ตอนใหม่มาแล้วคับป๋มมมม ตอนนี้ผู้เขียนได้แรงบันดาลใจจากซีรีส์ที่ชอบ นั่นคือเรื่อง Glee จ้าาาา เพราะงั้น ตอนนี้มีร้องเพลงด้วยนะก๊าบบบ ส่วนเรื่องของ 2 คนที่อยู่ในห้องน้ำนั้น.... ยังไม่เฉลยยยย อิอิอิอิ
”อ – อือออออห์” เสียงครวญครางของการพลอดรักในห้องส้วมเมื่อสามวันก่อนมันยังก้องอยู่ในหัวผมจนถึงตอนนี้
”อาร์สสสสสส”
”อ – อืมมมมมมห์” เสียงครางแม่งเริ่มถี่ขึ้นเว้ยเฮ้ย
”ออออออออร์ส”
”แอนนี่...” หือ?
”แอนนี่...” ทำไมครางเป็นเสียงกูวะ
”แอนนี่” เฮ้ย อย่ามาเรียกกู
”แอนนี่!!” เย้ย!!!
”ไอ้แอนนี่!!!”
“เฮ้ย!! อื้อออ อ้าห์!!!” ผมสะดุ้งโหยงหลุดจากภวังค์เมื่อไอ้ต้นเบิ๊ดกะโหลกผมไปทีนึง
“อื้ออ้าเหี้ยไรมึง นี่มึงฟังที่ไอ้มิวมันชวนมึงเมื่อกี้มั้ยเนี่ยะ!!”
“หะ – หา? เอ่ออออ โทดทีว่ะ พอดีช่วงนี้...” ผมพูดขอโทษแล้วมองไปที่ไอ้มิว “กูมีเรื่องให้คิด”
“อ่อ... เออเหรอ มึงก็อย่าเหม่อให้มันมากนักแล้วกัน” ไอ้มิวตอบ
“ว่าแต่เมื่อกี้มึงพูดว่าไงกันบ้างนะ”
“โอเค งั้นเดี๋ยวพวกกูจะรีเพลย์อีกรอบ” ไอ้ต้นยกมือขึ้นแล้วตะโกน “อ้าว คัท!! เริ่มฉากเมื่อกี้ที่ไอ้มิวพูดใหม่ครับ!! ประจำที่!!”
พูดอะไรของมันวะ ยังกะถ่ายหนังถ่ายละคร กูล่ะงง
“เทปสอง แอ็คห้า เทคสี่” ไอ้มิวพูดงึมงำอะไรของมันก็ไม่รู้
“แอ็คชั่น!!” เล่นเอาผมสะดุ้งเลยครับ ท่าแอ็คชั่นของไอ้ต้น
“Heyyy ดู๊ดดดด” ไอ้มิวทำเสียงหล่อหันไปพูดกับไอ้ต้นและหันมามองผม
“Heyyyy วอทซั่บบบบ ดู๊ดดดดด” ไอ้ต้นนี่อาการหนักกว่าครับ ทำหน้าฟินเป็นอาเบะซะด้วย
“พอดีว่า กูน่ะ...” แล้วไอ้มิวก็โยนโบรชัวร์แผ่นนึงมาที่โต๊ะ ตรงที่ผมนั่ง “...เห็นโบรชัวร์ไอ้นี่น่ะ น่าสนใจดีม้า (วิ้งงงงง)”
“อะเห้ออออ เยี่ยมมากเลยดู๊ดดดด ท่าทางงานนี้ -”
“เอ้า คัต!!! ปิดกองครับ ขอบคุณทุกคนที่มาร่วมงานครับ!!” ผมปรบมือไปในห้องเรียนที่ว่างเปล่า แล้วหันมามองไอ้สองตัวกากเพื่อนผม “คือจริงๆ มึงบอกตั้งแต่แรกก็ได้นะว่ามันมีงานประกวดร้องเพลงของมหา’ลัยแล้วจะชวนกูไปประกวดด้วย ถูกมะ”
“ถูก” สองตัวพูดพร้อมกัน
“เออ บอกแค่นี้ก็จบ มึงจะเล่นละครเพื่อออ”
“ไม่รู้...” ไอ้มิวทำหน้าเจื่อนๆแล้วชี้ที่ไอ้ต้น “ไอเดียไอ้นี่”
“เอ๊า มาโทษกูอีกเน่อะ”
Chapter 13: Sing!
“รายละเอียดการสมัคร” ไอ้ต้นเริ่มอธิบายกติกาที่ในโบรชัวร์บอกไว้ “สามารถสมัครได้ทุกชั้นปี ทุกเพศ ทุกสถานะ”
“บอกไมวะ” ไอ้มิวทำหน้าเอือม
“นั่นดิ่”
“เออ เอาหน่ะๆ เค้าพิมพ์มาอย่างงี้นี่หว่า” ไอ้ต้นตัดบทพวกผมแล้วอ่านต่อ “การแข่งขัน ผู้สมัครจะต้องจับคู่กับผู้สมัครอีกคนหนึ่งโดยจะสุ่มจากผู้สมัครทั้งหมด เพื่อทำการร้องเพลงแข่งกันสองรอบโดยกรรมการจะให้คะแนน ใครได้คะแนนมากกว่า จะได้เข้ารอบชิงชนะเลิศไป ซึ่งในรอบชิงชนะเลิศ ผู้เข้าแข่งขัน จะได้ร้องเพลงหนึ่งเพลง และจะตัดสินจากการให้คะแนนอีกเช่นกัน”
“เดี๋ยวนะ หมายความว่ายังไงวะ” ผมเริ่มงงๆ
“สรุปสั้นๆก็คือ มีแข่งสองรอบ รอบแรก ร้องเพลงคู่สองเพลง แต่ว่าก็คือแข่งกันน่ะแหละ ส่วนรอบสุดท้าย ร้องเดี่ยว” ไอ้มิวสรุปความให้ฟัง
“นั่นแหละ” ไอ้ต้นอ่านต่อ “สำหรับเพลงในรอบต่างๆ ในการร้องเพลงคู่ทั้งสองเพลง จะถูกสุ่มจับฉลากจากเพลงต่อไปนี้..... แล้วมันก็มีลิสต์อยู่ยี่สิบกว่าเพลงว่ะ...”
“ยี่สิบกว่าเพลงเลยเหรอ!!??” ผมคว้าโบรชัวร์มาดูแล้วก็ถึงกับตกใจ “โหหหหหห เยอะมากอ่ะ!! แถมบางเพลงเป็นแมชอัพด้วย!!”
“แมชอัพ??”
“เอ่อออ มันคือการเอาเพลงตั้งแต่สองเพลงขึ้นไป มามิกซ์ทำนองกับจังหวะเข้าด้วยกันจนเกิดเป็นเพลงใหม่อ่ะ” ผมอธิบาย
“ถ้าอย่างงั้น คนที่ได้เพลงแมชอัพไป ซวยตายเลยดิ่!” ไอ้มิวทำหน้าตาตื่น
“ก็คงงั้นนะ แต่ถ้ามองอีกแง่ ก็เหมือนวัดสกิลว่ามึงจะร้องเพลงนั้นได้ดีแค่ไหน บางทีถ้ากรรมการประทับใจอาจจะให้คะแนนเยอะก็ได้” ไอ้ต้นพูด
“ก็จริงของไอ้ต้นนะ”
“อ่ะ เอามาๆ เดี๋ยวกูอ่านต่อ” ผมยื่นโบรชัวร์เพื่อให้เพื่อนผมอ่านต่อไป “สำหรับเพลงในรอบสุดท้าย จะให้ผู้เข้าแข่งขันเลือกเองได้ โดยส่งเพลงที่ต้องการจะร้องไปที่อีเมล์ ซิงกิ้งคอนเทสแอดจีแม้วดอทคอม สามารถรับใบสมัครและส่งได้ที่บู๊ทใต้ศาลาใหญ่ตั้งแต่วันนี้จนถึง 17 กันยายน”
“17 กันยาเหรอ งั้นก็มะรืนแล้วสิ”
“ก็ใช่ดิ่ แอนนี่ ถ้าจะสมัครกันก็ต้องรีบสมัครแล้วล่ะ” ไอ้มิวทำหน้าจริงจัง “กูสมัครนะ น่าสนใจดี”
“กูคงไม่ว่ะ ร้องเพลงไม่ใช่ทางกู” ไอ้ต้นรีบปัดมือปฏิเสธ
“แล้วมึงง่ะ” ไอ้มิวถามผม ในขณะที่ผมนั่งนิ่งๆ คิดอยู่ในใจว่าจะเอายังไงกับเรื่องแข่งร้องเพลงดี...
”อืออออออ อาห์สสสสสส” เชี่ยยยย!!! กูจะเหม่อเรื่องนี้ทำไมนักหนาวะ!!
**********************************************************************************
“เฮ้ออออออออ” เสียงไอ้พริกตี๋ถึกดังอยู่ไม่ไกลจากหูผมมากนัก “กูก็เข้าใจนะว่า มึงอยากเปลี่ยนอารมณ์จากสอนเฉยๆ เป็นให้กูเรียนรู้จากหนังบ้างเนี่ยะ.... แต่ว่า... ‘เมาลิน รูจี’!! ทำไมต้องเรื่องนี้! ทำไมต้อง ‘เมาลิน รูจี’!!!”
“First of all, it’s called ‘Moulin Rouge’ (มูแลง รูจ). And second, I think it would be better for you to practice English with the movie that contains music.”
“เออๆๆๆๆ พล่ามๆไปเหอะ ยังกะกูจะลุกไปหยิบหนังเรื่องอื่นได้นี่...” มันพูดหน้าเอือมๆแล้วมองผม “ในเมื่อมึงนอนตักกูอยู่เนี่ยะ”
...................................
...........................
.................
...........
.......
...
อุ้ยยยยยย....
ผมทำอะไรลงไปเนี่ยยยยยยย ลงไปนอนตักมันเพื่อออออออ!!!!!?????
“I – It’s just that I’m a little bit tired!!! And I have a lot to think so I –“
“โอเคๆๆๆๆ พอและๆ” มันหัวเราะกวนตีนแล้วกดหัวผมลงไปที่เดิม “กูไม่ได้ว่าอะไรซะหน่อย มึงนอนไปก็ได้”
“Like I want to!” เออ ยังกะอยากนอนตักตายงั้นแหละ
“Really??” ผมพยักหน้าตอบ ในขณะที่มันทำหน้ากวนตีนยั่วผม “แหม่ แต่ใครวะ นอนตักกูตั้งแต่หนังเริ่มไปแค่สิบนาที”
!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!! #$@^&%&^$#*&(*)&!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!
“Hey Annie!”
“What?”
“Annie…” มันเรียกชื่อผมพร้อมเขยิบหัวมาใกล้ขึ้น
“What??”
“Annieeee….” อีเหี้ย! เสียงอยู่ข้างหูเลยนี่หว่า!!
“For fuck sake!! Whattttt!!!!???” ผมรีบผลักหัวมันออกทันทีแล้วเปลี่ยนมานั่ง
“ฮิฮิ” มันยิ้มเจ้าเล่ห์แล้วชี้มาที่ผม “มึงหน้าแดงใหญ่เลยอ่ะ”
!!!!!!!!!!!!!! FFFFFFFFFUUUUUU-!!!!!!!!!!!!!#$@^&%&^$#!!!!!!!!!!!!!!!!^&$&*%(*&*!!!!!!!!!!!!!!!!!
!!!&^%^%(&*^*(!!!!!!!!!!#$@^&%&^$#*&(*)&!!!!!!!!!!!!!!!!!! >/////////////< !!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!
อี.... อี..... โอ๊ยยยยยยยย!!! ไอ้ตี๋!!! มึงกวนตีนมาก!!!! บังอาจมาแกล้งกูอย่างนี้งั้นเลยเหรอ ยังจะหัวเราะอีกนะมึงนี่!!!ไอ้!! ไอ้!!!
“Shut up!!! Just watch the movie!!!”
“555555 เออๆ โอเคๆ...”
หลังจากที่พวกเรานั่งดูหนังจนผ่านไปประมาณครึ่งเรื่อง ซึ่งบอกตามตรงว่าผมแทบไม่ได้สนใจหนังเลยครับ เพราะภาพในหัวที่ Route 77 มันก็ยังอยู่ แถมเรื่องการประกวดร้องเพลงอีก ซึ่งผมก็ยังลังเลอยู่เลยว่าจะสมัครดีมั้ยอีก
“เป็นอะไรเหรอ ท่าทางมึงดูเครียดๆ” ไอ้พริกมันจับสังเกตได้
“Nope…. Nothing.”
“โกหก”
“It’s nothing” ผมตอบปัดๆอย่างรำคาญ
“โกหก ดูก็รู้แล้ว มึงเครียดเรื่องสองคนนั้นอยู่ใช่มั้ยล่ะ” รู้ทันอีก!
“Huhhhhh. Well…. Since that day, I can’t….” ผมลังเลที่จะเล่า แต่ก็เล่าในที่สุด “I can’t get that picture… out of my head.”
“เฮ้อออ กูเข้าใจน่า I can’t, too.” มันพูดน้ำเสียงจริงจัง “But it’s his business.”
“But it’s wrong! I mean I have no offense with two guys love each other but -”
“ใช่ กูเข้าใจ It’s wrong แต่เราทำอะไรได้ล่ะ”
“This shouldn’t be a secret”
“Annie… เค้าเป็นเพื่อนพวกเรานะ Think about it จะเกิดอะไรขึ้นถ้าทุกคนรู้ คิดว่าคนอื่นจะรับได้เหรอ”
“…..”
“ฟังนะ” ไอ้ตี๋พูดด้วยเสียงจริงจัง พร้อมแตะบ่าผม “เรื่องพวกนี้น่ะ เจ้าตัวควรจะบอกด้วยตัวเอง คนไหนทำผิด เจ้าตัวก็ควรยอมรับผิดเอง เราไม่มีสิทธิไปบอกใครเค้าหรอกนะว่าใครคบกับใคร”
“…..”
“ที่มึงพูดมากูก็เห็นด้วยนะ แต่ในเมื่อเค้ายืนยันจะคบกัน เราก็ทำอะไรไม่ได้”
“Huhhhh… You’re right. It’s their decision anyway.”
“ใช่ม้า เพราะงั้น อย่าไปเครียดเรื่องนี้เลยน่ะ ดูหนังต่อเหอะมึง กูกำลังลุ้นเลย”
“หน่ายบอกว่าม่ายชอบแนวนี่ไหง (ไหนบอกว่าไม่ชอบแนวนี้ไง)”
“เฮ้ยยย ก – ก็ดูแล้ว มันก็หนุกดี”
“Ha ha ha แถ่ร์โคดๆ (แถโคตรๆ) Oh and…. Actually, I have something to ask”
“หือ?”
“I’ve been thinking of joining the singing contest”
“เอ่ออออ... singing contest? You?”
“Aha”
“.... มึงเอาจริงเหรอ”
“Yeah! Why?”
“ไม่รู้ดิ่ แต่แข่งร้องเพลงนี่ มันไม่ใช่แค่ร้องเพลงธรรมดานะเว่ย มึงต้องส่งอารมณ์ให้คนฟังด้วย”
“ซ๊งอาหรม?”
“อ่า.... อื้ม นั่นแหละ เอาเป็นว่า ถ้ามึงสกิลไม่พอ มึงก็เน่าจั้งแต่รอบแรกแน่นอนนะฮว้าฟ”
“Oh please! Don’t try to be like an expert singing coach to me!” อะโด่ ทำมาอวด สกงสกิลอะไร้ มึงร้องเพลงได้รึเปล่าเหอะ “You can sing?”
“กูก็เคยร้องให้มึงฟังไม่ใช่รึไง” แน่ะ ยังมาทำภูมิใจ
“You mean that ‘Sorry, sorry’? ดายคาวว้า รองเนื้อยังดำนามอยู่เลย์ (ได้ข่าวว่า ร้องเนื้อยังดำน้ำอยู่เลย) or That ‘ระดูที่ชั้นเห่า’”
“ฤ – ฤดูที่ฉันเหงา”
“Yeah, yeah. That’s song you’re like heavy-metal screaming more that singing”
“อู้ววววว คอมเม้นซะเจ็บเลยนะไอ้ฝรั่งงงงง”
“I just keep it real” ผมพูดแล้วยกไหล่อย่างไม่แยแส
“คีปอิดเรียวเหรอมึง ได้ๆ” มันชี้หน้าท้าผม แล้วเดินไปหยิบมือถือมันมาเสียบเข้ากับลำโพง “ไหนๆ ดูความสามารถคนจะแข่งร้องเพลงหน่อยดิ๊”
“Don’t try me” ผมแสยะยิ้มมองไปยังไอ้ตี๋
“ดวลกันซักเพลง ร้องแข่งกันนี่แหละ” มันพูดด้วยท่าทางมั่นใจ
“Arr! Hell no!! You’re going to cheat”
“ชีท? โกง?” มันชี้ตัวมันอย่างงงๆ “How?!”
“You’re definitely going to sing Thai song! And I can’t completely speak Thai!”
“อะโด่! อย่ามั่วสรุปเด่ะ! ใครบอกว่ากูจะร้องเพลงไทย”
“Huh?”
“เห็นกูห่วยๆอังกฤษ แต่เวลากูจำเพลงไหนได้ กูร้องได้แบบฝรั่งเลยนะเว้ย”
“Oh come on! Bring it on!!”
“เออๆๆ พูดห่าไรไม่รู้ เอาเป็นว่า กูเลือกเพลง ‘One Thing’ ของ ‘One Directions’ มึงร้องได้ป่ะล่ะ”
“I don’t like that band but I like the song so… Okay!!”
“โอเค ตามนั้นนะ มีอะไรจัดมา! เอาให้กูหงายให้ได้!” แน่น้อนนนนน เดี๋ยวป๋าจัดให้! ไอ้ผมก็เคยอยู่แก๊งบีบอยเก่าสมัยไฮสคูล เดี๋ยวผมจะทั้งเต้นทั้งร้องให้มันดูเล้ย!
“You don’t have to tell me that”
“โอเคคคคค เริ่มละนะ” พูดจบ ไอ้ตี๋ก็กดเปิดเพลงให้เริ่มเล่นทันที
”I tried playing it cool” ไอ้ตี๋เริ่มร้องก่อนครับ ...อื้มม เสียงไม่เลวนี่ ทำหน้าตาท่าทางเท่ห์ ดูยั่วยวนมากครับ ยั่วยวนกวนตีน ”But when I'm looking at you, I can't ever be brave ‘cause you make my heart race”
”Shot me out of the sky” ตาผมบ้างล่ะ ผมเริ่มร้องและออกสเต็ปเต้นไปด้วย ซึ่งท่าทางมันอึ้งเหมือนกันที่ผมเต้นได้ ”You're my kryptonite. You keep making me weak. Yeah, frozen and can't breathe”
”Something’s gotta give now ‘cause I'm dying just to make you see” หือ! ไอ้ตี๋มันก็เต้นเป็นเหรอ ไม่ได้การ ขอโชว์สเต็ปเต้นบ้าง
”That I need you here with me now” แต่ก่อนที่ผมจะได้โชว์สเต็ปอะไรไปมากกว่านี้ มันก็คว้ามือผมไว้ข้างนึง แล้วเข้ามารวบตัวผมไว้ จนเราทั้งคู่อยู่ในท่าแบบเต้นรำ หือ!! แล้วมึงยิ้มทำไมวะไอ้พริก
”Cause you've got that one thing” พวกผมสองคนร้องประสานเสียงกัน ขณะที่เต้นคู่กันไปด้วย
”So get out, get out, get out of my head
And fall into my arms instead
I don't, I don't, don't know what it is
But I need that one thing
And you've got that one thing”
!!! แล้วอยู่ๆ ท่าก็จบลงด้วยการที่ผมไปอยู่ในอ้อมแขนมัน หึ้ย!! อะไรวะเนี่ยะ!! ผมรีบดันตัวมันออกก่อนที่ผมจะร้องต่อ... โดยที่มีเสียงมันคอยแบ็คอัพไปด้วย
”Now I'm climbing the walls
But you don't notice at all
That I'm going out of my mind
All day and all night”
หึ้ยย!!! มองกูอยู่ได้ ขนาดกูพยายามเต้นหนีแล้วนะ
“Something’s gotta give now
Cause I'm dying just to know your name
And I need you here with me now
Cause you've got that one thing” มันมารวบตัวผมไว้อีกแล้วครับ > <!!
”So get out, get out, get out of my head
And fall into my arms instead
I don't, I don't, don't know what it is
But I need that one thing
And you've got that one thing”
เพลงจบลง... โดยที่ผมกับมันนิ่งจ้องหน้ากันอยู่...
ให้ตายสิ ความรู้สึกนี้มันอะไรกัน
“Not Bad…” มันพูดด้วยเสียงเบาๆสั่นๆจนเหมือนกระซิบ ขณะที่แขนอันแข็งแกร่งของมันโอบตัวผมไว้ มือของมันกุมมือข้างหนึ่งของผมไว้ ในขณะที่มืออีกข้างของผมที่ว่างอยู่ก็วางพาดไปที่อกแน่นๆของมัน ใบหน้าของเราใกล้กันจนผมสัมผัสได้ทุกลมหายใจเข้าออกของพริก ดวงตากลมใสดูน่ารักของมัน จ้องผมจนทำให้ผมแทบละลาย ผมยิ้มดีใจกับคำชมของมัน ก่อนที่หน้าของเราจะค่อยๆใกล้กันเรื่อยๆ.... เดี๋ยวนะ! นี่กูทำอะไรอยู่เนี่ยะ!!
“Y – You, too!! You, too!!” ผมพูดขึ้นเมื่อผละออกจากไอ้ตี๋ ซึ่งตามจริง ไอ้ตี๋เองก็เหมือนจะจกใจและผละออกจากผมในเวลาเดียวกัน
“อ – เอ้อๆ ขอบใจๆ... กูว่า... จริงๆ มึงลงแข่งได้เลยล่ะ”
“R- Really? Thanks…. W- What about you?”
“กูเหรอ... เอ่ออออ ก – กูไม่ได้ลงแข่งนี่”
“I think you should” ผมพูดตามจริง
“เอาจริงดิ่”
“Yeah… I mean you can sing. You can dance and….”
“And อะไร....?” เออ นั่นสิ ผมจะ and อะไรนะ... ล – แล้วทำไมผมต้องยิ้มวะเนี่ยะ เห้ยๆๆ แอนนี่ๆ หุบยิ้มๆๆๆ
“A – And You’re good”
“อ – อ่ออออ หะๆๆๆ ขอบใจๆ” มันยิ้มแห้งๆแล้วพูดต่อ “แล้วนี่ เลือกเพลงไว้รึยังล่ะ”
“Ummm…. I think of a couple of songs…. But, I think I find what’s best for me”
“เหรอ เพลงไรวะ”
“It’s called ‘Anything Could Happen’ by Ellie Goulding”
“อ่า.... ไม่รู้จัก...”
“Whatever, It’s my favourite song.”
“อ – อ๋ออออ”
“Well, that’s it for today. I’m going back to my room.” เหอๆๆ กลับดีกว่า ไม่ไหวแล้วครับ รู้สึกร้อนๆหนาวๆยังไงไม่รู้
“เอ่อ H – Hey เดี๋ยวก่อนดิ่ What about the movie? ยังดูไม่จบเลยนะ”
“เมิงดูว์ถ่อเลย์ก็ด้าย กูห้ายยืม (มึงดูต่อเลยก็ได้ กูให้ยืม) Bye”
“อ – เอ่อออ บายๆ เอ้อ! แอนนี่!”
“What?” ผมหันไปถามมัน และก็พบกับหน้าแดงแจ๋ของมัน พร้อมท่าทางลังเลอะไรซักอย่าง
“อ – เอ่อออออ ไม่มีอะไรๆ”
“What’s wrong with you?” ผมส่ายหัวแล้วจะเปิดประตู
“ฝ – ฝันดีนะเว่ย...”
เห....
เอ่อออออออออออออ ม – มึงมาไม่ไหนว่ะเนี่ยะไอ้ตี๋!!!... >/////<
“Y – Yeah!! You, too….. Good night!!” ผมพูดอย่างรวดเร็วแล้วพุ่งออกมาจากห้องมันพร้อมหน้าของผมที่ตอนนี้ร้อนฉ่า จนสามารถต้มมาม่าได้แล้วครับบบบบ
To be continued
ตอนหน้า ใครกันคือสองคนที่แอนนี่กับพริกเจอ!! และพิเศษ คนบรรยายไม่ใช่แอนนี่และพริก จะเป็นใคร ติดตาม!!