วันนี้ตอนเย็นก็มาแข่งบาสกับทีมคุรุฯ ครับ เพื่อนๆ น้องๆ ที่ว่างก็มาเชียร์ เต็มโรงยิมเลยครับ ถ้ารอบนี้ผ่านผมก็เข้าไปเจอกับทีมวิศวะของไอ้เปามัน โมทย์ผมยังไม่ให้ลงครับ อยากให้มันลงครึ่งหลัง กลัวมันเจ็บ ยิ่งเพิ่งหายอยู่
เริ่มเกมส์ฝ่ายตรงข้ามก็เริ่มบุกเร็วเลยครับ ทีมผมก็รอดูรูปเกมส์ไปก่อนช่วงแรกๆ พอจับทางหาจุดอ่อนได้ก็เริ่มบุกคืนครับ ครึ่งแรกก็ผลัดกันขึ้นนำ ครึ่งหลังก็ให้โมทย์มันเปลี่ยนตัวลงมา เอาตี๋ไปพักครับ ต้องให้มันเก็บแรงไว้วิ่งท้ายๆ เกมส์หน่อย ครึ่งหลังก็เริ่มแรงเลยครับ ผลัดกันฟาวล์ตลอด เวลาล้มหรือชนก็ต้องเซฟตัวเองสุดฤทธิ์ครับ เหลืออีกสิบห้านาทีสุดท้ายก็เปลี่ยนตี๋มันลงมา ปล่อยให้โมทย์กลับไปพักขา ตอนนี้แต้มเริ่มนำห่างแล้วครับ ได้ตี๋มาคอยวิ่งตัดลูกให้ก็เบาแรงผมครับ จบเกมส์คณะผมก็ชนะไปตามคาดหมาย แต่ที่เหนือความคาดหมายคือ โค้ชผมเดินมาทาบทามให้โก้ไปเป็นนักกีฬามหาลัยด้วย แต่โก้มันปฏิเสธไป เพราะมันไม่ชอบทำตามกฎ ให้เล่นหนุกๆ ก็ได้อยู่ ช่วงที่ได้ซ้อมบาสกับโก้และตี๋ ผมก็ได้รู้ว่ามันทั้งสองคนเริ่มเล่นบาสเพราะเจด้วยกันทั้งคู่ และคนที่ทิ้งบาสไปก่อนใครก็คือเจมัน สองคนนั้นบอกว่าเมื่อก่อนเจเล่นกีฬาแบบทุกประเภท เพราะมันอยากสูง อยากมีกล้าม จะได้ดูแมนๆ แต่พอมันเล่นอะไรแล้วไม่เห็นผล มันก็เปลี่ยนไปเล่นอย่างอื่น ดีแล้วครับให้ตัวเล็กๆ น่ารักแบบนี้ดีแล้ว เกิดมันล่ำๆ มีกล้าม...อืม...ไม่อยากคิดเลย โคตรจะไม่เข้ากับหน้าหวานๆ ของมันครับ
“วันนี้ก็พยายามได้เต็มที่กันทุกคน พรุ่งนี้งดซ้อมนะ รักษาตัว อย่าไปเดินตกท่อตกบันไดกันล่ะ แล้ววันศุกร์อย่างที่รู้ว่าเป็นศึกหนัก เตรียมร่างกายให้พร้อม ช่วงนี้ก็ขอให้งดเหล้างดเบียร์กันไปก่อนนะ ถ้าคว้าแชมป์มาได้ค่อยไปเมาด้วยกัน”ผมบอกลูกทีมผมก่อนที่จะปล่อยให้แยกย้ายกันกลับ ส่วนผมก็ขับรถครับ ไม่มีแรงปั่นจักรยานครับช่วงนี้ ขับออกมาจนเกือบพ้นประตูหอก็เห็นเจเดินอยู่ข้างทางเลยบีบแตรเรียกมัน
“ขึ้นมาสิ กลับพร้อมกัน”ผมลดกระจกลงแล้วตะโกนบอกมันไป เจมันยืนนิ่งเหมือนคิดอะไรสักพัก ก่อนจะเปิดประตูเข้ามานั่งด้านใน
“เพิ่งเลิกเหรอ”ผมถามโดยที่ไม่ได้หันหน้าไปหามัน มองแต่ถนนข้างหน้ากับกระจกมองข้าง
“อืม”
“บอลเป็นไงบ้าง”
“รอชิงวันศุกร์”เจตอบมาสั้นๆ ผมรู้สึกเหมือนย้อนกลับไปตอนที่รู้จักกันใหม่ๆ เลย
“........................”ผมไม่รู้จะคุยอะไร อยากลองดูด้วยว่าเจจะชวนผมคุยหรือเปล่า หรือจะนั่งเงียบๆ เหมือนวันนั้นที่ผมปั่นจักรยานตามอีก
“..................................แล้วบาสล่ะ”เสียงเจเบาจนเกือบไม่ได้ยิน ถ้าไม่ตั้งใจฟัง
“เฮ้อ......นึกว่าไม่อยากคุยด้วยซะอีก”ผมถอนหายใจอย่างโล่งอก
“ใครกันแน่ที่ไม่อยากคุยด้วย”เอ๋.... เจพูดมาหมายความว่าไง
“ใคร...พี่เหรอ เปล่านี่ ทำไมคิดงั้นล่ะ”
“ก็เป็นแบบนั้นไม่ใช่เหรอ ไม่คุย ไม่มองหน้า ไม่ทักทาย”เจพูดมาทำเอาผมสะอึกเลย ผมพยายามทำตัวอย่างนั้นจริงๆ แต่ไม่คิดว่ามันจะรู้สึก
“...ปะ....เอ่อ....ช่างมันเถอะ เอาเป็นว่าพี่ขอโทษแล้วกัน ที่ทำ..แบบนั้น”ผมไม่รู้จะพูดยังไง จะอธิบายก็ไม่ได้ และก็ไม่อยากโกหกเจด้วย
“อืม”....ตอบสั้นแบบนี้แสดงว่ายังไม่หายโกรธ
“หิวมั้ย”
“ไม่”
“เดี๋ยวพาไปกินข้าวก่อนกลับแล้วกัน มีร้านอร่อยจะแนะนำ”ผมกลับรถไปร้านที่ผมชอบไปทันที ไม่สนหรอกครับว่าจะตอบอะไร ผมก็แค่ถามไปงั้นแหล่ะ อยากอยู่ด้วยนานๆ นี่นา
ขับรถมาไม่นานก็ถึงครับ ร้านเป็นตึกแถวธรรมดา เก่าๆ แต่เจ้านี้อร่อยมากครับ ร้านราดหน้ายอดผัก ขายเฉพาะราดหน้า ผมหาที่จอดรถได้ก็พาเจเดินลงมา มันก็ทำหน้าบึ้งๆ แก้มป่องเดินตามนั่นแหล่ะครับ เข้ามาถึงร้านนั่งได้ก็สั่งทันที ของอร่อยประจำร้าน
“เฮียเอาเส้นใหญ่ไข่เจียวหมูหมักสอง เพิ่มผักหนึ่ง”ผมตะโกนบอกเฮียเจ้าของร้าน
“เฮ้ย ไม่ถามผมสักคำว่าจะกินอะไร”เจมันโวย แต่ผมสั่งไปแล้ว
“กินที่สั่งนี่แหล่ะ เส้นใหญ่ร้านนี้เขาทำเอง อร่อยนะ เส้นสดด้วย เนี่ยราดหน้าไข่เจียวสูตรเด็ดเชียวนะ มาร้านนี้ยังไงก็ต้องสั่งอันนี้แหล่ะ”ผมบรรยายสรรพคุณร้านให้เจฟัง
“ก็ถามความเห็นหน่อยก็ได้ ว่าจะกินได้มั้ย จะชอบมั้ย แต่คงไม่ถามหรอกสินะ ก็บ้าอำนาจนี่นะ”เจว่าผมเป็นชุดเลย ผมเพิ่งรู้นะเนี่ยว่ามันคิดว่าผมบ้าอำนาจ อาจจะจริง แต่เฉพาะกับมันนะ ก็ลองให้เลือก ก็เลือกแต่ของชอบ มีประโยชน์ไม่มีประโยชน์ก็ไม่สน
“แล้วที่สั่งเนี่ย...ไม่ชอบเหรอ”เสียงผมอ่อยลงโดยไม่ได้ตั้งใจครับ กลัวมันโกรธอ่ะ อุตส่าห์พามาง้อ
“....ก็กินได้”เจพูดมาค่อยโล่งอกหน่อยครับ เกิดมันไม่ชอบแล้วไม่ยอมกิน ผมคงเสียความรู้สึก อุตส่าห์สั่งผักเพิ่มให้มันแล้วด้วย
นั่งรอแป๊ปเดียวเขาก็เอาชามราดหน้ามาวาง กลิ่นนี้หอมฉุยเลยครับ ทั้งกลิ่นของไข่เจียวหอมๆ กลิ่นน้ำราดหน้ากับหมูหมัก ไม่ปรุงก็อร่อยครับ แต่เจมันน่ะ ปรุงอยู่แล้ว ใส่ทั้งพริกทั้งน้ำส้มสายชู ทั้งชามเห็นแต่เม็ดพริกแดงเถือกเลย
นั่งกินไปก็ต่างคนต่างกิน ผมเห็นผักคะน้าในชามเจเกือบหมดแล้ว ขนาดสั่งเพิ่มให้แล้ว ผมเลยตักผักชามผมไปให้ เจชะงักมองผักในจาน ก่อนจะคีบหมูหมักใส่ให้ผมคืนสองชิ้น ผมลองกินดู หมูหวานๆ เค็มๆ กลายเป็นเปรี้ยวๆ เผ็ดๆ ไปแล้วครับ มันกินรสจัดมาก ผมต้องเอาหมูละเลงในชามก่อนกินอีกชิ้นน่ะ กินเสร็จก็จ่ายเงินขึ้นรถกลับหอกันครับ
“อร่อยมั้ย”
“ก็อร่อยดี แต่ให้เส้นกับไข่เจียวเยอะไปหน่อย กินไม่หมดอ่ะ แต่เส้นเขาอร่อยจริงๆ น่ะแหล่ะ มันไม่หนามาก แถมเหนียวๆ ด้วย”เจตอบยาวครับ แสดงว่าอารมณ์ดีขึ้นแล้ว
“ร้านนี้เขาทำเส้นขายส่งด้วยน่ะ ความจริงถ้าอยู่ใกล้ๆ กว่านี้ก็ดี จะได้มากินบ่อยๆ”
“อยู่ไกลๆ ก็ดี จะได้ไม่เบื่อเร็ว”เจหมายถึงเรื่องร้านผมรู้ แต่ความคิดที่ไม่ตรงกันทำให้ผมน้อยใจเล็กๆ ผมอยู่ใกล้มันขนาดนี้ มันจะเบื่อผมเร็วมั้ย แต่ต่อให้ผมทำตัวห่างเหินกับมันเท่าไหร่ พอได้กลับมาคุยกันอีกครั้ง มันก็ยังมีความสำคัญกับผมเหมือนเดิม อาจจะมากกว่าเดิมด้วย อย่างนี้แล้ว ผมยังต้องคิดหาคำตอบให้ตี๋มันอยู่อีกเหรอ
“นม...ที่ฝากแช่ไว้ห้องพี่น่ะ ไม่เห็นมาเอาไปกินเลย เดี๋ยวมันหมดอายุก่อนนะ”
“เออ ลืมไปเลย พี่กินไปเลยก็ได้นะ ผมดันซื้อมาแช่ที่ห้องผมแล้วด้วย คงกินไม่หมดน่ะ”เจพูดมาทำให้ผมนึกได้ว่าตอนนี้ห้องมันมีตู้เย็นแล้วนี่นะ ตู้เย็นที่มันไปซื้อกับไอ้ฟ้าสองคน
“พี่ไม่ชอบกินนม มาเอาไปกินซะ เสียดายของ”จะว่าผมพาลก็ได้นะ แต่มันไม่แวะเวียนมาหาผมที่ห้องนานแล้วอ่ะ เมื่อก่อนนั้นยังเคยนอนดูหนังด้วยกันอยู่เลย
“อืมก็ได้ เดี๋ยวไปหาที่ห้องแล้วกัน”
************************************************************************************
จบค้างกว่าเดิมอีก แต่ไม่ได้ตั้งใจแกล้งนะ
คืนนี้ไม่ต่อแล้ว ฝันดีนะคะทุกคน