มาแล้วค่ะทุกโคนนนน
ช่วงนี้เป็นช่วงสอบ เลยไม่ค่อยจะมีเวลาสักเท่าไร
ก็ต้องขออภัยด้วยนะคะ
ปล. ขอบคุณพี่กุ้งที่มาชี้แจงให้นะคะ
------------------------------------------------------------
ผมลืมตาในความมืดมิด หลังจากที่แสร้งเป็นหลับไปเพื่อให้นายนิคไม่กังวลใจในตัวผม ความคิดต่างๆนาๆวนเวียนอยู่ในสมองของผมจนหลับไม่ลง ถึงแม้ว่าร่างกายจะยังอ่อนล้าอยู่ก็ตาม
ความจริงที่ว่าเรโอมันยังชอบผมอยู่ ทำเอาผมใจหายเมื่อได้รู้ ใครจะคิดล่ะว่าหลังจากที่ผมปฏิเสธรักมันไปเมื่อตอนเรารู้จักกันครั้งแรกนั้น เวลาผ่านมานานขนาดนี้ แต่มันยังคงปักใจชอบผมอยู่... จะไม่ให้ผมอึ้งได้อย่างไร
ความรู้สึกแรกสำหรับผมตอนที่เริ่มรู้จักมันคือ ให้มันได้แค่เพื่อน ตอนนั้นผมคิดว่ามันตัดใจได้แล้วซะอีก หลังจากที่มันมาขอให้ผมคบมันเป็นเพื่อนแทน ไม่เคยรู้เลยด้วยซ้ำ ว่าความรู้สึกของมันที่มีต่อผมจะยังคงเดิม...
ผมไม่ได้รู้สึกรังเกียจที่มันชอบผม ไม่ได้รู้สึกแย่ที่ได้รับรู้ แต่ผมรู้สึกใจหาย กับการเฝ้ารักเฝ้ารอของมัน
ทั้งๆที่มันก็น่าจะรู้อยู่ว่า มันไม่มีทางเป็นไปได้ มันเข้าใจผมดีรู้จักผมดียิ่งกว่าใคร ว่าผมเป็นคนที่ถ้าลองได้ตัดสินใจอะไรแน่ชัดแล้ว สิ่งนั้นจะไม่มีวันเปลี่ยนแปลง...
ผมถอนหายใจกับตัวเองยาวเหยียด... จะจัดการกับเรื่องนี้อย่างไรดี?
ในเมื่อผมไม่สามารถให้ในสิ่งที่มันต้องการได้ แต่ผมก็ไม่อยากทำร้ายจิตใจมัน
ถ้าเป็นก่อนที่ผมจะคบกับนายนิคผมคงไม่ลำบากใจเท่านี้หรอก แต่เมื่อผมคบกับนิคแบบนี้แล้ว ไอ้เรโอมันจะตัดพ้อผมรึเปล่า? ผมไม่เคยชอบผู้ชาย มันเองก็รู้และไม่เคยทำให้ผมลำบากใจในเรื่องนี้มาก่อน แต่อยู่ๆผมก็มาคบกับผู้ชายคนหนึ่ง โดยที่มันไม่เคยได้รับรู้มาก่อน
ผมพอจะเดาความรู้สึกของมันได้เลยว่าเป็นยังไง...
ความลำบากใจอัดแน่นอยู่ในอกผมตอนนี้จนจุกไปหมด เรโอคือเพื่อนที่ดีที่สุดในชีวิตของผม คอยดูแลช่วยเหลือผมอยู่ไม่ห่างตลอดมา อยู่ด้วยกันตลอดจนไม่เคยคิดว่าจะมีวันแยกจาก ผมแคร์มันมาก รักมันมาก
...เพียงเพื่อนเท่านั้น...
เอาเป็นว่าผมจะยังไม่พูดอะไรทั้งที่รับรู้อยู่ในใจ เพื่อไม่ให้มันลำบากใจ และทำให้มันมีพื้นที่ก้าวลงไปได้อย่างมั่นคง
ผมจะรอให้มันเป็นฝ่ายมาบอกกับผมเอง...
เรโอเป็นคนฉลาด ผมคิดว่ามันรู้ว่าสิ่งไหนถูกต้องและควรทำ แม้ว่ามันออกจะโหดร้ายกับตัวมันไปบ้าง แต่จะให้ผมทำอย่างไรล่ะ จะให้ผมฝืนความรู้สึกของตัวเองเพราะมันเหรอ? แบบนั้นจะทำให้ทุกอย่างยิ่งแย่ลงไปกันใหญ่
เรื่องนี้ไม่มีใครผิด ผมไม่อาจโทษว่ามันหรือใครได้ มีแต่ต้องทำให้ทุกอย่างแน่ชัดด้วยดีเท่านั้น หากว่าเรามีความเข้าใจกัน... ทุกอย่างคงไม่เลวร้ายหรอก ผมเชื่อมั่นกับตัวเอง
แอ๊ด.... ประตูห้องผมถูกเปิดออกช้าๆและแผ่วเบา
ผมลืมตามองในความมืดสลัว แสงไฟจากภายนอกแยงตาผมจนต้องหรี่ลง ตอนแรกนึกว่านายนิคเข้ามาดูผม แต่ที่ไหนได้คนที่มากลับเป็นไอ้เจ้าเรโอ
ผมรีบหลับตาลงแสร้งเป็นว่าหลับอยู่ ปรับลมหายใจเป็นสม่ำเสมอ...
เสียงฝีเท้าแผ่วเบาเดินเข้ามาใกล้เรื่อยๆ จนกระทั่งมาหยุดยืนอยู่ข้างเตียง มันยืนอยู่ตรงนั้นนิ่งเนิ่นนานจนผมแทบลืมไปว่ามันมีตัวตน และแล้วผมก็ได้ยินเสียงถอนหายใจออกมาของมัน
ขอบเตียงยุบลงเล็กน้อย เมื่อไอ้เรโอนั่งลงข้างๆตัวผมที่นอนอยู่ รู้สึกได้ถึงสายตาของมันที่กำลังจับจ้องใบหน้าผมอยู่อย่างไม่วางตา แล้วลมหายใจอุ่นๆที่มีกลิ่นแอลกอฮอล์โชยมาของมันก็ค่อยๆใกล้เข้ามาเรื่อยๆ จนผิวหน้าผมสัมผัสได้
มันกำลังจะทำอะไร? สิ่งที่ผมกำลังคิด ทำเอาผมแทบกลั้นหายใจซะเดี๋ยวนั้น!
ในที่สุดริมฝีปากนุ่มของมันก็สัมผัสกับหน้าผากผมอย่างแผ่วเบาเนิ่นนาน... ทำให้ผมโล่งอกในใจ ถ้าสิ่งที่มันจะทำมีเพียงแค่นี้เท่านั้น...
แต่ผมก็โล่งใจได้ไม่นาน! เมื่อการกระทำของมันต่อมาทำให้ลมหายใจที่พยายามทำให้ราบเรียบของผม ถึงกับจะสะดุดติดขัดเสียให้ได้!
ลมหายใจอุ่นร้อนคลอเคลียกับริมฝีปากของผม ใกล้ขึ้นเรื่อยๆ...
นี่อย่าบอกนะว่า... มันกำลังคิดจะจูบผม!
ในระหว่างที่ผมกำลังใช้สมองครุ่นคิดอยู่ว่าจะเบี่ยงหน้าหลบแสร้งเป็นนอนพลิกตัว หรือจะตื่นมาผลักมันออกไปดีนั้น เรโอก็เป็นฝ่ายตัดสินใจแทนผมทั้งหมด ด้วยการค่อยๆผละออกมาซะเอง พร้อมกับถอนหายใจออกมายาวเหยียด
ความรู้สึกที่เกิดขึ้นในใจผมตอนนี้คือ... ขอบคุณมัน...
ขอบคุณที่มันยังคงเดิมทั้งต่อหน้าและลับหลัง ผมรู้ดีว่ามันแคร์ผมมาก ความรู้สึกของผมในใจมันมักจะมาเป็นที่หนึ่งก่อนเสมอ มันไม่เคยทำตัวให้ผมไม่ชอบใจมาก่อน แทบจะไม่เคยขัดความสุขของผมเลยด้วยซ้ำ ถึงแม้บางทีมันจะห่วงผมมากเกินกว่าที่ผมนึกห่วงตัวเองไปบ้าง แต่ที่มันทำทุกอย่าง ก็เพราะเพื่อผมทั้งนั้น
“ขอโทษนะกาย ไม่น่าเลย... เจ็บตัวเพราะฉันแท้ๆ....” มันรำพึงกับตัวเองเสียงแหบพร่า ความเศร้าเสียใจถ่ายทอดผ่านกระแสเสียงอย่างเด่นชัด
‘ทำไมนะ ทำไม... ทำไมคนที่แกรักต้องเป็นฉันด้วย...’
ผมได้แต่นึกคิดกับตัวเองด้วยใจที่หดหู่ ไม่อาจตอบสนองใจของมัน ทำได้แต่นิ่งเฉย นิ่งเฉยอย่างเจ็บปวด...
“อือ...”
ผมขยับตัวทำเป็นว่าเพิ่งตื่นขึ้นมา ด้วยไม่อาจทนนอนเฉยๆอีกต่อไป เวลานี้...สมควรที่เราจะทำความเข้าใจกันได้แล้ว ผมคงไม่อาจหลีกเลี่ยงได้อีกต่อไป ในเมื่อเรโอต้องเจ็บปวด ก็จะขอให้มันเจ็บปวดโดยเร็ว ไม่อยากให้ปล่อยผ่านเลยไปจนทำให้มันเป็นฝ่ายช้ำเลือดช้ำหนองเพราะผมนานมากกว่านี้
“ตื่นแล้วเหรอ... ปวดหัวรึเปล่า? ”
มันยังคงห่วงผมมากกว่าตัวเองเหมือนเดิม... น้ำใสๆเอ่อเคลือบนัยน์ตาของผมจนร้อนผะผ่าว ผมสูดหายใจเข้าลึกๆอย่างข่มกลั้น ก่อนจะส่ายศีรษะตอบคำถามของมัน
“แล้วหิวรึเปล่า”
ผมยังคงส่ายหน้าตอบ ตอนนี้ลำคอของผมแห้งผากจนตีบตันไปหมด แววตาที่ฉายสะท้อนความโศกเศร้าอยู่ลึกๆของมัน ทำให้ผมถึงกับพูดอะไรไม่ออก...
“งั้น...ดื่มน้ำสักนิดนะ” มันยิ้มเล็กๆอย่างเอาใจ ก่อนจะหันไปรินน้ำมาให้ผมดื่มชะล้างลำคอที่เหือดแห้งให้ชุ่มฉ่ำ
“มาเฝ้าฉันเหรอ มานานยัง...” ผมถามอย่างไม่รู้จะพูดอะไร
“...ก็ สักพักแล้วล่ะ เห็นนายหลับ เลยไม่อยากกวน”
แล้วบรรยากาศระหว่างเราทั้งคู่ก็กลายเป็นเงียบสงบ เหมือนกับว่าต่างคนต่างครุ่นคิดอะไรอยู่ในใจ จนไม่รู้จะต่อบทสนทนาต่อไปอย่างไรดี
ผมมองตามัน... มันมองตาผม...
ความคิดแตกต่างกัน แต่รวมเป็นเรื่องเดียวกัน คือเรื่องระหว่างเรา...
“เจ็บมั้ย” มันทำลายความเงียบขึ้นแล้วเป็นฝ่ายหลบตาผมก่อน ปลายนิ้วที่ดูจะสั่นไหวของมันแตะเบาๆที่ผ้าพันแผลบนศีรษะผมอย่างกล้าๆกลัวๆ
“เจ็บ...” ยังไม่ทันสิ้นเสียงผม มันก็รีบชักมือกลับทันที
“เจ็บมากมั้ย... ขอโทษนะ เพราะฉันแท้ๆ” น้ำเสียงเต็มไปด้วยความเสียใจไม่ต่างจากที่นายนิคพูดกับผม แต่ติดที่ว่าเป็นคนละคนกัน
ผมรู้สึกตื้นตันในอก แต่ต่างความหมายกัน...
“ช่างเถอะ... แล้วไปแล้ว ฉันไม่ได้โทษนาย และจะไม่โทษใคร มันแค่อุบัติเหตุเล็กน้อยเอง ไกลหัวใจจะตายไป”
ผมบอกให้มันคลายใจลง ไม่อยากให้มันโทษตัวเองจนเกินไป
ต่างฝ่ายต่างเงียบลงไปอีกครั้ง... แววตาของมันสั่นไหวอยู่ตลอดเวลาเมื่อมองหน้าผม
“เรโอ...ฉันยังเหมือนเดิมนะ สิ่งที่เคยให้นาย เวลาที่เคยมีให้ ทุกอย่างจะเหมือนเดิม แม้ฉันอาจจะบกพร่องในฐานะ ...เพื่อน.... ไปบ้างก็ตาม แต่ฉันจะไม่เปลี่ยนไปหรอก นายสำคัญกับฉันยังไง ก็ยังคงสำคัญกับฉันคงเดิม...”
ผมตัดสินใจเริ่มก่อน สร้างบันไดให้กับมัน เพื่อให้เพื่อนของผมคนนี้ มีทางในการก้าวลง ก้าวลงจากความรู้สึกที่ไม่มีทางเป็นจริง... ก้าวลงจากความผิดพลาดของหัวใจอย่างมั่นคง...