กร๊ากกกกกกกก
ขำรีฯบนๆ
แมวยั่วประสาทเหมาะเม็ง
=========================
Chapter : 26 หมาเฝ้ากระดูกแว้งกัด
ตอนนี้ผมอารมณ์เสียสุดๆ ตั้งแต่ไอ้เรโอมาทุกอย่างก็เหมือนจะแย่ลงเรื่อยๆ แล้วนี่ผมยังต้องมาเจ็บตัวโดยใช่เหตุอีก ทางอื่นมีให้เดินไม่เดินดันเดินมาขวางทางผม น่าโมโหชะมัด!
“ออกไปได้แล้วเกะกะ” ผมผลักมันออกจากตัว
“ทำไมต้องขวางทางกันด้วยวะ แม่ง...เจ็บชิบ” ผมลูบสะโพกตัวเองไปมา มองมันอย่างเคืองๆ
“ก็ใครจะไปรู้วะ ไม่นึกว่าแกจะไม่มองทางแบบนี้นี่...” มันแก้ต่างให้ตัวเอง
“เออ...สรุปฉันมันเซ่อเอง” ผมขี้เกียจเถียงกับมันต่อแล้ว เพราะมันไม่เห็นจะได้อะไรขึ้นมาเลย จะหงุดหงิดรำคาญกว่าเดิมเสียเปล่า
“เป็นอะไรรึเปล่าครับ?”
นายนิคเดินเข้ามาจับไหล่ผม ถามด้วยน้ำเสียงห่วงใยจนผมรู้สึกได้
“อ่ะ...เอ่อ... ฉันไม่เป็นไรหรอก” ถึงบอกไปแบบนั้นเพื่อให้เขาสบายใจ แต่ความจริงยังเจ็บแปลบๆอยู่เลย ก้นผมจะเขียวรึเปล่าเนี่ย?!
ผมหันไปมองหน้าหนุ่มฝรั่งข้างกาย ปรากฏว่าเขาไม่ได้มองมาที่ผม แต่เล่นจ้องไอ้เรโอเขม็งซะอย่างกับจะกินเลือดกินเนื้อแน่ะ ส่วนไอ้เพื่อนบ้าของผมก็จ้องตอบกลับแบบไม่ยอมแพ้เช่นกัน ไอ้พวกนี้มันเป็นบ้าอะไรกันเนี่ย...?
พวกมันจ้องตากันแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่ผมยังไม่รู้เลย... แต่บรรยากาศระหว่างคนทั้งสองมันน่าอึดอัดยังไงไม่รู้สิ... มันทำให้ผมที่อยู่กึ่งกลางระหว่างพวกเขาพลอยอึดอัดไปด้วย จ้องกันซะอย่างกับปลากัดสองตัว...
“พวกนายจะจ้องกันอีกนานไหม” ผมหมดความอดทน “งั้นฉันไปล่ะ... ได้ลูกพันธุ์ใหม่เมื่อไหร่มาบอกละกัน”
ตัดสินใจเดินผ่านพวกเขาเข้าไปในบ้านอย่างไม่คิดที่จะสนใจอะไรอีก นี่มันวันอะไรกันเนี่ย! บั้นท้ายผมยังต้องมาระบม แถมยังต้องมาคอยเฝ้าสังเกตอารมณ์ที่แสนจะแปรปรวนของไอ้บ้าสองตัวนั่นอีก... ไม่มีวันซะล่ะ!
…
“น้องหยกครับ พี่ไม่ไปดำน้ำด้วยแล้วนะ” ผมบอกน้องหยกเมื่อเดินเข้ามาเจอเธออยู่ที่ห้องนั่งเล่น
“อ้าว...ทำไมล่ะคะ? จวนจะได้เวลาแล้วด้วย” เธอถามเสียงสูง สีหน้าแปลกประหลาดใจ
“พี่หมดอารมณ์แล้วล่ะ พวกน้องไปกันเถอะ ตั้มพี่ฝากดูแลด้วยนะ” ผมหันไปสั่งตั้มที่นั่งรวมอยู่ด้วย
“ได้ครับ”
“พี่กายมีอะไรรึเปล่าคะ? นิคก็ท่าทางแปลกๆไปอีกคน...” หญิงสาวถามผมด้วยสีหน้าเป็นห่วง ผมยิ้มตอบเธอเป็นความหมายว่าไม่มีอะไรหรอก เพื่อให้เธอสบายใจ
“เอ้อ...งั้นเย็นนี้เราทำบาร์บีคิวกินกันที่ริมหาดละกันนะ เดี๋ยวพี่สั่งคนที่โรงแรมมาเตรียมให้” ผมบอกเมื่อนึกขึ้นได้
“เป็นความคิดที่ดีเลยค่ะ” เธอบอกยิ้มแย้ม จากนั้นผมก็ขอตัวขึ้นห้อง กะว่าจะเปิดคอมพิวเตอร์เช็คงานที่เลขาผมส่งเมล์มารายงานเสียหน่อย
เวลานี้ผมไม่อยากจะใส่ใจกับเรื่องอะไรอีก เพราะยิ่งคิดก็ยิ่งทำให้สมองผมมึนทึบกว่าเดิน ความสงสัยใจทำให้ผมรู้สึกอึดอัดคับข้องใจ ผมไม่เข้าใจในตัวเพื่อนผมคนนี้เลย...
เป็นครั้งแรกที่ผมรู้สึกแบบนี้อย่างแน่ชัด คบกับไอ้เรโอมันมาเป็นสิบปี ผมคิดว่าตัวเองน่าจะเป็นคนที่เข้าใจมันมากที่สุด แต่ทำไมตอนนี้... ผมถึงไม่เข้าใจในตัวมันเลยสักนิด
สายตาที่จ้องมองนิค เป็นสายตาที่จ้องจะเอาชนะมากว่าที่จะเป็นความชื่นชมรักใคร่ ทั้งๆที่มันเพิ่งจะสารภาพกับผมไปไม่นานว่าชอบนายนิค แต่สิ่งที่มันกำลังทำดูจะขัดแย้งกันเสียมากกว่า
ไอ้เรโอมันกำลังเล่นอะไรอยู่... สิ่งที่มันต้องการคืออะไร?
นี่เป็นสิ่งที่ผมสงสัยอยู่ในเวลานี้... ทั้งๆที่มันรู้อยู่แก่ใจอยู่แล้วว่าผมกับนายนิคมีความสัมพันธ์กันอย่างไร แล้วทำไมมันถึงได้ยืนยันว่าชอบนายนิค? เหมือนกับจงใจจะแย่งชิงมาจากผมอย่างนั้นล่ะ...
ผมไม่เคยเห็นมันเป็นคนแบบนั้น... เวลาที่มันเกิดชอบใครขึ้นมา แต่มารู้ที่หลังว่าเขาคนนั้นมีเจ้าของแล้ว มันก็จะเลิกยุ่งทันที เพราะไม่อยากจะตอแยเรื่องราวใส่ตัวและไม่อยากทำตัวผิดมโนธรรมประจำใจ
ผมรู้เรื่องนี้ดี... เพราะรู้ดี ผมถึงได้ตกใจและเคร่งเครียดกับการที่มันบอกว่าชอบนายนิคแบบนี้ไง...
“คุณไม่ไปผมก็ไม่ไป” นายนิคโพล่งขึ้นทันทีที่บุกรุกเข้ามาในห้องทำงานของผม
ห้องทำงานนี้เชื่อมติดกับห้องนอนที่ผมใช้ มันเป็นห้องเก่าของคุณปู่ และกลายเป็นห้องประจำของผมไปในทุกครั้งที่มาพัก
ผมเงยหน้าขึ้นมองเขา คิดไว้แล้วว่ามันต้องเป็นแบบนี้...
“นายอยากไปไม่ใช่เหรอ? เห็นบอกนานๆทีถึงจะได้ทำกิจกรรมแบบนี้นี่”
“ก็ในเมื่อไม่มีคุณ ผมจะไปสนุกอะไร อีกอย่าง...หมอนั่นมันก็ไม่ไป” ดวงตาของนายนิควาวโรจน์ขึ้นมาเมื่อเอ่ยประโยคสุดท้าย
“หมายถึงเรโอน่ะเหรอ... ปล่อยมันนอนไปสิ” ผมบอกอย่างไม่ใส่ใจ คิดไว้แล้วว่าเรโอคงไม่ไปตั้งแต่แรก ไม่ใช่เพราะผมไม่ไปหรอก... แต่ท่าทางของมันเหมือนคนอดหลับอดนอนแบบนั้น จะไปดำน้ำไหวได้ยังไง
“ยังไงผมก็ไม่ปล่อยให้คุณอยู่กับหมอนั่นสองคนหรอก” เขายืนกรานเสียงแข็ง
“แล้วน้องหยกเขาจะคิดยังไง ในเมื่อถอนตัวกันหมดแบบนี้” ผมเริ่มซีเรียส รู้สึกว่าตัวเองกลายเป็นตัวการให้งานล่มหมดสนุกกันแบบนี้
“คุณจะให้ผมไปเป็น กขค พวกเขารึไงเล่า! ในเมื่อผมไปแล้วเป็นส่วนเกินแบบนั้น...”
เออนั่นสิ... เหตุผลของนายนิคก็ถูก แต่มันก็มีไอ้ตั้มไปด้วยอีกคนนี่หว่า...
“ตั้มไง นายก็เล่นน้ำกับมันสิ”
เขาขยี้หัวไปมาอย่างกระฟัดกระเฟียด “มันเหมือนกันที่ไหนล่า! ไม่รู้ล่ะ ผมจะอยู่กับคุณ!”
ผมส่ายศีรษะไปมา เดินไปยืนริมหน้าต่างห้อง ทอดมองทิวทัศน์ไกลตา... ไม่รู้ว่าเป็นผมที่เอาแต่ใจไม่ยอมไป หรือเป็นเขาที่เอาแต่ใจจะอยู่กับผม ผมถอนหายใจออกมาเบาๆ
“คุณเข้าใจความรู้สึกของผมบ้างไหม... ผมรักคุณ ถ้าเป็นไปได้ก็อยากจะอยู่กับคนที่ผมรักตลอดเวลา” เขาเดินเข้ามาสวมกอดผมจากด้านหลัง
คิดแบบนี้เหรอ... ทำไมผมไม่ได้นึกถึงเลยล่ะ? ผมกำลังมองข้ามความรู้สึกของเขาไปสินะ...