ตอนที่ 17“ถ้ามีอะไรโทรตามผมนะครับ” ผมหันไปพูดกับพยาบาลสาวที่ยืนอยู่เคียงข้าง และได้รับรอยยิ้มหวานตอบกลับมาผมจึงส่งยิ้มนิดๆไปให้ ก่อนหันหลังเดินจากมาหลังตรวจคนไข้รอบเย็นเสร็จ
วันนี้คนไข้ที่ผมรับไว้รักษาต่อค่อนข้างมากจึงใช้เวลานานกว่าที่เคย แล้วนี่ก็ปาไปเกือบสองทุ่มแล้วแถมคืนนี้ผมก็ต้องเข้าเวรต่อด้วยสิครับ ถึงแม้ผมจะเหนื่อยกับงานแค่ไหนแต่ไม่เคยท้อเพราะเป็นสิ่งที่ผมรักทำให้ผมสนุกที่จะทำและมีความสุขกับสิ่งที่เป็น หลังได้อยู่คนเดียวผมคว้ามือถือที่ปิดเสียงไว้ออกมาดูมีความหวังว่าจะมีสายเข้าเป็นสายที่ไม่ได้รับ แต่ก็ต้องผิดหวังที่ไม่มีสายที่รอคอยก็จะใครล่ะครับที่ผมรออยู่ถ้าไม่ใช่หนุ่มหน้าตี๋ของผม เพราะตั้งแต่ช่วงเย็นที่เราแยกกันผมก็พยายามโทรหาธีตลอดแต่ดูเหมือนว่าตี๋น้อยจะปิดเครื่องหรือแบตจะหมดก็ไม่รู้ ผมกังวลอยู่ว่าธีจะยังโกรธเรื่องที่ผมฉวยโอกาสกับเจ้าตัวที่ลานจอดรถ ผมหึงจริงๆนะครับที่เห็นไอ้ตัวแสบมันยืนกอดกับผู้หญิงอื่นต่อหน้าต่อตา ถึงจะรู้ทีหลังว่าเป็นเพื่อนกันมาก่อนก็เถอะ และไอ้ความเจ้าชู้ของนายธีก็ขึ้นชื่อจนผมต้องระวังกันผู้หญิงทุกคนออกจากอาตี๋น้อยพร้อมๆกับทำให้ธีมันใจอ่อนกับผมไปด้วย เห็นมั้ยครับเรื่องของธีทำผมเหนื่อยได้มากกว่างานประจำผมซะอีก แต่บอกให้รู้ไว้ว่าผมไม่ได้ท้อนะครับแต่จะยังเดินหน้าเต็มกำลังเหมือนเดิม หรืออาจจะมากกว่าเดิมด้วยซ้ำเพราะอาตี๋น้อยได้ตกเป็นคนของผมแล้ว ผมเดินเข้าห้องพักใกล้ห้องตรวจของตัวเองและนั่งพักที่เก้าอี้หนังตัวใหญ่หน้าโต๊ะทำงานที่วางโน้ตบุ๊คไว้ จิบน้ำเย็นให้ชื่นใจหลังจากต้องเดินตรวจคนไข้ตลอดเย็นอดจะรู้สึกเพลียขึ้นมาไม่ได้จริงๆ ร่วมกับใจที่ยังคอยพะวงเรื่องอาตี๋น้อยที่ยังติดต่อไม่ได้ทำให้ผมรู้สึกหงุดหงิดขึ้นมาซะแล้วครับ
“อย่าให้พี่เจอตัวเรานะธี ทำให้พี่เป็นห่วงแบบนี้มันน่านักไอ้ตัวแสบ” ผมจ้องใบหน้าหลับตาพริ้มของอาตี๋น้อยที่นอนคว่ำหน้าโชว์หลังเปลือยขาวบนหน้าจอโทรศัพท์ อยากได้ยินเสียงอยากเจอตัวจริงของคนในรูปจังครับ แต่ทำไม่ได้อย่างที่คิดเพราะหน้าที่รับผิดชอบที่มี ถ้าไม่ต้องขึ้นเวรป่านนี้ผมไปอยู่หน้าบ้านตี๋น้อยแล้วครับ ไอ้ธัชก็ไอ้ธัชเถอะผมไม่กลัวมันแล้ว
ผมนั่งมองภาพธีอีกพักก็กดโทรออกแต่ผลก็เหมือนเดิมคือติดต่อไม่ได้ พยายามทำใจให้สงบและคิดว่าตี๋น้อยไม่ได้คิดจะหนีหน้าแต่แบตคงหมดไม่รู้ตัวมากกว่า แต่ผมก็พะวงได้ไม่นานก็โดนตามตัวเมื่อมีคนไข้ฉุกเฉินเข้ามา จึงรีบรุดไปดูอาการเป็นเด็กเล็กที่มีไข้ขึ้นสูงจนเกิดอาการชัก ผมก็ให้การรักษาและอยู่ดูแลจนแน่ใจว่าเด็กไม่เป็นอะไรแล้ว ก่อนเดินกลับมาที่ห้องพักของตัวเองอีกครั้ง แต่ยังเดินไม่ถึงไหนก็รับรู้ถึงแรงสั่นจากโทรศัพท์ที่กระเป๋ากางเกง ใจกระตุกปากฉีกยิ้มเมื่อคิดว่าต้องเป็นสายจากคนที่ผมเฝ้าคิดถึงมาตลอด แต่ก็ต้องผิดหวังเพราะชื่อบนหน้าจอคือ ‘ติณห์’ เพื่อนสนิทหน้าเข้มของผมเอง
“ไงมึง มีอะไร......เอ่อ กูขึ้นเวรอยู่......คงไปไหนไม่ได้ว่ะ......อะไรนะ!! ธีอยู่ที่ผับมึง......ทำกูเป็นห่วง นี่แอบหนีกูไปเที่ยวเหรอวะ เฮ้ออออ.......อะไรไปกับผู้หญิงด้วย......สวยด้วย.......มึงดูคนของกูให้ดี กูจะไปลากตัวกลับเดี๋ยวนี้”
ไอ้ติณห์เพื่อนผมที่เป็นเจ้าของ ‘LAD PUB’ มันเจอตี๋น้อยจอมซ่าที่แอบหนีเที่ยวโดยไม่บอกกล่าวที่ผับของมันเองและโทรมาบอกข่าวให้ผมรู้ ธีไม่คิดจะติดต่อกลับปล่อยให้ผมเฝ้าเป็นห่วงอยู่ได้ เจอตัวเมื่อไหร่เจอดีแน่ไอ้ตัวแสบและที่ผมเจ็บใจกว่าเดิมก็คือการที่ตี๋น้อยควงผู้หญิงอื่นไปเที่ยวด้วยนี่สิครับ ผมรีบเดินกลับห้องพักถอดเสื้อกาวน์เหวี่ยงพาดเก้าอี้หนัง และคว้ากระเป๋าเงินกับกุญแจรถก่อนเดินแทบจะเหาะเพื่อไปให้ถึงรถเร็วที่สุด มือก็กดโทรออกหาพยาบาลประจำห้องฉุกเฉินว่าถ้ามีเคสด่วนให้รีบติดต่อผมทางโทรศัพท์ทันที แต่ถ้าเป็นเคสไม่ด่วนนักให้รอก่อนผมจะรีบกลับมา
ผมเดินลงจากรถและออกก้าวเดินไปที่ทางเข้าผับอย่างเร่งรีบ เข้ามาได้ผมต้องปรับสายตาให้เข้ากับความมืดก่อนกวาดสายตาไปทั่วเพื่อมองหาเป้าหมายใจนั้นร้อนรนไปหมดแล้วครับ ชีวิตนี้ไม่คิดมาก่อนว่าจะหวงห่วงใครสักคนได้มากเท่านี้เลยให้ตายสิ มีแรงตบลงมาที่ไหล่ทำให้ผมหันไปมองก็เจอเข้ากับใบหน้าคมเข้มพร้อมไรหนวดเคราของไอ้ติณห์
“อยู่ไหนวะ” ไม่ต้องบอกว่าถามหาใครเพราะเราก็รู้กันอยู่ว่าผมตามใครมา
ไอ้ติณห์พาผมแหวกผู้คนที่มาเที่ยวที่เยอะซะเหลือเกินทั้งๆที่ไม่ใช่วันหยุด จนผมชักจะหงุดหงิดมากขึ้นใจพะวงถึงหน้าตี๋แสบอยากจะเจอเจ้าตัวซะเดี๋ยวนี้ แถมไอ้ติณห์มันเป็นเจ้าของผับรูปหล่อก็มีแต่สาวๆทักมันตลอดทางจึงยิ่งช้าเข้าไปใหญ่ อยากเดินนำมาก่อนแต่ก็จนใจไม่รู้ว่าธีนั่งส่วนไหนของผับจะทำให้ช้ากว่าเดิม และในที่สุดผมก็เจอเป้าหมายครับ ใบหน้าขาวใสอินเทรนด์ของธีเด่นท่ามกลางแสงสีในผับบวกเข้ากับรอยยิ้มหว่านเสน่ห์ที่เจ้าตัวกำลังทำ มันจึงเป็นการง่ายที่จะเรียกสายตาคนรอบข้างให้จับจ้องอย่างหลงใหลรวมทั้งตัวผมเองด้วย ยิ่งเสื้อเชิ้ตสีดำที่ธีสวมยิ่งขลับผิวขาวๆของตี๋น้อยให้เปล่งประกายขึ้นไปอีก ผมล่ะอยากจะไปกระชากแขนคนที่กำลังยิ้มโปรยเสน่ห์กับสาวชุดดำที่นั่งข้างกันออกมาซะจริงครับ ขนาดว่าตี๋น้อยของผมควงผู้หญิงมาด้วยก็ยังมีสาวใจกล้าคนอื่นเข้าหาธีไม่ขาด ขนาดว่าผมมาถึงแค่แป๊บเดียวยังมีหลงมาหนึ่งรายและก่อนหน้าที่ผมจะมาล่ะจะมีอีกสักกี่รายกันครับ ผมไม่รู้ตัวเลยว่าตัวเองกำมือแน่นและกัดฟันเพราะกำลังโกรธกับภาพตรงหน้า จนไอ้ติณห์ที่ยืนอยู่ข้างผมมันตบเข้ามาที่ไหล่นั่นแหละถึงได้รู้สึกตัว
“ใจเย็นๆมึง น้องมันก็แค่มานั่งดื่มนั่งฟังเพลง ยังไม่ได้ทำอะไรเลย” ผมมองสบตามันก็เจอแววตาเป็นห่วงอย่างจริงใจมาให้ก็พยักหน้ารับไป ก่อนถอนหายใจระบายความเครียดพยายามปรับอารมณ์ให้คงที่ ไม่หลุดตะคอกหรือทำอะไรแรงๆกับคนที่ผมคิดถึงตลอดช่วงเย็นที่ผ่านมา
ผมเดินเข้าไปหาร่างโปร่งผิวขาวที่นั่งจิบเครื่องดื่มอย่างอารมณ์ดีและคุยออกรสกับสาวที่พามาด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม ผมยืนนิ่งอยู่ด้านหลังธีโดยยังไม่เอ่ยทักรอว่าเมื่อไหร่ไอ้ตัวแสบจะรู้ตัว และไม่นานตี๋น้อยก็รู้ตัวมันค่อยๆหันมามองผม ตาตี่ๆที่เบิกกว้างอย่างตกใจและปากแดงอ้าหวอช่างน่ามันเขี้ยวจนผมอยากจะกัดปากแดงๆตรงหน้าให้จมเขี้ยวนักเชียวครับ แต่ตอนนี้ทำได้เพียงส่งสายตาคาดโทษไปให้เจ้าตัวแสบและเก๊กหน้านิ่งไว้ ตี๋น้อยหายตกใจถ้าผมดูไม่ผิดเหมือนว่ามันจะส่งค้อนมาให้และหันหน้ากลับไม่ยอมพูดด้วย นี่อย่าบอกนะว่าธียังงอนผมเรื่องเมื่อเย็น แต่ต้องเป็นผมสิที่ต้องงอนมันน่ะก็เล่นเงียบหายไปเลยตั้งแต่เย็นทั้งๆที่ผมขอร้องให้รับสายผมด้วยซ้ำนะครับ
“ธี!!” ใช้เสียงเข้มเรียกชื่อคนที่หันหน้ากลับไปและไม่ยอมทักทายกัน นึกแล้วก็ยิ่งโมโหไอ้ตี๋แสบขึ้นมา แต่ก่อนที่ผมจะได้ทำอะไรตี๋น้อย ก็มีเสียงนิ่งๆดังขึ้นข้างตัว
“สวัสดีค่ะพี่หมอภีม มายังไงคะ” ผมหันมาตามเสียงก็พบกับคนคุ้นหน้า ผู้หญิงที่ธีควงมาคือ ‘มน’ เพื่อนสาวคนสนิทนี่เอง ผมจึงยิ้มได้ขึ้นมานิดอารมณ์ดีขึ้นมาหน่อย ที่ได้รู้ว่าธีไม่ได้ควงสาวที่ไหนออกมาเที่ยว
“สวัสดีครับมน พี่มาตามหาคนหนีเที่ยวน่ะครับ” ผมตอบสาวมนก่อนก้มมองใบหน้าด้านข้างของคนหน้าขาว ที่คิ้วขมวดมุ่นทันทีที่รู้ว่าผมหมายถึงใคร
“ไม่ได้หนีซะหน่อย แค่มาเที่ยวไม่เห็นต้องรายงานใคร ไม่ได้ ปะ....” ธีเงยหน้าขึ้นเถียงกับผมทันทีแบบคนที่ไม่เคยยอมใครง่ายๆ แต่ไอ้ประโยคต่อไปที่ผมรู้ว่าไอ้ตี๋น้อยมันจะพูดอะไรก็ถูกผมขัดไว้ซะก่อน
“แน่ใจเหรอว่าเราไม่ได้เป็นอะไรกัน หรือต้องให้พี่ประกาศให้คนอื่นเค้ารู้กัน” ผมเอ่ยเสียงนิ่งแต่ให้ได้ยินชัด ดังนั้นทั้งธี มน และไอ้ติณห์ที่ยืนข้างๆผมไม่มีใครพลาดประโยคนี้แน่ๆครับ
ผลที่ได้คือไอ้ตี๋แสบมันหน้ามุ่ยหันหน้าหนีผมและยกแก้วเหล้ากระดก มนสาวเท่ที่วันนี้สวมเดรสสีดำตัวยาวกรอมเท้าแขนกุดก็ยิ้มติดมุมปากขึ้นมาทันทีก่อนจะมองหน้าไอ้ตัวแสบของผมไปด้วย ส่วนไอ้ติณห์ที่ยืนเงียบมานานผมไม่ได้มองหน้ามันหรอกแต่ได้ยินเสียงหัวเราะเบาๆมาจากมัน จึงทำให้ผมนึกขึ้นได้และแนะนำสาวมนให้ไอ้ติณห์มันรู้จักครับ
“ยินดีที่ได้รู้จักครับ” ไอ้ติณห์เอ่ยขึ้นหลังผมแนะนำมันแล้ว และให้นึกแปลกใจกับสายตาพราวระยับเหมือนถูกใจอะไรบางอย่างของมันที่ผมไม่เคยเห็นจากมันมาก่อน ยามที่ไอ้ติณห์มันจับจ้องใบหน้านิ่งของสาวเท่นามว่า ‘มน’ แต่ผมไม่มีเวลาซักไซ้มันตอนนี้เพราะผมมีหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบรออยู่นี่ก็เสียเวลามามากแล้ว ผมจึงคว้าข้อมือคนที่นั่งอยู่ขึ้นมาอารามตกใจธีก็ไม่ได้ขัดขืนอะไร
“มน พี่ขอตัวเพื่อนตัวแสบของมนก่อนนะครับ เพราะพี่มีเรื่องต้องคุยด้วย” ผมมองหน้ามนที่ตอนแรกยังมีแววงงงวยก่อนจะเปลี่ยนมามีรอยยิ้มนิดๆติดมุมปากสไตล์สาวเท่อย่างเข้าใจมาให้
“เฮ้ยยย ไม่เอาไม่ไป ผมไม่ทิ้งเพื่อนผมหรอกนะ” ไอ้ตัวแสบมันพยายามดึงข้อมือออกจากมือผมแต่ไม่กล้าโวยวายเสียงดังนักเพราะมีคนอยู่รอบตัว ธีคงกลัวเป็นจุดสนใจซึ่งนั่นก็เข้าทางผมซะด้วยสิครับ
“ไอ้ติณห์ กูฝากน้องมนหน่อยนะ กูไว้ใจมึงได้ใช่มั้ยเนี่ยเพื่อนสนิทที่สุดของไอ้ตี๋น้อยของกู” ผมหันไปจ้องหน้าเพื่อนสนิทเพื่อฝากฝังสาวเท่ไว้ ถึงจะเป็นเพื่อนสนิทกันผมก็ขอย้ำกับมันหน่อยยังไงมนก็เป็นผู้หญิงแถมเป็นเพื่อนซี้ของไอ้ตี๋น้อยของผมด้วยครับ เป็นอะไรขึ้นมาผมนี่แหละจะซวยได้คงโดนธีเล่นงานไม่น้อยเลย
“ใครเป็น ‘ไอ้ตี๋น้อยของเฮีย’ กัน ฮ้า” ไอ้ตี๋ที่โดนยึดข้อมือไว้เริ่มโวยวายแต่เสียงก็ยังไม่ดังนัก ผมไม่ได้สนใจคนโวยวายแต่หันไปทางสาวมนแทน หลังจากคุยกับไอ้ติณห์ที่ยิ้มรับและพยักหน้ายืนยันให้แล้ว สายตาแพรวพราวของมันยามมองสาวเท่นี่สิที่ดูแปลกๆ แต่ในเมื่อมันรับปากกับผมแล้วผมก็คงวางใจได้ล่ะครับ
“พี่ต้องรีบกลับไปอยู่เวรที่โรงพยาบาล มนคงไม่ว่าอะไรนะครับที่พี่ให้ไอ้ติณห์อยู่เป็นเพื่อนแทนธีน่ะ” ผมพูดเสียงอ่อนกับสาวเดียวอย่างเกรงใจ ก็อยู่ๆมาพาตัวเพื่อนสนิทเค้าออกมากลางคันแบบนี้นี่ครับ
“ตามสบายค่ะ อีกพักเดียวมนก็จะกลับเหมือนกัน แต่.....พี่อย่าลืมที่เคยพูดไว้ล่ะ” มนพยักหน้าให้นิดๆขณะพูดแต่จบด้วยเสียงเรียบนิ่งจริงจังในท้ายประโยค ซึ่งทำให้ผมรู้ถึงความหมายนั้น ‘จะไม่มีการบังคับ ต้องเกิดจากความเต็มใจของธีเท่านั้น’ นั่นคือความหมายที่มนต้องการสื่อ
ผมพยักหน้าให้มนยิ้มๆก่อนตบบ่าเพื่อนสนิทและพาคนที่เซ้าซี้ถามอยู่ตลอดทางเรื่องที่มนย้ำไว้กับผมน่ะครับ อาตี๋น้อยคงลืมล่ะครับว่าข้อมือมันอยู่ในกำมือผมมาตลอดทาง ผมเลือกที่จะเงียบให้ธีโวยวายไปและนึกกระหยิ่มใจไปตลอดทางล่ะครับ จนเราทั้งคู่มาถึงรถของผมก็เกิดปัญหาขึ้นมาอีกจนได้
“ผมไปกับเฮียแล้วรถผมล่ะ ไม่เอาหรอกนะถ้าจะให้ผมทิ้งรถสุดที่รักไว้น่ะ” ธียืนหน้านิ่งกอดอกอยู่ข้างรถไม่ยอมขึ้นขณะที่ผมกดโทรศัพท์ดูว่ามีพยาบาลโทรตามตัวรึเปล่า โชคดีครับที่ยังไม่มีสายเข้ามาเลย ผมเงยหน้ามองคนหาเรื่องก่อนแบมือมาตรงหน้า
“งั้นเอากุญแจมานี่ เร็วธี! อย่าให้พี่โมโหเราไปมากกว่านี้” ธีหน้ามุ่ยยืนนิ่งก่อนจ้องตาผมกลับแบบไม่ยอมแพ้ จนผมต้องยอมพูดดีๆด้วยอย่างอ่อนใจ ไม่งั้นคืนนี้ผมไม่ได้ออกจากผับแห่งนี้แน่ๆครับเพราะไอ้ตัวแสบจอมดื้อคนนี้
“เอากุญแจมาครับ พี่จะได้ขับรถให้ธีไงครับ อย่าเพิ่งดื้อเลยพี่ต้องรีบไปเข้าเวรที่โรงพยาบาลด้วย” ธีมองผมหน้ามุ่ยฮึดฮัดนิดหน่อยก่อนล้วงเอากุญแจรถส่งมาให้
ผมเลยกดกุญแจให้สัญญาณรถดังขึ้นก่อนจับข้อมือไอ้ตัวแสบเดินไปตามเสียงที่ได้ยิน ธีกระชากมือกลับทันทีคราวนี้ผมยอมปล่อยง่ายๆเพราะไม่อยากให้มันแผลงฤทธิ์ใส่ครับ อยากเอาไอ้ตัวแสบกลับไปด้วยจะแย่แล้ว เมื่อถึงรถผมจับอาตี๋น้อยใส่รถด้านฝั่งข้างคนขับก่อนกดโทรศัพท์ออกหาไอ้ติณห์เรื่องฝากรถของตัวเองไว้ที่ผับให้มันช่วยดูให้ด้วย เมื่อผมขึ้นมานั่งขับรถให้คุณชายแล้วดูเหมือนว่าคนที่โวยวายเมื่อครู่นั้นกลับนั่งเงียบไม่ยอมพูดอะไรซะอย่างนั้น
“พี่เคยบอกธีแล้วไงครับว่าถ้าคิดจะไปเที่ยวให้รอไปพร้อมพี่” ผมเอ่ยแทรกความเงียบระหว่างเราขึ้นมาเรียบๆ ตามองไปข้างหน้าและรอฟังเสียงคนข้างตัว
“ฮึ” แค่นั้นครับเสียงที่ผมได้ยิน ผมเหล่ตามองหน้าตี๋น้อยที่ดูเพียงแวบก็รู้ว่าอารมณ์ไม่ดี คงขัดใจที่ผมไปลากตัวเองออกมาจากเพื่อนแน่ๆ ผมจึงเอื้อมมือไปลูบหัวตี๋ธีอย่างมันเขี้ยว
“เอาน่าอย่าอารมณ์เสีย นี่ธียังมีเรื่องต้องเคลียร์กับพี่อีกนะว่าทำไมไม่เปิดเครื่อง หืม” ธีปัดมือผมออกจากหัวตัวเอง ก่อนหยิบโทรศัพท์ออกมาดู ก่อนบ่นพึมพำว่าแบตหมดเมื่อไหร่ไม่รู้ตัว ผมก็ค่อยโล่งอกที่รู้ว่าธีไม่ได้ตั้งใจหลบหน้าผม
“พี่เป็นห่วงนะครับ กลางวันก็เพิ่งปวดหัวรุนแรงเย็นพี่ก็ติดต่อธีไม่ได้อีก ทำเอาพี่ไม่เป็นอันทำงานแล้วรู้มั้ย และไม่รู้จะหาเรื่องออกมาเที่ยวทำไมอีก น่าจะพักผ่อนอยู่ที่บ้าน” ผมขับรถไปก็บ่นไอ้ตี๋แสบไปด้วยอารมณ์คนเป็นห่วง
“ฮ่าๆๆ เฮียบ่นเป็นตาแก่เลยอ่ะ ผมไม่ได้เป็นอะไรมากซะหน่อย แล้วอีกอย่างเฮียธัชเป็นคนไล่ผมออกมาเที่ยวเองด้วยเหอะ ฮึๆๆ” เรียกหัวเราะอย่างถูกใจของอาตี๋ดังลั่นรถที่ได้แอบว่าผมได้ว่าเป็นตาแก่ ทำเอาผมเริ่มอารมณ์ดีตามไปด้วย
“เอาน่ามีแฟนเป็นตาแก่ก็ดีออกไม่มีใครมาแย่ง” ผมก็แกล้งพูดล้อเลียนเกทับไอ้ตี๋ซะเลย ทำเอาเสียงหัวเราะที่มีหยุดชะงักไป ผมหันไปมองก็เห็นแต่กลุ่มผมดำของเจ้าของใบหน้าขาวที่หันหน้าหนีไปนอกรถซะแล้ว
“ใครว่าไม่มีคนแย่ง” เสียงพึมพำที่ผมได้ยินไม่ชัดดังขึ้น แต่ยังไม่ทันได้ถามให้แน่ใจก็ต้องตกใจที่ธีหันกลับมามองผมตาโตออกปากโวยวาย
“เฮียจะพาผมไปไหนเนี่ย นี่ไม่ใช่ทางกลับบ้านผมนี่หว่า” ผมก็ยิ้มรับและหันหน้ากลับมามองตรงแทน
“ฮึๆๆ พี่ยังไม่ได้บอกว่าจะพาธีไปส่งบ้าน คืนนี้พี่ขึ้นเวรแต่ต้องหนีออกมาตามคนหนีเที่ยวก่อน เพราะฉะนั้นพี่ก็ต้องกลับไปขึ้นเวรและธีก็ต้องไปกับพี่ครับ” ผมหันมาส่งยิ้มให้ไอ้ตี๋แสบซะหนึ่งทีมันก็เริ่มโวยวายตามนิสัยทันที แต่ผมไม่สนใจหรอกครับขอแค่ได้ตัวแสบกลับไปด้วยก็พอใจแล้ว
เมื่อถึงโรงพยาบาลผมก็พาตี๋หน้ายุ่งที่โวยวายจนเหนื่อยแล้วให้เดินตามเข้ามา แวะดูที่ห้องฉุกเฉินที่ผมทิ้งไปและพบว่าคืนนี้เงียบสงบไม่มีเคสหนักที่ต้องโทรตามผมจึงรอดตัวไป
“ธีไปรอพี่ที่ห้องพักที่อยู่ใกล้ห้องตรวจก่อนนะครับ เดี๋ยวพี่ตามไป” คนที่ผมคุยด้วยทำหน้ามุ่ยก่อนพยักหน้าให้อย่างปลดปลง และเดินไปทางห้องที่ผมบอก
ส่วนผมก็เดินไปที่เครื่องโทรศัพท์ภายในเพื่อสั่งอาหารในครัวของโรงพยาบาลที่จะมีบริการอาหารตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมงเพราะเป็นโรงพยาบาลเอกชนชั้นนำย่อมต้องรองรับทุกความต้องการของลูกค้าครับ ผมสั่งอาหารไปหลายอย่างด้วยความที่ยังไม่ได้ทานข้าวเย็นเพราะมีเรื่องตี๋แสบกวนใจจนลืมหิว พอได้คนที่ต้องการตัวแล้วร่างกายที่ต้องการอาหารก็รู้สึกหิวขึ้นมา ไม่น่าเชื่อว่าผู้ชายหน้าตี๋นามว่า ‘ธีรนัย’ จะมีอิทธิพลกับผมที่เป็นคนนิ่งสุขุมและมีจิตใจหนักแน่นไม่หวั่นไหวอะไรง่ายๆ ให้เปลี่ยนเป็นคนที่กระวนกระวายทำอะไรไม่ถูกเมื่อติดต่อเจ้าตัวดีไม่ได้ให้เป็นได้ถึงขนาดนี้ ‘ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ’
.....................................................
โปรดติดตามตอนต่อไป >O<
ตี๋น้อยผู้ทรงอิทธิพลช่างมีผลต่อเฮียภีมซะเหลือเกิน
ทำเอาอาเฮียผู้สุขุมปรอทแทบแตก แค่คิดว่าที่รักมา
กับหญิงอื่น ดีที่มีเฮียติณห์คอยปรามแถมคนที่มาด้วย
คือสาวมน งานนี้ตี๋น้อยเลยรอดตัว ?? รึเปล่า 555
อยากรู้ต้องติดตามตอนต่อไป
ปล.+1ให้ทุกเม้นท์เหมือนเดิมค่ะ เจอธีภีมอีกทีวันพฤหัสฯค่ะ
และรวบ