@@โดยLuk {มนต์มาร} ปาจา เจ้าคุ้มสุดหล่อ VS พระลักษมณ์ สายลับหน้าใส
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: @@โดยLuk {มนต์มาร} ปาจา เจ้าคุ้มสุดหล่อ VS พระลักษมณ์ สายลับหน้าใส  (อ่าน 545924 ครั้ง)

ออฟไลน์ Wins_Sha

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 949
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +89/-4
ค้างอย่างแรงงงง


เลข 13 เกี่ยวไรด้วยอ่ะ
แถมไอ้พายุที่กำลังเกิดเนี่ยอีก
แล้วถนนกลายเป็นป่าไปได้ยังไงงงง

 :a5: :a5: :a5: :a5: :a5: :a5: :a5: :a5: :a5: :a5:

 o22 o22 o22 o22 o22 o22 o22 o22 o22 o22 o22

ออฟไลน์ rule

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 430
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +55/-2
13 lucky number ???
เลขสวยหรือเลขซวยกันแน่เนี่ย???

ออฟไลน์ skyberry

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 134
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0

zeen11

  • บุคคลทั่วไป
“รพินทร์   ผมไม่ขอโทษหรอกนะ..ขอผมจูบอีกครั้งได้ไหม?” ////////อ่านมาถึงตอนนี้ถึงกับขำก๊ากกกกก ขอกันตรงๆ อย่างนี้เลยเหรอพ่อคู้ณณณณณ จากนั้นก็รวบหัวรวบหางขอแต่งงาน เอากับเขาสิ 555+  :laugh: :laugh: :laugh:


ออฟไลน์ Ella

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 228
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-1
เลข 13 เป็นเลขของซาตาน..ใช่ปะ

งานนี้มีติดฝนแล้วความจะแตกไหมเนี่ยนว่าเป็นผู้ชายอะ....อิอิ   o18

ออฟไลน์ cavalli

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5358
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-19

ออฟไลน์ Acacha

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1645
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +81/-2
คาใจจจจจจ
ใกล้จะเฉลยแล้วววว
 :oni2:

ออฟไลน์ MiSS-U

  • {^o^} {^3^}
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4168
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2800/-11
อยากรู้รหัสลับเลข 13 จังว่ามันคืออะไรแล้วทำไมต้องแต่งงานกันด้วย

akike

  • บุคคลทั่วไป
อะไร เกิดอะไรขึ้น  จูบ ๆ แล้วแต่งเลยหรอ
เห้ย ๆ ปล้ำก่อนดิ  อิอิอิ
แล้วไอ้เลข 13 นี่มันยังไง ๆ
อยากรู้แว้ววววว

shockoBB

  • บุคคลทั่วไป
โอ้ ซับซ้อนขึ้นเรื่อยๆ
 :L2: :L2: :L2:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






lovevva

  • บุคคลทั่วไป
ลุ้นๆๆ ค่ะ ว่าเกิดอะไรขึ้น

ออฟไลน์ เฉาก๊วย

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2233
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +251/-6
เพิ่งเข้ามาอ่านเรื่องนี้ หลังจากเพิ่งตาแฉะกับน้องตะเกียง และตามกลิ่นน้องจอมมา

เรื่องนี้กลิ่นความลึกลับฟุ้งกระจายเลยทีเดียว เป็นกำลังใจให้คนเขียนนะคะ  :L2:

thevoshow

  • บุคคลทั่วไป
อยู่ๆ  ถนนก็กลายเป็นป่า   แล้วรถก็ดับสนิท  หลอนชิปหาย

กลัว

ผี
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.ทะเล

ออฟไลน์ SuSaya

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2797
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +220/-9
จะเกี่ยวกับที่ปาจาต้องลงไปหาธรรมตรัยทุกคืนรึเปล่า...ยิ่งเรื่องคดีอีก
มีมาให้ได้งงเรื่อย ๆ แต่ท่าทางต้องรีบสารภาพแล้วมั้ง คืนเข้าหอปาจาจะได้ไม่ตกใจจนโยนเจ้าสาวออกทางหน้าต่าง

ออฟไลน์ question09

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1501
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +46/-10
อุ๊ยยยๆๆ ฟ้าฝนเป็นใจรึเปล่าล่ะเนี้ย  :o8: :-[

thisispom

  • บุคคลทั่วไป
ฝนตกหนัก รถดับ แล้วจะมีกระท่อมให้ไปติดฝนด้วยกันหรือเปล่า อิๆ

ออฟไลน์ tatum1234

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 952
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-1
 :-[ ขอจูบอีกทีแล้วจะให้คำตอบ.....อ๊ากกกกชอบจริงไรจริง


 :L2:เป็นกำลังให้นักเขียนคนเก่งครับ

Chubby

  • บุคคลทั่วไป

ออฟไลน์ ChiOln

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2475
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-3
แล้วเลข 13 มันยังไงละฮะ คุณปาจา  :m28:

ออฟไลน์ TanyaPuech

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4341
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +531/-23
แต่งงานนนนนนนนนนนน


แต่งเลย  แต่ถ้าปาจารู้ว่าเป็นผู้ชายล่ะ

อยากให้พระลักษณ์ท้องได้จัง  ไหนๆก็แฟนตาซีแล้ว เอาให้สุดๆเลย

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ bennnyyy

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 791
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +57/-0
อยากรู้ค่ะ :z3: ยังไง อะไร แต่งงาน? 13? :z3:

ออฟไลน์ sam3sam

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2562
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +247/-4
อ๊าววววว ลึกลับซับซ้อนกว่าเดิมอีก :serius2:

ออฟไลน์ $VAN$

  • Moderator
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1738
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +307/-6
ย้อนไปดูตอนแรก โอ้~เปลี่ยนแล้ว รู้สึกดีมากๆ น้องLuk น่ารักจิงๆ :กอด1:
ตอง6 กับ ตอง7 เลขที่ออกงวดนี้? (ไม่เกี่ยวๆ)
จะเลขอะไร มันก็เป็นพรหมลิขิตที่ทำให้พระเอกนายเอกเราคู่กันแหละ ดีจัง :impress2:
พี่เอง เจออะไรที่เป็นเลข13บ่อยๆ ก็ไม่มีผลอะไรนะ ปกติอ่ะ
แต่แอบอยากรู้ว่าคนอื่นมีใครเจออะไรกะเลขนี้ น่าสนใจเนอะ หลอนดี

ออฟไลน์ cheyp

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1536
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +49/-0
ชักอยากรู้เหมือนกัน
ว่ามันเกี่ยวอะไรกับตัวเลข
 ลุ้นตอนต่อไป อยากรู้ว่าจะตกลงแต่งงานกันป่าว อิอิ

vi2212

  • บุคคลทั่วไป
พระลักษมณ์..อึน มึน งง :laugh:
13 อะไร ยังไง ทำไม ค้างอะ....อยากรู้้ๆๆๆ :serius2:

ออฟไลน์ Kra-Jieb

  • ชีวิตที่เลือกเอง !!!!!
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 36
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-1
 :angry2:ค้างงงงงงงงงงงงง   แล้วเลข 13 เกี่ยวไร ทำไมต้องแต่งงาน  :-[ เค้าเกิดวันที่ 4 ใช้ได้ม่ะจ๊ะ...ปาจา

ออฟไลน์ luxilove

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1042
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2415/-118
มนต์มาร
Part 10
เปิดตำนานมนต์มาร...
.
.
.
.
                     “เปรี้ยง!....ครืน!...ครืน!...เปรี้ยง!..”  ลมฝนพายุฟ้าร้องฟ้าผ่าช่างน่าสะพรึงกลัวเขย่าขวัญ

ได้บรรยากาศดีแท้   แต่ไม่สามารถสั่นคลอนความรู้สึกของรพินทร์และปาจาเลยแม้แต่น้อย    ตอนนี้ทั้งคู่ต่างเงียบอยู่แต่ในรถ

มาได้สักพักใหญ่แล้ว   หลังเครื่องยนต์ไม่ยอมทำงาน   รถดันมาจอดอยู่ส่วนไหนก็ไม่ทราบ   รอบข้างกลายเป็นป่ารกไปซะงั้น

สัญญาณโทรศัพท์มือถือก็ไม่มี...ไร้หนทางติดต่อ..ปาจาอาศัยแบตเตอร์รี่รถยนต์ที่ทำงานได้ปกติ  เปิดไฟในรถทำให้ทั้งคู่ไม่ต้อง

ตกอยู่ท่ามกลางความมืดเลยไม่แย่สักเท่าไหร่


                     รพินทร์ชำเลืองดูสีหน้าของปาจาที่นิ่งสนิท   ไม่ได้หวั่นไหวกับบรรยากาศฟ้าพิโรธบ้าคลั่งแม้แต่น้อย

นาฬิกาพรายน้ำบนข้อมือของรพินทร์บอกเวลา   11  โมงเป็นช่วงพระฉันเพลพอดี   ไม่อยากเชื่อว่าทั้งตนเองและปาจาออกจาก

เรือนไทย 9 โมง  เสียเวลาบ้าบอคอแตกมาติดแหงกอยู่กับสภาพอากาศเลวร้ายนี้  ช่างตลกสิ้นดี    ยิ่งพิศวงเข้าไปใหญ่

เวลา 11  โมงเช้า  ไหงท้องฟ้าแปรปรวนมืดตึ๊บไม่เห็นแสงเดือนแสงตะวันมืดยังกะกลางคืน  ต่อให้ฝนตกกลางวันอย่างน้อย

ก็พอให้รู้ว่านี่มันเวลากลางวัน   ไม่เหมือนกับตอนนี้กลางคืนชัดๆ  ถ้าไม่มีแสงไฟในรถแล้วหละก็   

คงได้อยู่กันแบบมืดตึดตื้อแน่นอน


                    “รพินทร์  ถามหน่อยสิ..คุณเป็นทอมตั้งแต่เด็กเลยหรือ?”  รพินทร์อึ้งแดกนั่งเงียบนิ่ง  บทพ่อจะพูด

ดันถามเรื่องส่วนตัวขึ้นมาดื้อๆ ซะงั้น    แล้วต้องตอบว่าไงเล่าเนี่ยะ    อยากบอกเหมือนกันเพิ่งเป็นเนี่ยะแหละ  ที่ผ่านมา

ก็ผู้ชายฟัดหญิงเหมือนไอ้คุณมึงแหละ..แต่คงได้แค่คิดทำได้ดีที่สุดตอบไปตามน้ำดีกว่า


                   “อืม...ถามทำไม?”   ตอบแล้วขอเหตุผลหน่อยเหอะ


                   “เคยมีอะไรกับผู้ชายมาก่อนหรือเปล่า?”  เช็ดเข้!...ไอ้เจ้าคุมหน้าเข้มมันเกิดบ้าไรเนี่ยะ   เริ่มคำถาม

ล้วงลึกเจาะข่าวเด่นหรือไง   นอกจากไม่ตอบที่รพินทร์ถามแล้วดันล้วงตับเข้าให้อีก    จะเคยมีได้ไงกันหวะ...อายุ 17 พ่อก็หิ้ว

หญิงแล้วอย่าได้แม้แต่จะคิดเรื่องมีอะไรกับผู้ชาย...


                   “เดี๋ยวๆคุณจา..คุณเป็นอะไรมากเปล่าเนี่ยะ  ทำไมถึงตั้งคำถามเรื่องส่วนตัวกันขนาดนี้   ขอเหตุผลดีดี

สักข้อได้ไหม   แล้วฉันจะตัดสินใจว่าควรตอบคำถามคุณหรือเปล่า”  ครั้งนี้รพินทร์ไม่อ่อนข้อให้  เรื่องไรจะเป็นฝ่ายให้

คุณชายน้ำแข็งตั้งกระทู้สอบปากคำอยู่ได้ฝ่ายเดียว


                  “นั่นสินะ...ผมเสียมารยาทจริงๆ   เอาเถอะคำถามที่ผมถามไปเมื่อกี้เป็นคำถามสุดท้าย   แล้วจะอธิบาย

ให้คุณฟังว่าผมมีเหตุผลอะไรถึงได้ถามเรื่องนี้กับคุณ”   ปาจาก็ยังคงเป็นปาจายังไงก็ขอขี่แต้มรพินทร์   พ่อยอดชาย

จอมเผด็จการยืนกรานให้รพินทร์ตอบคำถามก่อนที่ตนเองจะเป็นฝ่ายบอกวัตถุประสงค์การซักฟอกให้ที่หลัง   


                  “อย่าลืมทำตามคำพูดด้วยหละ...ไม่เคย!...ฉันไม่เคยมีอะไรกับผู้ชายมาก่อน”   รพินทร์ตอบเสร็จ   

ปาจายกยิ้มมุมปากก่อนจะยิ้มกว้างขึ้นมา...จนรพินทร์ขนหัวลุก...กับกริยาเปลี่ยนโหมดแบบไม่มีที่มาที่ไปของปาจา   


                   “คุณเชื่อเรื่องไสยศาสตร์มนต์ดำไหม?”  แล้วคำถามใหม่ก็ตามมา   พาเอารพินทร์อ้าปากค้าง   

จ้องกลับปาจาอย่างเอาเรื่อง   บ้าไรมาตั้งคำถามไม่จบไม่สิ้น  กลายเป็นรพินทร์ต้องเป็นลูกไล่คอยตอบตลอดงั้นหรือ   

นี่มันผิดคำพูดที่บอกชัดๆ ว่าคำถามสุดท้ายแล้วจะอธิบายไงเล่า    เหมือนปาจาจะเข้าใจสายตาเอาเรื่องของรพินทร์

รีบออกตัวทันที


                   “อย่าเพิ่งเข้าใจผมผิด   เรื่องนี้มีส่วนเกี่ยวข้องกับสิ่งที่ผมจะบอกคุณต่อไปนี้ต่างหาก   ไม่งั้นพูดอะไรไป

หากไม่รู้พื้นฐานความเชื่อของคุณแล้วก็ไม่เกิดประโยชน์”  พอปาจาพูดมาแบบนี้   แม้จะยังไม่เป็นที่พอใจของรพินทร์มากนัก 

แต่ก็บรรเทาความหงุดหงิดลงได้เยอะ   รพินทร์เลยตอบกลับไปว่า


                   “ฉันไม่ใช่คนงมงาย  แต่ก็ไม่ถึงกลับหลบหลู่   เรื่องเหล่านี้เคยได้ยินได้ฟังมาบ้าง  จะให้เชื่อก็ตอบยาก

จะไม่เชื่อก็ไม่ใช่  เอาเป็นว่าฉันฟังได้ขึ้นอยู่กับความเป็นจริง  ของแบบนี้ไม่เจอกับตัวจะมาบอกให้เชื่อคงตอบลำบาก 

เข้าใจที่พูดเนอะ”  รพินทร์ตอบอย่างเป็นกลางที่สุด   ก็มันเรื่องจริงนี่นา   เค้าถูกฝึกทางหลักวิทยาศาสตร์

ด้านเทคโนโลยีทุกแขนง   ทุกอย่างอาศัยฝีมือ  สติปัญญา  บนความจริงเป็นที่ตั้ง  ไม่เคยยึดถือเครื่องรางของขลังมาก่อน   

แต่ก็ไม่เคยหลบหลู่สิ่งเหล่านี้  อย่างน้อยครอบครัวก็นับถือพุทธ   พูดได้เต็มปากว่าศรัทธาหลักคำสอนของพระพุทธเจ้า 

แต่ไม่ได้งมงายเรื่องไสยศาสตร์


                      “เอาหละ   งั้นผมให้คุณยกมือประนมแล้วท่องนะโมตามผมสามจบ”  พูดจบไม่รอให้รพินทร์ถาม   

ปาจายกมือจรบศรีษะก่อนจะลดระดับมาที่หว่างอก   สายตาแน่วแน่ดูขลังได้อีก  จนรพินทร์จำเป็นต้องทำตาม  จากนั่นเสียงสวด

นะโมตัสสะ  ภะคะวะโต  อะระหะโต ฯ   ก็ดังขึ้นพร้อมๆ กันจากปากของหนุ่มใหญ่คมเข้ม  และทอมบอยหน้าหล่อ   ดังแข่งกับ

สายฝนที่โหมกระหน่ำยังกะเหล็กแหลมที่ต้องการแทงทะลุหลังคารถจิ๊ปก็ไม่ปาน   

                       เมื่อจบบทนะโมฯ แล้ว  ปาจาก็ท่องพระคาถาชุมนุมเทวดาโดยรพินทร์นั่งนิ่งๆพนมมืออยู่ข้างๆ   

เพราะท่องไม่เป็น   ใบหน้าที่นิ่งสนิทนัยตาหลุบหลับขนตาหนาปิดตาคมเข้ม   ในขณะที่เสียงทุ้มต่ำมีพลังกังวาลก้องแข่งกับ

สายฝนกระแทกโสตประสาทของรพินทร์เต็มสองหู   จนต้องเผลอเกร็งหลังอัตโนมัติ  เพราะรู้สึกโดยโดยสัญชาตญาณ

ว่าสิ่งที่ปาจาทำไม่ใช่เรื่องล้อเล่น   สีหน้านิ่งสงบของปาจา  มิใช่วิสัยของคนอย่างเขาต้องเอามาล้อเล่นแน่นอน...

                         ปากหนาได้รูปที่รพินทร์รู้ถึงพิษสงดี  ว่าพริ้วแค่ไหนยามเจ้าของใช้ประกบจูบ   ขมุบขมิบท่องพระคาถา

ออกมาต่อเนื่องไม่ขาดสาย


                       “สะรัชชัง  สะเสนัง  สะพันธุง  นะรินทัง   ปะริตตานุภาโว  สะทา  รักขะตูติ   ผะริต์วา  นะเมตตา 

สะเมตตา  ภะทันตา   อะวิกขิต  ตะจิตตา  ปะริตตัง  ภะณันตุ    สัคเค   กาเม  จะรูเป  คิริสิขะระตะเฏ    จันตะลิกเข  วิมาเนฯ” 

เสียงสวดพระคาถาชุมนุมเทวดา  ที่เปล่งออกมาจากปากของปาจา   กังวานในรถจนรพินทร์ซึ่งนั่งพนมมืออยู่ด้านข้างรู้สึก

ขนลุกเกลียวอย่างไม่ทราบสาเหตุ    ปาจาไม่ได้หยุดเพียงเท่านั้น   จบจากพระคาถานี้   ก็ต่อด้วยพระคาถา

พุทธคุณร้อยบททันที


                   “อิติปิโส ภะคะวา อะระหัง  สัมมาสัมพุทธโธ วิชาจาระนะสัมปันโน  สุคคะโต  โลกะวิทู  อะนุตตะโร ฯ” 

เสียงสวดทำนองเสนาะที่ต่อเนื่องทุ้มต่ำสลับกันไปมา  เกาะกุมจิตใจคนฟังให้รู้สึกอยู่ในสถานการณ์ที่ยากจะบรรยาย  ในขณะที่

สภาพอากาศโดยรอบ   ฝนยังคงโหมกระหน่ำลมยังกรรโชกหวีดหวิวเสียงบาดแก้วหู   ปาจาจบพระคาถาบทสุดท้ายด้วย

พระคาถาชินบัญชร  ของสมเด็จฯพุฒาจารย์โต   พรมรังษี  แห่งวัดระฆังโฆสิตาราม


                    “ชะยาสะนากะตา พุทธาเชตะวา มะรัง สะวาหะนัง  จตุ  สัจจา  สะพัง  ระสังเย  ปิวิสุง  นะราสะภา ฯ “ 

ช่างน่าแปลกมหัศจรรย์ยิ่งนักสำหรับรพินทร์  เพราะหลังจากปาจาสวดพระคาถาชินบัญชรจบลง   ฝนฟ้าลมพายุบ้าคลั่ง

ก็หยุดตามทันที    ความมืดมิดของบรรยากาศโดยรอบยังไม่หายไป   กลายเป็นว่าไม่มีฝน  ไม่มีฟ้าร้อง  ไม่มีลมพายุ 

ทุกอย่างสงบลงในที่สุด   ท่ามกลางความมืดที่ปกคลุมเหมือนเดิม   


                       ก่อนที่ปาจาจะค่อย ๆ ลืมตาขึ้นยกมือจรดศรีษะ  แล้วค่อยลูบหัวลงช้าๆ  ซึ่งรพินทร์ก็ทำตาม

โดยไม่ต้องให้บอก   ปาจาลองสตาร์ทรถ   เครื่องยนต์กลับมาทำงานอีกครั้ง   เสียงดังกระหึ่ม


                       “บรื้น!...บรื้นๆๆๆๆ!.”  ปาจาติดเครื่องไว้เฉยๆ ไม่ออกรถทำให้รพินทร์เลิกคิ้วอย่างสงสัย 

แม้แสงไฟหน้ารถจะฉายให้เห็นว่าตอนนี้ทั้งคู่อยู่ท่ามกลางป่าไม่ใช่ถนนลูกรังเหมือนตอนที่ขับกันมา   อดไม่ได้จึงถามทันที


                       “รถสตาร์ทติดแล้วนี่   ทำไมคุณไม่ขับพาเราออกจากป่านี่หละ  คุณเป็นเจ้าถิ่นขับอีท่าไหน

เข้ามาอยู่กลางป่าได้เนี่ยะ”  รพินทร์พูดจบ  ปาจาหันมาจ้องตอบนิ่งๆ  ก่อนจะพูดขึ้นว่า






ต่อด้านล่าง
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 31-08-2011 17:58:20 โดย luxilove »

เจริญพร

  • บุคคลทั่วไป




:duck1: มาคั่นระหว่างตอนให้น๊า
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 31-08-2011 15:50:46 โดย เจริญพร »

ออฟไลน์ luxilove

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1042
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2415/-118
-  2  -




                 “ที่ผมถามคุณค้างไว้   ว่าคุณเชื่อเรื่องไสยศาสตร์มนต์ดำหรือเปล่า   นี่คือเหตุผลที่ผมจะบอก

ให้คุณฟัง...ตอนนี้เรายังไปจากที่นี่ไม่ได้   เดี๋ยวผมจะบอกว่าเพราะอะไรฟังผมให้จบก่อน”  แล้วปาจาก็เริ่มเล่าให้ฟัง  เรื่องที่เล่า

ช่างน่าสนใจเป็นอย่างมาก   ทั้งเหลือเชื่อแทบไม่น่าเชื่อแต่ก็ไม่สามารถโต้แย้งเช่นกัน


                “ปู่ของเราเดินทางพร้อมลูกหาบไม่น้อยกว่ายี่สิบคนมาที่นี่  เพื่อค้นหาบ่อพลอยตามลายแทงที่ตกทอด

จากปู่ทวด  ซึ่งท่านสำรวจมาตลอดแต่ไม่สำเร็จก่อนจะเสียชีวิตลงด้วยไข้ป่า   ย้อนไปเมื่อห้าหกสิบปีที่ผ่านมาคุ้มดงพญา

ยังเป็นป่า   หนึ่งในทีมค้นหามีพรานวาโยเป็นคนนำทาง...เป็นจอมขมังเวทย์ทางไสยศาสตร์เป็นคนทำพิธีเปิดป่า โดยปู่เรา

ให้ค่าจ้างแบบเหมาจ่ายทั้งคณะ  ตอนนั้นพ่อของผมเพิ่งจะ 7  ขวบ  คุณอาไพรภพพ่อของคุณเพิ่งจะ 5 ขวบ    ทั้งสองท่าน

ไม่ได้มาด้วย..นอกจากนั้นยังมีพรานธรรมรัตน์ซึ่งเป็นปู่ของธรรมตรัย  เป็นเพื่อนสนิทของพรานวาโยและเคารพปู่ของเรามาก.

ซึ่งท่านพอมีวิชาอาคมด้วยเช่นกัน   แต่ไม่ได้ขมังเวทย์เหมือนพรานวาโย   เรียกได้ว่าระดับอาจารย์กับลูกศิษย์เลยก็ว่าได้


                 คณะสำรวจเดินทางมาถึงที่นี่   ได้พบบ่อพลอยตามลายแทงบอกทุกอย่างบนเนินเขาท้ายไร่   

เมื่อพบสมบัติความโลภก็บังเกิด    พรานวาโยกับพวกลูกหาบครึ่งหนึ่งต้องการหุบไว้ซะเอง  เลยวางแผนกำจัดปู่ของเรา   

อาศัยวิชาไสยดำคุณไสยมนต์มารพวกเดรัจฉานวิชาเล่นงานคุณปู่กับพวกลูกหาบ  ลูกหาบล้มตายไม่เหลือ  ที่รอดมามีเพียง

คุณปู่กับพรานธรรมรัตน์  ซึ่งอาศัยพุทธคุณของเครื่องรางจากพรานธรรมรัตน์ป้องกันและพาปู่หลบซ้อน   แต่ก็ไม่สามารถหนี

ออกจากป่า  จนเสบียงหร่อยหรอลงเรื่อยๆ  ผ่านไปกว่าสัปดาห์ 


                 พรานธรรมรัตน์ไม่มีทางเลือก  หากจะพาท่านปู่ออกไปอย่างปลอดภัยก็ต้องฆ่าพรานวาโยให้ได้เสียก่อน

ตำราต้องห้ามของพรานธรรมรัตน์จึงได้ถูกนำมาใช้   มันเป็นเดรัจฉานวิชาเช่นกัน   เพียงแต่มันเป็นสิ่งที่ไม่ควรใช้เป็นอย่างยิ่ง

สำหรับคนที่มีคาถาไม่แข็งพอ   แต่เมื่อไม่มีทางเลือกพรานธรรมรัตน์ก็ตัดสินใจใช้มันจนได้


                คาถานี้เรียกว่ามนต์มาร  คนใช้คาถาต้องลงทุนเอาตนเองสมสู่กับสัตว์เดรัจฉานโดยใช้คาถาสะกดสัตว์นั้นไว้

แล้วทำการสมสู่ในคืนเดือนดับคือวันที่พระจันทร์มืดสนิท   แล้วให้ลงมือสังหารสัตว์ชนิดนั้น  พร้อมกับดื่มเลือดของมัน

เป็นการสูบวิญญาณของมันด้วย


                    ผู้ที่ทำพิธีนี้จะมีพละกำลังเหมือนสัตว์ชนิดนั้น   ที่สำคัญจะกระหายการเข่นฆ่าและการสมสู่ยากที่จะ

ควบคุม  โดยเฉพาะต้องกลายร่างครึ่งคนครึ่งสัตว์   พรานธรรมรัตน์ทำพิธีสะกดหมีควายตัวหนึ่ง    เป็นหมีตัวเมียตัดสินใจสมสู่

กับหมีแล้วจัดการฆ่ามันอย่างเลือดเย็นก่อนจะดื่มเลือดหมีตามในที่สุด   


                      พ้นคืนนั้นมานอกจากพรานธรรมรัตนซึ่งกลายเป็นเดรัจฉาน  กลับมีความต้องการสมสู่ต่อเนื่อง

ในช่วง 3  วันแรก  คงเพราะตนเองคาถาไม่แข็งพอที่จะความคุมจิตมารในร่าง   และคนที่ต้องมารองรับอารมณ์ใช้เป็นที่ระบาย

ของพรานก็คือคุณปู่ของเรา


                       ปู่ไม่มีทางเลือก  ต้องกลายมาเป็นคนปลดปล่อยพลังทางเพศของพรานธรรมรัตน์ติดต่อกัน

ถึงสามวันสามคืนโดยหารู้ไม่ว่า   บุคคลที่สมสู่กับพรานธรรมรัตน์ในร่างแปลงแล้วไม่ถูกฆ่า...ต้องกลายเป็นทายาทสืบทอด

มนต์มารโดยไม่รู้ตัว    เดรัจฉานครึ่งหมีครึ่งคนไล่ฆ่าพวกลูกหาบและพรานวาโยจนตายหมด   พรานธรรมรัตน์พาปู่รอดชีวิต

ออกมาก่อนจะพัฒนาที่นี้กลายเป็นคุ้มดงพญาขึ้นมาในที่สุด   


                    โดยมนต์มารที่ติดตัวทั้งสองท่านไม่สามารถแก้ไขได้   คุณอาไพรภพรู้เรื่องนี้และยอมรับไม่ได้ 

จึงหนีไปอยู่ต่างประเทศ  ส่วนคุณพ่อของผมท่านไม่สามารถทิ้งคุณปู่ไปได้ต้องยอมอยู่ที่นี่   ใช้วิธีกักขังคุณปู่ก่อนคืน

พระจันทร์ดับ  ไว้ที่ห้องลับใต้ดินแทน   เพื่อไม่ให้ท่านออกไปทำร้ายใคร   


                   หลังจากพ่อผมแต่งงานกับแม่จนทั้งสองมีผม  ซึ่งเกิดในวันที่ 6 เดือน 6 วันศุกร์  เวลา 6 โมงเช้า 

เป็นคนที่สามารถล้างมนต์มารท่านปู่ได้  แต่ต้องรอให้เจอคนที่เกิดวันที่ 7 เดือน 7 วันเสาร์  เวลา 7 โมงเช้าแล้วร่วมประเวณี

กันตามพิธีของไสยศาสตร์เสียก่อนถึงจะสามารถล้างอาถรรพ์ของมนต์มารได้   


                     เว้นห่างห้าปีก่อนแม่จะท้องกายันต์  ในคืนพระจันทร์ดับ  แม่ผมซึ่งไม่รู้ความลับนี้มาก่อนถูกคุณปู่

ข่มขืนจนตั้งท้องกายันต์   กายันต์คือลูกของคุณปู่ไม่ใช่ลูกพ่อเพียงแต่เราแม่เดียวกัน   ความลับของการล้างอาถรรพ์

มนต์มารนั้น   มีอีกวิธีคือคนที่ได้สมสู่แล้วรอดชีวิตเพราะเดรัจฉานไม่ฆ่า  จะสามารถกลับมาฆ่ามันได้แต่ต้องในขณะที่

กำลังสมสู่กันเท่านั้น   


                      หลังจากคลอดกายันต์แม่ซึ้งไม่เหลือศักดิ์ศรีของตนเองจึงตัดสินใจใช้ตัวเองจัดการกับคุณปู่

ระหว่างที่ทั้งคู่กำลังมีอะไรกัน   แม่ฆ่าปู่กับมือก่อนจะฆ่าตัวตายตาม...พ่อเสียใจมากถือว่านี่คือคำสาปที่ตระกูลเรา

ต้องแก้ไขให้ได้  ก่อนจะตรอมใจตายอีกสองปีถัดมา  เหลือนมอ่อนเลี้ยงดูพวกเรามาตลอด


                    เนื่องจากพรานธรรมรัตน์เป็นผู้มีอาคม  และเป็นปฐมบทของมนต์มารหัวใจของคุณเค้าคือสิ่งสำคัญ

ที่ใช้ล้างอาถรรพ์ด้วย  พอกลับออกมาแล้วท่านก็เก็บตัวฝึกวิชาเพื่อหาวิธีกำจัดจิตมารในร่าง   หายไปเกือบยี่สิบกว่าปี...

ท่านจึงปรากฎกายอีกครั้งและแจ้งกับพวกเราว่า   วิธีจะแก้คำสาปให้หายขาดคือ   ต้องได้น้ำรักของคนที่เกิดวันที่ 7  เดือน 7 

วันเสาร์  เวลา 7 โมงเช้า  กับคนที่เกิดวันที่ 6 เดือน 6  วันศุกร์  เวลา  6  โมงเช้า  ซึ่งเลขแต่ละคนนำมาบวกกันได้เลข 13 

เป็นเลขแห่งซาตาน  จอมมารที่สามารถล้างอาถรรพ์ของมนต์มารได้เท่านั้น   ให้นำมาแช่หัวใจกับต้นแบบสัตว์มารตัวแรก

ผสมกับน้ำให้คนที่มีจิตมารอาบในคืนพระจันทร์ดับถึงจะแก้คำสาปได้ 


                          ทีนี้เข้าใจหรือยัง  ว่าทำไมผมถึงต้องให้รพินทร์แต่งงาน”  เรื่องที่ปาจาเล่าให้ฟังทั้งหมด   

เป็นสิ่งที่รพินทร์ไม่อยากจะเชื่อ  แต่แววตาของปาจาที่ถ่ายทอดมันไม่เหมือนล้อเล่น  ที่สำคัญปาจาไม่จำเป็นต้องกุเรื่องเหล่านี้

ขึ้นมาเพื่อแต่งนิยายปะรำปะราหลอกรพินทร์มันไม่มีความจำเป็น   รพินทร์จึงตั้งคำถามทันที


                      “การตายในรอบหกเดือนที่เกิดขึ้น  ฆาตกรเป็นใครคุณจารู้ใช่ไหม  เพราะหลังข่มขืนเหยื่อฆาตกร

ฆ่าทิ้งทุกราย  ไม่ว่าจะหญิงหรือชาย  คุณบอกได้ไหม?”  รพินทร์ยิงเข้าประเด็นทันที  ปาจาตอบกลับมาว่า


                   “เรื่องนี้ผมไม่รู้จริงๆ   กายันต์ได้รับการถ่ายทอดมนต์มาร  แต่ทุกคืนเดือนดับกายันต์จะถูกขังไว้ใน

ห้องลับใต้ดินภายในคุ้ม  ไม่เคยได้ออกมาอาละวาด   ดังนั้นไม่ใช่กายันต์แน่นอนผมรับประกัน”   ปาจายืนยันหนักแน่น   

รพินทร์จึงถามต่อ


                  “ไม่ใช่กายันต์  แสดงว่ามีตัวอื่นอีกหรือไง” 


                  “ธรรมตรัยเป็นหลานชายของพรานธรรมรัตน์  ที่เข้ามารับใช้ในคุ้มของเรา   เป็นพี่เลี้ยงกายันต์และดูแล

เรื่องนี้ให้กายันต์มาโดยตลอด   ธรรมตรัยบอกว่าก่อนปู่คือพรานธรรมรัตน์จะทำลายตนเองด้วยการควักหัวใจได้บอกไว้ว่า   

พลังมารที่เกิดจากมนต์มารของปู่สังหารพรานวาโยไปนั่น   จิตมารของพรานวาโยไม่ได้ดับไปกับสังขาร   มันได้ซ้อนตัวอยู่

กับทายาท   แต่จิตมารต้องเลี้ยงตัวเองจนถึงอายุ 25  เบญจเพศแล้วถึงจะสำแดงตัวออกมา...ดังนั้นฆาตกรที่ฆ่าคนติดต่อกัน

มานั่น   พวกเราเชื่อว่าคือจิตมารตัวที่ว่านี้


                        จิตมารตัวนี้ไม่ได้เป็นสายเลือดบริสุทธิ์ไม่สามารถถ่ายทอดให้ใครต่อได้อีก   รวมทั้งการสืบสันดาน

ทางพันธุ์กรรมก็ไม่สามารถเช่นกัน  ต่างกันตรงที่มันมีพลังไสยศาสตร์กล้าแข็ง..เนื่องจากเกิดจากดวงจิตของจอมขมังเวทย์

อย่างพรานวาโย   


                       ซึ่งผมเชื่อว่ามันอยู่แฝงตัวอยู่ในคุ้มดงพญานี่แหละ  แต่เราไม่รู้ว่ามันเป็นใคร”  ยิ่งปาจาพูด 

รพินทร์ยิ่งเครียดเข้าไปใหญ่กับสิ่งที่ได้รับรู้  สรุปกายันต์คือทายาททุกคืนวันพระจันทร์ดับต้องตกอยู่ในสภาพครึ่งคนครึ่งหมี 

มนตร์มารของกายันต์เป็นสายเลือดบริสุทธิ์สามารถถ่ายทอดได้  แต่ทายาทต้องเป็นผู้ชายเท่านั้น   ถ้างั้นที่กายันต์นอนกับสิตา

ปาจาจะรู้หรือไม่


                   “คุณรู้หรือเปล่าเรื่องความสัมพันธ์ของคุณยันต์กับคุณสิตา” 
 

                   “ผมรู้ทั้งสองมีความสัมพันธ์มานานแล้ว   แต่ที่ผมไม่กังวลเพราะสิตาไม่สามารถท้องได้  เธอผ่าตัด

มดลูกทิ้งก่อนมาอยู่ที่คุ้มเสียอีก   อีกอย่างสิตาเป็นผู้หญิงต่อให้กายันต์ละเว้นก็ไม่ตกเป็นทายาทของมนต์มาร  นอกจากสิตา

จะฆ่ากายันต์ในขณะที่กำลังมีอะไรกัน  ซึ่งเธอไม่ได้ทำเพราะเธอไม่รู้เกี่ยวกับความลับนี้”  รพินทร์ได้คำตอบ  แต่ยังไม่หมด

ข้อสงสัย  จึงตั้งคำถามต่อทันที  ในเมื่อมีโอกาสให้ปาจาตีแผ่เรื่องราวเหล่านี้แล้ว  คงไม่ใช่เรื่องง่ายๆเลย ที่เจ้าคุ้มจะยอม

ง้างปากให้เหมือนตอนนี้ 


                 “แล้วคุณกับธรรมตรัยหละ   พวกคุณเป็นคู่รักหรือคู่ขา”  พอรพินทร์ถามออกมา   ปาจาหัวเราะขำ

ก่อนจะเลิกคิ้ว   แล้วพูดว่า


                “ผมกับธรรมตรัยเราไม่ได้เป็นอะไรกันทั้งนั้น    ในห้องธรรมตรัยคือทางเข้าไปห้องลับที่ใช้กักขังกายันต์

ก่อนคืนพระจันทร์ดับ   ธรรมตรัยเค้าชอบกายันต์  แต่ไม่สามารถแสดงความรักกันได้  มันเสี่ยงต่อการที่ธรรมตรัยจะตกเป็น

ทายาทมนต์มารเพราะเค้าเป็นผู้ชาย  ผมไม่ใช่เด็กน้อยจะได้ดูความรู้สึกใครไม่ออก”  พอฟังแบบนี้รพินทร์หน้าแดงทันที   

แสดงว่าปาจาไม่ใช่คนโง่ผู้ชายคนนี้ฉลาดเกินกว่าที่ใครจะคาดคิด   เมื่อถึงขั้นนี้รพินทร์อดไม่ได้ต้องถามให้หมดเปลือกทันที


               “เหตุผลที่คุณขอฉันแต่งงาน  เพื่อที่จะเอาน้ำรักของเราทั้งคู่ไปผสมกับหัวใจของพรานธรรมรัตน์ที่ธรรมตรัย

เก็บรักษาไว้  เพื่อทำพิธีให้กายันต์อาบล้างอาถรรพ์มารในตัวยังงั้นหรือ”   




ต่อด้านล่าง

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 31-08-2011 18:01:57 โดย luxilove »

เจริญพร

  • บุคคลทั่วไป
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 31-08-2011 16:22:14 โดย เจริญพร »

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด