ที่ปล่อยให้ค้างไม่ใช่ไรหรอก เพราะต่อยังไงก้อค้างอยู่ดี
นี่ก็อาจจะเป็นครั้งสุดท้ายแล้ว แล้วจาหายไปสะสมเสบียงสักพัก
หมดสต๊อกแล้วเรียบร้อย
==================================================================
ผมกำลังจะต่อว่าเขาอีกเพื่อระบายความโกรธที่ปะทุเดือด แต่ก็ยังไม่ทันได้ทำอะไร เมื่อจู่ๆหนุ่มฝรั่งก็กระโดดตามลงมาในสระ แล้วว่ายเข้ามาคว้าตัวผมไปกอดไว้แน่นโดยที่ผมไม่ทันได้ตั้งตัว
“นี่! ปล่อยนะ! บอกให้ปล่อยไง!!” ผมพยายามดิ้นให้หลุดจากอ้อมกอดเขา แต่เพราะอยู่ในน้ำจึงทำให้ไม่เป็นผลนัก
“ไม่! คราวนี้ผมจะไม่ปล่อยคุณไปอีกแล้ว ขืนปล่อยไป คุณก็คงจะหนีหายไปดื้อๆอีก! ”
“แล้วที่นายทำกับฉันในวันนี้มันถูกแล้วเหรอ! ไอ้วิธีการทุเรศๆแบบนั้นน่ะ!”
“ผมไม่มีวิธีการอื่นแล้ว เป็นเพราะคุณทำให้ผมจนมุมเอง... คุณไม่ยอมเปิดโอกาสให้ผม! แถมยังเอาแต่หนีผม แล้วจะให้ผมทำยังไง! จะให้ผมทำยังไง!” เขาเขย่าไหล่ผมไปมาจนหัวสั่นคลอน นัยน์ตาของเขาแดงก่ำ สีหน้าดูเจ็บปวดเหลือเกิน แต่ผมไม่ยอมใจอ่อนง่ายๆหรอก ผมเกลียดวิธีการแบบนี้ ผมเกลียดที่สุด!
“วิธีการงั้นเหรอ... ไอ้วิธีการที่เล่นกับความรู้สึกของฉันเนี่ยนะ!” ผมฟาดผ่ามือลงบนใบหน้าของเขาอย่างแรงจนหน้าหัน ตัวผมสั่นไปหมดด้วยแรงโกรธ
“สนุกมากใช่ไหม! ปั่นหัวคนอื่นเขาน่ะ เห็นฉันโง่มากใช่ไหมที่วิ่งเต้นตามแผนการของนายแบบนี้!”
“ไม่ใช่นะครับ ผมไม่เคยคิดแบบนั้น...” เขาพยายามอธิบาย แต่ผมไม่ฟังหรอก การกระทำมันฟ้องอยู่แล้ว เรื่องคราวนี้เขาเล่นแรงเกินไป เกินไปจริงๆ...
ผมรีบสะบัดตัวออกเมื่อเขาเผลอคลายวงแขนชั่วขณะ แล้วว่ายขึ้นฝั่ง แต่จู่ๆก็มีแรงมากระชากผมจากด้านหลัง จนร่างผมตกลงในน้ำอีกครั้ง ผมพยายามตะเกียดตะกายขึ้นจากน้ำ แต่กลับถูกดึงให้จมลง นี่จะฆ่ากันเลยใช่ไหม!
ผมลืมตาโพลงในน้ำ ปรากฏว่าใบหน้าของหนุ่มฝรั่งอยู่ใกล้ผมเพียงนิดเดียว เขากำลังจ้องมองผมอยู่ แล้วใบหน้าของเขาก็ค่อยๆเคลื่อนเข้ามาใกล้ จนริมปากของเราสัมผัสกัน ผมพยายามสะบัดหน้าหนี แต่เขากลับรั้งดันศีรษะของผมไว้ บดเบียดริมฝีปากของผมอย่างหนักหน่วง
จูบของเขาเร้าร้อน และยาวนาน สูบเอาลมหายใจของผมแทบหมดสิ้น ร่างกายอ่อนปวกเปียกในทันใด โดยที่ชายหนุ่มคอยประคับประคองเอาไว้ ผมเอามือผลักอกเขาด้วยกำลังเท่าที่มีเมื่อรู้สึกสมองมึนอื้อ
จนในที่สุดเขาก็พาผมขึ้นมาสูดอาการหายใจบนผิวน้ำ ผมหอบหายใจแรง เอนศีรษะลงพิงบ่าของเขา อย่างไม่มีแรงที่จะต่อต้านอีกต่อไป
รู้สึกได้ถึงความเป็นชายของเขาที่กำลังดุดดันต้นขาของผมอยู่ เขากอดกระชับตัวผมแน่น จนร่างของเราแนบสนิทแทบจะเป็นเนื้อเดียวกัน
มือของเขาสอดแทรกเข้ามาภายในเสื้อเชิ้ตที่เปียกชุ่มจนแนบผิวกายของผม ไล้สัมผัสร้อนจากหน้าท้องขึ้นมาถึงหน้าอก ผมสะดุ้งวาบ! เมื่อปลายนิ้วของหนุ่มฝรั่งสะกิดเข้าที่ยอดอกของผม
“อ้ะ! หยะ...หยุดนะ เดี๋ยวมีใครมาเห็น... อื๊อ...” เขาประกบปากจูบผมอีกครั้ง แต่คราวนี้เปลี่ยนเป็นจูบที่อ่อนหวานทว่าเรียกร้อง จนผมเผลอตอบสนองไปกับรสสัมผัสนั่น เหมือนเขาจะยิ่งได้ใจกับปฏิกิริยาตอบโต้ของผม มืออีกข้างของเขาจึงล้วงเข้าไปในกางเกงของผม ปลุกเร้าน้องชายของผมให้ตื่นตัวขึ้น
“น่ะ...นี่ หยุด... หยุดนะ... อย่าทำแบบนี้ ไม่ใช่ที่นี่...” ผมห้ามเสียงแผ่วเมื่อชายหนุ่มถอนจูบออก สำหรับตอนนี้ผมกลัวมีใครมาเห็นที่สุด เพราะมันคงไม่ใช่ภาพที่น่ามองนักหรอก เกิดมีใครอุตริอยากมาว่ายน้ำตอนกลางคืนจะทำยังไง
“ไม่ใช่ที่นี่ แต่เป็นที่อื่นได้ใช่ไหมครับ งั้นคุณพาผมไปห้องคุณสิ” เขากระซิบข้างหู แสยะยิ้มเจ้าเล่ห์ จนผมนึกหวั่น
“ไม่มีทาง” ผมปฏิเสธโดยที่ไม่ต้องคิดให้มากความ เรื่องอะไรที่ผมจะต้องตกอยู่ในกลลวงของเขาล่ะ
“งั้นก็ทำมันตรงนี้แหละ! ได้ประสบการณ์ดีเหมือนกันเนอะ” เขายิ้มกว้างอย่างไม่แคร์ ก่อนจะก้มลงซุกไซร้ซอกคอของผม จนผมขนลุกซู่ไปหมด
“นี่จะบ้าเหรอ! หยุดนะ! อะอื้อ...” พยายามเบี่ยงตัวออก แต่เขากลับรั้งเอวผมเอาไว้แน่น บดเบียดความเป็นชายของเขากับผมเสียดสีกันไปมา ผมหน้าร้อนผ่าว รู้สึกหมดเรี่ยวแรง ดูเหมือนร่างกายของผมจะเป็นใจให้กับหมอนี่เหลือเกิน
ไม่รู้ว่ากระดุมเสื้อเชิ้ตของผมถูกปลดออกจนหมดตั้งแต่เมื่อใด เพราะตอนนี้ริมฝีปากที่ร้อนผ่าวของเขาเปลี่ยนมาเล็มเลียที่หน้าอกของผมแล้ว
ได้ยินเสียงฝีเท้าคนเดินไปมาจากเบื้องนอก ทำให้ผมนึกหวั่นว่าจะมีคนเดินมาทางนี้ ถ้ามีใครมาเห็นเข้า ผลลัพธ์คงย่ำแย่สุดประมาณ เห็นทีผมคงต้องตัดสินใจแล้ว แม้มันจะเป็นการตัดสินใจที่ทำร้ายตนเองก็ตาม แต่มันก็ไม่มีหนทางไหนที่ดีไปกว่านี้แล้ว
“…ก็ได้ ฉันยอมแล้ว” ผมบอกเขาเสียงเบา ไม่รู้ว่าทำไมคำพูดของผมที่เอ่ยออกมา ทำให้ผมรู้สึกขัดเขินแปลกๆ
“ว่าอะไร...นะครับที่รัก...” น้ำเสียงของเขาแตกพร่าเหลือเกิน
“ก็...ก็ได้ ไปที่ห้องฉันก็ได้ ไม่ใช่ที่นี่นะ ขอร้อง...” ผมบอกอีกครั้ง ก้มหน้าลงหลบสายตาของเขาที่เงยขึ้นมาจับจ้อง
เขานิ่งเงียบอยู่ชั่วครู่ แล้วกอดผมแน่นมาก
“ตกลงครับ” เขาก้มลงจูบปากผมหนักๆ แล้วจึงพาผมที่สิ้นเรี่ยวแรงว่ายขึ้นฝั่ง
เมื่อขึ้นจากน้ำได้ ผมแทบจะทรุดลงไปกองกับพื้น ดีที่ชายหนุ่มประคองผมไว้เสียก่อน ผมรีบติดกระดุมเสื้อของตนทันทีที่นึกขึ้นได้ นึกปลงสังเวชตัวเองในใจ วันนี้ช่างเป็นวันที่แสนเลวร้ายสำหรับผมเหลือเกิน
หนุ่มฝรั่งแบกกระเป๋าเดินทางขึ้นบ่า แล้วโอบไหล่ผมเดินออกไป ผมสะบัดตัวออกเมื่อเดินเข้ามาด้านใน โชคดีที่บริเวณทางเดินตรงนั้นปราศจากผู้คน ผมจึงเดินไปที่ลิฟต์ส่วนตัวของผมโดยที่ไม่สนใจชายหนุ่มที่เดินตามหลังมา รู้สึกร่างกายหนาวสั่นจนฟันกระทบกันดังกึกๆ เนื่องจากแช่น้ำอยู่เป็นเวลานาน แถมยังใส่เสื้อผ้าที่ชุ่มโชกเดินตากแอร์ภายในตึกอีก
เมื่อประตูลิฟต์เปิดออก ผมก็เดินเข้าไปในตัวลิฟต์ทันที มือไวเท่าความคิด ผมรีบกดปุ่มปิดรัวทันที แต่ก็ช้าไปจนได้ เมื่อหนุ่มฝรั่งเอามือมายันไว้เสียก่อน เขาเดินเข้ามาจ้องผมเขม็ง กระชากตัวผมมาชิดอก กระซิบเสียงรอดไรฟัน
“แสบนักนะคุณ เผลอเป็นไม่ได้เลย”
ผมได้แต่มองตาขวาง รู้สึกลำคอแห้งผาดจนพูดอะไรไม่ออก จึงได้แต่ด่าทอเขาทางสายตาเท่านั้น
ลิฟต์เคลื่อนตัวพาพวกเราขึ้นมาที่ชั้นบนสุดของคอนโดมิเนียมอย่างว่องไว จนผมนึกหงุดหงิดระบบการทำงานของมันเป็นครั้งแรก ทันทีที่ประตูเปิดออก เขาก็ลากตัวผมที่พยายามยืนขาแข็งเอาไว้ออกมาจากลิฟต์ ผมใจเต้นระรัว นึกหวั่นถึงเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นกับผมต่อไปนี้
“เปิดห้องสิครับ ไม่หนาวหรือไง”
ผมยืนช่างใจ พยายามถ่วงเวลาเอาไว้ แม้ร่างกายจะหนาวสั่นจนแทบทนไม่ไหวก็ตาม สำหรับตอนนี้ผมกลายเป็นคนสิ้นคิดไปแล้ว...
“เร็วสิครับ หรือจะให้ผมเพิ่มความอบอุ่นให้คุณมันตรงนี้เลย กล้องวงจรป่งวงจรปิดไม่ต้องสนมันล่ะ!” ผมสะดุ้งโหยงกับคำพูดของเขา ลืมกล้องวงจรปิดที่มีอยู่หน้าห้องและในตัวลิฟต์ไปเสียสนิท ผลสุดท้าย ก็เลยต้องจำใจเปิดห้องให้หมอนั่นเข้ามา
พอเข้าห้องมาได้ปุบ ผมก็รีบวิ่งหนีทันที กะว่าจะขังตัวเองไว้ในห้องนอน หรือไม่ก็หาอาวุธมาไว้ป้องกันตัวก่อน แต่ดูเหมือนหมอนั่นจะคาดการณ์เอาไว้ก่อนแล้วว่าผมจะหนี เขาจึงได้วิ่งมาคว้าเอวผมไว้ได้ทัน
“ถึงขนาดนี้คุณยังจะคิดหนีผมอีกเหรอ? ไม่เหนื่อยบ้างหรือไง...”
ผมพยายามแกะมือเขาออก ผมกลัว... กลัวว่าเขาจะทำอะไรกับร่างกายผมอีก กลัวตัวเองจะเผลอใจไปกับสัมผัสของเขาอีกครั้ง เพราะมันไม่ใช่เรื่องที่ควรจะเป็นเลยจริงๆ มันไม่ควรจะเกิดขึ้นอีก...
เมื่อเห็นผมไม่ยอมหยุดดิ้นสักที เขาก็จัดการอุ้มผมขึ้นพาดบ่าเอาไว้
“ปล่อยฉันลงเดี๋ยวนี้นะ! ปล่อย!!” ผมร้องลั่น แต่เขากลับไม่สนใจในท่าทีของผมเลยสักนิด ยังคงเดินแบกผมไปในทิศทางของห้องนอน
“นี่ห้องนอนคุณใช่ไหมครับ” ผมใจหายวาบ เมื่อหนุ่มฝรั่งแบกผมเข้ามาที่ห้องนอน ความหวาดกลัวเข้าครอบงำไปทุกพื้นที่ของจิตใจ
“ปล่อยนะ! นายจะทำอะไรฉัน!” ผมคิดกลัวไปต่างๆนาๆ
“นี่เลิกดิ้นได้แล้ว! ผมแค่จะพาคุณไปอาบน้ำ เกิดไข้คุณกลับขึ้นมาจะทำยังไง เพิ่งจะหายเองแท้ๆ อย่าฤทธิ์มาก!” เขาตวาดดุผมจนผมต้องชะงักเลิกดิ้นทันที พูดไม่ออกทำอะไรไม่ถูกไปโดยปริยาย
ทั้งๆที่เขาหวังดีกับผม แต่ผมกลับตีค่าความหวังดีของเขาในแง่ร้าย...
นี่ผมรู้สึกผิดหรอ?? ไม่! ไม่มีทาง!
เขาทำไม่ดีกับผม เขาหลอกลวงผม มันก็สมแล้วที่ผมจะไม่ไว้ใจเขา และคิดว่าเขาประสงค์ร้าย
ผมไม่ควรจะแสดงความเห็นใจต่อคนแบบนี้... ไม่ควร... ไม่ควร... ไม่... ไม่...
นี่เป็นความรู้สึกที่ผมพยายามเน้นย้ำในจิตใจ...
---------------------------จบตอน--------------------------
==================================================================
เจอกันตอนต่อไป