†ღ♥ Łove Âccident!! วุ่นรัก พิทักษ์ใจ ♥ღ†(นายนิค&คุณกาย) ตอนพิเศษ Happy Valentine's Day
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: †ღ♥ Łove Âccident!! วุ่นรัก พิทักษ์ใจ ♥ღ†(นายนิค&คุณกาย) ตอนพิเศษ Happy Valentine's Day  (อ่าน 522766 ครั้ง)

*~MIST~*

  • บุคคลทั่วไป
ค้างงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง

รีบมาต่อ เลย................... แงแง

^^ สู้ๆๆ Fighting   

tsuya

  • บุคคลทั่วไป
ตามอ่านจนทัน   :o  แต่ไมมันค้างอ่า

โหดร้ายมากกกกกก  :o12: ใจร้ายที่สุดเลย....

 :m15:

satan666

  • บุคคลทั่วไป


ดีใจจังที่ยังมีคนติดตามอยู่  o7

ขอบคุณทุกคนมากค่ะ :L2:

แหะๆ ไม่ได้ตั้งใจให้ค้างกันนะ

ตอนนี้คงได้หายค้างกันแล้วแหละ :m4:


=====================================



Chapter : 20  จนได้...



เส้นทางข้างหน้าพร่ามัวด้วยน้ำตา... ผมกดลิฟต์ลงมาชั้นล่าง ตามหาเขาจนทั่ว แต่ก็ไม่พบ... ไม่เห็นแม้แต่เงา...

อาจเป็นเพราะเวลายังเช้าอยู่ ตอนนี้ที่ชั้นล่างเลยยังไม่ค่อยมีคน ไม่งั้นถ้ามีคนเห็นผมตอนนี้ คงคิดว่าผมบ้าไปแล้ว ซึ่งผมก็บ้าจริงๆ บ้าถึงขนาดวิ่งออกไปดูที่ถนนหน้าคอนโดฯ

ผมกำลังทำอะไรอยู่...

ผมกำลังกดโทรศัพท์หาเขาอยู่ครับ แต่...ไม่มีใครรับ

ผมเริ่มใจเสีย เขาไปจริงๆเหรอ...?? 

ผมกำลังทำอะไร? นี่เป็นรอบที่เท่าไหร่แล้วก็ไม่รู้ที่ผมถามตัวเองแบบนี้ เพื่ออะไร?

...ไปซะได้ก็ดี จะได้เลิกวุ่นวาย หมดปัญหาสักที ผมสบายใจ ผมสบายใจได้แล้ว...

เดินกลับมาที่ห้องด้วยจิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว อา...ขึ้นลิฟต์มาตอนไหนยังไม่รู้เลย เปิดประตูห้องเข้าไป ทำไมใจมันหนักอึ้งแบบนี้นะ... ผมเงยหน้าพิงประตูสูดหายใจเข้าลึกๆ  ปาดน้ำตาบนใบหน้าที่ยังไหลไม่หยุดแล้วเดินเข้าห้องนอน ทิ้งตัวลงบนเตียง ตอนนี้ในสมองของผมลำดับความคิดอะไรไม่ได้เลย มันตื้อไปหมด...

โทรศัพท์มือถือของผมดังขึ้น ผมรีบคว้ามันมาดูอย่างรวดเร็ว แต่คนที่โทรเข้ามาเป็นน้องหยก ผมหลับตาลงด้วยความผิดหวัง นี่ผมกำลังคาดหวังให้เขาโทรมางั้นเหรอ?

“ครับ”

[“พี่กายออกมารึยังคะ หยกเตรียมตัวเสร็จแล้วค่ะ”]

“คือ... พี่ขอโทษนะครับ พี่คงไปพร้อมกับน้องหยกไม่ได้แล้ว พอดีมีธุระด่วนเข้ามา น้องหยกไปก่อนได้รึเปล่าครับ? หรือจะรอพี่”

[“ไม่เป็นไรค่ะพี่ หยกไปเองได้ หยกนัดกับริชาร์ตเขาไว้แล้วด้วย ”]

“อ่าครับ... ยังไงไปไหนมาไหนกับแฟนก็ระวังตัวด้วยนะ เดี๋ยวสายสืบของคุณลุงกับพ่อพี่จะมาเห็นเข้าก็แย่เลย ถึงแล้วโทรบอกด้วยนะ แล้วพี่จะรีบไปสมทบ”

[“ค่า ทราบแล้วค่ะ แล้วพี่เป็นอะไรรึเปล่า เสียงดูเนือยๆยังไงไม่รู้ ไม่สบายรึเปล่าคะ?”]

“อืมม์... สงสัยเหนื่อยล่ะมั้ง ไม่เป็นไรหรอก”

[“อ่ะค่ะ ธุระไม่ต้องรีบนะคะ หยกรอได้ค่ะ แค่นี้นะคะพี่ชาย พักผ่อนเยอะๆนะคะ”]

“ครับๆ” ผมโยนมือถือไว้บนเตียง ก่อนจะลุกไปเข้าห้องน้ำล้างหน้าล้างตา

พอออกมาจากห้องน้ำ สายตาผมก็เหลือบไปเห็นกระเป๋าเป้ใบใหญ่วางอยู่ข้างๆตู้เสื้อผ้าของผม นี่มัน... ของหมอนั่นนี่นา...

เขารีบร้อนจากไปถึงขนาดลืมทิ้งไว้เลยเหรอ? ผมรู้สึกใจชื้นขึ้น ในส่วนลึกรู้สึกดีใจอย่างบอกไม่ถูก ยังไงเขาก็ต้องกลับมาเอากระเป๋าล่ะน่า...

แต่ถ้าไม่ล่ะ?

ผมถือวิสาสะค้นกระเป๋าของเขาดู เผื่อเจอสิ่งของสำคัญที่ทำให้เขาต้องกลับมาเอา

“อ่ะ! นี่ไง” ผมเจอพาสปอร์ตของเขาในกระเป๋า ของสำคัญแบบนี้ยังไงเขาก็ต้องกลับมาเอาแน่ๆ

เอ๊ะ! แล้วนี่อะไร มือผมปัดไปโดนกรอบรูปเล็กๆใบหนึ่งในกระเป๋า ด้วยความสงสัยเลยหยิบขึ้นมาดู ตอนแรกในใจผมคิดว่า ต้องเป็นรูปพ่อแม่หรือครอบครัวของเขาแน่เลย แต่ที่ไหนได้... ดันเป็นรูปผม!

มันโรคจิตจริงๆด้วย! นี่มันรูปในนิตยสารนี่นา ถึงขนาดตัดใส่กรอบเลยเหรอเนี่ย... เจอเข้าแบบนี้บอกไม่ถูกว่าผมรู้สึกยังไง แต่ที่แน่ๆผมอึ้งไปเหมือนกัน อะไรจะขนาดนั้น... เขาช่างทำไปได้

ที่สำคัญผมรู้สึกขำมากกว่า ก็ไอ้หมอนั่นมันบ้าจริงๆ...

ผมเก็บกรอบรูปนั้นกลับไว้ที่เดิม ปิดกระเป๋าแล้วเดินกลับไปนอนที่เตียง ลืมตามองเพดานห้องสีขาวโพลน รู้สึกเหงาๆยังไงไม่รู้ ชีวิตผมมันเงียบเชียบถึงขนาดนี้เชียวเหรอ?

“เฮ้ออ...” ถอนหายใจให้กับตนเอง แต่ก่อนผมไม่เคยมีความคิดแบบนี้นี่นา... นี่มันเป็นชีวิตประจำวันของผมไม่ใช่เหรอ? ผมชินกับการอยู่กับตัวเองมาตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอ? แล้วทำไมผมต้องรู้สึกว่าเหมือนกับมีอะไรบางอย่างขาดหายไป... น่าปวดหัวจริงๆ

ไม่รู้ตัวว่าหลับไปตอนไหน ตื่นมาอีกที่ก็บ่ายโมงแล้ว ไม่รู้สึกหิวเลยสักนิด แต่ลำคอแห้งผาดไปหมด... เลยลุกขึ้นไปหาน้ำกินในครัว ตอนนี้ผมรู้สึกไม่อยากทำอะไรทั้งนั้น เพราะทุกอย่างมันดูน่าเบื่อไปหมด

จนบ่ายแล้ว หมอนั่นก็ยังไม่กลับมาสักที ไม่รู้ว่าไปที่ไหน คุ้นเคยกับทางในกรุงเทพฯรึเปล่าก็ไม่รู้ ผมถอนหายใจยาวเหยียด ทำไมผมต้องเป็นกังวลถึงขนาดนี้นะ ไม่เคยมีครั้งไหนเลย ที่ผมจะรู้สึกกับคนๆหนึ่งถึงขนาดนี้มาก่อน อึดอัดข้างในใจเหลือเกิน จนไม่รู้จะทำยังไงต่อไปดี...   

ผมเดินมาที่ระเบียงห้อง ตั้งใจจะออกไปสูดอากาศข้างนอกเสียหน่อย เผื่อว่าความคับแน่นในอกจะบรรเทาเบาบางลงบ้าง ผมเลื่อนบานเลื่อนประตูกระจกออก แต่เมื่อมองไปที่ระเบียงห้องก็ต้องชะงักเท้าไว้ด้วยความตื่นตะลึง!

อาจเป็นเพราะประตูกระจกมีม่านบังไว้ ทำให้ก่อนหน้านี้ผมไม่ทันสังเกตเห็น เก้าอี้ไม้หวายบนระเบียงห้องถูกยึดครองโดยหนุ่มฝรั่งร่างสูง ที่ก่อนหน้านี้ผมนึกถึงแล้วมัวแต่กระวนกระวายเป็นบ้าอยู่คนเดียว ทั้งที่เขาก็อยู่ใกล้แค่เนี้ย! ผมไม่รู้ว่าเขามาอยู่ตรงนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่ พึ่งมาตอนผมหลับ หรือว่าอยู่ที่นี่ตั้งแต่แรกก็ไม่รู้... 

เขานั่งหันหลังให้กลับผม เหมือนไม่รู้สึกตัวว่าผมมา หรือว่าจงใจเมินเฉยก็ไม่รู้ แต่ผมก็ดีใจอย่างบอกไม่ถูกที่ได้พบเขา

ผมรู้สึกสองข้างแก้มตึงๆ เลยยกสองมือขึ้นมาจับที่แก้ม อะไรกัน... นี่ผมกำลังยิ้มอยู่เหรอเนี่ย! ฮึ้ย! อยากจะเอาหน้าแทรกซีเมน ทำไมต้องดีใจที่ได้พบหมอนี่ถึงขนาดนี้ก็ไม่รู้ ดีใจถึงขนาดไม่สามารถหุบยิ้มลงได้ ถ้าหมอนี่มาเห็นเข้าคงได้ขายหน้ากันพอดี บ้าชิบ!

แต่เมื่อเจอเขาแล้ว ผมจะทำอย่างไรต่อไปดีล่ะ ตอนแรกก็กระวนกระวายไม่สบายใจ อยากเจอเขาให้ได้ แต่พอมาพบตัวจริงๆ กลับทำอะไรไม่ถูก ไม่รู้จะพูดหรือเริ่มยังไงดี ผมควรจะทำยังไงดีล่ะ? 

“เอ่อ...คือ เอ่อ...” พูดอะไรดีล่ะ? ผมก้มหน้ากำชายเสื้อแน่น

“นายอยู่ตรงนี้ตลอดเลยเหรอ?”

เขานิ่งเงียบไร้ปฏิกิริยาตอบกลับ มันทำให้ผมกลัวใจเขามากขึ้น นี่เขาโกรธผมมากขนาดนี้เชียวเหรอ?

ทำไงดีล่ะ? ในชีวิตนี้ผมไม่เคยง้อใครมาก่อนเลยนะ ผมจะต้องเริ่มจากตรงไหนดีเพื่อทำให้เขาหายโกรธผม ทำให้ความไม่สบายใจและอึดอัดในอกนี้หมดไปเสียที

เอาล่ะ! เป็นไงเป็นกัน!

ผมสูดลมหายใจเข้าลึกๆ แล้วเดินเข้าไปเผชิญหน้ากับเขา

แต่ปรากฏว่า...

หนุ่มฝรั่งกำลังนั่งหลับอยู่...

จะบ้าตาย...นี่ผมพูดอยู่คนเดียวเหรอเนี่ย!!

น่าหมั่นไส้ชะมัด! ผมอุตส่าห์มาง้อนะ แต่ดูเขาทำสิ... แล้วผมจะเอายังไงต่อไปดี...

ผมมองหน้าเขาอย่างพินิจพิจารณา ก่อนจะเอื้อมมือไล้นิ้วเบาๆที่ขนตาสีอ่อนของเขา ขนตางอนยาวสั่นระริกไปมา หัวคิ้วเริ่มขมวดกันมุ่นด้วยความรำคาญ ก่อนที่มือแกร่งจะยกขึ้นปัดมือผมออกไปเหมือนปัดแมลง ทำให้ผมต้องชักมือกลับมา

ขณะที่ยืนคิดไม่ตกว่าจะปลุกเขามาคุยกัน หรือจะปล่อยไว้แบบนี้ดี เขาก็ลืมตาตื่นขึ้นมาแล้ว...

เขาจ้องมองผมที่ยืนอยู่ตรงหน้า โดยไม่พูดอะไรสักคำ แต่ผมสังเกตได้จากแววตาเศร้าๆของเขา ว่าผมได้ทำร้ายจิตใจเขามากแค่ไหน ทุกอย่างมันสื่อผ่านสายตาของเขาได้ทั้งหมด

คำพูดที่ผมเตรียมเอาไว้ก่อนหน้านี้ ติดขัดอยู่ในลำคอ ไม่สามารถเปล่งถ้อยคำใดๆออกมาได้ เพิ่งจะรู้ว่าการพูดจาภายใต้สายตาที่มองผมอย่างค้นหา มันยากลำบากถึงเพียงนี้....

รับรู้ได้เลยว่า คำพูดของผมต่อไปนี้จะเป็นตัวตัดสินทุกอย่าง ทุกอย่างมันขึ้นอยู่กับผม และเขากำลังรอให้ผมตัดสินใจ...

ผมลองคิดทบทวนเหตุผลในจิตใจ ว่าในใจผมต้องการอะไรกันแน่ ลองช่างน้ำหนักในจิตใจดูว่า ระหว่างบทสรุปสองอย่าง อย่างไหนที่ผมต้องการมากกว่ากัน

ระหว่างไล่เขาออกไปจากชีวิต กับการให้เขายังอยู่ตรงนี้ ไม่ว่าในฐานะอะไรก็ตาม...

และผมก็ได้ข้อสรุปว่าถ้าไล่เขาไปจริงๆ ผมคงจะมีอาการเหมือนเมื่อเช้า มันไม่ใช่ความรู้สึกที่ดีนักหรอก...

จากการได้คิด ทำให้ผมเพิ่งรู้ตัวว่า เขาได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตผมไปแล้ว แล้วถ้าขาดเขาไป บอกไม่ถูกจริงๆว่าผมจะเป็นยังไง...

นี่ผมกลายเป็นคนอ่อนแอแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน...?

ผมขบริมฝีปากแน่น หรือผมจะตัดเนื้อร้ายออกไปแต่เนิ่นๆดี??

สิ่งที่ผมกลัวมาตลอดมันคือสิ่งนี้เอง... ผมกลัวว่าถ้าเขายังอยู่ข้างๆผมแบบนี้ โลกของผมจะไม่เป็นโลกของผมอีกต่อไป โลกที่ผมสร้างสรรค์ขีดเส้นแบ่งกำหนดทุกอย่างเอาไว้ จะเกิดการเปลี่ยนแปลง... กลัวว่าถ้าเกิดมีใครก้าวล้ำมาในพื้นที่ของผม ทุกอย่างจะไม่เหมือนเดิม มันจะกลายเป็นอนาคตที่ผมมองไม่เห็น...

ในขณะที่ผมกำลังสับสนลังเลใจ อยู่ๆเขาก็ลุกจากเก้าอี้ จ้องมองผมนิ่ง แล้วทำถ้าจะเดินออกไป แววตาของเขานั้นฉายชัดว่าผิดหวังในตัวผมเหลือเกิน...

ผมใจสั่นไปหมด จ้องมองแผ่นหลังของเขาที่ค่อยๆห่างออกไป หยุดความคิดทุกอย่างลง แล้วตัดสินใจทำตามความรู้สึกของผมในตอนนี้!

ผมวิ่งเข้าไปกอดเขาไว้จากด้านหลัง...

“ฉันขอโทษ...อย่าไปนะ...อย่าไป” น้ำตาผมไหลออกมา สองแขนกอดรัดเอวเขาไว้แน่น ผมไม่อยากคิดอะไรทั้งนั้น ไม่อยากคิดอีกต่อไปแล้ว...

หนุ่มฝรั่งยืนนิ่งเงียบไป ก่อนจะพูดคำพูดที่ทำให้ผมชะงักเสียงสะอื้นลง

“จริงหรือครับ? คงไม่ใช่เพราะสงสารหรือเห็นใจผมหรอกนะ ผมก็มีศักดิ์ศรีเหมือนกันนะ ถ้าไม่ใช่ความต้องการจากใจคุณจริงๆ ผมคงต้อง...”

“ไม่! ไม่ใช่อย่างนั้น...” ผมตัดบทเขา

 “มันเป็นความรู้สึกของฉัน...เป็นความต้องการของฉัน... จริงๆนะ จริงๆ...ฮึก...”

สองมือแกร่งที่ตกห้อยข้างลำตัวของเขา ถูกยกขึ้นมากุมมือของผมเอาไว้ เขาดึงแขนของผมที่กอดเขาไว้ออก ก่อนจะหันกลับมาสวมกอดผมไว้ในวงแขนอย่างแนบแน่น

“ผมดีใจจัง... ดีใจที่คุณก็ต้องการผมเหมือนกัน” หนุ่มฝรั่งมองตาผมอย่างหวานซึ้ง ยกมือเกลี่ยน้ำตาออกจากแก้มผมเบาๆ ก่อนจะค่อยๆก้มหน้าลงพรมจูบทั่วใบหน้าของผมอย่างอ่อนโยน จรดริมฝีปากลงบนปากผมอย่างนุ่มนวลและเนิ่นนาน...



************************************************************







อ้ายวี

  • บุคคลทั่วไป
ผมติดตามอ่านมาจากเด็กดีแล้ว ลุ้นตั้งนาน ในที่สุดก็ยอมเปิดใจซะที  o13

ooICEoo

  • บุคคลทั่วไป

KriT_SuN

  • บุคคลทั่วไป

Mp_qM

  • บุคคลทั่วไป
อ๊าาา

รอครับ อิอิ ฉากต่อไป วาบหวามสุดขาดใจ

marchmenlo

  • บุคคลทั่วไป
 :m1: ไำกล้จะถึงบทโรเมนติกแล้วอ่ะดิ คิ ๆ ๆ

anna1234

  • บุคคลทั่วไป
 o7 โธนู๋กายในที่สุด ในทีสุด ก็กลายซะแล้ว

อิอิ กลายเป็นว่ารู้ใจตัวซะที่

ยะฮู้ :m4: สมหวังซะที่นะนิกนะ เราเชียร์นายวะ

ออฟไลน์ THIP

  • Global Moderator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7674
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +986/-10

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






bigynew

  • บุคคลทั่วไป
เย้ ๆ มีความสุขซักทีนะ หรืออาจจะเป็นบทเริ่มต้นของโศกนาฏกรรม อิอิ อย่าให้เป็นอย่างที่คิดเลย ชอบ ๆ หนุกดี

ออฟไลน์ a_tapha

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4981
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +397/-1

ออฟไลน์ pongsj

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6054
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +213/-9
ว้าวววววววววววววววววววววววววว ในที่สุด  :o8:

ออฟไลน์ Joobperman

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 648
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +39/-1
อ๊า...ยอมรับแล้ว...
รออ่านตอนหน้าอย่างใจจดจ่อ..อิอิ   :o8:

Eis

  • บุคคลทั่วไป
โอยยย... ลุ้นครับ


.
.
.

“ฉันขอโทษ...อย่าไปนะ...อย่าไป” น้ำตาผมไหลออกมา สองแขนกอดรัดเอวเขาไว้แน่น ผมไม่อยากคิดอะไรทั้งนั้น ไม่อยากคิดอีกต่อไปแล้ว...
.
.
.



อย่าหายไปนานนะครับ คนอ่านกำลังอิน  o7 ขอบคุณครับ

@^_^@PeaZa@^_^@

  • บุคคลทั่วไป

ออฟไลน์ DeShiWa

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4332
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +150/-9
:L2: :L2: :L2: :L2: :L2: :L2:

ในที่สุดพี่นิคก็สมหวังวะที

หลังจากที่เชียร์มานานแทบขาดใจ..อิอิ

แล้วความรักทั้ง2จะเป็นยังไงต่อครับผม

ยังไงๆก็เป็นกำลังใจให้เสมอครับผม

:L2: :L2: :L2: :L2: :L2: :L2:

MoonIce

  • บุคคลทั่วไป
ในที่สุดก็มาต่อ.... o7

นิกจ๋าพระเจ้าเข้าข้างแล้ว.... :oni1:

หุหุ...รอตอนต่อไป... :m12: :m12:

tsuya

  • บุคคลทั่วไป
อุ้ยๆๆ รักกันแล้วๆ  :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1:

 :โหลๆ: ต้องบอกให้คนอื่นรู้ๆๆๆ

ฮ้า... ไปบอกข่าวเรโอก่อน อิอิ   :oni1: :oni1: :oni1:

ออฟไลน์ lucifel

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 780
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-0
ในที่สุดพี่กายก็ใจอ่อน o13
ลุ้นจนตัวโก่งไปหลายตลบ o7
 :m1:รับรักเค้าซักที

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






re_rain

  • บุคคลทั่วไป
ในที่สุด และในที่สุด พี่กายก็.....  :L1:

 :oni3: จงมา จงมาต่อ ตอนต่อไป

จากแฟนนิค+กาย



ออฟไลน์ Tetjinen

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 390
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-0
 :m1: ดีจังอย่างนี้ต้องฉลอง  :mc4:

ออฟไลน์ ErosAmor

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 851
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +61/-2
กี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด!

 o13

 :o8:

 :m4:

 :m1:

Pztor

  • บุคคลทั่วไป

ออฟไลน์ karenoo

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 406
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-1
และแล้ว....กายก็ยอมรับซักที  :m1:

อย่างนี้ต้องไปฮันนีมูนต่อที่ภูเก็ตนะคะ  :m12:

ออฟไลน์ εїзป่วงน้อยεїз™

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 197
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-1
เย่ๆ กายยอมแล้ว ต่อไปขอฉากหวานๆนะคะ  :m13:

totoken

  • บุคคลทั่วไป
เพิ่งได้อ่านเรื่องนี้ อ่านตั้งแต่เที่ยงคืน จบ เอาตอนตีสี่ สุดยอดเลย :m13:
สงสัยวันนี้ต้องโดดงานแน่ๆ  :เฮ้อ: จะรอตอนต่อไปนะครับ  :m1:

Haney

  • บุคคลทั่วไป
โฮกกกกกกกกก ในที่สุด!!!!!!!!!!!!!!!!! บราโว่~~~~~~~~~ o13 o13
รอมานานคุณกายก็รับรักหนุ่มฝรั่งของเราซะที วิ้ววววววววววว

รีบๆมาต่อน้า
รอมานานมว๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก :o8:

satan666

  • บุคคลทั่วไป


มาแล้วค่ะ  :o8:

หวังว่าจะชอบกันนะคะ :m13:

ตานายนิคกันบ้าง ฮุฮุ :laugh:

==========================



ผลของการใช้จิตใจเป็นเดิมพันของผมในครั้งนี้ ได้ผลตอบรับที่เกินคาดกว่าที่ผมคิด!

การที่ผมใช้หัวใจตีแผ่ความรู้สึกออกมานั้น ก็เพื่อบีบเค้นให้เขาแสดงธาตุแท้ในจิตใจออกมาให้ผมได้รับรู้ ผมคิดว่าเขาน่าจะมีใจให้ผมบ้าง เพราะดูจากท่าทีของเขาที่ผ่านมา เห็นได้ชัดถึงความเปลี่ยนแปลงจากช่วงแรกที่ผมพบกับเขา กับในระยะหลังที่ได้อยู่ร่วมกัน มันดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

นั่นทำให้ผมมั่นใจขึ้น และลองเดิมพันความรู้สึกที่แท้จริงที่เขามีต่อผมดู

ถึงมันจะเสี่ยงไปบ้าง เพราะผมได้รับรองกับตัวเองแล้วว่า ถ้าเขายังคงยืนกรานปฏิเสธผมอย่างถึงที่สุด ผมก็จะถอยออกมาจากชีวิตเขา และรักเขาโดยที่ไม่ไปก้าวก่ายให้เขารำคาญใจอีก...

ผมเดิมพันบทสรุปในความรักของผมกับวันนี้...

แต่สิ่งที่ผมทำนั้น ก็ต้องแลกมาด้วยความเจ็บช้ำไม่น้อย คำพูดของเขาราวกับคมมีดที่บาดเฉือนหัวใจผมซ้ำแล้วซ้ำเล่า มันดูเหมือนกับว่า ในใจเขาไม่เคยมีผม อยากที่ผมเคยคาดคิด...

จนในที่สุด ผมก็เป็นฝ่ายทนไม่ได้ ผละจากมาด้วยความเจ็บปวดใจ ความมั่นใจอันน้อยนิดในตอนแรกแหลกสลายไม่มีชิ้นดี มันทำให้ผมท้อแท้สิ้นหวังอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน...

ผมเดินออกไปสูดอากาศที่ริมระเบียง มองท้องฟ้าอันสดใสเบื้องนอกที่ตรงข้ามกับจิตใจผมในตอนนี้อย่างซึมเซา ผมจะต้องไปจริงๆเหรอ...? ผมไม่อาจหักใจได้จริงๆ...

ถอนหายใจยาว อยากจะปลดปล่อยความเจ็บปวดหดหู่ข้างในจิตใจนั้นออกมาผ่านลมหายใจสายนี้...

นึกถึงเรื่องราวเหตุการณ์ต่างๆที่ได้อยู่ร่วมกับเขาที่ผ่านมา สองเท้าตรึงอยู่กับที่... ที่ๆเป็นบ้านของคนที่ผมรัก... อยากจะซึมซับทุกอย่างเอาไว้ให้มากที่สุด...

ผมทรุดตัวลงนั่งเอนหลังบนเก้าอี้หวายริมระเบียงอย่างเหนื่อยล้า หลับตาลง... ใบหน้าของเขายังคงฉายชัด

ชั่วชีวิตนี้ผมคงไม่มีวันลืมคนๆนี้ได้หรอก... ผมแย้มยิ้มออกมาอย่างข่มขื่น

สักพักเสียงโทรศัพท์มือถือของผมก็ดังขึ้น ผมหยิบมันขึ้นมาดูชื่อคนโทรอย่างไม่อาจเชื่อสายตา มือที่กำโทรศัพท์สั่นระริกอย่างไม่อาจควบคุม

หรือทุกอย่างจะไม่ได้เป็นอย่างที่ผมคิด?!

ทันใดความหวังที่สูญสลายสาดโถมเขามาในจิตใจผมอีกครั้งดุจระลอกคลื่น ผมยิ้มบางๆออกมา การที่เขารีบโทรมาหาผมหลังจากที่ผมผละจากมาไม่นาน แสดงให้เห็นอย่างแน่ชัดว่าคุณกายก็แคร์ความรู้สึกของผมบ้างเหมือนกัน ผมรู้สึกใจชื้นขึ้นมา การเดิมพันคงยังไม่สิ้นสุดสินะ... ผมคงด่วนตัดสินใจเร็วเกินไป ...

ที่เหลือผมคงต้องเฝ้ารอคอยการตัดสินใจครั้งสุดท้ายของเขา!

ผมรอคอยเป็นเวลานาน จนกระทั่งผมเผลอหลับไป ตื่นมาอีกที่ก็เห็นคุณกายยืนอยู่ตรงหน้าผม ไม่จำเป็นที่ผมต้องพูดอะไรแล้ว ทุกอย่างมันสื่อผ่านสายตาของผมทั้งหมด ความรู้สึกทุกอย่าง...

บทสรุปสุดท้ายขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของเขา ซึ่งผมก็พร้อมที่จะยอมรับมัน....

ดวงตาของเขาที่มองผมสับสนลังเลยิ่งนัก เห็นเขายืนครุ่นคิดอยู่กับที่อย่างยากตัดสินใจ มันทำให้ผมไม่อาจทนมองอีกต่อไป ไม่เข้าใจว่าจนถึงขนาดนี้แล้วเขายังต้องคิดวุ่นวายอยู่อีกเหรอ? ฮึ! บางทีผมอาจจะดื้อด้านไปเอง ก่อนหน้านี้เขาก็บอกแล้วไม่ใช่เหรอว่าไม่ต้องการมีผมไว้รกสมอง!

ผมก้าวเดินออกไปอย่างไม่สนใจอีกต่อไป ผมคงจะต้องยอมรับความจริงเสียที...

หมับ!

คุณกายวิ่งมากอดผมจากด้านหลัง มันทำให้ผมต้องชะงักร่างกายแข็งทื่อทันที เขาสะอึกสะอื้นระร่ำระลักออกมา
 
“ฉันขอโทษ...อย่าไปนะ...อย่าไป” เขากอดรัดผมไว้แน่น ราวกับกลัวว่าผมจะหลุดลอยจากไปจริงๆ นั่นทำให้หัวใจที่แห้งเหี่ยวของผมเริ่มมีชีวิตชีวาขึ้นมา

แต่ผมจะแน่ใจได้จริงเหรอ? มันเป็นความต้องการจริงๆของเขาหรือแค่สงสารเห็นใจผมกันแน่? ผมถามออกไป แต่ในใจภาวนาให้เป็นความรู้สึกจากใจจริงของเขา

“จริงหรือครับ? คงไม่ใช่เพราะสงสารหรือเห็นใจผมหรอกนะ ผมก็มีศักดิ์ศรีเหมือนกันนะ ถ้าไม่ใช่ความต้องการจากใจคุณจริงๆ ผมคงต้อง...”

“ไม่! ไม่ใช่อย่างนั้น...”  ผมนิ่งลุ้นในคำตอบ
 
“มันเป็นความรู้สึกของฉัน...เป็นความต้องการของฉัน... จริงๆนะ จริงๆ...ฮึก...”

เท่านั้นแหละ ผมก็หันมาสวมกอดเขาไว้ทันที คำพูดของเขาสร้างความตื้นตันใจจนหัวใจพองโต มันเป็นคำพูดจากใจจริงของเขา แม้ไม่ใช่ถ้อยคำที่อ่อนหวานรื่นหู แต่คำพูดเขาเหล่านี้ ก็ซึมซับสู่จิตใจผมยิ่งกว่าถ้อยคำพิเศษอันใด

“ผมดีใจจัง... ดีใจที่คุณก็ต้องการผมเหมือนกัน”


…..



ภายในห้องนั่งเล่นของคอนโดฯ หลังจากทานอาหารกลางวันด้วยกัน ผมกับคุณกายก็มานั่งดูหนังกันที่นี่ แต่ผมแทบจะดูหนังไม่รู้ เนื่องเพราะสายตาผมไม่ได้จดจ่ออยู่ที่จอทีวี หากแต่เอาแต่จดจ่ออยู่ที่ใบหน้าด้านข้างของเขา

การได้มองเขา อยู่ใกล้ถึงเพียงนี้ ก็เป็นสุขยิ่งแล้ว...

ผิวพรรณของคุณกายขาวเนียนใสหมดจด น่าลูบไล้สัมผัสนัก สมกับเป็นลูกผู้ดีฐานะมั่งคั่ง เค้าโครงเครื่องหน้าถูกจัดวางอย่างลงตัวดั่งถูกสรรค์สร้างจากจิตกรชั้นเอก เพียงมองจากด้านข้างผมก็แทบอดใจไว้ไม่อยู่ โดยเฉพาะริมฝีปากแดงฉ่ำนั่น...   

ก่อนหน้านี้ผมไม่ได้สังเกตรายละเอียดถึงขนาดนี้มาก่อน แค่เห็นว่าเขาดูน่ารักดีเท่านั้น แต่พอมาสังเกตอย่างจริงจัง คุณกายถือเป็นผู้ชายที่หน้าตาดีมากคนหนึ่งเลยทีเดียว

ผมมองอย่างเคลิบเคลิ้ม บังเกิดความต้องการขึ้นตามธรรมชาติ พยายามสื่อผ่านสายตาให้เขารู้ แต่เขากลับไม่หันมามองผมแม้สักนิด ยังคงดูหนังต่อไปอย่างตั้งใจ อะไรจะจดจ่อถึงขนาดนั้น!?

ผมเริ่มหงุดหงิดเล็กๆ เขาไม่สนใจผมเลยอ้ะ! ฮึ้ยย...

“มองอะไรนักหนา หนังไม่สนุกหรือไง?” เขาถามขึ้น แต่ไม่ได้ถอนสายตาจากหนังที่ดู ผมเลยต้องหันไปมองดูบ้าง

เอเลี่ยนน่าตาน่าเกลียดในจอ กำลังไล่ล่าฆ่าคนอยู่... เหตุการณ์ในหนังน่าตื่นเต้นระทึกขวัญยิ่งนัก!
แต่ผมกำลังเซ็ง...

มองคุณกายด้วยตาละห้อย ก่อนจะตัดสินใจไถลตัวกับโซฟา นอนลงบนตักเขา คุณกายเพียงก้มลงมองผมแวบหนึ่ง ไม่ได้ว่าอะไร แล้วหันไปดูหนังต่อ

หลังจากนั้นคุณกายก็มองผมบ้างเป็นครั้งคราวสลับกับดูหนัง สักพักก็เริ่มหันมามองผมบ่อยขึ้น บ่อยขึ้นๆ จนสุดท้ายก้มลงจ้องผมตาเขม็ง ไม่สนใจจอทีวีอีกต่อไป!

“นี่มันจะมากเกินไปแล้วนะ”

“ครับ?” ผมเงยหน้าออกจากหน้าท้องแบนราบของเขา หันมามองด้วยตาใสซื่อ

“อย่ามาเสแสร้ง นายจะเป่าลมใส่หน้าท้องฉันทำไม? หัวก็ถูไถไปมา... แล้วนี่อะไร?” คุณกายเอื้อมมือกลับหลังไปตะปบคว้ามือผมที่ซุกซนอยู่ภายในเสื้อของเขาเอาไว้ แต่เขายิ่งเปิดโปงการกระทำของผมยิ่งหน้าแดงขึ้นเรื่อยๆจนผมแทบกลั้นหัวเราะไว้ไม่อยู่

“มะ...ไม่ต้องมายิ้มเลยนะ!” เขาค้อนผมวงหนึ่งก่อนจะเสหน้าไปดูทีวีต่อ แถมไม่ลืมที่จะผลักศีรษะผมออกจากตักด้วยแรงที่ไม่เบาเลย แทบทำผมกลิ้งตกโซฟาแน่ะ!

ผมคืบคลานลุกขึ้นนั่ง ในใจนึกสนุกแต่ยังแสร้งปั้นสีหน้าบูดบึ้งไม่พอใจ ก็ผมชอบท่าทางตอนเขาโกรธปนอายนี่นา... น่ารักออกปานนั้น...

“ก็คุณเอาแต่สนใจไอ้เอเลี่ยนนั่นนี่นา ไม่เห็นสนใจผมบ้างเลย...”

คุณกายหันมามองผมด้วยสีหน้าแววตาที่เหมือนกับกำลังมองตัวประหลาดตนหนึ่ง

“ประสาท! เอเลี่ยนในหนังน่าสนใจกว่านายตั้งเยอะ นายเทียบไม่ติดหรอก...” พลางจดจ่อดูหนังต่อ ไม่สนใจใยดีผมอีก เหมือนกับว่ามันเป็นอย่างที่เขาพูดจริงๆ

ผมเริ่มไม่สบอารมณ์ขึ้นมาจริงๆ จับหน้าเขาหันมามองผม

“คุณดูให้ดีๆสิ ผมหล่อกว่าตั้งเยอะ ไอ้เอเลี่ยนนั่นมันมีดีตรงไหน? คนของคุณถึงสู้ไม่ได้?!” คำพูดผมไม่ได้จริงจังนักหรอก แค่อยากจะแกล้งเขาด้วยคำพูดคืนบ้าง

“ก็มัน... เอ๊ะ! เมื่อกี้นายว่าไงนะ?”
“ผมถามว่า ไอ้เอเลี่ยนนั่นมันมีดีตรงไหน?”

“ไม่ใช่! หลังจากนั้นอีก” เขาชักสีหน้าไม่พอใจ

“อืมม์...” ผมแสร้งเป็นขบคิดทบทวน

“อ้อ! ...คนของคุณ...ถึงสู้ไม่ได้?” เท่านั้นแหละคุณกายถ้าแดงก่ำทันที! เขาลุกขึ้นยืนปาหมอนอิงใส่หน้าผม แต่ถูกผมคว้าไว้ได้อย่างง่ายดาย เมื่อเห็นว่าผมยังคงนั่งหน้าระรื่นพออกพอใจอยู่ เขาก็ทำท่าจะยกเท้าเตะใส่ผม!

“อ้ะๆ อย่านะคุณ...” ผมยกหมอนอิงทำท่าตั้งการ์ดป้องกัน “คนของผมดุนะคร้าบ! ถ้าเกิดถูกคุณแตะจนบาดเจ็บใช้การไม่ได้ คนของผมคงเสียใจแย่... คนของผมยิ่งดุร้ายเจ้าอารมณ์อยู่ด้วย... ใช่ไหมครับที่รัก!” กล่าวพลางขยิบตาส่งให้ทีหนึ่ง

“น่ะ...นาย... นาย...”

คุณกายชี้นิ้วมาที่ผม จะพูดอะไร แต่เหมือนกับพูดไม่ออก หน้าแดงหูแดงไปหมด สบอารมณ์ของผมยิ่งกว่าเดิม ผมจึงใช้โอกาสนี้คว้าร่างของเขาอุ้มขึ้น

“จะทำอะไรน่ะ ปล่อยฉันลงเดี๋ยวนี้นะ!”

“ก็ผมอยากเป็นเอเลี่ยนบ้างนี่...” ผมแสยะยิ้ม

คุณกายชะงักหยุดดิ้น เงยหน้ามองผมอยากงงงัน

“หมายความว่าไง...?”

“ก็เอเลี่ยนในหนังมันจับคนกินนี่... ผมก็อยากเรียนแบบมันจับคุณกินบ้าง!” บอกพลางสาวเท้าเดินเข้าห้องนอนอย่างไม่รีรอลังเลใดๆ

“เฮ้ย! ไม่! ปล่อยนะ ปล่อยยย...”

“ฮ่าๆ คุณจะได้รู้ความจริงไง ว่าไอ้เอเลี่ยนกับผมใครมีดีกว่ากัน?”

เกมนี้ผมเป็นฝ่ายคุมเกมบ้างล่ะ หึหึ...

            

-----------------จบตอน------------------






ออฟไลน์ life_fracture

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1874
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +518/-4
พอนเน่จ๋า
ทำไมทำกับพี่อย่างงี้ :m25:

คิดถึงจังเลยค่ะ :กอด1:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด