Chapter : 25 ฮันนีมูนหรือฮันนีบาล(?)
เคยมีไหมที่คุณจะไม่ชอบขี้หน้าใครสักคนอย่างมาก จนไม่อยากแม้กระทั้งได้ยินชื่อคนๆนั้น?
ตอนนี้ผมมีแล้วครับ...
บอกไม่ถูกเหมือนกันว่าทำไมผมถึงได้เกิดความรู้สึกในแง่ลบถึงขนาดนี้ ทั้งๆที่ผมเคยเห็นหน้าเขาแค่แวบเดียวเท่านั้น ไม่ได้แม้แต่พูดคุยหรือทำความรู้จักกันมาก่อนเลย
แต่ไม่ชอบก็คือไม่ชอบ ผมเชื่อมั่นในความรู้สึกของผม!
ผมกับคุณกายเดินลงมาชั้นล่างพร้อมกัน หลังจากที่อาบน้ำแต่งตัวกันเสร็จเรียบร้อยแล้ว เห็นคุณหยกกับริชาร์ตกำลังนั่งจิบกาแฟกินแซนวิชที่ผมทำพลางพูดคุยหยอกเย้ากัน สวีทหวานรับยามเช้ากันเลยทีเดียว
“แหมๆ ทำไมเมื่อวานไม่เห็นเป็นแบบนี้เลยนี่ครับ ทำวางฟอร์มเตี๋ยมกันมาทั้งคู่ เล่นซะผมเกือบหัวหมุนตาย” ผมร้องแซวพวกเขา
“คิกๆ ก็หมดสนุกแล้วนี่นา ในเมื่อนิคกับพี่กายเข้าใจกันแล้ว หยกก็ไม่กล้าใจร้ายต่อไปหรอกค่ะ” คุณหยกบอกยิ้มๆ
“เอาเป็นว่าเรื่องที่คุณแกล้งผมหักกลบลบล้างกับที่คุณช่วยผมพิชิตใจคุณกายไปเลยละกันนะครับ หึหึ ต้องขอบคุณมากๆเลยนะครับ ไม่งั้นคุณกายคงยังไม่ยอมอ่อนข้อให้ผมถึงขนาดนี้ หึหึหึ” ผมพูดน้ำเสียงระรื่น อารมณ์ดีขึ้นมาทันใด เมื่อคืนช่างเป็นคืนที่แสนวิเศษสำหรับผมจริงๆ เพียงแค่นึกถึงก็เรียกรอยยิ้มจากผมได้แล้ว...
“อ้าว! พี่กายคะ!!” เธอร้องเรียก เมื่อเห็นคุณกายเดินจ้ำๆออกจากบ้านไปโดยไม่พูดไม่จา
“พี่กายต้องโกรธหยกแน่เลย...” เธอพึมพำเสียงอ่อย หน้าเจื่อนลงทันใด
“ไม่หรอกครับ คุณกายเขาเขินต่างหาก หึหึ” ผมหัวเราะในลำคอ รู้สึกขำกับท่าทีไม่กล้าสู้หน้าใครของเขาขึ้นมา
“แล้วพวกคุณเตรียมตัวจะออกไปไหนกันหรือ? เดี๋ยวสิบโมงครึ่งต้องไปดำน้ำกันแล้วนะ” ริชาร์ตที่นั่งข้างๆคุณหยกเอ่ยปากถาม ทำเอาผมหมดอารมณ์รื่นเริงในทันใด
“อ๋อ... พอดีคุณกายเขานำเข้าก้างจากอิตาลีน่ะครับ เลยต้องรีบไปขนย้ายโดยด่วน” ผมตอบอย่างแกนๆ เห็นคุณหยกเธอมองหน้าผมอย่างแปลกใจ ก่อนจะทำตาโตเหมือนกับคิดอะไรได้ แล้วปิดปากหัวเราะผมยกใหญ่
ผมบอกลาพวกเขา รีบตามคุณกายออกไป เห็นเขากำลังคุยกับเด็กตั้มที่กำลังรดน้ำต้นไม้อยู่ แล้วเด็กตั้มก็ล้วงกุญแจรถออกมาให้เขา
“ความจริงคุณไม่เห็นต้องไปเองเลย ให้ตั้มไปรับก็ได้นี่” ผมเสนอเมื่อเห็นหน้าเด็กตั้ม
“ไม่ได้หรอก ฉันให้ตั้มมันอยู่คอยดูแลหยกกับริชาร์ตที่นี่ นายไม่อยากไปก็ไม่ต้องนะ ฉันไปเองคนเดียวได้” คุณกายบอกแล้วเดินนำผมไปที่รถ
คุณกายบอกแบบนี้แล้วจะให้ผมทำยังไงได้ล่ะ นอกจากตามเขาขึ้นรถไป...
…
พอมาถึงสนามบินคุณกายก็กดโทรศัพท์โทรหานายนั่นทันที
“ฮัลโหล... อยู่ร้านกาแฟใช่ไหม เออ ถึงแล้ว กำลังจะเดินไปหา แค่นี้นะ!”
คุณกายหันมายิ้มให้ผม “เลิกทำหน้าบึ้งได้แล้ว นายกำลังจะไปเจอเพื่อนสนิทที่สุดของฉันนะ ทำหน้าตาให้มันดีกว่านี้หน่อยสิ...”
“ครับๆ” ผมรับคำฉีกยิ้มอย่างเฝื่อนๆ
ผมคงต้องเก็บอารมณ์ของตัวเองสักหน่อย เพราะไม่อยากให้คุณกายรู้สึกไม่สบายใจ... เขาพาผมมาที่ร้านกาแฟร้านหนึ่งในสนามบิน แต่ก่อนจะเดินเข้าไปเขาก็หันมาบอกผมว่า
“ทำตัวให้ปกตินะ ได้ไหม?”
ถึงจะรู้สึกหงุดหงิดใจมากแค่ไหนผมก็ต้องรับปากเขาไป ซ่อนความไม่พอใจเอาไว้ลึกๆข้างในเท่านั้น...
คุณกายเดินเข้าไปยังโต๊ะๆหนึ่งที่มุมร้าน เห็นหนุ่มอิตาเลี่ยนเพื่อนของเขากำลังนั่งจิบกาแฟกินขนมเค้กอยู่ หมอนั่นลุกขึ้นยืนยิ้มกว้างเมื่อเห็นคุณกายเดินเข้ามา ก่อนจะยิ้มค้าง... ทำตาโต จ้องมองผมที่เดินตามหลังสุดที่รักผมเข้ามา
มองทำซากอะไรวะ! ยิ่งผมได้มาเห็นหน้านายคนนี้ใกล้ๆ ก็ยิ่งฟ้องความรู้สึกในใจผมว่า ไม่ถูกชะตา...
“รอนานไหมวะ?” คุณกายถามขึ้น
แต่หมอนั่นยังคงเหม่อมองผมอยู่ไม่ตอบคำ คุณกายหันกลับมามองผมสีหน้าดูแปลกๆไป
“...นี่นิโคลัส นายอยากเจอไม่ใช่เหรอเรโอ” คุณกายแนะนำ
คำพูดของเขาทำเอาผมสะดุ้ง งุนงงไปหมด เขาหมายความว่ายังไงกัน? หมอนี่อยากเจอผมเหรอ... อยากเจอไปทำไมกัน??
ไอ้อิตาเลี่ยนมองหน้าผมกับคุณกายสลับไปมาหลายตลบ แต่ผมรู้สึกไม่ชอบสายตาของมันเลย แววตามันเหมือนมีอะไรเคลือบแฝงที่ผมอ่านไม่ออกอยู่...
“นิค! นี่เรโอเพื่อนสนิทฉัน รู้จักกันไว้นะ” ผมพยักหน้ารับส่งๆไป ทั้งๆที่ในใจขัดแย้งมากมาย ยิ่งหมอนั่นมองผมแปลกๆแบบนี้ ผมยิ่งไม่อยากจะรู้จักมันเท่าไหร่นัก...
“ยินดีที่ได้รู้จักนะครับ” นายเรโอยื่นมือมาตรงหน้าผมแล้วยิ้มให้
ผมมองมือไอ้อิตาเลี่ยนแวบหนึ่ง แล้วยื่นมือจับตอบ “ครับ เช่นกัน”
“ฉันว่าเรารีบกลับกันเถอะ” คุณกายบอก ก่อนจะเดินนำออกจากร้านไป
“แกจะรีบไปไหนวะกาย ฉันยังไม่ทันได้หายใจหายคอเลยนะ” ไอ้หมอนั่นเดินตามคุณกายไปติดๆ
“ก็ไหนแกว่าให้ฉันรีบมารับ เบื่อรอแล้วไม่ใช่เหรอ?”
“แหม แค่นี้ทำมาหงุดหงิดนะ” ไอ้อิตาเลี่ยนกอดคอสุดที่รักผมไว้
ผมยืนมองเพื่อนรักทั้งสองคนนิ่ง ก่อนจะเดินตามพวกเขาไปอย่างเซ็งๆ ในใจยังคงข้องใจกับสายตาแปลกๆของนายเรโอนั่น
ไม่รู้สิ...ผมรู้สึกว่ามันเป็นสายตาที่แฝงความน่ากลัวบางอย่าง ที่แน่ๆผมไม่รู้สึกเป็นมิตรกับสายตานั้นเลย...
หวังว่าการมาของหมอนี่จะไม่มีเรื่องแย่เกิดขึ้นระหว่างผมกับคุณกายนะ เอาเป็นว่าผมจะพยายามใจเย็นละกัน ผมจะอดทน เพื่อไม่ให้คนที่ผมรักลำบากใจ...
------------------------------------------------------------------------