ้น5บาทเอง”
“มันคนละเกรดกัน”
“สรุปคือเมิงอยากกิน”
“ตัวเองอยากกิน”
“กู”
“ใช่”
“แล้วใครจะจ่ายอะ”
“ตัวเองไง”
“ตลก”
“งั้นตัวเองจ่ายค่าล้างรถ เดี๋ยวเค้าจ่ายค่าชาบูเอง”
“ค่ากาแฟเมื่อกี้กรูก็จ่ายนะ”
“โห แค่ไม่กี่บาทเอง”
“65บาท”
“สรุปคือจะกินไม”
“กิน แต่ไม่อยากเสียตัง”
“ก็แค่เนี้ย จ่ายเองก็ได้ เมียคนเดียว พี่เลี้ยงได้”
“เลี้ยงได้ แล้วเลี้ยงให้ดีด้วยนะ”
“ก็พยายามอยู่นี้ไง”
“นัด กรูถามจริง เมิงขายยาปะวะ” มันทำตาโตใส่ผม
“ทำไมถามงั้นอะ อยู่ด้วยกันตลอด จะเอาเวลาที่ไหนไปขาย”
“แล้วเมิงเอาตังมาจากไหนเยอะแยะวะ ขนาดกรูทำงาน งกๆ ยังไม่มีเงินเลย”
“ก็คนมันหล่อ พ่อรวย .....ใหญ่ ทำไงได้”
“นี่อย่าบอกนะ ว่าเมิงขอเงินพ่อแม่เมิงอีกแล้วอะ”
“....................”มันไม่ตอบ ก้มหน้ากินอย่างเดียว
“ทำไม แทงใจหรอ”
“ป่าววว”
“สรุปจริงใช่ไม”
“จริง”
“แล้วเมิงไปขอเค้าทำไมนัด กรูบอกเมิงว่าไง”
“เค้ารู้ แต่เค้าก็ไม่อยากรบกวนตัวเองมากไง”
“เลยไปรบกวนพ่อแม่ เมิงแทน”
“พ่อแม่เค้าไม่เห็นว่าเค้าไปรบกวนเลย”
“เลิกขอซะนัด กรูให้เมิงอดอยากขนาดนั้นเลยหรอนัด”
“ตัวเองอย่าทำหน้าจริงจังขนาดนั้นสิ”
“ก็โมโหอะ จะให้หัวเราะหรอ”
“เค้าไม่อยากรบกวนตัวเอง ตัวเองมีภาระเยอะอยู่แล้ว ไหนจะค่าห้อง ส่งให้ยาย ค่างวดรถ ค่าเทอมเค้าอีก เค้าไม่อยากให้ตัวเองลำบากไปมากกว่านี้”
“กรูเคยบ่นให้เมิงฟังหรอ ว่ากรูลำบาก”
“ไม่เอาๆ อย่าโกรธนะ อะๆ กินนี่ๆ”
“ไม่อยากกินอะไรละ อารมณ์เสียวะ”
“โอเค เลิกขอละ นะนะ”
“ให้มันจริง”
“จริงๆ กินดิ นะนะ”มันก็ตักนั่น ตักนี่มาให้
“ไม่ต้อง กรูตักเองได้ อายเค้า”
“ถ้า กรูรู้อีก เมิงโดนแน่นัด”
“ok เค้าไม่ให้ตัวเองรู้แล้ว” เอ๊ะ ยังไง
“แปล ประโยค มะกี้ใหม่ดิ”
“อารายๆ”
“อะไรละ เค้าไม่ให้ตัวเองรู้แล้ว หมายควายว่าไง”
“พูดเล่นๆ”
กินเสร็จ ผมก็ยังไม่เลิกบ่นมันนะ เสียใจ มันทำอะไรไม่บอกผม
แต่มันหาได้สำนึกไม่ เดินผิวปากเฉย
ตอนขากลับ เดินไปที่ลานจอดรถ ผมเห็นคนหิ้วปลาทู ย้ำปลาทูจริง ตัวเท่าคนเลย
“ทำไม อยากได้หรอ เห็นมองจัง”ไอ่นัดแขวะผม
“ป่าว แปลกดี”
กลับถึงบ้านผมก็เปิดคอม นั่งหาไอ่ปลาทูตัวนั้น
ไอ่นัดก็จะเล่นเกมส์ ไล่ให้ผมลุกจากหน้าคอม ผมก็จำใจลุกให้มันเล่น แล้วผมก็ไปทำอย่างอื่น
“กินยายังตัวเอง” ตามันกำลังเข้าเกมส์นะ แต่ปากยังห่วงผม
“ยัง ลืมเลย”
“ไปกินแล้วรีบนอนเลย”
“นอนบ้าอะไร”
“ตัวเอง วันเกิดตัวเองเป็นวันลอยกระทงพอดี”
“แล้ว???”
“โถ่ ชีวิตตัวเองเคยมีวันไหนสำคัญกับตัวเองบ้างป่าว”
“ก็มีบ้างนะ”
“หยุดงานปะ วันลอยกระทง”
“ไม่นะ”
“โห ไรวะ งานห่าไรวะ”
“อย่ามาลามปามกับงานกรูนะเมิง”
“ไปขอหยุดเลย บอกมีธุระ”
“เหอะๆ จ้างกรูสิ” จริงๆ จะหยุดได้ เพราะมันปลายๆมีแล้ว ไม่มีอะไรมาก ส่วนใหญ่ เค้าก็ใช้วันหยุดพักร้อนไปเที่ยวเหนือกันเยอะ เพราะเดี๋ยวจะใช้ไม่ทัน
“เท่าไร”
“3000”
“ได้ อะ!!!”
มันเดินมาหาผมที่นั่งซักถุงเท้าอยู่ในห้องน้ำ แล้วยัดเงินใส่กระเป๋าเสื้อผม
“อะไร”
“เงินไง ทั้งตัวตอนนี้มี 4000 ให้หมดเลย พูดแล้วห้ามคืนคำนะ”
“ตลกละ”ผมสลัดฟองผงสักฟอกออกจากมือ แล้วดูเงินในกระเป๋าเสื้อตัวเอง 4000 จริงด้วย
“นัด ไหนดูกระเป๋าตังเมิงสิ” มันก็กางกระเป๋าแล้วคว่ำ เขย่าๆให้ผมดู
“เชื่อยัง ตัวเองต้องหยุดนะ ถ้าไม่หยุดเค้าทำให้หยุดเอง”
“เมิงจะทำอะไรกรูนัด”
“เดี๋ยวรู้”
“ขอคิดดูก่อน”
“ก็ได้ เดี๋ยวรู้ 4,000 ทำตามด้วย”
“นี่เมิงทำอย่างกับกรูเป็นอิหนู เด็กเมิงงั้นแหละ”
“คิดเลอะเทอะ”
เดี๋ยวมีต่อ รีดผ้าอาบน้ำ ไปทำงานละ