(ต่อ)
“อื้อออออออ!!!!” ไม่รู้อะไรดลใจให้ผมที่กำลังปล่อยใจล่องลอยไปกับความฝันที่แสนจะผจญภัยต้องสะดุ้งตื่นขึ้นมาแหกปากร้องกลางดึก
“อื้ออออออออออออ!!!” ถึงจะพยายามแค่ไหนแต่ก็ร้องได้แค่นั้นเอง เพราะใครบางคนมันแอบย่องเอาผ้ามามัดปิดปากตอนผมหลับ พอจะขยับตัวถึงได้รู้ว่าไม่ใช่แค่ปาก แต่มือทั้งสองข้างของผมก็ถูกมัดโยงไว้กับหัวเตียงด้วย! นี่เป็นเพราะผมเหนื่อยจนหลับลึกเกินไป หรือเพราะอีกฝ่ายมันเป็นตีนแมวมือชีพกันแน่เนี่ย?! เข้ามาทำอะไรตั้งแต่ตอนไหนไม่เห็นรู้ตัวเลย?
“ชู่ววว.. นายก็รู้นี่ว่าผมเป็นใคร จะตกใจอะไรนักหนา?” เงาตะคุ่มๆ ที่นั่งอยู่ข้างๆ โน้มลงมากระซิบ ก่อนลากปลายลิ้นชื้นแฉะไปตามโหนกแก้มผม มือนิ่มๆ ลูบไล้ปาดป่ายจากหน้าอก ลงไปหน้าท้อง จนถึงน้องชายผม โดยที่ยังมีกางเกงนอนคั่นอยู่ แต่เขาก็สามารถทำให้มันเริ่มผงกหัวขึ้นมาดูว่ากำลังเกิดอะไรขึ้นกับผมบ้างแล้ว
“หึหึ ก็ตอบสนองดีนี่นา นึกว่าจะไม่ชอบแบบนี้ซะอีก” แม้ห้องจะแทบมืดสนิท เพราะปิดทั้งหน้าต่างปิดทั้งม่าน แต่ก็สามารถรับรู้ได้ว่าดวงตาสีน้ำเงินอมเทาคู่นั้นกำลังเปล่งประกาย ผมทำได้แค่บิดตัวซ้ายขวาเมื่อเขาเริ่มปลดเปลื้องเสื้อผ้าแล้วละเลงลิ้นไปจนทั่วทุกตารางนิ้วบนตัวผม
“อื้อออ..” มั่นใจได้เลยว่าคืนนี้ไม่มีส่วนไหนในร่างกายผมที่ไม่เปื้อนน้ำลายของเขาแน่ๆ
“อืม..ยู..สุดยอดเลย...ทั้งตอดทั้งรัด..แน่นไปหมด”
เมื่อพอใจกับการชิม เขาก็เริ่มกลืนกินผมแบบไม่เกรงใจ ทั้งเร่าร้อน รุนแรง หยาบโลน ต่างจากครั้งแรกลิบลับ ทั้งที่ผมเคยบอกไปแล้วว่ายังไม่หายเจ็บจากคราวก่อน แต่ก็ดูเหมือนเขาจะไม่ได้ใส่ใจ ยังคงเอาแต่ใจและมัดผมเอาไว้ไม่ยอมปล่อย
หรือนี่จะเป็นการลงโทษที่เขาเคยขู่..?
“คะ.คุณ...ให้ผมไป.ก่อน..ไม่ได้.อึก..หรือ.ไง” ผ้าที่เคยมัดปิดปากไว้เลื่อนหลุดลงไปที่คอ ปากผมเป็นอิสระ แต่ก็ใช่ว่าจะออกเสียงได้ดังใจ ผมจำไม่ได้แล้วว่าความตั้งใจแรกตอนสะดุ้งตื่นขึ้นมานั้นอยากพูดอะไร แต่ตอนนี้ผมอยากพูดเรื่องนี้ก่อน ปล่อยผมสักที มันทะลักทะล้นมาจนแทบถึงคอหอยผมแล้ว
ผมไม่รู้แล้วว่าเวลาผ่านไปนานเท่าไหร่ตั้งแต่คุณซอลเริ่มบทลงโทษ รู้แค่ว่าเขายังไม่หยุด และไม่มีท่าว่าจะยอมหยุด ตอนนี้ผมรู้สึกแสบทั้งข้อมือที่ถูกเชือกบาด ทั้งข้างหลังที่ถูกเขาเล่นงาน น้องชายผมก็ปวดหนึบไปหมดเพราะเขาไม่ยอมแตะต้องเพื่อปลดปล่อยมัน แถมยังเอาอะไรไม่รู้ไปรัดคอมันเอาไว้อีกต่างหาก(ดูท่าว่าเขาจะไม่ได้พกมาแค่เชือกกับผ้าที่ใช้มัดปากผมซะแล้ว) และผมก็ไม่สามารถช่วยอะไรตัวเองได้เลย
ผมอาจจะรู้สึกตัวช้าไป.. แต่ท่าทางว่าวันนี้ผมจะทำให้เขาโกรธจริงๆ ...ใช่ไหม?
แต่ตอนเย็นก็ดูเหมือนเขาจะลืมเรื่องขุ่นข้องหมองใจตั้งแต่เช้าไปหมดแล้วนี่ พอกลับมาเขาก็ขึ้นไปอาบน้ำ แถมยังเรียกให้ผมเข้าไปช่วยสระผมพร้อมทั้งขัดตัวให้อย่างที่ไม่ได้ทำมาพักใหญ่ เมื่อสิ้นสุดขั้นตอนแห่งความงามทั้งหมดทั้งสิ้นเขาก็เข้านอนตั้งแต่สองทุ่ม ส่วนผมลงมาช่วยสองเมดสาวเก็บกวาดงานบ้าน กว่าจะกลับขึ้นห้องก็เลยสี่ทุ่มไปแล้ว โทรศัพท์คุยกับยายพักหนึ่งก่อนไปอาบน้ำอาบท่า รู้สึกว่าตอนขึ้นเตียงนาฬิกาดิจิตอลจะบอกเวลาเที่ยงคืนแล้ว พอหัวถึงหมอนผมก็คงจะผล็อยหลับไปเลย ..พอตื่นขึ้นมาก็แจ็คพ็อตแตกอย่างที่เห็น
ไม่คิดว่าเขาจะแค้นฝังหุ่นขนาดนี้.. มารู้สึกกลัวคนคนนี้ตอนนี้ยังทันหรือเปล่านะ?
“ไม่มีทาง..หึหึ” เสียงกระซิบแหบพร่าตอบกลับมาท่ามกลางความมืด ก่อนที่ลิ้นชื้นจะชอนไชเข้ามาในหู
“โธ่...” ผมได้แต่ครางทดท้อ
“ผมบอกแล้วไง.. ว่าผมทำให้นายเสียวได้นานกว่าเครื่องเล่นงี่เง่านั่น”
“คุณนี่..มัน..อ๊ะ”
“ถ้าจะขอบคุณกันล่ะก็ ขอเป็นเสียงครางเพราะๆ แล้วกันนะ ..ที่รัก”
“คุณมัน..บ้า..อ่ะ..อ้า..”
“รู้ตอนนี้ก็สายไปแล้วล่ะ”
“อื้ออ..”
“เจ็บมากหรือเปล่า?”
ยังมีหน้ามาถาม.. ผมเหลือบตามองคนที่กึ่งนั่งกึ่งนอนอยู่ข้างๆ เพราะตอนนี้เปิดไฟหัวเตียงเอาไว้ ผมเลยได้เห็นสีหน้าไม่รู้สึกรู้สาขัดกับคำถามห่วงใยของเขา ก็รู้แหล่ะว่าทำแบบนี้มันไม่ค่อยเหมาะกับหัวโล้นๆ ของผมเท่าไหร่ แต่เห็นแล้วก็อดแจกค้อนให้ไม่ได้จริงๆ คนถูกค้อนหัวเราะลงคอเบาๆ ขณะที่ผมเบนสายตากลับมามองข้อมือที่มีรอยห้อเลือดทั้งสองข้างของตัวเองเคืองๆ
“เล่นบ้าๆ” ผมจำไม่ได้แล้วว่าบ่นแบบนี้ออกไปกี่รอบ
“ก็เห็นนายมีอารมณ์ร่วมดีกว่าครั้งก่อนอีก”
“หุบปากไปเลย!” ผมชักโมโหแล้วนะ เมื่อกี๊กว่าเขาจะยอมสงบศึกได้ เล่นเอาผมน้ำตาร่วงไปหลายหยด ไม่ใช่แค่ข้อมือ ตอนนี้ทั้งตัวไม่มีส่วนไหนอยากจะขยับให้กระทบกระเทือนเลยแม้แต่น้อยนิด “คุณโกรธผมมากเลยหรือไง? ทำกันถึงขนาดนี้..”
“โกรธอะไร?” เสียงเขาไม่รู้เรื่องรู้ราวจนผมต้องตวัดสายตาไปมองอีกรอบ
“ก็โกรธที่ผมขัดใจคุณเรื่องไปสวนสนุกไง สี่ห้าข้อหาที่คุณยัดเยียดให้ผมนั่นไง ..จะอะไรซะอีก” จากที่โวยตอนแรกก็เริ่มแผ่วในตอนท้าย นึกๆ ย้อนดูแล้วก็รู้สึกเหมือนตัวเองสมควรโดนหรือเปล่านะ? ก็ไปเล่นขัดใจเขาเอาไว้ซะขนาดนั้น ..งืมๆ
“อ้อ..” เขาทำหน้าเหมือนเพิ่งนึกออก “นั่นผมไม่ได้ใส่ใจหรอก ก็แค่ขู่เล่นๆ ไปงั้นเอง”
“แล้วนี่มันอะไร?” ผมหยิบเชือกที่พันธนาการตัวเองไว้จนถึงเมื่อกี๊ให้เขาดูพร้อมรอยแดงๆ บนข้อมือ “ถ้าจะล้อกันเล่นจริงๆ ก็น่าจะใช้อะไรที่มันหาได้ในห้องนอนก็ได้ อย่างผ้าขนหนู เสื้อ หรือสายผูกเอวก็ได้ เอ้อ แต่ไม่เอาเข็มขัดนะ แล้วนี่อะไร? นี่มันเชือกชัดๆ ถ้าไม่ตั้งใจมัดกันจริงจังคงไม่ลงทุนไปหามาขนาดนี้หรอก ใช่ไหม? หรือว่าของแบบนี้หาได้ง่ายๆ ในห้องนอนคุณ? ไหนจะไอ้วงแหวนบ้าๆ ที่เอามารัดน้องชายผมอีก จะบอกว่านี่ไม่ใช่การลงโทษ แต่เป็นรสนิยมปกติของคุณหรือไง? คุณเป็นซาดิสม์หรือไง คุณซอลฟา?”
“............” เงียบ
“...........” เงียบแปลว่าอะไรวะครับ?(ชักหวั่นใจ)
“ฮื่อออ” ในที่สุดคนข้างตัวผมก็ถอนหายใจออกมายืดยาว เขายักไหล่ง่ายๆ ทำหน้าไม่ยี่หระราวกับมันเป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้ “ผมไม่ขอแก้ตัวแล้วกัน”
“แก้ตัวหน่อยเห๊อะ” ผมแอบหวังว่ามันจะไม่ใช่ มันไม่จริ๊งงงง
“ไม่ล่ะ ผมชอบของผมแบบนั้นจริงๆ”
“แต่ผมไม่อยากมีแฟนโรคจิตนะ แล้วผมก็ไม่ใช่พวกมาโซม์ด้วย” นี่มันไม่จริงใช่ไหม? ใครก็ได้บอกผมทีว่าผมกำลังฝันอยู่ แต่ไม่ต้องมาตบให้ผมตื่นนะ วันนี้ผมช้ำมามากพอแล้ว
“ไม่ต้องห่วง ผมไม่เล่นถึงเลือดหรอก เพราะผมไม่ชอบเลือด” เขาไถลตัวลงมานอนกอดผมเอาไว้อย่างอารมณ์ดี “เดี๋ยวคราวหน้า ก่อนมัดผมจะหาผ้ามารองให้นะ”
“ขอบใจที่อุตส่าห์นึกห่วง” เห็นทีจะไม่รอดแล้วมั้งเรา.. ผมได้แต่พยายามทำใจ “ยังมีอะไรที่ผมต้องรู้อีกไหม?”
“หือ?”
“เช่นว่า.. นอกจากคุณจะโรคจิตแล้ว คุณยังมีความลับดำมืดอะไรซ่อนเอาไว้อีก ไหนๆ ก็จะต้องตกใจแล้ว ผมขอตกใจให้มันหมดไปเลยทีเดียวแล้วกัน”
“ฮ่ะๆๆ.. ค่อยๆ เรียนรู้กันไปก็ได้ ไม่ต้องรีบร้อน” เขากระชับอ้อมกอดขึ้นอีก ขณะที่ผมถอนหายใจยืดยาวแบบคนปลงตก
“สงสัยผมต้องขอขึ้นค่าแรงแล้วมั้งเนี่ย”
“อีหนูอยากได้เท่าไหร่?” ไม่พูดเปล่า แต่เขายังบีบก้นผมด้วย ..ให้ตายสิ ทำไมนิสัยถึงขัดกับรูปร่างหน้าตาได้ขนาดนี้นะ?
“พูดแบบนี้เดี๋ยวก็เรียกหมดตัวซะเลย”
“หมดตัว แถมหัวใจด้วยยังได้”
“เลี่ยนไปแล้ว ออโรร่า.. แล้วนี่คุณต้องไปขึ้นเครื่องแต่เช้าไม่ใช่เหรอ?” ผมเหลือบมองนาฬิกา เพิ่งนึกได้ว่าเขาต้องไปนิวยอร์กเช้านี้นี่นา “..จะตีสี่แล้ว”
พอเห็นแบบนั้นผมก็รู้สึกง่วงจนแทบลืมตาไม่ขึ้นซะเฉยๆ ..อะไรกัน ง่วงจัง
“อืม เดี๋ยวตีห้าก็ต้องไปแล้ว”
“แต่คุณยังไม่ได้นอนเลยนะ” ตาผมปิดไปแล้ว แต่ยังพอมีสติเหลืออยู่นิดหน่อย
“ผมนอนตอนหัวค่ำแล้ว แล้วก็มีเวลาไปนอนต่อบนเครื่องอีกเป็นสิบชั่วโมง”
“เหรอ..”
“ไม่ต้องห่วง นายนอนไปเถอะ ฝันดีนะ..” ผมรู้สึกว่าเขาจุ๊บที่หน้าผาก ที่เปลือกตา ที่ริมฝีปาก.. หลังจากนั้นผมก็ไม่รับรู้อะไรแล้ว
ฝันดีเหมือนกันครับ.. คุณซอล
TBC. ขออภัยที่หายไปเนิ่นนาน แต่ตอนนี้น้องยูกับพี่ซอลกลับมาแล้วจ้ะ