@@โดยLuk {มนต์มาร} ปาจา เจ้าคุ้มสุดหล่อ VS พระลักษมณ์ สายลับหน้าใส
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: @@โดยLuk {มนต์มาร} ปาจา เจ้าคุ้มสุดหล่อ VS พระลักษมณ์ สายลับหน้าใส  (อ่าน 546107 ครั้ง)

ออฟไลน์ zaszaq

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 234
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-4

ออฟไลน์ jing_sng

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 761
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-1
ในที่สุดพ่อคนน้องก็บอกความนัย(ที่เก็บไว้ในใจคนเดียว) ซะทีว่ารักอีกฝ่ายมาแต่แรก
ไม่รู้อ่านตกไปไหมว่า เค้าได้บอกรักธรรมตรัยไปบ้างไหมหว่า ตอนนี้ก็มีแต่เรียกเลือดซะด้วยสิ
อ่านนิยายไปเล่นเฟสบุคส์ไป ได้อารมณ์ดีแท้

ส่วนนี้ ของแสดงความคิดเห็นในการเขียนสักกะนิด
อ้างถึง
สิช่างเป็นภาพการสนทนาที่ทำเอาออฟฟิศกลางไร่คละคลุ้งไปด้วยกลิ่นอายสีชมพูจนพนักงานในห้อง
ในความรู้สึกส่วนตัวคำนี้มันให้ความรู้สึกไม่ค่อยโสภาเท่าไหร่ ส่วนตัวจริงๆ นะคะ

the_pupae

  • บุคคลทั่วไป
 :m25:หมดแรงแทนเลยทีเดียว

ออฟไลน์ Meen_Emp

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 447
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +22/-2
หลงรักตรัย เกินกว่าจะถอนตัว....

ออฟไลน์ ordkrub

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4157
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +341/-12
เลือดกำเดากระฉูด!!!!!

ออฟไลน์ koikoi

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3861
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +311/-13

ออฟไลน์ sanri

  • เวลาไม่ใช่ตัวพิสูจน์ทุกสิ่งเสมอไป
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1553
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-9
 :haun4: หวานกันซะม๋ามีอ่ะ
ตายสนิทเลยจ้า คนแต่งจ๋า :-[

Mio

  • บุคคลทั่วไป
สามคำให้ตอนนี้>>> ขอ เลือด หน่อย  :jul1:

ออฟไลน์ April❤

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 456
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-2
คุณเลขาน่ารักมากกกก :-[



ออฟไลน์ loveview

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1912
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +87/-10
เปลี่ยนจากมนต์มารเป็นมนต์รักได้ไหมคะ รู้สึกว่าพักนี้น้ำตาลจะขึ้นหน้าทำให้เลือดซูบแรงขึ้น
ทำให้หน้าจะแตกค่ะ โอ๊ย!!!!!!

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ pare_140

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1192
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-6

ออฟไลน์ agava1313

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1060
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +43/-5
อ๊อก..............อ่านแล้วจมคากองเลือด

Meryl Streep

  • บุคคลทั่วไป
เขินแทนคุณตรัย :o8: :-[ :jul1:
มาต่อไว ๆ นะคะ   o18

ออฟไลน์ Noi

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 655
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-2
เข้ามาช่วยดันตกไปเยอะเลย :เฮ้อ:

ออฟไลน์ away3g

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 538
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +91/-1
 :sad4: ยังไม่มาต่อเหรอครับ   รออออออออออออออ

ออฟไลน์ luxilove

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1042
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2415/-118
@@@  แจ้งข่าว....ดี!!!!

การจัดรวมเล่มไตรภาคย์งานเขียนเรื่อง  ตะเกียงพิเศษ...จอมใจนักเลง...เหยี่ยวหัวใจ  เป็นบล๊อคเซ็ทรวมไตรภาคย์

ทั้งหมดสามเรื่อง เปิดจองได้แล้วค่ะ  แต่!..ยังไม่เปิดโอน จะเปิดโอนต้นเดือนกุมภาพันธ์  ปีหน้า
 
ที่แจ้งให้จองก่อน  เพราะท่านที่ลงชื่อจอง  150  คนแรก  ตอนเปิดโอนท่านยังยืนยันการโอนสั่งซื้อ

ท่านจะได้รับหนังสือแถมเรื่อง 'เทพพิทักษ์ขุนทัพ' ฟรี!..อีกหนึ่งเรื่อง โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายสำหรับเรื่องนี้

สนใจส่งเมลล์  มาจองได้ที่  luxilove_19690 แอท hotmail ดอท Com  ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป

ส่วนท่านที่สนใจเฉพาะเรื่องไม่เอาเป็นไตรภาคย์  ไม่ต้องถามนะคะว่าแยกซื้อได้ไหม  ได้อยู่แล้วคะ

ตอนนี้แค่เปิดจอง  ให้นักอ่านที่ต้องการเก็บหนังสือไตรภาคย์นี้ไว้  ได้ลงชื่อจองเข้ามา

ปล1.ทุกเรื่องจะมีตอนพิเศษ  แถมในเล่มเรื่องละ  2  ตอน  ซึ่งไม่โพสฯลงในกระทู้นิยาย

เก็บตังค์หยอดกระปุกได้เลย   จะนำรูปเล่มและข้อมูลที่เหลือมาแจ้งให้ทราบเป็นระยะ  คอยติดตามด้วยนะคะ

ปล2. สำหรับวันเปิดโอน คนที่ได้สิทธิ์  1 ใน  150  คน  แล้วไม่โอน 

จะเลื่อนสิทธิ์นั้นให้กับคนโอนที่ไม่ได้สิทธิ์ไล่ไปตามลำดับจนครบ  150  คนแรก  ค่ะ   

เพราะฉะนั้นตอนนี้รับจองไปเรื่อยๆ  ท่านสามารถส่งเมลล์มาจองได้ตลอดนะคะ 

คนเขียนจะตอบเมลล์แจ้งเลขลำดับให้ท่านทราบทุกเมลล์ค่ะ

Luk.   :pig4:




มนต์มาร
Part 25
น้ำตาองค์นารายณ์

.
.
.
.
.
                   “แน่ใจทำตามนี้ ไม่เปลี่ยนใจจริงดิ?” 

                  พระลักษมณ์ย้ำกับปาจาอีกครั้ง หลังจากทั้งคู่อยู่กันตามลำพังในห้อง
   

                  “หึหึ..คิดว่าผมเป็นคนใจโลเลหรือเปล่าละ?”

                  ปาจาไม่ตอบหัวเราะในคอแทน  หนำซ้ำถามพระลักษณ์กลับแบบทีเล่นทีจริงซะงั้น   เพื่อคลายเครียดลงบ้าง 
                 

                 ปีศาจรูปงามไม่ต้องการให้คนรักหน้าใสต้องเป็นกังวลมากนัก  แม้จะรู้ว่าสิ่งที่ตนตัดสินใจเอาตัวเป็นเป้า

ล่อจิตมารให้มุ่งมาหาตนนั่นดูเสี่ยงมากก็เถอะ แต่ปาจาเลือกเป็นคนเสี่ยงเสียเองดีกว่า ถ้าหากคนอื่นต้องพลอยมารับเคราะห์

ด้วยแล้วละก็ ที่สำคัญจิตมารสิตาต้องการตนเพื่อช่วยเพิ่มพลังมารเหตุผลข้อนี้ต่างหากที่ทำให้ปาจาไม่สามารถหาวิธีเหมาะสม

ได้อีกแล้ว


                “คุณกำลังล้อเล่นกับมัจจุราชอยู่รู้ตัวไหม  ผมปะทะฝีมือกับสิตามาแล้ว  ทำไมจะไม่รู้ว่าเธอแข็งแกร่ง

มากแค่ไหน  ต่อให้เป็นคุณก็ไม่ใช่คู่มือเธอหรอก  ทำไมเราไม่ล่อเธอมาแล้วยิงด้วยกระสุนเงินนัดสุดท้ายเสียให้สิ้นเรื่อง 

แค่นี้คุณก็ไม่จำเป็นต้องเข้าใกล้เธอด้วยซ้ำ”  พระลักษมณ์ไม่ได้รู้สึกขันไปกับปาจาที่พยายามทำให้มันตลกเลยสักนิด 

ตรงข้ามกับเครียดและจริงจังยิ่งกว่าเดิมเสียอีก  ตอนนี้คิดเพียงอย่างเดียวว่าทำยังไงให้ปาจาเปลี่ยนความตั้งใจ 

เพราะเหลือเวลาไม่ถึงชั่วโมงแล้วด้วย  ปาจากับตนก็ต้องออกไปเป็นเป้าล่อสิตาถึงกลางทุ่งบริเวณใต้ต้นไม้สถานที่ทั้งคู่

เดทกันครั้งแรกและปาจาขอพระลักษมณ์เป็นแฟนนั่นแหละ  ดันใช้สถานที่แห่งความทรงจำเป็นจุดล่อจิตมารออกมาจัดการเสียนี่


               พระลักษมณ์ถามถึงเหตุผลเหมือนกันว่าทำไมปาจาถึงเลือกสถานที่ตรงนี้   ปาจากลับตอบว่าเพราะที่นี่

เป็นทุ่งโล่งไม่มีมุมอับ  สิตาไม่ใช่คนโง่ที่จะไม่ระวังว่าปาจามาเพียงลำพังหรือเปล่า  เหนือสิ่งอื่นใดคือห่างไกลบ้านคนงาน

จะได้ไม่มีใครเดือดร้อนหากเกิดการผิดพลาดขึ้น  อย่างน้อยสิตาไม่สามารถทำร้ายคนอื่นได้


               “ฟังผมนะพระลักษมณ์” 

               ปาจาหันมาจ้องสบตากับพระลักษมณ์นิ่งไม่มีแววตาล้อเล่นแล้ว  ในเมื่อรู้ว่าพระลักษมณ์กังวลแค่ไหน

ร่างโปร่งหน้าใสคิ้วขมวดมุ่นจ้องรอฟังปาจาจะพูดอะไร


               “ใช่ผมไม่รู้ว่า จิตมารตอนนี้ฝีมือกล้าแข็งเกินที่จะรับมือได้  ผมก็คงลูกไก่ในกำมือเธอ  หากต้องการล่อ

เธอออกมาแล้วยิงด้วยกระสุนเพียงนัดเดียว  ถ้าเกิดพลาดเหมือนที่ผมยิงมันในถ้ำเสียกระสุนฟรีไปถึงสี่ลูกละ  คุณเห็นแล้วนี่

จิตมารว่องไวแค่ไหน  เราจะแน่ใจได้อย่างไรว่าจะไม่พลาดอีก           

               ที่ผมยอมเสี่ยง อย่าลืมสิว่าผมจะรอดหรืออาจกลายเป็นทาสของมันไปตลอดกาลหรือไม่  ขึ้นอยู่กับคุณ

ต่างหาก  ถึงแม้ผมจะเอาตัวเข้าเสี่ยง  แต่ต้องอาศัยคุณที่จะจัดการเรื่องนี้ให้มันจบลง  ร่างแฝงแห่งองค์นารายณ์หนึ่งในสามเทพ

ที่ยิ่งใหญ่  เทพเจ้าแห่งการทำลายร้างปีศาจสิ่งชั่วร้าย  เหมือนฉายาคุณไง ‘วิษณุทรงพล’  ถึงเวลาแล้วที่คุณจะทำลายมารร้าย

ที่ถูกปลุกจากขุมนรกให้สิ้นซาก  ถ้าคุณยังมัวแต่กังวลแบบนี้   ชีวิตผมยิ่งอันตรายมากขึ้น  เอาล่ะรับสิ่งนี้ไปครับ”  พูดจบปาจา

ล้วงหลังเอวดึงปืนพกประจำตัวที่บรรจุกระสุนเงินในรังเพลิงไว้เรียบร้อยยัดใส่มือพระลักษมณ์โดยไม่รอให้คนรักพูดอะไรอีก 

พร้อมส่งสายตายืนยันคำพูดอีกครั้ง


                 “ผมไม่มั่นใจ  ยอมรับว่าตั้งแต่ทำงานมา  เสี่ยงตายไม่รู้กี่ครั้ง  ผมไม่เคยกังวลเท่าครั้งนี้มาก่อน   

บอกตามตรงผมไม่อย่างเสี่ยง  ตกลงมันไม่มีวิธีที่ดีกว่านี้แล้วใช่ไหม?”  ปาจามองแววตาที่ฉายความกังวลชัดเจนในตากลมโต

ของพระลักษมณ์  โดยเข้าใจถึงสาเหตุที่พระลักษมณ์ขาดความมั่นใจ  เพราะตนนั่นเอง  นี่สินะเค้าถึงห้ามไม่ให้หน่วยพิเศษ

มีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับเพื่อนร่วมทีม  มันจะกลายเป็นปัญหาขึ้นมาทันที  เมื่อต้องทำงานด้วยกัน   สำหรับพระลักษมณ์ตอนนี้

แทบไม่ต้องค้นหาคำตอบด้วยซ้ำ  หากเปลี่ยนจากปาจาเป็นคนอื่นละก็พระลักษมณ์คงสบายใจที่จะจัดการสิตา

ได้อย่างไม่ต้องมัวพะวงแน่นอน 


                   “ผมรู้ครับผมรู้..เกี่ยวกับสิ่งที่คุณกังวล แต่ขอร้องล่ะ  นอกจากคุณแล้วไม่มีใครสามารถรับหน้าที่

สำคัญนี้ได้แล้ว  ฟ้าส่งคุณกับผมมาเพื่อจัดการปัญหานี้ตั้งแต่ต้น  เราไม่มีทางเลี่ยงครับพระลักษมณ์  เพราะงั้นสิ่งที่คุณควรทำ

คือรวบรวมสติตั้งสมาธิจดจ่อกับภารกิจที่จะต้องจัดการข้างหน้าต่างหาก ผมเชื่อว่าคุณต้องทำได้”   ปาจาพูดให้กำลังใจ

พร้อมสร้างความมั่นใจให้คนรักไปด้วย   


                    พระลักษมณ์เอาแต่จ้องหน้าคมเข้มของปีศาจรูปงามไม่กระพริบ ก่อนที่ปาจาจะคาดคิดแขนเรียวแกร่ง

ก็เหนี่ยวคอของตนลงมา  พร้อมกับริมฝีปากสีสดตามประกบจูบลงบนปากหนาได้รูปทันที จากนั้นทั้งคู่ต่างตอบสนองกันและกัน 

แขนแข็งแรงของปาจารวบกอดร่างพระลักษมณ์เข้ามาจนชิด  พร้อมกับมือหนาจับท้ายทอยร่างโปร่งให้แหงนรับจูบดูดดื่ม

อย่างอ่อนโยน  เป็นครั้งแรกที่พระลักษมณ์เลือกทำตามความต้องการของหัวใจ  ซึ่งตนไม่สามารถปฏิเสธได้เลยว่า 

ความกังวลทั้งหลายนั่น  เกิดขึ้นเพราะตนหลงรักปีศาจตนนี้แล้วเต็มเปา 


                 นี้ต่างหากที่ทำให้ความมั่นใจในการจัดการภารกิจของตนไม่เต็มร้อย  ผิดพลาดเพียงนิดเดียวเท่ากับชีวิต

ของปาจาอยู่ในเงื้อมมือมัจจุราชทันที จูบนี้จึงแทนความรู้สึกทั้งหมดที่ต่างฝ่ายต่างถ่ายทอดแทนคำพูด  ใช้เวลาเนิ่นนาน

พอสมควรถึงได้ถอนริมฝีปากออก  ในขณะที่หน้าผากของทั้งคู่ยังชนกันอยู่  ปล่อยลมหายใจเป่ารดใส่กันอย่างอ้อยอิ่ง 

ถึงได้ยอมผละห่างออกช้าๆ


                    พระลักษมณ์พยายามที่จะคืนแหวนลงอาคมที่ปาจาสวมให้ตนแทนแหวนหมั้น  เพื่อสวมลงบนนิ้ว

ของปาจาไว้ป้องกันมนต์สะกดของจิตมารสิตา  แต่เจ้าคุ้มรูปหล่อกับห้ามไม่ให้ทำ   ให้เหตุผลว่าตนเองต้องไม่มีสิ่งใดคุ้มกาย

จิตมารสิตาถึงจะเข้ามาหา  ถ้าหากสวมแหวนเท่ากับปิดกั้นจิตมาร มันอาจโมโหออกอาละวาดเขตบ้านพักคนงานแทน 

จะพลอยทำให้คนซึ่งไม่เกี่ยวข้องเดือดร้อนกันไปด้วย 


                   พระลักษมณ์จำนนด้วยเหตุผลไม่สามารถขัดความตั้งใจของปาจา  ต้องอาศัยกระสุนเงินเพียงนัดเดียว

เท่านั้น  ที่ปาจามอบให้ทำหน้าที่เพชฌฆาตส่งจิตมารกลับสู่นรกภูมิ

                  ปัญหามันอยู่ตรงต้องยิงในขณะที่จิตมารกำลังสะกดปาจาเพื่อจะร่วมรักหลอมดวงจิตให้เป็น

หนึ่งเดียวกับมัน  จิตมารต้องการรับเอาร่างแฝงปีศาจจากปาจาเสริมพลังมารในตัวให้สมบูรณ์  ในช่วงเวลานั้นพระลักษมณ์

ต้องไม่เปิดโอกาสให้จิตมารสมสู่กับปาจาสำเร็จ  ขั้นตอนนี้ต่างหากที่เป็นช่วงเวลาแห่งความเป็นความตาย ซึ่งพระลักษมณ์

ไม่มั่นใจสักนิดว่าตนจะทำได้  เพราะไม่มีพื้นฐานเรื่องคุณไสยมาก่อน  และไม่แน่ใจว่าจะทนเห็นปาจาทำเรื่องอย่างว่ากับคนอื่น

ต่อหน้าต่อตาได้หรือไม่ต่างหาก ถึงจะยังไม่ทันสอดใส่ก็เถอะ 


                  ปาจายืนยันหนักแน่นว่าตนสามารถยิงเจาะกะโหลกจิตมารได้เลย  ในภาวะอารมณ์ที่มันกำลังจะ

เข้าด้ายเข้าเข็มย่อมขาดความระวังตัวลงมากทีเดียว 




ต่อด้านล่าง

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 16-12-2011 00:24:20 โดย luxilove »

ออฟไลน์ moobarpalang

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1081
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +185/-6

ออฟไลน์ harumi

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1188
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +156/-33

nona159

  • บุคคลทั่วไป
ว๊าวๆๆๆๆตอนใหม่มาแล้ว (เรามาขั้นเปล่าหว่า)

ออฟไลน์ luxilove

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1042
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2415/-118
-  2  -




                      พระลักษมณ์ขอธรรมตรัยกับกายันต์  ช่วยเป็นกองหนุนก็ไม่ได้อีก  เพราะปาจาบอกว่าจิตมารจะรู้

ถึงการคงอยู่ของพวกเค้าทันที  อาจมุ่งทำร้ายเสียก่อนถึงจะลงมือจัดการกับปาจาเอาทีหลัง  ไม่มีประโยชน์ที่จะให้สองคนนี้

อยู่ในบริเวณนั้นด้วย  ต่างรู้กันดีอยู่แล้วว่าพลังของจิตมารสิตากล้าแข็งขึ้นมาก  ยิ่งมากคนก็ยิ่งเสี่ยงเข้าไปใหญ่  ให้กายันต์คอย

ดูแลธรรมตรัยอยู่เรือนไทยจะดีกว่า อย่าลืมว่าธรรมตรัยไม่รู้จักวิชาต่อสู้ แม้กายันต์เองก็เถอะ  ฝีมือยังสู้พระลักษมณ์ไม่ได้

ประสาอะไรจะปะทะจิตมารสิตาได้กันล่ะ หน้าที่ของกายันต์เลยต้องอยู่ดูแลธรรมตรัยในเรือนไทยนี้เท่านั้น  เป็นคำสั่งเด็ดขาด

ของปีศาจรูปงามที่ไม่มีใครกล้าขัด



----------------------------------------------



                 บัดนี้  ห้าทุ่มตรงแล้ว บริเวณโดยรอบทุ่งกว้างมืดสนิท   

                 เนื่องจากเป็นคืนพระจันทร์ดับไม่มีแสงดาวสักดวง  ปาจายืนหันหลังเห็นเป็นเงาร่างสูงใหญ่อยู่ใต้ต้นหูกวาง

ที่ขึ้นโดดเดี่ยวแผ่กิ่งก้านบนเนินเด่นกลางทุ่ง   

                 บรรยากาศช่างแตกต่างกับวันที่สองคนมานั่งทานกลางวันซึ่งเป็นเดทแรกของทั้งคู่  ซึ่งในวันนั้น

ปาจายอมคุกเข่าขอพระลักษมณ์เป็นแฟนอย่างเป็นทางการ โดยไม่คำนึงถึงศักดิ์ศรีที่คุกเข่าขอร้อง

                 พระลักษมณ์ไม่รู้ว่าขณะนี้ปาจากำลังคิดอะไรอยู่   เพราะตนนอนพังพาบอยู่บนคาคบต้นหูกวาง

เพื่อซ่อนตัว  อาศัยอำพรางกายด้วยชุดรัดรูปสีดำสำหรับปฏิบัติภารกิจของหน่วยสืบราชการลับช่วยให้คล่องตัวกว่าปกติมาก   

                 แผนคือพระลักษมณ์หลบอยู่บนตนไม้โดยไม่ให้จิตมารรู้เป็นอันขาดว่าตนเร้นกายอยู่บนนี้   ปาจาและ

ธรรมตรัยยืนยันว่าแหวนที่พระลักษมณ์สวมติดนิ้ว  จะช่วยป้องกันไม่ให้จิตมารล่วงรู้ถึงการคงอยู่ของพระลักษมณ์ไว้ได้

                 พระลักษมณ์ต้องเป็นเสือซุ่มรอจังหวะสังหารจิตมารให้จงได้  ซึ่งโอกาสมีเพียงครั้งเดียวเท่านั้น 

ไม่งั้นปาจาและพระลักษมณ์อาจไม่มีทางรอดกลับไปอีก ถ้าหากพลาดแล้วทำให้จิตมารบันดาลโทสะสังหารทั้งคู่ขึ้นมา...

                อะไรก็ไม่น่ากลัวเท่า  หากจิตมารสะกดปาจาไว้ใต้มนต์มารและหลอมดวงจิตเสพสังวาสดึงเอาพลังแฝง

ของร่างปีศาจในตัวปาจาออกมาสำเร็จ  เมื่อนั้นจิตมารจะมีพลังเป็นอมตะ  แม้แต่กระสุนเงินก็ไม่สามารถทำอันตรายมันลงได้   

                 ความกดดันในภารกิจที่มีทำให้ฝ่ามือของพระลักษมณ์ชื้นไปด้วยเหงื่อ   แม้แต่ขมับก็เช่นกัน  กล้ามเนื้อ

ทุกส่วนเขม็งเกร็งไม่ผ่อนคลายเหมือนเช่นเคย   คงเพราะพระลักษมณ์รู้ดีว่าจิตมารสิตามีฝีมือและอำมหิตแค่ไหน 

จะไม่รู้ได้อย่างไรเมื่อเคยปะทะแบบตัวต่อตัวแทบเอาชีวิตไม่รอด ไม่ว่าจะทำยังไงก็ไม่สามารถทำอันตรายมันได้แม้แต่เส้นขน   

นี่จึงเป็นสาเหตุให้พระลักษมณ์ไม่สามารถผ่อนคลายเช่นทุกครั้ง

                 ตรงข้ามกับปาจา  ที่ยืนนิ่งไม่ไหวติงหันหน้ามองไกลยังทุ่งกว้าง ซึ่งพระลักษมณ์ไม่สามารถจับสีหน้า

ของปาจาได้ว่าเป็นอย่างไร   ไม่ใช่เพราะความมืด  ขณะนี้สายตาพระลักษมณ์เริ่มชินกับความมืดจนมองสิ่งๆ ต่างในระยะ

ใกล้เคียงไม่ลำบากแล้ว  แม้จะไม่เห็นรายละเอียดเท่าปกติ  แต่ก็พอจำแนกรู้ว่าวัตถุที่เห็นคืออะไร   

                 สำหรับที่พูดว่าไม่สามารถมองเห็นสีหน้าอาการของปาจา  คงเพราะเจ้าตัวยืนหันหลังเห็นเพียงไหล่กว้าง

ที่น่าเกรงขามแทนต่างหาก  ยอมรับปาจานิ่งได้อย่างเหลือเชื่อ

                หากไม่ตกอยู่ในสถานการณ์เช่นนี้  พระลักษมณ์คงรู้สึกดีไม่น้อย  ที่กำลังจ้องมองแผ่นหลังของปาจา 

เพราะรู้ว่าผู้ชายคนนี้องอาจสง่างามแค่ไหน สามารถเป็นที่พึ่งให้ตนได้อย่างไม่ต้องกังวลเลยว่า  จะได้รับอันตรายจากสรรพสิ่ง

ทำร้ายเอาได้  ถ้ายังมีผู้ชายคนนี้คอยอยู่เคียงข้าง 

               แต่ตอนนี้บทบาทหน้าที่บวกภารกิจอันหนักอึ้ง  ทำให้พระลักษมณ์หวิวหัวใจพิกล   ยิ่งปาจายืนหันหลังให้

พานรู้สึกใจหาย   จึงรวบรวมสมาธิสงบจิตไม่ให้ฟุ้งซ่าน  อาศัยการหลับตาปิดผ่อนลมหายใจเข้าออกควบคุม

ความคิดตนเองไว้ให้นิ่ง

 
                 “วิ้ววว...กร๊าซซซ!!” 
 
                 ในขณะที่หลับตาอยู่นั่น  ทุกส่วนของร่างกายกลับมาเขม็งเกร็งอีกครั้ง  เมื่อได้ยินเสียงลมและเสียงร้องกรรโชก

ของสัตว์ใหญ่ที่ดังขึ้น   พระลักษมณ์จำเสียงนี้ได้ติดหูจนต้องรีบลืมตาเพ่งมองไปยังปาจาเป็นจุดแรก  ค่อยโล่งอกที่ยังเห็นร่าง

สูงใหญ่ยืนนิ่งไม่ไปไหน   ตอนนี้พระลักษมณ์ค่อยกวาดสายตาฝ่าความมืดสำรวจไปทั่ว เพื่อจะดูความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น 

และแล้วต้องตะลึงค้างเมื่อสายตาไปสะดุดเข้ากับร่างหญิงสาวยืนห่างไปไม่เกินสิบก้าว  ร่างสมส่วนเอวบางร่างน้อยใบหน้า

ในเงามืดขาวซีดเท่าที่สายตายังพอเพ่งได้  เค้าโครงของความงามแฝงแววเย็นเยือก  เธอนุ่งผ้านุ่งแบบสาวชาวบ้านสวมเสื้อ

เข้ารูปสีขาวแขนตุ๊กตา   กำลังขยับก้าวตรงมาทางที่ปาจายืนอยู่  ด้วยท่วงท่ามั่นใจไม่พรั่นพรึงเลยสักนิด   

                   ดวงตาสีแดงก่ำเห็นชัดกว่าส่วนอื่นจ้องยังร่างปาจาไม่กระพริบ  เห็นแล้วชวนขนลุกได้อีก 

ทำเอาพระลักษมณ์ถึงกับผ่อนลมหายใจให้เบาที่สุด  รอดูสถานการณ์อย่างจดจ่อ


                   “ฉันคิดแล้วว่าคุณต้องออกมา”

                   น้ำเสียงไพเราะคุ้นหูของสิตาเอ่ยพอได้ยิน  หลังยืนประจันหน้าปาจาห่างไม่ถึงสามก้าว


                   “คุณรู้ดีว่าทำไมผมถึงต้องมา” 

                   ปาจาตอบกลับด้วยเสียงทุ้มนิ่งไม่เจือแววหวั่นไหวเลยสักนิด


                   “วันนั้นคุณใจร้ายกับฉันมาก กะฆ่าให้ตายเลยสินะ” 

                   สิตาต่อว่าปาจาด้วยน้ำเสียตัดพ้อ  ทำให้พระลักษมณ์ที่แอบฟังการคุยของทั้งคู่เบาใจลงอย่างไม่มีสาเหตุ 

คงเพราะลึกๆรู้ว่าสิตามีใจให้ปาจาเป็นทุน  ไม่น่าจะรุนแรงกันหรอก  แต่ก็ไว้ใจอะไรไม่ได้  จิตมารมันเจ้าเล่ห์อาจกำลังใช้

มารยาหญิงอยู่ก็ได้  อย่าเพิ่งด่วนสรุปดีกว่า  ความคิดของพระลักษมณ์หักล้างกันไปมาอยู่ในหัว


                  “ผมจำเป็นต้องรักษาชีวิตของพระลักษมณ์  ในสถานการณ์ตอนนั้นคุณคลุ้มคลั่งเกิดที่จะคุยกันรู้เรื่อง” 

ปาจายังคงอาศัยการเจรจาเพื่อถ่วงเวลาให้พระลักษมณ์ได้มีโอกาสหาจังหวะที่ดี  แต่ตอนนี้ร่างตนยืนบังสิตาอยู่  ทำให้รู้ว่า

โอกาสที่พระลักษมณ์จะส่งลูกกระสุนเพียงนัดเดียวเจาะกลางหน้าผากสิตาเป็นไปได้ยากมากในมุมที่ร่างใหญ่โตของตน

บังร่างบอบบางของสิตาไว้แบบนี้  กำลังคิดจะหลอกล่อสิตาให้เข้าไปใกล้ต้นไม้ที่พระลักษมณ์แอบซุ่มอยู่ให้มากที่สุด

เพื่อกันพลาดแต่ต้องชะงักความคิดลงทันที  เมื่อได้ยินสิตาเอ่ยขึ้นมาว่า


                “ฉันคงต้องขอบใจคุณด้วยเช่นกัน  เพราะการระดมยิงของคุณวันนั้น  ทำให้รู้ว่ากระสุนเงินของคุณ

ไม่สามารถทำอันตรายฉันได้เลย  ฮ่ะๆๆๆ..โบราณเค้าถึงบอกในความโชคร้ายย่อมค้นพบสิ่งดีเสมอ  เหมือนฉันตอนนี้   

คุณไม่ต้องทำหน้าแปลกใจหรอก  ฟังไม่ผิดหรอกคุณจา  กระสุนเงินที่พวกคุณอุตส่าห์ทำพิธีมาจนดิบดี  ไม่สามารถ

ทำอันตรายฉันได้อีก  นั่นเพราะผิวหนังของฉันที่ได้รับอำนาจจากหัวใจมารต้นแบบช่วยให้มันเป็นอมตะไปแล้ว  เสียแต่เพียง

ฉันต้องทุกข์ทรมานอยู่ในร่างของสัตว์มารก็เท่านั้น ยกเว้นคืนพระจันทร์ดับที่สามารถคืนร่างเป็นคนได้  ฟังแล้วตกใจกับข้อมูล

ใหม่ที่เพิ่งรู้ใช่ไหมล่ะ..ฮ่ะๆๆๆๆ”  ปาจายอมรับว่าตกใจจริงๆ  ไม่เพียงแต่ปาจาเท่านั้นพระลักษมณ์เองก็เกิดอาการเช่นเดียวกัน 


                    ถ้ากระสุนเงินไม่สามารถกำจัดจิตมารได้  งั้นแผนที่วางไว้ก็ไม่มีประโยชน์นะสิ  หนำซ้ำปาจาอาจกลาย

เป็นทาสรับใช้ของจิตมารสิตาไปตลอดกาลอีกด้วย   ในขณะที่พระลักษมณ์กำลังร้อนรุ่มใจอยู่นั้น  ปาจาก็ตะล่อมถามล้วงข้อมูล

จากสิตาเพื่อถ่วงเวลาไปด้วย  พร้อมหาจุดอ่อนที่จะสามารถทำร้ายจิตมารได้  โดยเก็บอาการซ่อนไว้ภายตายใบหน้า

คมเข้มอย่างไม่พรั่นพรึง


                  “ยอมรับว่าผมแปลกใจกับสิ่งที่ได้ยินจริงๆ  ตอนนี้คุณคงก้าวเข้าสู่ภาวะอมตะแห่งกายมารเต็มตัวแล้วสิ?” 

ปาจารู้ว่าพระลักษมณ์เองกำลังฟังการสนทนาของตนกับสิตาอยู่  จึงต้องล้วงข้อมูลที่เป็นประโยชน์ออกมาให้ได้มากที่สุด


                  “หึหึ..ที่ฉันบอกเพราะคิดว่าคุณกล้าออกมารอถึงนี่  คงเตรียมการเพื่อกำจัดฉันสินะ   นั่นก็ไม่แปลก

เพราะพวกคุณคิดว่ากระสุนเงินสามารถจัดการฉันได้   ฉันจึงช่วยสงเคราะห์ให้ความกระจ่างเสียแต่เนิ่นๆ  จะได้ไม่เสียเวลา

คิดทำอะไรโง่ๆ ให้เป็นอันตรายต่อตัวเอง   

                 จริงอยู่ฉันไม่ปฏิเสธส่วนตัวแล้วรู้สึกยังไงกับคุณ  แต่อย่าลืมว่าครึ่งหนึ่งในร่างฉันมีดวงจิตที่มีอำนาจ

เหนือกว่าควบคุมอยู่  และเค้าก็ไม่มีทางปล่อยให้ใครคิดร้ายกับฉันหรอกจริงไหม?  ฉันจึงหวังดีบอกคุณรับรู้เอาไว้   รู้แบบนี้

คงไม่ต้องเสียเวลาเรามาเสนอข้อแลกเปลี่ยนกันเถอะ”  สิตาสรุปตัดบทเมื่อเริ่มเห็นเวลาใกล้เที่ยงคืนเข้าไปทุกทีแล้ว 

หากเลยเที่ยงคืนไปพลังอำนาจของจิตมารจะอ่อนลง จนทำให้คืนร่างเป็นสัตว์มารไม่สามารถมายืนพูดได้อย่างตอนนี้ 

จะทำให้เสียความตั้งใจที่ออกมาหาปาจาไปเช่นกัน


                        “คุณต้องการอะไรลองบอกมาก่อน”  ปาจาคงถ่วงเวลาไว้เช่นกัน  เพื่อให้สามารถหาทางพา

พระลักษมณ์กลับออกไปได้อย่างปลอดภัยแม้ตอนนี้จะยังไม่เห็นโอกาสนั้นเลยก็ตามเถอะ


                       “ฉันต้องการให้คุณจูบกับฉันตอนนี้”   สิตาไม่อ้อมค้อมพุ่งเข้าเป้า  ปาจาคิดไว้แล้วเช่นกัน

สำหรับเรื่องนี้  แต่ไม่คิดว่าสิตาจะกล้าพูดออกมาตรงๆ  ทำให้รู้สึกกระอักกระอวนพิกล


                      “ถ้าผมปฏิเสธละ  คุณจะจัดการยังไง”  ปาจาหยั่งเชิงถามกลับไป


                      “หึหึ..คุณคิดว่ามีทางเลือกงั้นสิ  ที่ฉันไม่ใช้มนต์มารบังคับคุณ  เพราะจิตมารต้องการให้คุณ

เต็มใจต่างหาก   หากคุณยอมจูบฉันในขณะที่เป็นตัวของตัวเอง   จิตมารจะสามารถเข้าไปสิงยังร่างคุณได้ 

                     บอกอย่างไม่ปิดบังเลยนะ  เค้าต้องการร่างกายคุณแทนฉัน  เมื่อเค้าเคลื่อนย้ายดวงจิตไปสู่ร่างคุณ 

ฉันก็จะเป็นอิสระสามารถปรนนิบัติคุณได้ด้วย  พูดง่ายๆ ทำหน้าที่ปรนนิบัติดูแลจิตมารในร่างคุณยังไงล่ะ  นั่นคือความต้องการ

ของฉันที่อยากจะอยู่เคียงข้างคุณโดยไม่ถูกปฏิเสธ  แต่ถ้าต้องใช้มนต์สะกดแล้วละก็  คุณจะตกเป็นทาสของฉันไปจนตาย

โดยไม่เหลือจิตสำนึกส่วนตัวอีกเลย   คุณเลือกเอาเองเถอะ  ต้องการมีความทรงจำส่วนตัวเก็บไว้เหมือนอย่างฉัน 

หรือจะกลายเป็นคนที่ไร้วิญญาณเหลือแต่ร่างก็ตามใจ”  นี่ถือเป็นข้อมูลใหม่ล่าสุดเช่นกัน  ที่ปาจาและพระลักษมณ์เพิ่งรับรู้

ไปพร้อมกัน  ในหัวของทั้งคู่ต่างใช้ความคิดตีกันให้วุ่นไปหมด  ในที่สุดปาจาก็เอ่ยปากขึ้นว่า


                  “ผมคงไม่มีทางเลือกแล้วสินะ  อย่างน้อยเมื่อไม่มีหนทางแล้ว เหลือความทรงจำไว้ก็ยังดีกว่าเป็นผีดิบ 

แต่ผมมีคำถามสุดท้าย  ทำไมจิตมารจึงต้องการเปลี่ยนมาใช้ร่างกายของผม”  นั่นคือความสงสัยใคร่รู้ที่ทั้งปาจาและพระลักษมณ์

ต่างใจตรงกันและรอฟังคำตอบจากปากสิตา


                   “ไม่เห็นต้องคิดให้ปวดหัว คำตอบมันมีในตัวอยู่แล้ว จิตมารเป็นผู้ชายต้องการแสดงศักยภาพของเพศผู้ 

ซึ่งฉันไม่มีในส่วนนี้ด้วยสิ  อะไรก็ไม่สำคัญเท่ากับว่าคุณคือร่างแฝงของปีศาจ  นั่นต่างหากที่จิตมารต้องการร่างกายคุณ 

เมื่อรวมดวงจิตเข้ากับอำนาจแฝงที่มีมาแต่กำเนิดไว้ด้วยกันได้  จะทำให้พลังมารสู่จุดสูงสุดสามารถเรียกลมเรียกฝน 

คืนร่างเป็นสัตว์มารหรือเป็นคนเวลาไหนย่อมได้ตามใจนึก  ไร้ซึ่งอาวุธที่จะระคายผิวไม่ว่าจะอยู่ในสภาวะใดก็ตาม 

คงเข้าใจแล้วสินะ   ที่ฉันยอมทำตามข้อตกลงของจิตมาร  นั่นเพราะฉันจะได้เป็นคนปกติใช้ชีวิตเป็นคนรักของคุณภายใต้

การควบคุมของจิตมาร  ย่อมทำให้คุณรู้สึกรักฉันได้ไม่ยาก  หากเป็นเช่นปัจจุบันแม้แต่เศษเสี้ยวของหัวใจ  ฉันคงไม่มีทาง

ได้จากคุณหรอกจริงไหม?  ทำไมฉันจะไม่รู้ว่าใครคือคนที่คุณมอบใจให้  ดีนะที่มันไม่ได้อยู่ที่นี่ด้วย  ไม่งั้นฉันจะกำจัดมัน

ให้หมดเสี้ยนหนามไปซะ  แต่เอาเถอะไว้ค่อยตามจัดการมันทีหลังก็ไม่สาย  ดูสิมันจะมีปีกหนีเงื้อมมือจิตมารไปไหนได้ 

ตราบใดที่มันยังมีชีวิตอยู่บนโลกนี้ ย่อมเป็นหอกข้างแคร่ไม่จบสิ้น”  สิตาพร่ำบ่นถึงพระลักษมณ์ยาวเป็นหางว่าว  นั่นทำให้รู้ว่า

จิตมารเองอาฆาตพยาบาทพระลักษมณ์มากแค่ไหน หากมันรู้ว่าคนที่กำลังกล่าวถึงซุ่มซ่อนอยู่บนคบไม้เหนือศีรษะละก็

เป็นเรื่องแน่  เพราะงั้นปาจาต้องรีบรวบรัดก่อนพระลักษมณ์จะได้รับอันตราย ที่สำคัญถ้าความรู้สึกของตนไม่พลาด 

จุดอ่อนในการกำจัดมารร้ายคงอยู่ช่วงที่มันย้ายดวงจิตมาสู่ร่างตนนั่นแหละ  ถือเป็นโอกาสเดียวที่จะทำลายมัน  เพียงหวังว่า

พระลักษมณ์จะไม่ทำให้โอกาสที่ตนเสียสละครั้งนี้สูญเปล่า           


                  “เอาเถอะผมรับเงื่อนไขของคุณ  เรามาเริ่มกันเลยดีกว่า” 

                 พูดจบปาจาก้าวประชิดสิตา  ออกแรงรวบกอดร่างนุ่มนิ่มตรงหน้าที่แลดูเหมือนไร้พิษสงเข้าประกบจูบอย่างไม่ลังเล



                 ส่วนพระลักษมณ์ที่ซุ่มดูอยู่บนคบไม้  แม้จะเตรียมทำใจกับภาพที่คาดว่าต้องได้เห็น  ยังอดรู้สึกแปล๊บ

บริเวณหัวใจไม่ได้   มันช่างเป็นภาพบาดตามากมายเมื่อเห็นปาจายืนบดจูบกับสิตาเช่นนี้   แตกต่างอย่างสิ้นเชิงเมื่อตอนที่ตน

แอบบนคานแล้วซุ่มดูปาจาจูบกับครูรัสสา คงเพราะตอนนั้นตนไม่มีใจปฏิพัทธ์ลึกล้ำกับปาจาเหมือนตอนนี้ถึงได้ไม่รู้สึกอะไร 

                 สุดท้ายก็ต้องทำใจอดทนต่อสิ่งที่เห็น  เพราะเข้าใจดีว่าปาจาทุ่มเททำลงไปเพราะอะไร  หากเกิดจาก

ความต้องการส่วนตัวก็ว่าไปอย่าง


                ลีลาจูบดูดดื่มที่ปลุกเร้าอารมณ์ของสิตาให้คล้อยตามและกำลังเตลิดด้วยฝีมืออันเชี่ยวชาญของปาจานั้น 

กลับส่งผลให้ปาจาเองเคลิ้มไปกับอำนาจดำกฤษณาที่จิตมารส่งผ่านรสสัมผัสของทั้งคู่จนสติที่มีแน่วแน่เริ่มจะควบคุมไว้ไม่ได้

เช่นกัน  เหมือนมึนเมาไปกับรสจูบที่ได้รับการตอบสนองอย่างดีเยี่ยมของสิตา   ทั้งคู่จึงแสดงบทรักยืนจูบกันท่ามกลางสายตา

สักขีพยานเพียงหนึ่งเดียวที่เริ่มผิดสังเกตเห็นอาการเคลิ้มไหวไปกับรสจูบของปาจาเช่นกัน  ทำให้รู้ว่าคนรักกำลังถูกควบคุม

เข้าให้แล้ว  ความรู้สึกปวดหนึบในอกเกิดขึ้นอีกครั้ง  และครั้งนี้มาพร้อมกับน้ำตาที่เริ่มเอ่อคลอเบ้าโดยไม่สามารถสะกดกลั้น

เอาไว้ได้แล้ว 


                     พระลักษมณ์ซึ่งนอนพังพาบเป็นแนวราบหลังคบไม้  ในมือข้างขวากำปืนพกที่บรรจุกระสุนเงินไว้แน่น 

ค่อยขยับเลื่อนปืนในมือขึ้นมาระดับสายตาช้าๆ  โดยเล็งปากกระบอกปืนไปยังร่างในอ้อมกอดของคนรัก  ที่บัดนี้กำลังมัวเมาใน

รสจูบอย่างเห็นได้ชัด  สังเกตจากเสียงครางทุ้มในคอของปาจาที่ลอดออกมาให้พอได้ยิน  ในขณะที่มือขาวนวลของสิตา

ท่ามกลางความมืดกำลังลูบไล้ไปทั่วแผ่นหลังแกร่งของปาจาอย่างได้อารมณ์เช่นกัน   โอ้ช่างเป็นภาพที่กดดันต่อความรู้สึก

ของพระลักษมณ์ยิ่งนัก


                  ใครไม่ได้มาอยู่ในสถานการณ์ตอนนี้  คงไม่เข้าใจหรอกว่า  วิษณุทรงพลผู้องอาจเข้มแข็งกำลังหลั่งน้ำตา

อาบแก้มกัดเม้มริมฝีปากเน้น  เพื่อสะกดกลั้นความเจ็บปวดของหัวใจ  น้ำตาที่ไหลเป็นทางหยดลงบนกระบอกปืนทีละหยดๆ 

โดยที่พระลักษมณ์ไม่ทันเฉลียวใจสักนิดเพราะเอาแต่จดจ้องกระบอกปืนไปยังภาพตรงหน้าตาไม่กระพริบแถม

หลั่งน้ำตาอย่างเงียบๆ

                    หากจะแบ่งสมาธิสังเกตสักหน่อย  จะเห็นว่าน้ำตาของตนที่หยดลงกระบอกปืนนั่น ส่องประกายวูบไหว

แวววาวเป็นจุดเล็กๆ ทุกครั้งที่หล่นกระทบกระบอกปืนสีดำทะมึน   และถ้าพระลักษมณ์มีกระจกส่องดูเงาตัวเองในตอนนี้ 

จะเห็นภาพพระนารายณ์ซ้อนทับอยู่กับร่างตนกำลังหลั่งน้ำตาออกมาเช่นกัน   นี่สินะที่คัมภีร์โบราณกล่าวไว้ว่า

‘น้ำตาองค์นารายณ์’  ยามที่ท่านเศร้าใจต่อบาปของมนุษย์  และน้ำตาอันศักดิ์สิทธิ์นี่เอง ที่ทำลายล้างความชั่วร้าย

ทั้งหลายให้มลายสิ้นไป


                   ทันใดนั่นจู่ๆ  ปาจาก็กระตุกร่างผลักสิตาออกจากอ้อมกอดกระเด็นจนล้มลงไปกองอยู่กับพื้น

โดยไม่ทราบสาเหตุ   ส่วนปาจากลับกุมขมับทุรนทุรายลงไปนอนดิ้นไม่เป็นท่า  ทำเอาพระลักษมณ์เบิกตาโตตะลึงต่อเหตุการณ์

ที่เปลี่ยนแปลงกะทันหัน   จ้องไปยังร่างปาจาไม่ว่างตาอย่างงงๆ


                  “อ๊ากกก!!...โอยยย!!”

                  ท่าทางกุมขมับนอนบิดเป็นเกลียวของปาจาดูทรมานเหลือหลาย   ในขณะที่สิตากลับนอนหายใจรวยริน

หมดแรงอยู่ตรงพื้น  อะไรกันเกิดอะไรขึ้น  เมื่อกี้ทั้งคู่ยังยืนจูบกันอย่างเมามันอยู่ดีๆ  ทำไมชั่วไม่กี่นาทีกลายเป็นแบบนี้ไปได้ 

พระลักษมณ์สงสัยได้ไม่นานเมื่อ


                 “ทะ..ท่าน...ทำไมเป็นแบบนี้?” 

                 เสียงพูดกระท่อนกระแท่นของสิตาที่เอ่ยออกมา  ไม่รู้ว่าถามใครในเมื่อปาจายังนอนกุมขมับใบหน้าบิดเบี้ยว

ดวงตาเริ่มเบิกโพลงแดงก่ำ   ก่อนจะได้ยินเสียงเล็ดลอดออกมาจากปากปาจาว่า


                “ข้าต้องขออภัยเจ้าด้วย  ที่บอกความจริงไม่หมด” 

                เสียงพูดของปาจา  แต่ลักษณะการพูดเปลี่ยนไป  ทำให้พระลักษมณ์เริ่มเข้าใจแล้วว่า  นั่นไม่ใช่ปาจา

แต่เป็นจิตมารที่อยู่ในร่างปาจาต่างหาก   


                “มะ..หมาย..หมายความ..ยะ..อย่างไร?” 

                สิตายังคงพยายามรวบรวมกำลังถามออกไป  ทั้งที่สภาพในตอนนี้เหมือนคนกำลังจะขาดใจอยู่รอมร่อ 

ซึ่งพระลักษมณ์เองไม่กล้าบุ่มบ่ามทำอะไรลงไปโดยพลกาลเพราะยังไม่แน่ใจว่าตนต้องทำยังไงต่างหาก


                “หึหึ...หากข้าสละร่างจากเจ้า  นั่นแปลว่าเจ้าจะไม่สามารถมีชีวิตอยู่ได้ยังไงล่ะ  ที่ข้าไม่ได้บอกเจ้าทั้งหมด

เจ้าน่าจะเข้าใจการย้ายดวงจิตของมนต์มารทำได้ที่ไหนกัน  ถ้าเป็นเช่นนั้นข้าคงทำไปนานแล้ว   นอกจากจะต้องอาศัยร่างใหม่

ที่มีพลังปีศาจรองรับแล้ว  ยังต้องอาศัยพลังจิตที่กล้าแข็งมากด้วย  ซึ่งตอนนี้ข้าได้สองสิ่งนี้มาประจวบกันพอดีจึงสามารถ

เปลี่ยนร่างได้   แต่สำหรับเจ้าที่เคยเป็นร่างเดิมของข้าก็ต้องตายในที่สุด  นั่นเพราะตลอดเวลาที่ข้าอาศัยร่างเจ้าในการคงอยู่

เจ้าก็ต้องอาศัยดวงจิตข้าในการรักษาพลังชีวิตเอาไว้  เมื่อไม่มีข้าพลังชีวิตของเจ้าก็ย่อมแตกดับไปเป็นธรรมดา”  จิตมารในร่าง

ปาจาเอ่ยปากบอกอย่างไม่ทุกข์ร้อน  ในขณะที่ร่างกายยังดิ้นทุรนทุรายมือของปาจายังคงกุมศีรษะใบหน้าบิดเบี้ยวเหยเกเหมือน

กำลังต่อสู้กับตนเองอยู่ช่างเป็นภาพที่ขัดกันมากระหว่างเสียงพูดกับท่าทางของคนพูดที่แสดงออกมา


                 "ทะ..ทำไม..ถึ..ถึงหลอกฉัน?”  คำพูดเฮือกสุดท้ายที่สิตารวบรวมเปล่งออกมา  ก่อนปากจะขมุบขมิบ

ตาเบิกโพลง  ลมหายใจเริ่มอ่อนลงเรื่อยๆ  พระลักษมณ์มองแล้วให้รู้สึกอดสูในใจไม่ได้ 


                “เพราะเป็นความต้องการของเจ้าเองต่างหาก  ที่ต้องการให้ข้าสละร่างเจ้ามาอยู่กับไอ้หนุ่มนี่แทน 

เพื่อเจ้าจะได้ครองรักกับมัน  ข้าทำตามความประสงค์ของเจ้าแล้วไง  เพียงแต่ไม่บอกเจ้าว่า  เมื่อใดที่ข้าสละร่างจากเจ้า 

พลังชีวิตเจ้าจะแตกดับไม่มีลมหายใจอีกต่อไป..หึหึหึ”  สิ้นสุดคำพูดของจิตมาร  ก็สิ้นสุดลมหายใจของสิตาด้วยเช่นกัน 

ใบหน้าชาวซีดไร้สีเลือดดวงตาเบิกโพลงอย่างไม่ยินยอมพร้อมใจ  ร่างกายไม่ไหวติงรับรู้ได้ว่าไม่หลงเหลือชีวิตแล้ว 

และทันใดนั้นเอง  ทำเอาพระลักษมณ์แทบตกจากคบไม้เมื่อปาจาดันตะโกนเสียงก้องออกมาดังลั่นว่า


                   “พระลักษมณ์  รีบยิงผมเร็ว...อ๊ากซซ!!” 

                   ใช่แล้วเสียงของปาจาเช่นกัน  สำนวนการพูดเป็นปาจาแน่นอนพระลักษมณ์ฟังไม่ผิด  แต่ทำไมปาจาถึงบอก

ให้ยิงตนเสียเองล่ะ 


                  “อย่าดิ้นรนต่อต้านข้า  ไม่งั้นความทรงจำของเจ้าจะไม่เหลือไอ้หนุ่ม”  และก็เป็นเสียงของปาจา

ที่เป็นจิตมารพูดขัดขึ้นมา  พระลักษมณ์เริ่มเข้าใจแล้วว่า ตอนนี้ปาจากำลังใช้สามัญสำนึกสุดท้ายต่อสู้กับการครอบงำจาก

จิตมารอยู่ และที่ร้องเรียกให้ตนยิงตัวเองนั้น คงตัดสินใจแล้วว่าจะไม่ยอมให้จิตมารใช้ร่างกายของตนเป็นเครื่องมือมันแน่แล้ว   

                ด้วยความฉลาดและเข้าใจเหตุการณ์ได้รวดเร็ว  พระลักษมณ์ตัดสินใจกระโดดลงจากที่ซ่อนลงสู่พื้น 

ไม่ห่างจากร่างปาจาที่กำลังดิ้นพราดๆ  เหมือนปลาถูกทุบหัวอยู่นั่น  เสียงร่างกระทบพื้นดัง ตุ๊บ!  ของพระลักษมณ์

เรียกเสียงคำรามปานสัตว์ดุร้ายออกมาจากจิตมารที่อาศัยร่างปาจาทันที


               “โฮกกก!...แกไอ้เด็กนรก” 

              มันส่งแต่เสียงมาขู่ ยังไม่สามารถขยับร่างกายได้ตามใจนึก  เพราะยังดิ้นพราดเกลือกกลิ้งไปมาอยู่บนพื้นแทบเท้า

พระลักษมณ์  แสดงว่ามันยังไม่สามารถควบคุมปาจาได้ในตอนนี้  ไม่งั้นคงลุกขึ้นมาจัดการพระลักษมณ์แล้วสิ  คงไม่แค่

ส่งเสียงข่มขู่ออกมาหรอก..




ต่อด้านล่าง


               
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 15-12-2011 20:05:18 โดย luxilove »

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ luxilove

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1042
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2415/-118
-  3  -






               “ยะ..ยิง..ยิง..ผม..ซะ” 

               เสียงพูดกระท่อนกระแท่นเหมือนอ่อนแรงเต็มทีของปาจาก็เล็ดลอดออกมาเบาหวิว  แทบไม่ได้ยินแล้ว แสดงว่า

ปาจากำลังจะหมดแรง  ร่างกายกำลังจะถูกจิตมารควบคุมโดยสมบูรณ์แบบ  พระลักษมณ์มองภาพคนรักที่ทุกข์ทรมานตรงหน้า

แล้วอดน้ำตาไหลทะลักออกมาอย่างไม่สามารถสะกดกลั้นไว้ได้อีกต่อไป  เจ็บปวดหัวใจยิ่งกว่าที่เห็นภาพปาจาจูบกับ

สิตาเสียอีก  ตอนนี้มันเป็นความเจ็บปวดที่เห็นคนรักทรมาน  และยังสั่งให้ตนปลิดชีวิตตัวเองอีก  นั่นเท่ากับว่าพระลักษมณ์

ต้องสังหารปาจาด้วยน้ำมือตนอย่างไม่มีทางเลือกแล้วหรือนี่ 

                 พระลักษมณ์สะอื้นไห้โดยไม่กลั้นเสียงไว้อีกแล้ว  พร้อมกับปืนในมือยกขึ้นเล็งไปยังร่างที่นอนบิดส่าย

ไปมาที่เริ่มอ่อนแรงลงเรื่อยๆ


               “แก..กล้าฆ่าคนรักหรือไง...ไอ้หนูคิดให้ดีดี..แกฆ่ามันจะไม่มีโอกาสได้เจอมันอีก   หากแกหยุดข้าสัญญา

จะไม่ทำร้ายแก และจะให้พวกแกได้อยู่ด้วยกันเหมือนเดิม” จิตมารมันเห็นแววตาของพระลักษมณ์ที่ทะลักทะลายไปด้วยน้ำตา 

พร้อมกับภาพซ้อนหลังของพระลักษมณ์คือร่างแฝงขององค์นารายณ์ที่ยืนหลั่งน้ำตาด้วยเช่นกัน  อะไรก็ไม่สำคัญเท่าน้ำตา

ของพระลักษมษ์กับมีประกายวูบวาบตลอดเวลา  สัญชาติญาณของมันนึกรู้แล้วว่าหายนะกำลังมาเยือน  จึงพยายาม

หว่านล้อมตะล่อมให้พระลักษมณ์ใจอ่อน 


                      “ยะ..อย่า...ฟัง..มัน” 

                      แทบจะกลายเป็นเสียงกระซิบที่แผ่วออกมาให้ได้ยิน  พร้อมกับร่างที่เริ่มผ่อนการดิ้นรนลงจนเกือบสงบนิ่ง 

พระลักษมณ์จ้องหน้าคนรักผ่านม่านน้ำตา  ก่อนพูดบอกไปว่า


                     “คุณจา  ผมรักคุณ  ผมรักคุณได้ยินใช่ไหม  ผมรักคุณจะไม่มีวันรักใครอีก  จำคำผมไว้ 

ผมรักคุณครับ...อึก...ฮืออออ....เปรี้ยง!”   สิ้นสุดคำพูดตามด้วยเสียงปืนดังสนั่นกัมปนาทลั่นไปทั่งทุ่งกว้าง


                    “อร๊ากกกกก....กร๊าซซซซ!!!”

                    เสียงร้องโหยหวนของจิตมารก่อนร่างของปาจากระตุกวูบ  เผยอริมฝีปากยกยิ้มให้เป็นครั้งสุดท้าย

แล้วแน่นิ่งลงไป 


                 พระลักษมณ์ทิ้งปืนพุ่งเข้ารวบกอดศีรษะของปาจาซุกอก  นั่งเหยียดขากับพื้นซบหน้าลงกับหน้าหล่อเข้ม

ของปาจาปล่อยน้ำตาทะลักไหลร้องโหยหวนอย่างไม่อายใคร  ตอนนี้เหมือนหัวใจจะแตกสลายดับตามไปกับปาจาแล้วเช่นกัน


                “ฮือออออ...คุณจาาา!...คุณจาาา!..ฮือออ!!” 

                ท่ามกลางความมือมิดบนเนินดินใต้ต้นหูกวาง  มีร่างไร้วิญญาณนอนตาเบิกโพลงของหญิงสาวอยู่หนึ่งนาง 

พร้อมกับร่างสูงโปร่งที่ก้มหน้าร้องไห้น้ำตาแทบเป็นสายเลือดกอดร่างสูงใหญ่ที่นอนเหยียดยาวไม่ไหวติงแนบอก 

เสียงร้องไห้ปานจะขาดใจ


               หากใครได้เห็นภาพที่ร้องอย่างเอาเป็นเอาตายของพระลักษมณ์แล้วไม่หลั่งน้ำตาตาม  ถือได้ว่าเป็นคนใจ

แข็งยิ่งนัก  จะมีใครบ้างไม่เจ็บปวดที่ต้องสังหารคนรักด้วยน้ำมือตน  จะมีใครบ้างไม่ใจแตกสลายเมื่อเห็นร่างคนรักนอน

จมกองเลือดอยู่ตรงหน้า  ไม่มีอีกแล้วคำพูดหยอกเย้า  ไม่มีอีกแล้วสายตากรุ่มกริ่มชอบแกล้งให้ได้เขิน  ไม่มีแล้วสินะ

ตาคมเข้มที่จ้องตอบสื่อความหมาย  ช่างรู้สึกหนาวจับขั้วหัวใจเมื่อคิดว่าจะไม่มีอ้อมกอดอุ่นให้ซุกซบอีกต่อไป   


               เมื่อเป็นแบบนี้แล้ว   ใครบ้างจะไม่ร้องไห้เสียใจ  ต่อให้ได้รับการฝึกความแข็งแกร่งทั้งสภาพร่างกาย

และจิตใจมาดีแค่ไหน  แต่เมื่อต้องสังหารคนรักด้วยน้ำมือตัวเองไปต่อหน้าต่อตาแล้วละก็  เชื่อเถอะร้อยทั้งร้อย   

คนๆนั้นต้องหลั่งน้ำตาเช่นพระลักษมณ์ ยกเว้นเสียแต่ว่า   คนๆนั้นไม่มีหัวใจเป็นคน..???




มาลงต่อให้แล้วนะคะ    ตอนหน้าเป็นตอนอวสาน :m15:
 
ของมนต์มารแล้วค่ะ   ขอบคุณที่ติดตามกันมาตลอด   ขอความสุขจงเกิดแก่คนอ่านทุกท่านเช่นกัน

เกิดแก่เจ็บตายเป็นของธรรมดา  ไม่มีใครหนีพ้น :o12:

ขึ้นอยู่กับว่าการตายของคนๆ นั้น  นำมาซึ่งประโยชน์แก่คนหมู่มาก  เช่นทหารหาญที่สละชีพเพื่อชาติ

เราเองก็เช่นกัน  ยามมีชีวิตอยู่จงทำประโยชน์แก่สังคมบ้าง  อย่าลืมใส่ใจคนที่รักเราก่อนที่เค้าจะไม่อยู่ให้เราดูแล

รักคนอ่านที่รักของฉันทุกคนค่ะ

Luk. :กอด1:


         

 
       








ออฟไลน์ moobarpalang

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1081
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +185/-6
 :L1: :z13: :z13: :z13:
จิ้มตอนลงจบแล้ว
เศร้าโว้ยยยยยยยยยยยย
TT^TT

ออฟไลน์ ณ ที่เดิม™

  • มากกว่าชีวิต...
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1699
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +72/-0
อ๊าก!! อย่าบอกนะว่ามันจะจบเศร้า ทึ้งหนังหัวตัวเอง  :z3:
แล้วเดินออกนอกกระทู้

ออฟไลน์ ujen

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2455
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +183/-13
 :monkeysad: ปาจาจะตายจริงๆเหรอ

 :L2: :L2:

ออฟไลน์ aisen

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1348
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +75/-1
ใจเด็ดมากพระลักษมณ์

แต่อ่านแล้วก้เศร้าใจ ตอนหน้า

ขอแบบแฮปปี้ นะคะ

ออฟไลน์ BBChin JungBB

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 549
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-1
ลุ้นอ่ะ อร๊ากกกก..กร๊าซซซซซซซซซ  :m31:

ออฟไลน์ Bowbonk

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1187
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +112/-4
 :m15: :m15: :m15: :m15:


ไม่เอาเศร้านะ


ถ้าเศร้าโกธรจริงๆด้วย


 :m15: :m15: :m15: :m15: :sad11: :sad11: :sad11: :sad11:

Crossley

  • บุคคลทั่วไป
รอพระเอกคนใหม่...โดนถีบ  :z6:

ออฟไลน์ lucifel

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 780
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-0

ออฟไลน์ MiSS-U

  • {^o^} {^3^}
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4168
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2800/-11
:monkeysad:

ปาจาตายจริงๆเหรอ  ไม่เอาอ่ะแล้วพระลักษณ์จะอยู่ยังไงกัน

กดบวกกดเป็ด

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด