ตอนที่ 8
“เอ่อ ……”
ไอ้เดลเกิดอาการทำอะไรไม่ถูกครับ … แม้ตอนนี้จะอยู่ต่อหน้าผู้หญิง เพศที่เดลชนะมาตลอดเวลา แต่นี้ …. เด็กผู้หญิง ! ที่ตัวเลยเข่าผมมาอยู่หน่อยเดียว
“สวัสดีค่ะ”
สำเนียงไทยแปร่งๆพร้อมกับน้องตัวน้อยยกมือไหว้ผมทำเอาไปไม่ถูก ได้แต่ยกมือไหว้รับ เกิดมาเคยมีเด็กที่ไหนมาไหว้บ้างล่ะ แถมยังจ้องตาแป๋วมาอีก ลูกไอ้ด๊อกทำไมมันน่ารักจังวะ แล้วดูยังไง … แม่ก็ต้องของนอกแน่ๆ แล้วอยู่ดีๆไอ้ท่านด็อกก็ปรับเปลี่ยนภาษาคุยกับลูกตัวเอง เป็นอันเข้าใจว่าน้องหนูพูดไทยไม่ได้
“แองจี้คะนี่พี่เดลนะคะ เขาจะมาเล่นกับแองจี้”
อ้าวคุณด็อกครับ ทำไมมัดมือชกกระผมแบบนี้ล่ะเฮ้ย ข้าไปตกลงกับเอ็งตั้งแต่ชาติปางไหนแว๊ !!!! มั่วแหล่วเฮ้ย แต่ก่อนผมจะค้านน้องแองจี้ตุ๊กตาน่ารักก็ช้อนตาขึ้นมา … นี่มันมารยาชัดๆ ! แต่เป็นมารยาที่อินโนเซนต์ที่สุดจนผมหลง เกิดมาไม่เคยมีน้องสาวหลานสาว ชักรู้สึกอยากมีเบาๆ
“จริงหรอคะ พี่เดลจะเล่นกับแองจี้หรอ”
“อ่า …”
ไม่อยากจะตอบรับกลัวจะให้ความหวังเด็ก เลยมองไปที่คนพ่อ ก็ดันพยักหน้าพร้อมกับล้วงกระเป๋าตังค์ผมออกมาจากกางเกง ไอ้นี่ ! เอ็งพกไปสถานีตำรวจด้วยก็ไม่บอกกกกกก
“จริงๆนะคะ”
“ครับ พี่เดลจะเล่นกับแองจี้”
“เย้ ! งั้นไปรู้จักตุ๊กตาของแองจี้ก่อน มีน้องโดโมะตัวใหม่ด้วย พี่กี้ซื้อมาให้น่ารักมากๆเลยค่ะ”
แรงน้อยๆเข้ามาฉุดแขนผมให้เดินตามไป ปากเล็กๆก็เจื้อยแจ้วเรื่องตุ๊กตาที่ผมไม่เคยจะได้ไปร่วมคุยกับใครเรื่องนี้มาก่อนในชีวิต
“แองจี้คะ นี่ดึกแล้วนะคะจะตีสองแล้วลูก พี่เดลก็เหนื่อยมาทั้งวันค่อยเล่นกันพรุ่งนี้นะคะ”
ไอ้ด๊อกก็อุ้มลูกสาวขึ้นไปในอ้อมแขน แหม่ะทีพูดกับลูกล่ะน่าร๊ากน่ารัก ที่กับตูนี่เหมือนเอาสไนเปอร์มาส่ง เล็งแต่ละคำกระแทกตับทะลุม้ามแล้วตัดขั้วหัวใจ เฉี่ยวไปไกลถึงต่อมไทรอยด์ เอ่อ … ชักจะมั่วๆ
“ค่ะคุณพ่อ คุณพ่อขาพรุ่งนี้ทำคุณปลาหมึกน้อยกันนะคะ แบบที่คุณยายทำ”
“แต่คุณพ่อทำไม่เป็น แองจี้ทำเป็นมั้ยคะ จะได้สอนคุณพ่อหน่อย”
“แองจี้ทำเป็นค่ะ เอา …”
นั่นล่ะพ่อลูกพากันเดินเข้าไปในห้องหนึ่ง ปล่อยส่วนเกินที่หน้าตาดีที่สุดในสามโลกยืนเอ๋อแดกกลางคอนโดสุดหรู ไฮโซ มันเป็นอะไรที่ครบทุกอย่างตั้งแต่สากกระเบือยันเรือดำน้ำ ขาดอย่างเดียวสระว่ายน้ำนี่ล่ะ ห้องกระจกกว้างกินไปทั้งแถบของปีกขวา มีชุดโฮมเทียร์เตอร์กับโซฟาสีน้ำเงินเข้มตัวยาว แถม … มีตุ๊กตาหมีตัวยักษ์นั่งอยู่ด้วย ห้องนี้แต่งในโทนขาวน้ำเงิน แต่ก็มีอะไรน่ารักๆของเด็กวางอยู่ทุกมุม นี่ล่ะบรรยากาศครอบครัว คิดถึงคุณศจีขึ้นมาเบาๆ ดีนะโทรไปบอกแล้วว่าจะไปเที่ยวสักวันสองวันไม่งั้นก็คงจะนั่งรอผมจนกว่าจะกลับ เหมือนที่แองจี้ดูการ์ตูนรอไอ้ด๊อกตอนเราเดินเข้ามา
“นายเดล เหม่ออะไร ตามเข้ามานี่”
“ห่ะ ? แต่นั่นมันห้องนอนนายไม่ใช่ ?”
“ที่นี่มีห้องนอนห้องเดียว จะนอนมั้ย ?”
“เอ่อ …. จะดีหรอ คือ …”
จะให้ไปนอนกับครอบครัวชาวบ้านมันเหมือนผมเป็นส่วนเกินแปลกๆ แถมไอ้ครอบครัวชาวบ้านนี่มันเป็นครอบครัวไอ้ด็อกนี่ซะด้วยสิ
“เกรงใจ ?”
“ก็ … นิดนึงง่ะ ไม่ไรๆ นอนตรงโซฟาก็ได้”
“มันร้อน เข้าไปนอนข้างในไป”
“แต่ ….”
“เออน่ะ มานี่ เป็นเด็กหัดฟังผู้ใหญ่ซะบ้าง”
“อ้ะ”
ไอ้ด็อกมันเดินมาจับข้อมือผมจูงตามมันเข้าไปในห้อง แล้วผมก็แปลกใจที่ตัวเองยอมเดินตามไอ้ด็อกนี่ … ไม่น่าเชื่อว่าเป็นนักวิชาการ ทำไมแผ่นหลังมันกว้าง … จนน่าอิจฉา ดูสมกับเป็นผู้ชายที่ผู้ชายด้วยกันยังต้องอิจฉา ไหล่หนาๆยังไงมันก็ดีกว่าบางๆแบบผมเยอะ
“จะจ้องอีกนานมั้ย ? เดี๋ยวปูที่นอนด้านล่างให้ นอนได้ใช่มั้ย ? เคยนอนพื้นหรือเปล่า”
“อ้ะ .. เออได้น่า ชิวๆ ไปนอนกับลูกลุงไป”
ผมหันไปสบตาน้องน้อยที่จ้องมาตาแป๋วบนเตียงคิงไซส์ ห้องนอนบ้านนี้นี่ใช้นอนจริงๆ นอกจากตู้เสื้อผ้ากับกระจกและเตียงก็ไม่มีอะไรอีกเลย นอกจากตุ๊กตาเยอะแยะของยัยตัวเล็กนั่นแน่ๆ
“คุณพ่อขา … ให้พี่เดลนอนกับเราก็ได้นี่คะ บนพื้นเย็นนะคะ เดี๋ยวพี่เดลไม่สบาย”
“เอ่อ … ไม่เป็นไรๆ พี่นอนได้ พี่สบายและแข็งแรงดีม๊ากมากนะครับแองจี้”
“คุณพ่อยังเคยบอกแองจี้เลยว่าไม่ให้นอนบนพื้น คุณพ่อไม่อยากให้แองจี้ป่วยต้องไปหาหมอ คุณพ่อก็ไม่อยากให้พี่เดลป่วยหรอกนะคะ
ใช่มั้ยคะคุณพ่อขา”
เอาล่ะสิ ลุงด็อกนี่ก็ขมวดคิ้วยิ้มแห้งๆออกมา ผมก็ไม่รู้จะปฏิเสธยังไง กลัวเด็กร้องไห้ แล้วบางทีปล่อยให้ไอ้ด็อกนี่ไปไม่ถูกก็ดีเหมือนกัน เอาสิจะตอบลูกยังไงล่ะทีนี้
“อืม … งั้นแล้วแต่พี่เดลดีมั้ยคะแองจี้ ว่ารังเกียจพวกเราหรือเปล่า”
อะ อ้าว เฮ้ย ! ทำไมโยนให้ตรูตัดสินใจแถมตัวเองรอดไปอย่างง่ายดายแบบนี้ล่ะแว๊ คราวนี้น้องหนูแองจี้ก็จ้องตาแป๋วมาที่ผมแทน
“พี่เดลขา …”
“โอเคครับ โอเค เอ่อ .. ขออาบน้ำก่อนได้มั้ยง่ะลุง”
“อืมตามสบาย หาเสื้อผ้าในตู้แล้วกัน อย่าทำเลอะล่ะ มาค่ะแองจี้นอนกันค่ะ พรุ่งนี้ต้องไปโรงเรียน”
“ค่ะคุณพ่อ พี่เดลมาไวๆน๊า ฮ้าวววว”
“ครับผม”
ผมก็เดินไปหาชุดที่พอจะใส่ได้ในตู้ สมกับเป็นตู้เสื้อผ้านักวิชาการ มีแต่สีพื้นๆ ขาวๆ ฟ้าอ่อนๆ สีแบบทางการสุดๆ จะมีหลุดสีดำมาบ้างก็นิดหน่อย ขนาดชุดลำลองยังจืดชืด สุดท้ายก็ได้มาแค่กางเกงชุดนอนหนึ่งตัว ผมชอบแก้ผ้านอนนะความจริง แต่มานอนบ้านคนอื่นใส่กางเกงหน่อยก็แล้วกัน … เฮ้ เขาไม่ได้เรียกว่าพวกชอบโชว์ แต่การแก้ผ้านอนมันสบายจริงๆนะเออ เดลไม่ได้โม้ !
พอหันกลับมาก็ปรากฏคุณพ่อดีเด่นกำลังหอมแก้มลูกน้อยหอยสังข์ มองแบบนี้แล้วไอ้ลุงนี้แม่งก็น่ารักดีว่ะ … แต่พอมาคิดดีๆ ผมกับไอ้ลุงนี้รู้จักกันได้มึนๆงงๆเอ๋อๆชอบกล เหมือนกับเกิดอาเพศอะไรสักอย่าง เอาเห๊อะอย่างน้อยมันก็ไม่ได้แย่ ดูๆไปก็ออกแนวปากร้ายใจดีล่ะมั้ง
“มองอะไร ไปอาบน้ำไปจะได้มานอน”
“ก็มองไปงั้น ไม่ได้จะจีบสักหน่อย”
“ก็ดี … แต่ระวังหลงเสน่ห์ผู้ใหญ่แล้วกัน หึหึ”
“หลงตัวเองว่ะลุง อาบน้ำดีกว่า”
ผมลากตัวเองออกจากห้องน้ำไฟทั้งห้องก็ปิดหมดแล้วเหลือแต่แสงจากโคมไฟดวงเล็กให้พอเห็นลางๆ ผมก็ลากเท้าเดินหาวไปริมเตียงที่เว้นที่ไว้ แผ่นหลังกว้างของไอ้ด็อกหันให้ผม นอนดีกว่าจะเช้าอยู่แล้ว หาวว …
“ปิดไฟด้วย”
“คร๊าบๆ”
“ราตรีสวัสดิ์นายเดล”
“เช่นกันลุง”
ผ้าห่มบ้านลุงนี่โคตรนิ่ม กลิ่นน้ำยาปรับผ้านุ่มหอมชะมัด ยิ่งนอนยิ่งสบาย … อืม … หมอนข้างอยู่ไหนนะ … อ้อ .. เจอแล้วหมอนข้าง …
ตุ้บ !
ขาใครมาพาดบนเอว ? จะเป็นของแองจี้ก็ไม่น่าจะหนักขนาดนี้ …. อ้อไอ้เด็กเจ้าปัญหา นี่คิดว่าเป็นหมอนข้างหรือไง เฮ้อ …
“นายเดล …”
“แง่ม … อาย … เก๊ …”
“อะไรนะ ?”
เสียงพึมพำๆเบาๆ สักพักเจ้าตัวก็พลิกมากอดผม คราวนี้ก็โดนเจ้าเด็กนี่เกาะทั้งตัว จะขยับก็ไม่ได้ หนักใช่เล่น ไทม์เอ้ยทำบุญทำกรรม
อะไรกับมันมาเนี่ย
“อ้าย … ลุง เก๊ะ แง่มๆๆๆ”
นี่มันด่าเรานี่หว่า ! เด็กหนอเด็กคิดมากจนเก็บเอามาฝัน แองจี้ก็ละเมอเรื่องขนม การ์ตูนเป็นประจำ รายนี้ก็ละเมอถึงเขาอีก แล้วคืนนี้จะนอนหลับมั้ยเนี่ยไทม์
“แง่ม .. งั่ม !”
“โอ้ย !”
ไอ้เด็กเวร … ใครให้เอ็งมากัดหูข้า !!!!
- --------------------------------------------------
อิ๊อิ๊ !