[Fiction]...เหงาอะไรเยี่ยงนี้!!
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: [Fiction]...เหงาอะไรเยี่ยงนี้!!  (อ่าน 29889 ครั้ง)

Red....[em]

  • บุคคลทั่วไป
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ

สรุปข้อสำคัญดังนี้

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท, หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์  และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่นี่หรือที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อขออนุญาตเจ้าของเรื่องก่อนนะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด
โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอม

เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม


กรุณาอ่านเพิ่มเติมที่นี่

http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0




 :z3: :z3:กร๊าซซซซซซซซซซ  ปั่นออกมาด้วยเลือดกับเลือด เลือดตาแทบกระเด็น เกือบอ๊วกออกมาเป็นสายเลือดอีก เป็นความรักล้วนๆให้คุณพี่ดายมันคนเดียว555+

เมื่อคืนนั่งร่ายทั้งคืนครับ เย็นนี้ก็ทวนเติมนิดเติมหน่อยลงไปอีก ถ้าผิดพลาดและออกทะแม่งก็ต้องขอโทษเอาไว้ล่วงหน้าก่อนนะฮะ สดๆกับคอมไม่ได้แต่งลงในกระดาษเหมือนทุกครั้ง

เป็นความรู้สึกที่ไอ้เอ็มเป็นอยู่ในตอนนี้...แง่ง!!

ยาวมากๆ แต่อยากให้ได้อ่านกันให้ได้ รบกวนด้วยนะคร๊าบบบบบบบ



Share This Topic To FaceBook
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 18-09-2010 11:48:53 โดย THIP »

Red....[em]

  • บุคคลทั่วไป
[ Fiction DEG  DIE And TOSHIYA]


รักอยู่หนใด...  ใยปล่อยให้(กู)เหงา ...(เน่าสนิท!!!จบในตอน)


คืนนี้ท้องฟ้าเงียบเหงา พระจันทร์มีเพียงเสี้ยว  ดวงดาวส่องแสงริบหรี่ ไม่มีเสียงลมพัดผ่านใบไม้ ไร้แม้กระทั่งนกกลางคืนสักตัวบินโผไปมา

เขาทอดถอนความรู้สึกเปล่าเปลี่ยว ด้วยการระบายลมหายใจยาว หากสีหน้ายังแฝงไปด้วยความอ่อนโยนและแววตาที่ดูใจดีปนเงียบขรึมตามแบบฉบับของตัวเอง  ใช่เขาใจดีและสามารถใจร้ายเลือดร้อนขึ้นมาได้ในขณะเวลาเดียวกัน ซึ่งมันจะติดตามเขาไปเสียทุกอริยาบถ- ใครๆก็มักจะบอกกับเขาเช่นนี้เสมอ

ชายหนุ่มยิ้มให้กับตัวเอง ในมือถือกระดาษสีขาวสะอาดเอาไว้

*****     หากแม้นสักวันจะได้เจอเธอ
หากแม้นว่าเธอยังคงรอคอย
การเดินทางตามหาของฉัน
คงจะไม่ลำบาก และ เหนื่อยเช่นนี้

วอนฝากสายลมและเกลียวคลื่น
เป็นสะพานเชื่อมจากจุดที่ฉันยืน
ซัดสาดคลื่นความเหงา เย็นยะเยือก  ที่เกาะกุมข้างใน
ไหลลอยออกจากดวงใจโดดเดี่ยว เดี่ยวดาย
สู่ 2 มือที่โอบอุ้ม ช่วยโอบกอด ความอ้างว้างของฉันที
ใจดวงนี้ทั้งเหงา และต้องการคุณ...มาคู่กาย      *****


***  ผู้ที่เก็บขวดนี้ได้กรุณาติดต่อกลับด่วนนะครับ

[ DIE ]  Pacific Capital Plaza Building 6F

4-8-6 Roppoingi Minatoku

Tokyo JAPAN 106-0032  ***


นิ้วยาวเรียวคลี่กระดาษที่ข้างในมีคำพรรณนาถูกถ่ายทอดเขียนลงไป  สายตาไล่ตรวจดูความเรียบร้อยไปทีละคำ ตามตัวหนังสือบรรจงแกมหวัดอีกครั้งเพื่อความถูกต้องและแน่ใจ ก่อนที่จะม้วนเข้าเป็นแฝงยาวยัดใส่ลงในขวดแก้ว ปิดฝาให้สนิท

ข้างในนั้น บรรจุความรู้สึกนึกคิดที่กลั่นออกมาจากก้นบึ้งหัวใจดวงเหงาของเขาเอง...

เข็มนาฬิกาบนข้อมือบอกยามย่างเข้าเวลาของวันใหม่ ใบหน้าอ่อนโยนนั้นระบายรอยยิ้มพร่างพราย นานๆทีถึงจะให้ตัวเองได้ปลดปล่อยแบบนี้ ค่อยๆคุกเข่าลงบนพื้นผิวทราย

ยามรัตติกาลไร้แสงของดวงดาวกระจ่าง ผืนผ้าสีครามอันกว้างใหญ่ไพศาล รวมถึงพระจันทร์เสี้ยวสีนวล ช่วยเป็นพยานรับรู้การกระทำและคำพูดของผม

“ถ้าคำอธิฐานของฉันเป็นจริง ...ไม่ว่าเธอจะเป็นใคร อยู่ที่ไหน? เมื่อใดก็ตามที่เก็บความโดดเดี่ยวอ้างว้าง เข้าใจความรู้สึกตัวตนของฉันได้...ฉันจะรักเธอ”

ชายหนุ่มกุมขวดแก้วจรดริมฝีปากเอาไว้มั่น พึมพำประโยคขึ้นมา ก่อนที่จะยิ้มกว้างให้กับท้องฟ้า สายลมหนาวเย็น และทะเลกว้างใหญ่เบื้องหน้าอีกครั้ง

ปลดโซ่ตรวนที่หนักหน่วง ปล่อยความคิด อ้างว้างทั้งหลายแหล ลงสู่ผืนน้ำทะเลกว้างใหญ่สุดลูกหูลูกตาท่ามกลางช่วงเวลายามน้ำขึ้นของค่ำคืน

ขวดแก้วใบใส ค่อยๆไหลไปตามเกลียวคลื่น ซัดออกห่างจากตัวเขาไปทุกทีๆจนไม่สามารถมองเห็นความแวววาวของขวดใบสวยได้อีก เสมือนว่ามันกำลังทำหน้าที่ ที่ได้รับมอบหมายอยู่ด้วยความตั้งใจ และเพียรพยายามอย่างมากที่จะมองหาใครสักคนพอที่จะมีคุณสมบัติดีพอตามที่เจ้าของปรารถนาและต้องการ


แล้วเสียงระบายลมหายใจอย่างปลอดโปร่งก็พ่นยาวออกมา ก่อนที่จะลุกขึ้นปัดทรายออกจากกางเกงยีนส์
เดินมุ่งหน้ากลับคอนโดที่พักด้วยหัวใจอิ่มเอิบ มีความหวัง...


เขาบ้าไปหรือเปล่านะ? มีเวลาว่างมากมายหรืออย่างไรกันถึงได้มานั่งทำเรื่องแบบนี้?

ชายหนุ่มส่ายศีรษะไล่ความคิดฟุ้งซ่านของตัวเอง ควันบุหรี่สีขาวพ่นออกมาจากริมฝีปากเป็นทางยาว

มันไม่ใช่ความบ้า แค่จิตวิญญาณที่สัมผัสกับความอ้างว้าง โดดเดียวเดี่ยวดายมาตลอดช่วงเวลาอายุ 27 ปีของเขามันช่างเหงาเหลือเกิน ความรู้สึกละเอียดอ่อนอย่างหนึ่งที่สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคน มันเป็นความอ่อนไหวที่ทำให้เขาสัมผัสกับวิญญาณความเงียบเหงาได้ไวกว่าผู้คนรอบข้างก็เท่านั้น

เพราะในส่วนลึก เขาโหยหา ต้องการใครซักคนมาอยู่เคียงข้าง เป็นเพื่อน เป็นคู่คิด เป็นคนรัก ใครสักคนที่เข้าใจเยียวยาและนำเอาความเหงาเหล่านี้ออกไปจากใจของเขา


“กลับมาแล้วครับ...”ชายหนุ่มเอ่ยขึ้น หลังจากที่เปิดประตูเข้าสู่ห้องที่มีบรรยากาศของความเหงา กลิ่นอายความอ้างว้างไร้ชีวิตชีวาคุกรุ่น ปกคลุมรายล้อมให้หนาวเหน็บหัวใจ  บีบคั้นความรู้สึกให้โหยหาต้องการความใกล้ชิดมากขึ้นไปอีก

...  ...  ...
...  ...  ...  ...  ...

เสียงของความเงียบตอบกลับมาทุกครั้ง...
ทุกวัน...
ทุกเวลา...
เขาปรารถนาที่จะได้ยินการตอบรับที่มีตัวตน เสียงหัวเราะ หรือ เห็นการขยับตัวเคลื่อนไหวอยู่ในห้องที่รอคอยนี้


ชีวิตของชายหนุ่มที่เต็มไปด้วยงาน และภาระหน้าที่รับผิดชอบ กลายเป็นคนที่ไร้หัวใจ เย็นชาต่อเรื่องของความรัก จริงๆแล้ว เขาไม่ได้เย็นชาไร้ความรู้สึกหรอกนะ เพียงแต่...ช่วงเวลาที่ใครคนนั้นเดินเข้ามาหา เธอไม่ใช่คนที่ใช่ของเขา และที่สำคัญ เขาเป็นคนที่เปิดเผย จริงใจ และไม่เคยฝืนความรู้สึกตัวเอง

มันจึงไม่ใช่เรื่องยากที่เขาจะหยุดความสัมพันธ์เอาไว้แค่เพื่อนเท่านั้น 
แล้วตามหาคนที่ใช่คนนั้นไปตามทางของจิตใจและความรู้สึกเป็นหลัก แม้ว่าจะไม่เคยเจอเลยก็ตาม...

ทางเดินที่เต็มไปด้วยความเหงา เกิดขึ้นได้แม้อยู่ท่ามกลางผู้คนหรือเพื่อนฝูงมากมาย เกิดขึ้นได้ทุกทีทุกเวลา เพราะมันเกิดออกมาจากหัวใจ  เมื่อไหร่กันถึงจะปรากฏตัวมาเติมเต็มสิ่งที่ขาดหายไปให้เขาเสียที


ต้นฤดูหนาวในกลางเดือนธันวาคม  เหมันต์ที่สร้างความหนาวเหน็บให้ร่างกาย สร้างบรรยากาศหงอยเหงาให้กับจิตใจ จะผ่านมันไปด้วยดี หรือลมหนาวจะทรมานบาดผิวเนื้อให้โหยหาความอบอุ่นจนต้องตายนะ เขานั่งเงียบทั้งตัวลงบนโซฟา พาจิตใต้สำนึกเข้าสู่ภวังค์ความนึกคิดอันไร้ขีดจำกัดต่อไปเรื่อยๆ


เสียงโทรศัทพ์ปลุกชายหนุ่มที่นอนเหยียดยาวอยู่บนโซฟางัวเงียลุกขึ้นมารับอย่างเสียไม่ได้


“ฮัลโหล...ว่าไงครับ?” ผ้าห่มถูกสลัดให้พ้นตัว

...นี่นอนในห้องนั่งเล่นอีกจนได้ เมื่อคืนสงสัยจะคิดมากจนเผลอหลับไป

[กี่โมงแล้วดาย มีซ้อมไม่ใช่หรอ?] เสียงราบเรียบของผู้ทรงอำนาจในวง เรียกความรับผิดชอบของหน้าที่การงาน สั่งการให้สมองตื่นตัวเต็มที่

“คาโอรุ รอซักชั่วโมงนะจะรีบไป  อ้อ! มาครบกันหมดแล้วเหรอ?”

[ก็ยังเหลือนายกับโทชิยะ กำลังให้ชินยะโทรตามหมอนั้นอยู่ นายรีบมาแล้วกันดายคิดว่าเดี๋ยวโทชิยะคงมา]

“อื่ม...แล้วจะรีบไปนะ” ดายปิดโทรศัพท์แล้วลุกขึ้นจากโซฟา สลัดศีรษะไล่อาการง่วงหง่าวหาวนอนให้หมดไป สาวเท้าก้าวยาวๆเข้าห้องน้ำหวังให้น้ำอุ่นๆไล่ความเมื่อยล้าและหนาวเย็นแต่ทว่า...ยังไม่ทันจะได้ลงแช่ในอ่างน้ำที่มีไอร้อนลอยขึ้นจับกระจกข้างผนังจนเป็นฝ้ามัว เสียงเคาะประตูห้องก็ดังลั่นขึ้นมาเสียก่อน


“มาแล้วครับๆ” เขากึ่งวิ่งกึ่งเดินทั้งเนื้อตัวมีแค่ผ้าเช็ดตัวพันท่อนล่างเอาไว้แค่นั้น

“อ้าว!โทชิยะมาได้ยังไงเนี้ย” ตกใจเสียไม่ได้เมื่อเห็นร่างของเพื่อนร่วมวงยืนพิงผนังข้างห้องยันตัวเองเอาไว้ไม่ให้ล้ม เจ้าตัวดูสั่นและผิดปกติอย่างเห็นชัด

“ฮื้อออ...มาได้ก็แล้วกันดาย”น้ำเสียงอ้อแอ้บอกว่าเพื่อนสะลืมสะลือสติเหลือไม่ถึงครึ่งด้วยซ้ำ แพขนตาหนาระนาบลงกับผิวแก้มรอบดวงตาชุ่มชื้นไปด้วยหยาดน้ำมากมาย

“เอ้ย!ทอตจิเป็นอะไรไป ดื่มอะไรกันนักหนา ดูซิแล้วแบบนี้จะซ้อมกันยังไง มีหวังคาโอรุบ่นยาวแน่ท็อตจิๆ”ดายเข้าช่วยพยุงร่างบางเข้ามาในห้องก่อนที่อากาศหนาวเย็นจะทำให้ร่างบางสั่นมากกว่านี้ พยายามเรียกสติไปหลายๆครั้ง

“ดาย...ดาย ฉันอกหัก ฉันอกหักแล้ว!ฮึก!!”สองมือจับแขนแกร่งของดายเอาไว้ ก่อนที่จะโผเข้าหาแผ่นอกกว้างใช้เป็นที่ยึดเหนี่ยวในยามอ่อนแอ น้ำตาก็ไหลพร่างพลูลงมาช่วยยืนยันคำพูดของเจ้าตัว

“ท็อตจิใจเย็นๆ  ใจเย็นนะ...ไม่เป็นอะไรแล้ว...”ชายหนุ่มลูบหัวลูบหลังให้ร่างบางกอดตอบหวังปลอบโยนให้ผ่อนคลายจากความเจ็บปวดที่ได้รับลงบ้าง

“ดายไม่เหลือแล้ว เธอไปจากฉันแล้วดาย เธอไปแล้ว…” น้ำอุ่นๆที่รู้สึกได้ตรงหน้าอกช่างไหลออกมามากมายเหลือเกิน ใครกันนะทำผู้ชายที่น่ารักใจดี ขี้เล่นที่สุดในวงคนนี้ร้องไห้ได้

ความน่ารักที่เขาได้แต่แอบมอง ความสวยงามที่น่าหลงใหล ใยธรรมชาติสร้างความวิจิตรเหล่านี้บนเรือนร่างและดวงหน้าของบุรุษเพศผู้นี้  ถ้าเป็นผู้หญิงจะไม่ลังเลแม้ซักนิดที่จะผูกสัมพันธ์มากกว่าเพื่อน แต่ทว่า ร่างตรงหน้าในตอนนี้เป็นผู้ชาย เป็นเพื่อนสนิท เป็นเพื่อนร่วมงาน ไม่มีทางที่จะเปลี่ยนเป็นอย่างอื่นไปได้

“ท็อตจิตั้งสมาธิหน่อยซิ! มีอะไรบอกฉันได้มั้ย? ตัวนายเย็นมากเลยนะ ไปตากน้ำค้างที่ไหนมา?รอเดี๋ยวนะจะไปเอาผ้าห่มมาให้” ดายพึ่งจะตะหนักได้ว่าเนื้อตัวของร่างบางเย็นเฉียบเขารีบผละออกจะไปเอาผ้าห่มในห้องนอนออกมาคลุมให้

“ไม่นะดาย ไม่เอา...ได้โปรด อย่าพึ่งไปไหน อย่าไปไหนในตอนนี้เลยนะอย่าไป..ให้ฉันอยู่แบบนี้ ฮืออ”นิ้วมือเย็นรีบคว้าแขนแข็งแรง ซุกตัวแล้วกอดไว้แน่น ร่ำไห้ออกมาอีก ดายได้แต่จนใจนึกสงสัยสาเหตุนานับประการที่ทำให้โทชิยะเสียความเป็นตัวเอง ทั้งยังความเป็นห่วงมากมายที่เขามักมีให้คนๆนี้มากกว่าเพื่อนทุกคนในวง


“อื่ม...ไม่ไปก็ไม่ไปแต่นายต้องเล่าให้ฉันฟังนะว่าเกิดอะไรขึ้น” เขาโอบร่างบางไปนั่งที่โซฟาตัวเดิม ลูบหัวลูบหลังคอยปลอบใจอยู่ข้างๆสรรหาคำพูดที่พอจะทำให้โทชิยะรู้สึกดีขึ้นมาและหยุดร้องไห้ลงไป ผ้าห่มผืนเก่าของตัวเองที่เคยใช้ จับมันขึ้นมาคลุมหลังให้ความอบอุ่นแก่ร่างบาง โอบกอดอยู่นิ่งๆเป็นเพื่อนรอจนกว่าเจ้าตัวจะสงบลง

จนเจ้าตัวพอที่จะเรียบเรียงคำพูดเล่าถึงสาเหตุของเรื่องทั้งหมดให้ได้ฟัง ก็แค่ผู้หญิงคนหนึ่งที่ผ่านเข้ามาทำให้ร่างบางหลงรักได้ไม่ถึงเดือน แล้วก็สลัดทิ้งไปเพียงเหตุผลแค่ว่า...โทชิยะอ่อนไหวเกินไป ไม่สมเป็นลูกผู้ชาย เอาแน่นอนไม่ค่อยได้เท่านั้น


“ฉันผิดมากเลยหรือดาย ฉันผิดที่ร้องไห้อ่อนแอแบบนี้หรือดาย” นัยน์ตาแดงกล้ำ หากคำพูดที่บอกออกไปจะกระทบกระเทือนจิตใจอีก ร่างบางคงได้ปล่อยโฮออกมาอีกเป็นแน่

“ไม่เลยท็อตจิ ไม่ใช่เลยนะ นายอ่อนไหว แต่ไม่ได้แปลว่าอ่อนแอซักหน่อย ในเมื่อเธอคบนายแค่เพียงผิวเผิน ไม่ได้มองลงไปถึงตัวตนของนาย ฉันว่านายอย่าคิดมากอีกเลยน้า~~ ไม่มีค่าอะไรเลยที่จะคร่ำครวญให้เสียน้ำตาแบบนี้” ดายนึกสงสารร่างบางจับจิต ความใจดี อยากทำให้หายเศร้า ทอดน้ำเสียงอ่อนโยน เอ่ยปลอบเช็ดน้ำตาให้อย่างนุ่มนวล

“แต่ฉันเจ็บดาย ฉันเจ็บใจ เสียใจฮึก!!! รู้ไหมมันเจ็บ...ฮืออ?”โทชิยะร้องไห้คร่ำครวญออกมา สองมือทุบตีที่อกกว้างเบาๆ

“มันจะหายไปในเวลาไม่ช้าท็อตจิ...ให้เวลากับมันแล้วกลบมันซะอย่าให้มันมาทำร้ายนายได้อีก”

“ฉันทำไม่ได้ ฉันอยากเจอเธอ ฉันอยากเจอ...ดาย ...ฮืออออ...ทำไมๆ ทำไมฉันต้องเจ็บซ้ำแล้วซ้ำเล่าแบบนี้ตลอด”

“เข้มแข็งหน่อยซิโทชิยะ! ก็เพราะนายเป็นแบบนี้ไงเจ้าหล่อนถึงได้หนีไป ถึงนายจะหน้าตาดีนิสัยดีแค่ไหน  แต่เมื่อผู้ชายเป็นหลักยึดให้กับเจ้าหล่อนไม่ได้ เธอก็คงไม่ไม่คบกับนายต่อไปหรอก!!ลุกขึ้นมาดูตัวเองได้แล้ว ร้องไห้คร่ำครวญแบบนี้สมกับที่ถูกเธอว่ามามั้ยโทชิยะ!!!”ดายสลัดร่างบางจนหลุดลุกขึ้นเดินหนี ตัดสินใจใช้คำพูดเด็ดขาดหวังให้ร่างบางได้สติ ถึงจะดูใจร้ายแต่เขาทนเห็นแบบนี้ต่อไปไม่ได้อีก ไม่ว่าเมื่อไหร่  จะเรื่องอะไรก็มาเอะอะโวยวายร้องไห้กับเขาทุกที


“ก็ฉันมันเป็นแบบนี้ นายจะให้ฉันเป็นแบบไหนดาย จะให้ฉันทำยังไง ฉันไม่เข้มแข็งยืนหยัดได้แบบนาย เย็นชาได้แบบดายหรอก!คนใจร้าย!!เคยสนใจผู้คนรอบข้างบ้างไหม ใครจะเป็นยังไงเคยรับรู้บ้างมั้ย!!!?ฉันไม่น่ามาหานายเลย นายอ่อนโยนใจดีกับฉันมาตลอด ที่แท้มันไม่ใช่ซักนิด นายมันไม่เคยมองคนใกล้ตัวหรอก ที่ฉันเป็นแบบนี้วิ่งมาหานายๆก็ยังไม่เข้าใจเลย อัยบ้า!นายจะให้ฉันวิ่งไปให้คาโอรุมันด่าเอาหรือไง ว่าให้แต่คนอื่นงี่เง่า!! ทีตัวเองทำตัวไร้สาระพวกนี้ทำไมไม่รู้จักมองตัวเองบ้าง!!!”


เมื่อถูกว่าก็เลยโกรธจนพาลตรงเข้าขวางหน้าต่อว่าทั้งน้ำตาและคำพูด มือล่วงเอากระดาษสีขาวที่ยับยู่ยี่อยู่ในกระเป๋ากางเกงขึ้นมาปาออกใส่ใบหน้าขรึมเต็มๆ

“ท็อตจิ มันจะพาลมากไปแล้วนะ ใจเย็นๆหน่อยซิ!!!”ดายไม่ได้ฉุกใจคิด เก็บกระดาษแผ่นนั้นกำเอาไว้แน่นแค่นั้น ตอนนี้เขากำลังรับมือกับคนที่ไม่มีเหตุผลคนหนึ่ง ไม่มีเวลามาสนใจอะไรมากไปกว่าร่างบางเบื้องหน้า

“ไปทำให้หัวเย็น ตัวเย็นลงหน่อยไหม? เอาล่ะฉันว่านายไปอาบน้ำทำใจให้สบาย แล้วเราค่อยมาพูดกันดีกว่า โอเคฉันขอโทษ ฉันอาจจะปลอบนายได้ไม่ดีนัก เอาเป็นว่ารอให้ใจเย็นแล้วเราค่อยมาพูดกันดีกว่านะท็อตจิ”ดายเดินเข้าหาร่างบางอีกครั้ง ฉุดแขนให้เดินตามเข้าห้องน้ำ


“ดาย...ชะ...ชั้นอยากรู้นั้นที่ดายถืออยู่มันใช่ของดายไหม?...ฉันขอโทษ มันสับสน ปนกันไปหมดแล้ว...ดายดูมันทีใช่มั้ยดาย ใช่ของดายหรือเปล่า?”โทชิยะลำล่ำละลักรีบบอกเมื่อเดินตามแรงฉุดของดาย

“อะไรท็อตจิ?” ดายหันกลับมาถาม จ้องมองลงไปในดวงตาคู่สวยแดงกล่ำ

“ที่ดายถืออยู่ใช่ของดายไหม ฉันเก็บได้เมื่อเช้านี้เองขวดยังอยู่ในรถ” เจ้าตัวปาดน้ำตาลวกๆหยุดร้องไห้ ชี้ไปที่กระดาษที่ดายกำอยู่ในมือ

 
ดายสะดุ้งเฮือก มือสั่น ในตอนนี้ไม่กล้าคลี่มันออกมาดู
อะไรกัน ต้องรวบรวมความกล้าหาญมากมายเชียวหรือ ถึงจะเปิดได้...
ลายมือตวัดเอียงทำมุมสี่สิบห้าองศานั้น ไม่ต้องอ่านแค่เห็นเขาก็รู้และจำได้ ก็ในเมื่อมันพึ่งจะถูกเขียนผ่านไปเพียงแค่ชั่วข้ามคืน

“ทะ...โทชิยะ เก็บมันได้ที่ไหน” เป็นเขาเสียเองที่พูดตะกุกตะกักทำอะไรไม่ถูกไปชั่วขณะ

“แถวๆที่นั่งดื่ม กำลังจะลงเล่นน้ำตอนเช้า ฆ่าตัวตายเพราะอกหัก ก็พอดีเจออัยบ้าสลดหดหู่ เซ็งชีวิต ไหลมาปะทะหน้าแข้งพอดี ก็เลยเตะเจ้าคนขี้เหงาลอยตุ๊บป่องอยู่ในทะเลไปสองสามที  หัวเราะให้กับความปัญญาอ่อนนั้นอีกตั้งนาน อยากมีอะไรไม่พูดออกมาบ้างนี่ เห็นเพื่อนฝูงเป็นตัวอะไรกันไปหมด...” คำพูดที่ว่าให้ทั้งเล่นและจริงจังอยู่ในที


ดายมักปิดบังความรู้สึกที่แท้จริงของตัวเองอยู่เสมอ ภายใต้ใบหน้าก็ยิ้มแย้ม แต่ในจิตใจไม่มีใครสามารถล่วงรู้ได้ว่าเจ้าตัวกำลังคิดอะไรและมีปัญหาอะไร

ปิดหูปิดตาจากผู้คนรอบข้าง เคยมองบ้างไหมว่าเขาก็คนหนึ่งที่ห่วงใยและอยากเข้าใกล้แค่ไหน

ที่เมามายคร่ำครวญก็ผสมๆกันทั้งเรื่องดายและเรื่องตัวเอง ผู้หญิงคนเดียวเขามั่นใจว่าไม่ได้ทำให้เขาโวยวายเสียใจได้เท่านี้แน่

ดายไม่เคยเปิดใจรับเขา  อย่างมากก็แค่น้องชายหรือไม่ก็เพื่อนเท่านั้น เส้นบางๆที่กั่นความรู้สึกของร่างสูงคืออะไรกัน ความรู้สึกแบ่งแยกในเรื่องเพศ? ความเป็นผู้ชายอย่างนั้นหรือ? ปิดกั้นตัวเองจากผู้ชายหรือหญิงสาวมากมายที่เข้ามาหา แล้วจะมาบ่นว่าเหงาอะไรกัน? ไม่เข้าใจ  เขามันไม่ดีพอตรงไหน? แน่ใจว่าดายสนิทกับเขาและคุยกับเขามากที่สุดแต่แล้วนี่ดูสิ ทำเรื่องแบบนี้ อาศัยโชคชะตา เชื่องมงาย กับพรมลิขิต แทนที่จะปรึกษาเขาซักคำก็ไม่มี


โทชิยะทั้งโกรธ เสียใจ และสับสนปนกันไปหมด ไม่สามารถแยกแยะได้ถูกในเวลานี้
ที่ร้องไห้เป็นเต่าเผาไปเมื่อซักครู่ก็เพราะเห็นหน้าเจ้าของกระดาษแผ่นเจ้าปัญหาหรือเพราะเหล้าเข้าปากแล้วน้อยใจกันแน่ โกรธตัวเองที่ไม่สามารถเข้าใจผู้ชายที่เรียกได้ว่าสนิทด้วยที่สุดคนนี้ได้ใช่ไหม
เสียใจกับความทุ่มเทที่ไม่เต็มร้อย ให้กับความรักของตัวเองใช่หรือเปล่า
สับสนกับความรู้สึกที่ว่าจะ ดีใจดีหรือไม่ที่เก็บเจ้ากระดาษนั้นได้ หรือว่ากำลังหวาดกลัวความสัมพันธ์ต่อไปจากนี้อย่างนั้นหรือ


ดายเงียบไปนานมากจนเขาอึดอัด  ยืนนิ่งเหมือนหุ่นไล่กาไปต่อหน้าต่อตา ดูท่าทางร่างสูงจะจริงจังต่อสิ่งที่กระทำลงไปมาก ปฏิกิริยาไม่ตอบสนองนี่คงบอกเขาได้ว่าดายคงกำลังช็อค ไม่เชื่อว่าคนที่เก็บได้จะเป็นเขาเอง แถมยังเป็นผู้ชายอีกต่างหาก ไม่แปลกที่ดายจะไม่ตกใจ ขนาดตัวเองยังตกใจเลยไม่น่าเชื่อว่าดายจะทำเรื่องพวกนี้เป็นด้วย


เขาไม่ได้ต้องการอะไรมากมาย แค่อยากรู้ว่าดายเหงามากเลยหรือ ...
อ้างว้างโดดเดี่ยว คิดว่าตัวเองอยู่แค่เพียงลำพัง ไม่มีใครพอที่จะพูดคุยเป็นเพื่อนคลายเหงาให้เชียวหรือ...
คิดว่าคนรอบข้างรวมทั้งเขาคนนี้ไม่เคยมอง ไม่เคยสนใจเข้าใจแบบนั้นหรือ...
เคยคิดรักใครบ้างหรือเปล่าดาย? เคยเปิดใจรับความรักจากใครบ้างหรือเปล่า...?


โทชิยะหันหลังกลับ เดินไปนั่งที่โซฟาฉวยเอาผ้าห่มผืนที่ดายใช้ขึ้นมาคลุมตัวเองด้วยความหนาวบ้าง เมื่อสติเริ่มกลับมาครบ เขาหยิบโทรศัพท์ของดายบนโต๊ะ กดหาหัวหน้าวง บอกเหตุผลที่ขอหยุดพร้อมดาย

ดายไม่สบาย ปากแข็งไม่ยอมบอกนาย ก็เลยโทรตามฉันมาดู คาโอรุก็ไม่ได้ว่าอะไรสั่งให้ดูแลกันให้ดีๆก็แค่นั้น


“ถึงกับต้องเตะฉันเล่นกลางทะเล...มันดูตลกมากเลยหรือท็อตจิ?” ดายตามมานั่งลงข้างๆ เอามือขยี้เส้นผมนิ่มมือของโทชิยะเล่น แต่ว่าใบหน้าไม่แสดงความรู้สึกอะไรออกมา

“ตลกมากเลยดาย!เจ้าขวดนั้นทำฉันเจ็บหน้าแข้งอยู่นานสองนาน อกหักจากแฟนไม่เท่าไหร่  แต่นี่ดันมาเจ็บหน้าแข้งเพราะขวดของนายเข้า ฉันก็เลยมีสภาพอย่างที่นายเห็นนี่ไงละ...”ร่างบางหยุดพูดหันหน้าหนีไม่ยอมสบตากับร่างสูง

..............

.................

........................

“มันเหงามากเลยหรือดาย…?”
...  ....

“ฉันไม่ดีพอที่จะอยู่เป็นเพื่อนคลายเหงา ทำให้นายสบายใจได้บ้างเลยหรือ?...”น้ำตาของเขาคลอขึ้นมาอีก

... ... ...

“รู้ไหมที่บอกว่าเจ็บใจ…ที่ร้องไห้ก็เพราะว่า...”น้ำใสๆไหลออกมาแทนคำพูดที่จะพูดออกไป ดายจับร่างบางให้หันหน้ามาคุยกัน เผลอมองใบหน้างดงามด้วยความตกใจ เอื้อมมือบรรจงใช้เรียวนิ้วเช็ดไล้น้ำตาออกให้เบาๆ กลัวว่าถ้าเขาสัมผัสถูกผิวแก้มบางใสแรงๆอาจจะทำให้ผิวละเอียดนั้นระคายเคืองได้


“เพราะอะไร....ท็อตจิ” ดีใจใช่ไหมคนที่เจอกระดาษนั้นคือโทชิยะ ไม่ใช่ใครอื่นที่ไม่เคยรู้จัก เขาควรจะดีใจที่เป็นโทชิยะถึงจะถูก

“เพราะนาย...ไม่เคยมองฉันเลยดาย...สายตานายมันไม่เคยมีเงาของฉัน ฉันมันก็ได้แค่เพื่อนร่วมวง เป็นได้แค่คนที่คอยสร้างปัญหามาให้ดายช่วยแก้ ทำได้ก็แต่เรื่องยุ่งๆ”

ยิ่งพูดนิ้วมือเรียวยิ่งเช็ดน้ำตาให้เท่าไหร่ น้ำตาเจ้ากรรมก็ไหลออกมาเท่านั้น
มันเกิดขึ้นเมื่อไหร่กัน ความรู้สึกตีบตัน คับแน่นหน้าอก แอบรักแอบชอบโดยไม่รู้ตัว
ตลอดเวลาที่ผ่านมา ได้แต่มองตามร่างสูงมาตลอด
ทุกสิ่งทุกอย่างที่ทำ เพราะอยากใกล้ชิด เรื่องทุกเรื่องที่เกิดขึ้นเพราะอยากให้สนใจ
เขาถลำตัวถลำใจคิดล้ำหน้ามากกว่าความเป็นเพื่อน....

แล้วในความใกล้ชิดสนิทสนมคุ้นเคยที่มีให้ ดายช่างไม่รู้บ้างเลยว่ามันแฝงอะไรมากกว่าที่เห็น
เขา ...เพื่อนคนนี้ มันคิดมากเกินกว่าความเป็นเพื่อนไปแล้ว

.....
....
............
( ไปอ่านต่อข้างล่างนะฮะ ยาวมากๆๆพยายามหน่อย เอาใจสู้สุดฤทธิ์ )กลัวไม่มีคนอ่าน
 :m4:

ออฟไลน์ cargo

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 521
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-1
   มามะ  ข้าง ๆ ใต้ผ้าห่มยังมีที่ว่าง    :m26: :m26:

    แอบปาดก่อนเลย    จะรออ่านน๋า  o17 :m25:

Red....[em]

  • บุคคลทั่วไป
“ท็อตจิ...มีอะไรจะพูดอีกไหม?” นี่ไงเย็นชาได้เหมือนคนไม่รู้จัก สามารถที่จะทำได้ในเวลาเดียวกันกับความใจดีที่หยิบยื่นให้ คงจะมีแต่ดายเท่านั้นกระมังที่ทำได้

เขาตัดสินใจแล้ว

“ฉันก็เหงา เจ็บและอ้างว้าง ทรมานในเวลาที่คิดถึงดาย ...แล้วรู้วาดายไม่ได้คิดถึงฉัน...”หันหน้าหนีอีก เอามือปาดน้ำตาทิ้งไป พยายามฝืนไม่ให้สะอื้น หยิบเอากระดาษแผ่นนั้นออกมาจากมือดาย จะไม่เสียใจที่พูดออกไป ไม่มีอะไรให้ต้องคิดเสียใจอีก ดีใจมากกว่าที่ได้บอกความในใจให้ได้รู้

มันคงไม่มีทางเป็นไปได้ซินะ
เพื่อนจะให้เป็นมากกว่าเพื่อน
ภาพที่อยากให้มีเพียงกันและกัน เป็นคู่รัก
คนรักที่อยากฝันถึงทุกวันคืน
 ไม่มีทางที่มันจะเป็นจริง เพราะว่า...ตลอดเวลาดายไม่เคยมีเขาอยู่ในสายตาซักนิด


“ฉันขอโทษก็แล้วกันนะดายที่ทำให้นายลำบากใจ ถือซะว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น ฉันเพ้อของฉันไปเองก็แล้วกัน แล้วกระดาษของดายเดี๋ยวฉันจะเอากลับไปใส่ขวดแล้วลอยทะเลให้นายใหม่นะ ฉันไปก่อนละ แล้วเจอกันที่ห้องซ้อมพรุ่งนี้ อย่าคิดมาก ใกล้ถึงวันเกิดนายแล้วสดชื่นหน่อยซิ ไปนะ...”

โทชิยะฝืนยิ้มหน้าระรื่น อดกลั้นน้ำตาไม่ให้ไหลจนคางสั้น สลัดผ้าห่มแล้วลุกขึ้นเดินออกไปยังประตูทางออก

..............

..................

.....................

“คนเหงา 2 คน อยู่ด้วยกันไม่ยิ่งพากันเหงาแย่เหรอท็อตจิ?”น้ำเสียงอ่อนโยน อบอุ่นทอดดังกังวานขึ้น หยุดชะงักขาที่กำลังก้าวต่อไปนั้นให้ยืนนิ่งอยู่กับที่

“ถ้ายิ่งไม่หายนะ ฉันจะลงโทษนายยังไงดีฮื้อ...ท็อตจิ...?”โทชิยะไม่อยากจะเชื่อหูตัวเอง ค่อยๆหันกลับไปมองร่างสูงอีกครั้ง

ดายยืนอยู่หน้าโซฟา โหนกแก้มยกขึ้นสูง ยิ้มกว้างแสดงออกถึงความจริงใจ ก่อนที่จะยกแขนทั้ง 2 ข้างกางออกรอสัมผัสของร่างบางที่จะตอบรับกลับมา

มันเป็นสัญญาณของสิ่งดีๆที่จะเกิดขึ้นหรือเปล่า? โทชิยะไม่ได้ตาฝาด ยิ้มทั้งน้ำตาให้ดาย น้ำตามากมายไหลลงมาอีกระลอก รีบโผตัวเข้าหาอ้อมอกกว้างที่เปิดรับ ให้วงแขนแกร่งตวัดรัดโอบกอดเขาเอาไว้แน่น

“อัยบ้าดาย!!!ไอ้บ้า!!! บ้าที่สุดเลย..” แผ่นอกแน่นตรงนี้ ในวันนี้จะซับน้ำตาให้เขากี่รอบกันนะ

“ฉันขี้เหงานะท็อตจิ ไม่เคยรักใครด้วย ขี้หึง ขี้หวง เข้าใจความรู้สึกคนอื่นยากและช้าด้วย นายแน่ใจหรือ?”ใบหน้าและริมฝีปากแนบกับเรือนผมนุ่มมันแวว หอมกรุ่น

 ดายอยากมั่นใจมากกว่านี้ ความรักที่เข้ามาง่ายๆแค่ฉาบฉวยทำให้กระชุ่มกระชวยแค่ชั่วครั้งชั่วคราว
เขาไม่ต้องการ   ที่เขาใฝ่หาคือความจริงใจของอีกฝ่าย ความรู้สึกเปิดเผยที่แสดงออกต่อกัน ไม่ได้เสแสร้งแกล้งว่า
นี่ต่างหากที่เขาปรารถนา เมื่อบริสุทธิ์ใจความรู้สึกดีๆก็จะตามมา  


“นายไม่บอกฉันก็รู้ดาย ดายนะเซ่อออกจะตาย ฉันมองดายมาเป็นปี ดายยังไม่รู้เรื่องเลย ถามจริงๆนะ เพราะอะไรถึงเหงา?” โทชิยะถามคำถามอู้อี้ที่หน้าอกของดาย

“ก็เพราะไม่มีใครอยู่ข้างๆมั้ง ....กลัวคนที่เข้ามาหาเขาจะรำคาญหรือเบื่อนิสัยของตัวเอง…”

“แต่ฉันชอบทุกอริยาบทที่เป็นดาย รักทุกอย่างที่เป็นดายนะ” ดายจูบเรือนผมของคนข้างใต้เบาๆ ยิ้มบางๆให้กับตัวเอง

ใช่ว่าจะไม่เคยเก็บเรื่องของโทชิยะมาคิด นานเท่าไหร่ กี่ปีมาแล้วที่มีเพื่อนหน้าสวยคนนี้อยู่ด้วยมาตลอด แล้วในตลอดเวลามานี่โทชิยะก็เปลี่ยนคนรักเป็นว่าเล่น รักง่ายหน่ายเร็ว เป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่ทำให้เขากลัว
กลัวการผูกมัดที่ทำให้เจ็บปวดในภายหลัง


“ฉันไม่ได้ใจกว้างละเอียดอ่อนเกี่ยวกับเรื่องของความรักเท่าไหร่ นายจะตามใจฉันได้หรือเปล่าถ้าหากว่าทำให้ฉันรักขึ้นมา แล้วฉันหึงหวง ตามติดนายแจฮื้อ?” เสน่ห์ของร่างบางใช่จะไม่รู้ไม่เคยสัมผัส เพราะห่วงมาก ใกล้ชิดมากเกินไป ใจมันก็เขวได้เหมือนกัน ชอบมาก ห่วงมาก ถึงได้ทำเป็นไม่สนใจ ไม่อยากมองไม่อยากรับรู้เวลาที่โทชิยะไปมีใครแล้วเจ็บปวดมา หรือไม่ได้อยู่ข้างเขา

ความรู้สึกอันตราย สามารถทำให้มิตรภาพพังพินาศได้ภายในพริบตาเดียว ดายไม่อยากให้มันเป็นแบบนั้น จำเป็นต้องปิดหูปิดตา ข่มและกักเก็บเอาไว้จนกลายเป็นความเย็นชา ขังตัวเองอยู่กับความเงียบเหงาของหัวใจ

ปล่อยให้ความนึกคิด คิดถึง ทำร้ายจิตใจ สร้างความเหงาเดียวดายให้เกิดขึ้นซ้ำซากทุกวันๆ

“เรามีสิทธิ์นี่ดาย ทั้งนายและฉันมีสิทธิ์ที่จะหึงหวงครอบครองกันและกัน”โทชิยะเงยหน้าขึ้นสบตากับดวงตาคม ยิ้มน่ารักให้พร้อมกับคำตอบ

“ฉันจะทำให้ดายหายเหงานะ ดายก็ต้องรักฉันให้ได้ด้วย”ร่างบางไม่พูดเปล่า ขโมยหอมแก้มคนขี้กลัวและขี้สงสัยทันทีด้วยความเขินกับประโยคของตัวเองไม่น้อย

นี่แหละที่โทชิยะตะหนักได้ การกระทำหลายอย่างก่อนหน้าที่ผ่านเข้ามา แค่เรียกร้องความสนใจจากดายเท่านั้น จริงๆแล้วหัวใจของเขาหมกมุ่น เฝ้าครุ่นคิดถึงคนๆนี้ตลอดเวลานี่เอง พึ่งรู้ว่ารักดายก็ต่อเมื่อได้อ่านข้อความห่วยแตกของดายในกระดาษแผ่นนั้น...นึกถึงมันแล้วก็อยากขำกลิ้ง...เขาทั้งโกรธและไม่พอใจ ไม่เข้าใจ...ดายอยู่ในอารมณ์ไหนถึงทำได้แบบนั้น?!!


“ขอบใจมากนะท็อตจิ ขอบใจมาก...ฉันเชื่อว่าเรา 2 คนต้องทำได้ มันต้องเป็นลิขิตจากสวรรค์แน่ๆที่ทำให้ฉันเจอนาย และนายก็ค้นพบตัวตนฉัน”ดายจูบตอบแก้มอิ่มที่ระบายไปด้วยรอยยิ้มของโทชิยะ

มันไม่ยากเลยท็อตจิ  นายทั้งน่ารัก มีเสน่ห์ เป็นตัวของตัวเอง
อาศัยความใกล้ชิดอีกนิด และเวลาฟื้นฟูจิตใจที่เย็นชา เฉยชินของฉันขึ้นมาใหม่เท่านั้น
ความรักที่เคยคิดจะให้นาย...จะกลับมาอีกครั้ง


“ขอบจงขอบใจอะไรกัน ไม่ใช่ลิขิตสวรรค์อะไรทั้งนั้นแหละ ลิขิตของท่านโทชิยะคนนี้นี่ต่างหาก ไปๆไปได้แล้ว”โทชิยะก็ยิ้มด้วยความเขิน แสร้งว่าปากบุ้ย เบี่ยงตัวออกมาคว้าจับที่ข้อมือใหญ่แทน

“จะไปไหนท็อตจิ?”ดายก็ยิ้มถามแกเก้อ ใบหน้าร้อนผ่าว หัวใจเต้นแรง เลือดหนุ่มภายในตัวกำลังทำงานเต็มที กระชุ่มกระชวยอิ่มอกอิ่มใจอย่างบอกไม่ถูก

นี่คงจะเป็นนิมิตรหมายที่ดีกระมังสำหรับความสัมพันธ์ของเขาและโทชิยะที่จะต้องประคับประคองและพัฒนาให้แนบแน่นมากขึ้นกว่าเดิม

“ก็อาบน้ำไง อาบให้ด้วย เมื่อกี้ดายบอกนี่”เขาอมยิ้มแก้มป่อง ยิ่งได้อยู่ใกล้เช่นนี้ก็ยิ่งมันใจว่ารักดายมากแค่ไหน

“ตะ..แต่..แต่ว่า...”ดายตะกุกตะกัก ใบหน้าคมนั้นมีเลือดฝาดจนแดงเห็นชัด

“ไม่มีแต่อะไรทั้งนั้น เมื่อก่อนตอนเมานายยังจับฉันแก้ผ้าอาบน้ำให้บ่อยๆเลย ฉันขี้เกียจ อยากแช่น้ำเฉยๆน่าอาบให้หน่อย”พูดเสร็จร่างบางก็กึ่งบังคับกึ่งลากแขนดายเข้าห้องน้ำไปทันที

โธ่!ก็นั้นมันเมื่อก่อน แต่นี่..ดูซิ ดูตอนนี้ซิความรู้สึกมันเปลี่ยนไปแล้ว ทั้งน่ารัก น่าหยอก
สวยงามน่าหลงใหลไปทุกสัดส่วนทั่วทั้งหมดของเรือนร่างเปล่าเปลือย
เขาก็มนุษย์ที่ยังมีกิเลสคนหนึ่งนะ จะอดใจไหว ไม่ทำอะไรได้เชียวหรือโทชิยะ?

ดายพยักหน้าอย่างจำยอม และเริ่มเข้าใจ ยิ้มกรุมกริ่มก่อนที่จะปลดผ้าเช็ดตัวผื่นเดียวของตัวเองออกแล้วก้าวลงอ่างที่มีร่างบางนั้งแช่น้ำอุ่นใบหน้าแดงกล่ำคอยอยู่ก่อนแล้ว

..................................

Red....[em]

  • บุคคลทั่วไป
( อยากบอกว่าโพสไปแล้ว 3 รอบ แต่ลงไม่ได้เพราะยาวเกินไป แฮ่ๆ)

ต่อๆๆ
...........................................................


-----------------------------------------------------------------------------------------------------


“เปาละน้า~~”ทันทีที่เพลงอวยพรวันเกิดจากโทชิยะจบลง ดายก็ก้มลงเปาเทียนบนเค้กสีอออกดำน้ำตาลทันที

วันนี้ครบรอบ 27 ปีแล้วซินะ ได้เปาเทียนมาหลายที่ ทั้งที่สตูดิโอ ที่บริษัท และห้องซ้อมที่พวกเพื่อนๆในวงจัดให้ยังไม่รวมพวกสต๊าฟที่ยกเค้กแข่งกันมาอีก เปาเทียนจนเมื่อยแก้มปวดกรามไปตามๆกัน

เค้กปอนด์นี้คงจะเป็นก้อนสุดท้ายของคืนนี้ ที่ย่างเข้าสู่วัย  27 ปีของเขา
แต่เค้กหน้าตาทะแม่งประหลาดๆเบื้องหน้าหน้าเวลานี้นั้น เขาอยากเปาเทียนให้มันใจแทบขาด
ดีใจอย่างบอกไม่ถูก เพียงแค่ได้เห็นก็ดีใจแล้ว

เค้กที่โทชิยะตั้งใจทำให้ทั้งคืน เรียกให้นอนก็ไม่ยอม ร่างบางแทบจะไปนอนเฝ้าเตาอบเค้กก็ว่าได้
ทั้งชิม แล้วก็ทำแล้วทำอีกอยู่นั้นแหละ
จนใกล้รุ่งสางนี่กระมัง ในที่สุดก็ได้เค้กหน้าตาบ๊องแบ้วเหมือนเจ้าของ
กลมบ้างเหลี่ยมบ้างหาขนาดไม่ได้ปอนด์นี้ขึ้นมา

แต่ทว่า...ถึงมันจะไม่สวย ไม่ได้น่ากิน และรสชาติไม่อร่อยเท่าเค้กก้อนอื่น
แต่เขาก็ชอบมันที่สุด

มีความสุขมากๆกับสิ่งเล็กน้อยๆที่โทชิยะเพียรพยายามทำให้ มันมีความอิ่มเอิบใจมากกว่า

“มีความสุขกับฉันมากๆนะดาย รักฉันให้มากๆด้วย ห้ามทำให้ฉันเสียใจด้วย และก็ห้ามทำฉันร้องไห้ขี้มูกโป่งเป็นอันขาด”

 คนอวยพรพูดได้หน้าตาเฉยมาก ลงมานั่งเบียดด้วยกันและซุกซบที่หน้าอกกอดเขาเอาไว้

“อะไรกัน อวยพรอะไรกันให้ตัวเองทั้งนั้นเลยท็อตจิ ฮ่าๆๆ”ดายหัวเราะร่า สูดกลิ่นเรือนกายที่นับวันก็ยิ่งทำให้เขาหลงใหล ลุ่มหลง จนกลายเป็นหวงแหนเจ้าร่างบางในอ้อมกอดนี้ยากที่จะถอดถอนได้

“ไม่รู้ล่ะ ก็นึกออกแค่นี้นี่!ฉันไม่มีอะไรให้ดายแล้ว ที่ดายอยากได้ก็ให้ไปหมด มีอะไรที่ยังอยากได้อีกบ้างไหมล่ะดาย?”ถ้าทำได้และหามาได้จะรีบเอามาให้


“มีสิ...ฉันต้องการทุกวันและเวลาเลยรู้มั้ย?  โหยหาและปรารถนาเพียงสิ่งเดียวเท่านั้นท็อตจิ?”ดายตีหน้าเศร้า จนโทชิยะคิดหนัก

“อะไรเหรอดาย?” โทชิยะรอคำตอบด้วยความกระหายใคร่รู้

“ก็...ก็นายไงท็อตจิ...ปรารถนาทุกวันทุกเวลา นายเป็นยาเสพติดหรือไงกันนะ ฉันถึงได้เสพติดต้องการนายตลอด

รักฉันให้มากๆนะท็อตจิ รักฉันตลอดไปด้วย ห้ามทำให้ฉันเสียใจเป็นอันขาด  และก็ห้ามเอาความเหงากลับมาให้ฉันอีก ไม่เอาอีกแล้วรู้มั้ยฮื้อ...?” ดายย้อนคำขอกลับร่างบาง

ไม่รอฟังคำตอบให้เสียเวลา เขาจูบลงบนริมฝีปากอิ่มไล้เลีย สอดเรียวลิ้นเข้าตวัดดื่มความหอมหวาน
ด้วยความรู้สึกต้องการปรารถนาจากก้นลึกของหัวใจ

หมอบความสุขให้กันและกันครั้งแล้วครั้งเล่า ใช้ภาษาร่างกายคุยกัน สื่อความหมายคำว่ารักที่มีให้แก่กัน

“................................................”เสียงกระซิบบอกริมหูในยามค่ำคืนที่แสนหวานและเร่าร้อน เรียวแขนโอบกระชับไว้ไม่อยากปล่อยให้หลุดมือ

“ฉันก็รักนายนะ....รักดายมาก” เสียงตอบกลับพร้อมกับโอบกอดร่างแกร่งตอบ

หัวใจที่เต็มเติมซึ้งกัน เข้าใจกัน สร้างความเกษมสันต์ปรีดาให้บรรเจิด
ร่างกาย และหัวใจอิ่มเอิบ ความสุขล้นทะลัก ไม่มีอะไรให้ต้องเหงาอีกต่อไป...


คืนนี้ท้องฟ้าไม่ได้เงียบเหงา  มีดวงดาวส่องแสงกระจ่าง
พระจันทร์เสี้ยวก็เปล่งปลั่งเป็นสีเหลืองสุกไสวนวลตา
ลมพัดผ่านใบไม้ปลิวสะบัด นกกลางคืนก็บินร่อนลงโฉบเฉี่ยวทะเลมาเป็นระยะ


ขวดใบเก่า แต่เปลี่ยนกระดาษแผ่นใหม่ ข้างในก็บรรจุความรู้สึกใหม่ที่เกิดขึ้น
ถูกลอยปลดปล่อยออกสู่ทะเลกว้างอีกครั้ง


เจ้าแห่งท้องสมุทร เกลียวคลื่นที่ซัดซาด เวหาสีครามกว้างใหญ่ และสายลมหนาวเย็น
จะเป็นพยานให้กับความสัมพันธ์ของคน 2 คน


****** มุมของความรัก มีทั้งความสุขและเจ็บปวด
เมื่อรักแล้วต้องพร้อมที่จะสามารถรับเอาทั้งสองอย่างเข้ามา
บทเพลงของความเหงาจากไป พร้อมกับบทเพลงสายใหม่เข้ามาเยือน
ขอหมอบบทเพลงรักนี้ให้แก่คุณ...  ****


***  รักฉันให้มากๆนะท็อตจิ รักฉันทุกวัน รักทุกเวลา ฉันก็รักนายท็อตจิ  ***


THE END.

 :o11:

แรกสุดกะให้เป็นแฟนตาชีแนวถนัด ประมาณว่าคุณดายหลายใจ ลอยขวดที่เดียว 2 ใบ ใบหนึ่งปาถูกหัวพรายหนุ่มสาวนามว่าโทชิยะ อีกขวดปาถูกหัวมนุษย์เจ้าปัญหานามว่าไอ้เอ็ม555+ ทั้งสองถือขวดมาเคาะประตูห้องดาย ดายก้ประมาณโอ้โห สวย น่ารักว่ะ เอาแม่งทั้งคู่เลย55+  จบแล้ว ที่อยากพูดก็มีเท่านี้ล่ะ


รักผู้ชายชื่อดาย รักทุกอย่างที่เป็นคุณ ปรารถนาอยากเห็นคุณในทุกอริยาบท เป็นแสงไฟให้เทียนเล่มน้อยเล่มนี้ต่อไปด้วยนะครับ  Happy brithday to you มีความสุขมากๆ มีร่างกายที่แข็งแรง มีพลังอันกล้าแกร่งในการก้าวต่อไป มีรอยยิ้มที่สดใสในทุกวัน ช่วยเป็นดายที่รักของผมตลอดไปนะครับ!!!

กร๊าซซซซซซซซซซซซ เน่าได้จิต จะถูกพ่นไฟเข้าใส่มั้นเนี้ยอัยเอ็ม (แอบนอกเรื่องเล็กน้อย)


ขอบคุณชาวโลกกกกก
ขอให้ชาวโลกจงมีพลังแห่งความรักกันถ้วนหน้า

อาเมน...
กรั๊กกๆๆๆ o14
 


ออฟไลน์ ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น

  • Administrator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6853
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1320/-22
กร๊ากรู้สึกพล็อตเรื่องตอนหลังแบบขำๆจะน่าหนุกนะ
แต่แบบนี้ก็ชวนฝัน ให้เห็นความรักดี
 :o8:

คนเหงาสองคน ดีจังที่ตามหากันเจอ
 :m1:

เหงาจัง
 :m21:

Red....[em]

  • บุคคลทั่วไป
อ้างถึง
คนเหงาสองคน ดีจังที่ตามหากันเจอ


แง่งๆๆ ผมก็อยากเจอม้างงอะครับ

[quoteเหงาจัง
 ][/quote]

เหมือนกันเลยยย โฮกกกกกกกกกกกกก (วิ่งไปกอดคุณ blueBoYhUb) :m17:

Givesza

  • บุคคลทั่วไป
พี่เรย์ๆๆๆๆ

             มีคนวิ่งไปกอดแย้ว.............  :laugh:         อร้ายยยยย กอดหนูมั่ง  แหะ ๆ  : :impress:

เหงาๆๆๆๆ  :m15:


ออฟไลน์ rule

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 431
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +55/-2
[ Fiction DEG  DIE And TOSHIYA]


รักอยู่หนใด...  ใยปล่อยให้(กู)เหงา ...(เน่าสนิท!!!จบในตอน)


คืนนี้ท้องฟ้าเงียบเหงา พระจันทร์มีเพียงเสี้ยว  ดวงดาวส่องแสงริบหรี่ ไม่มีเสียงลมพัดผ่านใบไม้ ไร้แม้กระทั่งนกกลางคืนสักตัวบินโผไปมา

เขาทอดถอนความรู้สึกเปล่าเปลี่ยว ด้วยการระบายลมหายใจยาว หากสีหน้ายังแฝงไปด้วยความอ่อนโยนและแววตาที่ดูใจดีปนเงียบขรึมตามแบบฉบับของตัวเอง  ใช่เขาใจดีและสามารถใจร้ายเลือดร้อนขึ้นมาได้ในขณะเวลาเดียวกัน ซึ่งมันจะติดตามเขาไปเสียทุกอริยาบถ- ใครๆก็มักจะบอกกับเขาเช่นนี้เสมอ

ชายหนุ่มยิ้มให้กับตัวเอง ในมือถือกระดาษสีขาวสะอาดเอาไว้

*****     หากแม้นสักวันจะได้เจอเธอ
หากแม้นว่าเธอยังคงรอคอย
การเดินทางตามหาของฉัน
คงจะไม่ลำบาก และ เหนื่อยเช่นนี้

วอนฝากสายลมและเกลียวคลื่น
เป็นสะพานเชื่อมจากจุดที่ฉันยืน
ซัดสาดคลื่นความเหงา เย็นยะเยือก  ที่เกาะกุมข้างใน
ไหลลอยออกจากดวงใจโดดเดี่ยว เดี่ยวดาย
สู่ 2 มือที่โอบอุ้ม ช่วยโอบกอด ความอ้างว้างของฉันที
ใจดวงนี้ทั้งเหงา และต้องการคุณ...มาคู่กาย      *****


***  ผู้ที่เก็บขวดนี้ได้กรุณาติดต่อกลับด่วนนะครับ

[ DIE ]  Pacific Capital Plaza Building 6F

4-8-6 Roppoingi Minatoku

Tokyo JAPAN 106-0032  ***


นิ้วยาวเรียวคลี่กระดาษที่ข้างในมีคำพรรณนาถูกถ่ายทอดเขียนลงไป  สายตาไล่ตรวจดูความเรียบร้อยไปทีละคำ ตามตัวหนังสือบรรจงแกมหวัดอีกครั้งเพื่อความถูกต้องและแน่ใจ ก่อนที่จะม้วนเข้าเป็นแฝงยาวยัดใส่ลงในขวดแก้ว ปิดฝาให้สนิท

ข้างในนั้น บรรจุความรู้สึกนึกคิดที่กลั่นออกมาจากก้นบึ้งหัวใจดวงเหงาของเขาเอง...

เข็มนาฬิกาบนข้อมือบอกยามย่างเข้าเวลาของวันใหม่ ใบหน้าอ่อนโยนนั้นระบายรอยยิ้มพร่างพราย นานๆทีถึงจะให้ตัวเองได้ปลดปล่อยแบบนี้ ค่อยๆคุกเข่าลงบนพื้นผิวทราย

ยามรัตติกาลไร้แสงของดวงดาวกระจ่าง ผืนผ้าสีครามอันกว้างใหญ่ไพศาล รวมถึงพระจันทร์เสี้ยวสีนวล ช่วยเป็นพยานรับรู้การกระทำและคำพูดของผม

“ถ้าคำอธิฐานของฉันเป็นจริง ...ไม่ว่าเธอจะเป็นใคร อยู่ที่ไหน? เมื่อใดก็ตามที่เก็บความโดดเดี่ยวอ้างว้าง เข้าใจความรู้สึกตัวตนของฉันได้...ฉันจะรักเธอ”

ชายหนุ่มกุมขวดแก้วจรดริมฝีปากเอาไว้มั่น พึมพำประโยคขึ้นมา ก่อนที่จะยิ้มกว้างให้กับท้องฟ้า สายลมหนาวเย็น และทะเลกว้างใหญ่เบื้องหน้าอีกครั้ง

ปลดโซ่ตรวนที่หนักหน่วง ปล่อยความคิด อ้างว้างทั้งหลายแหล ลงสู่ผืนน้ำทะเลกว้างใหญ่สุดลูกหูลูกตาท่ามกลางช่วงเวลายามน้ำขึ้นของค่ำคืน

ขวดแก้วใบใส ค่อยๆไหลไปตามเกลียวคลื่น ซัดออกห่างจากตัวเขาไปทุกทีๆจนไม่สามารถมองเห็นความแวววาวของขวดใบสวยได้อีก เสมือนว่ามันกำลังทำหน้าที่ ที่ได้รับมอบหมายอยู่ด้วยความตั้งใจ และเพียรพยายามอย่างมากที่จะมองหาใครสักคนพอที่จะมีคุณสมบัติดีพอตามที่เจ้าของปรารถนาและต้องการ


แล้วเสียงระบายลมหายใจอย่างปลอดโปร่งก็พ่นยาวออกมา ก่อนที่จะลุกขึ้นปัดทรายออกจากกางเกงยีนส์
เดินมุ่งหน้ากลับคอนโดที่พักด้วยหัวใจอิ่มเอิบ มีความหวัง...


เขาบ้าไปหรือเปล่านะ? มีเวลาว่างมากมายหรืออย่างไรกันถึงได้มานั่งทำเรื่องแบบนี้?

ชายหนุ่มส่ายศีรษะไล่ความคิดฟุ้งซ่านของตัวเอง ควันบุหรี่สีขาวพ่นออกมาจากริมฝีปากเป็นทางยาว

มันไม่ใช่ความบ้า แค่จิตวิญญาณที่สัมผัสกับความอ้างว้าง โดดเดียวเดี่ยวดายมาตลอดช่วงเวลาอายุ 27 ปีของเขามันช่างเหงาเหลือเกิน ความรู้สึกละเอียดอ่อนอย่างหนึ่งที่สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคน มันเป็นความอ่อนไหวที่ทำให้เขาสัมผัสกับวิญญาณความเงียบเหงาได้ไวกว่าผู้คนรอบข้างก็เท่านั้น

เพราะในส่วนลึก เขาโหยหา ต้องการใครซักคนมาอยู่เคียงข้าง เป็นเพื่อน เป็นคู่คิด เป็นคนรัก ใครสักคนที่เข้าใจเยียวยาและนำเอาความเหงาเหล่านี้ออกไปจากใจของเขา


“กลับมาแล้วครับ...”ชายหนุ่มเอ่ยขึ้น หลังจากที่เปิดประตูเข้าสู่ห้องที่มีบรรยากาศของความเหงา กลิ่นอายความอ้างว้างไร้ชีวิตชีวาคุกรุ่น ปกคลุมรายล้อมให้หนาวเหน็บหัวใจ  บีบคั้นความรู้สึกให้โหยหาต้องการความใกล้ชิดมากขึ้นไปอีก

...  ...  ...
...  ...  ...  ...  ...

เสียงของความเงียบตอบกลับมาทุกครั้ง...
ทุกวัน...
ทุกเวลา...
เขาปรารถนาที่จะได้ยินการตอบรับที่มีตัวตน เสียงหัวเราะ หรือ เห็นการขยับตัวเคลื่อนไหวอยู่ในห้องที่รอคอยนี้


ชีวิตของชายหนุ่มที่เต็มไปด้วยงาน และภาระหน้าที่รับผิดชอบ กลายเป็นคนที่ไร้หัวใจ เย็นชาต่อเรื่องของความรัก จริงๆแล้ว เขาไม่ได้เย็นชาไร้ความรู้สึกหรอกนะ เพียงแต่...ช่วงเวลาที่ใครคนนั้นเดินเข้ามาหา เธอไม่ใช่คนที่ใช่ของเขา และที่สำคัญ เขาเป็นคนที่เปิดเผย จริงใจ และไม่เคยฝืนความรู้สึกตัวเอง

มันจึงไม่ใช่เรื่องยากที่เขาจะหยุดความสัมพันธ์เอาไว้แค่เพื่อนเท่านั้น 
แล้วตามหาคนที่ใช่คนนั้นไปตามทางของจิตใจและความรู้สึกเป็นหลัก แม้ว่าจะไม่เคยเจอเลยก็ตาม...

ทางเดินที่เต็มไปด้วยความเหงา เกิดขึ้นได้แม้อยู่ท่ามกลางผู้คนหรือเพื่อนฝูงมากมาย เกิดขึ้นได้ทุกทีทุกเวลา เพราะมันเกิดออกมาจากหัวใจ  เมื่อไหร่กันถึงจะปรากฏตัวมาเติมเต็มสิ่งที่ขาดหายไปให้เขาเสียที


ต้นฤดูหนาวในกลางเดือนธันวาคม  เหมันต์ที่สร้างความหนาวเหน็บให้ร่างกาย สร้างบรรยากาศหงอยเหงาให้กับจิตใจ จะผ่านมันไปด้วยดี หรือลมหนาวจะทรมานบาดผิวเนื้อให้โหยหาความอบอุ่นจนต้องตายนะ เขานั่งเงียบทั้งตัวลงบนโซฟา พาจิตใต้สำนึกเข้าสู่ภวังค์ความนึกคิดอันไร้ขีดจำกัดต่อไปเรื่อยๆ


เสียงโทรศัทพ์ปลุกชายหนุ่มที่นอนเหยียดยาวอยู่บนโซฟางัวเงียลุกขึ้นมารับอย่างเสียไม่ได้


“ฮัลโหล...ว่าไงครับ?” ผ้าห่มถูกสลัดให้พ้นตัว

...นี่นอนในห้องนั่งเล่นอีกจนได้ เมื่อคืนสงสัยจะคิดมากจนเผลอหลับไป

[กี่โมงแล้วดาย มีซ้อมไม่ใช่หรอ?] เสียงราบเรียบของผู้ทรงอำนาจในวง เรียกความรับผิดชอบของหน้าที่การงาน สั่งการให้สมองตื่นตัวเต็มที่

“คาโอรุ รอซักชั่วโมงนะจะรีบไป  อ้อ! มาครบกันหมดแล้วเหรอ?”

[ก็ยังเหลือนายกับโทชิยะ กำลังให้ชินยะโทรตามหมอนั้นอยู่ นายรีบมาแล้วกันดายคิดว่าเดี๋ยวโทชิยะคงมา]

“อื่ม...แล้วจะรีบไปนะ” ดายปิดโทรศัพท์แล้วลุกขึ้นจากโซฟา สลัดศีรษะไล่อาการง่วงหง่าวหาวนอนให้หมดไป สาวเท้าก้าวยาวๆเข้าห้องน้ำหวังให้น้ำอุ่นๆไล่ความเมื่อยล้าและหนาวเย็นแต่ทว่า...ยังไม่ทันจะได้ลงแช่ในอ่างน้ำที่มีไอร้อนลอยขึ้นจับกระจกข้างผนังจนเป็นฝ้ามัว เสียงเคาะประตูห้องก็ดังลั่นขึ้นมาเสียก่อน


“มาแล้วครับๆ” เขากึ่งวิ่งกึ่งเดินทั้งเนื้อตัวมีแค่ผ้าเช็ดตัวพันท่อนล่างเอาไว้แค่นั้น

“อ้าว!โทชิยะมาได้ยังไงเนี้ย” ตกใจเสียไม่ได้เมื่อเห็นร่างของเพื่อนร่วมวงยืนพิงผนังข้างห้องยันตัวเองเอาไว้ไม่ให้ล้ม เจ้าตัวดูสั่นและผิดปกติอย่างเห็นชัด

“ฮื้อออ...มาได้ก็แล้วกันดาย”น้ำเสียงอ้อแอ้บอกว่าเพื่อนสะลืมสะลือสติเหลือไม่ถึงครึ่งด้วยซ้ำ แพขนตาหนาระนาบลงกับผิวแก้มรอบดวงตาชุ่มชื้นไปด้วยหยาดน้ำมากมาย

“เอ้ย!ทอตจิเป็นอะไรไป ดื่มอะไรกันนักหนา ดูซิแล้วแบบนี้จะซ้อมกันยังไง มีหวังคาโอรุบ่นยาวแน่ท็อตจิๆ”ดายเข้าช่วยพยุงร่างบางเข้ามาในห้องก่อนที่อากาศหนาวเย็นจะทำให้ร่างบางสั่นมากกว่านี้ พยายามเรียกสติไปหลายๆครั้ง

“ดาย...ดาย ฉันอกหัก ฉันอกหักแล้ว!ฮึก!!”สองมือจับแขนแกร่งของดายเอาไว้ ก่อนที่จะโผเข้าหาแผ่นอกกว้างใช้เป็นที่ยึดเหนี่ยวในยามอ่อนแอ น้ำตาก็ไหลพร่างพลูลงมาช่วยยืนยันคำพูดของเจ้าตัว

“ท็อตจิใจเย็นๆ  ใจเย็นนะ...ไม่เป็นอะไรแล้ว...”ชายหนุ่มลูบหัวลูบหลังให้ร่างบางกอดตอบหวังปลอบโยนให้ผ่อนคลายจากความเจ็บปวดที่ได้รับลงบ้าง

“ดายไม่เหลือแล้ว เธอไปจากฉันแล้วดาย เธอไปแล้ว…” น้ำอุ่นๆที่รู้สึกได้ตรงหน้าอกช่างไหลออกมามากมายเหลือเกิน ใครกันนะทำผู้ชายที่น่ารักใจดี ขี้เล่นที่สุดในวงคนนี้ร้องไห้ได้

ความน่ารักที่เขาได้แต่แอบมอง ความสวยงามที่น่าหลงใหล ใยธรรมชาติสร้างความวิจิตรเหล่านี้บนเรือนร่างและดวงหน้าของบุรุษเพศผู้นี้  ถ้าเป็นผู้หญิงจะไม่ลังเลแม้ซักนิดที่จะผูกสัมพันธ์มากกว่าเพื่อน แต่ทว่า ร่างตรงหน้าในตอนนี้เป็นผู้ชาย เป็นเพื่อนสนิท เป็นเพื่อนร่วมงาน ไม่มีทางที่จะเปลี่ยนเป็นอย่างอื่นไปได้

“ท็อตจิตั้งสมาธิหน่อยซิ! มีอะไรบอกฉันได้มั้ย? ตัวนายเย็นมากเลยนะ ไปตากน้ำค้างที่ไหนมา?รอเดี๋ยวนะจะไปเอาผ้าห่มมาให้” ดายพึ่งจะตะหนักได้ว่าเนื้อตัวของร่างบางเย็นเฉียบเขารีบผละออกจะไปเอาผ้าห่มในห้องนอนออกมาคลุมให้

“ไม่นะดาย ไม่เอา...ได้โปรด อย่าพึ่งไปไหน อย่าไปไหนในตอนนี้เลยนะอย่าไป..ให้ฉันอยู่แบบนี้ ฮืออ”นิ้วมือเย็นรีบคว้าแขนแข็งแรง ซุกตัวแล้วกอดไว้แน่น ร่ำไห้ออกมาอีก ดายได้แต่จนใจนึกสงสัยสาเหตุนานับประการที่ทำให้โทชิยะเสียความเป็นตัวเอง ทั้งยังความเป็นห่วงมากมายที่เขามักมีให้คนๆนี้มากกว่าเพื่อนทุกคนในวง


“อื่ม...ไม่ไปก็ไม่ไปแต่นายต้องเล่าให้ฉันฟังนะว่าเกิดอะไรขึ้น” เขาโอบร่างบางไปนั่งที่โซฟาตัวเดิม ลูบหัวลูบหลังคอยปลอบใจอยู่ข้างๆสรรหาคำพูดที่พอจะทำให้โทชิยะรู้สึกดีขึ้นมาและหยุดร้องไห้ลงไป ผ้าห่มผืนเก่าของตัวเองที่เคยใช้ จับมันขึ้นมาคลุมหลังให้ความอบอุ่นแก่ร่างบาง โอบกอดอยู่นิ่งๆเป็นเพื่อนรอจนกว่าเจ้าตัวจะสงบลง

จนเจ้าตัวพอที่จะเรียบเรียงคำพูดเล่าถึงสาเหตุของเรื่องทั้งหมดให้ได้ฟัง ก็แค่ผู้หญิงคนหนึ่งที่ผ่านเข้ามาทำให้ร่างบางหลงรักได้ไม่ถึงเดือน แล้วก็สลัดทิ้งไปเพียงเหตุผลแค่ว่า...โทชิยะอ่อนไหวเกินไป ไม่สมเป็นลูกผู้ชาย เอาแน่นอนไม่ค่อยได้เท่านั้น


“ฉันผิดมากเลยหรือดาย ฉันผิดที่ร้องไห้อ่อนแอแบบนี้หรือดาย” นัยน์ตาแดงกล้ำ หากคำพูดที่บอกออกไปจะกระทบกระเทือนจิตใจอีก ร่างบางคงได้ปล่อยโฮออกมาอีกเป็นแน่

“ไม่เลยท็อตจิ ไม่ใช่เลยนะ นายอ่อนไหว แต่ไม่ได้แปลว่าอ่อนแอซักหน่อย ในเมื่อเธอคบนายแค่เพียงผิวเผิน ไม่ได้มองลงไปถึงตัวตนของนาย ฉันว่านายอย่าคิดมากอีกเลยน้า~~ ไม่มีค่าอะไรเลยที่จะคร่ำครวญให้เสียน้ำตาแบบนี้” ดายนึกสงสารร่างบางจับจิต ความใจดี อยากทำให้หายเศร้า ทอดน้ำเสียงอ่อนโยน เอ่ยปลอบเช็ดน้ำตาให้อย่างนุ่มนวล

“แต่ฉันเจ็บดาย ฉันเจ็บใจ เสียใจฮึก!!! รู้ไหมมันเจ็บ...ฮืออ?”โทชิยะร้องไห้คร่ำครวญออกมา สองมือทุบตีที่อกกว้างเบาๆ

“มันจะหายไปในเวลาไม่ช้าท็อตจิ...ให้เวลากับมันแล้วกลบมันซะอย่าให้มันมาทำร้ายนายได้อีก”

“ฉันทำไม่ได้ ฉันอยากเจอเธอ ฉันอยากเจอ...ดาย ...ฮืออออ...ทำไมๆ ทำไมฉันต้องเจ็บซ้ำแล้วซ้ำเล่าแบบนี้ตลอด”

“เข้มแข็งหน่อยซิโทชิยะ! ก็เพราะนายเป็นแบบนี้ไงเจ้าหล่อนถึงได้หนีไป ถึงนายจะหน้าตาดีนิสัยดีแค่ไหน  แต่เมื่อผู้ชายเป็นหลักยึดให้กับเจ้าหล่อนไม่ได้ เธอก็คงไม่ไม่คบกับนายต่อไปหรอก!!ลุกขึ้นมาดูตัวเองได้แล้ว ร้องไห้คร่ำครวญแบบนี้สมกับที่ถูกเธอว่ามามั้ยโทชิยะ!!!”ดายสลัดร่างบางจนหลุดลุกขึ้นเดินหนี ตัดสินใจใช้คำพูดเด็ดขาดหวังให้ร่างบางได้สติ ถึงจะดูใจร้ายแต่เขาทนเห็นแบบนี้ต่อไปไม่ได้อีก ไม่ว่าเมื่อไหร่  จะเรื่องอะไรก็มาเอะอะโวยวายร้องไห้กับเขาทุกที


“ก็ฉันมันเป็นแบบนี้ นายจะให้ฉันเป็นแบบไหนดาย จะให้ฉันทำยังไง ฉันไม่เข้มแข็งยืนหยัดได้แบบนาย เย็นชาได้แบบดายหรอก!คนใจร้าย!!เคยสนใจผู้คนรอบข้างบ้างไหม ใครจะเป็นยังไงเคยรับรู้บ้างมั้ย!!!?ฉันไม่น่ามาหานายเลย นายอ่อนโยนใจดีกับฉันมาตลอด ที่แท้มันไม่ใช่ซักนิด นายมันไม่เคยมองคนใกล้ตัวหรอก ที่ฉันเป็นแบบนี้วิ่งมาหานายๆก็ยังไม่เข้าใจเลย อัยบ้า!นายจะให้ฉันวิ่งไปให้คาโอรุมันด่าเอาหรือไง ว่าให้แต่คนอื่นงี่เง่า!! ทีตัวเองทำตัวไร้สาระพวกนี้ทำไมไม่รู้จักมองตัวเองบ้าง!!!”


เมื่อถูกว่าก็เลยโกรธจนพาลตรงเข้าขวางหน้าต่อว่าทั้งน้ำตาและคำพูด มือล่วงเอากระดาษสีขาวที่ยับยู่ยี่อยู่ในกระเป๋ากางเกงขึ้นมาปาออกใส่ใบหน้าขรึมเต็มๆ

“ท็อตจิ มันจะพาลมากไปแล้วนะ ใจเย็นๆหน่อยซิ!!!”ดายไม่ได้ฉุกใจคิด เก็บกระดาษแผ่นนั้นกำเอาไว้แน่นแค่นั้น ตอนนี้เขากำลังรับมือกับคนที่ไม่มีเหตุผลคนหนึ่ง ไม่มีเวลามาสนใจอะไรมากไปกว่าร่างบางเบื้องหน้า

“ไปทำให้หัวเย็น ตัวเย็นลงหน่อยไหม? เอาล่ะฉันว่านายไปอาบน้ำทำใจให้สบาย แล้วเราค่อยมาพูดกันดีกว่า โอเคฉันขอโทษ ฉันอาจจะปลอบนายได้ไม่ดีนัก เอาเป็นว่ารอให้ใจเย็นแล้วเราค่อยมาพูดกันดีกว่านะท็อตจิ”ดายเดินเข้าหาร่างบางอีกครั้ง ฉุดแขนให้เดินตามเข้าห้องน้ำ


“ดาย...ชะ...ชั้นอยากรู้นั้นที่ดายถืออยู่มันใช่ของดายไหม?...ฉันขอโทษ มันสับสน ปนกันไปหมดแล้ว...ดายดูมันทีใช่มั้ยดาย ใช่ของดายหรือเปล่า?”โทชิยะลำล่ำละลักรีบบอกเมื่อเดินตามแรงฉุดของดาย

“อะไรท็อตจิ?” ดายหันกลับมาถาม จ้องมองลงไปในดวงตาคู่สวยแดงกล่ำ

“ที่ดายถืออยู่ใช่ของดายไหม ฉันเก็บได้เมื่อเช้านี้เองขวดยังอยู่ในรถ” เจ้าตัวปาดน้ำตาลวกๆหยุดร้องไห้ ชี้ไปที่กระดาษที่ดายกำอยู่ในมือ

 
ดายสะดุ้งเฮือก มือสั่น ในตอนนี้ไม่กล้าคลี่มันออกมาดู
อะไรกัน ต้องรวบรวมความกล้าหาญมากมายเชียวหรือ ถึงจะเปิดได้...
ลายมือตวัดเอียงทำมุมสี่สิบห้าองศานั้น ไม่ต้องอ่านแค่เห็นเขาก็รู้และจำได้ ก็ในเมื่อมันพึ่งจะถูกเขียนผ่านไปเพียงแค่ชั่วข้ามคืน

“ทะ...โทชิยะ เก็บมันได้ที่ไหน” เป็นเขาเสียเองที่พูดตะกุกตะกักทำอะไรไม่ถูกไปชั่วขณะ

“แถวๆที่นั่งดื่ม กำลังจะลงเล่นน้ำตอนเช้า ฆ่าตัวตายเพราะอกหัก ก็พอดีเจออัยบ้าสลดหดหู่ เซ็งชีวิต ไหลมาปะทะหน้าแข้งพอดี ก็เลยเตะเจ้าคนขี้เหงาลอยตุ๊บป่องอยู่ในทะเลไปสองสามที  หัวเราะให้กับความปัญญาอ่อนนั้นอีกตั้งนาน อยากมีอะไรไม่พูดออกมาบ้างนี่ เห็นเพื่อนฝูงเป็นตัวอะไรกันไปหมด...” คำพูดที่ว่าให้ทั้งเล่นและจริงจังอยู่ในที


ดายมักปิดบังความรู้สึกที่แท้จริงของตัวเองอยู่เสมอ ภายใต้ใบหน้าก็ยิ้มแย้ม แต่ในจิตใจไม่มีใครสามารถล่วงรู้ได้ว่าเจ้าตัวกำลังคิดอะไรและมีปัญหาอะไร

ปิดหูปิดตาจากผู้คนรอบข้าง เคยมองบ้างไหมว่าเขาก็คนหนึ่งที่ห่วงใยและอยากเข้าใกล้แค่ไหน

ที่เมามายคร่ำครวญก็ผสมๆกันทั้งเรื่องดายและเรื่องตัวเอง ผู้หญิงคนเดียวเขามั่นใจว่าไม่ได้ทำให้เขาโวยวายเสียใจได้เท่านี้แน่

ดายไม่เคยเปิดใจรับเขา  อย่างมากก็แค่น้องชายหรือไม่ก็เพื่อนเท่านั้น เส้นบางๆที่กั่นความรู้สึกของร่างสูงคืออะไรกัน ความรู้สึกแบ่งแยกในเรื่องเพศ? ความเป็นผู้ชายอย่างนั้นหรือ? ปิดกั้นตัวเองจากผู้ชายหรือหญิงสาวมากมายที่เข้ามาหา แล้วจะมาบ่นว่าเหงาอะไรกัน? ไม่เข้าใจ  เขามันไม่ดีพอตรงไหน? แน่ใจว่าดายสนิทกับเขาและคุยกับเขามากที่สุดแต่แล้วนี่ดูสิ ทำเรื่องแบบนี้ อาศัยโชคชะตา เชื่องมงาย กับพรมลิขิต แทนที่จะปรึกษาเขาซักคำก็ไม่มี


โทชิยะทั้งโกรธ เสียใจ และสับสนปนกันไปหมด ไม่สามารถแยกแยะได้ถูกในเวลานี้
ที่ร้องไห้เป็นเต่าเผาไปเมื่อซักครู่ก็เพราะเห็นหน้าเจ้าของกระดาษแผ่นเจ้าปัญหาหรือเพราะเหล้าเข้าปากแล้วน้อยใจกันแน่ โกรธตัวเองที่ไม่สามารถเข้าใจผู้ชายที่เรียกได้ว่าสนิทด้วยที่สุดคนนี้ได้ใช่ไหม
เสียใจกับความทุ่มเทที่ไม่เต็มร้อย ให้กับความรักของตัวเองใช่หรือเปล่า
สับสนกับความรู้สึกที่ว่าจะ ดีใจดีหรือไม่ที่เก็บเจ้ากระดาษนั้นได้ หรือว่ากำลังหวาดกลัวความสัมพันธ์ต่อไปจากนี้อย่างนั้นหรือ


ดายเงียบไปนานมากจนเขาอึดอัด  ยืนนิ่งเหมือนหุ่นไล่กาไปต่อหน้าต่อตา ดูท่าทางร่างสูงจะจริงจังต่อสิ่งที่กระทำลงไปมาก ปฏิกิริยาไม่ตอบสนองนี่คงบอกเขาได้ว่าดายคงกำลังช็อค ไม่เชื่อว่าคนที่เก็บได้จะเป็นเขาเอง แถมยังเป็นผู้ชายอีกต่างหาก ไม่แปลกที่ดายจะไม่ตกใจ ขนาดตัวเองยังตกใจเลยไม่น่าเชื่อว่าดายจะทำเรื่องพวกนี้เป็นด้วย


เขาไม่ได้ต้องการอะไรมากมาย แค่อยากรู้ว่าดายเหงามากเลยหรือ ...
อ้างว้างโดดเดี่ยว คิดว่าตัวเองอยู่แค่เพียงลำพัง ไม่มีใครพอที่จะพูดคุยเป็นเพื่อนคลายเหงาให้เชียวหรือ...
คิดว่าคนรอบข้างรวมทั้งเขาคนนี้ไม่เคยมอง ไม่เคยสนใจเข้าใจแบบนั้นหรือ...
เคยคิดรักใครบ้างหรือเปล่าดาย? เคยเปิดใจรับความรักจากใครบ้างหรือเปล่า...?


โทชิยะหันหลังกลับ เดินไปนั่งที่โซฟาฉวยเอาผ้าห่มผืนที่ดายใช้ขึ้นมาคลุมตัวเองด้วยความหนาวบ้าง เมื่อสติเริ่มกลับมาครบ เขาหยิบโทรศัพท์ของดายบนโต๊ะ กดหาหัวหน้าวง บอกเหตุผลที่ขอหยุดพร้อมดาย

ดายไม่สบาย ปากแข็งไม่ยอมบอกนาย ก็เลยโทรตามฉันมาดู คาโอรุก็ไม่ได้ว่าอะไรสั่งให้ดูแลกันให้ดีๆก็แค่นั้น


“ถึงกับต้องเตะฉันเล่นกลางทะเล...มันดูตลกมากเลยหรือท็อตจิ?” ดายตามมานั่งลงข้างๆ เอามือขยี้เส้นผมนิ่มมือของโทชิยะเล่น แต่ว่าใบหน้าไม่แสดงความรู้สึกอะไรออกมา

“ตลกมากเลยดาย!เจ้าขวดนั้นทำฉันเจ็บหน้าแข้งอยู่นานสองนาน อกหักจากแฟนไม่เท่าไหร่  แต่นี่ดันมาเจ็บหน้าแข้งเพราะขวดของนายเข้า ฉันก็เลยมีสภาพอย่างที่นายเห็นนี่ไงละ...”ร่างบางหยุดพูดหันหน้าหนีไม่ยอมสบตากับร่างสูง

..............

.................

........................

“มันเหงามากเลยหรือดาย…?”
...  ....

“ฉันไม่ดีพอที่จะอยู่เป็นเพื่อนคลายเหงา ทำให้นายสบายใจได้บ้างเลยหรือ?...”น้ำตาของเขาคลอขึ้นมาอีก

... ... ...

“รู้ไหมที่บอกว่าเจ็บใจ…ที่ร้องไห้ก็เพราะว่า...”น้ำใสๆไหลออกมาแทนคำพูดที่จะพูดออกไป ดายจับร่างบางให้หันหน้ามาคุยกัน เผลอมองใบหน้างดงามด้วยความตกใจ เอื้อมมือบรรจงใช้เรียวนิ้วเช็ดไล้น้ำตาออกให้เบาๆ กลัวว่าถ้าเขาสัมผัสถูกผิวแก้มบางใสแรงๆอาจจะทำให้ผิวละเอียดนั้นระคายเคืองได้


“เพราะอะไร....ท็อตจิ” ดีใจใช่ไหมคนที่เจอกระดาษนั้นคือโทชิยะ ไม่ใช่ใครอื่นที่ไม่เคยรู้จัก เขาควรจะดีใจที่เป็นโทชิยะถึงจะถูก

“เพราะนาย...ไม่เคยมองฉันเลยดาย...สายตานายมันไม่เคยมีเงาของฉัน ฉันมันก็ได้แค่เพื่อนร่วมวง เป็นได้แค่คนที่คอยสร้างปัญหามาให้ดายช่วยแก้ ทำได้ก็แต่เรื่องยุ่งๆ”

ยิ่งพูดนิ้วมือเรียวยิ่งเช็ดน้ำตาให้เท่าไหร่ น้ำตาเจ้ากรรมก็ไหลออกมาเท่านั้น
มันเกิดขึ้นเมื่อไหร่กัน ความรู้สึกตีบตัน คับแน่นหน้าอก แอบรักแอบชอบโดยไม่รู้ตัว
ตลอดเวลาที่ผ่านมา ได้แต่มองตามร่างสูงมาตลอด
ทุกสิ่งทุกอย่างที่ทำ เพราะอยากใกล้ชิด เรื่องทุกเรื่องที่เกิดขึ้นเพราะอยากให้สนใจ
เขาถลำตัวถลำใจคิดล้ำหน้ามากกว่าความเป็นเพื่อน....

แล้วในความใกล้ชิดสนิทสนมคุ้นเคยที่มีให้ ดายช่างไม่รู้บ้างเลยว่ามันแฝงอะไรมากกว่าที่เห็น
เขา ...เพื่อนคนนี้ มันคิดมากเกินกว่าความเป็นเพื่อนไปแล้ว

.....
....
............
( ไปอ่านต่อข้างล่างนะฮะ ยาวมากๆๆพยายามหน่อย เอาใจสู้สุดฤทธิ์ )กลัวไม่มีคนอ่าน
 :m4:
:impress3: :impress3:ถ้ามีคนรักน่ารักแบบนี้บ้างคงดี

ออฟไลน์ sang som

  • เจ็บจิต!!
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1609
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +108/-6
Re: [Fiction]...เหงาอะไรเยี่ยงนี้!!
«ตอบ #9 เมื่อ19-10-2010 17:56:12 »

เหงาๆๆๆๆๆอ่ะ
อยากมีคัยสักคนมาเอาใจหัยช่วยลดความเหงาลงบ้าง :n1:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: [Fiction]...เหงาอะไรเยี่ยงนี้!!
« ตอบ #9 เมื่อ: 19-10-2010 17:56:12 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






อมยิ้ม

  • บุคคลทั่วไป
Re: [Fiction]...เหงาอะไรเยี่ยงนี้!!
«ตอบ #10 เมื่อ21-06-2012 20:47:19 »

คนแต่งอารมณ์ดีเนาะ  ฮ่าๆๆ
เรื่องก็น่ารัก ชอบสำนวนแนวๆนี้
จะรออ่านเรื่องต่อไป ^^

Red....[em]

  • บุคคลทั่วไป
Re: [Fiction]...เหงาอะไรเยี่ยงนี้!!
«ตอบ #11 เมื่อ18-07-2012 14:34:51 »

คนแต่งอารมณ์ดีเนาะ  ฮ่าๆๆ
เรื่องก็น่ารัก ชอบสำนวนแนวๆนี้
จะรออ่านเรื่องต่อไป ^^

^O^
เจาะไข่

ขอบคุณฮะ

ฮี่ๆๆ


ออฟไลน์ NewYearzz

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2545
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +346/-2
Re: [Fiction]...เหงาอะไรเยี่ยงนี้!!
«ตอบ #12 เมื่อ19-07-2012 22:21:19 »

อ่านแล้วยิ้มแก้มแตกอ่ะ

น่ารักมากๆครับ

ขอบคุณมากนะครับ :L2: :pig4:

ออฟไลน์ arij-iris

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2922
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-5
Re: [Fiction]...เหงาอะไรเยี่ยงนี้!!
«ตอบ #13 เมื่อ10-09-2016 13:00:50 »

น่ารักๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ :ling1: :ling1:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด