“พี่ครับ.....ผมขอ(เอา)พี่ได้ไหมครับ”
:oo1:ตอนที่ 17 (23/07/55) P.23Part 1 ผมเริ่มเรียนและเริ่มเช้าวันใหม่ที่สดใสด้วยความร่าเริง สดชื่น ยิ้มแย้มแจ่มใส ผมยิ้มไม่หุบเลยนะครับ คนมีความสุขมันเป็นแบบนี้นี่เอง เห้อ!!แต่เย็นนี้ผมติดซ้อมบาสซะงั้น อดเห็นหน้าที่รักเลย แต่ก็เอาเถอะแอบๆ ไปก็ได้มั้ง? เดี๋ยวค่อยโทรหาอีกทีแล้วกัน
วันนี้เป็นวันที่ผมตั้งใจเรียนที่สุดตั้งแต่เปิดเทอมมา จะให้ผมบอกยังไงดีล่ะครับผมก็อธิบายไม่ถูกเหมือนกัน แต่ตอนนี้ผมมีความรู้สึกว่าผมมีความสุขมาก มากกว่าใครหลายๆ คนเลย เหมือนตัวมันลอยๆ เนอะ อิอิ คิดแล้วก็ยิ้มหวานๆ ให้กับตัวเอง......อ่าส์!!!!!!!!!
เมื่อคืนทั้งที่พี่เขามีเรื่องให้วุ่นวายใจแต่ก็ยังแอบหวานใส่ผม นี่พี่เขาเลือกผมแล้วจริงๆ ใช่ไหมครับ? แถมเรียกผมแบบนั้นอีก อ้า!! สุขสุดๆ พี่เขาบอกผมแล้วใช่ไหม? พี่เขายอมรับผมแล้วใช่ไหม? แต่ก็ช่างเถอะในเมื่อผมรักไปแล้วและตัดสินใจที่จะดูแลคนๆ นี้แล้วยังไงผมก็จะรอครับ รอฟังคำนั้นจากปากสวยๆ นั่น รอจนวันสุดท้ายของชีวิตเลยครับ...พูดจริงนะเนี่ย?!!จะมาหาว่าผมเชื่อถือไม่ได้นะ เอาไว้คอยดูกันต่อไปแล้วกันนะครับ ระยะทางพิสูจน์ม้า กาลเวลาพิสูจน์คน รักพี่บัสทั้งคนเดี๋ยวเฟิร์สจะพิสูจน์ให้เห็นเอง อารมณ์ผมตอนนี้คงประมาณว่าฉุดไม่อยู่แล้วล่ะครับเตรียมพุ่งโลดแล่นโจนทะยานได้เต็มที่ พลางให้นึกถึงบทละครพูดคำฉันท์เรื่องมัทนะพาธา ที่มีความตอนหนึ่งว่า
“ความรักเหมือนโรคา บันดาลตาให้มืดมน
ไม่ยินแลไม่ยล อุปะสัคคะใดๆ
ความรักเหมือนโคถึก กำลังคึกผิขังไว้
ก็โลดจากคอกไป บ่ ยอมอยู่ ณ ที่ขัง
ถ้าหากจะผูกไว้ ก็ดึงไปด้วยกำลัง
ยิ่งห้ามก็ยิ่งคลั่ง บ่ หวลคิดถึงเจ็บกายฯ...”
อ้างอิง : หนังสือเรื่อง มัทนะพาธา ตำนานดอกกุหลาบ
พระราชนิพนธ์ในพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว
เป็นไงล่ะครับ ผมว่ามันเข้ากับอารมณ์ของผมตอนนี้มากยิ่งเมื่อคืนได้รับเชื้อไฟรักเข้าไปจากพี่เขายิ่งทำให้จิตใจผมแล่นโลดกันไปใหญ่เลย
ต่อจากนี้ไปไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นผมก็จะทำตามหัวใจผมเรียกร้อง ผมจะรักและดูแลผู้ชายคนนี้ด้วยหัวใจที่บริสุทธิ์ประดุจจันทร์เพ็ญที่ผ่องใส ผมไม่สนใจอะไรแล้วเพียงแค่ได้รักได้ดูแลคนคนนี้ตลอดไปผมก็พอใจแล้ว ในใจผมตอนนี้มันรุ่มเร้าอยากไปพบไปเจอ หากเพียงแค่ผมได้รักได้ดูแลคนคนนี้จนสิ้นชีวีผมก็จะไม่เสียดายเลย นี่แหละหนาความรัก...ทำให้ปักใจมิเสื่อมคลายจริงๆ มันทำให้ผมได้นึกถึงกลอนอีกบทหนึ่งขึ้นมาทันทีที่เปรียบเปรยได้น่าฟังยิ่งนัก
“อ้าอรวรนุชเนื้อ นฤมล
เรียมใฝ่มาฝากชนม์ ชีพด้วย
ตราบสิ้นสุธาดล อากาศ ก็ดี
สูญสมุทรสุเมรุม้วย ไป่ม้วยเสน่ห์นาง…”
อ้างอิง : ลิลิตพระศรีวิชัยชาดก
เจ้าพระยาพระคลัง (หน)
ทุกคนคิดไหมครับอารมณ์ผมทำไมศิลปินเหลือเกิน หรือว่าผมจะเป็นลูกเป็นหลานท่านสุนทรโวหาร(สุนทรภู่)กันนะ แต่ก็นั้นแหละครับดั่งที่ท่านสุนทรภู่เคยแต่งไว้ว่า
“ไม่เมาเหล้าแต่แล้วเรายังเมารัก สุดจะหักห้าจิตคิดไฉน
ถึงเมาเหล้าเช้าสายก็หายไป แต่เมาใจนี่ประจำทุกคำคืน…”
อ้างอิง : นิราศภูเขา
พระสุนทรโวหาร (สุนทรภู่)
เมามากครับตอนนี้ผม “เมารัก” พี่เขาเหลือเกิน แต่ก็ช่างเถอะถึงจะยังไงเสียตอนนี้ผมก็มีความสุขเหลือเกิน ผมจะรักคนคนนี้อย่างมิเสื่อมคลายแม้ฟ้าจะสิ้นแผ่นทลาย ผมก็จะรักเขาเพียงคนเดียวครับ...............อ้า!!!!!มีความสุขจริงๆ สงสัยผมจะเมารักพี่เขาจริงๆ ซะแล้วครับดูสิเดี๋ยวยิ้มเดี๋ยวเหม่อ อาการเบลอๆ เหมือนคนเมากัญชาเลยครับ ฮ่าๆๆ...
ผมไม่รู้ว่าจะมีใครเป็นเหมือนกับผมบ้างนะครับ โรคความรักลิสซึ่มซึมซาบเข้าทรวงซะแล้วครับตอนนี้ คิดถึงดวงหน้าหวานๆ นี้ทีไรก็เป็นยิ้มได้ทุกทีแหละน่า “ผมรักพี่จังเลยครับ” ผมอยากตะโกนคำนี้ออกมาดังๆ ให้เขาได้ยินมันจังครับ “รักมาก”
“หวัดดีครับที่รัก”
“ที่รงที่รักอะไรไอ้บ้า!!”
“งั้นเมียจ๋าก็ได้!”
“ไอ้บ้า!!!!!!!” เต็มหูเลยคราวนี้
“ไม่มีอะไรจะวางสายแล้วนะ!”
“ครับผมจะบอกว่าเย็นนี้ติดซ้อมบาสนะครับ”
“อ้อ ต้อบอกพี่แล้วล่ะ” ไม่ต้องทำเสียงหวานใส่ผมก็ได้นะครับ แค่นี้ผมก็หลงจนโงหัวไม่ขึ้นอยู่แล้วครับ
“งั้นเดี๋ยวผมแว๊บไปส่งพี่ที่ห้องก่อนก็ได้นะครับ ช้าหน่อยพี่ต้อคงไม่ว่าหรอกครับ”
“ไม่ได้!” โหยทำไมต้องดุด้วยนิ
“ว้า ทำไมต้องดุผมด้วยง่าครับก็ผมอยากเจอหน้าพี่นิครับ อยากเจอ อยากกอด อยากหอม อยากรักพี่ด้วย”
“อย่ามาทะลึ่ง!!” ดูเสียงสิครับอ่อยเลย อิอิ ให้ผมทายนะว่าต้องนั่งหน้าแดงอยู่แน่ๆ อ้า!!!!คิดแล้วมอม้าคึกคัก ยอยักษ์อยากจับกดเสียจริง
“ง่าก็ผมเป็นห่วงพี่นี่ครับ?”
“ไม่เป็นไรพี่กลับเองได้”
“ไม่เอาหรอกใครจะยอมให้แฟนตัวเองเดินกลับคนเดียวไม่เอาหรอก!”
“เมื่อก่อนพี่ก็กลับเองออกบ่อยไม่เห็นเป็นไรเลยนิ?”
“นั่นมันเมื่อก่อนครับ ตอนนี้พี่มีผมแล้วจะให้ผมละเลยหน้าที่ตัวเองได้ไงครับ!” ผมเถียงด้วยน้ำเสียงจริงจัง
“หน้าทงหน้าที่อะไร?ไม่จำเป็นเลย”
“จำเป็นสิครับ! ไม่รู้ล่ะยังไงผมก็จะไปส่งครับ”
“ไม่!!!!!!!!ถ้ามาพี่จะโกรธเราจริงๆ ด้วย ไม่คุยด้วย ไม่ให้เข้าห้อง และไม่ให้กอดด้วยนะ” กลัวตายละครับกับน้ำเสียงนี้ เจื้อยแจ้วดีเหลือเกิน ที่ว่ามาน่ะไม่ได้ขู่ให้ผมกลัวเลยนะนอกจากจะยั่วให้ผมอยากไปเจอและฟัดเจ้าของเสียงมันซะให้รู้แล้วรู้รอดไปเลย
“คราฟๆ ไม่ไปก็ไม่ไปครับ งั้นพี่กลับห้องดีๆ นะครับอย่าแอบไปโปรยเสน่ห์ที่ไหนนะครับผมหวง ถึงห้องแล้วโทรหาผมด้วยนะครับ”
“ครับผม!!” ดูสิรับคำผมซะน่ารักเชียว
“คิดถึงจังเลย อยากกอดจัง อยากหอมด้วย.....ไหนจุ๊บก่อนสิ!” ผมจะอ้อนแบบนี้ทุกครั้งถึงรู้ว่าพี่เขาไม่ยอมทำหรอก(ต่อที่สาธารณะนะ อิอิ แต่สองต่อสอง ทำครับ 5555+) แต่ผมก็อ้อนเอาครับ มีความสุขดีออก
“บ้า!!ไปได้แล้ว”
“ฮ่าๆ ดุจังกลัวแล้วครับ บายนะครับ”
“คิดถึงเหมือนกันครับ จุ๊บๆ....” ตุ๊ดๆๆๆๆ!!!!!เห้ยอย่าเพิ่งวางดิครับใครได้ยินเหมือนผมบ้าง? ขอชัดๆ อีกรอบสิครับ กลับมาคุยกันก่อน อย่าเพิ่งวางสายสิครับ...........แอบหวานเหมือนกันนะเนี่ยแฟนผม
ผมต้องบ้าไปแล้วแน่ครับตั้งแต่เช้ามาผมก็นั่งอมยิ้มอยู่คนเดียว เหม่อๆ แล้วยิ้มไปมา ในห้วงความคิดก็สุนทรีมีแต่บทกลอนแห่งห้วงโสมนัสแห่งรักไปแล้ว จนเพื่อนมันหาว่าผมบ้าไปแล้ว เออแน่นอนครับผมต้องบ้าไปแล้ว ช่วยพาผมส่งศรีธัญญาหรือสวนปรุงทีครับ.....แล้วจะยังมาเจออาการแบบเมื่อกี้อีก อ๊าก!!!!!!...ผมจะกระอักความรักทะลักความสุขตายแล้วช่วยด้วย!!!!!!
มาถึงสนามก่อนซ้อมผมก็โทรหาสุดที่รักของผมอีกรอบ เพราะคนยังมาไม่ครบโดยเฉพาะหัวหน้าทีมก็ยังไม่มา ที่รักผมก็นะเสียงเจื้อยแจ้ว ฟังกี่ทีๆ ก็ไม่รู้จักเบื่อ ผมยังย้ำเรื่องเดิมๆ ให้กลับห้องดีๆ ถึงห้องแล้วให้โทรหาผมด้วย ถ้าโทรมาแล้วไม่รับสายแสดงว่าผมกำลังซ้อมอยู่ แต่ยังไงก็ต้องโทรมาให้ได้ ผมย้ำอยู่นานตอนแรกพี่เขาก็เถียงว่าทำไมต้องโทรด้วย ไร้สาระ หาเหตุผลมาสารพัดแต่ผมไม่ยอมหรอก ยังไงต้องแจ้งผมทุกความเคลื่อนไหวหากมีใครมาฉุดแฟนผมไปอีกจะทำไง ผมยังไม่วางใจเรื่องของไอ้พี่วิชนั่นหรอกนะ จริงไหมล่ะครับทุกคน ก็ตัวเองเล่นน่ารักซะขนาดนี้หากผมสามารถพับเก็บในกระเป๋าได้นะผมจะรูดซิปลงรหัสลับกักเก็บไว้เลย เถียงกันอยู่นานครับจนที่รักผมต้องยอมแพ้แถมหัวเราะออกมาเบาๆ บอกว่าถึงห้องแล้วเดี๋ยวจะรีบโทรหา แต่กลับเป็นตัวเองซะอีกที่ใส่ผมเป็นชุดบอกว่า ห้ามมองใคร ห้ามเหล่ใคร ห้ามยิ้มให้ใคร ห้ามๆๆๆๆ ทุกอย่าง ซ้อมเสร็จแล้วห้ามไปต่อที่ไหนถึงพี่ต้อชวนก็ห้ามไปให้รีบกลับ บอกว่าอยู่ห้องคนเดียวมันเหงา แถมทำเสียงอ้อนๆ ด้วย วู้ๆๆ!!!! ไม่ไปไหนหรอกครับกลับห้องอย่างเดียวชัวร์.......เดี๋ยวนี้พี่เขาน่ารักขึ้นนะครับ ขี้อ้อน ถึงเราจะไม่ได้ตกลงกันเป็นเรื่องเป็นราวในการที่จะคบกัน แต่ผมก็รู้แล้วว่าตอนนี้ “เรา” อยู่ในฐานะอะไรของกันและกัน
สมาชิกในทีมเริ่มมาเยอะขึ้นเรื่อยๆ วันนี้คณะเราซ้อมกันเองครับ เอาทั้งรุ่นพี่รุ่นน้องมารวมกัน เยอะเหมือนกันนะไม่คิดว่าตัวนักกีฬาบาสของคณะผมจะเยอะขนาดนี้ แต่ละคนก็สูงๆ หุ่นดีกันทั้งนั้นรวมทั้งหน้าตาก็ใช้ได้นะผมว่า แต่ผมคิดว่าคงไม่ได้มีแค่ตัวนักกีฬาเท่านั้นที่มาในวันนี้เพราะทุกคนคงแอบแนบอิงเอาเพื่อนบ้างหวานใจมาบ้างเพื่อมาเป็นกำลังใจในการซ้อม
ผมยังแอบหวังไว้นะครับว่าสักวันพี่เขาจะมานั่งมองผมซ้อมหรือเชียร์ผมแข่งอยู่ข้างๆ สนามบ้าง แต่ก็ช่างเถอะครับยังไงเสียเราก็ใกล้กันชิดกันทุกวันอยู่แล้ว ความรักมันไม่จำเป็นต้องป่าวประกาศให้ใครรู้ แค่เพียงสองคนเรารับรู้ซึ่งกันและกันก็พอแล้ว เพราะความรักเป็นเรื่องของคนสองคนไม่จำเป็นต้องให้คนอื่นรับรู้ก็ได้ และที่สำคัญที่ลืมไม่ได้เลยว่าอะไรที่ทำให้ผมรักผู้ชายคนมากขึ้นทุกๆ ก็เพราะเราได้เป็นคนคนเดียวกันแล้วครับ พี่เขาอาจจะไม่แน่ใจในตัวผมก็เป็นได้นะครับ เพราะผมเองที่เริ่มต้นความรักด้วยการกระทำที่ดูแล้วไม่น่าจะคงทน มั่นคงถาวรเลย แต่ผมอยากบอกผู้ชายคนนี้ว่าตั้งแต่ครั้งแรกที่ผมเจอเขาและครั้งแรกที่เรามีอะไรกันผมทำทุกอย่างไปด้วยความรักทั้งหมดทุกการกระทำไม่มีสิ่งใดเจือปนเลยสักนิดมันจะมีก็แต่เพียง “ความรัก” ที่ผมพร้อมจะมอบให้เขาได้แม้กระทั่งลมหายของผม
จริงอยู่ครับที่ว่าความรักของผมมันเริ่มจากร้อย แต่ไม่มีวันที่มันลดน้อยถอยลง มันจะมีแต่เพิ่ม กับเพิ่ม ความรักของผมจะเพิ่มจากร้อย พัน หมื่น แสน ล้าน......และกลายเป็นนิรันดร์ “จากนี้ไปจนนิรันดร์ผมจะรักผู้ชายคนนี้เพียงคนเดียว”
ผมเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จเป็นชุดที่พร้อมจะลงสนามแล้วครับ คาดว่าสมาชิกน่าจะครบแล้วก็จะขาดเพียงแค่หัวทีมนี่สิครับยังไม่มาเลย ผมเลยมานั่งรอบนอัฒจรรย์พลางๆ ไปก่อนปล่อยให้คนอื่นวอร์มร่างกายไปก่อนแล้วกัน
“หวัดดีเฟิร์ส!” อ้าวเสียงใครทักมานะ ผมกำลังจะใส่หูฟังพอดีเลยชะงัก
“อ้าวหวัดดีมิกซ์!” เหอๆ มิกซ์นั่นเองครับ
“มาซ้อมเหรอวันนี้?”
“อืม มิกซ์ล่ะมาทำอะไร?”
“อ้าวทำไมถามแบบนั้นล่ะ ทั้งคณะมิกซ์ก็รู้จักแต่เฟิร์สนิ?”
“อืม.....ครับ”
“ทำไมเหรอมาหาไม่ได้เหรอ?”
“ทำไมล่ะ?”
“คิดถึง อยากเจอเลยแวะมาหา”
***************************************

************************************
กราบขออภัยและโค้งงามๆ ให้กับความผิดที่ก่อไว้นะครับ
หายไปหลายวันเลย อิอิ
พอดีติดงานบวชนะครับทั้งเสาร์กะอาทิตย์เลย....นี่ก็มานั่งง่วงๆ หาวๆ ในออฟฟิศอยู่ครับ
ต่อตอนที่ 17 Part1 ให้แล้วนะครับ ก็เหลือน้อยลงไปอีก เหลือตอนที่ 17 Part 2 แล้วก็ตอนที่ 18 เองเท่านั้น
เรื่องราวความรักแบบงงๆ ก็จะจบแล้วนะครับ..........ยังไงก็ฝากติดตามด้วยน้าครับ
ขอบคุณทุกเม้น ทุกกำลังใจที่มอบให้กับออฟเสมอมานะครับ แม้จะเพิ่งเอาลงเรื่องแรกก็มีกำลังใจดีล้นหลามต้องขอบคุณจริงๆ ครับ

รักคนอ่านทุกคน รักทุกๆ คอมเม้นนะครับ...........หวังว่าจบเรื่องนี้เเล้วออฟจะมีพลังปั่นเรื่องใหม่มาให้อ่านกันนะครับ

บายๆๆๆๆๆๆๆๆ ครับ...............แอบทิ้งท้าย ขอให้ทุกคนค้างงงงงงงงงงงงงงงงงงง
