น้องชาย 2
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: น้องชาย 2  (อ่าน 179942 ครั้ง)

icyblue

  • บุคคลทั่วไป
Re: น้องชาย 2 ( Up ช่วงที่ 22 + 23 : 31/05/11 )
«ตอบ #150 เมื่อ01-06-2011 12:55:21 »

เอ ห้ามใจได้ก็ดีค่ะ  ให้อะไรแน่ชัดทั้ง 2 ฝ่าย ก็ยังไม่สาย  o13


แต่น้องว่านเดาใจยากค่ะ  ดูแปรปรวนจัง   :เฮ้อ:

ออฟไลน์ •ไนท์คลุง•

  • Night ♥ .....
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 862
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-1
    • http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?action=profile
Re: น้องชาย 2 ( Up ช่วงที่ 22 + 23 : 31/05/11 )
«ตอบ #151 เมื่อ01-06-2011 18:15:52 »

มาต่อไวๆนะครับ จารอน้อ :กอด1: :กอด1:

ออฟไลน์ me_alone

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 356
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +115/-1
Re: น้องชาย 2 ( Up ช่วงที่ 22 + 23 : 31/05/11 )
«ตอบ #152 เมื่อ01-06-2011 19:39:08 »

รักหรือหลงอะ แต่ว่านะ อยากอ่านฉาก nc ของเอ กับ บี บ้างอะ ถ้าจะ ม่วนไม่หยอก
:z1: ~ รอเ้ขียนใหม่อีกรอบก่อนครับ จะลงให้ครบที่สุด ของว่านนี้เขียนไปเขินไำป แฮะๆ




พี่เอดูท่าแล้วว่านคงไม่ชอบให้
พี่เอบอกเค้าว่าน่ารัก
ว่านน่ะในตอนนี้ความคิดของเค้าเอง
คงตีกันให้วุ่น
พี่เอคุยกับว่านก่อนเถอะนะ
บางทีว่านเองต้องการคนชี้แนะ
เพื่อตอบสิ่งที่เค้ากำลังสับสนอยู่
:กอด1: ~ แล้วควรตอบเค้าว่าอะไรดีอะครับ


ดีใจที่พี่เอมาต่อบ่อย ๆ
เราอ่านแล้วรู้สึกชอบนิสัยน้องว่านมากเลย
แต่ก็แอบกลัว ไม่อยากให้พี่เอผิดหวังอีก
เป็นกำลังใจให้เขียนต่อนะคะ :)
:กอด1: ~ ขอบคุณสำหรับกำลังใจครับ


เอ ห้ามใจได้ก็ดีค่ะ  ให้อะไรแน่ชัดทั้ง 2 ฝ่าย ก็ยังไม่สาย  o13
แต่น้องว่านเดาใจยากค่ะ  ดูแปรปรวนจัง   :เฮ้อ:
:กอด1: ~ พูดเหมือนเพื่อนว่านพูดเลยอะครับ



มาต่อไวๆนะครับ จารอน้อ :กอด1: :กอด1:
:กอด1: ~ ครับ

ออฟไลน์ donutnoi

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2187
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-7
Re: น้องชาย 2 ( Up ช่วงที่ 22 + 23 : 31/05/11 )
«ตอบ #153 เมื่อ01-06-2011 21:01:42 »

 :L2: ไม่อยากให้เอผิดหวังเลย   :กอด1:  แต่ว่านก็เหมือนยังสับสนนะ

รอตอนต่อไปค่ะ  :3123:

ออฟไลน์ me_alone

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 356
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +115/-1
Re: น้องชาย 2 ( Up ช่วงที่ 22 + 23 : 31/05/11 )
«ตอบ #154 เมื่อ02-06-2011 00:58:58 »

ช่วงที่ 24




        “แกร๊ก” ผมปิดประตูห้องพักที่โรงแรมเบาๆก่อนจะเดินตามทางเดินไปที่ลิฟท์ ผมกดเครื่องหมายลงก่อนจะหยิบ PSP ออกมาเพื่อเลือกเพลงฟังระหว่างทาง ไม่นานเท่าไหร่ ลิฟท์ก็มาถึง “ตึ๊ง”  เมื่อประตูลิฟท์เปิดออกผมก็เจออาจารย์อิฐกับอาจารย์ที่เป็นโค้ชกีฬาชนิดอื่นอีกสองท่าน

“สวัสดีครับ” ผมยกมือขึ้นไหว้
“เอ...พอจะมีเวลาสักนิ๊ดไหม....ผมมีเรื่องจะคุยด้วย” อาจารย์อิฐพูดด้วยน้ำเสียงเครียดๆเล็กน้อย
“ครับ”


        แล้วอาจารย์อิฐก็พาผมไปนั่งคุยในห้องพร้อมกับอาจารย์อีกสองท่าน โดยอาจารย์อีกสองท่านนั่งบนที่นอน ส่วนผมกับอาจารย์อิฐนั่งบนเก้าอี้คนละตัว แบบหันหน้าเข้าหากันทั้งสี่คน จากนั้นอาจารย์อิฐก็เริ่มคุยธุระที่ว่าซึ่งสรุปได้ดังนี้ครับ คือผู้จัดการทีมคนอื่นๆเค้าไม่ค่อยพอใจในพฤติกรรมของโค้ช เพราะหลายท่านสังเกตว่าผมมาดูน้องๆตั้งแต่วันแรก ซึ่งยังไม่มีใครเห็นโค้ชเลย ผมเลยชี้แจงไปว่าโค้ชจะมาแค่วันที่เทควันโดแข่งเท่านั้น แล้วผมก็เพิ่งมาทราบวันนั้นเองว่าโค้ชเบิกเงินของเพื่อนโค้ชมาด้วย แต่กลับไม่มีใครเห็นทั้งโค้ช ทั้งเพื่อนโค้ช ทำให้เหล่าอาจารย์ท่านอื่นไม่พอใจ เพราะทุกคนได้รับเงินเท่ากัน ยิ่งกับอาจารย์อิฐด้วย อาจารย์อิฐไม่พอใจมากที่เห็นผมถูกเอาเปรียบขนาดนี้ ที่สำคัญผมเพิ่งจะรู้ว่ามีน้องสองคนที่ไม่ถูกส่งรายชื่อมาแข่งครั้งนี้ ทำเรื่องร้องเรียนความไม่เป็นธรรมไปยังผู้บริหารของทางมหาวิทยาลัยด้วย อย่างไรก็ตามการพูดคุยวันนั้นผมตัดบทไปแบบไม่มีคำชี้แจงชัดเจนเกี่ยวกับโค้ชจากผม “แม่งมีเรื่องให้กูเครียดแต่เช้าเลย” ผมบ่นอุบเบาๆขณะที่ลงลิฟท์

        แล้ว.....ไม่นานการแข่งขันก็จบลงครับ โค้ชมาตามคำสัญญา มีการแข่งขันสามวันโค้ชก็มาแค่สามวันแล้วก็กลับทันทีที่การแข่งขันจบลง ส่วนเรื่องค่าเบี้ยเลี้ยงที่โค้ชเบิกมาเกินทั้งๆที่เพื่อนเค้าถอดตัวไปแล้วแถมไม่ได้มาช่วยอะไรโค้ชเค้าก็เงียบกริบไม่บอกผมสักคำ ส่วนผมเหรอครับ สุดท้ายก็ต้องดูแลตั้งแต่คาราเต้ยันเทควันโดอะ ถ้าว่ากันตามจริงผมต้องได้เงิน โค้ชคาราเต้ กับ ผู้ช่วยของเทควันโดนะ เรื่องเงินช่างมันเถอะครับ เพราะที่ผมมาทำๆนี่ผมไม่ได้หวังเงินทองอยู่แล้วแต่ผมทำด้วยใจหน่ะ หลังจากแข่งเสร็จก็เหมือนน้ำลดต่อผุด น้องๆหลายคนบ่นอุบไม่พอใจพฤติกรรมของโค้ชครับ ไม่ว่าจะเรื่องชวนเล่นการพนัน หรือ เอานักกีฬาชนิดอื่นที่แข่งเสร็จแล้วมาเล่นในห้องจนดึกทำให้น้องๆไม่ได้พักผ่อน แถมเรื่องความซกม๊กที่ใส่มาชุดเดียวยิงยาวสามวันสองคืนจะเปลี่ยนก็แค่เสื้อวอร์มแบบคลุมส่วนถุงเท้าไม่ต้องพูดถึงครับน้องบอกไม่เกรงใจอ้วกไปแล้ว อ่อ อีกอย่าง โค้ชไม่ได้มาพักกับผมนะ เพราะเค้ามาไม่ถูก อีกอย่างถ้ามาอยู่กับผมโค้ชได้ถูกทอดทิ้งแบบตอนไปธรรมศาสตร์แน่เพราะผมไม่ใช่คนสนุกสนานตลอดเวลาเค้าเลยไปพักกับน้อง

        หลังจากกลับมาถึงบ้านแล้วอย่างแรกที่ผมทำเลยคือโทรบอกว่าน....แต่ว่า...ว่านไม่รับ....คงไม่ว่างมั้ง ผมเลยส่ง SMS ไปบอกแทน แล้วผมก็หลับไป....รู้สึกตัวอีกทีก็วันจันทร์แล้ว พอมาถึงมหาวิทยาลัยผมก็เข้าพบกับผู้บริหารของทางมหาวิทยาลัยเพื่อรับทราบเรื่องที่มีการร้องเรียน ได้ความว่า มีน้องสองคนที่เป็นนักกีฬาตัวหลักของมหาวิทยาลัยมาสามปีแล้ว แล้วปีนี้เค้าก็ไม่ได้ลงด้วยเหตุผลที่ฟังไม่ขึ้น ทำให้น้องๆร้องเรียน โดยโค้ชเองเคยมีการชี้แจงไปแล้วว่าน้องไม่มาฝึกซ้อมตามระยะเวลาที่กำหนด แต่น้องก็แย้งว่า โค้ชต่างหากที่ไม่มีการฝึกซ้อมให้นักกีฬา ให้ไปฝึกซ้อมตามมีตามเกิดกันเองที่ชมรมของทางมหาวิทยาลัย ( ใครอ่านน้องชาย 1 คงจะพอจะทราบว่าทำไมผมถึงไม่ยุ่งกับการฝึกซ้อม ) แล้วมาให้ซ้อมกันก่อนแข่งแค่ไม่กี่วัน แต่ตอนที่ตัดสิทธิ์น้องสองคนนั้นมันก่อนช่วงเก็บตัวฝึกซ้อมซะอีก เมื่อถูกตัดชื่อไปแล้ว จะให้ไปเก็บตัวด้วยเพื่ออะไร แถมคนอื่นเองช่วงก่อนส่งรายชื่อ ขาดซ้อม ไม่มาซ้อม มากกว่าซะอีก บางคนก็เพิ่งมาซ้อมตอนส่งรายชื่อ ทำไมถึงได้ไปแข่ง หลังจากคุยกับผู้บริหารของทางมหาวิทยาลัย อาจารย์อิฐ แล้วก็พี่ต้อม สุดท้ายทั้งสามจึงยื่นข้อเสนอให้ผมขึ้นเป็นโค้ชแทน แล้วเอาโค้ชคนปัจจุบันออก เนื่องด้วยทั้งสามท่านเห็นว่าโค้ชคนปัจจุบันขาดคุณสมบัติความเป็นผู้จัดการทีมและดูแลนักกีฬาด้วยประการทั้งปวง ส่วนความเห็นผมเหรอครับ....ผมเคารพการตัดสินใจของทั้งสามท่านอะครับ แต่ไม่มีความเห็นร่วมด้วย ทำให้ทั้งสามท่านให้ผมนำไปพิจารณาเพื่อความสบายใจของผมเอง

        เย็นวันนั้นหลังจากไปเครียดๆกับเรื่องที่มหาวิทยาลัยเสร็จ ผมก็ตรงดิ่งไปยิมทันทีคนแรกที่ผมอยากเห็นเวลานี้คือว่านครับ พอผมมาถึงยังไม่มีใครมาผมนั่งเฝ้านอว่านด้วยใจระทึก ตั้งใจไว้ว่าจะต้องกอดว่านให้ได้เลย เพราไม่ได้เจอกันตั้งหลายวัน แล้ว....ไม่นานว่านก็มาถึงครับ มาคนเดียวด้วย แบบว่าความรู้สึกผมตอนนั้นมันคงเหมือนพวกพุดเดิ้ลดีใจเวลาเห็นเจ้าของมามั้งครับ ผมอยากจะกระโจนเข้าไปกอดไปหอมน้องให้หายคิดถึง แต่ก็ต้องรักษาท่าทีไว้ก่อน


“พี่เอ ดีครับ” ว่านยกมือไหว้ผมขณะที่กำลังเดินเข้ามาในยิม
“ดีๆ เป็นไงบ้าง”
“ก็ดี”
“เพื่อนๆล่ะ”
“ไม่รู้ซิ” ว่านพูดด้วยน้ำเสียงค่อนข้างห่างเหินยังไงไม่รู้
“....”


        ว่านไม่มาใกล้ผมเหมือนเคยเพราะหลังจากคุยเสร็จว่านก็แยกไปนั่งต่างหาก ผมไม่รู้ว่าเพราะอะไร....แต่ก็อย่างที่คิดไว้ก่อนหน้าน้องอาจจะยังปรับตัวไม่ได้ อีกอย่างน้องคงจะอายกับเรื่องที่เกิดขึ้นอยู่ แต่มันนานแล้วนะ....อืมมม ไม่เป็นไรน่าให้เวลาน้องหน่อย....ผมนั่งมองว่านอยู่ห่างๆแล้วชวนคุยเป็นระยะๆ ในเวลานั้นในใจผมอยากจะกอดหอมว่านแทบบ้า แต่มันก็ทำไม่ได้ เพื่อดับความฟุ้งซ่าน ผมเลยเดินไปเปิดเพลงเพื่อกลบบรรยากาศอันที่ค่อนข้างเงียบงันนี้ด้วยเสียงเพลง ผมต่อลำโพงที่มีสายต่อหูฟังขนาด .35 เข้ากับ PSP หลังจากที่เพลงเล่นไปได้ไม่นาน ว่านก็เดินมาหาผมแต่รักษาระยะห่างไว้ก่อนที่จะถามชื่อเพลงต่างๆที่ผมเปิด สุดท้ายว่านก็ขอยืม PSP ปรกติ...ของแบบนี้ผมไม่ให้ใครยุ่งนะ....แต่กับว่าน....ผมให้น้องไปอย่างง่ายดายวันนั้นว่านค่อนข้างทำตัวห่างเหินผมยังไงไม่รู้ แต่ผมก็ยังเชื่อมั่นว่าน้องกำลังปรับตัวอยู่ดี....ถึงแม้ว่า.....ว่านจะเปลี่ยนจากที่เลือกจะจับคู่กับผม....ไปจับคู่กับก๊อตแทนก็ตาม.....แล้วนั่นก็เป็นวันแรกที่ว่านแสดงความห่างเหินออกมา

        หลังจากวันนั้นว่านก็คุยกับผมบ้าง แต่ไม่สนิทกันเหมือนเคย ไม่เล่นด้วยเหมือนเคย ไม่มาใกล้เหมือนเคย เย็นชาใส่ผมมากขึ้น ทุกอย่างเปลี่ยนไปเหมือนกับว่านเป็นคนละคนกับที่ผมรู้จัก....ผมจำได้ว่าวันหนึ่ง...ผมชวนว่านไปดูหนัง....เมื่อก่อนว่านไปกันกับผมสองคนบ่อยๆ แต่คราวนี้.....


“ว่าน...พรุ่งนี้ไปดู เท่งโหน่งจิวรบินด้วยกันม๊ะ” ผมถามว่านขณะที่นั่งรอปิดยิม
“ไปกับใครบ้าง” ว่านถามผม ตอนนั้นว่านนั่งอยู่ข้างๆ แต่ไม่ชิดกันเหมือนเคย
“หือ...” ผมหันไปมองว่านแล้วทำหน้าแบบสงสัยในคำถามของว่าน
“ไปสองคนมันน่าเบื่อ”
“เหรอ....เอาต้นกล้าไปด้วยม๊ะ” ผมถามว่าน
“ไม่ น่ารำคาญ”
“งั้นเกมแล้วกัน”
“ก็ได้”


        ผมจำได้ว่านั้นเป็นครั้งแรกที่ผมต้องพาคนอื่นไปด้วย อีกอย่างตลอดการดูหนังปรกติจะต้องมีหนึ่งถึงสองครั้งที่ว่านต้องมาสะกิดถามผมเกี่ยวกับรายละเอียดของหนังบางอย่าง แต่คราวนี้....ไม่มี....ทั้งก่อนดู...ระหว่างดูและหลังจากหนังจบก็ด้วย.....จากนั้น...ไม่เคยมีสักครั้งที่ผมจะได้ไปไหนมาไหนกับว่านสองคนอีก....แล้วในอีกสี่ห้าวันต่อมากำหนดการสอบเลื่อนสายครั้งต่อไปก็มาถึง ผมขอเล่าแบบสรุปในช่วงนั้นเลยนะครับ คือ อย่างที่เราทราบกันว่าว่านนั้นค่อนข้างเคารพแล้วก็เชื่อฟังโค้ชมาก แล้วโค้ชเค้าก็เป็นพวกชอบอวดรู้ทั้งๆที่ตัวเองไม่ค่อยจะรู้อะไรเท่าไหร่ แล้วก็ชอบปั้นเรื่องไปเรื่อยเปื่อย ก่อนหน้านี้เหตุการณ์พวกนี้มันไม่เคยคุกคามผม...จนกระทั่ง.....วันหนึ่งขณะที่ผมนั่งดู DVD สอนท่ารำ โค้ชก็เดินมาจากไหนไม่รู้แล้วก็มาติ มาบ่นว่า DVD แผ่นนี้ รำผิด รำไม่ถูก รำไม่ดี รำไม่สวย แล้วโค้ชก็บอกว่าเค้าจะเอาอันที่ถูกมาสอน ซึ่งที่โค้ชพูดวันนั้น...ว่านก็ได้ยินด้วย

        จากนั้นโค้ชเค้าก็เน้นเรื่องผิดถูกมาก แถมยังมาติผมในเรื่องท่ารำอีกว่าผมทำไม่ถูก จนในที่สุดโค้ชก็ให้ผมมาซ้อมใหม่ ผมไม่รู้หรอกนะว่าโค้ชเค้าไปเอามาจากไหน หรือ คิดขึ้นมาเอง แต่กระนั้นผมก็ขอทราบท่ารำแบบที่โค้ชเค้าบอกว่าถูก แล้วก็สวยอย่างที่ว่าสักหน่อย สุดท้าย.....เหมือนว่าโค้ชเองนั่นแหละที่พูดไปเองว่าผิดถูก เพราะที่โค้ชสอนผม วันนี้สอนแบบนี้ อีกวันสอนอีกอย่าง อีกสองวันสอนอีกอย่าง ทั้งๆที่มันก็ท่าเดียวกัน พอถูกผมซัก ก็อ้างเรื่องปรับพื้นฐาน....จริงๆผมอยากจะบ่นตรงนั้นว่า....ปรับพื้นฐาน หรือ โยนไม้ถามทาง เพราะโค้ชเองก็ยังไม่มีแนวทางหรือมาตรฐานที่แน่นอนเลย ที่เห็นตอนนี้ก็เปลี่ยนไปเรื่อยตามใจตัวเองเท่านั้น ประมาณว่าเห็นว่าทำแบบนี้สวยก็เอาแบบนี้มากกว่าจะมีท่าที่คิดไว้แล้วในใจ หลังจากที่ผมเริ่มระหองระแหงกับโค้ชมากขึ้นว่านเองก็เริ่มทำให้ผมหนักใจมากขึ้นไปอีก

        มีอยู่ช่วงหนึ่งผมชวนว่านไปทานอาหารที่ร้านประจำ หลายครั้งว่านปฏิเสธเพราะผมไม่ได้ชวนใครไปด้วย จนวันหนึ่งว่านโทรมาหาผม ตอนเห็นว่าว่านโทรมาผมยอมรับว่าดีใจมากเพราะหลังจากกลับจากจุฬาคราวนั้นว่านโทรหาผมแทบจะนับครั้งเลย พอรับสายว่านก็บอกว่าอยากไปทานอาหารร้านเดิมอีก แต่อยากให้ชวนก๊อตไปด้วย ผมก็เลยตบปากรับคำไป จากนั้นผมก็โทรบอกก๊อต แล้วก็ไปรับว่านที่บ้าน รับว่านเสร็จก็ไปที่ร้านอาหารระหว่างทางว่านไม่ค่อยคุยถามคำตอบคำ พอมาถึงร้านอาหารว่านไม่ยอมเข้าร้านครับ ยืนเก้ๆกังๆอยู่หน้าร้าน ผมเลยถามไปว่า


“ทำไมไม่เข้าไปล่ะ”
ว่านหันมาตอบว่า “รอพี่ก๊อต”
“ก็เข้าไปรอข้างในก็ได้นี่นา”
“ไม่” ว่านตอบกลับมาสั้นๆ
“ทำไมละ” ผมถามว่านด้วยความสงสัย
“ถ้าพี่ก๊อตไม่มาผมก็ไม่กิน”
“.....”


        เป็นผู้อ่านผู้อ่านจะพูดอะไรออกไปไหมครับ....เดี๋ยวนี้เวลาซ้อมจับคู่กับก๊อตตลอด เล่นกับก๊อตคล้ายๆกับที่เล่นกับผม แล้วนี่มาถึงร้านแล้ว....กลับบอกว่าไม่กินถ้าก๊อตไม่มา....นี่ผมถูกว่านเกลียดแล้วใช่ไหม.....หรือช่วงที่ผมไม่อยู่ว่านเกิดสนใจก๊อตแทน..... วันนั้นผมนั่งทานอาหารไม่อร่อยเท่าไหร่ ถึงจะยิ้มๆคุยๆกับก๊อตเหมือนเดิมก็เถอะ ยอมรับว่าวันนั้นผมโกรธว่านพอดูเหมือนกันแต่ไม่ได้พูดหรือแสดงอะไรออกไป

        แล้วจากนั้นเวลาซ้อมโค้ชจะบอกว่าผมทำผิด ทำไม่ถูกอยู่เสมอ แล้วผมก็เพิ่งจะทราบมาว่าว่านมาซ้อมเป็นการส่วนตัวกับโค้ชบ่อยๆ เพราะโค้ชหลุดปากออกมาตอนชมว่าน แล้วเหตุการณ์ก็ยิ่งเลวร้ายหนักขึ้นเมื่อวันหนึ่งโค้ชพูดว่า “ว่านไม่ต้องซ้อมแล้ว รำไปจนถึงท่ารำของสายดำดั้ง 5 เก่งแล้ว ไปสอนน้องดีกว่าไป” แต่กับผมโค้ชกลับติไม่หยุด ทั้งๆที่ตอนนี้มาตรฐานโค้ชเองก็ไม่ได้นิ่งซะเท่าไหร่ แม้แต่ต้นกล้า หรือ น้องคนอื่นๆก็สังเกตได้จากการเปลี่ยนท่าบ่อยๆ ทั้งๆที่มันก็ท่าเดียวกัน แต่เปลี่ยนตำแหน่งมือ ตำแหน่งเท้า จังหวะอยู่เรื่อย แถมว่านยังมาทำตัวห่างเหินมากขึ้นไปอีก แล้วการที่โค้ชให้ผมท่ารำในขั้นของว่าน* แล้วว่านไม่ต้องซ้อม ผู้อ่านคิดว่ามันหมายความว่ายังไง

        เหตุการณ์เลวร้ายยังไม่หยุดแค่นั้นเมื่อวันหนึ่ง....โค้ชกล่าวกับเด็กๆในยิมว่า “ตอนนี้พี่ว่านเก่งที่สุดในยิมแล้วล่ะ รองจากครูนะ พี่ว่านตอนนี้รำสวยกว่าครูป้อมหลายเท่าเลย” ในเวลานี้...คำชมของโค้ชเหมือนจะทำให้ว่านติดปีก....เพราะเวลานี้ว่านเป็นรองก็แค่โค้ชแล้ว มันอาจเป็นสงครามเย็นระหว่างผมกับโค้ชก็ได้ โดยโค้ชเอาว่านที่ใกล้ชิดกับผมมาทำให้ผมรู้สึกแย่ หลังจากที่โค้ชกล่าวไปแบบนั้นผมเลยเลิกที่จะเลิกสอนท่ารำไปเลย เด็กๆในยิมก็ถามผมว่าทำไมถึงไม่สอน ผมก็ไม่ได้บอกเหตุผลอะไรไป แต่ผมก็ยังไมได้บอกพี่ป้อมเรื่องที่โค้ชพูดแบบนั้น จนวันหนึ่งเหมือนว่าพลอยจะสังเกตเห็นว่าผมกับว่านน่าจะมีความสัมพันธ์มากกว่าแค่ที่เห็น พลอยเลยมาเค้นถามผม จนที่สุดผมก็บอกพลอยไปแค่ว่าผมชอบว่าน โดยมีเงื่อนไขตอนบอกว่าพลอยห้ามบอกใครต่อซึ่งพลอยก็สัญญา

        แล้วภายใต้ความเย็นชาที่ว่านมีให้ผม แถมยังมีโค้ชมากวนน้ำให้ขุ่นเข้าไปอีก ผมเลยอดคิดไม่ได้ว่า ส่วนหนึ่งก่อนหน้านี้ว่านอาจนับถือผมเรื่องเทควันโดด้วย แต่วันนี้การที่โค้ชทำแบบนี้มันเลยทำให้ว่านคิดว่าเค้าเหนือกว่าไปแล้ว อีกทั้งการที่ได้ยินข่าวระแคะระคายจากน้องๆหลายคนที่ว่าโค้ชชอบเอาผมมาเทียบกับว่าน หรือ พูดจาเชิงดูถูกผมกับน้องๆเริ่มมีบ่อยขึ้นเรื่อยๆ จนเวลานั้นเหมือนว่าว่านจะเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในความระหองระแหงของผมกับโค้ชซะแล้ว
วันหนึ่งผมบ่นกับพลอยเรื่องที่ว่านพูดจามะนาวไม่มีน้ำ แถมยังทำตัวเย็นชาใส่ผมอีก พลอยก็ปลอบใจว่า “ไอ้ว่านมันก็แบบนั้นแหละพี่ ที่ห้องมันยิ่งกว่านี้อีก” ก่อนที่พลอยจะบอกผมว่า “เอางี้ซิ พี่ก็เฉยใส่มันคืนเลย” เชื่อไหมครับ วันแรกที่ผมทำตามคำแนะนำของพลอย....ไม่ใช่ว่านที่รู้สึก....แต่เป็นผมต่างหากที่รู้สึก....มันเจ็บจนบอกไม่ถูกที่ต้องเพิกเฉยใส่ว่าน เวลาที่ว่านมาคุยด้วย จริงอยู่ถึงมันจะน้อยมากๆที่ช่วงนี้ว่านจะมาคุยด้วย แต่ความน้อยมากๆนี่แหละ ทำไมผมถึงไม่เลือกที่จะเก็บเกี่ยวมันไว้ล่ะ วันที่ 13 กุมภาพันธ์ ผมจำได้ดี วันนั้นผมเข้าไปที่ยิม พอว่านเห็นผม ว่านรีบวิ่งไปหยิบเอกสารเกี่ยวกับมือถือที่ว่านปริ้นมา เอามายื่นให้ผมดู


“พี่เอๆ เนี่ยะข้อมูลของเครื่องที่ผมอยากได้”


        ว่านยื่นเอกสารชุดนั้นให้ผมดูด้วยท่าทีตื่นเต้นมากๆ ตอนนั้น.....ผมแค่เหล่มอง แล้วก็เดินออกโดยไม่พูดอะไรสักคำ ผมแอบมองผ่านกระจก ว่านยืนก้มมองกระดาษก่อนจะเดินเอาไปเก็บที่เดิม ซึ่งสิ่งที่ผมทำตอนนั้นทำเอาบรรยากาศสนุกๆของยิมถึงกับเงียบกริบทันที ยอมรับว่าผมทำไม่ถูก แต่ผมอยากให้ว่านรู้ว่าการถูกเมิน หรือ ไม่ใส่ใจแบบที่ว่านทำอยู่กับผมหน่ะมันทำให้ผมรู้สึกยังไง

        วันที่ 14 กุมภาพันธ์.....วันนั้นจริงๆผมตั้งใจจะซื้อช๊อกโกแลตที่ว่านชอบให้ว่าน....บ่ายวันนั้นผมซื้อช๊อกโกแลตยี่ห้อแพงกล่องโตกล่องหนึ่งแล้วก็ห่อดอกกุหลาบช่อหนึ่งไปด้วย ผมห่อเองเลยนะ.... พอตอนเย็นไปถึงยิม...ผมเห็นว่านกับกลุ่มเพื่อนของเค้าอยู่กันครบ ทันทีที่ว่านเห็นผม ว่านก็รีบเดินปรี่เข้ามาหาด้วยท่าทีดีใจ พร้อมกับดอกกุหลาบสีแดงดอกหนึ่งในมือ.....แล้วตอนนั้นเอง....ผมก็พูดกับพลอยว่า....


“แฮปปี้ วาเลนไทน์นะครับ” ผมยื่นกล่องช๊อกโกแลตให้พลอยพร้อมกับดอกกุบหลาบช่อนั้น แล้วพูดต่อว่า “พี่ห่อเองกับมือเลยนะ”
ว่านยืนนิ่งอยู่ตรงนั้น....ก่อนจะพูดว่า “ขอกล่องนะ”


        แล้วว่านก็เอาดอกกุหลาบมาตีไหล่ผมสองสามที ก่อนจะเดินไปนั่งคนเดียว ซึ่งผมก็ไม่ได้แสดงท่าทีสนใจว่านแม้แต่น้อย ตกเย็นวันนั้น....ผมไปส่งว่านที่บ้าน.....ระหว่างทาง....ผมหยิบช๊อกโกแลตแบบเดียวกับที่ให้พลอย แล้วก็ดอกกุหลายที่ผมห่อเองเหมือนกันออกมาจากกระเป๋าแล้วยื่นให้ว่าน.....ว่านยืนมอง....ก่อนจะพูดว่า....“เอาไปให้พลอยเถอะครับ” แน่นอนครับผมพยายามยื่นให้ว่านรับไว้ แต่ว่านก็ไม่ยอมรับ....สุดท้ายทุกวันนี้มันก็ยังอยู่ในตู้เย็นบ้านผมอยู่เลย

        หลังจากวันนั้นความสัมพันธ์ของผมกับว่านดูเหมือนจะแย่ลงอีก เนื่องจากโค้ชติผมเยอะมาก มากจนเกินไป ผมเลยเริ่มไปสอบถามยิมอื่นเกี่ยวกับท่ารำซึ่งก็ได้รับคำตอบแบบที่เดาได้มาว่า “มันขึ้นอยู่กับคนสอน แล้วก็อาจารย์ที่มาสอบมากกว่า ไม่มีกำหนดตายตัวหรอกว่า อันไหนผิด อันไหนถูก” รวมถึงไล่ดู Clip ต่างๆจาก YouTube รวมถึง DVD สอนท่ารำที่อาจารย์กบเคยให้มาไว้อิง ซึ่งหลายอย่างมันไม่ตรงกับที่โค้ชให้เด็กๆทำ จนผมพูดเหน็บๆไปว่า “ดูดิ ทำเป็น DVD สอนมากลับทำไม่ถูก ทำไมหล้าทำออกมาขายเนี่ยะ” น้องๆที่เค้ารู้ว่าผมหมายถึงอะไรก็หัวเราะกัน ตอนนั้นว่านมาพอดีครับ ว่านเลยพูดขึ้นมาว่า “DVD มันเก่าแล้ว ท่าพวกนี้เค้าเปลี่ยนกันหมดแล้ว อีกอย่าง ใน DVD ทำผิดเยอะจะตาย” เท่านั้นแหละผมถึงกับหงุดหงิดขึ้นมาเล็กน้อยก่อนจะบอกว่านไปว่า “รู้ป่ะ อาจารย์กบ กับ อาจารย์นพ เองก็อิงตาม DVD แผ่นนี้นะ ถ้ามันจะผิดขนาดนั้น ทั้งดั้งสี่ดั้งหกเค้าคงไม่เอามาอิงหรอก” เท่านั้นแหละครับว่านถึงกับสวนผมว่า “แทนที่จะจับผิดคนอื่น ไปจับผิดตัวเองก่อนดีกว่า” ผมเลือกที่จะไม่ต่อล้อต่อเถียงกับว่านต่อ

        เหตุการณ์วันนั้นทำให้ความสัมพันธ์ของผมกับว่านแย่ลงไปอีก ให้เดานะที่ว่านพูดมาหน่ะ พูดตามโค้ช เพราะอย่างที่เกริ่นไปตอนต้น โค้ช เคยพูดถึง DVD แผ่นนี้แบบเดียวกับที่ว่านพูด แต่ว่านคงไม่รู้ว่า อาจารย์กบ กับ อาจารย์นพ ให้อิงซ้อมตาม DVD นี้ จากนั้นผมก็เริ่มจับผิดถึงสิ่งที่โค้ชสอน ว่าวันนั้นบอกอย่าง วันนี้บอกอย่าง ทั้งๆที่มันก็ท่าเดียวกัน ผมรู้นะว่าการทำแบบนี้มันเป็นการลดความน่าเชื่อถือของโค้ชลง แต่โค้ชเริ่มลดความน่าเชื่อถือของผมลองก่อนนะ เพราะงั้นสิ่งที่จะพิสูจน์ได้ว่าที่โค้ชสอนมามันผิดหรือถูกก็คือการสอบที่อาจารย์กบจะมาสอบให้ ซึ่งมันก็อีกไม่กี่วันต่อจากนี้ ซึ่งว่านเองก็คงยังไม่รู้ตัวว่าได้เข้ามาร่วมอยู่ในสงครามเย็นระหว่างผมกับโค้ชซะแล้ว


To Be Con



ชี้แจงนิ๊ดหนึ่งนะครับ
เนื่องจาก โค้ช พี่ป้อม แล้วก็ผม จัดอยู่ในกลุ่มผู้สอน แต่โค้ชกลับลดระดับความน่าเชื่อถือของผมกับพี่ป้อมลง แล้วยกว่านขึ้นมาแทน
เพราะโค้ชอิงว่าว่านถูก แต่ผมกับพี่ป้อมผิด ดังนั้นคนที่ทำผิดก็ไม่ควรสอน มันเป็นตรรกะง่ายๆเลยจริงไหมครับ ?
อันที่จริงถ้าเป็นแบบนั้น ผมกับพี่ป้อม ก็ไม่มีเหตุผลจะอยู่ยิมนั้นต่อเลยนะ
แล้วความเน้นหนักของโค้ชต่อเรื่องถูกผิดที่เข้มข้นนี้จะเป็นอย่างไรต่อไปนั้น....ช่วงต่อไปได้รู้กัน



* เทควันโดจะมีท่ารำประจำสายอยู่ครับ ตัวอย่างครับ ( เรียงจากขั้นต่ำสุดไปสูงสุดนะครับ )
สายเหลือง 1 จะเป็น ท่ารำ อิวจัง
สายเหลือง 2 จะเป็น อีจัง
สายเขียว 1 จะเป็น ซัมจัง
สายเขียว 2 จะเป็น ซาจัง
สายฟ้า 1 จะเป็น โอจัง
สายฟ้า 2 จะเป็น ยุจัง
สายน้ำตาล 1 จะเป็น ชิวจัง
สายน้ำตาล 2 จะเป็น พันจัง
สายแดง 1 จะเป็น คูจัง
สายแดง 2 จะเป็น ซิบจัง
สายดำดั้งที่ 1 จะเป็นท่ารำ โคเรียว
เป็นต้น ในเรื่องนี้ว่านอยู่สายแดงขั้นที่ 1 ครับ

ซึ่งท่ารำของเทควันโดจะเป็นแบบเดียวกันครับ ผิดถูกมันไม่ใช่เรื่อง มันต่างกันที่จังหวะเพราะ ท่าจะเป็นท่าเดียวกันทั้งหมด ถ้าจะเรียกว่าผิดได้ ก็คือต้องทำท่าผิดไปเลย
ตัวอย่างครับ

อันนี้เป็นท่ารำในสายน้ำตาล 2 หรือ พันจัง  ( Pal-Jang Poomse ) ครับ จาก K-Tiger ( Korea Tiger )
http://www.youtube.com/v/BUvZtU90s2U?fs


อันนี้เป็นท่ารำในสายน้ำตาล 2 หรือ พันจัง  ( Pal-Jang Poomse ) ครับ จาก DVD สอนท่ารำของ Kukkiwon ( สมาคมเทควันโดโลก )
http://www.youtube.com/v/OSeadr-8D08?fs

ซึ่งถ้าผู้อ่านดูท่ารำของทั้งสองคนแล้ว จะทราบว่ามันก็ท่าเดียวกัน จะต่างกันก็แค่จังหวะ ความเร็วของท่า ตำแหน่งของมือและเท้า เพียงเล็กน้อย
จนบางทีคนที่ไม่เคยเล่น หรือ คนที่ระดับสายยังไม่สูงพออาจสังเกตไม่ไ่ด้ด้วยซ้ำ
แต่เชื่อไหมครับ นั่นเหละที่โค้ชเอามาเป็นประเด็นว่าถูกผิด
ซึ่งถ้าอิงตาม โค้ช สายดำสองคนใน Clip ข้างบน กลับไปสอบสายขาวมาใหม่เลยดีกว่า
ทีนี้ผู้อ่านน่าจะเข้าใจผมได้มากขึ้นแล้ว ว่าทำไมผมถึงหงุดหงิดกับสิ่งที่โค้ชเน้นว่า ถูก กับ ผิด กับเรื่องของท่ารำ
เพราะมันไม่มีถูกผิด ถ้ามันไม่ผิดท่าไปเลย แต่โค้ชก็เอามาเป็นประเด็นจนเกิดปัญหาขึ้นจนได้
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 02-06-2011 02:40:34 โดย me_alone »

ออฟไลน์ reneisance

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 440
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-0
อืม ความร้ายกาจก้ปรากฎ คนแบบนี้ผ่านมาแล้วก็ให้มันผ่านไปเถอะ เอ คิดไปคิดมา คือคนอย่างว่านได้รับการใส่ข้อมูลมีผิดมาตั้งแต่แรก ก็คงต้องปล่อยให้เขาได้เห็นได้รุ้อย่างชัดแจ้งโดยตัวของตัวเอง อย่าไปทามอะไรมากกว่านี้เพราะว่า เอ ไม่มีค่าในสายตาของว่าน ว่านคงอยากลองในหลายๆๆ สิ่งเพราะว่าเป้นวัยที่อยากลองอยากเรียนรู้ ที่จริงพี่กลับคิดได้อย่างหนึ่งว่า บางครั้งความจริงใจอย่างเต็มที่ก็มันจะย้อนกลับมาทำร้ายเรา เราควรให้ความจริงใจไปโดยที่เราไม่เสียใจ

ซึ่งสงครามเย็นของ เอ กับ โค้ช นะ พี่ว่าก็ควรที่จะให้มันเหมือน เกลือ จิ้มเกลือเอต้องเข้มแข็งคิดไว้นะ ทองแท้ ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน อยู่อย่างไร หรือ มีอะไรมาปิดทับไว้ ยังไงมันก็เป้นทองแท้ จำไว้นะเอ  ซึ่ง ให้เดานะ ความสัมพันธ์ก็ยิ่งเลวร้ายไปเรื่อยๆๆ เพราะว่า ว่านเองก็คงเข้าข้างโค้ชแบบไม่ลืมหูลืมตา ซึ่งหารู้ไม่ว่า จริงแล้วคำชื่นชมที่ว่านได้รับมันก็เป้นเพียงแค่ทองฉาบผิวเท่านั้น

ซึ่งพี่ว่าโค้ชเองก็คงรู้เรื่อง การเปลี่ยนตำแหน่งโค้ชมาบ้าง  ไม่งั้นคงไม่มี ปฏิกิริยา ต่อ เอแบบนี้

แต่ก็นะ เอ สงครามที่แท้จริงต่อจากนี้ ไม่ใช่การใช้กำลังมาต่อสู้กันแล้ว แต่เป้นการต่อสู้ในเรื่องของข้อมูลและ ความจริง มากกว่าคอยดู วัวสันหลังหวะ ยังไงมันก็คือวันสันหลังหวะไปยังค่ำ

ให้แนะนำนะ ถ้าวันใดที่ว่านล้ม เอค่อยกลับไปพยุงดีกว่า เป้นพี่เป้นน้องกันดีกว่ารู้นะว่าเป้นเด็กมีปมด้อย แต่ถ้าเป็นเด็กที่ดี ปฏิกิริยาของคนรอบข้าง ก้ต้องดีตอบกลับไปเช่นกัน แต่ว่านไม่ใช่ กลับหลงระเริง อยุ๋กับ ความจริงจอมปลอมจนไม่ได้มองว่าอันไหนจริงอันไหนเท็จ

เข้าใจเรยนะที่ ว่านเปลี่ยนไป หลังจากที่มี ความสัมพันธ์แบบนั้นกับเอ  มันเป้นเหมือนการทำลาย ความเกรงใจที่ว่านมีต่อ เอ

รอดุเวลาที่ ทุกคนรู็เรื่องของโค้ช ซะที เอ ถ้าเป้นเรื่องของกีฬาบางครั้ง การเปลี่ยนแปลงบางอย่างมันก็นำไปสู่การพัฒนาที่ดียิ่งกว่าการนิ่งเฉยที่จะมีแต่การเสื่อมลงไปทุกที

 

kokoky

  • บุคคลทั่วไป
คุณเอสู้ๆนะคะ
เรื่องราวมันช่างน่าอึดอัดจริงๆ
เดี๋ยวอะไรๆมันน่าจะดีขึ้น

เกลียดอีตาโค้ชสุดๆ
อะไรมากมายเนี๊ย
เห็นแก่ตัวที่สุด อวดฉลาด ไม่รู้จริงแล้วดถกคนอื่น :angry2:

สักวันจะเข้าตัว

คุณเอทนได้ไงเนี๊ย เก่งจริงๆ
เป็นตัวเองล่ะคงได้ซัดกันแล้ว
ค่าปรับห้าร้อย ขอจัดหนักๆเลย

ขอให้ทุกอย่างพ้นผ่านไปด้วยดีนะคะ :L2:



edit นิดหน่อนค่ะ

น้องว่านถูกอีตาโค้ชใช้เป็นหมาก + แม่ทัพในสงครามประสาทอ่ะ
เฮ้อออออออ เหนื่อยใจแทนเลยค่ะ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 02-06-2011 19:52:29 โดย kokoky »

ออฟไลน์ donutnoi

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2187
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-7
เป็นกำลังใจให้คุณเอ  :L2:  โค้ชนิสัยอย่างนี้ ก็ควรต้องตอบโต้บ้าง  :beat:

ส่วนว่าน :เฮ้อ: รอตอนต่อไปนะ  :3123:

bbyuqin

  • บุคคลทั่วไป
แล้วตกลงโค้ชได้ถูกปลดรึปล่าวคะ  ที่ผ่านมาก็สุดๆแล้วมาเจอตอนแข่งอีก...โอย...ไม่รู้จะอธิบายยังไง

ส่วนว่าน ตอนนี้เหมือนน้องกำลังหลงในสิ่งที่โค้ชพูด ถึงความเก่งกาจของตัวเอง แต่เชื่อว่าถ้าเค้าพลาดขึ้นมาอาจจะเป็นหนักกว่าตอนที่เข้าคู่ซ้อมแล้วแพ้ครั้งนั้นอีก....รออ่านต่อจ้ะ  :กอด1:


ออฟไลน์ HydrA

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2684
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +159/-2
พี่เอทำไมพี่ไม่ปรึกษาพี่ป้อม
จะเก็บเงียบไว้ทำไม
รู้เร็วอาจจะช่วยกันแก้ทัน
แล้วที่บอกว่าเป็นเหตุผลทางธุรกิจน่ะพี่เอทิ้งไม่ได้แล้วมันคุ้ม
แล้วเหรอพี่ที่พี่ต้องมาเสีย
สุขภาพจิตน่ะ
ส่วนว่านพี่เอวางมือเหอะ
บอกตรงๆก้าวร้าวมาก
ให้เค้าเจอและเรียนรู้โค้ชที่รัก
ยิ่งของเค้าไปเถอะ
พี่เอน่ะหนักแน่นหน่อยอย่าเอาความเหงามาตัดสินที่จะรักใคร
แยกให้ออกว่ารักหรือหลงหรือ
ว่าต้องการใครสักคนเพื่อไม่ให้เหงา
ไม่ต้องรีบร้อนค่อยๆค้นหาไป
ช้าๆได้เจอรักแท้นะพี่นะ
ปล.พี่เอมาลงต่อเถอะนะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






pobbmit

  • บุคคลทั่วไป
หรือว่า ระหว่างพี่เอ ไม่ยุ โค้ชมาแอบกินว่านไปซะแล้ว

หรือว่าก่อนที่พี่เอ จะจัดการว่าน ว่านเสร็จโค้ชไปแล้ว

ไม่งัน้ทำไมว่านถึงเชื่อโค้ชมากขึ้นๆ แต่เชื่อพี่เอ  ไม่สิ ไม่เชื่อเลยขนาดนี้

ออฟไลน์ me_alone

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 356
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +115/-1
อืม ความร้ายกาจก้ปรากฎ คนแบบนี้ผ่านมาแล้วก็ให้มันผ่านไปเถอะ เอ คิดไปคิดมา คือคนอย่างว่านได้รับการใส่ข้อมูลมีผิดมาตั้งแต่แรก ก็คงต้องปล่อยให้เขาได้เห็นได้รุ้อย่างชัดแจ้งโดยตัวของตัวเอง อย่าไปทามอะไรมากกว่านี้เพราะว่า เอ ไม่มีค่าในสายตาของว่าน ว่านคงอยากลองในหลายๆๆ สิ่งเพราะว่าเป้นวัยที่อยากลองอยากเรียนรู้ ที่จริงพี่กลับคิดได้อย่างหนึ่งว่า บางครั้งความจริงใจอย่างเต็มที่ก็มันจะย้อนกลับมาทำร้ายเรา เราควรให้ความจริงใจไปโดยที่เราไม่เสียใจ
ซึ่งสงครามเย็นของ เอ กับ โค้ช นะ พี่ว่าก็ควรที่จะให้มันเหมือน เกลือ จิ้มเกลือเอต้องเข้มแข็งคิดไว้นะ ทองแท้ ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน อยู่อย่างไร หรือ มีอะไรมาปิดทับไว้ ยังไงมันก็เป้นทองแท้ จำไว้นะเอ  ซึ่ง ให้เดานะ ความสัมพันธ์ก็ยิ่งเลวร้ายไปเรื่อยๆๆ เพราะว่า ว่านเองก็คงเข้าข้างโค้ชแบบไม่ลืมหูลืมตา ซึ่งหารู้ไม่ว่า จริงแล้วคำชื่นชมที่ว่านได้รับมันก็เป้นเพียงแค่ทองฉาบผิวเท่านั้น
ซึ่งพี่ว่าโค้ชเองก็คงรู้เรื่อง การเปลี่ยนตำแหน่งโค้ชมาบ้าง  ไม่งั้นคงไม่มี ปฏิกิริยา ต่อ เอแบบนี้
แต่ก็นะ เอ สงครามที่แท้จริงต่อจากนี้ ไม่ใช่การใช้กำลังมาต่อสู้กันแล้ว แต่เป้นการต่อสู้ในเรื่องของข้อมูลและ ความจริง มากกว่าคอยดู วัวสันหลังหวะ ยังไงมันก็คือวันสันหลังหวะไปยังค่ำ
ให้แนะนำนะ ถ้าวันใดที่ว่านล้ม เอค่อยกลับไปพยุงดีกว่า เป้นพี่เป้นน้องกันดีกว่ารู้นะว่าเป้นเด็กมีปมด้อย แต่ถ้าเป็นเด็กที่ดี ปฏิกิริยาของคนรอบข้าง ก้ต้องดีตอบกลับไปเช่นกัน แต่ว่านไม่ใช่ กลับหลงระเริง อยุ๋กับ ความจริงจอมปลอมจนไม่ได้มองว่าอันไหนจริงอันไหนเท็จ
เข้าใจเรยนะที่ ว่านเปลี่ยนไป หลังจากที่มี ความสัมพันธ์แบบนั้นกับเอ  มันเป้นเหมือนการทำลาย ความเกรงใจที่ว่านมีต่อ เอ
รอดุเวลาที่ ทุกคนรู็เรื่องของโค้ช ซะที เอ ถ้าเป้นเรื่องของกีฬาบางครั้ง การเปลี่ยนแปลงบางอย่างมันก็นำไปสู่การพัฒนาที่ดียิ่งกว่าการนิ่งเฉยที่จะมีแต่การเสื่อมลงไปทุกที 
:กอด1: ~ เดาเหตุการณ์ได้แม่นยำมากมายเลยอะครับ
 :เฮ้อ: ~ ส่วนเรื่องการเปลี่ยน ถ้าเปลี่ยนแล้วดีผมเข้าใจนะ แต่เปลี่ยนแล้วยิ่งแย่ + ไม่มีอะไรดีนี่ซิที่ผมรับไม่ได้ แถมทักอะไรไปก็ไม่ยอมฟังอีก



คุณเอสู้ๆนะคะ เรื่องราวมันช่างน่าอึดอัดจริงๆ เดี๋ยวอะไรๆมันน่าจะดีขึ้น
เกลียดอีตาโค้ชสุดๆ อะไรมากมายเนี๊ย เห็นแก่ตัวที่สุด อวดฉลาด ไม่รู้จริงแล้วดถกคนอื่น :angry2:
สักวันจะเข้าตัว
คุณเอทนได้ไงเนี๊ย เก่งจริงๆ เป็นตัวเองล่ะคงได้ซัดกันแล้ว ค่าปรับห้าร้อย ขอจัดหนักๆเลย
ขอให้ทุกอย่างพ้นผ่านไปด้วยดีนะคะ :L2:
edit นิดหน่อนค่ะ
น้องว่านถูกอีตาโค้ชใช้เป็นหมาก + แม่ทัพในสงครามประสาทอ่ะ
เฮ้อออออออ เหนื่อยใจแทนเลยค่ะ
:กอด1: ~ ขอบคุณครับ



เป็นกำลังใจให้คุณเอ  :L2:  โค้ชนิสัยอย่างนี้ ก็ควรต้องตอบโต้บ้าง  :beat:
ส่วนว่าน :เฮ้อ: รอตอนต่อไปนะ  :3123:
:กอด1: ~ ขอบคุณครับ


แล้วตกลงโค้ชได้ถูกปลดรึปล่าวคะ  ที่ผ่านมาก็สุดๆแล้วมาเจอตอนแข่งอีก...โอย...ไม่รู้จะอธิบายยังไง
ส่วนว่าน ตอนนี้เหมือนน้องกำลังหลงในสิ่งที่โค้ชพูด ถึงความเก่งกาจของตัวเอง แต่เชื่อว่าถ้าเค้าพลาดขึ้นมาอาจจะเป็นหนักกว่าตอนที่เข้าคู่ซ้อมแล้วแพ้ครั้งนั้นอีก....รออ่านต่อจ้ะ  :กอด1:
:กอด1: ~ โค้ชเค้ามีศิลปะในการพูดครับ ถ้าใครไม่รู้จักกันนี่ความน่าเชื่อถือโค้ชเค้าจะกระฉูดเลยทีเดียว



พี่เอทำไมพี่ไม่ปรึกษาพี่ป้อม
จะเก็บเงียบไว้ทำไม
รู้เร็วอาจจะช่วยกันแก้ทัน
แล้วที่บอกว่าเป็นเหตุผลทางธุรกิจน่ะพี่เอทิ้งไม่ได้แล้วมันคุ้ม
แล้วเหรอพี่ที่พี่ต้องมาเสีย
สุขภาพจิตน่ะ
ส่วนว่านพี่เอวางมือเหอะ
บอกตรงๆก้าวร้าวมาก
ให้เค้าเจอและเรียนรู้โค้ชที่รัก
ยิ่งของเค้าไปเถอะ
พี่เอน่ะหนักแน่นหน่อยอย่าเอาความเหงามาตัดสินที่จะรักใคร
แยกให้ออกว่ารักหรือหลงหรือ
ว่าต้องการใครสักคนเพื่อไม่ให้เหงา
ไม่ต้องรีบร้อนค่อยๆค้นหาไป
ช้าๆได้เจอรักแท้นะพี่นะ
ปล.พี่เอมาลงต่อเถอะนะ
:กอด1: ~ เรื่องว่าน....พูดยากอะครับ....น้องเค้าทำเหมือนจบ แต่ก็ไม่จบให้ผมอาลัยอาวรอยู่เรื่อยๆ




หรือว่า ระหว่างพี่เอ ไม่ยุ โค้ชมาแอบกินว่านไปซะแล้ว
หรือว่าก่อนที่พี่เอ จะจัดการว่าน ว่านเสร็จโค้ชไปแล้ว
ไม่งัน้ทำไมว่านถึงเชื่อโค้ชมากขึ้นๆ แต่เชื่อพี่เอ  ไม่สิ ไม่เชื่อเลยขนาดนี้
:กอด1: ~ พูดเหมือนพลอยเลยครับ มีคนสงสัยเหมือนกัน เพราะจะว่าไป....ก็มีโค้ชคนเดียวนะที่ล้อว่านว่าเป็นเกย์บ้าง ชอบผู้ชายบ้าง เสียดายไม่ได้เขียนลงไปด้วย รอตอนรีแล้วกัน เดี๋ยวติ๊กไว้กันลืม

ออฟไลน์ me_alone

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 356
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +115/-1
ช่วงที่ 25



        หลังจากที่โค้ชเข้มงวดเรื่องผิดถูกมาพักหนึ่ง พี่ป้อมเองก็ไม่มีความเห็นเรื่องนี้ แถมช่วงนี้พี่ป้อมก็มาๆหายๆด้วยเพราะพี่ป้อมกำลังจะลาออกจากงานประจำแล้วมาทำเทควันโดเต็มตัว พี่เค้าเลยขอเวลาไปเคลียร์งานที่ค้างๆอยู่ก่อน ส่วนผมตอนนี้ก็กำลังพิจารณาเรื่องความสัมพันธ์ของผมกับว่าน แล้วก็กำลังเซ็งไอ้เรื่องคำว่า “ถูก ผิด” ของโค้ชมากๆ ผมไม่รู้ว่านิยามของ “ผิด ถูก” ของโค้ชเนี่ยะมันหมายถึงอะไรกันแน่ ครั้งหนึ่งผมเคยลองทำตามว่านดู ตำแหน่งมือเดียวกัน ขาเดียวกัน ช่วงการเปลี่ยนท่า ความหนักของการเตะต่อย ความแข็งแรง ซึ่งผมก็ให้ต้อนกล้า ก๊อต พลอย แล้วก็น้องสายขั้นสูงในยิมหลายคนนั่งดู น้องส่วนมากก็ลงความเห็นว่าเนี่ยะใกล้เคียงที่สุดแล้ว แล้วเชื่อไหมครับ....โค้ชบอกว่าผมทำผิดอยู่ ตำแหน่งขาแบบนี้โค้ชบอกว่าผิด ตำแหน่งมือผิด การวางเท้าผิด จังหวะก็ผิด สรุปผิดเกือบหมด

        เคยได้ยินคำว่าสองมาตรฐานไหมครับ....เท่านั้นแหละ ผมไม่ต้องอธิบาย หรือ พูดจาโน้มน้าวน้องๆ ความน่าเชื่อถือในตัวโค้ชก็ร่วงลงมาทันที เวลานี้ไม่จำเป็นต้องพูดอะไรมากมาย ทุกคนก็เข้าใจเป็นแนวทางเดียวกันว่า....มาตรฐานของโค้ชเวลานี้คือว่าน.....อะไรที่ว่านทำ โค้ช จะบอกมันถูก แล้วก็ดูดี เว้นว่าบางท่ายังไม่เข้าตามที่โค้ชอยากได้ โค้ชก็จะเข้ามาบอก โดยไม่พูดถึงถูกผิดแบบที่ทำกับผม หรือ คนอื่น วันหนึ่งเคยมีน้องมาถามโค้ชว่า.....


“ครูครับ ทำไมพี่ว่านไม่ต้องซ้อมของตัวเองล่ะ”
โค้ชหันมายิ้มด้วยก็พูดแบบภูมิใจนำเสนอสุดๆว่า “พี่ว่านเค้าไม่ต้องซ้อมมากหรอก บอกนิ๊ดเดียวเค้าก็ทำตามได้แล้ว”


        เวลานั้นโค้ชคงยังไม่รู้....ว่า เกม ริว ฟิว ส้ม พลอย ต้นกล้า รวมถึงน้องคนอื่นๆกำลังรอดูกันอย่างใจจดใจจ่อว่าสิ่งที่โค้ชสอนว่านนั้น ถูก หรือ ผิด เพราะเวลานี้หลายคนเริ่มเสื่อมศรัทธาในตัวโค้ชไปแล้ว อีกอย่างน้องต้นกล้าเองก็เจอกับตัว ก่อนสอบสายหนึ่งวัน ต้นกล้าไปซ้อมท่ารำกับว่าน แล้วต้นกล้าก็มาถามผมซ้ำ มีหลายจุดทีเดียวที่มันไม่ใช่ ไม่ใช่ว่าไม่ถูกนะครับ แต่ตำแหน่งของเท้า แล้วก็มือมันยังไม่เหมาะ....ผมเลยบอกน้องต้นกล้าไป....แล้วน้องต้นกล้าก็ไปซ้อมเอง....ที่นี้มันก็เกิดปัญหาขึ้นครับ


“เฮ่ย!! ใครสอนให้วางเท้าแบบนี้” โค้ชพูดขึ้นเสียงดังลั่นยิมทำเอาต้นกล้าหนาซีดเลยทีเดียว
“พี่เอสอน” ต้นกล้าพูดเสียงสั่นๆพลางชี้มาที่ผม
“เอ ทำไมไปสอนให้น้องวางเท้าแบบนี้ มันไม่ถูก” โค้ชหันมาพูดกับผม ตอนนั้นผมยืนดูน้องพลอยซ้อมอยู่
“ยังไงพี่” ผมพูดพลางเดินไปหาโค้ช
“นี่ๆๆ” แล้วโค้ชก็ชี้....ปัญหาตอนนี้คือการก้าวของต้นกล้า กับตำแหน่งวางเท้าครับ
ผมทำหน้าเซ็งๆแล้วก็พูดว่า “แล้วพี่จะให้น้องมันก้าวแบบไหน”
“ว่าน มาทำให้ดูซิ” โค้ชเรียกว่านที่ยืนอยู่ใกล้ๆมาทำท่าให้ดู
พอว่านทำเสร็จโค้ชก็พูดต่อว่า “ นี่ไงก้าวแบบนี้ วางเท้าแบบนี้พอดีเลย สวยด้วย”
ผมก็บอกต้นกล้าว่า “ต้นกล้า ทำแบบพี่ว่านดิ๊”
พอต้นกล้าทำแบบว่านเสร็จผมก็หันมาถามโค้ชว่า “ท่ายืน forward stand มันยืนแบบนี้เหรอพี่”
ผมพูดจบโค้ชก็มองๆ ก่อนที่ผมจะพูดต่อว่า “เท้าห่างกี่ฝ่าเท้า ต้องย่อขากี่องศา ถ้าก้าวแบบว่านต้นกล้ามันจะมายืนแบบนี้เลยได้ไหม”


        เท่านั้นแหละครับว่านที่ยืนเป็นแบบอยู่ก็ถูกกระทบทันที เพราะท่าที่ว่านยืนอยู่ถ้าอิงตามผิดถูกที่โค้ชเน้นๆมา มันไม่ถูกด้วยประการทั้งปวง แต่เนื่องจากจนทางด้วยหลักฐานโค้ชก็พูดขึ้นมาเบาๆว่า “เออ จริงด้วย” แต่กระนั่นโค้ชก็ยังไม่พูดถึงท่ายืนของว่านอยู่ดี ความสองมาตรฐานนี้ก็เริ่มชัดเจนแก่สายตาของน้องๆมากขึ้นส่วนเรื่องของว่าน ถูก ผิด สวย ไม่สวย ก็ต้องรอดูตอนวันสอบสายครับว่าที่โค้ชพร่ำชมว่านมากมายประหนึ่งทีมชาตินั้น....มันจริงไหม....


เชิงอรรถ

จากในภาพ เรามองดูภาพตรงกลางนะครับ
ท่าที่ถูกของการวางเท้าในท่า forward stand คือเท้าทั้งสองต้องห่างกันประมาณ 1 เท้า ( เทียบความห่างด้วยเส้นสีเทา )
ซึ่งโค้ชเค้าก็อิงแบบนี้กับทุกคน
แล้วเราลองมาดูที่ว่านยืนนะครับทางซ้ายมือของเรา จะเห็นว่าว่านยืนแคบกว่าที่โค้ชกำหนด แต่ไหงว่านไม่ถูกติ แต่ต้นกล้ากลับถูกติ
แล้วก็จากจุดนี้นี่เองที่ทำให้ต้นกล้าเลิกเชื่อถือโค้ชไปในที่สุด



        แล้วในที่สุดวันที่ทุกคนรอคอยก็มาถึง......วันนั้นอากาศค่อนข้างเย็นมีเมฆมากตั้งแต่บ่าย กำหนดการสอบสายคือเวลาห้าโมงเย็นของวันนั้น น้องๆต่างแยกซ้อมของตัวเองอย่างเอาเป็นเอาตายในช่วงโค้งสุดท้ายก่อนการสอบสาย โดยที่ว่านเองก็ไม่ได้นิ่งดูดายกับคำชมของโค้ช น้องยังคงซ้อมของตัวเอง....แถมดูจะเอาเป็นเอาตายกว่าคนอื่นซะอีก.....คนแล้วคนเล่าผ่านไป มีทั้งรอยยิ้มแล้วก็คราบน้ำตาที่เกิดจากความเครียดระหว่างการสอบ จากนั้น....ช่วงเวลาที่ทุกคนรอคอยก็มาถึง....เมื่อถึงคิวของว่าน....ท่าเตะ ท่ารุกรับว่านผ่านฉลุยอย่างที่คาดการณ์ไว้....ก่อนจะเริ่มสอบท่ารำเป็นอย่างสุดท้าย.....น้องๆในยิมนิ่งเงียบ ไม่มีกระทั้งเสียงกระซิบกระซาบใดๆเล็ดลอดออกมาให้ได้ยินเลย ทุกสายตาจับจ้องไปที่ว่านอย่างไม่วางตา จนกระทั่งว่านรำเสร็จ....ทุกเหมือนจะพร้อมใจกันเงียบ แล้วทุกคนก็กันตั้งใจฟังความเห็นของอาจารย์กบแบบไม่ได้นัดหมาย


“ไปฝึกมาใหม่นะ” อาจารย์กบพูดด้วยน้ำเสียงเรียบๆ ก่อนจะลุกขึ้น แล้วเดินมาหาว่าน แล้วให้ว่านรำให้ดูช้าๆเป็นจังหวะๆ
“ท่าต่อยใครสอนให้ต่อยแบบนี้ ท่าเตะด้วย มือใครบอกให้วางตรงนี้...ปัดสูงกว่านี้...ไกลอีก ใครบอกให้หุบมือแบบนี้....แข็งแรงจริง แต่มันไม่เป็นธรรมชาติ นึกเอาไว้ซิเวลาเอาไปใช้จริง เค้าต่อยมาเราบัดแบบนี้มันใช้ได้ไหม แล้วต่อยส่งหมัดไปแค่นี้มันจะไปมีแรงอะไร.....ฯลฯ” วันนี้ทุกท่าที่ว่านทำถูกติเกือบหมด แล้วก็เปลี่ยนตำแหน่งมือกับเท้าใหม่เกือบหมด รวมถึงจังหวะด้วย.....


        หลังจบการสอบว่านไม่พูดไม่จาอะไร....อ่อ....ตลอดช่วงที่กลับจากจุฬาผมยังไปส่งว่านที่บ้านทุกวันนะ แล้วก็นั่งทานก๋วยเตี๋ยวด้วยกันเหมือนเคยตลอด ถึงจะมีก๊อตเพิ่มมาอีกคนก็เหอะ อืมม...แล้วว่านก็เลิกคีบหมูให้ผมแล้วด้วย...คีบไปให้ก๊อตแทน...แถมยังนั่งตรงข้ามกับผมตลอดอีก วันนั้นก็ด้วยพอสอบเสร็จว่านไม่พูดอะไรเลย  ผมเลยนั่งคุยกับก๊อตสองคน

        หลังจากนั้นดูเหมือนว่าโค้ชจะไม่ลดละกับคำว่า “ผิดถูก” จากท่ารำโค้ชก็ลามมาถึงท่าเตะ แล้วก็พูดถึงการเตะขาหน้าที่ผมชอบเตะมีการแขวะเล็กน้อยด้วยว่า “มันไม่ใช่ท่าเตะที่ถูก” แล้วก็วิจารณ์ข้อเสียออกมาเป็นฉากๆ ฟังดูน่าเชื่อถือมากๆเลยครับ จำได้ว่าวันนั้นหลังโค้ชวิจารณ์ท่าเตะต่างๆเสร็จ เค้าก็ให้จับคู่เตะกันแล้วก็เปลี่ยนคู่ไปเรื่อยๆ.....จนมาถึงผมกับว่าน..... ตอนนั้นดูโค้ชจะอยากให้น้องๆดูการเตะของผมกับว่านมากๆ ถึงกับให้น้องแยกไปนั่งข้างๆเบาะ แล้วให้ผมกับว่านทำเหมือนเวลาไปแข่ง แถมยังกำชับว่า “ระหว่างนี้ห้ามสอน” แล้ววันนั้น....ผมก็ทำให้โค้ชเห็นว่า.....ไอ้ท่าเตะที่โค้ชบอกว่ามันไม่ดีอย่างนั้นอย่างนี้.....มันทำให้ว่านไม่กล้าบุก.....แล้วก็เป็นอีกครั้งที่ผมทำให้น้องๆเห็นกับตา....ว่าการวิเคราะห์ของโค้ชมันเงาะแค่ไหน จากที่ว่านถูกผมใช้ขาหน้าเตะกลิ้งไปหลายรอบ จนก่อนหมดเวลา ว่านถึงกับน้ำตาไหลออกมาเลย แถมพอเตะเสร็จโค้ชก็มาทับถมว่านว่า “คิดทางแก้เองไม่เป็นหรือไง หรือ ต้องให้บอกทุกอย่าง”

        จะว่าไปหลังจากสอบเลื่อนสายความห่างเหินของผมกับว่านก็ไม่ได้มากขึ้น แล้วก็ไม่ได้ลดลงเท่าไหร่ นอกจากเรื่องเทควันโดแล้ว ก็ยังคุยกับว่านได้บ้าง หลังจากช่วงสอบสายได้ไม่นานผมก็ไปเจอคำถาม คำถามหนึ่งของคุณหมอเจ ที่ว่า “ไข่ต้ม กับ ไข่สุก อันไหนหนักกว่ากัน” ซึ่งผมก็เอามาถามเพื่อนๆว่านต่อ ดูเหมือนว่านเองก็สนใจไม่น้อยจนเอาไปถามเพื่อนๆที่ห้องเรียนด้วย จนตอนเย็นของอีกวัน ว่านก็รีบเอามาตอบผม เกม ริว ฟิว ก็มาแจมด้วย ระหว่างนั้นโค้ชก็มาได้ยินครับ แล้วโค้ชก็แสดงพลังความรู้ของแกว่า


“ไข่ต้มมันต้องหนักกว่าซิ” โค้ชตอบด้วยน้ำเสียงภาคภูมิใจที่สุด
“เพราะอะไรล่ะครับ” เกมถามโค้ช
“อ่าว....ของแข็งมันต้องหนักกว่าของเหลวซิ ใช่ไหมล่ะ มีของเหลวที่ไหนหนักกว่าของแข็งบ้าง” ค่อยกล่าวพร้อมทำหน้าตาประมาณว่า กูฉลาดใช่ไหมล่ะ

        ได้ยินแบบนั้นผมเลยเดินออก.....กลุ่มเพื่อนว่านด้วย.....ก่อนที่ผมจะบ่นๆว่า

“ถ้าเราเอาน้ำเปล่าหนัก 1 ขีด ไปแช่ พอมันแข็งแล้วเราเอากลับมาชั่งมันก็หนักกว่าน้ำตอนยังไม่แข็งหน่ะซิ”
“จริงด้วย” เกมพูด
“ที่ถามหน่ะ ให้ถามเพื่อเอาไปทดลองแล้วหาคำตอบ ไม่ใช่เอาความรู้สึกตอบ”
“นั่นซิ” ฟิวพูดขึ้น


        แต่ถึงผมจะระหองระแหงกับโค้ช แล้วว่านก็มาเป็นส่วนหนึ่งด้วยก็ตาม ผมก็ยังคงห่วงว่านอยู่เนืองๆนั่นแหละ ไม่รู้ซิครับ ถึงว่านจะพูดจาอะไรไม่ดีมาหลายครั้ง แต่ผมก็มักจะบอกกับตัวเองอยู่เสมอๆว่า.... “ว่านยังเด็ก แล้ว ว่านก็มีนิสัยแบบนี้อยู่แล้ว” อีกอย่างว่านเองก็ยังเข้ามาคุยกับผมอยู่เรื่อยๆ ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าหลังจากที่ทำเพิกเฉยใส่ว่านคราวก่อนนั้น ผมกลับมาคุยกับว่านคืนตั้งแต่เมื่อไหร่ แต่....มันก็ได้ไม่นานนักว่านก็ทำเหมือนเคยอีก วันนั้นจำได้ว่า ว่านทำหน้าบูดตลอดเลย ผมเลยพูดเล่นๆกับว่านไปว่า


“ทำหน้าบูดอีกล่ะ”
“.....” ว่านไม่ตอบ
“หงุดหงิดอะไรเหรอ” ผมถามว่านซ้ำอีกครั้ง เท่านั้นล่ะครับว่านหันกลับมามองผมแล้วพูดว่า
“ดูอารมณ์คนอื่นไม่ออกก็อย่าพูดมากได้ไหม”


        แล้วว่านก็ทำท่าไม่พอใจใส่ผมมากๆ ยอมรับว่าตอนนั้นผมไม่พอใจ....เย็นวันนั้น....ทันทีที่เลิกซ้อมเสร็จผมก็กลับเลยโดยไม่รอว่าน นั่นเป็นครั้งแรกที่ผมไม่รอว่าน ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้ไม่เคยมีสักวันที่ผมมายิมแล้วไม่กลับบ้านพร้อมว่าน จากนั้นผมก็เริ่มกระบวนการเย็นชาใส่ว่านแบบเต็มสูบ ผมไม่พูด ไม่คุย ไม่สนใจ ทำเหมือนว่าว่านไม่มีตัวตน ถึงแม้ว่าว่านจะกลับบ้านกับผมเหมือนเคยก็เหอะ แต่มันเหมือนหน้าที่ไปแล้ว มันไม่ใช่ไปส่งเพราะความรู้สึกดีๆที่เคยมีแบบก่อนหน้านี้ ผมเริ่มซื้อของให้ ส้ม พลอย เกม ฟิว ริว เว้นแค่ว่านคนเดียวที่ผมไม่ซื้อให้....เวลาจับกลุ่มคุยกัน ไม่ว่าว่านจะพูด จะคุย จะถามอะไรผมก็ตามผมก็ไม่ตอบ ไม่พูดอะไรกลับสักอย่าง......แต่ผู้อ่านรู้อะไรไหม....ไม่รู้ว่าเพราะอะไรทุกครั้งที่ผมเห็นว่านยืนมองตอนผมเอาของให้เพื่อนๆเค้า....ทุกครั้งที่ผมไม่ตอบคำถาม หรือ พูดคุยกับเค้า....พอผมเห็นแววตาของเค้าผมรู้สึกเจ็บยังไงก็ไม่รู้....

        จำได้ว่าช่วงระหว่างที่ผมเพิกเฉยใส่ว่านอยู่นี้ มีวันหนึ่งน้องเดินมาหาผมด้วยสีหน้าวิตกกังวล....ก่อนจะแบมือให้ผมดูแล้วพูดว่า.... “พี่...มือผมลอก” พอน้องพูดจบผมไม่ได้เหล่มองด้วยซ้ำ ก่อนจะเดินออกไป แต่สุดท้ายผมก็ไปซื้อยามาหยอดใส่กระเป๋าว่าน......มีครั้งหนึ่งผมขับรถผ่านไปที่ยิมตอนประมาณบ่ายสามกว่าๆ ผมเห็นว่านปั่นจักรยานอยู่ริมทาง ทันทีที่ว่านเห็นผม ว่านยิ้มให้ผมทันที ส่วนผมเหรอ....ก็ขับรถผ่านไป......เหมือนกับมองไม่เห็น.....ตอนขับรถสวนไปผมก็มองกระจกมองหลัง ผมเห็นว่าว่าน....จอดรถชิดริมทางแล้วหันมามองผมด้วย.....พอมาถึงยิมผมก็ถามพลอยว่าว่านไปไหน พลอยก็เล่าให้ฟังว่า โค้ชให้ว่านไปซื้อน้ำที่ห้างดอกบัว แล้วว่านก็ไป ผมก็ไม่เข้าใจว่าทำไมต้องเป็นห้างดอกบัวเท่านั้น ทั้งๆที่ 7 – 11 ก็มี ซึ่งห้างดอกบัวที่ว่านี่มันอยู่ห่างจากยิมประมาณสามกิโลกว่าเลยนะครับ ไม่ใกล้เลยสำหรับจักรยาน แล้วไม่นานว่านกก็เริ่มเย็นชาใส่ผมคืนบ้าง....เริ่มด้วยการไม่พูด....จะมาพูดกับผมแค่เรื่องที่เค้าอยากจะพูดเท่านั้น


“เหมือนแฟนงอนกันเลย” พลอยพูดแซวผม
“พี่เอ....เดี๋ยวพี่ญาติผมจะมาเรียนด้วย” ริวพูดขึ้น
“เหรอ พี่ญาติกี่ขวบแล้วอะ”
“สิบห้า พี่เค้าบอกว่าเค้าเคยเรียนมาแล้ว”
“เหรอ ดีเลย ยิมจะได้ไม่เหงา”

        แล้วยิมก็มีสมาชิกใหม่เพิ่มมาคนหนึ่งครับ ชื่อน้องไนท์ วันแรกที่น้องไนท์เข้ามาโค้ชเหมือนจะดีใจมาก ชมไนท์ให้ว่านฟังไม่หยุด แต่สุดท้ายก็ตบท้ายด้วยประโยคที่ว่า “แต่ว่านก็ยังเก่งกว่าไนท์อยู่ดี” ซึ่งไม่นานนัก....ไนท์ก็มาคุยกับผมมากกว่าโค้ช แล้ว....ดูเหมือนว่าไนท์จะเปิดใจกับผมมากกว่าเวลาที่คุย ตอนนี้จากสงครามผิดถูก เริ่มมีสงครามชิงมวลชนเพิ่มมาแล้ว..... ช่วงแห่งการเล่าแบบรวมๆของช่วงนี้ขอจบลงแค่นี้นะครับ ต่อไปจะเริ่มเล่าแบบตอนต้นแล้ว

--------------------------------------

        หลังจากสอบปลายภาคเสร็จ ผมก็มายิมเร็วมากกว่าเมื่อก่อน ว่านเองก็ยังคงวางท่าทีเย็นชาใส่ผมเหมือนเคย แต่ผมก็ไม่ได้ใส่ใจเท่าไหร่ ผมเริ่มเปลี่ยนมาสนใจไนท์แทน ว่านเองก็เริ่มพูดถึงรุ่นพี่ที่เกมเคยบอกว่าว่านไปชอบมากขึ้น

“ไนท์ ขึ้น ม.4 ปีนี้ใช่ป่ะ” ผมถามไนท์ขณะที่ช่วยไนท์ยืดเส้นอยู่
“ครับพี่”
“แล้วต่อ ม.ปลายที่ไหน”
“ต่อที่ abc หน่ะพี่”
“เฮ่ย โรงเรียนนั้นมีแต่ผู้หญิงนะ”
“นั่นซิ เหงาเลย ไม่มีเพื่อน”
“ไม่มีเพื่อน....แต่มีแฟนไง อิอิอิ” ผมพูดพลางยิ้มๆ
“ไม่ดีพี่ ที่บ้านบังคับให้เข้า จะได้ไม่มัวแต่เล่น” ไนท์พูดพลางทำหน้าเศร้าๆ
“ที่บ้านพี่เค้ากลัวพี่ไนท์เป็นเกย์หรือเปล่า เลยส่งไปเรียน โรงเรียนที่หญิงเยอะๆ” พลอยพูดแทรกเข้มาพลางยิ้ม
“บ้าแล้ว” ไนท์พูดพลางหัวเราะ

        การซ้อมวันนี้โค้ชเน้นถูกผิดของท่าเตะเหมือนเคย ทว่า....วันนี้โค้ชพลาด....

“ท่าเตะ Back Kick เราต้องหันไปมองนะ ก่อนเตะ” โค้ชพูดพลางทำให้ดู แล้ว...ต้นกล้าก็ยกมือขึ้น
“ครู....ครูเคยบอกว่าท่านี้ไม่ต้องหันไปมองไม่ใช่เหรอครับ” เท่านั้นล่ะครับพี่น้อง โค้ชถึงกับเงียบไปแป๊บหนึ่งเลย ก่อนจะพูดว่า
“ก็ครูเปลี่ยนใหม่ แบบนี้ดีกว่า”


        โค้ชพูดจบผมก็หันไปมองหน้าพลอย แล้วส่ายหน้า แล้วการซ้อมตอนนั้นโค้ชเองก็เหมือนไม่มีท่าที่ต้องการไว้ในใจเพราะหลายคนสังเกตได้เลยว่า โค้ชจะมองว่าน แล้วเน้นให้ทำตามว่านมากกว่า เพราะว่านเป็นคนเดียวที่ไม่ถูกติ ทั้งๆที่รอบนี้โค้ชเค้ามีการปรับเปลี่ยน....ไม่ซิต้องบอกว่าปรับเปลี่ยนตามว่านมากกว่า....ว่านเลยลอยตัว จุดนี้สร้างความไม่พอใจกับน้องๆหลายคนเป็นอย่างมาก เพราะทุกคนรู้สึกคล้ายผมแล้วเรื่องความไม่นิ่งของโค้ช แถมชอบเอาคำว่า “ปรับพื้นฐาน” มาอ้าง เวลามีคนทักท้วง

        หลังการซ้อมเสร็จผมก็ไปนั่งที่มุมเดิม เกม ฟิว ริว ส้ม พลอย ต้นกล้า รวมถึงไนท์ก็มานั่งกองอยู่กับผม ก่อนจะเริ่มพูดคุยเรื่องทั่วไป โดยที่ว่านกลับไปนั่งอยู่กับโค้ช ไม่ก็ไปนั่งเงียบๆอีกมุมคนเดียว แต่ดูเหมือนว่าจะไม่มีใครสนใจเท่าไหร่ ตอนเลิกหลังจากปิดยิมเสร็จผมก็ไปส่งว่าน....ไม่รู้ว่าตั้งแต่เมื่อไหร่ที่ผมไม่ได้จับมือว่านอีก....แล้วก็ไม่รู้ว่าตั้งแต่เมื่อไหร่ที่ว่านเลิกมานั่งชิด เลิกกัด เลิกเอานิ้วมาจิ้มผม แต่ช่างมันเถอะ....ถึงจะบอกว่าช่างมัน....แต่ผมก็ยังห่วงว่านอยู่ดีนั่นแหละ....

        แล้ว....ท่ามกลางความตึงเครียดของผมกับโค้ช.....ใครคนหนึ่งที่หายไปนานก็โผล่เข้ามา.....วันนั้นจำได้ว่าเป็นวันจันทร์ที่ 18 เมษายน เวลา 14.27 น. ตอนนั้นผมกำลังนั่งเขียนนิยายเรื่องน้องชาย 1 แบบพิมพ์ๆหยุดๆ อยู่เงียบๆคนเดียวในบ้าน.....โทรศัพท์ผมก็ดังขึ้น


“น้องบี Calling”

        ผมนั่งอึ้งอยู่หน้าจอคอมพักหนึ่ง.....มือผมที่ถือโทรศัพท์อยู่มันสั่นด้วยความดีใจ แล้วทันทีที่ตั้งสติได้ผมรีบกดรับอย่างไว

“ดีครับ”
“ฮัลลล โหล๋วว” เสียงของบีดังขึ้นมา
“ว่าไง หายไปนานเลย”
“สบายดี พี่เอ....ผมจะกลับไปเรียนแล้วนะ”
“จริงเหรอ”
“ช่ายยยย”
“มาวันไหน”
“ว่าแต่พี่เอยังสอนอยู่ไหม”
“สอนซิสอน”
“เหรอครับ แล้วครูป้อมล่ะ”
“ก็ยังมาอยู่”
“งั้นนน....เย็นนี้พี่ไปไหม”
“ถ้าพี่ไปบีจะไปไหมอะ”
“งั้น....เย็นนี้เจอกัน พี่ไปกี่โมงโทรบอกผมด้วยนะ”
“ได้เลย”

        ตอนนั้น....ผมดีใจจนบอกไม่ถูก....ผมจะได้เจอบีแล้ว.....

To Be Con
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 02-06-2011 22:46:54 โดย me_alone »

naoki24

  • บุคคลทั่วไป
Re: น้องชาย 2 ( Up ช่วงท$
«ตอบ #163 เมื่อ02-06-2011 23:12:07 »

คนแรกของตอน25
อย่างแรกขอบคุณเอมากเลยสำหรับคลิบเทควันโด้ สุดยอดจนน่าเรียน ถึงแม้อายุจะมาก จะได้มาปรับปรุงวิชาป้องกันตัวที่มีอยู่ให้มันดีขึ้น(ปราณกังฟูและคาราเต้) :z6:

อย่างที่สอง อ่านตอน24-25แล้วจากใจว่า ผมเจ็บไม่น้อยไปกว่าคุณเอเลย(สงสัยอินจัดคิดถึงตอนที่ลูกศิษย์ตัวเองงอน)
แต่.....อย่าน้อยความรักไม่ได้ทิ้งคุณเอ แล้วส่งน้องบีกลับมา คุณเอคงมีกำลังใจขึ้นนะ :sad4:

อย่างที่สาม ตอนนี้ไม่รุ้ว่าเป็นไงนะ แต่อยากบอกว่า อย่าทิ้งว่านนะไม่งั้นว่านจะเป็นผู้ใหญ่ที่เห็นแก่ตัวในอนาคตแน่ แต่กลับกันก็สามารถเอาน้องบีเป็นแบบอย่างไว้สอนน้องว่านก็ดี แต่อย่าทำแบบโค้ชนะไม่งั้นว่านคง....คิดว่าเอคงรู้ :3125:

อย่างที่สี่ ความคิดเอมั่นคงดีและจงมั่นคงต่อไปนะ เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์ และเมื่อถึงเวลาทุกคนและและวัฏจักรรอบตัวจะเข้าใจเราเอง (พูดยังกะนักวิชาการหรือนักเทศน์เลยเรา)  o13

เป็นกำลังใจให้เขียนต่อไปนะ ผมคงต้องไปสอนหนังสือไอ้ดื้อ3ตัว อีกอาทิตย์คงได้มาอ่านต่อ :z10:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 02-06-2011 23:13:41 โดย naoki24 »

kokoky

  • บุคคลทั่วไป
ว้าวววววววววว

ยินดีต้อนรับกรกลับมาของน้องบีค่าาาา




น้องว่าน อืม.............ยังไงดีล่ะ
จะว่าน้องยังเด็กก็เป็นแค่คำปลอบใจยังไงก็ไม่รู้สิคะ คุณเอ
สงสารก็สงสารอยู่ แต่น้องเหมือนกับ "ตบหัวแล้วมาลูบหลัง"
หรือคิดไปเองก็ไม่รู้สิ

น้องน่าสงสารที่ไม่มีใครคอยแนะนำให้คำปรึกษา "ที่ถูกต้อง"
ก็เลยเลือกเชื่อตัวเองว่าใครน่าเชื่อถือมากกว่า
แล้วตอนที่มาติด"พี่เอ"ก็คงเป็นที่รู้สึกอบอุ่น อ้อนได้ แล้วก็ได้รับความรักและการดูแลที่"พิเศษ"
พออะไรๆที่มันมากระทบ แถมยังถูกยกให้ตัวเองรู้สึกว่าระดับสูงกว่า น้องก็เลย.................

เฮ้อออออออออออออ
กลัวว่าน้องจะเก็บกด หากไม่มีเทควันโดนี่น้องอาจเตลิดได้เลยนะคะ
มาแยกตัวนี่ยิ่งยากค่ะ เด็กแบบนี้แก้ยากกว่าเด็กดื้ออีก เพราะเค้าคิดว่าตัวเองถูก

ยังไงก็เป็นกำลังใจให้คุณเอนะคะ
ฝากความคิดถึงให้น้องบี
แล้วก็ฝากความห่วงใยให้น้องว่านด้วยค่ะ

ออฟไลน์ HydrA

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2684
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +159/-2
ยังไปส่งว่านอีกอ่ะ
เป็นนู๋ละลาขาด
ว่านน่ะเค้าเรียกว่ามองข้ามสิ่ง
ใกล้ตัว
ไม่ว่านหรือบีนู๋อยากให้พี่เอ
หนักแน่นให้มากขึ้น
รักตัวเองก่อนนะ
อย่าให้เด็กมาปั่นเรา

ออฟไลน์ reneisance

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 440
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-0
วะวะวะว้าว นางเอกตัวจริงกลับมาแล้วอืม เดี่ยวก็คงมีปัญหากับว่านแน่ๆๆๆๆ ว่านคงรู้สึกแบบว่า มีคนมาแย่งสิ่งสำคัญไป ดีละ คราวนี้จะได้เห็นว่า ตัวจริงกับความจริง มันเป้นเช่นไร

icyblue

  • บุคคลทั่วไป
น้องว่านน่าเป็นห่วงนะ
   ด้วยเป็นวัยทีน อารมณ์ ร่างกาย ฮอร์โมน ก็เปลี่ยนแปลงเยอะ  + พื้นฐานความอบอุ่นของครอบครัวคาดว่าจะน้อยนะ (ที่เอเล่ามาน้องต้องอยู่คนเดียวบ่อยๆ แล้วก็ไม่มีพี่ น้องด้วย) + นิสัยของน้องว่านเอง ที่มีความมั่นใจ เชื่อมั่นตัวเองสูง (เพราะอยู่คนเดียวบ่อยเลยต้องคิดเอง ตัดสินใจเอง ขาดคนแนะนำ) มุ่งมั่น
   แต่ขณะเดียวกัน ก็ชอบทำตัวแปลกแยก เห็นได้จากชอบหามุมสงบอยู่คนเดียวบ่อยครั้ง มีความยืดหยุ่นน้อย กดดันคนรอบข้างด้วย  (ตอนเพื่อนในห้องคุยเสียงดังน้องก็ไปว่าเพื่อน จนเพื่อนๆไม่ชอบ  หรือตอนซ้อมเทควันโดแม้โค้ชจะซ้อมหนักจนเพื่อนเหนื่อย แต่ว่านก็ยังไม่หยุดซ้อมทำให้โค้ชอดชมว่านไม่ได้ กลายเป็นความกดดันให้เพื่อนไป)
    ทั้งหมดที่กล่าวมาจากความเห็นส่วนตัว ถ้าน้องเจอคนดี ก็จะประสบความสำเร็จได้ไม่ยาก  แต่ถ้าเจอมารนำทางอ่ะนะ ก็หลงผิดแบบไม่รู้ตัวเลย (อย่างที่น้องเจออ่ะนะ ตอนอาจารย์กบมาสอบนั่นแหละเห็นทันตาเลย)
    ถ้าน้องว่านยังไม่รู้ถูก รู้ผิด หรือมีคนแนะนำเรื่องนิสัยอ่ะนะ คงจะอยู่ในสังคมลำบาก เพราะยังงัยมนุษย์ก็เป็นสัตว์สังคม ต้องอยู่ร่วมกัน เอื้อเฟื้อ ช่วยเหลือกัน ถ้าน้องปรับนิสัยให้ยืดหยุ่น รับฟังคนอื่นให้มากขึ้นก็จะมีคนรักมากขึ้นนะ  เพราะมุมอื่นน้องก็ยังมีความน่ารักของตัวเอง โดยเฉพาะตอนอยู่กับเอ  :o8:
     แล้วนี้น้องบีกำลังกลับมาแย้ว  :กอด1: แล้วน้องว่านจะทำงัยเนี่ย  :เฮ้อ:
รักน้องบี แต่ก็ห่วงน้องว่านด้วย  :L2:

ออฟไลน์ me_alone

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 356
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +115/-1
ช่วงที่ 26



“ตรู๊ดดดดด......ตรู๊ดดดดดด......ฮัลล โหล๋ววว”
“พี่กำลังจะออกจากบ้านแล้วนะ”
“อื่อๆ กำลังรอม๊าอยู่”
“#$@%^$^#^#” เสียงอะไรบางอย่างแทรกเข้ามาระหว่างที่ผมคุยอยู่กับบี
“เงียบๆหน่อยซิ๊ พี่คุยธุระอยู่เห็นไหม” บีพูดขึ้นเสียงกับที่มาของเสียงรบกวน
“ใครเหรอ”
“น้องผม มันจะไปด้วย” บีพูดเสียงเซ็งๆ
“อืมมม งั้นเดี๋ยวพี่ไปถ่ายรูปรอแถวนั้นนะ ถ้ามาถึงบีก็โทรหาพี่แล้วกัน”
“ได้คร้าบบบ”


        วันนี้ผมรู้สึกดีใจจนบอกไม่ถูก นิยายเหรอ....เก็บไว้ก่อนแล้วกัน ผมรีบเปลี่ยนชุดก่อนคว้ากระเป๋ากล้องวิ่งออกจากบ้านอย่างรวดเร็วหลังจากวางสายจากบีเสร็จ.....ไม่ได้เจอกันตั้งนาน....โตขึ้นขนาดไหนแล้วน๊า.....พอถึงยิมผมก็ฆ่าเวลาด้วยการไปถ่ายภาพเนื่องจากไนท์ก็ยังไม่มา มาแค่ว่านกับโค้ช ปล่อยให้เค้าอยู่กันไปดีกว่า ไม่อยากไปนั่งขัดคอเค้า แล้วระหว่างที่ผมถ่ายภาพอยู่นั้นบีก็โทรเข้ามาอีกครั้ง


“ครับ”
“พี่เออยู่ไหนแล้ว”
“แถวยิมนี่ล่ะ แล้วบีถึงไหนแล้ว”
“ใกล้แล้วๆ พี่มารับผมที่รถหน่อย ผมไม่กล้าเข้าไปคนเดียว”
“อื่อ งั้นพี่รอหน้า 7 – 11 นะ”
“คร้าบบบ”


        คุยเสร็จผมก็รีบเก็บกล้องใส่กระเป๋าทันทีก่อนที่จะตรงไปที่หน้า 7 – 11 เพื่อรอรับบี....รถคัดแล้วคันเล่าวิ่งผ่านไป สายตาผมมองซ้ายที ขวาทีเพื่อมองว่าเมื่อไหร่บีจะมา....จะว่าผมก็พลาดนะน่าจะถามว่าบ้านบีเอารถคันไหนมา แล้วไม่นานเท่าไรนัก....รถสปอร์ตที่ผมคุ้นตาก็มาจอดข้างๆพลางบีบแตรให้ด้วย จากนั้นประตูรถก็เปิดออกช้าๆทันทีที่ประตูรถเปิดออกจนสุด น้องบีก็กระโดดออกมาเหมือนเมื่อก่อนไม่มีผิด


“พี่เอ....ดีคร้าบบบบ” บีหันมายกมือไหว้ผม ก่อนที่จะก้มลงไปเอากระเป๋า


        วันนี้บีใส่ชุดเท่มากๆครับ เป็นกางเกงยีนส์สีดำ รองเท้าผ้าใบคู่ใหญ่สีดำตัดขาว เสื้อขอกลมสีขาว แล้วก็เสื้อคลุมด้านนอกสีดำอีกหนึ่งตัว แถมด้วยสร้อยเงินอีกหนึ่งเส้นที่คอ ที่มือก็ใส่สร้อยข้อมือเงินแบบผู้ชายลายโซ่อีกหนึ่งเส้น เป็นหนุ่มแล้วซินะ....แต่งตัวซะ.....ทว่า....ไม่ใช่บีคนเดียวที่ลงมา.....พอบีออกมาพ้นประตู ปรากฏร่างเด็กชายตัวเล็กกว่าบีหน่อยหนึ่งอีกคนหนึ่งลงมาด้วย หน้าตาเหมือนบีมากมาย....เดาไม่ยากเลย น้องชายบีนั่นเอง


“พี่เอ...ฝากน้องด้วยนะ เดี๋ยวตอนเย็นผมมารับ” คุณพ่อน้องบีตะโกนออกมาจากรถ ผมก้มลงไปมองตามเสียง ก่อนจะยกมือไหว้แล้วพูดว่า
“ครับ เดี๋ยวซ้อมเสร็จแล้วผมโทรบอกนะครับ” พอผมพูดจบคุณพ่อน้องบียิ้มให้ผมอีกครั้งก่อนจะออกรถไป
“น้องบีเหรอ” ผมถามบีขณะที่บีกำลังยืนอยู่ข้างๆเด็กผู้ชายคนนั้น
“ช่ายย ขี้ดื้อมาก” บีรีบบอกสรรพคุณน้องออกมาทันที
“เหมือนพี่ชายล่ะมั้ง อิอิอิ”
“ม่ายยย ผมออกจะเรียบร้อยพี่ก็รู้ อิ๊อิ๊อิ๊” บีพูดจบก็ยิ้ม
แล้วผมก็ก้มลงมาข้างๆแก้มน้องแล้วกระซิเบาๆว่า “คิดถึงจัง”
“....”
“ไปซื้อน้ำปะ....” ผมตบไหล่บีเบาๆก่อนจะพาบีเข้าไปซื้อน้ำเหมือนที่เคยทำ....จูงมือบีเข้าไป....
“แป๊บเดียว...สูงขึ้นเยอะเลยเน๊าะ” ผมพูดพลางลูบๆหัวบีขณะกำลังอยู่หน้าตู้แช่น้ำ
“นิ๊ดเดียวเอง” บีหันมาพูดกับผม ตอนนั้นผมก็มองน้องชายบีที่ยืนสงบเสงี่ยมเจียมตัวอยู่ข้างๆบี
“น้องไม่เห็นดื้อเลย”
“หึ เดี๋ยวมันก็ดื้อ” บีพูดพลางยิ้มๆให้น้อง
“แฮะๆๆ” น้องชายบีหันมามองบีก่อนจะมองผมพลางหัวเราะเบาๆ

        หลังจากเลือกน้ำเสร็จแล้วผมก็เดินกับบีไปจ่ายเงิน

“แปดสิบบาทคะ” พนักงานขายพูดขึ้นขณะที่กำลังเอาของใส่ถุงให้ไปด้วย
“พี่จ่ายให้นะ” ผมหันไปพูดกับบี
“ไม่เอา...ผมจ่ายเอง เกรงใจพี่”
“ไม่เป็นไร เน๊าะๆ ไม่ได้เจอกันตั้งนาน”
“ก็ได้”


        แล้วผมกับบีก็เดินจูงมือกันกลับไปที่ยิม ระหว่างนั้นบีก็เล่าเรื่องต่างๆช่วงที่ไม่ได้มาให้ฟัง น้องชายบีเองก็น่ารักไม่แพ้พี่ชายเค้าเลย แต่ดูท่าทางจะกวนมากกว่าบีซะอีก...คงจะยังไม่คุ้นเคยกันน้องเลยยังไม่ออกลาย พอมาถึงยิมก็พบกับโค้ช ว่าน เกม ริว ฟิว พลอย ส้ม รวมถึงน้องๆคนอื่นๆอีกสามสี่คนนั่งเล่นกันอยู่


“พี่เอ ดีคร้าบบบ” เกมหันมาไหว้ผมก่อนที่น้องคนอื่นๆจะหันมาไหว้ตามกัน
“อ่าว บี กลับมาเรียนคืนแล้วเหรอ” โค้ชพูดทักบีขึ้นมา
“ครับ”
“ใครเหรอพี่เอ” พลอยหันมาถามผม
“น้องบีหน่ะ สมาชิกเก่าพอดีหยุดเรียนไปพักหนึ่งแล้ว เพิ่งกลับมา”
“.....” ว่านเงียบกริบไม่พูดอะไรสักคำ


        แล้วผมกับน้องๆก็เริ่มคุยกันอย่างสนุกสนาน วันนี้ผมนัดน้องๆไปวิ่งเล่นที่สนามข้างนอกกันครับ สนามที่ว่านี่เป็นสนามกีฬาครับอยู่ไม่ห่างจากยิมเท่าไหร่เคยเกริ่นว่าจะมากันหลายครั้งแล้ว แต่ก็ไม่ได้มาสักที วันนี้เลยจะเป็นวันเจิมวิ่งวันแรก ก่อนถึงเวลาซ้อมเกือบๆครึ่งชั่วโมงได้มั้งครับวันนั้นโค้ชให้น้องๆที่ยังไม่เปลี่ยนชุด ไปเปลี่ยนชุด....แน่นอน....ผมให้บีรอเข้าไปเป็นคนสุดท้าย พอทุกคนเปลี่ยนเสร็จหมดแล้วผมก็พาบีเข้าไปเข้าไปในห้องแปลี่ยนชุด...ทว่า....น้องชายบีเข้ามาด้วยอะครับ.... ผมเลยเลี่ยนชุดให้น้องชายบีแทน เพราะน้องชายบีเพิ่งเคยมาซ้อมครั้งแรกยังใส่ชุดไม่เป็น ผมกับบีเลยช่วยกันแต่งตัวให้ พอแต่งตัวให้น้องเสร็จ น้องก็ยืนมองผมกับบี.....


“รออะไร เสร็จแล้วก็ออกไป” บีหันไปพูกับน้องก่อนที่น้องชายบีจะออกจากห้องไป


        พอน้องชายบีออกไปผมคว้าตัวบีเข้ามากอดทันทีก่อนที่จะซุกลงไปที่คอบีเหมือนที่เคยทำ


“หายไปไหนมาตั้งนาน คิดถึงแค่ไหนรู้หรือเปล่า” ผมพูดออกมาเบาๆ
“อื่อ”


   แล้วผมก็ถอดเสื้อคลุมของบี ก่อนจะถอดเสื้อคอกลมสีขาวออก.....บีโตขึ้นเยอะเลย....ร่างกายเปลี่ยนไปมาก เหมือนก่อนเนื้อตัวบีถึงจะมีกล้ามบ้างอะไรบ้างแต่ก็ดูเรียบๆกว่านี้ ตอนนี้กล้ามเนื้อบีขยายใหญ่ขึ้นตามวัย.....เป็นหนุ่มแล้วซินะ.....ผมก้มลงซุกที่อกบีเบาๆ.....กลิ่นบีก็ยังหอมเหมือนเคย....ผมดีใจจนบอกไม่ถูก เหมือนครั้งหนึ่งของที่สำคัญมากๆชิ้นหนึ่งของผมหายไป....แล้ววันนี้ผมก็ได้กลับมาคืน....ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้ผมคิดว่าคงไม่ได้เจอบีอีกแล้ว.....ผม....อธิบายไม่ถูก....แล้วผมก็จับแก้มบีไว้ก่อนที่จะจูบบีเบาๆ.....ก่อนที่จะเริ่มถอดกางเกงให้บี ท่าทางของบีดูเฉยๆเหมือนกับเมื่อก่อนไม่มีผิด ไม่มีท่าทีเขินอายอะไรเลย แล้วผมก็ถอดกางเกงบีออก....บียังคงใส่กางเกงในสีขาวยี่ห้อเดิม.....ผมก้มลงไปหอมบีน้อยเบาๆ ก่อนที่จะเริ่มแต่งตัวให้บี คาดสายให้บี หลังจากแต่งตัวให้บีเสร็จผมก็ดึงมาบีกอดจากด้านหลัง แล้วก็ซุกหลังคอบี ผมไม่อยากปล่อยบีไปเลย อยากกอดบีแบบนี้ไปเรื่อยๆ....แต่มันก็ทำไม่ได้ หลังจากแต่งตัวเสร็จแล้ว ผมก็พาน้องออกไปวิ่ง ที่สนามกีฬามันมีทางวิ่งอยู่สองทางครับ ทางรอบสนามบอลด้านในอัฒจันทร์เป็นสนามสำหรับวิ่ง พื้นสนามเป็นพื้นยางนุ่มเท้า.....ส่วนเส้นรอบนอกอัฒจันทร์จะเป็นพื้นลานยางแข็งๆ พอไปถึงขณะที่กำลังยืนคุยกันอยู่ ไนท์ ก็ตามมาติดๆ


“พี่เอ ดีครับ” ไนท์ยกมือไหว้ผม
“สรุปวิ่งด้านในนะ” ผมพูดกับน้องๆ ซึ่งน้องๆส่วนใหญ่ก็ตามใจผมทว่า.....
“วิ่งรอบนอกโค้ชสั่งมา” ว่านพูดเสียงแข็งขัดขึ้นมา
“สนามด้านในมันถนอมหัวเข่ากว่าไหม” ผมถามว่านไป
“โค้ชบอกให้วิ่งรอบนอกสองรอบ รอบในมันเล็ก รอบนอกไกลกว่า” ว่านยังยืนกรานให้วิ่งรอบนอกอยู่
“ถ้ามันไกลกว่า งั้นวิ่งรอบในเพิ่มเป็น ห้า หรือ หกรอบแทนก็ได้นี่นา” ผมอธิบายให้ว่านฟัง
“ยังไงมันก็ไม่เท่ารอบนอกอยู่ดี” พูดจบว่านก็ออกวิ่งโดยเลือกเส้นทางด้านนอกเพื่อกดดันคนอื่นๆทันที
ผมหันไปมองน้องๆคนอื่นก่อนจะพูดว่า “ตามว่านก็ได้”


   ยังไม่ทันซ้อม....เมฆฝนก็ตั้งเค้าอีกแล้ว ทำเอาน้องๆในยิมหมดท่าทีสนุกสนานกันเลยทีเดียว ผมเลือกที่จะไม่ขัดว่าน เพราะถ้าขัดโดยให้น้องๆเลือก มันจะยิ่งทำให้ความตึงเครียดที่มีอยู่กระจายจาก ผม ว่าน โค้ช ไปสู่น้องๆคนอื่นๆได้ ดังนั้นเพื่อปะรโยชน์ส่วนรวมผมจึงให้น้องๆวิ่งตามว่านไป ส่วนผม บี น้องชายของบี พลอย เกม ส้ม ไนท์ ก็วิ่งไปเป็นกลุ่มเดียวกัน ระหว่างทาง พลอยดูมีท่าทีสนใจบีไม่ใช่น้อยๆ ชมบีเรื่องหน้าตาไม่หยุดหย่อนบีเขินจนแทบจะวิ่งตกข้างทางไปหลายที แถมพอน้องเขินพลอยกลับถูกใจซะงั้น โดยพลอยบอกว่า “เวลาบีเขินน่ารักมากกกก” รวมๆคือพลอยถูกใจบีว่างั้นก็ได้ แต่ยังไม่รู้นิสัยกัน ถ้ารู้ขึ้นมา หึหึหึ แล้วพลอยจะเข้าใจว่าทำไมป๊าบีถึงเน้นฝากฝังบีไว้กับผม

   หลังจากวิ่งเสร็จผมก็พาน้องเดินกลับยิม จากนั้นก็เริ่มวอร์ม บีมาวอร์มกับผมรวมถึงไนท์ด้วย ไม่นานการซ้อมก็เริ่มขึ้น ว่านเลือกจับคู่กับไนท์ อืมม ยังไม่เคยเกริ่นถึงหน้าตาไนท์เลย....ไนท์เป็นเด็กชายอายุสิบห้าปีสูงที่หนึ่งร้อยเจ็ดสิบเห็นจะได้ ผิวขาวอมเหลืองมีร้อยไหม้จากการถูกแดดอยู่ให้รู้ว่าไนท์เองก็เล่นกีฬากลางแจ้งมาบ้างเหมือนกัน รูปร่างจัดได้ว่าดีเลย เหมือนพี่ชายอ้นไม่มีผิด ส่วนหน้าตาก็ออกจะหล่อซ่า เสน่ห์อย่างหนึ่งของไนท์คือรอยยิ้มที่ค่อนข้างน่าสนใจ ทำให้สาวๆตามกันเยอะ ที่สำคัญไนท์เรียนเก่งครับ เกรดเฉลี่ยได้ที่ไม่ต่ำกว่าสามจุดเจ็ด แล้วเรื่องก๊อตผมก็ลืมบอกไปว่าก่อนบีมาไม่กี่วัน ก๊อตก็ออกไปเป็นนักกีฬาชนิดอื่นของโรงเรียน ทำให้ก๊อตมาซ้อมเทควันโดอีกไม่ได้ ทำให้เวลานี้ ว่านเลือกที่จะมาจับคู่กับไนท์แทน จนถึงเวลาเลิกซ้อมโค้ชก็เรียกน้องมานั่งรวมๆแล้วก็โม้ไปเรื่อยตามสูตร แต่ผมก็เริ่มสังเกตอย่างหนึ่ง เวลาที่โค้ชพูดเรื่องโกหกอะไรโค้ชจะหันมามองผมเห็นระยะๆ ส่วนวันนี้....โค้ชก็โม้....แต่พลาดแรงไปหน่อยตรงที่ว่า....มันเกี่ยวกับผมโดยโค้ชโม้ว่า.....


“เมื่อก่อนครูไปซ้อมยูโด แล้วครูไม่ได้บอกเค้าว่าครูซ้อมเทควันโด เชื่อไหมว่าเค้านินทายิมเทควันโดให้ครูฟังว่า คนสอนเทควันโดมันไม่เท่าไหร่หรอก ตอนนั้นครูก็ไมได้บอกเค้านะว่าครูเองก็สอนเทควันโด จากนั้นสองสามวัน มันมีพวกรุ่นพี่เราสี่ห้าคนใส่ชุดเทควันโดไปที่ยิมยูโด ตอนแรกเค้าคิดว่าจะมาหาเรื่อง แต่ที่ไหนได้เค้ามาหาครู ตอนนั้นโค้ชยูโดเลยเพิ่งรู้ว่าครูก็สอนเทควันโดด้วย จากนั้นโค้ชยูโดก็มาซ้อมเทควันโดด้วย แต่ซ้อมไปซ้อมมาพลาดถูกครูเตะเข้าปาก เลยไม่ได้มาซ้อมอีกเลย”

ผมนั่งฟังแล้วก็รู้สึกขำในใจลึกๆเรื่องจริงๆมันคือ....

“ตอนผมอยู่ ม.5 อะ ผมไปซ้อมยูโดกับพี่ๆที่มหาวิทยาลัย แล้วไม่ได้บอกเค้าว่าผมเล่นเทควันโด จนวันหนึ่ง มีน้องมาหาผมที่ยิมยูโด แล้วถือชุดเทควันโดไปด้วย พี่ๆที่ยิมยูโดเลยรู้ว่าผมเล่นเทควันโดด้วย จากนั้นพี่ประธานชมรมยูโดเลยตามผมมาซ้อมเทควันโดด้วย แต่มาได้ไม่นานก็ถูกรุ่นพี่อีกคนเตะถูกปากระหว่างซ้อมโดยไม่ได้ตั้งใจ จากนั้นพี่เค้าก็ไม่ได้มาอีกเลย”


   สรุปคือเรื่องนี้ผมเล่าให้โค้ชฟังโค้ชคงลืม แล้วมาแต่งว่าเป็นตัวเองซะงั้น แถมยังไปใส่ร้ายหาว่าเค้ามาพูดว่ายิมเทควันโดเราอีก ซึ่งผมไม่เชื่อหรอกว่าเหตุการณ์มันจะซ้ำซ้อนกัน เพราะยิมยูโดเปิดหลังจากผมเรียนเทควันโด แล้วผมก็ไปซ้อมตอนยิมยูโดเปิดใหม่ๆ จนถึงช่วงยิมยูโดปิด ก็ไม่เคยมีประธานชมรม หรือ โค้ชยูโดคนไหนมาซ้อมอีกเลย นอกจากพี่คนนั้นที่ตามผมมา......ช่างเค้าเถอะครับ อืมมม....ระหว่างที่โค้ชโม้....บีก็มานั่งที่ของเค้า....ผมกอดบีเหมือนที่เคยกอด บีก็เล่นมือผมเหมือนที่เคยเล่น ตลอดช่วงที่ผมกอดบีว่านเองก็หันมามองอยู่เรื่อยๆ ซึ่งนอกจากกอดแล้วผมยังซุกลงไปหอมต้นคอบีหลายครั้ง ไม่รู้ว่าว่านเห็นไหม จนกระทั่งเลิก ผมก็ยังนั่งกอดบีอยู่แบบนั้นพลางคุยกับบีน้องชายบีแล้วก็น้องคนอื่นๆไปเรื่อยๆ จนกระทั่งน้องๆเริ่มทยอยกลับ ผมก็เริ่มซุกไซ้บีมากขึ้น....ซึ่งว่านเอง....ก็นั่งอยู่ไม่ห่าง พักหนึ่งน้องชายบีก็มานั่งซบไหล่ซ้ายผมแล้วหลับ....


“วันนี้พี่ไปส่งไหม” ผมกระซิบถามบีเบาๆ
“นี่แหละ ผมถึงไม่อยากให้น้องมาด้วย” บีบ่น
“ทำไมล่ะ”
“ก็ถ้ามาด้วยก็ต้องมีคนมารับ”
“ไม่เป็นไร....”


   แล้วผมก็ค่อยๆสอดมือเข้าไปในเสื้อของบี.....ผมเอานิ้วลูบไล่ไปตามสีข้างของบี.....เนื้อตัวบีค่อนข้างแน่นทีเดียว ผมลูบผ่านสีข้างน้องขึ้นไปจนถึงอกก่อนจะนั่งเล่นนมน้องไปเรื่อยๆ บีจากที่คุยๆก็เงียบลงทันที หัวนมบีนุ่มจัง ผมเอานิ้ววนไปมาเรื่อยๆสักพักหนึ่งหัวนมบีก็แข็งขึ้นมา...เสียดายมือซ้ายผมทำอะไรมากไม่ได้เพราะน้องชายบีนอนหลับอยู่ จากนั้นผมก็เริ่มลูบไล้ไปทั่วอกบีด้วยนิ้วชี้กับนิ้วกลาง


“ตรงนี้ใหญ่ขึ้นนะ” ผมกระซิบพูดกับบีเบาๆขณะที่ผมกำลังลูบกล้ามอกของบี
“กินโปรตีน” บีพูดเบาๆ


   แล้วผมก็เริ่มลูบลงมาที่หน้าท้องน้อง....มันไม่เรียบ....ซิกแพกของบีถึงจะไม่มากมายอะไรแต่มันก็ชัดเจนขึ้นกว่าเดิมมาก ผมเอานิ้วชี้ลูบไปตามร่องกล้ามบีเรื่อยๆ  ก่อนที่ผมจะเอามือออกมา แล้วสอดเข้าไปในเสื้อบีอีกครั้งที่ใต้สาย ก่อนจะเอามือสอดเข้าไปในกางเกงบี......บีขยับตัวให้เล็กน้อย ก่อนที่ผมจะสอดมือลึกเข้าไปในกางเกงในของบี....ตอนนี้มันชุ่มเหงื่อน้องหน่อยๆ.....แล้วผมไม่นานผมก็ลงไปถึงบีน้อย.....เวลานี้บีน้องแข็งโป๊กเลย ขนาด....เท่าเดิมมั้ง......แต่ส่วนปลายดูจะใหญ่ขึ้นมา... ผมเอานิ้วไปลูบๆตรงโคนบีน้อย....บีน้อยยังไม่มีผม.........เวลานี้บีเริ่มตัวร้อนขึ้นมาหน่อยๆ หายใจแรงขึ้นอีกนิ๊ด....ผมเลยเอานิ้วนี้ไปลูบๆใต้หัวบีน้อยเบาๆ แล้วก็เอานิ้วโป้งลูบไปตามร่องหัวบีน้อย พักหนึ่ง....น้ำหล่อลื่นของบีก็ไหลออกมา.....ขณะที่ผมทำนี้ว่านก็นั่งอยู่ข้างๆนะครับ ไม่ใกล้ไม่ไกลเท่าไหร่ ซึ่งผมว่าว่านน่าจะรู้ว่ากำลังเกิดอะไรขึ้นกับบี แต่ว่านก็ไม่พูดอะไรได้แต่นั่งนิ่งๆ.... ผมก็นิ่ง......บีก็นิ่ง.....ขณะที่ผมกำลังทำให้บีอยู่นั่นบีน้องก็เริ่มมีน้ำหล่อลื่นไหลออกมามากขึ้นเรื่อยๆ ผมเลยเอานิ้วชี้กับนิ้วกลางโอบรอบบีน้อยแล้วแค่ส่วนหัว...แล้วเลื่อนขึ้นลงช้าๆ.....แล้วจังหวะนั้นเอง!!!.....


“ป๊าน้องบี Calling” ผมรีบเอามือขวาอกมาจากกางเกงบีแล้วเอามือซ้ายกดรับสายเนื่องจากมือขวาผมยังเปื้อนน้ำของน้องบีอยู่
“ครับ”
“พี่เอ...ผมรอที่หน้า 7 – 11 นะ เมื่อกี้ผ่านหน้ายิมแล้วมันไม่มีที่จอด”
“อ่าครับ” แล้วผมก็กดวางสาย
“ป๊ามารอรับแล้ว” ผมกระซิบบอกบีเบาๆ
“อื่อ”


   แล้วบีก็ปลุกน้องก่อนจะลุกขึ้นมาจัดเสื้อตัวเองใหม่อีกที แล้วก็....ล้วงมือเข้าไปจัดบีน้อยเองด้วย....ถ้าไม่มีว่าน หรือ น้องชายบีผมอยากจะล้วงเข้าไปจัดให้จังเลยอะ อิอิอิ.....แล้วผมก็เดินปิดไฟก่อนจะเดินจูงมือบีไปที่ 7 – 11 ระหว่างทางบีก็พูดถึงอ้น.....


“พี่เอ...ผมอยากให้อ้นมาเรียนด้วย”
“ก็ชวนมาซิ”
“อ้นไม่ยอมมา”
“ทำไมละ”
“อ้นไม่ชอบโค้ช”
“อืมมม....เดี๋ยวลองชวนอีกทีไหมล่ะ”
“ก็ได้”
“จะว่าไปคิดถึงอ้นเหมือนกันเน๊าะ โตขนาดไหนแล้วก็ไม่รู้” ผมพูดพลางยิ้มๆ
“มันก็ตัวเท่าเดิม”

   ระหว่างนั้นผมกับบีก็เดินผ่านร้านขายไก่....จำได้ไหมเอ่ย...ตอนนี้พัฒนามาเป็นสาขาของหกดาวแล้วนะ แล้วพอผมกับบีเดินไปถึง.....ราวกับว่า.....ว่านกับแม่ค้าคนนั้นจะถูกชะตากัน....บีหันไปมองทันทีแล้ววิ่งไปที่หน้าร้าน ก่อนจะถามว่า.....

“พี่ รับบัตรเครดิตยัง”
“อ๊ะ....หายไปไหนตั้งนาน” แม่ค้าคนนั้นลุกขึ้นมาพูดแกมตลกๆกับบี
“ก็หายไปนาน แล้วรับบัตรเครดิตยัง” บีพูดพลางหัวเราะ
“เคยรับจ๊ะ แต่พอหนูไม่มา ไม่มีใครมาใช้เลยเอาออกไปแล้ว”
“เหรอ...งั้นเอากลับมาใหม่นะ เดี๋ยวผมมาใช้บริการ อิ๊อิ๊อิ๊” บีหัวเราะชอบใจ

   ก่อนจะเดินมาจับมือผมแล้วเดินไปที่ 7 – 11 ต่อ

“ไปแกล้งพี่เค้า” ผมพูดพลางลูบๆหัวบี
“อิอิอิ” บีหันมายิ้ม

   ตอนนั้น...ว่านเดินตามมาเงียบๆ....ว่านไม่พูดอะไรเลย จนกระทั่งผมส่งบีเสร็จผมก็พาว่านไปนั่งทานก๋วยเตี๋ยว....ระหว่างรอก๋วยเตี๋ยว....จู่ๆว่านก็พูดขึ้นว่า...

“มือหายแล้ว”
“ก็ดีแล้ว” ผมตอบกลับไป
“.....”


   วันนั้น.....ขากลับผมจำได้ว่า.....เป็นครั้งแรกหลังจากที่ว่านเย็นชาใส่ผม.....ที่ว่านเอานิ้วมาจิ้มๆหลังคอผมเบาๆ....แต่ผมก็ไมได้ใส่ใจอะไร.....พอมาถึงบ้านว่าน....บ้านว่านก็เงียบงันเหมือนเคย.....ทำไมว่านถึงต้องชักพาให้ตัวเองอยู่กับความเงียบเหงาด้วยนะ.....ทั้งๆที่ผมเองก็พยายามดึงเค้าออกมา เหมือนจะดึงออกมได้แล้ว.....แต่เค้าก็มีอันต้องกลับมาอีกจนได้.....หรือผมยังใช้ใจดึงเค้าไม่มากพอ.....หรือเพราะผมยังเผื่อมันไว้ให้บีอยู่....ผมเลยไม่ทำอะไรลงไปให้มันสุด.....แม้แต่คำว่ารักผมก็ยังไม่เคยบอกว่านแม้สักครั้ง......



To Be Con

ออฟไลน์ me_alone

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 356
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +115/-1
คนแรกของตอน25
อย่างแรกขอบคุณเอมากเลยสำหรับคลิบเทควันโด้ สุดยอดจนน่าเรียน ถึงแม้อายุจะมาก จะได้มาปรับปรุงวิชาป้องกันตัวที่มีอยู่ให้มันดีขึ้น(ปราณกังฟูและคาราเต้) :z6:
อย่างที่สอง อ่านตอน24-25แล้วจากใจว่า ผมเจ็บไม่น้อยไปกว่าคุณเอเลย(สงสัยอินจัดคิดถึงตอนที่ลูกศิษย์ตัวเองงอน)
แต่.....อย่าน้อยความรักไม่ได้ทิ้งคุณเอ แล้วส่งน้องบีกลับมา คุณเอคงมีกำลังใจขึ้นนะ :sad4:
อย่างที่สาม ตอนนี้ไม่รุ้ว่าเป็นไงนะ แต่อยากบอกว่า อย่าทิ้งว่านนะไม่งั้นว่านจะเป็นผู้ใหญ่ที่เห็นแก่ตัวในอนาคตแน่ แต่กลับกันก็สามารถเอาน้องบีเป็นแบบอย่างไว้สอนน้องว่านก็ดี แต่อย่าทำแบบโค้ชนะไม่งั้นว่านคง....คิดว่าเอคงรู้ :3125:
อย่างที่สี่ ความคิดเอมั่นคงดีและจงมั่นคงต่อไปนะ เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์ และเมื่อถึงเวลาทุกคนและและวัฏจักรรอบตัวจะเข้าใจเราเอง (พูดยังกะนักวิชาการหรือนักเทศน์เลยเรา)  o13
เป็นกำลังใจให้เขียนต่อไปนะ ผมคงต้องไปสอนหนังสือไอ้ดื้อ3ตัว อีกอาทิตย์คงได้มาอ่านต่อ :z10:
:กอด1: ~ ขอบคุณสำหรับความคิดเห็นดีๆ ในอย่างที่สามผมเอาไปคุยกับพี่ป้อมแล้วเรื่องนี้



ว้าวววววววววว
ยินดีต้อนรับกรกลับมาของน้องบีค่าาาา
น้องว่าน อืม.............ยังไงดีล่ะ
จะว่าน้องยังเด็กก็เป็นแค่คำปลอบใจยังไงก็ไม่รู้สิคะ คุณเอ
สงสารก็สงสารอยู่ แต่น้องเหมือนกับ "ตบหัวแล้วมาลูบหลัง"
หรือคิดไปเองก็ไม่รู้สิ
น้องน่าสงสารที่ไม่มีใครคอยแนะนำให้คำปรึกษา "ที่ถูกต้อง"
ก็เลยเลือกเชื่อตัวเองว่าใครน่าเชื่อถือมากกว่า
แล้วตอนที่มาติด"พี่เอ"ก็คงเป็นที่รู้สึกอบอุ่น อ้อนได้ แล้วก็ได้รับความรักและการดูแลที่"พิเศษ"
พออะไรๆที่มันมากระทบ แถมยังถูกยกให้ตัวเองรู้สึกว่าระดับสูงกว่า น้องก็เลย.................
เฮ้อออออออออออออ
กลัวว่าน้องจะเก็บกด หากไม่มีเทควันโดนี่น้องอาจเตลิดได้เลยนะคะ
มาแยกตัวนี่ยิ่งยากค่ะ เด็กแบบนี้แก้ยากกว่าเด็กดื้ออีก เพราะเค้าคิดว่าตัวเองถูก

ยังไงก็เป็นกำลังใจให้คุณเอนะคะ
ฝากความคิดถึงให้น้องบี
แล้วก็ฝากความห่วงใยให้น้องว่านด้วยค่ะ
:กอด1: ~ ขอบคุณสำหรับอีกความเห็นดีๆ วันนี้ผมคุยกับพี่ป้อมในส่วนของที่ผมเน้นดำแล้วครับ พี่ป้อมเองก็เห็นด้วยว่าการที่ว่านเก็บอะไรไว้คนเดียวตลอด มันน่ากลัวกว่าคนที่มีอะไรก็พูดออกไปซะอีก



ยังไปส่งว่านอีกอ่ะ
เป็นนู๋ละลาขาด
ว่านน่ะเค้าเรียกว่ามองข้ามสิ่ง
ใกล้ตัว
ไม่ว่านหรือบีนู๋อยากให้พี่เอ
หนักแน่นให้มากขึ้น
รักตัวเองก่อนนะ
อย่าให้เด็กมาปั่นเรา
:กอด1: ~ ขอบคุณมากๆสำหรับกำลังใจนะครับ....ปรกติผมห่วงคนอื่นมากกว่าห่วงตัวเองอยู่แล้ว....ยิ่งกับคนที่ผมรู้สึกพิเศษด้วย....ไม่ว่าเค้าจะทำไม่ดีกับผมยังไง....ผมก็โกรธเค้าไม่ลงหรอกครับ



วะวะวะว้าว นางเอกตัวจริงกลับมาแล้วอืม เดี่ยวก็คงมีปัญหากับว่านแน่ๆๆๆๆ ว่านคงรู้สึกแบบว่า มีคนมาแย่งสิ่งสำคัญไป ดีละ คราวนี้จะได้เห็นว่า ตัวจริงกับความจริง มันเป้นเช่นไร
:กอด1:



น้องว่านน่าเป็นห่วงนะ
   ด้วยเป็นวัยทีน อารมณ์ ร่างกาย ฮอร์โมน ก็เปลี่ยนแปลงเยอะ  + พื้นฐานความอบอุ่นของครอบครัวคาดว่าจะน้อยนะ (ที่เอเล่ามาน้องต้องอยู่คนเดียวบ่อยๆ แล้วก็ไม่มีพี่ น้องด้วย) + นิสัยของน้องว่านเอง ที่มีความมั่นใจ เชื่อมั่นตัวเองสูง (เพราะอยู่คนเดียวบ่อยเลยต้องคิดเอง ตัดสินใจเอง ขาดคนแนะนำ) มุ่งมั่น
   แต่ขณะเดียวกัน ก็ชอบทำตัวแปลกแยก เห็นได้จากชอบหามุมสงบอยู่คนเดียวบ่อยครั้ง มีความยืดหยุ่นน้อย กดดันคนรอบข้างด้วย  (ตอนเพื่อนในห้องคุยเสียงดังน้องก็ไปว่าเพื่อน จนเพื่อนๆไม่ชอบ  หรือตอนซ้อมเทควันโดแม้โค้ชจะซ้อมหนักจนเพื่อนเหนื่อย แต่ว่านก็ยังไม่หยุดซ้อมทำให้โค้ชอดชมว่านไม่ได้ กลายเป็นความกดดันให้เพื่อนไป)
    ทั้งหมดที่กล่าวมาจากความเห็นส่วนตัว ถ้าน้องเจอคนดี ก็จะประสบความสำเร็จได้ไม่ยาก  แต่ถ้าเจอมารนำทางอ่ะนะ ก็หลงผิดแบบไม่รู้ตัวเลย (อย่างที่น้องเจออ่ะนะ ตอนอาจารย์กบมาสอบนั่นแหละเห็นทันตาเลย)
    ถ้าน้องว่านยังไม่รู้ถูก รู้ผิด หรือมีคนแนะนำเรื่องนิสัยอ่ะนะ คงจะอยู่ในสังคมลำบาก เพราะยังงัยมนุษย์ก็เป็นสัตว์สังคม ต้องอยู่ร่วมกัน เอื้อเฟื้อ ช่วยเหลือกัน ถ้าน้องปรับนิสัยให้ยืดหยุ่น รับฟังคนอื่นให้มากขึ้นก็จะมีคนรักมากขึ้นนะ  เพราะมุมอื่นน้องก็ยังมีความน่ารักของตัวเอง โดยเฉพาะตอนอยู่กับเอ  :o8:
     แล้วนี้น้องบีกำลังกลับมาแย้ว  :กอด1: แล้วน้องว่านจะทำงัยเนี่ย  :เฮ้อ:
รักน้องบี แต่ก็ห่วงน้องว่านด้วย  :L2:
:กอด1: ~ ผมเอาความเห็นตรงนี้ปรึกษาพี่ป้อมแล้วครับ กำลังหาแนวทางการแก้ไข




:กอด1:
ขอขอบพระคุณแทนน้องว่านด้วยนะครับที่มีคนห่วงใยใสใจเค้าขนาดนี้
ผมสัญญาไม่ว่าสุดท้ายจะเป็นได้แค่พี่น้องก็ตาม ยังไงผมก็จะไม่ทิ้งว่านให้ว่านต้องโดดเดี่ยวแน่นอน
ขอบคุณอีกครั้งสำหรับทุกความเห็น แล้วก็คำแนะนำนะครับ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






pobbmit

  • บุคคลทั่วไป
ดีจัยจังที่บี กลับมาแล้ว พาน้องชายน่ารักมาฝากพี่เอ ในอนาคตอีกคนด้วย

ชอบอ่านตอนมีบีมากๆ น้องกวนๆ ตลกๆ น่ารักดีครับ

ไม่เหมือนตอนว่านอ่านแล้วเหมือนจะเครียด ซีเรียสๆ กว่าเยอะเลย

มาวันแรก น้องบีก้อโดนสำรวจซะทุกขุมขน ขนบีน้อยยังไม่มาดีจัง ถ้ามาเด๋วไปเล่นของน้อง แทนเนอะ5 5 5

ออฟไลน์ me_alone

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 356
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +115/-1
ดีจัยจังที่บี กลับมาแล้ว พาน้องชายน่ารักมาฝากพี่เอ ในอนาคตอีกคนด้วย
ชอบอ่านตอนมีบีมากๆ น้องกวนๆ ตลกๆ น่ารักดีครับ
ไม่เหมือนตอนว่านอ่านแล้วเหมือนจะเครียด ซีเรียสๆ กว่าเยอะเลย
มาวันแรก น้องบีก้อโดนสำรวจซะทุกขุมขน ขนบีน้อยยังไม่มาดีจัง ถ้ามาเด๋วไปเล่นของน้อง แทนเนอะ5 5 5
:กอด1: ~ น้องบีน่ารักสดใสครับ ต่างกับว่านค่อนข้างขรึมๆเครียดๆ ขนาดบีเองยังไม่ค่อยอยากยุ่งกับว่านเลย

ออฟไลน์ me_alone

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 356
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +115/-1
ช่วงที่ 27


                  หลังจากที่บีกลับมาซ้อมไม่กี่วัน พลอยกับบีก็ดูสนิทกันเร็วมาก แต่ดูท่าทีแล้วพลอยจะชอบบีแบบเป็นพี่น้องกันซะมากกว่า เพราะหลังๆดูจะเน้นแกล้งกันเล่นกันราวกับเป็นพี่น้องคลานตามกันมา ดูบีจะมีความสุขดีถึงแม้ว่าจะไม่มีอ้นมาก็ตามที ส่วนน้องชายบีเอง ก็เริ่มออกลายซ่าเรื่อยๆ แถมยังเชื่อฟังพี่ชายมากมาย บีบอกให้ทำอะไรก็ทำตามหมดทุกอย่าง อืมม....ก็ดีแล้วที่เค้าเข้ากันได้ดี......ส่วนว่าน....ทุกครั้งที่ผมกอดหรือใกล้ชิดกับบี ว่านก็จะหันมามองอยู่เนืองๆ......


“บีๆ ไป 7 – 11 ปะ” ผมเรียกบีขณะที่บีกำลังหยอกกับพลอยอยู่อย่างสนุกสนาน
“แป๊บหนึ่ง” บีหันมาตอบ ก่อนจะเล่นกับพลอยต่อ


                  จากนั้นผมก็นั่งมองบีเล่นกับพลอย สักพักเหมือนบาสจะเหนื่อยก่อน เลยเดินมานั่งตักผม...คงเพราะเห็นพี่ชายเค้ามานั่งบ่อยๆมั้งเลยมานั่งบ้าง แถมยังดึงๆมือผมไปกอดไว้อีก


“เหนื่อยแล้วเหรอ” ผมถามน้องชายบี
“ครับ”
“สนุกไหม”
“สนุก” น้องชายบีหันมาตอบพลางยิ้มๆ
“พี่บีบอกว่าบาสดื้อ บาสไม่เห็นดื้อเลย”
“อิอิอิ” น้องชายบีหัวเราะเบาๆ

                  ระหว่างที่ผมคุยกับน้องชายบีอยู่ ไม่รู้ว่าบีหยุดเล่นกับพลอยตอนไหน บีเดินมาหาผมแล้วพูดว่า

“ออกๆ ที่เฮีย” บีพูดขึ้น พอบีพูดจบบาสรีบคลานออกมานั่งข้างๆอย่างรวดเร็วแล้วบีก็นั่งลงมาแทน ก่อนจะพูดว่า
“พี่เอ....ปะๆ” บีพูดด้วยน้ำเสียงอ้อนๆ
“พี่เอหนูไปด้วย” พลอยพูดขึ้น
“ไม่ต้องตามไปเลยนะ กุ้งเผือก” บีหันไปพูดติดตลกกับพลอย....
“สนิทกันเร็วจริงมีฉายาให้กันแล้ว” ผมพูดพลางลูบๆหัวบี
“แบร่ กุ้งเผือกๆ” บีหันไปทำหน้าทะเล้นใส่พลอย
“พี่เอ ดูบีมันว่าหนู” พลอยฟ้องแบบติดตลก
“บาส จัดการเลย” บีหันไปมองบาสก่อนจะสั่งให้น้องไปแกล้งพลอย ทันทีที่รับคำสั่งบาสก็วิ่งไปกระโดดเกาะพลอยทันที
“พี่เอ....ดูดิ น้องรุมแกล้งหนู”
“ฮ่ะๆๆๆ” บาสหัวเราะร่า
   
                  จะว่าไป...ผมไม่เคยเห็นพลอยร่าเริงแบบนี้มาก่อนเลยนะคุยบ้าง ฮาบ้าง แต่มันไม่มากเท่านี้ระหว่างที่ผมกำลังยืนดูพลอย บี บาส หยอกกันอยู่นั้น....ว่านก็เดินมาสะกิดผมเบาๆ....แล้วพูดว่า....

“ขอเล่นโทรศัพท์หน่อย” ว่านพูดเสียงนิ่งๆ สายตาของว่านจ้องมองไปทางอื่น
“.....” ผมไมได้ตอบอะไรกลับไป
“อยากเล่นเกมที่พี่เคยเล่นให้ดูคราวก่อน”ว่านคงหมายถึงเกมนกโกรธที่ผมเอามาเล่นให้พวก เกม ริว ฟิว ดูคราวก่อน

                  ผมไมได้พูดอะไร....แต่อย่างที่บอกไป....ปรกติของส่วนตัว ผมจะไม่ให้ใครยุ่ง.....แต่ว่า....ผมกลับยื่นให้ว่านไปอย่างง่ายดาย พอว่านรับเสร็จว่านก็นั่งลงข้างๆจุดที่ผมยืน พลางกดหาเกมนกโกรธ แต่ดูเหมือนน้องจะหาไม่เจอ ผมเลยนั่งยองๆแล้วกดให้น้อง

“พี่เอ...ไปยัง” บีหันมาถามผม
“อื่อ ปะๆ”
“พี่เอ หนูไปด้วย” พลอยพูดขณะที่พลอยพยายามก้าวเท้าลากน้องชายบีที่เกาะอยู่ที่ขาตามพวกผมมา
“ปล่อยพี่น๊า” พลอยพูดกับบาส ดูเหมือนบาสจะชอบใจเลยแกะแน่นขึ้นไปอีก
“พี่เอ....” น้องพลอยเรียกผมอีกครั้ง
“บี บอกน้องปล่อยพี่เค้าได้แล้ว” ผมพูดกับบีพลางเอามือลูบๆหัวบีด้วย
“ก็ได้” บีหันมาพูดกับผมก่อนจะหันไปหาบาสแล้วพูดว่า “บาส ปล่อยพี่เค้า” สิ้นคำสั่งบีบาสก็ปล่อยขาพลอยทันที
“เชื่องเน๊าะ”  พลอยพูดพลางหัวเราะ


                  แล้วผมก็พาบีไป 7 – 11 ก่อนจะกลับมานั่งเล่นที่ยิมเหมือนเคย แล้วพลอยก็เริ่มถามเรื่องส่วนตัวของบีไปเรื่อยๆ ทั้งเรื่องเรียน เรื่องที่บ้าน บีเองก็เล่าให้พลอยฟังอย่างตั้งใจ รวมถึงไล่รายชื่อสัตว์เลี้ยงให้พลอยฟังด้วยว่ามีตัวอะไรบ้างแล้วก็ชื่ออะไรบ้าง พลอยเองก็แอบอึ้งที่บ้านบีเลี้ยงสัตว์มากมายขนาดนี้ ผมเลยบอกว่าบ้านพี่พื้นที่ใหญ่มาก ไม่แปลกที่จะเลี้ยงสัตว์ได้มากขนาดนั้น แถมดูเหมือนว่าทางบ้านบีจะไม่ขัดขวาง แต่ก็ไม่ได้ส่งเสริม กระนั้นป๊าบีก็ยังขุดบ่อเลี้ยงปลากระเบนให้บี


“นี่ๆ...พี่บีเคยเล่าให้พี่ฟังว่า พี่บีเคยจับบาสเหวี่ยงใส่กำแพง แล้วตกลงมาบนเตียงนอน จริงป่ะ”  ผมถามน้องชายบีที่นั่งอยู่ข้างๆ พอผมถามจบบาสหันไปมองบีแล้วยิ้ม ก่อนจะหันมาพูดว่า
“ใช่”
“หา....บีเคยจับน้องเหวี่ยงใส่กำแพงด้วยเหรอ” พลอยถามซ้ำด้วยน้ำเสียงตกใจเล็กน้อย
“ก็มันดื้อ”
“อิอิอิ” น้องชายบีหัวเราะถูกใจ
“ไม่กลัวน้องเจ็บเหรอ” พลอยถามบี
“ม่ายยยย ผนังห้องผมม๊าเอาฟองน้ำมาปูนุ่มจะตาย” บีอธิบาย


                  แล้วระหว่างที่คุยๆกันอยู่นั้น จู่ๆบีก็ลุกขึ้นไปหยิบอะไรสักอย่างในกระเป๋า จังหวะนั้นเองน้องชายบีก็เปลี่ยนที่มานั่งบนตักผมแทนทันที พักหนึ่งพอบีกลับมาไม่รู้ว่าว่านมาใกล้วงสนทนาตั้งแต่ตอนไหน เพราะผมนั่งมองมาทางพลอยอยู่ พอบีเดินมาถึง ว่านดึงบีไปนั่งกอดซะงั้น อย่างที่เคยเกริ่นไปว่าบีกลัวว่าน ทำให้บีนั่งให้ว่านกอดแต่โดยดี แล้วว่านก็ยื่นโทรศัพท์ให้ผมคืน ก่อนที่จะสวมกอดบีเหมือนที่ผมทำเป๊ะๆ ตามด้วย....ซุกคอบีต่อหน้าผมเฉยเลย....


“......”


                  คือเวลานี้ผมควรทำยังไงเหรอ ดีใจดีไหมที่คนที่ผมรู้สึกดีด้วยทั้งสองคนรู้สึกดีต่อกัน....หือ....งั้นก็สามพีหน่ะซิ ไม่ใช่ละ.....แล้วผมก็นั่งคุยไปเรื่อยๆ......แล้วช่วงนั้นเอง....ผมรู้สึกว่าจุดที่นิ้วชี้ผมตกอยู่บนตักของน้องบาสนั้น....มันไม่ได้นูนขึ้นตามรอยยับ.....ผมลองเอานิ้วขยับไปมาเรื่อยๆ.....มันค่อยๆขยายได้ด้วย.....ใช่เลย....อืมมม....รู้สึกเหมือนบาสจะชอบแฮะ ผมเลยเอานิ้วชี้ถูไปถูมาเรื่อยๆ จนกระทั่งเด็กๆในยิมทยอยกลับจนหมด เหลือแค่ผม ว่าน บี บาส ซึ่งตอนนี้บาสหลับไปแล้ว


“บีไปเรียนพิเศษวันไหนบ้างอะ” ผมถามบี เวลานั้นบียังอยู่ในอ้อมกอดของว่านอยู่
“ทุกวันเลย กลับค่ำมาก เนี่ยะผมเพิ่งว่า เพราะภาษาอังกฤษครบคอร์สแล้ว”
“เรียนเยอะแบบนี้ก็น่าจะเก่งขึ้นเยอะเลยหน่ะซิ”
“ม่ายยย ไปเรียนแบบนั้นผมว่าเสียเวลา อาจารย์เอาของเล่นมาล่อ คิดว่าผมเป็นเด็กเจ็ดขวบหรือไง ดูถูกกันชัดๆ” บีพูดพลางใส่อารมณ์นิ๊ดๆ
“อ่าว แล้วในคอร์สบีมีคนเรียนอายุเท่าไหร่บ้าง”
“ก็ของ ม.ต้น ผมอะเด็กสุดแล้ว”
“อืมม....ถ้าเรื่องภาษาอังกฤษปรึกษาพี่ว่านซิ พี่เค้าเก่งนะ”
“.....” ว่านพอถูกพาดพิง...ก็ยังเงียบได้อีก....
“จริงเหรอ” บีเงยหน้าถามว่านด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น
“อื่อ”
“ดีเลย เดี๋ยวสอนการบ้านผมด้วยนะ”
“....” ว่านยิ้มให้บีแทนคำตอบ
“ว่าแต่....ไมได้ยินเสียงแอ๊ะนานแล้ว อยากได้ยินอีก”
“แอ๊ะ” บีส่งเสียงแอ๊ะออกมาพลางทำท่าทางเขินๆ
“เบิ้ลสองได้ม๊ะ”
“.....แอ๊ะ แอ๊ะ” แล้วบีก็ทำท่าเขินมากกว่าเดิมอีก
“น่ารักอะ อิอิอิ” ผมพูดพลางหัวเราะ
“แล้วพี่ว่านล่ะ....แอ๊ะได้ไหม” บีเงยหน้าขึ้นไปถามว่าน
“.....” ว่าน...นิ่งได้อีก....สรุปนี่ว่านสื่อสารทางโทรจิตไปแล้วใช่ไหม
“น๊าๆๆ พี่ว่าน แอ๊ะ นะๆ” บีอ้อนว่าน พลางทำตาหวานๆใส่ด้วย
“.....” ปรกติผมไม่เคยเห็นบีอ้อนว่านแฮะ
“อะ...แอ๊ะ” ว่านส่งเสียงตามที่บีขอร้องออกมาเบาๆ
“อีกๆๆ”
“แอ๊ะ”

                  ให้ตายซิ...ว่านร้องแอ๊ะ.....น่ารักชะมัด แถมทำท่าเขินอีก...มาด เงียบ เข้ม ขรึม พลันหายแว๊บไปทันที ถ้าไปเล่าให้ใครฟังก็คงไม่เชื่อแน่

“สองแอ๊ะเลยพี่ว่าน” บีอ้อนต่อ
“แอ๊ะ แอ๊ะ”
“พี่เอ...พี่ว่านแอ๊ะได้ด้วย” บีหันมาพูดกับผมด้วยน้ำเสียงตื่นเต้นดีใจ พอบีพูดจบว่านก็เอามือบีไปกัดซะงั้น
“ฮ่ะๆๆๆ” บีหัวเราะชอบใจกับท่าทีเขินๆของว่าน



                  จากนั้นไม่นานป๊าบีก็มารับครับ เหลือแค่ผมกับว่านสองคนในยิม ผมไม่รู้นะว่าวันนี้ว่านนึกครึ้มอะไรถึงคว้าตัวบีไปกอด ปรกติว่านไม่เคยทำแบบนี้กับใคร กับก๊อตเองก็มีบ้างตอนซ้อม แต่ถึงกับดึงไปกอดแบบนี้ไม่เคยมี แถมดูเหมือนว่าว่านจะใจอ่อนกับบีแล้วด้วย จากที่บีขอให้ว่านร้องแอ๊ะ ปรกติเรื่องแบบนี้ไม่ใช่ง่ายที่ว่านจะยอมทำ.....แล้ว.....วันนั้นที่ผมไปส่งว่าน คงเพราะว่านดูอารมณ์ดีขึ้นแล้วมั้ง  ผมเลยลองคุยกับว่านเกี่ยวกับเรื่องต่างๆ...ว่านก็ตอบมาบ้าง เงียบบ้าง....จริงๆเรื่องเงียบใส่กันอะไรแบบนี้ผมไม่ปลื้มเท่าไหร่ จริงๆมันไม่ควรมีด้วยซ้ำ...แต่ว่านหน่ะซิ....เฮ้อ.....จะรู้ไหมว่าความเงียบที่ว่านมีให้มันทำให้ผมเจ็บ.....เหมือนว่าตอนนี้ใจผมไมได้มีแค่บีคนเดียวซะแล้ว..........แล้วนี่ก็เป็นอีกวันที่ว่านอยู่คนเดียว....ตามลำพัง....ผมไม่อยากให้ว่านต้องโดดเดี่ยว....ผมต้องทำยังไงดี......



To Be Con



ตอนนี้ัสั้นหน่อยนะครับ วันนั้นไม่มีอะไรน่าสนใจ....แต่มันน่าจดจำ...วันที่ว่านกอดบี วันที่ว่านร้องแอ๊ะ....วันที่ได้ปลุกตัวเล็กของน้องบาสครั้งแรก อิอิอิ.....

ออฟไลน์ reneisance

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 440
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-0

ออฟไลน์ reneisance

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 440
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-0
เอ่อ เหมือนกับว่า ว่านเข้ามาทำตัวแบบนั้นนะดูผิวเผินเหมือนจะดีนะแต่ คิดความรู็สึกมันบอกว่า มันมี นัย อย่างอื่นอีก ยังไงก็นะ ดูแลบีให้ดีละกันนะ

bbyuqin

  • บุคคลทั่วไป
ตอนนี้ว่านคงรู้สึกเหมือนตัวเองหมดความสำคัญลงแน่ๆเลย แต่ไม่พูดออกมา...
แล้วที่ดึงบีมากอดอาจเป็นเพราะ ไม่อยากให้พี่เอกอดบีหรือปล่าวว่านเลยกอดไว้เอง...
ปล.ขอกรี๊ดดด ดังๆ น้องบีกลับมาแล้ว  :กอด1:

+1 จ้า

ออฟไลน์ z-Time

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 295
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-0
2 พี่น้อง บี-บาส น่ารักจังเลย  :man1:


น้องว่านก็ท่าทำตัวน่ารักๆ อย่างนี้ (ตอนเล่นกับน้องบี) เพื่อนๆคงเข้ามากกว่านี้  :L2:

kokoky

  • บุคคลทั่วไป
เท่าที่ฟังดู บรรยากาศอึมครึมเหมือนจะดีขึ้นนะคะ
น้องว่านที่รักษาระยะห่างก็ขยับเข้ามา
น้องบีช่วยสร้างโอกาสได้เยอะเลย
น้องบาสน่ารักมากกกกกกกกกกกก
เชื่อพี่ชายสุดๆ คำไหนคำนั้น น้องบาสตอนนั้นอายุเท่าไหร่หรอคะ

น้องว่านมีปฏิกิริยากับการกลับมาของน้องบี
แต่ก็ไม่รู้ว่าน้องคิดอะไรอยู่ดี เพราะน้องก็ยังมีออร่าที่ไม่สดใสเหมือนก่อน
อยากให้น้องว่านเปิดใจอีกครั้งรวมถึงเปิดใจกว่านี้จังเลยนะคะคุณเอ
ก็รู้ว่าพื้นฐานคนเราไม่เท่ากันแต่ก็อยู่ที่ตัวน้องเองว่าเลือกที่จะรับอะไร

ขอบคุณคุณเอค่ะ
ห่วงใยน้องว่าน
คิดถึงน้องบี     
เหมือนเดิมค่ะ :L2:

ออฟไลน์ •ไนท์คลุง•

  • Night ♥ .....
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 862
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-1
    • http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?action=profile
ว้าววว บีมาแล้วว :m1:

ทีนี้พี่เอจะเลือกใครล่ะเนี่ย  :confuse:

Y2Y

  • บุคคลทั่วไป
แอบตามาอ่าน สืบเนื่องมาจากทู้โน้นในห้องพูดคุย

คุณเอ แอบเจ้าชู้นะเนี่ยะ  อิอิ ล่อเล่น

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด