Chapter 11 : ตั้งแต่ครั้งที่เราจากกันแสนไกล.. ..ม.ช. ไม่ได้เปลี่ยนไปจากเดิมนัก
ผมแทบจะกระดิกตัวไปไหนไม่ได้เพราะภาระงานและการสอบไฟนอลของภาคเรียนที่ 2 ชั้นปีที่ 3 นี้
..แต่หากว่างเมื่อไหร่..
เหอะๆ.. ไม่คิดเลยว่าวันนึง ผมจะต้องมายืนมองฟ้าและมองหาใครคนหนึ่งที่นี่..
อ่างแก้ว..ยังมีน้ำนิ่งสนิท นานๆทีเจ้าปลาจะกระโดดเล่นให้น้ำสะท้านสะเทือนบ้าง
ผมในเสื้อช๊อปนั่งกอดเข่า หน้าตานิ่งสงบริมอ่าง..
ใบหน้ายิ้มแย้มแจ่มใสร่าเริงที่เคยนั่งเล่นอยู่ตรงนี้ผุดขึ้นมาในห้วงคำนึงของผมอีกครั้ง..
แม้เราไม่เคยมีความทรงจำดีๆแบบคนรักร่วมกันใน ม.ช. แต่เราก็เป็นเพื่อนกลุ่มเดียวกัน..
ไอ้หนุ่มพูดมาก..ปากหมา..และยิ้มเก่งที่สุด
ผมยังเห็นมันหันมายิ้มกับกลุ่มเพื่อน..ซึ่งผมก็เป็นหนึ่งในนั้นอยู่เลย..
ผมไม่สนใจอะไรทั้งนั้น..ขอแค่ได้เห็นรอยยิ้มแบบนั้นอีกสักครั้งหนึ่ง..ครั้งเดียวก็พอ..
ตั้งแต่ครั้งที่เราจากกันแสนไกล..เหตุและผลมากมายไม่เคยสำคัญ
เท่ากับความรู้สึกที่ใจของฉันนั้นเก็บให้เธอ..“แม่ครับ หนุ่มปิ๊กมาแล้วก่ะครับ”
ผมมาบ้านมันที่แม่ริมบ่อยจนจะเป็นพันธมิตรกับต้นไม้ดอกไม้ในบ้านแล้ว
แม่ยิ้มให้ผมอย่างเอ็นดู แต่ก็ส่ายหน้า
“ถ้าปิ๊กมา แม่จะบอกลูกเจ้า แต่น้องหนุ่มยังบ่ปิ๊กมาเตื๊อ..”
ผมพยักหน้า..
กี่ครั้งกี่ครั้งไอ้หนุ่มก็..ยังบ่ปิ๊กมาเตื้อ
ยังบ่ปิ๊กมาเตื้อ..
แล้วเมื่อไหร่กัน เมื่อไหร่มันจะมา....
.
.
“เฮ้ ไอ้โจ ช่วงนี้ขึ้นมาชมรมทุกวันเลยวะ”
เสียงเพื่อนทักทาย ผมพยักหน้าเนือยๆ
ใช่ครับ ผมขึ้นมาห้องชมรมทุกวัน
..เพียงเพื่อหวัง หวังว่าจะได้ยินอะไรหรือได้ข่าวคราวบ้าง..
“วรรณศิลป์ๆ มีไปรษณีย์มาส่ง”
เสียงหย่อนบางอย่างไว้ที่กล่องหน้าห้องชมรม
ผมเดินเนือยๆไปหน้าประตู
ไปรษณีย์มาส่งก็ไม่มีอะไรมากหรอกครับ ส่วนใหญ่จะเป็นเอกสารต่างๆ
และก็จริงดังนั้น ผมหยิบเอกสารสองสามฉบับออกมา..แต่มีบางอย่างหล่นออกจากมือ
..กระดาษแผ่นหนึ่ง
ผมก้มลงหยิบขึ้นมา
อ่อ..มันคือไปรษณียบัตรนี่เอง
ไม่แปลกหรอกครับ พวกเราเวลาไปเที่ยวไหนก็นิยมส่งไปรษณีย์กลับมาที่ห้องชมรมอยู่แล้ว
ไอ้หนุ่มก็มักจะทำอย่างนั้น
ผมพลิกไปรษณียบัตรอ่านดู มันมีแค่ที่อยู่ชมรม กับประโยคสั้นๆเขียนด้วยลายมือ ไม่ได้ระบุว่าส่งมาจากใคร
แต่ใจผมเต้นผิดจังหวะ..
กาโมทีซ่านา..
ผมจ้องมองตาไม่กะพริบ..
ลายมือไอ้หนุ่มแน่นอน ชัดเจน !
มันคงอยากจะบอกชมรมว่า มันคิดถึงนะ..
ใช่..ผมรู้จักคำนี้
มันเป็นภาษาปกากะญอ..
ทันใดนั้นผมก็ต้องตบหน้าผากตัวเอง..
ไอ้โจ ทำไมมึงโง่อย่างนี้ จะดักดานอีกนานไหม!!
ผมแนบไปรษณียบัตรนั้นไว้แนบอก
ผมรู้ว่ามาจากหนุ่ม.. และก็รู้ดีว่ามันไม่ได้คาดหวังจะให้มาถึงผม เพราะปกติผมแทบไม่ได้ขึ้นมาชมรม
เพียงแต่เป็นนิสัยของมันที่จะเขียน..
บนแผ่นไปรษณียบัตรไม่มีที่อยู่ ไม่มีรูปภาพบอกสถานที่
แต่ผมว่า..ผมรู้แล้วว่ามันอยู่ที่ไหน
แต่ละครั้งที่เราผ่านมาพบกัน อาจบังเอิญได้ยินข่าวคราวของเธอ..
..นั่นคือความรู้สึกที่ดีที่ฉันคอยอยู่เสมอสอบเสร็จเรียบร้อยแล้ว..ผมเสร็จภารกิจทางหน้าที่
ผมขอไปทำตามหัวใจบ้างก็แล้วกัน..
ผมมาถึงแม่ฮ่องสอน..ที่ที่ผมเคยเดินทางมาก่อนเมื่อสี่ปีที่แล้ว
..ที่ที่ผมรักกับใครบางคน..
ผมอยู่ในอำเภอแม่สะเรียง..ริมถนนใหญ่..กำลังรอรถสักคันที่จะขึ้นดอย..ผมจะขอโดยสารไปด้วย
หลังจากคอยอยู่ร่วมชั่วโมง ก็มีรถขึ้นไปจนได้..ผมปีนขึ้นไปนั่งท้ายรถกระบะว่างๆที่ดูท่าทางจะเสร็จจากการส่งผักที่ตลอดในตัวเมือง
รถกระตุกวิ่งโคลงเคลงไปตลอดทางด้วยถนนที่ทอดขึ้นไปข้างบนนั้นแสนขรุขระ
แต่ผมก็นั่งด้วยความอดทน..ท้องฟ้าสีฟ้าสมชื่อผงาดอยู่เบื้องบน ..ผมเงยขึ้นมอง
ประหวัดถึงคนที่เคยนั่งมองฟ้าท้ายรถกระบะด้วยกันตามเส้นทางนี้..
มือแกร่งล้วงกระเป๋ากางเกงกำสายข้อมือ J&N ที่แอบเก็บคืนมาจากถังขยะไว้แน่น..
..มึงกำลังคอยกูอยู่หรือเปล่า? ..มึงยังจำเรื่องราวของเราได้ไหม..?
ขอบฟ้าที่เรานั่งมองคราวนั้น..ยังมีความหมาย
ต้นไม้ลำธารยิ่งมองยิ่งคิดถึงเธอมากมาย..“ตะบรื้อโดโด”
ผมกล่าวขอบคุณ
..และกระโดดลงจากรถด้วยหัวใจที่เต้นรัว
ผมจะมาเจอกับความว่างเปล่าหรือเปล่าหนอ..
เสียงร้องเพลงดังมาจากกลุ่มเด็กๆในหมู่บ้าน..ผมอมยิ้ม
จะกี่ปีผ่านไป..วัยเยาว์ก็ยังบริสุทธิ์สดใสอยู่นั่นเอง
บือหมื่อ อะทิ โอะ เลอแล
บือพอ อะทิ โอะ เลอแล
บือหมื่อ อะทิ เลอ ว่าแร
บือพอ อะทิ เลอ ว่าแร
อะทู่ โด้ อะหล้า จวี่แย
กว่าแก มื่อแม เดอ โพ่เคเพลงนี้เป็นเพลงต้นข้าว.. บ่งบอกความหมายถึงเพื่อระลึกถึงข้าว ซึ่งเป็นอาหารหลักที่หล่อเลี้ยงชีวิตพวกเขา..
ผมค่อยๆย่างเท้าเดินเข้าไปใกล้เด็กๆกลุ่มนั้น..
กลุ่มที่มีเด็กโข่งคนนึงยืนเต้นอยู่ตรงกลาง..
เต้นท่าประหลาด..บ้าๆ..บอๆ..ตูดเด้งๆส่ายไปมา.. ชวนให้ตีแรงๆอย่างมันเขี้ยวนัก..
ผมดำขลับยาวระต้นคอ..ผิวขาวเนียนคล้ำแดดขึ้นพอประมาณ..
ใช่แล้ว..
..หนุ่มน้อยของไอ้โจ..
“เฮ้ นั่น..นั่น!”
เด็กน้อยคนหนึ่งหันมาเห็นผู้มาเยือนเข้าแล้ว..
“อ้ายโจ้!!”
เสียงเล็กๆของเด็กน้อยตะโกน
ร่างที่เต้นลิงเต้นค่างอยู่หันสายตามาปะทะกับผม..
ท่าแร้งท่ากาหรืออะไรก็ตามที่มันกำลังทำหยุดชะงัก..ดวงตาสุกใสแม้มองจากระยะไกลกลับเห็นได้ชัดว่ามองนิ่ง..
เราประสานสายตากันอย่างตกตะลึง..
มันคงตกตะลึงที่เจอผมอีกครั้งที่นี่..หลังจากที่คงไม่คิดแล้วว่าจะเจอกันอีก..
..ส่วนผม ก็ตกตะลึง..ที่คิดถึงมันได้มากถึงเพียงนี้..
เด็กเกือบทั้งกลุ่มวิ่งกรูเข้ามาหาผม
ผมดีใจที่ทุกคนยังจำผมได้ทั้งที่ผ่านไปยาวนานถึงสี่ปี..แต่ผมก็ไม่อาจถอนสายตาไปจากร่างที่ยังยืนเป็นรูปปั้นอยู่ตรงนั้นได้..
มันควรจะเป็นฉากซึ้งๆแบบพระเอกตามหานางเอกจนเจอ
แต่เท่าที่เกิดขึ้นคือ สองมือซึ่งชูสองนิ้วเต้นของไอ้หนุ่มชะงักค้าง แหม่..ไม่รู้ทำไมต้องชะงักท่านั้นด้วยวะ
มึงเอาท่าสวยๆหน่อยได้ไหม..?
“โอมึเชอเปอ”
ผมกล่าวแก่เด็กๆที่วิ่งมาหา
“พี่นุ่ม พี่โจ้มา”
เด็กคนหนึ่งกระตุกแขนที่มือชูสองนิ้วของไอ้หนุ่มน้อยลงมา มันจึงตระหนักว่ากำลังทำท่าประหลาดอยู่
แล้วไอ้หนุ่มก็มองผ่านผมไป..ราวกับเราไม่เคยรู้จักกันมาก่อนเลย
.
.
“เฮ้..เฮ้”
ผมเดินตามมันไป
“ปาเก้ปาปริก้าปลาร้าโกงกางโปเต้”
ไอ้หนุ่มหันมาทำหน้าไม่รู้เรื่อง ไม่รู้จัก และรัวภาษาที่มันคาดว่าจะทำให้ผมคิดว่ามันเป็นชาวปกากะญอได้
“หนุ่ม”
ผมเรียกชื่อเบาๆ
“วาโก้ไทรอัมพ์เวียนนาเอลเซ่รอสโซ่เจเพลส”
มันหันมาโบกไม้โบกมือไม่เข้าใจและส่งภาษาพวกนั้นออกมา

<< หน้าผม
“นี่..มึง..”
ผมพยายามจะพูด แต่ดวงตาโตกลมโตคู่นั้นบ่งว่า ..มันไม่รับรู้เรื่องราวอะไรเลย
ผมอพยพไปขออาศัยบ้านเดิมของโมกับปานอน
ซึ่งท่านทั้งสองก็อนุญาตให้ผมนอนห้องเดียวกับไอ้หนุ่มนั่นแหละ

<< หน้าไอ้หนุ่ม

<< หน้าผม
.
.
“เอิ่ม..มึงจะนอนฟากไหนล่ะ”
ผมพยายามชวนคุยหลังจากมันรัวภาษารอสโซ่เจเพลสใส่ผมทั้งวันเหมือนมันเป็นญวนแล้วผมเป็นอินเดียนแดง
สิ่งที่เกิดกับผมคือ ผมพูดภาษาไทยกับไมค์ ไทสัน
..ผมจ้องมองกิริยาของมันเงียบๆ พอจัดที่นอนฝั่งตัวเองแล้วหันไปเรียกอีกครั้ง ก็ปรากฎว่ามันซุกตัวหลับไปแล้ว..
ผมเอื้อมมือไปลูบหน้าผากเนียนเบาๆ..
เช้าวันต่อมา..และต่อมา
ภาษาของมันก็ยิ่งประหลาดขึ้นเรื่อยๆ จำได้ว่ามีประโยคหนึ่งเสือกพูดว่า “ปลาร้าลาบก้อยหอยลาย” ออกมาด้วยแน่ะ
มันคงหิวจัด ผมคิดเอานะ
ร่างเล็กในชุดชาวเขานอนเอกเขนกริมธารน้ำ..เขียนขยุกขยิกสบายอารมณ์ลงสมุดเล่มเล็ก
..มันดูสดชื่น..ร่าเริง..และมีชีวิตชีวา
ยิ่งอยู่ท่ามกลางธรรมชาติ..ภาพของมันยิ่งทำให้ผมนึกถึงไม้ที่กำลังผลิใบ..งดงาม..มีคุณค่า
..แม้จะเป็นไม้งามที่ไม่ยอมอยู่ในชีวิตผมอีกแล้ว
ผมจะเอายังไงต่อไปดีหนอ..?
ชีวิตที่มันขาดเธอวันนี้ยังเดินต่อไป..
..แค่ได้คิดถึงก็เป็นสุขใจ. . . . . . . . . . . . . . . . . . . . .
//เผ่นอย่างรวดเร็ว ตะหงิดกลัวโดนทวงบางอย่าง
ขอได้รับความขอบคุณจาก..เกรียนน้อย