G&G : the River of Always return.ผมขับรถผ่านตรอกซอกซอย ร้านรวงยามราตรีทั้งหลาย
เหลือบมองไอ้คนที่นอนเหมะอยู่บนเบาะข้างๆ..
มันเหมือนจริงๆนะ..
เหมือนมาก..จนผมกลัว
ผมพยุงไอ้โก๋แก่ลง เมื่อมาจอดรถหน้าหอพัก
มันเงยมองผมสายตาหวานฉ่ำ กูอยากปล่อยมึงให้กองกับพื้นตรงนี้ซะจริงๆ
ผมพามันเดินไปที่เคาเตอร์
เสือกไม่มีใครให้ถาม !!
อะไรจะเหมาะเจาะขนาดนั้นวะ
“โก๋แก่”
ผมเรียก มันก็มองผม
“นายอยู่ห้องไหน”
มันหยุดคิดแป๊ปหนึ่ง แล้วบอกได้กวนตีนมาก
“888 ฮะ”
หอนี้มีแค่เจ็ดชั้นเว้ย!
แต่มันพูดไม่รู้รื่องเอาซะเลย
เออ ก็ได้.. ให้มันนอนห้องผมไปก่อนละกัน เห็นว่าเป็นรุ่นน้องนะ แม้จะเป็นรุ่นน้องที่เกรียนที่สุดเท่าที่เคยเจอก็ตาม
(เว้นไว้คนนึงนะ น้องชายผมเอง ไม่ต้องพูดถึง มันเกินกว่าคำว่าเกรียนไปละ)
ผมพยุงขึ้นมาถึงชั้นสี่ ไขประตูเข้าห้อง
แล้ววางมันลงบนเตียงเบาๆ
กูเกิดหวั่นไหวอะไรขึ้นมาวะเนี่ย ให้มันนอนพื้นไปสิ
จู่ๆมือคู่นั้นก็ดึงผมลงไปนอนข้างๆ พยายามปีนขึ้นมาบนตัวผม
มึงคิดว่ามึงกำลังทำอะไรอยู่ หือ?
ริมฝีปากเปียกโลมเลียลงมาทันที
ผมเอง..แทนที่จะผลักออกไปเหมือนเวลามีพวกตุ๊ด เกย์ มาจีบ
ตอนนี้กลับนอนนิ่ง คอยดูว่าไอ้โก๋แก่จะมีปัญญาทำได้แค่ไหน
มันจูบสะเปะสะปะไปทั่วใบหน้า ลำคอ และแกะกระดุมเสื้อผมออก
“เกลียดเกย์นักใช่มั๊ยย!”
มันทำเสียงน่ากลัว แล้วก้มลงไปกัดที่ยอดอกผม เออ..ก็ซาดิสม์พอใช้หรอกนะ
“ทำไมต้องเกลียดเกย์หา เขาไปทำอะไรให้ เขาก็คนเหมือนพี่นะ!”
มันจูบสลับกับเทศน์อยู่อย่างนั้น พยายามเอาส่วนล่างมาเบียดเป้าผม
ผมเพียงมองมันทำ แล้วคิดได้คำเดียว ..อ่อนหัด
มันเงอะงะทำอะไรไม่ถูก ที่ผมเอาแต่มองโดยไม่ละสายตาจากมัน
“ทำไมพี่ไม่กลัว ไม่พยายามผลักผมออกเลยวะ”
มันบ่นเบาๆ
ผมมองใบหน้าที่คล้ายคลึงนั่น.. แล้วบอกมัน
“มานี่ พี่สอนให้เอง”
ผมโอบร่างข้างบนไว้ ผงกหัวขึ้นไปแตะจูบ.. ช้าๆ.. ส่งลิ้นเข้าไปสำรวจโพรงปาก
แค่นี้ไอ้โก๋แก่ก็สั่นงั่กๆ แล้วมึงยังคิดจะมารุกกูอีกเนี่ยนะ..
จัดให้.. แม่ง เอาให้เจ็บเลย มึงเสือกมายุ่งกับกูทำไม มึงเสือกหน้าคล้ายมันทำไม!
ผมถอดเสื้อผ้ามันออก พลิกตัวคร่อม มือลูบไล้ไปตามลำตัวที่เปล่าเปลือย
“เฮ้ย เดี๋ยวๆ มันผิดแผนนะเว้ย นั่นมันหน้าที่ผมนะพี่”
ผมหัวเราะหึหึอย่างสาสมใจ
“นายกดพี่ได้ เอาสิ ถ้ามีปัญญาทำ!”
แล้วมันก็พยามดิ้นออกเพื่อจะรุกผม แต่ผมใช้วงแขนรัดเอาไว้แน่น
“โอ๊ย พี่กรีน พอแล้ว อึดอัด”
“ก็แล้วใครใช้ให้ทำแบบนี้ล่ะ ทำอะไรไม่ดูสังขารตัวเองเอาซะเลยนะ”
มันฮึดฮัด...
“ก็พี่มันไม่มีเหตุผล เกลียดแม้กระทั่งน้องชายตัวเอง เกลียดเกย์ไปทั่วอะ ผมไม่ชอบ หมั่นไส้ นึกว่าตัวเองวิเศษนักรึไง”
มาเป็นชุดเลยครับ
“มึงไม่รู้อะไรก็เงียบไปเลยดีกว่า”
“ก็แล้วอะไรละ ที่ผมไม่รู้”
ไอ้เหี้ยเอ้ย.. โคตรเหมือน ทำไมเมื่อก่อนไม่สังเกตวะ หรือเพราะมันเพิ่งตัดผมใหม่
หน้าตาคล้ายๆ เวลาไม่พอใจก็ทำหน้ายู่ยี่แบบนี้แหละ ต่างกันแค่..โกมันพูดตรงไปตรงมา แต่อีกคนคดเคี้ยวไปเรื่อยๆ..
ผมก้มลงไปจูบอีกครั้ง มือเคล้นที่เป้ากางเกง
หน้าตาไอ้โก๋แก่เหมือนใกล้ช็อคตาย ประมาณว่า ผมทำอย่างนี้ได้ยังไง
แต่ก็ทำไปแล้วละครับ
ผมจูบตั้งแต่หน้าผาก จมูก ปาก มาจนถึงซอกคอ.. ใช้ลิ้นเลียเบา
“อ๊ากก ไม่เอา ไม่ใช่แบบนี้ แผนผมพังหมด ปล่อยย”
“งั้นนี่ก็ถือเป็นบทเรียนของแผนนายละกัน จะได้ไม่ต้องทำอะไรแผลงๆอีก”
ผมจูบปิดปากไอ้โก๋แก่ ขณะถอดเสื้อตัวเองออกไปด้วย
“พี่กรีน ..ทำไม”
มันจ้องผมแบบตลึงๆ ขณะผมเริ่มลงมือถอดกางเกงมัน
มันก็พยายามรั้งนั่นแหละครับ แต่แรงมันสู้ผมไม่ได้
ผมจึงถอดเรื่อยๆจนหมดตัว ไอ้โก๋แก่หน้าแดงจัด รีบพลิกตัวซุกกับเตียง ไม่สบตาผม
ดูท่าทางก็รู้ว่ามันไม่เคยกับผู้ชาย ยังจะมากดกู ผมฮากับความคิดมันเหลือเกิน ..ไอ้โก๋แก่น้อยเอ้ย
ผมก้มเลียแผ่นหลัง
“อื้อ”
ร้างข้างใต้คงสยิวน่าดู แต่ผมไม่หยุด มือเปลี่ยนมาบีบเคล้นสะโพกเนียน
ผมกำลังจะแกะเข็มขัด แล้วบางอย่างก็มากระทบความรู้สึก..
“พี่กรีนก็.. พี่น่าจะรู้อยู่แล้ว ว่าความรักแบบพวกเรามันไม่ยั่งยืน ต่อให้ผมเคยมีอะไรกับพี่ พี่ก็รั้งผมไว้ไม่ได้หรอก”
ผมพยายามสะบัดหัวไล่ถ้อยคำเหล่านั้นไป แล้วรูดซิบกางเกงออก
“ผมก็สนุกได้เรื่อยๆ กับผู้ชายคนนั้นก็กิ๊กกัน พี่จะมาจริงจังอะไรมาก พี่ผูกมัดผมไว้ไม่ได้ ออกไปจากผมซะ!”
ผมเอามือกุมหัว รู้สึกเกลียดไอ้คนที่นอนโชว์แผ่นหลังขึ้นมาทันทีโดยไม่มีเหตุผล ถึงผมจะเป็นคนถอดเองก็ตามเถอะ
ผมรูดซิบกางเกงขึ้น แล้วลุกจากเตียง ไปยืนสูบบุหรี่ที่ระเบียงแทน << วิจารณญาน
ผ่านไปซักพัก..
ผมไม่ได้ยินเสียงใครในห้องเลย ไอ้โก๋แก่อาจมึนฤทธิ์แอลกอฮอล์ จนค่อยๆผล็อยหลับไปแล้ว
พอสูบบุหรี่หมดมวน ผมก็เดินกลับเข้ามาในห้อง แล้วก็เป็นอย่างที่คิด มันนอนหลับปุ๋ยไปแล้ว
ไอ้คออ่อนเอ้ย..
ผมเดินไปหยิบบางอย่างออกลิ้นชัก
รูป รูปหนึ่ง..
แล้วผมก็ได้แต่ใช้เวลาค่อนคืนมองคนในรูป ที่ถ่ายเคียงคู่ผมเมื่อหลายปีก่อน สลับกับมองเจ้าของแผ่นหลังเนียนบนเตียง
ค่อนรุ่งแล้ว ผมจึงเดินเอารูปไปใส่ไว้ในลิ้นชัก
ผมมองโก๋แก่ที่หลับสนิท เอาเป็นว่าตอนเช้าค่อยซื้ออะไรมาให้มันกินก็แล้วกัน
ผมขับรถตากลม มุ่งไปเรื่อยๆ รู้สึกดีใจลึกๆที่ไม่ได้ทำอะไรไอ้โก๋แก่
ผมไม่อยากทำให้ใครเจ็บปวด เพราะผมเองก็รู้ว่ามันทรมานแค่ไหน ไม่ว่าทางกายหรือใจ..
อีกอย่าง ทำไมผมจะไม่รู้ มันกะรุกผมเพราะความหมั่นไส้ แต่มึงหารู้ไม่..กูรุกมาก่อนมึงว่ะ
ผมเกลียดพวกเกย์ เพราะพวกนี้มันไปทั่ว สลับไปสลับมาก็เก่ง โกหกได้เรื่อยๆ.. แล้วก็ทิ้งกันไปง่ายๆ..
. . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . .อืม..อือ..
ผมนอนพลิกตัวไปมา ยังไม่ตื่นดี แต่ก็รู้สึกโล่ง โปร่งสบาย
เฮ้ย เมื่อคืนกูได้กดพี่กรีนรึเปล่า? กูได้แก้แค้นหรือยัง?
ผมลืมตาขึ้นมาทันที มองไปรอบๆห้อง จอมมารกรีนไม่อยู่นี่หว่า
แต่กูเสือกแก้ผ้า อย่าบอกนะว่ามันทำอะไรผม.. อ๊าก แค่คิดก็สยอง!
แต่ปรากฏว่าผมลุกขึ้นได้ปกติ ไม่เจ็บตูด ไม่ปวดเอว มีแค่อาการมึนเฉยๆ
ผมรีบหยิบเสื้อกางเกงมาใส่ แล้วหันสายตามองหากระดาษที่ผมสามารถแปะโน๊ตบอกพี่กรีนไว้ได้ว่าผมกลับห้องแล้ว
ไม่เจอแฮะ.. แต่ในลิ้นชักคงต้องมีแหละ
ผมเปิดลิ้นชัก.. และสิ่งที่สะดุดตาผมไม่ใช่กระดาษโน้ต แต่เป็น--รูปถ่าย
เด็กผู้ชายสองคนยิ้มร่าและหนึ่งนั้นคือพี่กรีน มือของเขาโอบไหล่อีกคน ซึ่งดูๆแล้วแม่ง เป็นแฟนกันชัวร์
ผมตกตะลึงไปชั่วขณะ.. ถ้าพี่กรีนเองก็เคย.. แล้วทำไมถึงเกลียดเกย์?
เอ.. แต่คิดไปคิดมา พวกเขาอาจเป็นเพียงเพื่อนที่สนิทกันมากๆก็ได้
ใช่..น่าจะเป็นอย่างนั้น ถ้าเพียงแต่หลังรูปถ่าย ไม่ได้เขียนหวัดๆ ไว้ว่า --จบกันแล้ว--
ผมรีบพลิกรูปถ่ายกลับ พี่กรีนอยู่ในชุดนักเรียนมอปลาย ดูจากขีดน่าจะเป็นมอสี่
นี่ใช่ไหม? นี่ใช่ไหมพี่กรีน คือเหตุผลของทุกอย่าง..
ผมได้แต่ยืนอึ้งอยู่ตรงนั้น.. จนกระทั่งได้ยินเสียงเปิดประตู รูปถ่ายยังอยู่ในมือผม!
ี่
พี่กรีนนิ่งค้าง แล้วก็กลับมาโมโหใส่ผมเช่นเคย “อย่าค้นของกู!”
เขาดึงเอารูปถ่ายใบนั้นกลับไป แล้วยื่นถุงข้าวต้มมาให้แทน
“ทีนี้ก็รู้แล้วนี่ อยากจะหัวเราะอะไรก็ตามใจ แต่กูเกลียดคนอย่างพวกมึง มึงกลับห้องไปได้แล้ว”
ผมไม่อาจพูดอะไรได้ ผมไม่รู้ว่าเขาผ่านอะไรมา ได้แต่รับถุงข้าวต้ม แล้วเดินออกจากห้องช้าๆ ตอนนี้ผมกลัวพี่กรีนจัง..
ผมนั่งเขี่ยข้าวต้ม.. กลัวก็กลัวที่จะไปพูดกับพี่กรีน
สงสารก็สงสารที่การกระทำของผมเหมือนไปกระตุ้นความหลังบางอย่าง
แต่ผมอยากให้มีใครสักคนบอกกับพี่กรีนในสิ่งที่ผมพูดไม่ออก ผมจะลงไปที่ห้องไอ้ทัศน์..
“เอ้า โก ฮ่ะๆว่าไง?” ไอ้ทัศน์ทักทันทีที่เปิดตูห้องออกมา
“จูบกันกลางร้าน อย่านึกว่ากูไม่เห็นนะ กับพี่กรีนเชียว มึงแน่มาก ตอนแรกกูนึกว่าต้องไปเยี่ยมที่โรง’บาลแล้ว”
แต่เมื่อผมเงียบผิดปกติ ไอ้ทัศน์จึงเลิกฮา “เข้ามาก่อนมึง
“น้องเกรย์ไม่อยู่เหรอ” ผมถามเมื่อมองหาไม่เจอ
“ถามหาเกรย์บ่อยจังวะ มันไม่ได้อยู่กับกู หอมันก็มี ไม่ได้เกาะติดกูสักหน่อย”
อืม.. ผมพยักหน้า “พวกมึงก็คบกันแบบเกรียนๆอินดี้ๆอย่างนี้เหรอวะ”
“หึ” ไอ้ทัศน์หัวเราะ “ช่วยไม่ได้ว่ะ แฟนกูเกรียน”
“งั้น..โทรหาน้องเขาหน่อยได้ไหมวะ กูมีเรื่องจะบอก”
“มึงไม่เป็นไรนะ” ไอ้ทัศน์ตบไหล่ ขณะหยิบโทรศัพท์มากดโทร..
“อือ..ทัศน์” เสียงน้องเกรย์แว่วมา คงเพราะความเงียบของห้อง และโทรศัพท์ไอ้ทัศน์มันเสียงดังอยู่แล้ว ผมจึงได้ยินปลายสายค่อนข้างชัดเจน
“ถ้ามึงไม่มีธุระสำคัญจริงๆละก็นะ.. กูจะโดดถีบมึงเลย”“แล้วถ้าโทรมาบอกว่าคิดถึงนี่สำคัญพอไหม?”
น้องเกรย์หัวเราะก๊ากมาตามสายขณะที่ผมมองไอ้ทัศน์อย่างอึ้งๆ มึงเสี่ยวไปไหม?
“คือไอ้โกอยากคุยด้วย พอจะตื่นมาหน่อยได้ไหม เดี๋ยวไปรับ”
“มึงอย่าบอกนะ ว่ากรีนฆ่าพี่โกไปแล้ว”อืม.. แสดงว่าเมื่อคืนน้องเกรย์ก็เห็นแล้วละ
“ยังเว้ย ก็บอกอยู่นี่ไงว่าไอ้โกอยากคุยด้วย”
“อือๆ ไม่อาบน้ำนะ หนาวอ่ะมึง”“ฮ่ะๆ ตามใจมึงเถอะ แต่ล้างหน้าแปรงฟันมาด้วย โอเค๊”
“รู้แล้วเว้ยยย!”ไอ้ทัศน์ยิ้มกับโทรศัพท์ก่อนกดวางสายแล้วก็หันมามองผม
“เรื่องพี่กรีนรึไง มึงเสร็จเขาแทนที่เขาจะเสร็จมึงใช่ไหมละ?”
“เปล่า..” ผมกัมหน้านิ่ง “ไม่มีใครเสร็จใครเลย”
ไอ้ทัศน์ดูงงๆ “โอเค ใจเย็นๆนะมึง เดี๋ยวกูไปรับเกรย์ก่อน”
แล้วมันก็เดินออกไปพร้อมกุญแจรถ..
ผมไม่เป็นอันทำอะไร ในใจเฝ้าแต่พะวงถึงคนชั้นล่าง
พี่กรีนจะเศร้าไหม จะเกลียดผมมากไหม? ซื้อข้าวต้มมาให้ผม แล้วเขาล่ะ.. เขากินอะไรรึยัง?
ทั้งๆ ที่การค้นพบครั้งนี้ น่าจะทำให้รู้สึกสาสมใจกับที่เขาแกล้งผมมาตลอดสามปี
แต่ผมกลับไม่รู้สึกแบบนั้นเลยสักนิด..
ไม่นานนัก หัวยุ่งๆของน้องเกรย์ก็โผล่พ้นประตูห้องเข้ามา
หน้าตาเพิ่งตื่น ท่อนล่างยังใส่บ็อกเซอร์อยู่เลย พร้อมด้วยเสื้อคลุมเก่าๆตัวหนึ่ง
ผมอดคิดไม่ได้.. น้องเกรย์ช่างแตกต่างกับพี่กรีนเหลือเกิน รายนั้นเนี๊ยบตั้งแต่หัวจรดเท้า
“มี‘ไรครับพี่ เรื่องกรีนใช่ไหม?”
มาถึงก็เข้าประเด็นเลยเชียว ผมพยักหน้า แต่ก็ยังพูดไม่ออก
“งั้นกูออกไปรอข้างนอกนะ” ไอ้ทัศน์บีบไหล่ผม ตบบ่าเกรย์ แล้วเดินออกไป
ผมมองตามไปก็เห็นมันยืนอยู่ตรงทางเดิน ซึ่งสามารถมองผ่านระเบียงเข้ามาเห็นพวกผมสองคนที่อยู่ในห้องได้
“เกรย์ น้องรู้ไหมว่าทำไมพี่กรีนถึงได้เกลียดเกย์” ผมถามเข้าประเด็นเลยเช่นกัน
น้องเกรย์ชะงักนิดหนึ่ง ครุ่นคิดอย่างลังเล แต่แล้วก็โคลงศีรษะ
“ไม่รู้แน่หรอกครับ”
“พี่กรีนเขาเคยมีแฟนเป็นผู้ชายมาก่อนนะ” ผมตัดสินใจบอก
น้องเกรย์นิ่งไป ดวงตาเบิกค้างน้อยๆ แต่แล้วก็พูดกับผม..
“แล้วก็เลิกกันไป หรือพูดอีกทีคือเขาทิ้งกรีนไป?”
“อ้าว เรารู้อยู่แล้วเหรอ”
“เปล่าครับ ผมเดาเอา” น้องเกรย์ถอนใจ สีหน้าเหมือนเพิ่งเข้าใจอะไรบางอย่าง
“ใช่ ซึ่งตอนนี้พี่รู้สึกผิดมาก ถ้ารู้ก่อนว่าเขามีเหตุผลของเขา พี่คง..”
“ไม่เป็นไรพี่ กรีนก็เหมือนผมนั่นแหละ หน้าฉากแข็งแกร่ง แต่ข้างในอ่อนแอ พี่ชายผมเป็นคนมีเหตุผล แต่นี่ไม่ใช่เรื่องของเหตุผล มันเป็นเรื่องของความรู้สึก..”
อ่า..ฟังดูแล้ว เป็นพี่น้องที่เข้าใจกันดีจัง ไม่น่ามาเกลียดกันเลย
เกรย์หันหลังจะออกจากห้อง “ผมจะลงไปหาพี่ผมนะครับ”
ผมได้ยินดังนั้นก็เดินตามไปด้วย พร้อมกับไอ้ทัศน์..
เราลงมาถึงชั้นสี่ หน้าห้องพี่กรีน น้องเกรย์เคาะประตู
“อย่าปิดสนิทนะ พี่จะอยู่ตรงนี้” ผมบอกเบาๆ ยังไม่มีความกล้าเข้าไปเผชิญหน้ากับจอมมารกรีนครับ
อึดใจหนึ่ง พี่กรีนก็ค่อยๆเปิดประตูออกมา แน่นอนว่าเขาตกใจที่จู่ๆ น้องชายมาหา ส่วนผมก็ทำตัวลีบๆ อยู่ข้างประตู
“ให้ฉันเข้าไปได้ไหม?” น้องเกรย์ถามเป็นมารยาท
“ถ้าฉันบอกไม่ล่ะ?” พี่กรีนเลิกคิ้ว
“ฉันก็จะเข้าไปอยู่ดี” น้องเกรย์ยักไหล่ ผลักอกพี่ชายนิดหน่อยเพื่อให้เดินผ่านไปได้
แล้วสองพี่น้องก็มองตากัน..
“ฉันอยากถามนายว่า..เกลียดฉันไหม?”
“ฉันขยะแขยงพวกประเภทนายทุกคน” พี่กรีนตอบเลี่ยงๆ
“เพราะนายเกลียด ขยะแขยง หรือ..เพราะนายกลัว กรีน?”
น้องเกรย์คุกเข่าลงบนพื้นและจับมือพี่กรีนที่กลับไปนั่งอยู่บนเตียงแล้ว
“กรีน.. การที่ใครสักคนทิ้งไป ไม่ได้หมายความว่านายจะเหลือตัวคนเดียวในโลกนะ” น้องเกยร์บีบมือพี่ชายแน่นขึ้น
“แล้วการที่ใครสักคนหมดรักนาย ก็ไม่ได้หมายความว่าจะไม่มีใครรักนายเลย”
“นายไม่เข้าใจอะไรหรอก หยุดพูดเถอะ” จอมมารกรีนทำสีหน้ารำคาญ แล้วสะบัดมือออกไป น้องเกรย์จึงเปลี่ยนเป็นวางมือบนหน้าขาทั้งสองของพี่ชาย
“ใช่ ฉันไม่เข้าใจเพราะนายไม่เคยบอกอะไรฉันเลย ฉันเดาเอาว่าผู้ชายคนนั้น คนที่ชื่อคีย์ คนที่นายเคยเทียวรับเทียวส่ง คนที่ต่อมาฉันเห็นอยู่กับผู้ชายคนอื่น เขาเป็นแฟนนายใช่ไหม เขาทิ้งนายใช่รึเปล่า? แล้วมันก็เกินกว่าที่นายจะรับได้”
พี่กรีนชะงักงัน มองตาน้องชาย.. คงมองด้วยความเป็นพี่มากที่สุดในรอบหลายปี
“นายไม่ได้ขยะแขยงฉันหรือใครคนอื่นเลยใช่ไหม แต่นายกลัว นายกลัวผู้ชาย กลัวมันจะเกิดขึ้นอีก นายไม่อยากเสียใจ..”
“หุบปากซะทีเกรย์!” พี่กรีนหลบสายตาเลี่ยงไปทางอื่น
“นายไม่ได้เกลียดฉันหรอกใช่ไหมที่ฉันเป็นเกย์ ตามที่นายคิดว่าเป็นน่ะนะ แต่ว่านายกลัวแทนฉันต่างหาก ใช่ไหม? นายกลัวใครหักอกฉัน นายกลัว.. ว่าจะมีใครทำร้ายฉัน ใช่ไหมกรีน?”
พี่กรีนมองน้องชายอย่างอึ้งๆ แต่ก็ยังไม่พูดอะไร..
“เฮ้กรีน.. ฉันจะไม่บอกว่าให้ ว่าสู้ๆนะ ดูแลตัวเองนะหรืออะไรทำนองนั้นหรอก มันเชยไปแล้ว”
พี่กรีนขมวดคิ้ว..
“แต่ฉันจะบอกนายว่า นายไม่จำเป็นต้องหนี เพราะนายไม่ผิด และไม่จำเป็นต้องเกลียดเกย์ทุกคน มันก็เหมือนผู้ชายผู้หญิงนั่นแหละ มีดีมีชั่ว ตรรกะนายไม่มีเหรอ แล้วจะเหมารวมเกลียดทั้งหมดทำไม แม่ง ว่างๆก็ไปแอบเข้าห้องเรียนปรัชญาบ้างนะ โลจิกต์อะ วิชาตรรกะศาสตร์ ตัวฟรีของคณะมนุษย์ฯ นายจะมาใช้อุปนัยในการให้เหตุผลเรื่องพวกนี้ไม่ได้”
แล้วพี่กรีนก็มะเหงกน้องเกรย์ “ฉันเรียนวิศวฯนะ ช่วยใช้ภาษาปกติด้วย”
“เออๆ ก็หมายความว่า นายจะเอาคีย์คนเดียวมาตัดสินคนทั้งโลกไม่ได้ มีเกย์ตั้งเยอะแยะที่เขารักกันจริงๆ แต่รักตลอดไปเนี่ย มันไม่มีนะ.. รักได้ ก็เลิกรักได้ ไม่ว่าจะเพราะเหตุผลอะไรก็ตาม ชนะมันให้ได้สิมันเป็นแค่เรื่องธรรมดา นะ..”
น้องเกรย์รัวเป็นชุด ผมไม่เห็นหน้าน้องเกรย์ เห็นเพียงแผ่นหลัง แต่ก็พอเดาออกว่าหน้าตามุ่งมั่นแค่ไหน แฟนไอ้ทัศน์มีสาระก็ได้ด้วย นึกว่าเกรียนเป็นอย่างเดียว
พี่กรีนกระตุกยิ้มมุมปากเล็กน้อย แต่ก็เป็นยิ้มที่ทำเอาใจผมชื้นขึ้นเป็นกอง..
“รู้ไหม ฉันชักสงสัยแล้วว่าใครเป็นพี่ใครเป็นน้องกันแน่”
นั่นทำให้น้องเกรย์หัวเราะ ก่อนจะเอ่ยด้วยน้ำเสียงจริงจัง “กรีน..”
น้องเกรย์ถอนใจ “ฉันทำอะไรที่นายเห็นนั่นแหละ แต่ฉันไม่ได้เป็นอย่างที่นายคิด”
คงจะให้อารมณ์เกินรับได้แล้วสำหรับทั้งคู่.. เพราะในทันที แขนใหญ่ทั้งสองของพี่กรีนก็คว้าน้องชายไปโอบไว้ เกรย์เองก็กอดตอบ พูดอู้อี้
“ฉันไม่เคยทำอะไรกับคนอื่นเลย ที่กลับบ้านดึกๆ ก็แค่เพราะกินเหล้ากับเล่นดนตรี
ฉันไม่ได้มั่ว.. คน..คนที่ฉันเคยมีอะไรด้วย มีแค่ทัศน์ ทัศน์คนเดียว..”
“ฉัน.. ไม่รู้” พี่กรีนพูดตะกุกตะกัก
“งั้นก็รู้ซะ และเชื่อใจฉันได้ไหม..กรีน”
ผมได้ยินเสียงสะอื้นของน้องเกรย์ และเห็นพี่กรีนพยายามเงยหน้า กระพริบตาไล่หยดน้ำ เขาโอบกอดน้องชายแน่นขึ้น
In the middle of September..
..we still play out in the rain
ผมยืนมองผ่านประตูที่แง้มไว้ ปลื้มใจแบบบอกไม่ถูก..
นี่สินะ.. ที่เขาเรียกว่า ‘ครอบครัว’
.............................................................................
ปล. เห็นรีพลายที่อยากเห็นเกรย์ขึ้นดอย จริงๆว่าจะเขียนอยู่แล้ว แต่ดันลืมครับ เอาเป็นว่าผมแต่ง special ให้ละกัน ขอบคุณเกรียนคนอ่านที่ยังเกรียนเสมอต้นเสมอปลาย ฮ่าๆ แวะมาแก้คำผิดหลังทำกับข้าว ว่าแต่มีใครอยากกินแกงไก่ ใส่หน่อไม้มั่ง??