ผมเปลี่ยนเป็นกางเกงขาสั้นกับเสื้อกล้ามมานอนกอดเจ เราวางแผนคร่าวๆ ว่าหลังเสร็จงานจะไปเที่ยวตามเกาะ ผมอยากดำน้ำ เจอยากทำบุญไหว้พระ เราคิดว่าจะไปจองรีสอร์ทเป็นหลังที่ติดชายหาดดีกว่า มันค่อนข้างเป็นส่วนตัวมากกว่า ผมยังไม่ทันพูดถึงโปรแกรมเที่ยวตอนกลางคืนเจก็หลับไปแล้ว
ผมนอนกอดเจเอาไว้สักพัก จนกระทั่งได้ยินเสียงโทรศัพท์เลยเอื้อมมือไปหยิบมาดูเบอร์ก่อนจะกดรับ
“เสร็จพิธีแล้วเหรอวะ”
“เออ เพิ่งลงจากเวทีนี่ล่ะ เห็นพวกนั้นบอกว่าเจไม่สบาย เป็นอะไรมากมั้ย แถวนี้มีคลินิกอยู่นะ เดี๋ยวเรียกผมโรงแรมพาไปส่งเอามั้ย”
“ไม่ต้องๆ ไม่เป็นไรหรอก เป็นไข้ตั้งแต่เมื่อคืน นี่ก็ลดลงแล้ว ขอโทษนะเว้ยที่ได้ไม่รดน้ำ”
“ไม่เป็นไร มีอะไรให้ช่วยก็บอก เดี๋ยวเราไปส่งญาติๆ ก่อนนะ”
“ตามสบายเพื่อน เดี๋ยวเจอกันเย็นๆ”ผมว่าตัวเองพูดเบาแล้วนะ แต่หลังจากเอื้อมไปวางโทรศัพท์ไว้หัวเตียงแล้วหันกลับมาก็เจอตาโตๆ จ้องผมอยู่
“ตื่นแล้วเหรอครับ เพิ่งนอนไปแป๊บเดียวเอง”
“อืมมม….ใครโทรมา”
“เศกโทรมา เพิ่งเสร็จพิธี กำลังส่งแขกอยู่”
“อืมมม….”
“ทำไมครับ เมื่อยเนื้อเมื่อยตัวเหรอ”
“นิดหน่อย”
“จะตื่นหรือจะนอนต่อ เพิ่งบ่ายโมงเอง”
“ไปเดินเล่นกันเถอะ ตั้งแต่มายังไม่ได้ออกจากห้องเลย”
“แดดแรง อย่าเพิ่งเลยนะ ไว้เย็นๆ หน่อยค่อยเดิน”
“แล้วพวกเพื่อนพี่ล่ะ”
“ไม่รู้สิ เตร่อยู่แถวนี้ล่ะมั้ง”
“งั้นไปหาอะไรกินเถอะ เจอยากกินเค้ก”
“กินขนมเก่งนะเรา แต่ทำไมไม่อ้วนขึ้นบ้างเลยฮึ”
“ฮ่าๆๆ พี่เอ็กซ์อย่าเล่น ตัวเจมีแต่เหงื่อ มันเหนียว”
“งั้นเช็ดตัวหน่อยดีมั้ย พี่เช็ดให้”
“ไม่เอาหรอก เจอาบน้ำก็ได้”
“อย่าเพิ่งเลย เดี๋ยวไข้กลับอีก ลูบๆ ตัวก็พอนะ”
“อืม”
ผมพาเจมาเดินเล่นบริเวณโรงแรม เจอยากเล่นน้ำแต่ตอนนี้แดดแรงมาก ผมเลยแค่พาเดินเลาะตามแนวชายหาดที่ร่มๆ หน่อย เดินเล่นกันไม่นานโมทย์ก็โทรมาตาม พวกนั้นไปนั่งทานอาหารทะเลกันที่ร้านใกล้ๆ ผมเช่ารถของโรงแรมแล้วขับไปสมทบกับพวกนั้น ไอ้โมทย์เห็นน้องรหัสมันขอบตาช้ำหน้าซีดก็มองเขม่นผมทันที
ฟ้ามันก็ไม่ได้ยุ่งอะไรกับเจมากหรอกครับ ผมรู้ว่าพวกมันแค่ชอบแกล้งผม ไม่ได้มีเจตนาอื่น เจก็นั่งคุยกับคนโน้นคนนี้ ไม่ค่อยทานอะไรเพราะส่วนมากมีแต่ของทะเล สั่งอย่างอื่นมาก็ไม่ค่อยทาน เวลาไม่สบายทีไรน้ำหนักลดฮวบทุกที
หลังกลับจากร้านอาหารพวกเราก็แยกย้ายกัน โมทย์ชวนผมไปว่ายน้ำที่สระ ผมก็ว่าจะไป แต่เจดันอยากไปด้วยผมก็เลยไม่ไปดีกว่า
“เป็นไข้แล้วจะเล่นน้ำได้ไงเจ”
“ก็เจอยากเล่นนี่ นานๆ จะว่าง แล้วเวลาพี่ไปพี่ก็ไม่เคยให้เจไปด้วยเลย”
“ก็มันมีแต่พวกชอบจ้องหุ่นเจนี่นา ไว้สระไหนให้ใส่เสื้อกางเกงลงได้พี่จะยอม”
“บ้าแล้ว จะมีได้ไง”
“งั้นเดี๋ยวเก็บเงินสร้างสระไว้ในบ้านให้เลย”
“อย่าเว่อๆ เปลืองน้ำ ขี้เกียจดูแลด้วย”
“งั้นไว้พาไปเล่นตามน้ำตก ตามเขื่อนดีมั้ย เอาน้ำขุ่นๆ หน่อยจะได้มองไม่เห็นใต้น้ำ”
“เกิดมีตัวอะไรอยู่ในน้ำล่ะ”
“จะไปมีตัวอะไรได้ไง นอกจากตัวนี้”
“ทะลึ่งว่ะ ปล่อยเลยๆ”
“หยอกเล่นก็ไม่ได้....เจหายป่วยเร็วๆ นะ พี่ไม่ชอบเวลาเจป่วยเลย”
“อืม แต่เจชอบนะ”
“อ้าว ชอบได้ไง”
“ก็เวลาเจป่วยทีไรพี่เอ็กซ์ก็คอยดูแลเจตลอด เจชอบ”
“เจไม่ป่วยพี่ก็ดูแลนะครับ ไม่ป่วยดีกว่านะ”
“แต่ถ้าเจไม่ป่วยพี่เอ็กซ์ไม่ค่อยตามใจนี่นา”
“แล้วนี่พี่ตามใจเจหรือไง”
“ก็ไม่”
“เห็นมั้ย พี่ไม่ได้ตามใจเจทุกเรื่องซะหน่อย ตอนนี้เจมีพี่คอยดูแลแล้ว พี่ไม่ได้โตกว่าเจเป็นสิบพี่ แต่เจก็ต้องเชื่อฟังพี่บ้างนะ เจชอบฝืนตัวเองแล้วก็ไม่สบายทุกที”
“คร้าบบบ”
“ไอ้เปี๊ยกเอ้ย กวนซะจริงนะเรา”
“โหยยย ว่าแบบนี้อีกแล้ว ไม่ว่าปมด้อยเจมานานแล้วนะเนี่ย ตัวเองสูงแล้วก็อย่าข่มคนอื่นดิ”
“โอ๋ๆ ไม่ว่าก็ได้ นอนต่ออีกสักหน่อยมั้ย สักทุ่มค่อยลงไป”
“หกโมงก็ลงไปได้แล้ว เช้าก็ไม่ได้ลงไป เย็นยังจะลงไปสายอีกเหรอ”
“งั้นเดี๋ยวห้าโมงกว่าพี่ปลุกให้มาแต่งตัวแล้วกัน เจนอนไปก่อน พี่ขอโทรหาพี่บอลก่อน”
“ก็ได้ แต่ต้องปลุกนะ ตัวร้อนก็ต้องปลุก ไม่งั้นเจโกรธ”
“ได้ครับผม นอนได้แล้ว”
ผมเดินออกไปโทรหาพี่บอลที่ระเบียงห้อง เศกคงเลือกห้องที่วิวดีๆ ให้ เพราะมองออกไปเห็นวิวทะเลพอดีเลย เรื่องงานไม่มีปัญหาอะไร ส่วนใหญ่เป็นงานที่พี่บอลตัดสินใจแทนได้เลย ผมเดินกลับเข้ามาในห้องอีกทีก็เห็นร่างเล็กๆ นอนหลับตาพริ้มไปแล้ว คงจะเพลียเพราะแดดแรงมาก
ใกล้หกโมงผมปลุกให้เจไปอาบน้ำ เราลงมาข้างล่างก็แวะพูดคุยกับเศกที่หน้างานก่อนจะถ่ายรูปร่วมกัน พวกเพื่อนคนอื่นมานั่งกันครบหมดแล้ว มีเพื่อนจากคณะอื่นมาบ้างเหมือนกัน รวมทั้งแขกบางคนที่ผมกับเจเคยร่วมงานด้วย กว่าเราจะเดินเข้าไปถึงโต๊ะก็ถูกพวกมันแซวเสียยกใหญ่ว่ากลายเป็นนักธุรกิจเต็มตัวไปแล้ว
การที่ผมบังคับให้เจพักผ่อนมากๆ คงช่วยได้เยอะ เพราะดูหน้าตาสดใสขึ้น แล้วก็ร่าเริงขึ้นด้วย เที่ยวแกล้งแซวคนโน้นคนนี้ไปทั่ว พิธีแต่งงานของเศกก็เหมือนหลายๆ งานที่ผมกับเจเคยจัดให้ พิธีการบนเวทีไม่แตกต่างกันมาก ที่ทุกคนตั้งใจฟังก็คงเป็นตอนที่พูดถึงเรื่องราวและความรู้สึกของคู่บ่าวสาว การพบเจอ เริ่มต้นคบกัน และการขอแต่งงาน
“อย่างที่หลายๆ คนทราบนะครับว่าเจ้าบ่าวเจ้าสาวเป็นเพื่อนที่เรียนต่อปริญญาเอกด้วยกันที่อเมริกา เรามาถามถึงช่วงเวลาที่เจ้าบ่าวตัดสินใจเอ่ยปากขอเจ้าสาวดีกว่านะครับ”พิธีกรคงเป็นคนที่ผู้จัดงานหามา คำพูดก็จะดูเป็นกลาง ไม่ได้เอ่ยชื่อคนออกมาเพื่อกันพลาด
“ตอนขอแต่งงานก็คงไม่มีอะไรหวือหวาอย่างคุกเข่าเหมือนที่เพื่อนๆ หลายคนถามหรอกนะครับ ผมยังไม่โรแมนติกขนาดนั้น”เศกคงหมายถึงพวกผมที่แซวมันเมื่อวาน
“ความจริงแล้วระหว่างเราทั้งคู่มีเรื่องราวเกิดขึ้นมากมาย แต่ผมไม่ได้คิดอะไรมากมายเลยที่จะขอเธอ อาจเป็นเพราะครั้งหนึ่งเพื่อนสนิทของผมคนหนึ่ง...เขาก็อยู่ในงานด้วยนะครับ เพื่อนเอ็กซ์ครับ อันนี้ขอเอ่ยชื่อนิดหน่อย เพื่อนผมเมื่อก่อนเคยเป็นคนที่ผมคิดว่าเจ้าชู้มากที่สุดเท่าที่เคยพบมา จนกระทั่งวันหนึ่ง อยู่ดีๆ เขาก็พูดขึ้นมาว่า...’คนนี้...ตลอดชีวิตว่ะ’….สั้นๆ แต่ทำให้ผมรู้สึกอึ้งและทึ่งมาก เพราะเท่าที่จำได้ตอนนั้นมันจะยังไม่ได้คบเป็นแฟนกับคนนั้นของมันเลยนะครับ ผมก็ได้แต่เก็บความสงสัยเอาไว้ จนกระทั่งวันนึงผมและเพื่อนหลายคนก็ได้ยินจากปากมันอีกครั้งว่า...มันจริงจัง คนนี้จะเป็นคนสุดท้ายแล้ว ไม่คิดจะคบใครอีก.....ตอนแรกผมก็ไม่เชื่อหรอกนะครับว่ามันจะทำได้อย่างที่พูด เพราะตอนนั้นผมไม่รู้ว่าความรู้สึกเพื่อนผมถึงขั้นไหน อะไรทำให้บอกว่าจะเป็นคนสุดท้ายตลอดชีวิตนี้ จนกระทั่งผมได้มาพบกับหน่อย.....ผมถึงได้รู้ว่า....ระยะเวลาที่จะคบกัน ความรู้สึก หรืออะไรก็ตามไม่สำคัญเลย....ขอเพียงมีเธอในชีวิตผมก็พอ......จนวันนี้ผมก็ได้เห็นแล้วว่าคำว่า...คนนี้ตลอดชีวิต...เพื่อนผมทำได้จริงๆ...และผมก็อยากจะพูดเหมือนกันว่า....คนนี้...ก็ตลอดชีวิตผมเหมือนกัน....”เศกพูดจบก็หันไปโอบกอดเจ้าสาวที่ยืนปิดหน้าร้องไห้อยู่ข้างๆ ใครหลายคนในงานก็น้ำตาไหลไม่แพ้กัน รวมทั้งคนข้างตัวผมด้วย ผมไม่เคยคิดเลยว่าเศกจะจำคำพูดของผมได้ เพราะผมเองก็ลืมๆ ไปแล้วเหมือนกัน แต่ความรู้สึกในวันนั้นกับวันนี้ไม่ต่างกันเลย......
“พี่รักเจ”
“.....เจก็รักพี่เอ็กซ์”
“.....ถ้าเป็นไปได้...พี่ก็อยากจัดงานแต่งงานระหว่างเราเหมือนกันนะ เราแต่งงานกันมั้ย”
“ไม่จำเป็นเลย แค่นี้ก็มากพอแล้ว....จัดหรือไม่จัด....เราก็รักกันเหมือนเดิม”
“ครับ เรารักกันนะ”ผมกุมมือเจไว้ใต้โต๊ะหลวมๆ ไม่ใช่ผมเพียงคนเดียวที่จับมือเจเอาไว้ เราต่างกระชับฝ่ามือเข้ามากัน
งานเลี้ยงฉลองมงคลสมรสของเศกเป็นงานที่อบอวลไปด้วยความรักจริงๆ เศกคอยกุมมือภรรยาของมันตลอดเวลา ไม่ต่างจากผมที่คอยกุมมือเจเอาไว้ กว่างานจะเลิกก็ดึกมากแล้ว พวกนั้นจะไปเที่ยวข้างนอกกันต่อแต่ผมรั้งเอาไว้ก่อน ผมพาเจกลับเข้าห้องแล้วให้อาบน้ำเปลี่ยนชุดเตรียมนอน เจก็ทำตาม พอออกจากห้องน้ำผมก็พาเจเดินไปที่ห้องโมทย์ ในห้องมันมีฟ้ากับเปารออยู่พร้อมแล้ว เจทำหน้างงๆ ก่อนที่ผมจะบังคับให้นั่งลงบนเตียง
“มาแล้วครับแม่ ป้าก็อยู่ในสายใช่มั้ยครับ”ผมวางโทรศัพท์มือถือไว้บนเตียงแล้วเปิดลำโพงให้ได้ยินกันทั่วห้อง
“อะไรน่ะพี่เอ็กซ์”
“อยู่สิ ทำอะไรนี่ไม่มีปรึกษาผู้ใหญ่เลยนะเรา นึกจะทำอะไรก็ทำ ฤกษ์อะไรก็ไม่มี แล้วดูสิ ไปจัดงานกันตั้งไกล จะให้แม่กับป้าตามไปส่งตัวยังไง”
“เอาน่าคุณป้า วันนี้วันดีนะครับ”
“ย่ะ”
“งั้นคุณป้าช่วยเป็นญาติผู้ใหญ่ฝ่ายเจให้ผมหน่อยนะครับ”
“ก็ต้องเป็นอยู่แล้วสิ”
“เอ็กซ์ กูคุยกับสองคนนั้นเรียบร้อยแล้ว”
“เริ่มเลยนะครับคุณป้า”
“พี่เล่นอะไรเนี่ย”
“จัดงานแต่งงานไงครับ มันอาจไม่สวยหรูเหมือนงานของคนอื่น แต่พี่ก็อยากจัดให้เจนะ”
“....พี่เอ็กซ์”
“เจครับ....พี่รักเจ ตั้งแต่วันแรกที่รู้สึกตัวว่ารัก จนถึงวันนี้...ความรู้สึกพี่ไม่เคยน้อยลงไปเลย ระหว่างเราอาจมีอุปสรรค มีเรื่องไม่เข้าใจกัน มีกระทบกระทั่งกันบ้าง แต่เราก็ช่วยกันประคับประครองกันมาตลอด บางเรื่องที่เราต่างคนก็เสียใจ นับจากวันนี้เรามาเริ่มต้นกันใหม่นะครับ อะไรที่ผ่านมาแล้วพี่จะไม่เอ่ยถึงมันอีก พี่จะคอยดูแล ปกป้อง ให้เกียรติเจอย่างคู่ชีวิต เจ...จะยอมเป็นคู่ชีวิตพี่ได้ไหม”
“.....ครับ...เป็นครับ..เจยอม...เจจะอยู่กับพี่เอ็กซ์ตลอดชีวิตเลย”
“เอานะลูก ต่อไปนี้ก็คือว่าเป็นคู่ชีวิตกันแล้ว หนักนิดเบาหน่อยก็ให้อภัยกัน ดูแลกัน เอ็กซ์เป็นพี่ อายุมากกว่า ต้องเป็นผู้นำ คอยดูแลปกป้อง ต้องคิดถึงอีกคนที่อยู่ข้างหลังเราเสมอนะลูก”
“ครับคุณป้า”
“น้องเจ...หนูก็โตแล้วนะ รับผิดชอบเรื่องงานแล้วก็ต้องรับผิดชอบพี่เขาด้วย คอยช่วยแบ่งเบาภาระเขา มีอะไรก็พูดกัน คุยกัน เชื่อฟังพี่เขานะลูกนะ”
“ขอบคุณครับคุณป้า”
“ตอนนี้เอ็กซ์ก็มีคนที่ต้องคอยดูแลอีกหนึ่งคนแล้ว ถึงจะไม่ต่างจากเมื่อก่อนแต่ตอนนี้ต้องคิดถึงคนที่อยู่กับเราให้มากๆ อยู่ด้วยกัน มีอะไรก็คุยกัน ปรึกษากัน น้องเป็นคนไม่ค่อยพูดไม่ค่อยบ่นเวลาไม่สบาย เอ็กซ์ก็ต้องคอยดู ต่อไปนี้แม่กับป้าก็เป็นคนนอก ทำได้แค่คอยดูแลห่างๆ ตั้งแต่วันแรกที่เอ็กซ์มาบอกกับแม่ว่ารักน้อง แม่ก็รู้แล้วว่าจะต้องมีวันนี้ รักกันมากๆ นะลูกทั้งสองคน”
“ขอบคุณครับคุณแม่/แม่”
“โก้ อยู่ในสายใช่เปล่า”
“อืม”
“เออ ก็ขอโทษด้วยแล้วกันที่ฉุกระหุก ไม่งั้นก็คงชวนมาด้วยกัน ยังไงก็อวยพรมาหน่อยแล้วกัน”
“อืม....สำหรับพี่ ผมไว้ใจให้พี่ดูแลเจแทนผมตั้งแต่ครั้งแรกที่ถามความรู้สึกพี่แล้ว พี่ทำให้ผมเห็นว่าสามารถดูแลเจได้ดีกว่าพวกผม....ยังไงก็....ฝากเจด้วยนะครับ”
“อืม ต่อไปนี้พี่จะดูแลเจแทนเอง ที่ผ่านมาก็ต้องขอบคุณที่คอยดูแลเจด้วย”
“ไม่เป็นไร หน้าที่ใครหน้าที่มัน ส่วนเจ....ไม่ว่ายังไง คำสัญญาก็ยังไม่เปลี่ยนนะ ตอนนี้...มีความสุขจริงๆ แล้วใช่มั้ย”
“อื้ม เจมีความสุขมาก...ขอบคุณนะ...สำหรับทุกอย่าง ทุกคำสัญญา”
“ไม่เป็นไร”
“เรียกตี๋มาด้วย”
“ก็...ผมก็พูดไม่เก่งนะครับ พี่เอ็กซ์ก็ดูแลเจได้ดีอยู่แล้ว แต่ผมก็อยากให้พี่ดูแลเจมากขึ้นไปเรื่อยๆ บางครั้งเจเหมือนเด็กเอาแต่ใจไปบ้าง พี่ก็อย่าดุมันนักนะ เดี๋ยวมันร้องไห้จะป่วยอีก ผมก็....ฝาก....เพื่อนรักผมด้วยนะครับ”
“ขอบคุณมาก พี่จะดูแลเจให้ดีที่สุด”
“ส่วนเจ....มีความสุขมากๆ นะ.........ขอให้ยิ้มได้เหมือนทุกวันนี้ตลอดไปนะ ตี๋ก็....ยังคงรักษาสัญญาอยู่เหมือนกันนะ”
“อื้ม....เจก็เหมือนกันนะ”หลังจากวางสายสองคนนั้นเจก็ยังคงร้องไห้อยู่เงียบๆ ผมจะไม่ถามว่าสัญญานั้นคืออะไร เพราะคิดว่าคงไม่พ้นคำว่าจะดูแลเจ หรือไม่ก็จะไม่ทอดทิ้งเจตลอดไป เพราะทุกวันนี้มีเพียงสิ่งนี้ที่เห็นได้ชัดเจน สองคนนั้นไม่เคยทอดทิ้งเจไปไหนเลย
“พี่ขอโทษที่ไม่ได้เตรียมพร้อม แหวนก็ไม่มี แต่พี่ก็คิดว่าอยากให้เรามีเพียงแหวนวงเดียว วงที่พี่ทำให้เจวงนี้ อย่างน้อยจะได้รู้ว่าความพี่ตั้งแต่ครั้งแรกที่ให้แหวนนี้ กับตอนนี้….ยังเหมือนเดิมเสมอ”
“….ขอบคุณครับ จากนี้ไปเจจะเชื่อฟังพี่ จะไม่ดื้อ จะไม่ทำให้พี่ไม่สบายใจอีก….พี่เอ็กซ์…ช่วยดูแลเจด้วยนะครับ”
“ครับ เจก็ดูแลพี่ด้วยนะ”สำหรับผมไม่ใช่เพียงแค่ดูแลร่างกาย แต่รวมถึงหัวใจด้วย ครั้งหนึ่งผมเคยคิดไว้ว่า…ไม่ว่าเจจะทำอะไร ทำให้ผมเสียใจแค่ไหน ผมก็สามารถให้อภัยได้ทันที ไม่ต้องรอเวลา ไม่มีการแก้แค้นเอาคืน แต่ในความเป็นจริงมันไม่ได้จบที่เราอภัยกัน เมื่อมีแผล ไม่ว่ายังไงก็จะต้องหลงเหลือร่องรอย เวลา ความรู้สึก ไออุ่นที่อิงแอบแนบกาย ฝ่ามือที่กอบกุมกระชับ คำหวานที่มอบให้กันจะช่วยเยียวยาสมานรอยแผลเป็นให้บางเบาและเจือจางจนเราไม่สังเกตเห็น บาดแผลบางแผลก็ช่วยให้เราได้ตระหนักถึงความรู้สึกของกันและกัน อุปสรรคในชีวิตก็เปรียบเหมือนบททดสอบ ระยะทาง เวลา มือที่สาม หรือแม้แต่ความหวังดีของคนอื่นที่เราไม่ได้ต้อง ทุกอย่างล้วนเป็นบททดสอบความสัมพันธ์ของชีวิตเราสองคน แต่…เราจะผ่านมันไปได้…. ตราบใดที่….เรารักกัน
-end-
หมดแล้วนะคะสำหรับตอนพิเศษ
และคงไม่เอาตอนพิเศษในหนังสือตอนไหนมาลงอีกแล้วจริงๆ รวมถึงไม่แต่งใหม่ด้วย
ส่วนเรื่องความคืบหน้าของเรื่องใหม่...คาดว่า...จะ...พยายาม...ให้ได้อ่านภายในต้นปีหน้านะคะ
ตอนพิเศษนี้ถือเป็นของขวัญปีใหม่ล่วงหน้าแล้วกันนะคะ