ตกกาใจ

ตอนแรกหาเรื่องตัวเองมะเจอ ที่แท้ตกไปอยู่หน้า2

วันนี้มาอัพแล้ววว อิอิ
หวังว่าคงชอบตอนนี้นะ

============================================================
Chapter : 17 รุกสักนิด หวังพิชิตใจ หลังจากที่ผมสามารถทำให้คุณกายเลิกขัดขืนผมได้ ผมก็อุ้มเขาเข้ามาในห้องน้ำ แล้ววางร่างของเขาลง ชายหนุ่มยังคงนิ่งเงียบ ไม่รู้ว่าคิดอะไรอยู่ในใจ หรือเขาจะโกรธที่ผมไปตวาดใส่เขา?
“หนาวไหมครับ?” ผมถาม พลางเดินไปเปิดวาวน้ำอุ่นที่อ่างอาบน้ำ แล้วรอให้น้ำเต็มอ่าง
เดินกลับมาหาคุณกายที่ยังยืนนิ่งอยู่ที่เดิม แล้วลงมือถอดเสื้อผ้าที่เปียกแฉะออกจากตัวเขา น่าแปลกที่คุณกายกลับไม่ขัดขืนการกระทำของผมอย่างที่คาดคิด เขายืนหลับตานิ่ง ใบหน้าซีดขาวจนผมนึกหวาดหวั่น ผมรีบถอดเสื้อผ้าออกจากร่างกาย จากนั้นจึงสวมกอดตัวเขาไว้ในอ้อมกอดแน่น
“ตัวคุณร้อนขึ้นนะครับ สงสัยจะมีไข้... เดี๋ยวผมมานะ ยืนรอผมตรงนี้ก่อน” ผมผละออกจากตัวเขา เดินออกจากห้องน้ำไปยังห้องนอน ค้นหาผ้าขนหนูในตู้เสื้อผ้าของเขา
กลับเข้ามาในห้องน้ำ ก็ยังเห็นคุณกายยืนอยู่ที่เดิมตามที่ผมบอก เขายังคงยืนหลับตาอยู่เหมือนเดิม...
“คุณโอเคไหม?” ผมถามอย่างเป็นห่วง เอาผ้าขนหนูที่นำมา เช็ดผมที่เปียกให้เขาเบาๆ
“อืม...” ชายหนุ่มตอบเสียงเบาในลำคอ
“งั้นรีบอาบน้ำกันดีกว่าครับ จะได้ทานยาแล้วพักผ่อน” สรุปเองเสร็จสรรพ ช้อนตัวเขาอุ้มขึ้น แล้วพาลงอ่างอาบน้ำด้วยกัน
“ฉันอาบเองได้...”คุณกายบอกเสียงแผ่ว เมื่อผมเอามือละเลงครีมอาบน้ำทั่วเนื้อตัวของเขา
“ผมอาบให้น่า คุณอยู่เฉยๆเหอะ” ผมยืนยันแกมบังคับ เห็นเขาถอนหายใจออกมาเบาๆ จากนั้นก็ไม่ขัดผมอีก ยอมอยู่นิ่งๆให้ผมอาบน้ำให้แต่โดยดี
เราทั้งคู่อาบน้ำเสร็จ โดยที่ไม่มีอะไรเกินเลยเกิดขึ้น ความจริงผมต้องใช้ความพยายามข่มใจอย่างมากเลยล่ะ ที่จะไม่ทำอะไรชายหนุ่มไปมากกว่าการอาบน้ำ ผมไม่อยากให้เขาคิดว่าผมเป็นคนฉวยโอกาส เอาเปรียบเขาตอนไม่มีทางสู้
ผมคิดว่าอดทนแค่นี้เป็นเรื่องเล็กน้อย โอกาสข้างหน้ายังคงมีอยู่ อยากให้เขาไว้ใจผมมากกว่านี้ ผมต้องการแสดงให้คุณกายเห็นถึงความจริงใจของผม และหวังว่าสักวันเขาคงหวั่นไหวใจบ้าง
“ยาอยู่ไหนครับ คุณได้ทานตามที่หมอสั่งหรือเปล่า?” ผมถามขึ้นเมื่อแต่งตัวให้เขาและพามานอนที่เตียงเรียบร้อย
“ไม่ต้องยุ่ง มันเรื่องของฉัน...” แน่ะ ยังไม่เลิกอีก เมื่อไหร่กันนะ ที่เขาจะยอมพูดจาดีๆกับผมบ้าง
“คุณกายครับ! เลิกทำตัวเป็นเด็กๆสักที ยามันต้องทานให้ครบตามกำหนด ไม่งั้นเมื่อไหร่มันจะหาย คุณอย่ามาดื้อกับผมเรื่องนี้นะ! ” ผมพูดเสียงดุ คุณกายมองผมตาค้าง นัยน์ตาเริ่มแดงมีน้ำใสๆคลอหน่วย ใจผมแฟบลงเรื่อยๆ นี่ผมกำลังทำเขาร้องไห้เหรอเนี่ย! ดูเหมือนว่าเวลานี้ จะเป็นช่วงเวลาที่เขาอ่อนแอที่สุด
“อยู่ในลิ้นชัก...” เขาชี้ไปที่ลิ้นชักโต๊ะหัวเตียง “แค่กินยาก็จบใช่ไหม... เลิกจุ้นจ้าน...สักที” เหมือนเขาพยายามสร้างความเข้มแข็งขึ้น ทั้งๆที่น้ำเสียงเริ่มสั่นเครือ
ผมมองหน้าคุณกายนิ่งถอนหายใจเบาๆก่อนจะลุกออกไปรินน้ำพร้อมจัดยามาให้เขากิน
“ดื่มน้ำเยอะๆนะครับ ดีต่อร่างกาย” คะยั้นคะยอให้เขาดื่มน้ำที่ผมรินให้หมดแก้ว
“ทีหลังอย่าดื้อโดยไร้เหตุผลแบบนี้นะครับ คุณไม่นึกถึงผม ก็ให้นึกถึงตัวคุณบ้าง” ผมรับแก้วไปวาง แล้วดึงตัวชายหนุ่มมากอดไว้หลวมๆ เขาไม่ได้โต้ตอบอะไร ไม่ตอบรับหรือปฏิเสธ...
ผมตระกองกอดลูบหลังเขาเบาๆอยู่นาน จนกระทั่งลมหายใจของคุณกายแผ่วเบาลงและสม่ำเสมอ ผมจึงค่อยๆคลายอ้อมกอด จัดท่าให้เขานอนลงบนเตียงแล้วห่มผ้าห่มให้จนถึงคอ
ไม่รู้นานเท่าไรแล้วที่ผมนั่งมองคนที่ผมรักนอนหลับอยู่อย่างนี้ ใบหน้าของเขายามหลับเหมือนกับเด็กน้อยที่ไร้พิษสง ผิดแผกกับตอนยามตื่นโดยสิ้นเชิง
จะมีเวลาแห่งนิรันดร์ไหม ที่ผมจะได้อยู่เคียงข้างเขาแบบนี้...
ผมถอนหายใจยาว ไม่อยากจะคิดอะไรให้มากความ แต่คงห้ามความคิดนั้นไม่ได้ แม้ภายนอกผมจะดูมั่นอกมั่นใจหนักหนา แต่ลึกๆในใจแล้ว... เกิดความหวั่นไหวและความกลัวอยู่ตลอดเวลา
ถึงจะขัดใจแต่ก็ทำอะไรไม่ได้ ถึงจะต้องการอยากครอบครองมากแค่ไหนก็ต้องอดทน ในเมื่อใจผมเองเป็นสิ่งกำหนดให้รักเขา ใจของเขาก็เป็นสิ่งกำหนดความรักของเขาเช่นกัน
ทำได้แค่เพียงเรียกร้องการตอบรับ ทำได้แค่เพียงมอบความรู้สึกดีๆให้แก่เขา แต่มันก็คือ ความสุขใจเล็กๆสำหรับผม ขอแค่เพียงได้อยู่ตรงนี้...
ผมล้มตัวนอนเคียงข้างเขาแล้วโอบกอดตัวชายหนุ่มไว้ตามใจปรารถนา ความอบอุ่นจากตัวเขาที่แผ่ซ่านสู่ตัวผม เป็นความรู้สึกที่ยืนยันว่าเราไม่ห่างไกลกัน
อยากจะขอให้คืนนี้เป็นคืนที่ยาวนาน...
===========================================================
ผมตื่นขึ้นมาในตอนเช้าด้วยสมองมึนอื้อ แต่มันไม่ได้เป็นเพราะร่างกายผมหรอก แต่เป็นเพราะเรื่องราวเมื่อวานที่ประดังประเดสู่ตัวผม จนตั้งหลักแทบไม่ทันต่างหาก ผมคิดไม่ออกว่าในเวลานี้ผมควรจะทำอะไรก่อนเป็นอันดับแรกเสียด้วยซ้ำ
แล้วนี่ไอ้หนุ่มฝรั่งนั่นไปไหนแล้วล่ะ?
กวาดสายตามองทั่วห้องนอนก็ไม่พบเห็น เดินไปดูในห้องน้ำก็ไม่มี ผมเริ่มใจชื้นขึ้น หรือไอ้บ้านั่นจะมีสามัญสำนึกยอมจากไปแต่โดยดี! ผมลอบตั้งความหวังพลางเดินออกไปดูข้างนอกบ้าง เป็นการพิสูจน์ยืนยันอีกที
แต่เมื่อผมเปิดประตูห้องนอนออกมา ความคาดหวังของผมก็มลายหายไปในอากาศทันที กลิ่นหอมฉุยของอาหารช่วยเรียกน้ำย่อยให้ตัวผมได้บ้าง แต่ถ้าจะให้ดี ผมก็ไม่อยากที่จะให้หมอนั่นมาทำอาหารในห้องผมตอนนี้เลย ยอมทนหิวเสียยังดีกว่า
ผมเดินเข้าไปในครัวด้วยอาการเซ็งๆ คิดว่ายังไงวันนี้ผมก็ต้องพูดให้เด็ดขาด! ไล่ไอ้เฮงซวยนี่ออกไปจากห้องผมให้ได้!
ยืนพิงกรอบประตูครัว เฝ้ามองอากาบกิริยาแสนวุ่นวายของพ่อครัวที่ไม่เคยต้อนรับอย่างเงียบๆ ผ้ากันเปื้อนสีเทาของผมที่เรโอมักจะใช้ ถูกเจ้าบ้านี่นำมาใช้แทน ตระหลิวที่ถูกถืออยู่ในมือแทบจะตลอดเวลา หน้ามันย่องจากควันอาหาร ภาพทั้งหมดนี้ช่างดูขัดกับชายหนุ่มร่างสูงหน้าตาหล่อเหลาดีกรีนายแบบที่เคยพบเห็นเสียเหลือเกิน
แต่ทำไมผมถึงได้รู้สึกว่า สิ่งที่เห็นเป็นสิ่งที่น่ามองกันล่ะ?
ผมรีบสะบัดหัวไล่ความคิดบ้าๆนั่นออกไปทันที! เป็นเวลาเดียวกับที่หนุ่มฝรั่งหันมาเห็นผมเข้าพอดี
“อ้าว! ตื่นแล้วเหรอครับ” เขาร้องทักอย่างยิ้มแย้ม แล้วเดินเข้ามาหาผม
“มารับจูบอรุณสวัสดิ์จากผมหน่อย” บอกพลางยื่นหน้าเข้ามาใกล้ ผมจึงรีบเดินเบี่ยงหลบอย่างว่องไว แต่เขาดันคว้าเอวผมไว้ได้เสียก่อน
“จะหนีไปไหนครับที่รัก หึหึ”
“ไปไกลๆเลย ปล่อยสิว๊ะ! ออกไปนะ!” ผมพยายามเบี่ยงหน้าหลบจูบของเขาอย่างสุดความสามารถ ทำให้ริมฝีปากของหนุ่มฝรั่งเฉียดที่แก้มผมไปมา ได้ยินเสียงหัวเราะในลำคอเบาๆอย่างสมใจ ผิดกับใจของผมที่มันเต้นแรงด้วยความโมโห(?)
“หยุดนะ! ไอ้บ้า... อุ๊บ! อื้ออ อืม...” ในที่สุดเขาก็ใช้มือจับใบหน้าของผมเข้ามาจูบจนได้
เขาจูบผมอยู่นาน จนผมได้แต่คิดว่าเมื่อไหร่มันจะสิ้นสุดเสียที เขาจูบเก่งมาก ลิ้นของเขาชอนไชไปทุกตารางนิ้วในโพรงปากของผมอย่างช่ำชอง จนผมที่เป็นผู้ชาย เกือบลืมตัวเคลิบเคลิ้มตาม ไม่อยากจะยอมรับหรอกนะ ว่าผมก็เผลอรู้สึกดีเหมือนกัน แต่มันก็เป็นเพราะปฏิกิริยาทางร่างกายเท่านั้นแหละ! ไม่ได้เกี่ยวกับความชอบเลยสักนิด!
ทุกอย่างสิ้นสุดลง เมื่อจมูกได้กลิ่นเหม็นไหม้โชยมาจากกระทะบนเตาแก๊ส เขารีบผละออกจากตัวผมอย่างรวดเร็ว วิ่งหน้าตั้งไปปิดเตาเป็นที่วุ่นวาย
“ว๊ากๆๆ ไข่ไหม้ๆ” เขาร้องโวยวาย ผมจึงเดินเข้าไปดู ปรากฏว่าไข่เจียวในกระทะ ไหม้เกรียมไปด้านหนึ่ง ส่วนอีกด้านยังคงเหลืองนวลสวย
“เฮอะ! สมน้ำหน้า เมนูนี้นายกินไปคนเดียวเหอะ!” ว่าจบ ผมก็รีบเดินออกไปจากครัวทันที ไม่อยากอยู่ใกล้ๆเขาต่อไป เพราะผมรู้สึกว่าตัวเองกำลังตกอยู่ในอันตราย
ผมเดินกลับมาในห้องนอน ถอดเสื้อผ้าเข้าไปอาบน้ำในห้องน้ำ เนื่องจากมันถึงเวลาที่ผมจะแต่งตัวออกไปทำงานได้แล้ว
อาบน้ำเสร็จ ก็ได้ยินเสียงโทรศัพท์มือถือดังจากเบื้องนอก ไม่รู้ว่ามันดังอยู่นานเท่าไหร่ แต่คาดว่าคนที่โทรมาหาผมน่าจะเป็นไอ้เจ้าเรโอ ไม่ใช่ใครที่ไหนหรอก ผมรีบนุ่งผ้าเช็ดตัวลวกๆ เปิดประตูออกไปจากห้องน้ำ ด้วยความเคยชิน ลืมไปสนิทเลยว่า ในเวลานี้ไม่ได้มีแค่ตัวผมคนเดียวที่อยู่ที่นี่ !
=======================================================
ขอบคุณที่ติดตามค่ะ
