เดินหนีจากเจมานั่งที่โต๊ะแล้วครับ ไม่ไหวครับ เดี๋ยวนี้มันทำอะไรก็น่ารักไปหมด อยู่ดีๆ เอาที่คาดผมมาคาดทำเอาใจเต้นเลย จะต้องให้ผมตกหลุมรักมันอีกกี่รอบเนี่ย ตอนนี้ลืมไปหมดอารมณ์โมโหที่เห็นไอ้ฟ้ากับอั้มยืนคุยที่โต๊ะ แล้วน้องเก๋อีก พูดเหมือนรู้ว่าผมชอบเจ....ผมว่าเธอรู้นะ แต่....เจ้าตัวนี่สิ ไม่เห็นพูดเรื่องจูบ ไม่แสดงอาการอะไรเลย ไม่โกรธ ไม่อาย มันปกติเกินไป......เหมือนไม่เคยเกิดขึ้น
“เป็นอะไรของมึง นั่งอมยิ้มอยู่ได้”โมทย์มันเขย่าไหล่ผมเบาๆ ลืมไปเลยครับว่านั่งอยู่กับมัน
“เปล่า......โมทย์..เจมันน่ารักว่ะ”ผมดึงโมทย์มากระซิบให้ได้ยินกันสองคน พูดจบโมทย์มันหน้าเหวอเลย
“ไรของมึงเนี่ย บ้าเปล่าวะ”โมทย์มันหันดูรอบๆ ว่ามีใครอยู่ใกล้ๆ หรือเปล่า แต่โต๊ะอื่นมันตั้งห่างกัน พูดเบาขนาดนี้ไม่ได้ยินหรอกครับ
“....กูชอบเจว่ะ”
“เฮ้ยยย มึงเป็นเอามากนะเนี่ย เป็นบ้าอะไรนั่งเพ้ออยู่ได้”โมทย์มันคงพูดถูก ผมนั่งเพ้อถึงเจจริงๆ ด้วย แต่ทำไงได้ล่ะครับ ทั้งๆ ที่พยายามดึงเจมาอยู่ใกล้ๆ อยากให้ชินจนห่างผมไม่ได้ แต่....ผมกลับหลงซะเอง
“เออว่ะ กูว่ากูเป็นหนักเหมือนกันนะมึง ทำไงดีวะ”ผมกำลังกลุ้มครับ วันนั้นกำลังได้โอกาสแต่ก็ไม่ได้พูดออกไปว่าชอบ
“มึงไปบอกน้องเจโน่น ไม่ใช่มาบอกกู”มันพูดถูกครับ แต่เพราะมันนั่นแหล่ะที่ทำให้ผมพลาดโอกาสนั้นมาแล้ว
“กูก็ว่าจะบอกเหมือนกัน กลัวไม่ทันว่ะ”
“ไม่ทันอะไรของมึง”
“ก็กลัวหมาคาบไปแดกไง แม่งมีหลายตัวด้วย”
“ไม่ต้องมองกู กูไม่เกี่ยว”บ้านผมเรียกว่าร้อนตัวครับ ผมแค่ปรายตามองมันเฉยๆ เอง
“กูอยากบอกเจมันนะว่ากูชอบมัน แต่...ถ้าน้องมึงไม่ชอบกูล่ะ”นั่นสิครับ ถึงผมจะเคยจูบมันแล้ว แต่ผมก็ยังดูไม่ออกอยู่ดีว่าเจรู้สึกยังไงกับผม มีแค่วันนั้นที่เจเจ็บ...วันที่เจมันอ้อนผมบ้าง แต่หลังจากนั้นแล้วไม่มีอีกเลย มันดูปกติเกินไปจนเหมือนไม่เคยมีอะไรเกิดขึ้น นี่ล่ะมั้งที่เพื่อนรักมันเคยเตือนผม ว่าเจมันไม่รับรู้ทั้งนั้นว่าใครรู้สึกยังไงกับมัน การที่เจยอมให้ผมจูบ....เป็นเพราะความใจดีของมันเหรอ........ผมเริ่มไม่แน่ใจแล้วว่า....การที่มันไม่รับรู้.......กับปฏิเสธผมตรงๆ อะไรจะเจ็บปวดกว่ากัน
“ไม่ชอบมึงก็ดีสิ เป็นบุญของเจมันแล้ว”
“อ้าวไอ้นี่ กูจริงจังนะ”
“มึงอย่าเพิ่งจริงจังอะไรตอนนี้เลย อีกไม่กี่วันจะสอบแล้ว อย่าเพิ่งไปกวนน้องมันเลย ปล่อยให้มันมีสมาธิกับการสอบก่อน”โมทย์พูดมาก็ถูกครับ เจมันยิ่งเป็นคนคิดมากอยู่ ถึงจะดูเหมือนไม่คิดอะไร แต่ตกดึกก็ไปยืนเครียดอะไรของมันไม่รู้คนเดียวเกือบทุกคืน ยิ่งช่วงนี้หน้ามันยิ่งดูเศร้าๆ ยังไงไม่รู้
“เอ็กซ์ปิดเทอมไปออกค่ายด้วยกันเปล่า”เศกมาถึงก็ถามเลยครับ
“เทอมนี้เหรอ เราไม่ว่างว่ะ ต้องไปทำงานให้แม่”ใช่ครับ สัญญากับแม่ไว้แล้ว ถ้าเบี้ยวเดี๋ยวมีงอน ง้อยากด้วยครับ
“ตกลงไปไหนวะเศก”
“ไปแม่ฮ่องสอน คงแค่ไปเซอร์เวย์ก่อนน่ะ นี่ก็บอกพวกกลุ่มไอ้ก้องไปให้มันชวนเพื่อนๆ ไปช่วยกัน ก็ไปเที่ยวกันน่ะแหล่ะ”เศกหันไปตอบโมทย์ ถ้าชวนกลุ่มก้องก็ต้องมีเจน่ะสิ
“แล้วพวกรุ่นน้องมีใครไปบ้าง”ถามเลยครับ อยากรู้ ไอ้โมทย์ก็มองหน้าผมแบบรู้ทัน
“ยังไม่รู้เลย เมื่อกี้เดินผ่านมันบอกจะให้คำตอบหลังสอบเสร็จ”อืมมม งั้นเดี๋ยวผมไปเกริ่นๆ กับคุณนายเขาไว้ก่อนดีกว่า เผื่อเจไปด้วยผมจะได้ตามไป...โอยยยย แย่ครับ คิดถึงมันอีกแล้ว ผมว่าเดี๋ยวนี้โลกผมมักหมุนอยู่รอบๆ ตัวมันทุกทีแล้ว ไม่ไหวครับนั่งตรงนี้ มองไปไกลๆ ก็เห็นหน้ามันตลอด ไม่มีสมาธิอ่านหนังสือ
“โมทย์ เศกไปทำโปรเจ็คกันต่อเหอะ บ่ายมีแค่ lab นี่”ผมชวนมันสองคนกลับบ้านครับ มันก็ตกลง รีบทำๆ ให้เสร็จจะได้เผื่อแก้ด้วย ขับรถมาบ้านพวกมันก็เริ่มงานเลยครับ เกรดน่ะไม่ออกหรอก ออกตอนเทอมสองแต่ต้องเขียนโครงการให้เสร็จเทอมนี้ ส่วนตัวโปรแกรมค่อยทำเป็นรูปเป็นร่างเทอมหน้า เรื่องเขียนเรื่องคิดนี่ยกให้เศกกับโมทย์ครับ ส่วนผมเน้นปฏิบัติ ให้นั่งคิดอธิบายอะไรทำไม่ค่อยเป็น ลงมือทำเลยจะง่ายกว่าครับ
นั่งทำกันจนค่ำผมก็ขอตัวกลับ วันนี้จะกลับบ้านครับ ไม่ได้ไปนานแล้ว เจอป้านอมโทรมาบ่นแทนคุณแม่เลยครับ
“อ้าวววว วันนี้แปลกแฮะ แม่ผมกลับบ้านเร็ว”จอดรถเสร็จเดินเข้ามาในบ้านเจอคุณแม่นั่งหน้าบึ้งอยู่หน้าทีวีเลยครับ สงสัยได้ยินเสียงรถเลยเตรียมหน้ารอ ผมก็ฟอร์มเดิมแหล่ะครับ เดินเข้าไปกอดรัดฟัดเหวี่ยงให้หนำใจ ก่อนจะแถมด้วยหอมแก้มนิ่มๆ ทั้งสองข้าง แต่ยังครับ แม่ยังไม่ยิ้มเลย
“แม่ครับ ไม่คิดถึงผมเหรอ เนี่ยเสร็จงานก็รีบขับรถกลับบ้านเลยนะ คิดถึงแม่ที่สุดเลย”
“ไม่ต้องมาพูดดีเลย หายไปเป็นเดือนไม่มาให้แม่ให้ป้าเห็นหน้าบ้าง”
“โธ่แม่ครับ อย่างอนนะ ผมเพิ่งแข่งกีฬาเสร็จ ซ้อมหนักด้วย แทบไม่มีเวลากินเวลานอนเลย”
“เชื่อได้หรือเปล่าก็ไม่รู้ ไม่ใช่ไปติดสาวที่ไหนเข้าเหรอ”แม่ครับ ไม่ติดสาวอ่ะ ติดหนุ่มแทน
“ครับ ติดสาวอยู่ สาวคนนี้แหล่ะที่ทำให้ต้องขับรถมาหาดึกๆ แล้วก็ขี้งอนที่หนึ่งเลยเนี่ย”ผมหอมแก้มหนักๆ อีกสองที ได้ผลครับ แม่เริ่มอมยิ้มแล้ว
“ทำเป็นมาว่าแม่ แล้วไงล่ะ จะนอนค้างหรือเปล่า”แม่เอามือมาลูบหน้าลูบผมแล้วจับหน้าผมนิ่งๆ ก่อนจะหอมแก้มผมคืน ผมเลยทิ้งตัวนอนตักแม่เสียเลย เคยเป็นไหมครับเวลาเหนื่อยๆ แล้วจะอยากกลับบ้าน ไม่ว่าผมจะไปทำอะไรที่ไหน สุดท้ายผมก็ต้องกลับมาบ้าน ที่ๆ มีคนที่ผมรักและรักผมรออยู่...แล้วเจล่ะ...บ้านมัน...ไม่เหลือใครให้กลับไปหาแล้วนี่ แล้วปิดเทอมนี้.....มันจะเป็นยังไง
“ว่าไงลูก แม่ถามยังไม่ตอบเลย คืนนี้ค้างหรือเปล่า”
“ค้างครับ เดี๋ยววันจันทร์ค่อยกลับ”ขออยู่อ้อนต่อสักสองคืนแล้วกันครับ ไหนๆ พรุ่งนี้ก็เป็นวันหยุด
“ได้โทรหาน้องบ้างเปล่าลูก เห็นน้องบอกสอบเสร็จจะไปเที่ยวก่อนกลับ”
“ไม่ได้โทรเลย มันโทรมาบอกแม่เหรอ”ผมเกือบลืมไปแล้วนะเนี่ยมามีน้องชาย เล่นไม่ติดต่อหาพี่หาเชื้อเลย สงสัยไปติดสาวเชียงใหม่เสียล่ะมั้ง
“ใช่ ไม่เหมือนใครบางคนหรอก จะไปจะมาไม่เคยบอก”แม่ทำเสียงเล็กเสียงน้อยประชดผมอ่ะ
“ไม่ดีเหรอครับ จะได้เซอไพรส์ไง”
“แก้ตัวไปเรื่อย แล้วนี่กินอะไรมาหรือยัง”
“ยังเลยครับ แม่ล่ะกินข้าวแล้วเหรอ”
“กินมาจากข้างนอกแล้ว ลุกสิเดี๋ยวแม่ไปบอกป้านอมให้เตรียมข้าวให้”แม่ดันหัวผมขึ้น ผมก็ต้องลุกครับ กำลังสบายเลย
ป้านอมทำอาหารเสร็จผมก็ยกมากินหน้าทีวี กินไปมองหน้าแม่ไป มีความสุขครับ ผมขอเวลาอยู่คนเดียวอีกสักพักนะแม่ แล้วผมจะกลับมาอยู่บ้านเป็นเพื่อน ผมรู้ครับว่าแม่เหนื่อย แต่แม่ไม่เคยพูดออกมา
“แม่ครับ เวลาอยู่บ้านคนเดียว...แม่เหงามั้ย”ผมกินข้าวเสร็จก็มานอนหนุนตักแม่เหมือนเดิม
“อยู่คนเดียวที่ไหน ป้านอมกับแดงก็อยู่”แม่ก้มลงมายิ้มให้ผม มือก็ลูบตามเส้นผมเบาๆ
“ถ้า...บ้านนี้ไม่มีใครอยู่ แม่จะเหงามากมั้ย ถ้าต้องกลับมาบ้านที่ไม่มีใครอยู่เลย”
“.....ถ้าเป็นแบบนั้น...ก็คงเหงามั้ง..ไม่สิ..ต้องเหงาแน่ๆ......เพราะบ้านหลังนี้มีความทรงจำเกี่ยวกับคนที่แม่รักอยู่มากมาย ถึงจะเหงา แต่คงมีความสุขแน่ๆ”แม่หมายถึงพ่อ พ่อที่แม่รักมากจนไม่แต่งงานใหม่ ถ้าต้องกลับมาบ้านที่ไม่มีคนที่รักรออยู่ ผม...จะเป็นยังไง.......เจล่ะ..เหงาขนาดไหน
*******************************************************************************************************************************
ใครอ่านแล้วนอนไม่หลับเพราะมีฉากคู่กันน้อยก็.....ช่วยไม่ได้นะคะ
ไว้อ่านใหม่พรุ่งนี้แล้วกัน