[แจ้งข่าวหน้า1]红孔雀 นกยูงแดง (มาเฟีย?vsตำรวจ SMนะ!-จบ) แปะรูปp40 :9/9/2554
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

โพลล์

ระหว่างพญานกยูงแดง หงคงฉ่วย กับนายตำรวจเถรตรง ลู่อี้เผิง ท่านๆ ชอบใครมากกว่ากันคะ^^

ต้องหงคงฉ่วยอยู่แล้ว ราชินีฉัน เริ่ด และแสบสนิทขนาดนี้!!
ต้องเผิงเผิงน้อยอยู่แล้ว เมะอะไร มันจะน่ารักน่าแกล้งขนาดนี้!!

ผู้เขียน หัวข้อ: [แจ้งข่าวหน้า1]红孔雀 นกยูงแดง (มาเฟีย?vsตำรวจ SMนะ!-จบ) แปะรูปp40 :9/9/2554  (อ่าน 612497 ครั้ง)

ออฟไลน์ yeyong

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5857
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +917/-26
ในที่สุดไปๆมาๆ ก็มากันสองคนปู่กับหลาน
ภูเก็ตจะเป็นยังไงเนี่ย

ออฟไลน์ dahlia

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4239
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +695/-4
โธ่ สารวัตร สุดท้ายก็ต้องหันกลับไปหา คุณปู่สุดแสบ อยู่ดีละนะ ไม่มีใครไปด้วยสักคน  :laugh:
ดูท่าสารวัตรลู่ จะแพ้ทาง นก ทุกชนิดเลยนะ  :laugh:

bellity

  • บุคคลทั่วไป
น่าสงสารเผิงเผิง 555+

โดนก๋งก๋ง ปั่นหัวซ่ะหมุนเป็นลูกข่างเลย

Maize

  • บุคคลทั่วไป
เผิงเผิงโดนก๋งก๋งตลอดเลย :-[

paradoxxx

  • บุคคลทั่วไป

ออฟไลน์ golove2

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4478
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +277/-6
ทั้งนกชิกชิก และคุณนกยูง  เป็นลูกคู่กันได้ดีจริง ๆ

 :laugh: :laugh:  ฮากับมุขพายุ ตลอดเลย

ชอบ ๆ 

+1  จ้า

ออฟไลน์ Mookkun

  • magKapleVE
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 637
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-0
    • Consensual free relationships

ออฟไลน์ pochu52

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1328
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +221/-0
ยังง๊ายยังไงเผิงเผิงมีอะไรก็ไม่พ้นคงฉ่วย 555555

devilmlb

  • บุคคลทั่วไป
ถึงว่าเหมือนพายุจะเข้าไทย ที่แท้ก็แฮกันมาเที่ยวนิเอง โฮะๆๆ


ออฟไลน์ vanny

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 286
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-0
โธ่................เผิงเผิงน้อย จะพักร้อนทั้งทียังมีเรื่องให้ต้องคิดมากอีก

คงฉ่วยอุตส่าห์หวังดี (เหรอ) อยากให้พักผ่อน

เข้าใจอารมณ์ของคงฉ่วยแล้ว ก็เผิงเผิงน่ารัก น่าแกล้ง อย่างนี้นี่เอง

เดี๋ยวขอแอบตามไปพักร้อนด้วยคนนะคะ 555

 :m1: :m4: :m3:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ NiNJA

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 275
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-0
พึ่งเข้ามาอ่านค่า

อยากจะบอกว่าสนุกมากเลยอ่า

ชอบเผิงเผิงน้อยที่สุดง่ะ   

รอตอนต่อไปยุน่ะค่า

ออฟไลน์ mamacub

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1034
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +150/-0
แอบมาดูนิดนึง ด้วยความคิดถึงอย่างแรง :z2:

ออฟไลน์ Alone Alone

  • ขอตายในอ้อมกอดฮยอกแจ
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 773
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +40/-0

ออฟไลน์ Ryze

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1003
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +81/-1
ปกติเห็นโกรธถ้าว่าแก่
งวดนี้แก้ลำคืนเยี่ยงนี้เลยรึ 55555

 :call:
มะดึกกึก มะดำก๋อย หย๋อยๆหยึกๆ
โอม ตอนใหม่จงม๊าา จงมา~

ออฟไลน์ juon

  • มนุษย์หน้าคีย์บอร์ด
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1030
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +782/-3
    • My novel blog
อ่อก o22 ตอนไปเที่ยวนี่กินพลังชีวิตจริงๆ ชักคิดแล้วว่าสี่วันสามคืนมันเยอะเกินไป (สำหรับคนเขียนรึเปล่านะ!!! :a5:)
---------------------------------------------------
红孔雀นกยูงแดง 8

   รีสอร์ทที่จองในชื่อของลู่อี้เผิงมีรถมารับตอนที่ถึงสนามบิน แต่ก่อนหน้านั้นลู่อี้เผิงก็จำต้องทำหน้าที่เป็นเด็กยกกระเป๋าของหงคงฉ่วยอย่างเลี่ยงไม่ได้ สาเหตุน่ะรึ......
   “เสี่ยวเผิงเผิง ยกกระเป๋าให้ก๋งก๋งหน่อยสิ” หงคงฉ่วยพูด พลางยืนล้วงกระเป๋า เต๊ะท่าวางมาดราวกับนายแบบนิตยาสารอยู่หน้าสายพานขนกระเป๋า ลู่อี้เผิงที่เพิ่งยกกระเป๋าเดินทางของตัวเองออกมาจากสายพานถึงกับนิ่วหน้า
   “มือมีก็ยกเองสิ”
   หงคงฉ่วยหันมามองเขาด้วยสายตาตำหนิ ทั้งๆ ที่มือยังล้วงกระเป๋าอยู่นั่นแหละ “ใจคอเสี่ยวเผิงเผิงจะใจจืดใจดำปล่อยให้ก๋งก๋งยกกระเป๋าหนักๆ เองหรือไง เกิดก๋งก๋งกระดูกกระเดี้ยวหักไป คนจะหาว่าเสี่ยวเผิงเผิงดูแลไม่ดีเอานา”
   ลู่อี้เผิงถลึงตามองหงคงฉ่วย “ทำไมจู่ๆ เกิดรู้สึกว่าแก่ตัวขึ้นมาเสียล่ะ ปกติเห็นฟิตปึ๋งเป็นเด็กยี่สิบเลยนี่”
   “ใบนั้นเผิงเผิง” หงคงฉ่วยไม่ต่อปากต่อคำ แต่ชี้มือไปที่กระเป๋าเดินทางสีน้ำตาลแดงใบใหญ่ที่เคลื่อนผ่านหน้าไป ลู่อี้เผิงลังเลอยู่พักหนึ่ง สุดท้ายก็เอื้อมมือไปยกขึ้นมา
   “เอ้า” ลู่อี้เผิงส่งเสียง ก่อนจะเสือกกระเป๋าเดินทางใบนั้นใส่คนที่ยืนล้วงกระเป๋าอยู่ กระเป๋าเซแซ่ดๆ ไปตามแรงเหวี่ยง ได้ยินเสียงหงคงฉ่วยเอ็ดขึ้น “ส่งให้มันดีๆ หน่อยสิ” จากนั้นก็ขยับเท้าขึ้นนิดหน่อย ยกขึ้นหยุดกระเป๋าใบนั้นเอาไว้
   “คุณใส่ก้อนหินมาหรือไง” ลู่อี้เผิงว่า เพราะทั้งขนาดทั้งน้ำหนัก ไงๆ ก็ไม่เหมือนกระเป๋าสำหรับคนคนเดียวที่จะเดินทางไปไหนแค่สองสามวันแน่
   หงคงฉ่วยไม่ตอบอะไร แต่กลับลอยหน้าลอยตาพูดขึ้นบ้าง “เสี่ยวเผิงเผิงเพิ่งอายุไม่เท่าไหร่ก็หัดบ่นกระปอดกระแปดเสียแล้ว นักเรียนเกียรตินิยมทำไมปวกเปียกแบบนี้”
   ลู่อี้เผิงขบกรามตอบไป “ผมจะปวกเปียกหรือเป็นนักเรียนเกียรตินิยม ก็ไม่ได้มีหน้าที่มายกกระเป๋าให้คุณหรอกนะ”
   “แหม... พูดจาแล้งน้ำใจจริงๆ ก๋งก๋งเสียใจแล้วนะ” หงคงฉ่วยพูด แต่สีหน้าระรื่นเต็มที่ จากนั้นก็ออกแรงเอาเท้าเขี่ยกระเป๋าเดินทางหน่อยหนึ่ง กระเป๋าใบนั้นก็พุ่งเข้าใส่ลู่อี้เผิงทันที
   “คงฉ่วย!” ลู่อี้เผิงร้องออกมา และรีบใช้มือหยุดกระเป๋าใบนั้นไว้ ก่อนจะเซถอยหลังไปก้าวหนึ่ง หงคงฉ่วยทำหน้าผิดหวัง “อะไรกัน เสี่ยวเผิงเผิง แค่นี้ก็เซแล้วหรือ? ชั้นเรียนวิชาป้องกันตัวสอนอะไรเธอบ้างเนี่ย”
   ลู่อี้เผิงร่ำๆ อยากจะโยนกระเป๋าใบนั้นใส่หัวหงคงฉ่วยเสียจริงๆ “ขอโทษนะที่ผมไม่ได้เป็นปรมาจารย์กังฟูแบบคุณ”
   หงคงฉ่วยหัวเราะหึๆ ในลำคอ “ถ้าเสี่ยวเผิงเผิงยอมอ้อนวอนขอร้องดีๆ ก๋งก๋งอาจจะสอนให้ก็ได้นะ”
   ลู่อี้เผิงถลึงตาใส่คนที่ยืนหัวเราะอยู่ ก่อนจะคว้ากระเป๋าทั้งสองใบ แล้วลากงุดๆ ออกไปทันที
------------------------------------------------------------------
   รีสอร์ทที่จองไว้หรูหรากว่าในรูปถ่ายเสียอีก แถมมีบรรยากาศความเป็นส่วนตัวราวกับว่าเป็นบ้านหลังหนึ่งเลยทีเดียว ลู่อี้เผิงถึงกับลืมความหงุดหงิดใจก่อนหน้านี้ทั้งหมดเป็นปลิดทิ้งเมื่อเปิดประตูห้องพักเข้ามาแล้วพบกับผนังกระจกใสที่มองออกไปเห็นท้องทะเลสีเขียวคราม ตรงหน้าเป็นศาลาชมวิว และถัดไปเป็นสระว่ายน้ำส่วนตัวขนาดเล็ก พอเดินไปอีกหน่อยก็พบห้องนอนที่มีผนังกระจกใสมองเห็นทะเลด้วยเช่นกัน ด้านข้างมีห้องน้ำซึ่งมีอ่างจากุชชี่กลางแจ้ง
   “ว้าว...” ลู่อี้เผิงร้องด้วยความตื่นเต้น เขาเปิดประตูกระจกออกและสัมผัสถึงลมทะเลและไอน้ำเค็มที่พัดเข้ามา พอหันหน้ากลับเข้าไปอีกทีก็เห็นหงคงฉ่วยเอนตัวลงนั่งบนโซฟายาวในห้องรับแขกราวกับเหน็ดเหนื่อยเมื่อยล้าเหลือคณา ทั้งๆ ที่ไม่ได้ทำอะไรเลยแท้ๆ
   “คงฉ่วย คุณเคยมาที่นี่มาก่อนหรือ?” ลู่อี้เผิงถามเมื่อเห็นคนที่นอนอยู่ดูมีสีหน้าเอื่อยเฉื่อยราวกับมาพักบ่อยก็ไม่ปาน หงคงฉ่วยสั่นศีรษะ “เปล่า ครั้งแรก”
   คราวนี้นายตำรวจหนุ่มขมวดคิ้วทันที “แล้วทำไมคุณดูเฉยๆ จัง”
   “จะให้ฉันวิ่งกระโดดโลดเต้นไปรอบๆ หรือไง” หงคงฉ่วยย้อนถาม ลู่อี้เผิงมองเขาครู่หนึ่งแล้วตัดสินใจว่าจะขอดื่มด่ำกับบรรยากาศดีๆ ให้เต็มที่โดยลืมเจ้านกยูงกวนประสาทนี่ไปชั่วคราวก่อน ชายหนุ่มจึงเดินออกไปด้านนอก แล้วทอดสายตาลงมองท้องทะเลที่คลื่นน้ำสะท้อนประกายแดดอยู่เบื้องล่าง
   ยืนอยู่สักพัก หงคงฉ่วยก็เดินเข้ามาพร้อมกับแก้วไวน์สองแก้วในมือ ไม่รู้ว่าสั่งมาตั้งแต่เมื่อไหร่ พอลู่อี้เผิงหันไปก็เห็นทางนั้นถือมาแล้ว
   หงคงฉ่วยยื่นแก้วไวน์ให้นายตำรวจหนุ่มอย่างเงียบๆ ก่อนจะพิงตัวเข้ากับระเบียงศาลา และจิบไวน์ในแก้ว
   ลู่อี้เผิงเพิ่งสังเกตเห็นว่าหงคงฉ่วยถอดเสื้อสูทตัวนอกออกแล้ว นอกจากจะปล่อยชายเสื้อให้ลุ่ยออกมาจากกางเกงแล้ว ยังปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตจนเห็นแผงอกขาวรำไรด้านในอีกด้วย มองอยู่นานเท่าไหร่ไม่รู้ รู้อีกทีก็ตอนที่หงคงฉ่วยเงยหน้าขึ้นมา แล้วส่งเสียงถาม “มีอะไร?”
   “เปล่า” ลู่อี้เผิงรีบปฏิเสธแล้วมองไปทางอื่นทันที พลางบอกตัวเองว่านี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาอยู่กับเจ้าหมอนี่สองต่อสองเสียหน่อย และถึงพยายามจะยั่วยังไง เขาก็ไม่หลงกลง่ายๆ หรอก
   ว่าแต่นี่หงคงฉ่วยกำลังยั่วเขาอยู่รึ?!
   นอกจากยั่วโมโหแล้ว ลู่อี้เผิงไม่เคยนึกว่าหงคงฉ่วยจะยั่วอะไรเขาได้อีก ถูกล่ะ เวลามีอะไรกันทุกครั้ง หงคงฉ่วยเป็นฝ่ายเริ่มก่อนทั้งนั้น ถึงเนื้อถึงตัวจนเขามีอารมณ์ร่วมได้ แต่เหมือนว่านี่จะเป็นครั้งแรกที่ฝ่ายนั้นแสดงท่าทีแบบนี้ต่อหน้าเขา หงคงฉ่วยไม่เคยปลดกระดุมเสื้อตัวเอง และไม่เคยแสดงทีท่าปล่อยตัวให้เขาเห็นแบบนี้....
   ตอนที่ลู่อี้เผิงหันหน้าไปอีกที หงคงฉ่วยก็เดินเข้าห้องพักไปแล้ว ชายหนุ่มได้แต่ยืนนิ่ง เหม่อมองไปยังผืนน้ำด้านหน้า แล้วนึกสงสัยว่าตัวเองกำลังคิดอะไรอยู่กันแน่ สักพักเขาก็เห็นหงคงฉ่วยเดินออกมาจากห้องนอน ในชุดเสื้อคลุมอาบน้ำ จากนั้นก็ค่อยๆ ปลดมันออก นกยูงสีแดงเลือดตัวนั้นปรากฏขึ้นให้เห็นชัดถนัดตาทันที ลู่อี้เผิงลืมหายใจไปชั่วขณะ ตอนที่นกยูงตัวนั้นไถลตัวลงไปในสระน้ำ
   นี่เป็นครั้งแรกที่ลู่อี้เผิงมีโอกาสได้เห็นหงคงฉ่วยว่ายน้ำชัดๆ หงคงฉ่วยรูปร่างไม่บางไม่หนา ไม่ถึงกับสะโอดสะองแต่ก็ไม่ได้บึกบึนอะไร กล้ามเนื้อทั้งตัวเป็นสัดส่วนได้รูปสวย เวลาขยับตัวน้ำเหมือนจะยิ่งส่งให้นกยูงสีแดงตัวนั้นมีชีวิตขึ้นมาได้
   ละอองน้ำที่เกาะพราวอยู่บนร่างกาย เมื่อสะท้อนกับแสงแดดยามเย็นที่คล้อยต่ำลงเรื่อยๆ กลายเป็นภาพชวนมองอย่างประหลาด หงคงฉ่วยเอนตัวพิงเข้ากับขอบสระ ปล่อยให้น้ำหยดจากปลายผม ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมามองคนที่ยืนอยู่บนศาลา และยิ้มน้อยๆ ที่มุมปาก
   ลู่อี้เผิงเบือนหน้าหนีทันที เขารู้สึกได้ถึงหัวใจที่เต้นระส่ำอยู่ในอก
   บ้าเอ๊ย กะอีแค่นกยูงว่ายน้ำเท่านั้นเอง!
   นายตำรวจหนุ่มเม้มริมฝีปากด้วยความรู้สึกยากจะบรรยาย ก่อนจะได้ยินเสียงน้ำอีกรอบ พอหันกลับไปก็เห็นนกยูงสีแดงตัวนั้นขึ้นจากน้ำเสียแล้ว
-----------------------------------------------------------
   ไวน์แดงในแก้วของลู่อี้เผิงยังพร่องไปไม่เท่าไหร่ เอาเข้าจริงคือเจ้าตัวไม่กล้าแตะด้วยซ้ำ คงกลัวจะถูกวางยาอะไรอย่างที่ผ่านมา แต่หงคงฉ่วยกลับรินให้ตัวเองเป็นแก้วที่สามแล้ว เขากึ่งนั่งกึ่งนอนสบายๆ อยู่บนเก้าอี้นอนตัวยาว โดยสวมเสื้อคลุมอาบน้ำเอาไว้หลวมๆ อกเสื้อจึงแบะอ้าออกจนเห็นเนินอกแน่นและกล้ามเนื้อหน้าท้องด้านบนบางส่วน ขณะเดียวกัน เรียวอ่อนขาวๆ ยังอุตส่าห์จะโผล่ออกมาให้เห็นตรงรอยทบของเสื้ออีก
   หงคงฉ่วยเขย่าไวน์ในแก้ว ยกขึ้นผ่านปลายจมูกนิดหน่อย แล้วค่อยๆ จิบลงไป ดวงหน้าคมเข้มเริ่มมีสีเลือดฝาดเสริมขึ้นมาพอสมควรแล้ว แสงแดดอ่อนแรงลงไปทุกที ได้ยินเสียงนกทะเลร้องอำลายามสนธยาที่กำลังจะสิ้นสุดลงและต้อนรับราตรีสีดำสนิทที่กำลังจะปรากฏขึ้น
   ดวงตาของหงคงฉ่วยสีดำสนิทเหมือนรัตติกาล ดำสนิทเหมือนเม็ดนิล ยามเมื่อตวัดขึ้นมองทำเอาลู่อี้เผิงรู้สึกสะท้านใจขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก ปกติเวลาอยู่ด้วยกันสองต่อสอง... ไม่สิ ถึงจะมีคนอื่นอยู่ด้วย แต่ถ้าเป็นในคฤหาสน์ล่ะก็ หงคงฉ่วยจะต้องใช้สายตาแทะโลมเขา ไม่ก็ต้องพูดจากวนประสาทอยู่ร่ำไป ดีไม่ดีก็ถึงเนื้อถึงตัวเขาเลยด้วยซ้ำ แต่ตอนนี้ หงคงฉ่วยไม่ได้พูดอะไร กระทั่งสายตาก็ยังไม่ได้จับจ้องมาตลอด เพียงแค่ะชำเลืองมองเป็นบางครั้งเท่านั้น ถึงอย่างนั้นกลับทำให้ลู่อี้เผิงรู้สึกปั่นป่วนเสียยิ่งกว่าก่อนหน้านี้เสียอีก ในที่สุดชายหนุ่มก็วางแก้วไวน์ลง แล้วเดินเข้าไปในห้องพัก
   ลู่อี้เผิงกลับออกมาอีกทีในชุดว่ายน้ำ ก่อนจะกระโดดลงไปในสระ ด้วยคิดว่าน้ำคงจะพอทำให้อะไรๆ ในหัวกระจ่างขึ้นบ้าง ชายหนุ่มว่ายน้ำอยู่พักหนึ่ง พอเงยหน้าขึ้นมาก็เห็นหงคงฉ่วยยืนอยู่ตรงระเบียงศาลา ดวงตาสีดำสนิทนั้นกำลังจ้องมองมาพร้อมด้วยรอยยิ้มลี้ลับที่มุมปาก ลู่อี้เผิงเงยขึ้นมองตอบ ทั้งคู่สบตากันอย่างนั้นสักพัก หงคงฉ่วยก็ขยับตัว เดินเข้าไปด้านในศาลา ลู่อี้เผิงขยับตัวว่ายเข้ามา จากนั้นเขาก็ได้กลิ่นหอมของอาหาร
-------------------------------------------
   อาหารที่รีสอร์ทรสชาติไม่เลวนัก แต่ลู่อี้เผิงคิดว่าตัวเองอาจจะเป็นโรคประสาทอ่อนๆ เพราะแทนที่ตาจะมองจานอาหาร ดันเหลือบไปมองขาอ่อนกับแผงอกรำไรใต้เสื้อคลุมอาบน้ำของหงคงฉ่วยอยู่ได้ หรืออาหารพวกนี้จะใส่ยาอะไรเอาไว้?
   ขณะเดียวกัน หงคงฉ่วยที่ปกติจะต้องมองเขาด้วยสายตาประหนึ่งเฒ่าลามกอยู่เสมอๆ กลับนั่งทานอาหารเงียบๆ เรียบร้อยขึ้นมาอย่างกับเปลี่ยนคน ทั้งๆ ที่ลู่อี้เผิงก็สวมแค่เสื้อคลุมอาบน้ำมานั่งทานอาหารด้วยเหมือนกัน หรือว่าในอาหารนี่....
   “คงฉ่วย” ท้ายที่สุด นายตำรวจหนุ่มก็ทนไม่ไหว ต้องพูดออกมา “คุณใส่อะไรไว้ในอาหารกันแน่?”
   หงคงฉ่วยเงยหน้าขึ้นมองเขาด้วยความแปลกใจ ก่อนจะพูดตอบ “เปล่านี่ เผิงเผิงรู้สึกหัวใจเต้นแรงกว่าปกติหรือไง?”
   ลู่อี้เผิงถลึงตามองคนตรงหน้า ก่อนจะรีบพูดขึ้น “เปล่า ผมแค่สงสัยว่า ปกติคนลามกแบบคุณ จะต้องจ้องผมเอาๆ ไม่ก็พยายามจะลวนลามผม ทำไมจู่ๆ วันนี้ถึงได้นั่งเรียบร้อยขึ้นมาได้ สงสัยในอาหารจะมียาอะไรแน่ๆ ”
   หงคงฉ่วยหัวเราะหึๆ “ท่าจะยาดีซะด้วยล่ะมั้ง ปกติเผิงเผิงที่ชอบหันหน้าหนีฉันอยู่เรื่อย วันนี้กลับจ้องเอาๆ ฉันเลยคิดว่าปล่อยให้เผิงเผิงจ้องบ้างก็แล้วกัน ถ้าเกิดฉันจ้องด้วย กลัวเผิงเผิงน้อยจะตกใจแล้วหันหน้าหนีไปอีก”
   ลู่อี้เผิงหน้าแดงวาบขึ้นมาทันที แต่ก็ยังฝืนพูดต่อ “ผมแค่นึกสงสัยว่า คุณหมดค่าทำศัลยกรรมทั้งตัวไปเท่าไหร่ต่างหาก”
   หงคงฉ่วยจุ๊ปาก “ไม่เอาน่า เผิงเผิง จะแก้ตัวทั้งที อย่ามาใส่ไคล้คนอื่นแบบนี้สิ เธอเองน่าจะรู้ดีแก่ใจไม่ใช่หรือ ว่าฉันของจริงหรือเปล่า?”
   พูดจบก็ยิ้มเจ้าเล่ห์ให้ครั้งหนึ่ง ลู่อี้เผิงได้แต่ขบริมฝีปากเพราะไม่รู้ว่าจะตอบโต้อย่างไร สุดท้ายเลยได้ก้มหน้าลงไปมองจานอาหารเสียที ได้ยินเสียงหงคงฉ่วยหัวเราะหึๆ
   ทานอาหารกันเงียบๆ จนเสร็จ หงคงฉ่วยก็ใช้ให้ลู่อี้เผิงเก็บจานซ้อนกันไว้เหมือนเคย จากนั้นก็เดินออกมารับลมตรงศาลาเล็กด้านหน้า ลู่อี้เผิงรีๆ รอๆ อยู่พักหนึ่งก็เดินหายเข้าไปในห้อง ก่อนจะเดินกลับออกมาอีกครั้ง เหมือนคนเลือกไม่ถูกว่าจะทำอะไรกันแน่
   หงคงฉ่วยเบือนหน้ามา แล้วยิ้ม ในตอนที่นายตำรวจหนุ่มเดินมายืนข้างๆ ลมพัดเสื้อคลุมอาบน้ำจนเผยอออกให้เห็นช่วงไหล่ขาวเนียน ลูอี้เผิงมาย้อนนึกว่า สีปีมานี้ เขาเคยได้สัมผัสร่างกายของหงคงฉ่วยจริงๆ กี่ครั้งกันแน่
   น้อยครั้งมากจริงๆ
   “ไม่จิบไวน์หลังอาหารหรือไง?” ลู่อี้เผิงถามขึ้นทำลายความเงียบ เพราะเกิดรู้สึกขึ้นมาว่า ขืนยืนเงียบๆ จิตใจอาจจะเตลิดไปมากกว่านี้
   “รินให้หน่อยสิ” อีกฝ่ายตอบ ลู่อี้เผิงยืนจ้องหน้าอยู่พักหนึ่ง ก็เดินหายเข้าไปในห้องอีกครั้ง และกลับมาพร้อมกับไวน์สองแก้ว
   “ผมไม่ใส่อะไรลงไปหรอกน่า” ลู่อี้เผิงพูดขึ้นต่อ เมื่อเห็นหงคงฉ่วยจ้องหน้าเขาไม่วางตา ฝ่ายนั้นยิ้ม แล้วพูดตอบ “ไม่ใช่ว่าเตรียมยากล่อมประสาทมากล่อมฉันเพื่อให้สารภาพหรอกรึ?”
   ลู่อี้เผิงถลึงตาใส่เขาทันที “ผมไม่ใช้วิธีสกปรกเหมือนคุณหรอกนะ”
   คนได้ฟังหัวเราะชอบใจ “คิดว่าวางแผนหลอกฉันมาทำมิดีมิร้ายเสียอีก”
   ลู่อี้เผิงอยากจะกระโดดกัดหงคงฉ่วยเสียจริงๆ ไอ้คนวางแผนจะทำมิดีมิร้ายคนอื่นน่ะ ตัวเองไม่ใช่หรือไงเล่า!
   “คงฉ่วย” ยืนจิบไวน์รับลมกันได้สักพัก ลู่อี้เผิงก็พูดขึ้นอีก “ทำไมถึงเรียกตัวเองว่าหงคงฉ่วยล่ะ?”
   “ทำไมล่ะ? ฟังดูดีไม่ใช่หรือไง?” หงคงฉ่วยย้อนถาม ลู่อี้เผิงหลับตาอย่างอดทนอดกลั้น “ผมถามดีๆ นะ คุณช่วยตอบดีๆ หน่อยเถอะ”
   ได้ยินเสียงหัวเราะหึๆ ในลำคอ “ฉันชอบ”
   ลู่อี้เผิงยกมือขึ้นลูบหน้า สงสัยจะหวังคำตอบดีๆ จากเจ้านกยูงกวนประสาทนี่ได้ยากจริงๆ
   “คงฉ่วย นกยูงแดงบนหลังคุณ สักไว้นานแล้วหรือ?”
   “ก่อนเธอเกิดหลายปีเลยล่ะ” หงคงฉ่วยตอบ แล้วถามกลับ “ทำไม อยากสักบ้างหรือไง?”
   คนยืนข้างสั่นศีรษะ “คุณสักตอนอายุเท่าไหร่?”
   “ไม่บอกหรอก เดี๋ยวเธอจะต้องเรียกฉันว่าเหล่าก๋งก๋ง” หงคงฉ่วยว่า ลู่อี้เผิงหันมาถลึงตาใส่เขาทันที “ผมไม่อยากได้เหล่าก๋งก๋งแบบคุณหรอกนะ”
   “ได้เหล่าก๋งก๋งแบบฉันมีอะไรไม่ดีหรือไง?” หงคงฉ่วยย้อนถามทันที และยื่นหน้าเข้ามาใกล้ ลู่อี้เผิงขืนตาจ้องหน้าได้พักเดียวก็พูดออกมา “ไม่ดีตรงเป็นคุณนี่แหละ”
   หงคงฉ่วยหัวเราะชอบใจ ก่อนจะขยับหน้าหลบมือของลู่อี้เผิงที่ยื่นมาปัด ทั้งสองจิบไวน์กันไปได้สักพัก หงคงฉ่วยจึงพูดขึ้นต่อ
   “เสี่ยวเผิงเผิง เหล่าก๋งก๋งอยากอาบน้ำแล้ว มาถูหลังให้หน่อยสิ”
   ลู่อี้เผิงถลึงตามองคนตรงหน้าราวกับจะจับเชือด แต่ยังไม่ทันจะพูดอะไร หงคงฉ่วยก็หัวเราะคิกคักแล้วเดินหายเข้าห้องไป
-----------------------------------------------------------
   อ่างจากุชชี่ตั้งอยู่ด้านนอกของห้อง ซึ่งมีชายคาคลุมบางส่วน เรียกว่ากึ่งกลางแจ้งก็พอได้ เพราะด้านหน้าเป็นทะเล และข้างๆ ก็มีทั้งผนังและต้นไม้บัง ถึงจะเป็นกึ่งกลางแจ้งก็คงไม่ต้องกังวลว่าใครจะแอบมองได้
   หงคงฉ่วยนอนแช่น้ำอยู่ในอ่าง โดยสวมกางเกงว่ายน้ำตัวเดิม เขาวางแขนบนขอบอ่าง เอาคางเกยไว้ โดยหันหลังออกราวกับตั้งใจจะโชว์แผ่นหลังที่มีนกยูงสีเลือดตัวนั้น พอเห็นลู่อี้เผิงเดินเข้ามาก็ส่งเสียงเรียก
   “เสี่ยวเผิงเผิงมาแล้วหรือ ถูหลังให้เหล่าก๋งก๋งหน่อยสิ”
   ลู่อี้เผิงถลึงตาใส่ แล้วกวาดตามองร่างที่นอนแช่อยู่ในอ่างแวบหนึ่ง จึงพูดขึ้นต่อ “ไหนคุณบอกไม่ชอบให้ใครมองลายสักบนหลังไง”
   “อืม” หงคงฉ่วยส่งเสียงในลำคอ แล้วยิ้มที่มุมปาก “ก็ที่นี่ไม่มีใครมองนี่”
   ลู่อี้เผิงเลยยืนจ้องหงคงฉ่วยอยู่อย่างนั้น แต่อีกฝ่ายก็ดูไม่ทุกข์ไม่ร้อนอะไร ความจริงนายตำรวจหนุ่มคิดว่าจะฉวยโอกาสนี้ไปลองค้นข้าวของส่วนตัวของเจ้านกยูงบ้านี่ดู เผื่อจะเจออะไรผิดกฎหมายบ้าง แต่จนใจที่อ่างกับห้องนอนมองทะลุกันได้ และหงคงฉ่วยวางของทั้งหมดไว้ในนั้น ถึงอยากจะค้นแค่ไหน โอกาสก็คงไม่เหมาะ ลู่อี้เผิงจึงคิดว่าเขามาหลอกถามเอาจากหงคงฉ่วยก่อนจะดีกว่า
   “เผิงเผิง” หงคงฉ่วยเรียกขึ้นอีก เมื่อเห็นอีกฝ่ายยืนนิ่ง “ยืนแบบนั้นลมเย็นหรือไง ไม่ค่อยได้ใช้งานใช้การยังจะเป็นกับเขาอีกหรือ?”
   “คุณนั่นแหละ ดูแลตัวเองดีๆ เถอะ อายุการใช้งานมากระวังมันจะอั้นไม่ไหว” ลู่อี้เผิงสวนทันที คนโดนสวนหัวเราะร่วน “เผิงเผิงเป็นห่วงเหล่าก๋งก๋งหรือนี่ งั้นลงมาถูหลังให้หน่อยสิ”
   ลู่อี้เผิงยังคงยืนนิ่ง ดื้อแพ่งจนถึงที่สุด หงคงฉ่วยแช่น้ำด้วยท่าทีสบายๆ จากนั้นก็พูดขึ้นต่อ “เอาใจเหล่าก๋งก๋งดีๆ บางทีเผิงเผิงอาจจะได้ฟังเรื่องเด็ดๆ ก็ได้นะ”
   “เรื่องอะไรล่ะ?” ลู่อี้เผิงถามขึ้นทันที หงคงฉ่วยยิ้มน้อยๆ ที่มุมปากแล้วพูดต่อ “ไม่รู้สิ หลังมันเมื่อยเลยนึกไม่ค่อยออก ได้คนนวดอาจจะพอนึกอะไรออกก็ได้”
   ตะกี้ยังบอกถูหลังแหม็บๆ พอเล่นด้วยก็เอาใหญ่เลยนะ!
   ลู่อี้เผิงยืนขบกรามอยู่พักหนึ่ง ก็ก้าวเท้าลงไปในอ่าง ไม่แน่ว่าเอาใจเจ้านกยูงนี่จนเคลิ้ม อาจจะหลอกถามอะไรได้บ้างก็ได้ ไหนๆ เขาก็เล่นไม้แข็งกับเจ้าหมอนี่ไม่ได้อยู่แล้ว ลองไม้นวมดูอาจจะได้ผลก็ได้

ออฟไลน์ juon

  • มนุษย์หน้าคีย์บอร์ด
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1030
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +782/-3
    • My novel blog
   นายตำรวจหนุ่มดึงเสื้อคลุมอาบน้ำออก แล้วก้าวเท้าลงไปในอ่าง แสงไฟสีนวลขับให้นกยูงแดงตัวนั้นยิ่งแดงเข้าไปอีก พอลงไปในอ่าง ลู่อี้เผิงก็เอนตัวลงข้างๆ หงคงฉ่วย เนื่องจากอ่างไม่กว้างมากนัก พอผู้ชายที่ตัวไม่เล็กทั้งคู่ลงไปแช่อยู่ด้วยกัน ผิวเนื้อเลยสัมผัสกันโดยอัตโนมัติ  หงคงฉ่วยขยับหน้ามามองเขาหน่อยหนึ่ง แล้วส่งเสียงครางในลำคอ “อืม...เผิงเผิง”
   ลู่อี้เผิงขยับตัวเข้าไปใกล้อีก ได้ยินเสียงน้ำดังจ๋อมแจ๋ม แล้วค่อยๆ ยื่นมือไปนวดคลึงแผ่นหลังที่มีนกยูงสีแดงตัวนั้น หงคงฉ่วยพยักหน้า และหลับตาลงอย่างพอใจ
   นวดไปได้สักพัก ลู่อี้เผิงก็ก้มหน้าลงไปใกล้ๆ คนที่นอนหลับตาอยู่ แล้วกระซิบข้างหู “คงฉ่วย คุณมีพี่น้องบ้างหรือเปล่า?”
   นายตำรวจหนุ่มคิดว่า ขืนรอให้เจ้าหมอนี่พูดออกมาเอง ไม่แน่ว่าอาจจะทำฟอร์มหลับไประหว่างนวดก็ได้ หรือไม่ก็เล่าอะไรที่กวนประสาทออกมา สู้หลอกถามไปเรื่อยๆ จะดีกว่า
   คนถูกถามเหลือบตาขึ้นมามองเขาหน่อยหนึ่ง ก่อนจะพูดขึ้นมา “เคยมีน่ะ แต่จริงๆ ก็ไม่ใช่พี่น้องแท้ๆ หรอก”
   “เอ๋?” ลู่อี้เผิงเลิกคิ้วขึ้นอย่างแปลกใจ หงคงฉ่วยพูดต่อ “เด็กไม่มีพ่อไม่มีแม่เยอะแยะไป จะหลอกถามประวัติฉันหรือ สารวัตร ขนาดฉันเองยังไม่รู้เลย เธอจะไปรู้ได้ไงล่ะ”
   ลู่อี้เผิงอึ้งไปพักหนึ่ง หงคงฉ่วยเป็นเด็กกำพร้า? งั้นพี่น้องที่ว่าก็คงเป็นพี่น้องบุญธรรม พออ้าปากจะถามต่อ ก็เห็นสายตาที่จ้องมาอย่างรู้ทันเสียก่อน ลู่อี้เผิงจึงรีบเปลี่ยนเรื่อง “เปล่า ผมแค่เห็นว่าคุณอยู่คนเดียวตลอดเลยนี่”
   หงคงฉ่วยยิ้มที่มุมปาก “งั้นสารวัตรลู่มาอยู่เป็นเพื่อนฉันสิ”
   “............” ลู่อี้เผิงมองอึ้งๆ อีก แล้วพยายามขืนหัวเราะเต็มที่ “ไม่ได้หรอก ผมเป็นตำรวจนะ”
   นัยน์ตาสีดำหรี่ให้เขาอย่างเจ้าเล่ห์ “ไม่แน่นะ ย้ายมาอยู่กับฉัน อาจจะได้หลักฐานเด็ดมัดตัวฉันเร็วขึ้นก็ได้ สนใจรึเปล่าล่ะ?”
   “คุณอยากให้ผมจับนักหรือไง?” ลู่อี้เผิงย้อนบ้าง หงคงฉ่วยยิ้มอีก แล้วตอบ “อย่างสารวัตรลู่ ฉันอาจจะอยากถูกจับก็ได้” พูดจบก็ช้อนตาขึ้นมองอย่างท้าทาย นายตำรวจหนุ่มขบเคี้ยวเคี้ยวฟันพลางพูดตอบ
   “งั้นยอมให้ผมจับคืนนี้เลยสิ” ลู่อี้เผิงว่า และขยับตัวเข้าไปใกล้ ทำท่าเหมือนจะจับหงคงฉ่วยจริงๆ คนถูกขู่เงยหน้าขึ้นมา และยิ้มพลางชายตามอง “จะจับฉันข้อหาอะไรล่ะ?”
   ลู่อี้เผิงตอบไม่ออก เขาเพิ่งรู้ตัวเดี๋ยวนี้เองว่าขยับเข้ามาใกล้มากไปแล้ว พอหงคงฉ่วยหันหน้ามา ปลายจมูกก็แทบจะชนกัน ไม่รู้ว่าเพราะอะไร กว่าจะรู้สึกตัวอีกที เขาก็กำลังดูดเม้มริมฝีปากนั้นอยู่เสียแล้ว
   ราวกับว่ากระหายมาเป็นเวลานาน นายตำรวจหนุ่มดึงใบหน้านั้นขึ้นมา แนบริมฝีปากชิดเข้าไปอีก รสจูบรุนแรงและล้ำลึกขึ้นเรื่อยๆ หงคงฉ่วยกระหวัดแขนรอบคอของเขา แล้วดึงรั้งศีรษะให้ชิดกันอีก ปลายลิ้นร้อนจัดบดขยี้กันจนแทบไม่เหลือช่องว่าง ต่างฝ่ายต่างบดเบียดริมฝีปากเข้าหากันราวกับจะดูดกลืนลมหายใจของฝ่ายตรงข้ามเข้าไป
   ส่วนของผิวเนื้อที่เบียดเสียดกันอยู่ให้ความรู้สึกร้อนผะผ่าว ลู่อี้เผิงดันตัวหงคงฉ่วยเข้ากับขอบอ่าง เลื่อนมือลงไปลูบไล้เรือนร่างเปลือยเปล่านั้น ก่อนจะโอบรัดเข้ามาใกล้แล้วเบียดจุมพิตลึกเข้าไปอีก บดจูบกันได้อีกพัก ลู่อี้เผิงก็เลื่อนริมฝีปากต่ำลงมาที่คาง ติ่งหู ซอกคอ ไล่ขบเม้มไปจนถึงยอดอกสีอ่อนของอีกฝ่าย ได้ยินเสียงหงคงฉ่วยหัวเราะ “เผิงเผิงห้ามตัวเองบ้างก็ได้”
   ลู่อี้เผิงชะงักกึก แล้วก็เลื่อนริมฝีปากมาปิดริมฝีปากของหงคงฉ่วยเอาไว้อีกครั้ง ราวกับไม่อยากให้ทางนั้นพูดอะไรขัดจังหวะ หงคงฉ่วยส่งเสียงอืมในลำคอ ปล่อยให้ทางนั้นจูบอยู่อีกพักหนึ่ง จึงขยับหน้าออก
   “เสี่ยวเผิงเผิง”
   ลู่อี้เผิงเงยหน้าขึ้นมองอย่างไม่เข้าใจ ดวงหน้าคมคายตอนนี้กลายเป็นสีแดงจัด ริมฝีปากฉ่ำเยิ้มด้วยแรงจูบ นัยน์ตาสีดำคู่นั้นก็เป็นประกายอยู่ในแสงไฟสีนวล หงคงฉ่วยยื่นมือมาปิดริมฝีปากนั้นเอาไว้เบาๆ แล้วพูดยิ้มๆ “วันนี้ก๋งก๋งอยากพักผ่อน เสี่ยวเผิงเผิงอดใจไว้หน่อยก็แล้วกัน”
   พูดจบก็ยันตัวขึ้นจากอ่างไปเหมือนปลาตัวหนึ่ง ลู่อี้เผิงขยับไปจะคว้าตัวเอาไว้ก็ไม่ทัน ชายหนุ่มจึงลุกพรวดขึ้นมา และจะเดินตามเข้าไป เห็นหงคงฉ่วยหันมายิ้มแล้วพูดเสียงเย้า “เผิงเผิง มันโผล่ออกมาแล้วนะ เก็บหน่อยซี่”
   ลู่อี้เผิงยังยืนอึ้ง มองสะโพกของหงคงฉ่วยในกางเกงว่ายน้ำอยู่พักหนึ่ง ถึงได้ก้มลงมองตัวเอง ตอนนั้นแหละที่นายตำรวจหนุ่มกลับมารู้สติอีกครั้ง
   บ้าเอ๊ย ดันไปของขึ้นให้เจ้านกยูงนั่นเห็นจนได้
   ลู่อี้เผิงรีบคว้าเสื้อคลุมอาบน้ำขึ้นมาสวมแล้วเดินคู้ตัวเข้าไปทันที
----------------------------------------------------------------
   พอเห็นลู่อี้เผิงเดินคู้ตัวเข้ามา หงคงฉ่วยที่ยืนเช็ดผมอยู่หน้ากระจกก็พูดขึ้นอีก “เอามันไม่ลงหรือไง?”
   ลู่อี้เผิงถลึงตามองคนพูด ก่อนจะพูดสวน “ไม่ใช่เรื่องของคุณหรอกน่า”
   นายตำรวจหนุ่มทั้งอับอายทั้งโมโห ปกติหงคงฉ่วยจะไม่พลาดสถานการณ์แบบนี้แท้ๆ ขนาดไม่มีโอกาสยังพยายายจะขย่มเขาเป็นค่อนคืน แล้วทำไมวันนี้ถึงได้หยุดกลางคันได้ล่ะ เจ้าหมอนี่คิดจะแกล้งให้เขาอกแตกตายหรือไง
   หนอย.....

   “คงฉ่วย” ลู่อี้เผิงพูดขึ้น หลังจากไปสงบสติอารมณ์และเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้ว หงคงฉ่วยที่นั่งเอกเขนกอยู่บนเก้าอี้เลิกคิ้วมองเขา
   “ผมตัดสินใจแล้วล่ะว่าจะเลิกเล่นเกมบ้าๆ กับคุณเสียที งานนี้เราสองคนต่างคนต่างพักผ่อนกันไปก็แล้วกัน”
   คนได้ฟังหัวเราะคิกคัก “เสี่ยวเผิงเผิงงอนก๋งก๋งหรือ?”
   ลู่อี้เผิงถลึงตามองเขาแวบหนึ่ง แล้วกระแทกตัวลงบนเตียง “ผมนอนล่ะ ปิดไฟด้วยนะคุณปู่” พูดจบก็สอดตัวเข้าไปในผ้าห่ม แล้วหลับตาปี๋ สักพักก็ได้ยินเสียงปิดสวิตช์ไฟ แล้วเตียงอีกข้างก็ยวบลง
   “เผิงเผิง”
   หึ... ฝันไปเถอะ ให้ตายยังไงคืนนี้อย่าหวังว่าเขาจะสนองอะไรให้เลย เจ้านกยูงบ้า
   หงคงฉ่วยขยับตัวเข้ามาใกล้ ลู่อี้เผิงรู้สึกได้ถึงลมหายใจอุ่นๆ ที่รดลงข้างแก้มของเขา แถมด้วยมือที่ลูบไล้แผงบ่าของเขาไปมา ขณะที่นายตำรวจหนุ่มพยายามนอนนิ่งเต็มที่ กะไว้ในใจว่า ต่อให้หงคงฉ่วยรุกมาไม้ไหน เขาจะไม่ยอมลงให้เป็นอันขาด เพื่อให้เจ้าหมอนี่รู้สำนึกเสียบ้าง หงคงฉ่วยลูบไล้ตัวเขาไปได้พักหนึ่งก็ขยับออก แล้วพูดเสียงสบายๆ “ราตรีสวัสดิ์นะ เสี่ยวเผิงเผิง”
   คราวนี้ลู่อี้เผิงอึ้งไปจริงๆ ตะกี้ที่พยายามหลับตาแทบตาย ตอนนี้ต้องค่อยๆ แอบหรี่ขึ้นดู ว่าหงคงฉ่วยนอนจริงๆ หรือเปล่า ปรากฏว่าหงคงฉ่วยนอนจริงๆ นอนหงายหลับตาสบายอุราอยู่ข้างๆ เขานี่แหละ คิ้วอะไรไม่มีมุ่นเข้าหากันเลยสักนิด ทำหน้าราวกับหลับสบายเสียเต็มประดา ลู่อี้เผิงเลยหันหน้ากลับมา แล้วบอกตัวเองว่า แบบนี้แหละดี เขาจะได้นอนหลับเต็มตาเสียที
-------------------------------------------------------------
   นอนอยู่ได้พักหนึ่ง ลู่อี้เผิงก็ยังไม่หลับ ปกตินอนกับเจ้านกยูงบ้านี่ทีไร เขามีอันต้องถูกใช้งานจนหมดเรี่ยวหมดแรงทุกครั้งแท้ๆ วันนี้จู่ๆ ก็มางด แถมยังทำเอาของขึ้นกลางคัน สมองของนายตำรวจหนุ่มตอนนี้ ถึงจะบอกให้ตัวเองมีเหตุผลมากเท่าไหร่ แต่อารมณ์หงุดหงิดก็เข้ามาครอบงำอยู่ดี ลู่อี้เผิงนอนนิ่งอยู่อีกพัก ก็ทนไม่ไหว ต้องลุกขึ้นจากเตียงนอน
   “...........................” ขนาดว่าลุกแรงแล้ว หงคงฉ่วยก็ไม่มีทีท่าว่าจะตื่นหรือลืมตาขึ้นมาดู ไม่รู้ว่าหลับจริงหรือแกล้งหลับหลอกให้เขาทำอะไรกันแน่ ลู่อี้เผิงนั่งขบฟันอยู่พักหนึ่ง ก็ออกไปเดินเล่นรอบๆ ห้องพัก พอโดนลมทะเลยามดึกแล้วสมองค่อยโล่งขึ้นหน่อย ลู่อี้เผิงจึงลากตัวเองเข้ามาสู่แผนการเดิมที่วางไว้ วันนี้เขาได้รู้ซึ้งเรื่องหนึ่งว่า การหลอกถามอะไรกับหงคงฉ่วย ยากเย็นพอๆ กับการไล่จับนักโทษหนีคดีเลยทีเดียว
   นายตำรวจหนุ่มมองผ่านหน้าต่างกระจกเข้าไปในห้องพัก หงคงฉ่วยยังคงนอนอยู่บนเตียง ไม่รู้ว่าหลับจริงหรือแกล้งหลับกันแน่ ลู่อี้เผิงตั้งใจวัดความอดทนกับหงคงฉ่วยสักครั้ง เขานั่งมองดาวอยู่นอกห้องจนเกือบจะตีหนึ่ง หันกลับมาก็ยังเห็นทางนั้นนอนนิ่งอยู่ท่าเดิม ชายหนุ่มเหลือบมองเลยออกไปจากเตียงหน่อยหนึ่ง กระเป๋าเดินทางใบเขื่องนั้นตั้งอยู่ไม่ไกล แต่ถ้ามองจากเตียงก็คงไม่เห็น เสื้อสูทตัวที่หงคงฉ่วยใส่มาวันนี้ก็แขวนอยู่อีกฟาก
   ลู่อี้เผิงวางแผนกับตัวเองว่า ในเมี่อหลอกถามจากปากไม่ได้ เขาฉวยโอกาสที่นอนไม่หลับนี้ แอบหาหลักฐานจากข้าวของของเจ้านกยูงนั่นเลยดีกว่า เริ่มจากพาสปอร์ตนี่แหละ
   ตอนอยู่สนามบิน ลู่อี้เผิงเห็นหงคงฉ่วยสอดพาสปอร์ตไว้ในเสื้อสูท หลังจากผ่านด่านตรวจมาแล้ว ปกติพาสปอร์ตปลอมของพวกคนผิดกฎหมายระดับนี้ เจ้าหน้าที่ตรวจไม่ค่อยพบอยู่แล้ว ยกเว้นว่ามีประกาศส่งมาให้ แต่ถ้าได้เห็นรายละเอียดชื่อนามสกุลในนั้นแล้วเอาไปเทียบกัยข้อมูลทะเบียนราษฎร์ล่ะก็ เขาอาจจะได้หลักฐานดีๆ จับเจ้าหมอนี่เข้าคุกก็ได้ ลู่อี้เผิงแน่ใจว่าหงคงฉ่วยคงไม่ใช่พาสปอร์ตจริงแน่นอน แต่ถ้าเป็นพาสปอร์ตจริงล่ะก็... จะได้รู้กันสักทีเหมือนกันว่าเจ้าหมอนี่เป็นใครกันแน่
   ดังนั้น ลู่อี้เผิงจึงค่อยๆ ย่องเข้าไปในห้อง เริ่มจากการเดินไปค้นเสื้อสูทของหงคงฉ่วย ชายหนุ่มล้วงเข้าไปในกระเป๋าเสื้อ กระเป๋าลับ แล้วถึงได้รู้ว่าสูทของเจ้าหมอนี่มีกระเป๋าลับเยอะกว่าสูทปกติจริงๆ ทำให้พลอยนึกไปว่าปกติเจ้าหมอนี่พกอะไรติดตัวบ้างนะ ปืน? ยา? กระสุน? อาวุธลับ?
   ลู่อี้เผิงค้นอยู่นาน กระทั่งค่อยๆ ขยำเสื้อสูทตัวนั้นดูทีละส่วนว่ามีพาสปอร์ตซ่อนเอาไว้บ้างหรือเปล่า แต่ก็ปรากฏว่าไม่พบอะไรเลยสักอย่าง แม้แต่เศษกระดาษหรือซากไม้จิ้มฟัน
   นายตำรวจหนุ่มจึงเบนเป้าหมายไปยังกระเป๋าเดินทางสีแดงใบนั้นต่อ เจ้านกยูงบ้านั่นขนอะไรมานะ ถึงได้หนักอย่างกับลูกหินแบบนั้น แต่ตอนเข้าเครื่องสแกนก็ไม่เห็นเจ้าหน้าที่ทักอะไร ไปดูเองก็เหมือนจะมีแค่เสื้อผ้า แค่สามสี่วันทำไมถึงพกมามากมายขนาดนั้น หรือซ่อนอะไรเอาไว้ในเสื้อนะ
   ลู่อี้เผิงค่อยๆ ย่องไปที่กระเป๋าใบนั้น ก่อนจะพยายามหมุนเลขเพื่อปลดล็อกกระเป๋า บ้าชิบ เจ้านกยูงนั่นจะล็อกกระเป๋าด้วยเลขอะไรกันนะ....
   ขณะที่พยายามจะสุ่มเลขเพื่อปลดล็อกกระเป๋า นายตำรวจหนุ่มก็มีอันต้องสะดุ้งเฮือก เมื่อรู้สึกว่าใครบางคนมายืนอยู่ด้านหลัง พอหันกลับไปก็เห็นหงคงฉ่วยยืนกอดอกอยู่
   “เผิงเผิง ทำอะไรน่ะ?”
   ลู่อี้เผิงกลืนน้ำลายเฮือกหนึ่ง ก่อนจะปั้นหน้าปั้นตาพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง “อ้อ... คือผมได้ยินเสียงกุกกักในกระเป๋าเลยสงสัยว่าจะมีตัวอะไรอยู่หรือเปล่าน่ะ”
   “อ้อ แล้วเจอไหม?” หงคงฉ่วยว่า ดูจะยิ้มที่มุมปากหน่อยๆ ลู่อี้เผิงทำหน้าลำบากใจ “ไม่รู้สิ ผมเปิดกระเป๋าคุณไม่ออก จะเรียกคุณมาเปิดก็เกรงใจ เห็นว่าหลับสบายอยู่”
   “อืม.. ใช่ ฉันกำลังหลับสบายเลย” หงคงฉ่วยว่า และพูดต่อด้วยสีหน้าจริงจัง “แล้วก็ฝันว่ามีคนแอบมาขโมยกระเป๋า เลยตื่นนี่แหละ”
   “อ้อ.. ฝันร้ายจังนะ ฮะๆ ” ชายหนุ่มกล่าวพลางฝืนหัวเราะเต็มที่ หงคงฉ่วยมองหน้าเขาแล้วพูดยิ้มๆ “แต่ไม่เป็นไร มีตำรวจมาด้วย เดี๋ยวฉันแจ้งความเลยก็ได้ ลงบันทึกประจำวันให้หน่อยสิ”
   “เอาสิ ผมไปหาสมุดก่อนนะ” ลู่อี้เผิงตัดสินใจเล่นตามน้ำไปด้วย ไหนๆ ก็มาถึงขั้นนี้แล้ว แก้ตัวยังไงก็ไปไม่รอดอยู่ดี
   “ใช้นี่ก็ได้” หงคงฉ่วยว่า แล้วยึดไหล่เขาเอาไว้ ก่อนจะส่งสมุดบันทึกเล่มเล็กกับปากกาให้ ลู่อี้เผิงจึงรับมาแล้วทำสีหน้าจริงจัง “ต้องการแจ้งความเรื่องอะไรครับ”
   “อืม... มีโจรมางัดกระเป๋าฉันน่ะ” หงคงฉ่วยว่า ลู่อี้เผิงจึงถามต่อ “รายละเอียดละครับ”
   “รูปประพรรณสัณฐานเหมือนคุณเป๊ะเลย ฉันว่าจับเขาเลยดีกว่า” พูดยังไม่ทันขาดคำ ลู่อี้เผิงก็ได้ยินเสียงกริ๊กที่ข้อมือซ้ายของตัวเอง
   อีกแล้ว.........
   หงคงฉ่วยยิ้มหน้าระรื่น พลางขยับข้อมือด้านขวาที่มีกุญแจมือคล้องอยู่ “เอาล่ะ นอนกันเถอะคุณตำรวจ ฉันว่าโจรคงไม่กล้าอาละวาดแล้วล่ะ” พูดจบก็หย่อนกุญแจลงในกระเป๋าตรงอกเสื้อ ลู่อี้เผิงได้แต่กะพริบตาปริบๆ แล้วยิ้มแห้งๆ ก่อนจะยอมเดินไปที่เตียงแต่โดยดี
   หงคงฉ่วยให้เขาปีนขึ้นเตียงไปก่อน แล้วถึงนั่งลงตาม จากนั้นก็พูดยิ้มๆ “ราตรีสวัสดิ์นะเผิงเผิง ถ้าจะลุกขึ้นมาเดินเล่นก็ปลุกกันบ้างล่ะ”
   ลู่อี้เผิงรีบสอดตัวเข้าไปในผ้าห่มแล้วหลับตาทันที ทั้งๆ ที่กุญแจมือยังคาอยู่นั่นแหละ
   แบบนี้อีกแล้ว ให้ตายซี่!!!
---------------------------------------------------------------------
** หงคงฉ่วยแอ๊บแบ๊วได้ถ้วยจริงๆ (ใช้คำว่าแอ๊บแบ๊วจะดีรึ?!! o22) การไปเที่ยวยังคงดำเนินต่อไป และเราก็รู้สึกว่สี่วันสามคืนมันนานจริงๆ ระหว่างเผิงเผิงกับคนเขียน ใครจะอกแตกตายก่อนกันนะเนี่ยยย :a5:

พอดีวันนี้ร่างปกmy neighbor7 ก็เลยนึกถึงเคะอีกคนที่ชอบมากๆ เหมือนกันค่ะ

สองคนที่ไม่น่าจะมาเจอกันได้ (ไม่เจอกันเลยจะดีกว่า!!)

ท่านสองแห่งตระกูลเว่ย กับท่านนกยูงแดง... สองคนนี่... วัดความฉลาด+เจ้าเล่ห์แล้ว ไม่รู้ใครเก่งกว่าใครแหะ นับกันจริงๆ เว่ยจินหยินน่าจะเด็กกว่าหงคงฉ่วยสิบกว่าปีอยู่นะ แต่เรื่องความอำมหิตสงสัยคุณชายรองของเราชนะขาด เพราะฆ่าน้องชายแท้ๆ ของตัวเองได้ลงคอ (น่าภูมิใจมั้ยเนี่ย คุณชายย o22)

เมื่อนกยูงกับจิ้งจอกมาเจอกัน.........

เข้ากันได้ดีเป็นปี่เป็นขลุ่ย!!!! ลู่อี้เผิงถ้าเจอสถานการแบบนี้จริง สมควรลาออกจากราชการตำรวจค่ะ (สองคนนี่มาอยู่รวมกัน เหมือนความชั่วร้ายทั้งมวลมากระจุกตัวอยู่เป็นก้อนเดียวจริงๆ :a5:)

แอบอยากเขียนให้เว่ยจินหยินกับหงคงฉ่วยเจอกันอยู่นะ เรารักสองคนนี่จริงๆ เลย อิอิ :-[
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 02-08-2011 10:07:53 โดย juon »

ออฟไลน์ reborn23

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 369
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-3
น่ารัก น่าหยิก  น่าตี   :-[ ทั้งคู่เลย
 :pig4:

ออฟไลน์ jasmin

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1801
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +174/-1
ยูงน้อยกับจิ้งจอกน้อย น่ารักมากกกกกกกก
ชักอย่างให้ 2 คนนี้มาเจอกันเร็วๆซะแล้ว

ken_krub

  • บุคคลทั่วไป

ออฟไลน์ iforgive

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +844/-80
ชอบก๋งก๋งจริง ๆ เลยว่ะ  ฉลาดสุด ๆ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ golove2

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4478
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +277/-6

ออฟไลน์ rellachulla

  • iiRita♥World Behind My Wall♥
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1606
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +222/-8
คุณนกยูง
รู้แจ้งเห็นจริงไปซะทุกอย่าง
เผิงเผิงแพ้ตั้งแต่อยู่ในมุ้งแล้ว อิอิ

bellity

  • บุคคลทั่วไป
แอบไปฮันนี่มูนกันสองคน 555+

ปอลิง รูปน่ารักมากอ่ะ

ปอลิง 2 ก๋งก๋ง ใจร้ายมาก ค้าง 55+

fOnfOn :D

  • บุคคลทั่วไป
เผิงเผิงน้อยน่ารักอ่ะ   :laugh: :laugh: :laugh:

DarkMaster

  • บุคคลทั่วไป
 อยากอ่านต่อๆชอบคุณนกยูงมากๆเลยนน่ารักมาก :o8: :-[

ออฟไลน์ เฉาก๊วย

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2233
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +251/-6
เมื่อไหร่เผิงเผิงจะทันเกมอากงคงฉ่วยซะทีน้า  :z3:

ออฟไลน์ milky way

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 495
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-1
คงฉ่วย มาเฟียนกยูง ฉลาดและเฉลียวมาก
ที่สำคัญขี้แกล้งที่สุด
สงสัยยิ่งแกล้งสารวัตร   พอเผิงเผิงออกอาการแล้วยิ่งอยากแกล้ง
สารวัตรก็น่ะ แน่ใจน่ะว่าโดนบังคับ
คู่นี้ไม่ค่อยสูสีเท่าไหร่ เพราะอีตาสารวัตรแกไม่ทันก๋งก๋งหรอก 555

ออฟไลน์ Mookkun

  • magKapleVE
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 637
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-0
    • Consensual free relationships
ก๋งก๋งน่ารักมากกกค่ะ ><!   ขอบคุณคนแต่งฮับบบบ

ออฟไลน์ ordkrub

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4157
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +341/-12
เมื่อไหร่เผิงเผง  จะไล่ตามคงฉ่วยทันนะ :L1:

ออฟไลน์ punchnaja

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3354
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +383/-5
เป็นก๋งก๋งที่เตะปี๊บดังสุดๆ เรื่องนี้ท่าทางจะคลาดเครียดได้มากกว่าเรื่องสปายนะนี่555+

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด