หายไปนานต้องขอโทษด้วยค่ะ ยุ่ง ๆ กับเรื่องที่บ้านนิดหน่อย ตอนนี้เริ่มกลับมาปั่นต่อแล้วค่ะ
-----------------------------------------ดวงใจจ้าวมังกร
Act.13 ลอบสังหาร
...ร่างในชุดดำยืนสงบนิ่งต่อหน้าลูกแก้วที่ฉายภาพชายชราคนหนึ่งผู้มีริ้วรอยเหี่ยวย่นแห่งกาลเวลา แต่ไม่อาจมีใครคาดเดาอายุได้ว่าเจ้าตัวอยู่มานานเพียงใด แม้แต่คนที่กำลังรับฟังคำสั่งในยามนี้อยู่ก็ตาม
“ข้าจับสัมผัสได้...เจ้าชายเรโนมันกำลังเข้ามาสู่ฮาร์โมเนีย ข้างกายเจ้าชายมีผู้ซึ่งมีพลังอันแข็งแกร่งคุ้มครองอยู่ถึงสองคน คนหนึ่งข้ามั่นใจว่ามันคือแองเซลเจ้าองค์รักษ์ตัวยุ่งนั่น แต่อีกหนึ่งนี่สิ ข้าไม่เคยพบพลังเช่นนี้จากบรรดานับรบและจอมเวทในฮาร์โมเนียมาก่อน”
ชายชราผมยาวขาวโพลนเช่นเดียวกับหนวดเครายาวบนใบหน้าเอ่ยขึ้น นัยน์ตาสีเทาคมกริบเจ้าเล่ห์เปล่งประกายวาววับ ก่อนที่จะเอ่ยต่อ
“ตอนนี้พวกมันกำลังมุ่งสู่เมืองหลวงจากเส้นทางนอกเมืองทางทิศเหนือ ให้เจ้าไปดักรอที่หมู่บ้านบลูฟอเรสต์ ข้าเชื่อมั่นว่าถ้าพวกมันยังคงใช้เส้นทางเดิม มันต้องผ่านที่นั่นแน่ ที่เหลือก็แล้วแต่ฝีมือของเจ้าว่าจะกำจัดพวกมันได้สำเร็จไหม อย่าลืมล่ะ วิธีไหนใช้ได้ก็จงใช้ ...คุณธรรมไม่จำเป็นต่อการลอบสังหาร เข้าใจไหม ลูก้า”
ท้ายประโยคชายชราเอ่ยด้วยน้ำเสียงเยียบเย็นจนคนฟังต้องลอบกลืนน้ำลายลงคอ แล้วจึงโค้งรับคำสั่งนั้น
“ขอรับ ท่านมาร์ลิค”
จากนั้นภาพในลูกแก้วจึงค่อย ๆ จางหายไป ลูก้าเก็บลูกแก้วไว้กับตัว แล้วจึงถอนหายใจแผ่วเบาตามมา
“ข้าขออภัยท่านเรโน...แต่ถ้าไม่กำจัดท่าน สถานะของท่านเรนาร์ดก็จะอันตราย”
ลูก้าเอ่ยพลางกำมือข้างขวาของตนแน่น มือใหม่ที่สลักอักขระเวทโบราณไปทั่วแขนของเขานี้ เขาได้รับมันมาจากมาร์ลิค เป็นมือที่สร้างจากมนต์ดำต้องห้าม และอาจส่งผลกระทบต่อผู้ใช้ แต่เขาก็ยินดีใช้มัน ถ้าจะทำให้งานครั้งนี้ของเขาสำเร็จลงด้วยดี
เกวียนเทียมม้าถูกจอดอยู่หน้าโรงแรมเล็ก ๆ ประจำหมู่บ้านบลูฟอเรสต์ การปรากฏกายของหนุ่มรูปงามทั้งสอง และหนึ่งสาวน้อยผู้น่ารัก ทำให้บรรดาผู้คนในหมู่บ้านพากันแตกตื่นด้วยความสนใจ ต่อแขกผู้มาเยือนซึ่งมีรูปลักษณ์โดดเด่นสะดุดตาทั้งสามคน
“เสน่ห์แรงอีกแล้วนะ ฮึ!”
น้ำฟ้าบ่นเบา ๆ กับตัวเอง เมื่อเห็นชายหนุ่มคนรักหันไปยิ้มน้อย ๆ ให้กับสาว ๆ ที่แอบซุบซิบและโปรยยิ้มให้ยามเมื่อดราโกเดินผ่าน
“บ่นอุบอิบอะไร หึงอีกล่ะสิ ...งั้นมานี่”
มังกรหนุ่มบอกแล้วดึงร่างของเด็กหนุ่มคนรักเข้าไปจูบโดยที่อีกฝ่ายไม่ทันตั้งตัว เล่นเอาคนมองต่างอ้าปากค้าง แล้วตามมาด้วยเสียงซุบซิบอย่างเสียดายของหญิงสาวแถวนั้น รวมไปถึงชายหนุ่มบางคนที่แอบสนใจสาวน้อยน่ารักแปลกหน้าผู้นี้ด้วย
“สบายใจหรือยัง หือ?”
ดราโกถามพร้อมรอยยิ้มกระเซ้าทำให้คนฟังหน้าแดง แล้วทุบเอาที่ไหล่ของร่างสูงดังปึกด้วยความเขินอย่างลืมตัว
“บ้า!”
จากนั้นน้ำฟ้าจึงเร่งฝีเท้าเข้าไปในโรงแรม เพื่อเดินหลบเสียงนินทาและสายตาของคนอื่น ๆ ที่มองมายังพวกเขา ส่วนดราโกนั้นจับไหล่พลางสูดปากเบา ๆ ด้วยความเจ็บเล็กน้อย เพราะคนรักของเขามือหนักไม่ใช่เล่น แต่มังกรหนุ่มก็ยังคงมีรอยยิ้ม พร้อมเดินตามไหล่หลังไปช้า ๆ ทางด้านแองเซลลอบถอนหายใจเล็กน้อย แต่ก็ยังคงเดินตามทั้งคู่ไปโดยทิ้งระยะห่าง และลอบระวังไปด้วยในตัว
ระหว่างที่คณะเดินทางผู้มาใหม่กำลังเข้ามาเจรจาตกลงเรื่องที่พักในคืนนี้ ร่างในชุดดำที่อยู่บนชั้นสองและลอบมองลงมา ก็มีสีหน้าครุ่นคิดเล็กน้อย แวบแรกเขาแทบไม่ทันสังเกตว่าเด็กสาวผู้น่ารักคนนั้นจะเป็นคนเดียวกับเจ้าชายรัชทายาทที่เขาตามล่าสังหารอยู่ แต่พอเห็นแองเซลที่คุ้นตากันดี จึงทำให้เขาพอจะคาดเดาได้ว่าอีกฝ่ายนั้นได้แปลงโฉมเพื่อปิดบังตัวจริงเอาไว้นั่นเอง
“ช่วยไม่ได้ คงต้องใช้วิธีนั้นเสียแล้ว”
ลูก้าพึมพำกับตัวเอง ก่อนจะค่อย ๆ เดินกลับเข้าไปในห้อง ล้วงสัมภาระของตน ก่อนจะหยิบขวดแก้วขวดเล็ก ซึ่งบรรจุของเหลวใสในนั้นออกมา เจ้าตัวมีสีหน้าลังเลชั่วครู่ก่อนจะตัดสินใจเด็ดเดี่ยวตามมาในที่สุด
อีกด้านหนึ่งหลังจากได้ที่พักเรียบร้อย โดยที่น้ำฟ้าและดราโกนั้นพักห้องเดียวกัน ส่วนแองเซลพักแยกไปอีกห้อง และพอต่างฝ่ายต่างแยกย้ายกันเข้าห้องพัก มังกรหนุ่มก็รวบร่างเล็กของคนรักมานั่งตักตัวเองบนเตียงคู่กลางห้องทันที
“เรามาออกกำลังกายก่อนอาหารเย็นกันสักหน่อยดีไหมเด็กน้อย”
“ไม่ดีกว่าครับ ...นัดกับคุณแองเซลแล้วไม่ใช่หรือครับ ว่าอีกครึ่งชั่วโมงจะลงไปทานอาหารเย็นพร้อมกัน”
น้ำฟ้ารีบปฏิเสธพร้อมกับอ้างนัดกับองค์รักษ์หนุ่มเพื่อไม่ให้ดราโกได้ลงมือทำรุ่มร่ามกับเขา เพราะไม่อย่างนั้น เกิดลืมตัวขึ้นมา พวกเขาอาจจะอดมื้อเย็นไปเลยก็ได้
“ฮึ! สั่งของพวกเราขึ้นมากินกันสองคนบนห้องก็ได้นี่”
ดราโกเริ่มออกอาการพาลเพราะโดนขัดใจ ทำให้น้ำฟ้าต้องลอบถอนหายใจเบา ๆ แล้วยิ้มหวานให้
“โธ่ ดราโกครับ อย่าโกรธสิครับ เอาเป็นว่าหลังทานข้าวเย็นเสร็จ คุณอยากจะทำอะไร ผมก็ไม่ขัดคุณดีไหม?”
พอเห็นเด็กหนุ่มคนรักลงทุนประจบตน ดราโกก็ยิ้มออก แล้วจูบมัดจำแรง ๆ ที่แก้มเนียนนุ่มซ้ายขวานั่น
“สัญญาแล้วนะ ห้ามผิดคำพูดด้วย”
คนฟังใบหน้าแดงระเรื่อแล้วจึงพยักหน้ายืนยันค่อย ๆ แต่ก็ต้องแปลกใจเมื่อดราโกยังคงอุ้มเขานั่งอยู่บนตักไม่ปล่อย แถมมือใหญ่ก็ยังเริ่มลวนลามจับโน่นลูบนี่ไปทั่วร่างเขา
“อ๊ะ ดราโก สัญญากันแล้วว่าหลังกินข้าวไม่ใช่หรือครับ ...”
น้ำฟ้าโวยวายแต่อีกคนอมยิ้มแล้วกระซิบเบา ๆ
“ก็ใช่สิ แต่ข้าไม่ได้จะกินอาหารจานหลักสักหน่อย ข้าแค่จะกินอาหารเรียกน้ำย่อยไปพลาง ๆ รอเวลาก่อนเท่านั้น ...เจ้าคงไม่ให้ข้านั่งกอดเจ้าอยู่เฉย ๆ จนครบครึ่งชั่วโมงหรอกใช่ไหม?”
น้ำฟ้าหน้าแดงวาบเข้าใจความหมายที่อีกฝ่ายต้องการสื่อทันที
“บ้า...คนลามก...บ้ากาม”
น้ำฟ้าบ่นพึมพำ ก่อนจะเปลี่ยนเป็นครางเสียงกระเส่าเมื่อชายคนรักลงมือจู่โจมให้สติเขาเตลิดไปอีกหน และต่อเมื่อเจ้าตัวพึงพอใจแล้ว ร่างเล็กที่นอนหอบเหนื่อยในชุดเสื้อผ้าหลุดลุ่ย ก็ถูกอุ้มประคองวางลงบนเตียงนอนคู่นั้นอย่างอ่อนโยน จนสักพักแองเซลก็มาเคาะประตูห้องตามทั้งคู่ลงไปทานข้าวเย็นด้านล่างของโรงแรมพร้อมกัน
โรงแรมเล็ก ๆ ประจำหมู่บ้านแห่งนี้ มีเพียงคณะของน้ำฟ้าที่เป็นคนต่างถิ่น และก็มีอีกสองสามโต๊ะที่เป็นคนในหมู่บ้านเข้ามาหาอะไรดื่มกินตามปกติ พลางลอบมองไปยังโต๊ะคนแปลกหน้าอย่างสนอกสนใจ
“ว้าว อาหารมาแล้ว!”
น้ำฟ้าซึ่งกำลังหิวมองอาหารปรุงสุกร้อน ๆ ด้านหน้าอย่างดีใจ เพราะก่อนหน้านั้นเขากินแต่เสบียงอาหารแห้ง และผลไม้มาตลอด จะมีของร้อน ๆ ก็พวกปลาสดที่แองเซลจับให้ไว้นำมาย่าง แต่ก็ยังคงเทียบไม่ได้กับอาหารปรุงรสหน้าตาน่ากินเหล่านี้
“ทานละนะครับ”
น้ำฟ้าบอกพร้อมยิ้มกว้าง ซึ่งก็ทำให้ทั้งดราโกและแองเซลมองเด็กหนุ่มในร่างของชุดเด็กสาวอย่างเอ็นดู แต่แล้วก่อนที่อาหารคำแรกจะเข้าปาก เสียงเล็ก ๆ ก็ดังขึ้นใต้โต๊ะ ทำให้น้ำฟ้าสะดุ้ง ก่อนจะก้มลงไปมอง
“อ๊ะ แมว น่ารักจัง”
แมวขนฟูน่ารักที่คาดว่าน่าจะมีคนเลี้ยงเพราะมันสวมปลอกคอ เข้ามาคลอเคลียที่ขาของน้ำฟ้า พอเห็นดังนั้นเด็กหนุ่มจึงหยิบอาหารในจานโยนให้มันกินเพราะความเอ็นดู แต่ทว่าเจ้าแมวน้อยพอดม ๆ แล้วก็เลียไปไม่ทันไร มันก็เกิดอาการแปลก ๆ ขึ้น น้ำฟ้านั้นไม่ทันได้มองและกำลังเอาช้อนที่ตักข้าวและกับเข้าปาก แต่ดราโกที่ทันเห็นพร้อมแองเซล รีบตะโกนบอกให้อีกฝ่ายหยุดกินแทบพร้อมกัน
“อะ...เกิดอะไรขึ้น”
น้ำฟ้าถามด้วยคาวมตกใจเพราะจู่ ๆ ก็ได้ยินเสียงตะโกนห้ามแถมดราโกก็ปัดช้อนในมือเขาเสียจนกระเด็น ทางด้านแองเซลรีบไปดูแมวน้อยที่กำลังชักดินพล่าน แล้วหันขวับไปบอกกับทางดราโกและน้ำฟ้าทันที
“อาหารนี่มียาพิษ ...แบบไร้สีไร้กลิ่น แถมยังออกฤทธิ์แรงและเร็วอีกด้วย”
พอบอกจบดราโกก็ตาวาว แล้วหันขวับไปยังเจ้าของโรงแรมควบตำแหน่งพ่อครัว ซึ่งรีบวิ่งหน้าตื่นออกมาจากด้านในครัว เมื่อได้ยินเสียงเอะอะโวยวายเกิดขึ้นภายนอก
“เจ้าบังอาจกล้าวางยาพิษพวกข้าเชียวอย่างนั้นรึ! เจ้าเป็นคนของใครกันแน่ ใครจ้างเจ้าทำเช่นนี้!”
เจ้าของโรงแรมตกตะลึงด้วยความตกใจและงุนงง คนอื่น ๆ ก็เช่นกัน ซึ่งพอคนอื่นเตรียมจะวิ่งหนีเพราะเกรงกลัวในท่าทางที่ผิดแผกแปลกไปของดราโกและเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น มังกรหนุ่มก็รีบหันไปร่ายอาคมสร้างเขตแดนขังทุกคนไว้ทันที
“ไม่ว่าใครก็หนีไปไหนจากที่นี่ไม่ได้ทั้งนั้น จนกว่าข้าจะหาตัวการพบ!”
ดราโกตวาด ทำเอาทุกคนสะดุ้งเฮือก เพราะแววตาและสีหน้าดุดันทรงอำนาจของมังกรหนุ่ม ล้วนสะกดให้พวกเขาหยุดนิ่งแข็งทื่ออยู่กับที่อย่างไม่รู้ตัว
“ดะ...ดราโก ใจเย็น ๆ ก่อนครับ ....โธ่! เจ้าเหมียว ไม่น่าเลย”
น้ำฟ้าพึมพำเมื่อเห็นอาการของเจ้าแมวน้อยที่มารับเคราะห์แทนตน แองเซลถอนหายใจแล้วหยิบขวดแก้วใส หยดมันลงหนึ่งหยดลงในปากของเจ้าแมวเคราะห์ร้าย
“ยานี่สกัดจากสมุนไพรวิเศษ อาจจะไม่สามารถรักษาพิษร้ายที่ไร้ชื่อนี่ได้ก็จริง แต่เจ้าแมวน้อยแค่เลียไปนิดเดียว ถ้าชะตามันยังไม่ขาดมันอาจจะรอด”
แองเซลบอกกับเจ้านายของตน ซึ่งก็ทำให้น้ำฟ้ายิ้มออกมาได้พลางพึมพำขอบคุณองค์รักษ์หนุ่มเป็นการใหญ่
“ท่านดราโก ข้าเกรงว่าพวกชาวบ้านที่นี่จะไม่มีส่วนรู้เห็น ...เพราะเท่าที่ดูจากสีหน้าและแววตาของพวกเขาแล้ว เขาไม่น่าโกหกพวกเราได้”
แองเซลเอ่ยกระซิบกับมังกรหนุ่มแผ่วเบา ซึ่งพอสังเกตตาม ดราโกก็เห็นดังนั้นจริง ๆ สีหน้าหวาดกลัวและความพิศวงงุนงงต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมีอยู่ในแววตาของชาวบ้านทุกคนในโรงแรมนี้
“จริงสิ...ก่อนพวกข้าจะมาพัก ยังมีแขกอื่นมาพักในหมู่บ้านนี้อีกไหม”
แองเซลหันไปถามเจ้าของโรงแรมซึ่งกำลังกลัวตัวสั่นงันงก เขาชะงักแล้วนิ่งคิดอะไรบางอย่าง
“มะ...มี ขอรับ เป็นชายสวมชุดดำทั้งชุด มีผ้าคลุมหน้า มองใบหน้าไม่ออก เขามาพักแรม แล้วก็ส่วนใหญ่จะสั่งอาหารขึ้นไปกินบนห้อง และแทบไม่ออกไปไหนพ้นห้องเลย แต่เพราะจ่ายค่าพักมาล่วงหน้าตั้งสามวันพร้อมค่าอาหาร ข้าก็เลยไม่ได้สนใจอะไรมาก”
เจ้าของโรงแรมบอกตามตรง แองเซลกัดฟันกรอด นึกถึงเจ้านักฆ่าลึกลับที่เคยได้ประมือกันทันที เขาถามห้องพักที่อีกฝ่ายพักจากเจ้าของ ซึ่งพอรู้ก็รีบวิ่งพรวดไปด้านบน ส่วนดราโกนั้นยืนคุมเชิงและคอยระวังภัยให้น้ำฟ้าอยู่ด้านล่าง
“...หนีออกไปได้แล้ว”
คนกางเขตแดนรู้สึกถึงเขตแดนที่ถูกทำลายจากด้านบน และถ้าเขาคาดเดาสถานการณ์ไม่ผิด อีกฝายต้องหนีไปได้ก่อนแองเซลจะตามไปถึงเพียงแค่เสี้ยววินาที เพราะไม่เช่นนั้นคงได้ยินเสียงปะทะกันดังขึ้นบ้างแล้ว ซึ่งหลังจากนั้นสักพัก องค์รักษ์หนุ่มเดินลงมาด้านล่างอย่างหัวเสีย แล้วโค้งรายงานให้กับทั้งคู่
“ขออภัย...ข้าตามมันไม่ทัน พอมันทำลายเขตแดนท่านลงได้ ก็มีประตูมิติเกิดขึ้นด้านหน้า มันกระโดดหนีหายไปในนั้นพร้อมกันประตูมิติถูกปิดลง ทำให้ข้าไม่สามารถตามไปได้”
“สร้างประตูมิติได้... ฝั่งศัตรูของเจ้าต้องมีฝีมือมากพอสมควร”
ดราโกพึมพำ แล้วชักนึกห่วงร่างเล็กข้าง ๆ มาขึ้นไปอีก
“ขอรับ...”
แองเซลรับคำแผ่วเบา พอจะคาดเดาได้เกือบร้อยเปอร์เซ็นต์ว่าใครเป็นผู้ส่งตัวนักฆ่ามาลอบฆ่าพวกเขา
“อาหารมื้อนี้คงกินไม่ได้แล้วล่ะ เพราะไม่แน่ใจว่ามันจะวางยาพิษไว้ที่ไหนอีกบ้าง”
ดราโกเปลี่ยนเรื่องคุย เพราะไม่อยากให้น้ำฟ้าต้องพลอยเป็นกังวลไปด้วย ส่วนเจ้าของโรงแรมมีสีหน้าดีขึ้น เพราะคนร้ายตัวจริงหนีไปแล้ว และดูเหมือนดราโกจะไม่มุ่งเล่นงานเขาเหมือนก่อนหน้า สังเกตได้จากเขตแดนถูกเปิด และแขกคนอื่น ๆ ถูกปล่อยกลับบ้าน ส่วนพวกเขาก็เช็คอาหาร เสบียงที่เหลือ ว่าปลอดภัยหรือไม่ ซึ่งก็พบว่านอกจากอาหารที่ปรุงในส่วนของพวกเขาในมื้อนี้แล้ว อาหารชนิดอื่นนั้นปลอดจากยาพิษแทบทั้งสิ้น ทำให้แองเซลนั้นยิ่งพอจะคาดเดาถึงตัวคนร้ายได้ว่า เป็นผู้ใดกันแน่
“เป็นนักฆ่าที่ลงมือไม่เด็ดขาดนักเลยนะ”
ดราโกพึมพำหลังจากตรวจสอบ เพราะแม้แต่อาหารแห้งของพวกเขาในรถม้ารวมถึงน้ำดื่มต่าง ๆ ก็ล้วนปลอดภัยดี นี่ถ้าเป็นนักฆ่าคนอื่น บางทีอาจจะวางยาไปทั่วทั้งหมู่บ้านไปแล้วก็เป็นได้
“เขาไม่ใช่นักฆ่าโดยกำเนิดหรอกขอรับ ...เขาก็มีหน้าที่เหมือนข้า เพียงแต่เรารับใช้กันคนละฝ่ายเท่านั้น”
แองเซลบอกเบา ๆ แล้วจึงลอบถอนหายใจ ก่อนจะหันกลับมามองทางน้ำฟ้า พร้อมกล่าวกับเด็กหนุ่มอย่างหนักแน่น
“แต่ต่อให้อีกฝ่ายมีความจำเป็นสักเพียงใด เพื่อปกป้องคุ้มครองท่านแล้ว ถ้าฝ่ายตรงข้ามคิดร้ายต่อท่าน ข้าก็พร้อมจะปลิดชีพมันผู้นั้นทุกเมื่อ!”
“คุณแองเซล...ขอบคุณนะครับ”
น้ำฟ้าพึมพำด้วยความซาบซึ้ง ก่อนจะสะดุ้งโหยงเมื่อถูกคนใกล้ตัวรวบเอวเขาไปกอดแนบอก
“อย่าจ้องมองคนอื่นด้วยแววตาซาบซึ้งเช่นนั้นสิ ข้าหึงนะ”
คำพูดของดราโกทำเอาอีกสองคนสะดุ้ง แองเซลนั้นลอบถอนหายใจ ก่อนจะขอตัวกลับห้อง และบอกว่าคืนนี้คงไม่มีอะไร ศัตรูคงไม่คิดย้อนกลับมาหลังจากทำงานเพิ่งพลาดไปแน่ แต่ถ้าให้ดี ดราโกกลางเขตแดนคุ้มกันที่ห้องของตัวเองและน้ำฟ้าไว้จะดีกว่า
ฝ่ายมังกรหนุ่มนั้นเห็นดีด้วยกับคำแนะนำนั้น และเมื่อพวกเขาแยกย้ายกลับเข้าห้อง ดราโกก็รีบทวงสัญญาเมื่อยามเย็นทันที แม้น้ำฟ้าจะพยายามบ่ายเบี่ยงในภายแรก แต่สุดท้ายก็แพ้ลูกอ้อนของคนรัก และความปรารถนาส่วนลึกของตนอยู่ดี
อีกด้านหนึ่ง ลูก้าหมอบราบอยู่หน้าชายชราที่ดูน่าเกรงขามทรงอำนาจ ผิดอายุและรูปลักษณ์ ครั้งนี้เขายังคงทำงานพลาด และได้รับการช่วยเหลือจากอีกฝ่ายให้หนีกลับมาเสียก่อน
“ไม่ต้องก้มหน้านิ่งขนาดนั้นก็ได้ ข้าไม่ได้คิดลงโทษเจ้าหรอกลูก้า”
น้ำเสียงเรียบเยียบเย็นเอ่ยขึ้น ลูก้าเงยหน้าขึ้นสบตากับอีกฝ่ายวูบหนึ่ง แล้วก็ต้องรีบหลบตาเพราะความเกรงกลัวในอำนาจแววตาคู่นั้น
“ครั้งนี้เพราะพวกมันดวงดี ทำให้รอดตัวไป ดังนั้นจึงหาใช่ความผิดของเจ้าไม่ เพียงแต่วิธีนี้เราอาจจะทำได้ยากลำบากกว่าเดิม เพราะมันคงจะระวังในเรื่องอาหารการกินมากยิ่งขึ้น”
ชายชรายังคงเอ่ยต่อ แล้วสักพักริมฝีปากใต้หนวดเคราขาว จึงกระตุกยิ้มขึ้นมาเล็กน้อย
“เพียงแต่ครั้งนี้ เจ้าทำให้ข้าได้พบของดีชิ้นหนึ่ง ...องค์รักษ์แปลกหน้าของเจ้าชายเรโน มันจะเป็นใคร มาจากถิ่นหนใดข้าก็ไม่รู้หรอก แต่พลังที่มันมีถูกใจข้ายิ่งนัก ...ขนาดจอมเวทยังหาน้อยคนที่จะสร้างเขตแดนได้แข็งแกร่งเช่นนั้น นี่ถ้าไม่ได้พลังของเจ้าทำลายจากข้างใน และพลังของข้าช่วยเสริมจากด้านนอก เจ้าคงยากที่จะทำลายมันลงได้โดยง่ายนักหรอก”
ลูก้ากลืนน้ำลายลงคอ เพราะตอนที่เขาแอบดูกลุ่มของเจ้าชายรัชทายาทอยู่ห่าง ๆ ยังรู้สึกถึงความน่ากลัวที่แผ่ออกมาจากชายผู้นั้นได้ และถ้ามองไม่ผิด เขาว่าชายผู้นั้นคงมีสัมพันธ์ขั้นลึกซึ้ง กับเจ้าชายเรโนอยู่เหมือนกัน
“ถ้าสามารถจับกุมพวกมันมาได้ตัวเป็น ๆ ก็คงดี… บอกตามตรง แม้แต่พลังของเจ้าชายรัชทายาทเอง ข้าก็สนใจอยู่ไม่น้อย...”
มาร์ลิคพึมพำในถ้อยคำที่ทำให้ลูก้าขมวดคิ้ว ก่อนจะสะดุ้งเฮือก เมื่ออีกฝ่ายหันมาทางตน
“อืม...เจ้าพอจะทำได้ไหมล่ะ จับเป็นพวกมันน่ะ”
ลูก้าชะงัก แล้วมองคนถามอย่างตกใจ
“แต่ราชินีทรง...”
“ก็อย่าให้ทรงรู้ สำหรับราชินี แค่เจ้าชายเรโนไม่ปรากฏกายอีก พระนางก็พอพระทัยแล้ว”
“แต่ว่า...”
ลูก้ายังคงลังเล แต่ก็ต้องชะงักเมื่อได้ยินประโยคถัดมา
“ไม่ดีหรอกหรือที่เจ้าจะได้ไม่ต้องลงมือสังหารเจ้าชายทั้งที่ไม่เต็มใจ แถมหากเจ้าชายเรนาร์ดรู้ว่า คนสังหารพี่ชายที่ตนเฝ้ารอคอยจะเจอมาตลอดเป็นเจ้าและสาเหตุที่สังหารก็เป็นเพราะพระองค์ ...เจ้าคิดว่าเจ้าชายเรนาร์ดจะทรงรู้สึกเช่นไรล่ะ หือ? ลูก้า”
ชายในชุดดำเงียบกริบ แค่เพียงหวนคิดถึงสีหน้าผิดหวังและเศร้าสร้อยอย่างถึงที่สุดของเจ้าชายองค์รอง ก็แทบทำให้เขาเจ็บปวดเจียนสิ้นใจ
“ข้า...จะลองดูขอรับท่านมาร์ลิค”
ลูก้ารับคำแผ่วเบาพลางก้มหน้า ทำให้ชายชรากระตุกยิ้มน้อย ๆ ที่ริมฝีปาก แล้วเฝ้ามองไปยังลูกแก้วสีขาว ที่ยามนี้ฉายให้เห็นแค่ภาพเมฆหมอกบังตา ไม่อาจมองเห็นเป้าหมายได้ชัดเช่นเคย
“แล้วข้าจะรอ...”
‘รอคอยที่จะได้ตุ๊กตาตัวใหม่ผู้ซื่อสัตย์ เปี่ยมไปด้วยพลัง และความงดงาม มาเป็นของข้าในอนาคต’
ชายชราคิดต่อในใจ ใบหน้าของน้ำฟ้าและดราโก ที่ได้เห็นจากความทรงจำของนักฆ่าหนุ่ม ทำให้เขาเกิดความพึงพอใจขึ้นมาอย่างมาก จนคิดเปลี่ยนคำสั่งของราชินี ที่ให้สังหารเด็กหนุ่มให้สิ้นซากเสียแทน
จากนั้นมาร์ลิคจึงสั่งให้ลูก้าตามสะกดรอยพวกนั้นต่อไป แต่ยังไม่ต้องลงมืออันใด จนกว่าเขาจะมีคำสั่ง ซึ่งนักฆ่าหนุ่มผู้กำลังสับสนก็จำได้แต่รับคำและพร้อมปฏิบัติตามอย่างไม่อาจขัดขืนได้
---- TBC ---
อ่านจบตอนนี้อย่าเพิ่งกลัวดราม่าเสียก่อนนะคะ จะพยายามให้แฮปปี้ค่ะ ไม่ต้องห่วง เพราะยังไงคนเขียนชอบอ่านแนวแฮปปี้อยู่แล้ว เพราะฉะนั้นเขียนเองก็ไม่เน้นร้าวรานหรอกค่า~