เนื่องจากข้อมูลเวปเสียหาย ขอโพสแทนนะครับ
***********
กรี๊ด...ไม่เอาไม่พูด...
+++++++++++++++++++++++++++++++++
10...
ใ จคนโดนโอบยังเต้นตูมตามเมื่อคำถามว่า นายรักเราไหม เลือนหายละลายไปกับอากาศเย็น แล้วเขายังอ้าปากค้างไม่หุบ เจ้าคนหุ่นเท่ห์ก็ยัดเยียดเอาลิ้นล้วงลึกเข้าไปในปาก ลิ้นมันทำงานได้ยอดเยี่ยมระดับมืออาชีพจนคนโดนจูบต้องตอบสนองด้วยการโอนอ่อน ผ่อนตาม ไม่นานทั้งมือทั้งไม้จึงลูบไล้ไปทั่วร่างกายเขาจนต้องเผลอครางออกมาเบาๆ แมนถอนปากออก เลื่อนใบหน้าละไปซุกไซ้ตรงซอกคอเผย อะหล่างฉ่างล่อสายตา
“ไม่จำเป็นต้องตอบหรอก เพราะอย่างไรเสีย เอกก็ต้องรักแมน....เพราะแมนน่ารัก”
ม ันตอบเองเออเอง เขากำลังจะส่งเสียงปฏิเสธพร้อมประท้วง ทว่า ปากร้อนที่ครอบลงตรงยอดอกเขาแล้วกัดแรงๆ ดูดเม้มเอาเนื้อดึงราวจะให้หลุดออกด้วย ทำให้คำพูดดังออกมาเป็นเสียงครวญครางไม่เป็นภาษามนุษย์ เสียงน่าอับอายดังออกมาจากลำคอพร้อมขยุ้มมือกับหัวเจ้าแมนที่วุ่นวายกับหน้า อก แดงช้ำที่เริ่มบวมจนแสบ
“แมน...ไอ้แมน...หยุดก่อน...ฟัง” เขาห้ามทั้งที่ลมหายใจหอบเหนื่อยราวว่าเพิ่งวิ่งหมื่นไมล์ มือดันหัวรั้นของคนกำลังสนุกกับการขบกัดยอด อก อีกข้างของเขา “ได้โปรดเถอะ...หยุดก่อน...อ๊ะ” มันดูดจ๊วบๆ เหมือนเด็กดูดจุกขวดนม แล้วหยุดพักอยู่เช่นนั้น เขาทั้งสองนิ่งฟังเสียงรอบๆกาย
ช่วงแรกสิ่ง ที่ได้ยินมีเพียงเสียงแมลงร่ำร้องและเสียงลมพัดจากต้นไม้รายรอบ และเสียงนกจากที่ไกลๆ แสงอาทิตย์อ่อนแรงลงจนเป็นสีส้มจางๆ ต่อมาเขาได้ยินเสียงเล็กๆ แว่วๆ มาจากทิศทางบ้านตนเอง เสียงนั้นเป็นเสียงคนเคยคุ้น ร้องเรียกชื่อ พี่เอกๆไม่ขาดระยะ จนกระทั่งผ่านไปครู่หนึ่ง เสียงเงียบไปแล้วคนเป็นเจ้าของบ้านพูดขึ้นก่อน
“...แมน...น้องหลิน...น้องหลิน...มา”
“อือม์” มันส่งเสียงอือออตอบรับทั้งที่ปากยังอยู่ที่เดิม
“แมน...” มือพยายามดันหัวดื้อรั้นออกไป “...เอาปากออกไปก่อน...นะ...เจ็บ”
“โห...แดงเลย”
คนตัวโตอุทานเหมือนเด็กเล็กๆมองดูผลงานของตนแล้วเงยหน้าขึ้นมายิ้มแย้มทะเล้นโชว์ฟันขาวให้พระเอกลิเก เขาหน้าบูดบึ้งตึง
“ไม่ตลกนะ”
คนตัวโตทำปากยื่น “ก็มันน่ากินนี่”
“ไอ้บ้า”
ขอเขินหน่อยเถอะ...เกิดมาไม่ค่อยได้เขิน มีเพียงเจ้าคนหน้าเข้มตรงหน้านี่เท่านั้นที่ทำให้เขาเขินได้...และบ่อยครั้งด้วยซ้ำ
“เดี๋ยวคืนนี้ขอกินนมก่อนนอนนะ...”
ม ันกล่าวน้ำเสียงร่าเริง พลางวางสายตาลงบน ยอด อก บวมแดงของเจ้าเอกทั้งสองข้าง จนคนเป็นพระเอกลิเกต้องยกมือขึ้นป้องปิดจากสายตาหื่นกระหายของคนตัวโตๆ
“กินตีนกูไปก่อนนะ”
ว ่าแล้วเขาผลักมันออก ว่ายรวดเร็วเป็นฉลามเจ้าสระไปขึ้นฝั่ง สลัดตัวเหมือนเจ้าตูบตกน้ำจนตัวหมาดแล้วคว้าเสื้อมาสวม ก่อนจะออกวิ่งตรงไปบ้าน
มีเสียงเรียกตามหลัง “รอด้วยดิ...หนาวนะ”
เ ขาไม่รอ เขาเกรงกลัว คำถามที่มันจะถาม หนำซ้ำ...เขากลัว กลัวยิ่งกว่าคือคำตอบที่ใจเขาจะตอบ เขาไม่อาจจะยอมรับได้ว่า ไม่วันใดวันหนึ่งเขาจะทนต้านความรู้สึกตนเองไม่ไหว และในท้ายที่สุดนั้น เขาต้องตกหลุมหลุ่มลึกที่เรียกว่า...หลุมรัก
น้องหลินยืนรอหน้ามุ่ย ตอนเขาเปิดประตูหน้าบ้านออกไปดู ข้างหลังเขาคือเจ้าคนวิ่งตามมาจากคลองหลังบ้าน หยดน้ำยังเกาะพราวเต็มตัวเป็นเม็ดจับตามหนั่นเนื้อมัดกล้ามของมัน เสื้อเปียกพาดอยู่บนไหล่แข็งแรง
น้องหลินมองเห็นคนข้างหลังเขาจึงมอง มาที่เขาด้วยสายตาเชิงถามไถ่ใคร่อยากรู้ แต่เขาเสไม่ตอบ หลบเลี่ยงเบี่ยงหนี และเขาแกล้งมองเป็นเชิงคำถามกลับไป เมื่อเห็นว่าน้องหลินคนงามสาวบ้านโป่งมิได้มาเพียงลำพัง หากพกพาเอาหนุ่มร่างสันทัด ใบหน้างามประดับด้วยร่องรอยฟกช้ำดำเขียวที่เริ่มจางหาย...
น้องหลินตอบยิ้มเย็น
“ อ้อ...พี่ต้นเขาอยากมาหาพี่เอกค่ะ...ขอร้องหลินไม่วอดวาย จนหลินทนไม่ได้ ต้องพามาหานี่แหละ...มันทำอะไรอยู่คะ เรียกตั้งนานไม่มาเปิด”
“พี่เล่นน้ำอยู่ที่คลองท้ายสวน”
“จริงเร้อ...” หนุ่มร่างกายสันทัดยืนหลบเบื้องหลังน้องหลิน ผุนผลันพลันแล่นตอบมาโพล่งใหญ่
“ไอ้หื่น” ไอ้แมนยืนเก๊กอยู่หลังเจ้าเอกตวาดเสียงแข็ง
ค นชื่อต้นหัวหดหางจุกตูด ดวงตาหวั่นเกรง ขยับขาก้าวรวดเร็วไปหลบอยู่หลังน้องหลินคนงามสาวบ้านโป่ง ทั้งที่ดูจากรูปการณ์ น้องคงช่วยอะไรไม่ได้
“พี่แมน” น้องหลินอุทานด้านจริต ยกมือขึ้นมาปิดปากพลางทำดวงตาเบิกกว้างอย่างสาวร้อยมารยา “มาทำอะไรที่นี่คะ แล้ว...” สายตาน้องจาบจ้วงโลมเลียอย่างเห็นได้ชัดไม่ขัดข้อง ตาน้องมองจ้องราวว่าเป็นมือลูบไล้ไปตามเรือนกายพราวน้ำของเจ้าแมน คนโดนจ้องขยับกายอึดอัดมาอยู่หลังเขา
“มาเล่นน้ำ”
“หลินเล่นด้วยคน”
“ เลิกเล่นกันแล้ว” คนเป็นเจ้าบ้านบอกเบื่อหน่าย น้องหลินหันขวับมามองฟาดฟันเขาด้วยสายตานางพญามาร แต่เขาขืนสู้อยู่ต่อไม่ย่อท้อ “แล้วนี่มีธุระอื่นอีกไหม หรือว่าแค่พาต้นมาหาพี่แค่นั้น”
เขาไม่เข้าใจว่าน้ำเสียงเย็นชานั้นอ อกมาจากปากได้อย่างไร หากทว่าในใจรู้สึกตะหงิดๆเมื่อเห็นน้องมองเจ้าแมนด้วยสายตาอย่างนั้น รู้สึกขัดใจไม่ชอบ รู้สึกอยากจะยื่นมือออกไป จับบานประตูกระแทกใส่หน้าน้อง...
น้องหลินเม้มปากเป็นเส้นตรง มองแมนที มองเขาที
“แล้วทำไมพี่แมนถึงมาอยู่กับพี่ หลินจำได้ว่า พี่เอกกับพี่แมนไม่รู้จักกันนี่คะ”
“ก็รู้จักกันตอนที่เอาของขวัญไปให้มันไง”
“แล้วจากนั้นเป็นเพื่อนกันขนาดมาบ้านมาช่อง ?”
“ก็...” คนเป็นพระเอกลิเกจนต่อคำพูด “อือม์”
เ จ้าเอกหันไปสบตากับเจ้าแมน เห็นเปลววูบแปลกๆข้างในนั้นสะท้อนไหว แล้วจึงต้องหันหน้าหนีเพื่อจะมาเผชิญกับใบหน้าเริ่มบูดเบี้ยวของน้องหลิน
“ หึ...พี่แมน...หลินว่าหลินรู้คำตอบเสียแล้วละค่ะ รู้แล้วว่าใครคือคนที่พี่ชอบ” หล่อนสาวผู้สะคราญในความงามและสาวสด ผินหน้าไปบอกอีกคนที่หลบกายเบื้องหลัง
“พี่ต้นกลับเหอะ...” หันมามองค้อนคนเป็นพระเอกลิเก “คนแถวนี้มันตอแหล...หลินไม่อยากอยู่ใกล้”
“แต่หลิน...เอกเค้า...”
พ ูดได้เท่านั้นกลับโดนมือขาวทาเล็บแดงแปร๊ดจับกระชับแล้วลากออกไป ก่อนจะหันกลับมามองอาลัยอาวรณ์กับใบหน้าของพระเอกลิเก และโดนไอ้แมนแยกเขี้ยวให้ คนเป็นนักมวยผู้แพ้สะดุ้งก่อนจะรีบถลาตัวตามแรงดึงน้องหลินคนงามสาวบ้านโป่ง ออกไป
เสียงอบอุ่นซึ่งเขาไม่ค่อยได้ยินบ่อยนักดังจากปากไอ้แมน พร้อมมือที่ตบบนไหล่
“โกรธเหรอ...ตัวสั่นเชียว”
“น้องว่ากู...ตอแหล...มันน่าเอาเปลือกทุเรียนยัดหว่างขา” เจ้าแมนสะดุ้งโหยง
เ ขาเหมือนจะร้องร่ำทำเพลงโศกาจาบรรณ น้องหลินผู้เป็นลูกพี่ลูกน้องคนสนิทเคยวิ่งเล่นด้วยกันมา ไฉนกลับกลายเป็นน้องนางมารร้ายเช่นนี้ไปได้
“ช่างเค้าเหอะ อย่าไปใส่ใจเลย รีบไปล้างเนื้อล้างตัวดีกว่า น้ำในคลองนั่นไม่ค่อยสะอาดเท่าไหร่”
มันไม่รอให้อีกคนกำลังโกรธตัวสั่นได้ออกปากปฏิเสธ ทว่าลากตัวปลิวตามติดไปทันที คนโดนลากตวาด
“เออ...กูเดินเองได้”
มันพูดเสียงอ่อนโยน “อย่าโกรธเลยน่า...ไม่ต้องไปถือสาน้องเลย น้องยังเด็ก”
“พูดยังกับตัวเองเป็นผู้ใหญ่นักนี่...ถ้ามึงโดนว่าตอแหล มึงไม่โกรธเหรอ อีกอย่าง เหมือนน้องว่ากูว่าไปแย่งของของคนอื่นมา”
“จริงไหมละ”
ปิดประตูห้องนอน ปล่อยเขาเป็นอิสระแล้วยืน กอด อกจ้องมอง
“ ไม่จริง...ใครไปแย่งของเค้ามากันเล่า...” เขาทำหน้าหงุดหงิดก่อนจะพูดประโยคหลังด้วยเสียงงึมงำเหมือนบ่นกับตนเองมากกว ่าจะบอกเล่าให้ใครฟัง “เป็นของกูมาตั้งนานแล้วตะหาก”
ใครจะว่าอะไรก็ช่าง แต่ขอหน่อยเถอะ...เขารู้สึกหวงแหนเจ้าแมนขึ้นมาอย่างอธิบายไม่ได้ ให้คำจำกัดความไม่ถูก แต่ที่แน่ๆ...มันเป็นของกู
“ว่าอะไรนะ...” ยืน กอด อก อมยิ้มแก้มป่อง มีลักยิ้มหน่อยๆตรงแก้ม ดวงตามันระริกสดใส
“เห้ย...ป่าว...ไม่มีอะไร”
“ไม่จริง...ก็เมื่อกี้ได้ยินแว่วๆ ของกูๆอะไร”
“ไม่มีอะไรจริงๆ สาบานได้”
“ก็กูได้ยินจริงๆ”
“กูไม่ได้พูด...”
จ ะพูดหรือไม่พูด ไม่สำคัญอีกต่อไป เมื่อคนเริ่มโกระกระโจนเข้าไปตะครุบเอาคนไม่ยอมพูดความจริง กดลงจมกับเตียงนอนเสียงดังครึง ร่างสูงระหงทรงเพรียวเรียวรูด หน้าละม้ายคล้ายอูฐกะหลาป๋าโดนร่างใหญ่โตปากยักษ์ทับอัดแน่นลงกับความนุ่ม
“ไอ้เอี้ย...กระดงกระดูกหักหมด ออกไป”
“ดูซิ จะบอกไม่บอก”
“ไอ้คุณแมน...ขอร้องละ...กูหนัก” เขาโอดเขาครวญชวนน่าสงสาร แต่มันไม่สงสารเขา
“ก็ดีแล้วนี่...ฝึกไว้จะได้ชิน”
อ๊าก... “อะไร...ฝึกอะไร...ชินทำไม”
“เดี๋ยวก็ต้องโดนกูทับบ่อยๆไงครับ น้องเอก...”
ค นอยู่ล่างข้างใต้ เอามือขยุ้มเสื้อตรงอกเจ้าแมน กล้ามเนื้อส่งความรู้สึกผ่านเสื้อมาสู่มือเขา ส่งผ่านเสียงเต้นตุบๆ ของหัวใจเป็นจังหวะเดียวกันกับชีพจรเขา
ชีพจรเต้นเร็วแรง
เลือดไหลแล่นทั่วร่าง...เร่าร้อน
“ แก้มแดงเลย...เขินไรค้าบ” ม้นล้อ “...อือม์...ขนตายาวสวยเป็นแพดีจัง” อยู่ๆคำพูดและน้ำเสียงพลันแปรเปลี่ยนไม่บอกกล่าวให้รู้จนตามอารมณ์ไม่ทัน “แก้มเนียนน่าหอม”
ตามมาด้วยเสียงจุ๊บ
“ตาโตน่ามอง”
มันก้มลงจูบเปลือกตาเขาที่ปิดลงกะทันหันทันเวลาเป็นเสียงจ๊วบ
ลมหายใจร้อนๆของแมนราดรดหน้าผากเขาจนขนที่ท้ายทอยลุกตั้ง...