บทที่35
ตื่น
...
ผมตื่นมาตอนเช้า อันที่จริงก็ไม่เช้ามากเพราะนาฬิกาบอกเวลาสายแล้ว กระพริบตาปริบๆมองขึ้นไปก็เจอฝ้าเพดานที่คุ้นเคย พลิกตัวตะแคงข้างกลับเจอสิ่งที่ไม่คุ้นเคย ขวดเหล้าที่หมดเกลี้ยง กับแก้วที่วางขวางกั้นทำให้ภาพที่ผมมองบิดเบี้ยว แต่ผมแน่ใจว่าไม่ผิดคน ผู้ชายผิวขาวนอนตัวยาว หลับตาพริ้มอยู่บนโซฟาตัวตรงข้าม โซฟาตัวเดียวกับที่ผมนั่งกอดกับเขาคนนั้นเมื่อคืนนี้ ตัวเดียวกับที่ผมไม่คิดว่าเขาจะเริ่มก่อน มองขยับไปก็มีขวดครีมโกนหนวดวางนิ่งข้างๆเครื่องโกนหนวดไฟฟ้าที่พอผมเห็นก็อดยิ้มขึ้นมาไม่ได้ ผมฝันไปหรือเปล่า ตอนนี้ก็ยังถามตัวเองอยู่เบาๆ
ขนาดยังไม่รักนะ...
ผมลุกขึ้น ปวดคอ มึนหัวนิดๆ ที่สำคัญหิวด้วย เดินโซเซหัวฟูไปเปิดตู้เอาโจ๊กซองมาเทใส่หม้อ ใส่น้ำตั้งไฟคนๆ ปกติโจ๊กซองแบบนี้ผมจะเททำทีละครึ่งซอง แล้วก็มัดยางเอาไว้ต้มรอบต่อไป แต่คราวนี้ต่างออกไป ผมตัดซองเทโจ๊กใส่หม้อจนหมดเพราะวันนี้มีคนมานั่งกินด้วย เชื่อเถอะว่าตื่นมายังไงก็หิว ผมคนโจ๊กไปหิวไป ถึงเป็นแบบสำเร็จรูปแต่ก็หอมอร่อยรสชาติใช้ได้ ผมไม่ค่อยมากเรื่องอยู่แล้วเรื่องกิน ยิ่งเวลาหิวๆแบบนี้ ควันร้อนๆลอยฉุยขึ้นมาจากหม้อ ผมเทโจ๊กใส่ชามสองใบ โรยพริกไทย… อร่อยเลย
“หิว” ไม่ต้องรอเดินไปปลุก แขกพิเศษวันนี้ก็เดินเข้าประชิดหลังผมชะโงกดูอาหารเช้าทั้งๆที่หน้ายังไม่ล้าง ฟันไม่แปรงและหัวกระจุยเป็นรังนก ธามของจริงมันต้องแบบนี้
“อย่ามาใกล้ได้ป่ะ” ผมพูดเสียงแข็งๆ
“อะไรนะ” ไอ้ตัวแสบทวนเสียงเขียว มีโกรธด้วย โดนไล่ๆนิดๆหน่อยๆ
“อย่ามาใกล้มาก เดี๋ยวห้ามใจไม่อยู่” ผมพูดหันไปยักคิ้วให้ ตามคาดที่สีหน้าเบื่อโลกปรากฏบนใบหน้าของธาม แต่มันก็ยังน่ารักอยู่ดี พอไม่มีเคราแล้ว ก็ยิ่งน่ารักเข้าไปอีก สำหรับผมธามคำอธิบายของผู้ชายหน้าใส
“หื่นว่ะ ดูเก็บกดนะ เดี๋ยวมากิน แปรงฟันแปป” แล้วธามก็เดินออกไปจากห้อง ปล่อยให้ผมยิ้มเล็กๆอยู่คนเดียว
ธามเป่าโจ๊กก่อนเอาเข้าปาก ผมใช้วิธีที่แตกต่างคือคนโจ๊กไปเรื่อยๆ แล้วค่อยๆตักกิน สักระยะผมก็เริ่มรู้สึกได้ว่าธามมองผม มองแบบจ้อง จ้องแล้วทำหน้าตาสงสัย เพี้ยนแบบกู่ไม่กลับแล้วมั้ง ตั้งแต่จูบผมเนี่ย
“มองอะไร” ผมถามยิ้มๆ ธามไม่แต่แค่ยักไหล่แล้วก้มหน้ากินต่อไป กวนแต่เช้า ผมกินไปเรื่อยๆ แต่ก็รู้สึกอีกแล้ว พอเงยหน้าขึ้นมาก็เจอกับสายตาของคนที่นั่งตรงข้าม มองแบบนี้ยิ่งอยากลากขึ้นเตียงตอนเช้านะ มองแบบมีความรู้สึกอะไรบางอย่างที่ผมอธิบายไม่ได้แต่สายตาแบบนั้นมันทำให้ผมอยากกระชากตัวธามข้ามโต๊ะมาจัดการซะให้รู้แล้วรู้รอดไปเลย
“มองอีกแล้ว อยากจูบอีกเหรอติดใจอ่ะดิ”
“เมื่อคืนเมาเฉยๆหรอก มองนิดมองหน่อยไม่ได้หรือไง ทีพี่กันต์ยังมองธามเลย” มียอกย้อนนะ
“เมาเหรอ เมาจริงดิ ไม่ใช่ว่ารักพี่แล้วเหรอ” ผมว่าเลิกกินแล้วมานั่งคุยกันดีกว่า อิ่มอกอิ่มใจ
“หูยยยย พูดมาได้ไม่อายปาก” ธามพูดแบบนี้ได้ไง เมื่อคืนนี้เริ่มก่อนด้วยนะ มีหอมซ้ำอีก ยอมให้ซบ ไซร้ โคตรคืนกำไรสู่สังคม แบบนี้ไม่รักก็เรียกว่ายั่วจัดแล้ว ดีแค่ไหนที่คนแสนดีแบบผมแค่กอดๆ ซุกๆ นี่ถ้าเอาไปเล่าให้ใครฟังผมคงกลายเป็นพ่อพระแสนดีไปเลย
...แต่ของแบบนี้มันต้องอดทนเว้ย!
“ใครเริ่มก่อนเหรอ”
“ใครมันกล้ามอมเหล้าธามแอบโกนเครา” นั่นไง เข้าตัวแล้วผม ความผิดโดนขุดคุ้ย!
“ย้อนเหรอ”
“อยากโดนเหรอ” มีขู่นะเดี๋ยวนี้ โคตรน่ารักเลยเหอะ
“มาเลย พร้อมรุก” ผมพูดพร้อมกับยิ้มหวานๆให้
“มันต้องพร้อมรับดิ” รับซะที่ไหน ผมไม่รับนะ
“รับนั่นมันหน้าที่ธาม” จะโหดร้ายกับผมเกินไปนะที่ผมทุ่มทำมาให้ผมรับเหรอ
“ไม่อ่ะ”
“ทำเพื่อพี่เหอะ”
“รักธามจริงก็รับเด้ ทำไมธามต้องยอมด้วย” พูดแบบนี้ไปเป็นเลยไงล่ะกู
“มันเป็นเหตุผลทางเศรษฐศาสตร์” แถๆไป
“บ้าป่ะเห้ย” โดนด่ามาอีกหนึ่งดอก แต่ผมสนไหม... ไม่อยู่แล้ว แสนจะมีความสุขเวลาที่นั่งคุยกันแบบนี้ ขอให้เป็นแบบนี้ทุกเช้าเลยได้ไหม ธามมองหน้าผมเคืองๆ เคืองแบบไม่จริงจัง ธามกินข้าวที่เหลือ ผมก็กินต่อ แต่ถามว่าอิ่มไหม ก็อิ่มก่อนโจ๊กจะหมดตั้งนานแล้ว อิ่มใจนะไม่ใช่อิ่มท้อง กินเสร็จธามก็บอกว่าจะล้างจานให้เป็นค่าเหล้าเมื่อคืน มันแทนกันได้ซะที่ไหนล่ะนั่น เหล้าขวดละพันกับล้างชาม 2ชาม แก้ว 2ใบ แต่เอาเถอะ ผมจะคิดซะว่าจูบเมื่อคืนเป็นค่าเหล้าด้วยเลย หักลบกลบหนี้ก็กำไรผมชัดๆ
“ธามคิดอะไรอยู่เมื่อคืน ไม่โกรธพี่เหรอ” ผมยังนั่งที่เก้าอี้ที่โต๊ะกินข้าวตัวเดิม มองธามที่หันหลังล้างจานอย่างคล่องแคล้ว... น่าจับมาอยู่ด้วยสุดๆ
“อยากให้โกรธเหรอ” ธามหันหน้ามาถามผมยิ้มๆ
“ใครจะอยาก ไม่โกรธแล้วคิดอะไรอยู่” ผมอยากรู้จริงๆนะ
“ธามจะตอบในฐานะที่พี่กันต์เป็นผู้ชาย ธามก็ผู้ชาย” ผมหัวเราะกับประโยคเกริ่นของธาม
“มาๆ พี่มันระดับชายเหนือชายอยู่แล้ว” เล่นมุขเข้าเนื้อตัวเอง แต่ก็แลกกับเสียงหัวเราะเบาๆกับยิ้มหวานๆของธามคุ้มนะครับ ธามวางชามเก็บ เดินลากเก้าอี้มานั่งใกล้ๆผม
“ตอนนั้นอ่ะ ธามแกล้งเมาจะได้รอดูว่าพี่กันต์จะมอมเหล้าธามไปเพื่ออะไร จะมีคนสักกี่คนที่ทำแบบพี่กันต์ มอมเหล้าโกนเครา โกนเสร็จก็นั่งยิ้มบ้าอยู่ ไม่ทำอะไร ดีไปป่ะเนี่ย” อย่าว่าแต่ธามเลย ผมเองก็มาคิดแล้วฮาตัวเอง ในหัวตอนนั้นมีแต่เรื่องโกนเคราอย่างเดียว โคตรบ้า
“อยากให้ทำอย่างอื่นก็ไม่บอก”
“ไม่ใช่เว้ย แต่ตอนนั้น ธามไม่ค่อยได้คิดอะไรนะ จริงๆ อย่าโกรธ...” ธามพูดแล้วก็มองตาผม ผมรู้สึกแปลกๆนะ จะว่าผมหวังก็ไม่เชิง เฉยๆก็ไม่ใช่ เอาเป็นว่ามันเป็นความรู้สึกที่น้อยใจนิดๆแล้วกัน สุดท้ายมันก็เป็นพระฤทธิ์เหล้าเหรอเนี่ย ...ก็เท่าเดิมซินะ
“อื้อออ” ผมพูดเบาๆ
“เห้ย อย่าทำเสียงหมดแรงแบบนั้นดิ ไม่ค่อยได้คิดอะไรแปลว่าคิดอยู่เรื่องนึง จะฟังป่ะละ” รู้ด้วยนะว่าผมแอบน้อยใจ หรือผมแสดงออกมามากก็ไม่รู้ ว่าแต่คิดอะไรผมก็อยากรู้นะ
“ฟังดิ ไหนๆก็ขนาดนี้แล้ว”
“ถ้าฟังแล้วทำให้ธามได้ไหม”
“ก็ต้องฟังก่อนดิ เกิดบอกว่า อย่ารักธามเลย แบบนี้พี่ก็ทำให้ไม่ได้นะ” ผมพูดยิ้มๆ คิดไปเองอีกแล้วว่าแก้มขาวๆของธามแอบมีสีระเรื่อขึ้นมาๆนิดๆ
“งั้นก็ฟังแล้วทำให้ได้ อย่าฟังแบบเวอร์ชั่นไหน แบบธรรมดาหรือพิเศษ” แน่ะ ยังจะมาเล่นมีหลายเวอร์ชั่น แล้วคิดว่าคนแบบผมจะเลือกแบบไหนล่ะครับ
“เอาแบบพิเศษมากๆ”
“กะแล้ว...”
...
ธาม talking
………………………………………………………………………………..
รู้ไหมว่าผมเป็นคนขี้อายนิดๆ ถึงจะดูว่าเป็นคนหน้าด้านหน้าหนาก็เหอะ กะไว้แล้วว่าคนแบบพี่กันต์ยังไงก็ต้องเรียกร้องแบบพิเศษ แต่ถึงจะขอธรรมดาผมก็ให้พิเศษ เพราะผมอายที่จะพูดแต่ผมก็อยากพูดนะ ในตอนแรกผมจะดูเป็นคนปากแข็ง แต่เอาเข้าจริงๆแล้วผมเป็นคนที่ในเรื่องแบบนี้ ถ้าพูดได้ผมก็พูดนะ แต่ที่สำคัญคือการที่จะพูดออกมา ผมต้องมั่นใจแล้วเท่านั้น
ผมยังจำไอ้ความรู้สึกบ้าๆที่ทำให้ผมทำอะไรบ้าๆลงไปได้แม่น ตอนนี้ก็ยังรู้สึก และยังคิดอยู่ ผมกวักมือให้พี่กันต์ขยับหน้าเข้ามาใกล้ แล้วกระซิบเบาๆว่า
“ธามอยากให้พี่กันต์รักธามคนเดียว” ผมพูดเบาๆ พี่กันต์ก้มหน้ายิ้มกว้างก่อนจะกลับไปนั่งท่าเดิม ผมก็ขยับตัวไปพิงพนักเก้าอี้ เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ไม่ได้พูดอะไรออกไป แล้วที่กระซิบก็ไม่ใช่โรแมนติกอะไรนักหนา แต่เป็นเพราะไม่อยากก้มหน้าพูด แต่ก็ไม่อยากมองหน้าพี่กันต์ตอนพูดเหมือนกัน มันรู้สึกเขินแปลกๆ
“นี่จะฆ่ากันหรือไง”
“ทำไม่ได้เหรออออออ” ผมถามกวนๆ
“จะทำพี่หัวใจวายตายนะแบบนี้ ทำไมจะทำไม่ได้ ว่าแต่ธามเหอะ ทำให้ได้แบบพี่บ้างดิ”
“อีกแปปนึง” ผมพูดเบาๆ แต่ก็ดังพอที่พี่กันต์จะได้ยินแล้วยิ้มตอบกลับมา
................................................................................................
ผมกลับคอนโดมาแล้ว ขับรถกลับมาเองไม่ได้ให้พี่กันต์มาส่งแต่อย่างใด ระหว่างที่แวะร้านสะดวกซื้อข้างล่างคอนโดตามปกติก็เจอกับพี่แป้งที่กำลังยืนเลือกขนมอย่างเคร่งเครียด นี่เลือกขนมหรือเลือกสามีกันนะเจ๊ ผมเดินย่องๆไปด้านหลังแจ๊แป้ง ก่อนจะ
“เห้ย!”
“อุ้ยตายแม่แหกกกก” เจ๊แป้งร้องหวีดขึ้นมา ตามคาด ทำเอาชาวบ้านร้านตลาดในร้านหันมามองเป็นตาเดียวแบบขำๆ ผมก็ขำ ส่วนเจ๊แป้งก็หันมามองผมตาเขียวปั๊ดอย่างคาดโทษ
“แหกเลยเหรอเจ๊” ผมแซวเจ๊แป้งที่เอาถุงขนมมาปิดบังหน้าตา แต่ไม่ทันแล้วแหละ
“อิธาม กวนตีนแต่วันนะจ้ะวันนี้ แล้วหายหัวออกไปไหนมา เมื่อคืนไปเคาะห้องแล้วสาบสูญหายไปกับสายลม” พูดจาอลังการเหนือความจริงตลอดเลยนะเจ๊แป้ง
“ไปกินเหล้ามา ฮิๆ” ผมยิ้มยิงฟัน ไม่บอกหมดหรอก เดี๋ยวเจ๊แป้งจะรู้ทัน
“กับใคร” กะแล้วว่าต้องถามแบบนี้
“รุ่นพี่ที่โรงเรียนเก่า” ไม่ได้โกหกสักนิด
“อ้อออออออ น้องกันต์สุดหล่อซินะ มิน่า กลับมาเอาตอนนี้ หน้าตาสดใส มีเลือดฝาด อิ่มไหมล่ะจ้ะ” นั่นไงรู้ทัน ว่าแต่อิ่มไหมเนี่ยมันไม่ใช่คำถามเอาไว้ถามคนที่ไปกินเหล้ามานะ
“ตลกละเจ้ อิ่มบ้าอิ่มบออะไร”
...ถึงจะตอบเจ๊แป้งแบบนั้น แต่เอาเข้าจริงก็อิ่มนิดๆแหละ ฮึๆ
-...12-12-2011
โอยยยย บอกได้คำเดียวว่าไม่ไหวแล้ววววววววววววววววววววววววววววววว
ขอไปนอนก่อน วันนี้พึ่งกลับจากมหาลัยตอน5ทุ่ม วันก่อนกลับมาตอนตีห้า งานยังไม่ทำเลย นี่ขนาดต้นเทอม บัดซบ!!

ขอโทษคนอ่านทุกคนด้วย และขอบคุณจากใจที่ติดตามอ่านนิยายเรื่องนี้

ปล. คนอ่านไม่ต้องเป็นห่วง เรื่องนี้มันต้องดำเนินต่อ!!! คนเขียนถึกมากจ้ะ 55555555555555555555