"เหี้ย พวกมึงไร้สาระหว่ะ"
ตั๋วใบนี้ไม่ได้มีสำหรับฉัน แม้เค้าจะขายให้ทุกคนได้เท่ากัน เพียงแต่รถขบวนนี้ไม่มีที่ให้กับฉัน จึงไม่มีสิทธิ์เดินทาง
ให้ฝึกเล่นให้เก่งเข้าไว้ เผื่อวันข้างหน้า เพื่อนต้องการใช้มันเพื่อบอกอะไรกับใครซักคน
"ตราบใดที่มีรักย่อมมีหวัง..."
"แล้วหญิงจะยังหวังอยู่รึป่าว ?......."
"แล้วเราควรจะยังหวังอยู่อีกมั๊ยอ่ะ?"
ถ้าเรารักใครมากๆ เราจะทนได้เหรอ ถ้าวันนึง... เราต้องเสียเค้าไป แล้วไอ้การจากลา... มันก็เป็นส่วนหนึ่งของชีวิต แล้ว... มันจะเป็นไปได้เหรอ ที่เราจะรักใคร โดยไม่กลัวการสูญเสีย
แต่อีกใจนึงก็คิดว่า แล้วมันจะเป็นไปได้เหรอ ที่เราจะอยู่ได้ โดยไม่รักใครเลย
เนี่ยแหละคือความเหงา เราอยู่กับมันมา... ทำไมเราจะไม่รู้ว่ามันทำร้ายเรายังไง แล้วชีวิตที่เหลือของเราล่ะ....
แล้วความเหงามัน here ใส่มิวยังไง?
อยากให้รู้ ... ว่าเพลงรัก ... ถ้าไม่รักก็เขียนไม่ได้
ความรัก ไม่มีคำว่า มากเกินไปหรอก ถึงเราจะทำอะไรผิดพลาดไปบ้าง แต่ก็ยังดีกว่าเราไม่เคยทำอะไรเพื่อความรักเลย ... ไม่ใช่เหรอ
ผมรู้แล้ว ... ผมรู้แล้ว
ดั่งในใจความบอกในกวี
ว่าตราบใดที่มีรักย่อมมีหวัง
คือทุกครั้งที่รักของเธอส่องใจ
ฉันมีปลายทาง
แล้ววันนึงเราจะรู้ว่า เราเปราะบางเกินกว่าจะอยู่คนเดียวได้
อาม่าเห็นแก่ตัว
จนบางครั้ง ความรักที่ดูเหมือนจะมากไป กลับทำร้ายกันเอง
ถ้าชีวิตคือทำนอง เธอก็เป็นดังคำร้อง ที่หวานและซึ้งจับใจ
เหนื่อยมั๊ยแม่?
ขอบใจนะ ถ้าไม่เจอกัน เรื่องดีๆ แบบนี้คงไม่เกิดขึ้น
"เขากลับมาบ้างหรือเปล่า"
"อยู่เป็นเพื่อนอามาอีกสักพักนะ"
"แล้วถ้าเราไม่รักใครแล้วเราจะอยู่ได้ตลอดไปจริงๆ รึเปล่า?"
credit
http://www.pantip.com/cafe/chalermthai/topic/A6092418/A6092418.html"ยังหรอก.. ตอนนี้เรายังอยู่กันครบ 4 คน แต่แตงอยากจะถ่ายรูปเองบ้าง คุณยิ้มภูมิใจใหญ่ที่แตงถ่ายรูปเป็นกับเค้าซะที ถึงจะเป็นเรื่องเล็กๆ แต่ก็เป็นแค่ไม่กี่เรื่องที่แตงทำให้เราภูมิใจ"
"เดี๋ยวถ้าโต้งติดไม่ถูกใจแม่ แม่ก็ว่าโต้งอีกอ่ะ"
*************************************************************
"เราเป็นอะไรน่ะหญิง เราเป็นอะไร ทำไมทุกคนต้องมาเสียใจกับการที่เราไม่รู้ว่าเราเป็นอะไร"
"ไม่เป็นไรนะโต้ง เดี๋ยวทุกอย่างก็ดีขึ้นเอง"
"เค้าว่ากันว่า คนที่โกรธกันแรง ๆ ด้วยเรื่องไร้สาระ มักจะเป็นคนที่แคร์กันมาก ๆ เลยนะ"
"ยังเก็บไว้อยู่อีกหรือ"
"ถ้าไม่มีโต้งก็ไม่มีเพลงนี้หรอก"
สุนีย์ : ฉันไปทำอะไรมา นี่คือสิ่งที่ฉันสมควรจะได้รับงั้นเหรอ ทุกวันนี้ ฉันยังทำไม่ดีพออีกหรือไง
มีความจริงอยู่ในความรักตั้งมากมาย"
*******************************
เดชะพระนาม พระบิดา พระบุตร และพระจิต อาเมน
วันทามารีอา เปี่ยมด้วยหรรษทาน
พระเจ้าสถิตกับท่าน ผู้มีบุญกว่าหญิงใดๆ
และพระเยซุโอรสของท่าน
ทรงบุญนักหนา สัตนตะมารีอา มารดาพระเจ้า
โปรดภาวนาเพื่อเราคนบาป บัดนี้และเมื่อจะตาย อาเมน
เดชะพระนาม พระบิดา พระบุตร และพระจิต อาเมน
****************************
เดชะ พระนาม พระบิดา พระบุตร และพระจิต
พระสวามีเจ้าข้า โปรดอวยพรข้าพเจ้าและอาหารที่จะรับประทานนี้
เดชะ พระนาม พระบิดา พระบุตร และพระจิต อาเมน
***************************************
ข้าวทุกจาน อาหารทุกอย่าง อย่ากินทิ้งขว้าง เป็นของมีค่า
ชาวนาเหนื่อยยาก ลำบากหนักหนา สงสารบรรดา คนยากคนจน
**********************
ทำไม
ทำไม ทำไมถึงทิ้งพวกเราไป
***************
ฉาก: โต้งและมิวนอนหนุนหมอนบนเตียงสีเขียว ในห้องของมิวที่บ้าน
โต้ง: แล้วที่ผ่านมา มิวเป็นไงบ้าง
มิว: เล่นดนตรีสนุกดี
โต้ง: อยู่คนเดียว ไม่เหงาบ้างเหรอ
มิว: เหงาจนน่ากลัว
โต้ง: แล้วมันเป็นไง เหงาจนน่ากลัว
มิว: ก็อย่างตอนเด็กๆ อะ ความเหงาคือการไม่มีเพื่อนใช่มะ
แต่พอโตขึ้น ความเหงามันเหี้ยกับเรามาก
โต้ง: แล้วมันเหี้ยใส่มิวยังไงอะ
มิว: ไม่รู้จะดิ แต่มัน เริ่มตอนประมาณซัมเมอร์ ตอนเรากำลังจะขึ้น ม.2
ป๊าพาอาม่าไปไหนก็ไม่รู้ ตั้งสามสี่วัน แล้วพอวันที่แกกลับมานะ...
อาม่า: ได้ข่าวว่าอาม่าไม่อยู่ เพื่อนเกเรหรอ
มิว: มันไม่ง่ายเลยนะ เพราะยิ่งผ่านไปนานนาน เราก็ยิ่งคิดถึงอาม่า
เราก็เลยตั้งคำถามขึ้นว่า ถ้าเรารักใครมากๆ เราจะทนได้เหรอ
ถ้าวันนึงเนี่ย เราต้องเสียเค้าไป แล้วไอ้การจากลา... มันก็เป็นส่วนหนึ่งของชีวิต
โต้งก็รู้ดี... มันจะเป็นไปได้เหรอโต้ง ที่เราจะรักใคร โดยไม่กลัวการสูญเสีย
(โต้ง น้ำตาซึม สายตาเหม่อลอจับที่เพดาน คิดถึงการสูญเสียคนที่เค้ารัก...พี่แตง)
แต่อีกใจนึงก็คิดว่า แล้วมันจะเป็นไปได้เหรอ ที่เราจะอยู่ได้ โดยไม่รักใครเลย
เนี่ยแหละคือความเหงา เราอยู่กับมันมา 5 ปี ทำไมเราจะไม่รู้ว่ามันทำร้ายเรายังไง
แล้วชีวิตที่เหลือของเราล่ะ....
โต้ง: มิว..
โต้งเรียกชื่อมิว พร้อมกับคว้ามิวเข้ามาซบที่อ้อมอกโต้ง
*************
อาม่า: เล่นอารัยอะหะ เล่นอย่างนี้ของอากงก็พังหมดสิ เค้าต้องเล่นอย่างนี้
มิว: ทำไมถึงอาม่าชอบเล่นเพลงนี้
อาม่า: อากงอีอบเล่นให้อาม่าฟัง
มิว: อากงคงเล่นเก่งน่าดูเลยเนอะ
อาม่า: แน่อยู่แล้ว เพื่อนอยากเก่งเหมือนอากงไหมหละ
มิว: ไม่รู้ว่าเก่งไปทำไมอะ
อาม่า: เผื่อว่าวันนึง เพื่อนจะใช้มันบอกอะไรกับคนอื่นๆ เหมือนที่อากงบอกอาม่าก็ได้
มิว: แล้วอากง บอกอะไรกับอาม่า
อาม่า: ฟังสิ
มิว: อากงเค้าบอกว่า เค้าคิดถึงอาม่า
อาม่า: ถ้าวันไหนอากงกลับมา แล้วไม่เจอใครอยู่บ้าน อีก็จะเหงา อยู่เป็นเพื่อนอาม่าสักพักนึงนะ
****************
ความรักหรอ ก็ไม่เห็นจะยาก
ไม่รู้สิ มันไม่เคยมี
*************
มิว: เพลงนั้นอะ เพราะดีเน้อ แต่งได้ไงอะ
โต้ง: ก็... ถ้าไม่มีโต้งแต่งไม่ได้หรอก ฟังแล้วโต้งว่าไงอะ
**************
สุนีย์ : มิว! มิวคบกับโต้งอยู่ในฐานะอะไรตอนนี้
มิว: เพื่อนครับ
สุนีย์ : เมื่อคืนน้าเห็นโต้งกับมิวที่บ้าน น้าเข้าใจทุกอย่างแล้ว มิวฟังน้าให้ดีๆนะ
มิวรู้ใช่ไหมว่าครอบครัวน้าเจอกับอะไรมาบ้าง รู้ใช่ไหมว่าน้าสูญเสียอะไรไป
โต้งคือสิ่งเดียวที่น้าเหลืออยู่นะ และน้าก็ไม่อยากเห็นเค้าเดินไปทางที่มันไม่ถูกต้อง
มิว: ยังไงครับ
สุนีย์ : ในอนาคต เมื่อโต้งเรียนจบ เค้าจะต้องหางานทำ มีเงินเก็บ แล้วก็หาผู้หญิงดีๆ
แต่งงานมีครอบครัวที่อบอุ่นอยู่ดูแลกันไปจนแก่จนเฒ่า นี่มันคือ 'ชีวิต'นะมิว น้าเลี้ยงดูเค้ามาเพื่อให้เค้าเติบโตไปในทิศทางนั้น...
เห็นแก่โต้งนะมิว... หยุดความสัมพันธ์แบบนี้ ไม่ว่ามิวจะรักโต้งในฐานะอะไรก็ตาม มิวก็คงอยากเห็นเค้ามีความสุข มีชีวิตที่ดี ใช่ไหม?
มิว: (เสียงแผ่วลง) น้านีครับ... เราเป็นแค่เพื่อนกัน
สุนีย์ : วันนึงมิวจะเข้าใจนะ
*************
เอ็กซ์: "มรึงโกธรกูมากขนาดนั้นเลยเหรอว่ะ กรูไม่ได้โกธรนะเว้ยที่ทำมาป่วนวง
กรูไม่รู้ว่า... ทำไมมรึงถึงเปลี่ยนไปขนาดนี้ มรึงต้องการอะไร ถ้าเกิดกูทำให้มรึงโกธรขนาดนั้น
กู... ขอโทษนะเว้ย"
มิว: "กูไม่ได้โกธรมรึงหรอก แต่กูแค่ร้องเพลงพวกนี้ไม่ได้แล้ว"
เอ็กซ์: "ทำไมว่ะ"
มิว: "กูไม่มีอารมณ์จะร้องแล้วหว่ะ มรึงไม่เข้าใจหรอก
เอ็กซ์: "ถึงกูจะไม่เข้าใจมรึง แต่มรึงก็ยังเป็นเพื่อนกูนะเว้ย ทำไมมรึงชอบคิดว่าไม่มีใครสนใจมรึงว่ะ"
*************************************
มิว: ไงโต้ง
โต้ง: เพลงเพราะดีนะ
มิว: ฟังแล้วโต้งว่าไง
โต้ง: ก็...... เราคงคบกับมิวเป็นแฟนไม่ได้อะ แต่ก็ไม่ได้แปลว่าเรา..ไม่ได้รักมิวนะ
มิว: ขอบคุณนะ... งั้นเดี๋ยวเราไปก่อนนะ เพื่อนรอ
โต้ง: เดี๋ยวก่อนมิว... อะให้
มิว: อะไรอะ
โต้ง: ของขวัญวันคริสมาสต์ไง
มิว: ขอบคุณนะ งั้นเดี๋ยวเราไปก่อนนะ โชคดีนะ
โต้ง: โชคดี
**************
ฉันก็คิดอยู่เหมือนกันนะ ว่าพวกคุณจะอยู่ต่อไปยังไง
แต่ก็"เชื่อ"เหลือเกิน
ว่าพวกคุณคงประคับประคองกันไปได้โดยไม่มีชั้น
เพราะว่าพวกคุณรักกันมากกก แม้บางครั้ง มันเหมือนจะมากเกินไป จนทำร้ายกัน แต่เชื่อเถอะว่า
เมื่อเวลามันผ่านไป แล้วเราจะเข้าใจว่า ความรัก...มันไม่มีมากเกินไปหรอก
เพราะแม้ว่า... มันอาจจะทำให้เราทำผิดพลาดอะไรไปบ้าง แต่มันก็ยังดีกว่า เราไม่เคยทำอะไรเพื่อความรักเลย...
มิใช่เหรอ แล้วชีวิตก็มีโอกาสเสมอให้เราเริ่มต้นใหม่ หลังจากที่เรียนรู้ความผิดพลาดนั้น หวังว่าพวกคุณคงให้
โอกาสที่เหลือดูแลกันให้ดีที่สุดนะ ขอบคุณสำหรับทุกสิ่งทุกอย่าง และถ้ามีโอกาสเราคงได้เจอกันอีก....
/////////////
direct cut
มิว เราอะ จะไปอยู่ที่อื่นแล้วนะ ดูแลตัวเองดีๆ อย่าให้ใครมาแกล้งมิวได้อีกนะ
************
มิว: "โต้งว่ามิว แปลกกว่าคนอื่นไหม"
โต้ง: (โต้งมองไปที่หน้ามิว ดูเสื้อผ้า ทรงผม) "ไม่เห็นมีไรแปลกนี่"
มิว: "ไม่ใช่อย่างนั้น เรื่องที่ถามคือ..." (ทำหน้าส่งซิกแนล)
โต้ง: (ทำหน้างง) "เรื่องอะไร.."
มิว: "เรื่องแบบว่า... ที่เราเป็นแปลกไหม"
โต้ง: (โต้งยิ้มสบายใจ) "ก็ไม่เห็นมีไรแปลก"
มิว: (มิวยิ้มที่โต้งเข้าใจ สบายใจขึ้น)
*********
ดีแล้วหล่ะที่เราเข้ามา ไม่งั้นมิวก็จะถูกรังแก และก็จะเกิดขึ้นอีกเรื่อยๆ
**********
delete scene
*****
โต้ง: ถ้าเราให้เขาแล้วเขาวิ่งหนีหล่ะ
หญิง: มิวไม่ทำอย่างนั้นหรอก
โต้ง: "ทำไมถึงทำเพื่อเราขนาดนี้"
หญิง: "เปล่าหรอก เราทำเพื่อมิวน่ะ"
อันนี้ของมะเดี่ยวสัมภาษณ์
***********
“เราแค่เชื่อว่าการสืบพันธุ์เป็นหน้าที่ของมนุษย์หญิงชาย แต่ความรักเป็นของทุกคนในโลกไม่ว่าจะเป็นใครก็ตาม
ความรักไม่ใช่แค่แรงดึงดูดทางเพศเพื่อเป็นแรงขับให้มนุษย์แพร่พันธุ์
แต่มันเป็นสายใยที่ผูกเราเอาไว้ไม่ให้เราหลงทาง ไม่ให้เราโดดเดี่ยว ไม่ให้เราเติบโตและเหี่ยวตายไปเฉย ๆ อย่างไร้ค่า
และที่สำคัญ ความรักทำให้เราเข้าใจในความแตกต่างของเพื่อนมนุษย์
และนั่นเป็นพื้นฐานของสันติภาพที่เราต่างโหยหากันมะช่ายฤ”
credit to
http://www.pantip.com/cafe/chalermthai/topic/A6261369/A6261369.html