พิมพ์หน้านี้ - น้องชาย 2

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Boy's love => Boy's love story => นิยายที่โพสจนจบแล้ว => ข้อความที่เริ่มโดย: me_alone ที่ 24-04-2011 18:22:47

หัวข้อ: น้องชาย 2
เริ่มหัวข้อโดย: me_alone ที่ 24-04-2011 18:22:47
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้ เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณา กดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ

สรุปข้อสำคัญดังนี้

1.ห้าม มิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
2.ห้ามมิให้ โพสต์ข้อความที่ไม่เหมาะสมและเกิดความขัดแย้ง
3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่นี่หรือที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อขออนุญาตเจ้าของเรื่องก่อน


อ่านเพิ่มเติมที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0


---------------------------------------------------------------------------------------

นิยายเรื่องนี้เป็นเพียงเรื่องที่แต่งขึ้นตามจินตนาการของผู้เขียน
ไม่เกี่ยวข้องกับบุคคล สมาคม หรือ เหตุกาณ์จริงแต่ประการใดทั้งสิ้น


=======================

จากผู้เขียน
ในนิยายรัก หรือ หนังรัก สักเรื่องตอนจบของเรื่องมักเป็นอะไรที่พอเดาได้
คือ สมหวัง แล้วทุกอย่างก็ดูเหมือนจะจบลงแค่นั้น พระเอก หรือ นางเอกสมหวังแล้วบอกรักกันในตอนจบ ตามด้วยฉากสวยๆโรแมนติกสักหน่อย
ผิดหวัง แย่หน่อยก็คงเป็นพระเอก หรือ นางเอกไม่ได้รักกันสมใจเพราะเหตุผลหลายอย่างรุมเร้าเข้ามา อย่างทำร้ายความรู้สึกที่สุดก็คงจะเป็นใครสักคนหนึ่งในสองต้องจากไป
แล้วพระเอก หรือ นางเอกก็เหมือนจะยังตั้งปณิธานที่จะรักกันตลอดไป....นึกถึงโฆษณาปู่ชิวเลยนะครับ
แต่ในชีวิตจริง....มันไม่เหมือนนิยาย...ที่ความรักจะมีแค่ครั้งเดียว และ จะคงอยู่กับเราตลอดไป
ผมก็คนธรรมดาๆคนหนึ่ง...ก็ต้องมีบ้างที่หวั่นไหวกับใครสักคนที่เข้ามาทำให้เรารู้สึกพิเศษ
ยิ่งในช่วงเวลาที่เราหว้าเหว่ที่สุด....แค่ใครสักคนจับมือเราไว้...มันก็เพียพอจะทำให้รู้สึกอบอุ่นมากมาย
ในช่วงนี้จะเป็นช่วง เรื่องราวของ น้องว่าน ซึ่งต่อจากเรื่องราวของ น้องบี นะครับ ยังไงก็ขอฝากนิยายเรื่องนี้ไว้ด้วยนะครับ

....

ผมกำลังคิดว่าจะ Rewrite เพิ่มเติมในส่วนของน้องชา่ย 1 เพราะหลายจุดผมลืมลงรายละเอียดเชิงลึกไป
เช่น ทำไมอ้นถึงไม่ชอบโค้ช ทำไมผมถึงไม่สนใจโค้ช ทำไมโค้ชเหมือนอยากเอาชนะผม รายละเอียดที่ผมไปนั่งเล่นกับบีบ่อยๆ รายละเอียดของว่านก่อนหน้านี้
รวมถึงบทของคุณแม่น้องบีที่มีมากกว่าในเรื่องก่อนหน้านี้ที่เล่าไป ซึ่งผู้อ่านจะเข้าใจมากขึ้นว่าทำไมผมถึงเลือกที่จะไม่โทรหาบี
ที่สำคัญพอมาถึง น้องชาย 2 ปรากฏว่าเนื้อหาในส่วนของโค้ชที่มีผลในช่วงนี้ ซึ่งมันควรจะมีตั้งแต่ น้องชาย 1 แล้วนั้นกลับมีน้อยมากจนเกินไป
อย่างไรก็ตาม....ผมจะลองพยายามเรียบเรียงรายละเอียดอีกครั้งหนึ่งครับ


Me Alone


----------------------------------------------------


อ่าน น้องชาย Chapter แรก คลิกที่นี่ "น้องชาย 1" :  http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=15658.0 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=15658.0)



==================================

Link ไปที่ช่วงต่างๆคลิกข้างล่างเลยครับ

=  ช่วงที่ 1  = (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=24289.msg1428764#msg1428764)
=  ช่วงที่ 2  = (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=24289.msg1428766#msg1428766)
=  ช่วงที่ 3  = (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=24289.msg1430848#msg1430848)
=  ช่วงที่ 4  = (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=24289.msg1432873#msg1432873)
=  ช่วงที่ 5  = (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=24289.msg1434832#msg1434832)
=  ช่วงที่ 6  = (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=24289.msg1437050#msg1437050)
=  ช่วงที่ 7  = (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=24289.msg1438851#msg1438851)
=  ช่วงที่ 8  = (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=24289.msg1439916#msg1439916)
=  ช่วงที่ 9  = (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=24289.msg1442036#msg1442036)
=  ช่วงที่ 10  = (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=24289.msg1461823#msg1461823)
=  ช่วงที่ 11  = (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=24289.msg1461879#msg1461879)
=  ช่วงที่ 12  = (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=24289.msg1466432#msg1466432)
=  ช่วงที่ 13  = (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=24289.msg1481283#msg1481283)
=  ช่วงที่ 14  = (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=24289.msg1482844#msg1482844)
=  ช่วงที่ 15  = (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=24289.msg1484592#msg1484592)
=  ช่วงที่ 16  = (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=24289.msg1485465#msg1485465)
=  ช่วงที่ 17  = (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=24289.msg1486598#msg1486598)
=  ช่วงที่ 18  = (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=24289.msg1487817#msg1487817)
=  ช่วงที่ 19  = (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=24289.msg1489282#msg1489282)
=  ช่วงที่ 20  = (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=24289.msg1490690#msg1490690)
=  ช่วงที่ 21  = (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=24289.msg1493002#msg1493002)
=  ช่วงที่ 22  = (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=24289.msg1494710#msg1494710)
=  ช่วงที่ 23  = (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=24289.msg1496290#msg1496290)
=  ช่วงที่ 24  = (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=24289.msg1498424#msg1498424)
=  ช่วงที่ 25  = (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=24289.msg1499859#msg1499859)
=  ช่วงที่ 26  = (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=24289.msg1501761#msg1501761)
=  ช่วงที่ 27  = (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=24289.msg1502622#msg1502622)
=  ช่วงที่ 28 END  = (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=24289.msg1504746#msg1504746)
=  ส่งท้าย  = (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=24289.msg1505755#msg1505755)
เหตุการณ์ล่าสุด 1 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=24289.msg1509564#msg1509564)
เหตุการณ์ล่าสุด 2 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=24289.msg1527687#msg1527687)
เหตุการณ์ล่าสุด 3 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=24289.msg1539423#msg1539423)
เหตุการณ์ล่าสุด 4 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=24289.msg1544063#msg1544063)
เหตุการณ์ล่าสุด 5 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=24289.msg1554441#msg1554441)
เหตุการณ์ล่าสุด 6 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=24289.msg1568692#msg1568692)
เหตุการณ์ล่าสุด 7 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=24289.msg1572957#msg1572957)
เหตุการณ์ล่าสุด 8 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=24289.msg1576559#msg1576559)
เหตุการณ์ล่าสุด 9 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=24289.msg1581871#msg1581871)
เหตุการณ์ล่าสุด 10 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=24289.msg1587504#msg1587504)
ปิดเรื่อง (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=24289.msg1594362#msg1594362)

--------------------------------------------------------------------------

เปิดกระทู้ใหม่ครับ ไว้บ่นในห้องนิยาย อิอิอิ

A's Diary : http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=28465.0

หัวข้อ: Re: น้องชาย : ว่าน
เริ่มหัวข้อโดย: roseen ที่ 24-04-2011 18:33:19
 :z13: :z13:


หัวข้อ: Re: น้องชาย : ว่าน
เริ่มหัวข้อโดย: me_alone ที่ 24-04-2011 18:53:46
ช่วงที่ 1



        บ่ายวันเสาร์ที่เงียบสงบในสวนสาธารณะแห่งหนึ่ง ผมนั่งใจลอยถึงใครคนหนึ่ง บรรยากาศเย็นๆ ลมพัดเบาๆ ท้องฟ้าที่ว่างเปล่า “ซ่า...ซ่า....” เสียงน้ำในสระน้ำขนาดใหญ่ที่ถูกลมพัดจนเป็นคลื่นลูกเล็กๆกระแทกเข้ากับริมฝั่ง เสียงเด็กเล็กๆวิ่งเล่นกันอยู่ในส่วนของเครื่องเล่นที่อยู่ไม่ไกลมากดังมาอยู่ไรๆ
        ผมนั่งคิดเรื่องบีอยู่เงียบๆคนเดียว มือขวาผมถือโทรศัพท์เครื่องหลักอยู่หลวมๆ หน้าจอของโทรศัพท์ขึ้น Profile ของบีอยู่ ภาพบียังคงยิ้มให้ผมอยู่ในหน้าของ Profile นิ้วโป้งผมลูบไปลูบมาตรงปุ่มโทรออก “นี่มันก็ 5 วันแล้ว...บีไปไหนของเค้านะ” ผมคิดในใจ....เพราะปรกติถ้าบีไปไหนนานๆ หรือ ไมได้มาเค้าจะต้องโทรมาบอก แต่นี่เงียบเข้ากลีบเมฆไปเลย ครั้นจะโทรถามก็กลัวเค้าจะไม่พอใจ “เฮ้อออ...” ผมเอนหลังแล้วถอนหายใจเบาๆ


“ตี๊ดๆ ตี๊ดๆ” เสียงเตือนข้อความดังขึ้น ผมหันโทรศัพท์มาดูข้อความ
“ว่าน : พี่ผมได้ชุดใหม่แล้ว”
“ใส่แล้วถ่ายรูปส่ง MMS มาให้ดูหน่อยดิ” ผมส่งข้อความกลับไป


ว่าน เด็กชายที่ผมคุ้นเคยแต่ไม่สนิทด้วยเท่าไหร่ ผมเจอน้องครั้งแรกเมื่อนานมากๆแล้ว ตั้งแต่น้องอยู่ ป.5 ซึ่งนั่นหมายถึงผมเจอว่านก่อนจะเจอบีซะอีก แต่เนื่องจากเมื่อก่อนโค้ชเค้าเปิดสอนที่โรงเรียนอีกแห่งหนึ่งในตัวจังหวัดด้วย ทำให้ผมจะเจอว่านก็ต่อเมื่อมีการซ้อมเตรียมแข่งขัน แรกๆผมก็ไม่ได้สนใจน้องเค้าเท่าไหร่ อืมมม ตอนว่าน ป.5 ผมจำได้ที่เจอเค้าครั้งแรก น้องผอมมากเลย ผิวขาว ตาโต ว่านในตอนนั้นที่ผมรู้จัก เป็นเด็กขี้อาย ไม่เข้าสังคม ไม่ค่อยคุยกับใคร ชอบหลบอยู่คนเดียว ทำอะไรคนเดียวตลอด


“ตี๊ดๆ ตี๊ดๆ” เสียงข้อความดังขึ้นอีกครั้ง
“ว่าน : ถ่ายไม่สวยนะครับ ถ่ายเอง ไม่มีคนถ่ายให้” อ่านจบผมเลื่อนลงมาดูก็เห็นภาพที่แนบมาด้วย ว่าน ใส่ชุดเทควันโดตัวใหม่เอี่ยมคาดสายคาดเอวสายสีฟ้าเข้มที่เค้าขอผมไป
“เท่ดี” ผมตอบกลับไป


หลังจากนั้นไม่นานผมก็ได้รับข่าวร้ายเรื่องบี มันไม่ใช่เรื่องร้ายเองอะไรมากหรอกครับ สำหรับคนอื่นมันก็แค่...น้องไม่มาซ้อมต่ออะไรแบบนั้น แต่สำหรับผมมันคงไม่แค่นั้น จริงอยู่เกี่ยวกับเทควันโดมันไม่มีใครมาซ้อมได้ต่อเนื่องยาวนานมากๆหรอก หรูต่อเนื่องกัน 5 ปีก็สุดๆแล้ว เด็กสอบสายครั้งแรกเสร็จ หรือ แข่งครั้งแรกเสร็จใน 3 เดือนแรกก็ออกกันกว่า 40% ที่เหลือก็จะทยอยออกเมื่อครบ 6 เดือน 8 เดือน และ 1 ปี น้อยมากที่จะมีใครอยู่ซ้อมนานกว่า 1 ปีเอาเป็นผมพูดให้เข้าใจง่ายๆ ว่า ถ้าเด็กมา 100 คน จะมีคนซ้อมเกินกว่า 1 ปีประมาณ 10 คนแค่นั้น เพราะงั้นเรื่องเด็กเข้ามา หรือ ออกไปมันเป็นเรื่องปรกติสุดๆเลยทีเดียว ซึ่งคนที่สอนเทควันโดแบบผม หรือ คนอื่นๆน่าจะชินกับเรื่องพวกนี้ได้แล้ว กระนั้น...คนที่ไม่มาคราวนี้....เค้าไม่ใช่เด็กทั่วๆไปนี่นา.....เค้ามีความสำคัญต่อความรู้สึกผมมากมาย ผมไม่อยากฟูมฟายอะไรมากมายต่อหน้าคนอื่นเกี่ยวกับเรื่องนี้ ได้แต่เก็บเงียบๆไว้คนเดียว ระยะแรกผมแทบไม่อยากไปสอนเทควันโดเลย เพราะเหตุผลหนึ่งที่ผมไปไม่เคยขาดสักวัน....เพราะที่นั่นผมได้เจอบี....

“ครืดดดดด”

เสียงเลื่อนประตูกระจกฝืดๆบาดเดิมดังขึ้นในยิมวันนั้นมีมิ้น กับว่านนั่งอยู่กันสองคน ผมเดินเอาของไปวางไว้ที่ชั้นวางของก่อนไปเดินไปนั่งฟุบเงียบๆอยู่ที่โต๊ะแล้วคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อย


“พี่วันนี้ไม่ไป 7 – 11 เหรอ” เสียงใครบางคนทักขึ้นมา ผมหันมองไปตามต้นเสียง เห็นว่านนั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามโต๊ะ
“อืมม เดี๋ยวไป” ผมตอบกลับไป
“ไปด้วยกันเลยไหม ผมก็ว่าจะไปพอดี” ว่านพูดจบก็ยิ้ม
“ก็ได้”


“ติ๊งงง ติ่งงงงงงง”

        ผมยืนใจลอยอยู่หน้าตู้แช่น้ำของ 7 – 11 พักหนึ่งก่อนจะหยิบน้ำเดินไปจ่ายเงินที่เค้าเตอร์

“ปี๊บบ ปี๊บบบ ปี๊บบ.........3 รายการ 60 บาทคะ” เสียงพนักงานคนสวยดังขึ้นพร้อมรอยยิ้มที่น่าประทับใจเหมือนทุกๆครั้งที่มา
“พี่ซื้อไปเยอะจังตั้ง 3 ขวด เอาไปให้ใครด้วยเหรอ” เสียงว่านทักขึ้นขณะที่ผมกำลังยื่นเงินให้พนักงาน ผมหันไปมองว่านแล้วยิ้ม....
“นั่นซิ....ผมซื้อไปให้ใคร” ผมคิดในใจ


        พอถึงยิมผมก็เอาน้ำไปวางไว้ก่อนที่จะมานั่งพิงกำแพงตรงจุดที่ผมนั่งบ่อยๆ “ถ้าบีอยู่....บีคงมานั่งข้างๆผมซินะ....”ผมคิดในใจ และ เมื่อทันทีที่คิดจบ ว่านก็เดินมานั่งข้างๆผม

“พี่ นั่งคิดอะไรอยู่เหรอ”  ว่านถามขึ้น
“เปล่า นั่งคิดไปเรื่อยเปื่อยหน่ะ”
“อึ๊บบบ” เสียงว่านพยายามเปิดขวดน้ำ แต่ดูเหมือนว่ามันจะเปิดไม่ออก ก่อนว่านจะหันมามองผมแล้วบอกว่า
“พี่เปิดให้หน่อย”
“ได้ซิ” ผมยิ้มแล้วรับขวดจากมือว่านมาเปิดให้
“แกร๊ก” เสียงซีลที่ปิดฝาขวดไว้เปิดออก
“โหยย พี่เก่งอะ”ว่านพูดขึ้น
“เกี่ยวไหม” ผมพูดพลางยื่นขวดน้ำให้ว่าน
“พี่ขอดูมือหน่อย” ว่านพูดหลังจากดื่มน้ำไปหลายอึก
“จะดูลายมือเหรอ” ผมถามว่าน
“อื่อ แม่นนะ”
“จริง ? “
“จริง” ว่านตอบกลับด้วยความมั่นใจผมเลยยื่นมือให้

        แล้วว่านก็นั่งมองอยู่พักหนึ่ง ตามด้วยเอานิ้วชี้วาดไปมาประหนึ่งหมอดูมืออาชีพเลยทีเดียว

“พี่หน่ะ เชื่อคนง่ายนะ” ว่านเงยหน้าขึ้นมาพูด
“ทำไมคิดงั้นอะ” ผมถามด้วยความแปลกใจ
“แล้วพี่คิดว่าผมดูลายมือเป็นจริงๆเหรอ ฮ่าๆ” ว่านพูดขึ้นพลางหัวเราะชอบใจ ระหว่างนั้นผมก็จับมือว่านมาดูบ้าง
“พี่ทำไรอะ” ว่านถามขึ้น
“เดี๋ยวพี่ดูให้บ้างไง” ผมตอบกลับไป
“พี่ดูเป็นเหรอ”
“คอยดูแล้วกัน” พูดจบผมก็ยิ้มก่อนก้มหน้าลงไปดู.....

        จริงๆผมก็ดูไม่เป็นหรอกครับ ว่าจะเล่นมุขคืน ระว่างนั้นผมก็ทำแบบเดียวกับที่น้องทำ....อืมม...มือว่านนุ่มจัง.....

“ว่านไม่ค่อยได้ทำงานบ้านเหรอ”
“ทำไมอะครับ”
“มือนุ่มมากอะ เหมือนไม่เคยทำงานหนัก”
“หนักยังไง”
“ก็ยกของอะไรแบบนี้”
“ฮะๆ” ว่านหัวเราะชอบใจ ก่อนจะพลิกมาจับมือผมไว้แล้วเอียงตัวมาพิงไหล่ผม
“พี่...บีไปไหน” ว่านถามขึ้นเบาๆ
“อืม...เห็นว่าที่บ้านเค้าให้หยุดเรียนสักพักหน่ะ เดี๋ยวคงกลับมามั้ง”
“แบบนี้พี่คงเหงาแย่”
“ไม่หรอก”
“เย็นนี้พี่ไปส่งผมได้ไหมอะครับ”
“อืมมมม....ได้ซิ”
        แล้วว่าน...ก็เอนตัวพิงผมแล้วกำมือผมไว้หลวมๆเหมือนที่บีเคยทำ....แล้วก็คุยเรื่องสนุกกัน...เหมือนกับบี....


        หลังซ้อมเสร็จผมก็พาว่านมาส่งที่บ้าน ไม่ใช่ครั้งแรกที่ผมมาบ้านน้อง ทุกๆครั้งที่ผมอย่างเดิมที่ผมเจอเลยก็คือบ้านว่านจะปิดไฟทั้งหลัง ผมเคยถามว่านเรื่องที่บ้าน....ว่านมีคุณแม่ดูแลคนเดียวครับ ส่วนคุณพ่อผมไม่ได้ถามถึง
“ขอบคุณครับ” ว่านลงจากรถก็หันมายกมือไหว้ผม ก่อนจะปีนรั้วเข้าบ้าน
“ไม่มีกุญแจเหรอ” ผมถามว่าน
“มีครับแต่ขี้เกียจไข” ว่านยิ้ม
“พรุ่งนี้เจอกัน”
ว่านหันมายิ้มให้ก่อนจะตอบกลับมาว่า“ครับผม” แล้วก็เข้าบ้านไป



--------------------------------------------------



        เฮ้อ....ช่วงนี้ผมมีปัญหาที่มหาลัยนิดหน่อย ไม่ใช่ปัญหาเรื่องการเรียนหรอกครับ แต่มันเป็นปัญหาของคนที่ไม่มีความรับผิดชอบกลุ่มหนึ่ง จริงๆปีนี้ผมคิดว่าผมจะไม่ยุ่งกับเรื่องกีฬาของมหาวิทยาลัยแล้วนะครับ แต่สุดท้ายมันก็มีปัญหาเกิดขึ้นให้ผมต้องไปยุ่งจนได้ ทั้งรายชื่อนักกีฬา หลักฐานที่ต้องส่ง คนที่ต้องรับผิดชอบเค้าไม่ทำอะไรเลย เค้าบอกแค่ว่ามันไม่ใช่หน้าที่เค้า ที่หนักสุดคือประธานชมรมเค้าไมได้แต่งตั้งให้ใครทำ ดังนั้นน้องรองประธานชมรมจึงต้องรับภาระทั้งหมด ส่วนโค้ชหน่ะเหรอครับบอกคำเดียวเลย “ถ้าพวกมันไม่ทำ ก็ไม่ต้องส่ง ทำไมพี่ต้องไปตามเรื่องพวกนี้ด้วยล่ะ” พูดง่ายอะ แล้วเชื่อป่ะครับ เค้าทำอย่างที่เค้าพูดจริงๆด้วย จริงๆเค้าน่าจะรู้นะว่าทางมหาวิทยาลัยเค้าก็ไม่ได้ง้อนะ
        สุดท้ายคนที่วิ่งเรื่องทั้งหมดก็คือผม กับรองประธานชมรม ส่วนประธานชมรมกับคุณโค้ชหน่ะเหรอ....เค้าสายเดียวกันครับ ซี้กันมาก หรือ จะพูดง่ายๆว่าประธานชมรมหน่ะเด็กโค้ชเค้าเลยก็ว่าได้ แนวคิดเลยได้มาเหมือนๆ กัน ถ้าไม่ติดว่ามีน้องๆนักกีฬาเป็นตัวประกันผมคงไม่วิ่งเรื่องนี้ต่อให้....แล้วเรื่องที่เกิดขึ้นอยู่นี้....ก็มีรู้กันอยู่แค่ 4 คนครับ คือ ผม น้องรองประธานชมรม โค้ช แล้วก็ประธานชมรม ผมถือคติไฟในอย่านำออก ไฟนอกอย่านำเข้า ผมเลยไม่ได้ไปตีโพยตีพายกับใครเรื่องนี้
เย็นวันนั้นหลังจากที่ไปวิ่งเรื่องเอกสารให้น้องๆเสร็จ ผมก็มาที่ยิมตั้งแต่บ่าย 3 โมง เพื่อมานั่งตรวจงานที่เหลือว่ายังต้องทำอะไรอีกบ้าง แล้วระหว่างที่ผมนั่งตรวจงานอยู่นั้นเสียงประตูเลื่อนก็ดังขึ้น ผมหันไปมองที่ประตูก็เห็นว่านยืนมองมาทางผมอยู่เหมือนกัน


“คิดว่าวันนี้พี่มิ้นจะมาก่อนซะอีก” ผมพูดลอยๆ
“คาบว่างครับ ขอยามเค้าออกมาก่อน” ว่านยิ้ม


        คุยเสร็จผมก็นั่งตรวจเอกสารต่อ ระหว่างนั้นว่านก็ถอดรองเท้า แล้วก็เดินเอากระเป๋ามาวางที่ชั้นวาน ก่อนจะมานั่งที่โต๊ะฝั่งตรงข้ามกับผม

“พี่ทำอะไร” ว่านถาม
“งานชมรมอะ นั่งเช็คว่าพี่คนไหนยังไม่ส่งหลักฐานอะไรบ้างหน่ะ” ผมตอบกลับไป
“ผมช่วยไหมอะ”
“ทำเป็นเหรอ”
“โหย พี่ดูถูกกันนี่นา งานแค่นี้ใครว่าผมจะทำเป็นเล่า ฮ่าๆๆ” ว่านหัวเราะชอบใจ
ว่านหัวเราะเสร็จก็พูดต่อว่า “แล้วถ้าพี่ไม่สอนผมจะรู้ไหมล่ะ”
“เอาดิ” ผมตอบกลับไป


        พอผมพูดจบว่านก็ลุกขึ้นแล้วมายืนอยู่ข้างๆผม ผมก็ชี้ๆ สอนงานว่าน แล้วว่านก็แบ่งเอกสารไปยืนช่วยตรวจอยู่ข้างๆผม พักหนึ่งว่านก็หันมามองผมแล้วพูดว่า


“พี่...ผมเมื่อย”
“เมื่อยก็นั่งดิครับ บอกพี่จะหายไหม” ผมตอบกลับไปแบบยิ้มๆ
“นั่งได้นะ” ว่านถามกลับมา
“ใครห้ามอะ” ผมตอบกลับไป
“พี่ขยับถอยออกมาหน่อยซิ”
“ทำไมอะ” ผมถามพลางขยับเก้าอี้ออกห่างจากโต๊ะเล็กน้อย

        หลังจากผมถามจบว่านก็จับขาผมข้างหนึ่งอ้าออกไปแล้วว่านก็นั่งลงบนขาผมซะงั้น

“โอ๊ยยย” ผมอุทานขึ้นทันทีที่ว่านนั่งลง
“เป็นไรพี่” ว่านถามผม
“ก้นแหลมอะ ทิ่มขา เจ็บ” พอผมพูดจบว่านก็ขยับๆขึ้นมาอีกหน่อยจากที่นั่งอยู่แถวหัวเข่ามาที่ต้นขาผมแทน
“ตรงนี้อะ เจ็บอยู่ไหมครับ” ว่านหันมาถาม
“อืมมม ไม่แล้วอะ แล้วทำไมไม่เอาเก้าอี้มานั่งดีๆล่ะ”
“....” ว่านไม่ตอบแต่ยิ้มให้แล้วหันกลับไปตรวจเอกสารต่อ
แล้วระหว่างที่ตรวจเอกสารอยู่นั้น ว่านก็พูดขึ้นมาลอยๆว่า “ถ้าบียังอยู่ก็คงจะดีเน๊าะ...จะได้มีคนชวนพี่คุย....พี่จะได้ดูไม่เหงา”
“อืม....นั่นซิ”


        แล้วไม่นานเท่าไหร่เอกสารกองโตก็ถูกตรวจเช็คจนเสร็จ ตอนนั้นน้องๆก็เริ่มมาเยอะแล้ว ว่านเองตอนนี้ก็ยึดขาผมเป็นที่นั่งไปเลย แม้แต่ตอนพัก ผมนั่งบนเก้าอี้ว่านก็จะมานั่งตรงขาผมด้วย อืม....แล้วน้ำที่ว่านดื่มก็เป็นน้ำที่ผมเคยซื้อมาให้บีอะครับ....ตอนนี้ไม่ใช่บีแล้วที่หยิบมาดื่มแต่เป็นว่านแทน.....หลังจากวันนั้นทุกๆครั้งที่มีการเข้าคู่....ก็เป็นว่านอีกนั่นแหละที่มาคู่กับผมตลอด
        วันนั้นช่วง 30 นาทีหลังโค้ชเค้าให้เข้าคู่เตะครับ วันนี้ผมต้องเข้าซ้อมด้วยเพราะคู่ขาด ส่วนพี่ป้อมก็รับผิดชอบสอนเด็กๆ แล้วการเตะก็เริ่มขึ้น ผมเตะกับว่านแบบสบายๆครับ เน้นสนุก กับ พัฒนาฝีมือน้องเข้าว่า เตะไปสอนไปพักหนึ่งเหมือนโค้ชเค้าจะไม่พอใจเลยพูดว่า“เอ...ส่วนสอนก็ส่วนสอน เวลาต่อสู้ก็เตะไปไม่ใช่เวลาสอน”

        ผมหันไปมอง แต่ก็ไม่ได้สนใจแล้วก็สอนน้องต่อ จนเหลือ 15 นาทีก่อนเลิก โค้ชก็ให้ทุกคนไปนั่งขอบๆเบาะ แล้วให้ขึ้นมาเตะทีละคู่ ซึ่งคู่ผมกับว่านเป็นคู่แรก การเตะนั้นผมก็ยังเน้นเหมือนเดิมคือสนุกกับพัฒนาฝีมือน้อง ซึ่งแน่นอนมันขัดใจโค้ชเค้าตั้งแต่ตอนซ้อมแล้ว เค้าเลยพูดว่า“รู้ป่ะว่านมันเตะแต้มนำเอไปแล้ว”

        ผมไม่สนใจคำพูดโค้ชแล้วเล่นกับว่านต่อพอเตะกันครบ 3 นาทีโค้ชก็ให้ไปนั่งข้างๆเบาะแล้ววิจารณ์ที่ผมเตะกับว่าน ซึ่งได้ใจความว่า ผมเตะช้ากว่าว่านว่านเตะแต้มนำผม และการ์ดผมอ่อนมากจนว่านเจาะทำแต้มได้ง่ายๆ แต่ผมไม่ได้ซีเรียสเรื่องคำวิจารณ์เพราะว่านเองก็น่าจะรู้ว่าผมออมมือให้อยู่ ส่วนโค้ชหน่ะซิ...เต็มที่เลยทีเดียว และ นี่มันไม่ใช่ครั้งเดียวที่โค้ชพูดทำนองแบบนี้

        หลังจากซ้อมเสร็จผมก็ไปนั่งตรงที่นั่งประจำ ว่านก็มานั่งพิงอยู่ข้างๆแล้วถามเกี่ยวกับอะไรๆที่เตะกันไปเมื่อครู่ ผมก็บอกว่านเกี่ยวกับเรื่องทางแก้ ทางป้องกันว่านเองก็ตั้งใจฟังอย่างสนใจโดยมือข้างหนึ่งของว่าน....จับมือผมไว้อยู่ แล้วก็.....ไม่รู้ว่าผมพูดดังไป หรือ โค้ชเค้าหูดี เค้าเดินมานั่งด้วย แต่นั่งตรงข้ามกับผมนะบรรยายยังไงดี เอาเป็นว่าคล้ายๆจับเข่าคุยกันอะไรแนวนั้น แล้วเค้าก็สาธยายแนวคิดของเค้าออกมาเป็นคุ้งเป็นแควซึ่งโดยรวมค่อนข้างจะสวนทางกับผมค่อนข้างสิ้นเชิง แต่ว่านก็ไม่ได้ถามถึงความขัดแย้งว่าทำไม ว่านนั่งฟังเงียบๆ ผมไม่รู้ว่าว่านคิดยังไงกับที่ผมกับโค้ชมีแนวคิดเกี่ยวกับเรื่องพวกนี้ต่างกัน แต่ช่างมันเถอะครับ

        วันนั้นก่อนโค้ชกลับบ้าน โค้ชยื่นเอกสารที่ผมตรวจแล้วมาให้ผมแล้วพูดว่า “ตรวจให้เรียบร้อยด้วยนะ แล้วเขียนสรุปให้พี่ด้วย ว่าใครน้ำหนักเท่าไหร่” ก่อนที่เค้าจะสะบัดก้นเค้าออกไปจากยิม....ผมคิดในใจ “คือ....ไอ่คุณพี่ครับนี่มันงานของคุณเมิงไม่ใช่เหรอครับ ไม่คิดจะทำจิ้งจกตุ๊กแกอะไรบ้างเหรอครับ” เพราะอย่างที่บอกครับ ผมไม่มีหน้าที่อะไรเลย ไม่มีเอกสารแต่งตั้งอะไรสักอย่าง ทำไมต้องเป็นผมที่ทำล่ะ......แต่ก็อย่างว่าอีกแหละ...ไม่ทำน้องนักกีฬาตาดำๆอีก 14 คนก็จะไม่ได้ไปแข่ง....แต่ก็อีกล่ะ...แล้วทำไมผมต้องรับผิดชอบชีวิตคนอื่นด้วย ทั้งๆที่คนที่ต้องรับผิดชอบเค้ายังไม่รับผิดชอบเลย

        ขากลับระหว่างที่ไปส่งว่านผมแอบเครียดเล็กน้อยเลยเผลอเอามือไปคว้ามือว่านที่นั่งอยู่ข้างหลังมาจับไว้...ทำไมถึงใช้คำว่าเผลอหน่ะเหรอครับ....ผมลืมไปว่าที่นั่งข้างหลังตอนนี้....เป็นว่าน....ไม่ใช่บี พอผมคว้ามือว่านมาจับไว้ว่านเองก็ไม่ได้ว่าอะไร ไม่ได้ดึงกลับ หรือ แสดงท่าทีว่าไม่ชอบในทางกลับกันว่านกำมือผมไว้หลวมๆอีกด้วยซ้ำ เหมือนที่บีทำเวลาที่ผมไม่สบายใจเลย กำมือผมไว้หลวมๆแล้วเอานิ้วโป้งลูบหลังมือผมเบาๆ เมื่อถึงบ้านว่าน...นี่ก็เป็นอีกวันที่บ้านว่านมืดทั้งหลัง...ด้วยความสงสัยผมเลยถามว่าน

“ว่าน...คุณแม่ล่ะ”
ว่านหันมามองผมแล้วตอบเบาๆว่า “แม่กลับมาแค่วันเสาร์อาทิตย์ครับ”
“เหรอ....เหงาแย่เลยเน๊าะ”
“ไม่หรอกครับ ผมชินแล้ว” ว่านตอบแล้วยิ้มแปลกๆ เหมือนยิ้มเพื่อกลบเกลื่อนอะไรซะมากกว่าก่อนที่ว่านจะเข้าบ้านไป....



To Be Con
หัวข้อ: Re: น้องชาย : ว่าน
เริ่มหัวข้อโดย: me_alone ที่ 24-04-2011 18:54:30
ช่วงที่ 2



        หลายวันต่อมาว่านกับผมเริ่มสนิทกันมากขึ้น จากที่เมื่อก่อนคุยกันแค่เป็นพิธีแต่ตอนนี้ผมกลับคุยกับว่านมากที่สุดแล้วในยิมว่านเองก็ดูเหมือนจะชอบเรื่องตลกที่ผมพูดจนบางครั้งเวลาคุยกันก็จะมีเสียงหัวเราะดังจนน้องๆในยิมหันมามอง แล้ววันหนึ่งว่านก็ก้าวเข้ามาใกล้ผมมากขึ้นอีก วันนั้นจำได้ว่าผมจำแป้นให้น้องๆเตะครับ แล้วคุณโค้ชให้เค้าน้องๆทิ้งไปตัวไปข้างหน้าในช่วงที่วางจาลงหลังจากเตะเสร็จแล้ว ซึ่งท่าเตะแบบนี้ก็เตะกันมาหลายครั้งแล้ว ส่วนมากน้องจะทิ้งตัวแล้วเบี่ยงตัวหลบเอง โดยไม่ชนผมที่จับแป้นอยู่

        แต่ว่า...วันนี้ว่านไม่ได้ทิ้งตัวหลบครับ....ว่านทิ้งตัวมาหาผมเลย....แล้วก็กอดผม...ตอนแรกผมคิดว่าว่านหยอกเล่น แต่เมื่อว่านเตะทุกครั้ง....กอดทุกครั้งผมเลยรู้สึกว่าว่านคงไมได้เล่นๆแล้วมั้ง....จริงๆกอดแบบนี้ถ้าจะมองธรรมดาก็ได้นะครับ เพราะบางยิมก็ให้ทิ้งตัวมาชนคนจับแป้นเลยแล้วก็กอดแบบที่เราลงแข่ง คือไม่ใช่เอามือมาโอบตัว แต่อ้าแขนออกแล้วใช้ต้นแขนบีบล๊อกแบบกอดให้ให้คู่ต่อสู้ดิ้นหนีได้ โดยที่ส่วนมือจะไม่กอดเข้ามา คือถ้าเค้าจะโดดถอยหลังก็ได้นั่นเอง แต่ที่ว่านกอดผมนี้...มันไม่ใช่แบบที่ใช้ลงแข่งอะครับ

        หลังจากเตะแป้นเสร็จแล้ว ผมก็กลับไปนั่งอยู่มุมเดิม....ว่านก็เดินตามมาเหมือนเดิม แต่ที่ไม่เหมือนเดิมคือว่านเปลี่ยนที่นั่งครับ....มานั่งตรงหว่างขาผมแทน แล้วก็พิงมาด้านหลังแบบบีเป๊ะ ว่านตัวสูงกว่าบีหน่อยหนึ่ง ว่านเลยทิ้งตัวนอนสบายเลยทีเดียวโดยต้นคอของว่านพิงอยู่ตรงบ่าผมพอดี แล้วว่านก็จับสองมือผมไปวางไว้ข้างตัวเค้าโดยสองมือของว่านก็ยังจับมือผมอยู่หลวมๆแบบเดิม....และแน่นอน...ไม่พ้นสายตาสาววายแห่งยิมเรา ที่แอบนิ่งยิ้มอยู่ริมเสาต้นเดิมอย่างออกหน้าออกตา

        จากนั้นก่อนเลิก 30 นาทีคุณโค้ชก็เอาอีกแล้วครับ จับคู่เตะกัน น้องว่านก็ไม่รอช้า คู่ครบไม่ครบก็ตะปบผมไว้ก่อนเลยแถมกอดมือผมไว้ซะแน่น จนเมื่อจับคู่เสร็จก็พบว่ามีน้องเหลืออยู่คนหนึ่งที่ไม่มีคู่ ผมเลยจะให้ว่านไปจับคู่กับคนที่เหลืออยู่ ส่วนผมจะนั่งดู แต่ว่านไม่ยอมว่านบอกคำเดียวว่า “ผมจะคู่กับพี่” จนพี่ป้อมต้องมาลงเพิ่มอีกคนให้ครบคู่ แล้วการเตะก็เริ่มขึ้น ผมก็เล่นกับว่านเหมือนทุกๆที คือไม่ได้เน้นชนะ แต่เน้นพัฒนาฝีมือให้ว่านมากกว่า แต่แล้วก็มาถึงจุดหนึ่งที่ทำเอาโค้ชฟิวขาด ( มั้ง ) คือผมใช้ขาหน้าเตะน้อง โค้ชเค้าเป็นกบอะไรก็ไม่รู้บางทีเหมือนเค้าจะมีนิสัยขวางโลกนิดๆคือ “ขอให้ได้ขัดสักหน่อยเหอะ กรูจะได้มีบทกับเค้าบ้าง” พอผมใช้ขาหน้าเตะน้องไปประมาณ 3 – 4 ครั้ง โค้ชก็สั่งให้ทุกคนหยุด แล้วไปนั่งข้างๆเบาะก่อนจะวิจารณ์เหมือนทุกครั้งที่เคยทำ

        แต่อย่างหนึ่งที่โค้ชว่าผมอ้อมๆคือการใช้ขาหน้า โค้ชชี้แจงสรุปได้ว่า “การใช้ขาหน้านั้น ไร้ประโยชน์ นอกจากทำแต้มไม่ได้แล้ว ยังเหมือนกับพวกขี้ขลาดไม่กล้าเล่น” ดังนั้นไม่ต้องเดาเลย โค้ช ให้ผมกับว่านออกไปเตะกันแค่สองคนให้น้องดู ตอนนั้นผมก็ไม่ได้สนใจยังใช้ขาหน้าอยู่ แล้วทันทีที่ผมเตะโค้ชก็พูดเลยว่า“เห็นไหมครับ ขาหน้าเตะยังไงก็ไม่ได้แต้ม แถมยังไม่มีน้ำหนัก ที่สำคัญเสียการทรงตัวอีก”

        เท่านั้นแหละครับ....เป็นจังหวะที่ว่านพุ่งตัวเข้ามาพอดี....ผมยกขาหน้าขึ้น....แล้วตบลงท่าของเทควันโดเรียกว่าช๊อปคิกส์...ภาษามวยไทยเรียกว่าบาทาลูบพักตร์เท้าของผมตบลงบนหน้าของว่านเต็มๆ ผมรู้สึกได้เลยว่ามันอุ่น แถมแฉะๆนิ๊ดหนึ่ง ว่านล้มลงกับพื้นตามแรงตบทันที ผมรีบลงไปดูว่านแทบจะทันทีที่ว่านล้มลงไป ว่านหันมามองผมทำหน้า งงๆ นิดหน่อย


“เป็นอะไรไหม” ผมถาม
“ไม่เป็นไรครับ” ว่านตอบแล้วยิ้ม ก่อนจะค่อยๆลุกขึ้น โดยมีพี่ป้อมมาช่วยประคอง ส่วนคุณโค้ชยืนพิงหน้าต่างดูเหตุการณ์อยู่ห่างๆก่อนจะพูดว่า
“เอ้า คู่ต่อไป”
“พี่เดี๋ยวผมดูน้องเอง” ผมพูดกับพี่ป้อมเบาๆ
“ok” พี่ป้อมตอบกลับมาก่อนที่ผมจะประคองว่านไปนั่งที่เก้าอี้
“เจ็บตรงไหนบอกพี่ซิ๊” ผมถามว่าน ว่านยิ้มแล้วตอบว่า
“ไม่เป็นไรจริงๆครับ เตะต่อก็ได้นะ” พอพูดจบ....เลือดสีแดงสดๆก็หยดลงบนกางเกงว่าน...ครับว่านปากแตก
“เฮ่ย! เลือดเต็มเลย” ตอนนั้นในปากว่านแดงเถือกเลยครับ


        ผมรีบประคองว่านไปที่ห้องน้ำเพื่อล้างปาก จนเลือดหยุดไหล แล้วกลับมานั่งคืน ตอนนั้นผมกลัวว่าว่านจะโกรธอยู่เหมือนกัน เลยบอกว่านว่า “พี่ไม่ได้ตั้งใจ” ว่านเองก็ตอบว่า “ไม่เป็นอะไร” ระหว่างนั้นผมก็ลูบหลังคอว่านเบาๆ จนหลังปิดยิมเสร็จผมก็พาว่านไปส่งที่บ้าน หลังจากที่ผมเผลอจับมือว่านไปวันแรก....จนถึงวันนี้ทุกวันที่มาส่งว่านที่บ้านผมจับมือว่านไว้ตลอดเลยครับ ว่านเองก็จะขยับมานั่งจนติดตัวผม รู้สึกอบอุ่นดีจังเลยครับ พอมาถึงบ้านว่านทุกอย่างก็มืดสนิดเหมือนเคย แล้วว่านก็ปีนประตูรั้วบ้านเหมือนเคย ดูเหมือนจะไม่มีอะไรแล้วผมเลยขับรถกลับบ้าน แต่เมื่อผมออกจากบ้านว่านไปได้ประมาณ 400 เมตร ว่านก็โทรเข้ามือถือผมครับ


“ครับว่า”
“พี่ไฟบ้านผมเป็นอะไรไม่รู้” ว่านพูดด้วยน้ำเสียงค่อนข้างกังวน
“เป็นอะไรเหรอครับ”
“คือ มันติดนะ แต่ว่าบางอย่างมันก็ไม่ติด”
“ยังไงเหรอ”
“คือ พัดลมติด แต่มันเบาๆ เครื่องเล่น DVD ก็ติด แต่ TV ไม่ติด ไฟบ้านติดแต่มันสลัวๆ”
“บ้านอื่นเป็นไหม”
“ไม่เป็นครับ” ว่านตอบกลับมา
“งั้นเดี๋ยวพี่ไปดูให้นะ”
“ครับ”


        พอวางสายเสร็จผมก็ขับรถวนกลับไปที่บ้านว่านอีกครั้ง แต่เมื่อมาถึง....ปรากฏว่า ทุกอย่างมันก็ดูปรกติดีนี่นา ไฟหน้าบ้านก็สว่าง ผมมองผ่านหน้าต่างเข้าไปก็เห็น TV ก็ดูได้ ผมเลยโทรหาว่าน


“พี่อยู่หน้าบ้านแล้ว”
“อ่อ ครับพี่ คือ ไฟมาแล้วอะครับ ไม่เป็นไรแล้ว”
“เหรอ อืม มีอะไรก็โทรหาพี่แล้วกันนะ”
“ขอบคุณมากครับ”


        แล้วผมก็วนกลับบ้าน พลางคิดไปถึงเรื่องเมื่อเย็นวันนั้นโค้ชเงียบเลยเรื่องขาหน้า จริงๆแล้วผมก็แค่หมั่นไส้เค้าตรงที่ว่าเค้าดูไม่ออกจริงๆเหรอว่าผมออมมือให้น้อง ถ้าขนาดนี้ดูไม่ออกแล้วที่ผ่านๆมาทุกอย่างที่เค้าพูดมาบอกมาทั้งหมดผมจะเชื่อถืออะไรได้ ผมเริ่มสงสัยทุกอย่างที่เค้าเคยบอก ทุกอย่างที่เค้าเคยวิเคราะห์ให้ฟัง ตอนนี้ระดับความน่าเชื่อถือในตัวโค้ชที่ผมมีให้มันลดจนเหลือในระดับวิกฤตแล้ว
        ถ้าถามว่าทำไมผมถึงไม่พูดหักหน้าเค้าตรงนั้น...มันเป็นเหตุผลทางการเมืองครับ โค้ช พี่ป้อม ผม เป็นคนสอน ดังนั้นการหักหน้าใครใน 2 คนต่อหน้าเด็กไม่ดีแน่ เพราะมันกระทบต่อความน่าเชื่อถือเพราะงั้นมีอะไรต้องไปคุยกันหลังไมค์ แต่คราวนี้โค้ชเค้าพูดต่อว่าผมอ้อมๆแบบขวางโลก ผมเลยต้องทำให้เค้าดูกันจะๆที่ว่าขาหน้าไร้ประโยชน์นั่นมันไม่จริงทั้งหมด แล้วมันก็ได้ผลที่ทำให้เค้าเงียบไปได้ และ นี่ก็เป็นอีกอย่างที่โค้ชเค้าฝังใจ เหมือนว่าผมคงไปท้าทายเค้าเข้าซะแล้วจะสงสารก็แต่ว่าน....ที่ต้องมาโดนผมเตะแบบนี้

ภาพท่าเตะช๊อปคิกส์ครับ
(http://news.nipa.co.th/image/siamrath/sports/18045_nokroo_1236825446_3344.jpg)



----------------------------------------------------------------



        วันต่อมาหลังจากเรียนเสร็จก็ปาเข้าไปบ่ายสี่โมงกว่าแล้ว ผมรีบตรงดิ่งไปที่ยิมทันที เมื่อไปถึงก็เจอน้องๆนั่งเล่นกันอยู่หลายคน หนึ่งในนั้นก็คือว่าน พอวางกระเป๋าเสร็จผมก็เดินไปหาว่านเพราะเป็นห่วงเรื่องที่เตะเค้าไปเมื่อวาน

“เป็นไงอะ หายเจ็บยัง” ผมถามว่าน
“หายแล้ว เมื่อวานเตะต่อก็ยังได้เลย”
“เหรอ ไม่เตะแหละดีแล้ว เดี๋ยวชุดพี่เปื้อนขี้เกียจซัก ฮ่ะๆๆ” ผมพูดติดตลกกลับไปว่านก็ยิ้ม แล้วก็หัวเราะตาม

        วันนี้...ผมจับแป้นให้น้องเตะเหมือนเดิม ว่านเองก็ยังเตะแล้วกอดผมอยู่เนืองๆ จนกระทั่งช่วงพักว่านวิ่งมากอดผมจากด้านหลัง ผมเลยหันกลับไปแล้วกอดว่านคืนเบาๆ ว่านซุกหน้าลงตรงอกผมหัวว่านชนคางผมพอดีเลย ทันใดนั้นเอง....ผมก็ได้เห็นสาวตองยืนยิ้มแล้วทำท่าเขินบิดไปมาประหนึ่งว่าถูกกอดเองซะงั้น ไม่นานหรอกครับประมาณ 2 – 3 วิได้มั้ง คนเยอะ ผมเลยรีบปล่อยมือ แล้วนั่นก็เป็นครั้งแรกที่ผมกอดว่านคืน หลังจากนั้นต่อมาทุกครั้งที่ว่านมานั่งพิงผมแบบน้องบีผมก็จะกอดว่านหลวมๆเหมือนที่เคยกอดบี

        เนื่องจากเมื่อวานผมทำน้องเจ็บวันนี้ผมเลยรู้สึกว่าอยากจะพาน้องไปทานอะไรที่น้องชอบสักหน่อย ใช่ครับว่านเคยบอกผมว่า ว่านชอบก๋วยเตี๋ยว ผมเลยกะว่าเลิกแล้วจะพาว่านไปทานก๋วยเตี๋ยวร้านหนึ่งเจ้านี้เค้าอร่อยมาก เมื่อถึงเวลาเลิกผมก็รอน้องๆกลับจนหมดแล้วก็ปิดยิม ระหว่างนั้นผมก็คุยกับว่านไปเรื่อยเรื่องเกมส์บ้าง การ์ตูนบ้าง รวมถึงเรื่องก๋วยเตี๋ยว


“ว่านวันนี้กลับช้าหน่อยได้ไหมอะ” ผมถามว่านพลางล๊อกประตูยิม
“อืมมม ก็ได้นะครับ” ว่านตอบกลับมา
“พี่ว่าจะพาไปทานก๋วยเตี๋ยวอะ ไปม๊ะ”
“เอาดิ วันนี้ผมยังไม่ได้ทานข้าวเที่ยงเลย” ว่านหันมาตอบด้วยน้ำเสียงดีใจ
“ทำไมไม่ทานอะ มัวแต่ลอกงานเพื่อนอยู่อะดิ”
“ไม่ใช่ ผมนั่งอ่านการ์ตูนต่างหาก เลยลืมดูเวลา ฮ่ะๆๆ” ว่านหัวเราะอย่างมีความสุข

        แล้วเมื่อผมเดินไปที่รถ....ผมก็เจอคุณพ่อน้องบียืนคอยอยู่ ผมกับว่านที่กำลังคุยกันสนุกปากถึงกับเงียบลงทันที แล้วยกมือไหว้คุณพ่อน้องบี

“พี่เอว่างไหม ผมมีเรื่องจะคุยด้วยหน่อย” พ่อน้องบีพูดขึ้น
“ครับ” ผมตอบกลับไปแล้วยิ้ม
“กำลังจะไปไหนกันหรือเปล่า” คุณพ่อน้องบีถามขึ้นมาพร้อมรอยยิ้มนิ๊ดๆบนใบหน้า
“กำลังจะไปทานก๋วยเตี๋ยวกันครับ” ผมตอบกลับไป
“อื่อ พอดีเลยผมก็ยังไม่ได้ทานข้าวเย็นเหมือนกัน เดี๋ยวไปคุยกันที่ร้านดีกว่า”


        ครับอย่างที่บอกไว้ตอน A's Diary ที่ 14 คุณพ่อน้องบีพูดถึงเรื่องเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นหลังจากที่น้องบีไม่ได้มาซ้อม ซึ่งใน A's Diary ผมไม่ได้บอกว่าว่านนั่งฟังอยู่ด้วย เพราะผมรู้สึกว่าตอนนั้นมันไม่เกี่ยวกับว่านเท่าไหร่ มาถึงตอนนี้มันเกี่ยวกับว่านเต็มๆเลยทีเดียว ซึ่งวันนั้นว่านก็ได้ยินทุกอย่างที่คุณพ่อน้องบีเล่าหลังจากทานก๋วยเตี๋ยวเสร็จผมก็ออกรถมาได้สักพักหนึ่งว่านก็ถามผมว่า


“พี่...ทำไมไม่โทรตามบีล่ะ”
“ว่านคิดว่าบีอยากกลับมาจริงๆเหรอ” ผมถามว่านกลับไป
“ผมไม่รู้ซิ....”


        วันนั้นผมขับรถผ่านหน้าบ้านบีหลังที่อยู่ในเมืองก่อนจะจอดรถที่หน้าบ้านบีแล้วหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรหา ซึ่งว่านก็เห็น รวมถึงได้ยินที่ผมคุยกับบี เมื่อผมวางสาย ว่านขยับมาพิงตัวผมเบาๆเหมือนจะปลอบใจผมล่ะมั้ง ก่อนที่ผมจะขับรถออกไป โดยที่ผมกำมือว่านไปตลอดทาง วันนี้....ผมนั่งนิ่งที่หน้าคอมพ์...ผมไม่รู้จะทำอะไรดี....นึกไม่ออก ใจหนึ่งเหมือนว่านจะมาแทนที่บีไปซะแล้ว....แต่ใจหนึ่งว่านไม่ใช่บี...บีเองก็ไม่ใช่ว่าน....อีกอย่างที่ผมทำกับบี ที่ผมรู้สึกกับบีมันไม่เหมือนที่ทำกับว่าน รู้สึกกับว่าน....มันต่างกัน...ลึกๆผมอยากให้บีกลับมา แต่ความหวังมันริบหรี่มากมาย คืนนั้นผมเกือบนอนไม่หลับ เพราะครุ่นคิดที่ต้องขัดแย้งระหว่างเหตุผลกับความต้องการลึกๆที่ร่ำร้องอยู่ในใจถึงใครคนหนึ่ง....ที่คุณพ่อของเค้าเพิ่งจะมาให้ความหวังกับผมที่กำลังจะทำใจเรื่องนี้ได้อยู่แล้ว.....ทั้งๆที่รู้ว่ามันแทบจะเป็นไปไมได้....แต่ก็ยังมีความหวัง ความรู้สึกแบบนี้มันอึดอัดจริงๆ



--------------------------------------------------



        วันนี้วันเสาร์ว่างแฮะ....ทำอะไรดี....วาดรูปเหรอ อืมม....ไม่ดีกว่าอยากกินหมูกระทะอะ ว่าแล้วก็โทรตามเพื่อนดีกว่า

“ดีค๊าบบบ ต๊ะว่างไหมอะ หมูกระทะกันๆ”
“อ่อ...เราไม่ว่างอะเอเย็นนี้มีธุระ”

“ดีค๊าบบบ ยุ้ยว่างไหมอะ หมูกระทะกันๆ”
“ขอโทษอะเอ พอดีเรายังทำงาน อ.วิเชียร์ยังไม่เสร็จเลย”

“ดีค๊าบบบ นนท์ว่างไหมอะ หมูกระทะกันๆ”
“เราไปงานบวชอะเอ คราวหน้าเน๊าะ”

“ดีค๊าบบบ ม่อนว่างไหมอะ หมูกระทะกันๆ”
“เราทานข้าวแล้วอะเอ วันพรุ่งนี้แทนได้ป่ะ”


        ผมยืนถือโทรศัพท์นิ่งอยู่ประมาณ 30 วิก่อนจะคิดว่าโทรหาใครต่อดี....ถ้าบียังอยู่ก็ดีซินะ จะได้ชวนไปกินหมูกระทะได้ แล้วตอนนั้นเองชื่อหนึ่งก็แว๊บเข้ามาในหัว “ว่านไงล่ะ” ว่าแล้วผมก็โทรหาว่านทันที

“ตรู๊ดดดดด ตรู๊ดดดดด ครับ”
“ว่าน ทานข้าวยัง”
“ยังเลยครับพี่”
“หมูกระทะกันม๊ะ”
“อ่า...เดี๋ยวผมขอแม่ดูก่อนนะ รอแป๊บหนึ่ง”
“.....” ผมรอเงียบๆด้วยใจระทึกหน่อยๆ คือถ้าครบ 5 คนแล้วชวดหมด ผมคงไปฟาดก๋วยเตี๋ยวเงียบๆคนเดียวแทนเลยล่ะ
“แกร๊กๆ” เสียงโทรศัพท์ของว่านเหมือนจะถูกหยิบขึ้นมา
“พี่เอ...กลับกี่ทุ่มครับ”
“ไม่เกิน 2 ทุ่ม”
“งั้นได้ครับ”
“แล้วเจอกัน”

        วางสายเสร็จผมรีบตรงไปที่บ้านว่านอย่างไว พอไปถึงก็เจอคุณแม่น้องว่านกำลังให้อาหารน้องแมวอยู่ ผมเลยยกมือไหว้ แล้วว่านก็เดินออกมาจากบ้านว่านใส่เสื้อแขนยาวสีขาว แทบด้วยเสื้อแขนสั้นสีดำกางเกงยีนส์รองเท้าสีน้ำเงิน


“เอ ฝากดูน้องด้วยนะลูก” คุณแม่น้องว่านหันมาพุดกับผม
“อ่า..ได้ครับ เดี๋ยวจะมาส่งตอน 2 ทุ่มนะครับ”


        แล้วผมก็พาว่านไปทานหมูกระทะครับเป็นร้านที่เคยไปกับบีบ่อยๆพอถึงที่ร้านว่านก็เลือกมุมที่อยากนั่ง เป็นมุมริมสระน้ำไม่มีหลังคาปิดเห็นท้องฟ้ายามเย็นได้ชัดเจนเลยทีเดียว ตอนนั้นร่านเพิ่งจะเปิดคนในร้านโล่งสุดๆไม่มีคนเลย พักหนึ่งพนักงานก็เอาตะเกียบ จาน แล้วก็ช้อน มาให้พอผมจับตะเกียบเพื่อจะแกะพลาสติกออกว่านก็ทักว่า


“ไม่ทำแบบนี้อะพี่” พูดจบว่านก็เอามือกำตะเกียบแล้วทำท่าเหมือนที่บีเคยทำแล้วถูกเสี้ยนตะเกียบแทงมือ
“ฮะๆๆ ไม่เอาอะ เดี๋ยวเหมือนบี”
“ฮะๆๆ” ว่านหัวเราะชอบใจ


        วันนั้นจำได้ว่าไปนั่งคุยไร้สาระเฮฮาไปเรื่อย แล้วผมเข้าเรื่องที่ว่าทำไมว่านถึงได้มาเรียนเทควันโด ว่านเล่าแบบเคร่าๆว่า ว่านเรียนเทควันโดครั้งแรกตั้งแต่ ป.5 ตอนนั้น คุณโค้ชเค้าไปเปิดสอนที่โรงเรียนที่ว่านเรียน ว่านสนใจเลยมาเรียน โดยมีเพื่อนว่านอีก 4 – 5 คนเรียนด้วย แต่พอจบ ป.6 มาต่อ ม.1 ก็มีการแยกย้ายโรงเรียน แยกย้ายห้อง หลายคนได้ติดระดับห้องคิงเลยทำให้หลายคนต้องเลือกเรื่องเรียนมากกว่าเรื่องกีฬา สุดท้ายเลยเหลือว่านมาเรียนคนเดียวจากเพื่อน 4 – 5 คนนั้น”[/b] แล้วคำถามที่จะขาดไม่ได้เลยก็คือ....


“ว่าน...มีแฟนยัง” ผมถามออกไป
ว่านหันมายิ้มๆเขินๆแล้วบอกว่า “ยังครับ”
“มีมองๆใครไว้บ้างม๊ะ”
“......” ว่านไม่ตอบแต่ทำท่าเขินๆกลับมาแทน

        จริงๆผมก็อยากรู้นะว่าว่าน Y ไหม แต่ไม่รู้จะถามยังไง เพราะที่ทำๆอยู่หลายอย่างผู้ชายเค้าไม่ทำกัน ถึงจะบอกว่าน้องเค้าอาจรู้สึกกับผมแบบพี่น้องก็เถอะ กระนั้นวันนั้นก็ไม่ได้ความคืบหน้าอะไรเรื่องแนวนี้สักเท่าไหร่แต่ก็ได้รู้จักว่านมากขึ้นหลายอย่าง เช่น ว่านชอบทานช๊อกโกแลต ไม่ชอบของเผ็ดมาก ชอบทานเมนูพริกไทยดำ แล้วที่สังเกตได้อีกอย่างคือถ้าว่านเปิดใจให้ใครแล้วว่านค่อนข้างจะฟังคำพูดของคนๆนั้นยิ่งถ้าเป็นคนที่ว่านศรัทธาด้วย ว่านจะเชื่อถือเค้าแบบสุดๆไปเลย ที่สำคัญ...ว่านเป็นคนที่....มีความเซนซิทีฟกับคนที่มีพฤติกรรม หรือ นิสัยที่เค้าไม่ชอบ ทั้งคำพูด พฤติกรรม หรือ การแสดงออก อย่างใดอย่างหนึ่ง ปฏิกิริยาของว่านคือ เงียบ ไม่คุยด้วย พูดง่ายๆว่า “เมินใส่” นั่นล่ะ

        วันนั้นหลังจากทานกันอิ่มแล้วผมก็นั่งคุยกับว่านต่อไปเรื่อยๆจนเกือบ 2 ทุ่ม ผมก็พาว่านไปส่งที่บ้าน สำหรับว่านผมว่าไม่น่าจะมีพิษภัยอะไร แต่นิสัยแล้วก็ความคิดของน้องเป็นผู้ใหญ่พอดูเลยทีเดียว แต่ยังมีปัญหาเรื่องการเข้าสงคมอยู่หน่อยๆเพราเท่าที่คุยกันว่านเพื่อนน้อย ถึงน้อยมากแล้วที่ว่านยังซ้อมเทควันโดอยู่ผมว่าลึกๆนอกจากความอยากเก่งของน้องแล้ว น่าจะมีโค้ชเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย เพราะโค้ชเวลาเค้าพูดอะไรมันจะดูน่าเชื่อถือมาก โน้มน้าวคนเก่งในระดับหนึ่ง แต่ในระดับร่วมงานจะทราบกันดีว่าเค้ามีดีแค่พูด สำหรับว่านก็ยังคงต้องดูๆกันต่อไปอีกสักระยะ

        เรื่องของวันนี้มันน่าจะจบลงแค่นี่ใช่ไหมครับ ไม่อะ....คืนนั้นผมจำได้ประมาณ 4 ทุ่มกว่า ขณะที่ผมกำลังนั่งฟังเพลง แล้วก็นั่งพิมพ์งานส่งอาจารย์ไปด้วยอยู่นั้นเสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้นครับ เป็นว่านที่โทรเข้ามา

“ครับว่าไง”
“พี่เอ....รบกวนหน่อยซิครับ คือคุณแม่เค้าต้องใช้โปรแกรมabcอะครับ”
“ด่วนไหมอะครับ”
“ด่วนมากครับ คุณแม่ต้องใช้พรุ่งนี้แล้ว” ว่านพูดด้วยน้ำเสียงลนๆ
“อืมมม....คือพี่ไม่มีอะครับ ถ้าจะใช้จริงๆเดี๋ยวพี่หาให้ แต่อาจดึกหน่อยนะครับ”
“ไม่เป็นไรครับ รอได้”
“งั้นเสร็จแล้วโทรหานะ”
“ครับๆ”

        ผมพักงานที่ผมทำอยู่แล้วเริ่มตามหาโปรแกรมให้ว่านทันที ไม่นานผมก็พบแล้วก็เริ่มโหลด ผมปิดโปรแกรมที่ใช้ internet หลายๆโปรแกรมลงเพื่อให้ IDM โหลดให้ได้เร็วที่สุด ภายใน 40 นาทีผมก็โหลดเสร็จ ก่อนจะนำใส่ในแฟลชไดร์แล้วก็ตรงดิ่งไปหาน้องที่บ้านทันที พอไปถึงผมก็โทรหาว่าน แล้วประตูบ้านว่านก็เปิดออก ว่านวิ่งออกมาหาผม

“อะ ได้แล้ว” ผมยื่นแฟลชไดร์ให้ว่าน
“ขอบคุณมากครับพี่” ว่านรับไปพร้อมยกมือไหว้ทีหนึ่ง
“อืมม แฟลชไดร์เอามาคืนพี่พรุ่งนี้ก็ได้” ผมยิ้มๆ
“ครับ”

        แล้วผมก็ขับรถกลับมาที่บ้านเพื่อมานั่งทำงานต่อ คืนนั้นจำได้ว่า ระหว่างช่วงที่ผม Offline โปรแกรม Chat ทั้งหมด เพื่อนที่จะเอาตัวอย่างรายงานมาให้ผมดูแล้วพบว่า ผมไม่ได้ Online เลยเค้าคิดว่าผมนอนไปแล้ว เค้าเลยไม่ได้ให้รายงานผมส่วนผมก็นั่งรอเค้า ก็ไม่เห็นเค้าจะ Online ส่งงานมาให้สักที จะโทรหาก็กลัวจะกวนเพราะดึกแล้ว สรุปกลายเป็นผมคิดไปเองว่าเพื่อนผมเค้าคงไม่ว่างมั้ง กลายเป็นว่างานล่าช้าไปอีก 1 วัน จริงๆผมว่าส่งเป็น E-Mail มาให้ก็ได้แต่เค้าก็ไม่ส่ง เฮ้อ....




To Be Con
หัวข้อ: Re: น้องชาย : ว่าน
เริ่มหัวข้อโดย: Goodfellas ที่ 24-04-2011 18:58:11
แวะมาต้อนรับเรื่องใหม่คร้าบ  :mc4:

+ ไปเลย o13
หัวข้อ: Re: น้องชาย : ว่าน
เริ่มหัวข้อโดย: u-only-one ที่ 24-04-2011 22:10:32
แวะมาให้กำลังใจน้องเอค่ะ แต่....ยังไม่ได้อ่าน ยังทำใจอ่านไม่ค่อยจะได้ :m23:
คือ...ตอนนี้ยังรักน้องบีมากอ่ะค่ะ แล้วที่เคยอ่านมาตอนเก่าๆไ่ม่ค่อยปลื้มน้องว่านเท่าไหร่ แหะๆ มีจิตอคติส่วนตัวนิ๊สนึง
น้องเค้าไม่ได้ทำไรหรอกนะ แต่แค่มุมมองส่วนตัวของพี่เองคิดไปไกลเอง ใจลึุกๆยังอยากให้้น้องบีกลับมา  :monkeysad:
หัวข้อ: Re: น้องชาย : ว่าน
เริ่มหัวข้อโดย: nonae ที่ 24-04-2011 22:12:56
 :z13: เอ เป็นกำลังใจให้นะ
หัวข้อ: Re: ...รักล้นใจ...(อัพครั้งที่ 16)
เริ่มหัวข้อโดย: yunjaejoong ที่ 24-04-2011 22:41:08
ทำมัยคุณเอไม่โทรหาน้องบีล่ะ ไมละไม่เข้าใจเลยต้องเป็นน้องบีเท่านั้น
หัวข้อ: Re: น้องชาย 2
เริ่มหัวข้อโดย: tuek ที่ 24-04-2011 22:57:17
ในใจก็ยังแอบเชียร์น้องบี
คิดถึงน้องบีอะ
เอน้องบีจะมาเรียนต่อไหม
แล้วเอได้คุยกับน้องบีบ้างไหม
แต่ก็เข้าใจนะว่าความที่ห่างกันไปมันก็ทำให้อะไรๆมันไม่เหมือนเดิม
+1 นะคะ
หัวข้อ: Re: น้องชาย 2
เริ่มหัวข้อโดย: w[o]w ที่ 25-04-2011 02:35:02
ตามมาอ่านจากน้องชาย
เป็นกำลังใจให้ครับ
หัวข้อ: Re: น้องชาย 2
เริ่มหัวข้อโดย: me_alone ที่ 25-04-2011 17:52:39
:z13: :z13:

 :กอด1:



แวะมาต้อนรับเรื่องใหม่คร้าบ  :mc4:

+ ไปเลย o13

 :กอด1: ~ ขอบคุณครับ



แวะมาให้กำลังใจน้องเอค่ะ แต่....ยังไม่ได้อ่าน ยังทำใจอ่านไม่ค่อยจะได้ :m23:
คือ...ตอนนี้ยังรักน้องบีมากอ่ะค่ะ แล้วที่เคยอ่านมาตอนเก่าๆไ่ม่ค่อยปลื้มน้องว่านเท่าไหร่ แหะๆ มีจิตอคติส่วนตัวนิ๊สนึง
น้องเค้าไม่ได้ทำไรหรอกนะ แต่แค่มุมมองส่วนตัวของพี่เองคิดไปไกลเอง ใจลึุกๆยังอยากให้้น้องบีกลับมา  :monkeysad:


 :กอด1: ~ ผมก็อยากให้บีกลับมา




:z13: เอ เป็นกำลังใจให้นะ

 :กอด1: ~ ขอบคุณครับผม



ทำมัยคุณเอไม่โทรหาน้องบีล่ะ ไมละไม่เข้าใจเลยต้องเป็นน้องบีเท่านั้น

 :กอด1: ~ จริงๆผมก็อยากโทรนะครับ แต่มันรู้อยู่แก่ใจว่าผลออกมายังไง มันลยไม่จำเป็นต้องโทรอะครับ




ในใจก็ยังแอบเชียร์น้องบี
คิดถึงน้องบีอะ
เอน้องบีจะมาเรียนต่อไหม
แล้วเอได้คุยกับน้องบีบ้างไหม
แต่ก็เข้าใจนะว่าความที่ห่างกันไปมันก็ทำให้อะไรๆมันไม่เหมือนเดิม
+1 นะคะ


 :กอด1: ~ รอลุ้นในเรื่องเลยครับ




ตามมาอ่านจากน้องชาย
เป็นกำลังใจให้ครับ

 :กอด1: ~ ขอบคุณครับผม
หัวข้อ: Re: น้องชาย 2
เริ่มหัวข้อโดย: me_alone ที่ 25-04-2011 21:50:53
ช่วงที่ 3



        ไม่กี่วันหลังจากที่บีไม่มาว่านเข้ามาสนิทกับผมได้เร็วมากๆ ไม่รู้ว่าเพราะผมเหงา หรือ เพราะที่ว่านทำอยู่นั้นมันคือสิ่งที่บีเคยทำ มันทำให้ผมรู้สึกเหมือนบีไม่ได้ไปไหน ยังอยู่ใกล้ๆผมนี่เอง สายตาของว่าน รอยยิ้มของว่าน เสียงหัวเราะแบบนั้น.....แต่ยังไงผมก็ยังรู้สึกข้างในลึกๆ ว่ามันไม่ใช่บีอยู่ดี......

        หลังจากเรียนเสร็จผมก็ขับรถช้าๆเรื่อยๆจากมหาวิทยาลัยไปที่ยิม พอถึงยิมผมก็เห็นมิ้น กับ ว่านนั่งเล่นกันอยู่คนละมุมอีกแล้ว จริงๆเด็ก 2 คนนี้ผมไม่รู้ว่าเค้าไปขัดใจอะไรกันไว้ เพราเท่าที่รู้จักทั้งสองคนมาก็ไม่เห็นจะคุยกันเท่าไหร่ ว่านเองหลายครั้งก็ทำเหมือนมิ้นไม่ตัวตนซะด้วยซ้ำ แต่ผมก็ไม่ได้ไปซักเพราะมันน่าจะเป็นเรื่องส่วนตัว พอผมจอดรถเสร็จผมก็เดินไป 7 – 11 เลย แต่ยังไม่ทันจะเดินห่างจากรถได้ถึง 5 ก้าวเสียงประตูฝืดๆก็ดังขึ้น แล้วก็มีเสียงว่านดังตามมา


“พี่เอ!! หวัดดีครับ ไป 7 -11 เหรอ ไปด้วยๆ”


        ผมหันไปมองที่ต้นเสียงเห็นว่านชะโงกหัวออกมามองด้วยสายตาและสีหน้าที่แสดงให้เห็นถึงการรอคอยคำตอบจากประโยคที่เหมือนจะคำถามที่พูดออกมาเมื่อสักครู่นี้ ผมยิ้ม ว่านยิ้มกลับมา แล้วก็รีบใส่รองเท้าก่อนจะกุลีกุจอวิ่งออกมาหาผมอย่างรวดเร็ว


“เรียนเป็นไงวันนี้” ผมถามว่านที่เดินอยู่ข้างๆ
“หนักครับ เจออาจารย์ที่เค้าไม่ใช่อาจารย์ประจำวิชามาให้งาน”
“อ่าว แล้วอาจารย์ประจำวิชาล่ะ”
“อาจารย์เค้าติดธุระครับ เลยให้อาจารย์ท่านนี้มาสอนแทน”
“อาจารย์อะไรเหรอ”
“ก็ตาอารักษ์อะครับ” ว่านทำเสียงเซ็งๆ
“โอ๊วว ตัวพ่อเลยนะเนี่ยะ อิอิอิ”
“ทำไมอะพี่รู้จักเหรอ”
“โหยย...ลองไปถามแกดิว่าจำพี่ได้ไหม”
“ฮ่าๆๆ”

“ติ๊ง ติ่งงงงงง”
        ผมแยกกันกับว่านไปเลือกซื้อของที่ตัวเองต้องการส่วนผมแค่น้ำก็พอแล้ว พอหยิบน้ำเสร็จผมก็เดินมาจ่ายเงินระหว่างที่ผมเดินไปจ่ายเงินผมเห็นว่านยืนเลือกพวกแซนด์วิชอยู่ แต่ผมก็ไม่ได้สนใจอะไรก่อนจะเดินไปจ่ายเงิน ระหว่างที่พนักงานคิดเงินส่วนของผมอยู่ ว่านก็เอาของที่ว่านเลือกมาวางในช่องเดียวกับผม แต่แยกคนละกอง ตอนนั้นผมเห็นว่าอีกช่องหนึ่งก็ว่างนี่นาทำไมว่านถึงไม่เอาไปวางช่องนั้น

“ไม่ว่างช่องสามอะ ว่างอยู่นี่”
“ไม่อะผมอยากจ่ายช่องนี้” พูดจบว่านก็เงยหน้าขึ้นมายิ้ม

        หลังจ่ายเงินเสร็จแล้วผมก็เดินกลับไปที่ยิม แต่ก่อนกลับ...ผมเดินเลี้ยวไปนั่งตรงที่ๆผมกับบีเคยนั่งทานโน้นทานนี่ที่ซื้อมาก่อนเข้ายิมกันบ่อยๆ ผมนั่งใจลอยเงียบๆ โดยมีว่านนั่งอยู่ข้างๆ ผมคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อย นั่งมองแสงแดดที่สะท้อนกับผิวน้ำเป็นประกายสวยดี ลมที่พัดเบาๆมาประทะหน้าเราอยู่เรื่อยๆ กลิ่นไอน้ำที่ระเหยหน่อยๆรู้สึกผ่อนคลายแฮะกับตรงนี้...แต่มันจะดีกว่านี้....ถ้าบีมานั่งด้วย

“พี่คิดอะไรอยู่” ว่านหันมาถามผมในขณะที่น้องกำลังทานแฮมชีสที่ถูกปิ้งจนมีร้อยไหม้หลายจุด
“คิดไปเรื่อยเปื่อยอะ” ผมหันมาตอบแล้วยิ้ม
“บีไม่มายิมเงียบลงไปเยอะเลย”
“นั่นซินะ....ว่าแต่ว่านชอบทานแฮมชีสเหรอ”
“ใช่ครับ ชอบมาก ยิ่งไหม้ๆหน่อยด้วยนะชอบเลย” พูดจบว่านก็กระเถิบเข้ามาใกล้ผมมากขึ้นจนชิดตัวผมแล้วฉีกแบ่งแฮมชีสที่อยู่ในมือมายื่นให้ผม
“ชิมดูซิ” ว่านพูดพลายื่นมาใกล้ปากผม
“อร่อยเหรอ”ผมถามซ้ำอีกครั้ง
“ลองดู”

        ทันทีที่ว่านพูดจบผมก็ก้มลงไปงับแฮมชีพที่อยู่กับมือว่านขึ้นมา รู้สึกเหมือนว่านจะตกใจนิ๊ดหน่อยที่ผมไม่เอามือไปหยิบ แต่ที่ว่านยื่นมาให้ใกล้ๆปากมันก็เหมือนจะป้อนอยู่ดีนี่นา

“ทำไมทำหน้างั้นอะ” ผมถามว่านพลางเคี้ยวไปด้วย
“ปะ..เปล่า ไม่มีอะไรครับ” ว่านหันหน้าออกไปมองทางอื่นทันที

        จะว่าไปก่อนหน้านี้ผมมัวแต่สนใจบีคนเดียวจนลืมมองว่านไปเลยแฮะ ยังจำวันที่ว่านกับบีเลือกที่ทานข้าวเย็นได้อยู่เลย ที่ว่านเลือกจะทานก๋วยเตี๋ยว บีเลือกจะทานข้าว สุดท้ายก็รู้ๆกันอยู่ว่าผมต้องพาไปทานข้าวอยู่แล้ว ผมเองก็ลืมนึกถึงความรู้สึกว่านตอนนั้นไปเลยว่าเค้าจะรู้สึกยังไง มาวันนี้ผมกับว่านคุยกัน เล่นกันอยู่สองคน ถ้าเป็นเมื่อก่อน ว่านก็คงได้เข้ามาแทรกแค่ช่วงเวลาสั้นๆเท่านั้น เพราะท้ายที่สุดผมก็ต้องเลือกบีก่อนอยู่แล้ววันนั้นผมนั่งเล่นตรงนั้นกับว่านอยู่พักใหญ่ก่อนจะกลับเข้ายิมมาเตรียมตัวฝึกซ้อม

        วันนี้ผมก็ยังถูกโค้ชติอยู่เนืองๆแต่ผมก็ไม่ได้สนใจอะไรมากมายรับฟังไว้ถ้ามันเข้าท่าก็เอามาปรับปรุงจนถึงช่วง 5 นาทีก่อนหมดเวลาซ้อมโค้ชก็เรียกน้องๆมานั่งรวมแล้วก็พูดเกี่ยวกับเรื่องทั่วไป รวมถึงเล่าเกี่ยวกับความหลัง แต่ช่วงที่โค้ชเล่าเป็นช่วงก่อนที่ผมจะมาซ้อมซึ่งโค้ชก็เล่าอย่างเมามันจนเลยเวลาเลิกไปเกือบ 15 นาที วันนี้พี่ป้อมไมได้มาครับ เลยไม่มีใครทัก ผมเองก็ไม่ได้สวมอุปกรณ์สำหรับบอกเวลาสักอย่าง แถมนาฬิกาที่ยิมดันมาถ่านหมดอีก กว่าโค้ชจะหยุดคุยก็ตอนมีผู้ปกครองมายืนคอยรอรับลูกหลานเค้าอยู่เกือบ 10 คน แล้วทุกๆคนก็ทยอยกลับกันเวลานั้นผมนั่งพิงกำแพงอยู่ตรงจุดเดิมว่านเองก็มานอนพิงผมอยู่ พอคนเริ่มซาลงแล้วโค้ชก็กลับบ้านไปแล้วผมค่อยๆเอามือมาโอบกอดตัวว่านไว้หลวมๆแล้วก็คุยกับว่านไปเรื่อยๆ ระหว่างนั้นผมก็ก้มมองที่หลังคอของว่าน เห็นไรขนอ่อนๆขึ้นเต็มไปหมด ผมเลยอยากแกล้งว่านด้วยการเป่า


“ฟู่” ผมเป่าลมลงไปที่หลังคอของว่านเบาๆ
“อ๊ะ!!” ว่านอุทานก่อนสะดุ้งสุดตัว จนเกือบหลุดออกจากแขนของผม
“เป็นอะไร” ผมก้มลงไปถามว่านที่ข้างๆหู
“จั๊กจี้อะ”
“บ้าจี้เหรอ”
“ครับ”
“มากไหมอะ”
“มาก”
“แล้วที่พี่ถูกตัวอยู่นี่อะไม่จี้เหรอ”
“......” ว่านเงียบไม่ตอบกลับมา
“นี่แน่ะๆๆๆ” ผมเปลี่ยนจากอ้อมกอดกลายเป็นเครื่องทรมานทันที


        ผมกอดว่านแน่นขึ้นแล้วลูบมือไปทั่วท้องของว่าน เอว อก ว่านดิ้นไปหมาเหมือนประช่อนถูกทุบเลยทีเดียว แต่เสียงหัวเราะที่ดังออกมาเหมือนว่านเองก็จะสนุกกับสิ่งที่ผมทำอยู่นี้ไม่น้อยเลยทีเดียว พักหนึ่งผมก็หยุดแล้วกอดว่านไว้คืนแต่ครั้งนี้มันแน่นกว่าเดิม ว่านเองก็นิ่งเหมือนกับว่าเมื่อกี้เค้าเองก็ดิ้นจนเหนื่อยเหมือนกัน


“ขอโทษนะ...พี่หยอกเล่น” ผมกระซิบข้างหูว่านเบาๆ
“.....” ว่านเงียบ.....
“ไม่โกรธพี่นะ”
“......” ว่านก็ยังไม่ตอบ
“ฟู่” ผมเป่าลมลงไปที่ต้นคอว่านอีกที รอบนี้ว่านสะดุ้งเฮือกไปทีหนึ่ง
“อิอิ...พี่อะ” ว่านพูดด้วยน้ำเสียงร่าเริง
“วันหน้าไม่เอาแล้วนะ ผมไม่ชอบ”
“อ่าได้ๆ”   พูดจบผมก็ลูบหัวว่านเบาๆก่อนจะเดินไปเก็บของเพราะน้องๆคนอื่นกลับบ้านกันหมดแล้ว

        หลังจากเก็บของล็อกหน้าต่างเสร็จแล้วผมก็ออกมาข้างนอก ระหว่างที่ล็อกประตูอยู่ผมก็หันไปถามว่านว่า

“หิวอะไรไหม”
“ก็....หิวครับ แต่ผมไม่มีเงินแล้ว”
“ไม่เป็นไรเดี๋ยวพี่ออกให้ก่อนแล้วกัน”
“กะ.....ก็ได้ครับ”


        วันนั้นผมเลือกไปร้านก๋วยเตี๋ยวเจ้าเดิมกับที่คุณพ่อน้องบีเคยมานั่งคุยด้วย...แล้วโต๊ะที่นั่งอยู่นี่ก็โต๊ะเดิม ผมกับว่านก็ยังคงนั่งตำแหน่งเดิมๆอีกเช่นกัน....ทำไมไม่นั่งตรงข้ามกันก็ไม่รู้แต่คราวนี้ที่มาร้านกำลังคนเยอะเลยทีเดียวพี่อาร์มเจ้าของร้านที่ทักผมประหนึ่งคนรู้จักแถมยังชอบเรียกผมว่า “ครูๆ” อีกด้วย ตอนแรกที่มาทานพี่เค้ามาคุยกับผมเหมือนจะเคยรู้จักกันมาก่อน แต่เอาเข้าจริงๆแล้ว ก็เพิ่งเคยเจอกันนั่นแหละ พี่เค้าอารมณ์ดีอัธยาศัยดี เฮฮา สนุกสนาน คุยเล่น คุยสนุกกับลูกค้าทุกคนเลย กันเองมากๆจนเหมือนว่าผมได้มานั่งทานก๋วยเตี๋ยวอยู่ที่ร้านของคนที่ผมรู้จักมาเนิ่นนาน....เอ๊ะ...หรือว่าที่เค้ามาทักผมตั้งแต่ต้นมันเป็นการตลาดหรือนี่ แต่ช่างมันเต๊อะ เพราะที่พี่เค้าทำอย่างน้อยๆก็ทำให้ผมได้รู้จักกับพ่อค้าก๋วยเตี๋ยวเจ้าอร่อยๆเข้าแล้ว วันหน้าวันหลังเผื่อตกยากจะได้มาสมัครงานซะเลย เมื่อจัดแจงที่นั่งเสร็จแล้วพนักงานของร้านก็วิ่งแจ้นมาที่โต๊ะพร้อมกระดาษและดินสอในมือ


“วันนี้อะไรดีครับ”
“หมี่น้ำไม่ผักชามครับ ว่านเอาอะไรสั่งเลยนะ”
“ผมเอาวุ้นเส้นครับ”
“พี่เอๆ” ว่านสั่งเสร็จก็หันมาเรียกผมเบาๆ
“ว่า”
“โค้กด้วยได้ไหมครับ”
“อื่อ ได้ซิ”
“พี่ โค้กด้วยครับ” ว่านหันไปสั่งเพิ่มหลังจากสั่งเสร็จพนักงานก็รีบไปส่งออเดอร์ทันที


“ว่าน พี่เห็นเราไม่ค่อยคุยกับมิ้นเลย มีอะไรหรือเปล่า” ผมถามจบพนักงานก็เค้าโค๊กมาวางตรงหน้าผมพอดี ผมเลยส่งไปให้ว่าน
“เค้าขี้เกียจ อู้ ไม่ขยัน พี่ก็เห็น” ว่านตอบกลับมา
“ก็เลยไม่คุยกับเค้า ?”
“......” ว่านไม่ตอบ


        ผมเลยเลี่ยงไปพูดเรื่องอื่นแทน ตอนนี้ผมเริ่มรู้แล้วว่าทำไมว่านถึงไม่ชอบมิ้น แต่ว่านเพิ่งจะ 14 ปี กลับมาคิดอะไรเรื่องแบบนี้เนี่ยะนะ จริงอยู่ว่ามิ้นอาจไม่เก่ง ไม่ขยัน แอบอู้บ้าง แต่ด้วยเหตุผลแค่นี้ถึงขั้นตั้งข้อรังเกียจได้ขนาดนี้มันออกจะเกินวัยไปซะหน่อย ยิ่งผมได้คุยกับว่านมากขึ้นเท่าไหร่ผมก็ยิ่งรู้สึกถึงความตึงเครียดที่อยู่ในตัวของเค้า บางครั้งผมรู้สึกว่ามันมากไปด้วยซ้ำ กับวัยที่ควรจะเน้นเรื่องสนุกสนานมากกว่า กลับมานั่งคิด นั่งเครียดกับเรื่องเล็กๆน้อยๆแบบนี้ ต่างกับบีลิบลับเลยแฮะที่มักจะไม่ใส่ใจกับอะไรเล็กๆน้อยๆเท่าไหร่ เน้นสนุกเฮฮาเข้าว่า ตอนนี้ผมแอบรู้สึกได้ว่าแนวคิด หรือ พฤติกรรมของว่านแบบนี้น่าจะมีคนชี้นำอยู่ลึกๆแน่ๆ แต่ด้วยความใส่ใจกับสิ่งเล็กๆน้อยๆแบบนี้ว่านน่าจะเป็นคนที่พอฝากผีฝากไข้ดูแลน้องๆแทนผมได้บ้างเวลาที่ผมไม่อยู่ อืมมม....แล้ววันนี้จากลับก็เป็นอีกวันที่ผมกุมมือว่านไปตลอดทางรู้สึกดีแปลกๆแฮะ ฮะๆ....ว่าแต่....ว่านจะ Y ไหมน๊า....



To Be Con
หัวข้อ: Re: น้องชาย 2 ( Up 25/04/11 )
เริ่มหัวข้อโดย: Na_RimKLonG ที่ 25-04-2011 22:40:44
เ อ่ม  ไม่รู้ัจะเม้นอะไรดี  555

จิงๆแล้วพึ่งจะเห็นว่าน้องชายมี ภาค ต่อ 
หัวข้อ: Re: น้องชาย 2 ( Up 25/04/11 )
เริ่มหัวข้อโดย: u-only-one ที่ 25-04-2011 22:53:33
เห็นว่าเอมาอัพ แต่ยังสติลไม่ได้อ่านค่ะ ไม่กล้า... :เฮ้อ:
แต่อยากเม้นว่า...รูปใครอ่ะน่ารักมากๆเลยน้องเอ  :-[

...ไปแระค่ะ ยังไม่กล้าอ่านอยู่ดี T^T
หัวข้อ: Re: น้องชาย 2 ( Up 25/04/11 )
เริ่มหัวข้อโดย: HydrA ที่ 25-04-2011 23:19:07
เริ่มต้นใหม่นะพี่เอ
ค่อยๆเป็นค่อยๆไป
แต่ละคนก็มีจุดเด่นต่างกันไป
หัวข้อ: Re: น้องชาย 2 ( Up 25/04/11 )
เริ่มหัวข้อโดย: bbyuqin ที่ 25-04-2011 23:53:28
ตามมาเป็นกำลังใจให้เอด้วย +1 จ้า

ตอนนี้กลายมาเป็นน้องว่านที่ครองพื้นที่ส่วนนั้นแทนน้องบีไปแล้วเนอะ ไม่รู้ว่าน้องบีตอนนี้เป็นยังไงบ้าง รออ่านต่อจ้า

ปล.อ่านไปแล้วนึกถึงสมัยเล่นตอนเล่นเทควันโด้อีกแล้ว พี่ก็เล่นได้ 5 ปีแล้วก็เลิกเหมือนกัน หุหุ

หัวข้อ: Re: น้องชาย 2 ( Up 25/04/11 )
เริ่มหัวข้อโดย: ♥a2k♥ ที่ 26-04-2011 00:14:59
เป็นกำลังใจให้พี่เอค่ะ อ่านตอนจบของภาคแรกร้องไห้จนเม้นไม่ออก
รักน้องบีจากตัวหนังสือที่พี่เอถ่ายทอดออกมา :)
ขอแปะโป้งภาคนี้ไว้ก่อนนะคะ จะมาตามอ่านแน่ๆ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: น้องชาย 2 ( Up 25/04/11 )
เริ่มหัวข้อโดย: w[o]w ที่ 26-04-2011 03:15:58
น้องว่านปมเยอะเนอะ

แต่คิดถึงน้องบี อิอิ
หัวข้อ: Re: น้องชาย 2 ( Up 25/04/11 )
เริ่มหัวข้อโดย: icyblue ที่ 26-04-2011 10:21:01
ภาคนี้เป็นน้องเอ กับ น้องว่าน

น้องเอก็ดูๆ ไปก่อนล่ะ อย่าเพิ่งอะไรไปไกล

เผื่อว่ามันเป็นแค่ความเหงา ความใกล้ชิด

เผื่อว่าวันหนึ่งน้องบีจะกลับมา

แต่งัยก็เป็นกำลังใจให้นะจ๊ะ :กอด1: :L2:
หัวข้อ: Re: น้องชาย 2 ( Up 25/04/11 )
เริ่มหัวข้อโดย: me_alone ที่ 26-04-2011 15:58:23
เ อ่ม  ไม่รู้ัจะเม้นอะไรดี  555

จิงๆแล้วพึ่งจะเห็นว่าน้องชายมี ภาค ต่อ 

 :กอด1: ~ อย่าลืมมาอ่านต่อนะครับ



เห็นว่าเอมาอัพ แต่ยังสติลไม่ได้อ่านค่ะ ไม่กล้า... :เฮ้อ:
แต่อยากเม้นว่า...รูปใครอ่ะน่ารักมากๆเลยน้องเอ  :-[

...ไปแระค่ะ ยังไม่กล้าอ่านอยู่ดี T^T

 :กอด1: ~ น้องคนหนึ่งครับ เห็นหน้าตาคล้ายบีเลยเอามาแปะ อายุก็ใกล้ๆกัน รูปร่างก็คล้าย เห็นแล้วคิดถึงบีเลย



เริ่มต้นใหม่นะพี่เอ
ค่อยๆเป็นค่อยๆไป
แต่ละคนก็มีจุดเด่นต่างกันไป

 :กอด1: ~ ครับ



ตามมาเป็นกำลังใจให้เอด้วย +1 จ้า
ตอนนี้กลายมาเป็นน้องว่านที่ครองพื้นที่ส่วนนั้นแทนน้องบีไปแล้วเนอะ ไม่รู้ว่าน้องบีตอนนี้เป็นยังไงบ้าง รออ่านต่อจ้า
ปล.อ่านไปแล้วนึกถึงสมัยเล่นตอนเล่นเทควันโด้อีกแล้ว พี่ก็เล่นได้ 5 ปีแล้วก็เลิกเหมือนกัน หุหุ

 :กอด1: ~ ขอบคุณที่ติดตามนะครับ



เป็นกำลังใจให้พี่เอค่ะ อ่านตอนจบของภาคแรกร้องไห้จนเม้นไม่ออก
รักน้องบีจากตัวหนังสือที่พี่เอถ่ายทอดออกมา :)
ขอแปะโป้งภาคนี้ไว้ก่อนนะคะ จะมาตามอ่านแน่ๆ  :กอด1:

 :กอด1: ~ ขอบคุณครับ




น้องว่านปมเยอะเนอะ
แต่คิดถึงน้องบี อิอิ

 :กอด1: ~ คิดถึงบีเหมือนกันครับ อ่าน Re แล้ว....อยากโทรหาน้องจัง...
 :o12: ~ น้องจะว่างคุยกับผมไหมน๊า



ภาคนี้เป็นน้องเอ กับ น้องว่าน
น้องเอก็ดูๆ ไปก่อนล่ะ อย่าเพิ่งอะไรไปไกล
เผื่อว่ามันเป็นแค่ความเหงา ความใกล้ชิด
เผื่อว่าวันหนึ่งน้องบีจะกลับมา
แต่งัยก็เป็นกำลังใจให้นะจ๊ะ :กอด1: :L2:

 :กอด1: ~ ขอบคุณสำหรับกำลังใจนะครับ
หัวข้อ: Re: น้องชาย 2 ( Up 25/04/11 )
เริ่มหัวข้อโดย: kokoky ที่ 26-04-2011 17:07:59
น้องว่านก็คือน้องว่าน
น้องบีก็คือน้องบี
ถึงจะทำอะไรที่ทำให้ภาพซ้อนกัน
แต่ยังไงก็อย่าเอาใครมาเป็นตัวแทนกันนะคะ

ไม่งั้นคนที่เสียใจจะไม่ได้มีแค่คนเดียวแน่นอนค่ะ :o12:

ปล.ไม่เข้าใจน้องบี แต่ยังคิดถึงน้องนะคะ :L1:
หัวข้อ: Re: น้องชาย 2 ( Up 25/04/11 )
เริ่มหัวข้อโดย: me_alone ที่ 26-04-2011 22:08:43
ช่วงที่ 4




           “ตึกๆๆๆๆ ป๊อกๆๆ” เสียงรองเท้าคัดชูทั้งแบบของผู้ชายและผู้หญิงกระทบบนพื้นคอนกรีตหนาๆ ของอาคาร 8 ชั้นซึ่งเป็นอาคารเรียนรวมอีกอาคารหนึ่งในมหาวิทยาลัยที่ผมศึกษาอยู่ ผมเพิ่งจะเรียนเสร็จครับ มันเป็นคาบเช้าที่น่าเบื่อมากเพราะวิชาที่เรียนนั้นเป็นวิชาภาษาอังกฤษครับ วิชานี้เป็นหนึ่งในสองวิชาที่ผมกับเพื่อนๆเกินครึ่งในห้องเกลียดที่สุด เข้าไปเรียนทีไรรู้สึกเหมือนเวลามันเดินช้ามากๆๆๆ ตลอดคาบที่เรียนผมเฝ้าดูนาฬิกาดูแล้วดูอีกว่าเมื่อไหร่จะหมดคาบซะที แล้วอาจารย์ก็ดี๊ดีสอนซะคุ้มค่าจ้างเลยทีเดียว ตามตารางสามคาบ อาจารย์ท่านก็สอนครบสามคาบเลย วันดีคืนดีมีโปรโมชั่นแถมอีกต่างหาก นี่ยังไม่รวมถึงเรื่องเล่าน่าเบื่อที่อาจารย์ชอบเล่าระหว่างสอนอีกซึ่งมันไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับวิชานี้เลย มาถึงตรงนี้ผู้อ่านจะเข้าใจดีว่าหมดคาบแล้วเหล่านักศึกษาส่วนหนึ่งนั้นรู้สึกยินดีปรีดาแค่ไหน บางคนถอนหายใจทุกครั้งที่หมดคาบ บางคนถึงกับรีบเก็บของก่อนหมดคาบสัก 10 นาที ทันทีที่อาจารย์บอกเลิกก็ควบฝีเท้าประหนึ่งแม่ค้าริมทางเท้าถูกเทศกิจมาไล่จับยังไงยังงั้น แล้วระหว่างที่ผมกำลังเดินไปที่ลิฟท์ เพื่อนก็ชวนคุยเกี่ยวกับงานกลุ่มที่จะต้องจัดกันเร็วๆนี้

“เอ งานถึงไหนแล้ว” ม่อนถามผมขณะที่ยืนคอยลิฟท์อยู่
“เอกสารส่วนที่ 1 – 4 เสร็จแล้ว” ผมตอบกลับไป
“เหรอ แล้วจะเริ่มวันไหนอะ”
“เริ่มได้เลย แต่ยังมีเอกสารอีก 2 – 3 อย่าง ม่อนอะทำเสร็จยัง”
“ยังเลย” ม่อนตอบกลับมา
“งั้นก็รีบเลย ต้องไปให้อาจารย์ดูก่อนอีก ผ่านไม่ผ่านก็ไม่รู้ ยังเผื่อเวลามาแก้อีก แล้วอุปกรณ์ละ จอยไปจองยัง”
“ไม่รู้” ม่อนตอบ
“เฮ่ย ตามเรื่องหน่อยดิ ทางนี้ยังต้องตามเรื่องกีฬาอีก” ผมเผลอขึ้นเสียงกับม่อนไปเล็กน้อย แต่มันก็มากพอจะทำให้เพื่อนๆคนอื่นหันมามอง
“อื่อ ได้ เสร็จแล้วจะบอกนะ” ม่อนตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงน้อยใจนิ๊ดๆ
“อืม ฝากด้วยแล้วกัน เมื่อกี้ ขอโทษด้วย ไม่ได้ตั้งใจ” ผมพูดจบก็ตบหลังม่อนเบาๆ
“อื่อ นายเองก็พักผ่อนบ้างแล้วกัน เห็นออนดึกๆดื่นๆตลอดเลย”
“ขอบใจ”


           ที่มหาวิทยาลัยหน่ะ....พูดจริงๆผมไม่มีเพื่อนนะ....ในก๊วนก็จะมีแค่ม่อน กับ จอย ซึ่งก็ไม่ได้สนิทอะไรด้วยมากมาย ส่วนคนอื่นๆเหรอ เรียกว่าคนรู้จักจะดีกว่า จะเห็นหน้าก็ตอนมีเรื่องเดือดร้อนเท่านั้น แถมพวกนี้ไม่เคยสนใจอะไรหมดคาบเรียนก็หายไปหมด แต่จะว่าไปผมก็หายนะ ฮ่ะๆ คือหมายถึงว่าไม่สนใจกิจกรรมอะไรเลย ขนาดหัวหน้าห้อง ยังเป็นหัวหน้าห้องแบบแต่งตั้งเลยครับ ส่วนใครแต่งตั้งหน่ะเหรอ ก็ผมอีกนั่นแหละถ้าจะพูดกันตรงๆแล้วทุกคนยอมให้ผมเป็นหัวหน้าห้องโดยไม่มีใครค้าน ซึ่งผมก็คอยจัดการทุกอย่างอยู่หลังหัวหน้าห้องที่แต่งตั้งขึ้นมาอีกที ซึ่งถ้าจะว่ากันตามเนื้อผ้าหัวหน้าห้องเหมือนเลขาผมเลยอะ ฮ่าๆ


“ติ๊งงงง....ประตูลิฟท์กำลังเปิด”


           เสียงผู้หญิงที่ไหนสักคนก็ไม่รู้จะดังขึ้นทุกครั้งที่ลิฟท์เปิดหรือปิด รวมถึงเวลาถึงชั้นไหนแล้วเธอก็จะแจ้งตลอด เมื่อลิฟท์มาถึงปรากฏว่าพรรคพวกกรูกันเข้าไปอย่างรวดเร็ว เหลือผมอยู่คนเดียว...แล้วลิฟท์ก็เต็มพอดี....ไม่ครับ...คือเสียสละไงให้เพื่อนๆเข้าไปก่อน ตอนนี้เลยต้องรอลิฟท์รอบต่อไปแทนซะล่ะ


“ประตูลิฟท์กำลังปิด”


           แล้วก็เป็นอีกครั้งที่ผมอยู่คนเดียว...ผมยืนนิ่งๆพักหนึ่งก่อนที่จะหันหลังให้ลิฟท์แล้วเดินไปที่บันได ผมว่าเดินลงดีกว่าจะได้มีเวลาคิดอะไรไปด้วย แล้วเมื่อผมเดินลงมาถึงชั้น 5 เสียงโทรศัพท์ผมก็ดังขึ้น ผมหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูก็พบว่าเป็นพี่ป้อมที่โทรเข้ามา


“ครับพี่”
“เอ นี่พี่ป้อมนะ ว่างไหมเนี่ยะ เรียนอยู่หรือเปล่า”
“ว่างครับ เพิ่งเรียนเสร็จเมื่อกี้”
“คือ...เอ เดือนนี้พี่ไม่ได้เข้าไปนะ”
“ทำไมอะพี่” ผมถามกลับด้วยน้ำเสียงเป็นกังวล
“คือโค้ชเค้าบอกว่าเค้ามีปัญหาเรื่องเงิน เดือนนี้เค้าเลยขอดูแลคนเดียว....แล้ว....เอจะไปสอนเหมือนก็ได้นะ หยุดตามพี่ก็ได้”
“.....” ผมเงียบ ไม่ได้พูดอะไรกลับไปเพราะกำลังคิดอยู่
“....เอาไงเอ ไม่สอนก็ได้เดี๋ยวพี่คุยกับโค้ชเค้าให้” พี่ป้อมถามซ้ำ
“เอ่อ....เดี๋ยวผมโทรหาอีกทีนะพี่” ผมรีบตัดบท
“อ่า อืม ได้ๆ”


           ผมหยุดเดินอยู่ที่ชั้น 5 ไม่ซิต้องบอกว่าเป็นช่วงพักของบันไดก่อนถึงชั้น 5 ตรงที่พักเป็นกระจกใสบานใหญ่มองทะลุออกไปข้างนอกได้ “หยุดเหรอ” ผมพูดกับตัวเองเบาๆระหว่างที่ยืนหันมองออกไปนอกกระจก จริงๆผมก็อยากหยุดนะ....อยากหยุดตั้งแต่วันที่บีไม่มาแล้ว....เหตุผลเดียวที่ผมไปสอนก็เพราะที่นั่นมีบี เป็นที่เดียวที่ผมจะได้เจอบี แต่พอไม่มีบีแล้วก็เหมือนว่ามันจะไม่มีความหมายที่จะไป.....แต่ผมยังคิดถึงบีอยู่....ยังรู้สึกดีที่ได้อยู่ในที่ๆเคยมีบี....แล้วก็....ยังหวังว่าวันหนึ่งบีจะกลับมา ถึงมันจะเป็นแค่ความหวังลมๆแล้งๆก็ตามที.....

           แล้วตอนนั้นสายตาผมก็กวาดไปมองสถานที่ที่พวกผมใช้เป็นที่สำหรับซ้อมเทควันโดของมหาวิทยาลัย...ที่ผมยังต้องมานั่งเช็ดก้นน้องประธานชมรมคนปัจจุบัน...เช็ดก้นสิ่งที่โค้ชทิ้งไว้....ก็เพราะคำสัญญากับอาจารย์ท่านหนึ่งที่ท่านพยายามอย่างหนักในการที่จะทำให้มหาวิทยาลัยของผมมีชมรมเทควันโดขึ้นมา...ก่อนที่ท่านจะเกษียณ ท่านได้เอ่ยปากฝากชมรมเทควันโดไว้กับผม....แทนที่จะเป็นคนอื่นเหมือนนิยายน้ำเน่าเลยนะครับ.......
จริงๆตรงนี้....ผมเองก็อยากหยุดเหมือนกัน มันเหนื่อยจังเลยครับสำหรับนักศึกษาธรรมดาๆคนหนึ่ง ที่ต้องมารับภาระหน้าที่พวกนี้ ไหนจะวีรกรรมต่างๆของคุณโค้ชอีก.....จะว่าไปหยุดสักเดือนก็ดีเหมือนกันจะได้มีเวลาคิดอะไรๆมากกว่านี้ คิดว่าทำไมผมยังต้องมาทำอะไรพวกนี้อยู่อีกทั้งๆที่ไม่เคยได้รับค่าตอบแทนใดๆ....ถึงจะบอกว่าทำด้วยใจ...แต่ถ้าทำแล้วไม่สบายใจจะทำต่อไปทำไม แล้วผมก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเพื่อจะโทรไปหาพี่ป้อมแต่ทันใดนั้นเองก็มีสายเรียกเข้าแทรกขึ้นมา


“ว่าน Calling” ผมมองแล้วก็แอบสงสัยไม่ได้ว่าในเวลาเที่ยงแบบนี้ว่านจะโทรมาหาผมทำไมก่อนจะกดรับสาย
“ว่า”
“พี่เอ วันนี้เข้ายิมเร็วไหมครับ”
“ก็น่าจะบ่ายๆ ทำไมเหรอ”
“วันนี้ผมเลิกเร็ว”
“เร็วนี่กี่โมง”
“ประมาณบ่าย 3”
“อืม จะรีบเข้าไปแล้วกัน”
“ครับๆ รีบมานะ”   แล้วว่านก็วางสายไป....


           ผมยืนนั่งอยู่พักหนึ่ง....รู้สึกไหมครับ...ใครสักคนยังต้องการผมอยู่......


“ตรู๊ดดดดดด.......ตรู๊ดดดดดดดด.......แกร๊ก....ว่าไงเอ”
“ไม่เป็นไรพี่ เดี๋ยวผมไปช่วยโค้ชเค้าดูน้องดีกว่า มีแต่คนดื้อๆเดี๋ยวโค้ชเค้าจะดูแลคนเดียวไม่ไหว”
“เอา ตามใจนะ มีอะไรก็โทรบอกพี่แล้วกัน”
“ครับ”


           วันนั้นผมไปยิมตอนบ่าย 3 โมงตามที่ว่านนัดไว้พอไปถึงผมก็ไม่เจอใครมิ้นยังไม่มาประตูยิมปิดสนิด ผมลงจากรถแล้วก็เดินไปเปิดประตูก่อนจะเอากระเป๋าไปวางไว้ที่ชั้นแล้วก็เว้นที่ประจำของบีไว้........อีกแล้ว....ผมยืนนิ่งๆมองที่ว่างเล็กๆตรงนั้น มันไม่ได้กว้างมากมายก็แค่วางกระเป๋านักเรียนได้ใบหนึ่ง......แล้วผมก็ยกกระเป๋าผมมาวางแทนก่อนจะเดินออกไปหน้ายิม ผมคล้องกุญแจไว้ แล้วเดินไปที่สระน้ำข้างๆยิม พอผมเดินไปถึงผมก็เจอว่านนั่งใจลอยมองอะไรสักอย่างอยู่คนเดียว


“ว่าน” ผมเรียกชื่อว่านเบาๆ ทันทีที่ได้ยินเสียงว่านก็หันมามองผมแล้วก็ยิ้ม แล้วลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว ก่อนจะเดินมาหาผม
“หวัดดีครับ” ว่านยกมือไหว้ แล้วสวมกอดผมเบาๆแล้วก็ปล่อย
“พี่มานานยัง” ว่านถามขึ้น
“เพิ่งมาถึง มาไม่เจอใครเลยว่าจะมานั่งเล่น ว่านล่ะมานานยัง”
“พักหนึ่ง ไม่เจอใคร เลยมานั่งเล่นเหมือนกัน”
“ใจตรงกันเลย”
“นั่นซิครับ” ว่านพูดจบก็ยิ้ม
“เอากระเป๋าเก็บก่อนไหม พี่รอตรงนี้ประตูไม่ได้ล็อก”
“ครับ”


           แล้วว่านก็วิ่งเอากระเป๋าไปเก็บก่อนจะวิ่งกลับมาอย่างไว แล้วผมก็เดินไปซื้อน้ำเหมือนที่เคยทำ แต่ว่าวันนี้หลังจากหยิบน้ำเสร็จ ผมสังเกตว่าว่านไม่ได้หยิบแฮมชีสไปด้วย ผมก็เลยหยิบไป หลังจากจ่ายเงินเสร็จผมก็เดินกลับไปที่ยิมกับว่าน บ่ายนี้ผมรู้สึกว่ามันร้อนเกินไปที่จะไปนั่งเล่นที่ริมน้ำ ที่สำคัญนี่ก็เพิ่งจะบ่ายสามสิบห้านาทีเท่านั้นเอง พอเข้ามาในยิมว่านก็เริ่มพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องโรงเรียน เรื่องเพื่อน ผมก็นั่งฟังแล้วก็แซวแบบติดตลกพอขำๆไปเรื่อยๆเพราะเรื่องที่ว่านพูดมามันดูเครียดๆ เช่น เรื่องเพื่อนไม่ทำเวร เพื่อนลอกข้อสอบ เพื่อนลอกการบ้าน เพื่อนเล่นกันเสียงดัง เพื่อนคุยกันเวลาอาจารย์สอนฯ จริงๆเรื่องพวกนี้จะเอามาพูดมันก็ไม่แปลกนะครับ แต่ที่แปลกคือว่านค่อนข้างจะจริงจัง แล้วก็เครียดกับเรื่องพวกนี้มาก จนผมรู้สึกว่าเค้าเซนซิทีฟกับเรื่องที่เค้ารู้สึกว่าไม่ชอบมากจนเกินไป ตอนนี้ผมเริ่มเข้าใจเรื่องที่ว่านไม่คุยกับมิ้นแล้ว

           แล้วระหว่างที่คุยกันว่านก็ทานขนมจนหมด พอหมดว่านก็ชูขึ้นมาให้ผมดูประมาณจะบอกว่า “หมดแล้วนะ” พอผมมองตามว่านก็มองมาหน้าผมแล้วก็ยิ้มถูกใจเหมือนกับว่าเค้าพอใจที่ทำให้ผมมองตามเค้าได้ผมเลยหยิบแฮมชีพที่ซื้อมายื่นให้เค้า ว่านรับไปอย่างรวดเร็วก่อนจะแกะดู แล้วยื่นให้ผมคืน


“เอาเหอะ พี่ซื้อมาให้”
“พี่รู้ได้ไงว่าผมชอบ” ว่านถามพลางหยิบแฮมชีสออกมาจากห่อกระดาษ
“ก็ว่านบอกเมื่อวาน”
ว่านหยิบแฮมชีพแผ่นหนึ่งขึ้นมาดูแล้วพูดว่า “ไหม้ๆด้วยอะ”
“ชอบไม่ใช่เหรอ”
“ครับ” ว่านยิ้มก่อนจะเอาเข้าปากเคี้ยวกรุบๆ


           ระหว่างที่ว่านเคี้ยวอยู่นั้นว่านคงนึกขึ้นมาได้ว่ามันมี 2 ชิ้น ว่านเลยหยิบออกมาอีกชิ้นแล้วยื่นให้ผม


“พี่...อะอีกชิ้น” ว่านพูดพลางยื่นมาให้ผม


           ผมรับไว้แล้วก็ทานไปมองว่านไป....จะว่าไปก่อนหน้านี้ผมไม่เคยใส่ใจว่าจริงๆล่ะ พอมาใส่ใจเค้าผมก็เริ่มรู้สึกเป็นห่วงเค้า ก่อนหน้านี้เค้าดูเป็นเด็กนิ่งเงียบอย่างที่เคยเล่าไปว่าเค้าจะมาแทรกผมกับบีในบางช่วงเวลาเท่านั้น เพราะพี่ป้อม หรือ โค้ชเองเค้าไม่ได้ให้ความสนใจเด็กในระดับความรู้สึกแบบนี้เท่าไหร่ จะว่าไปในคนสอน 3 คน ผมสนิทแล้วก็รู้นิสัยเด็กๆดีที่สุด อีกอย่างผมรู้สึกว่าหลังจากที่บีไม่มาแล้วผมมาดูแลว่านคนเดียวแบบนี้ เหมือนว่านเค้าจะร่าเริงขึ้นมากเลยทีเดียวไม่นานว่านก็ทานแฮมชีสจนหมด พอหมดว่านก็หันมามองส่วนของผมเหลือนิ๊ดหน่อยผมเลยยื่นให้


“หิวเหรอ” ผมถาม
“เปล่า” ว่านตอบกลับมา ผมเลยลองยื่นไปใกล้ๆปากว่าน
“.....” ว่านจ้องมือผม
“อ๊ะ!!” ว่านงับเข้าให้ นอกจากแฮมชีสแล้วก็ยังมีนิ้วโป้งกับนิ้วชี้ผมด้วย ผมรีบดึงมือออกมาอย่างไว
“อี๋....น้ำลาย” ผมพูดติดตลก แล้วทำเป็นเช็ดกับผ้าที่วางไว้อยู่ใกล้ๆ
“ฮ่ะๆ” ว่านหัวเราะชอบใจก่อนจะลุกขึ้นมานั่งตักผมแล้วก็เอนหลังพิงตามด้วยดึงมือผมข้างหนึ่งไปกุมไว้ไม่มีการพูดอะไรเพิ่มเติมแล้วจู่ๆว่านก็ถลกแขนเสื้อผมขึ้น......แล้วก็.....
“โอ๊ย!!” กะ...กัด!.....ว่านกัดแขนผมครับกัดแบบเต็มปากเต็มคำเลยทีเดียว แต่มันก็ไม่เจ็บอะไรมากมาย ก่อนที่น้องจะชำเลืองมามองผม ผมเลยทำท่าทีเหมือนจะดึงออก ดูท่าน้องชอบใจแฮะมีสะบัดๆแถมด้วย
“น่ะ...น้ำลาย...” ผมพูดขึ้น ว่านยิ้มมุมปากให้เห็นก่อนจะละเลงลิ้นเลียจนแขนผมส่วนที่ว่านงับอยู่แฉะเลยทีเดียว ตอนนั้นผมรู้สึก...แปลกๆแฮะ...ลิ้นว่านอุ่นชะมัดเลย เสียวสันหลังวาบๆเลยทีเดียวเวลาที่ว่านตะหวัดลิ้นวาดไปมา พักหนึ่งว่านก็ปล่อย แล้วก็เอาแขนเช็ดปากตัวเอง ก่อนจะหันมายิ้มให้ผมแล้วพูดว่า
“พี่เอ อร่อยดีเน๊าะ”
“เป็นรอยเลย” ผมชี้ให้ว่านดูรอยที่ว่านกัด
“อิอิอิ” ว่านหัวเราะชอบใจ


           หลังจากนั้นประมาณ 5 นาทีได้มั้งครับ มิ้นก็มาผมเลยลุกไปล้างแขน ก่อนจะกลับมานั่งคุยกับว่านต่อ ซึ่งตอนนั้นว่านมานอนพิงผมเหมือนบีทำเลย ไม่นานเท่าไหร่คุณโค้ชก็มา แต่ผมกับว่านก็ไม่ได้สนใจยังนั่งจับกลุ่มคุยกันต่อจนเกือบเวลาซ้อม ผมลุกขึ้นไปคาดสาย เตรียมเรียกน้องเข้าแถว แล้วพอผมตลบมือเรียกน้อง ยังไม่ทันที่จะพูดอะไรโค้ชก็ตะโกนแทรกมาว่า


“ไม่ต้องๆ วันนี้ไม่ต้องเข้าแถว แยกวอร์มเลย”


           ครับ ตามนั้น น้องๆแยกย้ายกันวอร์ม วันนั้นช่วงวอร์มมั่วมาก น้องที่วอร์มก็วอร์ม ที่อู้ก็อู้ แต่โค้ชเค้าก็ไม่สนใจ แถมเรียกผมไปนั่งคุยอีกเรื่องที่คุยเหรอครับผมจำได้ประมาณนี้อะ


“เอ...เอเคยวางแผนการสอนบ้างไหม” โค้ชพูดด้วยน้ำเสียงจริงจังสุดๆ...พลันสายตาผมก็เห็นหนังสือคู่มืออบรมโค้ชและผู้ดูแลทีมวางอยู่ที่ชั้นหนังสือใกล้ๆ
“ก็มีนะครับ กับที่มหาวิทยาลัย” ผมตอบกลับไป
“ไหนเราลองเขียนซิว่าเราวางแผนยังไง” พูดจบโค้ชก็ยื่นกระดาษให้ผมแผ่นหนึ่งพร้อมดินสอ


           จริงๆผมว่า...โค้ชกะอวดภูมิมากกว่า เพราะที่โค้ชถามอะผมทำเป็นตารางแปะไว้ที่ตู้เก็บอุปกรณ์ที่มหาวิทยาลัยชัดเจน รวมถึงเอกสารรูปเล่มก็ชี้แจงรายละเอียดไว้แบบรายวันเลยทีเดียว ที่ถามแบบนี้เป็นไปได้สองอย่างคือ หนึ่งรู้แต่อยากถามกะจะอวด สองยังไม่รู้เลยถามกะสอน ผมเลยเขียนๆตามที่ผมทำตารางไว้ให้เค้าดู


“ไหน นี่อะเหรอตารางที่วางไว้ มันใช่เหรอ” โค้ชทำน้ำเสียงกวนเท้าสุดๆเลยอะ
“ก็วอร์ม 20 นาที เตะพื้นฐาน 25 นาที พัฒนาทักษะ 25 นาที เผื่อพัก 20 นาที” ผมชี้แจงไป
“ไหนเขียนมาหน่อย วอร์มนี่วอร์มอะไร เตะพื้นฐานนี่พื้นฐานอะไร ทักษะอะแบบไหน” แล้วโค้ชก็หันกระดาษส่งมาให้ผมคืน


           ผมก็เขียนไปตามที่ผมสอนแบบคร่าวๆเพราะเรื่องแบบนี้จะให้มาเขียนแป๊บๆโดยไม่ได้วางแผนเลยมันเป็นไปไม่ได้เพราะถ้าจะเอาจริงต้องวางกันยาวแบบรายวันเลยทีเดียว แล้วระหว่างที่เขียนผมตะหงิดๆขึ้นมาว่าถ้าผมเขียนไปเรื่อยๆมันจะไม่จบ ผมเลยเขียนสั้นๆแล้วส่งให้โค้ชคืน


“เนี่ยะเหรอ” โค้ชถามกวนๆ
“ครับ แค่นี่แหละ” ผมตอบตัดบทเป็นว่าไม่รู้ดีกว่า
“ไหนว่าเคยทำล่ะ ที่ทำแค่นี้เหรอ”
“ครับ แค่นี้แหละ”
“นี่ เวลาเราจะสอนเด็กหน่ะ รู้ไหมมันต้องวางแผนสอนรายวันเลย ว่าวันนี้เราจะสอนอะไรเค้า กี่นาที ฯลฯ”


           จริงด้วยครับโค้ชอยากโชว์ภูมิครับ เค้าสอนผมในสิ่งที่ผมทำอยู่แล้ว เหมือนเค้าจะไม่ได้ใส่ใจเลยซินะว่าตอนที่ผมดูแลที่มหาวิทยาลัยอยู่ผมดำเนินงานยังไงถึงสามารถทำให้น้องๆกวาดมาได้ 6 ทอง 3 เงิน ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้ 3 ปีช่วงที่โค้ชดูแลนั้นได้เหรียญทองอย่างหรูแค่ปีละ 2 เหรียญ แล้วเค้าก็สาธยายไปกว่า 15 นาที จนน้องๆวอร์มเสร็จก่อนจะปิดท้ายว่า


“ปรกติพี่ก็วางแผนการสอนแบบนี้ทุกวัน เราลองทำดูบ้างนะ” พูดจบเค้าก็เดินไปบอกน้องๆให้พัก


           พอเค้าสั่งให้พักว่านก็เดินมาหาผมแล้วเอาหน้ามาซุกกับไหล่ผมก่อนจะลากเก้าอี้อีกตัวมานั่งข้างหลังตามด้วยเอาคางเกยไหล่ผม....ผมไม่ได้สนใจน้องเลยตอนนั้นผมนั่งคิดถึงสิ่งที่โค้ชพูดเมื่อกี้มากกว่า....มันจะเป็นไปได้ยังไงครับว่าโค้ชวางแผนสอนแบบนี้ทุกวัน....การวางแผนสอนแบบนี้มันต้องชี้แจงให้ผู้ที่ร่วมสอนด้วยทราบว่าจะต้องฝึกอะไรบ้างในวันนั้นๆ เพื่อให้มันสอดคล้องกัน...แต่ผมไม่เคยเห็นโค้ชพูดถึงเลยแฮะ....เริ่มต้นมาผมก็ฟาดไป 20 – 30 นาทีแล้ว ซึ่งผมพาวอร์มแบบกลางๆไม่หนักมากไป ไม่เบามากไป 60 นาทีหลังจะเป็นพี่ป้อมดูแลซะมากกว่า โค้ชแทบไม่ได้เข้ามายุ่งเลย จะมีก็แค่เดินเข้ามาแถมนิ๊ดๆหน่อยๆ ช่วยดูช่วยจัดช่วยบอกน้องๆเพิ่มเท่านั้นเอง ถ้าแบ่งให้เห็นๆง่ายๆก็คือผมสอน 30% พี่ป้อมสอน 65 – 70% ส่วนโค้ชมีแค่ 0 – 5% เท่านั้นเองแล้วแผนการสอนของเค้ามันเอามาใช้ตอนไหนเหรอ ?


“พี่เป็นอะไร” ว่านถามผม
“ปะ...เปล่า” ผมตอบแล้วหันมามองว่านแล้วว่านก็ยิ้ม....ตามด้วยงับไหล่ผมเบาๆอีกทีหนึ่งที งับเฉยๆคงไม่เท่าไหร่ แต่เลียด้วยนี่ซิ........น้ำลายอีกแล้ว.......


           วันนั้นโค้ชพาซ้อมหนักมากหนักจนเกินไป น้องๆหลายคนบ่นอุบเกี่ยวกับเรื่องเวลาพักที่ซ้อมหนักกว่า 40 นาทีต่อเนื่องแล้วโค้ชยังไม่ให้พัก ผมเองก็ได้แค่เดินบอกให้น้องๆสู้ๆ จนถึงเวลาเลิก กว่า 60 นาทีที่โค้ชพาซ้อมโดยไม่พักกินน้ำ ทำเอาน้องๆไม่พอใจกันหลายคน แต่ไม่มีใครกล้าบ่นต่อหน้าโค้ช มาบ่นให้ผมฟังตอนโค้ชสั่งเลิกแล้วมากกว่าแล้วตอนเลิกก็ไม่มีการเข้าแถวทำความเคารพอาจารย์รุ่นพี่รุ่นน้องแต่อย่างใดจู่ๆนึกจะเลิกก็เลิกแถวกลับบ้านเลยทว่า....วันนี้มีอยู่คนหนึ่งที่ไม่ได้บ่นเรื่องซ้อมหนักเลย....ครับ...ว่านนั่นเอง.....พอเลิกเสร็จว่านก็ให้ผมจับแป้นเตะให้ แล้วก็เตะซ้อมที่โค้ชเพิ่งสอนไปเพิ่มเติม โดยเตะไปกอดผมไป มีซุกด้วย จนสาวตองมองไม่วางตา


“ไม่เหนื่อยเหรอ” ผมถามว่านระหว่างที่ว่านเตะ
“ไม่ครับ” ว่านตอบกลับมาแล้วยิ้ม


           หลังจากนั้นว่านก็เตะต่อไปอีกประมาณ 20 นาทีได้ก่อนจะพัก ผมเดินๆไปนั่งที่เดิม ว่านเองพอดื่มน้ำเสร็จก็มานั่งพิงผมเหมือนเดิม


“ว่าน เสื้อแฉะอะ มีแต่เหงื่อ” ผมพูดขึ้น
“ครับ” ว่านตอบกลับมาแล้วนอนหอบ แฮกๆ ต่อ
“วันนี้เป็นไงบ้าง”
“สนุกดี”
“ไม่เหนื่อนเหรอ”
“นิ๊ดหน่อยไม่มาก”


           ตอนนั้นความคิดหนึ่งก็ผุดขึ้นมาในหัวเนื่องจากเห็นสาวตองยังแอบส่องอยู่ไม่ห่าง....“ว่าน Y ไหม”....ว่าแล้วผมเลยกอดว่านเหมือนที่เคยกอดแต่คราวนี้ผมเอามือลูบๆท้องว่านด้วย ผมลูบเบาๆด้วยนิ้วชี้และนิ้วกลาง....ว่านมีกล้ามท้องด้วยแฮะ แต่รู้สึกว่าจะผอมไปนิ๊ดเมื่อเทียบกับบี ผมค่อยๆกอดน้องแน่นมากขึ้น แล้วจงใจหายใจรดใส่หูน้อง....ผมอยากรู้ว่าน้องจะมีปฏิกิริยายังไงถ้าผมทำแบบนี้.....ผลที่ออกมาคือ...ว่านนอนนิ่งอยู่แบบนั้นแหละ.... ผมก็กอดว่านอยู่แบบนั้นแหละ จนน้องๆกลับบ้านกันหมด ผมก็พาว่านไปทานก๋วยเตี๋ยว....แล้วก็พาว่านส่งกลับบ้าน...ระหว่างทางที่กลับนอกจากผมจับมือว่านไปตลอดทางแล้วผมก็รู้สึกว่าวานเองกำลังซบหลังผมอยู่ พอมาถึงบ้านว่านวันนี้ไฟในบ้านก็ยังมืดอยู่เหมือนเคย...เฮ้อ.......อายุแค่ 14แต่กลับต้องโดดเดี่ยวขนาดนี้ น่าสงสารน้องจังเลยแฮะ


To Be Con
หัวข้อ: Re: น้องชาย 2 ( Up ช่วงที่ 4 : 26/04/11 )
เริ่มหัวข้อโดย: me_alone ที่ 27-04-2011 04:49:34
น้องว่านก็คือน้องว่าน
น้องบีก็คือน้องบี
ถึงจะทำอะไรที่ทำให้ภาพซ้อนกัน
แต่ยังไงก็อย่าเอาใครมาเป็นตัวแทนกันนะคะ

ไม่งั้นคนที่เสียใจจะไม่ได้มีแค่คนเดียวแน่นอนค่ะ :o12:

ปล.ไม่เข้าใจน้องบี แต่ยังคิดถึงน้องนะคะ :L1:

ตอนนั้นผมก็กำลังรู้สึกเหมือนกันครับว่าว่านพยายามทำแบบที่บีทำทุกอย่าง
เลยกลายเป็นว่าอะไรที่บีเคยได้ว่านจะได้ไปหมด
แต่มามองอีกมุม....แสดงว่าก่อนหน้านี้ว่านเองก็สังเกตผมกับบีไม่ใช่น้อยๆเลยทีเดียว
หัวข้อ: Re: น้องชาย 2 ( Up ช่วงที่ 4 : 26/04/11 )
เริ่มหัวข้อโดย: Na_RimKLonG ที่ 27-04-2011 09:13:45
จิ้มพี่เอ  รูปพี่เอ  น้องหล่ออ่ะ  กริ๊ดๆๆ

ผ่านตาหลายรอบแล้ว  5555+
หัวข้อ: Re: น้องชาย 2 ( Up 25/04/11 )
เริ่มหัวข้อโดย: w[o]w ที่ 27-04-2011 10:35:24

น้องว่านปมเยอะเนอะ
แต่คิดถึงน้องบี อิอิ

 :กอด1: ~ คิดถึงบีเหมือนกันครับ อ่าน Re แล้ว....อยากโทรหาน้องจัง...
 :o12: ~ น้องจะว่างคุยกับผมไหมน๊า


โทรก็ดีครับผมก้อยากรู้ แต่กลัวพี่เอเสียใจถ้าน้องเค้าไม่เหมือนเดิม สู้ๆครับ
หัวข้อ: Re: น้องชาย 2 ( Up ช่วงที่ 4 : 26/04/11 )
เริ่มหัวข้อโดย: icyblue ที่ 27-04-2011 10:46:22
น้องว่านแค่ 14 ทำไมดูซีเรียสจัง

สงสารน้องต้องอยู่บ้านคนเดียวแทบทุกวัน  :เฮ้อ: เป็นเพราะไม่ได้อยู่พร้อมหน้ากันในครอบครัวรึป่าว

น้องถึงดูเก็บตัว ไม่ชอบสุงสิงกับใคร แล้วก็จริงจังกับชีวิต ดูไม่สดใสสมวัยอ่ะ 

พอมีเอน้องเค้าเลยรู้สึกอุ่นใจอยากมีคนคุยที่สนิท ไว้ใจได้ ดูแล เหมือนมีพี่ชายอะไรอย่างนี้ (ป่าว?)

น้องก็ยังเด็กเข้าวัยทีนมีการเปลี่ยนแปลงหลายด้าน  เอก็ดูๆน้องเค้าดีๆนะค่ะ (แบ่งซ้าย ขวาให้เรียบร้อย อิอิ)

คิดถึงน้องบีจัง  :กอด1:

หัวข้อ: Re: น้องชาย 2 ( Up ช่วงที่ 4 : 26/04/11 )
เริ่มหัวข้อโดย: u-only-one ที่ 27-04-2011 11:14:29
น้องบีหน้าตาคล้ายแบบนี้เองเหรอ น่ากอดจริงๆเล๊ยยย  :กอด1:

คิดถึงน้องบี เอคะ..โทรเลย น้องจะว่างไม่ว่างอย่างน้อยก็ให้รู้ว่าเรายังคิดถึงเค้าอยู่เสมอ
โทรบ่อยๆเดี๋ยวน้องก็ซึมซับเองแหละ เชียร์สุดฤทธิ์ เอสู้ๆ :z12:
หัวข้อ: Re: น้องชาย 2 ( Up ช่วงที่ 4 : 26/04/11 )
เริ่มหัวข้อโดย: bbyuqin ที่ 27-04-2011 11:22:42
จริงๆน้องว่านเค้าคงเหงาและอาจจะขาดความอบอุ่นนิดๆนะ เห็นด้วยกับเอที่คิดว่าเมือ่ก่อนน้อวคงมองเวลาบีอยู่กับเอและอาจจะอยากให้เอทำแบบนั้นบ้าง..

อืม..แล้วได้คุยกับน้องบีบ้างรึยังจ๊ะ
+1 ให้เช่นเคย
หัวข้อ: Re: น้องชาย 2 ( Up ช่วงที่ 4 : 26/04/11 )
เริ่มหัวข้อโดย: sang som ที่ 27-04-2011 15:23:03
ตามมาอ่านค่า คิดถึงน้องบีแล้วก็พี่เอน้าาา
หัวข้อ: Re: น้องชาย 2 ( Up ช่วงที่ 4 : 26/04/11 )
เริ่มหัวข้อโดย: me_alone ที่ 27-04-2011 19:58:51
จิ้มพี่เอ  รูปพี่เอ  น้องหล่ออ่ะ  กริ๊ดๆๆ
ผ่านตาหลายรอบแล้ว  5555+

 :กอด1:




น้องว่านปมเยอะเนอะ
แต่คิดถึงน้องบี อิอิ
:กอด1: ~ คิดถึงบีเหมือนกันครับ อ่าน Re แล้ว....อยากโทรหาน้องจัง...
 :o12: ~ น้องจะว่างคุยกับผมไหมน๊า
โทรก็ดีครับผมก้อยากรู้ แต่กลัวพี่เอเสียใจถ้าน้องเค้าไม่เหมือนเดิม สู้ๆครับ

 :o12: ~ โทรแล้วเมื่อกี้น้องไม่รับอะ



น้องว่านแค่ 14 ทำไมดูซีเรียสจัง
สงสารน้องต้องอยู่บ้านคนเดียวแทบทุกวัน  :เฮ้อ: เป็นเพราะไม่ได้อยู่พร้อมหน้ากันในครอบครัวรึป่าว
น้องถึงดูเก็บตัว ไม่ชอบสุงสิงกับใคร แล้วก็จริงจังกับชีวิต ดูไม่สดใสสมวัยอ่ะ 
พอมีเอน้องเค้าเลยรู้สึกอุ่นใจอยากมีคนคุยที่สนิท ไว้ใจได้ ดูแล เหมือนมีพี่ชายอะไรอย่างนี้ (ป่าว?)
น้องก็ยังเด็กเข้าวัยทีนมีการเปลี่ยนแปลงหลายด้าน  เอก็ดูๆน้องเค้าดีๆนะค่ะ (แบ่งซ้าย ขวาให้เรียบร้อย อิอิ)
คิดถึงน้องบีจัง  :กอด1:

 :กอด1: ~ ครับผม





น้องบีหน้าตาคล้ายแบบนี้เองเหรอ น่ากอดจริงๆเล๊ยยย  :กอด1:
คิดถึงน้องบี เอคะ..โทรเลย น้องจะว่างไม่ว่างอย่างน้อยก็ให้รู้ว่าเรายังคิดถึงเค้าอยู่เสมอ
โทรบ่อยๆเดี๋ยวน้องก็ซึมซับเองแหละ เชียร์สุดฤทธิ์ เอสู้ๆ :z12:

 :กอด1: ~ ครับ บีหน้าตาประมาณนี้เลย จริงๆก็อยากเอารูปน้องมาแปะเลยนะ แต่ว่า....คงไม่เหมาะเท่าไหร่ ^^




จริงๆน้องว่านเค้าคงเหงาและอาจจะขาดความอบอุ่นนิดๆนะ เห็นด้วยกับเอที่คิดว่าเมือ่ก่อนน้อวคงมองเวลาบีอยู่กับเอและอาจจะอยากให้เอทำแบบนั้นบ้าง..
อืม..แล้วได้คุยกับน้องบีบ้างรึยังจ๊ะ
+1 ให้เช่นเคย

 :กอด1: ~ ขอบคุณสำหรับ + นะครับ ส่วนบียังไมไ่ด้คุยเลยอะครับ วันนี้ค่ำๆหน่อยว่าจะโทรหาอีกที



ตามมาอ่านค่า คิดถึงน้องบีแล้วก็พี่เอน้าาา

 :กอด1: ~ ขอบคุณที่ติดตามครับ
หัวข้อ: Re: น้องชาย 2 ( Up ช่วงที่ 4 : 26/04/11 )
เริ่มหัวข้อโดย: me_alone ที่ 27-04-2011 20:44:36
ช่วงที่ 5

       
        หลายวันผ่านไปโดยปราศจากการมาดูแลยิมของพี่ป้อม มีเพียงโค้ชคนดูแลยิมคนเดียวตามความรู้สึกผม ผมว่านับวันมันยิ่งไม่มีระเบียบมากขึ้นเรื่อยๆ แถมหักโหมซ้อมจนหนักเกินกว่าน้องๆ จะรับไหว บางอย่างที่โค้ชสั่งให้ฝึกซ้อมยังเป็นผลเสียต่อข้อเข่าของน้องๆ อีกด้วย นี่เป็นหนึ่งในสาเหตุจากหลายๆ สาเหตุที่ทำให้อ้นเกลียดโค้ชเข้ากระดูกดำแต่ว่า.....ก็ยังมีอยู่คนหนึ่งที่ยังคงเชื่อฟังแล้วก็ทำตามที่โค้ชสั่งโดยไม่ปริปากบ่นสักคำ....ไม่ใช่ใครที่ไหนครับ ว่านนั่นเอง

        วันนี้ก็เป็นอีกวันที่ความไร้ระเบียบดำเนินไปดังเช่นวันก่อนๆ ...หลังจากวอร์มเสร็จแล้ว ในขณะที่ผมกำลังยืนคุยกับน้องต้นกล้าอยู่ ว่านก็วิ่งมากระโดดกอดผมจากทางด้านหลัง “เฮ่ย!” ผมอุทานขึ้น เนื่องจากตกใจแล้วก็มองไม่เห็นว่าใครมากระโดดกอดผมเพราะการเล่นแบบนี้นอกจากบีแล้วก็ไม่มีใครกล้าเล่นกับผม แต่ทว่า....ในเวลาแบบนี้จะเป็นบีได้ไง ก่อนที่จะหันไปดูจึงเจอหน้าเจ้าตัวที่เกาะหลังผมอยู่แบบแน่นมากๆกะว่าไม่หลุดตกลงไปบนพื้นแน่ๆ เลยทีเดียว พอว่านเห็นว่าผมหันมามองว่านก็ยิ้มให้ก่อนจะเอาหน้าที่ชุ่มเหงื่อซุกๆ ตรงบ่าข้างขวาของผม จนเสื้อผมชุ่มไปด้วยเหงื่อของว่านเลยทีเดียว


“เปื้อนๆๆ” ผมพูดบอกว่านที่กำลังซุกบ่าผมอย่างเมามัน
“อิอิ” เสียงหัวเราะเบาๆเล็ดลอดออกมา
“หนัก...ลงได้แล้ว ตัวไม่ใช่เล็กๆเลย” ผมพูดพลางเอามือไปประคองขาว่านที่หนีบกับเอวผมอยู่
“อิอิอิ” เหมือนว่านจะถูกใจ แล้วทันได้นั้นเอง....
“ง่ำ!!”

        ว่านงับไหล่ซ้ายผมเข้าให้ ตามด้วยสะบัดไปมาเบาๆ แล้วก็....เลีย....ตอนนั้น....ผมยืนอยู่เฉยๆ ให้ว่านทำ...ไม่รู้ซิครับ บีเองก็เคยทำแบบนี้ มันรู้สึกดีจัง น้ำลายของว่านทำให้เสื้อแนบชิดติดผิวของผม....ตอนนั้นผมรู้สึกได้เลย...ลมหายใจอุ่นๆ ที่ออกมาจากปากของว่าน ลิ้นอุ่นๆที่กำลังตวัดไปมา....มันทำให้ผมรู้สึกเสียวสันหลังวาบๆเลยแฮะ แต่ว่า....มันก็เจ็บเหมือนกันนะที่ว่านกัดอะ....


“ว่าน...ไปทำอะไรพี่เค้าแบบนั้น เดี๋ยวพี่เค้าก็เจ็บหรอก” ตองเดินมาพูดกับว่านพลางตีไหล่ว่านเบาๆ ก่อนที่ว่านจะหยุดกัด แล้วทิ้งตัวลงไปยืนอยู่กับพื้นตามด้วยเอาแขนเสื้อผมไปเช็ดปากตัวเองแล้วพูดกับตองว่า
“ดี ผมชอบ อิอิอิ” ว่านตอบตองกลับไปพร้อมกับรอยยิ้มอย่างพึงพอใจ ก่อนจะเดินไปกินน้ำตอนนั้นผมเปิดคอเสื้อดูตรงที่ว่านกัด..อืมม...เป็นรอยฟันเลยทีเดียว...
“เป็นไงพี่” ตองถาม
“เป็นรอยเลยดิ” ผมตอบกลับไป
“สงสัยจะสาย S นะเนี่ยะ”
“เป็นไปได้”
พอผมตอบเสร็จ ตองก็หัวเราะเบาๆ “อิอิอิ”


        ไม่นานหลงจากที่ผมคุยกับตองจบโค้ชก็เรียกน้องๆไปรวม แล้วบอกให้เตรียมวิ่งขึ้นลงบันได 90 รอบ ขึ้นและลงให้นับเป็น 1 รอบ

“ฮูยยย ครู เก้าสิบรอบเลยเหรอ” ต้นกล้าบ่นขึ้นมา
“อะไร แค่เก้าสิบรอบ ตอนเด็กๆ ครูวิ่งร้อยห้าสิบรอบมาแล้วบันไดเนี่ยะ” โค้ชพูดข่มเด็กๆด้วยน้ำเสียงประมาณว่าแค่นี้จิ๊บๆ
“ห้าสิบไม่ได้เหรอครู” ตองต่อรอง
“ไปๆๆ เสียเวลา ให้เวลาสามสิบนาที” แล้วโค้ชสั่งน้องๆให้ไปวิ่งพร้อมกับทำท่าแบบว่า วิ่งๆไปเหอะจะมาต่อรองอะไรมากมายแล้วเด็กๆก็จำต้องไปวิ่งท่ามกลางเสียงบ่นกันระงม
“เอ..จะไปวิ่งด้วยก็ได้นะ” พูดจบโค้ชก็หันมามองหน้าผม
“ปะพี่วิ่งด้วยกัน” ว่านหันมาพูดเชิญชวนตามด้วยกวักมือเรียก อืม...เอาก็เอา


        ว่าแล้วผมก็ไปวิ่งกับน้องๆ จริงๆ ผมอายุยี่สิบกว่าแล้วนะเรื่องความฟิตมันสู้เด็กๆไม่ได้หรอก แต่ผมก็อดสงสัยว่าโค้ชที่เป็นรุ่นพี่ผมหลายปีจะวิ่งได้ 150 รอบจริงเหรอ เพราะผมแค่วิ่งได้ 50 รอบก็ปวดขาแล้ว ส่วนบันไดที่กำลังพูดถึงนี้เป็นบันไดขึ้นไปห้องเก็บของแล้วก็ด่านฟ้าที่อยู่ชั้น 2 ครับกว้างพอสมควร มีจำนวนขั้น 33 ขั้น วิ่งขึ้นชิดขวา วิ่งลงชิดขวาก็ไม่ชนกันแล้ว แต่ประเด็นคือ 150 รอบของโค้ชครับ ลองนึกถึงอาคารสูง 3 ชั้น ให้เราวิ่งขึ้น แล้วก็ลงโดยไม่หยุด 50 รอบ น่าจะเห็นภาพได้ชัดขึ้นความจริงแล้วเรื่องวิ่งขึ้นลงบันไดเนี่ย พวกน้องๆที่เรียนวิทยาศาสตร์การกีฬามาบอกว่า การออกกำลังกายแบบนี้มากไปจะทำให้หัวเข่าเสีย ซึ่งน้องๆที่มหาวิทยาลัยก็เคยค้านโค้ชเรื่องนี้หลายครั้ง จนโค้ชต้องเลิกพาน้องๆที่มหาวิทยาลัยวอร์มแบบนี้ไปในที่สุด แต่กับที่ยิมโค้ชยังไม่เลิกครับ เพราะไม่มีใครค้านด้วยข้อมูลทางวิชาการแบบน้องๆที่มหาวิทยาลัยยกขึ้นมาค้าน ซึ่งผมก็ไม่เข้าใจว่าทำไมเค้าถึงยังปักใจกับการวิ่งขึ้นลงบันไดแบบนี้อยู่สั่งให้น้องๆทำแต่ละครั้งก็ไม่ใช่น้อยๆเป็นอันตรายกับหัวเข่าน้องๆ อีกด้วยแต่เค้าก็ไม่เคยใส่ใจเอาล่ะ กลับมาที่น้องๆ ที่กำลังวิ่งกันดีกว่า ในขณะที่วิ่งอยู่นั้นมีน้องๆ หลายคนหยุดพักเป็นระยะ แต่เชื่อไหมครับมีคนเดียวที่วิ่งต่อเนื่องโดยไม่หยุดเลย นั่นก็คือ...ว่านนั่นเอง.....


“ถ้าไม่ไหวหยุดก่อนก็ได้นะ” ผมพูดขึ้นขณะที่วิ่งตามหลังว่าน
“ไม่ครับ” ว่านตอบกลับมาสั้นๆแล้วก็วิ่งต่อ

        วันนั้นผมวิ่งจนครบ 90 รอบโดยไม่หยุด...มันก็เหนื่อยเอาเรื่องพอๆกับช่วงเก็บตัวไปแข่งเลยทีเดียว แต่...แล้วผมก็รู้สึกชาที่เข่า..... ผมยืนพิงกำแพงเอามือชันเข่าไว้ แล้วก็ก้มหน้า ตอนนั้นเหงื่อหยดจากคาง แล้วก็ปลายจมูกผมลงไปที่พื้นตึ๋งๆเหมือนก๊อกน้ำที่ปิดไม่สนิดพักหนึ่งว่านก็เดินมายืนข้างๆผม ก่อนจะเอาน้ำยื่นให้ผม


“พี่..น้ำ”


        ผมเปลี่ยนจากยืนชันเข่ามาเป็นยืนตัวตรงพิงกำแพงแล้วก็ดื่มน้ำที่ว่านเอามาให้พอผมยกขวดขึ้นดื่มว่านก็เอาหน้ามาซุกๆตรงหัวไหล่ พอดื่มน้ำเสร็จว่านก็อาสาจะเอาไปเก็บให้ ยังไม่ทันที่ว่าจะเอาน้ำไปวางเสร็จโค้ชก็เรียกรวมอีกก่อนจะพาซ้อมอย่างหนักต่อไป ซึ่งโค้ชเค้าจะออกแนวๆสั่งให้ทำเป็นจำนวนเท่านั้นเท่านี้แล้วให้น้องๆทำกันเอง ระหว่างนั้นโค้ชก็ไปนั่งเล่นนั่งคุยกับพวกพี่ๆหรือเพื่อนของน้องๆที่มาซ้อมแทน ถ้านึกครึ้มก็จะเดินมาดูเป็นคนๆ ส่วนผมเหรอ ก็เดินดูน้องไปทีละคน
ช่วงการซ้อมแบบนี้จริงๆถามว่าจะอู้ได้ไหม มันก็ได้นะครับ แต่ว่าเพราะว่านนี่ซิครับทำให้คนอื่นไม่กล้าอู้ ว่านจะคอยหันไปมองคนที่อู้ซ้อมแล้วก็ทำหน้าตาไม่พอใจใส่ ไม่ก็มองให้คนอื่นรู้ตัวว่า “มีคนมองอยู่นะ”ในตอนหลังมีผู้ปกครองมาเห็นเลยเอาไปพูดทำนองว่าครูที่นี่ไม่ใส่ใจเลยเผอิญโค้ชคนเก่งดันไปได้ยิน เลยออกมาแก้ตัวกับเด็กๆว่า “มีคนบอกว่าครูไม่ใส่ใจพวกเรา จริงๆไม่ใช่ไม่ใส่ใจ แต่ครูจะเลือกมาดูเฉพาะคนที่ตั้งใจซ้อมเท่านั้น เวลาที่ครูนั่งอยู่ข้างหลัง ไม่ใช่ว่าไม่ได้หันมาดู ครูหันมาดูเรื่อยๆแหละ ถ้าเห็นใครตั้งใจครูก็จะเดินมาบอก”-------ครับ เดาไม่ถูกแค่หวย วันต่อมาผู้ปกครองที่พูดก็พาลูกชายเค้าไปเรียนยิมอื่นเลย ส่วนโค้ชเหรอครับ เค้าก็แค่บอกว่า “ทำไมต้องไปสนใจในเมื่อเด็กไม่ได้ตั้งใจ”

        กลับมาที่เรื่องราวของวันนั้นกันต่อ หลังจากที่ซ้อมเสร็จแล้วเด็กๆทุกคนเหมือนจะเพลียกันมากๆ โค้ชเค้าเลยให้เลิกแบบเดิมคือเลิกแถวเลยโดยไม่ต้องเคารพผู้สอน ไม่ต้องเคารพรุ่นพี่ ผมก็เดินไปนั่งที่มุมเดิม ส่วนว่านเดินไปที่กระเป๋าก่อนจะหยิบเอายานวดมาหลอดหนึ่งแล้วกลับมานั่งข้างๆผม พอนั่งเสร็จว่านก็เริ่มละเลงครีมลงที่เข่า แล้วก็ข้อเท้าก่อนจะเริ่มนวดๆๆ


“เจ็บเหรอ” ผมถามว่าน
“นิ๊ดหน่อย” ว่านตอบกลับมา
“ซ้อมก็ระวังเรื่องหัวเข่า เรื่องข้อไว้หน่อยแล้วกัน บ้าพลังมากไป เข่าเสีย ข้อเสื่อมขึ้นมามันไม่คุ้ม”
“อื่อ” ว่านตอบกลับมาแค่นั้น ก่อนจะนวดขาอีกข้างแบบเดียวกัน

        พอนวดเสร็จว่านก็มานั่งตรงตักผมแล้วก็นอนพิงผมเหมือนเดิม ผมไม่รู้จะชวนว่านคุยเรื่องอะไรแฮะ บีไม่อยู่ อ้นก็ไม่มา ต้นกล้าก็กลับบ้านแล้ว ผมเลยได้แต่นั่งกอดว่านหลวมๆอยู่อย่างนั้นจนทุกคนกลับบ้านหมด

“ปะ” ผมพูดขึ้นพลางเอามือกอดว่านแน่นขึ้น....

        แต่...ผมรู้สึกไปเองหรือเปล่า...ว่าว่านตัวร้อน....พอผมคลายมือว่านก็ค่อยๆลุกขึ้น แล้วก็หันมามองผมก้อนจะยื่นมือให้ผมจับ ผมคว้ามือว่านไว้แล้วดึงตัวเองลุกขึ้น...มือว่านเย็นแปลกๆ....พอผมลุกขึ้นได้ผมเอามือไปแตะที่หน้าผากว่าน ปรากฏว่าร้อนฉ่าเลยเพื่อความแน่ใจผมเลยเอาหลังมือไปแตะที่หลังคอว่านด้วย ปราฏกว่าร้อนจริงๆ


“ตัวร้อน ไม่สบายเหรอ” ผมถามว่าน
“ครับ” ว่านตอยกลับมาเสียงเพลียๆ
“ตั้งแต่เมื่อไหร่ ทำไมไม่บอกพี่”
“ตั้งแต่ช่วงเที่ยงแล้วครับ” ว่านตอบเสร็จก็หันมายิ้ม ทำหน้าเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นทั้งๆที่ปากเริ่มซีดจนเริ่มสังเกตได้แล้ว
“ทานยาหรือยัง ที่บ้านมียาทานไหม” ผมถามว่าน ขณะที่ผมกับว่านเดินไปหยิบกระเป๋า
“เมื่อเที่ยงทานแล้ว แต่ที่บ้านไม่มียา” ว่านตอบกลับมา
“คุณแม่อยู่ไหมวันนี้”
“ไม่ครับ”
“....”


        หลังจากปิดยิมผมก็พาว่านไปทานก๋วยเตี๋ยว ซึ่งว่านทานได้น้อยมาก ต่อจากนั้นผมก็พาน้องไปซื้อยา ก่อนจะพากลับบ้านตลอดทางว่านนั่งซบหลังผมตลอดเช่นกันผมก็กำมือว่านไว้ไม่คลายตั้งแต่ร้านยา พอมาถึงหน้าบ้าน ว่านเดินลงแบบเซๆไปที่ประตูบ้านก่อนจะปีนเข้าไปเหมือนที่เคยทำ


“ว่าน...”
“ครับ” ว่านหันกลับมาตอบ
“อยู่คนเดียวได้ไหม” ผมถามว่านออกไป ซึ่งจริงๆแล้วตอนนั้น....ผมอยากจะถามน้องว่า “ให้พี่อยู่เป็นเพื่อนไหม” มากกว่า
“ได้ครับ” ว่านยิ้ม
“อืม....ทานยาพักผ่อนนะครับ มือถือเปิดไว้ด้วยนะ มีอะไรโทรหาพี่ได้ตลอด ไม่ต้องเกรงใจเข้าใจไหม”
“ครับ”


        แล้วว่านก็เดินเข้าบ้านไป ผมเฝ้ามองว่านอยู่ตรงนั้นพักหนึ่งจนแน่ใจว่าว่านใส่กุญแจบ้านเรียบร้อยแล้วผมถึงกลับออกมา คืนนั้นผมเปิดโทรศัพท์ทั้ง 3 เครื่องทิ้งไว้ทั้งคืน เพราะผมไม่แน่ใจว่าว่านจะโทรมาเบอร์ไหน ยิ่งถ้าโทรช่วงที่ไม่สบายมากๆด้วย ผมว่าว่านคงไม่เลือกเบอร์ที่จะโทรมาแน่ๆ



To Be Con
หัวข้อ: Re: น้องชาย 2 ( Up ช่วงที่ 5 : 27/04/11 )
เริ่มหัวข้อโดย: bbyuqin ที่ 27-04-2011 21:58:36
^
^
^
จิ้มพี่เอ.. :z13:

น้องว่านนี่ก็แอบเยอะเหมือนกันนะเนี่ย เครียดกับชีวิตมากเกิน..

ส่วนอีกคนอิตาโค้ชเนี่ย เป็นอะไรมากรึปล่าว จริงๆไม่จำเป็นต้องซ้อมหนักขนาดนี้ก็ได้มั้ง เอาแบบว่าให้ร่างกายอดทนได้ครบยกแล้วสอนเทคนิคเพื่อเตะได้แต้มแบบไม่ต้องปะทะไม่ดีกว่าเหรอ..เซ็งอิตาโค้ช  :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: น้องชาย 2 ( Up ช่วงท$
เริ่มหัวข้อโดย: tuek ที่ 27-04-2011 22:24:29
^
^
^
จิ้มพี่เอ.. :z13:

น้องว่านนี่ก็แอบเยอะเหมือนกันนะเนี่ย เครียดกับชีวิตมากเกิน..

ส่วนอีกคนอิตาโค้ชเนี่ย เป็นอะไรมากรึปล่าว จริงๆไม่จำเป็นต้องซ้อมหนักขนาดนี้ก็ได้มั้ง เอาแบบว่าให้ร่างกายอดทนได้ครบยกแล้วสอนเทคนิคเพื่อเตะได้แต้มแบบไม่ต้องปะทะไม่ดีกว่าเหรอ..เซ็งอิตาโค้ช  :เฮ้อ:


เห็นด้วย ว่านดูเครียดๆนะ
โค้ชเป็นอะไรมากป่าว
+1 นะคะ
หัวข้อ: Re: น้องชาย 2 ( Up ช่วงที่ 5 : 27/04/11 )
เริ่มหัวข้อโดย: sang som ที่ 28-04-2011 17:03:00
^
^
^

ก็ว่างั้นแหละอิตาโค้ชเนี่ยมันบ้าป่าว

น้องว่านน่าสงสารจัง ต้องอยู่บ้านคนเดียวให้พี่ไปอยู่เป็นเพื่อนไหมจ้ะ หึหึ :z1: :haun4:
หัวข้อ: Re: น้องชาย 2 ( Up ช่วงที่ 5 : 27/04/11 )
เริ่มหัวข้อโดย: me_alone ที่ 28-04-2011 22:42:30
ช่วงที่ 6

        
        วันใหม่กับอะไรใหม่ๆ....วันนี้ผมจำได้ว่ามันเป็นเช้าวันที่ค่อนข้างสดใสท้องฟ้าสวยมากจนอยากคว้ากล้องมาถ่ายภาพไว้ อากาศกำลังเย็นสบายแดดอุ่นๆในเวลาเช้าๆแบบนี้ผมไม่อยากลุกจากที่นอนเลยแฮะ แต่ว่า...มันเป็นหน้าที่นี่นา นึกขึ้นได้ดังนั้นผมก็เอามือคลำๆหารีโมทแอร์ที่วางไว้อยู่แถวๆหัวนอน

“ปี๊บๆ”

        ทันทีที่กดปิดเครื่องแอร์ก็ค่อยๆเบาเสียงลงในไม่กี่อึดใจก่อนจะเงียบดับไป ผมค่อยๆคลานแบบถอยหลังมาที่ปลายเตียงก่อนจะดันตัวลุกขึ้นใจลอยอยู่พักหนึ่งแล้วลงไปทำธุระส่วนตัว หลังจากทำธุระส่วนตัวเสร็จหมดแล้วรวมถึงใส่เนกไทซึ่งเป็นเครื่องแต่งกายชิ้นสุดท้ายที่ผมจะใส่สำหรับชุดนักศึกษา ผมเดินไปหยิบโทรศัพท์ที่วางไว้มาใส่กระเป๋า ซึ่งระหว่างที่หยิบผมก็กดดูด้วยว่ามีใครโทรเข้ามาช่วงหลับลึกหรือเปล่า ระหว่างที่เปิดดูนั้นผมก็มองนาฬิกาที่อยู่ตรงหัวมุมโทรศัพท์ด้วย

“07.30น.”
“อืมม......” ผมยืนนิ่งคิดอยู่ในใจว่าจะโทรไปหาว่านดีไหม เพราไม่รู้เลยว่าน้องเป็นยังไงบ้าง ดีขึ้น หรือ แย่ลง ไปเรียนได้หรือเปล่า ถ้าไม่ได้ไปข้าวเช้ามีทานไหม ใครจะไปซื้อให้ถ้ายังไม่มี
“ตรู๊ดดดดดด.........ตรู๊ดดดดดดดด.......ตรู๊ดดดดดดดดด......แกร๊ก !$%#%!%$@#^$^#5253!@%$@%” ทันทีที่มีการรับสาย เสียงต่างๆจากรอบข้างก็ประเดประดังเข้ามาซึ่งพอจับใจความได้ว่าปลายสายตอนนี้น่าจะอยู่โรงเรียนแน่นอน
“ครับ”
“อยู่โรงเรียนแล้วเหรอ”
“ครับ”
“ดีขึ้นแล้วเหรอ”
“ครับ”
“อืมม ทานข้าวทานยายัง”
“แล้วครับ”น้ำเสียงว่านตอนนี้เหมือนไม่อยากคุยเท่าไหร่
“ไม่กวนล่ะ”ผมเลยตัดบทไป
“ครับผม”


        อืมม...เหมือนผมโทรไปกวนน้องเลยแฮะ...จริงๆผมเองก็น่าจะเดาได้ว่าน้องดีขึ้นแล้ว เพราะถ้าไม่ดีขึ้นน้องก็น่าจะโทรมาหา แต่ไม่ได้โทรมาก็ไม่น่าจะเป็นอะไร ผมคงห่วงเค้ามากไปซะล่ะมั้ง ว่าแล้วผมก็ตรงไปที่มหาวิทยาลัยทันทีเพื่อทานข้าวร้านประจำ ไข่ดาว กับ ไก่ทอด ที่ผมทานมาตั้งแต่ผมเข้าเรียนที่นี่วันแรก จนถึงปี3 เรียกได้ว่าพอเห็นหน้าปั๊บป้าคนขายก็รีบตักให้ทันทีตั้งแต่เห็นผมจอดรถที่หน้าโรงอาหารเลยทีเดียวราคาก็ไม่แพงครับอยู่ที่สิบห้าบาท หลังจากทานอาหารเสร็จแล้วผมก็เข้าเรียนครับ วันนี้มีเรียนเช้าบ่ายเลย ซึ่งคาบบ่ายวันนี้อาจารมีแนะแนวข้อสอบกลางภาค ซึ่งอาจารย์ผู้สอนไมได้เป็นผู้ออกข้อสอบเอง ด้วยความเป็นห่วงนักศึกษาอาจารย์เลยเอาแนวข้อสอบ รวมถึงหัวข้อสำคัญๆที่จะใช้ในการสอบข้อเขียนซึ่งเน้นการวิเคราะห์มากกว่าท่องจำมาแนะแนวทางในการตอบเพื่อจะได้ทำคะแนนดีๆ โดยระหว่างที่อาจารย์กำลังบอกแล้วผมกำลังนั่งเลคเชอร์อยู่นั้น....


“ตี๊ดๆ...ตี๊ดๆ.....” เสียงเตือน SMSจากโทรศัพท์เครื่องหลักก็ดังขึ้นเบาๆ ผมหยิบโทรศัพท์ออกจากกระเป๋ากางเกงมาดู
“พี่มารับผมที่รรหน่อยครับ จาก ว่าน” ผมมองข้อความ แล้วมองนาฬิกาที่อยู่ตรงหัวมุมของจอ
“14.30น.” อีกตั้งหนึ่งชั่วโมงแน่ะกว่าจะหมดคาบ แถมวันนี้แนะแนวด้วยเอาไงดี ว่าแล้วผมก็พิมพ์ข้อความกลับไป
“มีอะไรด่วนหรือเปล่า”

        ผมรอข้อความตอบกลับอยู่ประมาณ 10 นาที แต่ก็ไม่มีข้อความใดส่งกลับมา หรือ จะเปิดอะไรขึ้น ตอนนั้นผมรู้สึกร้อนใจจนบอกไม่ถูก นึกถึงตอนที่น้องบีเป็นอะไรแล้วติดต่อผมซะก่อนจะติดต่อผู้ปกครองด้วยซ้ำแล้วมันทำให้ผมยิ่งกังวลใจมากกว่าเดิม ว่าแล้วผมก็ยกมือขึ้น

“เอ..มีอะไรเหรอ” อาจารย์เรียกชื่อเล่นของผม แล้วถามด้วยความเป็นกันเอง
“คือ ผมมีธุระด่วนมากๆเลยครับ” ผมลุกขึ้นแล้วตอบอาจารย์
“กลับก่อนก็ได้” อาจารย์ตอบกลับมาแล้วยิ้มก่อนจะหันไปเขียนข้อความที่ยังค้างอยู่บนกระดานต่อ
ผมหันไปตบไหล่ม่อนเบาๆแล้วบอกกับม่อนว่า “เลคให้ด้วย”
“อื่อ”


        ผมรีบเก็บของลงกระเป๋าออกมาจากห้องลงไปที่ลานจอดรถอย่างเร่งรีบ ซึ่งผมจำได้ว่าพอมาถึงรถผมหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรหาว่านอีกครั้ง แต่ว่านไม่ได้รับสาย ก่อนจะออกรถไปที่โรงเรียนของว่านอย่างรวดเร็วผมบิดรถด้วยความเร็ว90 กิโลเมตรต่อชั่วโมงกับเส้นทางที่เกือบจะเป็นเส้นตรงเลียบไปกับคลองไม่ถึง 5 นาทีผมก็มาถึงโรงเรียนของว่านก่อนจะโทรเข้าหาน้องด้วยความร้อนใจ


“ตรู๊ดดดดดดดด........ตรู๊ดดดดดดดดดด........ตรู๊ดดดดดดดด....ตรู๊ดดดดดดดด....แกร๊ก ครับพี่”
“ว่านอยู่ไหน”
“ที่สนามบาสครับ” ว่านตอบกลับมา...น้ำเสียงของว่านเหมือนจะไม่ได้เป็นอะไรนี่นา
“พี่อยู่หน้าโรงเรียน”
“ครับๆ ไปเดี๋ยวนี้ล่ะครับ”

        แล้วว่านก็ตัดสายไป....จากที่ฟังน้ำเสียงแล้วว่านเองก็ไม่ได้เป็นอะไรนี่นาน้ำเสียงค่อนข้างสดใสกว่าเมื่อเช้าด้วยซ้ำ แล้วจะให้ผมมาหาทำไมตอนนี้ล่ะ คำตอบที่ผมอยากรู้อีกเดี๋ยวคงจะได้ทราบกันเมื่อว่านมาถึง

“พี่เอ”

        ว่านตะโกนเรียกผมขณะที่น้องกำลังเดินออกมาจากหน้าประตูโรงเรียน ผมหันไปยิ้มแล้วว่านก็ยิ้มๆรับ....ภาพแบบนี้....เหมือนเวลาบีเขินใส่ผมเลยแฮะ ยิ้มด้วยความดีใจแต่ก็อายที่จะให้คนที่ตัวเองยิ้มให้เห็น แล้วสภาพว่านตอนนี้ดูสดใสไม่เหมือนคนป่วยเท่าไหร่ พอเดินมาถึงรถผมว่านก็เอากระเป๋าวางที่หน้ารถ ก่อนจะถอดหมวกลูกเสือออก แล้วพัดๆหน้าตัวเอง

“ใส่ชุดลูกเสือก็น่ารักดีนี่นา” ผมพูดออกไปตามที่ผมรู้สึก ว่านหันมายิ้มแล้วทำท่าทางเขินๆ
“ปรกติผมก็ใส่วันนี้ตลอดนี่นา พี่ก็เคยเห็นนี่นา” ว่านตอบกลับมาด้วยเสียงที่แสดงถึงความดีใจหน่อยๆ
“เขินเหรอ” ผมพูดแซวว่านออกไปด้วยน้ำเสียงทีเล่นทีจริง
“ที่ไหน อิอิอิ” ว่านหัวเราะเบาๆ
“แล้วมีอะไรเหรอ” ผมถามว่านถึงเรื่องที่ว่านส่ง SMS ตามผมมา
“ก็โค้ชเค้าบอกให้ผมเอาหลักฐานสำเนาใบสูติบัตร กับสำเนาทะเบียนบ้านไปให้ที่สำนักงานการกีฬาแห่งประเทศไทยตรงสนามกีฬาก่อนบ่ายสามครึ่งอะครับ”
“แค่นี้?” ผมถามว่านเพื่อความแน่ใจว่าที่เรียกผมให้มาหามีเรื่องแคนี้เองเหรอ
“ครับ แค่นี้” ว่านหันมายิ้ม ก่อนจะเอามือมาจับๆเนคไทผมให้ตรง
“เวลาพี่ใส่เนคไทดูหล่อดีนะครับ” ว่านยิ้ม
“แล้วไปเอาที่ไหนเอกสารที่ว่า”
“ไปบ้านผม”
“งั้นก็ปะ” ผมพูดจบว่านก็ทำท่าจะเดินมาขึ้นรถแต่ว่า
“ว่าน เดี๋ยว” ผมเรียกว่าน ว่านหยุดกึกแล้วหันมามองผม
“ครับ”
“มานี่” ผมดึงมือว่านมาข้างๆแล้วเอามือปัดๆผมว่านก่อนจะเอาหมวกลูกเสือในมือว่านสวมลงไป
“เวลาว่านใส่ชุดลูกเสือแบบนี้พี่ว่าน่ารักดีเหมือนกันนะ” ผมพูดจบว่านก็ยิ้ม ก่อนจะขึ้นรถ


        ระหว่างทางไปบ้านน้องผมกังวลเรื่องเลคเชอร์อยู่หน่อยๆเพราะของแบบนี้มันต้องจดตามที่เราเข้าใจ หรือ จุดที่เราสนใจ แต่ดันไปให้เพื่อนจดให้....แต่ก็ช่างมันเถอะเดี๋ยวผมไปรวมจากเพื่อนๆหลายๆคนมาอ่านก็ได้ วันนั้นผมพาว่านไปส่งเอกสารที่สำนักงานการกีฬาแห่งประเทศไทยทันเวลาซึ่งถูกเจ้าหน้าที่บ่นๆเล็กน้อยซึ่งพอสอบถามก็พบว่านี่เป็นวันสุดท้ายของการส่งเอกสารสำหรับใช้ในการลงแข่งขันคัดตัวแทนเขตซึ่งทางสำนักงานการกีฬาแห่งประเทศไทยได้ติดต่อไปยังคุณโค้ชตั้งแต่เมื่อเดือนที่แล้ว แต่จนแล้วจนรอดก็ยังไม่เห็นเอาเอกสารหลักฐานมาส่งแต่อย่างได จนวันนี้วันสุดท้ายแล้ว ซึ่งจริงๆเป็นวันสุดท้ายที่เลทมาให้หลังจากวันหมดเขตด้วยซ้ำ โดยเจ้าหน้าที่ก็บ่นงุมงำๆตามประสาซึ่งผมก็เข้าใจเป็นผมผมก็บ่นล่ะนะ พอผมยืนเอกสารแล้วพี่เจ้าหน้าที่จรวจสอบเสร็จผมก็เดินออกมาเรียกว่านที่นั่งเล่น PSP ของผมอยู่ด้านหน้าของสำนักงานให้เข้ามาเซ็นเอกสาร


“โค้ชล่ะว่าน” ผมถามว่านขณะที่กำลังนั่งรอให้พี่เจ้าหน้าที่ตรวจสอบหลักฐานอีกครั้งซึ่งตอนนั้นน้องกำลังนั่งเล่น PSP อยู่-ข้างๆผม
“ไม่รู้ซิครับ เห็นว่าจะมารอนะ” ว่านตอบกลับมาขณะที่สายตาก็ยังไม่ละออกจาเกม

        หลังจากนั้นไม่นานเจ้าหน้าที่ก็มาแจ้งว่าเอกสารทั้งหมดเรียบร้อยแล้ว

“ว่าน ไปไหนต่อ เพิ่งบ่ายสามสี่สิบเอง” ผมถามว่าน
“อืมม แล้วแต่พี่” ว่านตอบกลับมา
“ไปยิมเลยเน๊าะ"
“ครับ”

        แล้วผมก็พาว่านไปส่งที่ยิมก่อนที่ผมจะวนกลับมาเปลี่ยนชุดที่บ้านแล้ววนกลับที่ยิมอีกครั้งหนึ่ง พอมาถึงอีกทีก็เจอมิ้นกำลังนั่งเล่นอยู่หน้ายิม ส่วนว่านนั่งเล่น PSP อยู่ข้างใน ผมเดินเอากระเป๋าเข้าไปเก็บที่ชั้นก่อนจะเดินไปนั่งที่มุมเดิม พอผมนั่งลงว่านเห็นดังนั้นก็ลุกขึ้นแล้วมานั่งข้างๆผมแล้ว...ว่านก็ก้มลงมาหอมที่ไหล่ผมเบาๆทีหนึ่งซึ่ง...ผมได้ยินเสียงลมหายใจว่านชัดเจนเลย..ก่อนที่ว่านจะนั่งเอาหน้าพิงไหล่ผมแล้วเล่น PSP ต่อ

“เฮ้อ....คิดถึงบีจังเลยแฮะ”

        ผมคิดในใจก่อนจะก้มหน้าไปหอมที่ผมของว่านเบาๆ ตอนนี้ผมอยากให้บีมานั่งที่ตักผมจัง....ผมอยากกอดบีอีก พอนึกอย่างนั้นขึ้นมาในใจผมก็ยกมือขวาขึ้นแล้วดึงว่านขึ้นมานั่งที่ตักผมแทนซึ่งว่านก็ให้ความร่วมมืออย่างดี พอว่านมานั่งที่ตักผมก็โอบตัวว่านเบาๆเอามือทั้งสองข้างประกบกันไว้เหนือขอบกางเกงว่านขึ้นมาเล็กน้อย ก่อนจะดึงตัวว่านให้นอนราบลงมาบนตัวผม แบบนี้ผมรู้สึกดีจัง เหมือนบียังอยู่กับผมยังไงก็ไม่รู้ ผมเลื่อนมือขึ้นมาสูงกว่าเดิมอีกเล็กน้อยก่อนจะก้มลงเอาคางวางลงบนหัวว่านเบาๆ แล้วหลับตา....


“ขายังเจ็บอยู่ไหม” ผมถามว่านเบาๆ
“นิ๊ดหน่อยครับ” ว่านตอบกลับมา
“ดูแลตัวเองด้วยนะครับ....พี่เป็นห่วง”
“ครับ”


        แล้วผมก็นั่งกอดว่านอยู่แบบนั้นจนเด็กๆเริ่มทยอยมาผมก็เปลี่ยนไปนั่งที่โต๊ะแทน ซึ่งว่านก็ตามมานั่งตักอยู่ดี จนถึงเวลาเริ่มซ้อมนี่ก็เป็นอีกวันที่โค้ชไม่ได้ให้เข้าแถวเคารพสถานที่เคารพผู้สอนก่อน แต่ให้แยกวอร์มของใครของมันเลย โดยให้เวลา 20 นาทีเหมือนเคยระหว่างนั้นโค้ชก็กำชับผมไว้ว่าไม่ต้องไปดู ยืนอยู่ห่างๆ ซึ่งผมก็ทำตาม ประมาณ 10 นาทีหลังจากเริ่มวอร์มพี่ป้อมก็มาที่ยิม เด็กๆในยิมที่วอร์มกันอยู่ก็หันมายกมือไหว้พี่ป้อม ก่อนจะกลับไปวอร์มต่อ ซึ่งตอนที่พี่ป้อมเห็นเด็กๆวอร์มแบบนั้นพี่ป้อมก็เอ่ยถามอยู่เหมือนกันว่า “ทำไมไม่นำวอร์มล่ะ” โค้ชก็ชี้แจงว่า “ไม่ต้องนำหรอกวอร์มเองแบบนี้ดีกว่า” พอโค้ชชี้แจงจบพี่ป้อมก็ทำหน้างงๆ

        แล้วพี่ป้อมก็เริ่มถามถึงเหตุการณ์หนึ่งที่เกิดขึ้นเมื่อวานเกี่ยวกับที่คุณโค้ชไปพูดหักหน้าผู้ปกครองรวมถึงใช้คำพูดที่ทำให้ผู้ปกครองเข้าใจว่าโค้ชกำลังกล่าวหาลูกเค้าว่าไม่มีความตั้งใจและไม่มีความรับผิดชอบ จนทำให้ผู้ปกครองต้องโทรไปฟ้องพี่ป้อม รวมถึงขอย้ายไปเรียนยิมอื่นโดยให้พี่ป้อมเคลียร์เอกสารที่ยืนยันการสอบสายของลูกเค้าทั้งหมดไปให้ ซึ่งพี่ป้อมต้องการทราบเรื่องราวที่เกิดขึ้นจากทั้งสองฝ่าย พอโค้ชได้ยินดังนั้นเลยตอบมาว่า “ก็ผมจะปรับปรุงรูปแบบการฝึกของยิมใหม่ ผมจะเน้นให้กับเด็กที่ตั้งใจก่อน ส่วนเด็กที่ไม่ตั้งใจผมก็จะปล่อยไป เพราะถ้าซ้อมรวมหลายครั้งเด็กที่ไม่ตั้งใจ จะทำให้เด็กที่ตั้งใจเสียสมาธิ รวมถึงทำให้เด็กที่จั้งใจพัฒนาฝีมือล่าช้าเพราะมีคนมาถ่วง”

        พอโค้ชพูดจบพี่ป้อมก็นั่งเงียบเหมือนจะคิดอะไรอยู่พักหนึ่งก่อนจะถามไปว่า “แล้วมันจริงไหมที่แกพูดว่าลูกเค้าแบบนั้น” พอถูกยิงคำถามมาแบบนี้โค้ชก็ตอบไปว่า “ผมไม่ได้ว่าเค้าแรงเลย ผมแค่อธิบายว่าทำไมผมถึงแยกซ้อมแบบนั้น ก็อย่างที่บอกว่าผมจะจี้เฉพาะเด็กที่ตั้งใจ ถ้าเค้ารับรูปแบบการสอนของผมไม่ได้ จะไม่ซ้อมกับผม จะย้ายยิม ผมก็ไม่ได้ว่าอะไร ผมอยากให้ที่ยิมมีแค่เด็กที่ตั้งใจอยากจะเก่งก็พอ” พูดจบโค้ชก็ลุกขึ้นเดินไปจี้เด็กรายตัวโชว์ พี่ป้อมนั่งนิ่งแล้วมองตามหลังโค้ชไปก่อนจะยิ้มมุมปากแล้วส่ายหน้า ตามด้วยหันมามองผมที่ยืนอยู่ใกล้ๆ


“พี่กลับแล้วนะ” พี่ป้อมพูดพลางลุกขึ้นจากเก้าอี้
“อ่าว กลับแล้วเหรอพี่”
“อื่อ แล้วเจอกัน”
“ครับ”


        แล้วพี่ป้อมก็ลุกไป.....เหลือผมที่ยืนดูน้องอยู่ห่างๆตามคำสั่งของโค้ช พอพี่ป้อมลุกออกไป โค้ชก็ชายตามามองเล็กน้อยเหมือนพวกนางร้ายในหนังเลยอะครับ ถ้ามีคำพูดประมาณว่า “ชิ ไปซะได้ก็ได้” ดังออกมาด้วยนะ ใช่เลยทีเดียว วนกลับมาที่เรื่องของเทควันโดซึ่งจริงๆแล้วที่โค้ชพูดมามันก็ฟังดูดีนะครับ แต่ตามหลักของกีฬาที่ว่าด้วยเทควันโดนี้จะมีการฝึกแบบเดียวกับทหารคือจะมีการซ้อมพร้อมกันตามคำสั่ง การแยกฝึกกับครูเป็นกลุ่มๆ แต่ก็ยังต้องทำพร้อมกันอยู่ดี แล้วก็ การเข้าแถวเตะแป้น ซึ่งจะมีผู้สอน หรือ ครูคุมอยู่ตลอดเวลา รวมๆแล้วเทควันโดเป็นการฝึกความมีระเบียบวินัยแล้วก็ความอดทนอย่างหนึ่ง ซึ่งถ้าใครเคยฝึกเทควันโด แล้วไปเรียน รด. หรือ เข้าเป็นทหารกองประจำการล่ะก็จะรู้สึกได้เลยว่าการฝึกมันเหมือนกันเปี๊ยบซึ่งต่างกับอะไรที่โค้ชกำลังทำอยู่นี้ที่ต่างคนต่างไปทำของตัวเอง

        หลังจากพี่ป้อมกลับไปการฝึกอย่างโหดก็เริ่มขึ้นวันนี้ผมไม่ได้ร่วมแจมด้วยเนื่องจากยังปวดเข่าอยู่ ผมนั่งมองน้องๆซ้อมอย่างเอาจริงเอาจัง ต้องยอมรับเลยว่าการกดดันเพื่อนๆตามสูตรของว่านมันได้ผลจริงๆให้ความรู้สึกเหมือนกับว่าทุกคนกำลังพยายามทำให้เต็มที่อยู่ ยิ่งว่านไม่แสดงทีท่าว่าเหนื่อยหอบออกมา หลายๆคนก็ยิ่งไม่กล้าบ่นจนเหลือ 10 นาทีสุดท้ายก่อนหมดเวลาซ้อมโค้ชเรียกน้องๆมานั่งรวมกันที่มุมของยิมโดยโค้ชนั่งเก้าอี้เหล็กแบบที่ใช้ในบาร์เหล้าก่อนจะเริ่มพุดคุยเกี่ยวกับการฝึกวันนี้ ส่วนหนึ่งของการพูดคุยมีเรื่องเกี่ยวกับรูปแบบการฝึกแบบนี้ด้วยโดยโค้ชพูดทำนองว่า “การฝึกแบบนี้เป็นการฝึกของคนขยัน คนมีความรับผิดชอบ ถ้าเราตั้งใจครูจะเดินมาจี้รายตัวเลยไม่ต้องกลัว ส่วนใครไม่ตั้งใจครูก็จะปล่อยมันไป คนที่อยากเก่งจะได้รีบเก่ง คนที่ไม่อยากเก่งก็ปล่อยให้ย่ำอยู่กับที่ไป” ซึ่งระหว่างที่คุยโค้ชยกตัวอย่างว่านให้สมาชิกคนอื่นๆในยิมได้เอาเป็นตัวอย่างอยู่เนืองๆ ทำเอาว่านนั่งยิ้มพลางหัวเราะแก้เขินเป็นระยะๆเลยทีเดียว แล้ววันนี้ก็เป็นอีกวันที่โค้ชให้แยกย้ายกลับบ้านเลยเมื่อถึงเวลาเลิก ผมเองไม่ได้พูดอะไรเรื่องนี้เพราถ้าโค้ชเค้าเห็นว่าดีก็ทำไป พอโค้งสั่งเลิกเสร็จผมก็เดินไปนั่งที่มุมเดิม ส่วนว่านก็เดินไปหยิบยามานั่งนวดขาอยู่ข้างๆผมเหมือนเคย


“เป็นเด็กติดยาไปแล้วเหรอ” ผมพูดจบว่านก็หันมามองผมทำหน้างงๆใส่
“ก็ยานวดไง เห็นว่างไม่ได้เลยช่วงนี้นวดตลอด”
“แฮะๆ” ว่านหันมายิ้มๆ
“พี่ช่วยนวดไหม” ว่านไม่ตอบแต่ยื่นหลอดยามาให้แทน ผมเลยช่วยน้องนั่งนวดเข่า
“เวลาซ้อมก็อย่าหักโหมมากรู้เปล่า เข่าเจ็บขึ้นมามันรักษายาก”
“ครับ” ว่านตอบกลับมา...ครับอีกแล้วแต่เวลาซ้อมว่านก็เต็มที่ที่สุดกว่าใครๆในยิมตลอดอยู่ดี

        ไม่นานนักน้องๆในยิมก็กลับหมด ผมเดินไปใส่เสื้อวอร์มก่อนจะเดินไปปิดไฟ แล้วระหว่างที่ผมเดินไปปิดไฟอยู่นั้นเสียงๆหนึ่งก็ดังขึ้นมาจากข้างหลัง

“แฮ่!...ง่ำ!!!”
   
        ว่านกัดเข้าที่ไหล่ผมเต็มๆ แถมเอาสองมือมาโอบกอดตัวผมไว้อย่างแน่นหนา ทว่า...ผมสูงกว่าว่านนะการที่จะงับไหล่ผมได้ว่านต้องเขย่งเท้า ผมเลยสะบัดๆตัวเล่นกับว่านด้วย เหมือนว่าว่านจะชอบใจใหญ่เลย ก่อนที่ว่านจะค่อยๆผ่อนแรงกัดลง แล้วเปลี่ยนมาซุกไหล่ผมอีกข้างแทน

“พี่หอมจัง....อร่อยด้วย....” ว่านพูดขึ้น
“เอาเสื้อพี่ไปนอนกอดเล่นไหมละ กัดด้วยก็ได้นะ แล้วก็...ซักให้ด้วยล่ะตอนเอามาคืน” ผมพูดติดตลก
“ไม่เป็นไรแบบนี้ดีกว่า” ว่านพูดขึ้นขณะที่เค้ายังกอดผมอยู่ข้างหลังอยู่เลย


        ผมเอามือมาจับมือเค้าไว้เบาๆแล้วยืนอยู่แบบนั้นพักหนึ่งก่อนจะบอกให้น้องไปเอากระเป๋าของผมที่วางอยู่บนชั้นวางกระเป๋าแล้วไปส่งน้องที่บ้าน....วันนี้น้องนั่งซบหลังผมไปตลอดทางเลย มือซ้ายของน้องผมก็กุมไว้ที่ตักผมตลอดทางเช่นกัน พรุ่งนี้วันเสาร์แล้วซินะ เดี๋ยวว่านก็ได้เจอคุณแม่แล้วจะได้ไม่ต้องนอนเหงาคนเดียว แต่ว่า...คืนนี้ก็เป็นอีกคืนที่ว่านต้องนอนหลับอยู่ลำพัง....ผมเองก็เช่นเดียวกัน....

To Be Con
หัวข้อ: Re: น้องชาย 2 ( Up ช่วงที่ 6 : 28/04/11 )
เริ่มหัวข้อโดย: w[o]w ที่ 29-04-2011 03:14:40
มันเศร้าๆอ่า น้องมันเด็กหรือน้องมันคิดยังไงกันแน่ มันเหมือนไม่มีอะไรที่ชัดเจน ตั้งแต่น้องบี แล้วตอนนี้ก็ว่าน พี่เอสู้ๆครับ
หัวข้อ: Re: น้องชาย 2 ( Up ช่วงที่ 6 : 28/04/11 )
เริ่มหัวข้อโดย: sang som ที่ 29-04-2011 14:11:43
เมื่อรัยพี่เอจะตกลงปลงใจกันน้องคนใดคนหนึ่งซะทีล่ะเนี่ย ลุ้นอยู่ เฮะๆ
หัวข้อ: Re: น้องชาย 2 ( Up ช่วงที่ 6 : 28/04/11 )
เริ่มหัวข้อโดย: dahlia ที่ 29-04-2011 19:10:14
น้องว่านใส่ชุดลูกเสือ คงน่ารักดีนะ เห็นเด็กแถวบ้านใส่กัน น่ารักดี

ปล. แอบคิดถึงน้องบีเหมือนกันนะเนี่ย
หัวข้อ: Re: น้องชาย 2 ( Up ช่วงที่ 6 : 28/04/11 )
เริ่มหัวข้อโดย: tuek ที่ 29-04-2011 20:15:20
อ่านของน้องว่าน
ก็ยังอดคิดถึงน้องบีไม่ได้
น้องบีติดต่อมาหาพี่เอบ้างไหม
+1 นะคะ
หัวข้อ: Re: น้องชาย 2 ( Up ช่วงที่ 6 : 28/04/11 )
เริ่มหัวข้อโดย: me_alone ที่ 29-04-2011 22:12:28
^
^
^
จิ้มพี่เอ.. :z13:
น้องว่านนี่ก็แอบเยอะเหมือนกันนะเนี่ย เครียดกับชีวิตมากเกิน..
ส่วนอีกคนอิตาโค้ชเนี่ย เป็นอะไรมากรึปล่าว จริงๆไม่จำเป็นต้องซ้อมหนักขนาดนี้ก็ได้มั้ง เอาแบบว่าให้ร่างกายอดทนได้ครบยกแล้วสอนเทคนิคเพื่อเตะได้แต้มแบบไม่ต้องปะทะไม่ดีกว่าเหรอ..เซ็งอิตาโค้ช  :เฮ้อ:

โค้ชเค้าชี้แจงว่า เตะเก่งแค่ไหนก็ตามถ้าแรงไม่มีก็ตายยกสามอะครับ เพราะงั้นโค้ชเค้าเลยเน้นซ้อมเอากำลังซะมากกว่า
่่ว่านเองก็ดูเหมือนจะเชื่อตามที่โค้ชบอกครับ เค้าเลยไม่อู้เลยหนักแค่ไหนเค้าก็ทำ




^
^
^
ก็ว่างั้นแหละอิตาโค้ชเนี่ยมันบ้าป่าว
น้องว่านน่าสงสารจัง ต้องอยู่บ้านคนเดียวให้พี่ไปอยู่เป็นเพื่อนไหมจ้ะ หึหึ :z1: :haun4:

 :a5: ~ น้องเพิ่ง 14 เองนะครับ
 :z1: ~ กึ๋ยๆ



มันเศร้าๆอ่า น้องมันเด็กหรือน้องมันคิดยังไงกันแน่ มันเหมือนไม่มีอะไรที่ชัดเจน ตั้งแต่น้องบี แล้วตอนนี้ก็ว่าน พี่เอสู้ๆครับ

 :กอด1: ~ นั่นซิครับ....เด็กๆนี่น๊าา



เมื่อรัยพี่เอจะตกลงปลงใจกันน้องคนใดคนหนึ่งซะทีล่ะเนี่ย ลุ้นอยู่ เฮะๆ

 :กอด1: ~ ปลงใจไปแล้วครับ แต่น้องปลงใจด้วยหรือเปล่านี่หน่ะซิครับ



น้องว่านใส่ชุดลูกเสือ คงน่ารักดีนะ เห็นเด็กแถวบ้านใส่กัน น่ารักดี
ปล. แอบคิดถึงน้องบีเหมือนกันนะเนี่ย

 :กอด1:~ คิดถึงบีเหมือนกันครับ



อ่านของน้องว่าน
ก็ยังอดคิดถึงน้องบีไม่ได้
น้องบีติดต่อมาหาพี่เอบ้างไหม
+1 นะคะ

 :กอด1: ~ บีไม่ได้ติดต่อมาเลยอะครับ มีแต่ผมโทรไป สงสัยเจออะไรที่น่าสนใจกว่าแล้วก็เป็นได้
 :o12:
หัวข้อ: Re: น้องชาย 2 ( Up ช่วงที่ 6 : 28/04/11 )
เริ่มหัวข้อโดย: me_alone ที่ 29-04-2011 22:36:41
ช่วงที่ 7


       
        “แต่ก แต่ก แต่ก แต่ก แต่กแต่กแต่ก แต่ก” ในค่ำคืนที่บรรยากาศเย็นยะเยือก ผมนั่งพิมพ์เอกสารที่ยังค้างคาอยู่เพียงลำพังหน้าคอมพิวเตอร์ ข้างๆมีแก้วโกโก้ที่ถูกตั้งไว้จนเย็นชืดใกล้กันก็มีขวดชาที่ซื้อจากร้านสะดวกซื้อถูกวางไว้จนอุณหภูมิของน้ำที่อยู่ในขวดเท่ากับอุณหภูมิของห้อง หลายครั้งที่ผมนั่งทำงานเรื่อยๆจนลืมที่จะดูเวลาว่าตอนนี้เวลาเท่าไหร่แล้ว วันนี้ก็เช่นกันผมนั่งปั่นงานตั้งแต่ทานข้าวเสร็จ มันเป็นงานที่เพื่อนผมบอกว่าจะทำ แต่ว่าจากประสบการณ์ที่รู้จักกันมา 2 ปีกว่า ถ้าไม่ใกล้ถึงวันเส้นตายพวกเค้าจะยังไม่เริ่มทำแน่ๆ แล้วผมก็ไม่มั่นใจว่าพวกเค้าจะทำทัน ดังนั้นเพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลาผมจึงเริ่มทำงานเหล่านั้นทันทีเมื่อว่างหรือมีเวลา แล้วในระหว่างที่ผมกำลังนั่ง คิดไป พิมพ์ไป ลบไป อยู่นั้นสัญญาณที่บอกผมว่าที่มันเลยเวลานอนมานานแล้วก็เริ่มดังขึ้น

“จิ๊บๆๆๆๆ....จิ๊บๆ....”

        เสียงนกน้อยร้องในยามเช้า......ผมคุ้นเคยกับเสียงนี้มากเมื่อครั้งที่ผมยังเป็นเด็กติดเกม นั่งปั่นเลเวลกันทั้งวันทั้งคืนจนไม่ยอมหลับยอมนอนถ้าไม่ถึงที่สุดจริงๆ แล้วทุกๆคืนสิ่งที่ทำให้ผมรู้ว่าอีกไม่กี่นาทีพระอาทิตย์ก็จะขึ้นแล้วก็คือเสียงนกน้อยพวกนี้นั่นเอง น่าแปลกนะครับในเวลาแบบนี้ไม่ว่าจะที่ไหนๆเสียงร้องของนกก็จะคล้ายๆกันตลอดเลยราวกับว่ามันเป็นเสียงจากนกตัวเดียวกันยังไงยังงั้น

“04.07 น.”

        ผมกดบันทึกงาน ก่อนจะปิดคอมพ์ แล้วก็ค่อยๆเดินไปที่ห้องนอน พอถึงปลายเตียงผมเอนตัวล้มลงนอนบนเตียงนุ่มๆ ผมค่อยๆคลานขึ้นมาที่หัวเตียงดึงหมอนที่ผมใช้หนุนประจำมาวาง อีกมือก็คว้าผ้าห่มผืนใหญ่สีฟ้ามาห่มให้อุ่นๆอีกมือก็กดเปิดแอร์ เสียงเครื่องแอร์เริ่มการทำงานของมัน ผมวางรีโมทแอร์คว้าหมอนข้างคู่ใจมากอดไว้ในอ้อมแขน แล้วผมค่อยๆหลับตาลงอย่างมีความสุข ไหนๆพรุ่งนี้ก็วันเสาร์แล้วขอนอนให้เต็มคราบสักวันแล้วกันแต่ทว่าหลังจากที่ผมเคลิ้มหลับไปได้ไม่นานเสียงโทรศัพท์เครื่องรองก็ดังขึ้น

“ใครโทรมาวะ” ผมคิดในใจ

        แล้วผมก็เอามือไปจับๆ หาโทรศัพท์ที่วางเรียงกันอยู่ที่หัวเตียง ก่อนจะเอามากำไว้ในมือแต่ตอนนั้นผมไม่อยากลืมตาเลยล่ะ ผมรู้สึกอยากนอนมากกว่า แต่ใครกันที่โทรมาเวลานี้ ผมกดปิดเสียงก่อนจะค่อยๆลืมตาขึ้นช้าๆตอนนั้นรู้สึกเลยว่าแสบตามากมาย แล้วก็มองออกไปนอกหน้าต่างปรากฏว่าฟ้ายังไม่ทันสางเลยด้วยซ้ำ ผมเหลือบมองมาที่นาฬิกาที่ขึ้นอยู่ที่มุมจอของโทรศัพท์

“05.15”
“เพิ่งจะได้ชั่วโมงเดียวเอง” ผมบ่นงึมงำก่อนจะเลื่อนระดับสายตาลงมาที่ชื่อของคนที่โทรเข้า
“ว่าน Calling”
“......” ผมเป็นคนงกนอกครับ ปรกติเวลานอนจะไม่ชอบให้ใครมากวน ตอนนี้ผมกำลังลังเลนิ๊ดๆ ว่าจะรับสายดีไหม แล้วก็.....
“ครับ....ว่าน” ผมกดรับสายก่อนจะเอาโทรศัพท์มาแนบกับหูแล้วพูดด้วยน้ำเสียงงัวเงียสุดๆ
“พี่นอนอยู่เหรอ”
“อื่อ”
“พี่ผมรบกวนหน่อยได้ไหมครับ” ว่านพูดด้วยน้ำเสียงลนลานหน่อยๆ
“ว่า”
“พี่มารับผมหน่อยได้ไหมครับ ตอน หกโมงตรงผมมีธุระด่วนไม่มีใครไปส่ง”
“อืม....คุณแม่ล่ะ”
“คุณแม่ยังไม่กลับมาเลยครับ”
“ธุระเช้าจังเนาะ” ผมตอบพลางขยี้ๆตา
“ก็โค้ชเพิ่งโทรมาบอกผมก่อนที่ผมจะโทรหาพี่ประมาณ 5 นาทีเองครับ” ว่านพูดด้วยน้ำเสียงลนๆ
“หืม....เพิ่งโทรมาบอกเมื่อกี้ๆ   เองหน่ะซิ....”ผมเริ่มตาสว่างขึ้นมาเล็กน้อย
“ครับ”
“อืมๆ เดี๋ยวพี่ไปรับ หกโมงนะ”
“ครับพี่ขอบคุณมากครับ”
“เดี๋ยวๆๆ”
“หกโมงที่ว่านี่คือให้พี่ไปถึงบ้านเรา หรือ ว่าหกโมงนี่ต้องไปถึงที่หมายแล้ว”
“เห็นโค้ชบอกว่าต้องไปถึงก่อน หกโมงสิบห้า นาทีครับ”
“เหรอ อืม...แล้วเจอกัน”
“ครับๆ”


        แล้วผมก็วางสายก่อนจะถอนหายใจยาวๆหนึ่งเฮือก แล้วหยิบโทรศัพท์มาดูอีกครั้ง “05.20” อีกแค่ 40 นาทีเอง ไม่ซิ สัก 25 นาทีได้เพราะกว่าจะลงไปใส่เสื้อผ้ากว่าจะออกจากบ้านกว่าจะถึงบ้านว่าน แล้วผมก็ถอนให้ใจอีกครั้ง ก่อนจะลุกขึ้นมาเปิดคอมพ์อีกครั้งเพื่อเปิดเพลงฟังแก้เงียบระหว่างนั้นผมก็อาบน้ำช้าๆก่อนจะออกมาเปลี่ยนเสื้อผ้า ชงโกโก้จิบเล่นพลางอ่านเอกสารตัวอย่างที่ผมจะต้องพิมพ์ตามเพื่อเป็นการฆ่าเวลา ผมกะว่าส่งว่านเสร็จแล้วจะกลับมานอนต่อ ตื่นสักบ่ายๆก็แล้วกันช่างมันไม่นานนักก็ถึงเวลาที่ผมต้องออกจากบ้านไปหาว่านที่บ้านก่อนจะพาว่านไปยังที่ๆว่านบอกว่าโค้ชนัดให้มาเจอ วันนี้ว่านแต่งตัวเท่มากเสื้อยีนส์คลุมนอกหนึ่งตัว เสื้อคอกลมสีขาวบางๆหนึ่งตัว แล้วก็เสื้อกล้ามซับในอีกหนึ่งตัว กางเกงยีนส์ตัวไม่ใหญ่ ไม่เล็กกำลังพอดี รองเท้าผ้าใบสีขาวคาดน้ำเงิน ใส่เข็มขัดผ้าสีดำหัวเงินขัดเงาแว๊บๆพอรับว่านเสร็จแล้วผมก็รีบเบิ่งตรงไปยังจุดหมายโดยระหว่างทางที่ขับรถผมไม่ได้พูดอะไรเลย แค่ 10 นาทีผมก็มาถึงที่นัดหมาย

        สถานที่ที่ว่านี้คือศาลากลางจังหวัดครับ แต่ว่า.... เมื่อมาถึงไม่มีใครเลยแม้แต่คนเดียวจะมีก็แค่ยามที่ส่องๆมองพวกผมอยู่จากในป้อมที่อยู่ไม่ห่างออกไปมากนัก ส่วนตึกอาคารต่างๆทั้งที่อยู่ตรงหน้าและรอบข้างยังถูกปิดไว้อย่างแน่นหนา ไม่มีรถใครเลยสักคันนอกจากรถผม บรรยากาศเงียบสงบมีแต่เสียงนกร้อง กับลมเย็นๆ แล้วก็แดดอุ่นๆของยามเช้าที่ส่องลงมาลอดผ่านช่องใบของต้นหูกวางต้นใหญ่ที่ข้างๆที่จอดรถถ้าคุณนึกไม่ออกลองนึกถึงฉากการ์ตูนตลกที่มีไอ้บ้าสองคนไปก่อนเวลานัดแล้วหันมาทำตาตี่ๆเหงื่อตก อาจมีกาบินอยู่เหนือหัว หรือใบไม้ปลิวผ่านด้วยก็ตามแต่จะจินตนาการกันดู


“ว่าน....หกโมงสิบห้าแน่เหรอ” ผมถามว่านที่ยืนอยู่ข้างๆ
“ครับโค้ชบอกว่าแบบนั้น”
“แล้วโค้ชเค้าให้มาทำอะไรเนี่ยะ”
“ผมก็ไม่รู้”
“อ่าว แล้วตอนที่โค้ชโทรมาบอกให้มา เค้าไม่ได้บอกเหรอว่าให้มาทำอะไร”
“เปล่าครับ บอกแค่ว่าให้มาที่นี่ก่อนหกโมงสิบห้า แล้วเดี๋ยวโค้ชจะตามมาประมาณหกโมงยี่สิบ” ว่านพูดจบผมก็มองนาฬิกา
“06.18น.”
“พี่กลับเลยนะ” ผมหันมาบอกว่านพลางเอากุญแจเสียบที่รถ
“พี่...จะทิ้งผมไว้คนเดียวจริงๆเหรอ” ว่านพูดพลางคว้าแขนผมไว้ข้างหนึ่ง
“หกโมงสิบแปดแล้วเดี๋ยวโค้ชก็มามั้ง”
“.....” ว่านไม่พูดอะไรแต่มือน้องจับผมไว้ไม่ปล่อยเลย
“เอาน่าๆ ล้อเล่นๆ ใครจะทิ้งไว้คนเดียวล่ะ” ผมพูดพลางยิ้มแล้วลงจากรถ แล้วลูบๆหัวว่านเบาๆ
“....” ว่านไม่ตอบอะไรกลับมามีแค่รอยยิ้มที่ปรากฏขึ้นบนใบหน้าเท่านั้นที่พอจะบอกได้ว่าน้องรู้สึกยังไงที่ผมไม่ปล่อยน้องไว้คนเดียว

“06.40น”
“ว่าน โค้ชบอกจะมากี่โมงนะ” ผมถามว่านซ้ำขณะที่ผมไปนั่งยองๆอยู่ที่ฟุตบาทริมทางโดยมีว่านนั่งอยู่ข้างๆ
“โค้ชบอกจะมาหกโมงยี่สิบครับ”
“นั่นหกโมงสี่สิบแล้วอะ” ผมคิดในใจ
“ว่านโค้ชเค้าได้บอกก่อนหน้านี้ไหม ที่ให้มาวันนี้อะ” ผมหันไปถามว่าน
“ไม่ครับ”
“เพิ่งโทรมาบอกตอนเช้าเลยเหรอ”
“ครับ”
“ให้มาทำอะไรล่ะได้บอกไหม”
“ไม่ครับ”
“อืม...เค้าบอกให้มาก็มากันเนาะ ถ้าโค้ชหลอกไปส่งขายมาเลย์คงโดนทั้งพี่ทั้งน้องล่ะงานนี้ ฮ่าๆๆ”
“นั่นซิครับ ฮ่าๆๆ” ว่านหัวเราะชอบใจ


        ระหว่างที่รอผมชวนว่านคุยเรื่องทั่วไปเน้นเรื่องตลกซะมากกว่าซึ่งว่านก็ดูจะชอบ แล้วเวลาก็ผ่านไปซึ่งตลอดระยะเวลาที่รอผมบอกให้ว่านติดต่อหาโค้ชเรื่อยๆ เพราะผมไม่รู้ว่าโค้ชให้มาทำอะไร ทำที่ไหน เวลาเท่าไหร่ ที่สำคัญโค้ชบอกว่านว่าจะมาตั้งแต่หกโมงยี่สิบแต่นี่มันอีกห้านาทีก็สองโมงเช้าแล้วโค้ชก็ยังไม่เห็นโผล่มา แถมยิงปิดโทรศัพท์อีก สรุปนี่เค้าให้ผมกับว่านมาทำอะไรที่ศาลากลางจังหวัดตั้งแต่หกโมงเช้าเนี่ยะพอเวลาล่วงเลยไปจนประมาณสองโมงสิบห้านาทีผมก็สะกิดว่านที่นั่งเล่นอยู่ข้างๆแล้วพูดว่า


“กลับเหอะ”
“ครับ?” ว่านตอบกลับมาแล้วทำหน้าตาสงสัยใส่ผมด้วย
“นี่มันจะสองโมงครึ่งแล้ว โค้ชยังไม่มาเลย แล้วให้มาทำอะไรก็ไม่รู้ นั่งรอกันตั้งแต่หกโมงแล้วเนี่ยะ”
“เดี๋ยวโค้ชคงมามั้งครับ เค้าอาจติดธุระอยู่” ว่านตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงที่แสดงถึงความเชื่อมั่นในตัวโค้ช
“หรือว่าถูกจ่าซิวแต่เช้าเนี่ยะ ใกล้สิ้นเดือนแล้วด้วย ฮ่ะๆ”
“นั่นซิครับ” แล่วว่านก็หัวเราะใหญ่


        ผมบอกตรงๆว่าที่ผมยังฮาอยู่กับว่านก็แค่เปลือกนอกนะครับ เพราะในใจผมตอนนี้เซ็งสุดๆเลย อะไรของเค้าไม่มีบอกล่วงหน้า ทั้งๆที่เวลาก่อนหน้าก็มีถมถืด นึกอยากบอกตอนไหนก็บอก แล้วไม่บอกด้วยว่าให้มาทำอะไร แถมตัวเองบอกว่าจะตามมาตอนหกโมงยี่สิบ นี่มันเวลาเท่าไหร่แล้ว ทำไมถึงนัดเวลามั่วซั่วได้ขนาดนี้ แบบนี้โทรมาบอกตอนเจ็ดโมงครึ่งก็ยังมาทันเลย แล้วระหว่างที่ผมนั่งคุยเล่นกับว่านอยู่นั่นผมก็เห็นอาจารย์โจ้ขับรถกระบะพานักกีฬามาจอดใกล้ๆกับที่ผมนั่งอยู่ พอรถจอดสนิทพวกนักกีฬาก็ทยอยลงจากรถแล้วมายกมือไหว้ผมเนื่องจากอาจารย์โจ้ค่อนข้างเข้มงวดเรื่องระเบียบวินัยรวมถึงมารยาท แล้วอาจารย์โจ้ก็ตามลงมา


“สวัสดีครับ” ผมยกมือไหว้อาจารย์โจ้ที่กำลังกดล็อคประตูรถ
“ว่าไงเอ มานานยัง”
“ก็พักใหญ่ๆแล้วล่ะครับ”
“แล้วโค้ชล่ะ”
“เห็นว่าเดี๋ยวตามมาครับ”
“เหรอ ปะๆใกล้ได้เวลาแล้ว”
“ครับ”แล้วผมก็พาว่านเดินตามอาจารน์โจ้ไป
“อาจารย์โจ้ครับ วันนี้เค้าให้มาทำอะไรเหรอครับ” ผมถามอาจารย์โจ้ขณะที่เดินอยู่บนฟุตบาทริมทาง
“อ่าว เอไม่รู้เหรอ” อาจารย์โจ้หันมาถามพลางยิ้มๆ
“ไม่อะครับ”
“วันนี้ผู้ว่าท่านนัดพบนักกีฬาที่จะไปขัดเป็นตัวแทนเขตสามไง”
“เหรอครับ แล้วเค้านัดไว้กี่โมงเหรอครับ”
“เค้านัดสองโมงสี่สิบห้า”
“อ่อครับ”


        อืมมม นัดสองโมงสี่สิบห้าแต่โค้ชผมให้ผมมารอตั้งแต่หกโมงสิบห้านาทีเยี่ยมจริงๆ แล้ววันนั้นการประชุมตอนสามโมงเช้าก็เริ่มขึ้นโดยปราศจากโค้ชของยิมผมในขณะที่ยิมอื่นโค้ชเค้ามากัน....”[/b]โค้ชไม่ได้มาด้วย”[/b] คำถามนี้ดังขึ้นอยู่ตลอดเวลา แต่ช่างเค้าเถอะครับ โดยเรื่องที่ประชุมวันนั้นมันมีสาระสำคัญแค่พบปะพูดคุย ให้กำลังใจ อวยพร แล้วก็ให้ค่าเบี้ยเลี้ยงนักกีฬาเท่านั้น วันนั้นผมก็อยู่เป็นเพื่อนว่านจนเวลาประมาณสิบโมงห้านาทีโค้ชก็โทรเข้าเครื่องผม


“เอ อยู่ไหนกันแล้ว” โค้ชถามด้วยน้ำเสียงเร่งรีบมากๆจากที่ผมพยายามเงี่ยงหูฟังผมรู้สึกว่าเค้าน่าจะอยู่แถวๆลานจอดรถ
“ห้องประชุมครับ” ผมตอบกลับไป
“ตรงไหน”
“อาคารabc ครับ”
“แล้วพี่จะรู้ไหม”โค้ชตอบกลับยมาด้วยน้ำเสียงติดตลกเล็กน้อย...
“.....” แต่ขอโทษเหอะครับ ตอนนี้ผมไม่ตลกด้วยอะ
“ออกมารับพี่หน่อยพี่อยู่ตรงลานจอดรถข้างหน้าเนี่ยะ”
“ครับ”
   

        แล้วผมก็ไปหาโค้ช พอไปถึงลานจอดรถเค้าก็เดินมาหาผม ระหว่างที่เดินนำทางเค้าไปที่ห้องประชุม ผมไม่พูดอะไรกับเค้าสักคำ โค้ชเองก็ทำท่าลุกลี้ลุกลนเหมือนอยากแก้ตัวเหมือนกัน จนกระทั่งมาถึงห้องประชุมโค้ชเค้าก็พูดขึ้นมาลอยๆว่า “พอดีแฟนพี่เค้าจะให้พี่ไปส่งที่มหาวิทยาลัย พี่ก็เลยต้องรอไปส่งเค้าให้เสร็จก่อนถึงมาได้” พอโค้ชพูดจบผมไม่ได้หันไปมอง หรือ ทำท่าสนใจคำพูดของเค้าด้วยซ้ำ ที่สำคัญเวลานี้ผมง่วงนอนมากๆ ในเมื่อโค้ชมาแล้ว ผมเลยส่ง SMS ไปบอกว่านว่าน “กลับกับโค้ชนะ พี่มีธุระ” ผมไม่ได้กลับเข้าห้องประชุม

        พอมาถึงบ้านผมนั่งลงตรงโซฟาที่อยู่ใกล้ๆกับประตูนั่นเอง โซฟาที่ผมเคยนั่งกอดบี คิดถึงบีจังเลย ผมดึงหมอนที่บีเคยนอนหนุน เคยนั่งกอด มาวางไว้ตรงปลายโซฟาแล้วเอนตัวนอนลงไป อ่า....ได้เวลานอนสักทีคราวนี้ตื่นเย็นแน่เลย ว่าแล้วผมก็ค่อยๆหลับตาลง.....ทว่า....เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นอีกครั้ง


“ว่าน Calling”
“อืมมม ว่านเองเหรอ” ผมคิดในใจก่อนจะกดรับสาย
“ว่า”
“พี่เออยู่ไหน”
“บ้าน”
“อ่าว กลับตอนไหน”
“เมื่อกี้ล่ะ”
“พี่มารับผมด้วย”
“หืม...กลับกับโค้ชได้ไหมอะ พี่มาถึงบ้านแล้ว”
“......” ว่านเงียบไปพักหนึ่งก่อนจะตอบมาว่า“ได้ครับ”

        แล้วผมก็วางสายก่อนจะค่อยๆข่มตาหลับอีกครั้ง.......แต่ว่า.................

“ว่าน Calling”
 
        อยากให้ผู้อ่านนึกหน้าผมตามนี้นะครับ ผมนอนบนโซฟาตามยาวหันหลังให้ที่พิง หนุนหมอนหนึ่งใบ ในมือถือโทรศัพท์แล้วทำหน้าเหมือนจะร้องให้อยู่

“ว่า.....”
“พี่เอ โค้ชมีธุระด่วนมากๆๆ จะคุยด้วย” ว่านทำเสียงตื่นตกใจสุดๆ
“อะไรอีกอะ” ผมถามกลับไป ด้วยน้ำเสียงแอบเซ็งหน่อยๆ
“ไม่ทราบครับ”
“ไม่ทราบอีกแล้ว โค้ชอยู่แถวนั้นไหมถามหน่อยเรื่องอะไร”
ว่านเงียบไปพักหนึ่งก่อนจะมาตอบว่า “โค้ชบอกว่าให้พี่เอมาก่อนครับ คุยตอนนี้ไม่สะดวก แต่สำคัญแล้วก็ด่วนมากจริงๆ”
“ที่ไหน....กี่โมง”
“ที่ยิมครับ ตอนนี้เลย รีบมานะพี่ แค่นี้นะครับ”
   

        แล้วว่านก็วางสายไป.....จริงๆตามธรรมเนียม...ผมไม่ไปนะ แถมโทรมาถี่ขนาดนี้อาจมีสวดกลับไปด้วย.....แต่กับว่านผมไม่รู้สึกอยากทำแบบนั้นเลยแฮะ ตรงกันข้ามผมค่อยๆลุกไปชงโกโก้ดื่มให้ตื่นตัวอีกถ้วยด้วยซ้ำก่อนจะไปที่ยิม พอไปถึงเจอคุณโค้ชกับน้องว่านเหมือนจะกำลังคุยเรื่องสำคัญกันอยู่จริงๆ พอว่านเห็นผมเปิดประตูยิมว่านหันมายิ้มแล้วทำท่าดีใจ ก่อนจะกวักมือเรียกผมยิ๊กๆ ผมเดินไปนั่งข้างๆว่าน


“ครับ” ผมพูดออกไปเป็นสัญญาณว่าพร้อมแล้วมีอะไรก็คุยมา
“เอ เนี่ยะพี่คิดอย่างหนึ่งได้” โค้ชพูดด้วยน้ำเสียงตื่นเต้นดีใจสุดๆ
“คือ”
“คืองี้ พี่ว่าจะทำแบบให้เด็กเราออกค่าย”
“แล้ว”
“คือเมื่อกี้เค้าแจ้งเรื่องวันแข่งขันแล้วก็วันเดินทางมา แล้วเค้าให้ไปก่อนวันแข่งสามวัน แล้วมีการจัดแข่งขันสี่วัน พี่ไม่รู้ว่าว่านจะได้แข่งวันไหนทีนี้ช่วงนั้นมันตรงกับวันหยุดพอดี พี่เลยว่าจะให้เด็กๆยิมเราไปเก็บตัวกับอาจารย์กบด้วยแบบออกค่ายหน่ะแล้วก็จะกลับพร้อมกันหลังว่านแข่งเสร็จ”
“ค่าใช้จ่ายอะไรล่ะพี่”
“พี่จะเก็บคนละห้าร้อยบาทเป็นค่าที่พัก ส่วนรถก็รถไฟฟรี”
“พักกันที่ไหนล่ะครับ”
“พักกันที่ยิมอาจารย์กบเลย”
“หลายวันอยู่นะ แล้วจะเริ่มเดินทางกันวันไหนล่ะครับ”
“พรุ่งนี้ ตีห้า”

        ผมฟังดังนั้นถึงกับอึ้งรับประทานโค้ชเค้าวางแผนเมื่อกี้ๆ แล้วจะเดินทางกันพรุ่งนี้เลย ผมเลยค้านความเห็นโค้ชออกไปทันที

“พี่เรายังไม่ได้บอกน้องเลยนะครับ”
“ก็บอกเย็นนี้ไง” โค้ชตอบกลับมาแบบยิ้มๆ
“แล้วเด็กๆเค้าจะเตรียมตัวทันเหรอพี่”
“ก็ใครพร้อมก็ไป ไม่พร้อมก็ไม่ต้องไป สนใจอะไรล่ะ เราเอาแต่คนที่พร้อม” โค้ชพูดติดตลกเหมือนกับว่ามันเป็นเรื่องขำๆ
“แล้วถ้าไปพรุ่งนี้ก็เท่ากับว่าไปก่อนตั้ง 4 วันเลยนะครับ แล้วพี่บอกว่าให้น้องกลับวันที่ว่านแข่งเสร็จ ซึ่งก็ไม่รู้ว่าวันไหน ถ้าเป็นวันสุดท้ายมันจะนานไปไหมอะพี่”
“ไม่เห็นเป็นไรเลย ว่านมันยังอยู่ได้” โค้ชพูดจบพลางหันไปยิ้มให้ว่าน
“ใช่พี่ ผมจะได้มีเพื่อน” ว่านเสริม
“เอก็ไปด้วยกันเลย เดี๋ยวพี่จะให้พี่ป้อมโทรแจ้งกับผู้ปกครองว่ายิมเราจะหยุดเก้าวัน”
“ด่วนไปไหมพี่เสื้อผ้าผมยังไม่ได้ซัก ยังไม่ได้เตรียม”

        สรุปจากที่คุยคือว่านกับโค้ชพยายามพูดให้ผมไปให้ได้ แล้วเย็นวันนั้นปรากฏว่าภายหลังที่โค้ชแจ้งไปมีเด็กและผู้ปกครองแสดงเจตจำนงแค่สองคนเท่านั้น ทำให้สุดท้ายโค้ชก็ต้องยอมที่จะเลื่อนกำหนดการณ์การเดินทางออกไปเป็นวันต่อไปแทน

To Be Con
หัวข้อ: Re: น้องชาย 2 ( Up ช่วงที่ 7 : 29/04/11 )
เริ่มหัวข้อโดย: Na_RimKLonG ที่ 29-04-2011 22:49:13
จิ้มที่เอก่อน  แล้วลั่นล้าไปอ่าน  555+

+1 ค้า
-----------

โค้ช  เป็นคนที่  น่า   :z6:

ส่วนที่เอ น่า  :sad11:
หัวข้อ: Re: น้องชาย 2 ( Up ช่วงที่ 7 : 29/04/11 )
เริ่มหัวข้อโดย: icyblue ที่ 30-04-2011 00:59:26
น้องเอขยันอัพจัง เผลอแผล็บเดียวลง 2 ตอนแระ o13

ช่วงนี้ดูน้องว่านยึดเอเป็นหลัก  ไม่รู้ก่อนหน้านี้น้องจะเหงาแค่ไหนเนอะ :เฮ้อ:


แต่โค้ชนี้อยาก :z6: จริงๆ  ไม่รู้เป็นโค้ชได้งัย  ไม่มีความรับผิดชอบ ไม่มีระเบียบ ไม่มีความเป็นครูเลยอ่ะ พูดจาก็ไม่ดี

แถมเลือกปฏิบัติอีก  อีกหน่อยคงไม่มี นร. มาเรียนด้วยแล้วจะหนาว    o22

ถ้าเจอโค้ชแบบนี้นะ มีลูก มีหลาน ไม่ให้เรียนด้วยหรอก แย่มั่กๆ
หัวข้อ: Re: น้องชาย 2 ( Up ช่วงที่ 7 : 29/04/11 )
เริ่มหัวข้อโดย: HydrA ที่ 30-04-2011 13:09:33
พี่เอ ยั้งๆไว้มั่งนะ อย่าเพิ่งถลำลึกไปกับว่าน ดูกันไปก่อน
มีบทเรียนจากครั้งแรกแล้ว เพราะงั้นดูให้ยาวๆหน่อยก็ดีนะพี่
หัวข้อ: Re: น้องชาย 2 ( Up ช่วงที่ 7 : 29/04/11 )
เริ่มหัวข้อโดย: me_alone ที่ 30-04-2011 13:24:34
จิ้มที่เอก่อน  แล้วลั่นล้าไปอ่าน  555+

+1 ค้า
-----------

โค้ช  เป็นคนที่  น่า   :z6:

ส่วนที่เอ น่า  :sad11:

 :กอด1: ~ ขอบคุณครับ



น้องเอขยันอัพจัง เผลอแผล็บเดียวลง 2 ตอนแระ o13
ช่วงนี้ดูน้องว่านยึดเอเป็นหลัก  ไม่รู้ก่อนหน้านี้น้องจะเหงาแค่ไหนเนอะ :เฮ้อ:
แต่โค้ชนี้อยาก :z6: จริงๆ  ไม่รู้เป็นโค้ชได้งัย  ไม่มีความรับผิดชอบ ไม่มีระเบียบ ไม่มีความเป็นครูเลยอ่ะ พูดจาก็ไม่ดี
แถมเลือกปฏิบัติอีก  อีกหน่อยคงไม่มี นร. มาเรียนด้วยแล้วจะหนาว    o22
ถ้าเจอโค้ชแบบนี้นะ มีลูก มีหลาน ไม่ให้เรียนด้วยหรอก แย่มั่กๆ

 :กอด1: ~ Up เรื่อยๆครับ วันละตอน ช่วงนี้มาแนวดราม่าหน่อยครับ
 :เฮ้อ: ~ คอิดถึงบี...เมื่อวานโทรหาก็ไม่รับ



พี่เอ ยั้งๆไว้มั่งนะ อย่าเพิ่งถลำลึกไปกับว่าน ดูกันไปก่อน
มีบทเรียนจากครั้งแรกแล้ว เพราะงั้นดูให้ยาวๆหน่อยก็ดีนะพี่

 :กอด1: ~ ครับผม
หัวข้อ: Re: น้องชาย 2 ( Up ช่วงที่ 7 : 29/04/11 )
เริ่มหัวข้อโดย: me_alone ที่ 30-04-2011 16:06:20
ช่วงที่ 8



        วันนี้เป็นวันอาทิตย์ครับ ผมเริ่มต้นวันด้วยการทำความสะอาดบ้าน ไล่มาตั้งแต่จากห้องนอน ห้องน้ำ ลงมาที่ห้องนั่งเล่น ห้องครัวและห้องกินข้าว ไปจนถึงหน้าบ้านด้วย รวมถึงซักผ้าทั้งหมดที่ใช้แล้ว กว่าจะเสร็จทั้งหมดเวลาก็ล่วงไปถึงบ่ายโมงกว่าๆ แล้ว ผมตัดสินใจใช้เวลาว่างก่อนที่พระอาทิตย์จะตกดิน สะพายกล้องคู่ใจตัวใหม่ออกไปหัดถ่ายภาพที่สวนสาธารณะแห่งหนึ่งใกล้บ้านผมกำลังหัดถ่ายภาพแนวแคนดิดอยู่ครับ ซึ่งเป็นการถ่ายรูปแบบหนึ่งโดยไม่ให้แบบรู้ตัวหรือก็คือการถ่ายทีเผลอนั่นเอง ระหว่างที่กำลังส่ายเลนส์กล้องไปมาเพื่อหานางแบบนายแบบจำเป็นที่อยู่แถวนั้น ผมก็เจอวัยรุ่นกลุ่มหนึ่งกำลังจับกลุ่มเล่นโรลเลอร์เบลดกันอยู่ ผมเลยหันเลนส์กล้องไปทางน้องๆกลุ่มนั้น

‘แช๊ะแช๊ะ! แช๊ะแช๊ะ! แช๊ะแช๊ะ!’ ผมลั่นชัตเตอร์ไปหลายครั้งมากจนได้ภาพแล้วก็มุมที่พอใจ ก่อนจะเดินไปนั่งเล่นที่ศาลาเปิดไล่ดูภาพทีละใบ พลางคิดในใจว่าถ้าได้น้องบีมาเป็นแบบให้น่าจะดี เสียดายได้กล้องมาช้าไปหน่อย หลังจากดูภาพเสร็จผมก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูนาฬิกา

“15.45น.”
‘ได้เวลาไปดูน้องแล้วซินะ’ ผมคิดในใจก่อนจะเก็บกล้องลงกระเป๋าแล้วกลับไปเปลี่ยนชุดที่บ้าน โดยระหว่างที่เปลี่ยนชุดอยู่นั้นว่านก็โทรเข้ามาพอดีว่านบอกให้ผมไปรับเค้าที่บ้านด้วย พอผมแต่งตัวเสร็จผมก็ไปหาว่านที่บ้าน เจอว่านนั่งรออยู่หน้าบ้านแล้ว ทันทีที่ว่านเห็นผมว่านก็ยิ้มให้ก่อนจะลุกขึ้นแล้วปีนรั้วบ้านออกมานั่งซ้อนท้ายผม ระหว่างทางที่ไปยิมผมก็คุยทั่วไปกับว่านแล้วก็วนกลับมาเรื่องที่บ้านของว่าน


“คุณแม่ไม่ว่างเหรอ” ผมถามว่านออกไปเพราะปรกติเวลาไปยิมคุณแม่ว่านจะไปส่ง หรือไม่ก็เป็นพี่ข้างบ้าน แต่กรณีเสาร์อาทิตย์แบบนี้คนที่ไปส่งควรจะเป็นคุณแม่น้องว่านมากกว่า
“ไม่ใช่ไม่ว่าง แต่ยังไม่มา” ว่านตอบมาด้วยน้ำเสียงที่ฟังดูเครียดๆทันทีทั้งๆ ที่เมื่อสักครู่ยั่งหัวเราะร่าอยู่เลย
“เหรอ....อืมม...คุณแม่ไม่อยู่กลับช้าได้อะดิ”
“ครับ”
“งั้นไปทานหมูกระทะกัน”
        ว่านเงียบพักหนึ่งหลังจากที่ผมถามจบทำเอาผมรู้สึกผิดที่ถามเรื่องคุณแม่น้องว่านไปเลยทีเดียวแต่ไม่นานนักว่านก็ถามกลับมาว่า“ไปกับใคร”
“สองคน”
“.........ก็ได้ครับ....แต่ว่า....”
“แต่ว่า ?......” ผมทวนคำของว่าน
“พาต้นกล้าไปด้วยได้ไหม ไปสามคนสนุกกว่า”
“.......ก็ได้” พอผมพูดจบว่านก็ซุกหน้าลงบนหลังผม


        พอมาถึงยิมผมก็พบว่ามีคนกลุ่มหนึ่งมาถึงก่อนแล้ว ซึ่งโค้ชก็เป็นหนึ่งในนั้นด้วย ผมจอดรถเสร็จแล้วก็เดินเข้ามาในยิมเพื่อพบกับบรรยากาศแปลกๆ ผมเห็นน้องๆหลายคนกำลังยืดเส้นอยู่ ซึ่งเป็นเรื่องที่แปลกมากๆ สำหรับผม เพราะนี่ยังไม่ถึงเวลาซ้อมเลย แต่น้องๆมาวอร์มกันเองก่อนมันเป็นไปได้ยังไง จะว่าเพราะว่านไปวอร์มล่วงหน้ากดดันชาวบ้านเค้ามันก็ไม่ใช่เพราะว่านเพิ่งมากับผม พอผมวางกระเป๋าเสร็จ แล้วกำลังจะออกไปซื้อน้ำกับว่านเช่นทุกวัน โค้ชก็ขัดขึ้นว่า


“จะไปไหน?”
“ไปซื้อน้ำครับ” ผมหันกลับมาตอบขณะที่อีกไม่กี่ก้าวผมก็จะเดินพ้นออกประตูไปแล้ว
“รีบมาเลย” โค้ชพูดด้วยน้ำเสียงเซ็งๆเหมือนผมทำอะไรผิดอย่างนั้นแหละ
“ครับ”

        หลังจากที่ผมซื้อน้ำกลับมาแล้ว โค้ช ก็ไล่ให้ว่านไปวอร์ม ตอนนั้นผมมองนาฬิกาเห็นว่าเพิ่งจะ 4 โมง 17 นาทีเท่านั้นเองทำไมให้วอร์มเร็วจังเพราะอีกตั้ง 40 กว่านาทีจึงจะถึงเวลาซ้อม ด้วยความสงสัยสุดๆ ผมเลยแกล้งทักโค้ชไปว่า

“วอร์มเร็วจังพี่”
“ก็วอร์มรอเลยไหนๆก็มาแล้ว ถึงเวลาซ้อมจะได้ซ้อม ไม่ต้องมาเสียเวลาวอร์ม”
“แล้วน้องที่มาทีหลังล่ะพี่”
“ก็ให้วอร์มเองตามหลังไปซิ” โค้ชหันมาทำหน้าเซ็งใส่ผมอีกแล้ว เหมือนกับว่าแค่นี้ต้องถามด้วยหรอ ก่อนจะกลับไปนั่งที่โต๊ะประจำตำแหน่งของเค้า

        ผมยืนมองแล้วถอนหายใจเบาๆ อยู่เฮือกหนึ่ง ถ้าใครเล่นกีฬาหรือเป็นนักกีฬามาก่อนไม่จำเป็นว่าต้องเทควันโด คุณอาจรู้สึกถึงอะไรบางอย่างที่มันไม่ใช่ เพราะอย่างที่ผมเคยบอก เทควันโดมีรูปแบบการฝึกแบบเดียวกับทหารคือต้องทำเป็นเวลา แล้วก็ต้องทำพร้อมๆกัน พักพร้อมกัน เลิกพร้อมกัน ไม่ใช่ต่างคนต่างทำแบบนี้ ซึ่งภาพที่ผมเห็นตรงหน้าในขณะนี้มันไม่ใช่เทควันโดที่ผมรู้จักเลยยังไม่ทันที่ผมจะเดินไปดูน้องๆ โค้ชก็ดักผมไว้ก่อน

“เอๆ ให้พวกมันวอร์มกันเอง ส่วนเรามานี่ พี่มีเรื่องจะคุยด้วย” โค้ชเรียกเสร็จ ผมก็เดินไปนั่งบนเก้าอี้ที่อยู่อีกฝั่งหนึ่งของโต๊ะโค้ช
“ครับ”
“พี่ว่าจะให้พวกที่มหาวิทยาลัยไปเก็บตัวด้วย เอ คิดว่ายังไง?”
“ไปกับน้องๆนี่เหรอครับ?”
“ใช่”
“น้องๆไปกันพรุ่งนี้เช้าเองนะครับ แล้วบอกพวกมหาลัยเค้าตอนนี้พวกเค้าจะเตรียมตัวทันเหรอ?”
“ก็ช่างมัน พี่บอกแล้วไงพี่จะเอาแต่คนที่พร้อม คนที่ไม่พร้อมก็ช่างมัน เอก็แค่โทรไปบอกน้องๆก็พอแล้ว” โค้ชพูดด้วยน้ำเสียงหงุดหงิดราวกับว่าผมเป็นเด็กป. 2 ที่เข้าใจอะไรยากเหลือเกิน
“งั้นเดี๋ยวผมโทรหาเก่ง ให้เก่งแจ้งน้องแล้วกัน”
“ไม่เอา เอนั่นแหละโทรไปเองเลย” โค้ชเริ่มขึ้นเสียงใส่ผมหน่อยๆ
“ผมมีเบอร์น้องไม่ครบ”
“ทำไมละ เอ เป็นประธานชมรมไม่ใช่เหรอ แล้วเป็นประธานชมรมภาษาอะไรทำไมมีเบอร์น้องไม่ครบ!” โค้ชพูดเสียงแข็งใส่ผม
ผมนั่งนิ่งไปพักหนึ่ง หันไปทางอื่นส่วนในใจผมเหรอ....‘แล้วคุณเป็นโค้ชภาษาอะไรทำไมไม่มีเบอร์นักกีฬา’
ในที่สุดผมก็ตอบว่าว่า “พี่ปีนี้ผมไม่ได้เป็นประธานนะ ในทางนิตินัยผมอะเป็นประธาน แต่ในทางพฤตินัยเก่งเค้าเป็นประธานไม่ใช่ผม”
“อ่าว ทำไมเป็นแบบนั้นล่ะ” โค้ชเสียงอ่อนลงแล้วถามต่อด้วยน้ำเสียงงุนงงสงสัย

ผมนั่งมองหน้าโค้ชพลางคิดในใจว่า ‘นี่ไม่รู้จริงๆ หรือแกล้งไม่รู้เนี่ยะ’ ก่อนจะตอบว่า “ก็ตอนเปิดเทอม ทางกองกิจการนักศึกษา เค้าให้นักศึกษาแสดงเจตจำนงในการเปิดชมรม โดยให้ยื่นเอกสารหลักฐานต่างๆให้เสร็จสิ้นภายในเจ็ดวันหลังจากเปิดภาคเรียน แต่เก่งไม่ยอมทำเอกสารหลักฐานหรือดำเนินการใดๆเกี่ยวกับการจัดตั้งชมรมเลย ผมเลยต้องดำเนินการแทนทั้งหมดภายใต้ชื่อผม แต่พอจัดตั้งชมรมเสร็จแล้ว เก่งกลับเรียกน้องๆเข้าประชุมในอาทิตย์แรกภายหลังได้รับการเซ็นอนุมัติจากรองอธิการบดีฝ่ายกิจกรรมนักศึกษาโดยไม่ปรึกษาผมสักคำ ก่อนที่เก่งจะประกาศให้สมาชิกทุกคนทราบว่าเก่งเป็นประธานชมรม พอผมทราบผมเลยให้เก่งไปทำเรื่องเปลี่ยนแปลงชื่อประธานชมรม แต่จนทุกวันนี้เก่งก็ยังไม่ดำเนินการใดๆเลยสักอย่าง”ผมตอบโค้ชกลับไปด้วยน้ำเสียงเซ็งไม่แพ้กัน พอผมพูดจบโค้ชก็นั่งเงียบไปพักหนึ่งเลยทีเดียว เพราะอย่างที่บอกในส่วนของน้องชาย 1 ที่ว่าเก่งเป็นเด็กของโค้ช
“เอาก็ได้ๆ โทรบอกเก่งแล้วกัน” โค้ชตอบมาแบบขอแค่ตอบไปที


   หลังคุยเสร็จผมก็โทรหาประธานชมรมทันทีแต่อนิจจา....ดันไม่เปิดเครื่อง ผมเลยตัดสินใจโทรหาน้องประธานชมรมแทน ทันทีที่ผมบอกน้องรองประธาน น้องรองประธานบ่นอุบเป็นหมีกินผึ้งเลยทีเดียว ด้วยประโยคที่ผมหรือผู้อ่านพอจะเดาได้นั่นล่ะครับ น้องเค้าบอกว่า ‘อะไรพี่ เดินทางพรุ่งนี้แต่เพิ่งมาบอกพวกหนูวันนี้แล้วพวกหนูจะเตรียมตัวยังไงทัน’ ผมสรุปเกี่ยวกับน้องๆนักกีฬาของมหาวิทยาลัยตรงนี้เลยแล้วกันนะครับ ว่าไม่มีใครไปสักคนแม้แต่ตัวประธานชมรมเองก็ด้วย   

        กลับมาที่ยิมหลังจากที่น้องๆวอร์มเสร็จตอนนั้นยังไม่ทันจะ 5 โมงตรงด้วยซ้ำโค้ชก็ให้สั่งให้น้องๆเริ่มซ้อมกันแบบเมื่อวาน คือบอกท่าแล้วก็จำนวนที่ต้องทำแล้วให้น้องไปทำกันเองโดยที่โค้ชจะเดินไปจี้เป็นรายคน แล้วคนที่โค้ชเดินไปจี้บ่อยที่สุดก็คือว่านครับ เดี๋ยวบอกเดี๋ยวชมกันอยู่สองคน จนสาวตองเดินมาบ่นกับผมว่า


“หนูรู้สึกเหมือนถูกทอดทิ้งเลยพี่ โค้ชเค้าดูแต่ว่านอะ”
“น่าๆ เราอาจทำดีแล้วก็ได้ โค้ชเค้าเลยไม่ได้มาบอกอะไร” ผมพูดพลางตบไหล่ตองเบาๆ
“ดีอะไรล่ะพี่ โค้ชบอกเองไม่ใช่เหรอว่าจะจี้เฉพาะคนที่โค้ชดูแล้วว่าตั้งใจ แล้วโค้ชไม่มาดูหนูเลยแบบนี้ก็แสดงว่าหนูดูไม่ตั้งใจในสายตาโค้ชน่ะสิ” ตองพูดจบผมก็เห็นตองมีน้ำตาคลอที่เบ้าตาเหมือนจะน้อยใจจริงๆ
“ไม่เป็นไรๆ เดี๋ยวพี่ดูให้ก็ได้”
“ค่ะพี่”


        พูดจบผมก็ดูแลตองกับน้องๆคนอื่นไปเรื่อยๆโดยโค้ชพูดปรามผมอยู่เนืองๆว่า อย่าไปยุ่งกับน้อง ผมไม่รู้ว่าโค้ชคิดอะไรของเค้า ส่วนตัวผมไม่เห็นด้วยกับการฝึกแบบนี้เลย จริงอยู่ที่เราจะได้ดูแลเด็กที่ใส่ใจได้เต็มที่ แต่อีกด้านเด็กบางคนเค้ามาเรียนก็หวังแค่ออกกำลังกายกับสนุกเท่านั้น การที่โค้ชทำแบบนี้ก็เท่ากับว่าเด็กคนอื่นที่โค้ชไม่เข้าไปดูก็ไม่มีวันได้พัฒนาฝีมือเลย ที่สำคัญความรับผิดชอบของคนเราไม่เท่ากันก็เหมือนบัวสี่เหล่า บางคนก็ขยันซ้อมเองได้โดยไม่ต้องจ้ำจี้จ้ำไชแต่บางคนเคี่ยวเข็ญแทบตายยังพยายามจะหาวิธีหลบอู้อยู่เลย แต่ก็อย่างว่านะครับ.... ถ้าโค้ชเค้าเลือกวิธีนี้แล้ว วิธีแบบนี้อาจดีก็ได้มั้ง รอดูไปก่อนดีกว่า

        ก่อนจบการซ้อมวันนั้นโค้ชเรียกน้องๆคุยอีกครั้งเกี่ยวกับเรื่องการเดินทางไปเก็บตัวซึ่งมีน้องๆนำเงินค่าใช้จ่ายมาให้โค้ชจำนวนสิบห้าคน ซึ่งสิบเอ็ดคนจากสิบห้าคนเข้าใจว่าผมตามไปด้วย เพราะโค้ชกับว่านโฆษณาไปว่าอย่างนั้น แต่สำหรับผม ผมปฏิเสธแล้วก็ยืนยันว่าไม่ไป พอน้องๆ รู้ จึงมีบางส่วนไม่ไปตามผมและขอเงินคืนตอนเลิกเรียน พอโค้ชสั่งเลิกว่านก็วิ่งมากระโดดงับไหล่ผม ก่อนจะถามข้างๆหูผมเบาๆว่า


“ทำไมพี่ไม่ไป” ว่านถามด้วยน้ำเสียงอ้อนๆ
“พี่ไม่ว่าง ติดธุระ”
“จริงเหรอ แล้วตามไปวันหลังได้ไหม”
“อาจจะได้”
“จริงนะ”
“อื่อ”

        พอผมตอบไปแบบนั้นว่านก็ยิ้มแล้วก็เอาหน้าซุกๆกับหลังคอผม ก่อนที่ผมจะเดินไปนั่งอยู่มุมเดิม แล้วว่านก็มานั่งตักพร้อมกับเอามือผมไปกุมไว้ที่ท้องพอเด็กๆส่วนหนึ่งเริ่มทยอยกลับโค้ชก็เดินมาหาผมแล้วก็นั่งฝั่งตรงข้าม ก่อนจะพูดว่า

“เอ ทำไมไม่ไป”
“ผมไม่ว่าง”
“รู้ไหม เอน่ะจำเป็นต้องไปมากกว่าใครๆ เพราะต้องไปเทรนกับอาจารย์กบ”
“ครับ”
“แล้วว่านล่ะ เบี้ยเลี้ยงไม่ต้องเอาเนาะ” โค้ชหันไปพูดกับว่านบ้าง
“อ่าว ทำไมล่ะครับ” ว่านถามด้วยน้ำเสียงสงสัยสุดๆ
“ก็วันที่ไปประชุม ก่อนกลับเค้าให้เบี้ยเลี้ยงมาห้าร้อยหกสิบบาท พอหักห้าร้อยค่าที่ต้องไปแล้วก็เหลือแค่หกสิบบาทเอง”
“หกสิบผมก็เอาครู” ว่านตอกลับไปแบบติดตลก
“แล้วนี่รอจะไปไหนกัน” โค้ชหันมาถามผม ทำเป็นไม่ได้ยินที่ว่านเพิ่งพูด
“ไปกินหมูกระทะครับ” ผมตอบกลับไป
“ไปกันกี่คน” โค้ชถาม
“สามครับ ผม ว่าน ต้นกล้าอีกคน”
“ว๊า...เสียดายวันนี้พี่ติดธุระไม่งั้นจะได้ไปด้วย”
“คราวหน้าก็ได้ครับ” ผมตอบกลับไป
“อื่อ ได้ เดี๋ยวพี่กลับเลยแล้วกัน ฝากปิดยิมด้วยนะ”


        แล้วโค้ชก็เดินจากไปเหลือว่านที่ยังนอนพิงสลับกับนั่งกัดแขนผมไปพลางๆระหว่างที่นั่งคุยกับต้นกล้าจนแขนเสื้อผมชุ่มน้ำลายว่านไปหมด พอน้องๆกลับหมดแล้วผมก็พาว่านกับต้นกล้าไปที่ร้านหมูกระทะร้านประจำโดยระหว่างทางต้นกล้าพยายามชวนว่านกับผมคุยอยู่ตลอดจนถึงร้าน วันนี้ร้านหมูกระทะครึกครื้นมากครับ ผมเองก็ไม่เข้าใจว่าทำไมคนอิสานส่วนใหญ่อะไรๆก็หมูกระทะ วันจบการศึกษา วันคล้ายวันเกิด พบปะญาติมิตร ก็พากันมาที่ร้านหมูกระทะกันหมดส่วนเหตุผลที่ผมมาร้านหมูกระทะเหมือนกันน่ะเหรอ ไม่รู้ซิครับคุยไปกินไปเพลินดีกว่านั่งคุยกันเฉยๆ แล้ววันนี้ต้นกล้าเป็นคนเลือกโต๊ะครับ โดยต้นกล้าเลือกโต๊ะที่ติดกับสระน้ำ ว่านมานั่งข้างผม ไม่สิ ต้องบอกว่าว่านเลื่อนเก้าอี้มาจนติดผมเลยมากกว่า ส่วนต้นกล้านั่งฝั่งตรงข้ามครับ แล้ววันนี้ก็เป็นอีกวันที่เน้นมานั่งคุยมากกว่านั่งทานเสียงหัวเราะดังขึ้นเป็นพักๆจนหลายครั้งโต๊ะข้างๆที่ได้ยินพวกผมเล่นมุขก็หันมาหัวเราะอยู่เรื่อยๆเหมือนกัน


“พี่วันนั้นผมไปตกปลาล่ะ” ต้นกล้าเริ่มเล่าเรื่องใหม่ด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น
“แล้ว” ว่านตอบกลับไป
“แล้วขากลับอะผมก็ปั่นจักรยาน”
“แล้ว” ผมตอบกลับไปบ้าง
“แล้วก็ไปเหยียบกิ่งไม้ แล้วกิ่งไม้มันก็หัก” ต้นกล้าเว้นวรรคอีกแล้ว เหมือนจะอยากให้เราถาม ไม่ก็เช็คดูว่าผู้ฟังยังสนใจเรื่องของเค้าอยู่ไหม
“แล้ว” ว่านตอบไป
“แล้วก็ร้องโอ๊ย!!”
“ห๊า!! ปลาร้องโอ๊ยเหรอ” ว่านทำท่าทางตกใจ
ต้นกล้าอึ้งกับที่ว่านพูดอยู่พักหนึ่งก่อนจะตอบว่า “ช่าย ปลาร้องโอ๊ย!”
“ปลาบ้าอะไรร้องโอ๊ย” ผมบึนงึมงำๆ เท่านั้นแหละ
“ ฮ่าๆๆๆๆ” ว่านกับ ต้นกล้าก็ระเบิดเสียงหัวเราะออกมาจนโต๊ะข้างๆหันมามอง
“หัวเราะอะไร” ผมถาม
“ฮ่าๆๆๆๆๆ ก็หัวเราะ ปลาบ้าอะไรร้องโอ๊ย ฮ่าๆๆๆๆ” ต้นกล้าตอบกลับมา พักหนึ่งว่านก็หันมาสะกิดๆผมแล้วบอกว่า
“ไปห้องน้ำก่อนนะพี่ หัวเราะปลาร้องโอ๊ยจนปวดฉี่เลย”
“อืมม เดินดีๆล่ะ” ผมบอกว่าน

        แล้วไม่นานนักว่านก็เดินกลับมานั่งที่โต๊ะ ก่อนที่ต้นกล้าจะพูดว่า

“พี่ว่านเมื่อกี้เข้าห้องน้ำหญิงห้องน้ำชาย”
“ชายดิ” ว่านตอบกลับมา
“โรคจิตเปล่าเข้าห้องน้ำชาย ต้องเข้าห้องน้ำหญิงดิ” ต้นกล้าตอบมา


        วันนั้นไม่รู้ว่าเพราะอะไรกะแค่มุขฝืดๆแบบนี้ของต้นกล้าก็ทำเอาผมกับว่านฮาได้ไม่หยุดแต่ว่าเวลาที่เรามีความสุขมักจบลงอย่างรวดเร็วเสมอ ไม่นานก็ถึงเวลา 4 ทุ่มซึ่งผมว่ามันควรเป็นเวลาที่เด็กอายุ 13 กับ 14 ควรกลับบ้านได้แล้ว ผมเลยเรียกพนักงานมาเก็บเงิน ก่อนจะพาน้องๆไปส่งที่บ้านทีละคน ผมไปส่งต้นกล้าก่อน ส่วนว่านผมพาเค้าไปส่งคนสุดท้าย ระหว่างทางผมกุมมือว่านไว้ ส่วนว่านเองก็นั่งซบหลังผมอยู่เงียบๆ

        ตลอดระยะทางจากบ้านต้นกล้าไปบ้านว่านนั้นผมมีอยู่เรื่องหนึ่งที่อยากบอกว่าแต่ผมไม่รู้ว่าจะบอกดีไหม เพราะว่านดูจะเคารพโค้ชมากๆ เรื่องที่ว่านี้ก็คือเบี้ยเลี้ยงจริงๆเค้าจ่ายให้คนละ 860 บาท ไม่ใช่ 560 ตามที่โค้ชบอกว่านซึ่งนั่นหมายถึงโค้ชอมเงินว่านไปแล้ว 300 บาท แล้วก็ค่าเดินทาง ค่าที่พัก ทางการกีฬาแห่งประเทศไทยเค้าออกเงินให้ส่วนหนึ่ง แต่เนื่องจากโค้ชบอกว่าไปกลับรถไฟฟรีดังนั้นเรื่องค่าเดินทางว่านไม่จำเป็นต้องจ่ายเลย ในกรณีที่โค้ชเก็บคนอื่น 500 มันไม่เท่าไหร่ แต่กับว่านที่ทางการกีฬาช่วยมาส่วนหนึ่งด้วยทำไมต้องเก็บน้อง 500 บาทเต็ม จนน้องเหลือเงินเบี้ยเลี้ยงมาถึงมือแค่ 60 บาทเท่านั้น แล้วที่บอกว่าไปนอนยิมอาจารย์กบ จากที่ผมรู้จักอาจารย์กบมา อาจารย์กบไม่เคยเรียกร้องเงินเป็นตัวเลข มีแต่บอกว่า จะให้ก็ให้ แล้วถ้าจะกินข้าวด้วยกันก็ให้ช่วยค่าข้าวแล้วก็กับด้วย
พักหนึ่งผมก็มาถึงบ้านว่าน บ้านว่านวันนี้ยังคงเงียบกริบเหมือนเคย ว่านลงจากรถแล้วปีนรั้วบ้านเค้าไปก่อนจะหันมาไหว้ผม แล้วพูดว่า


“พี่พรุ่งนี้ไปด้วยกันนะ”
ผมยิ้มว่านว่านก็ยิ้มกลับมา แล้วผมก็บอกว่า“พรุ่งนี้ตอนเช้าพี่มารับ เตรียมตัวให้พร้อมเลยนะครับ”
“ครับ พี่ก็ด้วยนะ” ว่านตอบกลับมาก่อนจะเดินเข้าบ้านไป


        คืนวันนั้นผมโทรไปปรึกษาพี่ป้อมเรื่องที่โค้ชอมเงินว่านรวมถึงหักเงินว่านหมดจนเหลือแค่หกสิบบาท พี่ป้อมก็ได้แต่บอกว่า จะคุยกับโค้ชให้เอง ผมไม่ต้องบอกอะไรน้อง สุดท้ายเรื่องเงินจะจบยังไงเหรอครับ ไม่ต้องเดาอะครับเดี๋ยวโค้ชเค้าก็หาเหตุผลในการหักเงินน้องมาพูดจนได้แหละ สุดท้ายแล้วผมก็ได้แต่อึ้งกับพฤติกรรมของโค้ชที่อมเงินได้แม้กระทั่งเด็กที่ศรัทธาในตัวเค้าอย่างหมดใจแบบที่ไม่เคยสงสัยหรือเคลือบแคลงในคำสอนใดๆของเค้าเลย

To Be Con
หัวข้อ: Re: น้องชาย 2 ( Up ช่วงท$
เริ่มหัวข้อโดย: tuek ที่ 30-04-2011 16:46:52
ทำไมโค้ชทำแบบนี้ละอมเงินแม้กระทั่งเด็ก :beat: :z6:
ไม่ชอบเลยอะ
หัวข้อ: Re: น้องชาย 2 ( Up ช่วงที่ 8 : 30/04/11 )
เริ่มหัวข้อโดย: HydrA ที่ 30-04-2011 17:04:52
เรื่องของโค้ช สำหรับว่านคงต้องให้น้องเรียนรู้ด้วยตัวเอง
สำหรับน้องว่าน มาถึงตอนนี้นู๋ก็ยังเดาทางเค้าไม่ได้เลย
คงต้องรอดูกันไปอีกสักพัก
หัวข้อ: Re: น้องชาย 2 ( Up ช่วงที่ 8 : 30/04/11 )
เริ่มหัวข้อโดย: w[o]w ที่ 30-04-2011 17:44:09
เลวร้ายไม่ไหวแล้ว พี่เอก็ใจดีเกิ้น เหนื่อยๆ
หัวข้อ: Re: น้องชาย 2 ( Up ช่วงที่ 8 : 30/04/11 )
เริ่มหัวข้อโดย: yunjaejoong ที่ 30-04-2011 20:52:30
จะให้บอกว่าอย่างไรดี คิดถึงน้องบีง่ะ ไม่รู้ว่าเป็นงัยบ้างสงสัยว่าอาพี่เอคงจะเริ่มลืมน้องบีไปแล้วมั่ง ถ้าคนเรามันคิดถึงกันคงต้องถามข่าวคราวมั่งแหละหน่าแต่นี้ไม่ถามเลยคงมีว่านแล้วล่ะน้อเลยไม่ถามหาน้องบี
หัวข้อ: Re: น้องชาย 2 ( Up ช่วงที่ 8 : 30/04/11 )
เริ่มหัวข้อโดย: sang som ที่ 30-04-2011 21:13:44
อยากกระทืบไอ้โค้ชบ้านี้จริงๆ ฮึ่มๆ :fire: :z6:

ปล.คิดถึงน้องบีอ่ะ :monkeysad:
หัวข้อ: Re: น้องชาย 2 ( Up ช่วงที่ 8 : 30/04/11 )
เริ่มหัวข้อโดย: Na_RimKLonG ที่ 30-04-2011 21:47:34
ไอ่โค้ช  ไอ่คนทุเรศ 

ตังค์เด็กก็ยังจะเอาอีก  เหอะๆ
หัวข้อ: Re: น้องชาย 2 ( Up ช่วงที่ 8 : 30/04/11 )
เริ่มหัวข้อโดย: bbyuqin ที่ 30-04-2011 23:35:42
พฤติกรรมแย่ๆของโค้ชแบบนี้ไม่น่าเอาไว้นะ....แย่มากๆ แม้กระทั่งเงินเด็กแค่360 ไม่อยากจะเชื่อก็ต้องเชื่อ น่าจะมีวิธียื่นถอดถอนโค้ชคนนี้นะพี่เอ..
อิโค้ชมัน...เฮ้ออ ด่าไปก็เท่านั้น

ส่วนว่าน..บางทีเอต้องสอนน้องบ้างอะไรบ้างก็ดีนะ...ช่วงนี้เค้ายังเด็กเค้าไว้ใจเอ น่าจะฟังบ้าง  ย้ำว่าน้องเยอะเกิ๊น...

รออ่านต่อจ้า  :L2:
หัวข้อ: Re: น้องชาย 2 ( Up ช่วงที่ 8 : 30/04/11 )
เริ่มหัวข้อโดย: icyblue ที่ 01-05-2011 11:35:24
พฤติกรรมของโค้ชหลายอย่างมันไม่ดีเลย

น้องเอน่าจะบอกพี่ป้อม หรือคนที่มีอำนาจจัดการ เพราะไม่งั้น นร. ก็จะมีตัวอย่างที่ไม่ดี

และเสียความรู้สึกกับผู้สอน  อย่างที่น้องตองรู้สึก (อาจมีนร.หลายคนก็ด้วยแต่ไม่พูดออกมา)

แล้วที่สุดยิมนี้ก็จะไม่มีใครอยากมาเรียน อาจจะเหมารวมผู้สอนทุกคนด้วยที่จะโดนว่าถึงวิธีการสอนแบบเลือกคน

และไม่มีระเบียบวินัย


 :กอด1: :L2:น้องเอสู้ๆ นะ อยู่ท่ามกลางหมู่มารไร้ระเบียบ และเอาเปรียบอย่างนี้
หัวข้อ: Re: น้องชาย 2 ( Up ช่วงที่ 8 : 30/04/11 )
เริ่มหัวข้อโดย: me_alone ที่ 01-05-2011 20:37:39
ทำไมโค้ชทำแบบนี้ละอมเงินแม้กระทั่งเด็ก :beat: :z6:
ไม่ชอบเลยอะ

 :เฮ้อ: ~ คือโค้ชคนนี้ปัญหาเรื่องเงินตลอดอะครับอย่าให้พูดถึงเหตุการณ์เก่าๆเลย



เรื่องของโค้ช สำหรับว่านคงต้องให้น้องเรียนรู้ด้วยตัวเอง
สำหรับน้องว่าน มาถึงตอนนี้นู๋ก็ยังเดาทางเค้าไม่ได้เลย
คงต้องรอดูกันไปอีกสักพัก

 :กอด1: ~ นั่นซิครับ คงต้องรอดู



เลวร้ายไม่ไหวแล้ว พี่เอก็ใจดีเกิ้น เหนื่อยๆ

 :กอด1: ~ ทำยังไงได้อะครับ ไม่งั้นก็ไม่มีคนดูแลน้องๆ



จะให้บอกว่าอย่างไรดี คิดถึงน้องบีง่ะ ไม่รู้ว่าเป็นงัยบ้างสงสัยว่าอาพี่เอคงจะเริ่มลืมน้องบีไปแล้วมั่ง ถ้าคนเรามันคิดถึงกันคงต้องถามข่าวคราวมั่งแหละหน่าแต่นี้ไม่ถามเลยคงมีว่านแล้วล่ะน้อเลยไม่ถามหาน้องบี

 :กอด1: ~ ไม่ลืมครับ ขณะที่เขียนตอบ Re นี้ก็ยังคิดถึงบีอยู่ตลอด



อยากกระทืบไอ้โค้ชบ้านี้จริงๆ ฮึ่มๆ :fire: :z6:
ปล.คิดถึงน้องบีอ่ะ :monkeysad:

 :กอด1: ~ พอเข้าใจยังครับทำไมอ้นถึงเกลียดโค้ชคนนี้เข้ากระดูกดำ



ไอ่โค้ช  ไอ่คนทุเรศ 
ตังค์เด็กก็ยังจะเอาอีก  เหอะๆ

 :กอด1: ~ ขนาดรุ่นน้องที่มหาลัยยังโดนเลยครับ



พฤติกรรมแย่ๆของโค้ชแบบนี้ไม่น่าเอาไว้นะ....แย่มากๆ แม้กระทั่งเงินเด็กแค่360 ไม่อยากจะเชื่อก็ต้องเชื่อ น่าจะมีวิธียื่นถอดถอนโค้ชคนนี้นะพี่เอ..
อิโค้ชมัน...เฮ้ออ ด่าไปก็เท่านั้น
ส่วนว่าน..บางทีเอต้องสอนน้องบ้างอะไรบ้างก็ดีนะ...ช่วงนี้เค้ายังเด็กเค้าไว้ใจเอ น่าจะฟังบ้าง  ย้ำว่าน้องเยอะเกิ๊น...
รออ่านต่อจ้า  :L2:

 :เฮ้อ: ~ ว่านเป้นพวกสุดโต่งครัง เค้าเคารพโค้ชมาก ผมพูดอะไรไปเค้าก็ไม่สนใจหรอกครับ



พฤติกรรมของโค้ชหลายอย่างมันไม่ดีเลย
น้องเอน่าจะบอกพี่ป้อม หรือคนที่มีอำนาจจัดการ เพราะไม่งั้น นร. ก็จะมีตัวอย่างที่ไม่ดี
และเสียความรู้สึกกับผู้สอน  อย่างที่น้องตองรู้สึก (อาจมีนร.หลายคนก็ด้วยแต่ไม่พูดออกมา)
แล้วที่สุดยิมนี้ก็จะไม่มีใครอยากมาเรียน อาจจะเหมารวมผู้สอนทุกคนด้วยที่จะโดนว่าถึงวิธีการสอนแบบเลือกคน
และไม่มีระเบียบวินัย
 :กอด1: :L2:น้องเอสู้ๆ นะ อยู่ท่ามกลางหมู่มารไร้ระเบียบ และเอาเปรียบอย่างนี้

 :เฮ้อ: ~ เรื่องถอดถอนคงทำไม่ได้อะครับสำหรับที่ยิม เพราะโค้ชกับพี่ป้อมเป็นหุ้นส่วนกัน
 :m26: ~ แต่ยกเว้นในส่วนของมหาวิทยาลัย....รออ่านต่อไปเรื่อยๆนะครับ หึหึหึ
หัวข้อ: Re: น้องชาย 2 ( Up ช่วงที่ 8 : 30/04/11 )
เริ่มหัวข้อโดย: me_alone ที่ 01-05-2011 21:12:16
ช่วงที่ 9



        หลังจากส่งว่านแล้ว ระหว่างทางที่กลับบ้านผมก็มานั่งคิดอะไรเพลินๆที่สะพานข้ามทางรถไฟที่ผมเคยพาบีมานั่งเล่น มันเป็นมุมเดียวกันกับที่ผมกับบีมานั่งเล่นกันครั้งสุดท้าย สายลมเย็นๆพัดมาปะทะเข้ากับตัวผม สายตาผมมองทางรถไฟที่ทอดยาวไปจนสุดทางซึ่งสุดปลายทางนั้นมันมืดมิดจนผมไม่เห็นอะไรเลย แต่มันก็ชวนให้ผมจ้องมอง มันเหมือนมีอะไรชวนให้หลงใหล น่าค้นหา น่าลุ้นระทึกว่าเมื่อไหร่จะมีแสงไฟจากรถไฟวิ่งฝ่าความมืดมิดออกมา บางทีแม้ในความมืดมิดที่เราไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเมื่อไหร่สิ่งที่เราคาดหวังจะผ่านเข้ามา แต่เราก็ยังจ้องมองด้วยความหวัง หวังว่าวันหนึ่งสิ่งที่เราหวังไว้จะโผล่พ้นความมืดมิดที่เรามองไม่เห็นออกมา ถึงเราจะไม่รู้ด้วยซ้ำว่าสิ่งที่เรารอคอยนั้นจะเป็นยังไง แต่เราก็ยังตั้งหน้าตั้งตารอคอย ถ้าเวลาแบบนี้มีบีมานั่งอยู่ในอ้อมกอดผมก็คงจะดีซินะ

        ในระหว่างที่ผมนั่งคิดถึงบีอยู่เงียบๆคนเดียว จู่ๆ ว่านก็โผล่เข้ามาในชั่ววูบของความคิด ผมไม่รู้ว่าทำไมจู่ๆถึงคิดถึงว่านขึ้นมาได้ ผมนึกถึงเสียงของว่านที่ว่านพูดน้ำเสียงฟังดูอ้อนวอน เหมือนเด็กเล็กๆที่กำลังร้องขอสิ่งที่เค้าต้องการ มันฟังดูน่าสงสาร น่าเห็นใจ มันจะดีไหมถ้าผมปล่อยเด็กๆให้ไปกับโค้ช โค้ชเค้าจะดูแลเด็กๆได้เหรอ แต่ว่าถ้าไปถึงจังหวัดABC พี่นัทศิษย์เอกอาจารย์กบน่าจะช่วยดูแลน้องๆได้เป็นอย่างดี เฮ้ออออ......ถ้าผมไปว่านจะมาวนเวียนๆอยู่รอบๆตัวผมเหมือนเดิมไหมน้า แถมไปแบบนี้มีเวลาอยู่ด้วยกันแบบ 24ชั่วโมงไม่ใช่แค่ 3 – 4 ชั่วโมงแบบนี้......แล้วก็ผมจะได้นอนกอดว่านไหมน้า หรือว่านจะมานอนข้างๆผมหรือเปล่า อืม......นี่ผมคิดเรื่องบ้าอะไรอยู่เนี่ยะ คืนนั้นผมนอนหลับไปด้วยจิตใจที่กังวลเรื่องว่าน


“ตี๊ดๆ ตี๊ดๆ”


        เสียงนาฬิกาปลุกดังขึ้นตามเวลาที่ผมกำหนดไว้ ผมเอื้อมมือไปกดปิดเสียงแบบไม่ต้องลืมตามองตามความเคยชิน ก่อนจะค่อยๆคลานลงจากเตียงช้าๆ แล้วลงไปอาบน้ำล้างหน้าใส่เสื้อผ้าจนเสร็จผมก็ออกไปรับต้นกล้ากับว่านที่บ้านตามที่ตกลงกันไว้ พอผมรับต้นกล้าเสร็จผมก็ไปรับว่านที่บ้าน ทันทีที่ไปถึงหน้าบ้านว่าน ก็พบว่านแต่งตัวซะหล่อยืนพิงรั้วบ้านรออยู่ ทันทีที่ผมจอดรถว่านก็หันมายิ้มแล้วเดินเอากระเป๋ามาให้ผม ก่อนจะออกรถไปที่สถานีรถไฟ วันนี้ว่านนั่งหน้าครับ ต้นกล้านั่งหลัง ตลอดทางว่านเอาหน้ามาซุกที่แขนผมตลอดจนถึงสถานีรถไฟ พอไปถึงก็เจอน้องๆส่วนหนึ่งมานั่งรออยู่ก่อนแล้ว หลังจากส่งว่านกับต้นกล้าเสร็จผมก็กลับเลย แต่ก่อนกลับผมบอกว่านว่า


“ไปถึงแล้วโทรบอกพี่ด้วยนะ”
“ครับพี่ก็รีบตามไปนะ” ว่านตอบกลับมาพร้อมยิ้มให้


        วันนั้นพอว่านไปถึงว่านก็โทรมาบอกตามที่ตกลงกันไว้ แล้วตลอดเวลาที่ว่านอยู่ที่นั้นผมก็โทรหาว่านตลอด เช้า เที่ยง เย็น รวมถึงก่อนนอน ผมไม่รู้ว่าว่านรำคาญผมไหม แต่ทุกครั้งที่ผมโทรไปว่านมีแต่เสียงหัวเราะกลับมาเสมอ เรื่องการไปเก็บตัววันแรกๆเหมือนอะไรๆมันจะลงตัวพอดี พี่นัทสามารถควบคุมแล้วก็กูแลน้องๆให้อยู่ในโอวาทได้ โดยที่พักน้องๆจะนอนกันในยิมที่ซ้อมเทควันโดเลย ซึ่งตอนไปถึงคืนแรกผมก็ถามว่านเรื่องหมอน เรื่องผ้าห่มเรื่องห้องน้ำเรื่องอาหารการกิน ว่านก็บอกว่าโค้ชเตรียมให้หมดแล้วไม่ต้องห่วง รวมถึงเรื่องข้าวปลาอาหารก็ด้วยพี่นัทเป็นคนดูแลให้ แต่ว่า....ในเวลา 22.25 ของคืนวันที่ 3 ตองโทรหมาหาผมหลังจากที่ผมเพิ่งวางสายจากว่านได้ไม่นาน


“ว่าไงตอง” ผมพูดทักทายตองหลังกดรับสาย
“พี่เอ...หนูอยากกลับแล้ว” ตองพูดด้วยน้ำเสียงน้อยใจ
“อ่าว ทำไมล่ะตอง”
“หนูเบื่อ โค้ชเค้าไม่สนใจพวกหนูเลย”
“ยังไง เมื่อกี้พี่ถามว่าน เห็นว่านบอกว่าโค้ชก็ดูแลดีนี่นา”
“ดีอะไรล่ะพี่ คืนแรกมาถึงหนูเพลียมากหนูเลยนอนก่อน ผ้าห่มก็ไม่มี โค้ชไม่หามาให้ จนตอนหลังอาจารย์กบมาเห็นว่าไม่มีผ้าห่ม อาจารย์กบเลยไปเอามาให้ แต่ว่าหนูหลับแล้ว หนูเลยไม่ได้เอาผ้าห่มกับเค้า คืนนั้นหนูนอนหนาวมาก แถมเช้ามาปวดคออีกเพราะต้องนอนหนุนกระเป๋า” ตองเล่าด้วยน้ำเสียงคับแค้นใจสุดๆ
“อ่าว เราหลับแล้วไม่มีใคร เอาผ้าห่มให้เราเลยเหรอ”
“ไม่มีเลยพี่ พอหนูทำท่าน้อยใจ ไอ้ต้นกล้าก็บอกว่า คิดว่าหนูขี้ร้อนเลยไม่ได้เอาให้”

        ฟังดังนั้นผมเลยรู้สึกว่า....ถามอะไรๆจากว่านคนเดียวไม่ได้แล้ว ไหนๆตองก็โทรมาแล้วผมเลยเริ่มถามตั้งแต่วันแรกที่ไปถึง ซึ่งตองก็บ่นมาเป็นชุดว่า

“วันนั้นรถไฟฟรีคนเยอะมากจนพวกหนูไม่มีที่นั่ง ต้องยืนตั้งเกือบสี่ชั่วโมงกว่าจะมาถึง พอมาถึงก็เกือบเที่ยงแล้วโค้ชเค้าก็ให้ซ้อมต่ออีกทั้งๆที่หนูปวดขาแทบตาย คนอื่นๆก็บ่น แต่ว่านหน่ะซิพี่ มันไม่บ่นมันทำตามที่โค้ชสั่งหมดทุกอย่าง แล้วโค้ชก็ทำเหมือนเค้าไม่สนใจพวกหนู ไม่มองไม่อะไรเลยด้วยซ้ำ เหมือนเป็นการด่าอ้อมๆว่าพวกหนูไม่สนใจชัดๆเลย พวกหนูกับน้องๆเลยต้องไปซ้อมด้วยทั้งๆที่เหนื่อยแทบตาย”
“แล้วว่านไม่บ่นอะไรเลยเหรอ” ผมถามตอง
“ไม่เลยพี่ ว่านมันทำครบหมดแบบไม่บ่นสักคำเลย แถมมามองแบบกดดันพวกหนูอีก” ตองตอบกลับมา
“แล้วข้าวปลาอาหารล่ะ”
“ไปหากินกันเองพี่ ดีที่พี่นัทพาไปไม่งั้นตาย”
“อ่าว โค้ชเค้าไม่ได้พาไปทานเหรอ”
“ไม่เลยพี่ เจอโค้ชแค่ตอนซ้อม พอซ้อมเสร็จก็หายไปเลย พวกหนูต้องไปหาอะไรกินกันเอง”
“แล้วที่หลับที่นอนโอเคไหม”
“ก็พอได้แหละพี่ แต่แบบนี้หนูไม่เอาแล้ว หนูว่าจะโทรให้แม่มารับพรุ่งนี้”
“อืม...ถ้าไม่สบายใจก็กลับมาก่อนก็ได้ แล้วอย่าลืมบอกโค้ชเค้าด้วยล่ะ”
“ค่ะพี่ แต่ว่า.....”
“ว่า....” ผมถามกลับไปเพราะตองเว้นช่วงไว้เหมือนจะถามแต่ไม่กล้าถาม
“เงินห้าร้อยบาทอะค่ะ หนูไม่เข้าใจว่าเก็บมาทำไมคะ ในเมื่อข้าวปลาอาหารพวกหนูก็ต้องออกเงินกันเองหมด หรือว่าเป็นค่าที่พัก” ตองถามด้วยน้ำเสียงค่อนข้างซีเรียสเล็กน้อย
“อืมมม...อาจเป็นค่าที่พัก แล้วก็ค่าสถานที่ของอาจารย์กบมั้งครับ โค้ชเค้าไมได้ชี้แจงรายละเอียดค่าใช้จ่ายให้พี่ฟังหน่ะ”
“พี่....ทำไมพวกยิมอื่นเค้าได้ไปพักโรงแรมล่ะ ทำไมยิมเราถึงได้มานอนที่ยิมอาจารย์กบแบบนี้”
“พี่ก็ไม่รู้ ประหยัดมั้ง ไปนอนโรงแรมแพงนี่นาไปกันตั้งหลายวัน ที่สำคัญมันไม่ได้บรรยากาศเข้าค่ายด้วยมั้ง ฮ่ะๆ” ผมพูดติดตลกเพื่อให้ตลองรู้สึกสบายใจขึ้น
“เหรอคะ อืมม...งั้นหนูไม่กวนพี่ละ แค่นี้นะคะ”
“ครับ ฝันดี มีอะไรก็โทรมานะ”
“ค่ะ”


        พอคุยกับตองเสร็จผมก็โทรไปหาต้นกล้าเพื่อถามเรื่องราวที่เกิดขึ้นซึ่งต้นกล้าก็บอกตรงกันกับที่ตองบอก พอผมทราบดังนั้นผมเลยโทรไปบอกพี่ป้อมถึงเรื่องที่เกิดขึ้น ตอนนั้นพี่ป้อมบ่นอุบว่า “พี่ก็บอกมันแล้ว ว่าถ้าพาเด็กไปลำบากอย่าพาไปมันก็ไม่ฟังพี่ เดี๋ยวให้มันเคลียร์ตัวมันเองแล้วกัน” แล้วเช้าวันต่อมาคุณแม่น้องตองก็ไปรับน้องตอง แล้วนอกเหนือจากน้องตองก็มีเด็กๆคนอื่นขอกลับพร้อมตองด้วยอีก 4 คน แน่นอนครับโค้ชไม่ได้รั้งเด็กพวกนี้ไว้ แถมพูดตบท้ายก่อนที่ตองจะออกจากประตูยิมด้วยว่า “ไม่พร้อมก็ไม่น่ามาด้วยตั้งแต่แรก บอกแล้วว่าจะเอาแต่คนที่พร้อม ใช่ไหมว่าน” แล้วนั่นก็เป็นครั้งสุดท้ายที่ตองอยู่ในสังกัดยิมของเราครับ คุณแม่น้องตองมาติดต่อขอใบยืนยันการสอบสายจากพี่ป้อมในวันต่อมาโดยไม่พูดถึงสาเหตุการออกเลยสักคำ ซึ่งภายหลังผมโทรไปถามกับตองแล้วตองก็เล่าให้ฟังพร้อมกับร้องให้ด้วย ดูเหมือนคำพูดของโค้ชจะแรงเกินไปซะแล้ว เพราะมันทำให้ตองมีทัศนะในด้านลบกับตัวเองขึ้นมา  ผมนั่งปลอบตองทางโทรศัพท์อยู่นานเกือบ 1 ชั่วโมงก่อนที่ตองจะบอกผมว่าจะย้ายไปเรียนที่ยิมอาจารย์โจ้แทน ซึ่งผมก็ไม่ได้รั้งน้องไว้ก่อนวางสายตองทิ้งท้ายว่า


“ไม่ได้เจอกันบ่อยๆเหมือนเดิมแล้ว หนูคงจะคิดถึงพี่มากๆแน่เลย อยากเจอน้องบีอีกจัง อยากเห็นพี่กอดบีอีก ว่างๆก็แวะไปเล่นที่ยิมอาจารย์โจ้บ้างนะพี่”
“ครับ” ผมตอบตองไป


        อีกคนแล้วที่หายไปในช่วงระยะเวลาสั้นๆ หลังจากนั้นทุกครั้งที่ผมโทรหาว่านผมจะคุยเรื่องเกี่ยวกับว่านซะมากกว่า เช่นทานข้าวหรือยัง ทานกับอะไร อร่อยไหม อิ่มไหม วันนี้ไปไหนบ้าง ซ้อมอะไรบ้าง ทำอะไรบ้าง ส่วนว่านเองก็ถามอยู่เนืองๆว่าเมื่อไหร่ผมจะตามมา ส่วนเรื่องอื่นๆผมเน้นโทรถามต้นกล้าเอา โดยข้อมูลที่ได้ไม่สู้ดีเท่าไหร่ เหมือนจะมีว่านคนเดียวที่มีความสุขกับทริปนี้ส่วนน้องคนอื่นๆเหมือนจะอยู่เพื่อไม่ให้ถูกสบประมาทเท่านั้นเอง



-------------------------------



        วันอาทิตย์ที่แสนสงบสุขของผม อืมมม วันนั้นผมแทบไม่ได้ทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอันพอทำงานบ้านเสร็จผมก็ไปถ่ายภาพต่อหลังจากถ่ายภาพเสร็จแล้วผมก็กลับมานั่งดูภาพที่ถ่ายมาจนประมาณบ่ายโมงกว่าๆเสียงโทรศัพท์ผมก็ดังขึ้นผมหยิบโทรศัพท์ที่วางอยู่ข้างๆมาดูว่าใครโทรเข้ามา


“ว่าน Calling”
“ว่าไง แข่งเสร็จแล้วเหรอ” ผมถามขึ้นหลังจากกดรับสาย
“ครับเสร็จแล้ว แพ้ไป 0.5 ครับ”
“เหรอ ไม่เป็นไรเน๊าะ”
“ครับ แต่ไปแพ้ตรงจุดที่ไม่น่าแพ้หน่ะซิ” ว่านพูดด้วยน้ำเสียงที่ฟังออกเลยว่าเสียดายสุดๆ
“จุดไหน”
“ก็ตอนแข่งผมเจ็บเข่า แล้วผมเซ”
“น่าๆ ก็เราเจ็บขาอยู่นี่นา ปีหน้าค่อยลงใหม่ก็ได้ แล้วค่อยระวังจุดนี้เอา”
“ครับ”
“แล้วกลับกันวันไหน” ผมถามว่าน
“โค้ชบอกว่ากลับพรุ่งนี้ครับ”
“หืม.....แล้วว่านอยากกลับวันไหน”
“วันไหนก็ได้แล้วแต่โค้ชครับ” ได้ยินว่านตอบมาแบบนั้นผมเลยขอสายน้องต้นกล้า
“ว่านพี่ขอคุยกับต้นกล้าหน่อย”
“ได้ครับ”
“สวัสดีครับ” ต้นกล้าทักหลังจากที่รับโทรศัพท์ไปแล้ว
“ต้นกล้า พวกเราอยากกลับกันวันไหน”
“ผมอยากกลับวันนี้” ต้นกล้าตอบมา
“แล้วคนอื่นๆล่ะ”
“ก็อยากกลับวันนี้เหมือนกันถ้ากลับได้”
“ตอนนี้เพิ่งบ่ายโมง มันมีรถไฟฟรีตอนบ่ายสามโมงยี่สิบอยู่ กลับไปเก็บของยังไงก็กลับทัน ยังไงถามพี่ว่านกับโค้ชดูแล้วกัน”
“ได้เลยพี่” ต้นกล้าตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงดีใจ


        หลังจากนั้นประมาณบ่ายสามโมงกว่าๆว่านก็โทรมาหาผมแล้วบอกว่าจะกลับรถบ่ายสามโมงยี่สิบของวันนี้ตอนไปถึงที่สถานีให้ผมมารับด้วยซึ่งผมก็ตอบรับกลับไป จริงๆเรื่องเจ็บขาผมเตือนว่านหลายครั้งแล้วว่าไม่ควรหักโหมตามโค้ช เพราะถึงว่านจะทำได้ก็จริง แต่มันทำให้ว่านบาดเจ็บหลายครั้งก็เสี่ยงกับการบาดเจ็บถ้าเกิดพลาดขึ้นมาแรงๆ มันอาจเป็นเรื้อรังจนทำว่านเตะไม่ได้อีกเลยก็ได้ มันไม่ได้คุ้มเลยที่จะเอาสุขภาพของเราไปแลกกับคำชมเล็กๆน้อยๆแค่นั้น แต่ก็เหมือนว่าว่านจะไม่สนใจคำเตือนพวกนี้ของผมเลยแม้แต่น้อย สุดท้ายแล้วก็คงจะต้องเป็นน้องเองที่เลือกแล้วล่ะครับ ผมก็เป็นแค่รุ่นพี่คนหนึ่งอย่างมากก็ทำได้แค่เตือน แล้ววันนั้นช่วงสามทุ่มกว่าๆว่านก็โทรมาหาผมว่านบอกว่าอีกประมาณสิบห้านาทีจะมาถึงผมเลยไปรอที่สถานี แล้วประมาณสิบห้านาทีรถไฟก็มาถึงครับ ทันทีที่รถไฟหยุด เด็กๆวิ่งกรูมาหาผมแล้วแย่งกันเล่าเรื่องที่ได้ประสบพบเจอกันอย่างตื่นเต้น จนผมต้องพาเด็กๆไปมุมปลอดคนสักหน่อย เพราะเด็กๆคุยกันเสียงดังมากแถมแย่งกันคุยอีก แต่ว่า...ยังไม่ทันที่เด็กจะมีผู้ปกครองสักคนมารับโค้ชก็สะกิดๆผมแล้วบอกว่า


“เอ พี่กลับก่อนนะฝากดูน้องด้วย”


        ผมไม่ได้ตอบอะไรกลับไปโค้ชหันหลังแล้วกลับไปกับแฟนที่มารอรับอยู่ด้านหน้าสถานี ซึ่งจริงๆที่ผมมานี่ผมแค่มารับว่านนะ ไม่ได้มาเฝ้าน้องๆ แต่ก็นะครับ เห็นน้องๆเหมือนจะมีความสุขเวลาที่อยู่กับผม ผมเลยอยู่กับน้องๆต่อ แล้วเรื่องเล่าก็ดำเนินต่อไปจนถึงวันที่ว่านแข่ง ทว่า...มีเรื่องเล่าอยู่เรื่องหนึ่งที่ทำให้ว่านเขินจนหน้าแดงนั่นคือ ว่านมีสาวมาชอบ ชอบมากจนสาวคนนั้นมาขอเบอร์ว่านเลยทีเดียว พอต้นกล้าเล่าจบ ว่านเลยไล่เตะต้นกล้าด้วยความอายหรือโกรธที่ถูกเผาก็ไม่รู้ ซึ่งน้องคนอื่นๆก็หัวเราะชอบใจ ก่อนจะคุยเรื่องอื่นๆกันต่อไม่นานหลังจากที่มาถึงแค่ยี่สิบกว่านาทีน้องๆก็ทยอยกลับกันหมดจนเหลือผมกับว่านสองคน ผมเลยเดินจูงมือว่านไปที่ลานจอดรถระหว่างทางว่านก็พูดว่า


“ผมยังไม่ได้ตอบอะไรเค้าไปนะครับ เบอร์ผมก็ไม่ได้ให้”
“เหรอ...เค้าน่ารักไหมล่ะ”
“ก็.....น่ารักดี”
“แล้วชอบไหม”
“......”
   

        ว่านไม่ตอบอะไรกลับมาระหว่างทางว่านก็เงียบพอผมขับรถมาได้สักพักผมก็แวะเข้า 7 – 11 เพื่อซื้อน้ำไปตุนไว้ที่บ้านเพราะที่มีอยู่จะหมดแล้ว ว่านเองก็เข้าไปซื้อของด้วย แต่เนื่องจากว่านซื้อของที่ต้องเข้าไมโครเวฟ ผมเลยออกมารอข้างนอก แล้วก็เช็ก SMS ที่มีคนส่งเข้าตอนที่ผมเข้ารถอยู่ ระหว่างที่ผมกดๆดู SMS ไม่รู้ว่าว่านออกมาตั้งแต่เมื่อไหร่ ผมรู้ตัวอีกทีว่านก็เอาหน้ามาซุกกับไหล่ผมแล้ว ผมหันไปมองเห็นว่านกำลังหลับตาอยู่ เสื้อผมเองก็ไม่ได้หนาอะไรมากมายนักมันทำให้ผมรู้สึกได้ถึงลมหายใจอุ่นๆของว่านที่ผ่านเข้ามา ว่านหายใจแรงมาก ผมเองก็ไม่ได้ว่าอะไรปล่อยให้ว่านซุกอยู่แบบนั้น วูบหนึ่งผมรู้สึกถึงบีขึ้นมาทันทีเพราะบีเองก็ชอบมาซักแบบนี้บ่อยๆเหมือนกัน แล้วระหว่างนั้นผมก็หันไปเห็นพี่พนักงาน 7 – 11 ผู้หญิงคนหนึ่งยืนมองแล้วยิ้มอยู่ พอพี่เค้าเห็นผมหันมามองเค้าก็ยิ้มให้มากกว่าเดิมอีก ผมเลยสะกิดว่านชวนขึ้นเดินไปขึ้นรถที่จอดอยู่ไม่ไกล

        พอออกจาก 7 – 11 ว่านก็เอาหน้าซุกหลังผมตลอดทาง ผมเองก็กำมือว่านไว้หลวมๆ ว่านไม่พูดอะไรเลยสักคำ ตอนนั้นผมเองรู้สึกว่า.......ถ้าผมจะจูบมือว่านแบบที่เคยทำกับบีว่านจะว่าอะไรผมไหมนะ......ผมเลยลองค่อยๆยกมือว่านขึ้นมาใกล้ๆปาก....ก่อนที่จะเป่าลมออกไปเบาๆ ตอนนั้นมือว่านแทบจะสัมผัสกับริมฝีปากผมแล้วด้วยซ้ำ แต่ผมไม่รู้ว่าว่านคิดยังไงไม่รู้ว่าว่านเองจะรู้สึกแบบเดียวกับผมไหม ไม่รู้ว่าว่านจะรู้ไหมว่าที่ว่านทำแบบนี้มันทำให้ผมหวั่นไหวถ้าผมจูบลงไปแล้วว่านจะรู้ไหมว่ามันหมายถึงอะไร ถ้ารู้ว่านจะเกลียดผมไหม....แต่ว่า....ถ้าไม่ลองจะรู้ได้ยังไง....ว่าแล้วผมก็จูบลงไปเบาๆที่หลังมือของว่าน....หัวใจผมตอนนั้นมันเต้นโครมครามเหมือนจะหลุดออกมา ตัวผมร้อนฉ่าเหมือนเด็กวัยรุ่นที่ตื่นเต้นเวลาได้สัมผัสตัวคนที่เค้ารักหรือชอบเป็นครั้งแรก......


“......”ไม่มีปฏิกิริยาใดๆตอบกลับมา ว่านยังคงซุกหลังผมอยู่อย่างนั้นลมหายใจอุ่นๆของว่านผ่านเข้ามาสัมผัสกับตัวผมครั้งแล้วครั้งเล่าผมจูบซ้ำลงไปที่มือว่านอีกครั้ง ก่อนจะเอามือว่านไปกุมไว้ที่ตักเหมือนเดิมจนถึงว่านของว่าน.....พอถึงว่านลงจากรถแล้วก็ปันรั้วบ้านเข้าไปแล้วหันมายิ้มให้ผมก่อนจะพูดว่า
“ผมยังไม่ได้ตอบรับเค้าไปจริงๆนะ”ว่านพูดด้วยน้ำเสียงที่ดูกังวลเล็กน้อย
“อื่อ”ผมยิ้ม
“พี่....ขอบคุณที่มาส่งนะครับ”
“พรุ่งนี้เจอกัน”
“ครับ” แล้วว่านก็เข้าบ้านไป


        ณ ตรงนี้....ว่าน Yไม่ Yคงไม่สำคัญแล้ว...เพราะผมรู้สึกว่าผมกับว่านเองก็กำลังคืบเข้าหากันมากขึ้นเรื่อยๆว่านเองก็น่าจะรู้ตัวว่าเค้ากำลังทำอะไรอยู่ แล้วก็น่าจะโตพอที่จะรู้แล้วว่าที่ผมทำมันหมายถึงอะไร ถ้าว่านไม่ชอบ....ก็น่าจะมีอะไรเป็นสัญญาณออกมาบ้าง แต่นี่กลับนิ่งเฉย แถมยังมาซุกผมแบบนี้อีกว่านคิดอะไรกันแน่


To Be Con
หัวข้อ: Re: น้องชาย 2 ( Up ช่วงที่ 9 : 01/05/11 )
เริ่มหัวข้อโดย: YenOh ที่ 02-05-2011 03:37:46
ว่านเป็นเด็กจริงจังแบบนี้ กลัวใจจัง

ปล. ไม่ชอบโค้ชเลยค่ะ ดูทัศนคติของเขาผ่านพี่เอแล้วยิ่งรู้สึกไม่ดีด้วย
หัวข้อ: Re: น้องชาย 2 ( Up ช่วงที่ 9 : 01/05/11 )
เริ่มหัวข้อโดย: icyblue ที่ 02-05-2011 11:05:57
ดูต่อไปน้องว่านจะใจตรงกันกับเอป่าว?
หัวข้อ: Re: น้องชาย 2 ( Up ช่วงที่ 9 : 01/05/11 )
เริ่มหัวข้อโดย: HydrA ที่ 02-05-2011 14:08:51
พี่เออย่าเพิ่งรีบเร่งจิ่
ถ้าอะไรยังไม่ค่อยชัดเจนอย่าเพิ่งไปลงรายละเอียด
ดูกันให้ยาวๆอีกนิดก็ดีนะพี่
เค้าเป็นห่วงอ่ะ
หัวข้อ: Re: น้องชาย 2 ( Up ช่วงที่ 9 : 01/05/11 ) มีข่าวแจ้งครับ
เริ่มหัวข้อโดย: sang som ที่ 02-05-2011 23:01:34
ว่านคิดยังไงเนี่ยกลัวใจจริง

พี่เอคิดดีๆ คิดให้ยาวๆหน่อยนะก่อนจะทำอะไรอ่ะ เค้ากลัวอ่ะ เป็นห่วงด้วย
หัวข้อ: Re: น้องชาย 2 ( Up ช่วงที่ 9 : 01/05/11 ) มีข่าวแจ้งครับ
เริ่มหัวข้อโดย: bbyuqin ที่ 03-05-2011 00:15:01
น่าสงสารน้องตองกับน้องๆคนอื่นๆอ่ะ
เฮ้อ ถ้ายังเป็นแบบนี้ เด็กๆก็จะหายไปทีละคนสองคน แล้วเอไม่ลองย้ายไปสอนยิมอื่นบ้างเหรอ ลองให้โค้ชเค้าทำเองดูดิ๊ จะเหลือเด็กกี่คน และคาดว่าเด็กคนอืื่นๆ น่าจะดีใจและยินดีย้ายไปที่ใหม่กับเอด้วย..ส่วนน้องว่าน ไม่แน่ใจแฮะ

ปล. น้องว่านน่าคิดแบบเดียวกับเอนะ ..
ปลล. ไม่ได้ข่าวน้องบีเลย...น้องเป็นยังไงบ้างจ๊ะ
หัวข้อ: Re: น้องชาย 2 ( Up ช่วงที่ 9 : 01/05/11 ) มีข่าวแจ้งครับ
เริ่มหัวข้อโดย: reneisance ที่ 03-05-2011 00:47:14
คือไม่เข้าใจว่า ทำไม เอ ถึงต้องยอมโค้ชไปซะหมด แล้วก้นะ คนอย่างว่านนะ เป้นคนที่น่าสงสาร ที่จริงเอน่าจะลองพูดกับน้องดุ
เข้าใจนะว่าไม่ใช่เรื่องของเราแต่บางครั้ง ควรบอกน้อง อย่างเรื่องหัวเข่าที่เจ็บอะ เรื้อรังมากๆๆๆ สุดท้าย จัเป็นตัวน้องเองที่จะสูญเสียประโยชน์ ของตนในภายภาคหน้า คือพี่ว่าบางเรื่องเราไม่ควร ไปตามแก้ไข  อะไรต่อมิอะไร แต่เราควรจะป้องกันก่อนที่จะเกิดเรื่อง มันน่าจะเป็นสิ่งที่ดีกว่าการแก้ไขอยู๋เรื่อยๆๆๆ
หัวข้อ: Re: น้องชาย 2 ( Up ช่วงที่ 9 : 01/05/11 ) มีข่าวแจ้งครับ
เริ่มหัวข้อโดย: kokoky ที่ 03-05-2011 14:01:30
โค้ชแย่มาก อยากให้นักกีฬาบาดเจ็บรึไงนะ แย่ๆๆๆๆๆ
น้องว่านน่าเป็นห่วงนะคพคุณเอ น้องฝืนตัวเองมากไปบังคับตัวเองเกินไป
น่าห่วงมากจริงๆ

เกลียดโค้ชค่ะ บอกตรงๆ เป็นผู้ใหญ่ที่ไม่มีความรับผิดชอบ
สงสารก็แต่น้องๆคนอื่นๆที่ถูกโค้ชทอดทิ้ง แถมถูกน้องว่านกดดันน่ะ

เป็นกำลังใจให้ค่ะ :L2:
หัวข้อ: Re: น้องชาย 2 ( Up ช่วงที่ 9 : 01/05/11 ) มีข่าวแจ้งครับ
เริ่มหัวข้อโดย: dahlia ที่ 03-05-2011 16:11:07
พาลูกเขาไปแบบนั้น แล้วไม่ดูแล เกิดน้องๆ เป็นอะไรขึ้นมา รับผิดชอบไหวหรือเปล่าแบบนี้  :confuse:
หัวข้อ: Re: น้องชาย 2 ( Up ช่วงท$
เริ่มหัวข้อโดย: naoki24 ที่ 08-05-2011 17:01:55
ไปซะนาน เด๋วคิดถึงแย่เลย........

เปงไงละคุณเอ รักแรก และรักจาก
ผมกับลูกศิษผมก็เคยจากกันแบบนี้แหละ

ผมชอบคุณเอนะเพราะคุณเองก็ทำอะไรหลายๆอย่างเหมือนผมตอนสอนดนตรีให้ลูกศิษย์มาก
ผมเลยจะบอกคำใบให้คุณเอคำนึงสองคำดีกว่า   

"ยิ่งรักมากยิ่งเจ็บมาก"  คำนี้คิดว่าคุณเอคงแปลออกง่ายๆ
"ยิ่งใกล่ยิ่งเหินห่าง"   แปลยากนิดนึงแต่ตรงตัว (เอ๊ะยังไง???)

หากคุณเอบรรลุสองคำนี้แล้วรับรองว่าคุณเอกับน้องบีจะได้กลับมาอยู่ด้วยกันในอ้อมแขนของกันและกันอีกครั้ง
และปัญหาต่างๆจะมีทางออกให้คุณเอกับน้องบีเสมอ

ป.ล. หากคุณเอทิ้งน้องอ้นไปจิงๆผมว่าคุณเอผิดนะไม่ใช่อ้างว่าน้องหนีจากไปเอง เพราะที่น้องอุตส่ามาบอกคุณว่าเบื่อโค้ชไม่ชอบโค้ชไม่งั้นจะไปเล่นที่ยิมอื่นนี่หมายถึงน้องต้องการโอกาศจากคุณเอ คุณเอไม่คิดจะสอนเทดวันโด้เองโดยไม่คิดเงินหรอ แค่จับกลุ่มเด็กทำกิจกรรมกัน หรือคิดค่าสอนถูกๆ ไม่ต้องเปิดสำนัก แค่อยากให้เด็กใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ เพระค่าชุดก็ราคาไม่น้อยเหมือนกันนะ เหมือนกับเครื่องดนตรีที่ผมสอนเด็กๆจนผมต้องลงทุนซื้อเครื่องดนตรีมือ2-4 มาสอนเด็ก3-5คนต่อ1เครื่องเลย และอีกอย่างการสอนโดยไม่หวังเงินเราอาจจะได้สิ่งที่เราไม่ได้หวัง...กลับมาก็ได้ จากประสบการณ์จริงของผมเองครับคุณเอ เออลืมบอกไปคุยกันมาหลายรอบและ ผมชื่อ"อ้น " น้องอ้นของคุณเอก็ดูนิสัยคล้ายผมดีนะ ตอนนี้ผมเลิกเป็นครูสอนดนตรีแล้วมาเป็นครุสอนพิเศษตามบ้านไม่ได้คิดเงิน แต่สิ่งที่ผมได้ตอบแทนมาจากทุกบ้านนั้นคือ ........ครอบครัว
ขอให้คุณเอโชคดี น้องบีกลับมาน้องอ้นก็ด้วย จะได้อ่านเรื่องน้องสองคนต่อ กำลังจิ้นเลยตอนนี้

ปล.ของ ปล. เหมือนน้องว่านจะเป็นพวกเถรตรงนะ(พวกบ้ากำลัง) สงสัยอนาคตได้เป็นทหารแน่เลย ระวังละเด็กแบบนี้มีอะไรกับเราแล้วมักจะเผลอพูดให้คนอื่นฟังด้วยเหอเหอ โดนมาเยอะ
หัวข้อ: Re: น้องชาย 2 ( Up ช่วงที่ 9 : 01/05/11 ) มีข่าวแจ้งครับ
เริ่มหัวข้อโดย: me_alone ที่ 11-05-2011 23:11:06
ช่วงที่ 10

       
        ใกล้ถึงวันแข่งขันกีฬามหาวิทยาลัยเข้ามาทุกทีๆผมรู้สึกตื่นเต้นนิ๊ดหน่อยถึงแม้ว่าปีนี้ผมจะไม่ได้ร่วมลงแข่งด้วยก็ตาม สงสัยตื่นเต้นแทนน้องๆบางคนที่เพิ่งจะลงแข่งปีนี้ปีแรก พูดถึงปีแรกตรงนี้ก็เป็นจุดบอดของมหาวิทยาลัยผมที่ไม่ค่อยมีนักกีฬาเทควันโดที่เคยฝึกซ้อมมาก่อนมาเข้าเรียน ส่วนมากก็จะเพิ่งมาเริ่มฝึกกันตอนมาเรียนปีหนึ่ง ทำให้นักกีฬาของเราแพ้ประสบการณ์เมื่อเทียบกับนักกีฬามหาวิทยาลัยอื่นที่หลายคนเคยฝึกซ้อมและผ่านการแข่งขันมาก่อนที่จะเข้าเรียนมหาวิทยาลัย อืมม..แต่ก็ช่างมันเถอะครับผมเน้นเล่นเพื่อสนุกสนานมากกว่าเอาเป็นเอาตาย ส่วนถ้าใครจะเอาเป็นเอาตายผมก็จัดให้ได้นะ แล้ววันนี้ก็เป็นวันปรกติๆอีกวันที่ดูเหมือนจะไม่มีอะไรนอกจากเรียนคาบเช้า ส่วนช่วงบ่ายผมมีแผนจะไปหัดถ่ายภาพที่ตลาดสักตอนบ่ายสามกว่าๆค่อยเข้าไปสอนน้อง ทว่า.....ระหว่างที่ผมลงจากอาคารเจ็ด ตอนนั้นมันเวลาเที่ยงพอดีผมจำได้ เสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้น ผมหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูปรากฏว่าเป็นหมายเลขโทรศัพท์จากกองกิจกรรมนักศึกษา ทันทีที่เห็นผมแอบลังเลเล็กน้อยที่จะรับสาย เพราะไม่มีสักครั้งที่กองกิจกรรมนักศึกษาโทรมาแล้วจะไม่มีงานให้ผมทำ แต่ว่า....

“ครับ”
“เอหรือเปล่า นี่พี่ต้อมนะ” เสียงพี่ต้อมที่พูดออกมาดูซีเรียสๆยังไงก็ไม่รู้
“ครับพี่”
“นี่เที่ยงครึ่งมีประชุมที่กอง”
“ประชุมอะไรครับ” ผมถามกลับไปเพราะปรกติถ้ามีประชุมทางกองจะโทรมาแจ้งผมก่อนหนึ่งถึงสองวัน
“ก็ประชุมกีฬานี่แหละ”
“อ่าว....คราวก่อนผมแจ้งพี่ที่กองแล้วนี่ครับว่าถ้ามีอะไรติดต่อไปทางโค้ช”
“ก็พี่เค้าติดต่อไม่ได้ โทรตามเบอร์ที่เอให้มาทั้งสองเบอร์แล้วก็ไม่ติด”
“อืม....”
“เอาน่าๆ มาประชุมก่อนเดี๋ยวค่อยว่ากันอีกที” พี่ต้อมตัดบทกึ่งบังคับผมทันที
“ก็ได้ครับ”

        หลังจากวางสายจากพี่ต้อมผมลองโทรไปที่เบอร์โค้ชดู...ไม่ใช่ไม่เชื่อใจพี่ที่กองนะครับ แต่บางทีเราก็อยากรู้ว่าจริงๆแล้วมันยังไง ถ้าเราฟังแต่คนอื่นไม่ยอมตรวจสอบเอง เราก็จะไม่ได้ข้อเท็จจริง

“หมายเลขที่ท่านเรียกไม่สามารถติดต่อได้ในขณะนี้”


        ทั้งสองเบอร์ของโค้ชที่ผมมีอยู่ ผมได้ยินเสียงตอบกลับมาแบบนี้ทั้งสองครั้ง ผมยืนนิ่งๆมองต้นก้ามปูต้นใหญ่ที่อยู่ข้างหน้าแล้วถอนหายใจเบาๆ จะว่าไปปีนี้ผมไม่มีตำแหน่งอะไรทั้งในชมรมแล้วก็กลุ่มผู้จัดการทีมเลยนะครับ เท่าที่ทำได้ผมยังไม่เคยเซ็นเอกสาร ยินยอม หรือ รับทราบ อะไรพวกนี้สักอย่างตั้งแต่ต้นปีการศึกษาแล้ว สุดท้ายวันนั้นผมก็ต้องไปเข้านั่งประชุม แล้วคนที่เป็นประธานการประชุมคือรองอธิการบดีฝ่ายกิจการนักศึกษา ผมจำความรู้สึกวันนั้นได้ดีมากๆ ผมเป็นคนเดียวที่เป็นนักศึกษาเหมือนสองปีที่ผ่านมา แต่ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่ผมเข้ามานั่งตัวเปล่าแบบไม่มีกระดาษข้อมูลเชิงลึกอะไรเลยสักอย่าง ไม่มีเอกสาร หรือ กระทั่งข้อมูลนักกีฬาด้วยซ้ำ ที่มีอย่างเดียวตอนนี้คือข้อมูลที่จำได้เมื่อครั้งที่วิ่งเอกสารเท่านั้น แต่โชคดีที่การประชุมวันนั้นไม่มีอะไรมากนอกจากคำถามที่ว่า “คาดหวังว่าจะได้กี่เหรียญ” อาจารย์ท่านอื่นตอบทีเล่นทีจริงอย่างสนุกสนานไล่ไปเรื่อยๆจนกระทั่งมาถึงผม


“เอาเทควันโดล่ะปีนี้จะกวาดกี่เหรียญ”


        รองอธิการบดี ยิงคำถามผมมาใส่ผมหลังจากที่อาจารย์ท่านอื่นๆตอบไปหมดแล้ว ผมไม่รู้ว่าจะตอบยังไงดีเพราะยังมีผลงานปีที่แล้วค้ำคออยู่ แถมน้องๆที่มีปีนี้มีนักกีฬาเก่าแค่คนเดียว ส่วนคนที่มาใหม่ผมก็ไม่ได้เข้ามาคุมการฝึกซ้อมเองผมยังไม่รู้ฝีมือน้องๆเลย หรือผมจะตอบซี้ซั้วไปเลยดีนะ.....


“น่าจะสักสองเหรียญ......” ผมเว้นช่วงเล็กน้อย แต่ยังไม่ทันที่ผมจะพูดประโยคนี้จบอาจารย์ทุกคนที่อยู่ในที่ประชุมก็หันมามองผมเป็นตาเดียว “.....เป็นอย่างต่ำครับ” พอผมพูดจบ อาจารย์ทั้งหลายก็หันกลับไปคุยกันต่ออย่างสนุกสนาน


        วันนั้นหลังจากประชุมเสร็จผมรู้สึกไม่ค่อยดีเท่าไหร่เลยนั่งฟังเพลงทำรายงานอยู่บ้านไม่ได้ไปไหนแล้วก็นั่งคิดเรื่องต่างๆที่เกิดขึ้นระหว่างผมกับโค้ช จะว่าไปมันก็แค่ปมง่ายๆผมเล่นเทควันโด โค้ชเล่นเทควันโด โค้ชเป็นรุ่นพี่สายอาจารย์เดียวกัน แล้วโค้ชเค้าก็เข้ามาทำเทควันโดในมหาวิทยาลัยก่อนผมแต่มันไม่เวิร์ก จนผมมาทำต่อในฐานะรุ่นน้องซึ่งโค้ชเค้าก็วางตัวเป็นรุ่นพี่ เป็นโค้ชมาตลอดตั้งแต่ตอนนั้น แล้วหลังจากที่ผมมาทำมันก็ดีขึ้นมาเรื่อยๆ จนมาปีนี้ที่ผมปล่อยเนื่องจากผมไม่สบายใจที่ทำงานกับโค้ชเท่าไหร่ แต่สุดท้ายผมก็ต้องมาตามเช็ดตามล้างอยู่ดี

        หลังจากนั่งทำรายงานเรื่อยๆจนประมาณบ่ายสามโมงกว่าผมก็ไปที่ยิม โดยที่ผมติดรายงานไปทำด้วย พอมาถึงยิมก็เจอมิ้นนั่งเล่นอยู่เงียบๆคนเดียว ทันทีที่ทิ้นเห็นผมมิ้นก็หันมายกมือไหว้หนึ่งทีก่อนจะหันกลับไปคืน ส่วนผมก็เดินเอากระเป๋าไปวางแล้วก็เอารายงานมานั่งเขียนต่อ หลังจากที่ผมเริ่มนั่งเขียนรายงานต่อได้ไม่นานว่านก็มาครับ ผมได้ยินเสียงเลื่อนประตูกระจกผมเลยหันไปมองเจอวานยื่นถอดรองเท้าอยู่ ก่อนจะหันมายกมือไหว้ผมแล้วเดินเข้ามาวางกระเป๋า


“พี่ทำอะไร” ว่านถาม ก่อนจะลากเก้าอี้มานั่งข้างๆผม
“รายงาน”
“ลายมือพี่สวยอะ” ว่านพูดจบผมก็หันไปมองหน้าว่านก่อนจะพูดว่า
“พูดแบบนี้อยากได้กี่บาท 20 พอม๊ะ”
“ฮ่ะๆๆ” ว่านหัวเราะ ก่อนจะดึงเก้าอี้มาชิดมากกว่าเดิมแล้วก็นั่งซบหลังผม
“หิวน้ำ” ผมพูดขึ้น
“ผมไปซื้อให้ไหมครับ” ว่านถาม
“เอาดิ” แล้วผมก็ยื่นเงินให้ว่านจำนวนหนึ่ง แล้วว่านก็รีบวิ่งออกไปซื้ออย่างไว


        แล้วระหว่างนั้นโค้ชก็มาครับ พอจอดรถเสร็จโค้ชก็เดินเข้ามาในยิมแบบไม่ปิดประตูด้วย แถมใส่รองเท้าเดินเข้ามาอีกระหว่างที่โค้ชเดินเข้ามามิ้นจ้องตามตลอดทางเลย เพราะรู้ๆกันอยู่ว่ามิ้นจะมากวาดแล้วก็ถูยิมบ่อยๆก่อนที่ใครๆจะมา


“หวัดดีครับ” ผมหันไปไหว้โค้ชตามมารยาท
“ดีๆ วันนี้มาเร็วจัง” โค้ชทักกลับมา ตอนนั้นผมหันไปมองหน้าโค้ชแล้วรู้สึกว่าโค้ชตาแดงๆเลยถามไปว่า
“เพิ่งตื่นเหรอพี่”
“อื่อ ใช่ เมื่อคืนหนักไปหน่อย บลาๆๆ....” แล้วโค้ชก็เล่าเรื่องที่ไปเที่ยวเมื่อคืนกับเพื่อนๆของเค้าที่ผมไม่รู้จักอย่างเมามันส์
“เมื่อเที่ยงผมเข้าประชุมมานะ” ผมพูดขึ้นหลังจากที่ดูเหมือนว่าโค้ชจะเล่าเรื่องไปเที่ยวเหมือนคืนจบแล้ว
“อ้าว เออ ใช่ ลืมเลยว่าวันนี้มีประชุม แล้วเค้าว่าไงบ้าง”
“ไม่มีอะไรครับ แค่ถามความพร้อม จำนวนนักกีฬา แล้ว ก็ความหวังที่จะได้เหรียญ” ผมตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงเซ็งๆเล็กน้อย แล้วก็วางปากกา  เก็บกระดาษรายงานที่วางอยู่ข้างหน้า เหมือนโค้ชจะดูออกว่าผมไม่พอใจ
“โทษทีๆ พี่ลืมจริงๆ แล้วเราตอบเค้าไปว่าไง” โค้ชพูดติดตลกกลับมา แต่ผมไม่ได้รู้สึกตลกด้วยเลยสักนิ๊ด


        แล้วตอนนั้นว่านก็กลับมาพอดีพร้อมกับน้ำจำนวนสามขวด ทันทีที่ว่านมาถึงว่านก็ยกมือไหว้โค้ชก่อนจะเดินมานั่งบนขาผมแล้ววางน้ำไว้บนโต๊ะตรงหน้าผมนั่นแหละ


“ผมตอบไปว่าน่าจะได้อย่างต่ำสองเหรียญ” ผมพูดพลางเก็บเอกสารลงกระเป๋าซึ่งว่านก็ช่วยเก็บด้วย
“ดีแล้วล่ะ” โค้ชตอบกลับมาพลางยิ้มๆไปด้วยก่อนจะคว้าน้ำที่ว่านวางไว้บนโต๊ะไปเปิดดื่มอย่างรวดเร็ว
“.....” ผมมองตามแต่ไม่ได้พูดอะไร.....
“นี่น้ำใคร” โค้ชหันมาถามว่านหลังจากที่ดื่มหมดไปแล้วครึ่งขวด
“น้ำพี่เอ” ว่านตอบ
“อ่าวเหรอ คิดว่าน้ำของว่านนะเนี่ยะ ฮ่ะๆๆ” โค้ชพูดพลางหัวเราะก่อนจะเดินออกไปเปลี่ยนชุด


        พอโค้ชลุกไปว่านก็หันมามองหน้าผมแล้วลูบหลังผมเบาๆผมหันไปยิ้มให้น้องก่อนจะโอบหลังน้องเบาๆแล้วซุกลงไปที่ไหล่ว่าน


“พี่....เรื่อง Resident 4 น่าดูเน๊าะ” ว่านพูดขึ้น
“เหรอ”
“ครับ”
“อยากไปดูไหมอะ”
“ไปๆๆ” ว่านตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงดีใจสุดๆ
“วันไหนดี”
“เสาร์นี้”
“อื่อ ได้ซิ”


        การซ้อมวันนี้เหมือนที่ผ่านๆมาโค้ชพาน้องๆซ้อมหนักมาก ว่านเองก็ยังซ้อมแบบบ้าพลังเหมือนเคย จนถึงช่วงซ้อมเสร็จว่านก็มานั่งพิงผมแบบหมดแรงหอบแฮกๆเป็นหมาหอบแดดผมนั่งกอดว่านอยู่อย่างนั้น จนน้องๆเริ่มทยอยกลับหมด เว้นน้องต้นกล้าคนเดียวที่ยังไม่กลับ จนในที่สุดก็เหลือผมว่านแล้วก็ต้นกล้าอีกคน


“ถูกทิ้งแล้วมั้ง” ผมพูดขึ้นแล้วหันไปมองน้องต้นกล้าที่นั่งอยู่ข้างๆ
“นั่นซิ” ว่านแถม
“ไม่ๆ วันนี้พี่เอไปส่งผม พาผมไปตัดผมด้วย” ต้นกล้าพูดขึ้น
“อ่าว แล้วมาบอกอะไรตอนนี้”
“จริงด้วย” ว่านแถม ก่อนจะเอามือผมไปงับเล่น
“ก็....ลืม”
“งั้นปะๆ ถ้ารู้ว่าไปตัดผมแล้วให้พี่ไปส่ง น่าจะไปตัดผมตั้งนานแล้วนะเนี่ยะ” ผมบ่นๆ
“ผมขอโทษ” ต้นกล้าพูดเสียงสั่นเครือ
“เอาเถอะๆ ไม่เป็นไรๆ คราวหน้ามีอะไรก็รีบบอกแล้วกัน” ผมตบหลังต้นกล้าเบาๆ


        แล้วผมกับว่านก็เดินไปปิดหน้าต่างกับไฟในยิม หลังจากปิดไฟกับหน้าต่างหมดแล้ว พอผมเดินพ้นประตูออกมาอยู่ๆความรู้สึกหนึ่งก็แว่บขึ้นมา ผมหันกลับไปแล้วก็พูดว่า.....


“ปะบี กลับบ้าน.........ได้.....แล้ว......” แต่เมื่อผมมองกลับไปผมก็เห็นว่านยืน งง มองผมอยู่
“วันนี้บีไม่ได้มาซ้อมครับพี่” ว่านตอบกลับมา
“อืมม โทษที เรียกชื่อผิด จะเรียกว่านนั่นแหละ” ผมยิ้ม
“จะเรียกทำไมล่ะครับ ก็ผมเดินตามมาอยู่เนี่ยะ”
“นั่นซิเน๊าะ”
“หนักแล้วนะเนี่ยะ ฮ่าๆ” ว่านหัวเราะ

        แล้วผมก็พาว่านกับต้นกล้าไปที่ร้านตัดผมที่อยู่ใกล้ๆ แต่พอไปถึงก็พบว่ามีลูกค้านั่งรอกันเป็นสิบคนเลยทีเดียว ผมหันไปมองต้นกล้าแล้วพูดว่า

“รีบไหม คราวหน้าดีกว่าเน๊าะ”
“ทำไมอะครับ” ต้นกล้าถาม
“ก็คนเต็มไปหมดไม่เห็นหรือไง” ว่านตอบกลับด้วยน้ำเสียงที่ค่อนข้างหงุดหงิดใส่ต้นกล้า
“....” ต้นกล้าถึงกับเงียบเลย
“ว่าน อย่าไปดุน้องซิ มีอะไรก็คุยดีๆ” ผมหันไปบอกว่าน
“พี่ก็ดูมันถามซิ” ว่านตอบกลับมา
“น่าๆ น้องยังเด็ก”
“.....” แล้วว่านก็หันหน้าออกไปบ่นงึมงำๆคนเดียว
“งั้นพรุ่งนี้ก็ได้เน๊าะ วันนี้ตนเยอะ กว่าจะเสร็จก็ดึก” ผมหันมาคุยกับต้นกล้า
“ก็ได้ครับ” ต้นกล้าตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงสั่นๆ

        แล้วผมก็พาต้นกล้าไปส่งที่บ้าน ระหว่างที่เดินไปที่รถว่านเองก็ทำท่าทีเหมือนมีอะไรไม่พอใจสักอย่างซึ่งผมก็ไม่ได้ถามว่าไม่พอใจเรื่องอะไร แล้วระหว่างทางที่ไปส่งต้นกล้าว่านไม่ยอมคุยอะไรเลย ขนาดว่าผมชวนคุยก็ยังไม่ยอมพูด แถมถอนหายใจใส่อีก ตอนแรกผมชวนทั้งคู่คุย แต่พอว่านทำแบบนี้ผมเลยเปลี่ยนไปคุยกันต้นกล้าคนเดียวแทน พอผมคุยกับต้นกล้าคนเดียว ว่านก็เอากุญแจมาจิ้มๆหลังคอผมเบาๆ ไม่นานนักก็ไปถึงบ้านต้นกล้าหลังจากส่งต้นกล้าเสร็จผมก็หันไปถามว่านว่า

“เป็นไร”
“เปล่า” ว่านตอบกลับมาสั้นๆ

        ผมเลยคว้ามือว่านไว้แล้วจะยกขึ้นมาหอมแล้วก็จูบลงไปที่หลังมือว่านเบาๆ ก่อนจะเอามากุมไว้ที่ตักเหมือนเคย ว่านค่อยๆขยับเข้ามานั่งใกล้ผมมากขึ้นก่อนจะซบลงไปที่หลังผม

“พี่ชอบเวลาว่านยิ้มล่ะ” ผมพูดขึ้นมา
“.....” ว่านไม่ตอบอะไรกลับมา แต่เอานิ้วมาจิ้มๆที่หลังผมแทน
“เวลาว่านยิ้มอะ น่ารักมากเลยรู้ตัวหรือเปล่า”
“.....” ว่านไม่ตอบแต่จิ้มแรงกว่าเดิม ก่อนจะเปลี่ยนมางับไหล่ผมเบาๆ


        ไม่นานนักจากบ้านต้นกล้าก็มาถึงบ้านว่านครับ วันนี้ก็เหมือนเคยที่บ้านว่านมืดสนิท จริงๆ....ว่านเองก็มีชีวิตที่เงียบเหงากลับมาถึงบ้านก็อยู่คนเดียวไม่มีใคร ต่างจากบีที่บ้านบีมีพร้อมทุกอย่างไม่ขาดสักอย่างทั้งพ่อแม่พี่น้องญาติมิตรหรือแม่บ้านที่เคยทำโน้นทำนี่ให้ตลอดเวลา ส่วนว่านต้องอยู่คนเดียวตามลำพังทานข้าวคนเดียว อยู่คนเดียว นอนคนเดียว จะว่าไป....ชีวิตว่านก็คล้ายๆผมนะ


To Be Con
หัวข้อ: Re: น้องชาย 2 ( Up ช่วงที่ 10 : 11/05/11 )
เริ่มหัวข้อโดย: me_alone ที่ 11-05-2011 23:39:06
ช่วงที่ 11





        เช้าวันใหม่แสงแดดสาดส่องผ่านหน้าต่างเข้ามาสว่างจ้าเสียงรถวิ่งไปมาตรงถนนทั้งหน้าบ้าน หลังบ้าน เสียงป้าข้างบ้านตะโกนคุยกันเรื่องละครเมื่อคืนจ๊อกแจ๊กๆตลอดเช้าระหว่างที่แกทำกับข้าวมื้อเที่ยง ไม่ก็คงมานั่งจับเข่าคุยกันข้ามรั้วบ้านเหมือนเคยๆ ...และนี่ก็คือการเริ่มต้นอีกวันกับชีวิตที่แสนน่าเบื่อของผม กิจกรรมหรือเสียงพวกนี้จะคอยเป็นนาฬิกาปลุกระรอกที่สองที่จะบอกผมว่าควรจะลุกจากที่นอนได้แล้ว แต่ถึงอย่างนั้นผมก็ไม่อยากลุกจากเตียง ผมคว้าผ้านวมผืนหน้ามาคลุมหัวแล้วนอนต่อ ก่อนที่ผมระเริ่มหลับลงอีกครั้ง พร้อมสังหรณ์ใจชอบกล......ให้ตายซิครับทายไม่ถูกก็แต่หวย เสียงโทรศัพท์มันก็ดังขึ้นมา ผมนึกขึ้นในใจ “ใครโทรมาเวลานี้วะ” ก่อนจะเอามือไปจับๆหาโทรศัพท์ตามต้นตอของเสียง แล้วหันมาดู

“พี่ต้อม Calling”


        ผมมองด้วยความรู้สึกแอบรำคาญเล็กๆ นี่มันวันเสาร์นะ วันที่ผมควรจะได้พักผ่อนอย่างเต็มที่ วันที่มันไม่ควรมีเรื่องงานมาเกี่ยวข้อง เว้นว่ามันจะเป็นงานที่ผมยังทำไม่เสร็จ แต่เช้าขนาดนี้สำหรับผมมันก็ไม่ใช่เวลางานอยู่ดี


“ครับพี่” ผมกดรับสายแล้วตอบรับไปด้วยน้ำเสียงงัวเงียสุดๆ
“อ่าว เพิ่งตื่นเหรอ พี่กวนไหมเนี่ยะ” พี่ต้อมถามด้วยน้ำเสียงตกใจเล็กน้อย
“ไม่ครับ กำลังจะตื่นพอดี”
“วันจันทร์มีประชุมนะ เค้าจะสอบถามเรื่องอุปกรณ์แล้วก็เวชภัณฑ์ที่ต้องใช้หน่ะ”
“หือ....ทำไมไม่บอกโค้ช หรือ ประธานชมรมเค้าละพี่ เรื่องนี้ผมไม่ได้รับผิดชอบนา”
“ก็พี่ติดต่อไปแล้ว ติดต่อไม่ได้ทั้งสองคนเลย ส่วนรองประธานก็เห็นว่าไปออกค่ายกับชมรมพุทธทางก้าวหน้า”
“อีกแล้วเหรอ....” ผมพูดกึ่งๆสบถออกไปด้วยความไม่พอใจเล็กน้อย
“อื่อ พี่เลยคิดว่าติดต่อเอดีกว่าชัวร์กว่า”
“ก็ได้ครับเดี๋ยวผมเข้าประชุมด้วย ยังไงรบกวนพี่ติดต่อพวกเค้าด้วยแล้วกัน พอดีผมไม่มีข้อมูลเรื่องอุปกรณ์แล้วก็เวชภัณฑ์เลย”
“ได้ๆ ขอบใจมากนะ” พี่ต้อมตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงดีใจสุดๆ


        ความเดิมคือพี่ต้อมคนนี้เค้าเป็นหัวหน้าพวกพี่ๆที่ทำงานในกองด้านธุระการหน่ะครับ คอยตามพวกข้อมูล เอกสารต่างๆ ซึ่งแกก็บ่นกับผมเสมอๆเรื่องที่ประธานชมรมต่างๆไม่เข้าประชุมบ้าง ไม่ส่งเอกสารตามกำหนดบ้าง หนักๆเข้าก็พวกรูปเล่มผลงานที่ต้องนำเสนอรองอธิการฯ ถึงความสำเร็จในการดำเนินงานเพื่อทำผลงานต่างๆ พอเอกสารไม่ครบหรือคนเข้าประชุมขาดมากๆคนที่ถูกด่าจะเป็นพี่ต้อมเสมอ พี่ต้อมเองก็ต้องก้มหน้าก้มตารับกรรมไปเพราะโทรตามคนเข้าประชุมติดบ้างไม่ติดบ้าง บางทีคนเข้าประชุมก็รับปากไปเรื่อย เช่นว่าจะมาประชุม จะเอาเอกสารมาส่งตรงตามกำหนด แต่พอเอาเข้าจริงๆก็ไม่มาไม่ส่ง ทีนี้ผู้อ่านคงพอเข้าใจนะครับว่าทำไมผมถึงยอมเข้าประชุม แล้วทำไมพี่ต้อมถึงดีใจที่ผมตอบรับ จริงๆที่ผมรับปากคราวนี้มันก็ไม่ใช่เพื่อพี่ต้อมคนเดียวหรอกครับ แต่เพื่อน้องๆในชมรมด้วยนั่นแหละ เพราะถ้าขาดประชุมคราวนี้ล่ะก็ได้มีปัญหาใหญ่โตตามมาแน่

        หลังจากวางสายกับพี่ต้อมเสร็จผมก็มองนาฬิกาบนมือถือ “09.45น.” อ่า...สายแล้วแฮะ ผมนัดไปดูหนังกับว่านด้วยนี่นาวันนี้ว่าแล้วผมก็รีบไปล้างหน้าแปรงฟันรอเวลาที่จะไปรับว่านไปดูหนังรอบ 11.20 น. พอถึงเวลาประมาณ 10.30 ผมก็โทรไปหาว่านเพื่อบอกให้น้องรอที่หน้าบ้าน ปรกติถ้าไปดูหนังผมมักจะไปก่อน 30 นาทีอะครับเพื่อป้องกันตั๋วเต็มจะได้ไม่ต้องไปนั่งกองๆกันอยู่แถวหน้า พอโทรหาว่านเสร็จผมก็รีบตรงดิ่งไปหาว่านที่บ้านทันที เมื่อมาถึงก็เจอว่านแต่งตัวซะหล่อเลยรออยู่หน้าบ้าน


“ปะ” ผมเรียกว่านขึ้นรถหลังจอดรถนิ่งสนิทแล้ว ว่านหันมายิ้มแล้วกระโดดขึ้นรถผมอย่างเร็วก่อนที่ผมจะขับรถออกไป
“แม่ล่ะ”
“นอน”
“แล้วมาดูหนังกับพี่บอกแม่ยัง”
“บอกแล้ว”
“วันนี้แต่งตัวหล่อเลยเน๊าะ”
“.....” ว่านไม่ตอบอะไรกลับมานอกจากเอานิ้วมาจิ้มๆหลังผมเบาๆซ้ำไปซ้ำมา


        ไม่นานนักผมก็มาถึงโรงหนังครับ ทันทีที่ถึงโรงหนังผมก็พาว่านขึ้นไปซื้อตั๋วซึ่งโชคดีวันนี้ที่ตัวแถวประจำผมว่างสองที่ติดกันพอดีหลังจากซื้อตั๋วเสร็จแล้วผมก็พาว่านไปนั่งเล่นตรงที่นั่งที่โรงหนังจัดไว้ซึ่งตรงนั้นมีการฉายตัวอย่างหนังให้ดูด้วย แต่ว่าหลังจากนั่งไม่นานว่านก็มาสะกิดๆไหล่ผมเบาๆ ผมหันไปมองว่าน


“พี่....” ว่านเรียกผมเบาๆ
“ครับ”
ว่านขยับๆมาข้างๆหูผมแล้วกระซิบเบาๆว่า “ผมหิว”
“กินอะไรดี”
“ไก่ทอดก็ได้” ว่านตอบพลางเอานิ้วมาจิ้มๆไหล่ผมเบาๆ
“เอาดิ ปะๆ”

        แล้วผมก็พาว่านลงไปซื้อไก่ทอดของตาลุงหนวดขาวถือไม้เท้าแปลกๆแถมยืนยิ้มแฉ่งตลอดเวลา ช่วงนี้ห้างเพิ่งเปิดคนที่ร้านเลยยังไม่เยอะ น้องสั่งวิงก์แซ่บมาสี่ชิ้น ส่วนผมสั่งมาสามชิ้นกับเป๊บซี่อีกคนละแก้ว พอได้ไก่แล้วผมกับว่านก็เดินขึ้นไปที่โรงหนังคืนก่อนจะหาที่นั่งทาน ตอนแรกว่าจะไปนั่งทานตรงที่นั่งรอดูหนังนั่นล่ะครับ แต่เปลี่ยนใจเพราะเกรงใจสายตาชาวบ้านเค้าเวลาที่เราทานอยู่ ผมเลยพาว่านไปนั่งเล่นตรงบันไดทางออกของโรงหนังที่เค้าไม่ได้ใช้แล้ว มุมนี้ไม่ถือว่าเปลี่ยวมากไป แต่ที่บอกว่าไม่ใช่เพราะ เค้าไม่นิยมเปิดประตูทางออกด้านนี้ถ้าคนไม่เยอะจริงๆ ทำให้ทางเดินตรงนี้ถูกปล่อยไว้ จะว่าไปมันก็เป็นทางต่อจากตรงที่ซื้อตั๋วไปโรงสามได้นะ ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมเค้าถึงไม่เปิดให้เดินผ่าน ทำให้ด้านหน้าติดที่ขายตั๋วมีป้ายวางว่าห้ามผ่านอยู่

        หลังจากผมนั่งลงแล้วว่านมานั่งข้างๆผม ผมคุยเรื่องทั่วไปกับว่านส่วนมากเป็นมุขตลกฝืดๆไม่ก็ตลกแป๊กๆอะครับ แต่ว่านก็ฮานะ จนเมื่อผมทานไก่จนหมดแล้วหยิบแก้วขึ้นมาจะดื่มน้ำ ปรากฏว่าผมเอาหลอดใส่แก้วไม่ได้ เพราะตรงพลาสติกที่ปิดไว้มันแน่นเกิน ผมก็ทิ่มไปทิ่มมาอยู่สองสามทีว่านก็หันมามองก่อนจะยิ้ม แล้วว่านก็เอานิ้วมาจิ้มให้พลาสติกเปิดออกให้ ผมหันไปยิ้มให้ว่านก่อนจะหยิบหลอดมาใส่.....ทว่า....ในช่วงสุดท้ายก่อนที่ผทจะได้ดื่ม...หลอดดันตกครับ ผมก้มมองหลอดที่ตกลงไปนอนแน่นิ่งกะพื้นที่ปูด้วยพรมสีแดงสดของโรงหนัง แล้วหันมามองว่าน ว่านยิ้มเหมือนชอบใจก่อนจะเอาหลอดของว่านไปใส่ที่แก้วผม


“ไม่เป็นไร เดี๋ยวเปิดฝาออกเลยก็ได้” ผมบอกว่าน
“อันนี้แหละใส่ให้แล้ว” ว่านตอบกลับมา พร้อมจ้องมองผมเหมือนกับถามเป็นนัยๆว่ารังเกียจเหรอ
“แล้วของว่านอะ” ผมถาม
“ก็เดี๋ยวเทรวมกับของพี่เลย ดื่มด้วยกันก็ได้” ว่านยิ้ม

        จะว่าไป....นอกจากบีแล้ว...ผมก็ไม่เคยดื่มน้ำหลอด หรือ ขวดเดียวกันกับใครแบบนี้เลยนะ....อืมมม ช่างมันเถอะคิดมากไปแล้ว ว่าแล้วผมก็ดื่มน้ำหลอดเดียวกับว่านครั้งแรก แล้วก็นั่งคุยกับว่านไปเรื่อยๆ ถ้าที่นั่งอยู่ต่อหน้าผมตรงนี้เป็นบีก็คงจะดีซินะ.....จู่ๆผมก็นึกแบบนั้นขึ้นมาในใจ......ก่อนที่ผมจะเอื้อมมือไปลูบที่หัวว่านเบาๆแล้วเลื่อนลงมาใช้หลังมือลูบแก้มของว่าน....“นุ่มจัง....” ผมคิดในใจ ตอนนั้นว่านที่นั่งคุยเป็นต่อยหอยก็เงียบลงทันทีก่อนจะมองไปทางอื่น แล้วปลายนิ้วชี้ของผมก็เลื่อนจากแก้มว่านไปที่ปากของว่าน.....ทั้งนุ่ม...ทั้งอุ่น...เหมือนบีเลย.....นี่ผมทำอะไรอยู่เนี่ยะ....


“มีเศษไก่ติดด้วย” ผมพูดขึ้นแล้วยิ้ม
“จริงเหรอครับ” ว่านเหมือนจะตกใจกับคำพูดผมจากสายตาที่หลบออกไปเมื่อครู่ก็หันกลับมามองผมทันที
“อื่อ อิอิ”
“.....” ว่านไม่ตอบอะไรกลับมานอกจากรอยยิ้มแบบเขินๆ....เหมือนบีไม่มีผิด....
“ปะ อีก 4 นาทีหนังฉายแล้ว เค้าเปิดโรงแล้วมั้ง”
“ครับ”

        แล้วผมกับว่านก็เดินไปเข้าโรงหนัง ว่านเองจากที่คุยๆอยู่ก็เงียบลงไปจนสังเกตได้เลยทีเดียว พอเข้าไปนั่งได้ไม่นานหนังก็ฉาย ผมกับว่านนั่งดูอย่างตั้งใจ ก่อนที่ว่านจะหันมากระซิบถามถามผมเป็นระยะๆเกี่ยวกับหนัง ทำให้ว่านนั่งกระเถิบเข้ามาจนชิดที่นั่งของผม.....ผมเลยเอื้อมมือข้ามไปฝั่งที่นั่งของว่าน แล้ววางมือลงบนหน้าขาว่านเบาๆ ทันทีที่วางลงถูกตัวว่าน ว่านก็เอามือมาจับมือผมไว้ทันที ก่อนที่จะจับมือผมแบออกแล้วว่านก็กุมมือผมไว้แต่ว่านก็ไม่ได้ปล่อยมือออกเลยแล้วเรากุมมือกันไว้แบบนั้นจนหนังจบเลยครับ แม้ว่าว่านจะหันมาถามผมเป็นระยะๆเหมือนเดิม ผมรู้สึกดีจังแฮะ

        พอหลังจากหนังจบผมก็พาว่านไปเอาชุดเทควันโดที่บ้านครับก่อนที่จะวกไปที่ยิม แล้วทันทีเมื่อมาถึงผมก็พบกับเรื่องน่าประหลาดใจครับ เพราะผมเห็นโค้ชนั่งดูหนังอยู่ในยิม พอจอดรถเสร็จผมกับว่านก็เดินไปที่ร้าน 7 – 11 เพื่อซื้อน้ำแล้วก็ขนมมาไว้ทานเล่น ซึ่งผมก็ไม่ลืมที่จะซื้อแฮมชีสไหม้ๆแบบที่ว่านชอบให้ว่านด้วย เมื่อซื้อเสร็จผมกับว่านก็เดินกลับมาที่ยิม โดยหลังจากวางของเสร็จแล้วว่านก็เดินไปลากเก้าอี้มาสองตัวแล้วก็เรียกผมมานั่งข้างๆ


“ว่านชอบพี่เอเหรอ” โค้ชถามขึ้นมาลอย ทำเอาว่านสะดุ้งเฮือกเลย
“เปล่า” ว่านตอบกลับไป
“ก็เห็นเดี๋ยวกอดเดี๋ยวซบพี่เค้าตลอด”
“ก็....” ว่านเหมือนจะตอบกลับไปไม่ถูก แต่ก่อนที่โค้ชจะถามว่านเรื่องนี้ต่อผมก็เบรกโค้ชด้วยเรื่องประชุมทันที
“พี่จันทร์นี้กองเค้าโทรมาแจ้งเรื่องประชุมนะ”
“โหย.....พี่รู้แล้ว.....” โค้ชพูดจาแบบกระหยิ่มยิ้มย่องแสดงท่าทีขบขันเหมือนผมตั้งกระทู้ซ้ำในเรื่องที่มีชาวบ้านเค้าโพสไปแล้ว
“เหรอครับ” ผมตอบกลับไปแค่นั้น เพราะถือว่าโค้ชรู้แล้ว


        แต่พูดจริงๆนะผมไม่ชอบท่าทีของโค้ชตอนนี้เลย แต่ก็ช่างมันเถอะพี่ต้อมอาจจะโทรมาแจ้งโค้ชแล้วก็ได้ เพราะผมก็เป็นคนบอกให้พี่เค้าติดต่อโค้ชเองนี่นา แล้วผมก็มานั่งดูหนังต่อ ส่วนว่านเองพอเจอทักแบบนั้นว่านก็ถึงกับถอยห่างออกไปจากผมเป็นคืบเลยทีเดียว วันนั้นก็เป็นอีกวันที่ผมได้แค่เฝ้าดูน้องๆอยู่ห่างๆ เพราะโค้ชไม่ยอมให้ผมเข้าไปดูแลน้องเหมือนเคย รวมถึงโค้ชก็ทำแบบนั้นด้วย ยิ่งนานวันเด็กๆยิ่งลดน้อยลงเรื่อยๆ ผมทำได้แค่มองแล้วก็โทรไปคุยกับพี่ป้อมเรื่องนี้ ซึ่งพี่ป้อมก็บอกแค่ให้รอดูเท่านั้นเอง..... เย็นวันนั้นหลังโค้ชสั่งเลิกโค้ชก็กลับทันทีส่วนผมก็ไปนั่งเล่นที่มุมเดิมของยิม ว่านเองทันทีที่โค้ชกลับว่านก็เดินมานั่งพิงผมแล้วก็เอนหลังมานอนหอบ

“เหนื่อยไหม” ผมถามว่าน
“ไม่ครับ เมื่อยเฉยๆ”
“เหรอ”
“พี่เดี๋ยวผมไปหยิบยามานวดก่อน” ว่านพูดจบก็ลุกขึ้นไปหยิบยานวดจากในกระเป๋ามานั่งนวดเท้าอยู่ข้างๆผม พอนวดเสร็จว่านก็กลับมานั่งพิงผมใหม่
“เสื้อพี่เปียกๆ ไปทำอะไรมา” ว่านถามขึ้น
“ไม่ได้ทำอะไร นั่งเฉยๆ”
“แล้วทำไมเปียกล่ะ”
“ก็เมื่อกี้ไม่รู้ใครมานั่งพิงอะดิ”
“อิอิอิ” ว่านหัวเราะชอบใจ ก่อนจะจับแขนผมไปกัดเล่นอย่างสนุกปาก
“คราวหน้าเอากระดูกไหม เดี๋ยวพี่ซื้อมาให้”
“ไม่เอา ผมชอบกัดพี่มากกว่าอร่อยดี” ว่านหันมาตอบก่อนจะหันกลับไปกัดต่อ


        แล้วไม่นานนักหลังจากที่โค้ชกลับเด็กๆก็กลับบ้านจนหมดก่อนกลับบ้านว่านก็มาอ้อนให้พาไปทานก๋วยเตี๋ยวก่อน ผมก็เลยพาไปทาน ระหว่างที่ทานอยู่คุณแม่น้องว่านโทรมาเช็คด้วยว่าว่านอยู่ไหน หลังจากที่ทานเสร็จแล้วผมเลยรีบพาว่านไปส่งที่บ้านทันที สรุปวันนี้....ว่านไม่ต้องนอนคนเดียว


To Be Con
หัวข้อ: Re: น้องชาย 2 ( Up ช่วงที่ 11 : 11/05/11 )
เริ่มหัวข้อโดย: w[o]w ที่ 12-05-2011 09:49:00
หายไปหลายวันเลยนะครับ กลับมาทีเต็มๆสะใจมาก

เมื่อไหร่จะไล่โค๊ชออกอ่า เซงจิต
หัวข้อ: Re: น้องชาย 2 ( Up ช่วงที่ 11 : 11/05/11 )
เริ่มหัวข้อโดย: me_alone ที่ 12-05-2011 11:41:51
นอกเรื่องเล็กน้อยนะครับ
เอาตารางมาให้ดูเพื่อไม่ให้ผู้อ่าน งง ( หรือ อาจ งง หนักกว่าเดิม )

 (http://upic.me/i/jk/lmad4.jpg) (http://upic.me/show/24126288)


ปรกติแล้วยิมเทควันโดทุกยิม หรือ ทุกชมรมจะต้องมีอาจารย์ควบคุมดูแลครับ
โดยแต่ละยิมนอกเหนือจากอาจารย์ที่สอนอยู่ประจำแล้วก็จะมีอาจารย์ใหญ่ที่จะมาสอบเลื่อนให้อีกท่านหนึ่ง
ซึ่งอาจารย์ใหญ่ท่านนี้อาจจะเป็นอาจารย์ของอาจารย์ประจำยิมอีกทีครับ
หรือ เป็นอาจารย์ที่มีระดับขั้นดั้ง 4 ขึ้นไป เพื่อที่จะมาสอบเลื่อนระดับสายให้ได้
อย่างในตารางจะเห็นว่า อาจารย์ของพี่ป้อมคืออาจารย์นพ ส่วนอาจารย์ของผมกับโค้ชนั้นคืออาจารย์กบ
ซึ่งพี่ป้อมกับโค้ชก็ได้ตกลงกันว่า จะให้อาจารย์กบมาเป็นผู้สอบเลื่อนสายให้


ในส่วนของเรื่องราวเชิงลึกลงมาอีกนั้น โค้ช เค้าพยายามจะเปิดชมรมเทควันโดที่มหาวิทยาลัย แต่มันก็ไม่ประสบความสำเร็จ ภายหลังผมจึงทราบว่าเพราะอะไร ซึ่งเดี๋ยวผู้อ่านก็จะเข้าใจเหมือนกันถ้าอ่านตั้งแต่ต้น
แต่ก็ยังโชคดีของโค้ช....เนื่องจากมีอาจารย์ท่านหนึ่งที่มีความจริงจังที่จะพัฒนากิจกรรมของทางมหาวิทยาลัยขึ้นมาให้โดดเด่น ท่านจึงบรรจุเทควันโดเข้าเป็นกีฬาของมหาวิทยาลัยด้วย
และท่านก็พยายามช่วยเหลือชมรมเทควันโดให้เดินหน้าตลอดมา ( ในเรื่องผมเคยกล่าวถึงท่านไปแล้ว )
ซึ่งในเวลาต่อมาพอผมเข้ามาเรียนปี 1 ที่มหาวิทยาลัยแห่งนี้และเมื่อผมเข้ามายุ่งกับเทควันโด ผมเลยต้องกลายเป็นลูกมือของคุณโค้ชไปโดยปริยาย เพราะทั้งชมรม ทั้งกีฬา โค้ชเค้าเข้ามาแทรกอยู่ตั้งแต่แรกแล้ว
ที่สำคัญโค้ชก็เป็นรุ่นพี่ผมด้วย ทำให้ผมไม่อาจเขี่ยเค้าออกจากสายการดำเนินงานได้โดยง่ายอย่างที่หลายๆท่านเข้าใจ
อย่างในปีนี้ที่ผมทำเส้นเขียวๆขึ้นมาเพื่อให้ผู้อ่านเข้าใจว่า ปีนี้ผมไม่ได้เกี่ยวข้องโดยตรงกับทั้งชมรมเทควันโดและผู้จัดการทีมกีฬาเทควันโดที่มหาวิทยาลัย
เพราะที่ยังต้องเกี่ยวอยู่ เพราะการทำงานสุดชุ่ยของคุณโค้ชอย่างที่ผู้อ่าน อ่านผ่านมานั่นล่ะครับ


ซึ่งในการดำเนินเรื่องต่อไปผมจะค่อยๆเปิดให้เห็นว่าทำไม ผมถึงเอาโค้ชมาเป็นตัวหลักใน น้องชาย 2
แล้วโค้ชเกี่ยวอะไรกับว่าน แล้วทำไมว่านถึงได้เป็นแค่น้องชาย ทั้งๆที่เรื่องของว่านน่าจะคืบหน้าไปได้มากกว่าบี
หัวข้อ: Re: น้องชาย 2 ( Up ช่วงที่ 11 : 11/05/11 )
เริ่มหัวข้อโดย: HydrA ที่ 12-05-2011 13:00:32
พูดถึงโค้ชแล้วเพลีย
ในความคิดนู๋นะพี่เอ
ว่านน่ะเหมือนศรัทธาโค้ชมาก รึว่าบ้าพลังเหมือนๆกัน
มันเหมือนงัยล่ะ ขาอีกข้างอยู่ทางฝั่งโค้ช อีกข้างมาทางฝั่งพี่เอ
นู๋ก็แค่อยากจะบอกว่า สำหรับว่านพี่เอก็ยั้งๆไว้บ้างเน้อ
บีก็คือบี ว่านก็คือว่าน มันคนละคนกัน
เรื่องบีพับเก็บไปเพราะชีวิตพี่เอต้องเดินหน้า
คิดถึงได้แต่อย่าเก็บเอามาทำร้ายตัวเอง
นู๋ก็อยากเห็นพี่เอยิ้มได้ หัวเราะได้
พี่เอค่อยๆก้าวเดินไป นู๋ว่าเดี๋ยวก็มีอะไรๆดีๆวิ่งเข้าใส่พี่มาเองอ่ะแหล่ะ
จริงๆนะ นู๋เอาใจช่วยค่ะ
หัวข้อ: Re: น้องชาย 2 ( Up ช่วงที่ 11 : 11/05/11 )
เริ่มหัวข้อโดย: bbyuqin ที่ 12-05-2011 15:30:06
มาทิ้งปริศนาไว้ให้อยากรู้ ว่าว่านเกี่ยวอะไรกับโค้ช และทำไมความสัมพันธ์มันของเอกับว่าถึงเป็นได้แค่พี่น้อง
แต่การกระทำของโค้ชนี่น่าเกลียดมากตั้งแต่ไม่รับผิดชองเรื่องงานแล้วยังไม่เคารพสถานที่สอนของตัวเองอีก สงส่ารน้องๆก็เป็นส่วนหนึ่ง เพราะว่าการอยู่แบบนี้น้องๆเองก็อาจจะไม่ได้พัฒนาฝีมืออย่างเต็มที่ การฝึกซ้อมแบบบ้าพลังบางครั้งมันก็ไม่ใช่...หุหุ (ผ่านมากับตัว) รออ่านต่อนะเอ  :L2:
หัวข้อ: Re: น้องชาย 2 ( Up ช่วงที่ 11 : 11/05/11 : แจ้งข่าวครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: me_alone ที่ 12-05-2011 16:46:02
หายไปหลายวันเลยนะครับ กลับมาทีเต็มๆสะใจมาก
เมื่อไหร่จะไล่โค๊ชออกอ่า เซงจิต

 :เฮ้อ: ~ ไล่ไม่ได้ครับ มันเป็นเหตุผลทางการเมือง




พูดถึงโค้ชแล้วเพลีย
ในความคิดนู๋นะพี่เอ
ว่านน่ะเหมือนศรัทธาโค้ชมาก รึว่าบ้าพลังเหมือนๆกัน
มันเหมือนงัยล่ะ ขาอีกข้างอยู่ทางฝั่งโค้ช อีกข้างมาทางฝั่งพี่เอ
นู๋ก็แค่อยากจะบอกว่า สำหรับว่านพี่เอก็ยั้งๆไว้บ้างเน้อ
บีก็คือบี ว่านก็คือว่าน มันคนละคนกัน
เรื่องบีพับเก็บไปเพราะชีวิตพี่เอต้องเดินหน้า
คิดถึงได้แต่อย่าเก็บเอามาทำร้ายตัวเอง
นู๋ก็อยากเห็นพี่เอยิ้มได้ หัวเราะได้
พี่เอค่อยๆก้าวเดินไป นู๋ว่าเดี๋ยวก็มีอะไรๆดีๆวิ่งเข้าใส่พี่มาเองอ่ะแหล่ะ
จริงๆนะ นู๋เอาใจช่วยค่ะ

ตอนนี้น้องเดามาถูกทางแล้วครับ ที่ว่าข้างหนึ่งว่านอยู่กับพี่ อีกข้างอยู่กับโค้ช เพราะพี่กับโค้ชให้น้องในสิ่งที่ต่างกัน
แต่ลองอ่านต่อไปเรื่อยๆนะครับว่าท้ายที่สุดแล้ว ว่านจะเลือกที่จะอยู่กับใคร

แล้วก็เมื่อบ่าย ( วันที่ตอบ re นี้ ) คุยกับเพื่อนว่านคนหนึ่ง
เพื่อนว่านบอกว่า ว่านดูเหงาๆ แล้วก็คุยกับเค้ามากขึ้น
ซึ่งจริงๆแล้วเพื่อนว่านคนนี้....มันก็มีอะไรที่น่าสนใจเหมือนกัน เดี๋ยวบทของน้องคนนี้ก็จะโผล่มาหลังจากนี้ไม่นานหรอกครับ

 :กอด1: ~ ขอบคุณสำหรับกำลังใจนะครับ




มาทิ้งปริศนาไว้ให้อยากรู้ ว่าว่านเกี่ยวอะไรกับโค้ช และทำไมความสัมพันธ์มันของเอกับว่าถึงเป็นได้แค่พี่น้อง
แต่การกระทำของโค้ชนี่น่าเกลียดมากตั้งแต่ไม่รับผิดชองเรื่องงานแล้วยังไม่เคารพสถานที่สอนของตัวเองอีก สงส่ารน้องๆก็เป็นส่วนหนึ่ง เพราะว่าการอยู่แบบนี้น้องๆเองก็อาจจะไม่ได้พัฒนาฝีมืออย่างเต็มที่ การฝึกซ้อมแบบบ้าพลังบางครั้งมันก็ไม่ใช่...หุหุ (ผ่านมากับตัว) รออ่านต่อนะเอ  :L2:

 :กอด1:
ดีใจนะครับที่มีคนเข้าใจว่าการไม่ทำความเคารพยิม และ ผู้สอน ทั้งตอนเริ่ม และ ตอนเลิก มันดูแย่แค่ไหน
กำลังคิดอยู่ว่าจะเขียนตรงนี้ลงไปด้่วย เพราะผู้อ่านหลายท่านที่ไม่เคยเรียนเทควันโดมาก่อน
อาจไม่เข้าใจถึงความสำคัญของการเคารพยิม และ ผู้สอน ทั้งก่อนซ้อม และ หลังเลิกซ้อม
แล้วก็ดีใจที่มีคนเข้าใจแล้วก็รู้สึกสงสารน้องเหมือนที่ผมรู้สึก
หัวข้อ: Re: น้องชาย 2 ( Up ช่วงที่ 11 : 11/05/11 : แจ้งข่าวครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: me_alone ที่ 14-05-2011 19:02:26
ช่วงที่ 12





   และแล้ววันเสาร์อาทิตย์ก็ผ่านไปเร็วอย่างกับเรื่องโกหก ทำไมวันพักผ่อนมันถึงได้ผ่านไปรวดเร็วอะไรอย่างนี้ หลังจากทานข้าวเที่ยง...ไม่สิ ก๋วยเตี๋ยวไก่ตุ๋นของป้าร้านหกต่างหาก ร้านของแกไม่ค่อยมีใครซื้อมาทานเท่าไหร่ ไม่รู้ว่าเพราะรสชาติไม่อร่อยรึป่าว แต่ผมว่าแกทำอร่อยดีนะ ขนาดเจ้าของร้านก๋วยเตี๋ยวเจ้าอร่อยที่ผมกับว่านรวมถึงคุณพ่อน้องบีไปทานบ่อยๆ ก็ยังมาทานร้านนี้เลย โดยระหว่างที่ผมทานก๋วยเตี๋ยวอยู่นั้นผมก็ดูเอกสารต่างๆ ที่จะต้องใช้ประชุมเที่ยงนี้ไปด้วย เพราะน้องรองประธานชมรมเพิ่งจะเอามาให้ผมก่อนที่จะมาทานก๋วยเตี๋ยวได้แว๊บเดียว


   แล้วไม่นานเท่าไหร่ก็ได้เวลาประชุมครับ ผมไปลงชื่อเข้าประชุมตามเวลาที่พี่ต้อมแจ้งไว้ รวมถึงอาจารย์หลายๆท่านก็ไปกันตรงเวลา บางท่านถึงกับมาก่อนหน้าก็มี แต่ก็ยังมีอยู่บ้างที่มาสายทั้งที่มีเหตุจำเป็นและจากความรับผิดชอบที่ตื้นเขินของคนบางคน พอเซ็นเอกสารเสร็จผมก็เข้าที่ประชุมครับ โดยการประชุมนั่นล่าช้ากว่าที่พี่ต้อมบอกไว้เกือบสามสิบนาที เนื่องจากมันเป็นอุบายเล็กๆ ที่ตั้งเผื่อเลทเวลาไว้แล้ว ทว่า......หนึ่งในหลายๆ คนที่มาช้านั้นก็รวมถึงโค้ชด้วย.....


   เวลาการประชุมดำเนินไปกว่าห้าสิบนาทีแล้วโค้ชก็ยังไม่มา จนกระทั่งถึงเวลาให้เขียนสิ่งของที่จำเป็นต้องใช้รวมถึงสิ่งของต่างๆ ที่ขาด พี่ต้อมก็เอาเอกสารมาให้ผม ผมก็เริ่มเขียนว่าสิ่งของจำเป็นอะไรบ้างที่ยังขาดอยู่ แล้วระหว่างที่ผมเขียนอยู่นั้นโค้ชก็มาครับ ทันทีที่โค้ชเปิดประตูเข้ามา ที่ประชุมก็หันไปมองกันเป็นตาเดียว ทันทีที่โค้ชเห็นทุกคนมอง โค้ชก็หันมายิ้มๆให้ทุกคน แล้วรีบปรี่เดินมาหาผมอย่างไว วันนี้โค้ชแต่งตัวมาดีครับ กางเกงยีนส์ขายาว เสื้อในคอกลมสีน้ำเงินเข้ม กับ กระเป๋าถือหนึ่งใบ ทันทีที่โค้ชมานั่งข้างๆผมโค้ชก็ถามแบบดูมีความรับผิดชอบมากๆว่า

“ไหนเค้าประชุมอะไรกันบ้าง แล้วนี่เขียนอะไรอยู่”
“เขียนอุปกรณ์ที่ต้องจัดหาเพิ่มครับ” ผมตอบไปแบบไม่หันมามองหน้าโค้ชด้วยซ้ำ
“ไหนๆดูหน่อย” พูดจบโค้ชก็ดึงกระดาษแล้วก็ปากกาออกไปจากมือผมทันที ไม่ซิต้องใช้คำว่ากระชากจะเห็นภาพมากกว่า
“โหย...สั่งอะไรแต่ยี่ห้อถูกๆ มันต้องของแพงๆเลยดิ” โค้ชพูดขึ้น

   อาจารย์ที่นั่งอยู่ข้างๆได้ยินเข้าถึงกับหันมามองโค้ชทันที เพราะการที่โค้ชมาช้านั้นโค้ชเลยไม่ทราบว่างบประมาณจัดซื้ออุปกรณ์นั้นมีอยู่อย่างจำกัดต้องหารเฉลี่ยกัน ทำให้ต้องสั่งแค่อุปกรณ์ที่พอใช้ได้ เพื่อให้กีฬาชนิดอื่นๆได้ซื้ออุปกรณ์ที่จำเป็นเพิ่มด้วย อะไรที่ไม่จำเป็นรวมถึงแพงมากไปจึงต้องตัดออก และ ค่อยเพิ่มภายหลังหากงบประมาณยังเหลือ และ นี่คือเหตุผลของการประชุมวันนี้ แล้ว....ยังไม่ทันที่โค้ชจะเขียนอะไรลงไปด้วยซ้ำ โค้ชคงเห็นถาดใส่ของว่างรวมถึงแก้วกาแฟและน้ำหวานของอาจารย์ท่านอื่นวางอยู่โค้ชเลยก็หันมาถามผมว่า

“แล้วของว่างพี่ล่ะ”
“ไม่รู้ครับ”
“แล้วของเราล่ะได้มายังไง”
“พี่เค้ายกมาให้ตั้งแต่ก่อนเริ่มประชุม”

“.....” โค้ชไม่พูดอะไร แต่หันมามองของว่างของผมที่ยังไม่ทันถูกแตะต้องเลยตั้งแต่ที่พี่เค้าเอามาวางให้
“.....”
“เอไม่ทานเหรอ”
โค้ชถามขึ้น
“.....” ยังไม่ทันที่ผมจะตอบอะไรออกไป
“งั้นพี่ขอนะ พี่หิวข้าวมากเลย ข้าวเช้ายังไม่ได้กินเลยเนี่ยะ บลาๆๆๆ” ระหว่างที่พูดโค้ชก็ดึงถาดของว่างรวมถึงเครื่องดื่มผมไปทานเรียบร้อย โดยที่โค้ชไม่ทราบเลยว่าสิ่งที่โค้ชทำอยู่มีสายตาของอาจารย์ท่านอื่นกำลังจับจ้องอยู่

   จนเมื่อกระประชุมจบลงโค้ชกับผมก็เดินออกมานอกห้อง ไม่ซิต้องพูดว่าโค้ชเดินตามผมออกมานอกห้องดีกว่า พอออกมาพ้นประตูโค้ชก็พูดว่า

“เอ วันหน้าเอากระเป๋าถือดีกว่าไหม กระเป๋าสะพายมันดูไม่เข้ากับชุดเลย”
“ครับ”
ผมหันไปตอบตามมารยาท
“แล้วใส่สูทแบบนี้ไม่ร้อนเหรอ”
“ไม่ครับ”
“โอ๊ยย....จะเรียบร้อยตลอดเวลาไปไหน ประชุมเสร็จแล้ว ถอดออกเหอะ จริงๆไม่น่าใส่มาเลยด้วยซ้ำ ร้อนจะตาย”
โค้ชพูดพลางหัวเราะ

   ผมไมได้ตอบอะไรกลับไป แต่ผมคงทำตามที่โค้ชแนะนำไม่ได้เพราะทุกครั้งที่เข้าประชุมกับผู้บริหารของทางมหาวิทยาลัยผมจำเป็นต้องแต่งตัวให้ดูดีเอาไว้ก่อน ผมยังไม่เคยลืมคำพูดของอาจารย์ท่านหนึ่งที่พูดว่า “นี่มันไม่ใช่ที่ประชุมที่จะให้มีนักศึกษาเข้ามาร่วมด้วย” โค้ชเค้าไม่เคยโดนซินะ...ไม่ซิเค้าคงไม่ใส่ใจอะไรด้วยซ้ำ....รวมถึงโค้ชเค้าก็ยังไม่รู้ด้วยมั้งว่ามีอาจารย์มากกว่าครึ่งในที่ประชุมไม่ต้องการให้มีเทควันโดบรรจุอยู่ในกีฬาของมหาวิทยาลัย ไม่ใช่แค่ไม่อยากให้มีรวมถึงเคยมีความพยายามที่จะถอดถอนออกด้วยซ้ำ....แต่เพราะอาจารย์ท่านนั้นที่ฝากฝังชมรมนี้ไว้กับนักศึกษาตัวเล็กๆอย่างผม โดยวันสุดท้ายก่อนที่ท่านจะเกษียณอายุราชการ ท่านบอกผมว่า “อาจารย์คงต้องฝากให้เธอดูแลต่อแล้ว” ผมเลยจำเป็นต้องสู้กับอาจารย์พวกนั้นด้วยผลงานรวมถึงศักยภาพที่จะปกครองชมรมรวมถึงควบคุมนักกีฬานักกีฬาที่อาจารย์พวกนั้นไม่มี หรือ ทำไม่ได้อย่างผมด้วยซ้ำ
   
“ไปไหนต่อ” โค้ชถามผม
“เรียนครับ มีเรียนบ่าย”
“เหรอ งั้นเย็นนี้เจอกัน”


   โค้ชพูดจบก็ขับรถออกไป แล้วบ่ายวันนั้นหลังเรียนเสร็จผมก็ได้รับการติดต่อจากพี่ต้อมเรื่องราคาของอุปกรณ์ที่สูงเกินไป

“เอ....ทำไมอุปกรณ์มันแพงจังล่ะ”
“โค้ชเค้าเลือกครับ”
“ลดสเปคลงมาอีกได้ไหม”
“อืมม....เดี๋ยวผมถามโค้ชให้นะครับ”
“รบกวนด้วยนะเอ เดี๋ยวงบไม่พอ”


   ตกเย็นวันนั้นหลังจากเรียนเสร็จแล้วผมก็ไปเปลี่ยนชุดที่บ้านก่อนจะกลับไปที่ยิม ซึ่งพอไปถึงยิมผมก็เจอต้นกล้า ว่าน มิ้น กับน้องคนอื่นๆอยู่กันหลายคน ผมแปลกใจเล็กน้อยที่วันนี้น้องๆมายิมกันเร็วจัง หลังจากสอบถามก็ได้ความว่าวันนี้ตอนบ่ายอาจารย์ติดประชุมยกโรงเรียน พอวางกระเป๋าเสร็จผมก็พาว่านไป 7 – 11 รอบนี้มีต้นกล้าวิ่งตามไปติดๆหลังจากซื้อน้ำเสร็จแล้วผมก็พาว่านไปนั่งเล่นข้างๆยิมก่อนจะถามเรื่อยเปื่อยไปเรื่อย

“ว่านอาทิตย์หน้าไปดูหนังกันอีกไหม” ผมถามว่าน
“ไป” ว่านตอบกลับมาแล้วยิ้มๆก่อนจะยื่นแฮมชีสป้อนผม
“ไปด้วยซิ” ต้นกล้าพูดขึ้น
“ยุ่ง” ว่านหันไปตอบด้วยน้ำเสียงแบบดุๆใส่ต้นกล้า
“จะว่าไปเรื่อง Resident นี่สนุกดีเน๊าะภาคนี้ โดยเฉพาะนายแบบนาฬิกา ฮาได้เรื่องเลยทีเดียว”
“ใช่ครับ”
ว่านตอบกลับมา
“อ่าว พี่ว่านไปดูตอนไหน” ต้นกล้าพูดขึ้น
“เมื่อวันเสาร์ ไปกับพี่เอ” ว่านตอบกลับไป
“อ่าว.... เมื่อตอนวันพฤหัสพี่ก็ไปดูแล้วนี่นา พี่เอไปดูอีกรอบเหรอ” ต้นกล้าทักขึ้น....ใช่ครับตามนั้น...ต้นกล้าเองก็เจอผมที่โรงหนังเพราะผมกับต้นกล้าดูรอบเดียวกัน
“อืม...ก็สนุกดี เลยไปดูอีกรอบ”
“....”
ว่านไม่ตอบอะไร แต่เปลี่ยนจากนั่งเฉยๆเป็นเอานิ้วมาจิ้มๆผมแทน แล้วก็กัดแขนผม ตามด้วยการสะบัดๆไปมา
“อิอิอิ” ต้นกล้าหัวเราะชอบใจ

   หลังจากที่ผมนั่งเล่นไม่นานก็ถึงเวลาซ้อมครับ แล้วก็เหมือนทุกวันที่ว่านเป็นตัวชูโรงไปวอร์มก่อนชาวบ้านเพื่อให้เค้ารู้กันว่า “ได้เวลาซ้อมแล้วนะ” ส่วนผมก็เดินๆดูน้องไปเรื่อย จนเวลาประมาณห้าโมงเย็นโค้ชก็มาครับ มาถึงโค้ชก็ไม่ได้พูดอะไรกับเด็กๆ วางตัวได้ห่างเหินมาก ก่อนที่จะเดินไปนั่งที่โต๊ะ แล้วก็กวักมือเรียกผมไปนั่งด้วย

“เอ มานี่ก่อนพี่มีเรื่องจะคุยด้วย” โค้ชพูด
คุยอีกละ... ผมคิดในใจก่อนจะเดินไปนั่งที่โต๊ะฝั่งตรงข้าม
“เอ...พี่ลืมสั่งอุปกรณ์คาราเต้ล่ะ” โค้ชพูด
“สรุปพี่จะส่งลงแข่งจริงๆเหรอ” ผมถามโค้ชกลับ
“อ่าวก็จริงซิ”
“ใครลงบ้างล่ะพี่”
“ก็พวก นัท แนน จ๋าย ไม้ แล้วก็ ตั้ม”
“เรื่องอุปกรณ์เดี๋ยวโทรไปถามพวกคาราเต้ที่ชัยภูมิไม่ก็พวกที่สกลฯก็ได้มั้งพี่”
“ฮ่าๆๆๆ”
ทันทีที่ผมพูดจบโค้ชก็ระเบิดเสียงหัวเราะออกมา
“โอ๊ย....ไปถามทำไมพวกนั้น พี่ไปถึงสมาคมเค้ามาแล้ว” โค้ชตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงเหมือนตอนที่ผมพูดย้ำเรื่องประชุมไม่มีผิด
“เดี๋ยวพรุ่งนี้พี่ไปสั่งที่กอง เอไปด้วยกันนะ”
“พรุ่งนี้ผมมีเรียนทั้งวันครับ”
“น่าห้านาทีสิบนาทีก็พอ”
โค้ชคะยั้นคะยอ
“รอดูก่อนถ้าว่างผมจะไปด้วย”

   พอคุยกับโค้ชเสร็จผมก็โทรหาน้องๆที่โค้ชอ้างถึง เพราะส่วนของคาราเต้ผมไม่ได้รับผิดชอบเลย แล้วผมก็ไม่เคยได้ยินโค้ชพูดถึงเรื่องการซ้อมคาราเต้เลยสักครั้ง ซึ่งมันผิดวิสัยของโค้ชมากๆ ที่สำคัญเรื่องเอกสารของคาราเต้ไม่ได้ผ่านผมแฮะ แล้วใครรับผิดชอบ.....ไม่ใช่ว่าอยากยุ่งนะครับ แต่การพูดคุยครั้งนี้มันตะหงิดๆว่าเดี๋ยวผมคงต้องมีส่วนร่วมแบบกึ่งๆถูกบังคับด้วยแน่ หลังจากที่ผมโทรถามน้องรายตัวผมก็ได้คำตอบที่ตรงกันว่า “ไม่เคยมีการฝึกซ้อมราคาเต้เลย” ส่วนคนที่รับผิดชอบนั้นเป็นเพื่อนของโค้ช แล้วเรื่องหลักฐานก็เพิ่งให้น้องรองประธานวิ่งให้ ถึงตรงนี้ผมถือว่าผมรับรู้แล้ว แต่ผมไม่ได้บอกโค้ช เพราะผมอยากรู้ว่า เพื่อนของโค้ชกับโค้ช จะไปได้สักกี่น้ำถ้าผมไม่สนใจ ที่สำคัญเพื่อนโค้ชคนนี้มีประวัติทิ้งงานกลางอากาศมาแล้วด้วย เรามาคอยดูกันว่ารอบนี้เค้าจะทิ้งงานอีกไหม
   กลับมาที่ยิมวันนี้ก็เป็นอีกวันที่โค้ชให้เลิกโดยไม่มีการเคารพอะไรเลยสักอย่าง พอเลิกเสร็จโค้ชก็ดิ่งกลับบ้านทันที เหลือว่านคนเดียวที่มาตะกายๆผมอยู่พร้อมทั้งพยายามอ้อนให้ผมเล่าเรื่องต่างๆให้ฟังเหมือนบีไม่มีผิด แล้ววันนี้นอกจากว่านแล้วก็มีต้นกล้าอีกคนที่ขอติดรถกลับด้วย ผม ว่าน ต้นกล้า เลยนั่งคุยกันอยู่สามคนจนเด็กๆคนอื่นกลับบ้านหมด

“พี่เอ”
“ครับ”
ผมตอบว่านกลับไป
“ตัดผม”
“ปะ”


   หลังจากที่ช่วยกันปิดยิมเสร็จแล้วผมก็เดินจูงมือว่านไปที่ร้านตัดผมใกล้ๆ พอมาถึงปรากฏว่ามีคนนั่งรออยู่เพียบเหมือนตอนที่พาต้นกล้ามาเลย ผมเลยพาต้นกล้าไปซื้อขนมที่ 7 – 11 ก่อนจะกลับมานั่งรอที่หน้าร้าน ระหว่างนั้นผมก็คุยเล่นกับต้นกล้าไปเรื่อย....จนถึงคำถามจากต้นกล้าที่ว่า...

“ทำไมพี่ถึงรอล่ะ”
“รออะไร”
“รอพี่ว่าน”
“หืม....ก็รอ ทำไมเหรอ”
“กับผมพี่ไม่เห็นรอ”
“.....”


   ผมอึ้งเล็กน้อยกับคำถามที่ดูจะเรียบง่ายแต่กลับทำให้ผมถึงกับตั้งคำถาม ถามตัวผมเองขึ้นมาว่า “นั่นซิ กับว่านทำไมผมถึงเลือกที่จะรอโดยไม่ลังเลเหมือนตอนต้นกล้า”  ก่อนที่จะมีดราม่าผมเลยชวนต้นกล้าคุยเรื่องอื่น

“พี่เอรู้ยัง”
“รู้อะไร”
“พี่ว่านบอกว่าจะพาเพื่อนมาเรียนเพิ่มล่ะ”
“เหรอ ก็ดีแล้วนี่”
“งั้นเดี๋ยวผมพาเพื่อนมาเรียนด้วยดีกว่า ช่วงนี้บีกับอ้นไม่อยู่ ผมเหงา”
“ก็พามาซิ แล้ว......ที่โรงเรียนเจอบีกับอ้นบ้างไหม”
“เจอ”
“อ้นเป็นไงบ้าง”
“อ้นบ้าเกม วันๆพูดถึงแต่เรื่องเกม”
“แล้วบีล่ะ”
“ไม่ค่อยเจอผมไม่ได้เรียนห้องเดียวกันกับบีแล้ว แต่เห็นไปอยู่กับแก๊งเค้าแถวห้องน้ำนั้นแหละ”
“ไม่ลองชวนอ้นกับบีมาเรียนคืนล่ะ”
“ชวนแล้ว พวกมันก็ว่าจะมาๆ แล้วก็ไม่เห็นมา พี่เอไม่โทรไปชวนบีดูล่ะ”
“ลืมพี่ไปแล้วมั้ง”
“ไม่หรอกพี่....พี่พูดเหมือนน้อยใจเลย อิอิอิ”
ต้นกล้าหัวเราะ
“ทำไมถึงคิดว่าไม่ล่ะ”
“ก็บียังพูดถึงพี่กับเพื่อนเค้าอยู่บ่อยๆเลยนี่นา”
“เหรอ.....”


   ผู้อ่านเชื่อไหมแค่ประโยคสนทนาธรรมดาๆกับเด็ก 13 ขวบ ในตอนนั้น....มันทำให้ผมยิ้มไม่หยุด แม้กระทั่งตอนไปส่งน้อง จนว่านเองก็ถามว่าผมยิ้มอะไร แต่ผมก็ไม่ได้ตอบอะไรกลับไป ตกดึกคืนนั้นผมนอนยิ้มคนเดียวจนหลับไป.....

To Be Con

ปล. พี่เอไม่อยู่ซักพักนึงนะครับ ไปธุระกับทางบ้าน จากต้นหอม
หัวข้อ: Re: น้องชาย 2 ( Up ช่วงที่ 11 : 11/05/11 : แจ้งข่าวครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: w[o]w ที่ 15-05-2011 00:31:41
คิดถึงน้องบี
หัวข้อ: Re: น้องชาย 2 ( Up ช่วงที่ 11 : 11/05/11 : แจ้งข่าวครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: naoki24 ที่ 15-05-2011 03:02:22
โทรไปเหอะ ทั้งบีทั้งอ้น ไม่ต้องชวนมาเล่นก็ได้ แค่ชวนไปกินข้าวหรือเที่ยวด้วยกันก็ยังดี :laugh: :m20:

น้องๆยังมีคุณเออยู่ในใจเสมอนา :man1: คุณเอละยังมีน้องๆอยู่ในใจหรือป่าว :haun4:
หัวข้อ: Re: น้องชาย 2 ( Up ช่วงที่ 11 : 11/05/11 : แจ้งข่าวครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: bbyuqin ที่ 15-05-2011 07:46:16
โค้ชคนนี้ไม่มีความเป็นมืออาชีพมากๆ ท่าทางที่อยู่ต่อหน้าผู้ใหญ่ไม่ได้มีสำรวมเลย เหอเหอ...จะรอดมั้ยเนี่ย แล้วยังมีคาราเต้นั่นอีก...อืม..จะมากไปไหนฟระ
ปล.อ่านแล้วก็อึ้งกับคำถามต้นกล้านะ แต่ว่าน้องคงสงสังแบบเด็กมากกว่าเลยถามออกไป
ปลล.น้องบียังพูดถึงเออยู่เลย อิอิ ลองโทรๆ
ปลล.อีกที รับทราบเรื่องที่แจ้งค่าาา
หัวข้อ: Re: น้องชาย 2 ( Up ช่วงที่ 11 : 11/05/11 : แจ้งข่าวครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: z-Time ที่ 15-05-2011 10:32:34
น้องบีแอบโฉบมานิดนึง  :กอด1

ดูเหมือนน้องว่านจะเห็นเอ เป็นแค่พี่ชายรึป่าว  :z10:
หัวข้อ: Re: น้องชาย 2 ( Up ช่วงที่ 11 : 11/05/11 : แจ้งข่าวครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: naoki24 ที่ 16-05-2011 16:34:08
สังเกตุคำพูดของโค้ช ว่า "ว่านชอบพี่เอหรือป่าว? เห็นชอบไปกอดพี่เอง" :กอด1:
กำลังคิดว่า โค้ชจะใช้ว่านในการหลอกล่อคุณเอแน่เลย :a5:

รีบโทรไปหาน้องบีกับน้องอ้นซะนะ  :angry2:โทรชวนไปเที่ยวเล่นก็ได้ไม่ต้องคุยเรื่องเทควันโด้หรอก

และก็อยากให้อ้นกับบีกลับมาละก็ ขอแนะนำให้คุณเอเปิดคอร์สเรียนฟรีให้สองคนนั้นในวันหยุดที่ห้องคุณเอเลยจะเหมาะมาก อุอุ :haun4:
หัวข้อ: Re: น้องชาย 2 ( Up ช่วงที่ 12 : 14/05/11 )
เริ่มหัวข้อโดย: me_alone ที่ 22-05-2011 07:54:46
คิดถึงน้องบี

 :กอด1: ~ คิดถึงน้องเหมือนกันครับ



โทรไปเหอะ ทั้งบีทั้งอ้น ไม่ต้องชวนมาเล่นก็ได้ แค่ชวนไปกินข้าวหรือเที่ยวด้วยกันก็ยังดี :laugh: :m20:

น้องๆยังมีคุณเออยู่ในใจเสมอนา :man1: คุณเอละยังมีน้องๆอยู่ในใจหรือป่าว :haun4:

 :เฮ้อ: ~ เรื่องที่จะชวนไปทานข้าว หรือ เที่ยว คงยากอะครับ เพราะเรื่องที่ว่าทางบ้านเค้าจัดให้ได้



โค้ชคนนี้ไม่มีความเป็นมืออาชีพมากๆ ท่าทางที่อยู่ต่อหน้าผู้ใหญ่ไม่ได้มีสำรวมเลย เหอเหอ...จะรอดมั้ยเนี่ย แล้วยังมีคาราเต้นั่นอีก...อืม..จะมากไปไหนฟระ
ปล.อ่านแล้วก็อึ้งกับคำถามต้นกล้านะ แต่ว่าน้องคงสงสังแบบเด็กมากกว่าเลยถามออกไป
ปลล.น้องบียังพูดถึงเออยู่เลย อิอิ ลองโทรๆ
ปลล.อีกที รับทราบเรื่องที่แจ้งค่าาา

 :กอด1:



น้องบีแอบโฉบมานิดนึง  :กอด1
ดูเหมือนน้องว่านจะเห็นเอ เป็นแค่พี่ชายรึป่าว  :z10:

 :เฮ้อ: ~ ตอนแรกก็คิดแบบนั้นอะครับ แต่ที่ว่านทำ....เป็นพี่น้องก็คงไม่ทำแบบนี้....มันให้ความรู้สึก....มากกว่านั้น



สังเกตุคำพูดของโค้ช ว่า "ว่านชอบพี่เอหรือป่าว? เห็นชอบไปกอดพี่เอง" :กอด1:
กำลังคิดว่า โค้ชจะใช้ว่านในการหลอกล่อคุณเอแน่เลย :a5:

รีบโทรไปหาน้องบีกับน้องอ้นซะนะ  :angry2:โทรชวนไปเที่ยวเล่นก็ได้ไม่ต้องคุยเรื่องเทควันโด้หรอก

และก็อยากให้อ้นกับบีกลับมาละก็ ขอแนะนำให้คุณเอเปิดคอร์สเรียนฟรีให้สองคนนั้นในวันหยุดที่ห้องคุณเอเลยจะเหมาะมาก อุอุ :haun4:

 :กอด1: ~ เปิดสอนเองมันไม่ง่ายอะครับ เหตุผลทางการเมือง ^^
หัวข้อ: Re: ...รักล้นใจ...(อัพครั้งที่ 16)
เริ่มหัวข้อโดย: yunjaejoong ที่ 22-05-2011 08:43:24
แล้วจะโทรหาน้องบีเปล่านี้คุณเอ
หัวข้อ: Re: น้องชาย 2 ( Up ช่วงที่ 12 : 14/05/11 )
เริ่มหัวข้อโดย: tuek ที่ 22-05-2011 09:23:52
เอโทรหาน้องบีเลย
น้องบียังไม่ลืมเอดีใจจัง
+1 นะคะ
หัวข้อ: Re: น้องชาย 2 ( Up ช่วงที่ 12 : 14/05/11 )
เริ่มหัวข้อโดย: HydrA ที่ 22-05-2011 10:43:30
ตอนต้นกล้าพูดว่าทำไมตอนเค้าพี่เอไม่รอเค้าบ้างอ่ะ นู๋ล่ะสงสารเค้าเลย
พี่เอค่ะเอ็นดูว่านก็เผื่อแผ่มาให้ต้นกล้าบ้างเนอะ
ค่อยๆดูกันไปเนอะพี่เนอะ
ในความคิดนู๋นะ ตอนนี้น้องๆยังเด็กๆกันอยู่
ความคิดยังไม่นิ่งเท่าไหร่นัก
มีอะไรแปรผันได้ตลอดเวลา
คงต้องดูๆกันไปอ่ะเนอะ
หัวข้อ: Re: น้องชาย 2 ( Up ช่วงที่ 12 : 14/05/11 )
เริ่มหัวข้อโดย: me_alone ที่ 22-05-2011 22:25:18
ช่วงที่ 13



        “วันนี้เราจะมาพาพูดถึงเรื่อง เทคนิคการโจมตีแบบ Phishing กันนะคะ” วันนี้อาจารย์วิภาบรรยายเกี่ยวกับเรื่อง “Phishing” ครับ เรื่องนี้มันไม่มีอะไรยุ่งยากมากมายเท่าไหร่ ที่สำคัญผมขอ PDF จากอาจารย์ไปนั่งอ่านล่วงหน้าแล้ว ทำให้คาบนี้ผมนั่งฟังแบบสบายๆเหมือนเป็นการทบทวนแล้วก็ฟังคำอธิบายจากอาจารย์เพิ่มเติม วันนี้เหมือนมันจะไม่มีเรื่องอะไรมากวนจิตใจผมเท่าไหร่ ที่สำคัญเรื่องที่ต้นกล้าพูดยังทำให้ผมนั่งยิ้มน้อยยิ้มใหญ่มาตั้งแต่เมื่อวาน

“ตรืดดดดด ตรืดดดดดด”
   
        ในระหว่างที่ผมฟังบรรยายเสียงโทรศัพท์ที่ถูกตั้งระบบสั่นไว้ก็สั่นขึ้นมา ผมก้มลงหยิบโทรศัพท์ออกจากกระเป๋ามาดูว่าใครกันที่โทรมาเวลาแบบนี้ คงไม่ใช่เพื่อนในห้องที่ไม่ได้เข้าแล้วโทรมาให้ผมลาให้หรอกนะ

“โค้ช Calling”

        ทันทีที่ผมเห็นชื่อที่บันทึกไว้ผมก็เหลือบมองนาฬิกาที่อยู่ตรงมุมบนของโทรศัพท์ “09:45” เดาไม่ยากครับว่าเรื่องอะไรที่ทำให้เค้าโทรเข้ามา ตอนแรกผมก็ลังเลว่าจะรับดีไหม แต่นี่มันเวลาเรียน แถมธุระของเค้าก็สามารทำทำเองได้โดยไม่จำเป็นต้องเอาผมไปด้วย ผมเลยกดปิดสั่นไป หลังจากที่โทรมาครั้งแรก โค้ชโทรมาซ้ำอีกหลายครั้ง แต่ผมก็ทำเหมือนเดิมทุกครั้ง
        แล้วเวลาก็ผ่านไปเร็วเหมือนโกหกวิชาสุดท้ายของวันจบลงด้วยการที่อาจารย์ท้องเสียกระทันหันจากมื้อเที่ยงทำให้การเรียนต้องหยุดลงตั้งแต่บ่ายสองโมงกว่าๆผมเลยนั่งคุยกับเพื่อนเกี่ยวกับงานกลุ่มที่ยังค้างกันอยู่จนถึงประมาณบ่ายสามเศษๆ ผมกับเพื่อนก็แยกย้ายกันกลับ หลังจากที่เดินแยกย้ายกับเพื่อนในห้อง ผมก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเช็กข้อความเพราะรู้สึกว่าตอนที่นั่งเรียนอยู่จะมีข้อความเข้าหลายข้อความ

“สมัครด่วน บลาๆๆ ได้รับส่วนลดทันที 5%”
“แมทนี้ใครจะไป ใครจะอยู่ สมัครเลย เพียง 50 บาทต่อเดือน ทดลองใช้ฟรี 15 วัน”
“ลุ้น UPhone4 ฟรี เพียงสมัครรับข้อความข่าวกับเรา”
“เป็นเจ้าของ UPAD ได้ง่ายๆ เพียงส่งข้อความมาที่ บลาๆ จับรางวัลทุกวัน”
“แจ้งผลทุกแมท ทุกคู่ ตลอด 24 ชม เพียง 40 บาทต่อเดือน สมัครบลาๆๆ”

        เคยได้ไหมครับข้อความแบบนี้ เซ็งห่านมากๆที่ต้องมานั่งลบอยู่เรื่อยๆ แต่ว่าระหว่างที่ผมนั่งลบข้อความอยู่นั้น ก็เจอข้อความของว่านส่งมา

“ว่างแล้วโทรกลับด้วยนะครับ”

        อืม....ส่งมาตั้งแต่ 11.17 แน่ะ มีอะไรหรือเปล่า ว่าแล้วผมก็โทรกลับไป

“ตรู๊ดดดดดด......... ตรู๊ดดดดดดดดดดด......แกร๊ก....ครับ”
“ว่า”
“พี่ๆ มารับผมไปเอาชุดที่บ้านหน่อยซิครับ ผมลืมเอามา”
“อืมมม ได้ซิ เดี๋ยวไป”
“ผมรอที่เดิมนะ”
“ไปรอเลยแล้วกันไม่เกิน 5 นาทีถึง”
“ครับ.....พี่ๆๆ” เหมือนจะได้วางสายแล้ว แต่จู่ๆว่านก็เรียกผมด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น
“ครับ”
“วันนี้เพื่อนผมมาเรียนเพิ่ม 5 คนนะ” ว่านพูดด้วยน้ำเสียงตื่นเต้นปนดีใจ
“เหรอ ก็ดีซิจะได้ไม่เหงา”
“ใช่ครับ”

        ว่าแล้วผมก็ไปหาว่านที่โรงเรียนทันที เพื่อนว่านเหรอ...อืมม....ช่วงนี้เด็กที่ยิมลดลงไปหลายคน มีเข้ามาเพิ่มก็ดีเหมือนกัน ไม่นานนักอย่างที่สัญญากับว่านไปผมก็มาถึงที่โรงเรียนว่าน ทันทีที่มาถึงผมก็พบว่าว่านเองมาคอย ณ จุดที่นัดกันไว้แล้วเหมือนกัน เมื่อว่านเห็นผมว่านก็ยิ้มให้แล้วก็รีบเดินมาหาอย่างรวดเร็ว

“สวัสดีครับ” ว่านยกมือไหว้ผม
“ดีๆ ไหนล่ะเพื่อน”
“เพื่อนไปรอที่ยิมแล้วครับ”
“เหรอ แล้ววันนี้ทำไมเลิกเร็วจัง”
“อาจารย์ติดประชุมครับ”
“อีกแล้ว”
“ครับ” ว่านตอบกลับมาพลางวางกระเป๋าที่หน้ารถ ก่อนจะเดินมาจ้องหน้าผม
“พี่เอ”
“ครับ” ผมหันไปมองว่านตามเสียงเรียก
“หันมานี่หน่อย” ว่านพูดจบก็จับไหล่ขวาผมแล้วดึงให้ผมหันหน้าตรงเข้าหาว่าน
“เนคไทพี่ไม่ตรง”พูดจบว่านก็เอามือมาดึงๆจับๆขยับไปมา
“เบี้ยวมากเลยเหรอ” ผมถามว่าน
“ไม่หรอกครับ แต่จัดให้ตรงดูดีกว่า”
“....”
“เสร็จแล้ว”
“อืม....ขอบใจนะ”
   
        แล้วผมก็พาว่านไปเอาชุดที่บ้านของว่าน ระหว่างทางว่านพูดถึงเพื่อนห้าคนที่มาเรียนใหม่ตลอดตั้งแต่ไปที่บ้านว่านจนวนกลับมาที่ยิมเหมือนว่านจะตื่นเต้นมากๆที่มีเพื่อนร่วมห้องมาเรียนด้วยทว่าเมื่อมาถึงยิมปรากฏว่าไม่เจอใครเลย

“ไม่เห็นมีใครเลย” ผมพูดขึ้น
“ก็พวกนั้นบอกว่าจะมารอหน้ายิมนี่นา” ว่านพูดด้วยน้ำเสียงกังวลเล็กน้อย
“โทรถามดิ”
“จริงด้วย”

        แล้วว่านก็โทรหาเพื่อน ปรากฏว่าเพื่อนรอนานไปหน่อยเลยไปนั่งอ่านหนังสือแล้วก็ตากแอร์ฟรีรอที่ 7 – 11ว่านเลยรีบเรียกเพื่อนๆให้มาที่ยิมเป็นการด่วน แต่ว่า...ผมยังไม่ได้เปลี่ยนชุดมาเลยแฮะ ผมเลยบอกว่านว่า

“เดี๋ยวพี่ไปเปลี่ยนเสื้อผ้าที่บ้านก่อนนะ เดี๋ยวจะกลับมาอีกที ว่านก็รอกับเพื่อนในยิมไปก่อน”
“อ่าว แล้วทำไมเมื่อกี้พี่ไม่แวะล่ะครับ” ว่านถามกลับมา
“ลืม มัวแต่คุย”
“ฮ่ะๆๆ รีบมานะครับ”
“อื่อ”

        แล้วผมก็กลับไปเปลี่ยนชุดก่อนจะกลับมาอีกครั้ง พอมาถึงที่ยิมผมก็เดินไปที่ประตูระหว่างที่ถอดรองเท้าผมก็ได้ยินเสียงว่านกับเพื่อนๆนั่งคุยเรื่องเทควันโดกันอย่างสนุกสนานเลยทีเดียว และ เมื่อผมเปิดประตูเข้าไป เพื่อนว่านก็หันมามองแล้วยกมือไหว้ผมแทบจะพร้อมๆกัน ก่อนที่หนึ่งในห้าจะพูดว่า

“นี่เหรอ พี่เอ ที่เอ็งชอบพูดถึงบ่อยๆ” ยังไม่ทันที่เพื่อนคนนี้จะพูดอะไรต่อว่านก็เอามือไปปิดปากเพื่อนทันที
“อะไรๆ เขินหรือไง” เพื่อนว่านอีกคนทักว่าน
“ไม่ใช่เว้ย” ว่านตอบกลับมาพลางเอาขาไปถีบๆเพื่อนคนที่ทัก


        จะว่าไปตั้งแต่รู้จักกับว่านมาผมไม่เคยเห็นว่านร่าเริงแบบนี้มาก่อนเลยแฮะ ส่วนมากจะวางตัว ไม่คุยกับใครง่ายๆ ที่คุยๆก็เห็นมีแค่ผม กับโค้ช กับพี่ป้อมเองว่านก็ไม่ค่อยได้คุยอะไรด้วยเลยเว้นว่าพี่ป้อมจะถามมาก่อน จะว่าไปก็ดีเหมือนกันมีเพื่อนๆมาแบบนี้ว่านเองจะได้เลิกทำตัวเครียดๆซะทีผมกับเพื่อนว่านสนิทกันได้รวดเร็วมากเพราะเพื่อนว่านได้ยินเรื่องของผมจากว่านมามากพอควร เพื่อนว่านเล่าว่าว่านจะชอบเล่าเรื่องที่ผมเล่าให้ว่านฟังให้เพื่อนๆฟังต่ออยู่บ่อยๆ เพื่อนๆกลุ่มนี้ที่อยากมาเรียนส่วนหนึ่งก็อยากมาเจอผมด้วยเพราะในห้องหลายคนก็สงสัยว่า พี่เอ ที่ว่านพูดถึงบ่อยๆนี้เป็นใคร แล้วน้องๆก็ได้เจอ

        อ้อ ลืมแนะนำไปเพื่อนว่านที่มาเรียนเพิ่มนี้มีห้าคนครับชายสามคนหญิงสองคน มาเริ่มกันที่ชายก่อนแล้วกัน คนแรกชื่อเกม น้องเกมคนนี้เป็นเด็กที่ค่อนข้างสูงเลยทีเดียว รูปร่างค่อนข้างผอมพอควรผิวขาวแต่ว่าเนื่องจากเกมเป็นนักกีฬาว่ายน้ำของโรงเรียนทำให้นอกเหนือจากจุดที่ในกางเกงว่ายน้ำนั้นคล้ำหมด ส่วนหน้าตาน้องเกมนั้นทำให้สาวๆกรี๊ดได้ไม่ยาก คนที่สองชื่อฟิว น้องฟิวเป็นเด็กขาวตี๋ไม่สูงมากวันที่เจอวันแรกฟิวสูงน่าจะประมาณไม่เกินหนึ่งร้อยหกสิบห้ารูปร่างธรรมดาๆ หน้าตาเด็กตี๋เลยล่ะครับ ผิวขาวเป็นใยบวบ เท่าที่คุยๆกันฟิวแทบไม่เคยตากแดดเลย แล้วเทควันโดก็เป็นกีฬาชนิดแรกที่ฟิวเลือกที่จะเล่นเอง คนต่อมาชื่อริว น้องริวคนนี้สูงที่สุดในบรรดาห้าคนที่มา ณ วันที่เจอน้องสูงอยู่ที่หนึ่งร้อยแปดสิบสาม น้องริวเป็นลูกชายคนสุดท้องของตระกูลคนมีอันจะกินตระกูลหนึ่งในจังหวัดที่ผมอยู่ ริวบอกว่าที่มาเรียนส่วนหนึ่งเพราะอยากมานั่งฟังเรื่องที่ผมเล่าสดๆมากกว่าจะรอฟังจากที่ว่านเล่า

        ต่อมาแนะนำน้องผู้หญิงบ้าง คนแรกชื่อส้ม น้องส้มเป็นเด็กหญิงน่ารักตาโตมีเสน่ห์ที่ดวงตาเวลาที่น้องส้มยิ้มสายตาที่น้องส้มส่งมามาหวานพอจะทำให้มดเป็นเบาหวานตายยกรังเลยทีเดียว แล้วที่สำคัญน้องส้มเองยังมีข้อหากุ๊กกิ๊กอยู่กับน้องเกมด้วย คนต่อมาชื่อพลอย น้องพลอยเป็นสาวหมวยเป็นลูกสาวคนเดียวจากตระกูลผู้มีอันจะกินอีกตระกูลหนึ่งเช่นกันกับริว เหตุเพราะเป็นลูกสาวคนเดียวทำให้พลอยถูกคาดหวังจากทางบ้านมาก ส่วนบุคลิกของพลอยนั้นค่อนข้างกันเอง สนุกสนานร่าเริง เหตุผลที่มาเรียนส่วนหนึ่งก็อยากเจอผมเหมือนกัน

        โดยระหว่างที่น้องๆแนะนำตัวกันนั้นเหมือนว่าต่างคนต่างอยากแนะนำตัวเองกันใหญ่ แย่งคุยแย่งพูดกันไม่หยุดบ้างก็ใส่มุขมาด้วย บ้างก็เผากันวุ่นวาย เกือบจะจับใจความไม่ได้เลยทีเดียว แต่รวมๆแล้วผมว่าห้าที่มาเพิ่มนี้จะทำให้ยิมสนุกสนานขึ้นเป็นกอง หลังจากที่คุยกับน้องๆไปได้พักหนึ่งน้องๆคนอื่นก็เริ่มทยอยมาเรื่อยๆ ส่วนมากพอเก็บของเสร็จแล้วก็เข้ามาจับกลุ่มคุยกันเป็นกลุ่มใหญ่ แล้วระหว่างที่ผมกับน้องๆคุยกันอยู่อย่างสนุกสนานนั้น โค้ช ก็มาครับ ทันทีที่โค้ชมาถึงหน้ายิมน้องๆก็หันไปไหว้กันตามมารยาท แต่ว่าสีหน้าของโค้ชที่มองมานั้นดูไม่ดีเลย จนโค้ชเดินเข้ามาในยิม โค้ชก็พูดว่า


“ทำไมไม่ไปวอร์มไปซ้อมของตัวเอง จับกลุ่มคุยกันแบบนี้ มันทำให้เก่งขึ้นไหม”

        โค้ชพูดด้วยน้ำเสียงหงุดหงิดสุดๆทำเอาวงสนทนาที่กำลังสนุกสนานเงียบกริบลงทันที ก่อนที่น้องๆจะเริ่มแยกย้ายกันไปวอร์มแบบ งงๆ เพราะจะว่าไปนี่ยังไม่ถึงเวลาซ้อมเลยด้วยซ้ำเพื่อนว่านที่มาวันแรกถึงกับทำอะไรไม่ถูกเลยทีเดียว ผมเลยให้ว่านพาเพื่อนไปวอร์ม

“ว่านๆ เดี๋ยวพาเพื่อนไปวอร์ม สอนแล้วก็ดูเค้าด้วยว่าตรงไหนทำยังไง” ผมบอกว่าน
“ครับ” ว่านหันกลับมาตอบ
“โอ๊ย ไปสอนอะไรท่าวอร์ม แค่ทำตามก็พอแล้ว” เสียงโค้ชดังขึ้น ว่านหันมามองหน้าผมเหมือนจะถามว่าเอาไง
“ตามนั้นแหละ” ผมพูดกับว่านเบาๆพร้อมพยักหน้าให้รู้ว่าทำตามที่ผมบอกพอว่านเห็นว่านก็หันกลับมาพยักหน้าคืน
“เอ มานี่” พอน้องๆแยกย้ายกันวอร์มหมดโค้ชก็เรียกผม
“ห้าคนนั่นเด็กใหม่เหรอ” โค้ชถามขึ้น
“ครับ”
“วันนี้พี่ไปสั่งอุปกรณ์คาราเต้แล้วนะ”
“ครับ”
“เห็นต้อมมันบอกว่าอุปกรณ์ของเรามันแพงเกิน มันให้พี่ไปดูอุปกรณ์ที่ร้านมีแทน”
“ครับ”
“พรุ่งนี้พี่จะไปดูที่ร้าน ไปด้วยกันไหม”
“ไม่ครับผมมีเรียน”
“เหรอ งั้นไม่เป็นไร”

        แล้วโค้ชก็เงียบไปผมเลยลุกออกไปดูแลน้อง วันนั้นโค้ชต้อนรับเด็กใหม่ได้โหดมาก สำหรับว่านอาจเด็กๆแต่กับเพื่อนว่านบางคนหน่ะซิครับ อย่างที่บอกไปหลายคนไม่เคยเล่นกีฬามาก่อนมาเจอแบบนี้ฟิวถึงกับหน้าแดงขึ้นมาทีเดียวส่วนคนอื่นๆก็หอบเป็นหมาหอบแดดเลย หลังซ้อมเสร็จว่านก็เดินๆมานอนพิงผมเหมือนที่เคยทำ ส่วนเพื่อนๆของว่านก็นั่งอยู่รอบๆ ก่อนจะเปิดประเด็นคุยเรื่องฮากัน วันนั้นผมจำได้ว่าผมคุยถึงเรื่องพาดหัวข่าวข่าวหนึ่ง อืมมม ผมขอแปลงเนื้อหาเล็กน้อยแล้วกัน

“พวกเราเคยอ่านหัวข้อข่าวหนังสือพิมพ์ไหม” ผมถามน้องๆ
“เคยซิครับ เวลาผมไปแผงหนังสือ ผมต้องอ่านพาดหัวก่อน” ฟิวตอบกลับมา
“หนังสือโป๊ะล่ะซิเมิงอะ” ริวแซว
“บ้า อย่างกูไม่อ่านหรอกเว้ยหนังสือโป๊ะอะไรพวกนั้น กูโหลดเอาเลยดีกว่าไม่ต้องเสียเวลาอ่าน ฮ่าๆๆ” ฟิวตอบกลับมาพลางหัวเราะ
“หื่นจริงมึงเนี่ยะ” เกมพูดพลังเอามือไปตบหลังฟิว
“พวกเอ็งคุยเรื่องอะไรเกรงใจพวกเขาหน่อย” พลอยพูดขึ้น
“ช่าย ผู้หญิงนั่งอยู่ตรงนี้เห็นไหมเนี่ยะ” ส้มแถม
“อะไรๆ พวกเอ็งผู้หญิงด้วยเหรอ” ฟิวตอบกลับมา
“พี่เอ ต่อๆ” พลอยทักให้กลับเข้าเรื่อง
“ก็....เคยเห็นข่าวเดียวกันแต่คนละฉบับไหมล่ะ”
“เคยๆ” น้องๆตอบพร้อมๆกัน
“เคยสังเกตไหมว่ามันลงเนื้อหาไม่ตรงกัน”
“ใช่ๆ โดยเฉพาะข่าวการเมือง ผมอ่านทีไรมันยิ่งกว่าอ่านคินดะอิจิอีก” ฟิวพูดขึ้น
“ทำไมวะ ข่าวการเมืองมันสนุกขนาดนั้นเลยเหรอ” เกมถาม
“เออ พวกมึงลองอ่านดู กูว่านักการเมืองแม่งลื่นยิ่งกว่าฆาตกรในนิยายอีกนะมึง” ฟิวตอบกลับ
“พวกเอ็งทำประมงเหรอ พาออกฝั่งทุกทีเลย” ก่อนที่ ฟิว กับ เกม จะพูดอะไรต่อ พลอยก็พูดขึ้นมา
“ช่าย พี่เอ ต่อๆ” ส้มพูดขึ้น
“ก็มันมีข่าวหนึ่งพี่ไปอ่านเจอ พี่เลยว่าจะถามพวกเราว่า เป็นพวกเราจะหยิบฉบับไหนขึ้นมาอ่านถ้ามันพาดหัวว่า....” ผมเว้นช่วงเพื่อดูว่าน้องๆสนใจที่จะฟังต่อแค่ไหน ปรากฏว่าทุกสายตาจับจ้องมาที่ผม แม้แต่ว่านเองก็ยังเยหน้าขึ้นมามอง
“ฉบับหนึ่งเขียนว่า แมวโคตรโหดตะปบเด็กชายดิ้นคากรง”
“อีกฉบับล่ะพี่” ริวถามต่อทันที
“อีกฉบับก็เขียนว่า เด็กชายโชคร้ายถูกแมวข่วนบาดเจ็บ เป็นเรา เราจะอ่านฉบับไหน”
“แมวโคตรโหดอะพี่” ส้มตอบ
“แมวโคตรโหด ฮ่าๆๆๆๆ” ว่านพลางระเบิดเสียงหัวเราะออกมาลั่น
“หัวเราะอะไร” เกมถามว่าน
“หัวเราะแมวโคตรโหดไง แม่ง เขียนซะกูเห็นภาพแมวเลย ฮ่าๆๆๆ มีดิ้นด้วย ฮ่าๆๆ” ว่านตอบไป น้องๆอีกห้าคนฟังดังนั้นก็จินตนาการตามทันทีก่อนจะพากันหัวเราะตามจนน้องๆในยิมคนอื่นหันมามอง


        แล้วการสนทนาก็ดำเนินต่อไปเรื่อยๆจนน้องๆทยอยกลับกันหมดเหลือแค่ผมกับว่านสองคน พอเดินปิดไฟหมดผมก็สังเกตว่าวันนี้แสงจันทร์สว่างมาก ผมเลยเดินไปที่ริมหน้าต่างที่ผมชอบมายืนอยู่ประจำ วันนี้พระจันทร์เต็มดวงครับ สวยมาก ท้องฟ้าโปร่งสุดๆเห็นดาวเต็มท้องฟ้าไปหมด


“จะแปลงร่างเหรอพี่” ว่านถามขึ้นก่อนที่จะเดินมาหยุดยืนอยู่ข้างๆผม
“พระจันทร์สวยเน๊าะ”
“วันนี้จันทร์เต็มดวงด้วย” พอว่านพูดจบผมก็เอามือไปวางบนมือว่านแล้วกุมไว้หลวมๆ
“เมื่อก่อนเห็นพี่กับบีชอบมานั่งกันตรงนี้ มามองดาวกันเหรอพี่”
“อืมม มานั่งดูดาว นั่งดูท้องฟ้า มารับลมเย็นๆ”
“....” ว่านไม่ได้ตอบอะไรกลับมา
“อยู่บ้านคนเดียวทุกวันเหงาบ้างม๊ะ” ผมถามว่าน
“ชินแล้ว” ว่านตอบกลับมา
“เหรอ”
“ครับ”
   

        พอว่านพูดจบผมก็หันมาเอามือลูบหัวว่านเบาๆว่านยืนนิ่งให้ผมลูบอยู่อย่างนั้นพักหนึ่งก่อนจะหันมางับแขนผมเข้าให้หนึ่งดอกผมเลยงอแขนดึงตัวว่านเข้าหาตัวผมแล้วกอดว่านไว้ ว่านค่อยๆคลายแรงกัดลง ผมก้มลงช้าๆก่อนที่จะไปหยุดตรงคอว่าน ผมจูบลงไปเบาๆ ตอนนี้ว่านคลายแรงที่กัดแขนผมไว้จนหมด ผมเลื่อนมือไปลูบริมฝีปากว่านเบาๆ โดยที่ปากผมยังแนบชิดกับคอของว่านอยู่ผมหายใจรถต้นคอน้องอยู่อย่างนั้น หัวใจว่านเริ่มเต้นแรงขึ้นจนผมรู้สึกได้ ผมค่อยๆกอดว่านแน่นขึ้น มืออีกข้างผมลูบที่อกของว่านเหมือนที่เคยทำกับบี....ผมคิดถึงบีจัง........แต่..อ๊ะ!! นี่ผมทำอะไรอยู่......ที่ผมกอดอยู่นี่ไม่ใช่บีนี่นา ผมค่อยๆคลายมือออกมาจากตัวว่านช้าๆ พอผมปล่อยมือออกว่านก็หันมามองผม...มือขวาผมยังคงจับบ่าซ้ายของว่านไว้อยู่ ผมไม่รู้ว่าสายตาแบบนั้นของว่านมันสื่อว่าอะไร ว่านคิดอะไรอยู่ ทำไมถึงไม่ขัดขืนล่ะ แล้วนี่ผมทำอะไรอยู่ ว่านยืนยิ่งไม่พูดอะไร บรรยากาศตอนนี้มันเงียบไปแล้ว....


“หิวอะไรไหม” ผมถามว่าน
“คะ...ครับ” ว่านตอบกลับมาเหมือนตกใจกับคำถามของผม
“ทานก๋วยเตี๋ยวกัน”
“ได้ครับ”


        วันนั้นตอนทานก๋วยเตี๋ยวผมไมได้คุยอะไรกับว่านเลย ว่านเองก็แค่หันมายิ้มๆไม่ได้พูดอะไร ตอนไปส่งว่านผมก็แค่จับมือว่านไว้เหมือนเคยตลอดทางไม่มีเสียงสนทนาอะไรเกิดขึ้นเลย ไม่รู้ซิครับ ผมไม่ชอบที่มันเงียบแบบนี้ แต่ผมก็ไม่รู้จะทำยังไง จนกระทั่งมาถึงบ้านว่าน พอว่านลงจากรถว่านก็หันมายิ้มๆ


“ว่าน” จู่ๆผมก็เรียกว่านทั้งๆที่ไม่มีเรื่องอะไรเลย
“ครับ” ว่านหันกลับมา
“เอ่อ....” ให้ตายซิผมเรียกน้องทำไมกันเนี่ยะ
“ขอเมลล์หน่อยซิ”
“อ่อครับ พี่มีประดาษไหม”
“มะ...ไม่มี...เอางี้ส่ง SMS มาแล้วกัน”
“ได้ครับ”
“งั้นพรุ่งนี้เจอกัน”
“ครับผม”



To Be Con
หัวข้อ: Re: น้องชาย 2 ( Up ช่วงที่ 13 : 22/05/11 )
เริ่มหัวข้อโดย: HydrA ที่ 22-05-2011 23:00:34
ว่านอยู่กับเพื่อนกลุ่มนี้ดูว่านร่าเริงมากเลยค่อยสมวัยหน่อย
หัวข้อ: Re: น้องชาย 2 ( Up ช่วงที่ 13 : 22/05/11 )
เริ่มหัวข้อโดย: donutnoi ที่ 23-05-2011 07:27:31
 :L2: :กอด1: :L2:

ไม่ชอบโค้ชเลย  :beat:
หัวข้อ: Re: น้องชาย 2 ( Up ช่วงที่ 13 : 22/05/11 )
เริ่มหัวข้อโดย: icyblue ที่ 23-05-2011 13:02:38
ว่านพาเพื่อนมาเรียนด้วย ดูท่าจะเรียนสนุกมากขึ้น


แต่ก็สงสารเพื่อนๆน้องว่าน เจอโค้ชแบบนี้ จะเรียก เป็น bad impression ได้ป่ะเนี่ย o22
หัวข้อ: Re: น้องชาย 2 ( Up ช่วงที่ 13 : 22/05/11 )
เริ่มหัวข้อโดย: bbyuqin ที่ 23-05-2011 17:34:23
แมวโคตรโหด เออข่าวนี้ฮาจริงอะไรจริง  :jul3:

เวลาว่านอยู่กับเพื่อนๆกลุ่มนี้ดูเป็นเด็กอารมณ์ดีสมวัยอ่ะ

แต่ก็แอบคิดนะว่าว่านจะมีมุมที่คิดรึปล่าวว่าพี่เอมองตัวเองเหมือนเป็นตัวแทนของบี (ทั้งๆที่น้องเองก็พยายามทำให้ได้เหมือนบีเผื่อพี่เอจะได้เอ็นดูตัวเองบ้าง)

ส่วนโค้ช...เฮ้อ เพลียใจตลอดเวลา

+1 จ้า
หัวข้อ: Re: น้องชาย 2 ( Up ช่วงที่ 13 : 22/05/11 )
เริ่มหัวข้อโดย: me_alone ที่ 23-05-2011 18:59:40
ว่านอยู่กับเพื่อนกลุ่มนี้ดูว่านร่าเริงมากเลยค่อยสมวัยหน่อย

 :กอด1: ~ อ่าครับ แต่หลายทีว่านก็ยังเงียบๆอยู่



:L2: :กอด1: :L2:

ไม่ชอบโค้ชเลย  :beat:

 :เฮ้อ: ~ นั่นซิครับ



ว่านพาเพื่อนมาเรียนด้วย ดูท่าจะเรียนสนุกมากขึ้น
แต่ก็สงสารเพื่อนๆน้องว่าน เจอโค้ชแบบนี้ จะเรียก เป็น bad impression ได้ป่ะเนี่ย o22

 :กอด1: ~ น้องเกมน่ารักสุดเลยครับ
 :o12: ~ แต่ตอนหลังผมถูกเกมกัดแขน กัดมือไปหลายทีเลย ( เกมกัดผมเลียนแบบว่าน )




แมวโคตรโหด เออข่าวนี้ฮาจริงอะไรจริง  :jul3:

เวลาว่านอยู่กับเพื่อนๆกลุ่มนี้ดูเป็นเด็กอารมณ์ดีสมวัยอ่ะ

แต่ก็แอบคิดนะว่าว่านจะมีมุมที่คิดรึปล่าวว่าพี่เอมองตัวเองเหมือนเป็นตัวแทนของบี (ทั้งๆที่น้องเองก็พยายามทำให้ได้เหมือนบีเผื่อพี่เอจะได้เอ็นดูตัวเองบ้าง)

ส่วนโค้ช...เฮ้อ เพลียใจตลอดเวลา

+1 จ้า

 :กอด1: ~ จะว่าไปที่ว่านมาอ้อนๆก็อ้อนแบบบีนะครับ
หัวข้อ: Re: น้องชาย 2 ( Up ช่วงที่ 13 : 22/05/11 )
เริ่มหัวข้อโดย: yunjaejoong ที่ 23-05-2011 19:24:39
ไม่อยากคุยแล้วเราคิดถึง บี ง่ะ ไม่รู้ว่าทำมัยต้องคิดถึงน้องมันด้วยหรือเราคิดว่าพี่เอไม่ได้สนใจน้องมันใช่ม่ะ
หัวข้อ: Re: น้องชาย 2 ( Up ช่วงที่ 13 : 22/05/11 )
เริ่มหัวข้อโดย: me_alone ที่ 23-05-2011 21:19:45
ช่วงที่ 14





        อีกไม่กี่อาทิตย์ก็ถึงวันแข่งกีฬามหาวิทยาลัยแล้ว อืม.....ปีนี้น่าเสียดายที่ผมไม่ได้มีชื่อในกลุ่มผู้จัดการทีมเลยถึงแม้ว่าจะเข้าประชุมแทนโค้ชบ่อยๆก็เถอะหนนี้ผมคงทำได้แค่ส่งกำลังใจไปให้น้องๆสินะ ส่วนเรื่องของบีเองจะว่าไปหลังจากที่เหงาๆอยู่ช่วงหนึ่งแต่การที่ว่านเข้ามาในชีวิตผม มันก็ทำให้ผมบรรเทาความคิดถึงบีไปมากพอควรเลย เพราะว่านถึงแม้จะทำตัวเหมือนผู้ใหญ่ แต่ยังไงว่านก็ยังเป็นเด็กชายอยู่ดี ต้องมีเรื่องให้ผมคอยบอกคอยสอนอยู่เรื่อยๆ แล้วก็อีกไม่กี่วันพี่ป้อมก็จะกลับมาสอนเหมือนเดิม พี่ป้อมกลับมาก็ดีนะครับจะได้ช่วยเบรกเรื่องที่โค้ชทำๆอยู่นี่ให้เพลาๆลงไปหน่อยก่อนที่เด็กจะหายหมด อีกอย่างวันนี้ก็เป็นวันหยุด เสื้อผ้าก็ซักเสร็จหมดแล้ว กลายเป็นว่าผมว่างมากๆ ...ทำอะไรดีหว่า....แต่ขณะนั้นเอง ขณะที่ผมกำลังคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อยอยู่หน้าคอมเสียงเตือนข้อความก็ดังขึ้นเบาๆ ผมหันไปมองโทรศัพท์ที่วางอยู่หน้าคอม

“1 ข้อความใหม่ : ว่าน”
“หืมม...ว่านเหรอ” ผมคิดในใจก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดดูข้อความ
“พี่ดูเรื่อง Detective Dee กันไหมครับ”

        พออ่านข้อความจบจู่ๆรอยยิ้มก็ปรากฏขึ้นบนหน้าของผมแบบอัตโนมัติ ผมไม่รู้ว่าเพราะอะไรทำไมจู่ๆถึงรู้สึกดีใจที่จะได้เจอว่าน ผมรีบโทรกลับทันที

“ตรู๊ดดดด....ตรู๊ดดดด.....แกร๊ก.....ครับ”
“เตรียมตัวยัง เดี๋ยวพี่มารับ” ผมถามว่าน
“ยังเลย แต่พี่มารับเลยก็ได้ ผมเปลี่ยนชุดแป๊บเดียว”
“ได้ๆ ห้านาทีเจอกัน”

        พอวางสายเสร็จผมรีบเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วตรงดิ่งไปที่บ้านว่านอย่างรวดเร็ว เมื่อมาถึงก็เจอว่านยืนรอหน้าบ้านเรียบร้อยแล้ว พอรถจอดนิ่งว่านก็รีบกระโดดขึ้นรถทันที วันนี้ว่านแต่งตัวเท่อีกแล้วกางเกงยีนสีน้ำเงิน เสื้อคอกลมสีขาว เสื้อยีนใส่ทับอีกตัว กับ รองเท้าผ้าใบสีขาวตัดน้ำเงิน แล้วก็แหวน กับ สร้อยเงินจากการ์ตูนอะไรสักเรื่องแน่ๆ

“ใส่ชุดนี้หล่อดี” ผมพูดขึ้น
“....” ว่านไม่ตอบอะไรกลับมานอกจากเอานิ้วมาจิ้มๆหลังผม
“คุณแม่ล่ะ”
“อาทิตย์นี้แม่ไม่มา” ว่านตอบกลับมา
“เหรอ ไม่เป็นไรอยู่กับพี่ก็ได้”
“.....” ว่านไม่ตอบอะไรกลับมาเหมือนเคย
   
        ไม่นานนักผมก็มาถึงโรงหนังเนื่องจากวันนี้วันหยุดรถเยอะมากหลังจากขับรถวนไปสองรอบก็ยังไม่มีวี่แววว่าจะได้ที่จอดผมเลยหันไปบอกว่านว่า

“ไปซื้อตั๋วก่อนก็ได้นะ ได้ที่จอดรถแล้วเดี๋ยวพี่จะรีบตามขึ้นไป”
“ไม่เอา จะอยู่กับพี่” ว่านตอบกลับมา พลางเอามือมากำที่ชายเสื้อของผม
“เอางั้นก็ได้”


        หลังจากวนอยู่ประมาณห้ารอบผมก็ได้ที่จอดครับ ทันทีที่จอดรถเสร็จผมก็จูงมือว่านไปที่โรงหนังซึ่งอยู่ชั้นบนสุดของห้างทันทีทันทีที่ขึ้นไปถึงผมก็ตรงดิ่งไปดูโปรแกรมฉาย รอบที่เร็วที่สุดตอนนี้คือรอบบ่ายสองกว่าๆ หลังจากดูรอบเสร็จแล้วผมก็บอกให้ว่านไปนั่งรอตรงที่โรงหนังจัดไว้ให้นั่งรอ แต่ว่านก็ปฏิเสธที่จะไปด้วยเหตุผลเดียวกับก่อนหน้านี้ “จะอยู่กับพี่”หลังจากซื้อตั๋วเสร็จแล้วผมก็พาว่านไปซื้อน้ำมานั่งดื่มที่เดิมกับที่มานั่งรอดูหนังกันทุกๆครั้ง วันนี้หัวข้อสนทนาระหว่างผมก็ว่านก็เป็นเรื่องหนัง เรื่องเกร็ดประวัติศาสตร์เล็กน้อยเกี่ยวกับจักรพรรดินีองค์เดียวในประวัติศาสตร์จีนตอนที่ผมเล่าว่านทำท่าสนใจมากทีเดียว แต่แล้วระหว่างนั้นโทรศัพท์ผมก็ดังขึ้น จากที่ว่านจ้องหน้าผมอยู่ดีๆก็เปลี่ยนไปจ้องที่มาของเสียงโทรศัพท์แทน ผมหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาจากกระเป๋า


“พี่ต้อม Caliing” ผมยืนมองพลางคิดในใจว่าจะรับดีไหม แต่สุดท้ายก็....
“ครับ”
“เอ นี่พี่ต้อมนะ มาที่กองเดี๋ยวหนึ่งซิมีเรื่องด่วนมากๆ” พี่ต้อมพูดด้วยน้ำเสียงที่ร้อนรนสุดๆ
“ด่วนมากหรือเปล่าครับ” ผมถามกลับไปจริงๆด้วยน้ำเสียงร้อนรนแต่แรก ก็เพียงพอจะทำให้ผมพอจะทราบดึงความเร่งด่วนได้ แต่ผมอยากได้ยินซ้ำเพื่อความมั่นใจอีกที
“มาก แป๊บเดียวนะ แป๊บเดียวจริงๆ”
“ครับ ได้เดี๋ยวผมเข้าไป”

        พอวางสายเสร็จผมก็หันไปมองว่านที่จ้องดูตลอดการสนทนาอย่างไม่วางตา

“ว่าน พี่มีธุระด่วน ว่านดูไปก่อนเลยนะเดี๋ยวพี่จะรีบกลับมา” ผมพูดจบก็ยื่นตั๋วให้ว่าน
“ไม่....ผมไปด้วย” ว่าน พูดขึ้นพลางเอามือดันตั๋วที่ผมยื่นให้กลับมาคืน
“ทำไมละครับ หนังจะฉายแล้วอีกสามสิบนาทีเอง ถึงมันจะดูนาน แต่ไปกลับพี่ว่ามันนานกว่าสามสิบนาทีแน่ๆ” ผมอธิบายให้ว่านฟัง
“ก็ผมอยากไปกับพี่”
“ว่านรอนี่แหละ ถ้าพี่มาช้าว่านก็เข้าไปดูก่อนเลย”
“.....” ว่านไม่ตอบเป็นคำพูดแต่ตอบกลับเป็นอวัจนภาษาด้วยการส่ายหน้าว่าไม่ยอมอยู่ที่นี่แทน
“งั้นไปก็ไป”
“ครับ” ว่านยิ้มทันทีที่ผมตอบกลับมา


        แล้วผมก็รีบตรงไปที่มหาวิทยาลัยอย่างรวดเร็วผมพยายามใช้เส้นทางที่เลี่ยงไฟแดงแล้วก็ลัดที่สุดเท่าที่จะทำได้แต่กระนั้นกว่าจะมาถึงมหาวิทยาลัยก็ปาเข้าไปยี่สิบนาที พอมาถึงกองผมก็ให้ว่านยืนคอยอยู่ด้านหน้าส่วนผมก็เข้าไปข้างใน พอเข้าไปถึงผมก็พบว่าที่กองวันนี้ไม่มีใครมาทำงานเลย ถ้ามีเรื่องด่วนต้องตามกันขนาดนี้ในวันหยุดแบบนี้แสดงว่ามันต้องสำคัญมากแน่ แล้วผมก็รีบจ้ำอ้าวเข้าไปในห้องพี่ต้อมอย่างรวดเร็ว แล้วทันทีที่ผมเปิดประตูเข้าไปผมก็พบพี่ต้อมกำลังนั่งคุยอยู่กับอาจารย์อิฐซึ่งท่านเป็นผู้อำนวยการกองกิจการนักศึกษา


“อ่าว เอ มาแล้วเหรอ นั่งก่อนๆ” พี่ต้อมหันมากวักมือเรียกผมให้มานั่งข้างๆ
“สวัสดีครับ” ผมยกมือไหว้อาจารย์อิฐกับพี่ต้อม แล้วทันทีที่ผมนั่งลงพี่ต้อมไม่รอช้ารีบพูดเช้าประเด็นทันที
“เอ...ร้านที่เค้ารับสั่งอุปกรณ์กีฬาเค้าโทรมาบอกว่าโค้ชเราเค้าไปเปลี่ยนยี่ห้อสินค้าแล้วก็สั่งของเพิ่มมา เอรู้เรื่องนี้ไหม”
“ครับ เห็นโค้ชเค้าบอกผมเมื่อวานก่อนอยู่ว่าจะเข้าไปเปลี่ยนยี่ห้อ เพราะพี่ต้อมบอกเค้าว่าที่สั่งไปก่อนหน้านี้มันแพงไป แต่ที่โค้ชไปสั่งผมไม่ได้ไปด้วยนะ”
“อืม...คืออย่างนี้นะเอ” อาจารย์อิฐพูดกับผมด้วยท่าทางเคร่งเครียดเล็กน้อย
“โค้ชเราเค้าไปเปลี่ยนยี่ห้อจริง แต่เปลี่ยนให้มันแพงขึ้น แถมยังสั่งของเพิ่มด้วยโดยที่ไม่แจ้งทางกองก่อน”
“ครับ” ผมไม่รู้จะพูดอะไรเลยตอบไปอย่างนั้น
“เราลองไปคุยกับโค้ชเค้าหน่อยนะเรื่องนี้ คือถ้าเค้าไม่สามารถสั่งอุปกรณ์ในงบที่เรามีได้ เค้าจำเป็นจะต้องออกค่าใช้จ่ายเอง” อาจารย์อิฐพูดออกมาด้วยน้ำเสียงเครียดๆ
“เกินไปเท่าไหร่เหรอครับ” ผมถามกลับไป
“ค่าอุปกรณ์เกินไปห้าพันสี่” พี่ต้อมหันมาตอบ
“อ่าว...แล้วพี่ต้อมได้คุยกับเค้าเรื่องวงเงินที่จำกัดไหมครับตอนที่บอกเค้า”
“พี่ก็บอกไปแล้วว่างบไม่เกินหนึ่งหมื่น ทำยังไงก็ได้ให้ไม่เกินนี้” พี่ต้อมตอบกลับมาแบบอารมณ์เสียนิดๆ
“คือ...อย่าว่าอย่างนั้นอย่างนี้นะพี่ ผมอยากให้พี่ติดต่อกับโค้ชโดยตรงเลยดีกว่า ผมเป็นรุ่นน้องเค้า ไปพูดเค้าไม่ฟังผมหรอก”
“พี่โทรไปหลายครั้งแล้วเค้าไม่รับ บางทีก็ไม่ติด พี่เลยไม่รู้จะติดต่อเค้ายังไง” พี่ต้อมตอบด้วยท่าทีเซ็งสุดๆ
“งั้นเดี๋ยวผมจะบอกให้นะพี่”
“ยังไงรบกวนด้วยนะ ถ้าเค้าไม่ยอมเปลี่ยน พี่ก็คงต้องหักเงินเค้าล่ะ”
“อ่า ครับ”

        แล้วผมก็ออกมาจากห้องโดยพี่ต้อมลุกเดินตามประกบมาด้วยระหว่างที่เดินผมเลยถามพี่ต้อมไปว่า

“เห็นโค้ชเค้าสั่งอุปกรณ์คาราเต้ไปหรือยังครับ”
“ยังนะ”
“หือ...คราวก่อนเห็นเค้าเข้ามาที่กองนี่ครับ เค้าบอกผมว่ามาสั่งอุปกรณ์คาราเต้”
“ไม่มีนะพี่เห็นแค่มาขอใช้คอมหาอุปกรณ์คาราเต้ แล้วก็ออกไป ไม่เห็นสั่งอะไรเลย”
“อ่าว...แล้วที่เกินๆไปนี่อุปกรณ์คาราเต้ด้วยหรือเปล่าครับ”
“ไม่รู้ เอดูซินี่รายการที่เค้าสั่ง” พี่ต้อมพูดจบก็ยื่นใบสั่งของให้ผมดู
“อืม....” ที่ผมดูมันไม่มีรายการอุปกรณ์คาราเต้จริงด้วย
“เป็นไง มีไหม” พีต้อมถาม
“ไม่มีครับ ของเทควันโดหมดเลย”
“งั้นพี่ขอตัวก่อนนะ ยังไงฝากบอกโค้ชเค้าด้วย”
“ครับพี่”

        แล้วพี่ต้อมก็เดินแยกไป ส่วนผมก็รีบเดินไปหาว่านที่รออยู่ข้างหน้า แต่ก่อนที่ผมจะออกพ้นประตูกองกิจการนักศึกษาผมก็เจอพี่นัทยืนอยู่ตรงประตูทางออกท่าทางเหมือนกำลังยืนมองอะไรอยู่อ้อลืมบอกไปพี่นัทเป็นนายกสโมสรนักศึกษาครับ พอผมเดินเข้ามาใกล้พี่เค้า ผมก็ทักตามมารยาท

“พี่นัท สวัสดีครับ”
“อ่าว เอ สวัสดีจ๊ะ มาทำอะไรวันหยุด” พี่นัทถามผม
“แล้วพี่ละไม่ไปเที่ยวไหนเหรอพี่ ทำแต่งานกิจกรรม ระวังงานทับตายนะพี่”
“บ้า ไม่หรอก ว่าแต่...เอพาใครมาหน่ะ” พี่ต้อมพูดพลางมองไปที่รถผมจอดอยู่
“อ๋อ น้องครับพี่”
“น้องแท้เหรอ หรือ น้องญาติ หรือ น้องรู้จักกันเฉยๆ” พี่นัทถามด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น
“ทำไมอะพี่ จะจีบเหรอ” ผมพูดแบบติดตลกออกไป
“ใช่จ๊ะ อุ๊ย พี่ล้อเล่น” พี่นัทพูดพลางหัวเราะ
“น้องเค้ามีคนสนใจแล้วล่ะครับ” ผมตอบพี่นัทไป
“แล้วน้องเค้าสนใจคนนั้นหรือเปล่าล่ะจ๊ะ” พอพี่นัทพูดจบ จู่ๆผมก็รู้สึกไม่พอใจเท่าไหร่ที่พี่นัทมีท่าทีสนใจว่านแบบนี้
“สนซิครับ เนี่ยะยังร้องตามไปโน้นไปนี่ด้วยอยู่เลย” ผมตอบกลับไป
“เหรอ ว๊า เสียดายจัง ว่าแต่น้องหล่อมากเลย เอมีเบอร์ไหมพี่ขอหน่อยซิ”
“ขอกับน้องเองดีกว่าครับ ผมไปก่อนนะ” ผมตัดบททันทีก่อนจะเดินออก
“อ่าว เอ ไปแล้วเหรอ นี่ๆถ่ายรูปน้องมาฝากพี่ด้วยนะ บอกน้องด้วยว่ามีคนแอบชอบ” พี่นัทพูดไล่หลังผมมา

        จู่ๆที่อารมณ์ดีๆอยู่ก็กลับขุ่นมัวขึ้นมาซะงั้นพอรู้ว่ามีคนมาทำท่าทีสนใจว่าน ผมรู้สึกไม่ชอบยังไงก็ไม่รู้ พอผมเดินมาถึงที่รถว่านก็หันมายิ้มให้แล้วก็ทำท่าทางเหมือนมีเรื่องอะไรจะเล่าให้ผมฟังอย่างนั้นแหละ ผมเลยถามไปว่า

“เป็นไง รอนานหรือเปล่า”
“เปล่า เร็วกว่าที่คิดอีก”
“อืม.....”
“พี่...” ว่านเรียกผมเบาๆ
“ว่า”
“เมื่อกี้มีพี่สาวมาคุยแล้วก็ขอเบอร์ผมด้วย” ว่านพูดด้วยท่าทีตื่นเต้น
“เหรอ...แล้วให้เค้าไปหรือยัง”
“ยังครับ ไม่ได้ให้ แต่พี่เค้าให้เบอร์เค้ามาแทน”
“ก็อย่าลืมโทรไปแล้วกัน” ผมเผลอพูดตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงหงุดหงิดใส่ว่าน
“......” ว่านถึงกับเงียบเลย
“คงไปดูไม่ทันแล้วล่ะ กลับเลยไหม” ผมถามว่าน
“พี่...โกรธเหรอ” ว่านตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงสั่นๆ
“เปล่า”
“......” ว่านไม่ได้พูดอะไรต่อ แต่ว่า....เคยเห็นน้องหมาเวลาถูกเราดุไหมครับ....ว่านตอนนั้นทำท่าทางแบบนั้นเลย
“ไปหาอะไรทานกันไหม” ผมถามว่าน
“กะ....ก็ได้ครับ”
“โทษที พี่หงุดหงิดนิดหน่อยหน่ะ”พูดจบผมก็ตบไหล่ว่านเบาๆ
“....” ว่านไม่ตอบแต่หันมายิ้มแทน

        แล้วผมก็พาว่านไปอุดหนุน KFC อีกครั้งก่อนจะแวะไปนั่งทานที่สนามกีฬา ตอนบ่ายๆที่สนามกีฬาคนน้อยดีมันเป็นเหตุผลที่ผมเลือกมาจะได้นั่งทานได้แบบสบายๆหน่อย พอมาถึงผมก็พาว่านขึ้นไปนั่งทานที่อัฒจันทร์ฝั่งที่มีหลังคา หลังจากจัดแจงที่นั่งเรียบร้อยแล้วผมก็นั่งทานพลางคุยไปเรื่อยเปื่อยกับว่าน

“อดดูหนังเลยเน๊าะ”
“ไม่เป็นไรครับ”
“คราวหน้าแล้วกัน”
“แล้วแต่พี่”
“อืมม.....ว่านพี่ถามอะไรหน่อยซิ”
“ครับ”
“ว่านมีคนมาจีบบ้างไหม”
“.....ก็....ตอนไปแข่งกีฬาครั้งเดียว” ว่านหันมาตอบผม
“แล้วมีสาวๆเข้ามาคุยด้วยเยอะไหม”
“ก็มีบ้าง”
“แล้ว......ว่านสนใจใครบ้างหรือเปล่า....หมายถึง...ชอบใครบ้างยัง”
“......ยังครับ”
“ถามจริง” ผมหันมามองว่านแล้วถามซ้ำ
“จริง”
“อืมมม....ว่านน่ารักดีเนาะ ฮ่ะๆ”
“......” ว่านไม่ตอบอะไรกลับมาแต่เอานิ้วมาจิ้มบ่าผมเบาๆ
“แล้วพี่ละ....มีแฟนยัง” ว่านถามกลับ
“พี่เหรอ....ว่านคิดว่ามีหรือยังล่ะ”
“ก็....ไม่รู้ถึงได้ถามไงครับ อิอิ”

        วันนั้นผมนั่งคุยไปเรื่อยเปื่อยกับว่านจนค่ำก่อนจะพาว่านไปส่งที่บ้าน ระหว่างทางผมก็ถามว่านซ้ำเรื่องที่ว่านไม่ยอมรอที่โรงหนังว่านก็ตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงเศร้าๆว่า “ผมไม่อยากอยู่คนเดียว” พอได้ยินคำนี้.....ผมก็คิดในใจว่า....จากวันนี้...ผมจะไม่ปล่อยให้ว่านต้องอยู่คนเดียวอีก ผมจะพยายามอยู่กับว่านให้นานที่สุดเท่าที่ผมจะทำได้ ซึ่งผมเองก็ไม่รู้ว่าน้องจะต้องการไหม แต่ถ้ามันจะทำให้น้องมีความสุขผมก็จะทำ



To Be Con
หัวข้อ: Re: น้องชาย 2 ( Up ช่วงที่ 14 : 23/05/11 )
เริ่มหัวข้อโดย: reneisance ที่ 23-05-2011 21:50:20
เอ่อคาดว่า น้องว่านต้องเสร็จพี่เอแน่เรยห้าๆๆๆ ยังไงก็ คิดดีๆๆก่อนที่จะทำอะไรลง มันจะไม่ได้เหมือนบีหรอกนะ เลือกทืี่จะรัก หรือ เลือกทีจะสูญเสีย
หัวข้อ: Re: น้องชาย 2 ( Up ช่วงที่ 14 : 23/05/11 )
เริ่มหัวข้อโดย: ต้นหอม ที่ 23-05-2011 22:32:58
ไม่อยากคุยแล้วเราคิดถึง บี ง่ะ ไม่รู้ว่าทำมัยต้องคิดถึงน้องมันด้วยหรือเราคิดว่าพี่เอไม่ได้สนใจน้องมันใช่ม่ะ

 :กอด1: ~ ยังคิดถึงน้องอยู่ทุกวันเลยครับ




เอ่อคาดว่า น้องว่านต้องเสร็จพี่เอแน่เรยห้าๆๆๆ ยังไงก็ คิดดีๆๆก่อนที่จะทำอะไรลง มันจะไม่ได้เหมือนบีหรอกนะ เลือกทืี่จะรัก หรือ เลือกทีจะสูญเสีย

 :กอด1: ~ ครับผม



ปล. พอดีเปลี่ยน EMail ผมน่าจะใส่ Email ผิด เลยไม่ได้รับรหัสยืนยัน ตอนนี้ส่งข้อความไปขอความช่วยเหลือจาก mod แล้ว หวังว่าจะได้ ID มาคืนในเร็ววัน ระหว่างนี้ขอใช้ ID น้องตอบไปก่อนนะครับ
หัวข้อ: Re: น้องชาย 2 ( Up ช่วงที่ 14 : 23/05/11 )
เริ่มหัวข้อโดย: •ไนท์คลุง• ที่ 24-05-2011 17:49:04
อร๊ายยย อยากอ่านต่อแล้ว เข้ามารอครับ


 :z2: :z2:
หัวข้อ: Re: น้องชาย 2 ( Up ช่วงที่ 14 : 23/05/11 )
เริ่มหัวข้อโดย: me_alone ที่ 24-05-2011 19:00:53
อร๊ายยย อยากอ่านต่อแล้ว เข้ามารอครับ
 :z2: :z2:


 :กอด1: ~ วันนี้ Up ดึกหน่อยนะครับ พอดีคนตรวจอักษรเค้าต้องไปวอร์ดดูคนไข้น่าจะกลับดึกหน่อย
หัวข้อ: Re: น้องชาย 2 ( Up ช่วงที่ 14 : 23/05/11 )
เริ่มหัวข้อโดย: •ไนท์คลุง• ที่ 24-05-2011 19:23:10
อร๊ายยย อยากอ่านต่อแล้ว เข้ามารอครับ
 :z2: :z2:


 :กอด1: ~ วันนี้ Up ดึกหน่อยนะครับ พอดีคนตรวจอักษรเค้าต้องไปวอร์ดดูคนไข้น่าจะกลับดึกหน่อย

 :กอด1: :กอด1:  ว้าา ดึกๆหรอ พรุ่งนี้ไปทำงาน ToT
หัวข้อ: Re: น้องชาย 2 ( Up ช่วงที่ 14 : 23/05/11 )
เริ่มหัวข้อโดย: me_alone ที่ 24-05-2011 19:25:20
:กอด1: :กอด1:  ว้าา ดึกๆหรอ พรุ่งนี้ไปทำงาน ToT

 :กอด1: ~ ไม่น่าจะเกิน 5 ทุ่มครับ คาดว่านะครับ เพราะไม่กล้าโทรไปถามตอนเค้าตรวจคนไข้
หัวข้อ: Re: น้องชาย 2 ( Up ช่วงที่ 14 : 23/05/11 )
เริ่มหัวข้อโดย: •ไนท์คลุง• ที่ 24-05-2011 19:39:57
:กอด1: :กอด1:  ว้าา ดึกๆหรอ พรุ่งนี้ไปทำงาน ToT

 :กอด1: ~ ไม่น่าจะเกิน 5 ทุ่มครับ คาดว่านะครับ เพราะไม่กล้าโทรไปถามตอนเค้าตรวจคนไข้

รับทราบนะครับ จะรอนะครับ
หัวข้อ: Re: น้องชาย 2 ( Up ช่วงที่ 14 : 23/05/11 )
เริ่มหัวข้อโดย: HydrA ที่ 24-05-2011 22:08:07
อันไหนทำแล้วมีความ สุขก็ทำไปโลด
หัวข้อ: Re: น้องชาย 2 ( Up ช่วงที่ 14 : 23/05/11 )
เริ่มหัวข้อโดย: me_alone ที่ 24-05-2011 23:55:19
ช่วงที่ 15




        ใครเป็นเหมือนผมบ้างวันไหนที่มีเรียนแต่คาบบ่าย ไม่มีคาบเช้ามักจะตื่นสายๆเป็นประจำ เว้นว่า....มีงานค้างที่ต้องปั่นให้ทันตอนบ่ายนี้ถึงจะตื่นแต่เช้าไปนั่งปั่นงาน แต่เนื่องจากว่าวันนี้งานปั่นเสร็จแล้ว ผมเลยขอนอนให้เต็มเหยียดสักหน่อย ในขณะที่ผมกำลังนอนหลับแบบเคลิ้มๆอย่างมีความสุขอยู่บนเตียงนอนนุ่มๆผ้านวมอุ่นๆกับแอร์ที่เปิดไว้ที่ยี่สิบสององศา เสียงโทรศัพท์เครื่องหลักผมก็ดังขึ้น ผมค่อยๆเอามือคลำๆไปหาโทรศัพท์ที่วางไว้อยู่บนหัวนอนก่อนจะหยิบมาดูว่าใครกันหนอที่โทรมา

“พี่ป้อม Calling”  อืมมม ผมเพ่งมองอยู่พักหนึ่งก่อนจะกดรับสาย
“ครับพี่” ผมตอบรับไปด้วยน้ำเสียงแบบคนเพิ่งตื่นนอนใหม่ๆ
“อ่าว ยังไม่ตื่นเหรอ” พี่ป้อมตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงตกใจนิ๊ดๆ
“ตื่นแล้วพี่ แต่ขี้เกียจลุก เลยนอนเล่น”
“อ่อ เหรอ คิดว่าโทรมากวนซะอีก”
“ไม่ครับพี่”
“นี่เอ พี่เข้าไปสอนอาทิตย์หน้านะ”
“อ่าครับ”
“แล้วก็....พี่ฝากดูน้องใหม่ด้วย ญาติพี่หน่ะ น่าจะเข้าไปเรียนวันนี้แหละ”
“อืม ได้ครับพี่”
“น้องเค้าชื่อก๊อตนะ ยังไงก็ฝากด้วยแล้วกัน”
“ครับๆ”
“โอเคๆ พี่ไม่กวนละ”


        เด็กใหม่เหรอ....อืม...จะว่าไปเด็กที่มาเรียนที่นี่ส่วนใหญ่พี่ป้อมเป็นคนหามาทั้งนั้นเลย ไม่ก็เพื่อนๆชวนกันมา มีแทบนับหัวได้ที่เข้ามาเรียนเองจากป้าย หรือ ใบประกาศที่แจกออกไป อย่างตองเองก็เป็นลูกของคนรู้จักพี่ป้อมเหมือนกัน คราวนี้ก็น้องก๊อตเหรอ กี่ขวบน๊า หน้าตาเป็นไงหว่า ผมนอนคิดพลางกลิ้งไปกลิ้งมาบนเตียง ไม่รู้ซิครับ ตื่นแล้วนี่นา อีกตั้งหลายชั่วโมงกว่าจะถึงเวลาเรียน ไปหาถ่ายภาพเล่นก่อนเข้าเรียนดีกว่า แล้วเวลาก็ผ่านไปไว้เหมือนโกหก ทันทีที่เรียนเสร็จในตอนบ่ายว่านก็โทรเข้ามาหาผมทันทีเหมือนกับรับรู้ได้ว่าตอนนี้ผมว่างแล้ว


“ว่า”
“พี่เอ...ว่างไหม” ว่านพูดด้วยน้ำเสียงที่ดูเหนื่อยๆ
“เป็นอะไรหรือเปล่า”
“ผมรู้สึกไม่ค่อยสบาย มารับผมหน่อยซิครับ”
“ได้ๆ ไปเดี๋ยวนี้เลย รอที่เดิมนะ แล้วทานยาทานอะไรหรือยัง”
“ทานแล้วครับ”
“อืม เดี๋ยวเจอกัน”
“ครับ”   


        ทันทีที่วางสายผมรีบตรงดิ่งไปหาว่านทันทีโดยที่ตอนนั้นผมลืมไปด้วยซ้ำว่าผมกำลังจะไปทานข้าวเช้ารวบมื้อเที่ยงหลังจากเรียนเสร็จ ในเวลานั้นผมลืมไปหมดทุกเรื่อง...กระทั่งที่นัดกับเพื่อนว่าจะให้ลอกงาน รวมถึงนัดกับอาจารย์ที่จะเอาภาพถ่ายไปให้ เวลานั้นผมคิดถึงแต่ว่านเท่านั้น ผมรู้สึกห่วงว่านอย่างที่ผมอธิบายไม่ถูก เคยไหมครับที่รู้ว่าใครสักคนที่เรารู้จักไม่สบายหรือเจ็บป่วยอะไรก็ช่างแล้วเรารู้สึกเป็นห่วงจนแทบจะอยากเจ็บอยากเป็นแทนเค้าให้ได้ เวลานี้...ผมเองก็รู้สึกแบบนั้น ไม่นานผมก็มาถึงจุดนัดหมายผมเห็นว่านยืนท่าทางเหม่อลอยคนเดียว ผมรีบขับรถเข้าไปจอดข้างๆ ทันทีที่ผมจอดรถข้างๆว่านหันมายิ้มให้ผมท่าทางเหม่อลอยเมื่อสักครู่หายไป แต่หน้าตาว่านดูไม่สดชื่นเอาซะเลย


“ไหวไหมเนี่ย” ผมถามว่าน พลางเอื้อมมือไปอิงหน้าผากว่านเบาๆ ตัวว่านร้อนๆไม่ถึงกับร้อนมากมาย แต่สีหน้าของว่านดูไม่ดีเลยจริงๆ
“ไหวครับ ไม่เป็นอะไรมากหรอก” ว่านตอบกลับมา
“กลับบ้านพักผ่อนไหม”
“ไม่ครับ” ว่านตอบพลางยิ้ม


        แล้วผมก็พาว่านไปที่ยิมก่อนถึงยิมผมแวะ 7 – 11 เพื่อซื้อผ้าเย็น น้ำแข็ง น้ำร้อน พารา แล้วก็ แฮมชีสที่ว่านชอบ  แล้วก็ไปที่ยิม พอมาถึงยิมปรากฏว่ายังไม่มีใครมา ผมรีบประคองว่านไปนั่งที่เก้าอี้ก่อนจะเอาแฮมชีสให้ว่าน พร้อมกับวางน้ำร้อนไว้ให้ ส่วนผ้าเย็นผมก็เอาไปใส่แก้วไว้ก่อนจะเอาน้ำแข็งยัดๆลงไปพอประมาณ แล้วผมก็กลับมานั่งข้างๆว่าน


“พี่จ้องอะไร” ว่านถามผม
“มองคนป่วย”
“ไม่เท่าไหร่หรอกครับ” ว่านตอบกลับพลางยิ้มๆ แล้วเอาแฮมชีสที่อยู่ในมือขึ้นมาทาน
“ไม่ไหวก็บอกนะ”
“ไหวครับ”

        ผมไม่รู้จะทำยังไงได้แต่นั่งมองว่านอยู่แบบนั้นจนกระทั่งว่านทานแฮมชีสเสร็จผมก็ถามว่านไปว่า

“นอนเล่นรอก่อนไหม เดี๋ยวพี่เปิดพัดลมให้”
“ก็ดีครับ”

        ผมรีบเอาเก้าอี้มาวางเรียงๆกันเป็นทางยาวตามความสูงของว่าน แล้วว่านก็ล้มตัวลงนอนตามด้วยเอามือขึ้นมาก่ายหน้าผาก ผมเดินไปหยิบผ้าเย็นที่เตรียมไว้มาแกะออกแล้วก็ดึงเก้าอี้มานั่งข้างๆว่านก่อนจะเริ่มเช็ดตัวให้ว่าน ผมดึงมือว่านมาวางบนตักข้างหนึ่งก่อนจะค่อยๆเช็ดไปเรื่อยๆจากนิ้วมือทีละนิ้ว ฝ่ามือ หลังมือ แขน พอเสร็จทั้งสองข้างผมก็ถอดถุงเท้าว่านออก แล้วก็กระดุมเสื้อ....แต่ว่าพอผมเอื้อมมือมาที่กระดุมเสื้อเม็ดบนสุดว่านก็เอมือมาจับมือผมไว้

“......” ว่านลืมตามามองผมแต่ไม่ได้พูดอะไร
“เดี๋ยวเช็ดตัวให้”
“.....” ว่านไม่ตอบอะไรแต่ส่ายหน้าไปมา
“ไม่ได้ถอดหมด แค่สองเม็ด ตัวจะได้หายร้อนไง”
“.....” ว่านมองผมขณะนั้นมือว่านก็ยังจับมือผมไว้อยู่
“ไม่ต้องอายน่า”
“.....” ว่านไม่ตอบอะไร แต่ค่อยๆคลายมือออกก่อนจะหลับตาลงอีกครั้ง

        ผมเอาผ้าที่เตรียมไว้เช็ดไปที่อกว่าน คอ แก้ม หู แล้วก็หน้า ก่อนจะเอาผ้าไปซักแล้วเอามาจุ่มๆน้ำอีกครั้ง ผมค่อยๆพับผ้าให้เป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้ายาวๆตามความกว้างของหน้าผากว่าน แล้ววางผ้าลงไป

“เอาอะไรหนุนไหม” ผมถามว่าน
“.....” ว่านไม่ตอบอะไร แต่พยักหน้าตอบรับ
“หนุนตักพี่ไหม”
“.....” ว่านนิ่งไปพักหนึ่งหลังจากที่ผมถามก่อนจะตอบมาว่า “แล้วแต่”

        ผมขยับไปนั่งให้ว่านนอนหนุนมือผมข้างหนึ่งก็กุมมือว่านไว้หลวมๆ อีกข้างก็โอบหัวว่านไว้นิ้วผมลูบๆแก้มว่านเบาๆ ไม่นานนักว่านก็กลับ เวลาว่านหลับว่านเหมือนเด็กน้อยเลยแฮะ ผมนั่งอยู่กับว่านแบบนั้นพักใหญ่ๆ จนกระทั่งต้นกล้ามาถึง

“พี่เอหวัดดีครับ”
“เบาๆนะพี่ว่านหลับ”
“พี่ว่านเป็นอะไรเหรอพี่” ต้นกล้าถามผม
“พี่เค้าไม่สบาย ให้นอนไปก่อนเดี๋ยวค่อยปลุก”
“อ่อ ครับ”
“ตอนนี้จะทำอะไรก็เบาๆนะ”
“ครับพี่” ต้นกล้าพูดพลางพยักหน้าตอบรับ

        แล้วไม่นานน้องคนอื่นๆก็ทยอยๆมา รวมถึงเพื่อนว่านด้วย เวลานั้นต้นกล้าวิ่งไปบอกทุกคนที่มาใหม่ให้เงียบๆกันหมด ก็ดีเหมือนกันไม่ต้องพูดเอง เกือบหนึ่งชั่วโมงหลังจากที่ว่านหลับไปว่านก็ตื่นขึ้นมาเพราะเสียงคุยของเพื่อนๆ ถึงแม้ว่ามันจะเบาแต่มันก็ดังพอที่จะทำให้ว่านตื่นขึ้นมาแล้วมองไปหาที่มาของเสียงได้ถูกต้อง

“ตื่นแล้วเหรอ” ผมถามว่านเบาๆ
“....” ว่านยิ้มให้ผมแทนคำพูด ผมเอามืออังหน้าผากว่านอีกครั้งปรากฏว่าคราวนี้ตัวว่านไม่ร้อนแล้ว
“ตัวหายร้อนแล้ว”

        ว่านค่อยๆพยุงตัวเองลุกขึ้นนั่งก่อนจะมองไปมองมารอบๆยิมแล้วหันมาถามผมว่า

“กี่โมงแล้วครับ”
“เกือบห้าโมงแล้ว”


        พอผมพูดจบว่านก็ลุกเดินเซๆไปเปลี่ยนชุดในห้องแต่งตัวส่วนผมเหรอ ก็รีบกลับบ้านไปเปลี่ยนชุดหน่ะซิครับ พอกลับมาอีกทีก็เจอน้องก๊อตแล้ว น้องก๊อตคนนี้อยู่ ม.3 แล้วครับ อายุเท่าว่าน แต่เป็นพี่เดือน ถ้านับกันจริงๆมันก็แค่สามเดือนเอง แล้วก็น้องก๊อตคนนี้สูงมากครับ สูงกว่าผมอีกที่ถามดูก๊อตสูงเกือบหนึ่งร้อยเก้าสิบเซนแล้ว ก๊อตเป็นลูกครึ่งำทยเชื่อสายจีนครับ ผิวขาว ตาโตไม่ตี่ หน้าตาก็จัดได้ว่าดีเลยทีเดียว อืมมม...จะว่าไปเด็กมาเรียนเทควันโดส่วนมากหน้าตาดีกันทั้งนั้นเลยนะครับ ฮะๆๆ วันนั้นพอผมมาถึงก็เจอก๊อตกำลังนั่งคุยกับโค้ชอยู่ แล้วพอผมเข้าไปในยิมโค้ชก็ให้ผมไปสอนก๊อตเกี่ยวกับพื้นฐานต่างๆคำสั่งภาษาเกาหลีที่ใช้ในการฝึก รวมถึงท่าต่างๆเบื้องต้นที่จำเป็นต้องรู้เป็นพื้นฐาน เท่าที่ได้สอนก๊อตแรกๆก๊อตดูเป็นเด็กว่านอนสอนง่ายครับบอกอะไรก็ทำตาม ไม่ดื้อ ไม่ซน ออกจะนิ่งๆเหมือนว่านด้วยซ้ำ ที่สำคัญก๊อตค่อนข้างตั้งใจมากๆครับ

        ช่วงที่ผมสอนก๊อตตลอดสองชั่วโมง ผมหันไปมองว่านเรื่อยๆ เป็นห่วงว่าเค้าจะไม่สบายขึ้นมาอีก กลัวว่าเค้าจะฝืนซ้อมต่อไม่ยอมพักเหมือนคราวก่อนที่เจ็บขาแทบตายก็ยังทนซ้อมไม่ยอมหยุด ในระหว่างนั้นผมก็สังเกตว่าว่านเองก็หันมามองผมเรื่อยๆเหมือนกัน บางทีก็มายืนมองใกล้ๆแต่ไม่ได้พูดอะไร พอผมมองว่านก็ยิ้มให้แล้วเดินออก  แล้วก็วันนั้นก่อนหมดเวลาฝึกประมาณสิบห้านาทีโค้ชก็เรียกคุยครับ

        เรื่องที่โค้ชคุยที่มีสาระคือเรื่องที่โค้ชพวกนักกีฬาที่มหาวิทยาลัยจะมาฝึกซ้อมร่วมด้วยที่นี่ พอน้องๆได้ยินก็ต่างดีใจกันยกใหญ่ ที่เหลือโค้ชก็โม้ไปเรื่อยตามแนวทางของเค้า หลายครั้งที่ผมนั่งฟังเรื่องที่เค้าคุย ผมรู้สึกได้ถึงการปั้นน้ำเป็นตัว เพราะผมซ้อมเทควันโดที่นี่มานานแล้ว เรื่องที่โค้ชเลือกมาเล่ามักจะเป็นเรื่องช่วงที่ผมไม่ได้มาซ้อมพักหนึ่งก่อนหน้านี้ รวมถึงช่วงก่อนที่ผมจะมาซ้อมเทควันโดซะมากกว่า แต่กระนั้นก็มีหลายครั้งที่โค้ชชอบโม้ว่าไปซ้อมกับทีมชาติ ไปเตะกับทีมชาติ สนิทกับทีมชาติ ส่วนตัวผมไม่เชื่อนะ หลายครั้งที่ผมไปกีฬาใหญ่ๆได้เจอทั้งโค้ชทีมชาติ รวมถึงนักกีฬาที่ชาติที่โค้ชอ้างถึงว่ารู้จักกัน สนิทกัน แต่พอเจอกันเค้าไม่เห็นจะทักอะไรโค้ชเลยแถมเค้าเดินผ่านไปเฉยๆเหมือนคนไม่รู้จักกันด้วยซ้ำ แล้วโค้ชเองก็ไม่เห็นไปพูดไปคุยอะไรกับเค้าสักอย่าง มันผิดวิสัยของคนรู้จักกันมากๆ

        แต่ด้วยเหตุผลทางการเมืองทำให้ผมไม่สามารถจะหักหน้าทักเค้าเรื่องนี้ไปได้ เพราะเค้าวางตัวเป็นผู้รู้ที่สุดของยิม ขนาดพี่ป้อมยังต้องฟังเค้า* ผมเลยไม่สามารถทำลายความน่าเชื่อถือของเค้าลงได้ด้วยเหตุผลแบบเด็กประถมอิจฉากัน แล้วประเด็นสำคัญคือเรื่องที่เค้าพูดมันก็ไม่ได้ทำให้ใครเสียหายอะไร ที่สำคัญน้องๆเองก็ชอบฟัง บางทีเรื่องโม้ๆของโค้ชหลายครั้งก็ทำให้น้องๆมีกำลังใจซ้อมขึ้นมา หนึ่งในนั้นก็คือว่านนี่แหละครับ พอโค้ชคุยเสร็จโค้ชก็ปล่อยเด็กๆกลับบ้านเลยโดยไม่มีการทำความเคารพอะไรเหมือนเคย ผมเองก็ไม่อยากจะทัก หลังจากที่โค้ชปล่อยเด็กแล้วผมก็เดินตามโค้ชไปติดๆก่อนจะพูดว่า


“พี่ ผมมีเรื่องคุยด้วย”
“มีอะไร” โค้ชถาม
“วานก่อนพี่ต้อมเค้าเรียกผมเข้าไปคุย เรื่อง...” ยังไม่ทันที่ผมจะพูดจบโค้ชก็ตัดบททันทีว่า
“รู้แล้ว”
“......” ผมยืนอึ้งอยู่พักหนึ่ง
“ไม่ต้องไปสนใจหรอกน่า เดี๋ยวเค้าก็หาเงินมาเติมได้เองแหละ อย่าไปคิดแทนคนอื่นให้มันมากมายนักเลย” โค้ชพูดสวนกลับมาขณะที่ผมยืนอึ้งกับที่เค้าตัดบทไปเมื่อสักครู่
“แต่.....”
“ไม่ต้องแต่ล่ะ ทำตามพี่บอก ไม่ต้องไปสนใจ”
“จะดีเหรอพี่”
“เออ น่า เชื่อพี่ซิ” โค้ชหันมาพูดด้วยน้ำเสียงมั่นใจสุดๆ
“อะ...เอ่อ...ครับ”
“พี่กลับเลยนะฝากปิดยิมด้วย” พอโค้ชพูดจบเค้าก็เดินออกไปจากยิมทันที

        ผมยืนอึ้งกับแนวคิดของเค้าอยู่พักหนึ่งก่อนจะเดินไปรวมกับน้องๆที่นั่งจับกลุ่มคุยกัน พอผมเดินไปถึงน้องๆต่างทำท่าทีดีใจกันใหญ่เรียกผมเข้าไปนั่งกันไม่หยุด แต่เนื่องจากว่าวันนี้ผมปวดเข่านิ๊ดๆเลยเลือกที่จะยืนพิงกำแพงแทน พอผมยืนพิงกำแพง ว่านที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามก็รีบกระโจนมานั่งข้างๆผมทันที เกมเห็นว่านทำแบบนั้นเกมเลยกระโจนมานั่งด้วย ทันทีที่เกมนั่งลงว่านก็เอาเท้าถีบเกมออกทันที

“ไปนั่งที่อื่นเลยไป” ว่านพูดออกมาห้วนๆ
“อะไรวะ” เกมอุทานออกมา

        ในวงคุยกันวันนั้นก็เป็นเรื่องทั่วไป ก๊อตเองก็ถูกน้องๆให้ความสนใจซักถามเรื่องของก๊อตเป็นการใหญ่ ก๊อตเองก็ดูจะสนิทกับคนอื่นๆเร็วมาก จะว่าไปเพื่อนว่านเนี่ยคุยเก่งมาก เพราะความคุยเก่งถามเก่งเนี่ยะล่ะที่ทำให้สนิทกันไวมากๆ ทั้งห้าคนเหมือนพวกพิธีกรที่มีการเตี๊ยมกันมาก่อนยังไงก็ไม่รู้มีโยนไม้โยนอะไรให้กันอยู่เรื่อยๆไม่ตกร่องไม่สะดุดอะไรให้เสียงจังหวะการสนทนาเลยทีเดียว แต่ว่าในขณะที่ทุกคนนั่งคุยกันอย่างสนุกสนาน....ว่านกลับนั่งฟังแล้วก็หัวเราะตามเค้าเป็นระยะๆเท่านั้น โดยตลอดช่วงสนทนาว่านนั่งเอานิ้วชี้ลูบไปมาที่เท้าผมเรื่อยๆ.....ไม่รู้ซิผมชอบแฮะ บีเองก็ชอบทำแบบนี้ มาเกาะขาแล้วก็เอานิ้วมาลูบๆ อืมมม ตอนนี้ว่านก็กำลังทำแบบนั้นอยู่...ถ้าเป็นบี....คงจะดีซินะ....ไม่นานนักน้องๆก็ทยอยกลับจนหมดเหลือแค่ผมกับว่านตามเคย ระหว่างที่ผมกับว่านเดินปิดไฟ ปิดพัดลม ปิดหน้าต่างอยู่นั้นผมก็นึกถึงคำพูดที่ว่านพูดวันก่อน

“ว่าน.....ไปทานก๋วยเตี๋ยวกันม๊ะ”
“พี่เลี้ยงนะ”
“อืม...ก็ได้”

        พูดจบว่านก็เดินมาใกล้ๆผมพอดีผมเลยเดินไปกอดว่านจากข้างหลังเบาๆ ก่อนจะปิดยิมแล้วพาว่านไปทานก๋วยเตี๋ยวร้านเดิม พอไปถึงปรากฏว่าเจอน้องเกมยืนอยู่

“อ่าว พี่เอ ไปไงมาไงเนี่ยะ” เกมทักผม
“แล้วเกมล่ะมาทำอะไร”
“มารอแม่”
“แม่ทิ้งแล้วมั้ง” ว่าพูดขึ้น
“ตลกแล้ว” เกมตอบกลับ
“ว่านหิวอะไรก็สั่งเลยนะ” ผมบอกว่านหลังจากที่เลือกโต๊ะนั่งได้แล้ว
“ผมเอาวุ้นเส้นนะ” ผมหันไปบอกพี่พนักงานที่มายืนรอจดรายการ ไม่รู้ว่ามาตั้งแต่เมื่อไหร่ แต่พอนั่งปั๊บก็เห็นเค้ายืนอยู่ข้างๆแล้ว
“.....” ว่านนั่งนิ่งเงียบ
“ไม่สั่งเหรอ” ผมถามว่าน
“....” ว่านไม่ตอบแต่หันไปมองเกมที่ยืนอยู่ข้างๆแทน ผมหันไปมองตาม
“เกม ทานด้วยกันม๊ะ” ผมถามเกม
“พี่เลี้ยงเหรอ” เกมถามกลับ
“อืม......ก็ได้”
“งั้นผมไม่เกรงใจล่ะนะ”
“เกรงใจเป็นด้วยเหรอ” ว่านถามเกม
“เป็นซิ อะไรถามแบบนี้หาเรื่องเหรอ” เกมพูดกลับไปแบบติดตลก

        เป็นอย่างที่คาดไว้ว่านรอให้ผมเรียกเกมทานด้วยจริงๆพอเกมสั่งว่านก็สั่งตาม จะว่าไปพอเกมมาทนั่งทานด้วยก๋วยเตี๋ยววันนั้นเลยไม่เงียบเหมือนเคย อืม..มันก็ดีเหมือนกันนะ หลังจากทานเสร็จไม่นานคุณแม่น่องเกมก็มารับ หลังจากเกมกลับไปแล้วผมก็ไปส่งว่านที่บ้าน ผมก็ถามเรื่องที่ว่านไม่ยอมสั่งเมื่อสักครู่ ตอนแรกว่านไม่ยอมตอบเอาแต่เอานิ้วจิ้มๆหลังผม ไม่ก็กัดไหล่ แต่สุดท้ายก่อนไปถึงบ้านว่านก็บอกผมว่า “เกรงใจเพื่อน”



To Be Con
หัวข้อ: Re: น้องชาย 2 ( Up ช่วงที่ 15 : 24/05/11 )
เริ่มหัวข้อโดย: reneisance ที่ 25-05-2011 00:38:25
555555 รอฉากนั้นระหว่างเอ กะว่านนะ ห้าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ยังไงก็เป็นกำลังใจให้นะ ยังไม่ขอเม้นอะไรละกัน
หัวข้อ: Re: น้องชาย 2 ( Up ช่วงที่ 15 : 24/05/11 )
เริ่มหัวข้อโดย: •ไนท์คลุง• ที่ 25-05-2011 18:44:47
555555 รอฉากนั้นระหว่างเอ กะว่านนะ ห้าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ยังไงก็เป็นกำลังใจให้นะ ยังไม่ขอเม้นอะไรละกัน
รอด้วย  :z1: :laugh:
หัวข้อ: Re: น้องชาย 2 ( Up ช่วงที่ 15 : 24/05/11 )
เริ่มหัวข้อโดย: me_alone ที่ 25-05-2011 18:55:18
อันไหนทำแล้วมีความ สุขก็ทำไปโลด

 :กอด1:


555555 รอฉากนั้นระหว่างเอ กะว่านนะ ห้าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ยังไงก็เป็นกำลังใจให้นะ ยังไม่ขอเม้นอะไรละกัน
รอด้วย  :z1: :laugh:

 :กอด1: ~ ใกล้แล้วล่ะครับ


หัวข้อ: Re: น้องชาย 2 ( Up ช่วงที่ 15 : 24/05/11 )
เริ่มหัวข้อโดย: me_alone ที่ 25-05-2011 19:00:42
ช่วงที่ 16


        หลังจากที่ผมไปคุยกับโค้ชเรื่องค่าอุปกรณ์ที่เกินงบไม่สำเร็จ ผมก็ไม่ได้เข้าไปที่กองอีกเลยครับ ช่วงนั้นผมรู้สึกผิดยังไงก็ไม่รู้ ผิดที่ผมไม่สามารถทำตามคำร้องขอที่ผู้ใหญ่ร้องขอมาได้สำเร็จ แถมยังรู้สึกละอายที่โค้ชผมทำแบบนี้ เวลานั้นความรู้สึกของผมกรุ่นไปด้วยความวิตกเล็กๆว่าอาจารย์อิฐกับพี่ต้อมจะมองว่าผมกับโค้ชรู้เห็นเป็นใจกันหรือเปล่า อีกอย่างที่กองเองก็ไม่มีการติดต่ออะไรกลับมาเหมือนกัน ผมเลยได้แค่ถามอาจารย์ที่เป็นผู้จัดการทีมท่านอื่นๆถึงความคืบหน้ารวมถึงกำหนดการประชุมแทน อีกอย่างผมก็ยังเป็นห่วงอยู่ห่างๆกับพวกน้องๆที่จะลงแข่งคาราเต้ด้วย แต่เนื่องจากผมไม่มีความเกี่ยวข้องทั้งทางตรงและทางอ้อมผมเลยไม่อยากไปถามอะไรมากมายในเรื่องรายละเอียดเชิงลึก อย่างมากก็ได้แค่ถามน้องๆนักกีฬาเวลาเจอกันที่มหาวิทยาลัยแบบพอเป็นพิธีเท่านั้น

        มาถึงช่วงนี้การเรียนของผมลดลงมากเนื่องจากอาจารย์ป้อนงานให้ไปทำซะมากกว่าซึ้งแต่ละงานก็หินๆทั้งนั้น อย่างที่เคยบอกไว้ตั้งแต่ช่วงต้นๆล่ะครับ ว่างานกลุ่มผมทำคนเดียวซะเป็นส่วนใหญ่เลยเป็นอะไรที่หนักหน่อย แต่เพื่อให้ได้คะแนนสูงๆแบบไม่เสี่ยงแล้วผมยอมเหนื่อย เพราะบทเรียนก่อนหน้านี้ที่เชื่อใจเพื่อนทำเอาผมเกือบได้ B จากวิชาที่ผมควรจะได้ A แบบนอนมาด้วยซ้ำ กระนั้น...ถึงงานผมจะหนักช่วงนี้แต่ผมก็มีความสุขทุกครั้งเลยครับที่ได้เจอว่านได้คุยกับว่านหรือกระทั่งได้แค่อยู่ใกล้ๆ แล้ว...ในขณะที่ผมนั่งปั่นงานอยู่ที่ตึกสาธารณสุขเงียบๆกับเพื่อนๆอีกสามสี่คนโทรศัพท์ผมก็ดังขึ้นมา


“ว่าน Calling”
“ว่า”
“พี่เอ...ว่างเปล่า”
“คุยได้ มีอะไรด่วนหรือเปล่า”
“คือ....ตอนนี้ผมอยู่ยิมคนเดียว” ว่านตอบเสียงอ่อยๆเหมือนไม่ค่อยกล้าที่จะพูด
 “อ่าว.....นี่มันเพิ่งจะเที่ยงเอง ทำไมไปอยู่ที่ยิมเร็วจัง” ผมถามกลับไป
“อาจารย์ไปประชุมครับ ตอนบ่ายไม่มีเรียนเค้าเลยปล่อยก่อน”
“แล้ว”
“คือ.....พี่มาที่ยิมตอนนี้หน่อยได้ไหมครับ”
“ได้ซิ งั้นเดี๋ยวพี่ไปนะ”
“ครับๆๆ” ว่านตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงดีใจสุดๆ
“ทานข้าวหรือยัง”
“ทานแล้วครับ”
“แล้วหิวอะไรอีกไหม เดี๋ยวพี่ซื้อไปฝาก”
“แล้วแต่พี่ครับ”
“ได้ๆงั้นเดี๋ยวเจอกัน” พอพูดจบผมก็กดวางสาย
“แฟนเหรอ” ม่อนหันมาถามผม
“เปล่า น้องหน่ะ”
“เหรอ คิดว่าแฟน เห็นคุยไปยิ้มไป”
“แล้วนี่จะไปเลยเหรอ” แจมถามผม
“อื่อ” ผมหันมาตอบแจมพลางเก็บ netbook แล้วก็เอกสารอื่นๆเข้ากระเป๋า
“ฮั่นแน่ๆ โทรมาตามปั๊บ ทิ้งงานไปหาปุ๊บ น้องจริงเหรอเอ” ม่อนแซวซ้ำ
“น้องจริงๆ” ผมหันไปตอบ
“แล้วทำไมต้องทำท่าเขินขนาดนั้นด้วยล่ะเวลาตอบ” แจมแซวเสริม
“เขินอะไรไม่มี”
“วันหน้าพามาให้รู้จักบ้างนะ น้องที่ว่าเนี่ยะ” ม่อนพูดพลางหยิบแฟลชไดร์ส่งให้ผม
“นั้นซิ อยากเห็นจัง หน้าตาเป็นยังไงน๊า ที่ทำให้เอทิ้งงานได้แบบนี้” แจมเสริม
“ทิ้งอะไร ไมได้ทิ้ง เดี๋ยวไปนั่งทำต่อ”
“ฮ่ะๆๆ เอาน่าๆแซวเล่นไม่เห็นต้องเขินขนาดนั้นเลย” ม่อนพูดพลางหัวเราะ
“งั้นเดี๋ยวพิมพ์เสร็จแล้วส่งมาให้ทางเมล์แล้วกัน แจมไม่ต้องไปตัดอะไรออกนะ จัดรูปแบบให้ตรงตามที่อาจารย์บอกก็พอ” ผมหันไปเน้นย้ำกับแจม
“จ้าๆ” แจมหันมาตอบรับ
“แล้วเจอกัน” ผมหันไปบอกเพื่อนๆ

        แล้วผมก็ไปเปลี่ยนชุดที่บ้านก่อนจะหิ้วงานที่ค้างๆอยู่ไปที่ยิมก่อนเข้ายิมไม่ลืมที่แวะซื้อของที่ว่านชอบทานเข้าไปให้ด้วย พอมาถึงยิมผมก็เห็นว่านนั่งดูกินทามะอยู่คนเดียว ทันทีที่ผมเลื่อนประตูว่านก็หันมามองก่อนจะยิ้มให้

“มาแล้วเหรอ” ว่านพูดขึ้น
“ดูอะไรอยู่เหรอ” ผมถามว่านระหว่างที่เดินเอาของไปวาง
“กินทามะ”
“อ่าว มีเป็น DVD แล้วเหรอ”
“มีแล้ว”
“พี่เคยอ่านแต่แบบหนังสือ ตัวหนังสือเยอะมาก”
“ผมก็อ่าน แต่อ่านไม่ไหวเลยซื้อ DVD มาดูแทนดีกว่า”
“อืม”


        หลังจากทักทายกับว่านพอเป็นพิธีแล้วผมก็เอา netbook ออกมาเปิดแล้วนั่งทำงานต่อ แต่เนื่องจากแดดส่องมาตรงโต๊ะที่นั่งประจำพอดี ถึงจะปิดม่านแล้วมันก็ยังร้อนอยู่ดี ไม่เหมาะกับการนั่งพิมพ์งานนานๆผมเลยเปลี่ยนไปนั่งตรงที่ผมนั่งพิงกำแพงอยู่ประจำๆ ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมว่านถึงโทรตามผมมาทั้งๆที่มาแล้วมันก็ไม่มีอะไร ว่านดูการ์ตูนเหมือนเดิม ส่วนผมก็นั่งพิมพ์งาน ระหว่างที่ผมนั่งทำงานผมก็หันไปมองว่านอยู่เรื่อยๆ....อืม...จะว่าไป...อยู่ใกล้ๆว่านแบบนี้ผมรู้สึกมีความสุขยังไงก็ไม่รู้แฮะ ผมอธิบายเป็นคำพูดไม่ถูก ผ่านไปพักใหญ่ๆเหมือนว่าการ์ตูนจะจบแผ่นแล้ว ว่านเดินไปปิดเครื่องเล่น DVD ปิด TV ก่อนจะเดินไปหยิบน้ำกับขนมที่ผมซื้อมาแล้วเดินมาหาผม พอมาถึงว่านก็ยืนมองอยู่พักหนึ่ง ก่อนที่จะเดินมานั่งด้านซ้ายของผม คงเพราะมานอนพิงไม่ได้เนื่องจากผมวาง netbook อยู่


“พี่ขนม” ว่านพูดขึ้นพลางยื่นซองขนมที่เปิดแล้วมาให้
“เอาเลยครับ”
“ทำไมละ” ว่านถามผม
“พิมพ์งานเดี๋ยวนิ้วเปื้อน”
“งั้น...อะ” ว่านยื่นขนมมาที่ปากผมชิ้นหนึ่ง
“เดี๋ยวพี่ทานเอง”
“นะ” ว่านพูดพลางจ้องผมตาเขมง ผมเลยต้องทาน พอผมทานว่านก็ยิ้มอย่างพอใจ
“งานพี่เหรอ”
“อื่อ”
“เยอะนะครับ เห็นนั่งพิมพ์ตั้งนานแล้ว”
“งานมหาวิทยาลัยก็แบบนี้แหละ”
“วันนี้พี่ไม่เห็นชวนคุยเลย”
“ก็เห็นว่านดูการ์ตูนอยู่”
“ดูเสร็จแล้ว”
“แต่พี่ก็ยังพิมพ์งานอยู่” ผมหันไปตอบว่านพลางเอามือลูบหัวว่านเบาๆ
“ไม่เป็นไรครับ”
“อืมมม....จะว่าไปพวกเพื่อนๆไปไหนกันหมดล่ะ” ผมถามว่าน
“เพื่อนๆซ้อมดนตรี”
“แล้วว่านไม่ไปเล่นกับเค้าเหรอ”
“คิดอยู่อยากเป็นมือเบส”
“ก็ดีซิมือเบสเท่ออกสาวกรี๊ด”
“ฮะๆ” ว่านหัวเราะเบาๆ ก่อนจะซบที่ไหล่ผม


        ผมไม่ได้ชวนว่านคุยอะไรอีก ว่านเองก็เงียบไป พอผมหันมาอีกทีปรากฏว่าว่านหลับไปเรียบร้อยแล้วผมเลยพยายามนั่งพิมพ์งานให้นิ่งที่สุดจนประมาณบ่ายสามเกือบบ่ายสี่โมงผมก็ปิดเครื่องก่อนจะค่อยๆขยับให้ว่านเอนลงมานอนหนุนที่ตัก มือขวาผมประคองหัวว่านพลางเอานิ้วลูบๆแก้มว่านเบาๆ มือขวาผมก็กุมมือว่านไว้หลวมๆ ผมนั่งนิ่งๆอยู่แบบนั้นพักใหญ่ๆ ก่อนที่น้องๆคนอื่นจะค่อยๆทยอยมา เหมือนว่านเองจะรู้ว่าถึงช่วงที่คนทยอยมาแล้ว ว่านก็ตื่นขึ้นมาพอดี ทันทีที่ว่านลืมตาขึ้นว่านก็ถามคำถามเดิม


“กี่โมงแล้วครับ”
“สี่โมงกว่าแล้ว”
“อื้ออออออ” ว่านบิดขี้เกียจยาวๆหนึ่งจบก่อนจะลุกขึ้นนั่งทำหน้าตางงๆกับชีวิตแล้วลุกขึ้นเดินหายไปในห้องน้ำ
   
        แล้วไม่กี่อึดใจเพื่อนๆว่านก็พากันมาเป็นกลุ่มเลยทีเดียว ทันทีที่มาถึงเสียงคุยจ๊อกแจ๊กจอแจแบบอึกกระทึกครึกโครมก็ดังตามมาทันที อย่างว่าล่ะครับเด็กๆเวลาคุยกันบางทีก็เสียงดัง

“พี่เอ หวัดดีคร้าบบบบ / ดีคะ” น้องๆพร้อมเพรียงทักทายผมประหนึ่งนัดกันไว้ก่อน
“ไปไหนกันมา”
“ไปซ้อมดนตรีพี่ แบบว่ามันมากอะ” ริวรีบตอบกลับมา
“เหรอ แล้วส้มกับพลอยไปด้วยเหรอ”
“ไปซิพี่ ไม่ไปไม่ครบขามันไม่สนุก” ฟิวตอบกลับมา
“ส้มกับพลอยเล่นดนตรีด้วยเหรอเนี่ยะ”
“เปล่าค่ะพี่ พวกหนูไปนั่งทำงานรอพวกมันเฉยๆ” ส้มตอบ
“ไปทำงานรอ หรือ ตามไปคุมเกมกันแน่ ฮ่ะๆๆ” ฟิวแซวส้ม

        ระหว่างที่ผมกำลังคุยกับเพื่อนๆว่านอยู่ ว่านก็ออกมาจากห้องน้ำพอดี

“อ่าว นั้นไงว่าที่มือเบส เมื่อไร่จะไปซ้อมซะที ไอ้เกมเล่นไม่ได้เรื่องเลยทีเดียว” ฟิวทักว่านขณะที่ว่านกำลังเช็ดหน้าอยู่
“อะไรๆ กูจะเป็นมือกลองต่างหากมึงอะแหละให้กูเล่นเบส” เกมพูดกับฟิว
“ก็หน้าตามึงให้ไง ฮ่ะๆ”
“เฮ่ย คนเล่นเบสมันต้องหน้าตาดีๆ อย่างกูนี่” ริวพูดพลางชี้ตัวเอง
“พอเลยๆหน้าเหี้ยๆแบบมึงไปนั่งแต่งเพลงเงียบๆเลยไป” ฟิวแซวริว
“เออ ไอ้คนหน้าตาดี ถ้ากูหน้าเหี้ยะ ก็แม่งโรงเรียนก็ไม่มีใครหล่อแล้วล่ะ” ริวตอบกลับ
“โหย หลงตัวเองจริงมึง” เกมพูดพลางหัวเราะ


        ในขณะที่เพื่อนๆนั่งคุยกันนี่ก็เป็นอีกครั้งที่ว่านนั่งฟังอยู่เงียบๆ แล้วก็หัวเราะเป็นระยะๆ บทสนทนาที่ว่านจะคุยออกไปกับเพื่อนแทบนับได้เลยส่วนมากจะเป็นแบบจู่ๆไปเสริมเพื่อนมากกว่าแล้วก็เงียบนั่งฟังต่อ ในระหว่างที่น้องๆคุยหันอย่างสนุกสนานผมก็เดินเอา netbook ไปเก็บ พอผมลุกขึ้นโค้ชก็เข้ามาพอดี ทันทีที่น้องๆเห็นโค้ชเข้ามาถึงกับเงียบกริบกันเดี๋ยวนั้นเลยทีเดียว บรรยากาศจากที่สนุกสนานเฮฮาเมื่อสักครู่ก็เปลี่ยนมาเป็นอึมครึมแทน  แล้วย้องๆก็หันไปสวัสดีตามมารยาทแล้วลุกขึ้นแยกย้ายกันไปซ้อมของตัวเอง ระหว่างนั้นผมก็เอา netbook ไปยัดใส่ในกระเป๋า ตอนเอาใส่คงไปเตะตาโค้ชเค้าพอดีเค้าเลยพูดว่า


“เอๆ อย่าเพิ่งเก็บเอามาเล่นหน่อย” โค้ชพูดพลางชี้มาที่ netbook
“ไม่มีอะไรเล่นหรอกพี่ ในนี้มีแต่งาน”
“น่า เอามาดูหน่อย” โค้ชพูดด้วยน้ำเสียงร้องขอแกมบังคับ ผมเลยเดินเอาไปเปิดให้โค้ชดู


        อธิบายตรงนี้เล็กน้อยปรกติแล้วคนที่รู้จักผมทุกคนจะรู้ว่าผมไม่ชอบให้ใครมายุ่งกับของส่วนตัวของผม ของส่วนตัวที่ว่าก็เช่น มือถือ , Notebook , Netbook , PC , PSP , กล้อง เป็นต้น ซึ่งกับคุณโค้ชเนี่ยะผมพูดเกริ่นเรื่องนี้ไปหลายครั้งแล้ว บ่อยมากที่เค้าขอดูแล้วผมแสดงท่าทีไม่พอใจ ผมไม่เข้าใจว่าเค้าดูไม่ออกหรือยังไงว่าผมไม่ชอบให้มายุ่งกับของส่วนตัวของผม ครั้งนี้ก็เหมือนกัน ตอนที่ผมเปิดให้เค้าผมก็ทำท่าทีไม่พอใจเพื่อแสดงให้เห็นเลยว่าไม่อยากให้ดู แต่ก็เหมือนว่าโค้ชเค้าจะดูไม่ออก หรือ ไม่สนใจก็ไม่รู้ ทันทีที่เปิดเค้าก็ขอดูโน้นดูนี่ใน Netbook ผมไปทั่ว เสียมารยาทมากมาย


“เอ เปิดนี่ให้ดูหน่อยซิ” โค้ชพูดพลางชี้ไปที่งาน powerpoint ของผม
“ไม่มีอะไรหรอกพี่งานนำเสนอเฉยๆ”
“นะๆๆ พี่อยากดู”


        โค้ชทำท่าทางเหมือนเด็กประถมที่อยากรู้อยากเห็นว่าในกล่องขนมที่ซื้อมาจะได้ของแถมเป็นอะไรแบบนั้นเลย จริงๆผมก็สงสัยนะว่าอยากจะดูไปทำไมในเมื่อเอกสารที่ผมมีนั้นมันเป็นความรู้เฉพาะทาง ซึ่งถ้าไม่ใช่คนที่สนใจเรื่องนี้ก็คงไม่ทราบว่ามันคืออะไร แล้วก็เป็นไปได้สูงว่าจะดูไม่รู้เรื่อง นั่นยิ่งทำให้ผมสงสัยมากขึ้นไปอีกว่าเค้าจะดูทำไม เค้าอ่านภาษา C ออกเหรอ Java อีก HTML อีก แล้วเค้ารู้เรื่อง OOP ด้วยเหรอ จะมาว่ามาอ่านเอาดาบหน้าตรงนี้มันก็ไม่ใช่เนื้อหาที่อธิบายว่าเนื้อหาหรือหัวข้อพวกนี้คืออะไรแล้วนะ อีกอย่างโค้ชเองผมก็ไม่เคยเห็นว่าเค้าจะมีทีท่าหรือความสนใจเรื่องพวกนี้มาก่อน แต่ก็ช่างมันเถอะ ดูไป งงๆ เดี๋ยวก็คงหยุดเอง แล้วก็เป็นอย่างที่คิดหลังจากเปิดงานให้ดูหลายงานเค้าก็หยุดอยากดูต่อ ผมเลยเอา Netbook ไปเก็บ พอเก็บเสร็จเค้าก็เรียกผมเข้ามาหา


“เอ มานี่หน่อย”
“ครับ” ผมตอบพลางเดินลากเก้าอี้มานั่ง พอนั่งเสร็จโค้ชก็พูดต่อว่า
“เอชอบเขียนโปรแกรมเหรอ”
“เปล่า ผมชอบ Mobile Technology มากกว่า กับพวกถ่ายภาพ เขียนโปรแกรมมันก็แค่ส่วนเสริม”
“จบไปคิดจะทำอะไร” โค้ชถามผมด้วยน้ำเสียงจริงจังมาก
“เปิดร้านมือถือมั้งครับ ไม่ก็คงร้านกล้อง ถ้างบเยอะก็อาจทั้งสองอย่างเลย”
“พี่รู้จักพี่คนหนึ่งเค้าเขียนโปรแกรมเก่งมาก ทุกวันนี้เค้ารวยมากเลย วันๆแทบไม่ต้องทำอะไร”
“เหรอครับ”
“เค้าอยู่จังหวัดเดียวกับเรานี่แหละ ไม่รู้เอรู้จักไหม”
“ใครเหรอ”
“พี่ดิว”
“....” ผมไม่ได้ตอบอะไร
“ไม่รู้จักล่ะซิ นี่พี่จะเล่าอะไรให้ฟัง......บลาๆๆๆ”


        แล้วโค้ชก็เริ่มกระบวนการโม้ทันที จริงๆที่ผมไม่ตอบไม่ใช่เพราะไม่รู้จักนะครับ แต่นั่นหน่ะรุ่นพี่ที่มหาวิทาลัยผมเอง เจอพี่แกบ่อยมาก ล่าสุดผมก็ไปให้แกสอนเขียน App บนมือถืออยู่เลย แต่ที่ผมเลือกที่จะไม่ตอบเพราะผมอยากฟังว่าโค้ชเค้าจะพูดอะไรต่อมากกว่า แล้วก็เป็นอย่างที่คาดโค้ชโม้ไปเรื่อยเกี่ยวกับเรื่องพี่เค้า


“นี่เอรู้ไหมโปรแกรมเมอร์ต้องมีคอมพิวเตอร์อย่างน้อยๆกี่เครื่อง”
“ไม่รู้ครับ” ตอบเสร็จผมพลางคิดในใจ มันต้องมีอย่างน้อยด้วยเหรอ
“ต้องมีสามเครื่องขึ้นไป รู้ไหมทำไม”
“ทำไมครับ” ผมถามโค้ชกลับไปเพราะผมก็อยากรู้เหมือนกัน
“พี่ก็ไม่รู้ เพราะพี่ดิวเองแกใช้ทีห้าหกเครื่องเวลาทำงานแต่ละครั้ง”
“จริงเหรอพี่”
“จริง ถ้าเราอยากเห็นภาพลองไปดูเรื่อง Die Hard 4 ซิ พวกนั้นก็ใช้แบบเดียวกับพี่ดิว”


        ถึงตรงนี้ผมเกือบจะหลุดเสียงหัวเราะออกมา ในใจก็คิดว่าจะอธิบายให้โค้ชเค้าฟัง แต่ไมเอาดีกว่าเพราะโค้ชเค้าพูดๆมาด้วยน้ำเสียงเชื่อมั่นมากๆ ถ้าเราไปแสดงความเห็นที่ขัดแย้ง อาจทำให้ความน่าเชื่อถือในตัวโค้ชลดลงเพราะเด็กๆหลายคนก็ฟังเรื่องที่โค้ชคุยกับผมอยู่เหมือนกัน เนื่องจากอันที่จริงพี่ดิวแกใช้คอมสองเครื่องเวลาทำงานครับ เวลาแกออกไปข้างนอกแกก็พก netbook เครื่องเดียว ไม่เห็นจะต้องใช้คอมอะไรมากมายเหมือนที่โค้ชคุยเลย แต่ก็อย่างที่บอกครับไม่ขัดดีกว่า หลังจากโค้ชที่ดูเหมือนจะไม่มีความรู้เกี่ยวกับสายคอมเลยอวดรู้กับผมเสร็จโค้ชเค้าก็เข้าเรื่องการเก็บตัวนักกีฬาสิบวันก่อนการแข่งขันครับ


“เอ เดี๋ยวโทรตามนักกีฬาที่มหาวิทยาลัยให้เข้ามาซ้อมที่นี่ด้วยนะ”
“หือ.....ผมมีเบอร์น้องไม่กี่คนเอง ทำไมพี่ไม่บอกเก่งกับเพื่อนพี่ล่ะ เค้าน่าจะติดต่อนักกีฬาได้ง่ายกว่าผมนะ”
“โอ๊ยย...คนบางคนพี่ไม่อยากจะไปพึ่งมันหรอก เนี่ยะเพื่อนพี่มันก็ทิ้งงานไปแล้ว พี่กำลังคุยกับเอเรื่องนี้อยู่พอดี”
“ชิบหายแล้ว” ผมคิดในใจ
“เพื่อนพี่มันเป็นห่าอะไรไม่รู้ จู่ๆมันโทรมาบอกพี่ว่ามันไม่ทำแล้ว” โค้ชพูดด้วยน้ำเสียงอารมณ์เสีย
“อ่าว...”
“พี่เลยจะให้เอไปดูแลคาราเต้แทน”
“ไหงงั้นอะ”
“เอาน่าช่วยกัน”
“แต่ผมไม่มีชื่ออยู่ในกลุ่มผู้จัดการทีมนะพี่”
“มีแล้ว” โค้ชตอบกลับมา
“ตอนไหน ผมยังไม่ได้เซ็นอะไรเกี่ยวกับเรื่องพวกนี้สักอย่าง”
“พวกที่กองเค้าใส่ชื่อเอเป็นผู้ช่วยโค้ชตั้งนานแล้ว ไม่รู้เหรอ”
“อ่าว ไม่ต้องเซ็นเอกสารอะไรเหรอพี่ ปีก่อนผมยังต้องเซ็น”
“ไม่ต้อง”
“......”
“แล้วก็ พี่จะขอหักค่าเบี้ยเลี้ยงเอครึ่งหนึ่งให้เพื่อนพี่นะ”
“.....” ผมไม่ได้ตอบอะไรกลับไปแต่ผมมองโค้ชด้วยความสงสัยแทน
“ก็เพื่อนพี่มันช่วยหานักกีฬาเทควันโดตอนแรกไง ก็เลยจะหักให้มันเพราะมันก็ทำงานเหมือนกัน”
“แล้วแต่พี่”
“ไม่โกรธใช่ไหม เพราะนอกจากคาราเต้แล้วมันก็ทำของเทควันโดด้วยเลยให้ๆมันไป”
“ไม่ครับ”

        สรุปคือโค้ชจะหักเงินผมที่อยู่ในตำแหน่งผู้ช่วยโค้ชให้เพื่อนเค้าครึ่งหนึ่ง ซึ่งตอนนั้นผมเข้าใจว่าเพราะเพื่อนเค้าทิ้งงานเลยทำให้ไม่ได้เงินในส่วนของโค้ชคาราเต้ ตรงนี้ผมไม่ซีเรียสนะ จะหักก็หักไป

“แล้วก็เรื่องน้องบอกให้น้องมาเก็บตัวด้วย พรุ่งนี้เก็บตัววันแรกต้องมาให้ได้พร้อมกันทุกคน” โค้ชพูดด้วยน้ำเสียงที่เป็นการออกคำสั่ง
“พี่บอกน้องล่วงหน้าหรือเปล่า” ผมถามโค้ช
“เปล่า ทำไมพี่ต้องบอกล่วงหน้า พวกเค้าเป็นนักกีฬามันต้องพร้อมตลอดเวลาซิ”
ผมนั่งนิ่งพลางคิดในใจว่า “เค้ามาเรียนนะพี่ ไม่ได้มาเล่นกีฬาอย่างเดียว”
“แล้วก็บอกไปด้วยนะว่า ถ้าพรุ่งนี้ใครไม่มา ก็ไม่ต้องมาอีก พี่จะตัดชื่อออกทันที” โค้ชพูดด้วยน้ำเสียงเด็ดเดี่ยวมาก


        หลังจากคุยกับโค้ชเสร็จก็สรุปได้ว่า เก่ง กับ เพื่อนของโค้ชพึ่งไม่ได้ ผมเลยต้องโทรไปหาน้องรองประธานชมรมให้ช่วยตามนักกีฬาแทน ซึ่งน้องรองประธานก็บ่นอุบว่า “อะไรกัน นึกจะเรียกก็เรียก ไม่บอกล่วงหน้าเลย” แต่ว่าในประโยคสนทนานั้นผมไม่ได้บอกน้องเรื่องที่โค้ชพูดว่า “ถ้าพรุ่งนี้ใครไม่มา ก็ไม่ต้องมาอีก พี่จะตัดชื่อออกทันที” เนื่องจากผมเห็นว่ามันจะเป็นผลเสียมากกว่าผลดี เสียที่หนึ่ง โค้ชปุบปับนัดแบบนี้ ถ้าน้องไม่ว่างมา ก็เท่ากับว่าน้องจะหายไปเลย เสียที่สอง ส่งรายชื่อนักกีฬาไปแล้วถ้าส่งนักกีฬาไปแข่งไม่ได้รุ่นนั้นๆจะถูกแบนหนึ่งปี เสียที่สาม ผมกล้าพนันด้วยข้าวมันไก่หนึ่งจานว่าถึงเวลาโค้ชไม่กล้าตัดรายชื่อทิ้งหรอกด้วยเหตุผลข้อเสียที่สอง

        ไม่นานหลังจากที่ผมตามเรื่องเสร็จก็ใกล้เวลาเลิกซ้อมพอดี ผมเลยเดินไปยืนอยู่ใกล้ๆที่น้องๆนั่งกันฟังโค้ชคุย ทันทีที่ว่านเห็นผมมายืนว่านก็รีบเปลี่ยนที่มานั่งข้างๆผมทันทีแล้วก็เหมือนเคยว่านนั่งลูบๆขาผมไปมา ทว่า....วันนี้มีของแถม...ว่านกัดขาผมด้วย แถมไม่ยอมปล่อยอีกผมเลยลดตัวลงเอามือดันๆหัวว่านออก แต่ว่านเอามือเกาะไว้แน่นเลย ผมเลยต้องนั่งยองๆแล้วออกแรงมากขึ้น และ ทันใดนั้นเอง


“สองคนนั้นเล่นอะไรกัน เป็นรุ่นพี่เค้าด้วย อย่าเป็นตัวอย่างที่ไม่ดีให้น้องเห็นซิ” โค้ชขึ้นเสียงพูดซะดังลั่นจนเด็กๆหันมามองเป็นทางเดียวเลย  ว่านก็ดูเหมือนจะตกใจเหมือนกันเลยรีบปล่อยผมทันที
“ถูกดุเลย” ผมพูดกับว่านเบาๆก่อนจะนั่งลงข้างๆว่าน
“ขอโทษครับ” ว่านพูดเสียงอ่อยๆ
“ไม่เป็นไรๆ” ผมพูดพลางลูบหัวว่านเบาๆ
“แล้วเมื่อกี้พี่เป็นอะไร ไม่เห็นมาดูพวกผมเลย แถมทำหน้าเครียดๆอีก”
“ไม่มีอะไร”
“......” ว่านไม่ตอบแต่งับแขนผมเบาๆแทน


        หลังจากปิดยิมวันนั้นผมก็พาว่านไปทานก๋วยเตี๋ยวเหมือนเคย มันเหมือนเป็นกิจกรรมหลักๆเหมือนที่ผมไป 7 – 11 กับบีไปแล้ว อืมม...ลืมบอกไปว่าเวลาทานก๋วยเตี๋ยวว่านจะคีบหมูสับกับหมูแดงให้ผมตลอด เหตุผลเหรอครับ ไม่รู้เหมือนกันว่านเห็นผมชอบทานมั้ง ฮ่ะๆ


“น่าจะมีเทียนเน๊าะ”
“ทำไมเหรอคัรบ”
“เปล่า อยากทานก๋วยเตี๋ยวใต้เสียงเทียน โรแมนติกสุดๆเลยทีเดียว”
“ฮะๆ” ว่านหัวเราะ
“พี่....”
“ครับ”
“พลอยบอกผมว่ามันชอบพี่”
“หรือ จริงดิ”
“ไม่รู้มันบอกผมวันนี้”
“เวอร์ไป รู้จักกันไม่กี่วันเอง”
“ไม่รู้ซิ” ว่านทำน้าตาสลดลงทันที
“แล้ว....พี่เอมีแฟนหรือยังล่ะครับ” ว่านถามต่อด้วยน้ำเสียงสลดๆพลางเอาตะเกียบจิ้มๆลูกชิ้นไปด้วย
“........”
“.......”
“มี......แต่คนที่สนใจหน่ะ......”
“ใครเหรอ”
“ไม่รู้เค้าจะรู้ไหมว่าพี่สนใจเค้าอยู่”
“ใครเหรอพี่” ว่านทำสียงอยากรู้ขึ้นมามากขึ้น
“ตอนนี้เค้าก็อยู่แถวนี้แหละ เจอเค้าบ่อยๆ”
“แล้วใครล่ะครับ”
“ลองเดาดูดิ อิอิอิ”
“โหยยย พี่อะ บอกมาเถอะน๊าๆ....”  ว่านทำเสียงออดอ้อนสุดๆ
“......” ผมไม่ได้พูอะไรออกไปได้แต่ยิ้มกลบเกลื่อน


        วันนั้นเหมือนว่านจะงอนผมหน่อยๆที่ผมไม่ตอบเค้าให้ครบ ตลอดทางไปส่งที่บ้านว่านกัดไหล่ผมไม่หยุดเลย ชวนคุยอะไรก็ไม่ยอมพูด ผมได้แต่หอมหลังมือว่านเป็นระยะๆ ไม่นานนักผมก็พาว่านมาส่งที่บ้านทันทีที่ว่านลงจากรถว่านก็หันมามองผมแล้วก็พูดว่า


“พี่เอ บอกหน่อย พี่สนใจใคร”
“เดาดูๆ”
“พี่อะ...บอกผมเลย”
“อิอิอิ” ผมได้แต่หัวเราะกลบเกลื่อน......เพราะคำที่ผมอยากจะพูดแต่ไม่กล้าพูดออกไป
“ตอนนี้เหรอ....พี่....สนใจว่านนะ....” ผมคิดในใจขณะที่ว่านกำลังยืนออดอ้อนให้ผมพูดอยู่ตรงหน้า.....


        แต่ใครกันล่ะครับที่จะกล้าพูดออกไปผมยังไม่แน่ใจด้วยซ้ำว่าว่านรู้สึกกับผมยังไงถ้าผมพูดออกไปผมกลัวว่าผมจะเสียว่านไปอีกคน ผมเพิ่งจะเสียบีไปไม่นานผมยังไม่พร้อมที่จะเสียว่านไปอีกคน ตอนนี้...ผมรู้สึกเหงา...แล้วก็....ยังอยากจะมีใครสักคนอยู่ใกล้ๆ แล้วในเวลานี้คนๆนั้นก็คือ....ว่าน.....อืม....น้องเค้าจะรู้ไหมนะว่าเราคิดกับเค้ามากไปกว่าแค่น้องชายแล้ว.....


To Be Con
หัวข้อ: Re: น้องชาย 2 ( Up ช่วงที่ 16 : 25/05/11 )
เริ่มหัวข้อโดย: pobbmit ที่ 25-05-2011 19:05:42
สวัสดีครับคุณเอ

ติดตามมายาวนาน แต่ไม่ค่อยได้เม้นเท่าไหร่ แต่หมั่นมากดรอคอยเสมอครับว่า จามาลงต่อหรือยัง

ชอบเรื่องมากๆ เลย ตัง้แต่น้องบี มาถึงน้องอ้นที่ผ้าหลุดโดยบังเอิญ ได้จัย สนุกตลอด จนมาถึงน้องว่าน

ชอบการดำเนินเรื่องนะครับ ตลก ไม่ติดขัด มีมุขมีสาระแทรกตลอดเวลา

น้องบี นี่ชอบความทะเล้นของเค้าจริงๆเลย อยากให้กลับมาหาพี่เออีกรอบ

น้องว่านนี่เหมือนพยายามทำตัวตามน้องบี หรือ เปนที่นิสัยความเหมือนกันไม่ทราบ ทำไมออกมาคล้ายๆ กันเลย

รอติดตามยุเสมอนะครับ ตอนแรกยังใจแป้วเลยที่หายไปหลายเดือนนึกว่า จาไม่มาต่อซะแล้ว
หัวข้อ: Re: น้องชาย 2 ( Up ช่วงที่ 16 : 25/05/11 )
เริ่มหัวข้อโดย: donutnoi ที่ 25-05-2011 19:28:07
 :L2:พี่เอบอกเลยๆ บอกว่านเลย  :L2:
หัวข้อ: Re: น้องชาย 2 ( Up ช่วงที่ 16 : 25/05/11 )
เริ่มหัวข้อโดย: •ไนท์คลุง• ที่ 25-05-2011 20:16:51
บอกว่านไปเลย  :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: น้องชาย 2 ( Up ช่วงที่ 16 : 25/05/11 )
เริ่มหัวข้อโดย: reneisance ที่ 25-05-2011 20:41:44
เอ่อ นับถอยหลังวันที่ เอ จะระเบิดลงโค้ช ซักที คือไม่รู้สิจุดเดือดเราคงน้อยมั้ง คือ ไม่ได้เป้นคนขี้วีนนะ แต่ก็ไม่ยอมให้ใครเอาเปรียบเหมือนกัน เข้าใจในเรื่องความสัมพันธ์นะแต่ว่าบางครั้งยอมมากไปก็ใช่ว่าจะดีนะ อย่างน้อยสิ่งที่ไม่ดีก็คือ เด็กที่เค้าฟังโค้ชนะ คือเด็กในวัยนี้เป็นช่วงที่เขายังไม่มีประสบการณ์ชีวิต บางครั้งฟังเรื่องที่ไม่จริงอาจจะทำให้เด็กเกิดการเข้าใจผิดไปตลอด เหมือนการโดนปลูกฝังสิ่งที่ผิดมาตั้งแต่แรก ซึ่งตัวอย่างที่เห็นก็คือ ว่าน ที่บางครั้งก็เหมือนจะระเริงอยู๋กับ การชื่นชมจอมปลอม แต่ก็มันอยุ๋ที่ เอเองแหละมันก็ไม่ใช่ธุระอะไรของเอเหมือนกันที่จะไปบอกว่าอะไรดีไม่ดี

แต่ก็นะ อ่านแล้วชอบ เอกะบี มากกว่า เอกะว่านนะ
หัวข้อ: Re: น้องชาย 2 ( Up ช่วงที่ 16 : 25/05/11 )
เริ่มหัวข้อโดย: me_alone ที่ 26-05-2011 12:34:51
สวัสดีครับคุณเอ
ติดตามมายาวนาน แต่ไม่ค่อยได้เม้นเท่าไหร่ แต่หมั่นมากดรอคอยเสมอครับว่า จามาลงต่อหรือยัง
ชอบเรื่องมากๆ เลย ตัง้แต่น้องบี มาถึงน้องอ้นที่ผ้าหลุดโดยบังเอิญ ได้จัย สนุกตลอด จนมาถึงน้องว่าน
ชอบการดำเนินเรื่องนะครับ ตลก ไม่ติดขัด มีมุขมีสาระแทรกตลอดเวลา
น้องบี นี่ชอบความทะเล้นของเค้าจริงๆเลย อยากให้กลับมาหาพี่เออีกรอบ
น้องว่านนี่เหมือนพยายามทำตัวตามน้องบี หรือ เปนที่นิสัยความเหมือนกันไม่ทราบ ทำไมออกมาคล้ายๆ กันเลย
รอติดตามยุเสมอนะครับ ตอนแรกยังใจแป้วเลยที่หายไปหลายเดือนนึกว่า จาไม่มาต่อซะแล้ว

 :กอด1:~ ขอบคุณมากๆนะครับที่ติดตาม ช่วงที่ไม่ได้มาลงก็เป็นช่วงบีหายไปหน่ะครับ
แล้วช่วงนั้นก็ต้องดูแลว่านด้วย เฉพาะดูแลว่านที่ยิมก็กินไป 3 - 5 ชม ต่อวันแล้วอะครับ เรื่องเรียนด้วย เรื่องกีฬาด้วย ไหนจะปัญหาที่คุณโค้ชทิ้งไว้ให้แก้อีกเต็มไปหมดแทบไม่ว่างเลยทีเดียว

ปล. ที่เอามาลงนี้ส่วนน้อยนะครับ ส่วนที่ไม่เกี่ยวกับเนื้อเรื่องผมไม่ได้เอามาลง



:L2:พี่เอบอกเลยๆ บอกว่านเลย  :L2:
บอกว่านไปเลย  :กอด1: :กอด1:

  :เฮ้อ: ~ ตอนนั้นไม่กล้า กลัวถูกน้องเกลียด




เอ่อ นับถอยหลังวันที่ เอ จะระเบิดลงโค้ช ซักที คือไม่รู้สิจุดเดือดเราคงน้อยมั้ง คือ ไม่ได้เป้นคนขี้วีนนะ แต่ก็ไม่ยอมให้ใครเอาเปรียบเหมือนกัน เข้าใจในเรื่องความสัมพันธ์นะแต่ว่าบางครั้งยอมมากไปก็ใช่ว่าจะดีนะ อย่างน้อยสิ่งที่ไม่ดีก็คือ เด็กที่เค้าฟังโค้ชนะ คือเด็กในวัยนี้เป็นช่วงที่เขายังไม่มีประสบการณ์ชีวิต บางครั้งฟังเรื่องที่ไม่จริงอาจจะทำให้เด็กเกิดการเข้าใจผิดไปตลอด เหมือนการโดนปลูกฝังสิ่งที่ผิดมาตั้งแต่แรก ซึ่งตัวอย่างที่เห็นก็คือ ว่าน ที่บางครั้งก็เหมือนจะระเริงอยู๋กับ การชื่นชมจอมปลอม แต่ก็มันอยุ๋ที่ เอเองแหละมันก็ไม่ใช่ธุระอะไรของเอเหมือนกันที่จะไปบอกว่าอะไรดีไม่ดี

แต่ก็นะ อ่านแล้วชอบ เอกะบี มากกว่า เอกะว่านนะ

 :เฮ้อ: ~ เรื่องของโค้ชมันเป็นเหตุผลทางการเมืองเต็มๆเลยครับ จะทำอะไรก็ยากไปหมด เพราะผมถูกคาดหวังไว้เยอะ
หัวข้อ: Re: น้องชาย 2 ( Up ช่วงที่ 16 : 25/05/11 )
เริ่มหัวข้อโดย: me_alone ที่ 26-05-2011 12:41:49
ช่วงที่ 17



              แล้ววันนี้ก็เป็นอีกวันที่ผมนั่งปั่นงานอยู่กับเพื่อนที่ตึกสาธารณสุข จริงๆตึกนี้มีความหลังนะครับ เนื่องจากตอนปีหนึ่งมีอยู่วิชาหนึ่งอาจารย์ท่านให้งานโหดมากขนาดว่าต้องเทเวลาห้าสิบเปอร์เซ็นต์ของเวลาในการทำงานทุกๆวิชามาให้กับวิชานี้วิชาเดียวเลย ไม่งั้นไม่ทันและเนื่องจากวิชานี้เป็นวิชาที่เรียนวันศุกร์ตอนบ่าย ช่วงเช้าไม่มีเรียน ทำให้พวกผมมักมานั่งตรวจทานงานแล้วก็ปั่นงานโค้งสุดท้ายกันที่ตึกสาธารณสุขแห่งนี้ซึ่งอยู่ใกล้ห้องเรียนที่สุดแล้ว แล้วก็ลับตาอาจารย์ที่สุด เพราะท่านเคยเห็นผมกับเพื่อนๆไปนั่งปั่นงานแล้วท่านก็พูดเหน็บแนมอยู่เนืองๆจนพวกผมตัดสินใจย้ายที่กัน หลังจากนั้นเป็นต้นมา ตึกสาธารณสุขแห่งนี้จึงเป็นที่สิงสถิตของห้องผมไปโดยอัตโนมัติ ซึ่งนอกจากจะเย็นสบายแล้ว ยังมี Wi-Fi ฟรีให้เล่นอีกด้วย ใกล้กันก็มีร้านค้าอีก แบบว่ามันใช่เลยตรงนี้แหละ

              กลับมาเข้าเรื่องกัน วันนั้นระหว่างทำงานผมก็ลุ้นอยู่ในใจนะว่าถ้าน้องไม่มาจริงๆโค้ชจะเอาชื่อน้องออกจริงหรือเปล่า ใจหนึ่งก็แอบเสียดายที่มัวแต่ห่วงผลประโยชน์ของมหาวิทยาลัยจนลืมสนองความสะใจของตัวเอง ที่ไม่ได้บอกประโยคเด็ดประโยคนั้นไป แต่ก็ช่างมันเถอะครับอาจเพราะโค้ชเค้าบอกว่าผมมีชื่อในกลุ่มผู้จัดการทีมด้วยมั้ง มันเลยมีความเกี่ยวข้องกับผมขึ้นมา ทำให้ผมไม่กล้าทำอะไรแบบนั้นออกไป จะว่าไปก็แอบเลวนะเนี่ยะผม ฮ่าๆๆ แล้วในระหว่างที่ผมพิมพ์งานระคนคิดอะไรเพลินๆไปเรื่อยโทรศัพท์ผมก็ดังขึ้น


“ว่าน Calling” ผมหยุดมองอยู่แว๊บหนึ่งเพราะนี่มันเพิ่งบ่ายสองโมงแอง
“ฮั่นแน่ๆ ถึงกับหยุดอึ้งไปเลยแบบนี้ คนสำคัญล่ะซิท่า” ม่อนแซวผม
“เปล่า”
“อิอิอิ” ม่อนหัวเราะ
“ว่า”
“พี่เอ....ว่างไหมครับ”
“ก็คุยได้ มีอะไรด่วนหรือเปล่า”
“พี่......มาที่ยิมได้ไหม”
“หือ...เรียนเสร็จแล้วเหรอ”
“เสร็จแล้ว บ่ายอาจารย์ติดประชุม”
“ประชุมอีกแล้ว นี่อาจารย์เค้ามาสอนหนังสือ หรือ เค้ามาประชุมเนี่ยะ”
“สงสัยประชุมน่ารักอะพี่ เลยติดกันใหญ่ ฮ่ะๆ” ว่านหัวเราะ
“ห้าร้อยเลยมุขนี้พี่เล่นแล้ว”
“แล้วพี่มาได้ไหมล่ะครับ”
“แล้วตอนนี้ใครมาแล้วบ้าง”
“ไม่มี ผมไม่อยากอยู่คนเดียว พี่มาอยู่เป็นเพื่อนหน่อยซิครับ” ว่านพูดทำเสียงอ้อนๆ
“อืมม....ก็ได้ เดี๋ยวพี่ไป”

              พอกดวางสายเสร็จผมก็เริ่มเก็บของลงกระเป๋า

“นั่น วางสายเสร็จก็ไปเลยอีกแล้ว” ม่อนพูดขึ้น
“จริงด้วย” แจมเสริม
“ไม่มีอะไร พอดีที่ยิมมีน้องมาแล้ว แล้วมันไม่มีใครอยู่เลยต้องไปเฝ้า” ผมหันไปอธิบาย
“เหรอ จ๊ะ” แจมหันมาพูดแล้วยิ้ม
“น้องคนนั้นอีกล่ะซิ” ม่อนพูดขึ้น
“อื่อ”
“เอ ชอบน้องเค้าเหรอ”
“ไม่หรอก แค่เป็นห่วงหน่ะ แล้วทำไมถึงคิดจะไปชอบน้องเค้าได้ล่ะ” ผมตอบพลางถามกลับไป
“ก็ปรกติคนโทรเข้ามา เอจะรับไว วางไว ไม่คุยนาน แต่อันนี้มีคิดก่อนด้วย คุยยาวคุยเล่นแถมคุยไปยิ้มไปอีก” ม่อนตอบ
“นั่นซิ ปรกติเห็นถ้ามันไม่สำคัญ เอไม่เคยหุนหันพลันแล่นรีบออกไปแบบนี้ด้วย” แจมเสริม
“คิดมากน่า”
“เหรออออ” ม่อนพูดจบก็หันไปซุบซิบๆกับแจม
“งั้นไปละนะ ฝานส่งมาทางเมล์แล้วกัน”
“จ้า อย่าลืมพามาเปิดตัวนะ”
“แน่ะยังไม่จบอีก” ผมหันกลับไปพูดแบบติดตลก

              พอออกจากมหาวิทยาลัยไม่นานนักผมก็มาถึงที่ยิมครับ พอมาถึงก็เจอว่านนอนกลิ้งอยู่บนพื้นเบาะจิ๊กซอร์อยู่คนเดียว ทันทีที่ผมเลื่อนประตูบานเลื่อนว่านก็หันมามองแล้วรีบลุกขึ้นมาหาผมอย่างรวดเร็ว

“มาแล้วเหรอ”
“วันนี้ไม่ดูการ์ตูนเหรอ” ผมถามว่านพลางเอามือลูบๆหัวน้อง
“แผ่นใหม่ยังไม่มา” ว่านตอบ
“เหรอ แล้วเพื่อนๆล่ะ”
“ไปห้องซ้อมดนตรี”
“แล้วมือเบสมานอนกลิ้งอะไรที่ยิมคนเดียว ไม่ไปเล่นกับเพื่อนล่ะครับ”
“.....” ว่านไม่ตอบ แต่โดดกัดไหล่ผมแทนซะงั้น
แล้วในระหว่างที่ผมคุยกับว่านอยู่ก็มีรถแห่โฆษณาวิ่งผ่านหน้ายิม “โปรโมชั่นรับลบหนาว บุฟเฟ่อาหารญี่ปุ่นในราคาสามร้อยบาทต่อท่านเท่านั้น บลาๆๆๆ” พอรถคันนั้นผ่านไปผมก็หันไปมองว่าน ว่านก็มองผม
“กินม๊ะ” ผมถามว่าน
“ก็ได้ครับ” ว่านตอบพลางเอวนิ้วมาจิ้มๆแขนผม
“งั้นปะ”


              ว่าแล้วผมก็พาว่านตรงไปที่ร้านอาหารญี่ปุ่นทันที พอมาถึงผมก็จ่ายเงินเสร็จสรรพก่อนจะเข้าไปนั่งตรงสายพาน วันนี้ร้านค่อนข้างเงียบทีเดียว อาจเป็นเพราะยังเป้ฯเวลาทำงานอยู่เลยยังไม่มีใครมาเท่าไหร่ ในร้านนอกจากผมกับว่านก็มีพี่ๆน่าจะเป็นพนักงานบริษัทสี่ห้าคนนั่งดักอยู่แถวๆที่พ่อครัวทำเลยทีเดียว


“เต็มที่เลยนะ” ผมบอกว่าน
“ครับผม” ว่านหันมาตอบด้วยสีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส

              ผมรู้สึกดียังไงก็ไม่รู้เวลาอยู่กับว่าน ยิ่งได้เห็นว่านดูมีความสุขมีท่าทีร่าเริงแบบนี้ด้วยผมก็ยิ่งมีความสุขมากกว่าเดิมอีก

“มีเวลาถึงสี่โมงสิบนาทีนะ” ผมบอกว่าน
“ครับ” ว่านหันมาตอบ

             ก่อนจะดึงจานซูชิหน้าต่างๆลงมาวางตรงหน้าแล้วทานอย่างเอร็ดอร่อย ผมสังเกตว่าว่านชอบทานปลาหมึกมากๆ เมนูปลาหมึกแว๊บมาว่านจะหยิบมาเกือบตลอด

“ชอบปลาหมึกเหรอ” ผมถามว่าน
“ครับ ชอบหมดเลยยกเว้นหนวด” ว่านหันมาตอบ
“ลองปลาหมึกผัดพริกไทยดำดูม๊ะ”
“หือ ร้านนี้มีด้วยเหรอพี่” ว่านหันมาถามพร้อมทำหน้าตาแบบน้องหมาสงสัย
“เปล่า เดี๋ยวพี่ทำให้ เอาป่ะ”
“เอาๆๆๆ” ว่านทำหน้าดีใจพลางตอบรับ
“อื่อ พรุ่งนี้นะ”
“ครับ”

              หลังจากที่ทานซูชิเสร็จแล้วผมก็พาว่านกลับมาที่ยิม พอมาถึงที่ยิมปรากฏว่าเจอโค้ชนั่งอยู่กับน้องๆอีกหลายคน ที่กระจัดกระจายอยู่ตามมุมต่างๆของยิม พอผมกับว่านเข้าไปในยิม โค้ชก็ถามขึ้นว่า

“ไปไหนกันมา” ทันทีที่โค้ชถามจบว่านก็หันมามองผม ผมเลยยื่นน้ำที่ซื้อมาให้ว่านแล้วกระซิบเบาๆว่า
“เอาเก็บก่อน”
“ครับ”
“พาน้องไปทานข้าว”
“เราเลี้ยงน้องเหรอ”
“เปล่าครับ”
“ดีแล้ว อย่าไปเลี้ยงเดี๋ยวมันจะติดนิสัย”
“อ่าครับ”

              พอคุยเสร็จผมก็เดินไปหาว่านที่กำลังวอร์มอยู่

“ทำพี่ถูกดุอีกแล้ว” ว่านพูดขึ้นเบาๆ
“ไม่หรอก โค้ชเค้าถามเฉยๆหน่ะ”
“ครับ”
“ไหนพี่ช่วยยืดเส้นให้”


              ผมค่อยๆช่วยว่านยืดเส้นไปเรื่อยๆ จะว่าไปการช่วยยืดเส้นก็เป็นอีกช่วงเวลาหนึ่งที่ทำให้ผมใกล้ชิดกับน้องที่สุด เพราะต้องสัมผัสถูกเนื้อต้องตัวน้องอยู่ตลอดเวลา วันนั้นผมเข้าคู่กับว่านตั้งแต่ซ้อมเสร็จจนเลิกซ้อม แล้ววันนี้ก็เป็นอีกวันที่โค้ชความคิดเห็นไม่ตรงกับผม โดยระหว่างที่ผมเข้าคู่กับว่านโค้ชต้องการให้ว่านคิดเองโดยไม่แนะนำอะไรเลย ส่วนผมจะเน้นแนะนำให้ว่านต่อยอดมากกว่า เพราะถ้าจะให้ว่านลองผิดลองถูกช่วงนี้มันจะทำให้พัฒนาการของว่านช้าโดยไม่จำเป็น ให้ว่านลองตามแนวทางของผมก่อนดีกว่า ถ้าน้องสามารถต่อยอดได้ หรือ มีอะไรที่ดีกว่านี้ค่อยว่ากันต่อไป ซึ่งระหว่างที่ซ้อมโค้ชจะพูดว่า “เอ...นี่ไม่ใช่เวลาสอน” อยู่เรื่อยๆ แต่ผมก็ไม่ได้สนใจ ผมยังคงสอนว่านรวมถึงแนะแนวทางอยู่เรื่อยๆ เพราะเท่าที่ผมจำได้ไอ้การที่โค้ชทำแบบนี้มันทำให้เด็กโค้ชมีพัฒนาการที่ช้ามากมาย รู้ไม่กี่ท่าจากหลายๆท่าที่ควรรู้แล้ว ว่านเองก็หนึ่งในนั้นที่ผมพาทำท่าต่างๆเพิ่มเติมมา จนตอนหลังโค้ชเองก็ไม่กล้าค้านเรื่องท่าที่ผมสอน เพราะหนึ่งปีก่อนผมทำให้โค้ชประจักษ์ด้วยหลักฐานที่เค้าแย้งไม่ได้ว่าแนวคิดแบบนี้ของเค้ามันผิด แล้ววันนี้น้องๆนักกีฬาที่มหาวิทยาลัยก็มาซ้อมกันแค่ห้าคนจากสิบหกคน โดยหนึ่งในสิบเอ็ดคนที่ไม่มาก็คือตัวประธานชมรมเด็กโค้ชเค้านั่นล่ะ

              เมื่อสั่งเลิกแล้วโค้ชก็เรียกน้องๆนักกีฬาทั้งห้าคนมาคุยเนื้อหาสาระสรุปได้ประมาณนี้คือโค้ชเค้าจะให้น้องๆมาเก็บตัวกินอยู่หลับนอนที่ยิมนี้ก่อนไปแข่งเป็นเวลาสิบวันโดยโค้ชจะมีกิจกรรมให้ทำทั้งวัน ส่วนที่เหลือก็น้ำท่วมทุ่งครับ โดยระหว่างที่โค้ชพูดว่านก็มานั่งฟังอยู่ข้างๆผมด้วย พอคุยจบน้องรองประธานชมรมก็มาบ่นกระปอดกระแปดว่า “โค้ชเค้าคิดอะไรของเค้า มาอยู่ที่นี่สิบวันเลยเหรอ พวกหนูก็มีอะไรต้องทำนะ ไหนจะเรียนอีก พวกอาจารย์กับทางมหาวิทยาลัยก็ใช่ว่าจะสนับสนุน ค่าตอบแทนก็น้อย แบบนี้ถ้าจะตัดหนูออกก็ตัดเถอะ แต่หนูจะมาซ้อมแค่ที่ซ้อมได้แค่นั้นแหละ” ผมเลยได้แต่ปลอบน้องว่าทำแค่ที่ทำได้ก็พอ ไม่ต้องไปฟังโค้ชเค้ามาก

              หลังจากที่ผมคุยกับน้องรองประธานชมรมจบแล้วผมก็หันไปเห็นตั้มซ้อมเตะอยู่กับว่านอย่างสนุกสนาน จะว่าไปนอกจากผม โค้ช แล้วก็พี่ป้อม ว่านเองก็แทบไม่เคยเตะกับคนที่อายุมากกว่าเลยนี่นา ผมลากเก้าอี้ไปนั่งอยู่ข้างๆเบาะเพื่อนั่งดู ระหว่างนั้นว่านก็คิดวิธีแกล้งตั้มซะงั้น เนื่องจากเทควันโดใส่ชุดสีขาวเพราะงั้น....มันเปื้อนง่ายครับ แล้วเบาะสีแดงที่ยิมผมมันเป็นฝุ่นเปื้อนเท้าได้ ว่านเลยเอาเท้าไปถูๆก่อนจะมาเตะกับตั้ม โดยว่านโชว์ประสบการณ์ที่เล่นมานานกว่าด้วยการเอาฝ่าเท้าไปถูกับเสื้อแทนที่จะเตะแบบปะทะเข้าไปตรงๆด้วยหลังเท้า และทันทีที่รอยเท้าแรกของว่านปรากฏขึ้นบนเสื้อตั้มเท่านั้นแหละ ตั้มถึงกับกล้าๆกลัวๆที่จะเข้าใกล้ว่านทันที ไม่ใช่เพราะกลัวถูกเตอะนะครับ แต่ท่าทีของตั้มมันบอกได้เลยว่า ตั้มกลัวเสื้อเปื้อนมากกว่า


“เฮ่ย!! อย่าเข้ามานะ” ตั้ม พูดกับว่าน
“....” ว่านไม่ตอบแต่มยิ้มกลับไป ก่อนจะรุกเข้าไปไล่เตะตั้มเป็นชุด ทำเอาตั้มที่มีท่าที่ตั้งรับอยู่วิ่งหนีเลยทีเดียว
“เฮ่ย! บอกว่าอย่าเข้ามาไง เสื้อเปื้อนแล้ว”
“อะไรพี่ ไม่เข้าแล้วผมจะเตะยังไงล่ะ”
“ก็ไม่รุ้ซิ แต่อย่าเข้ามานะ” ทันที่ตั้มพูดจบว่านก็บุกเข้าหาอย่างรวดเร็วก่อนจะป้ายรอยเท้าลงไปอีกหนึ่งรอย
“แง้.....ทำเสื้อเค้าเปื้อนอีกแล้ว เค้าฟ้องแม่จริงๆด้วย” ตั้มพูดติดตลกขึ้นมา ทำเอาว่านขำจนทรุดลงไปนอนกลิ้งอยู่กับพื้นเลยทีเดียว
“พี่เอดูดิ มีแต่รอยเท้าอะ แล้วผมจะเข้าตลาดยังไงเนี่ย เค้าไม่คิดว่าผมถูกกระทืบมาเหรอ” ตั้มพูดพลางโชว์รอยเท้าว่านให้ดู
“เค้าจะฟ้องแม่ด้วย น้องว่านแกล้งเค้า”
“ฮ่ะๆๆ” ว่านยังคงหัวเราะไม่หยุด คงจะไม่เคยเห็นรุ่นพี่ที่โตกว่าเล่นมุขขี้แยแบบนี้ล่ะมั้ง


              ไม่นานหลักจากนั้นตั้มกับน้องๆคนอื่นๆก็กลับหมด หลังจากที่ผมกับว่านปิดยิมเสร็จแล้วผมก็พาว่านไปที่ห้างซีใหญ่เพื่อไปซื้อวัตถุดิบในการทำปลาหมึกผัดพริกไทยดำในวันรุ่งพรุ่งนี้ พอเข้ามาถึงส่วนของซีใหญ่ผมก็พาน้องไปยังมุมอาหารช่วงนั้นมีปลาหมึกยักษ์มาขายพอดี ผมเลยพาว่านเลือกซื้อ โดยผมเลือกคางปลาหมึกแล้วก็ผิวของปลาหมึก โดยระหว่างที่เลือกปลาหมึกอยู่นั้นว่านก็เอาหนวดปลาหมึกมาชนๆแขนผมแล้วพูดว่า


“ปลาหมึกดูดแขนๆ” ระหว่างที่พูดว่านก็จ้องหน้าผมด้วย
“ทำอะไร” ผมถามว่าน
“ปลาหมึกดูดแขน ไม่กลัวเหรอ”
“ต้องกลัวด้วยเหรอ”
“ครับ ต้องกลัวด้วย”
“เอา กลัวก็ได้” ท่ากลัวผมคงไม่สมจริงมั้งน้องเลยพูดว่า
“นี่พี่กลัวแล้วเหรอ เนี่ยะๆระวังปลาหมึกกินนะ” ว่านพูดในขณะที่ยังเอามาหมึกมาจิ้มๆแขนผมอยู่
“เดี๋ยวจะกินคนถือปลาหมึกก่อน”
“ฮ่ะๆๆ” ว่านหัวเราะ

              พอเลือกซื้อปลาหมึกเสร็จผมก็พาว่านไปซื้อกุ้ง แล้วพอถึงกระบะใส่กุ้งว่านก็หยิบกุ้งมาสองตัวแล้วจิ้มๆที่แขนผมอีก

“อะไรอีกล่ะทีนี้” ผมถามว่าน
“กุ้ง พี่ กุ้ง” ว่าตอบหลังยกกุ้งขึ้นมาระดับสายตา
“.....” ผมมองว่านแล้วก็แอบยิ้มมุมปากเพราะผมไม่เคยเห็นว่านเล่นเป็นเด็กๆแบบนี้มาก่อน
“กุ้งกัด กุ้งกัด” ง่านพูดพลางเอากุ้งมาจิ้มๆแขนผมต่อ
“เดี๋ยวเหอะ เดี๋ยวได้กัดคนถือกุ้ง”
“อิอิอิ” ว่านหัวเราะเบาๆก่อนจะวางกุ้งลงไปคืน

              หลังจากเลือกกุ้งเสร็จผมก็พาว่านไปยังมุมเครื่องเทศแล้วก็เครื่องปรุงต่างๆ

“ทานผัดผงกะหรี่เป็นไหม” ผมถามว่านขณะที่กำลังเลือกเครื่องปรุงอยู่
“ชอบเลย” ว่าตอบกลับมา
“งั้นเอาผัดผงกะหรี่เพิ่มอีกอย่างแล้วกัน”

              หลังจากเลือกเครื่องปรุงเสร็จแล้วผมก็ไปจ่ายเงินครับ โดยช่องจ่ายเงินที่ผมเข้าไปมันร้านายไอศกรีมชื่อดังตั้งอยู่ ระหว่างที่รอจ่ายเงินผมสังเกตว่าว่านมองไปที่ร้านไอศกรีมนั้นตลอดเลย ผมเลยหันไปถามว่านว่า

“ไอติมม๊ะ”

              ว่านหันหน้ากลับมาพยักหน้าตอบรับ พอจ่ายเงินเสร็จผมเลยพาว่านเข้าไปทาน ท่าทางว่านวันนี้ดูมีความสุขมาก โดยระหว่างที่ทานไอศกรีม ว่านพูดเล่นอยู่ตลอดเวลา เล่าเรื่องโน้นเรื่องนี่ที่โรงเรียน เหมือนบีไม่มีผิด

“เนี่ยะมันมีเพื่อนคนหนึ่งชื่อไอ้แม็ค มันหน้าโหดมากเลยพี่”
“โหดยังไง”
“ก็โหดขนาดว่าพี่ ม.5 ยังคิดว่ามันอยู่ ม.6 เลยล่ะ”
“นั่นมันเรียกว่าหน้าแก่ต่างหาก”
“นั่นล่ะๆ”
“แล้วยังไง”
“วันนั้นหน่ะ พอเลิกเรียนเสร็จมันร้องเพลง” ว่านเล่าด้วยน้ำเสียงตื่นเต้นสุดๆ
“แค่คนร้องเพลงมันต้องตื่นเต้นขนาดนั้นเลยเหรอ” ผมถามว่าน
“ก็เพลงที่มันร้องหน่ะซิพี่” ว่านเล่าต่ออย่างตื่นเต้น
“ทำไมเพื่อนร้องเพลง LESSON 1 แล้วหน้าเปลี่ยนเป็นจุ๋ยๆหรือไง”
“ไม่ใช่พี่ มันร้องเพลงนี้.....หนูมาลีมีลูกแมวเหมียว ลูกแมวเหมียว ลูกแมวเหมี๊ยว.......”
“.......” ผมอึ้งกินไปเล็กน้อย


             ไม่ใช่เพราะเรื่องเพื่อนว่านหรอกครับ แต่เป็นเพราะว่านร้องเพลงนี้แล้วทำท่าทางฮามาก อธิบายยังไงดี เคยเห็นชินจังเต้นท่าปลาหมึกไหมครับ ว่านมือขึ้นมาสูงระดับอกแบบมืออกพร้อมกับคว่ำมือลง แล้วสะบัดไปมาขึ้นลงแบบว่า มือขวาลงล่าง มือซ้ายขึ้นบน สลับไปมาๆ ทันทีที่เห็นผมเกือบหลุดปล่อยเสียงฮาออกมา ผมได้แต่เอามือมาปิดปากแล้วกลั้นหัวเราะจนน้ำตาเล็ดเลยทีเดียว ว่านเองพอเห็นผมกลั้นหัวเราะแบบนั้นว่านก็ทำท่าทีสงสัยใหญ่


“ฮาขนาดนั้นเลยเหรอพี่” ว่านถามผม
“ฮุๆๆๆ แป๊บ ฮุๆๆๆๆ” ผมกลั้นหัวเราะแทบตาย ทำให้พูดอะไรตอนนั้นไม่ได้ สุดท้ายพอหยุดหัวเราะได้แล้วผมก็ถามว่านไปว่า
“ท่าเมื่อกี้เอามาจากไหน”
“เอามาจากไอ้เกม” ว่านตอบ
“ทำไมเหรอครับ” ว่านถามต่อ
“เปล่า น่ารักดี วันหน้าทำอีกนะ”
“พี่ชอบเหรอ” ว่านถามผม
“อื่อ....ว่าแต่ตอนแม็คร้องเนี่ยะ แม็คได้ทำท่านี้ด้วยไหม”
“เปล่า มันนั่งร้องวนไปวนมาของมันคนเดียว”
“เหรอ ฮะๆ น่ารักกันจังเน๊าะเด็กห้องนี้”
“อิอิอิ”


              พอว่านกับผมทานไอศกรีมเสร็จผมก็พาว่านไปส่งที่บ้าน โชคดีที่ห้างซีใหญ่เค้ามีถุงเก็บความเย็นให้เลยไม่ต้องกังวนเรื่องปลาหมึกแล้วก็กุ้ง ระหว่างทางที่ไปส่งว่านผมยังคงกุมมือว่านแล้วก็หอมหลังมือว่านเหมือนเคย แต่วันนี้พิเศษมาหน่อยที่ว่านร้องเพลง หนูมาลีมีลูกแมวเหมียว ไปตลอดทางเลย แต่ยังไงก็ตามวันนี้ผมมีความสุขมากเลยครับ



To Be Con
หัวข้อ: Re: น้องชาย 2 ( Up ช่วงที่ 17 : 26/05/11 )
เริ่มหัวข้อโดย: •ไนท์คลุง• ที่ 26-05-2011 17:49:21
เย้ๆ มาต่อแล้ว


กด+ให้เป็นรางวัลครับ :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: น้องชาย 2 ( Up ช่วงที่ 17 : 26/05/11 )
เริ่มหัวข้อโดย: donutnoi ที่ 26-05-2011 21:26:36
 :L2: :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: น้องชาย 2 ( Up ช่วงที่ 17 : 26/05/11 )
เริ่มหัวข้อโดย: HydrA ที่ 26-05-2011 22:22:01
พี่เอเซี้ยะโค้ชไปมั่งเหอะ
ดูเหมือนว่าแกจะหาเรื่องเดือดร้อน
มาให้พี่เอตลอด
หัวข้อ: Re: น้องชาย 2 ( Up ช่วงที่ 17 : 26/05/11 )
เริ่มหัวข้อโดย: naoki24 ที่ 26-05-2011 22:52:18
ทำไมเอทำกับว่านเหมือนน้องบีเข้าไปทุกทีๆ
อีกไม่นานหลวมตัวแน่เลย  :z1:
จงท่องจำไว้ว่า ต่อจาก A นั้นคือ B เท่านั้น
ตัวที่ใกล้ A ที่สุด คือ B เท่านั้น
แต่เชื่อเถอะผมว่าคนที่อ่านใจเอได้ดีที่สุดน่าจะเป็นอ้นนะ ขอบอกๆ o13
หัวข้อ: Re: น้องชาย 2 ( Up ช่วงที่ 17 : 26/05/11 )
เริ่มหัวข้อโดย: icyblue ที่ 27-05-2011 00:34:29
อ่านควบ 2 ตอน

น้องว่านเค้าก็มีมุมน่ารักๆ เหมือนกันนะเนี่ย  :impress2:

หัวข้อ: Re: น้องชาย 2 ( Up ช่วงที่ 17 : 26/05/11 )
เริ่มหัวข้อโดย: me_alone ที่ 27-05-2011 01:17:58
ช่วงที่ 18
             


 
           วันนี้หลังจากเรียนเสร็จในตอนเช้าตอนบ่ายว่างแต่เนื่องจากคาบเช้าอาจารย์สอนเพลินไปนิ๊ด แต่นักศึกษาไม่ได้เพลินด้วยเท่าไหร่ กว่าจะเลิกก็ปาเข้าไปบ่ายโมงกว่าๆผมเลยรีบกลับมาบ้าน พอมาถึงบ้านผมก็รีบเข้าครัวทันที เพราะนี่ก็บ่ายมากแล้วเดี๋ยวกับข้าวจะเสร็จไม่ทัน เมนูแรกที่ผมเริ่มทำวันนี้คือเมนูปลาหมึกและกุ้งผัดพริกไทยดำครับ ผมเริ่มแช่ปลาหมึกกับน้ำก่อน ระหว่างนั้นก็แกะเปลือกกุ้งระหว่างรอปลาหมึกแช่น้ำ หลังจากแกะเปลือกกุ้งเสร็จ ผมก็ไปลอกหนังปลาหมึกต่อ จากนั้นก็หั่นๆเป็นชิ้นสี่เหลี่ยมพอดีคำ เมื่อเสร็จแล้วผมก็เอาไปผัดไม่นานก็เสร็จ ตามด้วยปลาหมึกและกุ้งผัดผงกะหรี่ต่อ ใช้เวลาทำสองเมนูนี้ประมาณเกือบหนึ่งชั่วโมง ก่อนจะใส่ถุงส่วนหนึ่งแล้วก็ใส่กล่องส่วนหนึ่ง เมื่อทำเสร็จแล้วผมก็ไปเปลี่ยนเสื้อผ้าเตรียมไปที่ยิมทันที พอมาถึงยิมผมก็พบน้องๆนักกีฬาของทางมหาวิทยาลัยมานั่งเล่นคุยกันบ้างก็นั่งเขียนรายงานกันอยู่


“พี่เอ หวัดดีครับ/คะ” น้องๆต่างหันมายกมือไหว้ทักทายผมอย่างพร้อมเพรียง
“ดีครับๆ วันนี้ทำไมมาเร็วกันจัง”
“ก็โค้ชบอกว่าเริ่มเก็บตัวแล้วนี่ค่ะ” แนนหันมาตอบผม
“อ่าว เออใช่ จริงด้วย”
“พี่เอขี้ลืมจัง ยังไม่แก่เลยนะเนี่ยะ ฮะๆ” ตั้มแซวผม
“แล้วโค้ชไปไหนซะล่ะ”
“ไม่เห็นเลยคะพี่” จ๋ายตอบกลับมาพร้อมทำท่าหันซ้ายหันขวา
“แล้วพวกเรามากันตั้งแต่กี่โมงเนี่ยะ”
“ผมมาตั้งแต่เที่ยงแล้ว” ตั้มตอบ
“ส่วนพวกหนูเพิ่งมาก่อนพี่ได้ชั่วโมงกว่าๆ เพราะตอนแรกพี่เก่งบอกว่าจะรวมกันที่มหาวิทยาลัยก่อนแล้วค่อยมาพร้อมกัน แต่พวกหนูไปรอตั้งนานไม่เจอใครเลย เลยมาที่นี่กัน” แนนอธิบายเพิ่ม
“อ่าว ก็เมื่อวานโค้ชเค้าแจ้งแล้วนี่นา ว่าให้มาที่นี่เลย”
“ก็พี่เก่งโทรมาบอกพวกหนูตอนเช้า ว่าถ้าว่างแล้วให้ไปรอที่ชมรมก่อน ค่อยมายิมพร้อมกัน” แนนตอบ
“อืม....แล้วเก่งล่ะไม่มาด้วยเหรอ”
“ยังไม่เห็นเลยพี่ พวกผมโทรหาก็ไม่ติดพี่เค้าปิดเครื่อง” ไม้พูดขึ้น
“งั้น...ไปวิ่งๆวอร์มกันก่อนแล้วกัน เสร็จแล้วเดี๋ยวพี่บอกเองว่าให้ทำอะไรต่อ”
“ครับ/คะ”
            
  
               หลังจากคุยกับน้องๆเสร็จผมก็เอาของไปวางที่ชั้นวางก่อนจะเดินไปซื้อน้ำแล้วก็ขนมมาเผื่อว่านเหมือนที่เคยทำทุกๆวัน พอซื้อเสร็จผมก็เดินมาที่ยิม ก่อนถึงหน้ายิมปรากฏว่าผมเจอว่านกับกลุ่มเพื่อนของเค้าเดินมาพอดี ผมเลยเดินไปทักทายตามปรกติ ว่านเองพอเห็นผมถือของจาก 7 – 11 มาก็วิ่งมารับอย่างรวดเร็วก่อนจะเปิดคาลพิส แลคโตะดื่ม


“กำลังหิวพอดีเลย” ว่านพูดขึ้นหลังจากดื่มไปสองถึงสามอึก
“คนเดียวเลย ไม่มีแบ่งอะ” ริวแซวว่าน
“ช่ายๆ น้ำใจอะมีม๊ะๆ” เกมแถม
 “อะ เอาดิ” ว่านพูดพลางยื่นขวดคาลพิส แลคโตะไปให้เพื่อนๆ
“ไม่เป็นไรแล้ว กูเกรงใจ” ริวตอบ
“ไม่กล้ากินต่อล่ะซิมึง ฮ่ะๆ” ว่านพูดพลางหัวเราะ


               แล้วพอผมกับพวกว่านเข้ามาในยิมก็พบว่าโค้ชมานั่งที่โต๊ะเรียบร้อยแล้ว


“ดีครับ” ผมทักทายโค้ชไปตามมารยาทก่อนที่น้องๆจะยกมือไหว้ตามแล้วแยกย้ายเอาของไปเก็บรวมถึงเปลี่ยนชุดกัน
“เอาอะไรมาเยอะแยะ” โค้ชถามผมพลางชี้ไปที่ถุงใส่อาหารที่ผมเอามาด้วย
“อ่อ....ผมเอามาให้ว่านครับ” ผมตอบไป
“ไหนเอามาดูหน่อย”
“.....ไม่มีอะไรหรอกพี่”
“ไม่มีแล้วดูไม่ได้หรือไง”
“.....” ผมรู้สึกไม่พอใจขึ้นมานิ๊ดๆ เลยไม่ได้ตอบอะไรกลับไป
“ว่านๆ หยิบมาให้หน่อยซิ๊” โค้ชชี้นิ้วสั่งว่านที่เพิ่งเดินออกมาจากห้องแต่งตัวให้ไปหยิบถุงใส่อาหารไปให้เค้า


               แล้วว่านก็เดินไปหยิบมาให้โค้ชอย่างง่ายดาย แต่ระหว่างที่ว่านเดินไปหยิบว่านก็มองมาทางผมอยู่เรื่อยๆ ก่อนจะวางถุงใส่อาหารลงบนโต๊ะ แล้วโค้ชก็ลงมือคุ้ยทันที


“โอโห...อะไรเนี่ยะ ของกินทั้งนั้นเลย” โค้ชอุทานขึ้นทันทีที่เห็นว่าภายในนั้นใส่อะไรไว้
“.....” ผมได้แต่ยืนมองอยู่เฉยๆ เพราะดูเหมือนว่าจะพูดอะไรไม่ได้แล้ว
“เอาไปให้ใครเนี่ยะ” โค้ชหันมาถามผม
“ให้ว่าน แล้วก็แม่น้องว่าน”
“แล้วทำไมมีใส่ถุงกับใส่กล่องล่ะ” โค้ชถามต่อ
“แบบถุงให้ว่านทาน ส่วนที่ใส่กล่องของคุณแม่ว่าน”
“อ่าว ก็อยู่บ้านเดียวกันทำไมต้องแบ่งกล่องแบ่งถุง” โค้ชถามผมด้วยท่าทีสงสัย
“ก็ผมไม่รู้ว่าคุณแม่ว่านอยู่ไหม ถ้าไม่อยู่จะได้เก็บไว้ได้ ถ้าอยู่ก็ทานเลย”
“หืมมม รอบคอบๆ ว่าแต่ชิมได้ไหม” โค้ชถามผม
“.....” ผมไมได้ตอบอะไรออกไป
“ว่าน ว่าไง ชิมหน่อยได้ไหม” พอผมไม่ตอบโค้ชก็หันไปถามว่าน
“แล้วแต่พี่เอครับ” ว่านตอบไป
“แล้วแต่พี่เค้ายังไง พี่เค้าเอามาให้เราแล้ว” โค้ชพูดกับว่านด้วยคำพูดเหมือนพวกขายตรงเชียร์ลูกค้าซื้อสินค้าในช่วงโค้งสุดท้าย
“ครับ” ว่านตอบกลับไป

               ทันทีที่ว่านตอบเหมือนโค้ชจะรอเปิดอยู่แล้ว เค้าหยิบส่วนที่ใส่ถุงออกมาทั้งสองถุงแล้วแกะออกก่อนจะเอามาจ่อที่จมูกตามด้วยเสียงลมหายใจสูดดมกลิ่นที่น่ารักเกียจที่สุดเท่าที่ผมเคยได้ยินมาในชีวิตของผม

“หอมจัง ว่าแต่ไม่มีช้อนทำไง” โค้ชหันมาพูดกับผม
“.....” ผมไม่ได้ตอบอะไรกลับไป
“อ๊า คิดออกแล้ว”


               พูดจบโค้ชก็เอามือบีบๆปลาหมึกกับกุ้งขึ้นมาที่ปากถุงก่อนจะใช้มือหยิบกิน ท่าการกินแบบนี้....ถ้าเป็นเด็กๆมันดูน่ารักครับ แต่สำหรับคนอายุสามสิบขึ้นมันดูน่าเกลียดมาก ยิ่งคนที่เรียกว่าตัวเองเป็นโค้ช หรือ เป็นครูด้วย ไม่มีการรักษาภาพลักษณ์เลย


“อร่อยมากเลยเอ เปิดร้านขายได้เลยนะเนี่ยะ”


               โค้ชยิงคำชมใส่ผมขณะที่ในปากก็ยังเคี้ยวกุ้งอยู่หยับๆ ผมว่าโค้ชคงไม่รู้หรอกว่าคำชมของเค้ามันไม่มีผลอะไรกับผมหรอก จะว่าไปก็มีบ้างที่ทำให้ผมรู้ว่าอาหารที่ผมทำมันอร่อย แต่มันไม่ทำให้ความรู้สึกชิงชังในตัวโค้ชลดลงไปเลยแม้แต่เสี้ยวเดียว คงอย่างที่บางคนบอกไว้ว่าเวลาที่ผมจะหมดความอดทนกับโค้ชคงใกล้เข้ามาเต็มทีแล้ว


“เอ้า พวกเรามาชิมกันดู พี่เอทำเองกับมือเลยนะ”


               โค้ชพูดเสียงดังพอที่เด็กๆทั้งยิมจะหันมามองเป็นทางเดียว ก่อนที่โค้ชจะยื่นปากถุงหันไปทางเด็กๆ ซึ่งเด็กๆหลายคนคงไม่รู้ว่าตอนนี้มีเมฆฝนตั้งเค้าอยู่แถวนั้นเลยกุลีกุจอมาหยิบทานกันเป็นการใหญ่ ซึ่งโค้ชเองก็บีบๆกุ้งแล้วก็ปลาหมึกออกมาให้เด็กๆหยิบไปทานด้วยวิธีเดียวกันกับเค้า เว้นก็แค่ว่านคนเดียวที่ยืนมองอยู่ห่างๆ พูดตรงๆนะครับ....เหตุการณ์คราวนี้ทำให้ความรู้สึกไม่พอใจที่มีกับโค้ชคุกรุ่นขึ้นมาอีกระดับหนึ่งเลยทีเดียว เพราะที่ผมทำมาวันนี้...ไม่ใช่ทำเพื่อเด็กๆในยิม หรือ โค้ช.....แต่ผมใช้ใจของผมทำให้ว่านต่างหาก......วันนั้นผมเลยค่อนข้างเงียบไม่พูดอะไรกับโค้ชมากมาย เพื่อให้เค้ารู้ว่าผมไม่พอใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โค้ชเองคงรับรู้ได้เลยเดินชมผมเป็นการใหญ่ซ้ำไปซ้ำมา มันดูจงใจจนน่ารำคาญ


“พี่เอ......” ว่านเรียกผมเบาๆขณะที่ผมนั่งพิงกำแพงที่มุมเดิม
“ครับ” ผมหันไปตอบว่าน
“......” ว่านไม่ตอบอะไรกลับมาแต่ว่านเอามือผมไปเล่นแทน ท่าทีของว่านเวลานี้เหมือนจะรู้ว่าผมไม่พอใจเลยมานั่งปลอบซะมากกว่าจะมานั่งคุย
“พี่เอ เป็นไรวันนี้ดูเงียบๆ” ฟิวเดินมานั่งข้างๆแล้วพูดขึ้น
“ไปไกลๆเลยไป” ว่านพูดด้วยน้ำเสียงแข็งๆใส่ฟิว
“อะไรอะ...” ฟิวทำหน้า งงๆ
“ว่างมากก็ไปซ้อมของตัวเองไป” ว่านพูดด้วยน้ำเสียงแข็งๆใส่ฟิวอีกครั้ง
“เออๆ ไปก็ได้” พูดจบฟิวก็ลุกเดินออกไป


               แล้วก็ถึงช่วงเลิกโค้ชเรียกน้องๆรวมถึงพวกนักกีฬาไปนั่งวิจารณ์รวมถึงวิเคราะห์การเล่นของแต่ละคนเหมือนทุกๆที แต่วันนี้โค้ชพิเศษหน่อยตรงที่ชมว่านไม่หยุดปากให้พวกนักกีฬาของมหาวิทยาลัยฟัง ว่าว่านเก่งอย่างนั้น เก่งอย่างนี้ ว่านเองพอถูกชมซึ่งหน้าแบบนี้ก็ถึงกับวางตัวไม่ถูกกันเลยทีเดียว แต่แล้วโค้ชก็พลาดประโยคหนึ่ง


“พวกเรารู้ไหมว่านเตะเร็วมาก คราวก่อนเตะกับว่าน เกือบถูกว่านเตะหน้า เชื่อไหมตอนนี้ความเร็วของว่านเกือบเท่าครูแล้ว ขนาดเตะกับครูป้อม ครูป้อมยังเตะไม่เร็วขนาดนี้เลย” โค้ชพูดอย่างภูมิใจ
“เร็วมากเลยเหรอครู” ต้นกล้าถามขึ้น
“ใช่ซิเร็วมาก ตอนนี้ว่านเตะเร็ววกว่าครูป้อมแล้วรู้ไหม” โค้ชตอบต้นกล้าไปด้วยน้ำเสียงภูมิใจในตัวว่านสุดๆ


               โค้ชคงไม่รู้หรอกว่า....ที่กำลังพูดอยู่นั้น....มันฆ่าตัวตายชัดๆเลย....ยิมนี้สอนอยู่สามคน แต่โค้ชดันไปยกเด็กที่มาซ้อมว่าเก่งกว่าผู้สอนซะออกหน้าออกตา ณ จุดนี้มันไม่ใช่ปัญหาใหญ่หรอกครับ เพราะอีกไม่นานต่อจากนี้ปัญญาที่ใหญ่กว่าจะตามมาอีก หลังจากโค้ชปล่อยเด็กเสร็จแล้ว โค้ชก็เรียกพวกนักกีฬาของมหาวิทยาลัยมารวมอีกต่างหากเพื่อพูดคุยเรื่องการฝึกซ้อม แล้วโค้ชก็ให้น้องๆนักกีฬาจับคู่ต่อสู้อิสระกันทีละคู่ แล้วโค้ชก็วิเคราะห์ รวมถึงพูดถึงวิธีบุก วิธีรับ และ วิธีแก้ ให้น้องๆทราบจากลูกเล่นที่น้องๆใช้กันนั่นแหละ ฟังดูดีใช่ไหมครับ ใช่ครับดูดีมากแต่ที่ไม่ดีคือโค้ชจำกัดลูกเล่นของน้องให้อยู่แต่ในขอบที่โค้ชต้องการเท่านั้น มันไม่ต่างอะไรกับเด็กเรียนเก่งหลายด้าน แต่ถูกจำกัดให้เรียนแค่ด้านเดียวตามใจพ่อแม่เลย แทนที่โค้ชจะแนะนำแล้วก็ต่อยอดให้น้อง เค้ากลับไปจำกัดท่าเตะน้องซะงั้น แถมยังพูดว่า “เอาแค่นี้พอ ท่าอื่นไม่ต้องใช้ มันไมได้แต้มหรอก” รู้ได้ยังไงว่ามันจะไม่ได้ ผมไม่เข้าใจโค้ชเลยจริงๆ

               แล้ววันนี้ว่านเองก็ถูกจับมาให้เข้าคู่เตะกับรุ่นพี่ด้วย ว่านได้คู่กับก้อง พูดถึงก้อง ก้องเป็นน้องใหม่ของทีมครับ เพิ่งเข้ามาเรียนอยู่ปีหนึ่งเอกคอมพิวเตอร์ แต่เนื่องจากก้องเล่นเทควันโดมาก่อนแถมฝีมือจัดได้ว่าเข้ารอบชิงเหรียญได้ไม่ยากเย็นนัก คู่แล้วคู่เล่าผ่านไปจนถึงคู่ก้องกับว่าน เนื่องจากก้องไม่เคยเห็นมือว่านมาก่อน เพราะก้องเพิ่งมายิมวันนี้วันแรก แถมโค้ชเองก็ยังชมเรื่องความเร็วของว่านด้วยซ้ำเสียงภูมิใจสุดๆอีกต่างหาก ส่วนว่านเองก็ยังไม่เคยเห็นฝีมือก้องเช่นเดียวกัน

               ทันทีที่ผมสั่งเริ่มการต่อสู้ ทั้งคู่ดูเชิงกันแบบไม่วางตา ต่างฝ่ายต่างไม่กล้าบุก มันนานเกินไปจนผมสั่งเคียงโก* หลังจากถูกหักคะแนนไป ว่านเองก็เปิดฉากบุกก่อนด้วยท่าเตะ round kick ข้างซ้าย ก้องเห็นดังนั้นเลยดึงถอยหลบเล็กน้อยพอพ้นระยะขาของว่าน ทันทีที่ขาว่านพ้นตัวก้องเพียงเล็กน้อย ก้องก็เตะ round kick ขาหน้าซ้ายเข้าไปที่ท้องว่านอย่างรวดเร็ว ไม่ทันที่ว่านจะได้หลบ ไม่ซิไม่ทันที่ว่านจะวางเท้าที่เตะครั้งแรกออกไปด้วยซ้ำ ก้องก็ทำแต้มจากว่านได้ทันทีหนึ่งแต้ม แล้วในชั่วพริบตานั้นทันทีที่ว่านวางขาได้ว่านก็กระโดด Jump Back Kick ข้างขวาต่อทันที จากลูกเตะนี้ทำให้ผมทราบทันทีเลยว่าก้องเป็นคนที่ไหวพริบดีมาก ก็ไม่ก็คงจะเดาทางว่านได้ล่วงหน้า ก้องฉากประมาณสี่สิบห้าองศา หลบลูกเตะ Jump Back Kick ของว่าน ไปทางซ้ายมือของตัวเอง ขณะนั้นขาซ้ายที่เตะ round kick ครั้งแรกของก้องยังไม่ทันแตะพื้นเลยด้วยซ้ำ ก้องใช้การโดดเลียดพื้นดีดเท้าขวาที่เป็นหลักไปเป็นหลักต่อ ก่อนที่ขาซ้ายก้องจะลงมาถูกพื้น แล้วเพียงเสี่ยววินาทีเท้านั้นทันทีที่หลายเท้าซ้ายก้องสัมผัสพื้นเพียงเล็กน้อย ก้องก็ดีดเท้าซ้าย round kick เข้าไปที่หลังว่านอย่างแรง

              “พลั๊ก!!” เสียงเท้าของก้องกระทบเข้ากับแผ่นหลังของว่านอย่างแรง จังหวะนั้นมันไม่เอื้ออำนวยต่อการผ่อนแรงเอาเสียเลย เนื่องจากขณะถูกเตะว่านลอยอยู่กลางอากาศทำให้ว่านกระเด็นไปตามแรงเตะของก้องอย่างง่ายดาย “ตุบ!!” เสียงว่านตกลงกระแทกพื้นก่อนจะกลิ้งต่ออีกเล็กน้อย ทันทีที่ตั้งหลักได้ผมรีบวิ่งเข้าไปดูว่านทันที ตอนนั้นว่านนอนหันหลังแล้วเอามือมากุมหลังตัวเองไว้


“ว่าน เป็นไรไหม เจ็บไหม” ผมถามว่าน
“.....ไม่....ไม่เจ็บ” ว่านตอบมาด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ
“พอก่อนไหม เดี๋ยวค่อยเตะต่อก็ได้” ผมถามอีกครั้งก่อนจะเอามือไปแตะที่หลังว่านเบาๆ
“ก็ผมบอกว่า ไม่เจ็บไง” ว่านขึ้นเสียงใส่ผมทันที
“.....” เสียงที่ว่านตะคอกกลับมาเล่นเอาผมทำอะไรไม่ถูกเลย

               ตอนนั้นพวกน้องๆนักกีฬาที่นั่งดูส่วนหนึ่งกรูกันเข้ามาดูว่านด้วยความเป็นห่วง แต่คงเนื่องจากไม่สนิดกันเลยทำได้แค่ยืนให้กำลังใจ ส่วนโค้ชเหรอครับ เค้านั่งไขว่ห้างกอดอกพิงเก้าอี้อย่างไม่มีท่าทีใส่ใจมาดูว่านเลยด้วยซ้ำ

“พี่ขอโทษ พี่ยั้งไม่ทัน” ก้องพูดพลางเอามือลูบๆที่หลังว่าน
“ไม่เป็นไรพี่” ว่านหันไปพูดกับก้องก่อนจะค่อยๆลุกขึ้น
“ไปพักก่อนดีกว่าเน๊าะ” ผมพูดกับว่านอีกครั้ง
“ก็บอกว่าไม่ไง” ว่านหันมาตอบผมด้วยน้ำเสียงค่อนข้างแข็งเลยทีเดียว
“.....”


               แล้วว่านก็ทนสู้กับก้องต่อไปจนหมดยก ก่อนจะเดินเซๆไปนั่ง ตลอดการต่อสู้ว่านถูกก้องเตะหลายครั้ง ผมเริ่มสังเกตได้ว่า ก้องไม่ได้ตั้งใจจะออมแรงเลย หลายครั้งเหมือนจะปล่อยไปเลยด้วยซ้ำ กว่าจะหมดยกว่านก็ถูกเตะกลิ้งไปหลายครั้ง จะว่าไปผมไม่เคยถูกว่านพูดเสียงแข็งใส่แบบนี้มาก่อนเลยนะครับ แต่ตอนนั้นผมก็คิดไปว่าอาจเพราะเจ็บ อาจอาย ไม่ก็รู้สึกเสียหน้าที่ถูกเตะเข้าไปเต็มๆแบบนี้ต่อหน้าคนอื่นรวมถึงโค้ชทั้งๆที่เพิ่งถูกชมไปหมาดๆ แต่จะเพราะอะไรก็แล้วแต่ ผมรู้สึกไม่ชอบเท่าไหร่ที่ว่านฝืนตัวเองแบบนี้
              

“แก๊ก แก๊ก แก๊ก” ผมเดินไปปิดไฟที่แผงสวิทซ์หลังจากที่น้องๆทยอยกลับจนหมด ส่วนว่านนั่งคงนั่งเงียบไม่พูดอะไร
“ปะ...กลับบ้าน”
“.....” ว่านไม่พูดอะไร แต่ค่อยๆลุกขึ้นมาก่อนจะเดินตามผมออกมา


               ระหว่างที่ผมปิดยิมผมอยากถามว่านแทบขาดใจว่า “เจ็บมากไหม” แต่ผมกลัวว่าจะถูกว่านโกรธเอาผมเลยได้แต่เงียบ ก่อนจะพาว่านไปส่งที่บ้าน ตลอดทางผมกุมมือน้องไว้แล้วก็ลูบๆมือน้องเบาๆ จากที่ร่าเริงร้องหนูมาลีมีลูกแมวเหมียวเมื่อวาน วันนี้ว่านกลับเงียบกริบไม่พูดอะไร ราวกับเป็นคนละคนเลยทีเดียว ผมเองก็ไม่รู้จะพูดอะไรเพื่อปลอบใจน้องดี อีกอย่างท่าทีเมื่อเย็นมันเหมือนว่านไม่ได้ต้องการคำปลอบใจอะไรด้วยซ้ำ มันเหมือนกับว่าเค้ารับไม่ได้กับสิ่งที่เกิดขึ้น ถ้าเราไปพูดให้กำลังใจ จะดูเป็นการตอกย้ำหรือเปล่า

“แกร๊ก....ครืดดดดด” ว่านเปิดประตูบานเลื่อนก่อนจะเดินเข้าไปในบ้านโดยไม่หันมามอง หรือ ทักทายผมเหมือนเคย.....ผมรู้สึกไม่ดีเลยกับบรรยากาศแบบนี้ ทั้งๆที่เมื่อเย็นผมไม่สบายใจว่านกลับทำให้ผมอารมณ์ดีขึ้นมาได้....แล้วผมล่ะ....ทำไมผมถึงทำให้ว่านสบายใจขึ้นมาไม่ได้ จะว่าไป....แค่เรื่องเล็กๆน้อยๆแค่นี้ทำไมผมถึงคิดอะไรให้มันมากมาย ทั้งๆที่โค้ชเองยังไม่เห็นมาสนใจดูว่านด้วยซ้ำ แม้แต่จะเอ่ยปากถามสักคำก็ไม่มี แล้วผมล่ะ.........ทำไมถึงใส่ใจกับความรู้สึกของว่านขนาดนี้.....ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้ผมยังไม่มั่นใจเพราะบียังอยู่ในความรู้สึกของผมเสมอ.....ไหนจะเรื่องที่ว่านอยู่สายนี้หรือเปล่าอีก แล้วว่านคิดยังไงกับผมแน่ผมก็ยังไม่รู้....ทั้งๆที่มันยังไม่มีอะไรชัดเจน..........แต่ความรู้สึกแบบนี้มัน...นี่ผม....ชอบว่านเข้าจริงๆแล้วใช่ไหม....




------------------------------
*ในกรณีที่ทำการแข่งขันแล้วไม่มีฝ่ายไหนบุกกันเกิน 10 วินาที กรรมการจะเตือน หรือ หักครั้งละ 0.5 คะแนนครับ การหัก 0.5 ในการแข่งขันจะใช้คำสั่งว่า “เคียงโก”


To Be Con
หัวข้อ: Re: น้องชาย 2 ( Up ช่วงที่ 18 : 27/05/11 )
เริ่มหัวข้อโดย: me_alone ที่ 27-05-2011 01:26:42
เย้ๆ มาต่อแล้ว
กด+ให้เป็นรางวัลครับ :กอด1: :กอด1:
:กอด1: ~ ขอบคุณครับ



:L2: :กอด1: :กอด1:
:กอด1:



พี่เอเซี้ยะโค้ชไปมั่งเหอะ
ดูเหมือนว่าแกจะหาเรื่องเดือดร้อน
มาให้พี่เอตลอด
:เฮ้อ: ~ บางทีหน้าที่ กับ ความรู้สึกส่วนตัวมันก็แยกกันยากอะครับ



ทำไมเอทำกับว่านเหมือนน้องบีเข้าไปทุกทีๆ
อีกไม่นานหลวมตัวแน่เลย  :z1:
จงท่องจำไว้ว่า ต่อจาก A นั้นคือ B เท่านั้น
ตัวที่ใกล้ A ที่สุด คือ B เท่านั้น
แต่เชื่อเถอะผมว่าคนที่อ่านใจเอได้ดีที่สุดน่าจะเป็นอ้นนะ ขอบอกๆ o13
:กอด1: ~ ตอนนี้อ้นเป็นหนุ่มน้อยแล้ว หล่อขึ้นมากกกกก



อ่านควบ 2 ตอน
น้องว่านเค้าก็มีมุมน่ารักๆ เหมือนกันนะเนี่ย  :impress2:
:กอด1: ~ จริงๆว่านเค้าก็มีมุมน่ารักเยอะนะครับ แต่ผมไม่รู้จะอธิบายด้วยตัวหนังสือยังไงดี
หัวข้อ: Re: น้องชาย 2 ( Up ช่วงที่ 18 : 27/05/11 )
เริ่มหัวข้อโดย: donutnoi ที่ 27-05-2011 06:55:56
โค้ชนี่นับวัน ยิ่งทำตัวแย่  :beat: :beat:
หัวข้อ: Re: น้องชาย 2 ( Up ช่วงที่ 18 : 27/05/11 )
เริ่มหัวข้อโดย: •ไนท์คลุง• ที่ 27-05-2011 18:22:56
 :เฮ้อ: มีอะไรอีกล่ะเนี่ย เป็นกำลังใจให้ครับ :L2:
หัวข้อ: Re: น้องชาย 2 ( Up ช่วงที่ 18 : 27/05/11 )
เริ่มหัวข้อโดย: reneisance ที่ 27-05-2011 20:19:44

เอ ไม่ได้ชอบว่านหรอก แต่เหมือนงว่าเอ ยังไม่ได้ตัวของว่านเท่านั้น มันก็เหมือนตอนของ บี นั้นแหละ พอ เอ มีอะไร กับ บีไปแล้ว ความสัมพันธ์มันก้เปลี่ยนไป คือไม่ได้บอกให้ สานต่อ แต่ความรุ็สึกของ เอ ต่อ บี ก่อนที่ เอจะมีอะไรกับ บี กับหลัที่เอมีอะไรกับ บีแล้วมันดูแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง คิดว่า เอกำลังหลง ว่านอยู่เท่านั้น ซึ่ง ตอนนี้เอ ยังไม่ได้มีอะไรกับว่าน มันก็เหมือนตอนที่ เอ ยังไมได้มีอะไร กับบี  คล้ายกับตอนนี้ยังเป็นช่วง โปร พอหมดโปรก็เปลี่ยนไป

อีกอย่างหนึ่ง  ไม่ค่อยชอบ นิสัยเด็กอย่างว่าน เป็นเด็ก ที่ดูก้าวร้าวลึกๆๆๆ ไม่ดูบริสุทธิ์ เหมือนกับ บี แม้ว่าพื้นฐานของ บี และ ว่านจะต่างกัน แต่นิสัยของเด็กที่ดี มันก็ย่อมมาจากตัวของเด็กนั้นเอง
หัวข้อ: Re: น้องชาย 2 ( Up ช่วงท$
เริ่มหัวข้อโดย: kritsada.s ที่ 27-05-2011 20:41:25
จะรักกันหรือไม่รัก มันไม่เกี่ยวกับคนอื่นเลย
รักกันน่ะมันขึ้นอยู่กับสองคน และต้องตอบให้ได้ว่ารักหรือหลง
จะน้องบีหรือว่าน ดูๆ กันไป ถ้าน้องชอบเอนะ แล้วเอชอบก็คงบอกว่ารักแล้ว ก็สุดท้ายคงต้องดูกันไปเรื่อยๆ
 
ถ้าอีกคนชอบ แต่เด็กเขาไม่ชอบและห่างจนแบบว่าไม่มีโอกาส แล้วจะหวังทำไมล่ะ อย่าไปจมกับอดีต เมื่อผ่านไปแล้วมันก็เป็นอดีตเขาก็ไม่มาสนใจเราหรอก อยู่กับปัจจุบันและทำให้ปัจจุบันให้ดีที่สุด ถึงแม้ว่าชั่วคราวก็ทำไปเพราะมีความสุข ชีวิตต้องเดินต่อไป โชคเอน่ะ ฮ่าๆ
หัวข้อ: Re: ...รักล้นใจ...(อัพครั้งที่ 16)
เริ่มหัวข้อโดย: yunjaejoong ที่ 27-05-2011 21:52:40
ขอบอกเลยว่าถ้าเอชอบว่านจริงๆเราจะไม่เม้นอีกเลย  เรื่องจริง
หัวข้อ: Re: น้องชาย 2 ( Up ช่วงที่ 18 : 27/05/11 )
เริ่มหัวข้อโดย: me_alone ที่ 28-05-2011 00:32:49
ช่วงที่ 19


               วันนี้บรรยากาศในยิมนั้นค่อนข้างอึมครึมพอสมควรเนื่องจากว่านมาถึงก็ตั้งหน้าตั้งตาซ้อมเตะหน้ากระจกอยู่คนเดียวอย่างเคร่งเครียด เหมือนพยายามหาลูกเล่นใหม่ หรือ พยายามหาช่องว่างของตัวเอง เพราะมีการเตะเหมือนรุกแล้วก็รับอยู่คนเดียว เตะไปสองสามครั้งก็เหมือนจะทำท่าทางไม่พอใจ ก่อนจะเริ่มเตะใหม่ไปๆมาๆไม่หยุด โดยระหว่างที่ว่านซ้อมคนเดียวอย่างเอาเป็นเอาตายอยู่นั้น มันทำให้คนอื่นๆในยิมวางตัวไม่ถูกเท่าไหร่ เพราะ โค้ช พี่ป้อม ผม ต่อมาก็คือว่าน แล้วการที่จู่ๆว่านไปซ้อมเอาเป็นเอาตายแบบนั้นมันเลยทำให้คนอื่น ต้องออกไปซ้อม หรือ ทำอะไรสักอย่างมากกว่าการอยู่เฉยๆ ไม่งั้นเดี๋ยวถ้าโค้ชมาเค้าก็จะพูดเอาว่านมาเปรียบเทียบกับคนอื่นที่ยังไม่เริ่มซ้อมอีก


“พี่เอ วันนี้พี่ว่านเค้าเป็นอะไรเหรอ” ต้นกล้าถามผมขณะที่ผมนั่งมองว่านซ้อมอยู่ที่โต๊ะ
“ไม่รู้ซิ” ผมตอบต้นกล้าไป
“วันนี้พี่ว่าน ท่าทางน่ากลัวจัง” ต้นกล้าพูดพลางเอามือมาจับแขนผมไว้


               เหมือนว่านจะรู้ว่าต้นกล้ากำลังพูดถึงเค้าอยู่ ว่านหันมามองต้นกล้าด้วยสายตาที่ไม่พอใจเท่าไหร่ ทำเอาต้นกล้ารีบหลบหน้าแล้วเดินไปซ้อมของตัวเองทันที ส่วนเพื่อนๆของว่านทั้งห้าคนเหรอครับ ไม่มีใครเข้าไปคุยกับว่านเลยวันนี้ แยกไปจับกลุ่มซ้อมกันต่างหาก อาการแบบนี้ของว่านมันไม่ใช่เพิ่งเคยเกิดขึ้นครั้งแรกครับ ซึ่งก็เดาได้ไม่ยากเท่าไหร่ว่ามันเกิดอะไรขึ้น แต่ครั้งก่อนที่เกิดว่านไม่เคร่งเครียดขนาดนี้ แล้วขณะที่เหตุการณ์ตึงเครียดกำลังดำเนินไป เสียงๆหนึ่งก็ดังขึ้น


“พี่เอ หวัดดีครับ” ก้องยืนสวัสดีผมจากด้านนอกของยิม ก่อนจะถอดรองเท้าแล้วสะพายกระเป๋าแบบเป้สีดำเข้ามาในยิม
“วันนี้เรียนเป็นไงบ้าง” ผมถามก้อง
“เยอะพี่” ก้องตอบขณะที่กำลังจัดแจงวางของที่ชั้นวาง
“อืมม แบ่งเวลาดีๆล่ะ ถ้ามีอะไรก็บอกพี่นะ”
“ครับ”


               หลังจากทักทายกันพอเป็นพิธีเสร็จก้องก็เดินไปวอร์มยืนเส้นยืดสาย โดยมีว่านมองก้องผ่านกระจกตลอดเวลา แล้วพอก้องยืดเส้นเสร็จแล้ว ว่านก็เดินเข้ามาหาก้องทันที ผมไม่รู้ว่าเค้าพูดอะไรกันเพราะมันเบามาก แต่หลังจากที่สองคนนั้นคุยกันเสร็จว่านถึงกับเดินคอตกไปนั่งฟุบริมหน้าต่างเลยทีเดียว ส่วนก้องก็เดินไปซ้อมของตัวเองตามตารางการฝึกซ้อมเบื้องต้นที่ผมวางไว้ให้ ที่บอกว่าเบื้องต้นก็เพราเมื่อโค้ชมา โค้ชจะเปลี่ยนรูปแบบการฝึก ทำให้ผมต้องวางแบบการวอร์มให้น้องเพื่อลดความเสี่ยงที่น้องๆจะบาดเจ็บให้ได้มากที่สุด ส่วนที่ว่านเดินไปฟุบผมก็ไม่ได้เดินไปถามอะไรน้อง เพราะดูเหมือนว่านจะไม่ต้องการแสดงความอ่อนแอให้ใครเห็นสักเท่าไหร่ วันนั้นมันไม่มีอะไรเป็นพิเศษเลยเพราะว่านเงียบตลอด มากสุดก็แค่มานั่งพิงผมแล้วก็เงียบไม่พูดอะไร ปล่อยให้ผมนั่งคุยกับเพื่อนว่านไป โดยที่ว่านทำตัวเหมือนไม่มีตัวตนอยู่ตรงนั้นไม่มีผิด

               จนถึงตอนเลิกหลังจากปิดยิมแล้วผมก็พาว่านไปนั่งทานข้าว....ครับฟังไม่ผิดวันนี้เปลี่ยนจากก๋วยเตี๋ยวไปเป็นร้านข้าวแทน โดยร้านนี้เป็นร้านอาหารที่ชมรมถ่ายภาพมักมาทานกันหลังจากที่ไปถ่ายภาพกันเสร็จแล้ว ไม่ก็เป็นที่นัดหมายกันก่อนจะออกไปถ่ายภาพ รสของอาหารที่นี่อร่อยสุดๆไปเลย พ่วงด้วยบรรยากาศแบบที่เรียกว่าดีมากๆริมสระน้ำขนาดใหญ่ มีเพลงเพราะๆเปิดคลออยู่ตลอดเวลา แสงไฟของร้านนี้จัดได้สวยมากไม่สว่างแล้วก็ไม่มืดมากมาย ซึ่งแน่นอนว่าราคาของอาหารนอกจากวัตถุดิบชั้นดีแล้วยังมีการรวมราคาค่าบรรยากาศเข้าไปด้วย ทำให้ราคาอาหารที่ยกมาราคาสูงกว่าร้านอาหารตามสั่งธรรมดา 2 – 4 เท่าเลยทีเดียว แต่ไม่เป็นไรครับ นานๆมาทีไม่ได้มาบ่อยๆ

               พอมาถึงร้านว่านเลือกที่จะนั่งโต๊ะริมน้ำ ซึ่งมันอยู่มุมลึกสุดของร้าน ก่อนที่ทางร้านจะเอาเมนูมาให้ ว่านรับเมนูแล้วหยิบกระดาษที่ทางร้านเตรียมไว้ให้เขียนรายการอาหารที่เราต้องการซึ่งตั้งอยู่กลางโต๊ะมาเขียน พอว่านเขียนเสร็จผมก็เขียนต่อ โดยผมแอบดูเมนูที่ว่านสั่งด้วยครับ ว่านสั่งมาทั้งหมดสองเมนู มียำวุ้นเส้น กับ แกงจืดวุ้นเส้น หลังจากสั่งอาหารเสร็จแล้ว ช่วงแรกว่านไม่ยอมพูดอะไรเลย


“ชอบวุ้นเส้นเหรอ” ผมหาเรื่องคุยกับว่าน
“.....” ว่านไม่ตอบแต่ทันมามองเหมือนจะบอกว่ายังไม่พร้อมที่จะคุย
“.....”

               ผมเลยได้แต่นั่งทานอาหารเงียบๆ ว่านเองก็ทานไปโดยไม่พูดอะไรเช่นเดียวกัน จนกระทั่งทานเสร็จ ว่านวางช้อนซ้อมคู่กันริมฝั่งซ้ายของจาน

“เฮ้อ.....” ว่านถอนหายใจเบาๆ
“......”
“พี่เอ....มะรืนนี้พี่ข้างบ้านผมไม่อยู่ ไม่มีใครไปส่งผมที่โรงเรียน พี่ไปส่งผมได้ไหม” ว่านพูดขึ้นมา
“ได้ซิ”
“ขอบคุณครับ”
“รับกี่โมงเหรอ”
“หกโมงครึ่งก็ได้”
“อืมมมม.....เช้าจัง......เอาแบบนี้ไหมล่ะ เดี๋ยวว่านมาค้างที่บ้านพี่”
“.....” ว่านมองหน้าผมแต่ไม่ได้ตอบอะไรกลับมา
“พูดเล่นน่า เดี๋ยวพี่ไปรับที่บ้านก็ได้”
“ผมโทรหาแม่เดี๋ยวหนึ่งนะ” ว่านพูดจบก็ลุกออกจากโต๊ะหายไปพักใหญ่ๆก่อนจะเดินกลับมาที่โต๊ะ
“......”
“แม่บอกให้ไปค้างที่บ้านพี่” ว่านพูดขึ้นมา
“หืมม....เอาจริงดิ”
“จริง”
“แล้วจะมาอยู่กี่วัน”
“น่าจะสองคืนครับ”
“มาพรุ่งนี้ใช่ม๊ะ”
“ใช่”


               ผมไม่ได้คุยอะไรกับว่านเพิ่มเติมมากมายเพราะดูเหมือนน้องอารมณ์ไม่ดีเท่าไหร่ หลังจากทานอาหารเสร็จแล้วผมก็พาว่านไปส่งที่บ้าน ตลอดทางที่ไปส่งว่านเงียบกริบ มือว่านที่ผมกุมไว้ ว่านก็กุมมือผมคืนค่อนข้างแน่นเลยทีเดียว พอถึงบ้านว่านก็เข้าบ้านไปเลยไม่ได้พูดคุยเล่นอะไร หลังจากส่งว่านเสร็จเมื่อกลับมาถึงบ้านผมก็โทรถามก้องเรื่องที่คุยกับว่านเมื่อเย็น


“ครับพี่” ก้องพูดขึ้นหลังจากรับสาย
“ก้อง ว่างไหมเนี่ยะ”
“ว่างครับ พี่เอมีอะไรหรือเปล่า”
“พี่ว่าจะขอเบอร์ไม้หน่ะ”

            ผมพูดเลี่ยงไปประเด็นอื่นก่อนเพื่อไม่ให้ก้องรู้สึกว่าผมโทรมาเพราะเรื่องว่าน หลังจากที่ผมคุยกับก้องไปพอประมาณแล้วผมเลยวกเข้าเรื่องของว่าน

“ก้องๆ พี่ถามอะไรหน่อย”
“ครับพี่”
“เมื่อเย็นว่านมาคุยอะไรด้วยเหรอ”
“เมื่อเย็นเหรอ...อืม......อ้อ....น้องมาขอเข้าคู่กับผมหน่ะ”
“เหรอ แล้วว่านพูดอะไรบ้าง”
“ทำไมเหรอพี่” ก้องถามด้วยน้ำเสียงสงสัยในคำถามของผม
“ไม่มีอะไร ถามดูเฉยๆ เพราะเห็นคุยเสร็จไม่เห็นเข้าคู่กัน”
“อืม...ว่านก็บอกผมว่า เข้าคู่กับเค้าหน่อย ผมเลยถามไปว่า จะแก้มือเหรอ เค้าก็บอกว่าเปล่า ผมดูออกนะว่าน้องอยากแก้มือ ผมเลยบอกว่านว่า กลับไปทบทวนดูดีๆที่พลาดเมื่อวานไม่ใช่เพราะขาดฝีมือ แต่มันเนื่องจากว่านขาดประสบการณ์ เพราะงั้นต่อให้ว่านมาแก้มือวันนี้ พรุ่งนี้ อีกเดือน หรือ สองเดือน ว่านก็สู้ผมไม่ได้หรอก หรือ พี่ว่าไม่จริง” ก้องอธิบายพร้อมยิงคำถามใส่ผม
“มันก็จริงนะ”
“จริงๆผมก็อยากบอกน้องว่า ที่โค้ชชมแบบนั้น มันไม่ได้หมายความว่าน้องเก่งกว่าคนที่โค้ชเปรียบเทียบ หรือ เก่งกว่าคนอื่นมากมายนะ แต่ผมกลัวน้องจะเสียใจเลยไม่พูด เพราะตอนสู้กับผมน้องยิงมาไม่คิดเลยคงคิดว่าตัวเองเร็วมาก”
“อืมม ดีแล้วล่ะ” ถึงตรงนี้ผมพอเดาได้แล้วล่ะว่าที่ก้องเตะว่านกลิ้งเมื่อวานมันเป็นเรื่องจงใจ
“งั้นเดี๋ยวผมขอตัวทำรายงานต่อก่อนนะพี่”
“ครับๆ พรุ่งนี้เจอกันที่ยิมนะ”
“ครับพี่”


               มันก็จริงของก้องนะการที่โค้ชชม หรือ คาดหวังอะไรกับว่าน มันอาจทำให้ว่านพยายามที่จะทำให้ได้ หรือ ทำให้ดีขึ้นไปอีก พอทำให้โค้ชพอใจได้ก็เหมือนกับเด็กที่เล่นมาริโอ้จบด่านล่ะครับคือไม่ได้อะไรหรอก นอกจากความภูมิใจ แต่พอทำไม่ได้ว่านก็จะกดดันตัวเองจนเป็นความเครียดเหมือนที่เป็นวันนี้



------------------------------------------------------------------------------


               เช้าวันใหม่ที่สดใสสุดๆท้องฟ้าสวยงามมากมายเสียดายผมตื่นสายไปนิ๊ดหนึ่งไม่งั้นคงได้เห็นท้องฟ้าช่วงที่สวยกว่านี้ หลังจากจากรถเสร็จผมก็รีบเดินปนวิ่งไปที่ห้องเรียนอย่างรวดเร็ว พอมาถึงห้องเรียนก็ยังนับว่าเป็นโชคดีที่อาจารย์ยังไม่เข้า แต่ก็ยังมีโชคร้ายปนอยู่หน่อยๆที่อาจารย์เดินตามหลังผมมาตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ เอาน่ายังไงผมก็มาถึงก่อนอาจารย์แหละ แล้วในระหว่างที่ผมเรียนอยู่นั้น โทรศัพท์ที่ถูกตั้งระบบสั่นไว้ก็ทำงานขึ้นมา ด้วยความเงียบภายในห้องทำให้เสียงของโทรศัพท์ที่สั่นไหวนั้นดังออกมาจนคนทั้งห้องหันหาที่มาของเสียง ผมรีบล้วงโทรศัพท์ออกมาปิดสั่นก่อนที่จะดูว่าใครโทรเข้ามาเวลานี้


“กองฯ Calling”
“เอ๋....เบอร์กองเหรอ มีอะไรด่วนเนี่ยะ” ผมคิดในใจก่อนจะยกมือขออนุญาตอาจารย์ออกไปรับโทรศัพท์นอกห้อง
“ครับ”
“เอ นี่พี่ต้อมนะ”
“ครับ”
“เอ เที่ยงนี้มีประชุมนะ ให้นักกีฬามาเซ็นเอกสารเบิกเบี้ยเลี้ยง แล้วก็มาพบผู้บริหารของมหาวิทยาลัยด้วย เค้าจะแจ้งวันเดินทางด้วย”
“.....แล้วผมจะตามน้องได้ไงล่ะพี่ อีกสองชั่วโมงก็ถึงเวลาประชุมแล้ว”
“อ่าว โค้ชเค้าไม่ได้บอกเอเหรอ”
“ไม่เห็นมีใครแจ้งอะไรผมเลย ผมเพิ่งรู้จากพี่นี่แหละ”
“เอาแล้วไง พี่รบกวน เอ โทรเช็กกับน้องให้พี่หน่อย ว่าเค้ารู้เรื่องนี้หรือยัง ยังไงโทรบอกพี่ด้วยนะ”
“ครับพี่”

               หลังจากผมวางสายเสร็จ ผมก็โทรหาน้องรองประธานชมรมทันที ตามด้วยน้องนัท น้องไม้ จ๋าย รวมถึงคนอื่นๆเท่าที่ผมมีหมายเลขโทรศัพท์ ซึ่งปรากฏว่า....ไม่มีน้องคนไหนรู้เรื่องการเข้าประชุมเลยแม้แต่คนเดียว.....

“ตรู๊ดดดดดด......ตรู๊ดดดดดดด....ครับว่าไงเอ”
“พี่ต้อม ผมเช็กแล้วนะ....”
“แล้ว”
“ไม่มีน้องคนไหนทราบเรื่องเลยพี่”
“ว่าแล้วเชี่ยว พี่โทรแจ้งโค้ชไปหลายวันแล้วนะ พี่ตะหงิดๆว่าน่าจะมีปัญหา เลยโทรหาเอ ปรากฏว่ามีจนได้”
“....เอาไงล่ะพี่”
“เอาแบบนี้ เอ โทรตามโค้ชอีกทีนะ แล้วก็ตามน้องเข้าประชุมให้ได้มากที่สุด เพราะมันต้องมีเซ็นเอกสารอีก”
“ไม่รับปากว่าน้องไปจะเยอะนะพี่”
“ไม่เป็นไรเอ เราคุยกันได้อยู่”
“ครับ ยังไงผมก็รบกวนพี่ด้วยแล้วกัน”

               งานเข้าอีกแล้วหลังจากวางสายกับพี่ต้อมเสร็จผมก็รีบโทรไปหาโค้ชหลายครั้ง แต่ปรากฏว่าไม่ติดสักครั้ง จนกระทั่งช่วงประมาณสิบโมงครึ่งผมก็ติดต่อกับโค้ชได้

“ตรู๊ดดดดด.......ตรู๊ดดดด.........อื้อ ว่าไง” น้ำเสียงโค้ชตอบมาด้วยน้ำเสียงงัวเงียสุดๆ
“เที่ยงนี้มีประชุมนะพี่”
“อ่าว เฮ่ย จริงดิ พี่ลืมเลยนะเนี่ยะ” โค้ชทำเสียงตกใจเล็กน้อย
“โทรตามเก่งด้วยนะพี่ รอบนี้มีผู้บริหารเข้ามาร่วมด้วย”
“อื่อๆ เดี๋ยวเที่ยงเจอกัน”
“รู้ที่ประชุมแล้วใช่ไหมพี่”
“อื่อๆ รู้แล้ว” โค้ชตอบด้วยน้ำเสียงแบบพูดส่งๆ

               หลังจากคุยกับโค้ชเสร็จผมก็กลับเข้ามาในห้องเรียน พอผมนั่งที่อาจารย์วิภาก็พูดขึ้นมาว่า

“นักศึกษาคะ เรื่องของกิจกรรมถ้าทำแล้วมันรบกวนเวลาเรียนเพลาๆหน่อยก็ดีนะคะ”


               อาจารย์วิภาพูดแบบไม่มองหน้าใครนอกจากหนังสือเล่มหนาปกสีน้ำเงินสภาพค่อนข้างเก่าที่อาจารย์พกมาด้วย จริงๆไม่ต้องเอ่ยชื่อก็รู้ว่าอาจารย์หมายถึงใคร จริงๆอาจารย์วิภาไม่ใช่อาจารย์ที่ใจร้ายอะไรหรอกครับ แกหวังดีกับนักศึกษามาก แต่แกแสดงออกมาไม่อบอุ่นอ่อนโยนเท่าไหร่ ทำให้แกเป็นอาจารย์ที่ขึ้นบัญชีดำอยู่ในอันดับต้นๆของเอกคอมพิวเตอร์ แต่จะว่าไปถ้าใครรู้จักอาจารย์ท่านนี้ดีๆ จะรู้เลยว่าเบื้องหน้าที่ดูแข็งกระด้างนั้น ภายในกลับอ่อนโยน และ เต็มไปด้วยความห่วงใยที่มีอยู่อย่างมากมาย หลังจากเรียนเสร็จก็ปาไปเกือบๆห้าโมงเช้าผมรีบไปทานอาหารเที่ยงที่โรงอาหารก่อนจะตรงดิ่งไปยังห้องประชุมใหญ่ของมหาวิทยาลัย เมื่อไปถึงก็เกือบเที่ยงพอดี เริ่มมีอาจารย์ผู้จัดการทีมท่านต่างๆ พากลุ่มนักกีฬาของตนเองมากันเป็นกลุ่มใหญ่ๆ ส่วนผมกลับนั่งอยู่ลำพังท่ามกลางคำสัญญาที่ไม่แน่นอนของน้องๆที่อาจมาได้หรือไม่ได้ก็ไม่รู้ ผมไม่โทษน้องหรอกครับ ถ้าน้องจะมาไม่ได้ เพราะถ้ามีปัญหาคนที่ต้องรับผิดชอบก็คือโค้ชไม่ก็คงเป็นผม เวลาผ่านไปเรื่อยๆจนกระทั่งเริ่มประชุมผมก็ยังไม่เห็นเงาโค้ช ส่วนน้องๆที่มาได้ก็มีแค่สองคน พี่ต้อมเดินเอาเอกสารตารางกำหนดการแข่งขันรวมถึงเอกสารชี้แจงต่างๆมาแจกให้ แล้วก็ เอกสารเซ็นรับเงิน


“โค้ชล่ะ” พี่ต้อมกระซิบถามผมเบาๆ
“ยังไม่เห็นเลยพี่” ผมกระซิบตอบกลับไป
“ช่างเค้าเถอะ ลายเซ็นรับเงิน เอ ปลอมไปเลยแล้วกัน” พี่ต้อมพูดออกมาเบาๆก่อนเดินออกไป


               ผมนั่งมองนาฬิกาที่เดินไปเรื่อยๆตั้งแต่เริ่มจนจบการประชุมก็ไม่ปรากฏว่าโค้ชจะมาเข้าร่วม ไม่มีแม้แต่โทรโทรเข้ามาบอกด้วยซ้ำ ผมคับข้องใจกับเรื่องนี้มาก โค้ชเค้าไม่บอกผมสักคำว่ามีประชุม แถมถึงเวลาประชุมเค้าก็ไม่มา ที่สำคัญสายตาของพวกที่จ้องจะเขี่ยเทควันโดทิ้งจากทาง ยิ่งคำพูดของพวกเค้ามันทำให้ผมร้อนใจ  “สงสัยจะมีความรับผิดชอบแค่คนเดียวล่ะมั้ง” นี่ชมรมที่ผมภาคภูมิใจ ชมรมที่ผมใช้ใจสร้างมาสองปี กลับถูกพวกอาจารย์งี่เง่าพวกนั้นพูดจาดูถูก เพราะพฤติกรรมาดความรับผิดชอบของคนๆหนึ่ง หลังจากที่ประชุมเสร็จผมก็เดินไปกับน้องสองคนที่มาประชุมด้วย อารมณ์ที่กำลังกรุ่นไปด้วยโทสะเผลอพูดด้วยอารมณ์ออกไปว่า

“แม่งเอ๊ย ปีนี้กูบอกแล้วว่ากูไม่ยุ่ง หน้าที่กูก็ไม่ใช่ สุดท้ายก็ลากกูมาเกี่ยว ไหนว่าทีมงานตัวเองคุณภาพนักหนา เชียร์กันออกหน้าออกตายกหางกันแทบจะเลียก้นกันด้วยซ้ำ เอาเข้าจริงๆแม่งก็ดีแต่คุยล่ะว่ะ สุดท้ายกูก็ต้องมารับผิดชอบทุกอย่างเองหมด เชี่ยะเอ๊ย ชมรมกูอุตส่าทำชื่อเสียงมาตั้งสองปีจนพวกนั้นหุบปากไม่กล้าพูดอะไร แต่กลับมาชิบหายเพราะคนๆเดียว อะไรนักหวาว๊ะ!!”

               หลังผมพูดจบน้องที่มาด้วยถึงกับเงียบกริบหน้าซีดกันเลยทีเดียว อาจเป็นเพราะน้องไม่เคยเห็นผมอารมณ์นี้ล่ะมั้งครับ จะว่าไปผู้อ่านเองก็คงจะเดาออกว่าผมหน่ะใจเย็น แล้วก็เน้นสนุกมากกว่าไม่ชอบเครียด แต่คราวนี้ผมเหลืออดจริงๆครับ ผมขอระเบิดอารมณ์ตรงนั้นเลยดีกว่า เพราะเดี๋ยวเจอหน้าโค้ชจริงๆแล้วไประเบิดอารมณ์ตรงนั้นมันจะมองหน้ากันไม่ติด


“พี่ใจเย็นๆ” แนนพูดขึ้นเบาๆด้วยน้ำเสียงหวาดกลัวพอสมควร
“นั่นซิพี่ ใจเย็นนะพี่เอ” จ๋ายเสริมขึ้นมา
“เฮ้อ.....ช่างมันเถอะครับ แค่นั้นแหละ........น้องก็ดูเอาเองแล้วกัน เดี๋ยวจะหาว่าพี่ใส่ร้ายเค้า”
“ค่ะพี่”
“จริงๆปีนี้พี่ถอนตัวไปแล้วนะ แต่พี่ก็ยังต้องเข้ามาดูแลอีกจนได้ เฮ้อ....เบื่อจริง ต่อไปพวกเรามีอะไรก็ติดต่อพี่โดยตรงเลยแล้วกัน จะได้ลดปัญหา”
“ได้ค่ะพี่” แนนตอบพลางยิ้มขึ้นมาเล็กน้อย
“เอาเอกสารมาให้พี่ แล้วพวกเราก็กลับเลยแล้วกัน มีอะไรเดี๋ยวพี่โทรบอกเอง เย็นนี้ก็เจอกันที่ยิมเลยนะ”


               ผมบอกน้องทั้งสองก่อนที่จะแยกย้ายกันไปส่วนผมก็ไปส่งเอกสารที่กองหลังจากส่งเสร็จผมก็กลับบ้านเปลี่ยนชุดก่อนตรงไปที่ยิมทันที เมื่อมาถึงผมก็พบกับเรื่องที่ทำให้ประหลาดใจเมื่อผมพบว่าว่านกับโค้ชกำลังเล่นเกมปิงปองบนเครื่อง Wii กันอยู่อย่างสนุกสนาน ภาพที่ผมเห็นตรงหน้านั้นทำผมนิ่งเงียบพักหนึ่งเลย ก่อนจะเดินเอากระเป๋าไปเก็บแล้วก็แจกใบลาให้กับน้องๆนักกีฬาอยู่ในยิม


“เอ เล่นไหม” โต้ชหันมาพูดกับผมขณะที่ในมือโค้ชยังถือ Console อยู่เลย
“.....” ผมไม่มอง ไม่ตอบ อะไรกลับไปสักอย่างก่อนจะบอกน้องๆเรื่องกำหนดการณ์เดินทาง
หลังจากคุยกับน้องๆนักกีฬาเสร็จผมก็หันมาหาว่านแล้วถามว่า “เครื่องใครเหรอ”
“ของว่าน” โค้ชตอบ
“.....”


               ผมไม่พูดอะไรต่อแต่เดินออกไปนั่งรวมกับน้องๆคนอื่นที่นั่งกองกันอยู่เป็นจุดเดียว ตรงนี้โค้ชคงจะเริ่มรู้แล้วว่าผมไม่พอใจอะไรอยู่แน่ๆ โค้ชเลยวาง Console แล้วเดินมายืนใกล้ๆกับจุดที่ผมนั่งก่อนจะพูดว่า


“ก็พอดีรับโทรศัพท์เอแล้วพี่ง่วงเลยนอนต่อ ตื่นมาอีกทีมันก็บ่ายโมงกว่าแล้ว พี่เลยไม่ได้เข้าไป” โค้ชพยายามพูดอธิบาย แต่ผมก็ไม่สนใจยังคงนั่งเงียบต่อไป“แต่พี่ออกมาแล้วนะ กะว่าจะไปนั้นแหละ แต่คิดว่ายังไงก็ไม่ทัน แล้วเอก็น่าจะเข้าประชุมแทนไปแล้ว พี่เลยมาที่ยิม แล้วพอดีเจอว่านยืนอยู่กับเพื่อนหน้าโรงเรียน เลยรับว่านแล้วก็แวะไปเล่นเกมที่บ้านว่านแล้วเอาเครื่อง Wii มาแล่นต่อที่นี่” โค้ชพูดจบผมก็ยังไม่ทีท่าทีอะไรตอบไป โค้ชก็ยืนนิ่งๆเหมือนจะคิดลูกเล่นอะไรต่อไป แล้วก็จริงด้วย โค้ชนั่งยองๆแล้วเอานิ้วจิ้มไหล่ผมแบบที่บีกับว่านทำก่อนจะพูดว่า “อะไรๆ แค่นี้งอนเหรอ ไม่งอนนะๆๆ” โค้ชพุดด้วยน้ำเสียงอ้อนๆ เวลานั้นผมไมได้อารมณ์ดีด้วยเท่าไหร่ เลยไม่ได้เล่นด้วย โค้ชเลยถามต่อว่า “แล้วเดินทางวันไหน ที่ประชุมเค้าว่าอะไรบ้าง”


ผมหันไปตอบโค้ชด้วยน้ำเสียงที่ไม่พอใจเท่าไหร่ว่า “กำหนดเดินทางวันที่สิบ”
“แล้วเรื่องที่เค้าประชุมล่ะ” โค้ชถามต่อ
“มันไม่มีอะไรสำคัญหรอกครับ” ผมตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงที่ไม่พอใจ
“อ่าว ไม่มีอะไรสำคัญแล้วเค้าเรียกประชุมทำไมล่ะ” โค้ชถามขึ้น
“.....” ผมไม่ได้ตอบอะไรกลับไป.....


               แล้วนี่ก็เป็นครั้งแรกที่ว่านเห็นผมแสดงอารมณ์ไม่พอใจใส่โค้ช ขอบอกตรงนี้เลยว่าตอนนั้นผมเก็บอารมณ์สุดๆแล้ว รู้วันประชุมไม่ยอมบอก แถมถึงเวลาประชุมก็ไม่มา เหตุผลเพราะตื่นสาย แล้วแทนที่จะโทรบอกก็ไม่มีกลับมาเล่นเกมกับว่านซะงั้น วันนั้นพอว่านเห็นผมหงุดหงิดว่านเลยรีบวาง Console แล้วมานั่งเล่นกับผมทันที ส่วนโค้ชเหรอครับ ก็เล่นต่อไปเรื่อยๆหน่ะซิ  ระหว่างที่ผมกับว่านกำลังนั่งกันอยู่เงียบๆอยู่นั้นเกมก็เดินมาหาผมพร้อมหนังสือเล่มหนึ่งก่อนจะนั่งลงข้างๆแล้วกระซิบข้างหูผมว่า


“พี่เอ....มีอะไรจะให้ดู”


              เสียงกระซิบของเกมมันคงกังพอให้ว่านได้ยินด้วย แล้วทันทีที่ว่านได้ยินว่านก็กระโจนตะครุบเกมทันที พร้อมกับพยายามที่จะแย่งหนังสือจากเกม “เอามานี่นะ” ว่านแย่งแบบทีเล่นทีจริงกับเกม สักพัก ฟิว  กับ ริว ก็เข้ามาร่วมด้วย ด้วยการจับว่านไว้ แล้วให้เกมเอาหนังสือเล่มนั้นให้ผมดู


“เฮ่ย!! อย่านะ” ว่านตะโกนสุดเสียง
“พรึบ พรึบ” เสียงหน้ากระดาษเฟรนชิพเล่มนั้นที่ค่อยๆเปิดไปดังขึ้นทีละแผ่น ทีละแผ่น
“เฮ่ย เปล่อยซิวะ” ว่านหันไปพูดกับ ฟิว แล้วก็ ริว  ที่กำลังล๊อกว่านไว้จนว่านดิ้นไม่หลุด

               เพียงไม่กี่อึดใจก็ถึงหน้าที่เกมจะให้ผมดู แล้วหน้าที่เกมหยุดไว้นั้นเป็นหน้าของนักเรียนสายชั้นมัธยมศึกษาตอนปลายห้องหนึ่ง แล้วเกมก็เพ่งหาอะไรสักอย่างก่อนจะชี้ไปที่รูปผู้หญิงคนหนึ่งแล้วพูดว่า

“อ๊า นี่ไง รุ่นพี่ที่ว่านแอบชอบอยู่” พูดจบเกมก็หันมายิ้ม
“เป็นไงพี่ สวยไหม” ริวถามขึ้น
“อื่อ.....น่ารักดี” ผมตอบกลับไป



To Be Con
หัวข้อ: Re: น้องชาย 2 ( Up ช่วงที่ 19 : 28/05/11 )
เริ่มหัวข้อโดย: me_alone ที่ 28-05-2011 00:46:12
โค้ชนี่นับวัน ยิ่งทำตัวแย่  :beat: :beat:
:เฮ้อ:~ เค้าแย่มานานแล้วครับ



:เฮ้อ: มีอะไรอีกล่ะเนี่ย เป็นกำลังใจให้ครับ :L2:
:กอด1: ~ ขอบคุณครับ


เอ ไม่ได้ชอบว่านหรอก แต่เหมือนงว่าเอ ยังไม่ได้ตัวของว่านเท่านั้น มันก็เหมือนตอนของ บี นั้นแหละ พอ เอ มีอะไร กับ บีไปแล้ว ความสัมพันธ์มันก้เปลี่ยนไป คือไม่ได้บอกให้ สานต่อ แต่ความรุ็สึกของ เอ ต่อ บี ก่อนที่ เอจะมีอะไรกับ บี กับหลัที่เอมีอะไรกับ บีแล้วมันดูแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง คิดว่า เอกำลังหลง ว่านอยู่เท่านั้น ซึ่ง ตอนนี้เอ ยังไม่ได้มีอะไรกับว่าน มันก็เหมือนตอนที่ เอ ยังไมได้มีอะไร กับบี  คล้ายกับตอนนี้ยังเป็นช่วง โปร พอหมดโปรก็เปลี่ยนไป
อีกอย่างหนึ่ง  ไม่ค่อยชอบ นิสัยเด็กอย่างว่าน เป็นเด็ก ที่ดูก้าวร้าวลึกๆๆๆ ไม่ดูบริสุทธิ์ เหมือนกับ บี แม้ว่าพื้นฐานของ บี และ ว่านจะต่างกัน แต่นิสัยของเด็กที่ดี มันก็ย่อมมาจากตัวของเด็กนั้นเอง
:กอด1: ~ อื้อหือ....เป็นหมอดูหรือเปล่าครับ แม่นมากอะ ขนาดเขียนเรื่องของว่านลงไปแค่บางส่วนแต่กลับทำนายได้อย่างแม่นยำ ว่านตัวเป็นๆก็เป็นแบบนั้นล่ะครับ
ส่วนเรื่องบี...ผมยังรักน้องนะ...รักมากด้วย แต่ด้วยเหตุผลหลายๆอย่าง ทำให้ผมต้องพยายามตัดใจจากบีให้ได้....ไม่ใช่ว่าไ้ด้บีแล้ว....ผมก็ทิ้งน้องนะครับ
ผมรักบีมากกว่าเดิมอีก รักจนลืมไม่ลงจนถึงวันนี้...ยังหวังลึกๆ...ว่าวันหนึ่งบีจะกลับมา


จะรักกันหรือไม่รัก มันไม่เกี่ยวกับคนอื่นเลย
รักกันน่ะมันขึ้นอยู่กับสองคน และต้องตอบให้ได้ว่ารักหรือหลง
จะน้องบีหรือว่าน ดูๆ กันไป ถ้าน้องชอบเอนะ แล้วเอชอบก็คงบอกว่ารักแล้ว ก็สุดท้ายคงต้องดูกันไปเรื่อยๆ
 
ถ้าอีกคนชอบ แต่เด็กเขาไม่ชอบและห่างจนแบบว่าไม่มีโอกาส แล้วจะหวังทำไมล่ะ อย่าไปจมกับอดีต เมื่อผ่านไปแล้วมันก็เป็นอดีตเขาก็ไม่มาสนใจเราหรอก อยู่กับปัจจุบันและทำให้ปัจจุบันให้ดีที่สุด ถึงแม้ว่าชั่วคราวก็ทำไปเพราะมีความสุข ชีวิตต้องเดินต่อไป โชคเอน่ะ ฮ่าๆ
:o12: ~ "ถ้าอีกคนชอบ แต่เด็กเขาไม่ชอบและห่างจนแบบว่าไม่มีโอกาส แล้วจะหวังทำไมล่ะ อย่าไปจมกับอดีต" แทงใจ...แต่มันก็จริง...กด Like ตรงไหนครับเนี่ยะ


ขอบอกเลยว่าถ้าเอชอบว่านจริงๆเราจะไม่เม้นอีกเลย  เรื่องจริง
:กอด1: ~ เรื่องที่เขียนๆมานี้มันผ่านมาแล้วครับ....เหมือนมาเล่ามากกว่า ซึ่งตอนนี้...ผมกับว่าน....
หัวข้อ: Re: น้องชาย 2 ( Up ช่วงที่ 19 : 28/05/11 )
เริ่มหัวข้อโดย: me_alone ที่ 28-05-2011 22:54:05
ช่วงที่ 20


“ใช่ม๊ะพี่” เกมถามย้ำอีกที
“ว่านชอบคนนี้เหรอ”ผมหันมาถามเกม
“ใช่พี่ ว่านมันแอบชอบเค้า มันไปมองเค้าทุกวันเลย” เกมพูดพลางหัวเราะ
                   
                   หลังจากที่ผมเห็นแล้วฟิวกับริวก็ปล่อยมือ ทันที่ที่หลุดออกมาได้ ว่านรีบวิ่งมาหยิบเฟรนชิพที่อยู่ตรงหน้าผมทันที ก่อนที่จะวิ่งเอาเฟรนชิพไปเก็บ แล้ววันนั้นว่านก็ถึงกับเงียบไปเลย ไม่คุย ไม่เล่นกับเกม ฟิว แล้วก็ริว แต่ไปเน้นคุยกับพลอยแล้วก็ส้มแทน ซึ่งก็ดูเหมือนว่า ฟิว เกม และริวจะไม่ได้สนใจเท่าไหร่ แต่ส้มก็มาบอกทั้งสามว่า

“พวกเอ็งเล่นอะไรก็ดูเพื่อนมันหน่อยซิ มันงอนแล้วเห็นไหม” ส้มพูดพลางหันไปมองว่าน
“อะไรก็เอารูปคนที่ว่านมันจีบให้พี่เอดูเอง ที่ห้องเค้าก็รู้กันหมดแล้ว” เกมพูดขึ้น
“เออ จริง” ฟิวแถม
“เออๆ ก็แล้วแต่พวกเอ็ง” ส้มพูดด้วยน้ำเสียงเซ็งๆ ก่อนจะเดินออกไป
“ไม่ไปง้อเพื่อนหน่อยล่ะ” ผมถามพวกเกม
“ไม่ล่ะพี่ ว่านมันก็แบบนี้แหละ หงุดหงิดง่าย แถมขี้โมโหอีก คราวก่อนแค่เพื่อนนั่งเล่นกันเสียงดังมันยังไปด่าเค้าเฉยเลย” ริวพูดขึ้น
“ช่ายๆ ใครทำอะไรที่มันไม่ชอบมันก็จะไปด่าเค้าแรงๆ ไม่ก็ต้องทำอะไรใส่เค้า จนในห้องไม่มีใครคบมันนอกจากพวกผม” ฟิวเสริม
“จริงเหรอเกม” ผมหันไปถามเกมที่ไม่พูดอะไรอยู่คนเดียว
“มันก็จริง”
“อ่าวแล้วแบบนี้เวลาทำงานกลุ่มล่ะ” ผมถามน้องๆต่อ
“ก็ไม่มีใครอยากเอาว่านเข้ากลุ่มหรอกพี่ ถ้าไม่ขาด หรือ เหลือจริงๆถึงจะเอาว่านมาเข้าด้วย”ริวพูดขึ้น


                   ได้ยินถึงตรงนี้....ผมก็ไม่ได้ถามอะไรน้องๆต่อ แต่วันนี้ดูเหมือนว่านจะถอยห่างจากผมพอสมควร ไม่เข้ามาอ้อนๆเหมือนทุกวัน แต่ก็หันมามองผมอยู่เรื่อยๆคงกำลังดูท่าทีผมอยู่มั้งพอคุยเล่นด้วยว่านก็ตอบกลับมาแต่น้อยลงมากได้แต่ยิ้มๆมาแทน หลังจากนั้นไม่นานนักก็ถึงเวลาซ้อมครับ วันนี้โค้ชมีการแยกซ้อมนักกีฬา กับ พวกที่มาซ้อมรอบปรกติ โดยพวกนักกีฬาโค้ชจะเป็นคนดูแล ส่วนรอบซ้อมปรกติผมเป็นคนดูแล การซ้อมต่างๆดูเหมือนจะไม่มีอะไรแปลกใหม่ ว่านยังคงมองผมอยู่เรื่อยๆจนถูกโค้ชดุเหมือนคราวที่บีถูกดุเลย

                   แต่แล้วเวลาที่ว่านรอคอยก็มาถึงช่วงสุดท้ายสามสิบนาทีก่อนหมดเวลาโค้ชให้พวกซ้อมรอบปรกติมานั่งนิ่งๆริมเบาะ แล้วให้พวกนักกีฬาจับคู่กันเหมือนกับโค้ชเองก็อยากเห็นว่าสองวันผ่านไปว่านจะพัฒนาฝีมือไปได้แค่ไหน โค้ชเลยให้ว่านจับคู่กับก้องอีกครั้ง ทันทีที่รู้ว่าต้องคู่กับก้องว่านทำหน้าเครียดทันที ส่วนก้องเองก็ทำท่าทางเซ็งๆหลังจากที่ผมเรียกทั้งคู่มายืนประจำตำแหน่งผมก็ให้สัญญาณเริ่มการต่อสู้......แล้ว.......ภาพที่ผมเห็นคือ....ว่านสู้ก้องไม่ได้เลยแม้แต่นิ๊ดเดียว.....ในยกที่สองว่านถูกเตะเข้าที่หลังอย่างแรง จนว่านทรุดลงไปกองอยู่กับพื้น แล้วพอผมเข้าไปดูแลว่านก็ปัดมือผมออก ว่านลุกขึ้นสู้ต่อ.....ทั้งๆที่น้ำตานองหน้า....ผมไม่รู้ว่าน้ำตาของว่านมันมาจากความเจ็บที่ถูกเตะ หรือ ความคับแค้นใจ แต่สุดท้ายว่านก็ทนสู้ต่อจนจบทั้งสามยก หลังจบการต่อสู้ว่านถึงกับไปนั่งเงียบที่มุมคนเดียวไม่พูดจาอะไรกับใครทั้งนั้นจนถึงเวลาเลิกโค้ชก็เรียกประชุมน้องๆนักกีฬาของมหาวิทยาลัย โดยโค้ชลากเก้าอี้มานั่งแล้วให้น้องๆนักกีฬานั่งกับพื้นล้อมโค้ช ก่อนที่โค้ชจะเริ่มพูดถึงเรื่องต่างๆจนมาถึงกำหนดการณ์ที่จะเดินทาง


“ทางมหาวิทยาลัยเค้ากำหนดเดินทางวันที่สิบ ในตารางการแข่งขันที่พี่เอเอามาให้คาราเต้แข่งวันที่สิบเอ็ด เทควันโดแข่งวันที่สิบห้า” โค้ชพูดขึ้นพลางยื่นเอกสารให้น้องๆบางคนที่ยังได้
“ครูคิดว่าจะให้คาราเต้ไปก่อน แล้วเทควันโดค่อยเดินทางตามไปทีหลัง พวกเราว่าไง” โค้ชถามขึ้นพลางมองไปยังน้องๆที่นั่งอยู่
“แล้วทำไมไม่ไปพร้อมกันเลยล่ะคะ” แนนถามขึ้น
“จะไปทำเกลืออะไรตั้งแต่วันที่สิบเค้าแข่งกันวันที่สิบห้า” โค้ชพูดแบบเซ็งๆกึ่งอารมณ์เสียใส่แนน แล้วทำท่าทีเหมือนคำถามที่แนนถามมานั้นมันดูโง่มากมาย
“ก็....อยากไปดูสถานที่ไว้ก่อน” แนนพยายามอธิบาย
“จะไปดูไปเดออะไรสถานที่ ไร้สาระ” โค้ชพูดด้วยน้ำเสียงแบบเดียวกับที่พูดกับแนนทีแรกเป๊ะ
“.....” แนนถึงกับเงียบเลยทีเดียว
“ส่วนพวกคาราเต้ก็ไปพร้อมกับทางมหาวิทยาลัยเลยนะ เดี๋ยวพี่เอเค้าจะไปพร้อม ตอนนี้พี่เอดูแลคาราเต้แล้ว” โค้ชพูดพลางหันมามองผม
“จริงเหรอพี่เอ” ตั้มพูดด้วยน้ำเสียงดีใจสุดๆ
“อื่อ” ผมตอบรับกลับไป
“โห แบบนี้ก็ดีซิ” ตั้มพูดพลางทำท่าทางดีใจ
“พี่เอ...อย่าลืมมาดูแลพวกหนูด้วยนะ” จ๋ายพูดพลางทำท่าทางอ้อนๆ
“....” ผมไม่ได้ตอบอะไรกลับไปได้แค่ยิ้มให้
                   
                   แล้วโค้ชก็พูดเรื่องต่างๆต่อไปอีกสักพักพอถึงช่วงที่โค้ชกำลังจะคุยจบผมก็ถามโค้ชเรื่องอุปกรณ์คาราเต้

“พี่ แล้วอุปกรณ์คาราเต้ล่ะ ชุดอะไรน้องๆก็ยังไม่มีนะ”
“อ่าว ทางมหาวิทยาลัยเค้ายังไม่สั่งให้เหรอ” โค้ชหันมาถามผมพร้อมทำหน้าตาแบบงุนงงสงสัยสุดๆ
“ทางมหาวิทยาลัยเค้าบอกว่าพี่ยังไมได้สั่ง” ผมตอบไป
“เฮ่ย ยังไม่สั่งอะไร สั่งไปแล้ว วันนั้นที่พี่เข้าไปไง ต้อมมันก็อยู่ จะว่าพี่ไม่สั่งได้ไง” โค้ชตอบกลับมาด้วยท่าทีหงุดหงิดใส่ผม
“.....”
“ถ้ามันไม่จัดหาให้ก็ไม่ต้องส่งแข่งแค่นั้นแหละ จบไม่ต้องไปสนใจ” โค้ชพูดด้วยน้ำเสียงประมาณว่าเรื่องนี้ถ้ามีปัญหามหาวิทยาลัยผิดกูไม่ผิด


                   หลังจากประชุมเสร็จน้องๆก็เริ่มแยกย้ายกันกลับบ้าน วันนี้ว่านไม่มานั่งเล่นกับผมเหมือนเคยแฮะ แยกไปนั่งหลบมุมเงียบๆคนเดียวเฉยเลยตอนนั้นจริงๆผมอารมณ์เสียแล้วก็หงุดหงิดหลายเรื่องนะอย่างที่ผู้อ่าน อ่านมานั่นแหละ แต่พอผมเห็นว่านนั่งสลดแบบนั้น....ผมกลับห่วงว่านมากกว่าตัวเองซะอีกตอนนั้น จริงๆผมอยากเดินไปนั่งข้างๆน้อง อยากชวนพูด ชวนคุย ชวนเล่น อยากให้น้องอารมณ์ดีเหมือนเคย หรือ แค่มานั่งเล่นกับผมเฉยๆก็ได้ แต่ผมก็ทำไม่ได้....จากสองสามวันนี้ที่ว่านหงุดหงิดเรื่องก้องจนแสดงออกมาอย่างชัดเจน แถมยังมาเรื่องที่เกมบอกผมว่าว่านมีคนที่ชอบแล้วอีก ผมเลยไม่รู้ว่าตอนนี้ว่าอารมณ์ไหน  จนถึงช่วงปิดยิมระหว่างที่ผมปิดไฟอยู่ว่านก็เดินมายืนข้างๆผมแล้วจะพูดว่า


“ไปเอาเสื้อผ้าที่บ้านผมก่อนนะครับ”
“อื่อ”
“.....” ว่านมองหน้าผมสักพักก็หลบหน้า เหมือนจะพูดอะไรต่อแต่ก็ไม่พูดซะงั้น แล้วว่านก็เดินไปเอากระเป๋าไปรอข้างนอก

                   วันนั้นก่อนกลับบ้านผมพาว่านไปทานข้าวก่อน แล้วก็ไปเอากระเป๋าน้องที่บ้าน โดยว่านได้จัดเตรียมกระเป๋าไว้เรียบร้อยเป็นกระเป๋าสะพายหนึ่งใบที่ว่านใช้ไปเรียน กับกระเป๋าแบบลากที่ดำที่พบเห็นทั่วไปที่สนามบินขนาดสูงประมาณสองฟุตอีกหนึ่งใบแล้วจากบ้านว่านก็มาบ้านผม พอถึงบ้านผมก็เปิดประตูบ้าน แล้วก็ช่วยน้องยกกระเป๋าเข้ามาในบ้าน

“หนักมาก ใส่อะไรมาบ้างเนี่ยะ” ผมพูดติดตลกไป
“ก็เสื้อผ้า” ว่านหันมาตอบ
หลังจากเอาของเข้ามาในบ้านเสร็จแล้วผมก็บอกว่านว่า “ตามสบายเลยนะ”

           หลังจากที่จัดวางของเสร็จว่านก็ลงมือทำการบ้านเงียบๆไม่พูดอะไร ส่วนผมก็นั่งพิมพ์รายงานไปเรื่อยๆ จนประมาณสามทุ่มกว่าผมก็ไปอาบน้ำ อืมมม...จะว่าไปวันนี้เป็นวันแรกในรอบหลายปีที่ผมอาบน้ำแบบปิดประตูนะเนี่ยะ พออาบน้ำเสร็จ ผมก็เช็ดตัวแล้วก็เปลี่ยนชุดในห้องน้ำเลย ก่อนจะเดินออกมาถามว่านที่นั่งกึ่งนอนอยู่บนโซฟาหน้าทีวีว่า

“การบ้านเสร็จแล้วเหรอ”
“เสร็จแล้ว” ว่านตอบพลางยืนสมุดให้ดู
“เซ็นให้ด้วย” ว่านพูดขึ้น
“เซ็นอะไร” ผมถามว่าน
“ก็อาจารย์คนนี้เค้าให้ผู้ปกครองเซ็นรับรองพฤติกรรมทุกอาทิตย์ ว่าที่ผมเขียนๆไปเนี่ยะผมทำจริง”
ผมรับสมุดเล่มนั้นของว่านมาแล้วเปิดดูก่อนจะพูดว่า “เหมือนสมุดพฤติกรรมของเด็กประถมเลยอะ”
“นั่นซิ ให้ทำทำไมก็ไม่รู้” ว่านบ่นด้วยน้ำเสียงแบบเซ็งๆ
“อืม....เสร็จล่ะ....ว่านไปอาบน้ำเลยก็ได้นะ พวกสบู่ยาสีฟันอะไรก็หยิบใช้ได้เลย”
“ครับ” ว่านตอบผมก่อนที่จะลุกไปหยิบผ้าเช็ดตัวแล้วก็ชุดนอนที่เตรียมมาเข้าห้องน้ำไปด้วย

                   ระหว่างนั้นผมก็นั่งดู Youtube ไปเรื่อยๆ จนกระทั่งว่านอาบน้ำเสร็จ ว่านก็เดินออกมาพร้อมกับใส่ชุดนอนลายทางสีขาวตัดฟ้าอ่อนๆแบบเข้าชุด ก่อนจะเอาเสื้อผ้าที่ใช้แล้วยัดใส่ถุง

“เสร็จเร็วจัง” ผมหันไปพูดกับว่าน
“ครับ” ว่านตอบแล้วยิ้มให้ขณะที่กำลังเอาเสื้อผ้าใส่ถุง
“พี่เอดูอะไรอยู่เหรอ” ว่านถามขึ้นหลังจาดเก็บเสื้อผ้าใส่ถุงเสร็จแล้ว
“IHere TV” ผมตอบว่าน

                   ผมพูดจบว่านก็เดินมายืนข้างๆเก้าอี้คอมผมก่อนจะโค้งตัวมาจ้องมองจอ LCD เวลานั้น....ผมละสายตาจาก Youtube มามองว่านแทน....กลิ่นน้ำยาปรับผ้านุ่มจากเสื้อของว่านหอมมากมายผมก้มลงไปหอมที่หลังของว่านเบาๆ

“หอมจัง” ผมพูดขึ้นเบาๆ


              ว่านไม่ตอบอะไรแต่ยืนนิ่งๆผมเลยเอานิ้วชี้มาแตะตัวว่านเบาๆก่อนจะค่อยๆลูบไปทั่วข้างลำตัวของว่าน ตลอดเวลาที่ลูบๆว่านยืนนิ่งตลอด ลึกๆใจหนึ่งผมอยากจะดึงว่านมานั่งกอดเลยด้วยซ้ำ อีกใจหนึ่งผมก็กลัวน้องจะว่าเหมือนกัน แต่พักหนึ่งว่านก็เปลี่ยนจากยืนมาเป็นนั่งลงบนพนักวางมือแทนก่อนจะเอียงตัวเข้ามาใกล้ผมมากขึ้นกลิ่นหอมๆจากตัวว่านปะทะเข้าเต็มจมูกของผม ตอนนั้นผมรู้สึกหัวมันตื้อๆแฮะ สติผมเริ่มจากลาผมไปทุกทีๆแต่ผมก็พยายามควบคุมอารมณ์ของตัวเองให้ได้แต่สุดท้ายในเวลาวิกฤตอารมณ์มักได้ชัยเหนือเหตุผลเสมอ
             ผมก้มลงไปหอมที่หลังว่านเบาๆอีกครั้ง ก่อนจะแอบส่องมองดูปฏิกิริยาของว่าน.....นิ่งแฮะ....ว่าแล้วผมก็ก้มลงไปหอมอีกหลายที ก่อนจะเอาหน้าซุกค้างไว้ที่หลังว่านเลย แล้วตอนนี้เองผมเพิ่งรู้แก่ใจว่า....ลึกๆผมก็หมายใจในตัวว่านเหมือนกัน จากนั้นผมค่อยๆเอามือไปโอบกอดว่านเบาๆ เวลานี้เรื่องไม่สบายใจใดๆในหัวผมมันหายไปเกลี้ยง เรื่องเดียวที่ผมรู้สึกได้ในเวลานี้คือ....ผมมีความสุขมากมาย....หลังจากที่บีจากไป...ผมก็ไม่เคยกอดใคร หรือ รู้สึกอะไรแบบนี้อีก แต่คราวนี้....อีกครั้งหนึ่งแล้วที่ผมรู้สึกแบบนี้..... ตอนนั้นผมจำได้ว่า VDO ใน YouTube เองก็จบไปได้พักหนึ่งแล้ว แต่ว่านก็ยังคงจ้องมองที่จอ LCD แบบไม่ละสายตาไปไหน ส่วนผมเองก็กอดแล้วก็ซุกว่านอยู่แบบนั้น....ผมซุกว่านอยู่พักใหญ่ ก่อนจะหันไปมองนาฬิกา ปรากฏว่ามันสี่ทุ่มกว่าแล้ว ผมเลยชวนว่านขึ้นไปนอน


“ว่าน” ผมเรียกว่านเบาๆ
“ครับ”
“ไปนอนปะ”

                   ผมพูดจบว่านก็ลุกขึ้นแล้วเดินมายืนรอผมที่หน้าบันใด ส่วนผมก็ปิดคอมปิดบ้านแล้วก็ปิดไฟก่อนจะเดินมาหาว่าน

“นอนห้องพี่เน๊าะ”
“ครับ”

                   ผมจับมือว่านแล้วก็เดินจูงมือว่านขึ้นมาที่ห้องนอน

“รกหน่อยนะ” ผมบอกว่าน
“ไม่เป็นไร”

                   พอเข้าห้องเสร็จแล้วว่านก็จัดแจงวางโทรศัพท์แล้วก็สิ่งของส่วนตัวอีกเล็กน้อยไว้ที่หัวนอน

“ชอบเย็นๆไหม” ผมถามว่านขณะที่กำลังจะปิดแอร์
“ชอบครับ”
“งั้นยี่สิบสององศาเลยเน๊าะ”
“ครับ”

                   “ปี๊บๆ” เสียงสัญญาณเริ่มทำงานของแอร์ดังขึ้น ก่อนที่ผมจะขึ้นบนที่นอนแล้ววางรีโมทแอร์ไว้ใกล้มือ ส่วนว่านพอเห็นผมขึ้นที่นอนว่านก็ขึ้นตาม ก่อนที่ผมจะปิดไฟ....ความเงียบและความมืดเข้ามาครอบคลุมในห้องทันที ผมกับว่านนอนกันคนละซีกบนเตียงของผมที่คนสามคนสามารถนอนกลิ้งได้สบายๆ ผมนอนซีกซ้ายสุด ส่วนว่านนอนซีกชวาสุด....

“.....”

                   เวลาผ่านไปนานแค่ไหนไม่รู้ตั้งแต่ล้มตัวลงนอน....ผมนอนไม่หลับ....ผมไม่ได้คิดอะไรเลยนะ....แต่ผมนอนไม่หลับ.....ก่อนที่ผมจะหันไปมองว่าน ไม่รู้ว่าว่านหลับหรือยัง.....แต่ตอนนี้ผมอยากกุมมือว่านจัง ผมค่อยๆขยับเข้าไปหาว่านช้าๆ เพราะผมไม่รู้ว่าน้องหลับหรือยัง พอผมขยับมาใกล้พอผมก็หันมอง ปรากฏว่าว่านยังไม่หลับครับ

“ไม่ง่วงเหรอ” ผมถามว่าน
“....” ว่านหันมามองผมแล้วส่ายหน้า
“.....”


                   ผมมองหน้าว่านพักหนึ่งก่อนจะเอานิ้วไปสัมผัสที่ปากของว่านเบาๆ....ผมเคยสัมผัสมาแล้ว.....แต่ครั้งนี้....ผมรู้สึกว่ามันพิเศษกว่าทุกครั้ง นิ้วชี้ผมค่อยๆลูบไปมาปากของว่านทั้งนุ่มแล้วก็อุ่น....ผมค่อยๆประคองตัวเองขึ้นมาแล้วใช้แขนขวาพยุงตัวเองไว้ ตอนนั้นมือขวาผมลูบไปที่แก้มนุ่มๆของว่าน ก่อนจะลงไปที่คอ ลูบใบหูว่านเบาๆ ก่อนจะวนมาจบที่ปากของว่านอีกครั้ง....ตอนนั้น....ความรู้สึกของผม....มันได้ชัยเหนือสติของผมไปเรียบร้อยแล้ว ผมค่อยๆก้มลงไปช้าๆ ระยะห่างของผมกับว่านตอนนี้มันเหลือไม่ถึงหนึ่งฟุตด้วยซ้ำ....แล้วมันก็กำลังสั้นลงเรื่อยๆ ผมจ้องตาว่านอยู่ตลอดเวลา แสงจันทร์ที่ลอดหน้าต่างเข้ามา....มันสว่างพอจะทำให้ผมเห็นดวงตาของว่านที่กำลังจ้องมองผมอยู่เช่นกันแล้วในวินาทีสำคัญที่สุด....ว่านหลับตาลงก่อนที่ปากของผมจะสัมผัสลงไปที่ปากของว่านเป็นครั้งแรก ผมขยับตัวเข้ามาชิดกับตัวของว่านมากขึ้น ก่อนจะค่อยๆสอดลิ้นเข้าไปในปากของว่าน


“ตึก ตึก ตึก ตึก” เสียงหัวใจของว่านดังมากจนผมได้ยินย่างชัดเจน ตัวว่านเริ่มร้อนผ่าวลมหายใจของว่านแรงขึ้นไม่นานลิ้นของว่าน...ก็เริ่มตอบสนองกับลิ้นของผม....แล้วผมก็ค่อยๆไล่ไปที่แก้มของว่าน ที่หู ที่คอ ผิวของว่านทั้งนุ่มแล้วก็หอมมากมายระหว่างที่ผมทำให้ ว่านก็ดิ้นอยู่เป็นระยะๆ ก่อนจะเอามือมาจับมือผมไว้แล้วพูดว่า


“พี่...ผมจั๊กจี้”
“เหรอ....แล้วชอบไหมล่ะ”
“.....”

                   ว่านไม่ตอบอะไรกลับมา ผมเริ่มไซ้ไปทั่วต้นคอของน้อง ว่านบิดตัวไปมาอยู่ตลอดเวลาที่ผมทำให้ แต่ว่านจะตอบสนองมากที่สุดก็ตอนที่ผมใช้ลิ้นให้ที่หูเพราะว่านจะเอามือมาจับที่คอผมไว้ด้วย หลังจากที่ผมลิ้มรสช่วงบนจนทั่วแล้วผมก็ค่อยๆไล่ลงมาที่ช่วงกลางบ้าง ตอนนั้นว่านนอนนิ่งเสียงหายใจ กับเสียงหัวใจของว่านดังจนผมได้ยินชัดเจน ว่านมีอารมณ์ร่วมเต็มที่แล้วซินะ ผมเอามือไปลูบๆอกว่านจากด้านนอก พลางไซ้คอว่านไปด้วย ก่อนที่จะเอามือไปที่กระดุมเม็ดบนสุด....แล้วแกะมันออก....กระดุมเม็ดแรกหลุดออกไปอย่างง่ายดาย ผมค่อยเลื่อนจากที่ซุกคอน้องอยู่ลงมาซุกไซ้ที่แผ่นอกช่วงบนของน้องแต่ว่า.....พอผมกำลังจะแกะกระดุมเสื้อเม็ดที่สองออก ว่านก็เอามือจับมือผมไว้ ก่อนจะมองหน้าผมด้วยสายตาที่บอกผมว่า “ไม่เอาแล้ว”ผมยิ้มให้น้อง ก่อนจะค่อยๆเอียงตัวมานอนข้างๆน้องแทน คืนนั้นน้องนอนจับมือผมไว้แน่น “เริ่มไปแล้วซินะ” ผมพูดกับตัวเองในใจแล้ว....ก็มีคำถามหนึ่งเกิดขึ้นในใจ.....พรุ่งนี้....ผมกับว่านจะยังเหมือนเดิมไหม....ตอนนี้ถึงว่านจะวายไม่วายก็ตามทีแต่น้องคงจะรู้แล้วว่าผม.....มาสายนี้.....แล้วน้องยังจะคุยกับผมเหมือนเดิมหรือเปล่า.....ไหนจะเรื่องที่ว่าว่านชอบสาวรุ่นพี่อีก.....นี่ผมขืนใจน้องหรือเปล่า....ไม่ซิ....น้องเองก็สมยอมนี่นา........แล้วน้องจะหนีกลับบ้านเลยไหมถ้าน้องไม่พอใจ......แต่ว่า...เริ่มไปแล้วนี่นา....พรุ่งนี้อะไรจะเกิดมันก็ต้องเกิด....ผมขอยอมรับผลที่ตามมาแล้วกัน




To Be Con
หัวข้อ: Re: น้องชาย 2 ( Up ช่วงที่ 19 + 20 : 28/05/11 )
เริ่มหัวข้อโดย: donutnoi ที่ 28-05-2011 23:11:44
พรุ่งนี้จะเป็นยังไงนะ ความสัมพันธ์ของว่านกับพี่เอ  :call: :call:

เกือบลืมขอ  :z6: :z6: โค้ชก่อนไป
หัวข้อ: Re: น้องชาย 2 ( Up ช่วงที่ 19 + 20 : 28/05/11 )
เริ่มหัวข้อโดย: HydrA ที่ 29-05-2011 14:47:12
พี่เออย่าเพิ่งรีบร้อนเลยนะ
ว่านน่ะยังงัยล่ะ
คือดูไปอีกนิดเถอะนะ
นู๋ไม่อยากให้พี่เอต้องเจ็บอีก
พี่เอน่ะให้ใจว่านไปแล้ว
แต่ว่านละพี่
ก่อนที่จะรักใครได้
ควรรักตัวเองก่อนดีมั๊ย
หัวข้อ: Re: น้องชาย 2 ( Up ช่วงที่ 19 + 20 : 28/05/11 )
เริ่มหัวข้อโดย: bbyuqin ที่ 29-05-2011 17:47:43
กับโค้ชคนนี้เหตุการณ์มันเกิกมาซ้ำแล้วซ้ำเล่ากับการที่เค้าละเลยหน้าที่แบบนี้
ส่วนพี่ป้อมเอง ก็น่าจะทำอะไรได้บ้าง เพราะลำพังตัวเอเองเนี่ยก็เหมือนเป็นแค่ผู้น้อยไง  ยิ่งมาถึงตินชิมกับข้าวและไม่ไปประชุมแต่มานั่งเล่นเกม ทำให้เห็นเลยว่าคนนี้ไม่มีความรับผิดชอบต่อหน้าที่การงานอย่างเดียวไม่พอแต่มันส่อไปถึงนิสัยส่วนตัวด้วยสิ...แย่มากๆ


ส้วนเอกับว่าน มันจะออกมาเป็นเหมือน ตอนสมัยบีมั้ย?
หัวข้อ: Re: น้องชาย 2 ( Up ช่วงที่ 19 + 20 : 28/05/11 )
เริ่มหัวข้อโดย: pobbmit ที่ 29-05-2011 20:06:58
เฮ้อ ลุ้นแทบแย่ หยุดหายจัยเลยตอนอ่าน

กระดุมเม็ดสองยากกว่าบีเยอะเลยเนอะ บีนี่ถอดให้เป็นประจำมั้งน้องเลยชินมือ

ของดีต้องรอนานๆ เด็ดๆ ไว้รอต่อไป ลุ้นต่อค้าบ

ปล.คิดถึงน้องบีจัง คิดถึงโคอะล่าบอมบ์
หัวข้อ: Re: น้องชาย 2 ( Up ช่วงที่ 19 + 20 : 28/05/11 )
เริ่มหัวข้อโดย: •ไนท์คลุง• ที่ 29-05-2011 21:49:58
หายไป 2 วันเอง มา2ตอนเลย อ่านแล้วครับ สนุกมากก

กำลังรอตอนต่อไปอยู่  :z1:
หัวข้อ: Re: น้องชาย 2 ( Up ช่วงที่ 19 + 20 : 28/05/11 )
เริ่มหัวข้อโดย: me_alone ที่ 30-05-2011 01:19:40
ช่วงที่ 21


        “ฟึบ...ฟึบ!” เสียงของผ้านวมผืนใหญ่ที่ผมคุ้นเคยดังขึ้นเบาๆ แต่มันก็ดังมากพอที่จะปลุกผมให้ตื่นขึ้นได้ ผมลืมตาขึ้นช้าๆ โดยปรกติแล้วผมมักจะนอนต่ออีกหน่อยหลังจากที่รู้ตักในตอนเช้า แต่วันนี้ผมม่ได้รู้สึกแบบนั้นเลย หลังจากลืมตาขึ้นได้ผมก็หันไปทางซ้ายทันที ผมเห็นว่านนั่งอยู่สายตาว่านมองลงไปที่ผ้านวมที่ห่มช่วงล่างเค้าไว้


“ตื่นแล้วเหรอ” ผมถามว่านออกไปด้วยน้ำเสียงงัวเงีย
“.....” ว่านหันมามอง สีหน้าว่านตอนนั้นดูเฉยชามาก
“.....”


        แล้วว่านก็ลุกขึ้นไปหยิบของใช้เล็กๆน้อยๆของเค้าที่วางกองไว้อยู่ ส่วนผมเองก็ค่อยๆลุกตาม แล้วว่านก็เดินลงมาข้างล่างก่อนจะเอาเสื้อผ้านักเรียนเดินหายเข้าไปในห้องน้ำ ส่าวนผมก็เปิดคอมพิวเตอร์แล้วเปิดเพลงทิ้งไว้ พลางดูเวปต่างๆรอว่านอาบน้ำ หลังจากว่านอาบเสร็จผมก็เข้าไปอาบต่อ ไม่นานเท่าไหร่สำหรับน้ำเช้าผมออกมาก็พบว่านนั่งเงียบๆอยู่บนโซฟาหน้าทีวี


“ว่าน....ไมโลไหม” ผมถามว่านขณะที่กำลังใส่เนคไทอยู่
“ก็ได้ครับ” ว่านหันมาตอบแล้วยิ้ม
“มาชงเองเลยนะ ไมโลตรงนี้ส่วนนมข้นอยู่ในตู้เย็น แก้วอยู่ที่ชั้น” ผมพูดพลางชี้ไปในตำแหน่งต่างๆที่ของวางไว้อยู่


        จะว่าไปนี่เป็นประโยคแรกของวันเลยนะ อืมมม...นานมากแล้วที่ผมอยู่บ้านคนเดียว เข้านอนคนเดียว แล้วก็ตื่นคนเดียว นี่เป็นครั้งแรกในรอบหลายปีที่ผมมีคนมาอยู่ด้วย นอนพร้อมกัน แล้วก็ตื่นพร้อมๆกัน ส่วนเรื่องเมื่อคืน....ผมไม่รู้จะพูดถึงมันดีไหม หรือ ปล่อยให้ผ่านไป.... ระหว่างที่ผมคิดอยู่นั้นว่านก็เดินผ่านผมไปที่เครื่องต้มน้ำร้อนพอดี ผมสังเกตเห็นว่าว่านยังไม่ได้หยิบแก้วไป ผมเลยเดินไปหยิบแก้วที่วางอยู่ใกล้ๆกับจุดที่ผมยืนอยู่แล้วเอาให้ว่าน

        ตอนนั้นว่านยืนนิ่งไม่ไหวติง....ผมไม่รู้จะพูดอะไรแฮะ....ไม่รู้ซิครับ....ผมทำตัวไม่ถูก....ที่จู่ๆน้องชายคนหนึ่งเกือบจะถูกเปลี่ยนสถานะขึ้นมาเป็นมากกว่านั้น ผมเองก็ไม่รู้ว่าน้องคิดยังไง รู้สึกยังไงกับเรื่องนี้ ใจก็อยากถามว่าน....แต่ผมไม่รู้จะเริ่มยังไง จะถามยังไง....ผมอยากรู้นะครับว่าน้องคิดยังไงกับผมกันแน่....แล้วที่ผมทำไปเมื่อคืนว่านคิดยังไง อยากถามใจจะขาด....ว่านเองก็โตแล้ว การที่ทำเรื่องแบบนี้ว่านน่าจะรู้ว่ามันหมายถึงอะไร ตอนนั้นผมยืนมองว่านจากข้างหลัง....ไม่รู้ซิครับ......
และในขณะที่ผมคิดไม่ออกไม่รู้จะเริ่มต้นยังไงอยู่นั้น จู่ๆผมก็เอานิ้วชี้ไปสัมผัสที่หลังคอว่านเบาๆ..... ว่านที่กำลังจัดแจงตักนมข้นใส่แก้วอยู่ถึงกับหยุดกึกทันที....แล้วผมก็ลูบจากหลังคอไปที่บ่าว่านเบาๆ....มันไม่ใช่การสัมผัสที่หมายจะให้ว่านรู้ตัว แต่มันเป็นการสัมผัสที่ผมอยากจะให้ว่านรู้ว่าผมรู้สึกยังไงกับเค้า มันเป็นอะไรที่....ผมใส่ใจความรู้สึกของว่าน.....ผมระวังต่อความรู้สึกที่ว่านมี....ถึงมาพูดตอนนี้เวลาแบบนี้มันจะดูว่าแก้ตัวก็เถอะ แต่ผมรู้สึกแบบนั้นจริงๆนะ หลังจากที่วาดนิ้วไปแล้วว่านยืนนิ่งไม่มีท่าทีปฎิเสธอะไร....ผมก็ค่อยๆเข้าใกล้ว่านมากขึ้นก่อนจะสวมกอดว่านหลวมๆ แล้วก็ซุกลงไปหอมตามด้วยจูบไปลงที่ซอกคอว่านเบาๆจากนั้นผมก็ซุกคอว่านอยู่แบบนั้น กอดนี้...ว่านจะรู้ไหมนะว่าเวลานี้.....ผมใจเค้าไปแล้ว....
   
        “ติ๊ก ต๊อก ติ๊ก ต๊อก” เสียงนาฬิกาในบ้านผมดังขึ้นเป็นจังหวะท่วมกลางความเงียบกันของช่วงบ่าย หลังจากเรียนเสร็จผมก็กลับบ้านทันที วันนั้นทั้งวันผมพร่ำคิดถึงแต่เรื่องราวที่เกิดขึ้นเมื่อคืนนี้ ผมเฝ้าถามตัวเองซ้ำไปซ้ำมาเป็นร้อยเป็นพันรอบถึงความรู้สึกจริงๆที่ผมมีต่อว่าน....เป็นห่วง...สงสาร....รัก....หรือ แค่เหงาที่ไม่มีใคร วันเวลาวันนี้มันผ่านไปอย่างเชื่องช้า ผมเฝ้ารอเวลาช่วงเย็นที่จะได้เจอว่านอีกครั้ง เวลากว่าสิบชั่วโมงตั้งแต่ที่เราตื่นขึ้นมา มันคงทำให้ว่านคิดอะไรได้มากขึ้น นั่นหมายความว่าท่าทีที่ว่านเหมือนจะไม่ปฏิเสธผมเมื่อเช้า มันอาจเปลี่ยนไปเป็นฟ้ากับเหวเลยก็ได้ แล้วเวลาที่ผมตั้งหน้าตั้งตารอตั้งแต่เช้าก็มาถึง ผมรีบตรงดิ่งไปยิมทันทีตั้งแต่ตอนบ่ายสามเศษ แล้วทันทีที่ไปถึงผมก็มองเห็นรองเท้าว่านกับเพื่อนๆกองกันอยู่หน้ายิม ผมใจตุ้มๆต่อมๆที่จะเข้าไปในยิมตอนนี้ ถึงความสัมพันธ์เมื่อคืนมันจะไปไม่สุด แต่มันก็กลับไปเหมือนเคยไม่ได้แล้ว ผมยืนทำใจอยู่พักหนึ่งก่อนจะเดินเข้าไปในยิม

“พี่เอสวัสดีครับ”

        เกมหันมายกมือไหว้ผมก่อนที่พวก ฟิว ริว ส้ม พลอย จะหันมาไหว้ตาม เว้นก็แต่ว่านที่ทันทีที่เห็นผมก็วิ่งไปเปลี่ยนเพลงที่เปิดไว้ทันที แล้วว่านก็วิ่งไปนั่งเงียบๆอยู่ข้างเกม ส่วนผมก็ไม่รู้จะพูดอะไร หลังจากวางของเสร็จแล้วผมก็มานั่งเล่นที่มุมเดิม ก่อนที่พวก ฟิว ริว เกม พลอย แล้วก็ส้ม จะมานั่งเล่นด้วย เว้นก็แต่ว่านที่นั่งอยู่ห่างๆ ไม่มาใกล้ผมเหมือนทุกๆวัน

        “ไม่ชอบซินะ” ผมคิดในใจขณะที่ผมมองไปที่ว่าน เวลานั้นผมว่าว่านเองคงไม่อยากให้เพื่อนๆสังเกตได้ว่า ผมกับว่าน เป็นอะไรกัน ผมเลยนั่งคุยกับเพื่อนว่านตามปรกติ แต่ในใจผมกลับรุ่มร้อนจนแทบอยู่ไม่สุข ผมรู้สึกไม่ดีเลยที่ว่านมีปฏิกิริยาตอบกลับมาแบบนี้ ผมอยากลุกขึ้นไปถามว่านให้หายคาใจ แต่ก็ทำไม่ได้....เพราะเวลานี้สิ่งที่ผมกลัวที่สุดกับความสัมพันธ์ที่กลับไปเป็นเหมือนเคยไมได้แล้วนั่นก็คือ การที่ผมถูกน้องเกลียด ผมเลยพยายามวางทีท่าให้ว่านสบายใจที่สุดเท่าที่จะทำได้ พูดง่ายๆคือไม่พยามทำในสิ่งที่ว่านไม่ชอบนั่นเอง
อืมมม...แล้วก็วันนั้นพี่ป้อมกลับมาสอนวันแรกครับ บรรยากาศไม่มีอะไรแปลกใหม่ อย่างเดียวที่แปลกคือว่านไม่ใกล้ผมเหมือนเคย หลังจากเลิกซ้อมเสร็จแล้ว ผมกับพวกเพื่อนว่านก็จับกลุ่มกันอีกครั้ง บทสนทนาก็เป็นเรื่องทั่วไป แต่มันมีอย่างหนึ่งที่ทำให้ผม ร้อนใจมากไปกว่าเดิมนั้นก็คือ


“วันนี้ว่านเป็นอะไรก็ไม่รู้” พลอยพูดขึ้น
“ทำไมละ” ผมถามพลอย
“ก็ดูมันห่างๆพี่ยังไงก็ไม่รู้ ปรกติเห็นมาเล่นกับพี่ไม่ห่างเลยนี่นา” พลอยตอบ
“นั่นซิ ตอนแรกเห็นฟังเพลงสนุกๆ แต่พอพี่เอมามันเปิดแต่เพลงอกหักซะงั้น” เกมแถม
“คิดมากน่า ไม่มีอะไรหรอก ว่านมันก็ทำตัวแปลกๆอยู่แล้วนี่นา” ผมพูดพลางยิ้มๆให้น้องๆ
“.....” ว่านที่นั่งไปอยู่ไม่ห่างเท่าไหร่ก็เดินมาถีบเกมเบาๆหนึ่งทีก่อนจะกลับไปนั่งลงที่เดิม
“อะไรวะ” เกมตะโกนตามหลังว่านไป
“ไม่รู้อะไรก็เงียบเลยไป” ว่านหันมาพูดด้วยน้ำเสียงแบบแข็งๆ


        ว่านรู้สึกยังไงกันแน่เนี่ยะ ทำไมถึงดูเปลี่ยนไปขนาดนี้ ผมต้องขอโทษน้องไหมถ้าผมทำอะไรผิดไป....วันนั้นหลังจากปิดยิมผมก็พาว่านไปทานข้าวก่อนกลับบ้าน มันดูเหมือนไม่มีอะไร ผมถามอะไรไปว่านก็ยังตอบอยู่ แล้วผมก็พาว่านกลับบ้าน....ถึงบ้านกิจกรรมเดิมๆครับ ว่านนั่งทำการบ้าน ผมทำรายงาน แต่วันนี้ดูเหมือนว่าการบ้านว่านจะเสร็จก่อน


“พี่เอ ดู DVD ได้ไหม”
“ได้ซิ”


        แล้วผมก็ไปจัดแจงเปิด DVD ให้น้อง วันนี้ว่านเอาการ์ตูนกินทามะแผ่นใหม่มาครับ ระหว่างที่ว่านนั่งดูไป ผมก็ทำรายงานไป ไม่นานรายงานผมก็เสร็จ ผมเลยนั่งเล่นเนทระหว่างที่รอว่านดูกินทามะ พักหนึ่งการ์ตูนก็จบครับ แล้วว่านก็เดินมานั่งตรงพนักพิงเหมือนเคย


“พี่อ่านอะไร” ว่านถามผม
“ก็อ่านไปเรื่อย”
“ผมเปิดดู FaceBook ได้ไหม”
“เอาซิ”


        ผมขยับ KeyBoard ไปทางว่าน ก่อนที่ว่าจะเอนตัวมาทางผม เพื่อให้พิมพ์ถนัด อีกแล้ว....เหมือนเมื่อวานเลย....ผมค่อยๆก้มลงไปหอมแผ่นหลังของว่านเบาๆ...ขนาดเย็นแล้ว....เสื้อผ้าของว่านก็ยังหอมอยู่อีก.....หลังจากหอมเสร็จผมก็เอนหลังกลับมาที่เดิม....เพราะยังมีคำถามคาใจอยู่....ระหว่างที่ว่านดู FaceBook ผมไม่รู้จะทำอะไร จะลุกก็กลัวขัดจังหวะว่าน ผมเลยเอานิ้วชี้ไปวาดบนหลังว่านเป็นเส้นตรงหนึ่งครั้ง.....ว่านนิ่ง....ผมเลยตามด้วยการเอานิ้วชี้วาดเล่นบนหลังว่านเรื่อยๆ พักหนึ่งว่านก็ทำท่าทีเหมือนกับว่าจะดูเสร็จแล้ว ผมเลยพูดไปว่า


“กอดได้ไหม”
“.....” ว่านนิ่งเงียบไม่ตอบอะไรกลับมา
“......” ผมเองก็เงียบไม่รู้จะพูดอะไรต่อ ใจหนึ่งก็หวังว่าที่ว่านเงียบนี่จะเป็นช่วงกำลังคิดอยู่ ไม่ใช่เงียบที่หมายถึงการปฏิเสธ
“ได้ครับ”


        ว่านตอบกลับมาทำเอาผมดีใจจนแทบเต้นก่อนที่สวมกอดว่านจากข้างหลัง แล้วดึงว่านมานั่งบนตัก ว่านเองก็ยกตัวเองแล้วเลื่อนมานั่งแต่โดยดี ตอนนี้ผมสวมกอดว่านด้วยความรู้สึก.....พิเศษที่สุด.....ผมซุกลงไปที่หลังของว่านอยู่อย่างนั้นครั้งแล้วครั้งเล่าที่ผมหายใจของผมรดลงไปที่แผ่นหลังของน้อง ว่านเองก็นั่งนิ่งๆให้ผมซุกแบบนั้นนานพอสมควร ก่อนที่ผมจะให้ว่านไปอาบน้ำ เพื่อเตรียมตัวขึ้นนอน หลังจากที่อาบน้ำเสร็จทั้งสองคนผมก็พาว่านขึ้นไปห้องนอนทันที..... วันนี้ไม่มีเสียงพูดคุยอะไรเพิ่มเติม หลังจากเปิดแอร์ปิดไฟแล้วก็ขึ้นเตียงนอน ผมกับว่านนอนนิ่งๆคนละฝั่ง.....ผมมั่นใจว่าตอนนี้ว่านเองก็ยังไม่หลับเช่นเดียวกับผม หัวใจของผมเวลานี้มันเต้นแรงราวกับกลองศึกเลยทีเดียว “ตึก ตึก ตึก” เสียงหัวใจของผมดังอยู่ท่ามกลางความเงียบและความมืด ผมไม่รู้ว่าว่านรู้ไหมว่าผมตื่นเต้นแค่ไหนที่ว่านไม่เก็บเสื้อผ้าหนีกลับบ้านไป แถมยังมีท่าทีที่เหมือนจะยังสานสัมพันธ์กันต่อได้ ไม่เป็นไรเรื่องที่ยิม...น้องอาจเขินแล้วก็วางตัวไม่ถูก แต่ตอนที่เราอยู่กันสองคนมันเป็นแบบนี้ผมก็พอใจแล้ว


“ว่านหลับยัง” ผมพูดแบบกระซิบเบาๆถามว่านที่นอนอยู่อีกฝั่งหนึ่ง
“ยัง” ว่านตอบมาเบาๆ
“.....”
“......”
“พี่...ขอนอนกอดได้ไหมคืนนี้” ผมถามว่านออกไป...สาบานได้ว่ามันหลุดออกไปจากจิตใต้สำนึกของผม เพราะทันทีที่ผมพูดออกไป ผมแทบจะตบปากตัวเองเลย
“อื่อ”


        ห่ะ...ให้ตายซิ....ว่านตอบรับ....เท่านั้นล่ะครับ ผมไม่รอให้ช่วงเวลาเสียไปอย่างไรค่า ผมรีบขยับมาหาว่านแล้วโอบกอดว่านทันทีอย่างไม่รีรอ เวลานี้ผมกอดว่านด้วยความรักแบบเดียวกับหนุ่มสาวทั่วไปกอดกัน ผมมีความสุขมากมายจนบรรยายออกมาเป็นตัวหนังสือไม่ถูก ผมไม่เคยมีความสุข หรือ รู้สึกดีใจอะไรแบบนี้มานานมากแล้ว แล้วว่านก็ทำให้ผมได้ลิ้มรสความรู้สึกแบบนั้นอีกครั้ง......แล้วก็...อย่างที่ผู้อ่านเดาได้นั่นล่ะครับ....หลังจากกอดผมก็ขยับไปจูบว่านอีกครั้งเหมือนที่ทำเมื่อวาน....ว่านเองเวลาที่ถูกจูบก็ยังหลับตาเหมือนเคย วันนี้...ว่านสอดลิ้นเข้ามาบ้างแล้ว....อืมม....ขณะกำลังจูบผมก็เปลี่ยนจากที่นอนกอดข้างๆมาขึ้นคร่อมว่านแทน ก่อนที่จะเปลี่ยนไปไซ้คอว่าน ซึ่งว่านก็ให้ความร่วมมือดีด้วยการเงยหน้าขึ้นให้ผมไซ้จูบได้ง่ายขึ้น หลังจากไซ้คอว่านจนพอใจแล้วผมก็เปลี่ยนไปเลียใบหูไห้ว่านบ้าง ทันทีที่ลิ้นไปถูกหูว่าน ว่านสะดุ้งเฮือก ก่อนที่จะเอามือมาจับแขนผมไว้ แล้วบิดตัวไปมา พลางส่งเสียงเบาๆออกมา...”[/b] อา.....อือ.....”[/b]

        หลังจากที่ผมลิ้มรสว่านที่ส่วนบนแล้วเมื่อวานมันมาค้างตรงนี้ ผมถอยตัวออกมาห่างแล้วมองว่าน เวลานี้ว่านนอนหอบเหมือนลูกแกะไม่มีทางต่อสู้ขัดขืนที่กำลังตกอยู่ในเงื้อมมือของราชสี ทว่าราชสีตัวนี้...ใส่ใจกับลูกแกะมาเกินไป ผมเอามือมาจับที่กระดุมเสื้อของว่าน...ถ้าเป็นบีผมคงระดมถอดมันออกจนหมดตั้งแต่ที่ผมเริ่มจูบแล้ว แล้วเม็ดแรกก็หลุดออกไป.....ผมค่อยๆเคลื่อนนิ้วมาที่เม็ดที่สอง....ท่าทีของว่านไม่มีการขัดขืนอะไรเลย...แล้วกระดุมเม็ดที่สองก็หลุดออกไป.... ผมเอานิ้วลูบวนไปมาที่อกว่านเบาๆก่อนจะใช้นิ้วนั้นเขี่ยเสื้อของว่านให้เปิดออกกว้างขึ้น แล้วผมก็เริ่มแกะกระดุมเม็ดที่สามด้วยจิตใจจดจ่อแล้วก็ลุ้นระทึกที่สุด.....

        “พรึบ!” เสียงกระดุมเม็ดที่สองหลุดออกจากกันอย่างรวดเร็ว ด้วยความตึงของเนื้อผ้าที่ถูกผมเปิดออกเมื่อสักครู่ ทำให้ขอบเสื้อแยกออกจากกันอย่างรวดเร็ว  ผมเอานิ้วชี้ลูบลงไปที่แผ่นอกเรียบๆของว่าน มันช่าง.....เนียนนุ่มจริงๆ.....ผมเลื่อนนิ้วไปที่หัวนมข้างซ้ายของว่านช้าๆ....ไม่ช้านิ้วผมก็ได้สัมผัสกับหัวนมนิ่มๆของว่าน ผมค่อยๆขยับตัวลงช้าๆก่อนที่จะก้มลงไปลิ้มรส.... ผมสอดลิ้นออกมา....แล้วใช้ปลายลิ้นสัมผัสเบาๆกับหัวนมของว่าน......ความรู้สึกแวบแรกเลย....กลิ่นไม่เหมือนนมของบีสักนิ๊ด......แล้วผมก็ใช้ปากครอบนมของว่านก่อนจะดูดแล้วละเลงลิ้นตวัดไปมาแบบที่ทำกับบีไม่มีผิด ว่านบินตัวไปมาไม่หยุด พลางกำมือผมแน่นมากๆแล้วก็ส่งเสียงออกมาเบาๆว่า “อา....อื่อ....อื่อ....” หลังจากผมลิ้มรสนมว่านเรียบร้อนแล้วผมก็เริ่มไล่ชิมเรือนร่างของว่านไปเรื่อยๆตั้งแต่แผ่นอก...ร่องกลามตรงราวนมของว่านตื้นกว่าบีนิ๊ดหน่อยแฮะ....ท้อง..ว่านมีซิกแพกด้วย....แถมของว่านชัดเจนกว่าบีเยอะเลย.....สีข้าง......
และเมื่อผมไล่มาถึงหัวไหล่....มันก็ติดเสื้อว่านครับ ผมเลยดันตัวขึ้นเพื่อจะถอดเสื้อว่านออก แต่ทันทีที่ผมเริ่มดึงเสื้อว่านออกยังไม่ทันจะออกแรงเท่าไหร่เลย ว่านก็จัดการถอดออกให้ทันที ก่อนที่ว่านจะโยนเสื้อลงไปข้างๆเตียง แล้วก็นอนหลับตาต่อ ตอนนั้นบอกตรงๆว่าผมแองอึ้งเล็กน้อย แล้วก็ย่ามใจขึ้นมาทันทีเลยว่า ว่านเองก็ชอบเหมือนกัน ผมยิ้มมุมปากเล็กๆก่อนที่จะก้มลงไปจูบว่านซ้ำเบาๆเพื่อความแน่ใจ ทันทีที่ผมประกบปากลงไปว่านก็สอดลิ้นกลับขึ้นมาทันที....ใช่จริงๆด้วย....จากนั้นผมก็เริ่มซุกไซ้ว่านต่อไปด้วยการไล่มาที่ต้นแขน....ว่ากันว่าท้องแขนมันก็เป็นอีกหนึ่งจุดสัมผัส....ผมเอาลิ้นลากผ่านจากหัวไหล่ว่านลงไปที่ท้องแขนทันที

        ตอนนั้นผมรู้สึกพิเรนทร์อะไรไม่รู้ จู่ๆผมก็ไล่ลิ้นไปที่ใต้วงแขนของว่านเพราะอยากรู้ว่าว่านจะชอบไหม.....อืมม....ปรากฏวาว่านชอบครับ....ทันทีที่ไล่ไปถึงว่านเอามือหนีบหน้าผมไว้ตรงนั้นทันทีแบบที่ดิ้นออกไม่ได้เลยทีเดียว แล้วก็เอนตัวขึ้นมา พร้อมกับบิดตัวไปมาแรงขึ้น เสียงครางก็หนักขึ้น....จะว่าไป...ว่านเองก็ยังไม่มีกลิ่นตัวเลยแฮะ...แถมขนตรงนี้ก็ยังไม่มี....ไม่เป็นไรถึงมีถ้าว่านชอบผมก็ทำให้ได้.... จากนั้นพักหนึ่งว่านก็ค่อยๆคลายแขนที่ล๊อกผมไว้ลง ผมเลยเลื่อนไล่ไปจนถึงนิ้วว่าน....ตอนนี้...ผมรู้แล้วว่าว่านชอบให้ทำตรงไหน.....

        จากนั้น...ผมก็ค่อยๆเอานิ้วลูบแผ่นอกของว่านไล่ลงไปถึงสะดือ....แล้วก็ขอบกางเกงนอนของว่าน.....ตอนนั้นผมยังไม่เปิดกางเกงของว่านทันทีแต่ผมเลื่อนนิ้วต่ำลงไป...เพราะผมอยากรู้ว่า...ว่านน้อย....ตัวใหญ่ไหม.......แล้วพอลูบลงไปเรื่อยๆ ปรากฏว่าตัวเล็กของว่านเวลานี้มันไม่เล็กแล้วครับ มันแข็งจนตุงอยู่ในกางเกง ผมเอามือกำว่านน้องเบาๆ....ซึ่งขนาดของว่านน้อยนั่นไม่เล็กเลยจากที่กำอยู่ข้างนอก.....มันใหญ่แล้วก็ยาวมาก....ผมอยากเห็นจัง.... แล้วผมก็เลื่อนมือขึ้นมาที่ขอบกางเกงอีกครั้ง......ก่อนที่จะเอานิ้วสอดเข้าไปตามแนวยางยืดของกางเกงนอน....


“พี่” เสียงว่านดังขึ้นมาเบาๆ ก่อนที่ผมจะหันไปมองต้นเสียง
“ครับ” ผมตอบกลับไป
“พอเถอะครับ”
“.....”


        ได้ยินดังนั้น...ผมก็หยุดทุกอย่างที่ผมทำอยู่เปลี่ยนเป็นมานอนกอดว่านเหมือนตอนแรก....ทันทีที่ล้มตัวลงผมนอนกอดว่านในสภาพที่น้องเปลือยท่อนบน มือขวาผมยังคงเล่นนมน้องไปเรื่อยๆ.....ผู้อ่านคิดเหมือนผมไหม....ตอนนั้นผมอยากถามว่านมากเลยว่าทำไมถึงให้หยุด.....ทั้งๆที่ว่านเองก็ดูเหมือนจะพอใจในระดับหนึ่งนี่นา.....อีกอย่างตอนนี้ยังให้ผมนอนกอดแบบเปลือยท่อนบนแถมยังให้ผมนอนเล่นนมได้อีก......คำตอบของคำถามนี่ผมก็ไม่ทราบ เพราะตอนนั้นผมเองก็ไม่กล้าถาม กลัวน้องจะโกรธเอา อีกอย่าง เวลานี้ผู้อ่านคงสงสัยว่าเริ่มแบบดูดดื่มไปตั้งขนาดนั้นแล้ว ทำไมจู่ๆผมหยุดลงไปดื้อๆได้ถ้าเป็นรายอื่นคงไม่สนใจคำทัดทานแน่ๆ คำตอบนี้...ผมขอมาตอบในตอนหน้าก็แล้วกัน......



To Be Con
หัวข้อ: Re: น้องชาย 2 ( Up ช่วงที่ 19 + 20 : 28/05/11 )
เริ่มหัวข้อโดย: reneisance ที่ 30-05-2011 01:35:41
อีกนิดเอ ทีละนิดทีละหน่อย เดี่ยวก็ได้เอง
แต่ว่า ว่านเองก็ใช่ว่าจะง่ายๆๆๆ ถ้าจตะร้ายไม่เบา
หัวข้อ: Re: น้องชาย 2 ( Up ช่วงที่ 21 : 29/05/11 )
เริ่มหัวข้อโดย: donutnoi ที่ 30-05-2011 07:19:44
 :L2: มารอฟังคำตอบ  :3123:
หัวข้อ: Re: น้องชาย 2 ( Up ช่วงที่ 21 : 29/05/11 )
เริ่มหัวข้อโดย: HydrA ที่ 30-05-2011 13:09:50
ว่านคงคุมสติไม่ได้ด้วยนั่นแหล่ะ
แล้วในใจว่านคงกำลังต่อสู้กันเองอยู่
หัวข้อ: Re: น้องชาย 2 ( Up ช่วงที่ 21 : 29/05/11 )
เริ่มหัวข้อโดย: •ไนท์คลุง• ที่ 30-05-2011 17:30:47
น้องคงกำลังสับสนกับใจตัวเองครับ ให้เวลาหน่อยครับของแบบนี้ :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: น้องชาย 2 ( Up ช่วงที่ 21 : 29/05/11 )
เริ่มหัวข้อโดย: JJHJJH ที่ 30-05-2011 20:29:39
เพิ่งนึกได้ว่าติดตามเรื่องนี้มาตั้งแต่ภาคแรก อิอิ
บวกให้ค่า
หัวข้อ: Re: น้องชาย 2 ( Up ช่วงที่ 21 : 29/05/11 )
เริ่มหัวข้อโดย: me_alone ที่ 31-05-2011 01:05:27
ช่วงที่ 22



        “จิ๊บ.....จิ๊บๆ....” เสียงนกน้อยร้องทักทายกันไปมาในยามเช้าตรู่เรียกให้ผมค่อยๆลืมตาขึ้นอย่างช้าๆ แสงแดดอ่อนๆในยามเช้าสาดส่องไปทั่วท่องฟ้า “อื่อออออ....” ว่านครางออกมาจากลำคอเบาๆขณะที่น้องกำลังบิดขี้เกียจด้วยการยืดตัวตรงแล้วบิดตัวไปมาเพียงเล็กน้อย

“ตื่นแล้วเหรอ” ผมกระซิบไปว่านที่หูว่านเบาๆ
“อื่อ”


        เมื่อคืน....ผมนอนกอดว่านอยู่แบบนั้นตลอดไม่ได้คลายตัวไปไหน ว่านเองก็ยังคงนอนหนุนแขนผมในท่าเดิม มือขวาผมก็ยังคงวางอยู่บนแผ่นอกของว่าน “ตึก ตึก ตึก” เสียงหัวใจของว่านเต้นผมได้ยินมันชัดเจน ผมค่อยๆเคลื่อนไปหอมแก้มว่านเบาๆ ก่อนที่จะเปิดผ้าห่มที่อยู่สูงขึ้นมาในระดับคอแล้วมุดเข้าไป....ผมเอาจมูกจนที่อกว่านเบาๆก่อนที่จะเอาแก้มแนบลงไปฟังเสียงหัวใจของว่านที่เต้นอยู่ราวกับเสียงกลอง....หลายครั้งที่ผมกอดว่าน ใกล้ว่านแต่ไม่มีใครครั้งไหนที่ผมได้ใกล้เท่านี้ ผมเอื้อมมือไปจับมือว่านเบาๆ ก่อนที่ว่านจะกุมมือผมกลับคืน....จะว่าไปว่านเองก็ผิวพรรณดีจัง ขาวมาก ขาวกว่าบีซะอีก แถมกลิ่นหอมๆจากตัวว่านก็ต่างจากบี.....หอมซุกลงไปบนอกว่านอีกครั้งก่อนจะสูดลมหายใจเข้าไปอีกฟอดใหญ่ผมเปิดผ้าห่มขึ้นมามองว่านที่กำลังนอนหลับตาอยู่แล้วพูดว่า

   
“ปะ ไปอาบน้ำ”
“อื่อ”


        แล้วผมกับว่านก็ลงมาข้างล่าง....เช่นเคยว่านไปอาบน้ำ ส่วนผมก็เปิดคอมพิวเตอร์ ก่อนจะเปิดเพลงที่ผมฟังประจำๆเพื่อช่วยให้บ้านไม่เงียบมากเกินไป ไม่นานนักว่านก็ออกมาพร้อมกับชุดลูกเสือที่ยังจัดไม่เรียบร้อยดีนัก พอว่านเดินมาที่กระเป๋าใส่เสื้อผ้าที่วางอยู่ใกล้ๆคอมผมก็ลุกขึ้นไปช่วยว่านแต่งตัว ว่านเองก็ยืนให้ผมจัดแจงแต่งตัวให้


“เสร็จล่ะ” ผมพูดขณะที่กำลังจัดผ้าพันคอให้ว่าน
“.....” ว่านหันมายิ้มแล้วก็หันดูซ้ายดูขวาอีกครั้ง สงสัยไม่ไว้ใจผมมั้ง
“ไมโลไหม” ผมถามว่าน
“.....”  ว่านไม่พูดแต่พยักหน้าตอบรับแทน


        ผมเลยเดินจูงมือว่านไปที่กาต้มน้ำร้อนที่อยู่ส่วนหลังบ้าน แล้วก็หยิบแก้วมาให้ว่าน ก่อนที่ว่านจะเริ่มตักผงไมโลรวมถึงนมข้นใส่ ตอนนั้นผมยืนอยู่ข้างๆว่านตลอดเวลา ระหว่างที่รอน้ำร้อนผมก็สวมกอดว่านจากด้านหลัง แล้วก้มลงไปจูบที่คอว่านเบาๆแล้วก็ซุกอยู่แบบนั้นจนน้ำร้อนถึง 98 องศา ผมค่อยๆคลายมือแล้วเดินเข้าไปในห้องน้ำแปรงฟันล้างหน้าอาบน้ำ ก่อนจะนุ่งผ้าเช็ดตัวผืนเดียวออกมา ตอนนั้นว่านหันมามองวูบหนึ่งก่อนจะหัดหน้ากลับไปคืนอย่างรวดเร็ว หลังจากผมแต่งตัวเสร็จผมก็เดินมาหาว่านที่นั่งดื่มไมโลพลางดูรายการเรื่องเล่าเช้านี้ไปด้วย


“ไปยัง” ผมถามว่าน
“อื่อ”


        แล้วขณะที่ว่านจะลุกขึ้นผมก็จับมือว่านไว้ก่อนจะดึงตัวว่านลงมานั่งข้างๆผมคืน ว่านหันมามองผม ผมเองก็จ้องตาว่านแบบไม่วางตาเช่นกัน ผมอยากรู้จังว่าว่านคิดยังไงกับเรื่องที่เกิดขึ้น....ว่านคิดยังไงกับผม......อีกอย่างวันนี้เป็นวันสุดท้ายที่ว่านจะอยู่กับผมแล้ว คืนนี้ว่านก็ต้องกลับไปนอนที่บ้าน ถ้าไม่ถามให้เสร็จในวันนี้....ผมก็กลัวว่าจะไม่มีโอกาสได้ถามคำถามนี้อีก


“......”


        สุดท้ายผมก็ไม่กล้าที่จะถามออกไป....ไม่ซิต้องบอกว่าเวลานี้ผมกลัวคำตอบที่ว่านจะตอบกลับมามากกว่า “ตึก...ตึก...ตึก” เสียงหัวใจของผมเต้นแรงขึ้นมา.....ผมเอานิ้วโป้งจากมือข้างซ้ายที่ผมไม่ถนัดลูบไปที่ริมฝีปากของว่านเบาๆ....แล้วผมก็ค่อยๆก้มหน้าลงไปหาว่านช้าๆ......ว่านเองก็คงจะรู้ว่าผมกำลังจะทำอะไร....ว่านหลับตาลงก่อนที่ริมฝีปากของผมจะสัมผัสกับปากของว่าน.....ผมสวมกอดว่านอีกครั้ง ก่อนจะเริ่มจูบว่านแบบที่ทำเมื่อคืน....ว่านเองก็ตอบรับกลับมาด้วยการสอดลิ้นเข้ามาคืน.....เวลานี้...ช่างมันเถอะเรื่องคำถาม.....เพราะที่เรากำลังทำอยู่....มันน่าจะสื่อสารอะไรได้มากกว่าคำพูดมากมาย


“เอ....เอ....” เสียงม่อนเรียกผมพลางเอาปากกาสะกิดหลังผมยิกๆ
“อะไร” ผมหันไปถามม่อนที่นั่งอยู่ข้างหลัง
“เป็นอะไร เห็นใจลอยแต่เช้าแล้ว”
“จริงด้วย มีอะไรไม่สบายใจหรือเปล่า” แจมถามด้วยน้ำเสียงค่อนข้างเป็นห่วง
“มะ...ไม่มีอะไร”
“เหรอ”
“อื่อ....”
“.....”
“ว่าแต่...กี่โมงแล้วเนี่ยะ” ผมหันไปถามม่อน
“อ่าว ไม่ดูกับ netbook ล่ะ ตั้งอยู่ตรงหน้า” ม่อนพูดติดตลกพลางชี้ไปที่ netbook
“เออ จริงด้วย”
“หนักแล้วนะเนี่ยะ” แจมพูดพลางยิ้ม
“เดี๋ยวขอตัวไปที่กองก่อนนะ” ผมหันไปบอกม่อนกับแจม
“อื่อ ดูแลตัวเองดีๆนะ เดี๋ยวถูกรถชนเอา เห็นใจลอยทั้งวันเลย”
“เอ่าน่า ถ้าโดนชนเดียวโทรมาบอกแล้วกัน ฮ่ะๆ”
“ ฮ่ะๆๆ” แจมกับม่อนหัวเราะถูกใจกันใหญ่

   แล้วก่อนที่ผมจะปิด netbook ผมก็กดปิด window ต่างๆที่เปิดไว้ก่อนที่จะปิด window สุดท้ายผมก็สะดุดกับชื่อต่อท้ายของรายชื่อผู้ติดต่อคนหนึ่ง....ซึ่งผมไม่เคยเห็นเค้า Online เลยตั้งแต่ผมขอ E-Mail เค้ามา

(http://upic.me/i/wv/4zwan.jpg) (http://upic.me/show/24772832)

   อย่างที่ผู้อ่านเห็น...ผมไม่รู้ว่าว่านเขียนไว้นานหรือยัง....แต่ที่แน่ๆ.....ผมเพิ่งจะเห็น....ภาษากายเหรอ....อืมม....

“คอมเป็นอะไรเหรอเอ” ม่อนถามขึ้น
“ปะ..เปล่าๆ”
“เหรอ เห็นทำท่าจะปิดตั้งนานแล้ว ไม่เห็นปิด คิดว่าคอมมีปัญหา”
“อ่อ พอดีดูอะไรนิ๊ดหน่อยหน่ะ”
“ดูเหม่อๆยังไงไม่รู้ ให้ไปส่งม๊ะ” แจมถาม
“ไม่มีอะไรจริงๆ ไปก่อนนะ”


        แล้วผมก็ปิดคอมก่อนจะมุ่งหน้าที่พองเพื่อสอบถามเรื่องอุปกรณ์คาราเต้อีกครั้ง ซึ่งก็ได้คำตอบเดิมว่า โค้ชยังไม่ได้มาสั่ง อืม...พี่ต้อมพลาดหรือเปล่า ว่าแล้วผมก็ไปถามพี่มั่น พี่มันแกชื่อเต็มชื่อมั่นคงอะครับ พี่แกรับผิดชอบเกี่ยวกับเรื่องการเงิน เพราะงั้นถ้ามีสั่งของที่ต้องใช้เงินของกองพี่แกไม่พลาดแน่ๆ แล้วคำตอบที่ได้มาก็เหมือนกันคือยังไม่มีรายการสั่งอุปกรณ์ทั้งจากโค้ช หรือ จากร้านที่รับงานจากกอง อ๊ะ เดี๋ยวหาว่าเค้าเตี๊ยมกัน ผมเลยแวะไปเช็กที่ร้านที่เค้ารับงานจากกองก็ได้คำตอบเดิมเช่นเดียวกันว่ายังไม่มีใครมาสั่ง....ชัดแล้วล่ะครับ.....นี่เป็นหนึ่งกรณีจากหลายๆกรณีที่โค้ชพูดอวดอ้างมา แต่ปรากฏว่าตามตรวจสอบแล้วมันไม่เคยเกิดขึ้น ซึ่งมันก็เป็นอีกหนึ่งตัวอย่างที่โค้ชปั้นน้ำเป็นตัวขึ้นมาถ้าไม่ไล่บี้ตรวจสอบข้อเท็จจริง หรือ อัดเสียงไว้โค้ชจะไม่มีทางยอมรับเลยว่าเคยพูดหรือเคยทำ แต่ถ้ายังไม่ตรวจสอบว่ามันเป็นเรื่องโกหก โค้ชก็จะยืนกรานในสิ่งที่พูดไปอย่างมั่นใจและภาคภูมิใจ แน่นอนหนึ่งในคนที่ปลื้มโค้ชโดยไม่รู้ว่าหลายๆอย่างมันไม่จริง...ก็คือว่าน....หลังจากตรวจสอบแล้วผมก็สอบถามเรื่องการสั่งอุปกรณ์รวมถึงชุด ทางร้านก็แจ้งว่าแค่สองามวันร้านเค้าสั่งมาให้ไม่ทัน สุดท้ายคือต้องไปหาซื้อเอาดาบหน้าที่กรุงเทพเอา

        หลังจากสอบถามเรื่องราวที่ร้านเสร็จผมก็กลับบ้าน จัดที่นอน แล้วก็ล้างแก้วไมโลที่ว่านดื่มเมื่อเช้า แล้วก็เปลี่ยนชุด.....ขณะที่เปลี่ยนชุดผมก็มองไปที่เครื่องทำน้ำร้อน....เมื่อเช้าว่านยืนอยู่ตรงนั้น....พอนึกถึงเรื่องว่าน....เรื่องไม่สบายใจใดๆที่มีอยู่ในใจผมก็พลันหายไปจนหมดสิ้น.....เหลือแต่ความสุขที่แทรกขึ้นมาแทนความไม่สบายใจเหล่านั้นจนเต็มพื้นที่หัวใจดวงเล็กๆที่มันเคยทั้งเหงาแล้วก็เหน็บหนาวที่ต้องอยู่อย่างเดียวดายตลอดในช่วงหลายปีนี้....จะว่าไป...เวลานี้ว่านเข้าใกล้ผมมากกว่าบีเสียอีก แต่ว่า...เย็นนี้ว่านก็ต้องกลับบ้านแล้ว.....แต่ผมยังอยากนอนกอดว่านอีก....ถ้าผมจะขอให้ว่านค้างอีกสักคืน....ว่านจะว่ายังไงน้า..... ว่าแล้วผมก็ลั้นล้าไปยิมด้วยใจระทึกต่อคำขอที่ผมกำลังจะว่านต่อไปนี้ ทันทีที่จอดรถเสร็จผมก็เห็นว่านเดินมาพอดี เมื่อว่านเห็นผมว่านยิ้มๆแบบดีใจใส่อะครับ ก่อนจะเดินๆแบบเขินๆนิ๊ดหน่อยมาหา


“สวัสดีครับ” ว่านยกมือไหว้ผม
“ไป 7 – 11 กัน”
   

        แล้วผมก็เดินไป 7 – 11 กับว่านเพื่อซื้อน้ำแล้วก็ขนมนิ๊ดหน่อยก่อนจะเดินกลับ ขากลับผมชวนว่านไปนั่งเล่นข้างยิมก่อนซึ่งว่านก็เดินตามมาแต่โดยดี พอมาถึงผมก็จัดแจงปัดๆที่นั่งให้ว่าน ก่อนให้ว่านนั่งลงข้างๆ ผมเริ่มชวนว่ายคุยเรื่องเรื่อยเปื่อยไปเรื่อยๆ จนถึงประเด็นที่ผมคิดแล้วคิดอีกว่าจะเริ่มยังไงดี ทั้งๆที่ความหวังมันก็มีริบหรี่ สองคืนกับสองเช้าที่ผ่านมามันไม่มีอะไรชัดเจน ผมไม่ได้ถามว่านด้วยซ้ำว่าว่านรู้สึกยังไง คิดยังไง แต่คำถามที่ผมจะถามต่อไปนี้อาจทำให้ผมตีความได้ง่ายขึ้นว่าว่านรู้สึกยังไง.....


“ว่าน คุณแม่กลับวันไหน”
“วันนี้”
“กี่โมง”
“ไม่รู้ค่ำๆมั้งครับ”
“อืมม....แล้วว่านจะกลับบ้านเย็นนี้เลยเหรอ”
“ครับ”
“.....”
“ทำไมเหรอ”
   
        อ่า....งานเข้าแล้ว...ดันไปยิงคำถามแบบนี้ความหวังที่จะรั้งว่านไว้เลยวูบหายไปสายลมและแสงแดด หรือจะลองพูดโน้มน้าวรั้งน้องไว้ดี แต่มันจะส่อเจตนามากไปหรือเปล่า ในขณะที่ผมครุ่นคิดอยู่นั้น

“พี่เป็นอะไร” ว่านถามขึ้น
“เปล่า”
“เหรอ เห็นจู่ๆเงียบไปแถมทำหน้าเศร้า”
“ไม่มีอะไร”
“แต่ผมมี”
“อะไรเหรอ” ผมหันไปถามว่าน ถึงมันจะหวังไร้สาระว่าน้องจะรู้ว่าผมคิดอะไรอยู่ แต่ก็หวังให้น้องตอบในสิ่งที่ผมอยากได้ยิน
“โค้ชมาแล้ว” ว่านพูดพลางชี้ไปที่หน้ายิม
“เยิ้บเอ้!!...สิ้นหวังแล้ว” ผมอุทานในใจ

        แล้วผมก็เดินตามว่านเข้าไปในยิม จากนั้นการซ้อมก็เริ่มขึ้นก่อนเวลาอีกตามเคย ผมเดินดูน้องๆตามสมควรก่อนที่พี่ป้อมจะเข้ามาในช่วงห้าโมงครึ่ง แล้วก็มีการแยกซ้อมระหว่างนักกีฬากับรอบปรกติ แล้วเวลาก็ผ่านไปเร็วราวกับโกหกแป๊บเดียวก็ถึงเวลาเลิก ผมเดินไปนั่งที่มุมเดิมครับ พวกเพื่อนว่านก็กรูกันไปนั่งจับกลุ่มคุยกันกับผมต่อโดยที่ว่านนั่งแอบฟังอยู่ห่างๆ ไม่เข้ามาใกล้ผมอีกแล้ว ไม่นานนักพวกน้องๆก็ทยอยกลับกันแล้วทันทีที่คุณแม่น้องต้นกล้ามรับ ว่านก็ลุกขึ้นปิดไฟปิดหน้าต่างทันที หลังจากปิดยิมผมก็พาว่านไปที่บ้านเพื่อเอาเสื้อผ้าของน้อง ตลอดทางไม่มีการพูดคุยอะไรเกิดขึ้นเลย ไม่รู้ซิครับ เหมือนกำลังนับเวลาถอยหลังจากกันยังไงไม่รู้ ผมไม่อยากให้ว่านกลับบ้านเลย อยากให้ว่านค้างต่ออีกสักคืน....ไม่ซิ จริงๆอยากให้น้องค้างที่บ้านผมไปอีกนานๆเลย....แต่ตอนนี้เอาแค่คืนนี้ก่อนก็พอ...ผมจะพูดยังไงดี....แล้ว...ไม่นานก็มาถึงหน้าบ้านผม ว่านเอากุญแจจากมือผมไปไขประตูเข้าบ้านราวกับเป็นบ้านของเค้าเอง พอเข้ามาถึงในตัวบ้านว่านก็จัดแจงเก็บของลงกระเป๋า...ส่วนผมเหรอครับก็ยืนดูอยู่ข้างๆ

        แล้วช่วงจังหวะสุดท้ายที่ว่านรูปซิบปิดกระเป๋าผมก็สวมกอดว่านจากข้างหลังทันที ความเงียบเข้าครอบงำอีกครั้ง.....ผมไม่รู้จะเริ่มต้นยังไง....ผมครุ่นคิดมาตั้งแต่บ่าย แห้วกินไปครั้งหนึ่งแล้ว ผมจะเริ่มอีกครั้งที่สองดีไหม จะพูดยังไงดี ว่านต้องรู้แน่ว่าการให้ค้างอีกคืนมันหมายความว่ายังไง ว่านจะโกรธผมไหม...ถ้าสองคืนที่ผ่านมามันแค่อารมณ์ชั่ววูบล่ะ นี่มันวันที่สามแล้ว ว่านอาจไม่ชอบก็ได้ อาจถูกปฏิเสธ....อาจถูกน้องเกลียด...ใช่....เพราะสองวันมานี้ว่านไม่มาอ้อน หรือ มาใกล้เหมือนเคย....ว่านคิดอะไรอยู่....ชอบ ไม่ชอบ.......


“คืนนี้.....ค้างที่นี่ได้ไหม.....”


        ผมกระซิบถามเบาๆที่ข้างๆหูว่านด้วยใจระทึก.....ถามไปแล้ว ไม่ซิ ผมขอไปแล้ว....คำตอบต่อไปจากนี้....มันจะบ่งชี้ความสัมพันธ์ที่จะเกิดขึ้นต่อไปจากนี้ ถ้าว่านไม่วาย ว่านไม่ชอบ หรือ ที่ผ่านมาแค่อารมณ์ชั่ววูบ วันนี้ว่านน่าจะตรองได้แล้ว จะเป็นพี่น้อง หรือ มากกว่านั้น...ก็คงอยู่กับคำตอบของว่านในอีกไม่กี่วินาทีข้างหน้านี้แล้ว

“....”
“ครับ”
“.....”

        ผมไม่รู้จะพูดอะไรตอนนั้นผมดีใจมาก ผมซุกลงไปจูบที่หลังคอว่านเบาๆ ก่อนที่จะให้ว่านไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า แล้วระหว่างที่ผมนั่งรอว่านเสียงโทรศัพท์ผมก็ดังขึ้นครับ

“คุณแม่น้องว่าน Calling”
“ครับ”
“พี่เอเหรอ”
“ครับ”
“น้องว่านได้มาค้างด้วยไหมลูก”
“ค้างครับ”
“มาได้กี่วันแล้ว”
“ก็สองวันครับ”
“ฝากบอกน้องด้วยนะลูกว่าคืนนี้น้ากลับดึกมาก ถ้าเค้าจะค้างที่บ้านเอต่อก็ได้”
“ครับ”
“ฝากน้องด้วยนะลูก”

        ผู้อ่านคิดเหมือนผมไหมครับ....วันนี้ดูเหมือนอะไรๆจะเป็นใจตอนแรกที่รับสายผมแอบกลัวๆว่าคุณแม่น้องว่านจะโทรมาตาม แต่ที่ไหนได้ดันฝากให้อยู่ต่อซะงั้น  ส่วนเรื่องที่ถามวันค้าง อืมม...ไม่รู้ซิครับไม่ออกความเห็นดีกว่า ระหว่างที่รอว่านอาบน้ำผมก็รู้สึกได้อย่างหนึ่งที่ผมควรจะนึกได้ตั้งนานแล้ว....คือก่อนหน้านี้ผมไม่เคยนึกที่จะทำอะไรกับว่านแบบนี้เลย มากสุดก็แค่อยากกอด พูดจริงๆนะ ผมก็ไม่คิดเหมือนกันว่าผมกับว่านจะเกินเลยกันมาได้ขนาดนี้ ต่างกับบีที่ผมหมายใจจะมาสายนี้อยู่เนืองๆ ในระหว่างที่คิดอะไรเพลินๆอยู่นั้นว่านก็อาบน้ำเสร็จพอดี วันนี้ว่านใส่ชุดนอนลายทางสีฟ้าสลับขาวตัวเดิม แล้วผมก็ไปอาบน้ำต่อ พออาบน้ำเปลี่ยนชุดเสร็จผมก็พาว่านขึ้นนอนทันที วันนี้ผมว่าผมขึ้นนอนเร็วมาก ยังไม่ทันสองทุ่มครึ่งเลยจูงมือว่านขึ้นห้องซะแล้ว

        พอขึ้นถึงห้องหลังจากเปิดแอร์ปิดไฟเสร็จแล้ว ผมกับว่านก็เริ่มต้นด้วยการนอนคนละมุมเหมือนเคย  ตอนนี้เหมือนตัวตนของผมมีสองคนกำลังเถียงกันไปมาถึงความถูกต้องของสิ่งที่กำลังจะกระทำต่อจากนี้อยู่ ว่านเองก็นอนนิ่งๆ ตั้งแต่ผมทำเรื่องแบบนี้มาไม่เคยมีครั้งไหนที่มีสติมากเท่ากับตอนที่อยู่กับว่านเลยครับ ถึงมันจะน้อยไปหน่อยก็เหอะ แต่มันก็ยังมากวนใจอยู่ดี แล้วสุดท้ายผมก็หันไปหาว่าน แล้วพูดว่า....


“กอดได้ไหม”


        ว่านไม่ตอบแต่ขยับตัวมาหาผมแทน จริงๆคำถามนี้มันเป็นคำถามหยั่งเชิงชัดๆ แต่นี่มันอะไรกันขนาดนี้ผมยังไม่แน่ใจอีกเหรอ น้องเองก็น่าจะพอใจเหมือนกันนี่นา ไม่งั้นคงไม่ตอบรับค้างต่อหรอกทั้งๆที่สองคืนแรกโดนไปขนาดนั้นแล้ว พอว่านขยับมาใกล้ผมก็กอดว่านจากข้างหลังทันทีก่อนจะเล่าเรื่องที่คุณแม่น้องโทรเข้ามาเมื่อสักครู่ แล้วก็ชวนน้องคุยเรื่องไร้สาระไปเรื่อยอยู่พักหนึ่ง มันเหมือนกับเวลาที่เรากำลังจะทำเรื่อง เอ้ๆ แล้วมันต้องหาอะไรย้อมใจยังไงไม่รู้

“ว่านเคยมีแฟนยัง” ผมถามว่านเบาๆ
“ยัง”
“เหรอ....แล้วเคยถูกใครกอดแบบนี้ไหมครับ”
“ไม่เคย”
“ชอบไหม”
“.......”


        ผมว่า...ได้เวลาแล้วล่ะ....สิ้นคำถามชุดนี้ผมก็ประคองตัวขึ้นแล้วจับไหล่ว่านให้ว่านนอนหงาย ซึ่งน้องก็เอนตัวตามอย่างง่ายได้ แล้วผมก็ค่อยๆก้มลงไปจูบว่าน...อืมม....วันนี้จูบว่านพัฒนาขึ้นเยอะเลย.....จากนั้นผมก็ขึ้นไปนั่งคร่อมน้องก่อนจะระดมซุกไซ้ไปทั่วคอน้อง ตามด้วยกระดุม...วันนี้ว่านให้ถอดกระดุมง่ายมากมาย แถมพอแกะออกหมดทุกเม็ดว่านก็ช่วยดึงเสื้อถอดให้อีกต่างหาก แล้วผมก็เริ่มละเลงลิ้นไปตามจุดสัมผัสที่ว่านชอบทุกจุดที่ผมจำได้ ว่านยังคงส่งเสียงครางอย่างเคยไม่มีผิด ผมรู้สึกมีความสุขจังเวลาที่ได้ยืนเสียงของว่านรวมถึงได้เห็นท่าทีแบบนี้ของว่าน หลังจากที่ผมละเลงลิ้นทั่วลำตัวว่านแล้วน้องก็นอนหอบเป็นน้องหมาหอบแดดเลยทีเดียว อืมมม.....ผมหยุดมองว่านพักหนึ่งก่อนจะก้มลงไปจูบว่านอีกครั้ง จำได้ว่าครั้งนี้....ผมเลือกที่จะจูบแบบดูดดื่ม....ผมเอามือทั้งสองข้างจับบริเวณหูว่านทั้งสองข้างก่อนที่จะเริ่มกระบวนการ จากนั้นผมก็เลื่อนมาที่อกว่านก่อนจะเริ่มดูดเลียหัวนมว่านอีกครั้ง....ผมว่าตรงนี้ว่านน่าจะชอบที่สุดอีกจุด เพราะน้องจะเอามือมากอดหลังผมไว้เวลาที่ผมทำให้เหมือนไม่อยากให้ผมหยุด
 
        แล้วผมหยุดมองว่านอีกครั้ง ก่อนจะเอามือไปลูบคลำบริเวณว่านน้อย ซึ่งเวลานี้ดันกางเกงตุงขึ้นมาจนกางเกงที่ว่านใส่นอนแทบจะขาดออกจากกันให้ได้ ใช่ครับว่านน้อยขยายตัวแข็งเต็มที่แล้ว โดยระหว่างที่ผมลูบว่านน้อยจากนอกกางเกงนั้นผมก็ยังซุกไซ้ตัวว่านไปเรื่อยๆ แล้วเมื่อนิ้วผมลากไปจนถึงขอบกางเกงว่านอีกครั้ง ว่านรีบเอามือมาคว้ามือผมไว้ทันที ผมหยุดทุกอย่างที่ผมกำลังทำอยู่แล้วดูท่าทีของว่าน.....แต่ว่านนอนหอบไม่พูดอะไรออกมา ผมเลยพูดออกไปว่า


“ว่าน.....พี่ขอได้ไหม”
“.....” ไม่มีเสียงตอบรับกลับมามือของว่านที่จับมือผมไว้อยู่ยังคงกำไว้แน่น
“นะครับ” ผมขอร้องว่านกลับไปอีกครั้ง
“......”


        ว่านค่อยๆคลายมือออก.....ครับพอว่านคลายมือออกผมก็ค่อยๆสอดมือเข้าไปในพื้นที่ที่ว่านหวงที่สุด ผมค่อยๆสอดมือลงไปช้าๆ....ช้าๆ.....ไม่นานผมก็ได้สัมผัสกับท่อนลำของว่านน้อยที่กำลังตั้งอยู่ จากนั้นผมก็ค่อยๆเคลื่อนมือเข้าไปมากขึ้นก่อนจะกำว่านน้อยไว้ในมือ.....ของว่านใหญ่มากครับ.....ไม่น่าเชื่อว่านี่เป็นของเด็กอายุ 14 ปี ผมค่อยๆเลื่อนมือขึ้นมาที่ส่วนหัวของว่านน้อยเพราผมอยากรู้ว่าของน้องขริบไหม.....แล้วพอเลื่อนมือขึ้นมาสักหน่อยก็พบว่าของน้องไมได้ขริบ....อ่า...แล้วสงสัยเหมือนผมไหมครับว่าว่านน้อยมีผมหรือยัง.....เอาเถอะผมอาจสงสัยคนเดียวก็ได้มั้ง ว่าแล้วผมก็เลื่อนนิ้วมาที่โคนของว่านน้อย......อ่า.....ว่านน้อยมีผมแล้ว....แต่มันน้อยมาก...... เวลานั้นผมมองหน้าว่านอยู่ตลอด ว่าน้องมีปฏิกิริยายังไง ว่านเองก็ดูเหมือนจะรวมสมาธิไปที่ส่วนล่างของร่างกายเรียบร้อย หลังจากสำรวจพอเป็นพิธีแล้วผมก็เริ่มรังแกว่านน้อยเบาๆด้วยการรูดขึ้นลงเพียงเล็กน้อย


“เคยทำแบบนี้ไหม” ผมถามว่านเบาๆ


        ว่านส่ายหน้าให้รู้ว่ายังไม่เคยทำแทนคำตอบ อืมม...กางเกงว่านเกะกะจังเลย ว่าแล้วก็ถอดออกดีกว่า ผมขยับตัวมานั่งข้างๆว่านแล้วดึงกางเกงว่านลง...แต่ว่า....มันติดอะครับ....ขณะที่ผมกำลังพยายามดึงกางเกงว่านออกอยู่นั้นว่านก็ลุกขึ้นมา แล้วถอดกางเกงออก ก่อนจะโยนกางเกงลงไปที่ข้างเตียง แล้วนอนลงไปคืน.....ตอนนั้นผมแอบอึ้งนิ๊ดหน่อย....ไม่คิดว่านอกจากเสื้อแล้วน้องจะลงมาช่วยเรื่องกางเกงด้วย ขนาดว่าตอนแรกออกจะหวงขนาดนั้น พอหลังจากที่ว่านนอนลงไปคืนผมก็เพ่งมองว่านน้อยด้วยแสงจากจันทร์ที่กำลังเต็มดวง ทำให้ผมเห็นว่านน้อยค่อนข้างชัดอยู่ ผมเอามือขวากำว่านน้อยไว้ก่อนจะค่อยๆรูดหนังหุ้มปลายของว่านน้อยลงเพื่อดูว่าเปิดได้หรือยัง แล้วอะไรๆมันก็ลื่นไหลครับ หัวของว่านน้อยโผล่ขึ้นมาให้เห็นชัดๆ

        แล้ว....ทำอะไรต่อดี....ว่าแล้วผมก็ลองเอาลิ้นไปแตะที่ส่วนปลายสุดเบา....หัวว่านน้อยตอนนี้มีน้ำหล่อลื่นออกมาด้วยรสชาติแอบเค็มนิ๊ดๆ แต่ช่างมันเต๊อะ ผมอยากเห็นน้องมีความสุขนี่นา ผมเริ่มไล่เลียไปทั่วส่วนหัว ก่อนจะ....( นอกเรื่อง : พิมพ์ไปอายไปมากมาย  อืมมม นิยายๆๆๆ ) เอาปากครอบแล้วก็ดูของว่าน ว่านดิ้นครางพลางบิดไปมาไม่หยุดจนว่านเอามือมาตะกายเหมือนหาอะไรสักอย่าง ผมเลยเอามือผมไปจับ ทันทีที่ส่งมือไปว่านกำมือผมไว้แน่น แล้วเวลาที่ผมไปถูกจุดสัมผัสที่ทำให้ว่านรู้สึกนอกจากเสียงครางเบาๆกับท่าบิดไปมาแล้วว่านก็จะกำมือผมแน่นมากๆ....อืมมม มีส่งซิกแบบนี้ด้วย จัดไปซิครับ อืมม.....ของว่านไม่มีกลิ่นนะครับสะอาดมากมาย.......แล้วเพียงไม่นาน.....ว่านก็เกร็งตัวอย่างแรงก่อนที่.....น้ำอุ่นๆจะพุ่งเข้าปากผม.....ซึ่งก็รู้ๆกันอยู่ว่าน้ำอะไร....อืม.....หลังจากว่านเสร็จในครั้งแรกแล้ว....ปรากฏว่าว่านน้อยไม่นอนครับ ผมเลยละเลงปลุกเร้าน้องต่ออีกชุดซึ่งหลายๆจุดผมผ่านไปเกือบหมดแล้ว....เว้นจุดสำคัญจุดหนึ่ง......ข้างหลังว่านไง
        
        ตอนนั้นผมลังเลๆอยู่ว่าจะทำให้ดีไหม เพราะมันไม่ใช่จุดที่ควรไปยุ่งเท่าไหร่ ดูว่านเองก็ดูเป็นเด็กสะอาดนี่นา....เพื่อความสุขของน้องไม่เป็นไร ว่าแล้วผมก็ไล่จากท้องน้อยของน้อง มาตามง่ามขา....มาถึงตรงนี้แอบมีกลิ่นหอมๆอะครับ...ตรงนี้น้องดิ้นพล่านเลยกำมือผมแน่นอีกต่างหาก ผมเลยซุกๆให้อีกนิ๊ดหนึ่ง จุดอับๆของร่างกายแบบนี้ว่านยังหอมได้อีก จากนั้นผมก็ค่อยๆเลื่อนลง....พอผมเลื่อนลงสักพักปรากฏว่าข้างหลังของว่านอยู่ในจุดที่ผมไปไม่ถึงต้องยกหลังน้อง แล้วพอผมจับขาน้องแบบกำลังจะยกเท่านั้นล่ะครับ....ว่านยกให้เลย.....แถมเอามือมาจับขาตัวเองให้ด้วย ผมกลัวน้องเมื่อยเลยดึงหมอนมารองหลังน้องให้.....ตอนนี้....จุดสำคัญอีกจุดอยู่ตรงหน้าผมแล้ว

        ผมก้มลงไปช้าๆ....ไล่จากถุงไข่ของว่านลงมาเรื่อยๆจนถึงตรงนั้นก่อนที่ผมจะเริ่มทำอย่างที่เคยเห็นในหนังทุกๆอย่างที่จำได้ ตอนที่ผมเอาลิ้นไปสัมผัสว่านถึงกับสะดุ้งเฮือกขึ้นมาเลยทีเดียว แต่ก็ยังกำมือผมไว้แน่น แล้วก็อย่างที่คาดข้างหลังของว่านสะอาดมากจริงๆด้วยไม่มีกลิ่นอะไรให้รู้สึกรังเกียจเลย แล้วในขณะที่ทำให้ว่านอยู่....ผมก็ถอดกางเกงของผมออก....เวลานั้น....ไม่ต้องอาศัยเจลแล้ว เพราะน้ำหล่อลื่นของผมมันออกมาจนแฉะกางเกงในไปหมดจน แล้วผมก็ค่อยๆขยับตัว....เอาตัวเล็กมาจ่อ.....ก่อนจะพูดกับว่านว่า


“ว่าน....พี่....ขอนะครับ”


        ไม่มีเสียงตอบรับกลับมา....ผมเอาตัวเล็กของผมลูบไปมาเพื่อให้น้ำหล่อลื่นผมใช้งานได้เต็มที่ ก่อนที่ผมจะค่อยๆกดเข้าไปในขณะที่ส่วนหัวของตัวเล็กผมกำลังค่อยๆเคลื่อนเข้าไป........นี่ผมกำลังจะทำกับเด็กที่ผมยังไม่เคยบอกรักเค้าสักคำเลยเหรอ แถมว่านเองก็ไม่เคยบอกว่าชอบผมด้วย ก่อนหน้าก็ยังไปจีบหญิงรุ่นพี่อีก บางอย่างในจิตใจผมบอกผมว่า.....ไม่ควรเกินกว่านี้.... ผมเอาตัวเล็กออกมาสำหรับผมมันไม่สนุกแล้ว ผมรู้สึกว่าที่ผมทำมันไม่ถูก บางอย่างบอกผมว่าสิ่งเหล่านี้ควรเกิดขึ้นจากความรัก....ไม่ใช่ความใคร่.....ผมว่าผมควรให้โอกาสว่านให้นานกว่านี้อีก เพื่อให้เค้าค้นหาตัวเองว่าจริงๆแล้วเค้าชอบอะไรแน่ ที่สำคัญที่สุดถ้าผมรักว่านจริง....ผมควรจะรอ.......ถ้าว่านมั่นใจว่าคนที่ว่านรักเป็นผม ถึงเวลานั้น.....เราค่อยมาเริ่มกันใหม่ก็ได้ กับเรื่องแบบนี้มันก็ยังไม่สายนี่นา......บัดนี้อีกครั้งแล้ว....ที่เหตุผลและความรักที่มีให้น้องมีชัยเหนือความหื่น......แต่จะว่าไป....คืนนั้นว่านก็เสร็จไปตั้งสี่รอบแน่ะ.....( นี่ขนาดเหตุผลกับความรักมีชัยไปแล้วนะเนี่ยะ ถ้าความหื่นมีชัย.....ว่านตายแน่ๆ )



To Be Con
หัวข้อ: Re: น้องชาย 2 ( Up ช่วงที่ 21 : 29/05/11 )
เริ่มหัวข้อโดย: reneisance ที่ 31-05-2011 01:07:52
ห้าๆๆๆ มาแล้วๆๆๆๆๆ อิอิอิอิอิอิ
หัวข้อ: Re: น้องชาย 2 ( Up ช่วงที่ 22 : 31/05/11 )
เริ่มหัวข้อโดย: reneisance ที่ 31-05-2011 01:20:09
เอ่อเม้นละ อิอิอิอิ ก้นะ อืม ปัญหาคือต่อจากนี้ ด้วยว่านทีี่มีนิสัยแบบนี้ กลัวอย่างเดียวก้คือเรื่อง หึงห่วง นะ ยังไงเอก็ต้องคิดอะไรทามอะไร ดีๆๆๆ นะ เพราะว่า ทุกการตัดสินใจส่งผล ต่อตัวของเอ มากกว่าสิ่งอื่นใด
หัวข้อ: Re: น้องชาย 2 ( Up ช่วงที่ 22 : 31/05/11 )
เริ่มหัวข้อโดย: me_alone ที่ 31-05-2011 01:25:55
พรุ่งนี้จะเป็นยังไงนะ ความสัมพันธ์ของว่านกับพี่เอ  :call: :call:
เกือบลืมขอ  :z6: :z6: โค้ชก่อนไป
:กอด1:


พี่เออย่าเพิ่งรีบร้อนเลยนะ
ว่านน่ะยังงัยล่ะ
คือดูไปอีกนิดเถอะนะ
นู๋ไม่อยากให้พี่เอต้องเจ็บอีก
พี่เอน่ะให้ใจว่านไปแล้ว
แต่ว่านละพี่
ก่อนที่จะรักใครได้
ควรรักตัวเองก่อนดีมั๊ย
:กอด1: ~ กด Like 19 ที


กับโค้ชคนนี้เหตุการณ์มันเกิกมาซ้ำแล้วซ้ำเล่ากับการที่เค้าละเลยหน้าที่แบบนี้
ส่วนพี่ป้อมเอง ก็น่าจะทำอะไรได้บ้าง เพราะลำพังตัวเอเองเนี่ยก็เหมือนเป็นแค่ผู้น้อยไง  ยิ่งมาถึงตินชิมกับข้าวและไม่ไปประชุมแต่มานั่งเล่นเกม ทำให้เห็นเลยว่าคนนี้ไม่มีความรับผิดชอบต่อหน้าที่การงานอย่างเดียวไม่พอแต่มันส่อไปถึงนิสัยส่วนตัวด้วยสิ...แย่มากๆ


ส้วนเอกับว่าน มันจะออกมาเป็นเหมือน ตอนสมัยบีมั้ย?
:เฮ้อ: ~ เรื่องของโค้ขมันพูดยากครับ



เฮ้อ ลุ้นแทบแย่ หยุดหายจัยเลยตอนอ่าน
กระดุมเม็ดสองยากกว่าบีเยอะเลยเนอะ บีนี่ถอดให้เป็นประจำมั้งน้องเลยชินมือ
ของดีต้องรอนานๆ เด็ดๆ ไว้รอต่อไป ลุ้นต่อค้าบ
ปล.คิดถึงน้องบีจัง คิดถึงโคอะล่าบอมบ์
:กอด1: ~ คิดถึงบีเหมือนกัน



อีกนิดเอ ทีละนิดทีละหน่อย เดี่ยวก็ได้เอง
แต่ว่า ว่านเองก็ใช่ว่าจะง่ายๆๆๆ ถ้าจตะร้ายไม่เบา
:กอด1:



:L2: มารอฟังคำตอบ  :3123:
:กอด1:



ว่านคงคุมสติไม่ได้ด้วยนั่นแหล่ะ
แล้วในใจว่านคงกำลังต่อสู้กันเองอยู่
น้องคงกำลังสับสนกับใจตัวเองครับ ให้เวลาหน่อยครับของแบบนี้ :กอด1: :กอด1:
:เฮ้อ: ~ คิดคล้ายกันเลยครับ สุดท้ายผมเลยให้โอกาสน้องที่จะคิดเรื่องนี้อีกที


เพิ่งนึกได้ว่าติดตามเรื่องนี้มาตั้งแต่ภาคแรก อิอิ
บวกให้ค่า
:กอด1: ~ ขอบคุณที่ติดตามครับ



เอ่อเม้นละ อิอิอิอิ ก้นะ อืม ปัญหาคือต่อจากนี้ ด้วยว่านทีี่มีนิสัยแบบนี้ กลัวอย่างเดียวก้คือเรื่อง หึงห่วง นะ ยังไงเอก็ต้องคิดอะไรทามอะไร ดีๆๆๆ นะ เพราะว่า ทุกการตัดสินใจส่งผล ต่อตัวของเอ มากกว่าสิ่งอื่นใด
:กอด1: ~ ครับผม
หัวข้อ: Re: น้องชาย 2 ( Up ช่วงที่ 22 : 31/05/11 )
เริ่มหัวข้อโดย: •ไนท์คลุง• ที่ 31-05-2011 18:02:23
โหวๆ เร็วไปไหมครับ :laugh:
หัวข้อ: Re: น้องชาย 2 ( Up ช่วงที่ 22 : 31/05/11 )
เริ่มหัวข้อโดย: pobbmit ที่ 31-05-2011 19:20:12
พี่เอ ยั้งแบบรถเบรคคว่ำเลยอ่ะ

นี่ถ้าไม่มีโอกาสอีกนี่เสียจัยตายเลยนะเนี่ย

ถ้าว่านเริ่มคิดจาไม่รักทำไงหว่า

แล้วถ้าทำลงไปเปลี่ยนจากรักเปนรักแท้ได้ล่ะเนี่ย เสียดายๆ
หัวข้อ: Re: น้องชาย 2 ( Up ช่วงที่ 22 : 31/05/11 )
เริ่มหัวข้อโดย: HydrA ที่ 31-05-2011 21:29:21
คุยกับว่านไปเลยเถอะพี่เอ
ถ้าพี่เอจะจริงจัง
ก็แสดงตนให้ว่านรู้หน่อย
บางทีว่านจะได้ตัดสินใจได้
หัวข้อ: Re: น้องชาย 2 ( Up ช่วงที่ 22 : 31/05/11 )
เริ่มหัวข้อโดย: me_alone ที่ 31-05-2011 22:42:21
โหวๆ เร็วไปไหมครับ :laugh:
:o8: ~ เน๊าะ



พี่เอ ยั้งแบบรถเบรคคว่ำเลยอ่ะ
นี่ถ้าไม่มีโอกาสอีกนี่เสียจัยตายเลยนะเนี่ย
ถ้าว่านเริ่มคิดจาไม่รักทำไงหว่า
แล้วถ้าทำลงไปเปลี่ยนจากรักเปนรักแท้ได้ล่ะเนี่ย เสียดายๆ
:o8: ~ ตอนใส่เข้าไป แค่นิ๊ดเดียวตอนนั้น แต่ทำเอาเสียวแปร๊บไปถึงปลายเท้าเลยทีเดียว
 :-[ ~ ดีนะที่สติกลับมาก่อนไม่งั้น....



คุยกับว่านไปเลยเถอะพี่เอ
ถ้าพี่เอจะจริงจัง
ก็แสดงตนให้ว่านรู้หน่อย
บางทีว่านจะได้ตัดสินใจได้
:กอด1: ~ กำลังจะไล่มาถึงช่วงปัจจุบัญแล้วครับ เดี๋ยวเรามาช่วยกันตัดสินใจนะครับ
หัวข้อ: Re: น้องชาย 2 ( Up ช่วงที่ 22 : 31/05/11 )
เริ่มหัวข้อโดย: HydrA ที่ 31-05-2011 22:57:41
พี่เอมาลงต่อเถอะนะ
หัวข้อ: Re: น้องชาย 2 ( Up ช่วงที่ 22 : 31/05/11 )
เริ่มหัวข้อโดย: donutnoi ที่ 31-05-2011 23:12:34
 :L2: ดีที่เอหยุดไว้ก่อน  :3123: ว่านอาจแค่อยากลองก็ได้ น่าจะคุยกันให้เข้าใจก่อนนะ 
หัวข้อ: Re: น้องชาย 2 ( Up ช่วงที่ 22 : 31/05/11 )
เริ่มหัวข้อโดย: me_alone ที่ 31-05-2011 23:12:55
ช่วงที่ 23


        ในขณะที่ผมกำลังหลับอย่างมีความสุข จำได้ว่าวันนั้นผมหลับสนิทไม่ได้ฝันอะไรเลย อาจเพราะเพลียจากเหตุการณ์เมื่อคืน แล้วผมก็รู้สึกตัวอีกครั้งตอนที่ว่านมาจับมือผมเบาๆ....อย่าว่าผมหื่นนะ....ไม่รู้ว่าผมเอามือไปจับว่านน้อยไว้ตั้งแต่เมื่อไหร่ ตอนนั้นว่านน้อยตั้งเด่ตามปรกติของเพศชายในยามเช้า ซึ่งส่วนมาก....มักจะมาจากความรู้สึกอยากปัสสาวะ แล้วการที่ผมจับว่านน้อยอยู่แบบนั้น....มันอาจทำให้น้องที่กำลังปวดฉี่อยู่นั้นเกิดฉี่เล็ดออกมาได้ง่ายๆ


“ตื่นแล้วเหรอ”
“...” ว่านพยักหน้าตอบรับ

        ผมปล่อยมือจากว่านน้อยก่อนที่จะกอดว่านอีกที แล้วซุกหน้าลงไปที่ซอกคอของว่าน....ผมไม่รู้ว่าตอนนี้ผมกับว่านเป็นอะไรกัน....พี่น้อง....แฟน...หรือสามีภรรยาไปแล้ว.....เพราะอย่างที่ผมพูดไปท่ามกลางความไม่แน่ใจในความสัมพันธ์ แต่ผมกับว่านกลับก้าวมาถึงขั้นนี้กัน ถึงจะบอกว่าตอนนี้เทใจให้ว่านไปแล้วก็เถอะ แต่เรื่องแบบนี้มันเป็นเรื่องของคนสองคน ดังนั้นผมควรจะเคารพการตัดสินใจของน้องด้วย ตราบใดที่ว่านยังไม่พูด หรือ มีท่าทีที่ชัดเจนผมคงไม่กล้าที่จะทำอะไรไปมากกว่าที่ทำไปแล้ว

        ผมก้มไปหอมแก้วว่านเบาๆก่อนจะลุกขึ้นไปหยิบเสื้อผ้าของว่านที่ตกอยู่ข้างเตียงมายื่นให้ว่าน พอว่านเอื้อมมือมารับ ว่านก็ลุกจากเตียงมาใส่เสื้อผ้า ผมเพิ่งเห็นเรือนร่างที่ว่างเปล่าของว่านแบบชัดๆเป็นครั้งแรก ว่านขาวกว่าที่คิดมาก หุ่นดี หัวนมว่านตอนนี้มันแดงไปหมดเพราะถูกผมดูด ซิกแพกของว่าน มีกล้ามอกหน่อยๆขึ้นมาให้เห็น ตรงว่านน้อยก็มีผมขึ้นบางๆ ที่สำคัญว่านน้อยตัวใหญ่มากแต่มันยังขาวจั๊วเป็นสีเดียวกับผิวตัวว่านอยู่เลย ตรงหนังหุ้มปลายตอนนี้ก็แดงอมชมพู ไม่รู้ว่าเป็นแบบนั้นอยู่แล้ว หรือ เพราะเมื่อคืนพอว่านใส่เสื้อผ้าเสร็จผมก็สวมกอดว่านอีกครั้ง....ไม่รู้ซิครับผมว่าจะพูดอะไรมากมายก็ไม่สู้การกระทำ...เพราะงั้นผมว่าภาษากาย...มันเป็นอะไรที่บอกความรู้สึกได้มากที่สุดแล้วล่ะ ส่วนน้องจะรับรู้ได้ไหม....ผมก็ไม่รู้เหมือนกัน....วันนี้วันเสาร์ปรกติผมจะอยู่คนเดียว แต่วันนี้ผมมีว่าน.....

        แล้วผมก็พาว่านลงมาข้างล่าง จากนั้นว่านก็แยกไปอาบน้ำ ส่วนผมก็เปิดเพลงนั่งฟังไปเรื่อยๆ เพราะอีกไม่กี่นาทีจากนี้ผมก็ต้องไปส่งว่านที่บ้านแล้ว....แล้วผมก็ต้องอยู่คนเดียวอีกเหมือนเคย แต่มันคงเป็นคนเดียวแค่ไม่นาน เพราะหลังจากนี้ทุกวันผมจะเจอว่าน แล้วก็จะมีว่านอยู่ใกล้ๆ แม้ว่ามันจะเป็นช่วงเวลาไม่นานเท่าไหร่ แต่จะว่าไป....ผู้อ่านคงจะสงสัยว่าปรกติก็เจออยู่แล้วนนี่นา ฮะๆๆ....ไม่ครับหมายถึงเจอกันหลังจากที่เรามีความรู้สึกพิเศษให้กันมันมีคุณค่าแล้วก็มีความหมายมากกว่าเมื่อก่อนมากมาย
        หลังจากที่ว่านอาบน้ำเสร็จผมก็เข้าไปอาบต่อ....จริงๆผมน่าจะเข้ามาอาบพร้อมว่านเลยเน๊าะ ไม่มีอะไรต้องอายกันแล้วนี่นา พอผมออกมาจากห้องน้ำก็เห็นว่านนั่งดูการ์ตูนช่องเก้าอยู่หลังจากใส่เสื้อผ้าเรียบร้อยแล้วผมก็เดินมานั่งข้างๆว่าน ก่อนจะดึงว่านมากอดแล้วก็ซุกลงไปที่คอว่านอีกครั้ง...ผมอยากกอดว่านแบบนี้นานๆจัง....ผมยังไม่อยากให้ว่านกลับบ้านเลย ผมเหล่มองนาฬิกาอีกครั้ง ก่อนที่จะเอี้ยวตัวไปหอมแก้มว่าน ก่อนจะจูบว่านเบาๆ แล้วผมก็กระซิบบอกข้างๆหูว่านเบาๆไปว่า


“น่ารักจัง”
   

        ว่านไม่ตอบอะไรกลับมา เนื่องจากว่านผิวขาวอย่างที่บอกไป ทันทีที่ผมพูดไปแบบนั้นว่านก็หน้าแดงขึ้นมาทันที ผมเลยจูบว่านซ้ำอีกครั้งก่อนจะล้วงมือเข้าไปในเสื้อของว่านแล้วถลกขึ้นมาจนถึงอก แล้วผมก็เอานิ้วลูบพลางบีบเบาๆที่หัวนมของน้อง....ว่านค่อยๆหันตัวมาทางผมช้าๆ ก่อนที่จะถอดเสื้อตัวเองออกไป เท่านั้นล่ะครับ....ผมว่าผู้อ่านก็คงเดาเหมือนผมว่าน้องเองก็ต้องการเหมือนกัน ผมเลยเริ่มซุกไซ้คอน้อง....เสียดายตรงคอผมดูดไม่ได้ แฮะๆ.... แล้วก็ลงไปละเลงลิ้นที่นมของว่านอีกครั้ง มือผมข้างหนนึ่งลูบไปทั่วแผ่นอกแล้วก็หน้าท้องของน้อง.....โซฟามันแคบอะครับ ไม่ถนัดเลย.... ว่าแล้วผมก็จูงมือว่านขึ้นไปบนห้องนอนอีกครั้ง  ก่อนที่จะเริ่มทำเหมือนเมื่อคืนอีกครั้งผมชอบนะเวลาเห็นว่านทำท่าทางเสียวๆทีหน้าเคลิ้มๆทีแบบนี้ คราวนี้ว่านเองก็มีส่วนร่วมมากขึ้น เพราะเหมือนว่าว่านจะพอรู้บ้างแล้วว่าผมจะไล่ไปตรงไหนบ้าง ว่านก็พลิกตัวเอียงตัวให้ตลอด ตรงไหนที่ว่านชอบมากๆว่านจะเอามือมากอดคอผมไว้เลย

        จากบนลงมาล่างเรื่อยๆ แล้วก็เป็นอีกครั้งที่ผมวนกลับมาข้างหลังว่าน...ผมเพิ่งจะเห็นชัดๆ....ข้างหลังของว่านสวยอะครับไม่มีรอยดำอะไรเลย ตรงหูรูดก็เป็นสีชมพูออกแดงๆด้วยซ้ำ ที่สำคัญมันไม่มีกลิ่นกวนใจ..... ตอนนั้นว่านนอนหงายครับ ว่านคงจะรู้มั้งครับน้องเลยยกขาขึ้นแล้วจับขาตัวเองไว้ ทำให้ผมทำง่ายขึ้นเยอะเลย ผมเอาหมอนมารองหลังว่านไว้ก่อนที่จะ ทำให้ว่านเหมือนที่ทำเมื่อคืนอีกครั้ง เหมือนว่านเองก็ชอบที่ผมทำให้แบบนี้เหมือนกัน เพราะว่านเอื้อมมือมากำมือผมไว้เหมือนเคย เวลาที่ลิ้นผมตวัดผ่านไปมาว่านก็จะขมิบๆให้เห็นเป็นระยะๆเช้าวันนั้นว่านเสร็จอีกสามรอบครับ...ส่วนผมเหรอ...ตั้งแต่เมื่อคืนยังไม่เสร็จสักรอบอะครับ ฮ่าๆๆๆ อย่างที่บอกผมยืนยันว่าที่ทำมาทั้งหมดผมแค่อยากทำให้ว่านมีความสุขจริงๆนะหลังจากเสร็จรอบที่สามแล้ว ว่านน้อยก็ยังไม่ยอมนอนผมเลยรูดว่านน้อยขึ้นลงๆเล่นไปเรื่อย


“ว่านครับ”
“ครับ” ว่านตอบกลับมาเบาๆ
“ว่านเคย....ทำแบบนี้ไหมครับ”
“ไม่”
“ไม่เคยช่วยตัวเองเลยเหรอ”
“อื่อ”
“น่ารักจัง”พูดจบผมก็หอมแก้มว่านก่อนจะจูบน้องอีกครั้ง
“เหนื่อยยัง” ผมถามว่านเบาๆที่ข้างหูน้อง
“อื่อ”
“พี่ขอนอนกอดต่ออีกหน่อยได้ไหม”
“ครับ”
   
นอกรอบนิ๊ดหนึ่ง
วานก่อนไปเจอภาพการ์ตูนใบหนึ่งครับ ท่าเดียวกับว่านตอนที่ผมลุกขึ้นมาเปลี่ยนจากนอนกอดมานั่งตรงหว่างขาว่าน ผมก็เห็นภาพมุมนี้แหละ แบบเดียวกันเป๊ะ
อยากเห็น ==>> คลิกตรงนี้เบาๆนะครับ (http://upic.me/i/l1/0824dd9d5cfad16edee49b9c032e96d0.jpg) <<==


        วันนั้นผมนอนกอดว่านจนถึงบ่ายกว่าๆก่อนจะไปส่งน้องที่บ้าน....แล้วก็กลับมานั่งเงียบๆที่บ้านคนเดียว ทำอะไรอย่างที่ควรจะทำ ไม่รู้ซิครับ วันนี้ผมดูมีความสุขกับทุกอย่างที่ทำมากมาย เหมือนอะไรบางอย่างในชีวิตผมเปลี่ยนไปแล้ว มีใครคนหนึ่งเพิ่มเข้ามาจากคนที่อยู่คนเดียวมาตั้งนาน ต่อไปก็จะได้ไม่เหงาแล้ว ที่สำคัญว่านมีแนวโน้มจะอยู่กับผมได้นานกว่าบี เพราะสามปีที่ผ่านมาว่านไม่เคยขาดซ้อมเลยสักวันถ้าไม่จำเป็นจริงๆ แถมยังมีท่าทีว่าว่านจะซ้อมต่อไปอีกยาวด้วย อีกอย่างว่านโตกว่านบีถึงจะนิ๊ดหน่อยก็เหอะแต่ผมว่าว่านดูเป็นผู้ใหญ่กว่าวัยเยอะเลย เพราะงั้น....ครั้งนี้ผมคงไม่แห้วกินมั้ง


“ตรู๊ดดดดด........ตรู๊ดดดดดด......แกร๊ก....ครับ”
“ว่าน....ฝันดีนะครับ”
“ครับ พี่ด้วยนะ”

        มันเหมือนจะจบลงด้วยดีซินะครับ......ทว่า......วันต่อมา ผมรีบไปที่ยิมทันทีที่เรียนเสร็จเพื่อหวังว่าจะมาทันเจอว่าน เพราะวันทั้งวันตั้งแต่เช้าผมเฝ้าคิดถึงแต่ว่านคนเดียวเลย แล้วพอช่วงบ่ายสามกว่าๆว่านก็เดินมากับเพื่อนๆ ผมพยายามทำตัวให้เหมือนทุกวันให้มากที่สุด ด้วยการเข้าไปทักทายตามปรกติ.....แต่ว่า.....ว่านถอยห่างจากผมซะงั้น ไม่เป็นไรน้องอาจจะยังวางตัวไม่ถูกก็ได้ ผมพยายามไม่สนใจว่านจนเกินไปเพราะผมว่าว่านเองก็คงไม่อยากให้เพื่อนรู้เท่าไหร่โดยระหว่างที่พูดคุยผมก็แจ้งน้องๆว่าวันพรุ่งนี้ผมจะเดินทางเข้ากรุงเทพเพื่อพาพี่ๆที่มหาวิทยาลัยไปแข่งกีฬาที่จุฬาฯ ทว่า....ท่าทีของว่านมันนิ่งเงียบไปจนผมอดเป็นห่วงไม่ได้แฮะ ว่าแล้วผมก็เข้าไปคุยเล่นกับว่านตามที่ปรกติผมเคยทำ ปรากฏว่าว่าน ตอบกลับมาไม่เหมือนเคยครับ ดูเย็นชาแปลกๆ อะไรกันทั้งๆที่คิดว่าน่าจะสนิทกันมากขึ้น ทำไมกลับดูห่างเหิน แล้วก็เย็นชาขนาดนี้ แต่ก็ยังดีที่ว่านตอบคำถามผมมาบ้าง....แต่ผมก็ยังคิดว่าอาจเพราะว่านยังวางตัวไม่ถูกอยู่ดี.....

        ยังไม่ทันที่ผมจะแน่ใจว่าสิ่งที่ผมคิดมันถูกต้อง เช้าวันต่อมาผมก็เดินทางเข้ากรุงเทพ เพื่อไปดูแลน้องๆ วันแรกที่ไปถึงผมนอนพักที่โรงแรมคนเดียวครับ เป็นโรงแรมที่อยู่ติดกับAirport link เป็นห้องแบบสองเตียงครับ ทางมหาวิทยาลัยจัดให้ผมนอนกับโค้ช แต่ว่าช่วงแรกนี้โค้ชไม่มาผมเลยนอนคนเดียว วันต่อมาผมก็ไปประชุมผู้จัดการทีม*ของคาราเต้โดยID Card ที่ผมได้มามันเป็นของเพื่อนโค้ชเค้าครับ ตอนแรกคิดว่าจะมีปัญหาเพราะคณะกรรมการผู้จัดงานของคาราเต้ค่อนข้างเข้มงวด แต่ก็ผ่านไปได้ด้วยดีครับ หลังจากประชุมทีมเสร็จวันต่อมา แนน ต้องลงแข่งคนแรก แต่ชุดก็ยังไม่มี อุปกรณ์ก็ยังไม่มี ตอนนั้นแอบเครียดเพราะพึ่งโค้ชไม่ได้ อย่างที่เค้าเคยพูดนั่นล่ะครับ “ถ้าไม่จัดหาให้ก็ไม่ต้องส่ง” พูดได้แมวมาก ถ้าไม่ติดว่าไม่ส่งแล้วปีหน้าถูกแบน กับ ถูกทางมหาวิทยาลัยขึ้นบัญชีดำล่ะก็ ผมก็ทำแบบโค้ชได้ เพราะโค้ชเค้าไม่สนใจอยู่แล้วว่าจะมีหรือไม่มี มีก็เบ่ง ไม่มีก็ไม่สนใจ เพราะงั้นผลกรรมเหล่านี้มันจะไปตกอยู่กับรุ่นน้องหน่ะซิจำได้ว่าวันนั้นผมเดินไปหาตามร้านขายอุปกรณ์กีฬาที่ข้างๆสนามศุภชลาศัย ไล่ไปจนถึง black and white ที่อยู่ถัดไปอีกก็ไม่มี ไปที่ศูนย์ FBT ก็ไม่มีชุดคาราเต้ขายเลย งานเข้าครั้งใหญ่มากมาย ไม่มีถุงมือ ถุงเท้า ก็ยืมเค้าได้ แต่ไม่มีชุดนี่ซิ หนักเลย แล้วก็ขอขอบคุณสมาคมคาราเต้แห่งประเทศไทยมา ณ ที่นี่ด้วยเลยแล้วกันที่จัดหาชุดให้นะครับหลังจากนั้นสามสี่วันก็มีน้องอีกสามคนจะตามมาครับ หนึ่งในนั้นก็คือเก่ง....จำได้ว่าคืนนั้นน้องแอนโทรมาหาผมตอนสามทุ่มกว่าบอกว่ากำลังจะเดินทางมา


“พี่เอ หนูเดินทางเข้าไปวันนี้นะคะ”
“มากันกี่คน”
“สามคน”
“ใครบ้าง เก่ง ตั้มแล้วก็หนู”
“แล้วโค้ชล่ะ”
“โค้ชเค้าจะเข้าไปก่อนวันแข่งคะ”
“อ่าว... แล้วของเทควันโดใครจะเข้าประชุมทีม”
“....พี่คุยกับโค้ชนะคะ” แล้วแอนก็ยืนโทรศัพท์ให้โค้ช
“ว่าไงเอ” โค้ชทักทายด้วยน้ำเสียงเสี่ยวมากๆ
“พี่เข้ามาวันไหน”
“พี่เหรอ เดี๋ยวเข้าไปวันแข่งเลย”
“อ่าว....ประชุมผู้จัดการทีมล่ะพี่”
“เอก็เข้าแทนพี่ซิ”
“......” ผมอึ้งกินไป3 วินาที เพราะผมได้ค่าเบี้ยเลี้ยงแค่ผู้ช่วย แต่ผมทำหน้าที่โค้ชคาราเต้ แถมยังต้องมาดูเทควันโดต่ออีกเหรอ
“แล้วน้องจะเข้ามากันกี่โมง” หลังจากหายอึ้งแล้วผมก็ถามต่อ
“เนี่ยะรถสองทุ่มเดี๋ยวพี่จะไปส่งน้องที่ บขส. แล้ว”
“แล้วรถจะมาถึงกี่โมง”
“ประมาณตีสามมั้ง”
“ซื้อตั๋วยังอะพี่ มีรถช้ากว่านี้ไหม ให้มาถึงสักช่วงเช้าๆดีกว่า” ผมเสนอความคิดเห็นไป
“ทำไมล่ะ” โค้ชถามกลับด้วยน้ำเสียงสงสัย
“ก็ที่พักนักกีฬา มันอยู่ห่างจากที่ผมพักมากนะพี่ ถ้าน้องมาถึงผมก็ต้องให้พี่ต้อมเอากุญแจเข้าที่พักมาให้ แล้วมันตั้งตีสามดึกไปไหม”
“โอ๊ย ใครบอกให้มันเข้าที่พัก พอถึงก็ให้มันนั่งแท็กซี่ไปรออยู่ที่จุฬาฯ โน้นเลย”
ผมอึ้งกินไปอีก 3 วินาทีก่อนจะพูดต่อว่า “พี่จุฬาฯ มันไม่ใช่เล็กๆนะ จะให้น้องไปอยู่ไหน”
“อยู่ไหนก็เรื่องของมันซิ แค่อยู่ที่จุฬาฯ ก็พอแล้ว” โค้ชพูดด้วยน้ำเสียงรำคาญกับคำถามของผม
“มันตีสามนะพี่ กลางเมืองก็จริง แต่มันก็เงียบนะ แถมมีข้าวของเครื่องใช้อีก”
“ก็ให้มันรอตรงนั้นแหละ จนกว่าจะเช้า แล้วก็ให้มันไปรอที่สนามแข่ง ของก็เอาไปกองที่นั่นแหละ ตอนเย็นเค้ากลับที่พักค่อยให้มันกลับไปกับเค้าด้วย”


        ผมแทบไม่เชื่อหูตัวเองว่านี่เป็นคำพูดจากคนที่ถูกเรียกว่าโค้ช แถมยังเป็นคนที่แทนตัวเองว่าครูอยู่ตลอดเวลาแล้วผมก็ขอสายแอนอีกครั้ง ก่อนจะบอกแอนว่าให้เปิดโทรศัพท์ทิ้งไว้จนกว่าผมจะติดต่อกลับมาอีกที จากนั้นผมก็โทรไปหาพี่ต้อม พี่ต้อมก็บอกว่าไม่เป็นไรตีสามก็ตีสาม เพราะเดี๋ยวพี่แกจะเอากุญแจเข้าห้องพักไปฝากไว้ที่เคาเตอร์ด้านล่าง ( ผมลืมบอกไปนักกีฬาก็พักโรงแรมครับ ) จากนั้นผมก็โทรกลับมาหาแอนอีกครั้ง เพื่อให้เบอร์พี่ต้อมกับทางไปที่พัก แล้วทันทีที่ผมให้เบอร์พี่ต้อมเสร็จ แอนก็พูดว่า


“พี่เอ...เรื่องที่พักสงสัยจะไม่ได้ไปแล้วล่ะคะ” แอนพูดด้วยน้ำเสียงแอบเศร้านิ๊ดหนึ่ง
“ทำไมล่ะ”
“ก็โค้ชเค้าบอกพี่เก่งว่าไม่ต้องไป ให้ไปรอที่จุฬาฯ เลย พี่เก่งก็รับปาก ตั้มเองก็จะไปกับพี่เก่ง หนูคงต้องตามเค้าไป”
“เฮ่ย ได้ไง สองคนนั้นมันผู้ชาย แต่หนูอะผู้หญิง ให้พี่ไปรับไหม”
“ไม่ต้องก็ได้คะพี่...”
“ตามใจนะ”


        ตอนนั้นผมเริ่มหงุดหงิดนิ๊ดหน่อย ที่พูดว่าตามใจนะ นั้นคือประชดนะครับ คือหวังดีแล้วไม่ยอมรับ แถมสองคนนั้นดันไปเชื่อฟังโค้ชซะงั้น เอาเหอะวันนี้ผมขอเลวสักวัน....หลังจากที่ผมปิดไฟเข้านอนผมก็ปิดโทรศัพท์มือถือทั้งสองเครื่อง เพราะผมเชื่อมั่นสุดๆว่า.....เดี๋ยวดึกดื่นคืนนี้ต้องมีคนโทรมาแน่ๆ.....แต่..ผมให้เบอร์พี่ต้อมกับน้องเค้าไปแล้วนี่นา....หวังว่าคงเอาตัวรอดกันได้นะ

        เช้าตรู่ของวันใหม่ผมตื่นขึ้นมาตั้งแต่ช่วงหกโมงเช้าก่อนจะอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าหิวกระเป๋ากล้อง ที่ใส่ทุกอย่างที่ต้องใช้ไปด้วย ระหว่างที่รอ BTS อยู่นั้นผมก็เปิดโทรศัพท์ดู....ปรากฏว่า เก่ง ตั้ม แอน โทรมาหาผมรวมกันหลายสิบครั้งเลยทีเดียวช่วงตีสามกว่า ว่าแล้วผมก็โทรหาพี่ต้อมหน่อยดีกว่า หลังจากคุยกับพี่ต้อมก็ได้ความว่า น้องๆโทรมาหาพี่ต้อมช่วงตีสามกว่าเพื่อถามหาทางมาโรงแรม ก็ดีที่น้องๆตัดสินใจไปโรงแรม ซึ่งผมก็คาดหมายเอาไว้แล้ว ใครกันจะบ้าไปอยู่ริมทางเท้าตั้งแต่ตีสามจนถึงเช้าล่ะ หลังจากที่ผมดูแลน้องๆเรื่องการแข่งขันเสร็จผมก็พาน้องๆไปเดินเล่นระหว่างที่เดินอยู่ในสยามผมก็ไปเจอหมวกใบหนึ่ง น่ารักมากมาย มันเป็นหมวกรูปสัตว์อะครับ แล้วก็มีหูห้อยลงมายาวๆไว้ใส่มือ ทันทีที่ผมเห็นวูบแรกผมคิดถึงว่านทันที ผมเลยโทรไปหาว่าน


“ครับ”
“ว่าน...เป็นไงบ้าง เริ่มซ้อมยัง”
“ยังเลย”
“มีคนมากี่คนแล้ว”
“หลาย”
“แล้วพวกครูป้อมล่ะ”
“ยังไม่มีใครมา”
“คิดถึงนะ”
“.....”
“นี่ๆ พี่เห็นหมวก น่ารักมากเลย รูปสัตว์อะ ว่านชอบตัวอะไร”
“หมาป่า”
“หมาป่าเหรอ อืมม ถ้าว่านใส่ต้องน่ารักแน่เลย” ผมพูดพลางหยิบหมวกรูปหมาป่ามาดู
“.....”
“อยากได้ไหม”
“ไม่....”
“โหย...อยากได้หน่อยดิ น่ารักนะเนี่ยะ”
“ไม่ต้องซื้อมานะครับ ซื้อมาผมก็ไม่ใส่”
“อ่า คร้าบๆ อิอิ งั้นไม่กวนแล้ว แค่นี้นะ”
“ครับ”

        หลังจากวางสายเสร็จผมก็เดินยิ้มไม่หุบเลยไม่รู้เพราะอะไร แค่ได้ยินเสียงว่านแค่นั้นเองผมมีความสุขมากมาย คืนนี้โทรหาน้องก่อนนอนอีกดีกว่าจะได้หลับฝันดี




To Be Con
   

*ก่อนการแข่งขันกีฬาจะมีการประชุมผู้จัดการทีมเพื่อแจ้งรายละเอียดต่างๆของแต่ละชนิดกีฬาครับ ซึ่งการจัดแต่ละครั้งก็จะมีการประชุมแตกต่างกันไป บางทีก็ประชุมพร้อมกันทุกชนิดกีฬาภายในวันเดียวเลย ( แต่แยกตามประเภท ) บางทีก็จะมีประการชุมก่อนการแข่งขันหนึ่งวัน
หัวข้อ: Re: น้องชาย 2 ( Up ช่วงที่ 22 + 23 : 31/05/11 )
เริ่มหัวข้อโดย: me_alone ที่ 31-05-2011 23:15:26
พี่เอมาลงต่อเถอะนะ
:กอด1: ~ ว่าจะรอหลังเที่ยงคืน แต่ไม่เป็นไรครับ ลงเลยก็ได้ ^^


:L2: ดีที่เอหยุดไว้ก่อน  :3123: ว่านอาจแค่อยากลองก็ได้ น่าจะคุยกันให้เข้าใจก่อนนะ 
:กอด1: ~ นั่นก็เป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่ทำให้ผมเลือกที่จะหยุดอะครับ
หัวข้อ: Re: น้องชาย 2 ( Up ช่วงที่ 22 + 23 : 31/05/11 )
เริ่มหัวข้อโดย: reneisance ที่ 31-05-2011 23:44:44
รักหรือหลงอะ แต่ว่านะ อยากอ่านฉาก nc ของเอ กับ บี บ้างอะ ถ้าจะ ม่วนไม่หยอก
หัวข้อ: Re: น้องชาย 2 ( Up ช่วงที่ 22 + 23 : 31/05/11 )
เริ่มหัวข้อโดย: HydrA ที่ 01-06-2011 02:01:25
พี่เอดูท่าแล้วว่านคงไม่ชอบให้
พี่เอบอกเค้าว่าน่ารัก
ว่านน่ะในตอนนี้ความคิดของเค้าเอง
คงตีกันให้วุ่น
พี่เอคุยกับว่านก่อนเถอะนะ
บางทีว่านเองต้องการคนชี้แนะ
เพื่อตอบสิ่งที่เค้ากำลังสับสน
อยู่
หัวข้อ: Re: น้องชาย 2 ( Up ช่วงที่ 22 + 23 : 31/05/11 )
เริ่มหัวข้อโดย: YenOh ที่ 01-06-2011 03:00:29
ดีใจที่พี่เอมาต่อบ่อย ๆ

เราอ่านแล้วรู้สึกชอบนิสัยน้องว่านมากเลย

แต่ก็แอบกลัว ไม่อยากให้พี่เอผิดหวังอีก

เป็นกำลังใจให้เขียนต่อนะคะ :)
หัวข้อ: Re: น้องชาย 2 ( Up ช่วงที่ 22 + 23 : 31/05/11 )
เริ่มหัวข้อโดย: icyblue ที่ 01-06-2011 12:55:21
เอ ห้ามใจได้ก็ดีค่ะ  ให้อะไรแน่ชัดทั้ง 2 ฝ่าย ก็ยังไม่สาย  o13


แต่น้องว่านเดาใจยากค่ะ  ดูแปรปรวนจัง   :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: น้องชาย 2 ( Up ช่วงที่ 22 + 23 : 31/05/11 )
เริ่มหัวข้อโดย: •ไนท์คลุง• ที่ 01-06-2011 18:15:52
มาต่อไวๆนะครับ จารอน้อ :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: น้องชาย 2 ( Up ช่วงที่ 22 + 23 : 31/05/11 )
เริ่มหัวข้อโดย: me_alone ที่ 01-06-2011 19:39:08
รักหรือหลงอะ แต่ว่านะ อยากอ่านฉาก nc ของเอ กับ บี บ้างอะ ถ้าจะ ม่วนไม่หยอก
:z1: ~ รอเ้ขียนใหม่อีกรอบก่อนครับ จะลงให้ครบที่สุด ของว่านนี้เขียนไปเขินไำป แฮะๆ




พี่เอดูท่าแล้วว่านคงไม่ชอบให้
พี่เอบอกเค้าว่าน่ารัก
ว่านน่ะในตอนนี้ความคิดของเค้าเอง
คงตีกันให้วุ่น
พี่เอคุยกับว่านก่อนเถอะนะ
บางทีว่านเองต้องการคนชี้แนะ
เพื่อตอบสิ่งที่เค้ากำลังสับสนอยู่
:กอด1: ~ แล้วควรตอบเค้าว่าอะไรดีอะครับ


ดีใจที่พี่เอมาต่อบ่อย ๆ
เราอ่านแล้วรู้สึกชอบนิสัยน้องว่านมากเลย
แต่ก็แอบกลัว ไม่อยากให้พี่เอผิดหวังอีก
เป็นกำลังใจให้เขียนต่อนะคะ :)
:กอด1: ~ ขอบคุณสำหรับกำลังใจครับ


เอ ห้ามใจได้ก็ดีค่ะ  ให้อะไรแน่ชัดทั้ง 2 ฝ่าย ก็ยังไม่สาย  o13
แต่น้องว่านเดาใจยากค่ะ  ดูแปรปรวนจัง   :เฮ้อ:
:กอด1: ~ พูดเหมือนเพื่อนว่านพูดเลยอะครับ



มาต่อไวๆนะครับ จารอน้อ :กอด1: :กอด1:
:กอด1: ~ ครับ
หัวข้อ: Re: น้องชาย 2 ( Up ช่วงที่ 22 + 23 : 31/05/11 )
เริ่มหัวข้อโดย: donutnoi ที่ 01-06-2011 21:01:42
 :L2: ไม่อยากให้เอผิดหวังเลย   :กอด1:  แต่ว่านก็เหมือนยังสับสนนะ

รอตอนต่อไปค่ะ  :3123:
หัวข้อ: Re: น้องชาย 2 ( Up ช่วงที่ 22 + 23 : 31/05/11 )
เริ่มหัวข้อโดย: me_alone ที่ 02-06-2011 00:58:58
ช่วงที่ 24




        “แกร๊ก” ผมปิดประตูห้องพักที่โรงแรมเบาๆก่อนจะเดินตามทางเดินไปที่ลิฟท์ ผมกดเครื่องหมายลงก่อนจะหยิบ PSP ออกมาเพื่อเลือกเพลงฟังระหว่างทาง ไม่นานเท่าไหร่ ลิฟท์ก็มาถึง “ตึ๊ง”  เมื่อประตูลิฟท์เปิดออกผมก็เจออาจารย์อิฐกับอาจารย์ที่เป็นโค้ชกีฬาชนิดอื่นอีกสองท่าน

“สวัสดีครับ” ผมยกมือขึ้นไหว้
“เอ...พอจะมีเวลาสักนิ๊ดไหม....ผมมีเรื่องจะคุยด้วย” อาจารย์อิฐพูดด้วยน้ำเสียงเครียดๆเล็กน้อย
“ครับ”


        แล้วอาจารย์อิฐก็พาผมไปนั่งคุยในห้องพร้อมกับอาจารย์อีกสองท่าน โดยอาจารย์อีกสองท่านนั่งบนที่นอน ส่วนผมกับอาจารย์อิฐนั่งบนเก้าอี้คนละตัว แบบหันหน้าเข้าหากันทั้งสี่คน จากนั้นอาจารย์อิฐก็เริ่มคุยธุระที่ว่าซึ่งสรุปได้ดังนี้ครับ คือผู้จัดการทีมคนอื่นๆเค้าไม่ค่อยพอใจในพฤติกรรมของโค้ช เพราะหลายท่านสังเกตว่าผมมาดูน้องๆตั้งแต่วันแรก ซึ่งยังไม่มีใครเห็นโค้ชเลย ผมเลยชี้แจงไปว่าโค้ชจะมาแค่วันที่เทควันโดแข่งเท่านั้น แล้วผมก็เพิ่งมาทราบวันนั้นเองว่าโค้ชเบิกเงินของเพื่อนโค้ชมาด้วย แต่กลับไม่มีใครเห็นทั้งโค้ช ทั้งเพื่อนโค้ช ทำให้เหล่าอาจารย์ท่านอื่นไม่พอใจ เพราะทุกคนได้รับเงินเท่ากัน ยิ่งกับอาจารย์อิฐด้วย อาจารย์อิฐไม่พอใจมากที่เห็นผมถูกเอาเปรียบขนาดนี้ ที่สำคัญผมเพิ่งจะรู้ว่ามีน้องสองคนที่ไม่ถูกส่งรายชื่อมาแข่งครั้งนี้ ทำเรื่องร้องเรียนความไม่เป็นธรรมไปยังผู้บริหารของทางมหาวิทยาลัยด้วย อย่างไรก็ตามการพูดคุยวันนั้นผมตัดบทไปแบบไม่มีคำชี้แจงชัดเจนเกี่ยวกับโค้ชจากผม “แม่งมีเรื่องให้กูเครียดแต่เช้าเลย” ผมบ่นอุบเบาๆขณะที่ลงลิฟท์

        แล้ว.....ไม่นานการแข่งขันก็จบลงครับ โค้ชมาตามคำสัญญา มีการแข่งขันสามวันโค้ชก็มาแค่สามวันแล้วก็กลับทันทีที่การแข่งขันจบลง ส่วนเรื่องค่าเบี้ยเลี้ยงที่โค้ชเบิกมาเกินทั้งๆที่เพื่อนเค้าถอดตัวไปแล้วแถมไม่ได้มาช่วยอะไรโค้ชเค้าก็เงียบกริบไม่บอกผมสักคำ ส่วนผมเหรอครับ สุดท้ายก็ต้องดูแลตั้งแต่คาราเต้ยันเทควันโดอะ ถ้าว่ากันตามจริงผมต้องได้เงิน โค้ชคาราเต้ กับ ผู้ช่วยของเทควันโดนะ เรื่องเงินช่างมันเถอะครับ เพราะที่ผมมาทำๆนี่ผมไม่ได้หวังเงินทองอยู่แล้วแต่ผมทำด้วยใจหน่ะ หลังจากแข่งเสร็จก็เหมือนน้ำลดต่อผุด น้องๆหลายคนบ่นอุบไม่พอใจพฤติกรรมของโค้ชครับ ไม่ว่าจะเรื่องชวนเล่นการพนัน หรือ เอานักกีฬาชนิดอื่นที่แข่งเสร็จแล้วมาเล่นในห้องจนดึกทำให้น้องๆไม่ได้พักผ่อน แถมเรื่องความซกม๊กที่ใส่มาชุดเดียวยิงยาวสามวันสองคืนจะเปลี่ยนก็แค่เสื้อวอร์มแบบคลุมส่วนถุงเท้าไม่ต้องพูดถึงครับน้องบอกไม่เกรงใจอ้วกไปแล้ว อ่อ อีกอย่าง โค้ชไม่ได้มาพักกับผมนะ เพราะเค้ามาไม่ถูก อีกอย่างถ้ามาอยู่กับผมโค้ชได้ถูกทอดทิ้งแบบตอนไปธรรมศาสตร์แน่เพราะผมไม่ใช่คนสนุกสนานตลอดเวลาเค้าเลยไปพักกับน้อง

        หลังจากกลับมาถึงบ้านแล้วอย่างแรกที่ผมทำเลยคือโทรบอกว่าน....แต่ว่า...ว่านไม่รับ....คงไม่ว่างมั้ง ผมเลยส่ง SMS ไปบอกแทน แล้วผมก็หลับไป....รู้สึกตัวอีกทีก็วันจันทร์แล้ว พอมาถึงมหาวิทยาลัยผมก็เข้าพบกับผู้บริหารของทางมหาวิทยาลัยเพื่อรับทราบเรื่องที่มีการร้องเรียน ได้ความว่า มีน้องสองคนที่เป็นนักกีฬาตัวหลักของมหาวิทยาลัยมาสามปีแล้ว แล้วปีนี้เค้าก็ไม่ได้ลงด้วยเหตุผลที่ฟังไม่ขึ้น ทำให้น้องๆร้องเรียน โดยโค้ชเองเคยมีการชี้แจงไปแล้วว่าน้องไม่มาฝึกซ้อมตามระยะเวลาที่กำหนด แต่น้องก็แย้งว่า โค้ชต่างหากที่ไม่มีการฝึกซ้อมให้นักกีฬา ให้ไปฝึกซ้อมตามมีตามเกิดกันเองที่ชมรมของทางมหาวิทยาลัย ( ใครอ่านน้องชาย 1 คงจะพอจะทราบว่าทำไมผมถึงไม่ยุ่งกับการฝึกซ้อม ) แล้วมาให้ซ้อมกันก่อนแข่งแค่ไม่กี่วัน แต่ตอนที่ตัดสิทธิ์น้องสองคนนั้นมันก่อนช่วงเก็บตัวฝึกซ้อมซะอีก เมื่อถูกตัดชื่อไปแล้ว จะให้ไปเก็บตัวด้วยเพื่ออะไร แถมคนอื่นเองช่วงก่อนส่งรายชื่อ ขาดซ้อม ไม่มาซ้อม มากกว่าซะอีก บางคนก็เพิ่งมาซ้อมตอนส่งรายชื่อ ทำไมถึงได้ไปแข่ง หลังจากคุยกับผู้บริหารของทางมหาวิทยาลัย อาจารย์อิฐ แล้วก็พี่ต้อม สุดท้ายทั้งสามจึงยื่นข้อเสนอให้ผมขึ้นเป็นโค้ชแทน แล้วเอาโค้ชคนปัจจุบันออก เนื่องด้วยทั้งสามท่านเห็นว่าโค้ชคนปัจจุบันขาดคุณสมบัติความเป็นผู้จัดการทีมและดูแลนักกีฬาด้วยประการทั้งปวง ส่วนความเห็นผมเหรอครับ....ผมเคารพการตัดสินใจของทั้งสามท่านอะครับ แต่ไม่มีความเห็นร่วมด้วย ทำให้ทั้งสามท่านให้ผมนำไปพิจารณาเพื่อความสบายใจของผมเอง

        เย็นวันนั้นหลังจากไปเครียดๆกับเรื่องที่มหาวิทยาลัยเสร็จ ผมก็ตรงดิ่งไปยิมทันทีคนแรกที่ผมอยากเห็นเวลานี้คือว่านครับ พอผมมาถึงยังไม่มีใครมาผมนั่งเฝ้านอว่านด้วยใจระทึก ตั้งใจไว้ว่าจะต้องกอดว่านให้ได้เลย เพราไม่ได้เจอกันตั้งหลายวัน แล้ว....ไม่นานว่านก็มาถึงครับ มาคนเดียวด้วย แบบว่าความรู้สึกผมตอนนั้นมันคงเหมือนพวกพุดเดิ้ลดีใจเวลาเห็นเจ้าของมามั้งครับ ผมอยากจะกระโจนเข้าไปกอดไปหอมน้องให้หายคิดถึง แต่ก็ต้องรักษาท่าทีไว้ก่อน


“พี่เอ ดีครับ” ว่านยกมือไหว้ผมขณะที่กำลังเดินเข้ามาในยิม
“ดีๆ เป็นไงบ้าง”
“ก็ดี”
“เพื่อนๆล่ะ”
“ไม่รู้ซิ” ว่านพูดด้วยน้ำเสียงค่อนข้างห่างเหินยังไงไม่รู้
“....”


        ว่านไม่มาใกล้ผมเหมือนเคยเพราะหลังจากคุยเสร็จว่านก็แยกไปนั่งต่างหาก ผมไม่รู้ว่าเพราะอะไร....แต่ก็อย่างที่คิดไว้ก่อนหน้าน้องอาจจะยังปรับตัวไม่ได้ อีกอย่างน้องคงจะอายกับเรื่องที่เกิดขึ้นอยู่ แต่มันนานแล้วนะ....อืมมม ไม่เป็นไรน่าให้เวลาน้องหน่อย....ผมนั่งมองว่านอยู่ห่างๆแล้วชวนคุยเป็นระยะๆ ในเวลานั้นในใจผมอยากจะกอดหอมว่านแทบบ้า แต่มันก็ทำไม่ได้ เพื่อดับความฟุ้งซ่าน ผมเลยเดินไปเปิดเพลงเพื่อกลบบรรยากาศอันที่ค่อนข้างเงียบงันนี้ด้วยเสียงเพลง ผมต่อลำโพงที่มีสายต่อหูฟังขนาด .35 เข้ากับ PSP หลังจากที่เพลงเล่นไปได้ไม่นาน ว่านก็เดินมาหาผมแต่รักษาระยะห่างไว้ก่อนที่จะถามชื่อเพลงต่างๆที่ผมเปิด สุดท้ายว่านก็ขอยืม PSP ปรกติ...ของแบบนี้ผมไม่ให้ใครยุ่งนะ....แต่กับว่าน....ผมให้น้องไปอย่างง่ายดายวันนั้นว่านค่อนข้างทำตัวห่างเหินผมยังไงไม่รู้ แต่ผมก็ยังเชื่อมั่นว่าน้องกำลังปรับตัวอยู่ดี....ถึงแม้ว่า.....ว่านจะเปลี่ยนจากที่เลือกจะจับคู่กับผม....ไปจับคู่กับก๊อตแทนก็ตาม.....แล้วนั่นก็เป็นวันแรกที่ว่านแสดงความห่างเหินออกมา

        หลังจากวันนั้นว่านก็คุยกับผมบ้าง แต่ไม่สนิทกันเหมือนเคย ไม่เล่นด้วยเหมือนเคย ไม่มาใกล้เหมือนเคย เย็นชาใส่ผมมากขึ้น ทุกอย่างเปลี่ยนไปเหมือนกับว่านเป็นคนละคนกับที่ผมรู้จัก....ผมจำได้ว่าวันหนึ่ง...ผมชวนว่านไปดูหนัง....เมื่อก่อนว่านไปกันกับผมสองคนบ่อยๆ แต่คราวนี้.....


“ว่าน...พรุ่งนี้ไปดู เท่งโหน่งจิวรบินด้วยกันม๊ะ” ผมถามว่านขณะที่นั่งรอปิดยิม
“ไปกับใครบ้าง” ว่านถามผม ตอนนั้นว่านนั่งอยู่ข้างๆ แต่ไม่ชิดกันเหมือนเคย
“หือ...” ผมหันไปมองว่านแล้วทำหน้าแบบสงสัยในคำถามของว่าน
“ไปสองคนมันน่าเบื่อ”
“เหรอ....เอาต้นกล้าไปด้วยม๊ะ” ผมถามว่าน
“ไม่ น่ารำคาญ”
“งั้นเกมแล้วกัน”
“ก็ได้”


        ผมจำได้ว่านั้นเป็นครั้งแรกที่ผมต้องพาคนอื่นไปด้วย อีกอย่างตลอดการดูหนังปรกติจะต้องมีหนึ่งถึงสองครั้งที่ว่านต้องมาสะกิดถามผมเกี่ยวกับรายละเอียดของหนังบางอย่าง แต่คราวนี้....ไม่มี....ทั้งก่อนดู...ระหว่างดูและหลังจากหนังจบก็ด้วย.....จากนั้น...ไม่เคยมีสักครั้งที่ผมจะได้ไปไหนมาไหนกับว่านสองคนอีก....แล้วในอีกสี่ห้าวันต่อมากำหนดการสอบเลื่อนสายครั้งต่อไปก็มาถึง ผมขอเล่าแบบสรุปในช่วงนั้นเลยนะครับ คือ อย่างที่เราทราบกันว่าว่านนั้นค่อนข้างเคารพแล้วก็เชื่อฟังโค้ชมาก แล้วโค้ชเค้าก็เป็นพวกชอบอวดรู้ทั้งๆที่ตัวเองไม่ค่อยจะรู้อะไรเท่าไหร่ แล้วก็ชอบปั้นเรื่องไปเรื่อยเปื่อย ก่อนหน้านี้เหตุการณ์พวกนี้มันไม่เคยคุกคามผม...จนกระทั่ง.....วันหนึ่งขณะที่ผมนั่งดู DVD สอนท่ารำ โค้ชก็เดินมาจากไหนไม่รู้แล้วก็มาติ มาบ่นว่า DVD แผ่นนี้ รำผิด รำไม่ถูก รำไม่ดี รำไม่สวย แล้วโค้ชก็บอกว่าเค้าจะเอาอันที่ถูกมาสอน ซึ่งที่โค้ชพูดวันนั้น...ว่านก็ได้ยินด้วย

        จากนั้นโค้ชเค้าก็เน้นเรื่องผิดถูกมาก แถมยังมาติผมในเรื่องท่ารำอีกว่าผมทำไม่ถูก จนในที่สุดโค้ชก็ให้ผมมาซ้อมใหม่ ผมไม่รู้หรอกนะว่าโค้ชเค้าไปเอามาจากไหน หรือ คิดขึ้นมาเอง แต่กระนั้นผมก็ขอทราบท่ารำแบบที่โค้ชเค้าบอกว่าถูก แล้วก็สวยอย่างที่ว่าสักหน่อย สุดท้าย.....เหมือนว่าโค้ชเองนั่นแหละที่พูดไปเองว่าผิดถูก เพราะที่โค้ชสอนผม วันนี้สอนแบบนี้ อีกวันสอนอีกอย่าง อีกสองวันสอนอีกอย่าง ทั้งๆที่มันก็ท่าเดียวกัน พอถูกผมซัก ก็อ้างเรื่องปรับพื้นฐาน....จริงๆผมอยากจะบ่นตรงนั้นว่า....ปรับพื้นฐาน หรือ โยนไม้ถามทาง เพราะโค้ชเองก็ยังไม่มีแนวทางหรือมาตรฐานที่แน่นอนเลย ที่เห็นตอนนี้ก็เปลี่ยนไปเรื่อยตามใจตัวเองเท่านั้น ประมาณว่าเห็นว่าทำแบบนี้สวยก็เอาแบบนี้มากกว่าจะมีท่าที่คิดไว้แล้วในใจ หลังจากที่ผมเริ่มระหองระแหงกับโค้ชมากขึ้นว่านเองก็เริ่มทำให้ผมหนักใจมากขึ้นไปอีก

        มีอยู่ช่วงหนึ่งผมชวนว่านไปทานอาหารที่ร้านประจำ หลายครั้งว่านปฏิเสธเพราะผมไม่ได้ชวนใครไปด้วย จนวันหนึ่งว่านโทรมาหาผม ตอนเห็นว่าว่านโทรมาผมยอมรับว่าดีใจมากเพราะหลังจากกลับจากจุฬาคราวนั้นว่านโทรหาผมแทบจะนับครั้งเลย พอรับสายว่านก็บอกว่าอยากไปทานอาหารร้านเดิมอีก แต่อยากให้ชวนก๊อตไปด้วย ผมก็เลยตบปากรับคำไป จากนั้นผมก็โทรบอกก๊อต แล้วก็ไปรับว่านที่บ้าน รับว่านเสร็จก็ไปที่ร้านอาหารระหว่างทางว่านไม่ค่อยคุยถามคำตอบคำ พอมาถึงร้านอาหารว่านไม่ยอมเข้าร้านครับ ยืนเก้ๆกังๆอยู่หน้าร้าน ผมเลยถามไปว่า


“ทำไมไม่เข้าไปล่ะ”
ว่านหันมาตอบว่า “รอพี่ก๊อต”
“ก็เข้าไปรอข้างในก็ได้นี่นา”
“ไม่” ว่านตอบกลับมาสั้นๆ
“ทำไมละ” ผมถามว่านด้วยความสงสัย
“ถ้าพี่ก๊อตไม่มาผมก็ไม่กิน”
“.....”


        เป็นผู้อ่านผู้อ่านจะพูดอะไรออกไปไหมครับ....เดี๋ยวนี้เวลาซ้อมจับคู่กับก๊อตตลอด เล่นกับก๊อตคล้ายๆกับที่เล่นกับผม แล้วนี่มาถึงร้านแล้ว....กลับบอกว่าไม่กินถ้าก๊อตไม่มา....นี่ผมถูกว่านเกลียดแล้วใช่ไหม.....หรือช่วงที่ผมไม่อยู่ว่านเกิดสนใจก๊อตแทน..... วันนั้นผมนั่งทานอาหารไม่อร่อยเท่าไหร่ ถึงจะยิ้มๆคุยๆกับก๊อตเหมือนเดิมก็เถอะ ยอมรับว่าวันนั้นผมโกรธว่านพอดูเหมือนกันแต่ไม่ได้พูดหรือแสดงอะไรออกไป

        แล้วจากนั้นเวลาซ้อมโค้ชจะบอกว่าผมทำผิด ทำไม่ถูกอยู่เสมอ แล้วผมก็เพิ่งจะทราบมาว่าว่านมาซ้อมเป็นการส่วนตัวกับโค้ชบ่อยๆ เพราะโค้ชหลุดปากออกมาตอนชมว่าน แล้วเหตุการณ์ก็ยิ่งเลวร้ายหนักขึ้นเมื่อวันหนึ่งโค้ชพูดว่า “ว่านไม่ต้องซ้อมแล้ว รำไปจนถึงท่ารำของสายดำดั้ง 5 เก่งแล้ว ไปสอนน้องดีกว่าไป” แต่กับผมโค้ชกลับติไม่หยุด ทั้งๆที่ตอนนี้มาตรฐานโค้ชเองก็ไม่ได้นิ่งซะเท่าไหร่ แม้แต่ต้นกล้า หรือ น้องคนอื่นๆก็สังเกตได้จากการเปลี่ยนท่าบ่อยๆ ทั้งๆที่มันก็ท่าเดียวกัน แต่เปลี่ยนตำแหน่งมือ ตำแหน่งเท้า จังหวะอยู่เรื่อย แถมว่านยังมาทำตัวห่างเหินมากขึ้นไปอีก แล้วการที่โค้ชให้ผมท่ารำในขั้นของว่าน* แล้วว่านไม่ต้องซ้อม ผู้อ่านคิดว่ามันหมายความว่ายังไง

        เหตุการณ์เลวร้ายยังไม่หยุดแค่นั้นเมื่อวันหนึ่ง....โค้ชกล่าวกับเด็กๆในยิมว่า “ตอนนี้พี่ว่านเก่งที่สุดในยิมแล้วล่ะ รองจากครูนะ พี่ว่านตอนนี้รำสวยกว่าครูป้อมหลายเท่าเลย” ในเวลานี้...คำชมของโค้ชเหมือนจะทำให้ว่านติดปีก....เพราะเวลานี้ว่านเป็นรองก็แค่โค้ชแล้ว มันอาจเป็นสงครามเย็นระหว่างผมกับโค้ชก็ได้ โดยโค้ชเอาว่านที่ใกล้ชิดกับผมมาทำให้ผมรู้สึกแย่ หลังจากที่โค้ชกล่าวไปแบบนั้นผมเลยเลิกที่จะเลิกสอนท่ารำไปเลย เด็กๆในยิมก็ถามผมว่าทำไมถึงไม่สอน ผมก็ไม่ได้บอกเหตุผลอะไรไป แต่ผมก็ยังไมได้บอกพี่ป้อมเรื่องที่โค้ชพูดแบบนั้น จนวันหนึ่งเหมือนว่าพลอยจะสังเกตเห็นว่าผมกับว่านน่าจะมีความสัมพันธ์มากกว่าแค่ที่เห็น พลอยเลยมาเค้นถามผม จนที่สุดผมก็บอกพลอยไปแค่ว่าผมชอบว่าน โดยมีเงื่อนไขตอนบอกว่าพลอยห้ามบอกใครต่อซึ่งพลอยก็สัญญา

        แล้วภายใต้ความเย็นชาที่ว่านมีให้ผม แถมยังมีโค้ชมากวนน้ำให้ขุ่นเข้าไปอีก ผมเลยอดคิดไม่ได้ว่า ส่วนหนึ่งก่อนหน้านี้ว่านอาจนับถือผมเรื่องเทควันโดด้วย แต่วันนี้การที่โค้ชทำแบบนี้มันเลยทำให้ว่านคิดว่าเค้าเหนือกว่าไปแล้ว อีกทั้งการที่ได้ยินข่าวระแคะระคายจากน้องๆหลายคนที่ว่าโค้ชชอบเอาผมมาเทียบกับว่าน หรือ พูดจาเชิงดูถูกผมกับน้องๆเริ่มมีบ่อยขึ้นเรื่อยๆ จนเวลานั้นเหมือนว่าว่านจะเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในความระหองระแหงของผมกับโค้ชซะแล้ว
วันหนึ่งผมบ่นกับพลอยเรื่องที่ว่านพูดจามะนาวไม่มีน้ำ แถมยังทำตัวเย็นชาใส่ผมอีก พลอยก็ปลอบใจว่า “ไอ้ว่านมันก็แบบนั้นแหละพี่ ที่ห้องมันยิ่งกว่านี้อีก” ก่อนที่พลอยจะบอกผมว่า “เอางี้ซิ พี่ก็เฉยใส่มันคืนเลย” เชื่อไหมครับ วันแรกที่ผมทำตามคำแนะนำของพลอย....ไม่ใช่ว่านที่รู้สึก....แต่เป็นผมต่างหากที่รู้สึก....มันเจ็บจนบอกไม่ถูกที่ต้องเพิกเฉยใส่ว่าน เวลาที่ว่านมาคุยด้วย จริงอยู่ถึงมันจะน้อยมากๆที่ช่วงนี้ว่านจะมาคุยด้วย แต่ความน้อยมากๆนี่แหละ ทำไมผมถึงไม่เลือกที่จะเก็บเกี่ยวมันไว้ล่ะ วันที่ 13 กุมภาพันธ์ ผมจำได้ดี วันนั้นผมเข้าไปที่ยิม พอว่านเห็นผม ว่านรีบวิ่งไปหยิบเอกสารเกี่ยวกับมือถือที่ว่านปริ้นมา เอามายื่นให้ผมดู


“พี่เอๆ เนี่ยะข้อมูลของเครื่องที่ผมอยากได้”


        ว่านยื่นเอกสารชุดนั้นให้ผมดูด้วยท่าทีตื่นเต้นมากๆ ตอนนั้น.....ผมแค่เหล่มอง แล้วก็เดินออกโดยไม่พูดอะไรสักคำ ผมแอบมองผ่านกระจก ว่านยืนก้มมองกระดาษก่อนจะเดินเอาไปเก็บที่เดิม ซึ่งสิ่งที่ผมทำตอนนั้นทำเอาบรรยากาศสนุกๆของยิมถึงกับเงียบกริบทันที ยอมรับว่าผมทำไม่ถูก แต่ผมอยากให้ว่านรู้ว่าการถูกเมิน หรือ ไม่ใส่ใจแบบที่ว่านทำอยู่กับผมหน่ะมันทำให้ผมรู้สึกยังไง

        วันที่ 14 กุมภาพันธ์.....วันนั้นจริงๆผมตั้งใจจะซื้อช๊อกโกแลตที่ว่านชอบให้ว่าน....บ่ายวันนั้นผมซื้อช๊อกโกแลตยี่ห้อแพงกล่องโตกล่องหนึ่งแล้วก็ห่อดอกกุหลาบช่อหนึ่งไปด้วย ผมห่อเองเลยนะ.... พอตอนเย็นไปถึงยิม...ผมเห็นว่านกับกลุ่มเพื่อนของเค้าอยู่กันครบ ทันทีที่ว่านเห็นผม ว่านก็รีบเดินปรี่เข้ามาหาด้วยท่าทีดีใจ พร้อมกับดอกกุหลาบสีแดงดอกหนึ่งในมือ.....แล้วตอนนั้นเอง....ผมก็พูดกับพลอยว่า....


“แฮปปี้ วาเลนไทน์นะครับ” ผมยื่นกล่องช๊อกโกแลตให้พลอยพร้อมกับดอกกุบหลาบช่อนั้น แล้วพูดต่อว่า “พี่ห่อเองกับมือเลยนะ”
ว่านยืนนิ่งอยู่ตรงนั้น....ก่อนจะพูดว่า “ขอกล่องนะ”


        แล้วว่านก็เอาดอกกุหลาบมาตีไหล่ผมสองสามที ก่อนจะเดินไปนั่งคนเดียว ซึ่งผมก็ไม่ได้แสดงท่าทีสนใจว่านแม้แต่น้อย ตกเย็นวันนั้น....ผมไปส่งว่านที่บ้าน.....ระหว่างทาง....ผมหยิบช๊อกโกแลตแบบเดียวกับที่ให้พลอย แล้วก็ดอกกุหลายที่ผมห่อเองเหมือนกันออกมาจากกระเป๋าแล้วยื่นให้ว่าน.....ว่านยืนมอง....ก่อนจะพูดว่า....“เอาไปให้พลอยเถอะครับ” แน่นอนครับผมพยายามยื่นให้ว่านรับไว้ แต่ว่านก็ไม่ยอมรับ....สุดท้ายทุกวันนี้มันก็ยังอยู่ในตู้เย็นบ้านผมอยู่เลย

        หลังจากวันนั้นความสัมพันธ์ของผมกับว่านดูเหมือนจะแย่ลงอีก เนื่องจากโค้ชติผมเยอะมาก มากจนเกินไป ผมเลยเริ่มไปสอบถามยิมอื่นเกี่ยวกับท่ารำซึ่งก็ได้รับคำตอบแบบที่เดาได้มาว่า “มันขึ้นอยู่กับคนสอน แล้วก็อาจารย์ที่มาสอบมากกว่า ไม่มีกำหนดตายตัวหรอกว่า อันไหนผิด อันไหนถูก” รวมถึงไล่ดู Clip ต่างๆจาก YouTube รวมถึง DVD สอนท่ารำที่อาจารย์กบเคยให้มาไว้อิง ซึ่งหลายอย่างมันไม่ตรงกับที่โค้ชให้เด็กๆทำ จนผมพูดเหน็บๆไปว่า “ดูดิ ทำเป็น DVD สอนมากลับทำไม่ถูก ทำไมหล้าทำออกมาขายเนี่ยะ” น้องๆที่เค้ารู้ว่าผมหมายถึงอะไรก็หัวเราะกัน ตอนนั้นว่านมาพอดีครับ ว่านเลยพูดขึ้นมาว่า “DVD มันเก่าแล้ว ท่าพวกนี้เค้าเปลี่ยนกันหมดแล้ว อีกอย่าง ใน DVD ทำผิดเยอะจะตาย” เท่านั้นแหละผมถึงกับหงุดหงิดขึ้นมาเล็กน้อยก่อนจะบอกว่านไปว่า “รู้ป่ะ อาจารย์กบ กับ อาจารย์นพ เองก็อิงตาม DVD แผ่นนี้นะ ถ้ามันจะผิดขนาดนั้น ทั้งดั้งสี่ดั้งหกเค้าคงไม่เอามาอิงหรอก” เท่านั้นแหละครับว่านถึงกับสวนผมว่า “แทนที่จะจับผิดคนอื่น ไปจับผิดตัวเองก่อนดีกว่า” ผมเลือกที่จะไม่ต่อล้อต่อเถียงกับว่านต่อ

        เหตุการณ์วันนั้นทำให้ความสัมพันธ์ของผมกับว่านแย่ลงไปอีก ให้เดานะที่ว่านพูดมาหน่ะ พูดตามโค้ช เพราะอย่างที่เกริ่นไปตอนต้น โค้ช เคยพูดถึง DVD แผ่นนี้แบบเดียวกับที่ว่านพูด แต่ว่านคงไม่รู้ว่า อาจารย์กบ กับ อาจารย์นพ ให้อิงซ้อมตาม DVD นี้ จากนั้นผมก็เริ่มจับผิดถึงสิ่งที่โค้ชสอน ว่าวันนั้นบอกอย่าง วันนี้บอกอย่าง ทั้งๆที่มันก็ท่าเดียวกัน ผมรู้นะว่าการทำแบบนี้มันเป็นการลดความน่าเชื่อถือของโค้ชลง แต่โค้ชเริ่มลดความน่าเชื่อถือของผมลองก่อนนะ เพราะงั้นสิ่งที่จะพิสูจน์ได้ว่าที่โค้ชสอนมามันผิดหรือถูกก็คือการสอบที่อาจารย์กบจะมาสอบให้ ซึ่งมันก็อีกไม่กี่วันต่อจากนี้ ซึ่งว่านเองก็คงยังไม่รู้ตัวว่าได้เข้ามาร่วมอยู่ในสงครามเย็นระหว่างผมกับโค้ชซะแล้ว


To Be Con



ชี้แจงนิ๊ดหนึ่งนะครับ
เนื่องจาก โค้ช พี่ป้อม แล้วก็ผม จัดอยู่ในกลุ่มผู้สอน แต่โค้ชกลับลดระดับความน่าเชื่อถือของผมกับพี่ป้อมลง แล้วยกว่านขึ้นมาแทน
เพราะโค้ชอิงว่าว่านถูก แต่ผมกับพี่ป้อมผิด ดังนั้นคนที่ทำผิดก็ไม่ควรสอน มันเป็นตรรกะง่ายๆเลยจริงไหมครับ ?
อันที่จริงถ้าเป็นแบบนั้น ผมกับพี่ป้อม ก็ไม่มีเหตุผลจะอยู่ยิมนั้นต่อเลยนะ
แล้วความเน้นหนักของโค้ชต่อเรื่องถูกผิดที่เข้มข้นนี้จะเป็นอย่างไรต่อไปนั้น....ช่วงต่อไปได้รู้กัน



* เทควันโดจะมีท่ารำประจำสายอยู่ครับ ตัวอย่างครับ ( เรียงจากขั้นต่ำสุดไปสูงสุดนะครับ )
สายเหลือง 1 จะเป็น ท่ารำ อิวจัง
สายเหลือง 2 จะเป็น อีจัง
สายเขียว 1 จะเป็น ซัมจัง
สายเขียว 2 จะเป็น ซาจัง
สายฟ้า 1 จะเป็น โอจัง
สายฟ้า 2 จะเป็น ยุจัง
สายน้ำตาล 1 จะเป็น ชิวจัง
สายน้ำตาล 2 จะเป็น พันจัง
สายแดง 1 จะเป็น คูจัง
สายแดง 2 จะเป็น ซิบจัง
สายดำดั้งที่ 1 จะเป็นท่ารำ โคเรียว
เป็นต้น ในเรื่องนี้ว่านอยู่สายแดงขั้นที่ 1 ครับ

ซึ่งท่ารำของเทควันโดจะเป็นแบบเดียวกันครับ ผิดถูกมันไม่ใช่เรื่อง มันต่างกันที่จังหวะเพราะ ท่าจะเป็นท่าเดียวกันทั้งหมด ถ้าจะเรียกว่าผิดได้ ก็คือต้องทำท่าผิดไปเลย
ตัวอย่างครับ

อันนี้เป็นท่ารำในสายน้ำตาล 2 หรือ พันจัง  ( Pal-Jang Poomse ) ครับ จาก K-Tiger ( Korea Tiger )
http://www.youtube.com/v/BUvZtU90s2U?fs


อันนี้เป็นท่ารำในสายน้ำตาล 2 หรือ พันจัง  ( Pal-Jang Poomse ) ครับ จาก DVD สอนท่ารำของ Kukkiwon ( สมาคมเทควันโดโลก )
http://www.youtube.com/v/OSeadr-8D08?fs

ซึ่งถ้าผู้อ่านดูท่ารำของทั้งสองคนแล้ว จะทราบว่ามันก็ท่าเดียวกัน จะต่างกันก็แค่จังหวะ ความเร็วของท่า ตำแหน่งของมือและเท้า เพียงเล็กน้อย
จนบางทีคนที่ไม่เคยเล่น หรือ คนที่ระดับสายยังไม่สูงพออาจสังเกตไม่ไ่ด้ด้วยซ้ำ
แต่เชื่อไหมครับ นั่นเหละที่โค้ชเอามาเป็นประเด็นว่าถูกผิด
ซึ่งถ้าอิงตาม โค้ช สายดำสองคนใน Clip ข้างบน กลับไปสอบสายขาวมาใหม่เลยดีกว่า
ทีนี้ผู้อ่านน่าจะเข้าใจผมได้มากขึ้นแล้ว ว่าทำไมผมถึงหงุดหงิดกับสิ่งที่โค้ชเน้นว่า ถูก กับ ผิด กับเรื่องของท่ารำ
เพราะมันไม่มีถูกผิด ถ้ามันไม่ผิดท่าไปเลย แต่โค้ชก็เอามาเป็นประเด็นจนเกิดปัญหาขึ้นจนได้
หัวข้อ: Re: น้องชาย 2 ( Up ช่วงที่ 24 - ใกล้ได้เปิดภาคไดอารี่แล้ว : 02/06/11 )
เริ่มหัวข้อโดย: reneisance ที่ 02-06-2011 01:54:34
อืม ความร้ายกาจก้ปรากฎ คนแบบนี้ผ่านมาแล้วก็ให้มันผ่านไปเถอะ เอ คิดไปคิดมา คือคนอย่างว่านได้รับการใส่ข้อมูลมีผิดมาตั้งแต่แรก ก็คงต้องปล่อยให้เขาได้เห็นได้รุ้อย่างชัดแจ้งโดยตัวของตัวเอง อย่าไปทามอะไรมากกว่านี้เพราะว่า เอ ไม่มีค่าในสายตาของว่าน ว่านคงอยากลองในหลายๆๆ สิ่งเพราะว่าเป้นวัยที่อยากลองอยากเรียนรู้ ที่จริงพี่กลับคิดได้อย่างหนึ่งว่า บางครั้งความจริงใจอย่างเต็มที่ก็มันจะย้อนกลับมาทำร้ายเรา เราควรให้ความจริงใจไปโดยที่เราไม่เสียใจ

ซึ่งสงครามเย็นของ เอ กับ โค้ช นะ พี่ว่าก็ควรที่จะให้มันเหมือน เกลือ จิ้มเกลือเอต้องเข้มแข็งคิดไว้นะ ทองแท้ ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน อยู่อย่างไร หรือ มีอะไรมาปิดทับไว้ ยังไงมันก็เป้นทองแท้ จำไว้นะเอ  ซึ่ง ให้เดานะ ความสัมพันธ์ก็ยิ่งเลวร้ายไปเรื่อยๆๆ เพราะว่า ว่านเองก็คงเข้าข้างโค้ชแบบไม่ลืมหูลืมตา ซึ่งหารู้ไม่ว่า จริงแล้วคำชื่นชมที่ว่านได้รับมันก็เป้นเพียงแค่ทองฉาบผิวเท่านั้น

ซึ่งพี่ว่าโค้ชเองก็คงรู้เรื่อง การเปลี่ยนตำแหน่งโค้ชมาบ้าง  ไม่งั้นคงไม่มี ปฏิกิริยา ต่อ เอแบบนี้

แต่ก็นะ เอ สงครามที่แท้จริงต่อจากนี้ ไม่ใช่การใช้กำลังมาต่อสู้กันแล้ว แต่เป้นการต่อสู้ในเรื่องของข้อมูลและ ความจริง มากกว่าคอยดู วัวสันหลังหวะ ยังไงมันก็คือวันสันหลังหวะไปยังค่ำ

ให้แนะนำนะ ถ้าวันใดที่ว่านล้ม เอค่อยกลับไปพยุงดีกว่า เป้นพี่เป้นน้องกันดีกว่ารู้นะว่าเป้นเด็กมีปมด้อย แต่ถ้าเป็นเด็กที่ดี ปฏิกิริยาของคนรอบข้าง ก้ต้องดีตอบกลับไปเช่นกัน แต่ว่านไม่ใช่ กลับหลงระเริง อยุ๋กับ ความจริงจอมปลอมจนไม่ได้มองว่าอันไหนจริงอันไหนเท็จ

เข้าใจเรยนะที่ ว่านเปลี่ยนไป หลังจากที่มี ความสัมพันธ์แบบนั้นกับเอ  มันเป้นเหมือนการทำลาย ความเกรงใจที่ว่านมีต่อ เอ

รอดุเวลาที่ ทุกคนรู็เรื่องของโค้ช ซะที เอ ถ้าเป้นเรื่องของกีฬาบางครั้ง การเปลี่ยนแปลงบางอย่างมันก็นำไปสู่การพัฒนาที่ดียิ่งกว่าการนิ่งเฉยที่จะมีแต่การเสื่อมลงไปทุกที

 
หัวข้อ: Re: น้องชาย 2 ( Up ช่วงที่ 24 - ใกล้ได้เปิดภาคไดอารี่แล้ว : 02/06/11 )
เริ่มหัวข้อโดย: kokoky ที่ 02-06-2011 02:19:12
คุณเอสู้ๆนะคะ
เรื่องราวมันช่างน่าอึดอัดจริงๆ
เดี๋ยวอะไรๆมันน่าจะดีขึ้น

เกลียดอีตาโค้ชสุดๆ
อะไรมากมายเนี๊ย
เห็นแก่ตัวที่สุด อวดฉลาด ไม่รู้จริงแล้วดถกคนอื่น :angry2:

สักวันจะเข้าตัว

คุณเอทนได้ไงเนี๊ย เก่งจริงๆ
เป็นตัวเองล่ะคงได้ซัดกันแล้ว
ค่าปรับห้าร้อย ขอจัดหนักๆเลย

ขอให้ทุกอย่างพ้นผ่านไปด้วยดีนะคะ :L2:



edit นิดหน่อนค่ะ

น้องว่านถูกอีตาโค้ชใช้เป็นหมาก + แม่ทัพในสงครามประสาทอ่ะ
เฮ้อออออออ เหนื่อยใจแทนเลยค่ะ
หัวข้อ: Re: น้องชาย 2 ( Up ช่วงที่ 24 - ใกล้ได้เปิดภาคไดอารี่แล้ว : 02/06/11 )
เริ่มหัวข้อโดย: donutnoi ที่ 02-06-2011 16:23:05
เป็นกำลังใจให้คุณเอ  :L2:  โค้ชนิสัยอย่างนี้ ก็ควรต้องตอบโต้บ้าง  :beat:

ส่วนว่าน :เฮ้อ: รอตอนต่อไปนะ  :3123:
หัวข้อ: Re: น้องชาย 2 ( Up ช่วงที่ 24 - ใกล้ได้เปิดภาคไดอารี่แล้ว : 02/06/11 )
เริ่มหัวข้อโดย: bbyuqin ที่ 02-06-2011 18:13:47
แล้วตกลงโค้ชได้ถูกปลดรึปล่าวคะ  ที่ผ่านมาก็สุดๆแล้วมาเจอตอนแข่งอีก...โอย...ไม่รู้จะอธิบายยังไง

ส่วนว่าน ตอนนี้เหมือนน้องกำลังหลงในสิ่งที่โค้ชพูด ถึงความเก่งกาจของตัวเอง แต่เชื่อว่าถ้าเค้าพลาดขึ้นมาอาจจะเป็นหนักกว่าตอนที่เข้าคู่ซ้อมแล้วแพ้ครั้งนั้นอีก....รออ่านต่อจ้ะ  :กอด1:

หัวข้อ: Re: น้องชาย 2 ( Up ช่วงที่ 24 - ใกล้ได้เปิดภาคไดอารี่แล้ว : 02/06/11 )
เริ่มหัวข้อโดย: HydrA ที่ 02-06-2011 21:25:34
พี่เอทำไมพี่ไม่ปรึกษาพี่ป้อม
จะเก็บเงียบไว้ทำไม
รู้เร็วอาจจะช่วยกันแก้ทัน
แล้วที่บอกว่าเป็นเหตุผลทางธุรกิจน่ะพี่เอทิ้งไม่ได้แล้วมันคุ้ม
แล้วเหรอพี่ที่พี่ต้องมาเสีย
สุขภาพจิตน่ะ
ส่วนว่านพี่เอวางมือเหอะ
บอกตรงๆก้าวร้าวมาก
ให้เค้าเจอและเรียนรู้โค้ชที่รัก
ยิ่งของเค้าไปเถอะ
พี่เอน่ะหนักแน่นหน่อยอย่าเอาความเหงามาตัดสินที่จะรักใคร
แยกให้ออกว่ารักหรือหลงหรือ
ว่าต้องการใครสักคนเพื่อไม่ให้เหงา
ไม่ต้องรีบร้อนค่อยๆค้นหาไป
ช้าๆได้เจอรักแท้นะพี่นะ
ปล.พี่เอมาลงต่อเถอะนะ
หัวข้อ: Re: น้องชาย 2 ( Up ช่วงที่ 24 - ใกล้ได้เปิดภาคไดอารี่แล้ว : 02/06/11 )
เริ่มหัวข้อโดย: pobbmit ที่ 02-06-2011 21:31:01
หรือว่า ระหว่างพี่เอ ไม่ยุ โค้ชมาแอบกินว่านไปซะแล้ว

หรือว่าก่อนที่พี่เอ จะจัดการว่าน ว่านเสร็จโค้ชไปแล้ว

ไม่งัน้ทำไมว่านถึงเชื่อโค้ชมากขึ้นๆ แต่เชื่อพี่เอ  ไม่สิ ไม่เชื่อเลยขนาดนี้
หัวข้อ: Re: น้องชาย 2 ( Up ช่วงที่ 24 - ใกล้ได้เปิดภาคไดอารี่แล้ว : 02/06/11 )
เริ่มหัวข้อโดย: me_alone ที่ 02-06-2011 22:16:29
อืม ความร้ายกาจก้ปรากฎ คนแบบนี้ผ่านมาแล้วก็ให้มันผ่านไปเถอะ เอ คิดไปคิดมา คือคนอย่างว่านได้รับการใส่ข้อมูลมีผิดมาตั้งแต่แรก ก็คงต้องปล่อยให้เขาได้เห็นได้รุ้อย่างชัดแจ้งโดยตัวของตัวเอง อย่าไปทามอะไรมากกว่านี้เพราะว่า เอ ไม่มีค่าในสายตาของว่าน ว่านคงอยากลองในหลายๆๆ สิ่งเพราะว่าเป้นวัยที่อยากลองอยากเรียนรู้ ที่จริงพี่กลับคิดได้อย่างหนึ่งว่า บางครั้งความจริงใจอย่างเต็มที่ก็มันจะย้อนกลับมาทำร้ายเรา เราควรให้ความจริงใจไปโดยที่เราไม่เสียใจ
ซึ่งสงครามเย็นของ เอ กับ โค้ช นะ พี่ว่าก็ควรที่จะให้มันเหมือน เกลือ จิ้มเกลือเอต้องเข้มแข็งคิดไว้นะ ทองแท้ ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน อยู่อย่างไร หรือ มีอะไรมาปิดทับไว้ ยังไงมันก็เป้นทองแท้ จำไว้นะเอ  ซึ่ง ให้เดานะ ความสัมพันธ์ก็ยิ่งเลวร้ายไปเรื่อยๆๆ เพราะว่า ว่านเองก็คงเข้าข้างโค้ชแบบไม่ลืมหูลืมตา ซึ่งหารู้ไม่ว่า จริงแล้วคำชื่นชมที่ว่านได้รับมันก็เป้นเพียงแค่ทองฉาบผิวเท่านั้น
ซึ่งพี่ว่าโค้ชเองก็คงรู้เรื่อง การเปลี่ยนตำแหน่งโค้ชมาบ้าง  ไม่งั้นคงไม่มี ปฏิกิริยา ต่อ เอแบบนี้
แต่ก็นะ เอ สงครามที่แท้จริงต่อจากนี้ ไม่ใช่การใช้กำลังมาต่อสู้กันแล้ว แต่เป้นการต่อสู้ในเรื่องของข้อมูลและ ความจริง มากกว่าคอยดู วัวสันหลังหวะ ยังไงมันก็คือวันสันหลังหวะไปยังค่ำ
ให้แนะนำนะ ถ้าวันใดที่ว่านล้ม เอค่อยกลับไปพยุงดีกว่า เป้นพี่เป้นน้องกันดีกว่ารู้นะว่าเป้นเด็กมีปมด้อย แต่ถ้าเป็นเด็กที่ดี ปฏิกิริยาของคนรอบข้าง ก้ต้องดีตอบกลับไปเช่นกัน แต่ว่านไม่ใช่ กลับหลงระเริง อยุ๋กับ ความจริงจอมปลอมจนไม่ได้มองว่าอันไหนจริงอันไหนเท็จ
เข้าใจเรยนะที่ ว่านเปลี่ยนไป หลังจากที่มี ความสัมพันธ์แบบนั้นกับเอ  มันเป้นเหมือนการทำลาย ความเกรงใจที่ว่านมีต่อ เอ
รอดุเวลาที่ ทุกคนรู็เรื่องของโค้ช ซะที เอ ถ้าเป้นเรื่องของกีฬาบางครั้ง การเปลี่ยนแปลงบางอย่างมันก็นำไปสู่การพัฒนาที่ดียิ่งกว่าการนิ่งเฉยที่จะมีแต่การเสื่อมลงไปทุกที 
:กอด1: ~ เดาเหตุการณ์ได้แม่นยำมากมายเลยอะครับ
 :เฮ้อ: ~ ส่วนเรื่องการเปลี่ยน ถ้าเปลี่ยนแล้วดีผมเข้าใจนะ แต่เปลี่ยนแล้วยิ่งแย่ + ไม่มีอะไรดีนี่ซิที่ผมรับไม่ได้ แถมทักอะไรไปก็ไม่ยอมฟังอีก



คุณเอสู้ๆนะคะ เรื่องราวมันช่างน่าอึดอัดจริงๆ เดี๋ยวอะไรๆมันน่าจะดีขึ้น
เกลียดอีตาโค้ชสุดๆ อะไรมากมายเนี๊ย เห็นแก่ตัวที่สุด อวดฉลาด ไม่รู้จริงแล้วดถกคนอื่น :angry2:
สักวันจะเข้าตัว
คุณเอทนได้ไงเนี๊ย เก่งจริงๆ เป็นตัวเองล่ะคงได้ซัดกันแล้ว ค่าปรับห้าร้อย ขอจัดหนักๆเลย
ขอให้ทุกอย่างพ้นผ่านไปด้วยดีนะคะ :L2:
edit นิดหน่อนค่ะ
น้องว่านถูกอีตาโค้ชใช้เป็นหมาก + แม่ทัพในสงครามประสาทอ่ะ
เฮ้อออออออ เหนื่อยใจแทนเลยค่ะ
:กอด1: ~ ขอบคุณครับ



เป็นกำลังใจให้คุณเอ  :L2:  โค้ชนิสัยอย่างนี้ ก็ควรต้องตอบโต้บ้าง  :beat:
ส่วนว่าน :เฮ้อ: รอตอนต่อไปนะ  :3123:
:กอด1: ~ ขอบคุณครับ


แล้วตกลงโค้ชได้ถูกปลดรึปล่าวคะ  ที่ผ่านมาก็สุดๆแล้วมาเจอตอนแข่งอีก...โอย...ไม่รู้จะอธิบายยังไง
ส่วนว่าน ตอนนี้เหมือนน้องกำลังหลงในสิ่งที่โค้ชพูด ถึงความเก่งกาจของตัวเอง แต่เชื่อว่าถ้าเค้าพลาดขึ้นมาอาจจะเป็นหนักกว่าตอนที่เข้าคู่ซ้อมแล้วแพ้ครั้งนั้นอีก....รออ่านต่อจ้ะ  :กอด1:
:กอด1: ~ โค้ชเค้ามีศิลปะในการพูดครับ ถ้าใครไม่รู้จักกันนี่ความน่าเชื่อถือโค้ชเค้าจะกระฉูดเลยทีเดียว



พี่เอทำไมพี่ไม่ปรึกษาพี่ป้อม
จะเก็บเงียบไว้ทำไม
รู้เร็วอาจจะช่วยกันแก้ทัน
แล้วที่บอกว่าเป็นเหตุผลทางธุรกิจน่ะพี่เอทิ้งไม่ได้แล้วมันคุ้ม
แล้วเหรอพี่ที่พี่ต้องมาเสีย
สุขภาพจิตน่ะ
ส่วนว่านพี่เอวางมือเหอะ
บอกตรงๆก้าวร้าวมาก
ให้เค้าเจอและเรียนรู้โค้ชที่รัก
ยิ่งของเค้าไปเถอะ
พี่เอน่ะหนักแน่นหน่อยอย่าเอาความเหงามาตัดสินที่จะรักใคร
แยกให้ออกว่ารักหรือหลงหรือ
ว่าต้องการใครสักคนเพื่อไม่ให้เหงา
ไม่ต้องรีบร้อนค่อยๆค้นหาไป
ช้าๆได้เจอรักแท้นะพี่นะ
ปล.พี่เอมาลงต่อเถอะนะ
:กอด1: ~ เรื่องว่าน....พูดยากอะครับ....น้องเค้าทำเหมือนจบ แต่ก็ไม่จบให้ผมอาลัยอาวรอยู่เรื่อยๆ




หรือว่า ระหว่างพี่เอ ไม่ยุ โค้ชมาแอบกินว่านไปซะแล้ว
หรือว่าก่อนที่พี่เอ จะจัดการว่าน ว่านเสร็จโค้ชไปแล้ว
ไม่งัน้ทำไมว่านถึงเชื่อโค้ชมากขึ้นๆ แต่เชื่อพี่เอ  ไม่สิ ไม่เชื่อเลยขนาดนี้
:กอด1: ~ พูดเหมือนพลอยเลยครับ มีคนสงสัยเหมือนกัน เพราะจะว่าไป....ก็มีโค้ชคนเดียวนะที่ล้อว่านว่าเป็นเกย์บ้าง ชอบผู้ชายบ้าง เสียดายไม่ได้เขียนลงไปด้วย รอตอนรีแล้วกัน เดี๋ยวติ๊กไว้กันลืม
หัวข้อ: Re: น้องชาย 2 ( Up ช่วงที่ 24 - ใกล้ได้เปิดภาคไดอารี่แล้ว : 02/06/11 )
เริ่มหัวข้อโดย: me_alone ที่ 02-06-2011 22:31:22
ช่วงที่ 25



        หลังจากที่โค้ชเข้มงวดเรื่องผิดถูกมาพักหนึ่ง พี่ป้อมเองก็ไม่มีความเห็นเรื่องนี้ แถมช่วงนี้พี่ป้อมก็มาๆหายๆด้วยเพราะพี่ป้อมกำลังจะลาออกจากงานประจำแล้วมาทำเทควันโดเต็มตัว พี่เค้าเลยขอเวลาไปเคลียร์งานที่ค้างๆอยู่ก่อน ส่วนผมตอนนี้ก็กำลังพิจารณาเรื่องความสัมพันธ์ของผมกับว่าน แล้วก็กำลังเซ็งไอ้เรื่องคำว่า “ถูก ผิด” ของโค้ชมากๆ ผมไม่รู้ว่านิยามของ “ผิด ถูก” ของโค้ชเนี่ยะมันหมายถึงอะไรกันแน่ ครั้งหนึ่งผมเคยลองทำตามว่านดู ตำแหน่งมือเดียวกัน ขาเดียวกัน ช่วงการเปลี่ยนท่า ความหนักของการเตะต่อย ความแข็งแรง ซึ่งผมก็ให้ต้อนกล้า ก๊อต พลอย แล้วก็น้องสายขั้นสูงในยิมหลายคนนั่งดู น้องส่วนมากก็ลงความเห็นว่าเนี่ยะใกล้เคียงที่สุดแล้ว แล้วเชื่อไหมครับ....โค้ชบอกว่าผมทำผิดอยู่ ตำแหน่งขาแบบนี้โค้ชบอกว่าผิด ตำแหน่งมือผิด การวางเท้าผิด จังหวะก็ผิด สรุปผิดเกือบหมด

        เคยได้ยินคำว่าสองมาตรฐานไหมครับ....เท่านั้นแหละ ผมไม่ต้องอธิบาย หรือ พูดจาโน้มน้าวน้องๆ ความน่าเชื่อถือในตัวโค้ชก็ร่วงลงมาทันที เวลานี้ไม่จำเป็นต้องพูดอะไรมากมาย ทุกคนก็เข้าใจเป็นแนวทางเดียวกันว่า....มาตรฐานของโค้ชเวลานี้คือว่าน.....อะไรที่ว่านทำ โค้ช จะบอกมันถูก แล้วก็ดูดี เว้นว่าบางท่ายังไม่เข้าตามที่โค้ชอยากได้ โค้ชก็จะเข้ามาบอก โดยไม่พูดถึงถูกผิดแบบที่ทำกับผม หรือ คนอื่น วันหนึ่งเคยมีน้องมาถามโค้ชว่า.....


“ครูครับ ทำไมพี่ว่านไม่ต้องซ้อมของตัวเองล่ะ”
โค้ชหันมายิ้มด้วยก็พูดแบบภูมิใจนำเสนอสุดๆว่า “พี่ว่านเค้าไม่ต้องซ้อมมากหรอก บอกนิ๊ดเดียวเค้าก็ทำตามได้แล้ว”


        เวลานั้นโค้ชคงยังไม่รู้....ว่า เกม ริว ฟิว ส้ม พลอย ต้นกล้า รวมถึงน้องคนอื่นๆกำลังรอดูกันอย่างใจจดใจจ่อว่าสิ่งที่โค้ชสอนว่านนั้น ถูก หรือ ผิด เพราะเวลานี้หลายคนเริ่มเสื่อมศรัทธาในตัวโค้ชไปแล้ว อีกอย่างน้องต้นกล้าเองก็เจอกับตัว ก่อนสอบสายหนึ่งวัน ต้นกล้าไปซ้อมท่ารำกับว่าน แล้วต้นกล้าก็มาถามผมซ้ำ มีหลายจุดทีเดียวที่มันไม่ใช่ ไม่ใช่ว่าไม่ถูกนะครับ แต่ตำแหน่งของเท้า แล้วก็มือมันยังไม่เหมาะ....ผมเลยบอกน้องต้นกล้าไป....แล้วน้องต้นกล้าก็ไปซ้อมเอง....ที่นี้มันก็เกิดปัญหาขึ้นครับ


“เฮ่ย!! ใครสอนให้วางเท้าแบบนี้” โค้ชพูดขึ้นเสียงดังลั่นยิมทำเอาต้นกล้าหนาซีดเลยทีเดียว
“พี่เอสอน” ต้นกล้าพูดเสียงสั่นๆพลางชี้มาที่ผม
“เอ ทำไมไปสอนให้น้องวางเท้าแบบนี้ มันไม่ถูก” โค้ชหันมาพูดกับผม ตอนนั้นผมยืนดูน้องพลอยซ้อมอยู่
“ยังไงพี่” ผมพูดพลางเดินไปหาโค้ช
“นี่ๆๆ” แล้วโค้ชก็ชี้....ปัญหาตอนนี้คือการก้าวของต้นกล้า กับตำแหน่งวางเท้าครับ
ผมทำหน้าเซ็งๆแล้วก็พูดว่า “แล้วพี่จะให้น้องมันก้าวแบบไหน”
“ว่าน มาทำให้ดูซิ” โค้ชเรียกว่านที่ยืนอยู่ใกล้ๆมาทำท่าให้ดู
พอว่านทำเสร็จโค้ชก็พูดต่อว่า “ นี่ไงก้าวแบบนี้ วางเท้าแบบนี้พอดีเลย สวยด้วย”
ผมก็บอกต้นกล้าว่า “ต้นกล้า ทำแบบพี่ว่านดิ๊”
พอต้นกล้าทำแบบว่านเสร็จผมก็หันมาถามโค้ชว่า “ท่ายืน forward stand มันยืนแบบนี้เหรอพี่”
ผมพูดจบโค้ชก็มองๆ ก่อนที่ผมจะพูดต่อว่า “เท้าห่างกี่ฝ่าเท้า ต้องย่อขากี่องศา ถ้าก้าวแบบว่านต้นกล้ามันจะมายืนแบบนี้เลยได้ไหม”


        เท่านั้นแหละครับว่านที่ยืนเป็นแบบอยู่ก็ถูกกระทบทันที เพราะท่าที่ว่านยืนอยู่ถ้าอิงตามผิดถูกที่โค้ชเน้นๆมา มันไม่ถูกด้วยประการทั้งปวง แต่เนื่องจากจนทางด้วยหลักฐานโค้ชก็พูดขึ้นมาเบาๆว่า “เออ จริงด้วย” แต่กระนั่นโค้ชก็ยังไม่พูดถึงท่ายืนของว่านอยู่ดี ความสองมาตรฐานนี้ก็เริ่มชัดเจนแก่สายตาของน้องๆมากขึ้นส่วนเรื่องของว่าน ถูก ผิด สวย ไม่สวย ก็ต้องรอดูตอนวันสอบสายครับว่าที่โค้ชพร่ำชมว่านมากมายประหนึ่งทีมชาตินั้น....มันจริงไหม....


เชิงอรรถ
(http://upic.me/i/j2/s1px2.jpg) (http://upic.me/show/24845063)
จากในภาพ เรามองดูภาพตรงกลางนะครับ
ท่าที่ถูกของการวางเท้าในท่า forward stand คือเท้าทั้งสองต้องห่างกันประมาณ 1 เท้า ( เทียบความห่างด้วยเส้นสีเทา )
ซึ่งโค้ชเค้าก็อิงแบบนี้กับทุกคน
แล้วเราลองมาดูที่ว่านยืนนะครับทางซ้ายมือของเรา จะเห็นว่าว่านยืนแคบกว่าที่โค้ชกำหนด แต่ไหงว่านไม่ถูกติ แต่ต้นกล้ากลับถูกติ
แล้วก็จากจุดนี้นี่เองที่ทำให้ต้นกล้าเลิกเชื่อถือโค้ชไปในที่สุด



        แล้วในที่สุดวันที่ทุกคนรอคอยก็มาถึง......วันนั้นอากาศค่อนข้างเย็นมีเมฆมากตั้งแต่บ่าย กำหนดการสอบสายคือเวลาห้าโมงเย็นของวันนั้น น้องๆต่างแยกซ้อมของตัวเองอย่างเอาเป็นเอาตายในช่วงโค้งสุดท้ายก่อนการสอบสาย โดยที่ว่านเองก็ไม่ได้นิ่งดูดายกับคำชมของโค้ช น้องยังคงซ้อมของตัวเอง....แถมดูจะเอาเป็นเอาตายกว่าคนอื่นซะอีก.....คนแล้วคนเล่าผ่านไป มีทั้งรอยยิ้มแล้วก็คราบน้ำตาที่เกิดจากความเครียดระหว่างการสอบ จากนั้น....ช่วงเวลาที่ทุกคนรอคอยก็มาถึง....เมื่อถึงคิวของว่าน....ท่าเตะ ท่ารุกรับว่านผ่านฉลุยอย่างที่คาดการณ์ไว้....ก่อนจะเริ่มสอบท่ารำเป็นอย่างสุดท้าย.....น้องๆในยิมนิ่งเงียบ ไม่มีกระทั้งเสียงกระซิบกระซาบใดๆเล็ดลอดออกมาให้ได้ยินเลย ทุกสายตาจับจ้องไปที่ว่านอย่างไม่วางตา จนกระทั่งว่านรำเสร็จ....ทุกเหมือนจะพร้อมใจกันเงียบ แล้วทุกคนก็กันตั้งใจฟังความเห็นของอาจารย์กบแบบไม่ได้นัดหมาย


“ไปฝึกมาใหม่นะ” อาจารย์กบพูดด้วยน้ำเสียงเรียบๆ ก่อนจะลุกขึ้น แล้วเดินมาหาว่าน แล้วให้ว่านรำให้ดูช้าๆเป็นจังหวะๆ
“ท่าต่อยใครสอนให้ต่อยแบบนี้ ท่าเตะด้วย มือใครบอกให้วางตรงนี้...ปัดสูงกว่านี้...ไกลอีก ใครบอกให้หุบมือแบบนี้....แข็งแรงจริง แต่มันไม่เป็นธรรมชาติ นึกเอาไว้ซิเวลาเอาไปใช้จริง เค้าต่อยมาเราบัดแบบนี้มันใช้ได้ไหม แล้วต่อยส่งหมัดไปแค่นี้มันจะไปมีแรงอะไร.....ฯลฯ” วันนี้ทุกท่าที่ว่านทำถูกติเกือบหมด แล้วก็เปลี่ยนตำแหน่งมือกับเท้าใหม่เกือบหมด รวมถึงจังหวะด้วย.....


        หลังจบการสอบว่านไม่พูดไม่จาอะไร....อ่อ....ตลอดช่วงที่กลับจากจุฬาผมยังไปส่งว่านที่บ้านทุกวันนะ แล้วก็นั่งทานก๋วยเตี๋ยวด้วยกันเหมือนเคยตลอด ถึงจะมีก๊อตเพิ่มมาอีกคนก็เหอะ อืมม...แล้วว่านก็เลิกคีบหมูให้ผมแล้วด้วย...คีบไปให้ก๊อตแทน...แถมยังนั่งตรงข้ามกับผมตลอดอีก วันนั้นก็ด้วยพอสอบเสร็จว่านไม่พูดอะไรเลย  ผมเลยนั่งคุยกับก๊อตสองคน

        หลังจากนั้นดูเหมือนว่าโค้ชจะไม่ลดละกับคำว่า “ผิดถูก” จากท่ารำโค้ชก็ลามมาถึงท่าเตะ แล้วก็พูดถึงการเตะขาหน้าที่ผมชอบเตะมีการแขวะเล็กน้อยด้วยว่า “มันไม่ใช่ท่าเตะที่ถูก” แล้วก็วิจารณ์ข้อเสียออกมาเป็นฉากๆ ฟังดูน่าเชื่อถือมากๆเลยครับ จำได้ว่าวันนั้นหลังโค้ชวิจารณ์ท่าเตะต่างๆเสร็จ เค้าก็ให้จับคู่เตะกันแล้วก็เปลี่ยนคู่ไปเรื่อยๆ.....จนมาถึงผมกับว่าน..... ตอนนั้นดูโค้ชจะอยากให้น้องๆดูการเตะของผมกับว่านมากๆ ถึงกับให้น้องแยกไปนั่งข้างๆเบาะ แล้วให้ผมกับว่านทำเหมือนเวลาไปแข่ง แถมยังกำชับว่า “ระหว่างนี้ห้ามสอน” แล้ววันนั้น....ผมก็ทำให้โค้ชเห็นว่า.....ไอ้ท่าเตะที่โค้ชบอกว่ามันไม่ดีอย่างนั้นอย่างนี้.....มันทำให้ว่านไม่กล้าบุก.....แล้วก็เป็นอีกครั้งที่ผมทำให้น้องๆเห็นกับตา....ว่าการวิเคราะห์ของโค้ชมันเงาะแค่ไหน จากที่ว่านถูกผมใช้ขาหน้าเตะกลิ้งไปหลายรอบ จนก่อนหมดเวลา ว่านถึงกับน้ำตาไหลออกมาเลย แถมพอเตะเสร็จโค้ชก็มาทับถมว่านว่า “คิดทางแก้เองไม่เป็นหรือไง หรือ ต้องให้บอกทุกอย่าง”

        จะว่าไปหลังจากสอบเลื่อนสายความห่างเหินของผมกับว่านก็ไม่ได้มากขึ้น แล้วก็ไม่ได้ลดลงเท่าไหร่ นอกจากเรื่องเทควันโดแล้ว ก็ยังคุยกับว่านได้บ้าง หลังจากช่วงสอบสายได้ไม่นานผมก็ไปเจอคำถาม คำถามหนึ่งของคุณหมอเจ ที่ว่า “ไข่ต้ม กับ ไข่สุก อันไหนหนักกว่ากัน” ซึ่งผมก็เอามาถามเพื่อนๆว่านต่อ ดูเหมือนว่านเองก็สนใจไม่น้อยจนเอาไปถามเพื่อนๆที่ห้องเรียนด้วย จนตอนเย็นของอีกวัน ว่านก็รีบเอามาตอบผม เกม ริว ฟิว ก็มาแจมด้วย ระหว่างนั้นโค้ชก็มาได้ยินครับ แล้วโค้ชก็แสดงพลังความรู้ของแกว่า


“ไข่ต้มมันต้องหนักกว่าซิ” โค้ชตอบด้วยน้ำเสียงภาคภูมิใจที่สุด
“เพราะอะไรล่ะครับ” เกมถามโค้ช
“อ่าว....ของแข็งมันต้องหนักกว่าของเหลวซิ ใช่ไหมล่ะ มีของเหลวที่ไหนหนักกว่าของแข็งบ้าง” ค่อยกล่าวพร้อมทำหน้าตาประมาณว่า กูฉลาดใช่ไหมล่ะ

        ได้ยินแบบนั้นผมเลยเดินออก.....กลุ่มเพื่อนว่านด้วย.....ก่อนที่ผมจะบ่นๆว่า

“ถ้าเราเอาน้ำเปล่าหนัก 1 ขีด ไปแช่ พอมันแข็งแล้วเราเอากลับมาชั่งมันก็หนักกว่าน้ำตอนยังไม่แข็งหน่ะซิ”
“จริงด้วย” เกมพูด
“ที่ถามหน่ะ ให้ถามเพื่อเอาไปทดลองแล้วหาคำตอบ ไม่ใช่เอาความรู้สึกตอบ”
“นั่นซิ” ฟิวพูดขึ้น


        แต่ถึงผมจะระหองระแหงกับโค้ช แล้วว่านก็มาเป็นส่วนหนึ่งด้วยก็ตาม ผมก็ยังคงห่วงว่านอยู่เนืองๆนั่นแหละ ไม่รู้ซิครับ ถึงว่านจะพูดจาอะไรไม่ดีมาหลายครั้ง แต่ผมก็มักจะบอกกับตัวเองอยู่เสมอๆว่า.... “ว่านยังเด็ก แล้ว ว่านก็มีนิสัยแบบนี้อยู่แล้ว” อีกอย่างว่านเองก็ยังเข้ามาคุยกับผมอยู่เรื่อยๆ ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าหลังจากที่ทำเพิกเฉยใส่ว่านคราวก่อนนั้น ผมกลับมาคุยกับว่านคืนตั้งแต่เมื่อไหร่ แต่....มันก็ได้ไม่นานนักว่านก็ทำเหมือนเคยอีก วันนั้นจำได้ว่า ว่านทำหน้าบูดตลอดเลย ผมเลยพูดเล่นๆกับว่านไปว่า


“ทำหน้าบูดอีกล่ะ”
“.....” ว่านไม่ตอบ
“หงุดหงิดอะไรเหรอ” ผมถามว่านซ้ำอีกครั้ง เท่านั้นล่ะครับว่านหันกลับมามองผมแล้วพูดว่า
“ดูอารมณ์คนอื่นไม่ออกก็อย่าพูดมากได้ไหม”


        แล้วว่านก็ทำท่าไม่พอใจใส่ผมมากๆ ยอมรับว่าตอนนั้นผมไม่พอใจ....เย็นวันนั้น....ทันทีที่เลิกซ้อมเสร็จผมก็กลับเลยโดยไม่รอว่าน นั่นเป็นครั้งแรกที่ผมไม่รอว่าน ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้ไม่เคยมีสักวันที่ผมมายิมแล้วไม่กลับบ้านพร้อมว่าน จากนั้นผมก็เริ่มกระบวนการเย็นชาใส่ว่านแบบเต็มสูบ ผมไม่พูด ไม่คุย ไม่สนใจ ทำเหมือนว่าว่านไม่มีตัวตน ถึงแม้ว่าว่านจะกลับบ้านกับผมเหมือนเคยก็เหอะ แต่มันเหมือนหน้าที่ไปแล้ว มันไม่ใช่ไปส่งเพราะความรู้สึกดีๆที่เคยมีแบบก่อนหน้านี้ ผมเริ่มซื้อของให้ ส้ม พลอย เกม ฟิว ริว เว้นแค่ว่านคนเดียวที่ผมไม่ซื้อให้....เวลาจับกลุ่มคุยกัน ไม่ว่าว่านจะพูด จะคุย จะถามอะไรผมก็ตามผมก็ไม่ตอบ ไม่พูดอะไรกลับสักอย่าง......แต่ผู้อ่านรู้อะไรไหม....ไม่รู้ว่าเพราะอะไรทุกครั้งที่ผมเห็นว่านยืนมองตอนผมเอาของให้เพื่อนๆเค้า....ทุกครั้งที่ผมไม่ตอบคำถาม หรือ พูดคุยกับเค้า....พอผมเห็นแววตาของเค้าผมรู้สึกเจ็บยังไงก็ไม่รู้....

        จำได้ว่าช่วงระหว่างที่ผมเพิกเฉยใส่ว่านอยู่นี้ มีวันหนึ่งน้องเดินมาหาผมด้วยสีหน้าวิตกกังวล....ก่อนจะแบมือให้ผมดูแล้วพูดว่า.... “พี่...มือผมลอก” พอน้องพูดจบผมไม่ได้เหล่มองด้วยซ้ำ ก่อนจะเดินออกไป แต่สุดท้ายผมก็ไปซื้อยามาหยอดใส่กระเป๋าว่าน......มีครั้งหนึ่งผมขับรถผ่านไปที่ยิมตอนประมาณบ่ายสามกว่าๆ ผมเห็นว่านปั่นจักรยานอยู่ริมทาง ทันทีที่ว่านเห็นผม ว่านยิ้มให้ผมทันที ส่วนผมเหรอ....ก็ขับรถผ่านไป......เหมือนกับมองไม่เห็น.....ตอนขับรถสวนไปผมก็มองกระจกมองหลัง ผมเห็นว่าว่าน....จอดรถชิดริมทางแล้วหันมามองผมด้วย.....พอมาถึงยิมผมก็ถามพลอยว่าว่านไปไหน พลอยก็เล่าให้ฟังว่า โค้ชให้ว่านไปซื้อน้ำที่ห้างดอกบัว แล้วว่านก็ไป ผมก็ไม่เข้าใจว่าทำไมต้องเป็นห้างดอกบัวเท่านั้น ทั้งๆที่ 7 – 11 ก็มี ซึ่งห้างดอกบัวที่ว่านี่มันอยู่ห่างจากยิมประมาณสามกิโลกว่าเลยนะครับ ไม่ใกล้เลยสำหรับจักรยาน แล้วไม่นานว่านกก็เริ่มเย็นชาใส่ผมคืนบ้าง....เริ่มด้วยการไม่พูด....จะมาพูดกับผมแค่เรื่องที่เค้าอยากจะพูดเท่านั้น


“เหมือนแฟนงอนกันเลย” พลอยพูดแซวผม
“พี่เอ....เดี๋ยวพี่ญาติผมจะมาเรียนด้วย” ริวพูดขึ้น
“เหรอ พี่ญาติกี่ขวบแล้วอะ”
“สิบห้า พี่เค้าบอกว่าเค้าเคยเรียนมาแล้ว”
“เหรอ ดีเลย ยิมจะได้ไม่เหงา”

        แล้วยิมก็มีสมาชิกใหม่เพิ่มมาคนหนึ่งครับ ชื่อน้องไนท์ วันแรกที่น้องไนท์เข้ามาโค้ชเหมือนจะดีใจมาก ชมไนท์ให้ว่านฟังไม่หยุด แต่สุดท้ายก็ตบท้ายด้วยประโยคที่ว่า “แต่ว่านก็ยังเก่งกว่าไนท์อยู่ดี” ซึ่งไม่นานนัก....ไนท์ก็มาคุยกับผมมากกว่าโค้ช แล้ว....ดูเหมือนว่าไนท์จะเปิดใจกับผมมากกว่าเวลาที่คุย ตอนนี้จากสงครามผิดถูก เริ่มมีสงครามชิงมวลชนเพิ่มมาแล้ว..... ช่วงแห่งการเล่าแบบรวมๆของช่วงนี้ขอจบลงแค่นี้นะครับ ต่อไปจะเริ่มเล่าแบบตอนต้นแล้ว

--------------------------------------

        หลังจากสอบปลายภาคเสร็จ ผมก็มายิมเร็วมากกว่าเมื่อก่อน ว่านเองก็ยังคงวางท่าทีเย็นชาใส่ผมเหมือนเคย แต่ผมก็ไม่ได้ใส่ใจเท่าไหร่ ผมเริ่มเปลี่ยนมาสนใจไนท์แทน ว่านเองก็เริ่มพูดถึงรุ่นพี่ที่เกมเคยบอกว่าว่านไปชอบมากขึ้น

“ไนท์ ขึ้น ม.4 ปีนี้ใช่ป่ะ” ผมถามไนท์ขณะที่ช่วยไนท์ยืดเส้นอยู่
“ครับพี่”
“แล้วต่อ ม.ปลายที่ไหน”
“ต่อที่ abc หน่ะพี่”
“เฮ่ย โรงเรียนนั้นมีแต่ผู้หญิงนะ”
“นั่นซิ เหงาเลย ไม่มีเพื่อน”
“ไม่มีเพื่อน....แต่มีแฟนไง อิอิอิ” ผมพูดพลางยิ้มๆ
“ไม่ดีพี่ ที่บ้านบังคับให้เข้า จะได้ไม่มัวแต่เล่น” ไนท์พูดพลางทำหน้าเศร้าๆ
“ที่บ้านพี่เค้ากลัวพี่ไนท์เป็นเกย์หรือเปล่า เลยส่งไปเรียน โรงเรียนที่หญิงเยอะๆ” พลอยพูดแทรกเข้มาพลางยิ้ม
“บ้าแล้ว” ไนท์พูดพลางหัวเราะ

        การซ้อมวันนี้โค้ชเน้นถูกผิดของท่าเตะเหมือนเคย ทว่า....วันนี้โค้ชพลาด....

“ท่าเตะ Back Kick เราต้องหันไปมองนะ ก่อนเตะ” โค้ชพูดพลางทำให้ดู แล้ว...ต้นกล้าก็ยกมือขึ้น
“ครู....ครูเคยบอกว่าท่านี้ไม่ต้องหันไปมองไม่ใช่เหรอครับ” เท่านั้นล่ะครับพี่น้อง โค้ชถึงกับเงียบไปแป๊บหนึ่งเลย ก่อนจะพูดว่า
“ก็ครูเปลี่ยนใหม่ แบบนี้ดีกว่า”


        โค้ชพูดจบผมก็หันไปมองหน้าพลอย แล้วส่ายหน้า แล้วการซ้อมตอนนั้นโค้ชเองก็เหมือนไม่มีท่าที่ต้องการไว้ในใจเพราะหลายคนสังเกตได้เลยว่า โค้ชจะมองว่าน แล้วเน้นให้ทำตามว่านมากกว่า เพราะว่านเป็นคนเดียวที่ไม่ถูกติ ทั้งๆที่รอบนี้โค้ชเค้ามีการปรับเปลี่ยน....ไม่ซิต้องบอกว่าปรับเปลี่ยนตามว่านมากกว่า....ว่านเลยลอยตัว จุดนี้สร้างความไม่พอใจกับน้องๆหลายคนเป็นอย่างมาก เพราะทุกคนรู้สึกคล้ายผมแล้วเรื่องความไม่นิ่งของโค้ช แถมชอบเอาคำว่า “ปรับพื้นฐาน” มาอ้าง เวลามีคนทักท้วง

        หลังการซ้อมเสร็จผมก็ไปนั่งที่มุมเดิม เกม ฟิว ริว ส้ม พลอย ต้นกล้า รวมถึงไนท์ก็มานั่งกองอยู่กับผม ก่อนจะเริ่มพูดคุยเรื่องทั่วไป โดยที่ว่านกลับไปนั่งอยู่กับโค้ช ไม่ก็ไปนั่งเงียบๆอีกมุมคนเดียว แต่ดูเหมือนว่าจะไม่มีใครสนใจเท่าไหร่ ตอนเลิกหลังจากปิดยิมเสร็จผมก็ไปส่งว่าน....ไม่รู้ว่าตั้งแต่เมื่อไหร่ที่ผมไม่ได้จับมือว่านอีก....แล้วก็ไม่รู้ว่าตั้งแต่เมื่อไหร่ที่ว่านเลิกมานั่งชิด เลิกกัด เลิกเอานิ้วมาจิ้มผม แต่ช่างมันเถอะ....ถึงจะบอกว่าช่างมัน....แต่ผมก็ยังห่วงว่านอยู่ดีนั่นแหละ....

        แล้ว....ท่ามกลางความตึงเครียดของผมกับโค้ช.....ใครคนหนึ่งที่หายไปนานก็โผล่เข้ามา.....วันนั้นจำได้ว่าเป็นวันจันทร์ที่ 18 เมษายน เวลา 14.27 น. ตอนนั้นผมกำลังนั่งเขียนนิยายเรื่องน้องชาย 1 แบบพิมพ์ๆหยุดๆ อยู่เงียบๆคนเดียวในบ้าน.....โทรศัพท์ผมก็ดังขึ้น


“น้องบี Calling”

        ผมนั่งอึ้งอยู่หน้าจอคอมพักหนึ่ง.....มือผมที่ถือโทรศัพท์อยู่มันสั่นด้วยความดีใจ แล้วทันทีที่ตั้งสติได้ผมรีบกดรับอย่างไว

“ดีครับ”
“ฮัลลล โหล๋วว” เสียงของบีดังขึ้นมา
“ว่าไง หายไปนานเลย”
“สบายดี พี่เอ....ผมจะกลับไปเรียนแล้วนะ”
“จริงเหรอ”
“ช่ายยยย”
“มาวันไหน”
“ว่าแต่พี่เอยังสอนอยู่ไหม”
“สอนซิสอน”
“เหรอครับ แล้วครูป้อมล่ะ”
“ก็ยังมาอยู่”
“งั้นนน....เย็นนี้พี่ไปไหม”
“ถ้าพี่ไปบีจะไปไหมอะ”
“งั้น....เย็นนี้เจอกัน พี่ไปกี่โมงโทรบอกผมด้วยนะ”
“ได้เลย”

        ตอนนั้น....ผมดีใจจนบอกไม่ถูก....ผมจะได้เจอบีแล้ว.....

To Be Con
หัวข้อ: Re: น้องชาย 2 ( Up ช่วงท$
เริ่มหัวข้อโดย: naoki24 ที่ 02-06-2011 23:12:07
คนแรกของตอน25
อย่างแรกขอบคุณเอมากเลยสำหรับคลิบเทควันโด้ สุดยอดจนน่าเรียน ถึงแม้อายุจะมาก จะได้มาปรับปรุงวิชาป้องกันตัวที่มีอยู่ให้มันดีขึ้น(ปราณกังฟูและคาราเต้) :z6:

อย่างที่สอง อ่านตอน24-25แล้วจากใจว่า ผมเจ็บไม่น้อยไปกว่าคุณเอเลย(สงสัยอินจัดคิดถึงตอนที่ลูกศิษย์ตัวเองงอน)
แต่.....อย่าน้อยความรักไม่ได้ทิ้งคุณเอ แล้วส่งน้องบีกลับมา คุณเอคงมีกำลังใจขึ้นนะ :sad4:

อย่างที่สาม ตอนนี้ไม่รุ้ว่าเป็นไงนะ แต่อยากบอกว่า อย่าทิ้งว่านนะไม่งั้นว่านจะเป็นผู้ใหญ่ที่เห็นแก่ตัวในอนาคตแน่ แต่กลับกันก็สามารถเอาน้องบีเป็นแบบอย่างไว้สอนน้องว่านก็ดี แต่อย่าทำแบบโค้ชนะไม่งั้นว่านคง....คิดว่าเอคงรู้ :3125:

อย่างที่สี่ ความคิดเอมั่นคงดีและจงมั่นคงต่อไปนะ เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์ และเมื่อถึงเวลาทุกคนและและวัฏจักรรอบตัวจะเข้าใจเราเอง (พูดยังกะนักวิชาการหรือนักเทศน์เลยเรา)  o13

เป็นกำลังใจให้เขียนต่อไปนะ ผมคงต้องไปสอนหนังสือไอ้ดื้อ3ตัว อีกอาทิตย์คงได้มาอ่านต่อ :z10:
หัวข้อ: Re: น้องชาย 2 ( Up ช่วงที่ 24 + 25 - ใกล้ได้เปิดภาคไดอารี่แล้ว : 02/06/11 )
เริ่มหัวข้อโดย: kokoky ที่ 02-06-2011 23:32:24
ว้าวววววววววว

ยินดีต้อนรับกรกลับมาของน้องบีค่าาาา




น้องว่าน อืม.............ยังไงดีล่ะ
จะว่าน้องยังเด็กก็เป็นแค่คำปลอบใจยังไงก็ไม่รู้สิคะ คุณเอ
สงสารก็สงสารอยู่ แต่น้องเหมือนกับ "ตบหัวแล้วมาลูบหลัง"
หรือคิดไปเองก็ไม่รู้สิ

น้องน่าสงสารที่ไม่มีใครคอยแนะนำให้คำปรึกษา "ที่ถูกต้อง"
ก็เลยเลือกเชื่อตัวเองว่าใครน่าเชื่อถือมากกว่า
แล้วตอนที่มาติด"พี่เอ"ก็คงเป็นที่รู้สึกอบอุ่น อ้อนได้ แล้วก็ได้รับความรักและการดูแลที่"พิเศษ"
พออะไรๆที่มันมากระทบ แถมยังถูกยกให้ตัวเองรู้สึกว่าระดับสูงกว่า น้องก็เลย.................

เฮ้อออออออออออออ
กลัวว่าน้องจะเก็บกด หากไม่มีเทควันโดนี่น้องอาจเตลิดได้เลยนะคะ
มาแยกตัวนี่ยิ่งยากค่ะ เด็กแบบนี้แก้ยากกว่าเด็กดื้ออีก เพราะเค้าคิดว่าตัวเองถูก

ยังไงก็เป็นกำลังใจให้คุณเอนะคะ
ฝากความคิดถึงให้น้องบี
แล้วก็ฝากความห่วงใยให้น้องว่านด้วยค่ะ
หัวข้อ: Re: น้องชาย 2 ( Up ช่วงที่ 24 + 25 - ใกล้ได้เปิดภาคไดอารี่แล้ว : 02/06/11 )
เริ่มหัวข้อโดย: HydrA ที่ 02-06-2011 23:41:22
ยังไปส่งว่านอีกอ่ะ
เป็นนู๋ละลาขาด
ว่านน่ะเค้าเรียกว่ามองข้ามสิ่ง
ใกล้ตัว
ไม่ว่านหรือบีนู๋อยากให้พี่เอ
หนักแน่นให้มากขึ้น
รักตัวเองก่อนนะ
อย่าให้เด็กมาปั่นเรา
หัวข้อ: Re: น้องชาย 2 ( Up ช่วงที่ 24 + 25 - ใกล้ได้เปิดภาคไดอารี่แล้ว : 02/06/11 )
เริ่มหัวข้อโดย: reneisance ที่ 03-06-2011 00:11:45
วะวะวะว้าว นางเอกตัวจริงกลับมาแล้วอืม เดี่ยวก็คงมีปัญหากับว่านแน่ๆๆๆๆ ว่านคงรู้สึกแบบว่า มีคนมาแย่งสิ่งสำคัญไป ดีละ คราวนี้จะได้เห็นว่า ตัวจริงกับความจริง มันเป้นเช่นไร
หัวข้อ: Re: น้องชาย 2 ( Up ช่วงที่ 24 + 25 - ใกล้ได้เปิดภาคไดอารี่แล้ว : 02/06/11 )
เริ่มหัวข้อโดย: icyblue ที่ 03-06-2011 01:55:34
น้องว่านน่าเป็นห่วงนะ
   ด้วยเป็นวัยทีน อารมณ์ ร่างกาย ฮอร์โมน ก็เปลี่ยนแปลงเยอะ  + พื้นฐานความอบอุ่นของครอบครัวคาดว่าจะน้อยนะ (ที่เอเล่ามาน้องต้องอยู่คนเดียวบ่อยๆ แล้วก็ไม่มีพี่ น้องด้วย) + นิสัยของน้องว่านเอง ที่มีความมั่นใจ เชื่อมั่นตัวเองสูง (เพราะอยู่คนเดียวบ่อยเลยต้องคิดเอง ตัดสินใจเอง ขาดคนแนะนำ) มุ่งมั่น
   แต่ขณะเดียวกัน ก็ชอบทำตัวแปลกแยก เห็นได้จากชอบหามุมสงบอยู่คนเดียวบ่อยครั้ง มีความยืดหยุ่นน้อย กดดันคนรอบข้างด้วย  (ตอนเพื่อนในห้องคุยเสียงดังน้องก็ไปว่าเพื่อน จนเพื่อนๆไม่ชอบ  หรือตอนซ้อมเทควันโดแม้โค้ชจะซ้อมหนักจนเพื่อนเหนื่อย แต่ว่านก็ยังไม่หยุดซ้อมทำให้โค้ชอดชมว่านไม่ได้ กลายเป็นความกดดันให้เพื่อนไป)
    ทั้งหมดที่กล่าวมาจากความเห็นส่วนตัว ถ้าน้องเจอคนดี ก็จะประสบความสำเร็จได้ไม่ยาก  แต่ถ้าเจอมารนำทางอ่ะนะ ก็หลงผิดแบบไม่รู้ตัวเลย (อย่างที่น้องเจออ่ะนะ ตอนอาจารย์กบมาสอบนั่นแหละเห็นทันตาเลย)
    ถ้าน้องว่านยังไม่รู้ถูก รู้ผิด หรือมีคนแนะนำเรื่องนิสัยอ่ะนะ คงจะอยู่ในสังคมลำบาก เพราะยังงัยมนุษย์ก็เป็นสัตว์สังคม ต้องอยู่ร่วมกัน เอื้อเฟื้อ ช่วยเหลือกัน ถ้าน้องปรับนิสัยให้ยืดหยุ่น รับฟังคนอื่นให้มากขึ้นก็จะมีคนรักมากขึ้นนะ  เพราะมุมอื่นน้องก็ยังมีความน่ารักของตัวเอง โดยเฉพาะตอนอยู่กับเอ  :o8:
     แล้วนี้น้องบีกำลังกลับมาแย้ว  :กอด1: แล้วน้องว่านจะทำงัยเนี่ย  :เฮ้อ:
รักน้องบี แต่ก็ห่วงน้องว่านด้วย  :L2:
หัวข้อ: Re: น้องชาย 2 ( Up ช่วงที่ 24 + 25 - ใกล้ได้เปิดภาคไดอารี่แล้ว : 02/06/11 )
เริ่มหัวข้อโดย: me_alone ที่ 04-06-2011 00:14:11
ช่วงที่ 26



“ตรู๊ดดดดด......ตรู๊ดดดดดด......ฮัลล โหล๋ววว”
“พี่กำลังจะออกจากบ้านแล้วนะ”
“อื่อๆ กำลังรอม๊าอยู่”
“#$@%^$^#^#” เสียงอะไรบางอย่างแทรกเข้ามาระหว่างที่ผมคุยอยู่กับบี
“เงียบๆหน่อยซิ๊ พี่คุยธุระอยู่เห็นไหม” บีพูดขึ้นเสียงกับที่มาของเสียงรบกวน
“ใครเหรอ”
“น้องผม มันจะไปด้วย” บีพูดเสียงเซ็งๆ
“อืมมม งั้นเดี๋ยวพี่ไปถ่ายรูปรอแถวนั้นนะ ถ้ามาถึงบีก็โทรหาพี่แล้วกัน”
“ได้คร้าบบบ”


        วันนี้ผมรู้สึกดีใจจนบอกไม่ถูก นิยายเหรอ....เก็บไว้ก่อนแล้วกัน ผมรีบเปลี่ยนชุดก่อนคว้ากระเป๋ากล้องวิ่งออกจากบ้านอย่างรวดเร็วหลังจากวางสายจากบีเสร็จ.....ไม่ได้เจอกันตั้งนาน....โตขึ้นขนาดไหนแล้วน๊า.....พอถึงยิมผมก็ฆ่าเวลาด้วยการไปถ่ายภาพเนื่องจากไนท์ก็ยังไม่มา มาแค่ว่านกับโค้ช ปล่อยให้เค้าอยู่กันไปดีกว่า ไม่อยากไปนั่งขัดคอเค้า แล้วระหว่างที่ผมถ่ายภาพอยู่นั้นบีก็โทรเข้ามาอีกครั้ง


“ครับ”
“พี่เออยู่ไหนแล้ว”
“แถวยิมนี่ล่ะ แล้วบีถึงไหนแล้ว”
“ใกล้แล้วๆ พี่มารับผมที่รถหน่อย ผมไม่กล้าเข้าไปคนเดียว”
“อื่อ งั้นพี่รอหน้า 7 – 11 นะ”
“คร้าบบบ”


        คุยเสร็จผมก็รีบเก็บกล้องใส่กระเป๋าทันทีก่อนที่จะตรงไปที่หน้า 7 – 11 เพื่อรอรับบี....รถคัดแล้วคันเล่าวิ่งผ่านไป สายตาผมมองซ้ายที ขวาทีเพื่อมองว่าเมื่อไหร่บีจะมา....จะว่าผมก็พลาดนะน่าจะถามว่าบ้านบีเอารถคันไหนมา แล้วไม่นานเท่าไรนัก....รถสปอร์ตที่ผมคุ้นตาก็มาจอดข้างๆพลางบีบแตรให้ด้วย จากนั้นประตูรถก็เปิดออกช้าๆทันทีที่ประตูรถเปิดออกจนสุด น้องบีก็กระโดดออกมาเหมือนเมื่อก่อนไม่มีผิด


“พี่เอ....ดีคร้าบบบบ” บีหันมายกมือไหว้ผม ก่อนที่จะก้มลงไปเอากระเป๋า


        วันนี้บีใส่ชุดเท่มากๆครับ เป็นกางเกงยีนส์สีดำ รองเท้าผ้าใบคู่ใหญ่สีดำตัดขาว เสื้อขอกลมสีขาว แล้วก็เสื้อคลุมด้านนอกสีดำอีกหนึ่งตัว แถมด้วยสร้อยเงินอีกหนึ่งเส้นที่คอ ที่มือก็ใส่สร้อยข้อมือเงินแบบผู้ชายลายโซ่อีกหนึ่งเส้น เป็นหนุ่มแล้วซินะ....แต่งตัวซะ.....ทว่า....ไม่ใช่บีคนเดียวที่ลงมา.....พอบีออกมาพ้นประตู ปรากฏร่างเด็กชายตัวเล็กกว่าบีหน่อยหนึ่งอีกคนหนึ่งลงมาด้วย หน้าตาเหมือนบีมากมาย....เดาไม่ยากเลย น้องชายบีนั่นเอง


“พี่เอ...ฝากน้องด้วยนะ เดี๋ยวตอนเย็นผมมารับ” คุณพ่อน้องบีตะโกนออกมาจากรถ ผมก้มลงไปมองตามเสียง ก่อนจะยกมือไหว้แล้วพูดว่า
“ครับ เดี๋ยวซ้อมเสร็จแล้วผมโทรบอกนะครับ” พอผมพูดจบคุณพ่อน้องบียิ้มให้ผมอีกครั้งก่อนจะออกรถไป
“น้องบีเหรอ” ผมถามบีขณะที่บีกำลังยืนอยู่ข้างๆเด็กผู้ชายคนนั้น
“ช่ายย ขี้ดื้อมาก” บีรีบบอกสรรพคุณน้องออกมาทันที
“เหมือนพี่ชายล่ะมั้ง อิอิอิ”
“ม่ายยย ผมออกจะเรียบร้อยพี่ก็รู้ อิ๊อิ๊อิ๊” บีพูดจบก็ยิ้ม
แล้วผมก็ก้มลงมาข้างๆแก้มน้องแล้วกระซิเบาๆว่า “คิดถึงจัง”
“....”
“ไปซื้อน้ำปะ....” ผมตบไหล่บีเบาๆก่อนจะพาบีเข้าไปซื้อน้ำเหมือนที่เคยทำ....จูงมือบีเข้าไป....
“แป๊บเดียว...สูงขึ้นเยอะเลยเน๊าะ” ผมพูดพลางลูบๆหัวบีขณะกำลังอยู่หน้าตู้แช่น้ำ
“นิ๊ดเดียวเอง” บีหันมาพูดกับผม ตอนนั้นผมก็มองน้องชายบีที่ยืนสงบเสงี่ยมเจียมตัวอยู่ข้างๆบี
“น้องไม่เห็นดื้อเลย”
“หึ เดี๋ยวมันก็ดื้อ” บีพูดพลางยิ้มๆให้น้อง
“แฮะๆๆ” น้องชายบีหันมามองบีก่อนจะมองผมพลางหัวเราะเบาๆ

        หลังจากเลือกน้ำเสร็จแล้วผมก็เดินกับบีไปจ่ายเงิน

“แปดสิบบาทคะ” พนักงานขายพูดขึ้นขณะที่กำลังเอาของใส่ถุงให้ไปด้วย
“พี่จ่ายให้นะ” ผมหันไปพูดกับบี
“ไม่เอา...ผมจ่ายเอง เกรงใจพี่”
“ไม่เป็นไร เน๊าะๆ ไม่ได้เจอกันตั้งนาน”
“ก็ได้”


        แล้วผมกับบีก็เดินจูงมือกันกลับไปที่ยิม ระหว่างนั้นบีก็เล่าเรื่องต่างๆช่วงที่ไม่ได้มาให้ฟัง น้องชายบีเองก็น่ารักไม่แพ้พี่ชายเค้าเลย แต่ดูท่าทางจะกวนมากกว่าบีซะอีก...คงจะยังไม่คุ้นเคยกันน้องเลยยังไม่ออกลาย พอมาถึงยิมก็พบกับโค้ช ว่าน เกม ริว ฟิว พลอย ส้ม รวมถึงน้องๆคนอื่นๆอีกสามสี่คนนั่งเล่นกันอยู่


“พี่เอ ดีคร้าบบบ” เกมหันมาไหว้ผมก่อนที่น้องคนอื่นๆจะหันมาไหว้ตามกัน
“อ่าว บี กลับมาเรียนคืนแล้วเหรอ” โค้ชพูดทักบีขึ้นมา
“ครับ”
“ใครเหรอพี่เอ” พลอยหันมาถามผม
“น้องบีหน่ะ สมาชิกเก่าพอดีหยุดเรียนไปพักหนึ่งแล้ว เพิ่งกลับมา”
“.....” ว่านเงียบกริบไม่พูดอะไรสักคำ


        แล้วผมกับน้องๆก็เริ่มคุยกันอย่างสนุกสนาน วันนี้ผมนัดน้องๆไปวิ่งเล่นที่สนามข้างนอกกันครับ สนามที่ว่านี่เป็นสนามกีฬาครับอยู่ไม่ห่างจากยิมเท่าไหร่เคยเกริ่นว่าจะมากันหลายครั้งแล้ว แต่ก็ไม่ได้มาสักที วันนี้เลยจะเป็นวันเจิมวิ่งวันแรก ก่อนถึงเวลาซ้อมเกือบๆครึ่งชั่วโมงได้มั้งครับวันนั้นโค้ชให้น้องๆที่ยังไม่เปลี่ยนชุด ไปเปลี่ยนชุด....แน่นอน....ผมให้บีรอเข้าไปเป็นคนสุดท้าย พอทุกคนเปลี่ยนเสร็จหมดแล้วผมก็พาบีเข้าไปเข้าไปในห้องแปลี่ยนชุด...ทว่า....น้องชายบีเข้ามาด้วยอะครับ.... ผมเลยเลี่ยนชุดให้น้องชายบีแทน เพราะน้องชายบีเพิ่งเคยมาซ้อมครั้งแรกยังใส่ชุดไม่เป็น ผมกับบีเลยช่วยกันแต่งตัวให้ พอแต่งตัวให้น้องเสร็จ น้องก็ยืนมองผมกับบี.....


“รออะไร เสร็จแล้วก็ออกไป” บีหันไปพูกับน้องก่อนที่น้องชายบีจะออกจากห้องไป


        พอน้องชายบีออกไปผมคว้าตัวบีเข้ามากอดทันทีก่อนที่จะซุกลงไปที่คอบีเหมือนที่เคยทำ


“หายไปไหนมาตั้งนาน คิดถึงแค่ไหนรู้หรือเปล่า” ผมพูดออกมาเบาๆ
“อื่อ”


   แล้วผมก็ถอดเสื้อคลุมของบี ก่อนจะถอดเสื้อคอกลมสีขาวออก.....บีโตขึ้นเยอะเลย....ร่างกายเปลี่ยนไปมาก เหมือนก่อนเนื้อตัวบีถึงจะมีกล้ามบ้างอะไรบ้างแต่ก็ดูเรียบๆกว่านี้ ตอนนี้กล้ามเนื้อบีขยายใหญ่ขึ้นตามวัย.....เป็นหนุ่มแล้วซินะ.....ผมก้มลงซุกที่อกบีเบาๆ.....กลิ่นบีก็ยังหอมเหมือนเคย....ผมดีใจจนบอกไม่ถูก เหมือนครั้งหนึ่งของที่สำคัญมากๆชิ้นหนึ่งของผมหายไป....แล้ววันนี้ผมก็ได้กลับมาคืน....ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้ผมคิดว่าคงไม่ได้เจอบีอีกแล้ว.....ผม....อธิบายไม่ถูก....แล้วผมก็จับแก้มบีไว้ก่อนที่จะจูบบีเบาๆ.....ก่อนที่จะเริ่มถอดกางเกงให้บี ท่าทางของบีดูเฉยๆเหมือนกับเมื่อก่อนไม่มีผิด ไม่มีท่าทีเขินอายอะไรเลย แล้วผมก็ถอดกางเกงบีออก....บียังคงใส่กางเกงในสีขาวยี่ห้อเดิม.....ผมก้มลงไปหอมบีน้อยเบาๆ ก่อนที่จะเริ่มแต่งตัวให้บี คาดสายให้บี หลังจากแต่งตัวให้บีเสร็จผมก็ดึงมาบีกอดจากด้านหลัง แล้วก็ซุกหลังคอบี ผมไม่อยากปล่อยบีไปเลย อยากกอดบีแบบนี้ไปเรื่อยๆ....แต่มันก็ทำไม่ได้ หลังจากแต่งตัวเสร็จแล้ว ผมก็พาน้องออกไปวิ่ง ที่สนามกีฬามันมีทางวิ่งอยู่สองทางครับ ทางรอบสนามบอลด้านในอัฒจันทร์เป็นสนามสำหรับวิ่ง พื้นสนามเป็นพื้นยางนุ่มเท้า.....ส่วนเส้นรอบนอกอัฒจันทร์จะเป็นพื้นลานยางแข็งๆ พอไปถึงขณะที่กำลังยืนคุยกันอยู่ ไนท์ ก็ตามมาติดๆ


“พี่เอ ดีครับ” ไนท์ยกมือไหว้ผม
“สรุปวิ่งด้านในนะ” ผมพูดกับน้องๆ ซึ่งน้องๆส่วนใหญ่ก็ตามใจผมทว่า.....
“วิ่งรอบนอกโค้ชสั่งมา” ว่านพูดเสียงแข็งขัดขึ้นมา
“สนามด้านในมันถนอมหัวเข่ากว่าไหม” ผมถามว่านไป
“โค้ชบอกให้วิ่งรอบนอกสองรอบ รอบในมันเล็ก รอบนอกไกลกว่า” ว่านยังยืนกรานให้วิ่งรอบนอกอยู่
“ถ้ามันไกลกว่า งั้นวิ่งรอบในเพิ่มเป็น ห้า หรือ หกรอบแทนก็ได้นี่นา” ผมอธิบายให้ว่านฟัง
“ยังไงมันก็ไม่เท่ารอบนอกอยู่ดี” พูดจบว่านก็ออกวิ่งโดยเลือกเส้นทางด้านนอกเพื่อกดดันคนอื่นๆทันที
ผมหันไปมองน้องๆคนอื่นก่อนจะพูดว่า “ตามว่านก็ได้”


   ยังไม่ทันซ้อม....เมฆฝนก็ตั้งเค้าอีกแล้ว ทำเอาน้องๆในยิมหมดท่าทีสนุกสนานกันเลยทีเดียว ผมเลือกที่จะไม่ขัดว่าน เพราะถ้าขัดโดยให้น้องๆเลือก มันจะยิ่งทำให้ความตึงเครียดที่มีอยู่กระจายจาก ผม ว่าน โค้ช ไปสู่น้องๆคนอื่นๆได้ ดังนั้นเพื่อปะรโยชน์ส่วนรวมผมจึงให้น้องๆวิ่งตามว่านไป ส่วนผม บี น้องชายของบี พลอย เกม ส้ม ไนท์ ก็วิ่งไปเป็นกลุ่มเดียวกัน ระหว่างทาง พลอยดูมีท่าทีสนใจบีไม่ใช่น้อยๆ ชมบีเรื่องหน้าตาไม่หยุดหย่อนบีเขินจนแทบจะวิ่งตกข้างทางไปหลายที แถมพอน้องเขินพลอยกลับถูกใจซะงั้น โดยพลอยบอกว่า “เวลาบีเขินน่ารักมากกกก” รวมๆคือพลอยถูกใจบีว่างั้นก็ได้ แต่ยังไม่รู้นิสัยกัน ถ้ารู้ขึ้นมา หึหึหึ แล้วพลอยจะเข้าใจว่าทำไมป๊าบีถึงเน้นฝากฝังบีไว้กับผม

   หลังจากวิ่งเสร็จผมก็พาน้องเดินกลับยิม จากนั้นก็เริ่มวอร์ม บีมาวอร์มกับผมรวมถึงไนท์ด้วย ไม่นานการซ้อมก็เริ่มขึ้น ว่านเลือกจับคู่กับไนท์ อืมม ยังไม่เคยเกริ่นถึงหน้าตาไนท์เลย....ไนท์เป็นเด็กชายอายุสิบห้าปีสูงที่หนึ่งร้อยเจ็ดสิบเห็นจะได้ ผิวขาวอมเหลืองมีร้อยไหม้จากการถูกแดดอยู่ให้รู้ว่าไนท์เองก็เล่นกีฬากลางแจ้งมาบ้างเหมือนกัน รูปร่างจัดได้ว่าดีเลย เหมือนพี่ชายอ้นไม่มีผิด ส่วนหน้าตาก็ออกจะหล่อซ่า เสน่ห์อย่างหนึ่งของไนท์คือรอยยิ้มที่ค่อนข้างน่าสนใจ ทำให้สาวๆตามกันเยอะ ที่สำคัญไนท์เรียนเก่งครับ เกรดเฉลี่ยได้ที่ไม่ต่ำกว่าสามจุดเจ็ด แล้วเรื่องก๊อตผมก็ลืมบอกไปว่าก่อนบีมาไม่กี่วัน ก๊อตก็ออกไปเป็นนักกีฬาชนิดอื่นของโรงเรียน ทำให้ก๊อตมาซ้อมเทควันโดอีกไม่ได้ ทำให้เวลานี้ ว่านเลือกที่จะมาจับคู่กับไนท์แทน จนถึงเวลาเลิกซ้อมโค้ชก็เรียกน้องมานั่งรวมๆแล้วก็โม้ไปเรื่อยตามสูตร แต่ผมก็เริ่มสังเกตอย่างหนึ่ง เวลาที่โค้ชพูดเรื่องโกหกอะไรโค้ชจะหันมามองผมเห็นระยะๆ ส่วนวันนี้....โค้ชก็โม้....แต่พลาดแรงไปหน่อยตรงที่ว่า....มันเกี่ยวกับผมโดยโค้ชโม้ว่า.....


“เมื่อก่อนครูไปซ้อมยูโด แล้วครูไม่ได้บอกเค้าว่าครูซ้อมเทควันโด เชื่อไหมว่าเค้านินทายิมเทควันโดให้ครูฟังว่า คนสอนเทควันโดมันไม่เท่าไหร่หรอก ตอนนั้นครูก็ไมได้บอกเค้านะว่าครูเองก็สอนเทควันโด จากนั้นสองสามวัน มันมีพวกรุ่นพี่เราสี่ห้าคนใส่ชุดเทควันโดไปที่ยิมยูโด ตอนแรกเค้าคิดว่าจะมาหาเรื่อง แต่ที่ไหนได้เค้ามาหาครู ตอนนั้นโค้ชยูโดเลยเพิ่งรู้ว่าครูก็สอนเทควันโดด้วย จากนั้นโค้ชยูโดก็มาซ้อมเทควันโดด้วย แต่ซ้อมไปซ้อมมาพลาดถูกครูเตะเข้าปาก เลยไม่ได้มาซ้อมอีกเลย”

ผมนั่งฟังแล้วก็รู้สึกขำในใจลึกๆเรื่องจริงๆมันคือ....

“ตอนผมอยู่ ม.5 อะ ผมไปซ้อมยูโดกับพี่ๆที่มหาวิทยาลัย แล้วไม่ได้บอกเค้าว่าผมเล่นเทควันโด จนวันหนึ่ง มีน้องมาหาผมที่ยิมยูโด แล้วถือชุดเทควันโดไปด้วย พี่ๆที่ยิมยูโดเลยรู้ว่าผมเล่นเทควันโดด้วย จากนั้นพี่ประธานชมรมยูโดเลยตามผมมาซ้อมเทควันโดด้วย แต่มาได้ไม่นานก็ถูกรุ่นพี่อีกคนเตะถูกปากระหว่างซ้อมโดยไม่ได้ตั้งใจ จากนั้นพี่เค้าก็ไม่ได้มาอีกเลย”


   สรุปคือเรื่องนี้ผมเล่าให้โค้ชฟังโค้ชคงลืม แล้วมาแต่งว่าเป็นตัวเองซะงั้น แถมยังไปใส่ร้ายหาว่าเค้ามาพูดว่ายิมเทควันโดเราอีก ซึ่งผมไม่เชื่อหรอกว่าเหตุการณ์มันจะซ้ำซ้อนกัน เพราะยิมยูโดเปิดหลังจากผมเรียนเทควันโด แล้วผมก็ไปซ้อมตอนยิมยูโดเปิดใหม่ๆ จนถึงช่วงยิมยูโดปิด ก็ไม่เคยมีประธานชมรม หรือ โค้ชยูโดคนไหนมาซ้อมอีกเลย นอกจากพี่คนนั้นที่ตามผมมา......ช่างเค้าเถอะครับ อืมมม....ระหว่างที่โค้ชโม้....บีก็มานั่งที่ของเค้า....ผมกอดบีเหมือนที่เคยกอด บีก็เล่นมือผมเหมือนที่เคยเล่น ตลอดช่วงที่ผมกอดบีว่านเองก็หันมามองอยู่เรื่อยๆ ซึ่งนอกจากกอดแล้วผมยังซุกลงไปหอมต้นคอบีหลายครั้ง ไม่รู้ว่าว่านเห็นไหม จนกระทั่งเลิก ผมก็ยังนั่งกอดบีอยู่แบบนั้นพลางคุยกับบีน้องชายบีแล้วก็น้องคนอื่นๆไปเรื่อยๆ จนกระทั่งน้องๆเริ่มทยอยกลับ ผมก็เริ่มซุกไซ้บีมากขึ้น....ซึ่งว่านเอง....ก็นั่งอยู่ไม่ห่าง พักหนึ่งน้องชายบีก็มานั่งซบไหล่ซ้ายผมแล้วหลับ....


“วันนี้พี่ไปส่งไหม” ผมกระซิบถามบีเบาๆ
“นี่แหละ ผมถึงไม่อยากให้น้องมาด้วย” บีบ่น
“ทำไมล่ะ”
“ก็ถ้ามาด้วยก็ต้องมีคนมารับ”
“ไม่เป็นไร....”


   แล้วผมก็ค่อยๆสอดมือเข้าไปในเสื้อของบี.....ผมเอานิ้วลูบไล่ไปตามสีข้างของบี.....เนื้อตัวบีค่อนข้างแน่นทีเดียว ผมลูบผ่านสีข้างน้องขึ้นไปจนถึงอกก่อนจะนั่งเล่นนมน้องไปเรื่อยๆ บีจากที่คุยๆก็เงียบลงทันที หัวนมบีนุ่มจัง ผมเอานิ้ววนไปมาเรื่อยๆสักพักหนึ่งหัวนมบีก็แข็งขึ้นมา...เสียดายมือซ้ายผมทำอะไรมากไม่ได้เพราะน้องชายบีนอนหลับอยู่ จากนั้นผมก็เริ่มลูบไล้ไปทั่วอกบีด้วยนิ้วชี้กับนิ้วกลาง


“ตรงนี้ใหญ่ขึ้นนะ” ผมกระซิบพูดกับบีเบาๆขณะที่ผมกำลังลูบกล้ามอกของบี
“กินโปรตีน” บีพูดเบาๆ


   แล้วผมก็เริ่มลูบลงมาที่หน้าท้องน้อง....มันไม่เรียบ....ซิกแพกของบีถึงจะไม่มากมายอะไรแต่มันก็ชัดเจนขึ้นกว่าเดิมมาก ผมเอานิ้วชี้ลูบไปตามร่องกล้ามบีเรื่อยๆ  ก่อนที่ผมจะเอามือออกมา แล้วสอดเข้าไปในเสื้อบีอีกครั้งที่ใต้สาย ก่อนจะเอามือสอดเข้าไปในกางเกงบี......บีขยับตัวให้เล็กน้อย ก่อนที่ผมจะสอดมือลึกเข้าไปในกางเกงในของบี....ตอนนี้มันชุ่มเหงื่อน้องหน่อยๆ.....แล้วผมไม่นานผมก็ลงไปถึงบีน้อย.....เวลานี้บีน้องแข็งโป๊กเลย ขนาด....เท่าเดิมมั้ง......แต่ส่วนปลายดูจะใหญ่ขึ้นมา... ผมเอานิ้วไปลูบๆตรงโคนบีน้อย....บีน้อยยังไม่มีผม.........เวลานี้บีเริ่มตัวร้อนขึ้นมาหน่อยๆ หายใจแรงขึ้นอีกนิ๊ด....ผมเลยเอานิ้วนี้ไปลูบๆใต้หัวบีน้อยเบาๆ แล้วก็เอานิ้วโป้งลูบไปตามร่องหัวบีน้อย พักหนึ่ง....น้ำหล่อลื่นของบีก็ไหลออกมา.....ขณะที่ผมทำนี้ว่านก็นั่งอยู่ข้างๆนะครับ ไม่ใกล้ไม่ไกลเท่าไหร่ ซึ่งผมว่าว่านน่าจะรู้ว่ากำลังเกิดอะไรขึ้นกับบี แต่ว่านก็ไม่พูดอะไรได้แต่นั่งนิ่งๆ.... ผมก็นิ่ง......บีก็นิ่ง.....ขณะที่ผมกำลังทำให้บีอยู่นั่นบีน้องก็เริ่มมีน้ำหล่อลื่นไหลออกมามากขึ้นเรื่อยๆ ผมเลยเอานิ้วชี้กับนิ้วกลางโอบรอบบีน้อยแล้วแค่ส่วนหัว...แล้วเลื่อนขึ้นลงช้าๆ.....แล้วจังหวะนั้นเอง!!!.....


“ป๊าน้องบี Calling” ผมรีบเอามือขวาอกมาจากกางเกงบีแล้วเอามือซ้ายกดรับสายเนื่องจากมือขวาผมยังเปื้อนน้ำของน้องบีอยู่
“ครับ”
“พี่เอ...ผมรอที่หน้า 7 – 11 นะ เมื่อกี้ผ่านหน้ายิมแล้วมันไม่มีที่จอด”
“อ่าครับ” แล้วผมก็กดวางสาย
“ป๊ามารอรับแล้ว” ผมกระซิบบอกบีเบาๆ
“อื่อ”


   แล้วบีก็ปลุกน้องก่อนจะลุกขึ้นมาจัดเสื้อตัวเองใหม่อีกที แล้วก็....ล้วงมือเข้าไปจัดบีน้อยเองด้วย....ถ้าไม่มีว่าน หรือ น้องชายบีผมอยากจะล้วงเข้าไปจัดให้จังเลยอะ อิอิอิ.....แล้วผมก็เดินปิดไฟก่อนจะเดินจูงมือบีไปที่ 7 – 11 ระหว่างทางบีก็พูดถึงอ้น.....


“พี่เอ...ผมอยากให้อ้นมาเรียนด้วย”
“ก็ชวนมาซิ”
“อ้นไม่ยอมมา”
“ทำไมละ”
“อ้นไม่ชอบโค้ช”
“อืมมม....เดี๋ยวลองชวนอีกทีไหมล่ะ”
“ก็ได้”
“จะว่าไปคิดถึงอ้นเหมือนกันเน๊าะ โตขนาดไหนแล้วก็ไม่รู้” ผมพูดพลางยิ้มๆ
“มันก็ตัวเท่าเดิม”

   ระหว่างนั้นผมกับบีก็เดินผ่านร้านขายไก่....จำได้ไหมเอ่ย...ตอนนี้พัฒนามาเป็นสาขาของหกดาวแล้วนะ แล้วพอผมกับบีเดินไปถึง.....ราวกับว่า.....ว่านกับแม่ค้าคนนั้นจะถูกชะตากัน....บีหันไปมองทันทีแล้ววิ่งไปที่หน้าร้าน ก่อนจะถามว่า.....

“พี่ รับบัตรเครดิตยัง”
“อ๊ะ....หายไปไหนตั้งนาน” แม่ค้าคนนั้นลุกขึ้นมาพูดแกมตลกๆกับบี
“ก็หายไปนาน แล้วรับบัตรเครดิตยัง” บีพูดพลางหัวเราะ
“เคยรับจ๊ะ แต่พอหนูไม่มา ไม่มีใครมาใช้เลยเอาออกไปแล้ว”
“เหรอ...งั้นเอากลับมาใหม่นะ เดี๋ยวผมมาใช้บริการ อิ๊อิ๊อิ๊” บีหัวเราะชอบใจ

   ก่อนจะเดินมาจับมือผมแล้วเดินไปที่ 7 – 11 ต่อ

“ไปแกล้งพี่เค้า” ผมพูดพลางลูบๆหัวบี
“อิอิอิ” บีหันมายิ้ม

   ตอนนั้น...ว่านเดินตามมาเงียบๆ....ว่านไม่พูดอะไรเลย จนกระทั่งผมส่งบีเสร็จผมก็พาว่านไปนั่งทานก๋วยเตี๋ยว....ระหว่างรอก๋วยเตี๋ยว....จู่ๆว่านก็พูดขึ้นว่า...

“มือหายแล้ว”
“ก็ดีแล้ว” ผมตอบกลับไป
“.....”


   วันนั้น.....ขากลับผมจำได้ว่า.....เป็นครั้งแรกหลังจากที่ว่านเย็นชาใส่ผม.....ที่ว่านเอานิ้วมาจิ้มๆหลังคอผมเบาๆ....แต่ผมก็ไมได้ใส่ใจอะไร.....พอมาถึงบ้านว่าน....บ้านว่านก็เงียบงันเหมือนเคย.....ทำไมว่านถึงต้องชักพาให้ตัวเองอยู่กับความเงียบเหงาด้วยนะ.....ทั้งๆที่ผมเองก็พยายามดึงเค้าออกมา เหมือนจะดึงออกมได้แล้ว.....แต่เค้าก็มีอันต้องกลับมาอีกจนได้.....หรือผมยังใช้ใจดึงเค้าไม่มากพอ.....หรือเพราะผมยังเผื่อมันไว้ให้บีอยู่....ผมเลยไม่ทำอะไรลงไปให้มันสุด.....แม้แต่คำว่ารักผมก็ยังไม่เคยบอกว่านแม้สักครั้ง......



To Be Con
หัวข้อ: Re: น้องชาย 2 ( Up ช่วงที่ 26 - ใกล้ได้เปิดภาคไดอารี่แล้ว : 04/06/11 )
เริ่มหัวข้อโดย: me_alone ที่ 04-06-2011 00:25:02
คนแรกของตอน25
อย่างแรกขอบคุณเอมากเลยสำหรับคลิบเทควันโด้ สุดยอดจนน่าเรียน ถึงแม้อายุจะมาก จะได้มาปรับปรุงวิชาป้องกันตัวที่มีอยู่ให้มันดีขึ้น(ปราณกังฟูและคาราเต้) :z6:
อย่างที่สอง อ่านตอน24-25แล้วจากใจว่า ผมเจ็บไม่น้อยไปกว่าคุณเอเลย(สงสัยอินจัดคิดถึงตอนที่ลูกศิษย์ตัวเองงอน)
แต่.....อย่าน้อยความรักไม่ได้ทิ้งคุณเอ แล้วส่งน้องบีกลับมา คุณเอคงมีกำลังใจขึ้นนะ :sad4:
อย่างที่สาม ตอนนี้ไม่รุ้ว่าเป็นไงนะ แต่อยากบอกว่า อย่าทิ้งว่านนะไม่งั้นว่านจะเป็นผู้ใหญ่ที่เห็นแก่ตัวในอนาคตแน่ แต่กลับกันก็สามารถเอาน้องบีเป็นแบบอย่างไว้สอนน้องว่านก็ดี แต่อย่าทำแบบโค้ชนะไม่งั้นว่านคง....คิดว่าเอคงรู้ :3125:
อย่างที่สี่ ความคิดเอมั่นคงดีและจงมั่นคงต่อไปนะ เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์ และเมื่อถึงเวลาทุกคนและและวัฏจักรรอบตัวจะเข้าใจเราเอง (พูดยังกะนักวิชาการหรือนักเทศน์เลยเรา)  o13
เป็นกำลังใจให้เขียนต่อไปนะ ผมคงต้องไปสอนหนังสือไอ้ดื้อ3ตัว อีกอาทิตย์คงได้มาอ่านต่อ :z10:
:กอด1: ~ ขอบคุณสำหรับความคิดเห็นดีๆ ในอย่างที่สามผมเอาไปคุยกับพี่ป้อมแล้วเรื่องนี้



ว้าวววววววววว
ยินดีต้อนรับกรกลับมาของน้องบีค่าาาา
น้องว่าน อืม.............ยังไงดีล่ะ
จะว่าน้องยังเด็กก็เป็นแค่คำปลอบใจยังไงก็ไม่รู้สิคะ คุณเอ
สงสารก็สงสารอยู่ แต่น้องเหมือนกับ "ตบหัวแล้วมาลูบหลัง"
หรือคิดไปเองก็ไม่รู้สิ
น้องน่าสงสารที่ไม่มีใครคอยแนะนำให้คำปรึกษา "ที่ถูกต้อง"
ก็เลยเลือกเชื่อตัวเองว่าใครน่าเชื่อถือมากกว่า
แล้วตอนที่มาติด"พี่เอ"ก็คงเป็นที่รู้สึกอบอุ่น อ้อนได้ แล้วก็ได้รับความรักและการดูแลที่"พิเศษ"
พออะไรๆที่มันมากระทบ แถมยังถูกยกให้ตัวเองรู้สึกว่าระดับสูงกว่า น้องก็เลย.................
เฮ้อออออออออออออ
กลัวว่าน้องจะเก็บกด หากไม่มีเทควันโดนี่น้องอาจเตลิดได้เลยนะคะ
มาแยกตัวนี่ยิ่งยากค่ะ เด็กแบบนี้แก้ยากกว่าเด็กดื้ออีก เพราะเค้าคิดว่าตัวเองถูก

ยังไงก็เป็นกำลังใจให้คุณเอนะคะ
ฝากความคิดถึงให้น้องบี
แล้วก็ฝากความห่วงใยให้น้องว่านด้วยค่ะ
:กอด1: ~ ขอบคุณสำหรับอีกความเห็นดีๆ วันนี้ผมคุยกับพี่ป้อมในส่วนของที่ผมเน้นดำแล้วครับ พี่ป้อมเองก็เห็นด้วยว่าการที่ว่านเก็บอะไรไว้คนเดียวตลอด มันน่ากลัวกว่าคนที่มีอะไรก็พูดออกไปซะอีก



ยังไปส่งว่านอีกอ่ะ
เป็นนู๋ละลาขาด
ว่านน่ะเค้าเรียกว่ามองข้ามสิ่ง
ใกล้ตัว
ไม่ว่านหรือบีนู๋อยากให้พี่เอ
หนักแน่นให้มากขึ้น
รักตัวเองก่อนนะ
อย่าให้เด็กมาปั่นเรา
:กอด1: ~ ขอบคุณมากๆสำหรับกำลังใจนะครับ....ปรกติผมห่วงคนอื่นมากกว่าห่วงตัวเองอยู่แล้ว....ยิ่งกับคนที่ผมรู้สึกพิเศษด้วย....ไม่ว่าเค้าจะทำไม่ดีกับผมยังไง....ผมก็โกรธเค้าไม่ลงหรอกครับ



วะวะวะว้าว นางเอกตัวจริงกลับมาแล้วอืม เดี่ยวก็คงมีปัญหากับว่านแน่ๆๆๆๆ ว่านคงรู้สึกแบบว่า มีคนมาแย่งสิ่งสำคัญไป ดีละ คราวนี้จะได้เห็นว่า ตัวจริงกับความจริง มันเป้นเช่นไร
:กอด1:



น้องว่านน่าเป็นห่วงนะ
   ด้วยเป็นวัยทีน อารมณ์ ร่างกาย ฮอร์โมน ก็เปลี่ยนแปลงเยอะ  + พื้นฐานความอบอุ่นของครอบครัวคาดว่าจะน้อยนะ (ที่เอเล่ามาน้องต้องอยู่คนเดียวบ่อยๆ แล้วก็ไม่มีพี่ น้องด้วย) + นิสัยของน้องว่านเอง ที่มีความมั่นใจ เชื่อมั่นตัวเองสูง (เพราะอยู่คนเดียวบ่อยเลยต้องคิดเอง ตัดสินใจเอง ขาดคนแนะนำ) มุ่งมั่น
   แต่ขณะเดียวกัน ก็ชอบทำตัวแปลกแยก เห็นได้จากชอบหามุมสงบอยู่คนเดียวบ่อยครั้ง มีความยืดหยุ่นน้อย กดดันคนรอบข้างด้วย  (ตอนเพื่อนในห้องคุยเสียงดังน้องก็ไปว่าเพื่อน จนเพื่อนๆไม่ชอบ  หรือตอนซ้อมเทควันโดแม้โค้ชจะซ้อมหนักจนเพื่อนเหนื่อย แต่ว่านก็ยังไม่หยุดซ้อมทำให้โค้ชอดชมว่านไม่ได้ กลายเป็นความกดดันให้เพื่อนไป)
    ทั้งหมดที่กล่าวมาจากความเห็นส่วนตัว ถ้าน้องเจอคนดี ก็จะประสบความสำเร็จได้ไม่ยาก  แต่ถ้าเจอมารนำทางอ่ะนะ ก็หลงผิดแบบไม่รู้ตัวเลย (อย่างที่น้องเจออ่ะนะ ตอนอาจารย์กบมาสอบนั่นแหละเห็นทันตาเลย)
    ถ้าน้องว่านยังไม่รู้ถูก รู้ผิด หรือมีคนแนะนำเรื่องนิสัยอ่ะนะ คงจะอยู่ในสังคมลำบาก เพราะยังงัยมนุษย์ก็เป็นสัตว์สังคม ต้องอยู่ร่วมกัน เอื้อเฟื้อ ช่วยเหลือกัน ถ้าน้องปรับนิสัยให้ยืดหยุ่น รับฟังคนอื่นให้มากขึ้นก็จะมีคนรักมากขึ้นนะ  เพราะมุมอื่นน้องก็ยังมีความน่ารักของตัวเอง โดยเฉพาะตอนอยู่กับเอ  :o8:
     แล้วนี้น้องบีกำลังกลับมาแย้ว  :กอด1: แล้วน้องว่านจะทำงัยเนี่ย  :เฮ้อ:
รักน้องบี แต่ก็ห่วงน้องว่านด้วย  :L2:
:กอด1: ~ ผมเอาความเห็นตรงนี้ปรึกษาพี่ป้อมแล้วครับ กำลังหาแนวทางการแก้ไข




:กอด1:
ขอขอบพระคุณแทนน้องว่านด้วยนะครับที่มีคนห่วงใยใสใจเค้าขนาดนี้
ผมสัญญาไม่ว่าสุดท้ายจะเป็นได้แค่พี่น้องก็ตาม ยังไงผมก็จะไม่ทิ้งว่านให้ว่านต้องโดดเดี่ยวแน่นอน
ขอบคุณอีกครั้งสำหรับทุกความเห็น แล้วก็คำแนะนำนะครับ
หัวข้อ: Re: น้องชาย 2 ( Up ช่วงที่ 26 - ใกล้ได้เปิดภาคไดอารี่แล้ว : 04/06/11 )
เริ่มหัวข้อโดย: pobbmit ที่ 04-06-2011 01:13:32
ดีจัยจังที่บี กลับมาแล้ว พาน้องชายน่ารักมาฝากพี่เอ ในอนาคตอีกคนด้วย

ชอบอ่านตอนมีบีมากๆ น้องกวนๆ ตลกๆ น่ารักดีครับ

ไม่เหมือนตอนว่านอ่านแล้วเหมือนจะเครียด ซีเรียสๆ กว่าเยอะเลย

มาวันแรก น้องบีก้อโดนสำรวจซะทุกขุมขน ขนบีน้อยยังไม่มาดีจัง ถ้ามาเด๋วไปเล่นของน้อง แทนเนอะ5 5 5
หัวข้อ: Re: น้องชาย 2 ( Up ช่วงที่ 26 - ใกล้ได้เปิดภาคไดอารี่แล้ว : 04/06/11 )
เริ่มหัวข้อโดย: me_alone ที่ 04-06-2011 14:01:15
ดีจัยจังที่บี กลับมาแล้ว พาน้องชายน่ารักมาฝากพี่เอ ในอนาคตอีกคนด้วย
ชอบอ่านตอนมีบีมากๆ น้องกวนๆ ตลกๆ น่ารักดีครับ
ไม่เหมือนตอนว่านอ่านแล้วเหมือนจะเครียด ซีเรียสๆ กว่าเยอะเลย
มาวันแรก น้องบีก้อโดนสำรวจซะทุกขุมขน ขนบีน้อยยังไม่มาดีจัง ถ้ามาเด๋วไปเล่นของน้อง แทนเนอะ5 5 5
:กอด1: ~ น้องบีน่ารักสดใสครับ ต่างกับว่านค่อนข้างขรึมๆเครียดๆ ขนาดบีเองยังไม่ค่อยอยากยุ่งกับว่านเลย
หัวข้อ: Re: น้องชาย 2 ( Up ช่วงที่ 26 - ใกล้ได้เปิดภาคไดอารี่แล้ว : 04/06/11 )
เริ่มหัวข้อโดย: me_alone ที่ 04-06-2011 17:34:17
ช่วงที่ 27


                  หลังจากที่บีกลับมาซ้อมไม่กี่วัน พลอยกับบีก็ดูสนิทกันเร็วมาก แต่ดูท่าทีแล้วพลอยจะชอบบีแบบเป็นพี่น้องกันซะมากกว่า เพราะหลังๆดูจะเน้นแกล้งกันเล่นกันราวกับเป็นพี่น้องคลานตามกันมา ดูบีจะมีความสุขดีถึงแม้ว่าจะไม่มีอ้นมาก็ตามที ส่วนน้องชายบีเอง ก็เริ่มออกลายซ่าเรื่อยๆ แถมยังเชื่อฟังพี่ชายมากมาย บีบอกให้ทำอะไรก็ทำตามหมดทุกอย่าง อืมม....ก็ดีแล้วที่เค้าเข้ากันได้ดี......ส่วนว่าน....ทุกครั้งที่ผมกอดหรือใกล้ชิดกับบี ว่านก็จะหันมามองอยู่เนืองๆ......


“บีๆ ไป 7 – 11 ปะ” ผมเรียกบีขณะที่บีกำลังหยอกกับพลอยอยู่อย่างสนุกสนาน
“แป๊บหนึ่ง” บีหันมาตอบ ก่อนจะเล่นกับพลอยต่อ


                  จากนั้นผมก็นั่งมองบีเล่นกับพลอย สักพักเหมือนบาสจะเหนื่อยก่อน เลยเดินมานั่งตักผม...คงเพราะเห็นพี่ชายเค้ามานั่งบ่อยๆมั้งเลยมานั่งบ้าง แถมยังดึงๆมือผมไปกอดไว้อีก


“เหนื่อยแล้วเหรอ” ผมถามน้องชายบี
“ครับ”
“สนุกไหม”
“สนุก” น้องชายบีหันมาตอบพลางยิ้มๆ
“พี่บีบอกว่าบาสดื้อ บาสไม่เห็นดื้อเลย”
“อิอิอิ” น้องชายบีหัวเราะเบาๆ

                  ระหว่างที่ผมคุยกับน้องชายบีอยู่ ไม่รู้ว่าบีหยุดเล่นกับพลอยตอนไหน บีเดินมาหาผมแล้วพูดว่า

“ออกๆ ที่เฮีย” บีพูดขึ้น พอบีพูดจบบาสรีบคลานออกมานั่งข้างๆอย่างรวดเร็วแล้วบีก็นั่งลงมาแทน ก่อนจะพูดว่า
“พี่เอ....ปะๆ” บีพูดด้วยน้ำเสียงอ้อนๆ
“พี่เอหนูไปด้วย” พลอยพูดขึ้น
“ไม่ต้องตามไปเลยนะ กุ้งเผือก” บีหันไปพูดติดตลกกับพลอย....
“สนิทกันเร็วจริงมีฉายาให้กันแล้ว” ผมพูดพลางลูบๆหัวบี
“แบร่ กุ้งเผือกๆ” บีหันไปทำหน้าทะเล้นใส่พลอย
“พี่เอ ดูบีมันว่าหนู” พลอยฟ้องแบบติดตลก
“บาส จัดการเลย” บีหันไปมองบาสก่อนจะสั่งให้น้องไปแกล้งพลอย ทันทีที่รับคำสั่งบาสก็วิ่งไปกระโดดเกาะพลอยทันที
“พี่เอ....ดูดิ น้องรุมแกล้งหนู”
“ฮ่ะๆๆๆ” บาสหัวเราะร่า
   
                  จะว่าไป...ผมไม่เคยเห็นพลอยร่าเริงแบบนี้มาก่อนเลยนะคุยบ้าง ฮาบ้าง แต่มันไม่มากเท่านี้ระหว่างที่ผมกำลังยืนดูพลอย บี บาส หยอกกันอยู่นั้น....ว่านก็เดินมาสะกิดผมเบาๆ....แล้วพูดว่า....

“ขอเล่นโทรศัพท์หน่อย” ว่านพูดเสียงนิ่งๆ สายตาของว่านจ้องมองไปทางอื่น
“.....” ผมไมได้ตอบอะไรกลับไป
“อยากเล่นเกมที่พี่เคยเล่นให้ดูคราวก่อน”ว่านคงหมายถึงเกมนกโกรธที่ผมเอามาเล่นให้พวก เกม ริว ฟิว ดูคราวก่อน

                  ผมไมได้พูดอะไร....แต่อย่างที่บอกไป....ปรกติของส่วนตัว ผมจะไม่ให้ใครยุ่ง.....แต่ว่า....ผมกลับยื่นให้ว่านไปอย่างง่ายดาย พอว่านรับเสร็จว่านก็นั่งลงข้างๆจุดที่ผมยืน พลางกดหาเกมนกโกรธ แต่ดูเหมือนน้องจะหาไม่เจอ ผมเลยนั่งยองๆแล้วกดให้น้อง

“พี่เอ...ไปยัง” บีหันมาถามผม
“อื่อ ปะๆ”
“พี่เอ หนูไปด้วย” พลอยพูดขณะที่พลอยพยายามก้าวเท้าลากน้องชายบีที่เกาะอยู่ที่ขาตามพวกผมมา
“ปล่อยพี่น๊า” พลอยพูดกับบาส ดูเหมือนบาสจะชอบใจเลยแกะแน่นขึ้นไปอีก
“พี่เอ....” น้องพลอยเรียกผมอีกครั้ง
“บี บอกน้องปล่อยพี่เค้าได้แล้ว” ผมพูดกับบีพลางเอามือลูบๆหัวบีด้วย
“ก็ได้” บีหันมาพูดกับผมก่อนจะหันไปหาบาสแล้วพูดว่า “บาส ปล่อยพี่เค้า” สิ้นคำสั่งบีบาสก็ปล่อยขาพลอยทันที
“เชื่องเน๊าะ”  พลอยพูดพลางหัวเราะ


                  แล้วผมก็พาบีไป 7 – 11 ก่อนจะกลับมานั่งเล่นที่ยิมเหมือนเคย แล้วพลอยก็เริ่มถามเรื่องส่วนตัวของบีไปเรื่อยๆ ทั้งเรื่องเรียน เรื่องที่บ้าน บีเองก็เล่าให้พลอยฟังอย่างตั้งใจ รวมถึงไล่รายชื่อสัตว์เลี้ยงให้พลอยฟังด้วยว่ามีตัวอะไรบ้างแล้วก็ชื่ออะไรบ้าง พลอยเองก็แอบอึ้งที่บ้านบีเลี้ยงสัตว์มากมายขนาดนี้ ผมเลยบอกว่าบ้านพี่พื้นที่ใหญ่มาก ไม่แปลกที่จะเลี้ยงสัตว์ได้มากขนาดนั้น แถมดูเหมือนว่าทางบ้านบีจะไม่ขัดขวาง แต่ก็ไม่ได้ส่งเสริม กระนั้นป๊าบีก็ยังขุดบ่อเลี้ยงปลากระเบนให้บี


“นี่ๆ...พี่บีเคยเล่าให้พี่ฟังว่า พี่บีเคยจับบาสเหวี่ยงใส่กำแพง แล้วตกลงมาบนเตียงนอน จริงป่ะ”  ผมถามน้องชายบีที่นั่งอยู่ข้างๆ พอผมถามจบบาสหันไปมองบีแล้วยิ้ม ก่อนจะหันมาพูดว่า
“ใช่”
“หา....บีเคยจับน้องเหวี่ยงใส่กำแพงด้วยเหรอ” พลอยถามซ้ำด้วยน้ำเสียงตกใจเล็กน้อย
“ก็มันดื้อ”
“อิอิอิ” น้องชายบีหัวเราะถูกใจ
“ไม่กลัวน้องเจ็บเหรอ” พลอยถามบี
“ม่ายยยย ผนังห้องผมม๊าเอาฟองน้ำมาปูนุ่มจะตาย” บีอธิบาย


                  แล้วระหว่างที่คุยๆกันอยู่นั้น จู่ๆบีก็ลุกขึ้นไปหยิบอะไรสักอย่างในกระเป๋า จังหวะนั้นเองน้องชายบีก็เปลี่ยนที่มานั่งบนตักผมแทนทันที พักหนึ่งพอบีกลับมาไม่รู้ว่าว่านมาใกล้วงสนทนาตั้งแต่ตอนไหน เพราะผมนั่งมองมาทางพลอยอยู่ พอบีเดินมาถึง ว่านดึงบีไปนั่งกอดซะงั้น อย่างที่เคยเกริ่นไปว่าบีกลัวว่าน ทำให้บีนั่งให้ว่านกอดแต่โดยดี แล้วว่านก็ยื่นโทรศัพท์ให้ผมคืน ก่อนที่จะสวมกอดบีเหมือนที่ผมทำเป๊ะๆ ตามด้วย....ซุกคอบีต่อหน้าผมเฉยเลย....


“......”


                  คือเวลานี้ผมควรทำยังไงเหรอ ดีใจดีไหมที่คนที่ผมรู้สึกดีด้วยทั้งสองคนรู้สึกดีต่อกัน....หือ....งั้นก็สามพีหน่ะซิ ไม่ใช่ละ.....แล้วผมก็นั่งคุยไปเรื่อยๆ......แล้วช่วงนั้นเอง....ผมรู้สึกว่าจุดที่นิ้วชี้ผมตกอยู่บนตักของน้องบาสนั้น....มันไม่ได้นูนขึ้นตามรอยยับ.....ผมลองเอานิ้วขยับไปมาเรื่อยๆ.....มันค่อยๆขยายได้ด้วย.....ใช่เลย....อืมมม....รู้สึกเหมือนบาสจะชอบแฮะ ผมเลยเอานิ้วชี้ถูไปถูมาเรื่อยๆ จนกระทั่งเด็กๆในยิมทยอยกลับจนหมด เหลือแค่ผม ว่าน บี บาส ซึ่งตอนนี้บาสหลับไปแล้ว


“บีไปเรียนพิเศษวันไหนบ้างอะ” ผมถามบี เวลานั้นบียังอยู่ในอ้อมกอดของว่านอยู่
“ทุกวันเลย กลับค่ำมาก เนี่ยะผมเพิ่งว่า เพราะภาษาอังกฤษครบคอร์สแล้ว”
“เรียนเยอะแบบนี้ก็น่าจะเก่งขึ้นเยอะเลยหน่ะซิ”
“ม่ายยย ไปเรียนแบบนั้นผมว่าเสียเวลา อาจารย์เอาของเล่นมาล่อ คิดว่าผมเป็นเด็กเจ็ดขวบหรือไง ดูถูกกันชัดๆ” บีพูดพลางใส่อารมณ์นิ๊ดๆ
“อ่าว แล้วในคอร์สบีมีคนเรียนอายุเท่าไหร่บ้าง”
“ก็ของ ม.ต้น ผมอะเด็กสุดแล้ว”
“อืมม....ถ้าเรื่องภาษาอังกฤษปรึกษาพี่ว่านซิ พี่เค้าเก่งนะ”
“.....” ว่านพอถูกพาดพิง...ก็ยังเงียบได้อีก....
“จริงเหรอ” บีเงยหน้าถามว่านด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น
“อื่อ”
“ดีเลย เดี๋ยวสอนการบ้านผมด้วยนะ”
“....” ว่านยิ้มให้บีแทนคำตอบ
“ว่าแต่....ไมได้ยินเสียงแอ๊ะนานแล้ว อยากได้ยินอีก”
“แอ๊ะ” บีส่งเสียงแอ๊ะออกมาพลางทำท่าทางเขินๆ
“เบิ้ลสองได้ม๊ะ”
“.....แอ๊ะ แอ๊ะ” แล้วบีก็ทำท่าเขินมากกว่าเดิมอีก
“น่ารักอะ อิอิอิ” ผมพูดพลางหัวเราะ
“แล้วพี่ว่านล่ะ....แอ๊ะได้ไหม” บีเงยหน้าขึ้นไปถามว่าน
“.....” ว่าน...นิ่งได้อีก....สรุปนี่ว่านสื่อสารทางโทรจิตไปแล้วใช่ไหม
“น๊าๆๆ พี่ว่าน แอ๊ะ นะๆ” บีอ้อนว่าน พลางทำตาหวานๆใส่ด้วย
“.....” ปรกติผมไม่เคยเห็นบีอ้อนว่านแฮะ
“อะ...แอ๊ะ” ว่านส่งเสียงตามที่บีขอร้องออกมาเบาๆ
“อีกๆๆ”
“แอ๊ะ”

                  ให้ตายซิ...ว่านร้องแอ๊ะ.....น่ารักชะมัด แถมทำท่าเขินอีก...มาด เงียบ เข้ม ขรึม พลันหายแว๊บไปทันที ถ้าไปเล่าให้ใครฟังก็คงไม่เชื่อแน่

“สองแอ๊ะเลยพี่ว่าน” บีอ้อนต่อ
“แอ๊ะ แอ๊ะ”
“พี่เอ...พี่ว่านแอ๊ะได้ด้วย” บีหันมาพูดกับผมด้วยน้ำเสียงตื่นเต้นดีใจ พอบีพูดจบว่านก็เอามือบีไปกัดซะงั้น
“ฮ่ะๆๆๆ” บีหัวเราะชอบใจกับท่าทีเขินๆของว่าน



                  จากนั้นไม่นานป๊าบีก็มารับครับ เหลือแค่ผมกับว่านสองคนในยิม ผมไม่รู้นะว่าวันนี้ว่านนึกครึ้มอะไรถึงคว้าตัวบีไปกอด ปรกติว่านไม่เคยทำแบบนี้กับใคร กับก๊อตเองก็มีบ้างตอนซ้อม แต่ถึงกับดึงไปกอดแบบนี้ไม่เคยมี แถมดูเหมือนว่าว่านจะใจอ่อนกับบีแล้วด้วย จากที่บีขอให้ว่านร้องแอ๊ะ ปรกติเรื่องแบบนี้ไม่ใช่ง่ายที่ว่านจะยอมทำ.....แล้ว.....วันนั้นที่ผมไปส่งว่าน คงเพราะว่านดูอารมณ์ดีขึ้นแล้วมั้ง  ผมเลยลองคุยกับว่านเกี่ยวกับเรื่องต่างๆ...ว่านก็ตอบมาบ้าง เงียบบ้าง....จริงๆเรื่องเงียบใส่กันอะไรแบบนี้ผมไม่ปลื้มเท่าไหร่ จริงๆมันไม่ควรมีด้วยซ้ำ...แต่ว่านหน่ะซิ....เฮ้อ.....จะรู้ไหมว่าความเงียบที่ว่านมีให้มันทำให้ผมเจ็บ.....เหมือนว่าตอนนี้ใจผมไมได้มีแค่บีคนเดียวซะแล้ว..........แล้วนี่ก็เป็นอีกวันที่ว่านอยู่คนเดียว....ตามลำพัง....ผมไม่อยากให้ว่านต้องโดดเดี่ยว....ผมต้องทำยังไงดี......



To Be Con



ตอนนี้ัสั้นหน่อยนะครับ วันนั้นไม่มีอะไรน่าสนใจ....แต่มันน่าจดจำ...วันที่ว่านกอดบี วันที่ว่านร้องแอ๊ะ....วันที่ได้ปลุกตัวเล็กของน้องบาสครั้งแรก อิอิอิ.....
หัวข้อ: Re: น้องชาย 2 ( Up ช่วงที่ 26 + 27 - ใกล้ได้เปิดภาคไดอารี่แล้ว : 04/06/11 )
เริ่มหัวข้อโดย: reneisance ที่ 04-06-2011 20:38:32
555
หัวข้อ: Re: น้องชาย 2 ( Up ช่วงที่ 26 + 27 - ใกล้ได้เปิดภาคไดอารี่แล้ว : 04/06/11 )
เริ่มหัวข้อโดย: reneisance ที่ 04-06-2011 20:45:47
เอ่อ เหมือนกับว่า ว่านเข้ามาทำตัวแบบนั้นนะดูผิวเผินเหมือนจะดีนะแต่ คิดความรู็สึกมันบอกว่า มันมี นัย อย่างอื่นอีก ยังไงก็นะ ดูแลบีให้ดีละกันนะ
หัวข้อ: Re: น้องชาย 2 ( Up ช่วงที่ 26 + 27 - ใกล้ได้เปิดภาคไดอารี่แล้ว : 04/06/11 )
เริ่มหัวข้อโดย: bbyuqin ที่ 05-06-2011 09:31:44
ตอนนี้ว่านคงรู้สึกเหมือนตัวเองหมดความสำคัญลงแน่ๆเลย แต่ไม่พูดออกมา...
แล้วที่ดึงบีมากอดอาจเป็นเพราะ ไม่อยากให้พี่เอกอดบีหรือปล่าวว่านเลยกอดไว้เอง...
ปล.ขอกรี๊ดดด ดังๆ น้องบีกลับมาแล้ว  :กอด1:

+1 จ้า
หัวข้อ: Re: น้องชาย 2 ( Up ช่วงที่ 26 + 27 - ใกล้ได้เปิดภาคไดอารี่แล้ว : 04/06/11 )
เริ่มหัวข้อโดย: z-Time ที่ 05-06-2011 09:53:47
2 พี่น้อง บี-บาส น่ารักจังเลย  :man1:


น้องว่านก็ท่าทำตัวน่ารักๆ อย่างนี้ (ตอนเล่นกับน้องบี) เพื่อนๆคงเข้ามากกว่านี้  :L2:
หัวข้อ: Re: น้องชาย 2 ( Up ช่วงที่ 26 + 27 - ใกล้ได้เปิดภาคไดอารี่แล้ว : 04/06/11 )
เริ่มหัวข้อโดย: kokoky ที่ 05-06-2011 12:45:10
เท่าที่ฟังดู บรรยากาศอึมครึมเหมือนจะดีขึ้นนะคะ
น้องว่านที่รักษาระยะห่างก็ขยับเข้ามา
น้องบีช่วยสร้างโอกาสได้เยอะเลย
น้องบาสน่ารักมากกกกกกกกกกกก
เชื่อพี่ชายสุดๆ คำไหนคำนั้น น้องบาสตอนนั้นอายุเท่าไหร่หรอคะ

น้องว่านมีปฏิกิริยากับการกลับมาของน้องบี
แต่ก็ไม่รู้ว่าน้องคิดอะไรอยู่ดี เพราะน้องก็ยังมีออร่าที่ไม่สดใสเหมือนก่อน
อยากให้น้องว่านเปิดใจอีกครั้งรวมถึงเปิดใจกว่านี้จังเลยนะคะคุณเอ
ก็รู้ว่าพื้นฐานคนเราไม่เท่ากันแต่ก็อยู่ที่ตัวน้องเองว่าเลือกที่จะรับอะไร

ขอบคุณคุณเอค่ะ
ห่วงใยน้องว่าน
คิดถึงน้องบี     
เหมือนเดิมค่ะ :L2:
หัวข้อ: Re: น้องชาย 2 ( Up ช่วงที่ 26 + 27 - ใกล้ได้เปิดภาคไดอารี่แล้ว : 04/06/11 )
เริ่มหัวข้อโดย: •ไนท์คลุง• ที่ 05-06-2011 14:08:21
ว้าววว บีมาแล้วว :m1:

ทีนี้พี่เอจะเลือกใครล่ะเนี่ย  :confuse:
หัวข้อ: Re: น้องชาย 2 ( Up ช่วงที่ 26 + 27 - ใกล้ได้เปิดภาคไดอารี่แล้ว : 04/06/11 )
เริ่มหัวข้อโดย: Y2Y ที่ 05-06-2011 15:32:41
แอบตามาอ่าน สืบเนื่องมาจากทู้โน้นในห้องพูดคุย

คุณเอ แอบเจ้าชู้นะเนี่ยะ  อิอิ ล่อเล่น
หัวข้อ: Re: น้องชาย 2 ( Up ช่วงที่ 26 + 27 - ใกล้ได้เปิดภาคไดอารี่แล้ว : 04/06/11 )
เริ่มหัวข้อโดย: HydrA ที่ 05-06-2011 16:22:02
อาจเป็นเพราะว่านคิดว่าน้องคนสำคัญสำหรับพี่เอกลับมาแล้ว
อาจจะเหมือนมีคนมาแย่งความรักกลับคืนไป
แต่ว่านก็ยังคงเป็นว่านอ่ะนะ เดาใจยาก
หัวข้อ: Re: น้องชาย 2 ( Up ช่วงที่ 26 + 27 - ใกล้ได้เปิดภาคไดอารี่แล้ว : 04/06/11 )
เริ่มหัวข้อโดย: me_alone ที่ 05-06-2011 22:04:21
ช่วงที่ 28 END




                 ช่วงปิดเทอมหน้าร้อน...ก็ร้อนสมชื่อดีนะครับ วันนี้ผมเข้ามานั่งเล่นที่ยิมตั้งแต่เที่ยง เพราะพลอยอาสาจะสอนการบ้านปิดเทอมให้บีแล้วก็บาสป๊าน้องบีเองก็ดีใจที่มีคนให้ความรักความใส่ใจน้องเพิ่มมาอีก เวลานี้พลอยดูจะเป็นพี่สาวของบีเต็มตัวซะแล้ว วันนี้วันแรกของการสอนการบ้าน น้องๆมากันตั้งแต่ตอนเที่ยงเลยทีเดียว ผมเลยต้องมาเปิดยิมให้ ตอนแรกว่าจะกลับ....แต่ผมอยากอยู่กับบีมากกว่า ได้นั่งมองเฉยๆก็มีความสุขแล้ว
   

“นี่ๆ ข้อนี้ทำแบบนี้”
“แบบไหน”บีพูดทำหน้า งงๆ พลางเอาปากคาบปลายปากกา
“แบบนี้หรือเปล่าพี่พลอย”บาสพูดขึ้นพลางหยิบดินสอจากกล่องดินสอขึ้นมาเขียนบนกระดาษเปล่า
“ใช่ๆ บาสเก่งจังพี่สอนแป๊บเดียวก็จำได้แล้ว”
“อะไรพี่พลอยผมก็เก่งนะ แต่ไม่แสดงออก”บีพูดติดตลก พลางทำหน้าทะเล้นหน่อยๆใส่พลอย
“จริงเหรอ ไหนๆทำข้อนี้ให้พี่ดูหน่อย” พุดจบพลอยก็ชี้คำถามข้อต่อไปให้บีทำต่อ
“หมูๆ บาสดูพี่นะ”  บีพูดพลางยิ้มอย่างมั่นใจ ก่อนจะลงมือทำ พักเดียวบีก็ส่งกระดาษให้พลอยดู
“ถูกใช่ม๊ะ” บียิ้ม
“เออ จริงด้วย อะไรหลอกพี่เหรอ” พลอยพูดแล้วเอามือไปบีบๆแก้มบี
“โอ๊ยๆ พี่พลอยผมเจ็บน๊า”
“อิอิอิอิ” บาสหัวเราะถูกใจ
“ไม่ต้องมาหัวเราะเลย เดี๋ยวเหอะ” บีพูดพลางเอามือไปบีบๆแก้มบาสคืนบ้าง


                 เสียงหัวเราะสนุกสนานดังขึ้นมาเป็นระยะๆ....เหมือนพี่น้องกันจริงๆนั่นแหละ....จะว่าไป...ตลอดระยะเวลาที่ผมอยู่ยิมนี้มามันเพราะอะไรกัน....เพราะผมรักเทควันโด....หรือเพราะเทควันโดทำให้ผมได้เจอบีแทบทุกวัน.....แล้วทำไมพอบีหายไป.....ทำไมผมยังทนอยู่ทั้งๆที่โค้ชเองก็...ทำตัวให้หนักใจอยู่เรื่อยๆ......มันเพราะอะไรกันน๊า....ระหว่างที่ผมนอนฟุบคิดอะไรเพลินๆอยู่ที่โต๊ะ บีก็เดินมาหาผม ก่อนจะเอาหน้าวางบนโต๊ะแล้วจ้องหน้าผม แล้วเอาพวงกุญแจผมมาเล่นพลางมองหน้าผมไปด้วย......


“การบ้านเสร็จแล้วเหรอ”
“ช่ายยย”
“พี่พลอยสอนสนุกไหม”
“สนุก....แล้วทำไมพี่มานั่งคนเดียวล่ะ”
“พี่มีเรื่องให้คิดนิ๊ดหน่อยหน่ะ”


                 ระหว่างที่ผมคุยกับบีผมองมาเห็นพลอยกับลังนั่งสอนอะไรอะไรสักอย่างให้บาสอยู่


“พี่พลอยสอนการบ้านบาสด้วยเหรอ”
“เปล่า บาสถามเรื่องการบ้านผม บาสไม่เข้าใจบางข้อเลยให้พี่พลอยสอนให้อยู่”
“น้องเรียนเก่งกว่าทำยังไงเนี่ยะ”
“ไม่มีทาง....ผมไม่ชอบอะไรที่ท่องจำ ผมชอบแบบคิดๆมากกว่า”
“เหรอ”
“ช่ายยย อิอิอิ”


                 ผมรู้แล้วล่ะ....ว่าที่ผ่านมาผมอยู่ที่นี่เพราะอะไร....ผมอยู่รอด้วยความหวังลึกๆในใจ...ว่าสักวันบีต้องกลับมา รอเสียงหัวเราะ รอรอยยิ้ม แบบที่อยู่ตรงหน้าผมตอนนี้ไง


“หิวอะไรม๊ะ”
“แล้วแต่...”
“อ่าว จะแล้วแต่ได้ไง”
“ก็หิวก็ได้ ไม่หิวก็ได้ แล้วแต่พี่”
“งั้นหิวเน๊าะ”
“คร้าบบบบ”


                 พูดจบผมก็เดินไปหยิงเงินที่อยู่ในกระเป๋าก่อนจะถามพลอยที่กำลังนั่งสอนบาสว่า


“พลอย เอาอะไรไหม พี่จะไป 7 – 11”
“หนูไปด้วย” พูดจบยังไม่ทันที่พลอยจะลุกจากเก้าอี้
“บาสจับพี่พลอยไว้” บีออกคำสั่งกับบาสอย่างรวดเร็ว ทันทีที่บีพูดจบบาสก็กระโดดเกาะพลอยทันที
“บาส ปล่อยพี่”
“ไม่ปล่อย” บาสพูดแล้วยิ้ม
“ไม่ต้องไปเลย พี่พลอยเฝ้ายิมอยู่นี่แหละ เดี๋ยวผมซื้อมาฝาก” บีพูดกับพลอยเสร็จก็หันมามองผม
“ใจร้าย”
“อิอิอิ” บาสหัวเราะชอบใจกับท่าทีของพลอย


                 ดูเหมือนว่าพลอยจะยอมอยู่ยิมแต่โดยดีส่วนผมกับบีก็เดินไปซื้อของ หลังจากซื้อของเสร็จแล้วบีก็ชวนผมมานั่งเล่นที่ริมสระน้ำข้างๆยิมก่อนที่บีจะเริ่มเล่าเรื่องราวต่างๆที่ไปประสบพบเจอมา แต่แล้ว.....ผมก็เพิ่งจะรู้ว่าจริงๆแล้ว....ที่บีไม่ให้พลอยมา....เพราะบีมีเรื่องอยากคุยกับผมเป็นการส่วนตัว ตอนนั้นผมจำสีหน้าบีได้ดีเลย จากคุยสนุกๆอยู่ก็เงียบกริบลงทันที สีหน้าดูเคร่งเครียดขึ้นมา ก่อนจะพูดว่า.....


“พี่เอ...จะโกรธผมไหม....ถ้าผมจะเลิกเรียนเทควันโด”บีพูดจบ....ความรู้สึกของผมตอนนั้น....เหมือนตอนที่ผมถูกผู้หญิงบอกเลิกตอน ม.2 เลย มันไม่ใช่การบอกเลิกตรงๆ.....แต่มันอ้อมๆ.....
“เหรอ”ผมตอบไปสั้นๆ.....
“ไม่ครับ คือ....อาจไม่ได้มาบ่อยๆก็ได้....เพราะม๊าให้บีลงเรียนพิเศษเต็มเลย....เริ่มเรียน...ต้นเดือนหน้า” บีพูดเสียงอ่อยๆ
“ไม่เป็นไรถ้าว่าง.....ก็แวะมาเล่นบ้างก็ได้.....”
“......”
“......”


                 จริงๆ.....ผมรู้สึกเจ็บที่อกจนบอกไม่ถูกทันทีที่ได้ยินบีบอกแบบนั้น....แต่ไม่นานมันก็หายไป....ผมนั่งจับมือบีอยู่ตรงนั้นนานแค่ไหนไม่รู้ ก่อนที่ผมจะพาบีเข้ามาที่ยิม...


“พี่เอ....ไปไหนตั้งนาน ไหนของหนู” พลอยวิ่งมาหาผมตั้งต่ผมเปิดประตูยิม
“อ่า...ลืม”
“งอน....ไปตั้งนานแถมลืมของหนูอีก”
“โทษที”
“งั้นหนูไปซื้อเองก็ได้ บาสไปด้วยกันปะ”
“เฮียบี...บาสขอไปซื้อขนมกับพี่พลอยนะ” บาสเดินมาขออนุญาตจากบี
“ก็ไปซิ”


                 ทันทีที่พลอยกับบาสไปพ้นยิม....ผมหิ้วบีเข้าห้องแต่งตัวทันที....ผมจ้องตาบีแล้วพยายามหาคำตอบว่าผมกับบีตอนนี้เราเป็นอะไรกัน.....ผมรู้สึกกับบียังไง.....ที่บอกว่ารอบี......มันจริงไหม.....แล้วผมก็จูบปากบีก่อนจะสอดลิ้นเข้าไป


“....”


                 ผมนี่บ้าจริงๆ.....ทั้งๆที่ก็น่าจะรู้อยู่แก่ใจว่ามันเป็นไปไม่ได้....แต่ลึกๆก็ยังคิดเข้าข้างตัวเองอยู่เรื่อย จริงๆผมน่าจะรู้ตัวตั้งนานแล้ว....ว่าผมกับบีมันเป็นไปไม่ได้.....ที่สำคัญถ้าผมรักน้องจริงผมควรให้น้องไปในทางที่ดีกว่านี้....น้องควรจะมีแฟนเป็นผู้หญิง แต่งงาน มีครอบครัว มีลูก......ผมนี่มันเห็นแก่ตัวจริงๆที่คิดจะรั้งน้องเอาไว้......


“.....”


                 ผมสวมกอดบีอีกครั้งก่อนจะซุกเข้าไปที่คอของบี.....


“พรุ่งนี้ก็วันที่หนึ่งแล้ว” ผมกระซิบข้างหูบีเบาๆ
“ครับ”
“ตั้งใจเรียนนะ”
“อื่อ”
“.....”สุดท้าย.....ผม....ก็ยังไม่กล้าเอ่ยคำว่ารักออกไปอยู่ดี.....เพราะผมรู้ว่า....มันไม่ควร....


                 ขอบคุณสำหรับความทรงจำดีๆที่เพิ่มเข้ามาอีกตั้ง 16 วัน ขอบคุณน้องบีที่ทำให้หัวใจที่เหี่ยวแห้งของผมได้ชุ่มชื้นขึ้นมา ขอบคุณที่ทำให้ผมเลิกที่จะเห็นแก่ตัว ขอบคุณที่ทำให้ผมได้คิดอะไรเพื่อคนอื่นอีกหลายอย่าง จนถึงตอนนี้.....ผมก็ยังไม่เคยเจอบีอีกเลย.......

------------------------------------

                 หลังจากวันนั้นผมก็เพิ่งจะรู้ว่าจริงๆแล้วที่ผมยังอยู่ยิมแรกๆก็จริงอยู่ที่ผมหวังลึกๆว่าบีจะกลับมาสักวันหนึ่ง แต่เอาเข้าจริงๆผมก็เพิ่งจะรู้ว่าผมปันใจจากบีไปให้ว่านซะแล้ว.....อาจเพราะความคิดลึกๆในใจที่รู้อยู่ว่ากับบีเป็นไปไม่ได้เลยตัดใจ แต่อีกใจก็ยังแอบหวังอยู่ดี มันเลยทำให้ผมครึ่งๆกลางๆ แล้วหลังจากที่ผมคิดกับบีได้ในตอนนั้น แต่กับว่าน....ผมยังรู้สึกมีหวัง.....ผมรู้สึกได้มากกว่าตอนรู้สึกกับบีซะอีก......แต่ผมก็ทำอะไรไมได้ แสดงออกไม่ได้ เพราะว่านไม่เคยทำตัวอ่อนแอให้ผมได้ดูแลเค้าสักที แถมหลังๆการวางตัวห่างเหินยิ่งทำให้ผมไม่มีโอกาสได้แสดงออกเลยว่าผมห่วงเค้ามากแค่ไหน เพราะอย่างที่หลายคนเดาได้....ว่านเข้าข้างโค้ชแบบไม่ลืมหูลืมตาจริงๆ ไม่ว่าเรื่องนั้นจะผิด....หรือว่าถูก....ผมเป็นห่วงตรงนี้ที่สุด....เพราะอย่างที่ผู้อ่านเดาได้....แนวคิดของโค้ชเค้า...มันสวยหรู ทำแล้วเป็นจริงได้แค่ในนิยาย การ์ตูน หนัง ไม่ก็ละคร แถมคนที่ทำต้องเป็นพระเอกด้วย ไม่งั้นนโยบายแจ่มจรัสแค่ไหน ก็ต้องมีจุดอ่อนให้ต้องพังอยู่ดี

                 ในที่สุดผมก็ตัดสินใจที่จะไม่เข้าไปที่ยิมสักพักส่วนหนึ่งเพื่อทำใจเรื่องบีก่อน ตอนแรกก็คิดว่าจะสักวันสองวัน อีกทั้งว่านเองพอบีไม่อยู่แล้ว ว่านก็กลับมาเย็นชาเหมือนเคย บางครั้งหนักกว่าเคยด้วยซ้ำ จนผมไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ช่วงวันแรกๆที่บีหายไป ว่านเดินมาถามผมกลางวงสนทนาระหว่างผมกับเพื่อนๆเค้าว่า “สรุปพี่เอชอบใคร” สีหน้าว่านตอนนั้นมันเคร่งเครียดมาก จนผมรู้สึกว่าน้องจริงจัง ผมเลยส่งข้อความไปแทนคำพูดว่า “ว่านก็น่าจะรู้” ไม่รู้ว่ามันกำกวมไปไหมเพราะว่านก็น่าจะรู้ว่าผมดูแลเค้าพิเศษกว่าคนอื่น แต่ด้วยระดับการแสดงออกช่วงหลังๆ...ว่านอาจใจผิดก็ได้....ในที่สุดผมเลยตัดสินใจส่งข้อความไปหาว่าน ซึ่งผมก็ไม่รู้ว่าน้องจะอ่านไหม



"นั่งคิดอยู่หลายวันเรื่องที่จะส่งข้อความมาหาว่ามันจะเหมาะไหม
จะทำให้ว่านรำคาญหรือเปล่า
แต่สุดท้ายพี่คิดว่ามันก็ดีกว่าไม่ได้พูดไป

รู้หรือเปล่าพี่มานั่งคิดดูช่วงหลังๆที่พี่ยังไปซ้อมเทควันโดอยู่เพราะอะไร ทั้งๆที่งานยุ่งจะตาย
ก็เพราะ....ที่นั่นมีว่านอยู่

รู้หรือเปล่าพี่เคยไปดูหนังซ้ำเพราะว่านบอกพี่ว่าว่านอยากดู ทั้งๆพี่ไปดูมาก่อนหน้าแล้ว

รู้หรือเปล่าแค่ว่านโทรมาบอกอะไรพี่พี่จะรีบทำให้ทันที ทั้งๆที่กับคนอื่นพี่ไม่เคยทำให้เลย

รู้หรือเปล่าบางทีที่ว่านโทรมาบอกให้พี่ไปรับไปไหนมาไหน บางทีพี่ไม่ว่างทำธุระอยู่ หรือ ตอนนั้นที่พี่เพิ่งจะนอนตอน ตี 5 แล้วว่านโทรมาปลุกพี่ให้ไปส่งตอนเช้า พี่ก็ยังลุกไปทั้งๆที่เพิ่งจะนอน

รู้หรือเปล่าทุกครั้งที่ว่านเจ็บ พี่เป็นห่วงมากมายแค่ไหน ถึงคอยบอกคอยเตือนเรื่องซ้อมอยู่ตลอด

รู้หรือเปล่าทุกครั้งที่ว่านไม่สบายแล้วรู้ว่าคุณแม่ไม่อยู่บ้านพี่อยากจะมานั่งดูแลว่านที่บ้านด้วยซ้ำ

รู้หรือเปล่าเวลาที่ว่านเอ่ยขึ้นมาว่าอยากได้อะไร พี่แทบจะไปหาให้เดี๋ยวนั้นเลย ถ้าพี่สามารถหาให้ได้

รู้หรือเปล่าตอนเย็นที่ทานก๋วยเตี๋ยวกันแล้วพี่ต้องเลี้ยงน้องๆคนอื่นๆเพราะอะไร....เพราะมันจะทำให้พี่อยู่กับว่านนานขึ้นอีกหน่อย

รู้หรือเปล่าถึงตอนหลังเวลาไปไหนมาไหนว่านจะชวนคนอื่นไปด้วยแล้วพี่ต้องเลี้ยงพี่ก็ยอมเพราะอะไร...เพราะอย่างน้อยๆว่านก็ยังไปด้วย

ฯลฯ.....

พี่ไม่รู้ว่าจู่ๆว่านไม่พอใจอะไรพี่ บางทีก็มาเล่นด้วย บางทีก็หงุดหงิดใส่ จนพี่วางตัวไม่ถูก พอถามว่านก็ไม่บอก
ตอนหลัง พอเตือน หรือ แนะนำ อะไรว่านก็ทำเหมือนพี่ไปยุ่งเรื่องของว่าน
แถมพูดเล่นพูดหยอกอะไรก็ไม่ได้แล้ว ทุกครั้งที่ว่านตอบมาแบบนั้นมันเจ็บ
พอพี่ลองเฉยกับว่านดูบ้าง....ไม่รู้นะมันก็เป็นพี่ที่เจ็บเองอยู่ดี
ถ้าเป็นคนอื่นพี่คงไม่สนใจไปแล้ว แต่นี่เป็นว่าน

ไม่รู้ซิตลอดเวลาที่ผ่านมาไม่รู้พี่คิดไปเองหรือเปล่า ที่ว่านมาใกล้ชิดแบบนั้น ว่าว่านเองก็น่าจะรู้สึกเหมือนกัน

แต่มาวันนี้ขอบอกตรงๆว่าพี่เสียใจกับทุกอย่างที่พี่ทำให้ว่านรู้สึกไม่ดี
ขอโทษที่ทำให้ว่านไม่พอใจ ขอโทษถ้าทำให้ว่านเสียใจ
ตอนนี้พี่ไม่รู้เลยว่าว่านคิด หรือ รู้สึกอะไร

ถ้าว่านอ่านข้อความนี้จบพี่ก็ไม่รู้ว่าจะเป็นยังไงต่อไป
แต่ก็คงดีกว่าไม่พูดอะไรเลย
แต่ว่าหลังจากนี้ต่อไปจะเป็นไงก็ตาม
ขอให้ว่านรู้ว่า พี่ยังรัก แล้วก็ห่วงใยว่านเหมือนเดิมทุกอย่างนะ

แล้วก็...ขอบคุณสำหรับช่วงเวลาดีๆ
รอยยิ้ม เสียงหัวเราะที่ว่านเคยให้มา
พี่ว่า...มันคุ้มค่าที่สุดกับทุกอย่างที่พี่ทำให้ว่านไป ซึ่งมันอาจดูไม่มากมายอะไร
แต่ทุกอย่างที่ทำไป...พี่ทำด้วยใจนะครับ"



                 ระหว่างที่ผมได้เข้ายิมในช่วง 2 – 3 วันแรกนั้นเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น....เมื่อมีน้องหลายคนมาบอกผมตรงกันเรื่องที่โค้ชกล่าวตอนเรียกรวมก่อนเลิกซ้อมว่า.... “จริงๆแล้วไอ้เอมันก็ไมได้รู้เรื่องอะไรหรอก ทำผิดเยอะ จริงๆก็ไม่อยากให้มันมายุ่งเท่าไหร่” ผมเลยใช้เหตุผลนี้อ้างกับพี่ป้อมในการไม่เข้าไปที่ยิม อีกทั้งความคิดด้านมืดเข้าครอบงำ.....ผมโทรแจ้งน้องทุกคนว่า “พี่ไม่ได้เข้าไปพักใหญ่นะ” ซึ่งน้องๆก็ถามกลับคล้ายกันว่า “นานแค่ไหน” ผมจึงตอบไปว่า “ไม่รู้” หลังจากนั้นสามอาทิตย์เด็กๆที่ยิมลดลงเหลือสองคนจากยี่สิบสี่คน.....จากนั้นอาจารย์กบรวมถึงอาจารย์นพก็เรียกผม กับ พี่ป้อมเข้าไปคุย ซึ่งผมก็เพิ่งจะรู้ในตอนนั้นว่า....จริงๆพี่ป้อมเองมีแผนจะเลิกสอน แล้วก็ยกเด็กของพี่ป้อมทั้งหมดให้โค้ชไป ส่วนผมก็ถูกตำหนิที่ไม่ช่วยโค้ชดูแลยิม....แต่พอผมอธิบาย อาจารย์กบ กับ อาจารย์นพก็เข้าใจ แล้วสุดท้าย......โค้ชก็ถูกสั่งห้ามเข้ามายุ่งกับการสอนเป็นระยะเวลาสี่เดือน

----------------------------------------------------

                 ณ ปัจจุบันว่านก็ยังไม่คุยกับผมครับ ล่าสุดเมื่อวันจันทร์ที่แล้วที่ผมไปยิม ว่านเดินไปหลบผมหลังเสา....หลังตู้....หลังต้นไม้....หลังประตูด้วย....ถ้ามุดลงดินได้คงทำไปแล้วมั้ง.....พอผมเดินเข้าไปใกล้ว่านก็เดินออกไม่ยอมเข้าใกล้ ทว่า....ว่านก็ยังแอบมองผมอยู่เนืองๆ....แถมเวลาผมไปว่านจะมีพฤติกรรมแปลกๆ เช่น เกากำแพง ( เป็นแมวหรือไง ) ไปนั่งเล่นกับเสา ไปนั่งคุยกับล้อรถ นั่งนับเส้นไม้กวาด....ซึ่งผมก็แอบสงสัยนะว่าผมหายไปตั้งเดือนกว่าๆ ยังมีอะไรให้โกรธผมได้อีกเหรอ พี่ป้อมเองก็สังเกตได้ พลอยก็ยังไปถามอยู่เนืองๆแต่ว่านก็หลีกเลี่ยงที่จะตอบ ไม่เฉไปเรื่องอื่นก็เงียบไปเลยหรือผมจะถูกน้องเกลียดไปแล้ว.....ตอนนี้ผมกำลังคิดอยู่ว่าเอายังไงดีที่สำคัญตอนนี้เข่าว่านแย่มากแล้ว เมื่อวัน พฤหัสบดี ศุกร์ ที่ผ่านมา ผมได้ข่าวว่าถึงกับซ้อมไม่ได้เลยทีเดียวแล้วผมควรจะทำยังไงให้ว่านรู้ว่าผมเป็นห่วงเค้าดี หรืออาจจะไม่มีวันนั้นแล้ว??







ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามอ่านนะครับ
มีอะไรเพิ่มเติมจะมาแจ้งให้ทราบ

 :กอด1:
หัวข้อ: Re: น้องชาย 2 ( จบ )
เริ่มหัวข้อโดย: yui11 ที่ 05-06-2011 22:17:48
ขอบคุณครับผม
หัวข้อ: Re: น้องชาย 2 ( จบ )
เริ่มหัวข้อโดย: YenOh ที่ 05-06-2011 22:21:32
ว่านเดินไปหลบผมหลังเสา....หลังตู้....หลังต้นไม้....หลังประตูด้วย....ถ้ามุดลงดินได้คงทำไปแล้วมั้ง.....



ว่านน่ารักอ่า... อิอิ

ขอบคุณพี่เอที่นำมาลงอย่างต่อเนื่องจริง ๆ เรารีเฟรชรอเรื่องนี้เรื่องเดียวทุกวันเลย
เราไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ เราก็ไม่รู้ ว่าจริง ๆ แล้วเป็นยังไง
แต่จากที่อ่านมาเรารู้สึกได้ว่าว่านก็ชอบพี่เอไม่น้อยไปกว่ากัน
คงเพราะแสดงออกไม่เก่งหรืออะไรซักอย่าง อยากให้ทั้งคู่ได้คุยกันบ้าง
ทุกอย่างมันจะได้กระจ่างขึ้น

ยังไงก็ขอขอบคุณพี่เอมาก ๆ นะคะ
เป็นกำลังใจให้เสมอค่ะ :)
หัวข้อ: Re: น้องชาย 2 ( จบ )
เริ่มหัวข้อโดย: donutnoi ที่ 05-06-2011 22:43:12
 :L2: :pig4: :pig4: จะรอข่าวคราวดีดีเพิ่มเติมค่ะ :L2:
หัวข้อ: Re: น้องชาย 2 ( จบ )
เริ่มหัวข้อโดย: kritsada.s ที่ 05-06-2011 23:32:36
ลองบอกคำว่า "รัก" กับน้องว่าน จากปากคุณเอ ซิครับ เหนือสิ่งอื่นใดคำพูดนั้นน่าจะเป็นคำตอบหรือสื่อสารได้ดีกว่าการกระทำ ถ้าไม่มีอะไรจริงๆ ผ่านมาตั้งเกือบเดือน ปัจจุบันผมคิดว่า ตัวว่านเองก็น่าจะทำตัวแบบปกติเหมือนเดิมที่เคยเป็นอยู่ในช่วงไม่มีคุณเอเข้ามาไม่ใช่เหรอ ไม่ใช่มีพฤติกรรมแปลกๆ อย่างที่กล่าวมา

ลองครับคุณเอบอกรักน้องเขา เพราะคุณเอก็ไม่เคยบอก บางทีน้องว่านเองก็เดาในสิ่งที่คุณเอทำไม่ได้ และลองเปิดอกคุยกันสักซักครั้ง ว่าตกลงจะเป็นยังไง ชอบไหม ไม่ชอบก็ OK ก็ไม่ต้องทำพฤติกรรมแปลกหรือมาอาลัยอาวรณ์กันและกันอยู่อย่างนี้
หัวข้อ: Re: น้องชาย 2 ( จบ )
เริ่มหัวข้อโดย: reneisance ที่ 05-06-2011 23:45:35
ถึงจะเจ็บแวดและแรงเกินไป แต่ก็อยากจะบอกว่า ไม่ต้องทามอะไรทั้งนั้น ไม่ว่า ว่าน หรือ บี เด็กทั้งสองเขายังเป็นวัยที่ต้องค้นหา และ ค้นพบ สิ่งต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นทั้ง สิ่งที่ชอบ หรือ ไม่ชอบอะไร แต่ เอเองด้วยอายุที่ห่างกันมาก แม้ว่าเอจะคนที่มีวุฒิภาวะมากกว่าเด็กทั้งสอง แต่เอ ก็ยังมีสิ่งที่เอ ต้องค้นพบ และ พบเจอ ทั้งผู้คน เหตุการณ์ และ ประสบการณ์ ต่างๆ ใช่แม้ว่า การจากลาครั้งนี้มันจะนานไปหน่อยแต่ว่า มันไม่ใช่การจากลาตลอดไป  แต่สิ่งที่เราไม่ควรลืม คือ ความทรงจำเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นระหว่างเอ และ เด็กๆๆๆ มันได้ถูกบันทึกไว้แล้ว ซึ่งจะหายไปก็ต่อเมื่อเราสิ่นจากโดลกใบนี้ ขอให้เก็บความรุ้สึกดีๆๆ ไว้ แบบนี้ดีกว่า ลงมือทำบางอย่างไป และ สุดท้ายอาจจะมองหน้ากันไม่ติดเลยก็เป็นได้  :bye2:
หัวข้อ: Re: น้องชาย 2 ( จบ )
เริ่มหัวข้อโดย: HydrA ที่ 06-06-2011 00:33:27
ไม่ต้องทำอะไรเลยค่ะ
ต่างคนมีหน้าที่ที่ต้องทำ
ถ้าใจตรงกันเดี๋ยวก็กลับมาคู่กัน
แต่ถ้าไม่ใช่ ต่อให้ทำยังงัย
มันก็คือไม่
หัวข้อ: Re: น้องชาย 2 ( จบ )
เริ่มหัวข้อโดย: bbyuqin ที่ 06-06-2011 01:15:10
แต่ทำไมช่วงที่เอหายไปว่านไม่โทรหาเลยนะ

แต่ที่เค้าหลบๆซ่อนเนี่ย อ่าจเป็นเพราะน้องรู้แล้วหรือปล่าวว่าโค้ชขี้โม้ เลยแอบละอายใจตัวเอง ที่เคยทำไม่ดี
หรือไม่ก็อาจเป็นเพราะเขินอายพี่เอกับข้อความรึเปล่า

รออ่านต่อจ้า
หัวข้อ: Re: น้องชาย 2 ( จบ )
เริ่มหัวข้อโดย: tuek ที่ 06-06-2011 02:24:14
ดีใจที่น้องบีกลับมา
ยังไม่ทันไรน้องบีก็ไม่มาเรียนอีกแล้ว :sad11:
คนเราถ้าคิดว่าคนนี้คือคนที่ใช่
มันก็คงหนีกันไม่พ้น
แต่ยังเชียร์น้องบีเหมือนเดิม(ถึงจะไม่มีหวังก็เถอะก็มันผูกพันกับน้องบีนี่นะ)
+ 1 นะคะ
หัวข้อ: Re: น้องชาย 2 ( จบ )
เริ่มหัวข้อโดย: GeTOuTNoW ที่ 06-06-2011 11:56:26
 :serius2: :beat: :m15: :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: น้องชาย 2 ( จบ )
เริ่มหัวข้อโดย: Y2Y ที่ 06-06-2011 13:17:40
คุณเอ  ถ้าเราเป็นว่านนะ  เราคงน้อยใจ  เพราะอะไรรู้มั้ย

ตอนบีไม่อยู่ดูแลว่านอย่างดี  แถมเกือบมีอะไรกัน  แต่ ไม่มียิ่งกว่านั้นหลังจากเกือบ  แล้วคุณเอก็ไม่พูดอะไรกับเรื่องนั้นเลยว่าทำไม

คือของแบบนี้จะให้ฝ่าย รับ  พูดเองก็แปลก เพราะ เค้าคงไม่แน่ใจเหมือนกันว่าที่ ทำเพราะ รัก หรือ ใคร่

แล้วพอ บีกลับมา ก็ไปให้ความสนใจ ใส่ใจบีแบบนั้น  

ว่านเองก็คงประเมินตัวเองนั่นแหละว่า คงเป็นได้แค่เงา หรือ คนคลายเหงา  

แต่ถ้้าคุณเอลองเปิดใจคุยกะน้องแบบจริงจัง  น่าจะทำให้อะไรดีขึ้นนะค่ะ

อย่างน้อยๆอะไๆที่คาใจจะได้ชัดๆไป

บางครั้งคำพูด(ที่ออกจากปากจริง ไม่ใช่ การส่งข้อความ)และการกระทำต้องไปด้วยกันนะค่ะ

เป็นกำลังใจให้และรอติดตามเรื่องราวอยู่นะค่ะ บวก 1 ให้ค่ะ
หัวข้อ: Re: น้องชาย 2 ( จบ )
เริ่มหัวข้อโดย: me_alone ที่ 06-06-2011 16:51:35
ส่งท้าย


เกม – ส้ม
เกม ส้ม ทุกวันนี้เป็นคู่รักกันไปซะแล้ว จนที่ห้องเรียนต่างพากันอิจฉากันเป็นการใหญ่ ส่วนเรื่องเทควันโด หลังจากที่ผมออกมาช่วงแรก เกม กับ ส้มก็หยุดเรียนไปด้วย เหตุผลเพราะส้มไม่ชอบโค้ช แต่ก่อนหน้าที่ยังมาเรียนอยู่เพราะเกรงใจผม แล้วผมก็ยังปกป้องน้องจากโค้ชอยู่เรื่อยๆ พอผมไม่อยู่น้องเลยตัดสินใจออก ส่วนเกม ส้มไม่มา เกม ก็ไม่มา

ริว
ตั้งใจจะเข้าเตรียมอุดมเลยต้องไปตั้งใจเรียนสุดๆ ทั้งๆที่ตอนแรกริวบอกกับผมว่าถึงจะเรียนหนักก็ยังจะมาซ้อมเทควันโดอยู่ แม้จะแค่เสาร์อาทิตย์ก็ตาม แต่เมื่อผมออกมาได้สองถึงสามวัน น้องก็โทรมาหา ทัก FB แล้วก็ MSN ถามอยู่เรื่อยๆเรื่องที่ผมหายไป สุดท้ายผมก็บอกน้องไปว่า มีเรื่องไม่สบายใจ อาจไม่ได้เข้าไปแล้ว  หลังจากนั้นสองอาทิตย์ ริว ก็ออก

ฟิว
   คนนี้พอเพื่อนๆพากันออกเลยออกด้วย ปัจจุบัน ติดเกมเรียบร้อยแล้ว

พลอย
   พลอยเลิกเรียนตามผมทันทีที่ผมหยุดเข้าไป ถึงแม้ว่าว่านจะมาชวนให้กลับไปเรียน พลอยก็ไม่กลับ ด้วยเหตุผลว่าไม่มีผม แล้วก็ไม่ชอบโค้ช แถมพลอยยังชอบถามหาบีอยู่เนืองๆอีก

ต้นกล้า
   หลังจากถูกบังคับให้ซ้อมอย่างหนักสุดท้ายต้นกล้าก็หยุดซ้อม แต่ตอนนี้ต้นกล้ากลับมาแล้ว แล้วก็...ด้วยความที่ต้นกล้าเป็นเด็กที่หน้าตาดีมาก ( แต่ไม่เท่าบี ) เลยกำลังทาบทามไปเป็นนายแบบถ่ายภาพแนวกีฬาด้วยค่าขนมชั่วโมงละ 200 บาท ถ้างานออกมาดี อาจให้ค่าขนมเพิ่ม

ไนท์
   หลังจากที่ผมไม่เข้าไป 2 อาทิตย์ ไนท์ก็ออกครับ ด้วยเหตุผลที่เกิดอาการบาดเจ็บที่กล้ามเนื้อ ทำให้คุณแม่น้องไนท์แสดงความเห็นออกมา ส่วนตัวของไนท์เอง ก็รู้สึกตะหงิดๆถึงความไม่นิ่งของโค้ชอยู่แล้วด้วย ไนท์เลยตัดสินใจเลิกซ้อม โดยไนท์ยกตัวอย่างเหตุการณ์ว่า “ครั้งหนึ่งโค้ชพยายามให้ไนท์ฝึกไม่วางเท้าขาหน้าแรงอย่าเอาเป็นเอาตาย ทำเอาไนท์เครียดมาก....แต่มาอีกวัน โค้ชกลับบอกให้วางเท้าขาหน้าแรงๆทั้งๆที่มันก็ท่าเดียวกัน” ตอนที่เกิดเหตุการณ์นี้ผมยังอยู่ครับ แต่ไม่ได้แสดงความคิดเห็น เพราะไนท์เองตอนที่เกิดเรื่องนี้ขึ้นไนท์ก็ไม่เห็นคัดค้านอะไร แต่ผมไม่คิดว่าไนท์จะเอามาใส่ใจ อาจเพราะตอนแรกโค้ชกดดันในการฝึกจนไนท์เครียดมั้ง เลยจำ

บี
   ยังคงโทรมาบ้าง ล่าสุดโทรมาอ้อนๆ แล้วก็ตบท้ายด้วยการบอกว่า “ผมอยากได้กระต่าย” วันคล้ายวันเกิดบีปีนี้ผมซื้อกระต่ายให้น้องแล้วกัน อ้อ อีกอย่างน้องบอกว่าอาจมาเรียนเสาร์อาทิตย์แทน ถ้าจัดการตารางเวลาเสร็จ

ว่าน
   ก่อนผมหายไปว่านขึ้นเสียงแล้วสบถคำไม่สุภาพใส่ผมประโยคหนึ่ง แถมยังเอาประโยคนั้นโพสใน Facebook อีก นั่นก็เป็นอีกปัจจัยที่ทำให้ผมเลือกที่จะหยุด หลังจากนั้นว่านก็โทรมาหาผมสองครั้ง เรื่องโทรศัพท์ที่เค้าสนใจ แล้วก็สอบถามเรื่องที่ไนท์ไม่มาซ้อม จากนั้นว่านก็ไม่เคยโทรมาอีกเลย แล้วล่าสุดที่เจอกันก็อย่างที่เล่าไปครับ น้องหลบตลอด หลบจนผมเข้าใกล้น้องไม่ได้หลบตลอด หลบจนพูดคุยด้วยไม่ได้ โทรหาก็ไม่รับ Facebook ก็ไม่ตอบ กระนั้นผมก็นยังเอาลิ้งรายการที่ว่านชอบไปโพสไว้ให้ที่ FaceBook ของว่านตลอด แรกๆว่านก็ยังเข้า Facebook อยู่ แต่พักหลังถึงกับไม่ Up Facebook เลยทีเดียว ไม่รู้ว่าเพราะไม่ว่างหรืออะไร ตอนนี้พลอยกำลังตามเรื่องให้อยู่ ซึ่งพี่ป้อมเองก็เคยสอบถาม แต่ว่านก็ไม่ยอมตอบ

พี่ป้อม
   ในช่วงอาทิตย์สุดท้ายก่อนยิมจะล่ม พี่ป้อมก็ยื่นมือเข้ามาแก้ไขสถานการณ์ ซึ่งตอนนี้พี่ป้อมตัดสินสใจจะทำเทควันโดเต็มเวลาแล้ว

โค้ช
   ถูกพี่ป้อมตำหนิอย่างแรง เพราะไม่จ่ายค่าเช่ายิมเข้าเดือนที่สี่พอพี่ป้อมมากลับจะให้พี่ป้อมจ่าย ทำให้พี่ป้อมฟิวขาดแล้วก็ต่อว่าโค้ชไปหลายเรื่อง รวมถึงเรื่องความเห็นแก่ตัว แล้วก็เรื่องที่ชอบคิดว่าตัวเองถูก สุดท้ายพี่ป้อมสั่งห้ามโค้ชเข้ามายุ่งกับการเรียนการสอนเป็นระยะเวลาสี่เดือน ส่วนเรื่องที่มหาวิทยาลัย ผมกำลังจะเริ่มดำเนินการผ่านทาง อาจารย์อดีตที่ปรึกษาและผู้จัดการทีม

เก่ง
   หลังจากแข่งจามจุรีเกมส์จบก็หายเข้ากลีบหมอกไปเลย พร้อมทิ้งปัญหาไว้ เนื่องจากเก่งเก็บเงินค่าเสื้อ แล้วก็ค่าออกค่ายจากน้องสมาชิกชมรม แต่ถึงเวลากลับไม่ได้ออกค่าย แถมเสื้อชมรมก็ยังไม่ได้ ซึ่งเดากันไม่ยากครับว่า มันเกิดอะไรขึ้น เบื้องต้นผมให้คณะกรรมการชุดเก่าตามรายชื่อที่ผมแต่งตั้งไม่ต้องออกความคิดเห็นในเรื่องนี้ ผมต้องการให้โค้ชเห็นกับตาว่าที่เค้าคิดมันเป็นยังไง ในทางปฏิบัติ คนที่เค้าชมไม่หยุด คนที่เค้าเชื่อใจ ทั้งเพื่อนเค้า ทั้งเก่ง สรุปแล้วเป็นยังไง

น้องๆนักกีฬา
   คาดว่าคงต้องรอให้ทราบถึงการตัดสินใจของทางมหาวิทยาลัยก่อน ผมถึงจะเริ่มดำเนินการใดๆต่อ

ชมรมเทควันโดที่มหาวิทยาลัย
   ปีนี้คงไม่มี เพราะเก่งสร้างปัญหาไว้กับค่าเสียหายที่ต้องจ่ายคืนเป็นเงินเกือบหนึ่งแสนบาท ผมเลยจะรอให้โค้ช เพื่อนโค้ช แล้วก็เก่ง จัดการแก้ปัญหาให้เสร็จก่อนแล้วกัน

ยิม
   ปัจจุบันอยู่ในช่วงลูกผีลูกคน ผมเองไม่อยากออกตัวช่วยเต็มที่เพราะโค้ชยังมีผลประโยชน์กับยิมนี้อยู่ แต่จะปล่อยให้ล่มไปก็คงไม่ได้ เพราะว่านจะไม่มีที่ไป

ผม
   ผมตัดสินใจเป็นคนใจร้าย ปล่อยวางทั้งยิม แล้วก็ชมรมของมหาวิทยาลัย เพราะโค้ช ผมอยากให้โค้ชเห็นกับตาว่าเค้าไม่มีศักยภาพตามที่เค้าคิด ถ้าไม่มีผม เค้าไม่มีทางเดินมาได้ขนาดนี้ เรื่องนี้พี่ป้อมรู้ดี เพราะพี่ป้อมถึงกับพูดว่า “มันบ้าไปแล้ว เอาเอออกแบบนี้ ตัดแขนขาตัวเองทิ้งชัดๆ” ตอนที่ผมบอกในเรื่องที่โค้ชพูด แล้วก็เพราะประโยคที่โค้ชกล่าวมานั้นแหละที่ทำให้ผมตัดสินใจวางมือจากทุกอย่างเกี่ยวกับเทควันโด สุดท้ายยิมเกือบล่ม เพราะเด็กออกตามผมหมด เหลือแค่ว่านที่ยังมาซ้อม ชมรมที่มหาวิทยาลัยก็คงต้องล่ม เพราะผมไม่อยากยุ่ง มันไม่ใช่ปัญหาของผม แต่มันเกี่ยวกับชมรม ถ้าผมเข้าไปกู้ชมรมผมก็ต้องแก้ปัญหาพวกนี้ด้วย เรื่องของกีฬามหาวิทยาลัย คงต้องให้มหาวิทยาลัยเลือกระหว่างผมกับโค้ชแล้วล่ะ แล้วก็การที่ไม่มีชมรม ทำให้หานักกีฬามาแทนรุ่นที่จบไปลำบาก จำนวนนักกีฬาก็จะน้อยลงไปด้วย แต่ท้ายที่สุด คือผมวาง....จะเดินไปเท่าที่เดินได้ จะไม่ตื้อ ไม่ร้องขออะไร ได้ก็ได้ ไม่ได้ก็ไม่ได้ ถ้ามันไม่พังกับตา...โค้ชคงไม่เชื่อว่าเค้าไร้ศักยภาพแค่ไหน ถ้ามันไม่ล่มให้เห็นเค้าคงจะพูดโทษคนอื่นไปทั่วตามสูตร ดังนั้นทุกอย่างที่พัง ควรพังระหว่างที่อยู่ในมือเค้า เค้าจะได้เอาไปพูดใส่ร้ายคนอื่นเพื่อแก้ตัวไม่ได้ แล้ว.....ผมก็ต้องขอโทษน้องๆทุกคน ขอโทษอาจารย์ที่เคยฝากชมรมเทควันโดไว้กับผม ขอโทษอาจารย์ที่คอยช่วยเหลือผมมาตลอด....ตอนนี้ผมว่า....สร้างขึ้นมาใหม่ดีกว่า....ถ้าผมยังทำได้
   แล้วก็ขอโทษว่านด้วย...ทั้งๆที่ผมก็รู้ว่าเทควันโดคือชีวิตของว่าน....แต่ว่านเลือกโค้ชนี่นา ดังนั้นก็เห็นแบบเดียวกับที่โค้ชเห็นแล้วกัน เห็นชัดๆว่าแนวคิดของโค้ชมันไม่มีทางเป็นไปได้ เห็นชัดๆว่าคนที่ว่านเชื่อถือมาตลอดมันก็ดีแค่ลมปาก เห็นชัดๆว่าเค้าไม่มีศักยภาพมากมายตามที่โม้ไว้ เห็นชัดๆว่าเค้ามันไร้ค่าแค่ไหน ที่สำคัญ ให้เห็นให้ชัดๆว่าคนแบบโค้ชไม่ใช่เค้าไม่เอาใคร แต่ไม่มีใครเอาเค้าต่างหาก

วันหนึ่งหลังเลิกซ้อมโค้ชนั่งคุยกับผมเรื่องที่เค้าเคยทำงาน เค้าโม้ไปเรื่อยว่าเค้าเคยเป็นหัวหน้างานที่โน้นที่นี่ แล้วก็มาถึงช่วงที่ว่า

“เอ จบไปคิดจะทำงานอะไร” โค้ชถามผม
“ไม่รู้ครับ ไปหาเป็นลูกน้องเค้าก่อนมั้ง”
“เหรอ พี่คงเป็นลูกน้องใครไม่ได้”
“ทำไมละครับ”
“คนแบบพี่มันต้องเป็นระดับหัวหน้าเท่านั้น”

   วันนั้นผมได้แค่ยิ้ม เพราะรู้อยู่แก่ใจว่ามันก็แค่คำคุย....แต่ว่านที่นั่งฟังด้วยหน่ะซิครับ....เค้าจะมองว่ามันก็คำโวหรือเปล่า

----------------------------------------------------------------

แถม....เรื่องประทับใจโค้ช
ช่วงแรกที่ผมปลดจากทหารแล้วเข้าไปที่ยิมเทควันโดคืนมันมีเหตุการณ์สำคัญเกิดขึ้นครับ

วันหนึ่งผมถามโค้ชว่า
“พี่ ชุดที่พี่ใส่อยู่นี่เท่าไหร่เหรอครับ”
พอผมพูดจบโค้ชก็หันมามองผมก่อนจะส่ายหน้าเล็กน้อยแล้วพูดว่า “มีปัญญาซื้อเหรอ”
โค้ชพูดจบผมอึ้งแดกไป 3 วินาที ก่อนที่ผมจะไม่ถามเรื่องชุดนี้อีก.....จากนั้นสองอาทิตย์ผมก็ซื้อชุดที่แพงกว่าชุดที่โค้ชใส่อยู่มาใส่

วันหนึ่งระหว่างที่ตั้งวงคุยกันอยู่ จู่ๆอาจารย์กบก็ถามหากล้องว่าใครมีบ้าง คนแรกที่อาจารย์หันมาถามเลยคือผม
“เอ มีกล้องไหม” อาจารย์กบถามแล้วยิ้มๆ
“มะ...” ยังไม่ทันที่ผมจะพูดคำแรกจบ
“หน้าอย่างมันจะมีปัญญาซื้อเหรอครับ” โค้ชพูดแทรกขึ้นมา
“.....” ผมนั่งเงียบไม่พูดอะไร
หลังจากที่คุยเสร็จวันนั้นผมก็เอากล้องผมออกมาเดินถ่ายภาพเล่นไปเรื่อย จนอาจารย์กบมาเห็น
“เอ กล้องใคร” อาจารย์กบถามผม
“ของผมครับ” ผมหันไปตอบ
“อ่าว แล้วเมื่อกี้ โค้ชเค้าบอกว่าเอไม่มี”
“ครับ แต่ผมไม่ได้พูดนี่นา”

วันหนึ่งผมไปต่างจังหวัดครับ พอดีว่ารีบเพราะโค้ชบอกล่วงหน้าแค่ 12 ชั่วโมงก่อนจะไป ผมเลยเอากระเป๋าเดินทางใบประจำมาใช้ ซึ่งมันมีพวกสติ๊กเกอร์ความปลอดภัยของสนามบินติดอยู่ ผมไม่อยากแกะเพราะกาวมันจะทำให้กระเป๋าเปื้อน แล้วระหว่างที่รอรถไฟอยู่นั้น จู่ๆโค้ชก็พูดออกมาว่า
“กลัวคนอื่นไม่รู้หรือไงว่าเคยเข้าสนามบิน” โค้ชพูดจบผมก็หันไปมอง
“ทำไมเหรอครับ” ผมถามแบบ งงๆ
“ก็ดูกระเป๋าซิติดเต็มไปหมด กลัวชาวบ้านเค้าไม่รู้หรือไง แล้วชาตินี้จะได้ขึ้นเครื่องหรือเปล่าก็ไม่รู้” โค้ชพูดด้วยน้ำเสียงดูถูก
“....” ผมไมได้ตอบอะไรกลับไป

ยังมีเรื่องอื่นอีก แต่สามอย่างนี้ผู้อ่านคงพอจะเดานิสัยโค้ชได้ เพราะสามเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในช่วง 2 – 3 เดือนแรกโค้ชเจอผมอีกครั้งหลังจากที่ไม่ได้เจอกันนาน ขอบอกว่าประทับใจ




-----------------------------------------------

6 มิ.ย.
ตัดสินใจแล้วว่าจะเอา TV 29 นิ้วที่บ้านไปไว้ที่ยิม เพราะตอนนี้ที่ยิมไม่มี TV เนื่องจากโค้ชเอากลับไปคืน อีกอย่างผมอบู่บ้านคนเดียว จะมี TV ทำไมตั้ง 4 เครื่อง ห้องนั่งเล่นเครื่อง ห้องนอนเครื่อง ไปกองให้ฟุ่นเกาะในห้องเก็บของอีกสอง เดี๋ยววันนี้สัก 5 โมงเย็นพี่ป้อมคงเอารถมาขน ส่วนเรื่องว่าน...ผมจะคุยกับน้องยังไงดี เมื่อวันเสาร์ผมรวมหนังสือที่ผมอ่าน ซึ่งว่านชอบยืมไปอ่านเมื่อก่อน เอาไปไว้ที่ยิม.....วันนี้ว่านน่าจะไปยิมแล้ว...เค้าจะหยิบมาอ่านไหมน๊า

16.33. ฝนตก ฟ้าครึ้ม
16.58. โทรหาพี่ป้อมเมื่อกี้ สรุปว่าวันนี้ไม่มีซ้อม พี่ป้อมโทรให้แม่ว่านมารับว่านแล้ว....ว่าแต่วันนี้แม่ว่านอยู่บ้านเหรอ ? อาจให้พี่ข้างบ้านมารับมั้ง...อืมมม...
18.45. พลอยโทรมาบอกว่าว่านงอลพลอยมั้ง เพราะพลอยไปล้อว่าว่านชอบสาวคนหนึ่ง

------

7 มิ.ย.

12.15. กลับจาก ม. ไม่มีเรียนแล้ว กลับมาเปลี่ยนชุด รวมๆหนังสือ มีหนังสือยากให้ว่านเอาไปอ่าน...ยื่นให้เองน้องเค้าจะรับไหมนะ...หรือ ฝากพลอยไปให้ดี....
14.30. ผมโทรไปแจ้งอาจารย์ที่รับผิดชอบเรื่องกีใาของทางมหาวิทยาลัยเรื่องโค้ชแล้ว ซึ่งอาจารย์จะเลือกผม หรือ ว่าโค้ชก็แล้วแต่แล้วกัน เพราะผมพูดไปแล้วว่าถ้าโค้ชยังทำอยู่ ผมก็จะไม่มายุ่ง
16.59. เอา ทีวีไปที่ยิมแล้ว ว่านไม่ยอมคุยกับผมเหมือนเคย ยกมือไหว้พี่ป้อมคนเดียว แล้วก็เดินอยู่ห่างๆผม ไม่มอง ไม่สนใจ แต่ก็ยังเดินไปแอบหลังตู้บ้าง หลังเสาบ้างเหมือนเคย อีกอย่างว่านไม่ยอมฝึกมา 3 - 4 วันแล้ว ตั้งแต่ที่โค้ชไม่มาด้วยเหตุผลว่าเจ็บขา.... ที่ยังไปอยู่ก็ไปทำการบ้านบ้าง นั่งเล่นบ้าง.....ผมว่า...พี่ป้อมเอาว่านไม่อยู่หรอก จริงๆถ้าที่ว่านเป็นแบบนี้เพราะผมยังวนเวียนไปยิมอยู่.....ผมเลิกไปดีไหม ?
17.30. ผมกลับบ้าน หนังสือที่เอาไปให้ว่านยังวางอยู่บนโต๊ะ....ผมไม่กล้าเรียกเค้า กลัวเค้าจะไม่พอใจ....อาจสบถคำพูดแย่ๆออกมาอีก....
17.55. รุ่งน้องที่ มหาวิทยาลัยโทรมาถามเรื่องชมรม....น้องเค้าจะเอารุ่นน้องในเอกเค้าเข้าทั้งหมด 200 คน.....ผมบอกขอบคุณน้องเค้าไป เพราะเรื่องของชมรม....ปีนี้คงไม่มี....
18.05. ผมส่ง SMS ไปบอกว่านว่า "หนังสือในถุงบนโต๊ะข้างทีวีเอาไปอ่านได้นะ"
หัวข้อ: Re: น้องชาย 2 ( จบ + ส่งท้าย )
เริ่มหัวข้อโดย: reneisance ที่ 06-06-2011 17:26:11
เอ ทามใจซะเถอะนะ ชีวิตของเอ ไม่ได้ต้องมาหยุดอยุ๋กับเด็กเพียงคนเดียวนะ แม้ว่าจะเจ็บแต่ก็ต้องอดทนและผ่านไปให้ได้  เมื่อเราให้ใจไปแล้วเราก็ไม่ควรที่จะต้องได้รับความเสียใจเป้นการตอบแทนมา ยังไงก็สู็ต่อไป ทาเคชิ
หัวข้อ: Re: น้องชาย 2 ( จบ + ส่งท้าย )
เริ่มหัวข้อโดย: monkaew ที่ 06-06-2011 19:37:30
ก็เข้าใจพี่เอนะคับแต่อยากให้พี่เอเข้าใจน้องว่านด้วยคอยดูแลตอนน้องล้มเพราะถ้าน้องล้มมาแล้วจะไม่มีใครเลยนะคับ
หัวข้อ: Re: น้องชาย 2 ( จบ + ส่งท้าย )
เริ่มหัวข้อโดย: pobbmit ที่ 06-06-2011 20:45:20
จบจริงๆหรอพี่เอ ใจหายเลยนะเนี่ย

ตอนภาคหนึ่งเฝ้ารอ เพราะมานยังไม่จบ

นี่จบจริงๆหรอต่อภาคสามเถอะนะๆ ภาคน้องบาส 555

รักบีมากมาย เหมือนกะบีเปนน้องข้างบ้านเลยครับ ตอนนี้

เข้าเวบนี้เพื่อรอดูว่าพี่เอ จาอัพหรือเปล่าอีก แล้วทีนี้จะทำไรต่อหว่า

พี่เอ มาเล่าต่อ นะ ครับ จารอ ปิ๊งๆๆๆ
หัวข้อ: Re: น้องชาย 2 ( จบ + ส่งท้าย )
เริ่มหัวข้อโดย: nco1236 ที่ 06-06-2011 23:15:04
 :sad11:
หัวข้อ: Re: น้องชาย 2 ( จบ + ส่งท้าย )
เริ่มหัวข้อโดย: icyblue ที่ 07-06-2011 10:03:41
เข้ามาเจอย้ายมาห้องจบแระ  :a5:

ก็เป็นกำลังใจให้เริ่มต้นใหม่ไปได้สวยนะ ทั้งเรื่องยิม เรื่องชมรม 

เพราะใครบางคนกำลังรับกรรมที่ก่อเอาไว้

ส่วนเรื่องน้องว่านก็อย่าใจร้อน ค่อยเป็นค่อยไปแหละ เพราะน้องก็เดายากอยู่แล้ว

เอก็ทำปกติ เป็นเหมือนพี่ที่ดีแบบเมื่อก่อน  ดูท่าทีน้องไปเรื่อยๆ ถ้าเค้ายังรัก เคารพเออยู่

คงกลับมาเหมือนเดิมค่ะ  แต่ถ้าไม่ก็คงต้องทำใจ ดูแลแค่เหมือนเป็นพี่ชายคนหนึ่งแหละค่ะ :กอด1:
หัวข้อ: Re: น้องชาย 2 ( จบ + ส่งท้าย )
เริ่มหัวข้อโดย: HydrA ที่ 07-06-2011 13:37:43
พี่เออยู่เฉยๆก็ดีนะ
ไม่ต้องทำอะไร
เพราะพี่เอทำมาพอแล้ว
ถ้าว่านเค้ามีใจให้พี่
ว่านเค้าก็ต้องทำอะไรตอบกลับมาบ้างนั่นแหล่ะ
แต่นี่เค้าไม่ทำอะไรเลย
เรื่องบางเรื่องเราอย่าไปฝืน
ทำใจยอมรับ แล้วเดินหน้าต่อไป
พี่เอ อย่ายึดติดจิ่
พี่เอยิ่งวิ่งเข้าหา ว่านยิ่งวิ่งหนีออกไป
ปล่อยเค้าไปเหอะ
ไม่ได้บอกให้เกลียดแต่บอกให้อย่ายึดมั่นนัก
ไม่ได้บอกให้ทอดทิ้ง แต่แค่ดูอยู่ห่างๆก็พอ
ให้ว่านได้คิดแล้วเมื่อว่านเค้ารู้แล้วว่าเค้าต้องการอะไร
เค้าก็จะแสดงให้พี่เห็นเองนั่นแหล่ะ
ว่าเค้าจะวิ่งมาหาพี่หรือเค้าจะวิ่งหนีไป
พี่เอ ว่านไม่ใช่ทุกสิ่งของพี่นะ
บางสิ่งถ้ามันยังไม่ใช่ก็ไม่ต้องไปฝืนมัน
เดินหน้าต่อไปค่ะพี่เอ
หัวข้อ: Re: น้องชาย 2 ( จบ + ส่งท้าย )
เริ่มหัวข้อโดย: bbyuqin ที่ 07-06-2011 17:17:41
อ้าวจบแล้วซะงั้น...
พอฟังว่าน้องๆออกเกือบหมดก็ใจหายเนอะ แบบว่ามันมีความทรงจำดีๆ และน้องๆควรได้มีกิจกรรม และใช้เวลา ให้เป็นประโยชน์แบบที่เคยเป็น แต่อย่างว่า ถ้า ไม่ลองทิ้งเพื่อจะเริ่มใหม่ตอนนี้ มันก็จะวนเวียนอยู่แบบเดิม....โค้ช คงยังไม่รู้ตัวหรอก คนแบบนี้เค้ายึดมั่นถือมั่นในตัวเอง...
เป็นกำลังใจให้เอน๊า...

ปล. จริงๆ ไม่ต้องให้จบ แต่มาอัพทุกวันเหมือนเขียนไดอารี่ หรืออัพเป็นรายสัปดาห์ก็ดีนะ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: น้องชาย 2 ( จบ + ส่งท้าย )
เริ่มหัวข้อโดย: •ไนท์คลุง• ที่ 07-06-2011 18:42:12
เห้อ ใจหาย จบแล้วว
หัวข้อ: Re: น้องชาย 2 ( จบ + ส่งท้าย )
เริ่มหัวข้อโดย: Y2Y ที่ 07-06-2011 21:11:47
พออ่าน น้องชาย1จบ ก็หลงรักเด็กชายบี  ไม่อยากให้ใครมาคั่นกลาง เอและบี
แต่พอมาอ่านน้องชาย 2 ก็อยากให้ เอ ว่านเปิดใจยอมรับกันและกัน

เฮ้อออออออออ   กลุ้มแทนง่ะ

รอฟังข่าวกันต่อไป
หัวข้อ: Re: น้องชาย 2 ( จบ + ส่งท้าย )
เริ่มหัวข้อโดย: y33n ที่ 07-06-2011 22:04:58
พี่เอทำเป็นไดอารี่เลยดีป่ะ ? อัพอาทิตละครั้งก้ยังดี กาซิกๆ T^T.
หัวข้อ: Re: น้องชาย 2 ( จบ + ส่งท้าย )
เริ่มหัวข้อโดย: kokoky ที่ 08-06-2011 20:53:26
สับสนจังเลยค่ะ
ทั้งๆที่จัดการเรื่องโค้ชไปได้ระดับหนึ่ง
แต่พอน้องบีไม่มาเรียนดูเหมือน อะไรๆที่ว่าดีขึ้นมันแย่ลงหมดเลย

แต่เห็นด้วยกับคุณเอที่"หยุด"เรื่องโค้ชนะคะ
ให้เค้ารู้ตัว ตื่นซักที

จะทำไงกับน้องว่านดีคะ น่าเป็นห่วงมากๆ
น้องจะเป็นอะไรหรือเปล่าคะ
ไม่ๆๆๆๆๆ ไม่คิดอะไรไม่ดีๆ

เป็นห่วงความรู้สึกของคุณเอค่ะ
ถ้าทำอะไรดีๆให้น้องแล้วสุดท้ายมาทุกข์ใจ
ไม่คิดว่ามันจะถึงทางตันเข้าสักวันหรอคะ

เฮ้ออออออออออออออออออ
ห่วงๆๆๆๆๆๆๆๆ
ห่วงจริงๆค่ะ
 :L2:
หัวข้อ: Re: น้องชาย 2 ( จบ + ส่งท้าย )
เริ่มหัวข้อโดย: me_alone ที่ 08-06-2011 22:25:09
คุณเอ  ถ้าเราเป็นว่านนะ  เราคงน้อยใจ  เพราะอะไรรู้มั้ย
ตอนบีไม่อยู่ดูแลว่านอย่างดี  แถมเกือบมีอะไรกัน  แต่ ไม่มียิ่งกว่านั้นหลังจากเกือบ  แล้วคุณเอก็ไม่พูดอะไรกับเรื่องนั้นเลยว่าทำไม
คือของแบบนี้จะให้ฝ่าย รับ  พูดเองก็แปลก เพราะ เค้าคงไม่แน่ใจเหมือนกันว่าที่ ทำเพราะ รัก หรือ ใคร่
แล้วพอ บีกลับมา ก็ไปให้ความสนใจ ใส่ใจบีแบบนั้น   
ว่านเองก็คงประเมินตัวเองนั่นแหละว่า คงเป็นได้แค่เงา หรือ คนคลายเหงา 
แต่ถ้้าคุณเอลองเปิดใจคุยกะน้องแบบจริงจัง  น่าจะทำให้อะไรดีขึ้นนะค่ะ
อย่างน้อยๆอะไๆที่คาใจจะได้ชัดๆไป
บางครั้งคำพูด(ที่ออกจากปากจริง ไม่ใช่ การส่งข้อความ)และการกระทำต้องไปด้วยกันนะค่ะ
เป็นกำลังใจให้และรอติดตามเรื่องราวอยู่นะค่ะ บวก 1 ให้ค่ะ
:กอด1: ~ จะลองคุยกับว่านดูนะครับ



เอ ทามใจซะเถอะนะ ชีวิตของเอ ไม่ได้ต้องมาหยุดอยุ๋กับเด็กเพียงคนเดียวนะ แม้ว่าจะเจ็บแต่ก็ต้องอดทนและผ่านไปให้ได้  เมื่อเราให้ใจไปแล้วเราก็ไม่ควรที่จะต้องได้รับความเสียใจเป้นการตอบแทนมา ยังไงก็สู็ต่อไป ทาเคชิ
:กอด1: ~ ครับ


ก็เข้าใจพี่เอนะคับแต่อยากให้พี่เอเข้าใจน้องว่านด้วยคอยดูแลตอนน้องล้มเพราะถ้าน้องล้มมาแล้วจะไม่มีใครเลยนะคับ
:กอด1: ~ แอบเฝ้าดูน้องอยู่ห่างๆตลอดอะครับ


จบจริงๆหรอพี่เอ ใจหายเลยนะเนี่ย
ตอนภาคหนึ่งเฝ้ารอ เพราะมานยังไม่จบ
นี่จบจริงๆหรอต่อภาคสามเถอะนะๆ ภาคน้องบาส 555
รักบีมากมาย เหมือนกะบีเปนน้องข้างบ้านเลยครับ ตอนนี้
เข้าเวบนี้เพื่อรอดูว่าพี่เอ จาอัพหรือเปล่าอีก แล้วทีนี้จะทำไรต่อหว่า
พี่เอ มาเล่าต่อ นะ ครับ จารอ ปิ๊งๆๆๆ
:กอด1: ~ เดี๋ยวจะเล่าเรื่อยๆนะครับ



เข้ามาเจอย้ายมาห้องจบแระ  :a5:
ก็เป็นกำลังใจให้เริ่มต้นใหม่ไปได้สวยนะ ทั้งเรื่องยิม เรื่องชมรม 
เพราะใครบางคนกำลังรับกรรมที่ก่อเอาไว้
ส่วนเรื่องน้องว่านก็อย่าใจร้อน ค่อยเป็นค่อยไปแหละ เพราะน้องก็เดายากอยู่แล้ว
เอก็ทำปกติ เป็นเหมือนพี่ที่ดีแบบเมื่อก่อน  ดูท่าทีน้องไปเรื่อยๆ ถ้าเค้ายังรัก เคารพเออยู่
คงกลับมาเหมือนเดิมค่ะ  แต่ถ้าไม่ก็คงต้องทำใจ ดูแลแค่เหมือนเป็นพี่ชายคนหนึ่งแหละค่ะ :กอด1:
:กอด1: ~ ครับ



พี่เออยู่เฉยๆก็ดีนะ
ไม่ต้องทำอะไร
เพราะพี่เอทำมาพอแล้ว
ถ้าว่านเค้ามีใจให้พี่
ว่านเค้าก็ต้องทำอะไรตอบกลับมาบ้างนั่นแหล่ะ
แต่นี่เค้าไม่ทำอะไรเลย
เรื่องบางเรื่องเราอย่าไปฝืน
ทำใจยอมรับ แล้วเดินหน้าต่อไป
พี่เอ อย่ายึดติดจิ่
พี่เอยิ่งวิ่งเข้าหา ว่านยิ่งวิ่งหนีออกไป
ปล่อยเค้าไปเหอะ
ไม่ได้บอกให้เกลียดแต่บอกให้อย่ายึดมั่นนัก
ไม่ได้บอกให้ทอดทิ้ง แต่แค่ดูอยู่ห่างๆก็พอ
ให้ว่านได้คิดแล้วเมื่อว่านเค้ารู้แล้วว่าเค้าต้องการอะไร
เค้าก็จะแสดงให้พี่เห็นเองนั่นแหล่ะ
ว่าเค้าจะวิ่งมาหาพี่หรือเค้าจะวิ่งหนีไป
พี่เอ ว่านไม่ใช่ทุกสิ่งของพี่นะ
บางสิ่งถ้ามันยังไม่ใช่ก็ไม่ต้องไปฝืนมัน
เดินหน้าต่อไปค่ะพี่เอ
:กอด1: ~ ขอบคุณสำหรับคำแนะนำดีๆนะครับ



อ้าวจบแล้วซะงั้น...
พอฟังว่าน้องๆออกเกือบหมดก็ใจหายเนอะ แบบว่ามันมีความทรงจำดีๆ และน้องๆควรได้มีกิจกรรม และใช้เวลา ให้เป็นประโยชน์แบบที่เคยเป็น แต่อย่างว่า ถ้า ไม่ลองทิ้งเพื่อจะเริ่มใหม่ตอนนี้ มันก็จะวนเวียนอยู่แบบเดิม....โค้ช คงยังไม่รู้ตัวหรอก คนแบบนี้เค้ายึดมั่นถือมั่นในตัวเอง...
เป็นกำลังใจให้เอน๊า...
ปล. จริงๆ ไม่ต้องให้จบ แต่มาอัพทุกวันเหมือนเขียนไดอารี่ หรืออัพเป็นรายสัปดาห์ก็ดีนะ  :กอด1:
:กอด1: ~ มันจะไม่สนุกหน่ะซิะครับ



เห้อ ใจหาย จบแล้วว
:กอด1:


พออ่าน น้องชาย1จบ ก็หลงรักเด็กชายบี  ไม่อยากให้ใครมาคั่นกลาง เอและบี
แต่พอมาอ่านน้องชาย 2 ก็อยากให้ เอ ว่านเปิดใจยอมรับกันและกัน
เฮ้อออออออออ   กลุ้มแทนง่ะ
รอฟังข่าวกันต่อไป
:กอด1: ~ จะมา Up เรื่อยๆนะครับ


พี่เอทำเป็นไดอารี่เลยดีป่ะ ? อัพอาทิตละครั้งก้ยังดี กาซิกๆ T^T.
:กอด1:


สับสนจังเลยค่ะ
ทั้งๆที่จัดการเรื่องโค้ชไปได้ระดับหนึ่ง
แต่พอน้องบีไม่มาเรียนดูเหมือน อะไรๆที่ว่าดีขึ้นมันแย่ลงหมดเลย

แต่เห็นด้วยกับคุณเอที่"หยุด"เรื่องโค้ชนะคะ
ให้เค้ารู้ตัว ตื่นซักที

จะทำไงกับน้องว่านดีคะ น่าเป็นห่วงมากๆ
น้องจะเป็นอะไรหรือเปล่าคะ
ไม่ๆๆๆๆๆ ไม่คิดอะไรไม่ดีๆ

เป็นห่วงความรู้สึกของคุณเอค่ะ
ถ้าทำอะไรดีๆให้น้องแล้วสุดท้ายมาทุกข์ใจ
ไม่คิดว่ามันจะถึงทางตันเข้าสักวันหรอคะ

เฮ้ออออออออออออออออออ
ห่วงๆๆๆๆๆๆๆๆ
ห่วงจริงๆค่ะ
 :L2:
:กอด1: ~ ผมก็เป็นห่วงว่านมากครับ บีผมไม่ห่วงเท่าไหร่เพราะบีมีพร้อมทั้งพ่อแม่ น้อง ญาติๆ พี่เลี้ยง ต่างกับว่าน ที่ไม่มีใครเลย
หัวข้อ: Re: น้องชาย 2 ( จบ + ส่งท้าย )
เริ่มหัวข้อโดย: me_alone ที่ 09-06-2011 17:18:27
ผมว่า....มันต้องจบจริงๆแล้วล่ะครับ....

9 มิ.ย.
16.50 ผมเข้าไปดู FaceBook ของว่านเหมือนทุกๆวันที่ผมต้องเข้าไปดูอย่างน้อยๆวันละครั้ง ไม่มีการ Up อะไรเหมือนเคย
17.03 เข้าไปดูอีกครั้ง....ว่านลบผมออกจากเพื่อน....จาก FaceBook หลัก....ผมเลยลองเข้าไปที่ FaceBook รองของว่าน ก็พบว่าว่านลบผมออกจาเพื่อนเช่นกัน
19.27 - 22.45 เพื่อนสนิทของว่านสองคนมาคุย FB ด้วย ระหว่างที่คุยก็เปรยๆไปว่าถูกทิ้ง แล้วก็เข้าเรื่องความรัก เพื่อนว่านเลยเล่าว่าว่านเองก็มาปรึกษาเรื่องนี้บ่อย ส่วนมากเป็นเรื่องไปแอบชอบคนมีเจ้าของคนหนึ่ง


10 มิ.ย.
20.05 โทรคุยกับพลอย พลอยบอกทะเลาะกับว่านมาด้วยเรื่องไม่เป็นเรื่อง แล้วพลอยก็พูดว่า "ริวบอกหนูว่า ตั้งแต่ว่าโกรธกับพี่เอ ดูว่านจะอารมณ์แปรปรวนง่ายขึ้นมาก แถมยังมากขึ้นด้วย" แล้วพลอยก็บอกให้ผมไปคุยกับว่านดู ถ้าว่านพูดอะไรแรงๆให้ตอกกลับไปแรงๆคืนเลยไม่ต้องยอม
21.10 ผมส่ง SMS หาว่าน "วันนี้ฝนตกอากาศเย็น นอนอย่าลืมห่มผ้าด้วยนะ"


11 มิ.ย.
20.10 พลอยโทรมาเล่าให้ผมฟังว่า "เมื่อเช้าว่านมาขอโทษหนู เรื่องที่ขึ้นเสียงกับหนูเมื่อวาน"
20.42 เพื่อนสนิทว่านโทรมาคุยกับผมเรื่องทั่วไป
21.00 ผมส่ง SMS หาว่าน "วันนี้เป็นไงบ้าง เหนื่อยหรือเปล่า อย่าลืมพักผ่อนบ้างนะ"

12 มิ.ย.
08.44 พลอยมากระซิบบอกว่าว่านพิมพ์ใน FaceBook ว่า "มีใครรู้มั้ง บล็อกเบอร์ บล็อกSMSยังไง" ผมยังต้องคุยกับน้องอยู่ไหม ?
08.55 ผมตัดสินใจทอดทิ้งโค้ชแบบเด็ดขาด
09.00 ผมติดต่ออาจารย์เพื่อสอบถามความคืบหน้าของการตัดสินใจเกี่ยวกับการปลดโค้ชจากทางมหาวิทยาลัย ซึ่งอันที่จริง....ตอนแรกผมไม่ซีเรียสว่าทางมหาวิทยาลัยจะปลดไหม...แต่ตอนนี้ผมซีเรียสแล้ว
09.32 อาจารย์ติดต่อกลับมา พร้อมคำพูดเชิงร้องขอให้ผมอยู่ต่อ....แน่นอนผมเดาได้เลยว่ามติเป็นอย่างไร
10.07 ผู้อำนวยการกองพัฒนานักศึกษา หาทางลงเรื่องที่เก่งเก็บเงินจากสมาชิกชมรมให้ผม ด้วยการให้นักศึกษาที่จ่ายเงินไปมาลงรายชื่อ ก่อนส่งให้คณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง เพื่อให้ชมรมเปิดต่อไปได้ โดยทางชมรมไม่ติดข้อหาโกงเงินจากสมาชิกรุ่นก่อน
11.00 ผมได้รับการติดต่อจากผู้อำนวยการกองพัฒนาเพื่อนัดวันเวลามาพูดคุยเรื่องการแต่งตั้งผู้จัดการทีมชุดใหม่
11.20 ผมโทรหาพี่ป้อม เพื่อแจ้งเรื่องที่เกิดขึ้นให้ทราบ เพราะผมจะเอาพี่ป้อมขึ้นเป็นโค้ช และ ผมตัดสินใจเพิกเฉยกับพฤติกรรม การกระทำ รวมถึงการแสดงออกต่างๆของว่าน
17.20 ผมโทรหาพี่ป้อม พี่ป้อมเล่าให้ฟังว่าโค้ชยังคงมาที่ยิมอยู่เนืองๆ ส่วนว่าน พี่ป้อมสั่งให้ว่านหยุดซ้อม 1 เดือน โดยว่านจะมานั่งเล่น นั่งทำการบ้านรอพี่ป้อมไปส่งที่บ้าน แล้วก็พี่ป้อมบอกว่าโค้ชพูดคุยกับว่านน้อยลง เพราะแทบไมไ่ด้เจอกัน เลยไม่ค่อยได้พูดคุย......เพราะงั้นไม่ต้องกังวลที่โค้ชจะมากล่อมอะไรว่านได้อีก.....พี่ป้อม...มองโลกในแง่ดีไปหรือเปล่า...ที่โค้ชกล่อมว่านมาตั้งหลา่ยปีก่อนหน้านี้มันก็มากพอจะส่งต่อไปได้อีกหลายปีเลยนะ ขนาดว่าไม่เจอกันสองเดือนกว่า ว่านยังมาฉุนผมได้ขนาดนี้ ทั้งๆที่ผมไม่ได้ทำอะไรเลย แค่นี้ผมก็อึ้งแล้ว

13 มิ.ย.
10.15 ผมเข้าไปใน FaceBook ว่านทั้งสองอันอีกครั้ง ปรากฏว่าผมสามารถดูกระดานข้อความได้ แต่ไม่เห็นข้อความที่พลอยอ้างถึง เดี๋ยวคงต้องแอบถามเพื่อนว่านดู ว่าข้อความที่ว่ามีจริงไหม เพราะว่านอาจ set ให้แค่มองเห็นได้แค่เพื่อน

12.00 ผมได้พูดคุยกับผู้อำนวยการกองฯ เรียบร้อยแล้ว เรื่องปลดโค้ชจะถูกนำเข้าที่ประชุมเร็วๆนี้ ส่วนโค้ชคนใหม่ทางผู้อำนวยการกองฯ บอกว่าถ้าผมจะให้ใครขึ้นมาเป็น หรือ ผมจะขึ้นเป็นเองทางกองก็ยินดี ตอนท้ายของการพูดคุยผมถูกตำหนิเล็กน้อยที่ไม่ยอมพูดเรื่องพวกนี้ก่อนหน้านี้ ในส่วนของชมรมจำเป็นจะต้องมีเจ้าทุกข์ ดังนั้นต้องให้น้องๆที่ไม่ได้รับเสื้อทำหนังสือ รวมถึงลงรายชื่อ ส่งให้รองอธิการฯฝ่ายกิจกรรมนักศึกษา เพื่อทำการสืบสวน และ ระงับการอนุมัติจบ จนกว่าเก่งจะสามารถเคลียร์ตัวเองเรื่องนี้ได้ ตอนนี้ประเด็นคือ...ผมควรดำเนินการกับเก่งไหม ? เวลานี้เหมือนว่าเรื่องนี้ถ้าจะให้เดินหน้าผมต้องเป็นคนออกหน้า แต่มันจะเป็นการทำร้ายน้องเกินไปหรือเปล่า อีกอย่างต่อให้ดำเนินการกับเก่ง แล้วชมรมสามารถเปิดต่อได้ แต่ปีนี้ผมปี 4 แล้ว เทอม 2 ก็ต้องไปฝึกงาน แน่นอนผมไม่สามารถดูแลชมรมได้แน่ แล้วใครจะขึ้นมาเป็นประธานชมรม หรือ ชมรมจะต้องจบลงไปแบบนี้จริงๆ ?

15.40 หลังจากที่ผมแฟลชรอมมือถือเสร็จ ผมก็มานั่งจัดข้อมูลส่วนตัวใน Facebook แล้วก็นึกถึงตอนที่ว่้าน ลบ ผมออกจากรายชื่อเพื่อน....จริงๆมันเป็นเรื่องไม่เป็นเรื่องที่ผมไม่ได้ใส่ใจเท่าไหร่แฮะ ผมจำได้ว่าว่านชอบดูเจาะข่าวตื้นมาก ผมเลยเอาลิ้งเจาะข่าวตื้นไปแปะไว้ที่ FaceBook ว่านตลอดที่มีตอนใหม่ แม้กระทั่งช่วงที่มีรายการ ประกาศสภาวะฉุกคิด ผมก็เอาลิ้งไปแปะไว้ที่ FaceBook ว่านทุกคืนวันอาทิตย์ แต่เนื่องจากว่าว่านไม่มีความเคลื่อนไหวใดๆใน FaceBook ผมเลยไม่แน่ใจว่าว่านจะเข้ามาดูไหม บวกกับตอนหลังเพื่อนสนิทว่านคนหนึ่งบอกให้ผมเอาไปแปะที่ FaceBook เค้าบ้าง ผมเลยเอาไปแปะ
           ส่วนใน Facebook ของว่าน ดูจะรกไปเลยเพราะ ลิ้ง ของผม ผมเลยลบลิ้งพวกนั้นออกหมด.......2 วันต่อมาหลังจากลบลิ้งมีน้องผู้หญิงคนหนึ่งมาขอใช้ความสัมพันธ์พิเศษด้วย มันขึ้นว่า "กำลังคบกับ" ถัดมาอีก 1 วัน ปรากฏว่าผมเห็น FaceBook ของว่านมีความเคลื่อนไหวครั้งแรก ในช่วงประมาณ 16.40 น. ช่วง 16.50 น. ผมเลยเข้าไปดูใน FaceBook ของว่าน มันยังเข้าได้ปรกติ จนช่วง 17.03 น. ผมเข้าไปอีกครั้งปรากฏว่าว่านลบผมออกจากเพื่อนแล้ว
คำถามคือ....
1. ว่านเข้าใจว่าผมโกรธเค้า ผมเลยลบลิ้งทิ้งหมด ?
2. เค้าเข้ามาเห็นว่าใน FaceBook ผมขึ้นความสัมพันธ์แบบเปิดกับเด็กผู้หญิงคนหนึ่งเลยโกรธ ?
3. ไม่เกี่ยว กับ 1 และ 2 เพราะว่านไม่ได้เข้า FaceBook นานแล้ว พอเข้ามาเลยถือโอกาสลบเพื่อนไปเลย
ต่อยอดมาอีก
          ถ้าเราเลือกข้อ 3 ก็มีคำถามต่อว่า ทำไมว่านถึงไม่เลือกที่จะลบออกไปตั้งแต่ก่อนหน้านี้ ซึ่งว่านเองก็เล่น Internet อยู่เป็นประจำอยู่แล้ว การไม่ได้ Up อะไรใน FaceBook มันก็ไม่ได้หมายความว่าน้องจะไม่เข้ามาดู อีกอย่างตลอด 2 เดือนกว่าๆที่ผ่านมา ผมไม่ได้คุยอะไรกับว่านเลย ไม่น่าจะมีเรื่องราวให้หมางใจเพิ่มได้นี่นาถ้าไม่มีคนยุ หรือ การที่ผมวางตัวไม่คุยอะไรกับน้อง น้องเลยเข้าใจว่าผมโกรธเค้า แล้วถ้าเค้าเข้ามาคุยก่อนจะเป็นการยอมรับว่าตัวเองผิด แล้วถ้าเรามามองข้อ 1 กับ 2 ก็เป็นไปได้ว่าน้องโกรธ แล้วก็เข้าใจว่าผมไม่สนใจเค้าจริงๆแล้ว เค้าเลยลบผมออกจากเพื่อนใน FaceBook ไปเลย แล้วตัดสินใจไม่ติดต่อกับผมอีก
          สรุป....ได้แต่เดา...ถ้าน้องไม่ยอมคุยแบบนี้ผมคงไม่มีทางรู้เลยว่าน้องคิด หรือ รู้สึกยังไง แล้วการเดินหนี บวกกับนิสัยที่ฉุนเฉียวง่าย ทำให้ผมไม่กล้าเข้าไปคุยกลัวว่าน้องจะโกรธ เนื่องจากน้องทำท่าทีหงุดหงิดตลอดเวลา พอผมไม่คุยน้องก็เข้าใจว่าผมเมินเค้า หรือ เพิกเฉยใส่เค้าอีกหรือเปล่า....อืมมม สรุปว่านต้องการอะไรกันแน่เนี่ยะ
17.16 ผมสอบถามกับเพื่อนสนิทว่านอีก 2 คน ปรากฏว่าข้อมูลที่พลอยพูดถึงนั้นมีอยู่จริง

14 มิ.ย.
10.17 ผมเจอน้องนักกีฬากลุ่มปีที่แล้ว ซึ่งจะเรียกว่าเป็นกลุ่มเด็กโค้ชเลยก็ว่าได้ เพราะอย่างที่บอกไป ปีที่แล้วเรื่องนักกีฬาผมเข้ามายุ่งช่วงโค้งสุดท้ายก่อนไปแข่งเท่านั้นเอง
หลังจากที่ผมคุยกับอาจารย์ที่ปรึกษาเรื่องวิชาเรียนเสร็จ ผมเดินออกมาก็เจอน้องเค้านั่งรอเรียนอยู่ด้านหน้าห้องพักอาจารย์ครับ ซึ่งน้องก็แสดงท่าทีดีใจที่ได้เจอผมสอบถามเรื่องราวต่างๆกันไปหลายอย่างก่อนจะวนเข้าเรื่องชมรมแล้วก็กีฬา
"พี่เอปีนี้ใครประธานชมรมเหรอ" มายถามด้วยท่าทางตื่นเต้น
"ไม่รู็ซิ พี่มั้ง ไม่แน่ใจ เดี๋ยวเราคุยกันอีกที แล้วก็....พี่นัดประชุมคณะกรรมการชุดเก่า แล้วก็นักกีฬาทั้งหมด ถ้ามายเจอชุดนักกีฬาก็บอกให้ด้วยแล้วกัน ว่านัดเจอที่ยิมวัน พฤหัสนี้ 4 โมงเย็น" ผมตอบน้องไป
"อย่าเอาพี่เก่งอีกแล้วกัน" มายพูดด้วยท่าทีไม่สบอารมณ์เท่าไหร่
"อ่าว ทำไมล่ะ พี่เค้าก็ดูแลพวกเราอยู่นิ"
"ดูแลที่ไหนละพี่ ถ้าพี่เก่งมาเป็นประธานอีก หนูไม่ยุ่งแน่" มายพูดจบก็หันหน้ามองผม
"ขนาดนั้นเลย"
"แล้วโค้ชล่ะพี่" มายถามต่อ
"โค้ชเหรอ.....เปลี่ยนมั้ง"
"จริงเหรอพี่" มายพูดด้วยน้ำเสียงดีใจสุดๆ
"ทำไมดีใจขนาดนั้นล่ะ"
"หนูไม่ชอบโค้ชเค้า อย่างเกลียดเลย ยังคิดอยู่ถ้าโค้ชคนเดิมหนูก็ไม่เข้าไปเล่นแล้วเทควันโด" มายพูดจบก็หันมายิ้มให้ผม....
"......" ผมแอบอึ้งกับสิ่งที่มายพูด....เพราะผมไม่เคยว่าโค้ชให้เด็กฟังครับ แถมมายเองก็ยังเป็นเด็กโค้ชด้วย แต่กลับดีใจที่โค้ชถูกปลดเนี่ยนะ
"แล้วใครโค้ชคนใหม่ล่ะ พี่เหรอ"
"เปล่า...พี่จะให้พี่ป้อมมาเป็นโค้ชหน่ะ"
"จริงเหรอพี่ ดีเลยๆๆๆ" มายทำเสียงดีใจอีกแล้ว
"อืมมม งั้นเดี๋ยววันประชุมพี่จะแจ้งรายละเอียดให้พวกเราทราบอีกทีแล้วกัน"
"ได้ค่ะพี่"
หลังจากคุยกับมายเสร็จผมก็เริ่มไล่โทรตามคณะกรรมการแล้วก็นักกีฬาที่ผมมีเบอร์อยู่แล้วก็ให้พวกเค้าช่วยกันโทรตามกันอีกที

13.20 ผมคุยกับ ม่อน แล้วก็ แจม เรื่องความผิดของเก่ง โดยผมพูดขอความคิดเห็นแบบเป็นกลางว่า "เก่งผิดก็จริง แต่เราไม่ใช่ผู้เสียหายโดยตรง ไม่ใช่ผู้ถูกกล่าวหาโดยตรง ดังนั้นมันไม่มีเหตุผลเท่าที่ควรที่เราจะออกหน้าดำเนินการ ถึงจะอ้างว่าเราแสดงความจริงใจให้ทุกคนเห็นว่าเราไม่ได้มีส่วนรู้เห็นหรือไม่ได้มีส่วนได้ส่วนเสียกับเงินก้อนนั้นก็ตามที อีกอย่าง ถ้าเราดำเนินการจริง แล้วเก่งถูกระงับคำสั่งจบการศึกษา มันไม่คุ้มที่จะเอาอนาคตของคนๆหนึ่งมาแลกกับความสะใจ ถ้าเรื่องขึ้นไปถึงผู้ใหญ่เมื่อไหร่มันจะยุ่งยากมากกว่านี้ ที่สำคัญเรื่องนี้มันมีทางประนีประนอมกันได้" ซึ่งม่อนกับแจมก็พูดไปในทางเดียวกันว่า "ก็ต้องให้เก่งรับผิดชอบอะไรบ้าง ไม่ใช่ปล่อยไปง่ายๆ" ซึ่งผมก็บอกให้ม่อน กับ แจม เข้าร่วมประชุมด้วย ผมต้องการความคิดเห็นจากสมาชิกในระดับคณะกรรมการแล้วก็นักกีฬาส่วนใหญ่มากกว่าที่จะเป็นความคิดเห็นของผมแค่คนเดียว ช่วงสุดท้ายของการคุยเรื่องนี้ ม่อน พูดด้วยความไม่พอใจหน่อยๆว่า "ทำไมเอจะต้องตามช่วยเหลือช่วยแก้ปัญหาให้พวกโค้ชอยู่ตลอดเวลา แล้วที่เอช่วยหาทางลงให้เก่งแบบนี้ เอคิดว่าเก่งมันจะสำนึกเหรอ คิดว่ามันจะกลับใจแล้วหันมาให้ความเคารพเอเหรอ เอน่าจะให้บทเรียนพวกนั้นบ้าง" พอม่อนพูดจบผมเลยหันไปบอกม่อนว่า "เราไม่ได้ทำเพื่อตัวเราเอง เราไม่ได้ทำเพื่อโค้ช เราไม่ได้ทำเพื่อเก่ง แต่เราทำเพื่อชมรม"

16.30 ผมเข้าไปหาพี่ป้อมที่ยิม เจอโค้ชนั่งอยู่ด้วย แต่ผมไม่ได้คุยอะไรกับเค้านอกจากยกมือไหว้ตามมารยาท แล้วผมก็บอกพี่ป้อมเรื่องการประชุมคณะกรรมการชุดเก่ากับนักกีฬา รวมถึงนัดคุยกับพี่ป้อมเรื่องแผนงานการดำเนินงานของชมรมและการฝึกซ้อมของนักกีฬาในวันพฤหัสที่จะถึงนี้

20.50 ผมโทรหาผู้อำนวยการกองฯเพื่อนัดคุยเรื่องการแต่งตั้งโค้ช เนื่องจากผมจะเริ่มให้น้องฝึกซ้อมกันให้เร็วที่สุดและจำเป็นจะต้องได้คำตอบที่ัชัดเจนเกี่ยวกับท่าทีของมหาวิทยาลัยในเรื่องนี้ เนื่องจากจะได้วางแผนการดำเนินงานในรอบปีการศึกษา 2554 ให้เสร็จ

21.10 พี่ป้อมโทรมาถามผมเรื่องปลดโค้ชว่าทางมหาวิทยาลัยแจ้งโค้ชหรือยัง ผมเลยบอกพี่ป้อมไปว่าผมจะรีบให้ทางมหาวิทยาลัยแจ้งให้โค้ชทราบเร็วที่สุด

21.40 ผมไมไ่ด้นอนฝันถึงว่านมา 2 วันแล้ว


ปล. ม่อนกับแจมเป็นสองในสิบสองคณะกรรมการของชมรมตั้งแต่ที่ผมเข้ามาทำชมรมในปีแรกซึ่งถือว่าเป็นคณะกรรมการชุดเก่า ไม่เกี่ยวกับชุดคณะกรรมการในปีที่เก่งดำเนินงานเนื่องจากไม่มีเอกสารแต่งตั้งใดๆและหมดวาระลงตามกำหนดปีการศึกษา ในปีนี้ผมจึงดึงคณะกรรมการชุดเก่าเข้ามาดำเนินงานต่อ รวมถึงดำเนินงานตามนโยบายที่เคยวางไว้เมื่อคราวที่ผมเป็นประธาน ซึ่งสิ่งที่ผมจะทำต่อไปนี้จะเป็นการตอกย้ำให้โค้ชทราบว่าคนที่มีอำนาจในชมรมแห่งนี้จริงๆคือใคร ( ผมดูเลวเน๊าะ )



15 มิ.ย.
17.00 ผมเข้าไปที่ิมเพื่อพบพี่ป้อม....เจอว่านด้วย....ว่านยังคงหลบหน้าเหมือนเคย เรื่องที่คุยกับพี่ป้อมก็มีกำหนดการประชุมพรุ่งนี้ ชี้แจงเรื่องวันเวลาฝึก สถานที่ แล้วก็เรื่องชมรมว่าสมาชิกคิดเห็นยังไง รวมถึงความผิดของโค้ชที่ทางมหาวิทยาลัยแจ้งเบื้องต้น เพราะพี่ป้อมตัดสินใจจะบอกโค้ชเอง ระหว่างที่นั่งคุยน้องต้นกล้าเอาลูกชิ้นทอดมาแบ่งด้วย ต้นกล้าเป็นหนุ่มขึ้นเยอะเลย พูดจาดูเป็นผู้ใหญ่ขึ้นมาก ดูนิ่ง แล้วก็สงบเสงี่ยมลงกว่าเมื่อก่อนมาก
18.30 คุยเสร็จผมก็นั่งเล่นหน้ายิมต่อ....ว่านปาลูกเทนนิสเล่นในยิม แล้วลูกเทนนิสก็กระเด็นออกมา กลิ้งผ่านหน้าผมไป...ดูเหมือนว่าว่านลังเลที่จะออกมาเก็บ....สุดท้ายก็วิ่งออกมาเก็บแล้ววิ่งกลับเข้าไปในยิมคืนอย่างรวดเร็ว ก่อนกลับได้ยินเสียงพี่ป้อมถามว่านว่า "ทำไมไม่เห็นคุยกับพี่เอละ"


16 มิ.ย.
12.30 ผมเช้าพบผู้อำนวยการกองเพื่อพูดคุยเรื่องการเปลี่ยนโค้ช ซึ่งผู้อำนวยการกองมีท่าทีที่เป็นบวก แล้วนัดให้วันจันทร์ที่จะถึงนี้ให้ผมพาพี่ป้อมไปพบ
15.30 ผมไปทำความสะอาดยิมรอน้องๆ
16.10 น้องๆทยอยมา วันนี้มีคนมาประชุม 21 คน เนื้อหาที่พูดคุยคือการซักถามเกี่ยวกับปัญหาเสื้อให้เข้าใจตรงกัน โดยผมชี้นำให้น้องมีท่าทีที่เป็นกลางที่สุด แล้วก็พูดคุยเรื่องชมรมที่ยังลูกผีลูกคนอยู่
18.00 จบการประชุม
18.30 ผมไม่เห็นว่านมา....เป็นไปได้ว่าพี่ป้อมอาจบอกว่านว่าผมจะมาประชุมวันนี้ว่านเลยไม่มา ไม่ก็น้องมาแล้วเห็นรถผมจอดอยู่เลยไม่เข้ามา ไม่งั้นก็น้องไม่ว่าง.....แต่ข้อสุดท้าย....เชื่อยากหน่อยเพราะอย่างที่เคยบอกไปว่านไม่เคยขาดสักวัน แต่ถ้ามองโลกในแง่ดีวันนี้...อาจสุดวิสัยจริงๆก็ได้.....ระหว่างที่รอปิดยิม ต้นกล้ามานั่งข้างๆผมแล้วพูดว่า....

“ช่วงนี้พี่ว่านเป็นอะไรไม่รู้” ต้นกล้าพูดขึ้น
“ทำไมละ” ผมถามต้นกล้ากลับไป
“ก็พี่ว่านไม่ค่อยซ้อม มาถึงก็มานั่งเล่น ไม่ก็เล่นลูกบอลเหมือนที่พี่เห็นเมื่อวาน”
“อ๋อ...ครูป้อมให้พี่ว่านหยุดซ้อมพักหนึ่งหน่ะ”
“เหรอครับ”
“ใช่แล้ว”
“แล้วทำไมพี่ว่านถึงไม่เห็นคุยกับพี่เอเลยล่ะ”
“.....ไม่รู้ซิ”
“คราวก่อนผมไปถามพี่ว่านว่า ทำไมเดี๋ยวนี้พี่เอไม่เห็นมาสอนเลย พี่ว่านก็ตอบผมมาว่า อยากรู้ก็ไปถามพี่เอเองซิ”
“เหรอ”
“ผมคิดว่าพี่ว่านต้องโกรธพี่เอแน่เลย” ต้นกล้าพูดด้วยน้ำเสียงที่แสดงให้เห็นว่าเค้ามั่นใจว่าสิ่งที่เค้าคิดมันต้องใช่แน่ๆ
“ทำไมถึงคิดว่าพี่ว่านโกรธพี่ละ” ผมถามต้นกล้ากลับไปเพราอยากรู้ว่าต้นกล้าคิดอะไรอยู่
“ก็คราวก่อนโน้นนน พี่เอไม่ได้มาซ้อม แต่พี่เอแวะมาตอนใกล้เลิกใช่ไหม แล้วพี่เอก็นั่งอยู่ข้างนอก พอเลิกพี่ว่านจะเอากระเป๋ามาวางหน้ารถพี่ก็กลับเฉยเลย โค้ชเลยต้องไปส่งพี่ว่าน” ต้นกล้าอธิบาย
“หืมม....ตอนนั้นพี่กลับก่อนเลิกอีกนี่นา”
“ไม่ๆ พอเลิกผมก็เห็นพี่เอขับรถออกพอดีเลย”
“เหรอ...”
“ใช่”
“แล้วทำไมถึงคิดว่าพี่ว่านโกรธพี่เรื่องนี้ล่ะ...พี่ว่านแสดงออกว่าโกรธพี่เหรอ”
“ไม่....หมายถึงผมไม่รู้เหมือนกันผมเดาเอา”
“ฮ่ะๆ...” ผมเผลอหัวเราะกลับไป เพราะต้นกล้าพูดซะน้ำเสียงมั่นใจ สุดท้ายก็เดาเอานี่เอง
“หัวเราะอะไรพี่เอ”
“ไม่มีอะไร”
“พี่เอ ใกล้วันคล้ายวันเกิดผมแล้ว” ต้นกล้าพูดพลางทำน้ำเสียงอ้อนๆ
“ทำไม จะอ้อนเอาอะไร”
“อยากกินหมูกระทะ ไม่ได้ไปกินกับพี่เอนานแล้ว”
“อืมมม.....ได้ซิ แล้วอีกกี่เดือน”
“อีกเจ็ดเดือน” ต้นกล้าพูดจบก็ยิ้ม
“อืมม....อีกนานเลยเน๊าะ”
“ก็นัดไว้ก่อน เดี๋ยวพี่บอกว่าไม่ว่างอีก”
“อ่า ได้ๆๆ”

สุดท้ายของวันนี้.....ทำไมวันนี้ว่านไม่มา
1.ว่านรู้ว่าผมมาว่านเลยไม่มา
2.ว่านมาแล้วเห็นรถผมว่านเลยไม่เข้าไป มารออยู่ห่างๆรอผมกลับก่อนค่อยเข้ามา ไม่ก็กลับไปเลย
3.ว่านติดธุระมาไม่ได้


17 มิ.ย.
12.00 เข้าประชุมที่กองกิจการนักศึกษาเรื่องการจัดตั้งชมรม กับน้องมายซึ่งคาดว่าอาจจะได้อยู่ในตำแหน่งประธาน หรือ รองประธานแน่ๆ....สำหรับเรื่องชมรมผมออกตัวไปว่าปีนี้ผมจะลงมาดูเอง....รู้สึกว่าพวกเจ้าหน้าที่ที่กองจะยอมให้เปิดชมรมได้ภายใต้เงื่อนไข ซึ่งผมก็ยังไม่รู้ว่าเงื่อนไขที่ว่าคืออะไร หลังการประชุมผมนัดน้องคนที่ว่านี้ให้เข้ามาเอาเอกสารการจัดทำรูปเล่มกับผมที่ยิมตอนเย็น
15.27 คุณพ่อน้องบี ส่งข้อความแจ้งเปลี่ยนหมายเลขโทรศัพท์มาให้
17.00 ผมเข้ายิมเจอแค่พี่ป้อม น้องต้นกล้า กับน้องคนอื่นๆซ้อมกันอยู่....ผมนั่งเล่นพักหนึ่งว่านก็มา....ตอนว่านเข้ามาในยิมพี่ป้อมสั่งพักพอดีแล้วพี่ป้อมก็มาคุยกับผม พอคุยเสร็จผมก็ยืนอยู่ในยิมพักหนึ่งก่อนจะกลับบ้าน แล้วบอกพี่ป้อมให้โทรหาผมถ้ามีน้องมาเอาเอกสาร...สรุป...ผมกับว่านก็ไม่ได้คุยกัน...อย่างที่บอกไปว่าผมเลือกที่จะเพิกเฉยกับน้องแล้ว


ชมรม : ผมไม่ชอบเรื่องการปกครองแบบอุปถัมภ์ ที่จะให้คนใกล้ชิดผมเท่านั้นมีโอกาสขึ้นมาเป็นใหญ่ในชมรม ผมอยากให้คนที่มีความสามารถขึ้นมาทำงานมากกว่า แต่เนื่องจากสภาพการที่ให้ออกความคิดเห็นเมื่อวา่นแล้ว.....ถ้าน้องๆไม่จำใจเลือกใครสักคนเพราะความเกรงใจ...ผมก็อาจต้องเลือกขึ้นมาเอง...อีกอย่้างถึงน้องมายจะแสดงออกมาว่ามีความรับผิดชอบมากๆ แถมยังตามติดผมไปทุกที่ การจะให้ผมเลือก ผมก็อาจตัดสินใจเลือกน้องเค้าจากผลงานที่เห็น แต่นั้นผมอาจถูกต่อว่าว่าเลือกที่รักมักที่ชังเอาคนสนิทขึ้นมาก็ได้ อืมม...เฮ้อ....
ว่าน : มีผู้อ่านแนะนำว่าให้ดักเจอแล้วคุย...จริงๆผมก็อยากทำนะ...แต่ว่านมีอีกด้านที่ผมไม่กล้าเล่าออกไป กลัวว่าทุกคนจะเกลียดน้องเอา...แล้วก็เพราะด้านนั้นแหละที่ทำให้ผมไม่กล้าที่จะรุกเข้าหาน้องเค้า เลยได้แค่ปล่อยไปให้เวลาผ่านไปเรื่อยๆแบบนี้


18 มิ.ย.
12.30 ผมไปทำช่องระบายอากาศที่ยิมเพิ่ม เพราะวันจันทร์นี้น้องๆก็จะมาซ้อมกันแล้ว อากาศจะได้ถ่ายเทดีๆ มีน้องมาช่วยอีก 5 คน แต่ผมให้น้องๆกลับไปหมด เนื่องจากอุปกรณ์มีชุดเดียว อีกอย่างผมชอบทำงานแบบเปิดเพลงฟังไปเรื่อยๆคนเดียว
14.00 น้องๆทหยอกลับกันหมด มีน้องมายแค่คนเดียวที่อยู่ด้วย
15.17 น้องพลอยโทรมาบอกว่ามาทำงานที่โรงเรียน ว่านก็มาด้วย ก่อนจะส่งโทรศัพท์ให้เพื่อนๆว่านที่รู้จักผมคุยด้วยหลายคน ดูเหมือนจะมีแค่ ริว กับ พลอยที่รู้ว่าว่านไม่คุยกับผม
19.23 มายนั่งเฝ้าผมจนถึงตอนกลับ....จริงๆผมอยากให้มายกลับไปตั้งนานแล้ว แต่ไม่กล้าพูด ผมอยากฟังเพลงไป ทำงานไปมากกว่าที่จะคุยไปทำงานไป ที่สำคัญมายมาอยู่กับผมแบบนี้มากๆถ้ามายได้เป็นประธานชมรม...แน่นอน....ต้องมีคนพูด


         วันนี้เหนื่อยมากเลยครับ เหงื่อท่วมแบบหยดตึ๋งๆกันคาตาเลยทีเดียว ไม่ได้จับงานแนวนี้มาพักหนึ่งแล้ว ฮะๆๆ วันนี้จะว่าไปคุยกับมายก็ได้สาระมาหน่อยเหมือนกัน ไม่รู้ว่าผมคุยไปไหนถึงได้วนมาเรื่องนี้ จำเรื่องที่ผมเล่าให้ฟังว่าโค้ชโจมตีผมเรื่องเตะด้วยขาหน้าได้ไหมครับ ล่าสุดที่ผมจำได้โค้ชถึงกับพูดว่า "ใช้ขาหน้าเตะมันดูขี้ขลาด" แต่เชื่อไหมครับ....โค้ชสอนพวกนักกีฬาที่มหาวิทยาลัยเมื่อปีก่อนให้ใช้ขาหน้าเตะด้วย.....น้องมายเล่ามาแบบนั้น ซึ่งผมเองก็ยืนยันกับมายไปว่า โค้ชที่ผมรู้จักต่อต้านเรื่องนี้มาก แต่มายก็ยืนกรานคำเดิมว่าโค้ชสอนจริงๆ "ถ้าพี่ไม่เชื่อพี่ถามพวกนักกีฬาทุกคนดูได้เลย" มายถึงกับเอ่ยปากมาแบบนั้น มาถึงตรงนี้เดี๋ยวมายจะหาว่าผมใส่ร้ายโค้ช วันจันทร์ที่จะถึงนี้ผมแนะนำให้มายไปถามว่านดู เพราะว่านเองหลังจากที่เค้าเริ่มเย็นชาใส่ผม ว่านก็ออกลายต่อต้านการใช้ขาหน้าเตะเช่นเดียวกับโค้ช ที่สำคัญว่านมักจะอ้างถึงโค้ชเสมอว่า "โค้ชบอกว่าห้ามใช้ขาหน้าเตะ" ส่วนตัวผมก็จะลองถามนักกีฬาคนอื่นดูเหมือนกัน....ณ จุดนี้ผมว่าโค้ชเค้าขุดหลุมฝังตัวเองสำหรับวงการนี้ลึกมากขึ้นเรื่อยๆแล้ว
         แต่อีกมุมผมก็คิดนะการที่ผมมีอิธิพลกับเด็กๆมาก ทำให้โค้ชเค้ารู้สึกว่าตัวเค้าเองมีค่าลดลงหรือเปล่า เค้าเลยพยายามลดความน่าเชื่อถือในตัวผมลง ด้วยการติเตียนเรื่องต่างๆที่ผมทำ คืออะไรก็ได้ขอแค่ได้ติก็พอเด็กๆจะได้เลิกเชื่อถือนับถือผม แต่เปลี่ยนไปเป็นเชื่อถือโค้ช นับถือโค้ชแทน ถ้าเป็นแบบนั้นจริงผมว่าโค้ชเป็นคนที่โง่สุดในสามโลกเลยอะ ผมกับพี่ป้อมยอมให้โค้ชเค้าใหญ่สุดในยิมนี้ เพราะงั้นเค้าไม่จำเป็นต้องมาบั่นทอนอิธิพลของผมหรือพี่ป้อมเลย ในทางตรงกันข้าม โค้ชเองไม่ได้มีอะไรให้เด็กๆเชื่อถือสักเท่าไหร่ ไหนจะความไม่แน่ไม่นอนในเรื่องท่าที่ใช้สอนเปลี่ยนไปเรื่อย ความเห็นแก่ตัวชอบเอาเปรียบ ไม่มีความรับผิดชอบ ขี้โม้ปั้นเรื่องคิดว่าเด็กกินหญ้าขนล่ะมั้ง ที่สำคัญไม่ใส่ใจเด็ก แล้วพอสุดท้ายผมกับพี่ป้อมไม่มายุ่ง ยิมก็ถึงกับต้องปิดตัวเพราะเด็กออกหมด ผมว่าการที่ยิมเกือบปิดตัวลงน่าจะเป็นลางบอกเหตุถึงจุดเริ่มต้นของการกลมฝังตัวของโค้ชเองสำหรับวงการนี้แล้วล่ะ


19 มิ.ย.
          วันนี้ผมไปทำช่องลมยิมต่อแล้วก็เก็บรายละเอียดงานที่เหลือ ระหว่างนั้นผมก็พยายามโน้มน้าวพี่ป้อมให้เคลียร์เรื่องยิม เพราะจะว่ากันตามหลักการแล้วโค้ชลงทุนกับยิมนี้มากที่สุด โค้ชย่อมเป็นเจ้าของ แต่ทว่าหากเจ้าของไม่สามารถดูแลยิมได้ จนสุดท้ายยิมหวิดต้องปิดตัว ซึ่งถ้าจะว่ากันตามเนื้อผ้ายิมอยู่ในสถานะปิดตัวไปแล้ว ดังนั้นการที่พี่ป้อมมาทำต่อ ก็เหมือนกับเป็นการเอาอุปกรณ์ของโค้ชมาใช้เท่านั้น ผมเลยเสนอให้พี่ป้อมคุยกับโค้ชเพื่อตีราคาสิ่งของที่อยู่ในยิมนี้ ว่ามีมูลค่าเท่าไหร่ แล้วจ่ายให้โค้ชไปให้หมดคล้ายๆการเช่าซื้อด้วยการหักเงินจากค่าสอน ซึ่งผมยินดีถูกหักในส่วนของผมทั้งหมด เพื่อให้อุปกรณ์ของยิมในขณะนี้อยู่ในการครอบครองของผม หรือ พี่ป้อม ไม่ใช่โค้ช หรือ มีการครอบครองใรสัดส่วนเท่าๆกัน เค้าจะได้เลิกอ้างว่าเค้าลงทุนมากที่สุดซะที
          ส่วนเรื่องการสอนผมคุยกับพี่ป้อมเช่นกันโดยหลังจากพ้นเวลาที่โค้ชโดนแบนจากยิม ผมกับพี่ป้อมจะแยกกันสอนเด็กคนล่ะกลุ่ม กับโค้ช ส่วนหนึ่งเพื่อเป็นการพิสูจน์ว่าการสอนของโค้ชนั้นเป็นอย่างไร จากเนื้อหาย่อหน้าบนการแบ่งสัดส่วนรายได้จะได้ไม่มีใครกินแรงใครด้วย เพราะโค้ชมักขอส่วนแบ่งมากที่สุด ในขณะที่ตัวเค้าไม่ทำอะไรเท่าไหร่ มีแต่ข้ออ้างว่า "ก็พี่ลงทุนมากที่สุด" ผู้อ่านอาจสงสัยว่าทำไมผมกับพี่ป้อมไม่สนใจเรื่องรายได้จากยิมนอกจากโค้ชคนเดียว.....เพราะผมกับพี่ป้อมเรารักเทควันโดมากครับ แล้วเราสอนด้วยใจ ไม่ใช่เพราะเรื่องรายได้
          พรุ่งนี้น้องๆจากที่มหาวิทยาลัยก็จะมาร่วมฝึกซ้อมด้วยแล้วบรรยากาศน่าจะดีขึ้น....แล้วก็...ผมหวังว่าพี่ป้อมจะเห็นด้วยกับผมเรื่องจ่ายค่าอุปกรณ์ให้โค้ชนะ.....ส่วนว่าน....ก็ดูๆต่อไปผมคงไม่ตื้อน้องแล้วล่ะ อีกอย่าง...วันนี้มายมานั่งเฝ้าผมอีกแล้ว...


20 มิ.ย.
วันนี้ผมไม่สบาย หลังจากกลับจากมหาวิทยาลัยผมก็นอนยาวตั้งแต่ 16.00 - 10.45 ของอีกวันเลยทีเดียว


21 มิ.ย.
         ตอนเย็นผมเอาเอกสารไปให้มายตอนสี่โมงเย็น แล้วก็นั่งเล่นจนประมาณห้าโมงกว่าว่านก็มา....พอมาถึงว่านไม่เข้ามาในยิมครับ แต่ไปเล่นปาลูกเบสบอลใส่ต้นไม้ที่หน้ายิมแทน ซึ่งว่านก็เดินมาส่องอยู่เรื่อยๆ หลังจากที่ผมคุยกับน้องๆเสร็จ ผมก็กลับ พอผมเดินออกมาหน้ายิมว่านรีบวิ่งไปหลบข้างยิมอย่างรวดเร็ว ผมเองก็ไม่ได้แสดงออกไปว่าผมสนใจว่านแต่อย่างใด....เรื่องแบบนี้ชายตามองบ้างก็พอแล้ว ไม่จพเป็นต้องหันไปดูให้เค้ารู้ว่าเรามอง
หัวข้อ: Re: น้องชาย 2 ( Up เหตุการณ์ล่าสุด 09/06/11 หน้า้ 7 )
เริ่มหัวข้อโดย: y33n ที่ 09-06-2011 17:33:27
อ่าว. น้องว่านใจร้ายไปป่ะ - -"
หัวข้อ: Re: น้องชาย 2 ( Up เหตุการณ์ล่าสุด 09/06/11 หน้า้ 7 )
เริ่มหัวข้อโดย: naoki24 ที่ 09-06-2011 17:49:53
เกิดอารายขึ้น กลับมาจากสอนหนังสือ เรื่องของเอก็จบซะและ

คุณเอ ถ้าคุณเอยังอยากจะใช้ชีวิตอยู่กับว่านจริงๆก่อนที่จะสายเกินไปณเอควรรีบจัดการปัญหาในตัวน้องว่านด้วยตัวคุณเอเองแล้วละไม่งั้นรอน้องว่านแก้เองคงจะทำให้เค้ากลายเป็นเด็กเก็บกดไปเลยก็ได้นะ เพราะผมเคยอยู่คนเดียวในบ้านในห้องสี่เหลี่ยมๆแคบๆเล็กมา3ปี พอจะเดาออกว่าความรู้สึกคนที่อยากออกจากกรอบแล้วไม่ได้ออกมันเป็นอย่างไร

คนที่ช่วยเอแก้ปัญหาเรื่องว่านได้ตอนนี้น่าจะเป็นพี่ป้อมเเละน้องคนใดก็ตามที่สนิทกับว่านที่สุดแต่ก็สนิทกับเอที่สุดเหมือนกันนะ ให้ช่วยเป็นสื่อกลางพยายามพูดให้ว่านเห็นใจ เข้าใจ หรือสงสารในตัวคุณเอดูบ้าง ไม่รู้ว่าโค้ชไปเป่าหูอะไรว่านในเรื่องที่โค้ชโดนพักงาน4เดือน ตรงนี้อาจจะเป็นสาเหตุที่ว่านเริ่มเกียกกายออกจากตัวคุณเอด้วยหรือป่าวไม่รู้นะ

และสุดท้ายขอเฟซบุ๊คคุณเอมั่งสิ จะได้เข้าไปเยี่ยมเยียน หรือไม่ก็ฝากลูกศิษย์ผมไปเรียนเทดวันโด่กับคุณเอหน่อย เหนือยใจให้ออกกำลังกายแต่มันไม่ยอมออก แต่ดันชอบต่อย ตบ ตี กัด ขย่ำ กระชาก จับใส่ท่ามวยปล้ำ เลยว่าฝากคุณเอสอนเทควันโด้มันดีกว่าไม่งั้นมันมาระบายกะผมหมดแน่เลย  :beat:

สุดท้ายนี้ ให้คุณเอลองเช็คน้องว่านดูว่าน้องเค้ารักสัตว์หรือมีสัตว์มาติดน้องมากมั้ย เพราะว่าคนที่รักสัตว์หรือคนที่สัตว์ชอบไม่ใช่คนใจร้าย นิสัยไม่ดี หรือไม่เข้าใจจิตใจคนอื่นแน่นอน คงคล้ายๆกับน้องบีละมั้ง :L3:
หัวข้อ: Re: น้องชาย 2 ( Up เหตุการณ์ล่าสุด 09/06/11 หน้า้ 7 )
เริ่มหัวข้อโดย: Y2Y ที่ 09-06-2011 19:42:07
มาฟังข่าวค่ะ

แอบเศร้าแทนเลยที่รู้ว่า ว่านลบ คุณเอออกจากเฟซ 

ลองคุยกะน้องแบบจริงจังรึยังค่ะ ถ้าโทรไปไม่รับ ก็ไปหาถึงที่เลย บ้านเราก็รู้จักกลัวอะไร
หัวข้อ: Re: น้องชาย 2 ( Up เหตุการณ์ล่าสุด 09/06/11 หน้า้ 7 )
เริ่มหัวข้อโดย: kritsada.s ที่ 09-06-2011 20:22:59
ลองคุยกับน้องแบบจริงจังสักครั้ง (กรณีที่น้องไม่อยากคุยนะ)บอกไปเลยครับว่าขอคุยกันครั้งสุดท้ายได้ไหม
ถ้าว่านบอกว่าจบคุณเอก็ต้องจบครับ บอกได้อย่างแค่นั้นจริงๆ
หัวข้อ: Re: น้องชาย 2 ( Up เหตุการณ์ล่าสุด 12/06/11 หน้า้ 7 )
เริ่มหัวข้อโดย: me_alone ที่ 12-06-2011 12:14:17
อ่าว. น้องว่านใจร้ายไปป่ะ - -"
:กอด1:



เกิดอารายขึ้น กลับมาจากสอนหนังสือ เรื่องของเอก็จบซะและ
คุณเอ ถ้าคุณเอยังอยากจะใช้ชีวิตอยู่กับว่านจริงๆก่อนที่จะสายเกินไปณเอควรรีบจัดการปัญหาในตัวน้องว่านด้วยตัวคุณเอเองแล้วละไม่งั้นรอน้องว่านแก้เองคงจะทำให้เค้ากลายเป็นเด็กเก็บกดไปเลยก็ได้นะ เพราะผมเคยอยู่คนเดียวในบ้านในห้องสี่เหลี่ยมๆแคบๆเล็กมา3ปี พอจะเดาออกว่าความรู้สึกคนที่อยากออกจากกรอบแล้วไม่ได้ออกมันเป็นอย่างไร
คนที่ช่วยเอแก้ปัญหาเรื่องว่านได้ตอนนี้น่าจะเป็นพี่ป้อมเเละน้องคนใดก็ตามที่สนิทกับว่านที่สุดแต่ก็สนิทกับเอที่สุดเหมือนกันนะ ให้ช่วยเป็นสื่อกลางพยายามพูดให้ว่านเห็นใจ เข้าใจ หรือสงสารในตัวคุณเอดูบ้าง ไม่รู้ว่าโค้ชไปเป่าหูอะไรว่านในเรื่องที่โค้ชโดนพักงาน4เดือน ตรงนี้อาจจะเป็นสาเหตุที่ว่านเริ่มเกียกกายออกจากตัวคุณเอด้วยหรือป่าวไม่รู้นะ
และสุดท้ายขอเฟซบุ๊คคุณเอมั่งสิ จะได้เข้าไปเยี่ยมเยียน หรือไม่ก็ฝากลูกศิษย์ผมไปเรียนเทดวันโด่กับคุณเอหน่อย เหนือยใจให้ออกกำลังกายแต่มันไม่ยอมออก แต่ดันชอบต่อย ตบ ตี กัด ขย่ำ กระชาก จับใส่ท่ามวยปล้ำ เลยว่าฝากคุณเอสอนเทควันโด้มันดีกว่าไม่งั้นมันมาระบายกะผมหมดแน่เลย  :beat:
สุดท้ายนี้ ให้คุณเอลองเช็คน้องว่านดูว่าน้องเค้ารักสัตว์หรือมีสัตว์มาติดน้องมากมั้ย เพราะว่าคนที่รักสัตว์หรือคนที่สัตว์ชอบไม่ใช่คนใจร้าย นิสัยไม่ดี หรือไม่เข้าใจจิตใจคนอื่นแน่นอน คงคล้ายๆกับน้องบีละมั้ง :L3:
:เฮ้อ: ~ ว่านเลี้ยงแมวครับ ของตัวเอง 1 ตัว ของข้างบ้าน 2 ตัว



มาฟังข่าวค่ะ
แอบเศร้าแทนเลยที่รู้ว่า ว่านลบ คุณเอออกจากเฟซ 
ลองคุยกะน้องแบบจริงจังรึยังค่ะ ถ้าโทรไปไม่รับ ก็ไปหาถึงที่เลย บ้านเราก็รู้จักกลัวอะไร
:เฮ้อ: ~ ว่านเป็นเด็กที่ถ้าปฏิเสธแล้ว น้องจะถอยหนีเลยครับ ไม่สนใจจะรับรู้เรื่องพวกนั้นอีก ต่อให้ที่เค้าต้องถอยหนีนั้นเป็นเพราะความเข้าใจผิดก็เหอะ ว่านมักรับไม่ได้ถ้ามีใครติด หรือ พูดว่าการตัดสินใจของเค้านั้นเป็นเรื่องผิดพลาด
อย่างที่สมาชิกบางท่านเดาไว้อย่างแม่นยำนั่นล่ะครับ ว่าน้องอยู่คนเดียวมาตลอด ตัดสินใจทุกอย่างเองมาตลอด เพราะงั้นน้องมักจะเชื่อมั่นในการตัดสินใจของตัวเอง



ลองคุยกับน้องแบบจริงจังสักครั้ง (กรณีที่น้องไม่อยากคุยนะ)บอกไปเลยครับว่าขอคุยกันครั้งสุดท้ายได้ไหม
ถ้าว่านบอกว่าจบคุณเอก็ต้องจบครับ บอกได้อย่างแค่นั้นจริงๆ
ผมถามจริงๆนะ...ตอนนี้ผมยังต้องคุยกับน้องอยู่ไหมอะครับ ?
หัวข้อ: Re: น้องชาย 2 ( Up เหตุก$
เริ่มหัวข้อโดย: kikumaru ที่ 12-06-2011 13:19:33
แวบเข้ามาอ่านเรื่องนี้ไม่อยากเชื่อก็ต้องเชื่อว่าคนแบบโค้ช
มักจะได้รับความสนใจและน่านับถือจากคนที่ไม่รู้เรื่องจริงๆ
ดีแล้วที่คุณเอให้บทเรียนแก่โค้ชเพราะเค้าแย่เกินที่จะเยียวยา
น่าสงสารแต่น้องว่านแหละว่าอนาคตอาจจะกลายเป็นคนแบบโค้ชก็ได้
มาถึงจุดนี้ที่อ่านจนถึงล่าสุด
น้องว่านไม่ยอมเปิดใจยอมรับคนอื่นมากเกินไป
หากน้องยังทำแบบนี้คุณเอคงต้องปล่อยน้องไปเถอะ
ดูท่าน้องคงฝังใจแล้วละว่าคุณเอเป็นคนที่แย่ๆเหมือนโค้ชเค้าย้ำ
และก็คงเปลี่ยนความคิดน้องไปได้
ถ้าหากคุณเอยังห่วงน้องก็แค่ถอยออกมาคอยช่วยอยู่ห่างๆก็พอแล้วมั้ง
ถึงแม้ใจหนึ่งก็ไม่ค่อยชอบใจต่อท่าทางที่น้องแสดงออกมาต่อคุณเอ
จนนึกอยากจะให้คุณเอตัดใจจากน้องดีกว่าที่จะมาคอยห่วงคนแบบนี้ให้เสียเวลาเสียความรู้สึก(ขอโทษด้วยที่พูดรุนแรงไปบ้างตอนท้าย)
หัวข้อ: Re: น้องชาย 2 ( Up เหตุการณ์ล่าสุด 12/06/11 หน้า้ 7 )
เริ่มหัวข้อโดย: me_alone ที่ 12-06-2011 13:46:45
^
^

ตอนนี้ผมตัดสินใจเพิกเฉยกับน้องไปแล้วครับ ( แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าไม่สนใจ )
ส่วนยิม ผมวางยาไว้แรงอยู่ครับ เพราะกะว่าถ้าโค้ชอยากจะดื้อดึงรั้งไว้ ก็ประมาณไว้ไม่ให้เกิน 3 เดือน ต้องถอดใจแน่
อยากสั่งสอนให้โค้ชรู้ว่าที่เค้ามีอยู่ตรงนี้ ไม่ใช่เพราะตัวเค้าอย่างที่เค้าคิด แล้วก็เข้าใจ
ใจหนึ่งก็อยากปล่อยให้ยิมปิดตัวไป เพื่อสั่งสอนโค้ช อีกใจก็เป็นห่วงน้องคนอื่นที่ยังมาซ้อมอยู่ โดยเฉพาะว่าน
จะว่าไปวันนี้ว่านเองก็ทำให้ผมรู้ว่าคนในยิมที่ผมต้องใส่ใจไม่ได้มีแค่ว่าน

แล้วก็.....ในเมื่อผมวางยายิม....แน่นอนผมมียาแก้อยู่
เรื่องที่พี่ป้อมกลับมาไม่ใช่เรื่องบังเอิญ เรื่องที่มหาวิทยาลัยก็ไม่ใช่เรื่องบังเอิญอีกเช่นกัน

ตอนนี้ผมคงต้องวางเรื่องส่วนตัว แล้วสานต่ออุดมการณ์ต่อดีกว่า
อย่างที่สมาชิกหลายคนบอก ผมไม่ควรให้ว่านมามีอิธิพลในชีวิตผมมากเกินไป
ส่วนว่าน...คงต้องให้ประสบการณ์สอนเค้าเองแล้วล่ะครับ
หัวข้อ: Re: น้องชาย 2 ( Up เหตุการณ์ล่าสุด 12/06/11 หน้า้ 7 )
เริ่มหัวข้อโดย: kokoky ที่ 12-06-2011 14:21:13
น้องว่านต้องการอะไร ไม่เข้าใจเด็กคนนี้จริงๆ
คนที่เค้าห่วงใยกลับเมิน ไม่เห็นความหวังดี

ยังไงก็ห่วงน้องค่ะ

แต่ก็ทำได้แค่ห่วง
เพราะจากที่ดูน้องว่านหลีกเลี่ยงความหวังดีอย่างนี้
บอกได้คำเดียวว่า"ไปไม่เป็น"

เป็นกำลังใจให้คุณเอนะคะ  :L2:
หัวข้อ: Re: น้องชาย 2 ( Up เหตุการณ์ล่าสุด 12/06/11 หน้า้ 7 )
เริ่มหัวข้อโดย: me_alone ที่ 12-06-2011 14:45:56
^
^

ผมก็ไปไม่เป็นครับ จะเข้าไปคุยน้องก็เดินหนี เดินหลบ อย่างที่บอกไปก่อนหน้านี้
ตอนแรกก็คิดว่าน้องอาจเขิน อาย หรืออะไรสักอย่าง แต่นั่นเราอาจมองน้องในด้านดีเกินไป
เพราะหลังจากที่ว่านหลบๆผมในวันแรก ก็เปลี่ยนมาเป็นทำท่าทาง ท่าทีไม่เป็นมิตรด้วยเลย จนคนรอบๆข้างรู้สึกได้ถึงความผิดปรกติ
ครั้นว่าจะคุยกับน้อง....ก็เดินหนี แถมทำท่าทางไม่สบอารมณ์อีก.....จะให้น้องเริ่มคุย...น้่องก็ไม่เห็นคุยอะไรเอาแต่เดินหนี
โทรหาก็ไม่รับ ไปที่บ้านก็ไม่ออกมา FaceBook ก็ลบผมออกจากเพื่อน SMS ไปหาก็ถึงกับจะบล๊อกเบอร์ผมอีก
สรุปเกือบ 2 เดือนที่ผมไม่ได้เข้าไปที่ยิม เกือบ 2 เดือนที่ไมไ่ด้เจอว่าน ผมทำอะไรให้ว่านโกรธขึ้นมาได้อีกเหรอ ?
ผมไม่เข้าใจเลย
หัวข้อ: Re: น้องชาย 2 ( Up เหตุการณ์ล่าสุด 12/06/11 หน้า้ 7 )
เริ่มหัวข้อโดย: โน๊อา ที่ 12-06-2011 19:22:18
อ่านอยู่หลายวัน ทั้ง 1 และ 2 ค่ะ
เป็นกำลังใจให้สำหรับทั้งเรื่องงาน แล้วก็เรื่องน้องค่ะ
หัวข้อ: Re: น้องชาย 2 ( Up เหตุการณ์ล่าสุด 12/06/11 หน้า้ 7 )
เริ่มหัวข้อโดย: Y2Y ที่ 12-06-2011 21:15:55
แวะมาฟังข่าวค่ะ รู้สึกว่า ใจจดใจจ่อกับเรื่องราวคุณเอเกิ๊น  แบบนี้แถวบ้านเรียกอินเวอร์
หัวข้อ: Re: น้องชาย 2 ( Up เหตุก$
เริ่มหัวข้อโดย: naoki24 ที่ 13-06-2011 12:52:40
^
^

ผมก็ไปไม่เป็นครับ จะเข้าไปคุยน้องก็เดินหนี เดินหลบ อย่างที่บอกไปก่อนหน้านี้
ตอนแรกก็คิดว่าน้องอาจเขิน อาย หรืออะไรสักอย่าง แต่นั่นเราอาจมองน้องในด้านดีเกินไป
เพราะหลังจากที่ว่านหลบๆผมในวันแรก ก็เปลี่ยนมาเป็นทำท่าทาง ท่าทีไม่เป็นมิตรด้วยเลย จนคนรอบๆข้างรู้สึกได้ถึงความผิดปรกติ
ครั้นว่าจะคุยกับน้อง....ก็เดินหนี แถมทำท่าทางไม่สบอารมณ์อีก.....จะให้น้องเริ่มคุย...น้่องก็ไม่เห็นคุยอะไรเอาแต่เดินหนี
โทรหาก็ไม่รับ ไปที่บ้านก็ไม่ออกมา FaceBook ก็ลบผมออกจากเพื่อน SMS ไปหาก็ถึงกับจะบล๊อกเบอร์ผมอีก
สรุปเกือบ 2 เดือนที่ผมไม่ได้เข้าไปที่ยิม เกือบ 2 เดือนที่ไมไ่ด้เจอว่าน ผมทำอะไรให้ว่านโกรธขึ้นมาได้อีกเหรอ ?
ผมไม่เข้าใจเลย

คุณเอจำตอนที่คุณเอรุกน้องได้มั้ย คุณเอก็ไม่ได้ขออะไรน้อง แต่คุณเอรุกเลยทันที
เหมือนกันจะคุยกับน้องเราก็รุกเลยไม่ต้องรอมันเดินหนี
ไม่งั้นดักรอที่ห้องแต่ตัวห้องน้ำหรือห้อง.......
และผมขอแนะนำว่า ให้ทำการจูบอย่าสุดซึ้งไปที่หน้าผาก1ที
รับรองว่าว่านนิ่งเฉยแน่นอน ถึงตอนนั้นค่อยบอกกับน้องไปว่า

"พี่รักบีก็จริงแต่พี่น่ะเป็นห่วงเรามากกว่าใครๆ แล้วเราคิดว่าถ้าเราหนีพี่ไปไกลถึงต่างประเทศคิดหรือว่าพี่จะไม่ตามหาเรา
จะโกรธ จะเกลียด จะเย็นชากับพี่อย่างไรก็ตามที แต่พี่ขอสักนิดเดียวขอแคได้ดู ได้เห็น ใบหน้าที่ยิ้มแย้มของเราแม้ว่าจะไม่ยิ้มให้พี่ก็ตาม.... ขอให้พี่ได้เป็นห่วงเป็นใยเราไม่ว่าเวลานั้นเราจะมีใครหรือไม่มีใครอยู่ใกล้ๆก็ตามท่ี..... ขอให้เบอร์โทรศัพท์ของพี่ยังอยู่ในมือถือขอว่านไม่ว่าว่านจะบล๊อคเบอร์หรือSMSก็ตาม เพียงแค่ยังมีเบอร์พี่อยู่ว่านจะเดือดร้อนจนไม่ม่ีคนช่วยว่านได้อย่างไรก็ตาม  ขอให้ว่านแค่โทรมาบอกแล้วพี่จะรีบไปหาว่านเหมือนอย่างที่เคยเป็นมา"(ขุดมาให้ตอนที่ทะเลาะกับน้อง(ลูกศิษย์)ก็พูดแบบนี้เหมือนกันแต่น้องผมไม่ได้บล็อคเบอร์นะ)

รับรองว่าน้องว่านอาจจะเปลี่ยนแปลงได้ หรือไม่ก็จะถามคุณเอกลับตรงๆ ณ.ตรงนั้นเลยว่า "แล้วตกลงผมกับบีใครเป็นแฟนพี่" อันนี้ที่เหลือแล้วแต่ใจคุณเอละกันนะครับ ขอเตือนว่า คำว่าน้องกับคำว่าแฟน มันห่างไกลกันมาก และแฟนจะไม่ชอบน้องเราและก็น้องเราจะเข้ากับแฟนเราไม่ได้เช่นกัน

ขอให้โชคดีนะครับ ผมไปสอนหนังสือต่อดีกว่า เด๋ววุนศุกร์กลับมาอ่านผลคืบหน้า
หัวข้อ: Re: น้องชาย 2 ( Up เหตุการณ์ล่าสุด 14/06/11 หน้า้ 7 )
เริ่มหัวข้อโดย: icyblue ที่ 15-06-2011 10:22:10
ถ้าน้องว่านตั้งใจหลบขนาดนั้น

คงได้แต่อยู่ห่างๆ แบบห่วงๆ แหละ ดูๆไปก่อน ไว้ถ้ามีโอกาสก็ค่อยเข้าหา

คุยกัน ถ้าน้องเขาอยากเป็นแค่รุ่นน้อง  เอคงต้องทำใจเป็นแค่พี่ชายเหมือนเดิม

แต่ถ้าน้องเค้าทำเหมือนเอเป็นคนอื่น คนไม่รู้จัก ก็คงต้องปล่อยไป ดูแลเฉพาะตอนซ้อมแหละ

 :กอด1: :L2:เป็นกำลังใจให้เอ  หวังว่าทุกๆอย่างจะดีขึ้นนะค่ะ
หัวข้อ: Re: น้องชาย 2 ( Up เหตุการณ์ล่าสุด 14/06/11 หน้า้ 7 )
เริ่มหัวข้อโดย: kikumaru ที่ 15-06-2011 12:32:49
เรื่องของเก่งเหมือนที่มีคนบอกว่า
ถ้าไม่ดัดนิสัยเค้าจบไปแล้วทำงี้ก็ไม่มีใครเอาไปทำงานด้วยหรอก
ดังนั้นคุณเอต้องใจแข็งเพื่อแก้นิสัยแบบนี้
ไม่ใช่เราร้ายนะแต่ต้องทำ
ส่วนเรื่องน้องเห็นด้วยคะออกห่างแล้วห่วงๆไกลๆเอา
ประมาณว่าถ้าวันไหนน้องอยากได้คนให้กำลัง
หรือคนคอยเคียงข้างพี่เอจะรอที่ตรงนั้น
แต่ขณะเดียวกันพี่เอก็ไม่ควรหยุดกับที่เรื่องของหัวใจนะ
เปิดออกเพื่อรอใครที่เรากับเค้าจะไปด้วยกันได้
หัวข้อ: Re: น้องชาย 2 ( Up เหตุการณ์ล่าสุด 15/06/11 หน้า้ 7 )
เริ่มหัวข้อโดย: me_alone ที่ 15-06-2011 22:20:21
คุณเอจำตอนที่คุณเอรุกน้องได้มั้ย คุณเอก็ไม่ได้ขออะไรน้อง แต่คุณเอรุกเลยทันที
เหมือนกันจะคุยกับน้องเราก็รุกเลยไม่ต้องรอมันเดินหนี
ไม่งั้นดักรอที่ห้องแต่ตัวห้องน้ำหรือห้อง.......
และผมขอแนะนำว่า ให้ทำการจูบอย่าสุดซึ้งไปที่หน้าผาก1ที
รับรองว่าว่านนิ่งเฉยแน่นอน ถึงตอนนั้นค่อยบอกกับน้องไปว่า

"พี่รักบีก็จริงแต่พี่น่ะเป็นห่วงเรามากกว่าใครๆ แล้วเราคิดว่าถ้าเราหนีพี่ไปไกลถึงต่างประเทศคิดหรือว่าพี่จะไม่ตามหาเรา
จะโกรธ จะเกลียด จะเย็นชากับพี่อย่างไรก็ตามที แต่พี่ขอสักนิดเดียวขอแคได้ดู ได้เห็น ใบหน้าที่ยิ้มแย้มของเราแม้ว่าจะไม่ยิ้มให้พี่ก็ตาม.... ขอให้พี่ได้เป็นห่วงเป็นใยเราไม่ว่าเวลานั้นเราจะมีใครหรือไม่มีใครอยู่ใกล้ๆก็ตามท่ี..... ขอให้เบอร์โทรศัพท์ของพี่ยังอยู่ในมือถือขอว่านไม่ว่าว่านจะบล๊อคเบอร์หรือSMSก็ตาม เพียงแค่ยังมีเบอร์พี่อยู่ว่านจะเดือดร้อนจนไม่ม่ีคนช่วยว่านได้อย่างไรก็ตาม  ขอให้ว่านแค่โทรมาบอกแล้วพี่จะรีบไปหาว่านเหมือนอย่างที่เคยเป็นมา"(ขุดมาให้ตอนที่ทะเลาะกับน้อง(ลูกศิษย์)ก็พูดแบบนี้เหมือนกันแต่น้องผมไม่ได้บล็อคเบอร์นะ)

รับรองว่าน้องว่านอาจจะเปลี่ยนแปลงได้ หรือไม่ก็จะถามคุณเอกลับตรงๆ ณ.ตรงนั้นเลยว่า "แล้วตกลงผมกับบีใครเป็นแฟนพี่" อันนี้ที่เหลือแล้วแต่ใจคุณเอละกันนะครับ ขอเตือนว่า คำว่าน้องกับคำว่าแฟน มันห่างไกลกันมาก และแฟนจะไม่ชอบน้องเราและก็น้องเราจะเข้ากับแฟนเราไม่ได้เช่นกัน

ขอให้โชคดีนะครับ ผมไปสอนหนังสือต่อดีกว่า เด๋ววุนศุกร์กลับมาอ่านผลคืบหน้า

:เฮ้อ: ~ อยากทำเหมือนกัน....



ถ้าน้องว่านตั้งใจหลบขนาดนั้น
คงได้แต่อยู่ห่างๆ แบบห่วงๆ แหละ ดูๆไปก่อน ไว้ถ้ามีโอกาสก็ค่อยเข้าหา
คุยกัน ถ้าน้องเขาอยากเป็นแค่รุ่นน้อง  เอคงต้องทำใจเป็นแค่พี่ชายเหมือนเดิม
แต่ถ้าน้องเค้าทำเหมือนเอเป็นคนอื่น คนไม่รู้จัก ก็คงต้องปล่อยไป ดูแลเฉพาะตอนซ้อมแหละ
 :กอด1: :L2:เป็นกำลังใจให้เอ  หวังว่าทุกๆอย่างจะดีขึ้นนะค่ะ
:เฮ้อ: ~ ครับ ได้แค่มองห่างๆ อย่างห่วงๆ




เรื่องของเก่งเหมือนที่มีคนบอกว่า
ถ้าไม่ดัดนิสัยเค้าจบไปแล้วทำงี้ก็ไม่มีใครเอาไปทำงานด้วยหรอก
ดังนั้นคุณเอต้องใจแข็งเพื่อแก้นิสัยแบบนี้
ไม่ใช่เราร้ายนะแต่ต้องทำ
ส่วนเรื่องน้องเห็นด้วยคะออกห่างแล้วห่วงๆไกลๆเอา
ประมาณว่าถ้าวันไหนน้องอยากได้คนให้กำลัง
หรือคนคอยเคียงข้างพี่เอจะรอที่ตรงนั้น
แต่ขณะเดียวกันพี่เอก็ไม่ควรหยุดกับที่เรื่องของหัวใจนะ
เปิดออกเพื่อรอใครที่เรากับเค้าจะไปด้วยกันได้
:กอด1: ~ เก่งเค้าเล่นพนันบอล เป็นเด็กโต๊ะบอล พวกเค้าเยอะครับ แต่ผมไม่ได้สนใจตรงนี้ ผมสนใจที่ว่าเก่งมีค่ามากพอที่ผมจะไปยุ่งกับเค้าหรือเปล่า กับเก่งผมรอให้คนแบบเดียวกับเค้าจัดการกันเองดีกว่า ผมมีอะไรต้องทำเยอะเลย ไม่อยากเสียเวลากับคนแบบนั้น มันน่ารำคาญอะครับ เดี๋ยวสักวันประสบการณ์จะสอนตัวเค้าเอง ^^


หัวข้อ: Re: น้องชาย 2 ( Up เหตุการณ์ล่าสุด 15/06/11 หน้า้ 7 )
เริ่มหัวข้อโดย: kokoky ที่ 16-06-2011 22:02:40
เฮ้อ!!!!!!!
เหนื่อยใจแทนค่ะ
เรื่องโค้ช เรื่องน้องว่าน เรื่องชมรม
แต่ละเรื่องไม่ใช่เรื่องเล็กๆ

หนักใจสุดนี่ขอบอกว่าเรื่องน้องว่านค่ะ
เท่าที่ดูช่างห่างไกล น้องไม่พยายามปรับเข้าหา
กลับตีตัวออกห่างเรื่อยๆ แถมไม่ยอมรับความหวังดีใดๆ

เห็นแบบนี้มันก็ท้อนะคะ ทำไปแล้วไม่มีอะไรเปลี่ยนไปเลย
นานๆวันเข้ามันจะกลายเป็นหมดทางเข้าสักวัน
คือแบบว่าลองทุกอย่างแล้ว ไม้แข็ง ไม้อ่อน ไม่ได้ผลเลยแบบนี้
คงได้แต่ทำใจ คอยส่งกำลังใจ และความห่วงใยให้น้องแบบห่างๆน่ะค่ะ

เป็นกำลังใจให้คุณเอค่ะ :L2:
หัวข้อ: Re: น้องชาย 2 ( Up เหตุการณ์ล่าสุด 16/06/11 หน้า้ 7 )
เริ่มหัวข้อโดย: bbyuqin ที่ 17-06-2011 06:30:46
เอลองดักคุยกับว่านเลยดีมั้ย
มันไม่ใช่ว่าจะต้องมาคืนดีหรืออะไรแต่ว่าน่าจะเคลียร์กันให้จบ น้องอ่ะมันยังเด็กวุฒิภาวะยังน้อย แถมยังเป็นเด็กค่อนข้างดื้อรั้นด้วยสิ
ช่วงแรกที่ๆม่คุยกับเออาจจะเป็นเพราะเรื่องโค้ชนี่แหล่ะ ไม่แน่สองเดือนที่ไม่คุย ที่เอติดค่อไปทางเฟชน้องก็คงดูเหมือนกันแต่นิ่งๆไม่ตอบ

ลองดูนะไม่อยากให้เอเดาไปเอง แล้วก็ไม่อยากให้ว่านเป็นแบบนี้เลย คุยกันซะจะโกรธก็โรธจะดีกันก็ดี ไม่ติดค้างทางความรู้สึก :กอด1:
หัวข้อ: Re: น้องชาย 2 ( Up เหตุการณ์ล่าสุด 17/06/11 หน้า้ 7 )
เริ่มหัวข้อโดย: naoki24 ที่ 18-06-2011 06:29:14
วันศุกร์พอดี กลับมาจากการสอนหนังสือพวกลิง อ่านแล้วก็กินใจเหมือนเดิมนะ

ตกลงตอนนี้คุณเอเลือกทางเดินแล้วใช่มั้ยว่าจะก้าวไปทางไหนก่อน
ต่อไปก็สิ่งที่คั่งค้างใน recycle bin คุณเอจะ delete อะไรออกไปบ้างละ
แล้วจะ restore อะไรกลับมาบ้างละ

ปกติแล้ว เอกสารที่เรา restore กลับมามักจะมีความสำคัญอยู่บ้างถึงแม้จะอยู่ไม่นาน
บางทีเราก็จะเอาไป edit ใหม่แล้วนำกลับมาใช้

ไม่รู้เหมือนกันว่านจะ edit ได้ไหม แต่เรื่องชมรมผมว่า edit ได้แน่นอน

ต่อไปเป็นคำแนะนำจากลูกศิษย์ของผมคนหนึ่ง ผมถามเค้าว่า"ถ้าวันนึงเราโกรธ เกลียด
ไม่อยากเห็นหน้า ไม่อยากคุยกับอาจารย์ เราอยากให้อาจารย์ไปง้อเราอย่างไร"
เด็กคนนนี้ตอบมาว่า "อาจารย์เคยทำอะไรให้ผมประทับใจที่สุด อาจารย์ก็ทำอีกสิ ทำอีกครั้งหนึ่ง"

ตกลงใช่คำแนะนำหรือป่าวเนี่ย  o18 วันจันทร์เจอกันใหม่ก่อนไปสอนลิงให้เป็นคน ขอให้โชคดีคุณเอ
หัวข้อ: Re: น้องชาย 2 ( Up เหตุการณ์ล่าสุด 18/06/11 หน้า้ 7 )
เริ่มหัวข้อโดย: ummax ที่ 19-06-2011 08:32:20
คุณเอครับผมยังอยากให้คุณมาต่ในภาค 3 อีก ครับ
 :call:
หัวข้อ: Re: น้องชาย 2 ( Up เหตุการณ์ล่าสุด 18/06/11 หน้า้ 7 )
เริ่มหัวข้อโดย: ummax ที่ 19-06-2011 08:35:47
อ่านแล้วมันโดนมากครับเหมือนกับชีวิตตัวเองเลย
แต่หวังว่าเรื่องของคุณเอคงไม่จบเหมือนผมนะครับ
หัวข้อ: Re: น้องชาย 2 ( Up เหตุการณ์ล่าสุด 18/06/11 หน้า้ 7 )
เริ่มหัวข้อโดย: HydrA ที่ 19-06-2011 10:57:08
ก่อนอื่นนู๋ต้องขอโทษพี่เอด้วยนะค่ะ
ถ้าความคิดเห็นของนู๋อันนี้มันกระด้างเกินไป
อันนี้เป็นแค่ความคิดเห็นของนู๋เฉยๆนะพี่เอ
นู๋อาจจะจิตใจโหดร้ายเกินไป
นู๋คิดว่าว่านเค้าไม่อยากจะปฏิสัมพันธ์กับพี่เอแล้ว
คือไม่อยากให้พี่เอคิดเข้าข้างตัวเองเกินไป
การที่ว่านเค้าไม่เข้าหาพี่เลย บางทีมันไม่ใช่เพราะเค้างอนพี่
แต่เค้าไม่ต้องการข้องเกี่ยวกับพี่อีกเลย
ขอโทษค่ะที่แสดงความคิดเห็นแบบนี้
แต่มันคือสิ่งที่นู๋คิดได้จากการอ่านที่พี่เอเขียนมาเล่า
มันอาจไม่ใช่ มันอาจไม่ได้เป็นอย่างที่นู๋คิด
เพียงแค่อยากจะชี้ในแง่มุมอีกมุมนึงให้พี่เอได้เห็น
ในเมื่อว่านแสดงออกมาให้เห็นชัดเจนแล้วแบบนี้
พี่เอก็ปล่อยน้องเค้าไปเถอะค่ะ
อย่าไปเซ้าซี้ว่านอีกเลย มันจะทำให้เรื่องไม่จบนะ
น้องเค้าอาจจะสับสน แล้วเกิดคิดอะไรได้เลยต่อต้าน
หรืออะไรก็แล้วแต่นะพี่
ในเมื่อน้องเค้าโตพอที่จะคิดและตัดสินใจอะไรได้แล้ว
เราก็ควรเคารพสิทธิ์ของน้องเค้า ไม่เข้าไปวุ่นวายอีก
พี่เอก็อยู่ส่วนของพี่เอไป
ถ้าน้องเค้าพร้อมเมื่อไหร่
เค้าอยากคุยอยากเคลียร์กับพี่เอ
เค้าก็เข้ามาเองแหล่ะ
พี่เอก็ทำหน้าที่ในส่วนของพี่เอไป
เรื่องบางเรื่องก็ต้องปล่อยไปกับกาลเวลานะพี่นะ
หัวข้อ: Re: น้องชาย 2 ( Up เหตุการณ์ล่าสุด 18/06/11 หน้า้ 7 )
เริ่มหัวข้อโดย: chaijian ที่ 19-06-2011 20:49:48
 :m15: เฮ้อ อ่านรวดเดียวจบนึกว่าจะสบายใจ ที่ไหนได้หนักกว่าเดิม ผมเข้ามาพักใจก็เพราะผมเจอเรื่องทำนองเดียวกันกับคุณเอ และที่สำคัญมันเหมือนกันอย่างประหลาด เช่น
     1.คุณเอสอนศิลปะการต่อสู้  ผมก็สอนศิลปะการต่อสู้ (แม้มันจะไม่ใช่เทควันโดก็เหอะ)
     2.คุณเอมีซัมติงกับคนที่มาฝึกด้วยโดยทั้ง 2 ฝ่ายยังไม่เปิดใจกันดีพอ  ผมก็ด้วย
     3.คุณเอกับน้องมีช่องว่างระหว่างวัย ผมก็เช่นกัน
     4.คุณเอไม่กล้าที่จะรื้อฟื้นกับน้องด้วยเหตุผลบางประการ ผมก็อีก
     5.เรื่องของคุณเอทั้งหมดเหมือนกับว่ามันเริ่มจากการคลุกคลีสนิทสนมจนผูกพัน ผมก็เช่นนั้น
แต่ผมอาจจะดีกว่าคุณเอหน่อย ตรงที่ถ้ามีการซ้อมกัน หากมีเพื่อนอยู่ด้วย น้องเค้าก็ยังยอมซ้อมกับผมอยู่ โทรไปก็ยังรับสายอยู่ แต่จะมีปฏิกิริยาถ้าจะคุยเรื่องนั้น (มะอยากบอกว่าการซัมติงก็ยังเหมือนคุณเอเด้ะ มะมีการสอดใส่แต่อย่างใด)
  ทุกวันนี้ผมเองก็ยังหาทางออกว่าจะทำยังไง อยากให้น้องมานั่งตัก มาพูดคุย มาสนิทกันเหมือนเดิม เพราะทุกวันนี้นอกจากคุยกันเหมือนปกติ การหยอกล้อกันแบบสนิทสนมเหมือนแต่ก่อน มะเคยมีอีกเลย ถึงโทรไปจะรับสายแต่ก็จะหาข้ออ้างไม่มาเจอ ถ้ามะมีมือที่3 พอเจอเรื่องแบบนี้เลยกะจะเข้ามาอ่านให้สบายใจ ถึงได้เห็นว่า คุณเอยังหนักกว่ผมอีกเยอะ ก็เป็นกำลังใจให้นะครับ สู้ๆ ผมเองก็จะพยายามในส่วนของผมเช่นกัน  :mc4:
หัวข้อ: Re: น้องชาย 2 ( Up เหตุการณ์ล่าสุด 18/06/11 หน้า้ 7 )
เริ่มหัวข้อโดย: me_alone ที่ 20-06-2011 00:27:12
เฮ้อ!!!!!!!
เหนื่อยใจแทนค่ะ
เรื่องโค้ช เรื่องน้องว่าน เรื่องชมรม
แต่ละเรื่องไม่ใช่เรื่องเล็กๆ

หนักใจสุดนี่ขอบอกว่าเรื่องน้องว่านค่ะ
เท่าที่ดูช่างห่างไกล น้องไม่พยายามปรับเข้าหา
กลับตีตัวออกห่างเรื่อยๆ แถมไม่ยอมรับความหวังดีใดๆ

เห็นแบบนี้มันก็ท้อนะคะ ทำไปแล้วไม่มีอะไรเปลี่ยนไปเลย
นานๆวันเข้ามันจะกลายเป็นหมดทางเข้าสักวัน
คือแบบว่าลองทุกอย่างแล้ว ไม้แข็ง ไม้อ่อน ไม่ได้ผลเลยแบบนี้
คงได้แต่ทำใจ คอยส่งกำลังใจ และความห่วงใยให้น้องแบบห่างๆน่ะค่ะ

เป็นกำลังใจให้คุณเอค่ะ :L2:
:กอด1: ~ ขอบคุณสำหรับกำลังใจที่มีให้เสมอนะครับ




เอลองดักคุยกับว่านเลยดีมั้ย
มันไม่ใช่ว่าจะต้องมาคืนดีหรืออะไรแต่ว่าน่าจะเคลียร์กันให้จบ น้องอ่ะมันยังเด็กวุฒิภาวะยังน้อย แถมยังเป็นเด็กค่อนข้างดื้อรั้นด้วยสิ
ช่วงแรกที่ๆม่คุยกับเออาจจะเป็นเพราะเรื่องโค้ชนี่แหล่ะ ไม่แน่สองเดือนที่ไม่คุย ที่เอติดค่อไปทางเฟชน้องก็คงดูเหมือนกันแต่นิ่งๆไม่ตอบ

ลองดูนะไม่อยากให้เอเดาไปเอง แล้วก็ไม่อยากให้ว่านเป็นแบบนี้เลย คุยกันซะจะโกรธก็โรธจะดีกันก็ดี ไม่ติดค้างทางความรู้สึก :กอด1:
:เฮ้อ: ~ ไม่กล้าครับ กลัว Darkside ของน้อง คงต้องรอท่าทีของน้องให้เป็ฯมิตรกว่านี้ถึงจะกล้าคุยอะครับ



วันศุกร์พอดี กลับมาจากการสอนหนังสือพวกลิง อ่านแล้วก็กินใจเหมือนเดิมนะ

ตกลงตอนนี้คุณเอเลือกทางเดินแล้วใช่มั้ยว่าจะก้าวไปทางไหนก่อน
ต่อไปก็สิ่งที่คั่งค้างใน recycle bin คุณเอจะ delete อะไรออกไปบ้างละ
แล้วจะ restore อะไรกลับมาบ้างละ

ปกติแล้ว เอกสารที่เรา restore กลับมามักจะมีความสำคัญอยู่บ้างถึงแม้จะอยู่ไม่นาน
บางทีเราก็จะเอาไป edit ใหม่แล้วนำกลับมาใช้

ไม่รู้เหมือนกันว่านจะ edit ได้ไหม แต่เรื่องชมรมผมว่า edit ได้แน่นอน

ต่อไปเป็นคำแนะนำจากลูกศิษย์ของผมคนหนึ่ง ผมถามเค้าว่า"ถ้าวันนึงเราโกรธ เกลียด
ไม่อยากเห็นหน้า ไม่อยากคุยกับอาจารย์ เราอยากให้อาจารย์ไปง้อเราอย่างไร"
เด็กคนนนี้ตอบมาว่า "อาจารย์เคยทำอะไรให้ผมประทับใจที่สุด อาจารย์ก็ทำอีกสิ ทำอีกครั้งหนึ่ง"

ตกลงใช่คำแนะนำหรือป่าวเนี่ย  o18 วันจันทร์เจอกันใหม่ก่อนไปสอนลิงให้เป็นคน ขอให้โชคดีคุณเอ
:เฮ้อ: ~ ประทับใจเหรอ....ไม่มีแล้วล่ะครับ....เพราะเีรื่องพวกนั้นน้องเ้ค้าไม่ได้สนใจแล้ว



คุณเอครับผมยังอยากให้คุณมาต่ในภาค 3 อีก ครับ
 :call:
อ่านแล้วมันโดนมากครับเหมือนกับชีวิตตัวเองเลย
แต่หวังว่าเรื่องของคุณเอคงไม่จบเหมือนผมนะครับ
:กอด1: ~ ปอย นิ๊ดหนึ่งได้่ไหมครับว่าจบยังไง แบบว่าอยากรู้แฮะๆๆ



ก่อนอื่นนู๋ต้องขอโทษพี่เอด้วยนะค่ะ
ถ้าความคิดเห็นของนู๋อันนี้มันกระด้างเกินไป
อันนี้เป็นแค่ความคิดเห็นของนู๋เฉยๆนะพี่เอ
นู๋อาจจะจิตใจโหดร้ายเกินไป
นู๋คิดว่าว่านเค้าไม่อยากจะปฏิสัมพันธ์กับพี่เอแล้ว
คือไม่อยากให้พี่เอคิดเข้าข้างตัวเองเกินไป
การที่ว่านเค้าไม่เข้าหาพี่เลย บางทีมันไม่ใช่เพราะเค้างอนพี่
แต่เค้าไม่ต้องการข้องเกี่ยวกับพี่อีกเลย
ขอโทษค่ะที่แสดงความคิดเห็นแบบนี้
แต่มันคือสิ่งที่นู๋คิดได้จากการอ่านที่พี่เอเขียนมาเล่า
มันอาจไม่ใช่ มันอาจไม่ได้เป็นอย่างที่นู๋คิด
เพียงแค่อยากจะชี้ในแง่มุมอีกมุมนึงให้พี่เอได้เห็น
ในเมื่อว่านแสดงออกมาให้เห็นชัดเจนแล้วแบบนี้
พี่เอก็ปล่อยน้องเค้าไปเถอะค่ะ
อย่าไปเซ้าซี้ว่านอีกเลย มันจะทำให้เรื่องไม่จบนะ
น้องเค้าอาจจะสับสน แล้วเกิดคิดอะไรได้เลยต่อต้าน
หรืออะไรก็แล้วแต่นะพี่
ในเมื่อน้องเค้าโตพอที่จะคิดและตัดสินใจอะไรได้แล้ว
เราก็ควรเคารพสิทธิ์ของน้องเค้า ไม่เข้าไปวุ่นวายอีก
พี่เอก็อยู่ส่วนของพี่เอไป
ถ้าน้องเค้าพร้อมเมื่อไหร่
เค้าอยากคุยอยากเคลียร์กับพี่เอ
เค้าก็เข้ามาเองแหล่ะ
พี่เอก็ทำหน้าที่ในส่วนของพี่เอไป
เรื่องบางเรื่องก็ต้องปล่อยไปกับกาลเวลานะพี่นะ
:กอด1: ~ ขอบคุณสำหรับกำลังใจ และ คำแนะนำดีๆที่มีให้เรื่อยมานะครับ ส่วนของว่านผมตัดสินใจแล้วว่าจะเพิกเฉยกับทุกๆอย่างที่น้องทำ จนกว่าน้องจะมีท่าทีที่เป็นมิตรกว่านี้


:m15: เฮ้อ อ่านรวดเดียวจบนึกว่าจะสบายใจ ที่ไหนได้หนักกว่าเดิม ผมเข้ามาพักใจก็เพราะผมเจอเรื่องทำนองเดียวกันกับคุณเอ และที่สำคัญมันเหมือนกันอย่างประหลาด เช่น
     1.คุณเอสอนศิลปะการต่อสู้  ผมก็สอนศิลปะการต่อสู้ (แม้มันจะไม่ใช่เทควันโดก็เหอะ)
     2.คุณเอมีซัมติงกับคนที่มาฝึกด้วยโดยทั้ง 2 ฝ่ายยังไม่เปิดใจกันดีพอ  ผมก็ด้วย
     3.คุณเอกับน้องมีช่องว่างระหว่างวัย ผมก็เช่นกัน
     4.คุณเอไม่กล้าที่จะรื้อฟื้นกับน้องด้วยเหตุผลบางประการ ผมก็อีก
     5.เรื่องของคุณเอทั้งหมดเหมือนกับว่ามันเริ่มจากการคลุกคลีสนิทสนมจนผูกพัน ผมก็เช่นนั้น
แต่ผมอาจจะดีกว่าคุณเอหน่อย ตรงที่ถ้ามีการซ้อมกัน หากมีเพื่อนอยู่ด้วย น้องเค้าก็ยังยอมซ้อมกับผมอยู่ โทรไปก็ยังรับสายอยู่ แต่จะมีปฏิกิริยาถ้าจะคุยเรื่องนั้น (มะอยากบอกว่าการซัมติงก็ยังเหมือนคุณเอเด้ะ มะมีการสอดใส่แต่อย่างใด)
  ทุกวันนี้ผมเองก็ยังหาทางออกว่าจะทำยังไง อยากให้น้องมานั่งตัก มาพูดคุย มาสนิทกันเหมือนเดิม เพราะทุกวันนี้นอกจากคุยกันเหมือนปกติ การหยอกล้อกันแบบสนิทสนมเหมือนแต่ก่อน มะเคยมีอีกเลย ถึงโทรไปจะรับสายแต่ก็จะหาข้ออ้างไม่มาเจอ ถ้ามะมีมือที่3 พอเจอเรื่องแบบนี้เลยกะจะเข้ามาอ่านให้สบายใจ ถึงได้เห็นว่า คุณเอยังหนักกว่ผมอีกเยอะ ก็เป็นกำลังใจให้นะครับ สู้ๆ ผมเองก็จะพยายามในส่วนของผมเช่นกัน  :mc4:
:กอด1: ~ หัวอกเดียวกัน ว่างๆมาเล่าบ้างนะครับ แชร์กันๆ
ส่วนเรื่องซ้อมก่อนหน้าที่ผจะหายจากยิมว่านก็มาซ้อมด้วยนะ แต่ท่าทีว่านจะขัดผมตลอดล่ะ อะไรก็ตามที่ผมเห็ฯต่างจากโค้ชว่านจะขัดตลอดเลย ส่วนนี้ผมไม่ซีเรียสเท่าไหร่ แต่ที่ผมซีเรียสคือโค้ชยัดแนวคิดอะไรใส่ว่านไปบ้างนั้นล่ะที่ผมกังวลที่สุด
หัวข้อ: Re: น้องชาย 2 ( Up เหตุการณ์ล่าสุด 18/06/11 หน้า้ 7 )
เริ่มหัวข้อโดย: ummax ที่ 20-06-2011 01:07:30
เรื่องของผมมีอยู่ว่า..ผมกับเขาคนั้นอายุห่างกัน 3 ปีเราเป็นคนบ้านเดียวกันเล่นกันมาตั้งแต่เด็กๆแล้ว
และก็มีเรื่องอย่างว่านี่แหละเข้ามาเกี่ยวข้องตั้งแต่ตอนใหนผมก็จำไม่ได้แล้วแต่มีมาเรื่อยๆจนผมจบ
ม.6และเขาก็จบ ม.3 ผมก็เลือกที่จะเข้ามาต่อที่กรุงเทพฯทำงานด้วยเรียนด้วยแต่เขาได้ไปเรียน มหาสารคาม
เป็นเทคนิคหรือะไรสักอย่างนี่แหล่ะครับ
แล้วจากนั้นเราก็ไม่ได้คุยกันอีกเลยจะก็แต่ช่วงเทศกาลจะได้กลับบ้านทีนึงก็เจอแต่เขาก็ไม่ทักไม่คุยด้วยทั้งที่ผมพยามที่จะคุยกับเขา
แล้วก็ผ่านไปเกือบ10ปีได้ผมก็ได้ข่าวว่าเสียชีวิตด้วยรถมอเตอร์ไซด์ตายคาที่ทั้งที่เขาเพิ่งจะสึกพผมรู้ข่าวก็เสียบ้าง
มีร้องไห้ด้วย
สมัยนั้นมือถือมันแพงนะครับค่าโทรก้อแพงด้วย
ถ้ามันเป็นสมัยนี้ผมว่าเรื่องมันคงไม่เศ้รา

 :monkeysad: :monkeysad:

ยังไงก้อเอาใจช่วยคุณเอนะครับ
                                                   ummax

หัวข้อ: Re: น้องชาย 2 ( Up เหตุการณ์ล่าสุด 19/06/11 หน้า้ 7 )
เริ่มหัวข้อโดย: naoki24 ที่ 20-06-2011 18:05:28
กลับมาแว้ว แล้วก็จะไปสอนลิงอีกแล้ว

ดูเหมือนคุณเอยังมีอารมณ์เศร้าๆหรือเสียดายอยู่นะจากที่พิมโต้ตอบกัน
หรือไม่ก็น่าจะเครียดๆนะ อย่าหักโหมนักละ เด๋วไม่ได้มาพิมรายให้ผมอ่านอีก

รอคุณเอเปิดยิมสอนเป็นตัวเป็นตนก่อนระยะหนึ่งก่อน เด๋วผมจะมีคำถามยิง

เออจิงด้วย ขอเบิกค่ายาหน่อยสิ ลองซ้อมท่าเตะตามคลิบคุณเอแล้วข้อเท้าเคล็ด แถมลูกลิงเอ้ยศิษย์มาเตะซ้ำอีก เดินไม่ได้เลย :m15:

โชคดีงับเจอกานวันศุกร์
หัวข้อ: Re: น้องชาย 2 ( Up เหตุการณ์ล่าสุด 19/06/11 หน้า้ 7 )
เริ่มหัวข้อโดย: ummax ที่ 23-06-2011 00:06:38
สวัสดีครับ  คุณเอ
  เมื่อก่อนกลับจากทำงานต้องมานั่งรออ่านเรื่องของคุณเอ
แต่เดี๋ยวนี้ไม่มีให้อ่านแล้วคิดถึงจังเลย

มาต่อด้วยนะครับ
หัวข้อ: Re: น้องชาย 2 ( Up เหตุการณ์ล่าสุด 19/06/11 หน้า้ 7 )
เริ่มหัวข้อโดย: me_alone ที่ 23-06-2011 19:00:48
22 มิ.ย.
         วันนี้ผมเข้ายิมช้า พอดีเตรียมอุปกรณ์สำหรับจัด Studio จากที่บ้านไปยิมเพื่อถ่ายภาพน้องๆทำใบโปรโมทชมรมที่ยิม จริงๆอุปกรณ์พวกนี้ผมทำไว้ที่บ้านอยู่แล้ว แต่ผมไม่อยากให้น้องมาบ้านเท่าไหร่ เลยหิ้วไปจัดใหม่ที่ยิมแทน กว่าผมจะเข้าไปถึงก็เกือบหกโมงเย็นแล้ว พอเข้าไปถึงก็เจอว่านนั่งทำการบ้านอยู่ที่โต๊ะ ผมไม่ได้ทักทายอะไรเหมือนเคย แล้วผมก็ไปจัด Stuido ก่อนจะเริ่มถ่ายภาพน้องๆ ระหว่างนั้นผมก็เห็นว่านั่งทำการบ้านไม่ลุกไปไหนเลย จนถึงเวลาเลิกว่านรีบเก็บสมุดหนังสืออย่างรวดเร็ว ก่อนที่จะสะพายกระเป๋าวิ่งออกไปที่รถพี่ป้อม หลังจากว่านกลับไปแล้วพวกผมกับน้องๆที่จะมาเป็นพรีเซ็นเตอร์ก็อยู่ถ่ายภาพกันต่อ กว่าจะเสร็จก็ปาไปเกือบสองทุ่ม


23 มิ.ย.
         จากที่ลองๆถามน้องๆดู....ดูเหมือนว่าทุกคนจะให้มายเป็นประธานชมรม ตอนบ่ายผมเอา File สำหรับทำป้ายไวนิลไปที่ร้าน....เค้าบอกว่าถ้าออกแบบมาเองหมด มาถึงก็ปริ้นเลยเค้าคิด ตรม.ละ100 แต่ถ้าให้เค้าออกแบบให้ด้วย เค้าคิด จรม.ละ 150 แน่นอน ถ่ายเอง ออกแบบเองแล้ว ก็ทำ File สำหรับปริ้นป้ายไวนิลเองเลย ประหยัดได้อีก 50บาท/ตรม. หลังจากสั่งป้ายไวนิลเสร็จผมก็ไปจัดแต่งยิมต่อ จนเวลาประมาณ 17.20 ว่านก็มา.....ก็เหมือนทุกๆครั้งถ้าผมอยู่ข้างในว่านจะไม่เข้ามา....แต่ทว่า....หลังจากที่ว่านเดินวนไปวนมาอยู่หน้ายิมพักหนึ่งว่านก็เดินเข้ามาบอกพี่ป้อมว่า "ครูป้อมครับ วันนี้ผมให้แม่มารับ" หลังจากบอกเสร็จว่านก็เดินย้อนกลับไปที่หน้าโรงเรียน....
         จริงๆถ้าจะมาเพื่อบอกแค่นี้โทรมาบอกพี่ป้อมก็ได้นะ แต่ถึงจะไม่โทรมาพี่ป้อมก็ไม่ได้ตามอยู่แล้วเพราะถ้าไม่เห็นว่านที่นี่ก็เป็นอันเข้าใจกันว่าว่านกลับบ้านไปแล้ว ยิ่งไม่คุย ก็เหมือนกลับยิ่งทำให้อะไรๆแย่ลงไปเรื่อยๆ ส่วนเรื่องที่พี่ป้อมบอกผมว่า ว่านกับโค้ชไม่ได้คุยกันแล้ว ผมไม่เชื่อเท่าไหร่ เพราะว่านนัดโค้ชเอาพวกอาหารเสริมที่โค้ชหลอกขายว่านมาให้ที่ยิมบ่อยๆ จะว่าไปครั้งหนึ่งพลอยกับเพื่อนๆในห้องว่านก็เคยพูดว่าว่านอารมณ์เหมือนผู้หญิง....มานั่งคิดๆดูตอนเขียน re นี้ ผมก็ว่าจริงนะ....นิสัยของผู้หญิงแบบ concept girl อะครับ ที่ว่า นึกจะงอนก็งอน นึกจะโกรธก็โกรธ ไม่พูดไม่จา ไม่อธิบาย ไม่บอก ให้อีกฝ่ายเข้าใจเองว่าเค้าโกรธเพราะอะไร พอเราไม่ง้อเค้าก็จะหาว่าเราไม่สนใจเค้า แต่พอง้อก็ทำโน้นทำนี่ให้เรารู้สึกผิดแรงๆ แต่ก็อย่างที่ว่าอะครับ....ผมเลือกที่จะเพิกเฉยไปแล้ว เพราะงั้นน้องจะทำอะไรผมก็จะแค่มองอยู่ห่างๆก็พอ
         สรุปวันนี้กับว่านผมก็เหลือแค่อยากรู้เท่านั้นล่ะครับ ว่าน้องโกรธอะไรมากมายขนาดนั้น ขนาดไม่พูดกันแล้วยังโกรธเพิ่มมาได้อีก


24 มิ.ย.
          วันนี้ชีวิตผมรู้สึกว่าไร้สาระมากมาย นอกจากเรื่องเอกสารสำหรับทำรูปเล่มที่ต้องพิมพ์ใหม่เกือบทั้งหมดแล้ว ก็มีแค่ป้ายไวนิว แล้วก็ถ่ายภาพน้องคนสุดท้ายที่จะมาทำป้ายโปรโหมดชมรม จริงๆต้องมีพี่ป้อมอีกคนนะ แต่พอดีว่าพี่ป้อมป่วยวันนี้มาไม่ได้ แล้วก็เห็นว่าโทรบอกผู้ปกครองหมดแล้ว วันนี้เลยไม่มีเด็กมาซ้อมนอกจากน้องๆที่มหาวิทยาลัย แล้วก็จากการที่ได้พูดคุยกับน้องมายซึ่งคาดว่าน่าจะได้เป็นประธานชมรม ผมก็รู้สึกไม่แน่ใจในเรื่องความสามารถของน้องขึ้นมา อีกทั้งผมยังสงสัยในความอดทนของน้องด้วย
          เย็นวันนั้นมายอยู่กับผมจนผมปิดยิมเสร็จถึงได้แยกย้ายกันกลับ.....จริงๆผมเป็นห่วงชมรมนี้มากนะครับเพราะโค้ชเค้าใช้คำพูดเค้าฆ่าตัวตาย การที่เค้าลดความน่าเชื่อถือของผมกับพี่ป้อมด้วยคำพูดทั้งใส่ร้ายแล้วก็ดูถูกต่างๆนาๆมันทำให้ยิมตกต่ำแค่ไหนเค้าคงไม่รู้ตัว แล้วยกหางว่าตัวเองเจ๋งทั้งๆที่ไม่มีอะไรเลยคงมีแต่ว่านคนเดียวที่ประทับใจ แล้วเด็กๆไม่ได้กินหญ้าขนมาเรียนนะครับ เค้ารับรู้ได้ถึงความตึงเครียดในยิม แถมโค้ชทำตัวไม่มีอยู่กะร่องกะรอยทั้งๆที่ยกตัวเองขนาดนั้นก็ยิ่งทำให้ยิมตกต่ำลงไปอีก อีกทั้งผมยังซ้ำความผิดพลาดลงไปด้วยการทิ้งยิมออกมาในช่วงวิกฤตอีก ทำให้เด็กๆออกไปจนหมดจริงๆ...ผมก็รู้อยู่แก่ใจว่าถ้าผมจากมาในเวลาแบบนั้นมันจะเป็นยังไง....แต่ผมก็ทำ.....บางทีว่านอาจจะรู้เรื่องนี้เลยทำให้เค้าโกรธผมหรือเปล่า อืมมม.....


25 มิ.ย.
          เรื่องของว่านยังทำให้ผมไม่สงบเท่าไหร่ จนผมไปบ่นเรื่องว่านกับคนรู้จักทาง Internet ที่เค้าชอบเด็กเหมือนกัน ผมระบายความรู้สึกของผมกับว่านให้เค้าฟังไปพักหนึ่งก่อนที่เค้าจะพูดกลับมาว่า "นี่แกจริงจังกับเด็กขนาดนี้เลยเหรอ กับเด็กๆหน่ะคบเอาไว้แก้เหงาก็พอแล้ว ไม่เห็นต้องจริงจังขนาดนั้นเลย" ตอนแรกผมก็บอกเค้าว่าผมไม่เห็นด้วยกับที่เค้าพูดมา แต่เค้าก็ค้านมาด้วยเหตุผลว่า "แกคิดว่าเด็กวัยนี้มันจะจริงจังกับความรักเหรอ ป๊อบปี้เลิฟทั้งนั้น คบกันแค่ตื่นเต้น พอเบื่อก็เลิก เด็กวัยนี้มันไม่จริงจังจะคบใครขนาดที่แกหวังหรอกน่า" หลังจากที่อ่านที่เค้าพิมพ์มาจบผมนั่งนิ่งจ้องจอ LCD อยู่เงียบๆคนเดียวพักหนึ่งก่อนที่จะชวนเค้าคุยเรื่องอื่นแทน


26 มิ.ย.
         วันนี้แอบเข้ามาอ่านความคิดเห็นใน Thaiboy มีสมาชิกท่านหนึ่งเสนอว่าให้เลิกสนใจว่าน....อีกครั้งที่ผมนั่งนิ่งๆมองความคิดเห็นนั้น......จริงอยู่ครับผมอยากเลิก อยากไม่สนใจว่าน....แต่มันก็ทำไม่ได้....กับว่านจนถึงเวลานี้ผมยังอภัยให้ว่านทุกเรื่อง ทุกอย่าง ผมไม่เคยโกรธว่านเลยแม้ว่าว่านจะลบผมออกจากเพื่อนใน FaceBook หรือ โพสหาวิธีบล๊อกเบอร์บล๊อกSMSหลังจากที่ผมส่ง SMS ไปหาเค้า หรือ กับท่าทีที่ไม่เป็นมิตร แสดงออกว่าไม่อยากเจอผม ไม่อยากให้ผมอยู่าใกล้ การหลบหน้า
          หลังจากอ่านความเห็นใน ThaiBoy จบผมก็เข้า FaceBook ต่อผมพิมพ์ชื่อเพื่อนคนหนึ่งลงไปในช่องค้นหาเพื่อดูภาพถ่ายของเค้า พอผมพิมพ์ตัวอักษรลงไป 2 ตัวแรก รายชื่อของคนที่ใกล้เคียงกับ KeyWord ก็ขึ้นมาหลายรายชื่อ ผมเลื่อนเคอร์เซอร์ลงไปคลิกที่ชื่อเพื่อน.....ระหว่างรอโหลดผมก็เปลี่ยนไปดูภาพถ่ายจากเวปประจำก่อนจะคลิกกลับมาดูอีกครั้ง.....ผมคลิกผิด.....หน้าจอ 24 นิ้ว ทำให้ผมเห็นรายชื่อเพื่อนของเจ้าของ FaceBook จากทางมุมซ้ายล่าง.....6 คนแรกที่ผมเห็น....ผมรู้จัก....สายตาผมส่ายไปทางมุมบนขวามือ.... "มีเพื่อนร่วมกัน 26 คน" ผมลากสายตาขึ้นมาดูที่ชื่อ Facebook อันนี้.....ใครกัน....ผมไม่รู้จักแฮะ ไม่ได้เป็นเพื่อนกันด้วย แต่มีคนที่ผมรู้จักเยอะขนาดนี้ ผมคลิกเข้าไปดูที่ภาพถ่ายเผื่อว่าเป็นเพื่อนที่รู้จักกันแต่ยังไม่ได้ Add ไว้.....ด้วยความเร็วของ Internet จาก Cat ชั่วพริบตาเดียวภาพในอัลบั้มก็ถูกเปิดขึ้นมา.....นี่มัน FaceBook ของว่านนี่
          ผมนั่งลังเลอยู่หน้าจอคอมพ์ว่าจะคลิกดูต่อไปดีไหม....แต่แล้วความอยากรู้ก็มีชัย ผมคลิกเข้าไปที่กระดานข้อความของว่าน.....ปรากฏว่า.....หลังจากที่ว่านไม่เคย Up FaceBook เลยเมื่อหลายเดือนก่อน....แต่หลังจากที่ ลบผมออกจากชื่อเพื่อรตอนนี้ว่าน Up FaceBook ทุกวัน.....โดยเฉพาะวันนี้ว่าน โพสเพลงลงบน Facebook แทบจะทุกชั่วโมง ต่อไปนี้คือบางเพลงที่ว่านโพสลงไป

12 ชั่วโมงที่แล้ว
http://www.youtube.com/v/1ve_BGnADd0?version=3&amp;hl=th_TH&amp;rel=0

11 ชั่วโมงที่แล้ว
http://www.youtube.com/v/5kiqH0UaHrI?version=3&amp;hl=th_TH&amp;rel=0

4 ชั่วโมงที่แล้ว
http://www.youtube.com/v/_jv5zxBZ86I?version=3&amp;hl=th_TH&amp;rel=0


27 มิ.ย.
           วันนี้ตอนเช้าผมไม่ได้เรียน...เพราะอาจารย์ไม่อยู่.....ผมกลับมาบ้านมานั่งเรียบเรียงเอกสารสำหรับทำรูปเล่ม ก่อนจะมานั่งเงียบๆหน้าจอคอมพ์ เพลงจาก Window Media ยังคงดังอยู่ตลอดเพื่อกลบความเงียบเหงา "เฮ้อ" ผมถอนหายใจเบาๆ ไม่รู้ว่าเพราะอะไรถึงต้องถอน แต่ช่างมันเถอะ ว่าแล้วผมก็คลิก FireFox ขึ้นมา ระหว่างนั้นผมก็เปิดโปรแกรม PhotoShop แล้วก็ Digital Photo Professional ด้วย จากนั้นผมก็เปิด NoteBook ที่อยู่ข้างๆ PC เพื่อเปลี่ยนจากเปิดเพลงบน PC มาเป็นบน Notebook แทน จะได้ลดการใช้ทรัพยากรในการประมวลผลลง  จริงๆ NoteBook เครื่องนี้มันเป็นเครื่องเก่าที่ผมใช้มาได้ 5 ปีแล้ว แต่มันก็ยังเก่งอยู่นะ ถึงตอนหลังจะไม่เคยเอามันออกนอกบ้านเลยเพราะแบทเสื่อมก็ตามที หลังจากที่ผมเปิดอะไรๆเสร็จหมดแล้ว ผมก็เริ่มทำป้ายไวนิวโปรโหมดชมรมจาก PhotoShop....ที่ร้านเค้าคิดค่าออกแบบตั้ง 600 บาทแน่ะ มันคงจะดีกว่าถ้าผมประหยัดรายจ่ายส่วนนี้ได้ จะได้ได้ป้ายที่มีจำนวนมากขึ้นแทนที่จะไปจ่ายให้กับค่าออกแบบ
           พอทำงานไปได้พักหนึ่งผมก็วนกลับมาที่ Firefox เพื่อหาอะไรอ่านแก้เซ็งระหว่างที่พักหาไอเดีย แล้วมันทีที่ผมคลิกไปที่ firefox....หน้าแรกที่ผมเจอเลยคือ FaceBook ของว่าน....ถ้าใครเคยใช้ Firefox จะทราบว่า Browser ตัวนี้จะ Save หน้าที่เราเปิดไว้ก่อนที่จะปิด Browser ได้ ผมนั่งมองหน้า FaceBook ของว่านพักหนึ่งก่อนจะแอบเห็นการสนทนาของว่านกับใครคนหนึ่ง.....ผมไม่รู้ว่าผมคิดอะไรตอนนั้นผมคลิกเข้าไปดูข้อความที่เหลือ ซึ่งมันมีถึง 37 ข้อความ.....หลังจากที่คลิกดูแล้ว.....มันเป็นบทสนทนาของว่านกับสาวรุ่นพี่คนหนึ่ง.....ผมนั่งอ่านจนหมด 37 ข้อความที่เค้าสนทนากัน.....ขอตัดมาบางส่วนนะครับ

ว่าน : เงียบ"เหงา"มากวันนี้ - -
??? : เหงาเบาะ -..-
ว่าน : ครับ
ว่าน : ทำอะไรอยู่ครับ
??? : เล่นไปเรื่อย ๆ แหละ เล่นมาก ๆ เริ่มปวดตาและ -0-
ว่าน : พักครับ
??? : ยังไม่อยากไป T^T
ว่าน : ทำไมอะครับ
??? : อยากคุยกะ คน ๆ นึง ถึงตอนนี้จะปวดตาแต่ก็ไม่ไป เสียดาย เค้าอุส่าออน
ว่าน : ใครอะ
??? : ม่ายยบอกก >///////<
??? : น้องว่านจะมาบ้านอีกเมื่อไหร่จ๊ะ
ว่าน : พฤ ศ ส ที่ไปได้นะ
??? : อ่อ จ้า ๆๆ เดี๋ยวจะเตรียมขนมไ้ว้ให้ ><'

          ผมอ่านวนไปวนมาหลายรอบมาก....ซึ่งตอนนี้ผู้อ่านรู้สึกอะไรเหมือนผมไหมครับ....จากนั้นผมก็ กลับไปนั่งทำป้ายไวนิวต่อก่อนจะขึ้นไปงีบบนห้องเพราะเมื่อคืนผมไมไ่ด้นอน ตื่นมาอีกทีก็ปาเข้าไปบ่ายสามเกือบสี่โมงเย็น ผมรีบอาบน้ำเปลี่ยนชุดเทควันโดแล้วออกไปยิมทันที จนประมาณห้าโมงกว่าๆว่านก็มา.....วันนี้จู่ๆว่านเกิดนิสัยดีอะไรขึ้นมาไม่รู้....ออกไปเดินเก็บขยะที่รอบๆยิม จนถึงตอนเลิกเลยทีเดียว ได้มา 6 ถุงใหญ่ๆกองทิ้งไว้หน้ายิม....พอปิดยิมเสร็จพี่ป้อมนั่งคุยกับผมเรื่องยิมโดยมีน้องๆอีก 2 คนนั่งอยู่ด้วย ระหว่างนั้นว่านก็มายืนอยู่จากจุดที่ผมคุยกับพี่ป้อมไม่ห่างมากนัก พักหนึ่ง จู่ๆว่านก็ต่อยกำแพงจนเสียงดังหลายครั้ง....ผมรู้ทันทีว่านั้นคือการแสดงออกว่าไม่พอใจของว่าน......ทำไมผมถึงรู้เหรอว่าว่านไม่พอใจ....ผมรู้จักว่านมา 3 ปีแล้ว ว่านอาจคิดว่าที่เค้าต้องกลับบ้านช้าเพราะผมชวนพี่ป้อมอยู่คุย....ผมเลยแกล้งคุยกับพี่ป้อมด้วยเสียงดังๆว่า

"น้องสองคนนี้พี่ไปส่งเหรอครับ"
พี่ป้อมหันมาตอบผมว่า "เปล่า พี่รอผู้ปกครองเค้ามารับ"

         ผมมั่นใจว่าว่านได้ยินที่พี่ป้อมพูดแน่ๆ พอพี่ป้อมพูดจบว่านก็เปลี่ยนมานั่งยองๆแทน ก่อนจะไปเปิดก๊อกน้ำที่อยู่ห่างไปประมาณ 2 เมตรจากจุดที่ผมอยู่ ล้างมือ ล้างแขน ล้างขา ไม่นานหลังจากนั้นผู้ปกรครองน้องก็มารับ ผมก็แยกย้ายกับพี่ป้อมกลับบ้าน พอมาถึงบ้านผมก็คเลียร์งานต่อ ก่อนจะเปิด FireFox เพื่อเข้าไปดูข่าวคราวของวงการ IT ในเวปต่างๆ ระหว่างนั้น....ผมก็อดไม่ได้ที่จะเข้าไปดู FaceBook ของว่าน.....แล้วผมก็เจอ.....

??? : จะมาบ้านพี่อีกเมื่อไหร่ ๆๆๆ >[]< !!
ว่าน : เมื่อเย็นก็พึ่งไป...
??? : วันหลังมาอีกเน่อ ๆ ><'
ว่าน : พรุ่งนี้ก็อวจไป เพราะเรียนครึ่งวัน
??? : O[]O เรียนครึ่งวันนน !!
ว่าน : พรุ่งนี้มีแข่งกีฬาครับ อาจเรียนแค่ภาคเช้า
??? : อ่ออ ๆๆ อยู่เย็น ๆ หน่อย พี่กลับ 6 โมงครึ่ง ๆอยากเจอ

         ผู้อ่านรู้สึกเหมือนผมไหม.....แล้วระหว่างที่พิมพ์ Re นี้อยู่ว่านก็ไปบอก "ฝันดีครับ" กับสาวคนนั้นด้วย ตอนนี้ผมฟังเพลงวังวน......เพราะความรู้สึกผมเป็นแบบนั้นจริงๆ.....ผมเด็ดขาดกับการตัดสินใจในทุกเรื่อง.....แต่กับว่าน.....ทำไมผมถึงเด็ดขาดไม่ได้....ทั้งๆที่คิดว่าจะเพิกเฉยแล้วแต่ผมก็ยังเสียมารยาทไปดูเค้าคุยกันอีก ฮ่ะๆ.....


http://www.youtube.com/v/ukPb7RQI4e8?version=3&amp;hl=th_TH&amp;rel=0

บ่อยที่ในหัวใจ เหมือนได้ยินเสียงเธอ และบ่อยที่นอนละเมอยังเผลอเรียกเธออย่างเดิมซ้ำซ้ำ

แต่ก็รู้ว่าเธอนั้นไปไกลสุดฟ้า และก็รู้ว่าเธอไม่มีวันคืน ย้อนมา
อยากจะทำตัวทำหัวใจ ให้แข็งแรงเหมือนดังเดิม อีกครั้ง

จะต้องเป็นอย่างนี้...นานเท่าไร่ โอกาสที่มันจะหาย...มองไม่เห็นทาง
ติดอยู่ในวังวนที่ไร้ทางออก เพราะว่ารักคำเดียว


http://www.youtube.com/v/-2cK1eSRluU?version=3&amp;hl=th_TH&amp;rel=0

ทำไมแค่ลมเพียงแผ่วเบา ยังทำให้เหน็บหนาว แค่เพียงแผ่นฟ้าที่ว่างเปล่า ยังทำให้มีน้ำตา
ทำไมมันช่างเปราะบางเหลือเกิน ไม่รู้เมื่อไรจะผ่านพ้น

ร่องรอยจากคำไม่กี่คำ ยังทำให้ปวดร้าว แค่เพียงแววตาที่ว่างเปล่า ยังทำให้เจ็บหัวใจ
ทำไมมันช่างเปราะบางเหลือเกิน และชีวิตเมื่อไรจะเข้มแข็งพอ

และชีวิตเมื่อไรจะเข้มแข็ง ไม่รู้ ไม่รู้ ไม่รู้ และชีวิตเมื่อไรจะเข้มแข็ง
ชีวิตเมื่อไรจะเข้มแข็งพอ



28 มิ.ย.
          เมื่อคืนรู้สึกเสียใจ....จุกๆที่อกยังไงก็ไม่รู้....เศร้าๆเหมือนจิตตก.....เรื่องอะไรก็ไม่รู้....สุดท้ายผมก็ตัดสินใจทานยานอนหลับไป เป็นยานอนหลับขนาดปรกติ ที่ผมจะทานช่วงที่มีงานเยอะๆ เนื่องจากหลายครั้งที่มีงานเยอะๆถ้าไมไ่ด้ทานยาผมจะนั่งทำงานไปเรื่อยๆจนถึงเช้า ตื่นมาอีกทีก็ 12.35 น. ดีว่าวันนี้มีเรียนบ่าย ว่าแล้วก็รีบแต่งตัวไปเรียน เรียนเสร็จผมก็กลับบ้านไปเปลี่ยนชุดก่อนจะไปที่ยิมเทควันโด...พอไปถึง...ผมก็ทำทุกอย่างเหมือนที่เคยทำ....แต่ว่า...ผมเผลอหันไปมองหน้ายิมอยู่ตลอด....ผม...มองหาใครสักคน....เมื่อไหร่เค้าจะมา.....เหมือนครั้งหนึ่งที่ผมเฝ้ามองรอบีมาเลย....เหมือนหมา...ที่เฝ้ารอเจ้าของว่าเมื่อไหร่จะมา.....อ้อ ลืมบอกไปวันนี้ฝนตกด้วยครับ กว่าจะหยุดก็เกือบ 17.00 แล้ว แต่ว่า....ว่านจะมา 5 โมงกว่าตลอดนี่นา....เป็นอะไรหรือเปล่า...หรือฝนตกจนค่ำว่านคิดว่าฝนไม่หยุดง่ายแน่ เลยโทรตามคุณแม่มารับ....หรือว่าไปอยู่ที่บ้านของสาวคนนั้นตั้งแต่บ่ายเพราะว่านว่างครึ่งวันนี่นาวันนี้ แถมนัดแนะไปหากันแล้วด้วย....อืม....ผมไม่ได้นับว่าผมหันออกมามองหน้ายิมกี่ครั้ง แต่มันก็คงมากพอที่มายกับพี่ป้อมจะสังเกตได้

"พี่เอเป็นอะไรคะ" มายถามผม
"เปล่า ไม่ได้เป็นอะไร"
"เห็นพี่หันไปมองหน้ายิมบ่อยๆมีอะไรหรือเปล่า" มายถามซ้ำ
"นั่นซิ เอมีธุระหรืออะไรหรือเปล่า" พี่ป้อมเดินมาถามต่อ
"มะ...ไม่มีอะไรพี่" ผมตอบกลับไปพลางยิ้มๆ ก่อนจะนึกได้ว่า....
"คือ...ผมมองฝนเฉยๆ ว่าฝนตกอีกหรือเปล่า" ผมตอบพลางยิ้ม
"อืม ถ้ามีธุระอะไรด่วนก็บอกพี่นะ กลับก่อนได้"
"ครับพี่" ผมตอบกลับไปพี่ป้อมก็ทำท่าเหมือนห่วงๆก่อนจะกลับไปสอนเด็กต่อ
"พี่เอ...พี่รอใครมาหรือเปล่า" มายถามผมซ้ำอีกที
"ไม่ๆ ซ้อมต่อเถอะ"

          พอกลับมาถึงบ้าน...มีสายรายงานมาว่าวันนี้ว่านไปหาหมอ...แล้วก็ฝังเข็มที่เข่า....ฝังเข็มเหรอ.....ครั้งหนึ่งเมื่อนานมาแล้วโค้ชก็แนะนำให้ผมไปฝังเข็มเพื่อรักษาอาการเจ็บเข่า.....แต่ผมไม่ได้ไปเพราะอาการบาดเจ็บแบบที่ผมเป็น ว่านเป็น หรือ โค้ชเป็น ฝังเข็มมันไม่หาย ทำได้แค่ทุเลาอาการ เว้นเสียแต่ว่าไปผ่าตัด....อืมม...วันนี้ว่านไปฝังเข็ม....


29 มิ.ย.
         วันนี้ชวนอาจารย์โดดสอนไปดู Transformer 3 ครับ ได้ดูรอบ 11.00 น. จริงๆเรื่องนี้ว่านก็เคยบอกว่าอยากดูมากๆนะครับ วานก่อนเพื่อนสนิทของว่านก็บอกว่าจะไปดูเสาร์นี้ แล้วน้องเค้าก็ชวนผมไปด้วย ใจหนึ่งผมก็อยากไปดูกับกลุ่มเพื่อนน้องว่านเหมือนกันนะเพราะน้องๆชวนหลายหนแล้วปฏิเสธทุกรอบเลย แต่อีกใจ....มีความเป็นไปได้สูงว่าว่านจะไปด้วย....ผมเลยเปลี่ยนใจไม่ไปดีกว่า กลัวผมจะไปทำให้ว่านหมดสนุกเอา

         พูดถึงเรื่องเพื่อนว่าน....จะว่าไปว่านเองก็ไม่เคยบอกใครเลยนะครับว่าว่านไม่คุยกับผม หรือ โกรธผมเรื่องอะไร ที่รู้ๆอย่างพลอย ส้ม เกม หรือ ริว ก็เพราะเค้าเห็น ส่วนคนอื่นๆที่ไม่เคยเจอผมพร้อมว่านหลังจากที่มีปัญหานี้ก็ไม่มีใครรู้เรื่องนี้เลย แม้แต่เพื่อนที่สนิทที่สุดที่ว่านเล่าให้เค้าฟังทุกเรื่อง ว่านก็ไม่เคยบอก....เพราะถ้าว่านบอก....เค้าคงไม่มาชวนผมไปโน้นไปนี่ทั้งๆที่ว่านไปด้วย แถมหลายครั้งเค้ามักจะพูดว่า "ไม่เชื่อพี่ก็ถามว่านดู , พี่ลองถามว่านดู" อีกต่างหาก

         แล้ววันนี้....ก็เป็นอีกวันที่ว่านไม่มา.....แล้วก็เป็นอีกวันที่ผมส่องดูที่หน้ายิมอยู่เนืองๆ....ไม่เคยคิดเลยว่านอกจากบีแล้ว....ว่านจะเป็นอีกคนที่ทำให้ผมต้องหันไปมองแบบนี้......ระหว่างที่ผมสอนน้องไป มองหน้ายิมไป....เตะไปมองหน้ายิมไป....ดื่มน้ำไปมองหน้ายิมไป....พี่ป้อมก็เดินมาหาผมแล้วพูดว่า

"มองหาใคร" พี่ป้อมพูดจบก็เอามือขวาตบไหล่ผมเบาๆสองสามที
"ก็มองไปเรื่อยอะพี่ วันนี้สาวๆน่ารักเิดินผ่านยิมเยอะเน๊าะ" ผมตอบพลางยิ้มกลบเกลื่อน
"รอว่านเหรอ" ดูเหมือนพี่ป้อมจะไม่ ฮา กับผมแฮะ พี่ป้อมถามกลับด้วยสีหน้าจริงจังพอควร
"....." ผมไมไ่ด้ตอบอะไรกลับไป ไม่รู้ซิครับ...คำถามที่พี่ป้อมยิงมาเมื่อกี้ทำเอาผมไปไม่ถูกเลย
"วันนี้ว่านโทรมาบอกพี่ว่าคุณแม่มารับแล้ว" พี่ป้อมพูดจบผมก็หันมองหน้าพี่ป้อม ก่อนจะกลับไปสอนน้องต่อโดยที่ไม่ได้หันมามองหน้ายิมอีก

         ตกเย็น....ก็เป็นอีกวันที่มายรอกลับพร้อมผม....คือ...ถ้าผมไม่เสียบกุญแจมายก็ไม่กลับอะครับ.....ทว่าวันนี้ผมมีอะไรจะคุยกับพี่ป้อมหน่อย ผมเลยให้มายกลับไปก่อน แล้วผมก็นั่งคุยกับพี่ป้อม....ตอนนี้ผมพอจะรู้แล้วว่าพี่ป้อมเองก็ไม่พอใจโค้ชคนเก่าอยู่ไม่น้อยเหมือนกัน ผมเลยพยายามเข้าไปให้ลึกอีกนิ๊ดว่าพี่ป้อมคิดยังไงกับโค้ชกันแน่ สุดท้ายก็ได้คำตอบแบบรวมๆมาว่า "เค้าเป็นคนเห็นแก่ตัว ดีแต่พูด แถมชอบพูดเวอร์ ชอบบังคับคนอื่น ชอบใช้คนอื่น แถมทำงานไม่เคยเรียบร้อย ชอบยกยอตัวเองด้วยการดูถูกคนอื่น แล้วก็ไม่อยากให้โค้ชคนเก่ามายุ่งที่ยิมนี้อีก" สรุปมีความเป็นไปได้สูงที่โค้ชจะถูกเด้งทั้งจากมหาวิทยาลัย แล้วก็ยิมที่ตัวเองถือหุ้นส่วนใหญ่

        ส่วนว่าน....จะอยู่ซ้อมต่อ....หรือ จะเลิกซ้อมเพราะไม่มีโค้ชก็แล้วแต่เค้าแล้วกัน....ผมเองก็ทำอะไรมากมายไม่ได้ เวลานี้ผมก็ทำได้แค่รอแล้วก็....เฝ้าดูความเคลื่อนไหวของเค้าอยู่ห่างๆ.....


เพลงจาก FaceBook ว่าน เมื่อ 23 ชั่วโมงที่แล้ว
http://www.youtube.com/v/sVRyjerKE_0?version=3&amp;hl=th_TH&amp;rel=0

http://www.youtube.com/v/8pgYRmS47s4?version=3&amp;hl=th_TH&amp;rel=0


ปล. จริงๆ 2 เพลงนี้ผมน่าจะเปิดมากกว่านะ....



30 มิ.ย.
         วันนี้ผมใช้ชีวิตไร้สาระมากมาย....เรียนเสร็จก็กลับมานั่งเอ๋ออยู่บ้าน ก่อนจะไปเปิดบัญชี ว่าจะลองถ่ายภาพขาย Online ดูพวก Microstock Photography อะไรพวกนี้ จะได้ไม่มีเวลาว่างมากๆเหมือนี่เป็นในปัจจุบัน ( ทุกวันนี้ยังมีเวลาว่างอยู่อีกเหรอ ) ตอนเย็นผมเข้าไปที่ยิม....เหมือนพี่ป้อมจะรู้....พอผมเปิดประตูเข้าไป พี่ป้อมก็เดินมาหาผมแล้วบอกผมว่า....

"ว่านคงไม่ได้มาจนกว่าจะถึงเดือนหน้านะ" พอพี่ป้อมพูดจบผมก็หันไปมองพี่ป้ิอม พี่ป้อมก็คงรู้ว่าสายตาของผมที่มองอยู่นั้นมีคำถามอยู่
"ก็พี่เห็นว่านต้องมารอพี่ไปส่งทุกวันจนค่ำ พี่เลยคิดว่าให้คุณแม่ว่านมารับกลับเลยดีกว่า"

         พอพี่ป้อมพูดจบพี่ป้อมก็เดินออกไปดูน้องๆต่อ.....ผมยืนนิ่งอยู่พักหนึ่งก่อนที่น้องๆจากมหาวิทยาลัยจะทยอยมา หลังจากที่ผมคุยกับน้องๆพอเป็นพิธีผมก็กลับ.....ไม่รู้เหมือนกัน....แต่ผมรู้สึกว่าไม่รู้วันนี้ผมจะอยู่จนเลิกไปทำไม...อีกอย่างผมเจ็บขาหน่อยๆด้วยซ้อมกับน้องๆก็คงไม่ไหวต้องรอขาหายเจ็บก่อน....สุดท้ายผมก็กลับมานั่งเหงาที่้บ้านคนเีดียว.....จริงๆ...ถึงจะไม่ไ่ด้คุย แค่ได้เห็นก็พอแล้ว....

         วันนี้สายรายงานมาว่า....ว่านอยู่บ้านคนเดียว แถมตอนที่ผมกำลังพิมพ์อยู่นี่ ว่านก็กำลังเหงา หาอะไรทำอยู่
หัวข้อ: Re: น้องชาย 2 ( Up เหตุการณ์ล่าสุด 23/06/11 )
เริ่มหัวข้อโดย: kikumaru ที่ 24-06-2011 10:22:36
แวะมาทักทาย
อารมณ์นี้สิ่งที่น้องทำดูแล้วขำ
เหมือนคุณเอว่าแหละ
ให้อารมณ์เพื่อนสาวเวลางอน
หัวข้อ: Re: น้องชาย 2 ( Up เหตุการณ์ล่าสุด 23/06/11 )
เริ่มหัวข้อโดย: bbyuqin ที่ 24-06-2011 11:28:05
น้องน่าจะอยากให้เอเข้าไปง้อเข้าไปถามไปเซ้าซี้ให้ตอบหรือปล่าว พอยิ่งเพิกเฉย เลยกลายเป็นเหมือนว่า น้องก็ยิ่งงอนไม่สนใจ..เฮ้อ....จะเป็นยังไงเนี่ย
หัวข้อ: Re: น้องชาย 2 ( Up เหตุการณ์ล่าสุด 23/06/11 )
เริ่มหัวข้อโดย: Y2Y ที่ 24-06-2011 13:54:38
คุณ เอ ถ้า ว่านมันง้อยากมากนักก็ปล่อยๆไปเหอะ ทางใครทางมัน จบข่าว
หัวข้อ: Re: น้องชาย 2 ( Up เหตุการณ์ล่าสุด 23/06/11 )
เริ่มหัวข้อโดย: chaijian ที่ 24-06-2011 23:25:43
 o18แวะมารายงานคุณเอครับ ตอนนี้น้องก็กลับมาแระ ลองๆกอด ลองๆคุยดูก็รู้สึกว่าเริ่มเข้าที่เข้าทาง แต่ยังมีปฏิกิริยาเล็กน้อยถ้าจะย้อนคุยเรื่องเก่าๆ แต่ก็ถือว่าโอเคในระดับนึงอ่านะ  :man1: มาอ่านเรื่องคุณเอแล้วผมก็ว่าคุณเอทำถูกนะที่ไม่ใส่ใจ แต่อย่าถึงกับเพิกเฉยเลยครับ คุยๆไว้บ้าง จะว่าตามมารยาทหรือเพื่อรักษาเส้นใยความสัมพันธ์ก็ตามเหอะ อย่างน้อย ก็อาจจะเป็นอีกข้ออ้างหนึ่งที่เค้าจะกลับมา
     ก็แสดงความคิดเห็นในแบบของผมอ่านะครับ  เพราะของผมเองก็ยังลูกผีลูกคนอยู่  :seng2ped: แต่ยังไงก็สู้ๆนะครับ เป็นกำลังใจให้  o13
หัวข้อ: Re: น้องชาย 2 ( Up เหตุการณ์ล่าสุด 23/06/11 )
เริ่มหัวข้อโดย: naoki24 ที่ 26-06-2011 12:50:38
สวัสดีคุณเอ กลับมาอ่านช้าไปนิดนะแต่ก็ได้อ่านอ่ะนะ

ผมได้เอาเรื่องน้องว่านไปให้ลูกศิษย์ผมอ่านเค้าก็ตอบได้เลยว่าทำไม

"น้องว่านกำลังอ้อนคุณเอแต่ว่าไม่รู็จะเข้าหาคุณเออย่างไรมากกว่าจึงเลยพยายามทำตัวให้เป็นจุดสนใจ
ให้คุณเอคอยมองเค้า แต่ก็ที่บอกไปแล้วน้องเค้าไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นอย่างไรดี"

ลูกศิษย์ผมยังบอกอีกว่า "หากคุณเอากล้าที่จะขอโทษ อีกครั้งลองส่งข้อความไปตามนี้ดู"
"ว่าน...พี่ขอโทษนะ พี่ไม่รู้ว่าทำไมพวกเราถึงลงเอยแบบนี้ แต่พี่ไม่อยากให้ระหหว่างเรากับพี่เป็นแบบนี้เลย
เรากลับมาเริ่มต้นกันใหม่ดีมั้ยถ้าว่านเห็นด้วยไม่ต้องตอบอะไรกลับมาหรอก ไว้พรุ่งนี้เจอหน้ากันก็ทักกันบ้างแค่นี้ก็พอแล้ว
และพี่อยากให้เรารู้ไว้ว่า 'พี่ยังรักแกเสมอนะ น้องชายคนสำคัญของพี่'(คำพูดผมนี่หว่า) "

อย่าลืมมาโพสต่อนะงับ เจอกันวันอังคารว่าจะโดดสอนวันนึงพาลิงไปเที่ยวบ้านอ่านนิยายคุณเอ
หัวข้อ: Re: น้องชาย 2 ( Up เหตุการณ์ล่าสุด 23/06/11 )
เริ่มหัวข้อโดย: me_alone ที่ 27-06-2011 02:38:59
แวะมาทักทาย
อารมณ์นี้สิ่งที่น้องทำดูแล้วขำ
เหมือนคุณเอว่าแหละ
ให้อารมณ์เพื่อนสาวเวลางอน
:กอด1:



น้องน่าจะอยากให้เอเข้าไปง้อเข้าไปถามไปเซ้าซี้ให้ตอบหรือปล่าว พอยิ่งเพิกเฉย เลยกลายเป็นเหมือนว่า น้องก็ยิ่งงอนไม่สนใจ..เฮ้อ....จะเป็นยังไงเนี่ย
อยากเข้าไปถามอยู่ครับ ส่วนเซ้าซี้นี่ลืมได้เลย
เพราะ 3 ปีที่รู้จักว่านมา ถ้าไม่คืดไม่ถ้าเซ้าซี้ว่านจะโกรธ หรือ ไม่ชอบ ดีไม่ดีมีเหวี่ยงใส่ด้วย
เคยเห็นว่านเหวี่ยงใส่มิ้น ใส่ต้นกล้ามาแล้ว
แต่พอจะรอให้น้องมีท่าทีดีขึ้น...ผมก็ยังไม่เห็นจะเจอ ซ้ำร้าย นานวันเข้าก็ยิ่งห่างกันไปเรื่อยๆ
 :เฮ้อ:



คุณ เอ ถ้า ว่านมันง้อยากมากนักก็ปล่อยๆไปเหอะ ทางใครทางมัน จบข่าว
สำหรับผม...ถ้าผมรักใครสักคน...ผมให้เค้าได้ทุกอย่างครับ แม้แต่เวลา.....
ผมจะรอต่อไปเงียบๆ จนกว่าว่านจะบอกให้ผมเลิกยุ่ง หรือ ว่านไปมีใครใหม่นั่นล่ะครับ ผมถึงจะถอย ^^



o18แวะมารายงานคุณเอครับ ตอนนี้น้องก็กลับมาแระ ลองๆกอด ลองๆคุยดูก็รู้สึกว่าเริ่มเข้าที่เข้าทาง แต่ยังมีปฏิกิริยาเล็กน้อยถ้าจะย้อนคุยเรื่องเก่าๆ แต่ก็ถือว่าโอเคในระดับนึงอ่านะ  :man1: มาอ่านเรื่องคุณเอแล้วผมก็ว่าคุณเอทำถูกนะที่ไม่ใส่ใจ แต่อย่าถึงกับเพิกเฉยเลยครับ คุยๆไว้บ้าง จะว่าตามมารยาทหรือเพื่อรักษาเส้นใยความสัมพันธ์ก็ตามเหอะ อย่างน้อย ก็อาจจะเป็นอีกข้ออ้างหนึ่งที่เค้าจะกลับมา
     ก็แสดงความคิดเห็นในแบบของผมอ่านะครับ  เพราะของผมเองก็ยังลูกผีลูกคนอยู่  :seng2ped: แต่ยังไงก็สู้ๆนะครับ เป็นกำลังใจให้  o13
:เฮ้อ: ~ ผมก็อยากคุยกับน้องนะ...ถ้าน้องไม่ทำสายตาแบบนั้นใส่ผม แถมก่อนหน้านี้ยังมีท่าทีรำคาญใจเวลาผมคุยด้วยอีก....



สวัสดีคุณเอ กลับมาอ่านช้าไปนิดนะแต่ก็ได้อ่านอ่ะนะ

ผมได้เอาเรื่องน้องว่านไปให้ลูกศิษย์ผมอ่านเค้าก็ตอบได้เลยว่าทำไม

"น้องว่านกำลังอ้อนคุณเอแต่ว่าไม่รู็จะเข้าหาคุณเออย่างไรมากกว่าจึงเลยพยายามทำตัวให้เป็นจุดสนใจ
ให้คุณเอคอยมองเค้า แต่ก็ที่บอกไปแล้วน้องเค้าไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นอย่างไรดี"

ลูกศิษย์ผมยังบอกอีกว่า "หากคุณเอากล้าที่จะขอโทษ อีกครั้งลองส่งข้อความไปตามนี้ดู"
"ว่าน...พี่ขอโทษนะ พี่ไม่รู้ว่าทำไมพวกเราถึงลงเอยแบบนี้ แต่พี่ไม่อยากให้ระหหว่างเรากับพี่เป็นแบบนี้เลย
เรากลับมาเริ่มต้นกันใหม่ดีมั้ยถ้าว่านเห็นด้วยไม่ต้องตอบอะไรกลับมาหรอก ไว้พรุ่งนี้เจอหน้ากันก็ทักกันบ้างแค่นี้ก็พอแล้ว
และพี่อยากให้เรารู้ไว้ว่า 'พี่ยังรักแกเสมอนะ น้องชายคนสำคัญของพี่'(คำพูดผมนี่หว่า) "

อย่าลืมมาโพสต่อนะงับ เจอกันวันอังคารว่าจะโดดสอนวันนึงพาลิงไปเที่ยวบ้านอ่านนิยายคุณเอ
ส่งไปแบบนั้นจะดีเหรอครับ....
หัวข้อ: Re: น้องชาย 2 ( Up เหตุการณ์ล่าสุด 26/06/11 )
เริ่มหัวข้อโดย: Elleelle1234 ที่ 27-06-2011 08:56:57
 :L2:
หัวข้อ: Re: น้องชาย 2 ( Up เหตุการณ์ล่าสุด 26/06/11 )
เริ่มหัวข้อโดย: kikumaru ที่ 27-06-2011 18:12:58
ไม่มีอะไรจะคอมเมนต์เพราะคิดว่า
สุดท้ายคุณเอจะตัดสินใจได้อยากทำอะไรก็ทำดีกว่าเนาะ
เพราะคนเราทำแล้วมีความสุขก็ทำไปเหอะ
ไม่เดือดร้อนใครเป็นพอ วิธีทางไหนที่คิดว่าดีก็ลองทำดูถึงที่สุดแล้วจะได้ไม่เสียใจ
เลยแค่แวะมาให้กำลังใจ
หัวข้อ: Re: น้องชาย 2 ( Up เหตุการณ์ล่าสุด 26/06/11 )
เริ่มหัวข้อโดย: ummax ที่ 27-06-2011 21:08:50
ทักทายครับคุณเอ

 คิดถึงนิยายคุณเอคับคิดถึงว่านด้วย คุณเออย่าทิ้งว่านนะครับเด็กมันมีปัญหาก็อย่างนี้
ล่ะครับ

บางทีว่านอาจจะต้องการให้ง้อก็ได้ครั้งแรกอาจจะเล่นตัวหน่อยแต่ก็ลองหลายๆครั้งดูครับถ้า
ปล่อยไว้นานมันจะห่างเหินเข้าหน้ากันไม่ติดนะครับ


ยังไงก็เอาใจช่วยนะครับพยายามเข้าครับ

ขอแค่อย่าทิ้งน้องมันสงสารครับ
หัวข้อ: Re: น้องชาย 2 ( Up เหตุการณ์ล่าสุด 26/06/11 )
เริ่มหัวข้อโดย: kritsada.s ที่ 27-06-2011 21:36:39
มอบให้คุณเอ ฝากไปถึงน้องว่าน...  :mc4:
http://www.youtube.com/v/h8GrQZGU0hI
หัวข้อ: Re: น้องชาย 2 ( Up เหตุการณ์ล่าสุด 27/06/11 )
เริ่มหัวข้อโดย: me_alone ที่ 27-06-2011 22:52:53
:L2:
:กอด1:


ไม่มีอะไรจะคอมเมนต์เพราะคิดว่า
สุดท้ายคุณเอจะตัดสินใจได้อยากทำอะไรก็ทำดีกว่าเนาะ
เพราะคนเราทำแล้วมีความสุขก็ทำไปเหอะ
ไม่เดือดร้อนใครเป็นพอ วิธีทางไหนที่คิดว่าดีก็ลองทำดูถึงที่สุดแล้วจะได้ไม่เสียใจ
เลยแค่แวะมาให้กำลังใจ
:กอด1: ~ ขอบคุณครับ


ทักทายครับคุณเอ
 คิดถึงนิยายคุณเอคับคิดถึงว่านด้วย คุณเออย่าทิ้งว่านนะครับเด็กมันมีปัญหาก็อย่างนี้
ล่ะครับ
บางทีว่านอาจจะต้องการให้ง้อก็ได้ครั้งแรกอาจจะเล่นตัวหน่อยแต่ก็ลองหลายๆครั้งดูครับถ้า
ปล่อยไว้นานมันจะห่างเหินเข้าหน้ากันไม่ติดนะครับ
ยังไงก็เอาใจช่วยนะครับพยายามเข้าครับ
ขอแค่อย่าทิ้งน้องมันสงสารครับ
ขอบคุณสำหรับคำแนะนำดีๆนะครับ


มอบให้คุณเอ ฝากไปถึงน้องว่าน...  :mc4:
ขอบคุณมากๆครับ เพลงเพราะมากมาย
หัวข้อ: Re: น้องชาย 2 ( Up เหตุการณ์ล่าสุด 27/06/11 )
เริ่มหัวข้อโดย: entirom ที่ 27-06-2011 23:23:39
ไม่รู้น่ะ
แต่ถ้าดูจากชื่อเพลง(ไม่ได้ฟัง)แล้ว
เหมือนน้องว่านกำลังหาทางง้อใครบ้างคนอยู่
บ้างทีน่ะ
การพูดคุยเพื่อให้เข้าใจ ดีกว่านิ่งเฉยแล้วนั่งเป็นกังวล
 :L2:
หัวข้อ: Re: น้องชาย 2 ( Up เหตุการณ์ล่าสุด 27/06/11 )
เริ่มหัวข้อโดย: nco1236 ที่ 28-06-2011 01:02:08
เฮ้อปวดตับแทน
หัวข้อ: Re: น้องชาย 2 ( Up เหตุการณ์ล่าสุด 27/06/11 )
เริ่มหัวข้อโดย: ummax ที่ 28-06-2011 02:19:25
มาคอยจนดึกล่ะ

เฮ้อดีนะที่มาคุณเอ ชอบมาดึกๆอ่ะ

อยากรู้เหมือนกันว่าว่านเขาคิดยังไง

เด็กขาดความอบอุ่นอ่ะนะ

เขาจะชอบเรียกร้องความสนใจอย่างนี้แหล่ะ


เอาใจช่วยตลอดไปนะครับ
หัวข้อ: Re: น้องชาย 2 ( Up เหตุการณ์ล่าสุด 27/06/11 )
เริ่มหัวข้อโดย: chaijian ที่ 28-06-2011 10:49:46
คือยังไงดีล่ะ ตอนผมมีปัญหากับน้องแรกๆ น้องก็มึนตึงกับผมเหมือนว่านเลยนะครับ ยิ่งเวลาอยู่กับเพื่อนเนี่ย
เค้าจะทำเป็นไม่รู้จักผมเลยด้วยซ้ำ แต่ผมเวลาเจอหน้าก็ยังทักเค้าบ้าง ไม่ได้จริงๆก็ยังยิ้มให้บ้าง จริงๆผมก็อายแหละ
แต่ก็เข้าข้างตัวเองไปว่า "เอาวะ ตามมารยาท" เพราะนี่คือสิ่งที่ผมยังทำได้ในขณะนี้ คุณเอลองคิดดูนะครับ ถ้าคน 2 คน
ที่เคยเกินเลยกันในแบบที่ไม่มีในคนทั่วไป มันลืมกันไม่ได้ง่ายๆหรอก แต่พองอนกันขึ้นมา จนกระทั่งต่างฝ่ายต่างไม่พูด
กาลเวลาทำให้ทั้ง 2 ฝ่ายห่างกันมากขึ้นๆ พอรู้สึกตัวอีกที จะให้แต่ละฝ่ายเข้ามาคุยกันด้วยข้ออ้างอะไรละครับ
ในเมื่อไม่มีอาไรที่พอเห็นได้ว่า คุณสานสายใยไว้อยู่ ความกลัวที่ต่างฝ่ายต่างไม่กล้าคุย มันทำให้เราทั้งคู่เริ่มเข้าสู่โหมด "ผมไม่ใช่คนรู้จักของคุณแล้ว"
คุณเอพูดมาก็ถูก ที่ว่าน้องยังเป็นเด็ก และประเด็นนี้แหละครับที่คุณเอจะได้คำตอบว่า "ก็เพราะน้องมันยังเด็กไง คุณเอเป็นผู้ใหญ่ที่มีการตัดสินใจดีกว่า
ความสับสนน้อยกว่า ต้องทำยังไง"  ผมหาทางออกเรื่องระหว่างน้องกับน้องผมได้ ก็เพราะคิดถึงข้อนี้แหละครับ เพราะน้องผมเป็นพี่น้องว่านแค่ 2 ปีเอง
        สู้ๆครับผม 
       (ปล.ขอโทษด้วยครับที่พิมมาซะยาว ถ้าบางคำมันทำให้คุณเอคิดมากผมก็ขอโทษอีกทีละกันครับ ) ยังไงก็อย่าท้อเน้อ ไม่ได้เป็นแฟนก็เก็บไว้เป็นน้องให้ได้
หัวข้อ: Re: น้องชาย 2 ( Up เหตุการณ์ล่าสุด 27/06/11 )
เริ่มหัวข้อโดย: HydrA ที่ 28-06-2011 13:09:16
พี่เอ หยุดเถอะนะ หยุดวิ่งได้แล้ว
หยุดแล้วยืนนิ่งๆ
แล้วค่อยค่อยเริ่มเดินใหม่
หันกลับมารักตัวเองเถอะนะ
นู๋คิดว่าว่านเค้าไปสนสาวที่ไหนแล้วล่ะ
พี่เอ อย่าเสียเวลา และเสียใจให้กับว่านอีกเลย
พี่เออย่าเข้าไปดูในเฟสของว่านอีกเลยนะ
ปล่อยมือจากว่านได้แล้ว
ให้เรื่องทุกอย่างมันจางไปกับกาลเวลาเถอะ
พี่เอ ว่านไม่ใช่ทุกสิ่งของชีวิตพี่นะ
พี่เอ คิดให้ดีๆนะ ว่านเค้าใช่สำหรับพี่แล้วเหรอ
รักแล้วเป็นทุกข์แบบนี้เค้าเรียกว่ารักเหรอ
พี่เอยังมีอะไรต้องทำอีกเยอะนะ
ต้องเจอคนอีกมากมาย
อย่าทำร้ายตัวเองอีกเลย
รักตัวเองหน่อยเถอะนะ
นู๋อยากให้พี่เอเห็นคุณค่าของตัวเองให้มากกว่านี้อ่ะ
นู๋ไม่อยากให้พี่เอต้องทุกข์เพราะว่านอีกแล้วนะพี่
พี่บอกว่าเพิกเฉย แต่พี่ก็ยังเข้าไปติดตามข่าวของว่านเสมอๆ
ยิ่งรู้ยิ่งทุกข์ก็หยุดมันเถอะนะพี่
แล้วหันมาใช้ชีวิตให้มันสนุกจะดีกว่าม๊า
หัวข้อ: Re: น้องชาย 2 ( Up เหตุการณ์ล่าสุด 28/06/11 )
เริ่มหัวข้อโดย: me_alone ที่ 28-06-2011 22:01:13
ไม่รู้น่ะ
แต่ถ้าดูจากชื่อเพลง(ไม่ได้ฟัง)แล้ว
เหมือนน้องว่านกำลังหาทางง้อใครบ้างคนอยู่
บ้างทีน่ะ
การพูดคุยเพื่อให้เข้าใจ ดีกว่านิ่งเฉยแล้วนั่งเป็นกังวล
 :L2:
ปัญหาคือว่านไม่เข้าใกล้ให้ผมได้พูดหน่ะซิครับ โทรหาก็ไม่รับ SMS ไปหาก็ถึงกับจะบล๊อกเบอร์ผมเลยทีเดียว



เฮ้อปวดตับแทน
:กอด1:


มาคอยจนดึกล่ะ
เฮ้อดีนะที่มาคุณเอ ชอบมาดึกๆอ่ะ
อยากรู้เหมือนกันว่าว่านเขาคิดยังไง
เด็กขาดความอบอุ่นอ่ะนะ
เขาจะชอบเรียกร้องความสนใจอย่างนี้แหล่ะ
เอาใจช่วยตลอดไปนะครับ
งานเยอะอะครับ แฮะๆ ปั่นงานไปก่อน พอพักก็แวะเข้ามา
ขอบคุณสำหรับกำลังใจนะครับ



คือยังไงดีล่ะ ตอนผมมีปัญหากับน้องแรกๆ น้องก็มึนตึงกับผมเหมือนว่านเลยนะครับ ยิ่งเวลาอยู่กับเพื่อนเนี่ย
เค้าจะทำเป็นไม่รู้จักผมเลยด้วยซ้ำ แต่ผมเวลาเจอหน้าก็ยังทักเค้าบ้าง ไม่ได้จริงๆก็ยังยิ้มให้บ้าง จริงๆผมก็อายแหละ
แต่ก็เข้าข้างตัวเองไปว่า "เอาวะ ตามมารยาท" เพราะนี่คือสิ่งที่ผมยังทำได้ในขณะนี้ คุณเอลองคิดดูนะครับ ถ้าคน 2 คน
ที่เคยเกินเลยกันในแบบที่ไม่มีในคนทั่วไป มันลืมกันไม่ได้ง่ายๆหรอก แต่พองอนกันขึ้นมา จนกระทั่งต่างฝ่ายต่างไม่พูด
กาลเวลาทำให้ทั้ง 2 ฝ่ายห่างกันมากขึ้นๆ พอรู้สึกตัวอีกที จะให้แต่ละฝ่ายเข้ามาคุยกันด้วยข้ออ้างอะไรละครับ
ในเมื่อไม่มีอาไรที่พอเห็นได้ว่า คุณสานสายใยไว้อยู่ ความกลัวที่ต่างฝ่ายต่างไม่กล้าคุย มันทำให้เราทั้งคู่เริ่มเข้าสู่โหมด "ผมไม่ใช่คนรู้จักของคุณแล้ว"
คุณเอพูดมาก็ถูก ที่ว่าน้องยังเป็นเด็ก และประเด็นนี้แหละครับที่คุณเอจะได้คำตอบว่า "ก็เพราะน้องมันยังเด็กไง คุณเอเป็นผู้ใหญ่ที่มีการตัดสินใจดีกว่า
ความสับสนน้อยกว่า ต้องทำยังไง"  ผมหาทางออกเรื่องระหว่างน้องกับน้องผมได้ ก็เพราะคิดถึงข้อนี้แหละครับ เพราะน้องผมเป็นพี่น้องว่านแค่ 2 ปีเอง
        สู้ๆครับผม 
       (ปล.ขอโทษด้วยครับที่พิมมาซะยาว ถ้าบางคำมันทำให้คุณเอคิดมากผมก็ขอโทษอีกทีละกันครับ ) ยังไงก็อย่าท้อเน้อ ไม่ได้เป็นแฟนก็เก็บไว้เป็นน้องให้ได้

เรื่องว่านผมเองก็มีส่วนผิดอยู่ที่ทำให้มันบานปลายแบบนี้
เพราะหลังจากที่น้องเมินๆใส่ผม ผมก็เมินใส่น้องกลับ ตอนที่น้องทำเป็นใส่ใจคนอื่นมากมาย ผมก็เอาดอกกุหลาบกับช๊อกโกแลตไปให้เพื่อนว่านต่อหน้าว่าน พอว่านมาเมินใส่ผมอีก ผมก็แทนที่จะง้อ ก็กลับเมินใส่ว่านหนักกว่าเดิมอีก......สุดท้ายพอมาเป็นแบบนี้ผมก็กลับมานั่งเสียใจ



พี่เอ หยุดเถอะนะ หยุดวิ่งได้แล้ว
หยุดแล้วยืนนิ่งๆ
แล้วค่อยค่อยเริ่มเดินใหม่
หันกลับมารักตัวเองเถอะนะ
นู๋คิดว่าว่านเค้าไปสนสาวที่ไหนแล้วล่ะ
พี่เอ อย่าเสียเวลา และเสียใจให้กับว่านอีกเลย
พี่เออย่าเข้าไปดูในเฟสของว่านอีกเลยนะ
ปล่อยมือจากว่านได้แล้ว
ให้เรื่องทุกอย่างมันจางไปกับกาลเวลาเถอะ
พี่เอ ว่านไม่ใช่ทุกสิ่งของชีวิตพี่นะ
พี่เอ คิดให้ดีๆนะ ว่านเค้าใช่สำหรับพี่แล้วเหรอ
รักแล้วเป็นทุกข์แบบนี้เค้าเรียกว่ารักเหรอ
พี่เอยังมีอะไรต้องทำอีกเยอะนะ
ต้องเจอคนอีกมากมาย
อย่าทำร้ายตัวเองอีกเลย
รักตัวเองหน่อยเถอะนะ
นู๋อยากให้พี่เอเห็นคุณค่าของตัวเองให้มากกว่านี้อ่ะ
นู๋ไม่อยากให้พี่เอต้องทุกข์เพราะว่านอีกแล้วนะพี่
พี่บอกว่าเพิกเฉย แต่พี่ก็ยังเข้าไปติดตามข่าวของว่านเสมอๆ
ยิ่งรู้ยิ่งทุกข์ก็หยุดมันเถอะนะพี่
แล้วหันมาใช้ชีวิตให้มันสนุกจะดีกว่าม๊า
พี่ก็อยากหยุด.....แต่กับว่านความรู้สึกพี่ต่อเค้ามันมากกว่าตอนบีอีก
อย่างที่ตอบ Re บนที่ว่านเป็นแบบนี้พี่ก็มีส่วนผิด....มันเป็นความรู้สึกผิดลึกๆอะครับ
คงต้องใช้เวลาทำใจสักหน่อย....แต่ตอนนี้พี่ไม่ได้มองใคร หรือ มีใครคนอื่นเลย
พี่รอว่านแค่คนเดียว...
 :o12:
หัวข้อ: Re: น้องชาย 2 ( Up เหตุการณ์ล่าสุด 28/06/11 )
เริ่มหัวข้อโดย: ummax ที่ 28-06-2011 22:38:43
ยิ่งนานวันยิ่งห่างเหินกันนะครับ


ทางที่ดีคือ
.
.
..
.
.
.
..
ดักฉุดเลยครับง่ายดีเป็นไงเป็นกันเลยครับ

ถ้าไม่ได้ผลก็ควรเลิก

เฮ้อเรื่องมันเศร้า
หัวข้อ: Re: น้องชาย 2 ( Up เหตุการณ์ล่าสุด 28/06/11 )
เริ่มหัวข้อโดย: me_alone ที่ 28-06-2011 22:55:28
^
^

ตอนนี้กำลังทำใจอยู่อะครับ ใกล้สถานะโสดเต็มที....มีใครสนใจจองต่อไหมครับ T-T
หัวข้อ: Re: น้องชาย 2 ( Up เหตุการณ์ล่าสุด 28/06/11 )
เริ่มหัวข้อโดย: icyblue ที่ 28-06-2011 23:46:14
สงสัยน้องว่านติดสาวรุ่นพี่แล้วแระ

อย่างที่บอกน้องเพิ่งเริ่มเป็นวัยทีน อารมณ์ ฮอร์โมน เปลี่ยนแปลงตลอดๆ

ถ้าเอยังมีความหวังอยู่บ้าง คงต้องรอแหละ แต่นานเท่าไหร่อันนี้ไม่รู้นะ

อยู่ที่ความอดทนว่าจะถึงขีดสุดได้แค่ไหนอ่ะนะ  ถ้าดูท่าทีแล้วไม่อาจรีเทริ์น

เอคงต้องปล่อยไป  อย่าทรมานตัวเองให้ต้องเจ็บ 

แต่ถ้าคิดว่าได้แค่เห็น ได้ยินเสียง ได้รู้ความเคลื่อนไหว แล้วมีความสุข ก็สุดแล้วแต่ล่ะกันเนอะ

ขอแค่ให้รักตัวเองให้เป็นนะจ๊ะ  :กอด1: :L2:
หัวข้อ: Re: น้องชาย 2 ( Up เหตุการณ์ล่าสุด 28/06/11 )
เริ่มหัวข้อโดย: nco1236 ที่ 29-06-2011 10:25:30
เป็นความติดที่ดี :laugh:
หัวข้อ: Re: น้องชาย 2 ( Up เหตุการณ์ล่าสุด 29/06/11 )
เริ่มหัวข้อโดย: me_alone ที่ 29-06-2011 22:04:21
สงสัยน้องว่านติดสาวรุ่นพี่แล้วแระ
อย่างที่บอกน้องเพิ่งเริ่มเป็นวัยทีน อารมณ์ ฮอร์โมน เปลี่ยนแปลงตลอดๆ
ถ้าเอยังมีความหวังอยู่บ้าง คงต้องรอแหละ แต่นานเท่าไหร่อันนี้ไม่รู้นะ
อยู่ที่ความอดทนว่าจะถึงขีดสุดได้แค่ไหนอ่ะนะ  ถ้าดูท่าทีแล้วไม่อาจรีเทริ์น
เอคงต้องปล่อยไป  อย่าทรมานตัวเองให้ต้องเจ็บ 
แต่ถ้าคิดว่าได้แค่เห็น ได้ยินเสียง ได้รู้ความเคลื่อนไหว แล้วมีความสุข ก็สุดแล้วแต่ล่ะกันเนอะ
ขอแค่ให้รักตัวเองให้เป็นนะจ๊ะ  :กอด1: :L2:
:กอด1: ~ ขอบคุณสำหรับกำลังใจ แล้วก็คำแนะนำดีๆตลอดมาครับ


เป็นความติดที่ดี :laugh:
:กอด1:
หัวข้อ: Re: น้องชาย 2 ( Up เหตุการณ์ล่าสุด 29/06/11 )
เริ่มหัวข้อโดย: naoki24 ที่ 29-06-2011 23:07:20
 o13 วันนี้สอนลิงแล้วทะเลาะกับลิงมา เรื่อง"แค่ไม่ยิ้มให้"

คุณเอยังสบายดีใช่ไหม เหมือนอารมณืคุณเอแปรปรวนนิดๆนะ(อารมจิตใจ) พักผ่อนน้อยไปหรือป่าว
เรื่องว่านอย่างที่เคยโพสบอสคุณเอไปจะลองทำก็ไม่เสียหายหรอกกลับดีซะอีก แต่ว่า!!!
พออ่านต่อเห็นน้องไปจิ๊จ๊ะกับรุ่นพี่สาวไม่รู้ว่า ซั้ม กันหรือป่าว(หมายถึงเป็นแฟน)
ไอ้ที่ผมเคยโพสอาจจะไม่ดีก็ได้ ดังนั้น...
คุณเอลองทำแบบว่านดูมั้ย ต่อยกำแพง เล่นแง่เล่นงอน เอาเชือกมาผูกคอ มีดกรีดข้อมือ(เอ้ยๆ! เกินไป)
แห่ๆ ถือซะว่าผมไม่ได้พูดละกัน ยังไงก็ทำจิตใจให้มั่นคงต่อไปละกันอย่ายอมแพ้ o13 อย่าอ่อนแอ แม้จะร้องไห้
จงลุกขึ้นสู้ไป จุดหมาย ไม่ไกล เกินจริง (เอ้ย! คนเขียนรู้สึกจะเกินๆนะ)

ป.ล. ไหนๆโค้ชไม่อยู่แล้วนินา ไปชวนอ้นกลับมาละครับ อาจจะเป็นเส้นด้ายบางๆที่ช่วยคุณเอได้นะ
อีกอย่างผมเกลียดคำว่าคบกันแค่แก้เหงา ถ้าคุณเอเป็นแบบนั้นจริงผมตามจองล้างคุณเอแน่  :m31:
ถือว่าคุณทำอะไรแล้วไม่รับผิดชอบ เอ้ย!ไม่ใช่ ไม่จริงใจกับความรักที่คุณมอบให้คนอื่น
ผมไปละครับ ลิงมาดึงหางเอ้ย!หูผมยานหมดแย้ว ลิงมันอยากนอนแต่ไม่มีหมอนข้าง :sad4: เจอกันวันศุกร์ครับ
ว่างๆเจอในmsnก็ได้นะ แอดผมไว้สิ อิอิ
หัวข้อ: Re: น้องชาย 2 ( Up เหตุการณ์ล่าสุด 30/06/11 )
เริ่มหัวข้อโดย: me_alone ที่ 30-06-2011 22:14:51
^
^
^
กับว่าน....ผมจริงจังนะ T-T
หัวข้อ: Re: น้องชาย 2 ( Up เหตุการณ์ล่าสุด 04/07/11 )
เริ่มหัวข้อโดย: me_alone ที่ 02-07-2011 01:07:42
1 ก.ค.
         วันนี้ได้รับหัวข้อโปรเจคจบแล้วครับ.....แอบยาก....แต่ช่างมันเต๊อะ มันคงไม่ยากเกินมือผมหรอกน่า หลังจากเรียนเสร็จตอนบ่ายผมก็มานั่งเซ็งเป็ดกับการลองผิดลองถูกสมัคร Paypal รู้ตัวอีกทีก็ 16.45 แล้ว ผมรีบเปลี่ยนชุดไปยิมทันที เนื่องจากวันนี้วันที่ 1 ครบ 30 วันที่พี่ป้อมเคยบอกว่าให้ว่านพักแล้ว ลึกๆก็แอบดีใจที่จะได้เจอว่าน แต่ลึกๆก็ยังไม่แน่ใจกับท่าทีจองว่านที่จะได้เจอ แต่ดีร้ายมันคงไม่มากไปกว่าที่เป็นอยู่สักเท่าไหร่ พอมาถึงยิม....ผมแอบชะโงกมองหาว่านก่อน แต่ปรากฏว่าไม่เจอครับ เมื่อเข้ามาในยิมผมอดไม่ได้ที่จะถามพี่ป้อมเรื่องว่าน......

"พี่ป้อมดีครับ" ผมเดินเข้าไปยกมือไหว้พี่ป้อม
"ดีๆ"
"พี่ป้อม วันนี้ครบ 1 เดือนที่พี่ให้ว่านพักแล้วใช่ไหมครับ" ผมถามพี่ป้อมไปตรงๆแบบไม่มีอ้อมค้อม
"หืมมม พี่ไม่ได้บอกให้ว่านหยุด 1 เดือนนี่นา พี่บอกให้ว่านพักจนกว่าเข่าจะหายต่างหาก แล้วค่อยมาซ้อม" พี่ป้อมหันมาตอบผมด้วยท่าที งงๆ กับคำถามของผมเล็กน้อย
"จนกว่าจะหายเลยเหรอพี่....แบบนี้น้องก็อาจไม่ได้มาแล้วล่ะซิ" ผมแอบต่อว่าพี่ป้อมไปหน่อยๆ เพราะผมรู้ว่าพี่ป้อมต้องรู้ว่าการพักนานๆมันหมายถึงอะไร....การที่เด็กคนไหนก็ตามหยุดไปเกิน 1 เดือน มีความเสี่ยงสูงที่เด็กคนนั้นจะไม่มาซ้อมอีกเนื่องจากเด็กจะหากิจกรรมใหม่ทำ หรือ มีกิจกรรมใหม่เข้ามาเหมือน บี กับ อ้น พี่ป้อมหันมามองผมเหมือนจะรู้ว่าผมไม่พอใจหน่อยๆ
"ก็พี่เห็นเค้าเจ็บขา แล้วพี่ก็ถามเค้าเรื่องแข่ง เค้าอยากลงแข่งแบบต่อสู้ ไม่ใช่ท่ารำ พี่เลยบอกให้เค้าพัก ไม่งั้นถ้าให้่ซ้อมไป เจ็บไปแบบนี้ ก็คงไม่ได้ลงแข่งซะที" พี่ป้อมอธิบายให้ผมฟัง
"...." เจอพี่ป้อมอธิบายแบบนี้ผมไปต่อไม่ถูกเลย
"แล้วพีก็คุยกับเค้าแล้ว ว่าถ้าหายเจ็บขา จะอีก 2 หรือ 3 เดือนก็ช่าง ถ้าหายแล้วจะพาไปเก็บตัวกับอาจารย์กบ ก่อนจะพาลงแข่ง"
"จริงๆเรื่องเข่าผมก็บอกว่านไปแล้วตั้งแต่เค้ายังไม่เจ็บ ถ้าเค้าฟังสักนิ๊ดมันจะไม่เป็นแบบนี้เลย ฟังแต่โค้ช เชื่อแต่โค้ช พอเจ็บผมไม่เห็นโค้ชจะมาสนใจห่วงใยดูแล สุดท้ายก็มีแต่พี่มีแต่ผมนี่ล่ะ" ผมบ่นๆออกไป
"เรื่องนี้พี่ก็คุยกับเค้านะ พี่สอนเค้าเรื่องให้ฟังที่คนอื่นเค้าบอกเค้าเตือนบ้างอย่าทำตัวเป็นน้ำเต็มแก้วไปแล้ว"
"ก็ตามที่โค้ชเค้าปลูกฝังมาแหละพี่ แถมโค้ชยังมาให้ท้ายกันผิดๆอีก"


"แล้วเอเจอโค้ชบ้างไหม" พี่ป้อมถามผมเรื่องโค้ชขึ้นมาดื้อๆซะงั้น
"ไม่เจอครับ"
"เหรอ...พอดีที่บ้านเค้าโทรมา ที่บ้านเค้าบอกว่าตอนนี้ตัดหางปล่อยวัดไปแล้ว เค้าเลยโทรมาเช็กว่าได้มายืมเงินพี่บ้างไหม" พี่ป้อมพูดพลางทำท่าทางเบื่อหน่าย
"ทำไมถึงได้ตัดล่ะพี่"
"เอก็รู้ๆกันอยู่ว่าเค้าดื้อจะตาย ทางบ้านสอนอะไรก็ไม่ฟัง เค้าเลยอยากให้ออกมาใช้ชีวิตดูเองบ้าง พี่จะสงสารก็แค่ลูกเค้านั่นแหละ" พี่ป้อมพูดถึงตรงนี้ผมรู้สึกผิดขึ้นมานิ๊ดๆเลยแฮะ.....เพราะผมโค้ชถึงถูกแบนจากมหาวิทยาลัย....เพราะผมยิมถึงเกือบหวิดต้องปิดตัวลง......นี่ผมตัดรายได้หลักของโค้ชไปนะเนี่ยะ
"แต่ก็ดีแล้วล่ะ พี่ว่าให้มันเรียนรู้ชีวิตเองบ้าง มาให้พี่อุ้ม เออุ้มอยู่แบบนี้ได้ยังไงกัน คนแบบนี้มันต้องโดนเองถึงจะรู้สึก ฮ่ะๆๆ" พี่ป้อมพูดจบก็หัวเราะ

          แล้วพี่ป้อมก็เล่าให้ผมฟังเรื่องของอาจารย์กบว่าลึกๆอาจารย์กบก็ไม่ปลื้มโค้ชเท่าไหร่เหมือนกัน เหมือนเวลานี้...สายโค้ชใกล้จะถูกถอดถอนออกจาวงการเทควันโดจริงๆซะแล้ว.....ว่าน....เลือกผิดฝ่ายซินะ ตอนนี้สงครามเย็นที่เกิดขึ้นมานานเกือบ 7 เดือนหลังจากที่ผมเริ่มมีปฏิกิริยาต่อต้านโค้ชอย่างชัดเจน ก็คงใกล้ได้ข้อยุติแล้วว่าใครกันคือคนที่ยืนอยู่ได้คนสุดท้าย......แต่ชัยชนะบนซากปรักหักพังจะมีความหมายอะไร.....สุดท้ายที่เสีย ที่พังก็คือยิม แล้วก็สายของเราเอง....ถ้าโค้ชไม่เริ่มมันก็คงไม่มีเรื่องแบบนี้
          ตอนนี้ผมก็ได้แค่สงสารว่าน ถ้าแค่เล่นเทควันโดสนุกๆไปก็พอแล้ว จะจริงจังก็จริงจังไป ไม่น่าเข้ามาเกี่ยวเรื่องของผมกับโค้ชเลย สุดท้ายนอกจากความรู้สึกเกี่ยวกับเทควันโดของว่านจะเสียไปแล้ว สถานะภาพส่วนตัวของผมกับน้องจากที่แย่อยู่แล้วก็ยิ่งแย่ลงไปอีก จริงๆจะโทษว่านก็ไม่ได้ เพราะโค้ชนั่นแหละที่ดึงว่านมาเกี่ยวด้วยตลอด ทั้งๆที่ผมเองก็พยายามเลี่ยงแล้ว โค้ชก็ยังลากว่านมาจนได้ ผมเองก็มีส่วนผิด.....ถ้าผมเห็นแก่น้องมากกว่านี้.......ผมก็ไม่ควรจะตอบโต้อะไรกลับไป ถึงแม้ว่าเรื่องพวกนั้นมันจะผิด ผมก็ควรอยู่นิ่งๆเหมือนที่เคยทำ
          แล้วก็ว่านไปคุย FaceBook กับรุ่นพี่ผู้หญิงคนนั้นบ่อยมากขึ้นเรื่อยๆ ดูเหมือนว่ารุ่นพี่ผู้หญิงคนนั้นจะมีคนอื่นที่ชอบอยู่แล้ว.....แต่กลับไม่ค่อยถูกใส่ใจเท่าไหร่.....แล้วเค้าก็หยอดว่านด้วย....แล้วว่านเองก็เหมือนจะเล่นกับเค้าด้วย.....สงสัยใกล้ได้เวลาปิดเรื่องจริงๆล่ะครับ ฮ่ะๆๆๆ


ปล1. ยิ่งคุยมากเท่าไหร่ ผมก็ยิ่งรู้สึกได้ว่าพี่ป้อมเองก็เริ่มเอาใจออกห่างโค้ชมากขึ้นทุกวันๆ......
ปล2. เลื่อนสถานะภาพของน้องผู้หญิงคนนั้นใน FaceBook ของผมจาก "กำลังคบกับ" เป็น "หมั้นกับ".......


2 ก.ค.
           คงไม่ได้มา Up ต่อทุกวันแล้วครับ ผมคิดว่าปล่อยไปได้แล้วล่ะ ปล่อยที่เรียกว่าปล่อยจริงๆ....ไม่ใช่แบบที่กล้าลบรูปที่อยู่ในมือถือ แต่ไม่กล้าลบเบอร์น้องออก.....เมื่อลดระดับความสัมพันธ์แล้วก็ไม่จำเป็นต้องใส่ใจมากกว่าน้องๆคนอื่น ต่อไปนี้เรื่องยิมผมจะได้ทำอะไรๆได้เต็มที่หน่อย.....ว่าจะเล่นเทควันโดต่อ หรือ จะเลิกก็แล้วแต่เค้า ยังไงก็ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามอ่านมาตลอดนะครับ เดี๋ยวมีเวลาว่างๆจะเขียนใหม่อีกรอบ เอาแบบไม่ขาดไม่หาย มากันครบๆทุกรายละเอียดไปเลย สุดท้ายสำหรับว่านอย่างที่ผมเคยพูดไป ผมไม่ทิ้งน้องไปเลยแน่นอน....ผมแค่จะมองดูอยู่ห่างๆเท่านั้น

4 ชั่วโมงที่แล้ว
์์์??? : น้องว่าน ๆ ลืม ตุ๊กตาเลิฟไว้บ้านพี่ง่ะ -0-
ว่าน : ให้ครับ คิดว่ายื่นให้ดูเฉยๆหรอคร้าบบ... - -
??? : ให้ตุ๊กตาน่ารักกะพี่หรอ >< ขอบคุนเน่อ
ว่าน : ครับๆ


http://www.youtube.com/v/mBxbr83Sdes?version=3&amp;hl=th_TH&amp;rel=0



3 ก.ค.
          หลังจากเขียน Re บนเสร็จ ผมก็ไปโพสเพลง "ปล่อย" ที่ FaceBook พร้อมกับเนื้อหาเพลงที่ว่า "ก็ปล่อยให้ใจร้องซักครั้ง ร้องจนกว่ามันจะชินและชา ร้องครั้งนี้ร้องให้รักและวันเวลา ให้หยดน้ำตา มันลบภาพในหัวใจ" จากนั้นไม่นานว่านก็โพสเพลง "ค้างคา" ลงบน Facebook อีกอันที่ไม่ได้ Add สาวคนนั้นไว้ ผมเริ่มมานั่งคิดเกี่ยวกับช่วงเวลาที่ผ่านมา ก่อนหน้านี้ผมเองก็ทำกับว่านแสบใช่เล่นเหมือนกัน ถ้าเทียบกับแค่ข้อความให้ตุ๊กตาที่เกิดขึ้นบน FaceBook แล้ว....มันเทียบกันไม่ได้เลยแม้เพียงเล็กน้อย แล้วน้องที่ผมส่งไปเป็นสายสืบพฤติกรรมของว่านก็เริ่มประติดประต่อเรื่อง.....มันเหมือนละคร หนัง หรือ นิยายงี่เง่าเลยนะครับ ในขณะที่ตัวละครตัวหนึ่งกำลังจะตัดสินใจอะไรที่เด็ดขาดลงไป กลับต้องมาอะไรมาสั่นคลอนความเด็ดขาดนั้น

"พี่ผมลองประติดประต่อเรื่องดูแล้วนะ"
"เรื่องอะไร"
"ก็ว่านเคยบอกว่าชอบคนๆหนึ่ง"
"แล้ว"
"แล้วเค้าก็บอกว่า คนๆคนนั้นมีแฟนแล้ว"
"แล้ว"
"แล้วว่านก็บอกว่ารู้ทั้งรู้ว่ามันเป็นไปไม่ได้แต่ก็ยังชอบเค้าอยู่"
"แล้ว"
"ผมว่าต้องเป็นผู้หญิงคนนี้ล่ะ ตรงตามที่ว่านบอกเลย"


            ผมเลยเล่าให้น้องเค้าฟังไปว่า ไม่ใช่แค่ผู้หญิงคนนี้คนเดียวหรอกที่เ้ข้าตามสิ่งที่ว่านพูดมา เพราะถ้ามองกว้างๆผมเองก็เข้าข่าย รวมถึงผู้หญิงที่ว่านบอกกับเพื่อนว่านตัวเองสนใจอีกคนหนึ่งก็เข้าข่าย....ดังนั้น......เรื่องนี้พูดกันยาก มีแต่ว่านคนเดียวที่จะบอกให้เข้าใจได้ ไม่งั้นก็ต้องมาเดาสุ่มๆกันไปเอง อีกอย่างกว่าที่ว่านกับผมจะมาถึง ณ จุดนี้กันมันผ่านอะไรมาเยอะอยู่
            แต่จะว่าไป....เพลงใน FaceBook ว่าน....มันสวนทางกับเหตุการณ์หวานๆที่เกิดขึ้นยังไงก็ไม่รู้ นึกถึงที่มีสมาชิกท่านหนึ่งลงความเห็นว่าเพลงที่ว่านเปิดเหมือนจะมีเนื้อหาว่าหาทางง้อใครสักคนอยู่......ถ้าเพลงมีความเกี่ยวข้องกับความรู้สึกของว่านล่ะ.....หรือแค่เปิดไปเรื่อยๆงั้นๆแหละ....ที่สำคัญจะว่าไป...ผมก็ไปหวานกับน้องผู้หญิงคนนั้นใน FaceBook ประชดว่านคำโตเหมือนกัน เพราะคิดว่าว่านต้องแวะมาดูบ้างแน่ๆ แต่เพลงใน Facebook ที่ผมเปิด ก็เหมือนใน FaceBook ว่าน....คือเนื้อหาสวนทางกับคำหวานที่เกิดขึ้น......เดี๋ยวลองเอาเพลง มาต่อกันดูดีกว่า....


-----------------------------

เมื่อวานนี้ผมโพส เพลง "ผู้ชายคนนี้กำลังจะหมดแรง" แล้วแปะเนื้อร้องว่า
เหมือนฉันสร้างวิมานในอากาศตลอดมา ทั้งทั้งที่รู้ตัวเองไม่เป็นที่ต้องการ
มันเป็นเพียงความฝัน ลมลมแล้งแล้งเท่านั้น รู้ดีว่ามันไม่มีทางเป็นจริง
โลกทั้งโลกของเธอ มันช่างสดใสและสวยงาม เพราะแสงตะวันกำลังขึ้นทางทิศของเธอ
ตรงกันข้ามกับฉัน ตะวันกำลังตกดิน เมื่อรู้ว่าเธอ จะมีข่าวดี

เพลง "ผ่าน" แล้วแปะเนื้อร้องว่า
ไม่ว่าเจอสิ่งใด เนิ่นนานไปก็แปรเปลี่ยน สักวัน
เคยวิ่งตามความฝัน แต่บางครั้งก็ต้องหยุด แค่นั้น
เมื่อก่อนเคยรัก เคยผูกพัน แต่มาวันนี้มันเป็นเพียง คนเคยได้รู้จักกัน
วันนี้มีสุขใจ แต่ต่อไปสักวันคง วุ่นวาย
หากความทุกข์ทนจางหาย อาจมองเห็นความสุข อีกครั้ง
จึงทำให้ฉัน ได้เข้าใจ ทุกสิ่งเปลี่ยนผันสักเท่าไร ฉันจะก้าวเดินต่อไป

ตามด้วยเพลง "ปล่อย" แล้วแปะเนื้อร้องว่า
ก็ปล่อยให้ใจร้องซักครั้ง ร้องจนกว่ามันจะชินและชา
ร้องครั้งนี้ร้องให้รักและวันเวลา ให้หยดน้ำตา มันลบภาพในหัวใจ


จากนั้นว่านก็โพสเพลง "ค้างคา"


หลังจากที่ผมเขียน เนื้อหาส่วนบนของวันที่ 3 จบ ผมก็โพสเพลง "พูดในใจ" แล้วแปะเนื้อร้องว่า
มันคงจะดีกว่านี้ หากฉันเลิกจำว่าเคยผูกพัน ยังพยายามทุกวัน
แต่ทุกครั้งที่เจอกัน ในใจก็ยังสั่นฉันยังเหมือนเดิม
อยากบอกว่าฉันยังรักเธอเสมอ มันยังคิดถึงเธอไม่เคยเปลี่ยนไป
เจ็บปวดที่ฉันยังพูดได้แค่ในใจ ก็รู้ถ้าพูดออกไป เธอคงจะไม่ย้อนกลับมา

เพลง "คิดถึง" แล้วแปะเนื้อร้องว่า
รู้มั้ยว่ามีคนที่เฝ้าคอย เหม่อลอยในความผิดหวัง อีกครั้งพอทำพลาดไป
เขานึกถึงวันเก่าๆก็เลยถาม เคยมีเธอที่เขาเฝ้ารอ แต่แล้วเธอก็จากไป
อยากกลับคืนวันให้เป็นดังเก่า อยากกลับคืนวันให้เป็นของเรา
ก็ฉันคิดถึงเธอ มันคิดถึง ไม่รู้ว่าจะทำเช่นไร
ก็ฉันคิดถึงเธอ มันคิดถึง แล้วเธอจะรู้บ้างมั้ย


แล้วตกเย็นๆว่านก็โพสเพลง "ทำนองที่หายไป , ฟังความข้างเดียว , Sassy Girl  , ทุกครั้งที่คิดถึงเธอ , เทียน"



----------------------------------------------

ก่อนจะมาโพสเรื่องเพลง ขณะที่ผมกำลังพิมพ์อยู่...พลอยก็โทรเข้ามาครับ ผมคุยเื่รื่องทั่วไปกับพลอย แล้วพลอยก็พูดว่า "พี่เอเป็นไร เสียงดูเหงาๆ คิดถึงว่านล่ะซิ" พอพลอยเปิดประเด็นนี้มา ผมเลยบ่นเรื่องว่านแบบเดียวกับที่บ่นใน ThaiBoy ละครับ พลอยเองก็ท่าทางสนใจเรื่องของว่านอยู่ไม่น้อย พอผมเล่าพลอยก็ซักถามเป็นระยะๆ แล้วพลอยก็บอกว่า "ตั้งแต่ที่มันลบ FaceBook พี่มันดูเปลี่ยนไปเยอะเลยนะ ดูเรียบร้อยขึ้น มีเหตุมีผลมากขึ้น ใจเย็นขึ้น ไม่ค่อยวีนแตกง่ายๆเหมือนเมื่อก่อน" อืมม....เรื่องที่ว่านมานอนบ้านผมพลอยก็รู้นะ แต่ผมบอกแค่ว่ามาค้างเฉยๆ ไม่ได้เล่าเรื่องอื่น พอคุยกันไปพักหนึ่งพลอยก็พูดว่า "พี่...หนูถามจริง พี่กับว่านเป็นอะไรกัน"
ผมเลยตอบไปว่า "หนูก็รู้แล้วนี่ ก็แค่พี่ชอบมันแค่นั้นเอง"
พลอยพูดตอบกลับมาว่า "มากกว่านั้นไหมอะ"
"ทำไมถึงคิดว่ามากกว่านั้นล่ะ" ผมถามพลอยกลับไป
"ไม่รู้ซิ...หนูรู้สึก...ว่าว่านกับพี่หน่ะ มันมากกว่าแค่ชอบกันเฉยๆ"
"นี่พลอย พี่เอาพลอยขึ้นเป็น กำลังคบกับ ได้ป่ะ"
"ได้ซิพี่.....เอา เป็นแต่งงานกับ เลยก็ได้นะ อิอิอิ"
"เอาแค่กำลังคบกับก็พอแล้วล่ะ พี่อยากรู้ว่าว่านจะทำไง พลอยอยู่ใกล้สุด น่าจะชัดเจน"
"อิอิอิ...พี่เอน่ารักจัง"
"หือ"
"หนูชอบผู้ชายแบบพี่เออะ น่ารักดี หนูชอบมากเลย"
"ตลกล่ะ" ผมพูดด้วยน้ำเสียง ฮาๆกลับเกลื่อน
"จริงๆนะ วันนี้โทรมาเพราะคิดถึงพี่ อยากคุยกับพี่นานๆ"

             พลอยพูดจบตรงนี้ผมแอบอึ้งไปพักหนึ่ง แล้วเฉไฉไปคุยเรื่องอื่นแทน ก่อนจะวางสายพลอยยังให้ผมเฝ้ามองว่านไปเ้รื่ิอยๆ ส่วนเรื่องผู้หญิงที่ว่านคุยด้วยพลอยจะไปสืบมาให้เองว่าจริงๆแล้วเค้าเป็นอะไรกัน


4 ก.ค.
             วันนี้เรียนเลิกค่ำครับ กว่าจะได้ออกจากห้องเรียนก็ปาเข้าไปเกือบๆหนึ่งทุ่ม ก่อนกลับบ้านผมแวะเอาของไปให้เพื่อนสนิทว่านคนหนึ่ง....เพื่อนว่านคนนี้สนิทกันกับว่านมากๆ จนกล้าที่จะให้ว่านยืมเงิน 20,000 บาท เอาไปซื้อมือถือ ทว่าเพื่อนว่านคนนี้ก็ไม่ได้รู้เลยว่าผมกับว่านไม่ได้คุยกันมาพักใหญ่แล้ว แล้วเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมาก็เป็นวันคล้ายวันเกิดน้องเค้า น้องเค้าโทรมาบ่นๆอยู่ว่าไม่มีใครให้อะไรเลย ผมเลยเอาของ กับ ของกินไปให้ พอผมไปถึงจุดนัดหมายตามเวลา ก็เจอน้องเค้ายืนฟังเพลงอยู่

"หวัดดีครับพี่" กายยกมือไหว้ผม
"ดีๆ"
"คิดว่าจะไม่มีคนให้อะไรผมซะแล้ว" กายพูดติดตลกหน่อยๆพลางยิ้มๆ
"พูดเหมือนน้อยใจไปได้อะนี่" ผมยื่น เฟอเรโร่ รอชเชอร์ แบบกล่อง 30 ชิ้นให้น้อง พร้อมกับ ที่คั้นหนังสือรูปดาบที่ซื้อมาจากญี่ปุ่น
"โอโห พี่....ขอบคุณมากๆครับ" กายรับไปพร้อมกับทำท่าทาง กับ สีหน้าแบบว่าดีใจสุดๆจนผมอดยิ้มตามไม่ได้
"แล้วปีนี้กี่ขวบแล้วเนี่ยะ"
"14 พี่"
"หือ.... 14 เต็มเข้า 15 หรือ เพิ่ง 14"
"เพิ่งครบ 14 พี่"
"เรียนเร็วเหรอ"
"ใช่ครับ"
"โอเค เดี๋ยวพี่กลับไปทำรายงานต่อนะ"
"ขอบคุณมากครับพี่....แต่...เดี๋ยวครับพี่" กายเรียกผมขณะที่ผมกำลังจะหันหลังกลับไปที่รถ
"หืม"
"พี่ไปดู transformers 3 กันไหม"
"พี่ดูแล้ว"
"เหรอครับ ไม่เห็นชวนผมเลย" กายทำสีหน้าเศร้าลงทันที
"ก็พี่ไปดูตั้งแต่วันพุธ พวกเราเรียนอยู่นี่นา"
"ไปดูกับพวกผมอีกรอบได้ไหมครับพี่ ผมอยากให้พี่ไปดูด้วย"
"พวกผม....?" ผมพูดทวนประโยคที่กายพูดแค่ตรงที่ผมเน้นย้ำไป
"ครับ พวกผม"
"ใครบ้างละ"
"ก็มีว่าน เกม ฟิว ริว ทอย ผม แล้วก็พี่" กายพูดพลางนับนิ้ว แล้วพอพูดจบก็หันมามองผม
"ไปด้วยกันนะพี่" กายพูดแบบอ้อนๆ

           จริงๆผมก็อยากไปนะ กับกายผมไม่เคยพูดถึงเลยเพระาไม่คิดว่าจะมาเกี่ยวกับเนื้อหาได้ เหมือนอตอนที่พาว่านไปร้ายก๋วยเตี๋ยวเมื่อคราวคุณพ่อน้องบีพาไปล่ะมั้ง กับกายผมไม่สนิทเท่าไหร่ รู้จักแบบผิวเผินมากๆ แต่กายกลับสนใจเรื่องราวของผมมากๆ ทุกอย่างที่ผมเกาะอยู่นอกกระเป๋า รวมถึงที่อยู่ในกระเป๋าผมกายก็ดูหมด แม้แต่โทรศัพท์ผม หรือ ปากกาที่ผมใช้ FaceBook ผม ภาพที่ผมถ่าย ภาพที่ผมวาด.....ส่วนตัวผมว่า....กายเป็นเด็กเห่อรุ่นพี่มากกว่า แล้วก็เรื่องหนัง...จริงๆผมก็อยากไปดูกับน้องนะ....แต่ติดว่าว่านไปด้วย.....ถ้าว่านรู้ว่าผมไปว่านไมไ่ปแน่ แต่ถ้าว่านรู้ตอนไปถึงหน้าโรงแล้วว่านอาจตัดสินใจกลับเลย ถึงไม่กลับก็คงไม่สนุกแน่ๆ สุดท้ายผมเลย

"คราวหน้าแล้วกัน"
"อีกแล้วพี่....งั้นคราวหน้าพี่ไปดูหนังเรื่องอะไรโทรบอกผมด้วยนะ อย่าแอบไปดูคนเดียวก่อน"
"อื่อ...งั้นพี่กลับแล้วนะ"
"ขับรถดีๆพี่"


           พอผมกลับมาถึงบ้าน ยังไม่ทันจะถอดไทพลอยก็โทรเข้ามา

"ครับผมว่าไง"
"พี่เอ....ทำอะไรอยู่"
"เพิ่งกลับจากบ้านกาย"
"อ่าว พี่เอไปทำอะไรบ้านกาย"
"เอาของไปให้"
"พี่ให้อะไร"
"ถามกายเองแล้วกันพรุ่งนี้"
"พี่เอหน่ะ ทีหนูไม่เห็นให้อะไรเลย"
พลอยพูดด้วยน้ำเสียงตัดพ้อนิ๊ดๆ
"ให้แล้วนี่นา ไม่เชื่อถามว่านดิ"
"พี่เอพูดเรื่องนี้อีกแล้ว หนูรู้สึกผิดนะเนี่ยะ"
"พูดเล่นหน่ะ ฮ่ะๆๆ"
"พี่เอ....หนูถามว่านแล้วนะเรื่องพี่ผู้หญิงคนนั้นหน่ะ ว่านบอกว่าไม่ได้จีบ ริวก็ยืนยันว่าว่านไม่ได้จีบ เรื่องตุ๊กตาว่านบอกว่าลืมไว้จริงๆ ว่าจะเอาคืนก็เกรงใจ เลยให้พี่เค้าไปเลย"
"เหรอ...."
"จริงๆ.....แล้วที่พี่พูดถึงจุดที่มันทิ้งไว้ว่า 'ชอบรุ่นพี่ , รุ่นพี่มีแฟนแล้ว , คงเป็นไปไม่ได้' หนูว่าพี่เอก็มีส่วนใช่นะ เพราะว่านมันคิดว่าพี่ชอบหนูไม่ใช่เ้หรอ"
"มันก็จริง"
"เอาแบบนี้ดิพี่ ใกล้วันคล้ายวันเกิดมันแล้ว ซื้อตุ๊กตาให้มันซักตัว เดี๋ยวหนูเอามาให้มันเอง"
"เหอะๆ ถ้ารู้ว่าเป็นพี่ซื้อให้ มันคงปาลงพื้นแบบเดียวกับช๊อกโกแลตคราวนั้นล่ะมั้ง....ไม่ดิ...อาจฉีกๆก่อน แล้วปาลงถังขยะเลยก็ได้ ปาลงพื้นเดี๋ยวถูกปรับ 2,000 ฮ่ะๆๆ"
"พี่ยังตลกได้อีก....พี่เอ...หนูขออะไรพี่อย่างซิ"
"อะไรเหรอ"
"ไม่ๆพี่ตอบมาก่อนว่าได้"
"หืมมม แพงไปพี่ไม่มีเงินซื้อให้หรอกนะ"
"โหย...พี่ก็"
"ไหนๆบอกมาก่อน จะขออะไร"
"ขอบ้านพร้อมที่ดิน เงินสักห้าแสน ทองสักยี่สิบบาท"
"อืมม.....นี่เรียกสินสอดเหรอ"
"ฮ่ะๆๆๆ....." พลอยหัวเราะชอบใจ
"พี่เอ....พาหนูไปทานข้าวหน่อยซิ....ไปเดินเล่นกัน ไปดูหนังก็ได้"
"รอว่างๆก่อน ไม่ดิ รอว่างตรงกันก่อน"
"ได้ๆ"
"หนูไม่รังเกียจพี่เหรอ....พี่เคยชอบว่านนะ"
ผมพูดอ้อมๆ ไม่อยากพูดว่า ชอบผู้ชายด้วยกัน
"ไม่เลย ชอบ น่ารักดี"
"เหรอ"
"ใช่แล้ว....แล้วก็....หนู Add ว่า 'กำลังคบกับ' มาให้พี่แล้วนะ กดรับด้วย"
"อื่อ ได้ซิ"
"งั้นหนูไม่กวนพี่ล่ะ"
"ฝันดีๆ"
"พี่ก็ฝันดี...อย่าลืมฝันถึงหนูด้วย"
"อ่ะ...อืมๆ"



              จริงๆกับว่านถามว่าอยากเลิกไหม...หลายๆคนอาจเบื่อว่าผมมันอะไรนักหนากับอิแค่คนๆเดียว ทำไมต้องใส่ใจมากมายขนาดนั้น อย่างที่ผมบอกไป....กับว่าน...ผมไม่ได้คบน้องแค่เรื่องบนเตียง ถ้าจะแค่เรื่องบนเตียงกับเด็กชายหน่ะเหรอ....สำหรับผมมันง่ายมากๆถ้าจะหา แต่ประเด็นคือ....ผมรักว่านจริงๆ ไม่ใช่รักแค่เพราะเค้าเป็นเด็กชาย แต่รักเค้าที่เค้าเป็นเค้า ถึงเค้าจะโตกว่านี้ผมก็ยังรักเค้าอยู่ดี พเราะงั้นถ้าคุณรักใครมากๆจนมองข้ามเรื่องบนเตียง และ เห็นเรื่องของคนที่คุณรักมีคุณค่ามากกว่าเรื่องของตัวเองเมื่อไหร่....คุณก็จะเข้าใจ ว่าทำไมผมถึงยังใส่ใจว่านอยู่จนถึงตอนนี้....สำหรับผม...แค่ว่านหายใจผมก็ยังใส่ใจเลย.....

             วันนี้ผมไม่ได้โพสอะไรที่สื่อถึงว่านใน FaceBook ตามที่หลายๆความเห็นแนะนำแล้วนะครับ แต่่ว่านก็ยังเปิดเพลงอยู่เหมือนเคย


http://www.youtube.com/v/EJkSZJdiAfA?version=3&amp;hl=th_TH&amp;rel=0

http://www.youtube.com/v/Hy1xFhpWE8g?version=3&amp;hl=th_TH&amp;rel=0

http://www.youtube.com/v/ioLCwTiRkRk?version=3&amp;hl=th_TH&amp;rel=0

http://www.youtube.com/v/H4KdxEemliM?version=3&amp;hl=th_TH&amp;rel=0

http://www.youtube.com/v/JAPa_HQUoFE?version=3&amp;hl=th_TH&amp;rel=0
หัวข้อ: Re: น้องชาย 2 ( Up เหตุการณ์ล่าสุด 01/07/11 )
เริ่มหัวข้อโดย: naoki24 ที่ 02-07-2011 22:12:19
 o13 สวัสดีคุณเอ
วันนี้เอาลิงมานั่งอ่านนิยายเป็นเพื่อน พออ่านของคุณเอเสร็จลูกศิษย์ผมบอกว่า
"ทำไมพี่เอยังลังเลอยู๋อีกละ"
อันนี้ผมก็ตอบยากนะ ผมไม่ใช่คุณเอซะด้วย
เห็นคุณเอว่าจะจบการเขียนนี่ก็ไม่ว่าอะไรหรอกแล้วแต่คุณเอเลย
หากมีภาค3 ก็กฃับมาเขียนละกัน พวกผมคิดว่ารอคุณเอได้
เหมือนเมื่อก่อนที่คอยคุณเอไปทำรายงาน3เดือนไม่ยอมมาเขียน

ก่อนจากอยากบอกคุณเอว่า เวลาที่ผ่านมาของคุณเอตั้งแต่คบกับบี อ้น จนถึงว่าน
คุณเอคิดว่ามีค่ากับคุณเอมากแค่ไหนล่ะ เรื่องพวกนี้มันจะอยู๋ในใจคุณเอไปตลอดกาล
จนบางครั้งเมื่อคุณเอมีลูกคุณเออาจจะเล่าเรื่องพวกนี้ให้ลูกคุณเอฟังก็ได้
นี่แหละจุดสำคัญ ดังนั้นตรงนี้คุณเออยากให้มันจบหรือดำเนินไปอย่างไรล่ะ

แล้วเจอกันนะครับ อ้อ!ลิงที่นั่งข้างๆผมก็ฝากมาสวัสดีด้วยครับ :bye2:
หัวข้อ: Re: น้องชาย 2 ( Up เหตุการณ์ล่าสุด 02/07/11 )
เริ่มหัวข้อโดย: me_alone ที่ 02-07-2011 23:32:01
^
^
^
ผมตัดสินใจปล่อยแล้วล่ะครับ
หันหามาหาตัวเองบ้างดีกว่าเหมือนที่น้องๆหลายคนบอกก่อนหน้านี้
บางทีเราก็ไม่เห็นจำเป็นต้องไปแคร์ใคร ที่เค้าไม่ได้ต้องการให้เราแคร์เค้าเลย
ส่วนเรื่องภาค 3 คงไม่มีแล้วมั้งครับ คาดว่าคงจะยังไม่มองใครไปอีกนาน
ยังไงก็ขอบคุณสำหรับความหวังดีที่มีให้ตลอดมานะครับ
หัวข้อ: Re: น้องชาย 2 ( Up เหตุการณ์ล่าสุด 02/07/11 )
เริ่มหัวข้อโดย: ummax ที่ 03-07-2011 01:32:25
คิดแล้วใจหายจังเลยคุณเอ

จะไปจริง ๆ หรอช่างทำกันได้นะ

ขอให้คุณเอโชคดีครับ

พบเจอแต่สิ่งที่ดี ๆ  นะครับ

ยังไงก็แวะเวียนเข้ามาทักทายกันบ้างนะครับ

มีข่าวคราวอะไรก็ส่งมาบ้างนะครับ

จะรอแต่เธอผู้เดียว


                                              UMMAX
หัวข้อ: Re: น้องชาย 2 ( Up เหตุการณ์ล่าสุด 02/07/11 )
เริ่มหัวข้อโดย: me_alone ที่ 03-07-2011 02:11:37
^
^
^

        ก็ไม่รู้จะเขียนอะไรต่อแล้วอะครับ มันไม่มีอะไรน่าสนใจเลย ผมเองก็ทำอะไรไม่ได้ นอกจากนั่งดูว่านลั้นล้ากับพี่สาวคนนั้นไปวันๆ จะมานั่งเขียนก็คงจะมีแต่เรื่องเดิมๆอะครับ อีกอย่างดูเหมือนว่าความสัมพันธ์ของว่านกับพี่คนนั้นจะกระเตื้องไปข้างหน้ามากขึ้นเรื่อยๆ จนผมเริ่มไม่เห็นหนทางที่จะวนกลับมาได้แล้ว ถึงมันจะกรุ่นไปด้วยความคาใจเกี่ยวกับพฤติกรรมต่างๆของว่านตอนนี้ก็ตาม จริงๆผมพลาดเยอะนะที่ไม่ได้เล่าเกล็ดเล็กเกล็ดน้อยให้หมด ฮ่ะๆๆ
หัวข้อ: Re: น้องชาย 2 ( Up เหตุการณ์ล่าสุด 03/07/11 )
เริ่มหัวข้อโดย: iambeer ที่ 03-07-2011 12:22:36
ตามอ่านมาทันภาค 2 แล้วคับ

เหนื่อยไหมคับ กับสิ่งที่ทำอยู่ เห็นใจจริงๆคับ

ผมว่าคุณเอน่าจะเอาเวลามาทุ่มเทกับโปรเจค จบจะดีกว่าคับ

ใครไม่รักไม่สนใจเราก็ช่างแม่ง รักตัวเองดีกว่าคับ รักตัวเพื่อคนที่อยู่ข้างหลังเรา(พ่อแม่)

ทางข้างหน้ายังอีกไกลคับ ให้กำลังใจคับ
หัวข้อ: Re: น้องชาย 2 ( Up เหตุการณ์ล่าสุด 03/07/11 )
เริ่มหัวข้อโดย: kritsada.s ที่ 03-07-2011 20:27:25
หลังจากอ่านที่เล่าเหตุการณ์ปัจจุบัน ผมว่ากำลังพากันเล่นสงครามประสาทกันนะเนี่ย ผมว่าคุณเอต้องอยู่เฉยๆ นะน่าจะดีขึ้น  สิ่งที่คุณเอคิดว่าพฤติกรรมต่างๆ ของว่าน ณ ตอนนี้ยังทำให้คุณเอมีอะไรคาใจอยู่ หรือแม้กระทั่งคิดว่าว่านยังเอนเอียงมาอยู่ ก็เพราะคุณเอมีความเคลื่อนไหวต่างๆ ทาง Facebook นั่นเอง เช่น คุณเอ เลื่อนสถานะความสัมพันธ์กับผู้หญิงคนหนึ่งเป็น คบกัน หรืออะไรก็แล้วแต่ สิ่งที่เกิดขึ้นคือ ว่านน่าจะเข้าดูความเคลื่อนไหว Facebook ของคุณเอ ว่ามีอะไรที่มีความเปลี่ยนแปลง ยิ่งสิ่งที่คุณเอได้มีความเคลื่อนไหวต่างๆ ที่ทำให้ว่านรู้สึกว่ามันสื่อถึงเขานั้น เขาก็ยิ่งมีพฤติกรรมต่างๆ ที่เกิดขึ้นบน Facebook ของว่านเช่นกัน หรือมีการโต้ตอบอยู่เช่น การโพสต์เพลงต่างๆ คุณเอ ลองหยุดความเคลื่อนไหวดูครับ อยู่เฉยๆ ไม่ต้องไปทำการโต้ตอบกันมา เราหยุด ส่วนเขาเคลื่อนไหวอะไรก็ช่างเขา ถ้ามีใจให้จริงๆ เดี๋ยวเขาก็หาทางเข้ามาหาเอง  ส่วนว่านถ้าคบผู้หญิงได้ก็ให้เขาคบไป หรือคบเพื่อต้องการหวังผลอะไร มันอยู่ที่ว่าน คบได้คบไป ถ้าว่านรู้ว่าตัวเองเป็นยังไงไม่ได้ชอบผู้หญิงแล้วฝืนมันก็ไปไม่รอดอยู่ดี เข้าใจไหมครับคุณเอ พูดคุยกับคนอื่นๆ ให้ Facebook  ได้ แต่อย่าไปแสดงให้เขารู้สึกว่าเราแคร์เขาดิ อยู่เฉยๆ จะดีเอง
หัวข้อ: Re: น้องชาย 2 ( Up เหตุการณ์ล่าสุด 03/07/11 )
เริ่มหัวข้อโดย: me_alone ที่ 03-07-2011 20:56:25
ตามอ่านมาทันภาค 2 แล้วคับ
เหนื่อยไหมคับ กับสิ่งที่ทำอยู่ เห็นใจจริงๆคับ
ผมว่าคุณเอน่าจะเอาเวลามาทุ่มเทกับโปรเจค จบจะดีกว่าคับ
ใครไม่รักไม่สนใจเราก็ช่างแม่ง รักตัวเองดีกว่าคับ รักตัวเพื่อคนที่อยู่ข้างหลังเรา(พ่อแม่)
ทางข้างหน้ายังอีกไกลคับ ให้กำลังใจคับ
:กอด1: ~ ขอบคุณสำหรับกำลังใจครับ



หลังจากอ่านที่เล่าเหตุการณ์ปัจจุบัน ผมว่ากำลังพากันเล่นสงครามประสาทกันนะเนี่ย ผมว่าคุณเอต้องอยู่เฉยๆ นะน่าจะดีขึ้น  สิ่งที่คุณเอคิดว่าพฤติกรรมต่างๆ ของว่าน ณ ตอนนี้ยังทำให้คุณเอมีอะไรคาใจอยู่ หรือแม้กระทั่งคิดว่าว่านยังเอนเอียงมาอยู่ ก็เพราะคุณเอมีความเคลื่อนไหวต่างๆ ทาง Facebook นั่นเอง เช่น คุณเอ เลื่อนสถานะความสัมพันธ์กับผู้หญิงคนหนึ่งเป็น คบกัน หรืออะไรก็แล้วแต่ สิ่งที่เกิดขึ้นคือ ว่านน่าจะเข้าดูความเคลื่อนไหว Facebook ของคุณเอ ว่ามีอะไรที่มีความเปลี่ยนแปลง ยิ่งสิ่งที่คุณเอได้มีความเคลื่อนไหวต่างๆ ที่ทำให้ว่านรู้สึกว่ามันสื่อถึงเขานั้น เขาก็ยิ่งมีพฤติกรรมต่างๆ ที่เกิดขึ้นบน Facebook ของว่านเช่นกัน หรือมีการโต้ตอบอยู่เช่น การโพสต์เพลงต่างๆ คุณเอ ลองหยุดความเคลื่อนไหวดูครับ อยู่เฉยๆ ไม่ต้องไปทำการโต้ตอบกันมา เราหยุด ส่วนเขาเคลื่อนไหวอะไรก็ช่างเขา ถ้ามีใจให้จริงๆ เดี๋ยวเขาก็หาทางเข้ามาหาเอง  ส่วนว่านถ้าคบผู้หญิงได้ก็ให้เขาคบไป หรือคบเพื่อต้องการหวังผลอะไร มันอยู่ที่ว่าน คบได้คบไป ถ้าว่านรู้ว่าตัวเองเป็นยังไงไม่ได้ชอบผู้หญิงแล้วฝืนมันก็ไปไม่รอดอยู่ดี เข้าใจไหมครับคุณเอ พูดคุยกับคนอื่นๆ ให้ Facebook  ได้ แต่อย่าไปแสดงให้เขารู้สึกว่าเราแคร์เขาดิ อยู่เฉยๆ จะดีเอง
กำลังจะหยุดครับ แฮะๆ ของเช็กอีกนิ๊ดว่าผมไมไ่ด้เข้าข้างตัวเอง
ยังจำน้องพลอยที่ผมให้ดอกกุหลาบกับช๊อกโกแลตต่อหน้าว่านตอนวันวาเลนไทน์ได้ไหมครับ
เมื่อกี้ๆคุยกับน้องเค้า เล่าๆเรื่องที่เกิดขึ้นให้เค้าฟัง แล้วผมก็ขอเอาเค้าขึ้นว่า "กำลังคบกับ" แทนเด็กผู้หญิงคนเดิม
แล้วจะรอดูปฏิกิริยาของว่านกับน้องคนนี้ว่าจะเป็นยังไง....น้องเค้าเต็มใจช่วยครับ เค้าเองก็อยากรู้เหมือกัน ฮ่าๆๆ
หัวข้อ: Re: น้องชาย 2 ( Up เหตุการณ์ล่าสุด 03/07/11 )
เริ่มหัวข้อโดย: nco1236 ที่ 03-07-2011 22:55:17
 :z3:
หัวข้อ: Re: น้องชาย 2 ( Up เหตุการณ์ล่าสุด 03/07/11 )
เริ่มหัวข้อโดย: icyblue ที่ 03-07-2011 23:54:35
อยู่กับใจตัวเองบ้างก็ดี  รักษาดูแลบ้างอย่าทำให้ต้องเจ็บบ่อยนักนะจ๊ะ

 :กอด1: :L2: เป็นกำลังใจให้เน้อ  ^^ 
หัวข้อ: Re: น้องชาย 2 ( Up เหตุการณ์ล่าสุด 03/07/11 )
เริ่มหัวข้อโดย: 4life ที่ 04-07-2011 06:17:29
ไปโดดบันจีจัมพ์เเล้วจะตัดสินใจเลิกได้เร็วกว่านี้เชื้อป่ะ
พอตอนโดดลงไปจะรู้ค่าชีวิตขึ้นเยอะเลย ชีวิตมีอะไรให้ทำตั้งเยอะ
ทำไมมาจมอยู่คนๆเดียวอ่ะ สู้ใช้เวลากับคนที่"รักเรา"เช่นพ่อเเม่พี่น้องญาติโกโหติกาไม่ดีกว่าเหรอ
หรือไม่ก็เข้าวัดทำใจให้สงบซะ ชีวิตเราสั้นเเค่นี้จะเอาอะไรกับเเค่คนๆ หนึ่ง มันไม่คุ้มเลยว่ะพี่
เกิดมาไม่นานก็ตายซะล่ะ ปลงๆ เถ้ออ
เเทนที่จะเอาเพลงพวกนั้นลงที่เฟส เอาเพลงนี้ดีกว่านะ http://www.youtube.com/watch?v=2Z8T_jMd1Z4
หัวข้อ: Re: น้องชาย 2 ( Up เหตุการณ์ล่าสุด 03/07/11 )
เริ่มหัวข้อโดย: kikumaru ที่ 04-07-2011 19:36:32
ยังคงแวะมาทักทายคุณเอ
แม้จะหายหน้าไปนานหลายวัน
มัวแต่หงุดหงิดกะไอ้เครื่องใหม่ที่ใช้มันเข้าเล้าไม่ได้
คิดว่าจะเข้าได้ต้องรอเวอร์ชั่นมันอับ
จากที่เคยเข้าเวบระหว่างทำงานต้องรอเลิกงานก่อนถึงจะเข้าได้
พอไปถามที่ร้านต้องรอมันอับเวอร์ชั่นจริงๆเลยนอยด์
เห้อสุดท้ายก็เวิ่นเว้อเรื่องตัวเองแทนที่จะคุยกับคุณเอ
ยังไงก็แวะเข้ามาทักทายกันบ้างนะไม่ได้เล่าเรื่องก็คุยๆกันบ้างก็ดีจ้า*-*
หัวข้อ: Re: น้องชาย 2 ( Up เหตุการณ์ล่าสุด 03/07/11 )
เริ่มหัวข้อโดย: monkaew ที่ 04-07-2011 21:23:20
เลือกที่จะอยู่เฉยๆสักพัหรือจะกำจัดจุดอ่อนพี่เอก็เลือกเอานะคับ
หัวข้อ: Re: น้องชาย 2 ( Up เหตุการณ์ล่าสุด 03/07/11 )
เริ่มหัวข้อโดย: me_alone ที่ 04-07-2011 23:36:36
:z3:
:กอด1:



อยู่กับใจตัวเองบ้างก็ดี  รักษาดูแลบ้างอย่าทำให้ต้องเจ็บบ่อยนักนะจ๊ะ

 :กอด1: :L2: เป็นกำลังใจให้เน้อ  ^^ 
:กอด1: ~ ขอบคุณครับ


ไปโดดบันจีจัมพ์เเล้วจะตัดสินใจเลิกได้เร็วกว่านี้เชื้อป่ะ
พอตอนโดดลงไปจะรู้ค่าชีวิตขึ้นเยอะเลย ชีวิตมีอะไรให้ทำตั้งเยอะ
ทำไมมาจมอยู่คนๆเดียวอ่ะ สู้ใช้เวลากับคนที่"รักเรา"เช่นพ่อเเม่พี่น้องญาติโกโหติกาไม่ดีกว่าเหรอ
หรือไม่ก็เข้าวัดทำใจให้สงบซะ ชีวิตเราสั้นเเค่นี้จะเอาอะไรกับเเค่คนๆ หนึ่ง มันไม่คุ้มเลยว่ะพี่
เกิดมาไม่นานก็ตายซะล่ะ ปลงๆ เถ้ออ
เเทนที่จะเอาเพลงพวกนั้นลงที่เฟส เอาเพลงนี้ดีกว่านะ http://www.youtube.com/watch?v=2Z8T_jMd1Z4
:กอด1:

ยังคงแวะมาทักทายคุณเอ
แม้จะหายหน้าไปนานหลายวัน
มัวแต่หงุดหงิดกะไอ้เครื่องใหม่ที่ใช้มันเข้าเล้าไม่ได้
คิดว่าจะเข้าได้ต้องรอเวอร์ชั่นมันอับ
จากที่เคยเข้าเวบระหว่างทำงานต้องรอเลิกงานก่อนถึงจะเข้าได้
พอไปถามที่ร้านต้องรอมันอับเวอร์ชั่นจริงๆเลยนอยด์
เห้อสุดท้ายก็เวิ่นเว้อเรื่องตัวเองแทนที่จะคุยกับคุณเอ
ยังไงก็แวะเข้ามาทักทายกันบ้างนะไม่ได้เล่าเรื่องก็คุยๆกันบ้างก็ดีจ้า*-*
:กอด1: ~ ครับผม


เลือกที่จะอยู่เฉยๆสักพัหรือจะกำจัดจุดอ่อนพี่เอก็เลือกเอานะคับ
:เฮ้อ: ~ เลือกยากครับ
หัวข้อ: Re: น้องชาย 2 ( Up เหตุการณ์ล่าสุด 04/07/11 )
เริ่มหัวข้อโดย: iambeer ที่ 05-07-2011 13:27:37
ยิ่งนานวันยิ่งซับซ้อนจัง

กลัวเรื่องมันจะยุ่งๆพันกันไปพันกันมา นะครับ

สู้ๆเป็นกำลังใจให้นะคับ
หัวข้อ: Re: น้องชาย 2 ( Up เหตุการณ์ล่าสุด 04/07/11 )
เริ่มหัวข้อโดย: Y2Y ที่ 05-07-2011 21:51:36
อินจัดจนอยากแอดFB กะน้องเอ น้องว่านจัง
หัวข้อ: Re: น้องชาย 2 ( Up เหตุการณ์ล่าสุด 13/07/11 )
เริ่มหัวข้อโดย: me_alone ที่ 05-07-2011 23:06:10
5 ก.ค.
           เมื่อ 5 ชั่วโมงที่แล้ว ผม Add พลอย เป็น "หมั้นกับ" แทนที่น้องผู้หญิงคนเดิมแล้ว วันนี้ก็เป็นอีกวันที่ผมไม่ได้โพสเพลงตอบอะไรว่านกลับไป แต่ที่ FaceBook ว่าน.....
           พอผม On น้องที่เป็นสายทักผมทันทีเลยว่า "เพลงรอ ของslotmachine" ผมงงๆนิ๊ดหน่้อยเลยถามกลับไปว่า "เพราะเหรอ" น้องตอบกลับมาว่า "เปล่า ว่านลง" ผมตอบกลับไปว่า "หืมม รอใครอะ ไม่ใช่พี่แน่ๆเพราะขนาดจะบล๊อกพี่รอบแล้วนิ ก็เลยไม่ส่งอะไรไปกวนใจอีก ไม่ได้ติดต่อไปอีกเลย" น้องตอบกลับมาว่า "นั่นแหละ อืม....เคยฟังป่าว ปากไม่ตรงกับใจอะ" จะว่าไป....ก็ไม่เห็นว่านหวานกับพี่สาวคนนั้นใน FaceBook มา 2 วันแล้วเน๊าะ



เพลงจาก Face Book ว่าน วันนี้

http://www.youtube.com/v/JGHyDyo_V5w?version=3&amp;hl=th_TH&amp;rel=0

http://www.youtube.com/v/QTV85xCWweA?version=3&amp;hl=th_TH&amp;rel=0



6 ก.ค.
             วันนี้เหนื่อยมาก เรียนเสร็จเกือบห้าโมงเย็นกลับมาถึงบ้านก็เกือบๆห้าโมงครึ่งผมเลยนั่งฟังเพลงเงียบๆอยู่บ้าน ก่อนจะออกไปทานข้าวกับคุณแม่ กลับมาถึงบ้านอีกทีก็สี่ทุ่มกว่า ก็มาดูกระทู้ในThaiBoy วันนี้ก็เป็นอีกวัน....ที่ว่านไม่ได้ไปเล่น ไปคุยหวานๆกับพี่สาวคนนั้นอีก แล้วก็เป็นอีกวัน....ที่ผมไม่ได้โพสเพลงอะไรที่สื่อถึงว่าน แล้วก็....อีกวันเหงาๆที่ผ่านไป....จริงๆแค่ว่านยอมพูด.....ทุกอย่างมันก็จะไม่ยุ่งยากขนาดนี้เลย ว่านจะรู้ไหม...อะไรที่เกี่ยวกับผมที่เค้ารับรู้ช่วงนี้ มันเป็นเหตุผลทางการเมืองทั้งนั้น....ที่ผมทำไป....ผมไม่ได้หวังอะไรมากมาย แค่อยากให้เพื่อนๆว่านพูดถึงผมให้ว่านฟังบ่อยๆก็เท่านั้นเอง......
             ส่วนเรื่องพลอยที่มีสมาชิกทักมา.....พลอยรู้ดีทุกอย่างครับ เรื่องของผมกับว่าน....ที่ไม่รู้ก็แค่หวิดมีอะไรกันเ้ท่านั้นเอง นอกนั้นผมคิดอะไร รู้สึกอะไรกับว่าน ผมก็บอกพลอยตลอด อืมม...พลอยเองก็เป็นคนน่ารัก เรียนเก่ง ทางบ้านก็มีฐานะ คงไม่มีผู้หญิงดีๆที่ไหนมาสนใจผู้ชายที่ชอบผู้ชายแบบผมจริงๆหรอกมั้งครับ
            ส่วนว่าน....ถึงจะบอกว่าเพิกเฉยไปแล้ว....แต่ผมก็ยังคิดถึงว่านทุกวันอยู่ดีนั่นละ....

เพลงจาก Face Book ว่านวันนี้

http://www.youtube.com/v/0XA83-_4TF8?version=3&amp;hl=th_TH&amp;rel=0


http://www.youtube.com/v/wSguL3bNpas?version=3&amp;hl=th_TH&amp;rel=0


http://www.youtube.com/v/Tcqm72bbV7Q?version=3&amp;hl=th_TH&amp;rel=0



8 ก.ค.
             FaceBookว่านเงียบมาก....ไม่มีความเคลื่อนไหวใดๆเท่าไหร่ ว่านไม่ได้ไปคุยหวานๆกับพี่สาวคนนั้นอีก เมื่อวานก็ไม่ได้โพสเพลง...โพสแค่ว่า "ง่วงแล้ว ไปนอนก่อนนะครับ" วันนี้ก็ยังไม่เห็นมีความเคลื่อนไหวอะไร.....พลอย...บอกให้ผมซื้อตุ๊กตาให้ว่านตอนวันคล้ายวันเกิดว่าน พลอยจะเป็นคนเอาไปให้ว่านเอง....เดือนหน้าก็เดือนเกิดว่านแล้ว....ตอนบ่ายหลังจากเคลียร์งานเสร็จผมก็เดินไปร้านตุ๊กตา....ตลกดี....ผู้ชายหน้าเถื่อนๆแบบผมไปยืนมองตุ๊กตา....ทั้งๆที่ในใจก็รู้แน่ว่า...ว่านต้องรู้แหละว่าใครซื้อให้ ถึงพลอยจะไม่พูดก็เหอะ......ผมยืนใจลอยคิดนั่นคิดนี่อยู่หน้าร้านสักพักก็มีเสียงหนึ่งดังขึ้น....

"เข้ามาเลือกดูในร้านก่อนก็ได้นะคะ" หญิงสาวชาวไทยเชื้อสายจีนผิวขาวหน้าตาดีอายุไม่น่าจะเกินสามสิบคนหนึ่งเรียกผม
"อะ....ครับ" ผมหันไปยิ้ม ก่อนที่หญิงสาวคนนั้นจะยิ้มกลับมาด้วยท่าทีเป็นมิตร

              ผมเดิินเข้าไปในร้าน....ผมไม่รู้จะซื้อตัวไหนให้ว่านดี....เด็กผู้ชาย....ม.3....อายุ 14 ปี เข้า 15 น่าจะชอบตุ๊กตาแบบไหนนะ.....หรือจะไปซื้อเป็นของเล่นแบบเด็กผู้ชายให้ดี......ของจากพวกการ์ตูนแบบที่เคยเห็นว่านซื้อมา....อืมมม....

"จะซื้อให้ใครเหรอคะ" เสียงเดิมดังขึ้นจากข้างหลังผม ก่อนที่เจ้าของเสียงจะมายืนอยู่ข้างๆ
"ว่าจะซื้อให้น้องครับ ของขวัญวันคล้ายวันเกิด น้องอยู่ ม.3 เป็นเด็กผู้ชาย" ผมหันไปบอกผู้หญิงคนนั้น
"เด็กผู้ชายเหรอ...อืมมม....เอาเป็นตัวนี้ไหม พี่ว่าเหมาะกับเด็กผู้ชายดีนะ" ผู้หญิงคนนั้นเดินไปหยิบตุ๊กตาจิ้งจอกตัวหนึ่งที่อยู่ใกล้ๆกันมาให้ผมดู
"ขอบคุณครับ" ผมรับไว้ก่อนจะพิจารณา....จะว่าไป...ว่านก็เคยว่านรูปจิ้งจอกหน้าตาแบบนี้เหมือนกันนี่นา.....ว่านน่าจะชอบจิ้งจอกก็ได้มั้ง....
"เท่าไหร่ครับ"
"550 บาทจ๊ะ"
"แล้ว....มีตัวเล็กกว่านี้อีกตัวไหมครับ"
"มี รอเดี๋ยวนะ"
พูดจบผู้หญิงคนนั้นก็เดินหายไปหลังร้าน....เค้าดูเหมือนจะเป็นเจ้าของร้านนี้.....แล้ว...ตัวเล็กเหรอ...ทำไมผมถามถึงตัวเล็กล่ะ......
"นี่จ๊ะ ตัวเล็ก" พี่เจ้าของร้านยื่นตุ๊กตาคล้ายๆกันแต่ตัวเล็กอีกตัวให้ผม
"ตัวเล็กเท่าไหร่ครับ"
"350 บาทจ๊ะ พี่ว่าซื้อตัวใหญ่ดีกว่านะ คุ้มกว่า ตัวเล็กพี่ว่ามันแพงถ้าเทียบกับตัวใหญ่"
พี่เจ้าของร้านแนะนำด้วยท่าทีกันเองสุดๆ
"อืมม....เอาสองตัวนี้ก็ได้ครับ"
"หืมมม สองตัวเลยเหรอ" พี่เจ้าของร้านทำหน้าตา งงๆ
"ครับ....พี่ว่า...เค้าจะชอบไหม"
"ต้องชอบซิ" พี่สาวตอบกลับมาแบบยิ้มๆ

             แ้ล้วพี่เค้าก็เอาตุ๊กตาไปที่เคาเตอร์ ผมเดินตามพี่เค้าไป ระหว่างที่พี่เค้าเอาตุ๊กตาใส่ถุงให้พี่เค้าก็พูดว่า

"น้องคนนี้น่าอิจฉาจังเลยนะ มีพี่ชายใส่ใจขนาดนี้"
"ครับ" ผมพูดออกไปพลางทำท่าทางสงสัยในคำพูดของพี่เค้า
"ก็มาเลือกให้ แล้วก็ใส่ใจขนาดนี้ ไม่ต้องห่วงนะพี่ว่าเค้าต้องชอบมากแน่ๆ"
"ตอนแรกผมว่าจะซื้อพวกของเกี่ยวกับการ์ตูนให้เค้า"
"เหรอ...นี่น้องรู้ไหม ทำไมพี่ถึงเลือกขายตุ๊กตา"
"ทำไมเหรอครับ"
"เพราะตุ๊กตาเป็นของขวัญที่สื่อใจที่สุดไงล่ะ ตุ๊กตารูปต่างๆ แบบต่างๆทุกตัวต่างจ้องมองเรา ยิ้มให้เรา พี่ว่ามีค่าทางความรู้สึกมากกว่าของขวัญอื่นๆซะอีกนะ คล้ายๆกับเป็นตัวแทนเราด้วยล่ะมั้ง แต่พี่ว่าให้ตุ๊กตาล่ะดูอบอุ่นที่สุดแล้ว"

"เหรอครับ"



ตัวนี้ตัวใหญ่....
 (http://upic.me/i/8i/xw001.jpg) (http://upic.me/show/25933151) 


ตัวนี้ตัวเล็ก...
(http://upic.me/i/sv/i0002.jpg) (http://upic.me/show/25933152)



10 ก.ค.
          หลายวันผ่านไป....ผมก็ยังเผลอฝันถึงว่านอยู่ดี.....ไม่รู้จะ Up อะไรแล้วครับ.....ที่เหลืิอผมก็ได้แค่คอย....คอยวันคล้ายวันเกิดว่าน....ของขวัญที่จะให้ว่านไป.....อาจเป็นของขวัญชิ้นสุดท้าย...ว่านจะรับหรือเปล่าผมก็ไม่รู้....FaceBook ว่านนิ่งมาหลายวัน....วันนี้ตอนเช้าผมไปโพสเพลงลงบน FaceBook พลอยหลายเพลง "ขอเป็นคนสุดท้าย , จะรักให้ดีที่สุด , ชีวิตมีค่าเมื่อรักเธอ , คำสำคัญ , ฝัน หวาน อาย จูบ" แน่นอน...ผมทำแค่ประชดความรู้สึกตัวเอง ซึ่งพลอยเองก็รู้ว่าผมต้องการโพสเพลงนี้ให้ใคร
         ส่วนว่านเอง...หนังจากที่ FaceBook นิ่งมาหลายวัน วันนี้ตอนค่ำๆว่านก็เริ่มกลับมาโพสอีกครั้ง.....วันนี้ตอนคุยกับพลอย พลอยบอกว่าตั้งแต่่ว่านกับผมเหมือนจะหันหลังให้กัน......ว่านดูเปลี่ยนไปมาก....ว่านคุยกับเพื่อนมากขึ้น เข้าหาเพื่อนมากขึ้น ใจเย็นขึ้น อารมณ์ขี้หงุดหงิดน้อยลง พูดจาสุภาพขึ้น พูดถนอมน้ำใจคนอื่นมากขึ้น....ที่สำคัญ....ว่านพูดขอโทษเป็นแล้ว.....มันเป็นการเปลี่ยนแปลงไปในทางบวก....ก็ดีนะ....อ้อ...ผมคิดด้วยว่า....วันคล้ายวันเกิดว่านผมจะส่ง SMS ไป...ผมจะส่งข้อความอะไรไปดีน๊า.....


เพลงจาก FaceBook ว่าน
เพลงคิดถึง : http://www.youtube.com/watch?v=vOFIxSQ2vi4 (http://www.youtube.com/watch?v=vOFIxSQ2vi4)
เค้าไม่ให้ดูนอก YouTube อะครับ คลิกตามลิ้งเลยนะครับ


http://www.youtube.com/v/DA9A1jiWf5k?version=3&amp;hl=th_TH&amp;rel=0



http://www.youtube.com/v/wGqPWQmXXxw?version=3&amp;hl=th_TH&amp;rel=0



http://www.youtube.com/v/BaTuOWaeVDc?version=3&amp;hl=th_TH&amp;rel=0


13 ก.ค.
          เมื่อวาน...ตอนค่ำๆขณะผมนั่งดูหนังที่เพิ่งซื้อมาใหม่อย่างสบายใจ.....จู่ๆเสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้นมา....ผมหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดู "กาย Calling" ผมหันมองดูนาฬิกาสองทุ่มกว่าแล้ว...น้องมีอะไรโทรมาตอนนี้หว่า

“ครับ ว่าไง”
“พี่เอ...ผมกายนะ พี่ว่างไหม”
“คุยได้”
“เหรอครับ ถ้ามีงาน หรือ พี่จะไปธุระอะไรก็บอกผมนะ”
“อื่อ”
“แล้วพี่เอทำอะไรอยู่เหรอครับ”
“ก็....นั่งหาอะไรทำให้ลืมเค้ามั้ง”
“ฮ่ะๆๆ....ช่วงนี้พี่มีโปรแกรมจะทำอะไรสนุกๆบ้างไหมครับ”
“ช่วงนี้เหรอ....อืมมม.....ไปดูหนังมั้ง”
“เรื่องอะไรพี่”
“Harry Potter 7.2 มั้ง”
“ไปวันไหนพี่” น้องกายถามด้วยน้ำเสียงสนใจสุดๆ
“วันพฤหัสบดีนี้มั้ง”
“จริงดิพี่ งั้นเดี๋ยวผมโดดเรียนไปดูกับพี่เลยแล้วกัน”
“ฮ่ะๆๆ ถ้ากายจะไปด้วยพี่ไปวันอื่นก็ได้”
“จริงนะพี่ งั้นคราวหน้าถ้าพี่ไปดูเรื่องอะไรบอกผมนะ ผมไปด้วยเดี๋ยวผมเลี้ยงพี่เอง”
“อื่อ งั้นคราวหน้าพี่ไปดูเรื่องอะไรจะบอกแล้วกัน”
“โอเคเลย....พี่เอ....”
“ครับ”
“พี่จะว่าไหมถ้าผมถามสเปคคนแบบที่พี่ชอบ”
“อ่อ...อืม....แบบที่พี่ชอบเหรอ”
“ใช่ครับๆ พี่ชอบคนแบบไหนเหรอ รุ่นพี่ รุ่นน้อง หรือ รุ่นเดียวกัน”
“อืมม.....พี่ชอบแบบที่คุยกันได้ทุกเรื่องแล้วก็อยู่ด้วยกันแล้วมีความสุขหน่ะ”

แล้ว....ผมไม่แน่ใจว่าคุยกันอิท่าไหนถึงได้วนกลับไปเรื่องว่านได้

“ว่านก็ชอบพวกรุ่นพี่”
“เหรอ เห็นว่านคบกับพี่สาวคนหนึ่งอยู่หรือเปล่า”
“พี่สาวคนไหนเหรอพพี่”
“ก็ที่อยู่ ม.4”
“อ่อ...พี่คนนั้นหน่ะนะ พี่เค้ามาจีบว่านเอง ตอนแรกว่านมันก็ไม่สนใจเค้าหรอก ตอนหลังเห็นมีขอ FaceBook กัน แถมว่านยังไปขลุกอยู่ที่บ้านพี่เค้าตอนเย็นทุกวันเลย แล้วว่านมันไม่ได้เข้าไปซ้อมเทควันโดแล้วใช่ไหมล่ะพี่”
“อื่อ ว่านไม่ได้เข้ามาพักหนึ่งแล้ว”
“นั่นล่ะเมื่อก่อนมันไปยิมเทควันโด ทุกวันนี้มันไปขลุกอยู่บ้านพี่คนนี้แทน”
“แล้วกายคิดว่าว่านกับพี่คนนั้นเค้าเป็นแฟนกันยัง”
“มากกว่าแฟนแล้วมั้งพี่ ไปอยู่ด้วยกันทุกวันแบบนั้น เห็นนิ่งๆแบบนี้ว่านมันหื่นใช่เล่นนะพี่ ฮ่ะๆๆ” พูดจบกายก็หัวเราะเหมือนเป็นเรื่องตลกขบขัน....จริงๆประโยคแบบนี้มันเป็นประโยคแสดงความเห็นแบบตลกๆละครับถูกแล้ว แต่สำหรับผมตอนนี้มันไม่ตลกเท่าไหร่
“นั่นซิคราวก่อนเห็นซื้อตุ๊กตาให้กันด้วย”
“อ่าใช่ๆพี่ใช่เลย มีซื้อของแบบนี้ให้กันด้วย มีใจกันแน่นอนผมว่านะ”
“อิจฉาว่านเน๊าะ.....เกิดมาหน้าตาดี เล่นกีฬาหลายอย่าง เล่นดนตรี แต่งเพลง วาดภาพ ทำกับข้าวก็เป็น สาวๆเลยแย่งกัน”
“อย่าไปอิจฉาเลยพี่ พี่แค่ยังไม่เจอคนที่ใช่แค่นั้นเอง คบกันที่หน้าตาผมว่าเดี๋ยวก็เบื่อกันแหละ”
“อืม...นั่นซินะ”

                  ก็ดีนะครับ....ต่อนี้ผมจะได้ ไม่ต้องไปดูหนังคนเดียวอีก เฮ้อ....ส่วนการสนทนาอื่นๆ.....ระหว่างผมกับกายมันเห็นได้ชัดเลยว่าว่านไม่ได้พูดบอกใครเรื่องที่เค้าไม่คุยกับผมเลย ดูเหมือนว่าวันนี้กายเองก็ยังไม่รู้เรื่องนี้สุดท้ายผมก็ทำได้แค่เฝ้ารอ......แต่ในชีวิตจริง....มันจะมีแบบในนิยาย ละคร หรือหนัง จริงๆเหรอครับ ที่จะมีใครเฝ้ารอใครอีกคนมาง้อ มาคืนดีกัน แล้วลั้นล้ากันอย่างมีความสุขในตอนท้ายของเรื่อง


เพลงจาก FaceBook ว่าน
http://www.youtube.com/v/U0Y_KNhIouU?version=3&amp;hl=th_TH&amp;rel=0



http://www.youtube.com/v/_P-YWxNkwSs?version=3&amp;hl=th_TH&amp;rel=0



http://www.youtube.com/v/bHIxSOKvTrk?version=3&amp;hl=th_TH&amp;rel=0
หัวข้อ: Re: น้องชาย 2 ( Up เหตุการณ์ล่าสุด 04/07/11 )
เริ่มหัวข้อโดย: me_alone ที่ 05-07-2011 23:17:56
ยิ่งนานวันยิ่งซับซ้อนจัง
กลัวเรื่องมันจะยุ่งๆพันกันไปพันกันมา นะครับ
สู้ๆเป็นกำลังใจให้นะคับ
:กอด1: ~ ชีวิตจริง...ยิ่งกว่านิยายครับ



อินจัดจนอยากแอดFB กะน้องเอ น้องว่านจัง
:กอด1: ~ เอาจริงเหรอครับ
หัวข้อ: Re: น้องชาย 2 ( Up เหตุการณ์ล่าสุด 05/07/11 )
เริ่มหัวข้อโดย: naoki24 ที่ 06-07-2011 12:37:40
 o13สวัสดีคุณเอ
มะคืนจังลิบมานั่งดูนิยาย ปรากฏว่ามันชอบคุณเอมากกว่าผมอีก :a5:
ผมเลยของ้อคืนดีไป1คืนเต็มๆ :oo1:

ตอนนี้น้อวพลอยเข้ามา1/4ห้องของหัวใจแล้วเลยไม่แน่ว่า
เมื่อน้องว่านกลับมาเหมือนกัน น้องว่านกับน้องพลอยจะลงเอ่ยแบบไหนงะ
ระวังไว้ด้วยนะ ถึงน้องว่านจะเปลี่ยนเป็นคนใจเย็นมีเหตุผล แต่น้องเค้าเป็นคนที่แตกหักง่ายเช่นกัน
และก็คุณเอคิดอะไรกับน้องพลอยหรือป่าว ว่างตัวให้ถูกที่ถูกทางละกันนะครับ

อีกครั้งกับคำว่าแล้วเจอกันใหม่วันศุกร์หลังเลิกสอนพิเศษ o13
หัวข้อ: Re: น้องชาย 2 ( Up เหตุการณ์ล่าสุด 05/07/11 )
เริ่มหัวข้อโดย: Beast12honey ที่ 06-07-2011 13:31:19
ชอบอ่ะ
หัวข้อ: Re: น้องชาย 2 ( Up เหตุการณ์ล่าสุด 05/07/11 )
เริ่มหัวข้อโดย: kikumaru ที่ 06-07-2011 20:44:28
คือตอนแรกว่าจะไม่พูดอะไรแล้ว
แต่อดคิดนิดๆเรื่องน้องพลอยไม่ได้ว่า
การปล่อยให้น้องเค้าเข้ามาพัวพันมากๆจะเกิดปัญหายุ่งยากตามมานะ
มองเห็นเค้าของเรื่องปวดหัวแล้ว
อยากให้คุณเอคิดดีๆอีกครั้งนะ
ถ้าเรื่องนี้เกิดปัญหาอีกจะกลายเป็นรักหลายเศร้าไหม
ถ้าสมมติว่าคุณเอกับว่านตกลงกันได้แล้วน้องพลอยละ
แต่อีกทางเคยได้ยินไหมว่าคนเราใกล้กันมากๆความผูกพันธ์มันพัฒนาไปได้
เพราะความรักมันไม่มีรูปแบบที่ตายตัวว่าคนที่เรารักจะเป็นยังไง
สุดท้ายทุกคนก็จะเจ็บปวดอยู่ดี
อย่าประชดอีกเลย เวลาที่ที่ใช้ในการรักษานะมันนานนะ
ปล. อย่าหาว่าสอนเลยนะคะแต่อดเป็นห่วงทุกคนไม่ได้เพราะเคยทำให้คนอื่นต้องเจ็บปวด
มานานกว่า15ปีเลยไม่อยากเห็นคนอื่นเป็นแบบนี้มั่ง
หัวข้อ: Re: น้องชาย 2 ( Up เหตุการณ์ล่าสุด 05/07/11 )
เริ่มหัวข้อโดย: gummin ที่ 06-07-2011 22:11:06
ไม่มีใครรักเราเท่ากับตัวเราเอง :กอด1:
หัวข้อ: Re: น้องชาย 2 ( Up เหตุการณ์ล่าสุด 06/07/11 )
เริ่มหัวข้อโดย: me_alone ที่ 06-07-2011 23:03:40
o13สวัสดีคุณเอ
มะคืนจังลิบมานั่งดูนิยาย ปรากฏว่ามันชอบคุณเอมากกว่าผมอีก :a5:
ผมเลยของ้อคืนดีไป1คืนเต็มๆ :oo1:

ตอนนี้น้อวพลอยเข้ามา1/4ห้องของหัวใจแล้วเลยไม่แน่ว่า
เมื่อน้องว่านกลับมาเหมือนกัน น้องว่านกับน้องพลอยจะลงเอ่ยแบบไหนงะ
ระวังไว้ด้วยนะ ถึงน้องว่านจะเปลี่ยนเป็นคนใจเย็นมีเหตุผล แต่น้องเค้าเป็นคนที่แตกหักง่ายเช่นกัน
และก็คุณเอคิดอะไรกับน้องพลอยหรือป่าว ว่างตัวให้ถูกที่ถูกทางละกันนะครับ

อีกครั้งกับคำว่าแล้วเจอกันใหม่วันศุกร์หลังเลิกสอนพิเศษ o13
กับพลอยเหรอ....ผมรู้สึกว่าน้องเค้าเป็นน้องสาวที่คุยได้ทุกเรื่องอะครับ
เพราะเรื่องผมชอบว่านใกล้ๆตัวก็มีพลอยรู้คนเดียว
แถมน้องเองยังพยายามให้ผมกับว่านดีกันอยู่บ่อยๆ ถึงมันจะไม่สำเร็จก็เถอะ


ชอบอ่ะ
:กอด1: ~ ขอบคุณครับ



คือตอนแรกว่าจะไม่พูดอะไรแล้ว
แต่อดคิดนิดๆเรื่องน้องพลอยไม่ได้ว่า
การปล่อยให้น้องเค้าเข้ามาพัวพันมากๆจะเกิดปัญหายุ่งยากตามมานะ
มองเห็นเค้าของเรื่องปวดหัวแล้ว
อยากให้คุณเอคิดดีๆอีกครั้งนะ
ถ้าเรื่องนี้เกิดปัญหาอีกจะกลายเป็นรักหลายเศร้าไหม
ถ้าสมมติว่าคุณเอกับว่านตกลงกันได้แล้วน้องพลอยละ
แต่อีกทางเคยได้ยินไหมว่าคนเราใกล้กันมากๆความผูกพันธ์มันพัฒนาไปได้
เพราะความรักมันไม่มีรูปแบบที่ตายตัวว่าคนที่เรารักจะเป็นยังไง
สุดท้ายทุกคนก็จะเจ็บปวดอยู่ดี
อย่าประชดอีกเลย เวลาที่ที่ใช้ในการรักษานะมันนานนะ
ปล. อย่าหาว่าสอนเลยนะคะแต่อดเป็นห่วงทุกคนไม่ได้เพราะเคยทำให้คนอื่นต้องเจ็บปวด
มานานกว่า15ปีเลยไม่อยากเห็นคนอื่นเป็นแบบนี้มั่ง
กับพลอยผมเห็นน้องเค้าเป็นน้องสาวครับ
อีกอย่างวิเคราะห์หลายรอบแล้วมันเป็นไปไม่ได้เลยระหว่างพลอยกับผม
เพราะผู้หญิงคงไม่มีใครมาชอบผู้ชายที่รักผู้ชายด้วยกันอะครับ
ที่สำคัญพลอยเองก็ยินดีที่จะเข้ามาช่วยเรื่องนี้



ไม่มีใครรักเราเท่ากับตัวเราเอง :กอด1:
:กอด1: ~ ครับผม
หัวข้อ: Re: น้องชาย 2 ( Up เหตุการณ์ล่าสุด 06/07/11 )
เริ่มหัวข้อโดย: kokoky ที่ 07-07-2011 00:33:18
สวัสดีคุณเอ

ไม่ได้เข้ามาทักทายนานเลยตั้งแต่เดือนที่แล้ว
อืมเรื่องเพลงน่าคิดค่ะ ติดที่ไม่พูดกัน
ทำให้ต้องเดากันไปต่างๆนานา
แล้วน้องก็ยังไม่กลับมาที่ยิม ยิ่งยาก
เพราะอย่างน้อยถ้าน้องกลับมาซ้อมก็ยังมีโอกาสเยอะกว่านี้

"ปล่อย" เป็นคำพูดๆง่ายค่ะ
เพราะเอาเข้าจริง"ทำ"ยาก เข้าใจเลย คนที่เคยจะรู้
สงครามประสาทยังดำเนินต่อไป
ยิ่งเล่นเกมนี้ต่อไปเท่าไหร่ยิ่งทำร้ายตัวเองยิ่งขึ้น
แต่ก็เข้าใจค่ะว่าถอนตัวตอนนี้มันยากแล้ว
ทำได้แค่ทำใจแล้วล่ะค่ะ

ยังเป็นกำลังใจให้คุณเอเสมอค่ะ
ถึงนานๆจะเข้ามาตามน้องกับดูข่าวคราวคุณเอที
แต่ก็ยังห่วงใยเหมือนเดิมค่ะ

ป.ล.คิดถึงน้องบี^^
หัวข้อ: Re: น้องชาย 2 ( Up เหตุการณ์ล่าสุด 06/07/11 )
เริ่มหัวข้อโดย: ummax ที่ 07-07-2011 03:42:35
ดีครับ

คุณเอยิ่งอ่านยิ่งคิดถึงเขาคนนั้นจริง ๆ เลย

นี่ก็ครบ3ปีแล้วที่เขาได้จากไปเร็วเหมือนกันนะเนี้ย

ผมอยากให้ เอ  รีบหาทางแก้ไขโดยเร็วในตอนที่ยังมีโอกาศ

นะครับ

ชีวิตแขวนคอทุกก้าวเดิน
หัวข้อ: Re: น้องชาย 2 ( Up เหตุการณ์ล่าสุด 06/07/11 )
เริ่มหัวข้อโดย: nco1236 ที่ 07-07-2011 11:52:43
ถ้าน้องเขาไม่เขามา...แล้วเราทำไมไม่เข้าไป...ในเมื่อมีกันแค่ 2 คน
หัวข้อ: Re: น้องชาย 2 ( Up เหตุการณ์ล่าสุด 06/07/11 )
เริ่มหัวข้อโดย: me_alone ที่ 08-07-2011 21:17:06
สวัสดีคุณเอ
ไม่ได้เข้ามาทักทายนานเลยตั้งแต่เดือนที่แล้ว
อืมเรื่องเพลงน่าคิดค่ะ ติดที่ไม่พูดกัน
ทำให้ต้องเดากันไปต่างๆนานา
แล้วน้องก็ยังไม่กลับมาที่ยิม ยิ่งยาก
เพราะอย่างน้อยถ้าน้องกลับมาซ้อมก็ยังมีโอกาสเยอะกว่านี้

"ปล่อย" เป็นคำพูดๆง่ายค่ะ
เพราะเอาเข้าจริง"ทำ"ยาก เข้าใจเลย คนที่เคยจะรู้
สงครามประสาทยังดำเนินต่อไป
ยิ่งเล่นเกมนี้ต่อไปเท่าไหร่ยิ่งทำร้ายตัวเองยิ่งขึ้น
แต่ก็เข้าใจค่ะว่าถอนตัวตอนนี้มันยากแล้ว
ทำได้แค่ทำใจแล้วล่ะค่ะ

ยังเป็นกำลังใจให้คุณเอเสมอค่ะ
ถึงนานๆจะเข้ามาตามน้องกับดูข่าวคราวคุณเอที
แต่ก็ยังห่วงใยเหมือนเดิมค่ะ

ป.ล.คิดถึงน้องบี^^
:กอด1: ~ คิดถึงบีเหมือนกัน




ดีครับ
คุณเอยิ่งอ่านยิ่งคิดถึงเขาคนนั้นจริง ๆ เลย
นี่ก็ครบ3ปีแล้วที่เขาได้จากไปเร็วเหมือนกันนะเนี้ย
ผมอยากให้ เอ  รีบหาทางแก้ไขโดยเร็วในตอนที่ยังมีโอกาศ
นะครับ
ชีวิตแขวนคอทุกก้าวเดิน
:กอด1: ~ กำลังรอโอกาสที่ว่าอยู่ครับ แต่มันยังไม่มาสักที




ถ้าน้องเขาไม่เขามา...แล้วเราทำไมไม่เข้าไป...ในเมื่อมีกันแค่ 2 คน
:เฮ้อ: ~ รีบเร่งมากไปผมกลัวว่าจะทำให้น้องเกลียดผมอะครับ
หัวข้อ: Re: น้องชาย 2 ( Up เหตุการณ์ล่าสุด 08/07/11 )
เริ่มหัวข้อโดย: ummax ที่ 09-07-2011 01:20:27
ก็ยังคงคิดถึงนะครับ

หัวข้อ: Re: น้องชาย 2 ( Up เหตุการณ์ล่าสุด 08/07/11 )
เริ่มหัวข้อโดย: nco1236 ที่ 09-07-2011 18:56:13
ก็ค่อย ๆ เขา ไปไง  :z1: รีบมากเดี่ยวไก่มันตื่นแล้วจะจับยากนะคุณเอ :laugh:
หัวข้อ: Re: น้องชาย 2 ( Up เหตุการณ์ล่าสุด 08/07/11 )
เริ่มหัวข้อโดย: babanabekuya ที่ 10-07-2011 20:53:06
โห จบแล้ว จะมีภาค 3 มั้ยอ่ะคับ อยากหื้อมีขนาดคับ (อยากให้มีมากๆคับ )
ติดตามมาตลอด ถ้าเขียนเรื่องใหม่ก็บอกด้วยนะคับ
จะโตยไปอ่าน (จะตามไปอ่าน)
ขอขคุณมากๆคับผม ^^
หัวข้อ: Re: น้องชาย 2 ( Up เหตุการณ์ล่าสุด 10/07/11 )
เริ่มหัวข้อโดย: kritsada.s ที่ 11-07-2011 20:46:32
ครับ.. อย่างที่คุณเอบอก คงได้แต่รอแค่วันคล้ายวันเกิดว่าน ไม่ทราบว่าคุณเอจะเอาของขวัญไปให้ว่านด้วยตัวเองหรือเปล่า ผมแนะนำเอาไปให้ด้วยตัวเอง วันนั้นคงเป็นวันที่คุณเอได้ทราบคำตอบจากว่าน ว่าว่านจะตัดสินใจอย่างไรดีเมื่อคุณเออุตส่าห์เข้าหาขนาดนี้แล้ว และก็คงเป็นการช่วยทำให้คุณเอตัดสินใจต่อว่านได้มากขึ้น ซึ่งก็รวมไปถึงพฤติกรรมการโพสต์เพลงใน Facebook ผลสรุปนั้นจะออกมาเหมือนกับชีวิตจริงที่คาดหวังหรือไม่ ก็คงดีกว่าฝากคนอื่นเอาไปให้ สุดท้ายหลังจากนั้นสิ่งที่คุณเอต้องทำ คือ การยอมรับกับพฤติกรรมของว่านที่จะแสดงออกมาต่อคุณเอจะเป็นอย่างไรไม่ว่าจะทางบวก หรือทางลบเท่านั้นเอง ขอให้คุณเอมีความสุขกับทุกๆ วัน

ก่อนไปก็อยากจะบอกว่า อย่าให้ซ้ำลอยกับของขวัญที่จะให้ว่านในวันวาเลนไทน์นะครับ ที่เอาไปให้น้องพลอยซะงั้น และเพลงแต่ละเพลงที่โพสต์กันไปกันมานั้นมันช่างสื่อไปถึงกันและกันดีซะเหลือเกิน ฮ่าๆ
หัวข้อ: Re: น้องชาย 2 ( Up เหตุการณ์ล่าสุด 10/07/11 )
เริ่มหัวข้อโดย: naoki24 ที่ 11-07-2011 22:22:04
สวัสดีคุณเอ บอกวันสุกมาวันจันซะนี่แย่จิงๆเลยเรา

เห็นตุ๊กแกเอ้ย! ตุ๊กตาแล้วน่ารักดีว่านคงชอบ
หลังจากที่ผมไปจุ๊กจิ๊ก เอ้ย ไปคุยกับลูกศิษย์ผมมา
เค้าถามผมว่า "พี่เอเค้าอยากทำไรกับว่านหรอถึงพยายามง้อ เหมือนกับอาจารย์ที่มาง้อ
ง้องแง้ง กับผมเพื่อ............กับผมหรือป่าว" (โปรดเติมคำในช่องว่างให้ถูกต้อง)
ผมเลยก็ตอบยากแล้วก็อยากถามคุณเอเหมือนกัน
"เออยากคืนดีกับน้องว่านเพื่ออะไร?"
ไม่ต้องตอบผมนะ ตอบใจตัวเอง ตอบให้ตัวเองได้ยิน ดังๆชัดๆ
เหมือนกับที่คุณเอเคยตอบกับตัวเองเรื่องน้องบีมาแล้วครั้งหนึ่ง

โชคดีเจอกันวันสุก อย่างแน่นอน เอ๊ะ...วันสุกกินเหล้านี่หว่า
หัวข้อ: Re: น้องชาย 2 ( Up เหตุการณ์ล่าสุด 13/07/11 )
เริ่มหัวข้อโดย: me_alone ที่ 13-07-2011 15:20:50
ก็ยังคงคิดถึงนะครับ
:กอด1: ~ เช่นกันครับ


ก็ค่อย ๆ เขา ไปไง  :z1: รีบมากเดี่ยวไก่มันตื่นแล้วจะจับยากนะคุณเอ :laugh:
:กอด1: ~ ครับผม


โห จบแล้ว จะมีภาค 3 มั้ยอ่ะคับ อยากหื้อมีขนาดคับ (อยากให้มีมากๆคับ )
ติดตามมาตลอด ถ้าเขียนเรื่องใหม่ก็บอกด้วยนะคับ
จะโตยไปอ่าน (จะตามไปอ่าน)
ขอขคุณมากๆคับผม ^^
:กอด1: ~ ภาคสามเหรอครับ คงรอภาคนี้นิ่งกว่านี้ก่อนครับ ยังจบไม่สมบูรณ์ดีเลย แฮะๆๆ



ครับ.. อย่างที่คุณเอบอก คงได้แต่รอแค่วันคล้ายวันเกิดว่าน ไม่ทราบว่าคุณเอจะเอาของขวัญไปให้ว่านด้วยตัวเองหรือเปล่า ผมแนะนำเอาไปให้ด้วยตัวเอง วันนั้นคงเป็นวันที่คุณเอได้ทราบคำตอบจากว่าน ว่าว่านจะตัดสินใจอย่างไรดีเมื่อคุณเออุตส่าห์เข้าหาขนาดนี้แล้ว และก็คงเป็นการช่วยทำให้คุณเอตัดสินใจต่อว่านได้มากขึ้น ซึ่งก็รวมไปถึงพฤติกรรมการโพสต์เพลงใน Facebook ผลสรุปนั้นจะออกมาเหมือนกับชีวิตจริงที่คาดหวังหรือไม่ ก็คงดีกว่าฝากคนอื่นเอาไปให้ สุดท้ายหลังจากนั้นสิ่งที่คุณเอต้องทำ คือ การยอมรับกับพฤติกรรมของว่านที่จะแสดงออกมาต่อคุณเอจะเป็นอย่างไรไม่ว่าจะทางบวก หรือทางลบเท่านั้นเอง ขอให้คุณเอมีความสุขกับทุกๆ วัน

ก่อนไปก็อยากจะบอกว่า อย่าให้ซ้ำลอยกับของขวัญที่จะให้ว่านในวันวาเลนไทน์นะครับ ที่เอาไปให้น้องพลอยซะงั้น และเพลงแต่ละเพลงที่โพสต์กันไปกันมานั้นมันช่างสื่อไปถึงกันและกันดีซะเหลือเกิน ฮ่าๆ
พูดตรงๆว่าผมกลัวครับ....กลัวว่าว่านจะโกรธผมอยู่....กลัวว่าพอยื่นให้แล้วจะถูกปาทิ้งลงพื้นเหมือนที่ว่านเคยทำ
กลัวว่าพูดอะไรไปแล้วว่านจะตอกกลับมาแบบเจ็บๆ....กับคนที่เรารัก...คำพูดของเค้ามักมีค่าต่อความรู้สึกเป็นทวีคูณกว่าใครๆ
ผมกลัวว่าผมจะรับความเจ็บปวดอีกครั้งไม่ไหว......สุดท้ายผมเลยได้แค่เฝ้ามองแล้วก็ติดตามความเคลือนไหวอยู่ห่างๆ
รอให้ลมพายุนิ่งกว่านี้สักหน่อย....รอให้ผมกล้ากว่านี้สักหน่อย....ผมจะเข้าไปกระซิบข้างๆหูว่านกับคำพูดที่ผมยังไม่เคยบอกว่านเลยสักครั้ง....ว่าผมรักว่าน.....



สวัสดีคุณเอ บอกวันสุกมาวันจันซะนี่แย่จิงๆเลยเรา

เห็นตุ๊กแกเอ้ย! ตุ๊กตาแล้วน่ารักดีว่านคงชอบ
หลังจากที่ผมไปจุ๊กจิ๊ก เอ้ย ไปคุยกับลูกศิษย์ผมมา
เค้าถามผมว่า "พี่เอเค้าอยากทำไรกับว่านหรอถึงพยายามง้อ เหมือนกับอาจารย์ที่มาง้อ
ง้องแง้ง กับผมเพื่อ............กับผมหรือป่าว" (โปรดเติมคำในช่องว่างให้ถูกต้อง)
ผมเลยก็ตอบยากแล้วก็อยากถามคุณเอเหมือนกัน
"เออยากคืนดีกับน้องว่านเพื่ออะไร?"
ไม่ต้องตอบผมนะ ตอบใจตัวเอง ตอบให้ตัวเองได้ยิน ดังๆชัดๆ
เหมือนกับที่คุณเอเคยตอบกับตัวเองเรื่องน้องบีมาแล้วครั้งหนึ่ง

โชคดีเจอกันวันสุก อย่างแน่นอน เอ๊ะ...วันสุกกินเหล้านี่หว่า
นั่นซิครับ...เพื่ออะไร......เพื่อที่ผมจะมีโอกาสดูแลว่านอีกครั้ง เพื่อที่ผมจะมีโอกาสทำให้ว่านยิ้มแล้วก็หัวเราะได้อีกครั้งมั้งครับ
หัวข้อ: Re: น้องชาย 2 ( Up เหตุการณ์ล่าสุด 13/07/11 )
เริ่มหัวข้อโดย: nco1236 ที่ 13-07-2011 16:15:51
ยังไงซะแล้ว
หัวข้อ: Re: น้องชาย 2 ( Up เหตุการณ์ล่าสุด 13/07/11 )
เริ่มหัวข้อโดย: kokoky ที่ 13-07-2011 21:17:32
มาลุ้นปฏิกิริยาตอบกลับของน้องว่านค่ะ
เหมือนกับวัดกันครั้งสุดท้ายเลยอ่ะ
ผลจะเป็นยังไงก็ช่างแต่ตอนที่รอลุ้นนี่อยากให้คุณเอเผื่อใจไว้หน่อยนะคะ
ไม่ได้คิดแง้ร้ายอะไร แต่ถ้ามันไม่ได้เป็นแบบที่หวัง
จะได้ไม่เสียใจมาก

แต่จากการบอกเล่าจากเพื่อนน้องว่าน
เจ็บจี๊ดๆค่ะ มันเหมือนเด็กที่เรารู้จักเป็นใครก็ไม่รู้ เป็นอีกคนนึง อีกมุมที่ไม่เคยรู้

เป็นกำลังใจให้เหมือนเดิมนะคะ^^
หัวข้อ: Re: น้องชาย 2 ( Up เหตุการณ์ล่าสุด 20/07/11 )
เริ่มหัวข้อโดย: me_alone ที่ 14-07-2011 04:15:46
14 ก.ค.
           วานนี้ ( วันที่ 13 ) ที่มหาวิทยาลัยก็มีเรื่องให้ปวดหัวอีก เพราะน้อง ปี3 กับ ปี2 ไม่กินเส้นกันเลยทำให้การเปิดชมรมประจำเอกมีปัญหา ผมเลยให้บทเรียนที่ค่อนข้างสาหัสไปแถมด้วยคำสวดเบาๆอีกหนึ่งชุด...."ปีนี้ปิดปีหน้าค่อยเริ่มใหม่ก็ได้ เรื่องปีนี้เอาไว้เป็นคนบทเรียนแล้วกัน คราวหน้าอย่าให้มีอีก" แต่ไม่เข้าใจว่าทำไมแค่คำพูดแค่นั้นถึงทำให้น้องร้องให้ได้  ไม่รู้ว่าร้องให้เพราะดีใจที่ไม่ถูกผมด่าหรืิอเปล่า 555+
           ตอนเย็นไปดูสอนน้องที่ยิมหน่อยหนึ่งก่อนกลับบ้า่น พอมาถึงบ้าน ผมเดินมานั่งหน้าคอมพ์ก่อนจะเปิดเครื่องคอม ระหว่างที่รอเครื่องพร้อมใช้งานแอบตะหงิดๆว่าวันนี้ตอนสองทุ่มเศษกายน่าจะโทรมาอีก แต่ผมคงคิดมากไปเองทำไมกายต้องโทรหาผมด้วยล่ะ ฮ่ะๆๆ ว่าแล้วผมก็เปิด Firefox ก่อนขะเข้าไปดูเวปโลกสวย แล้วก็เวปอื่นๆืที่เข้าประจำรวมถึงแอบไปดูความเคลื่อนไหวของว่านด้วย วันนี้ FaceBook ว่านมีความเคลื่อนไหวแค่ว่า

สาวคนนั้น "อูยยยยย แค่ก ๆๆ ไอๆ ๆๆ ... ไอ เลิ๊ฟ ยู่ >< 555555 แต่ไอจริง ๆ นะ =..=เหมือนจะไม่ค่อยสบาย ตากฝนบ่อย T^T"
ว่าน "ดูแลตัวเองด้วยนะครับ"
สาวคนนั้น "จ้าาา :") ขอบคุณมาก ๆ"

            หลังจากนั้นผมก็เข้า YouTube หาเพลงไปโพสไว้ใน FaceBook พลอยต่อ แล้วพอประมาณสองทุ่มเศษ.....โทรศัพท์ผมก็ดังขึ้นครับ "กาย Calling" ผมกดตัดสายกายไปก่อนที่จะโทรกลับ พอโทรกลับยังไม่ทันได้ยินเสียงตรู๊ดเลยกายก็รับสายทันที

“สวัสดีครับพี่” กายทักทายทันทีด้วยน้ำเสียงสดใส
“อื่อ ว่าไง”
“พี่เอ...ผมถามอะไรหน่อยซิพี่”
“ว่า....”
“เวลาผมโทรหาพี่ ทำไมพี่ชอบกดตัดสายแล้วโทรกลับละครับ”
“ก็กายจะได้ไม่ต้องเสียเงินไง”
“โหยยย....พี่...เป็นคนดีจัง...คราวหน้าไม่ต้องกดตัดสายนะพี่ เพราเวลาผมจะโทรหาพี่ผมเติมเงินมาเพื่อโทรโดยเฉพาะเลย”
“เหรอ....ไม่เป็นไรก็ได้กายยังไม่มีรายได้นี่นา”
“พี่เองก็ยังเป็นนักศึกษาอยู่ไม่ใช่เหรอ ไม่มีรายได้เหมือนกัน ไม่เป็นไรๆ คราวหน้ากดรับเลยนะพี่”
“อืม...”

                แล้วกายก็ชวนผมคุยถึงเรื่องสาวที่เค้าชอบ....รวมๆเลยก็คือกายชอบคนนี้มาก ดูมาพักใหญ่แล้ว เมื่อก่อนชวนไปไหนมาไหนด้วยได้ตลอด แต่พอกายอยากจะขอเค้าเป็นแฟน เหมือนว่าเค้าจะรู้ เค้าเลยไม่ยอมไปไหนมาไหนกับกายอีก อ้างแต่ไม่ว่างตลอด แต่ถ้าเป็นคนอื่นชวนเค้ากลับว่างไปด้วย สุดท้ายเค้าก็เปลี่ยนไปเป็นไม่คุยกับกายอีกเลยแถมหลบหน้ากายอีกต่างหาก.....กายเล่าถึงตรงนี้....เอ่อ...สาวที่กายชอบ....แอบเหมือนว่านตอนนี้เลยแฮะ....

“เอาน่า....เค้าอาจใช่กับเรา แต่เราอาจไม่ใช่กับเค้าก็ได้ กายหน้าตาก็ดีหาสาวใหม่ไม่ยากหรอก เดี๋ยวพี่ถ่ายภาพเท่ๆให้ แล้วเอาไปขึ้น FaceBook เลยนะ” ผมพูดปลอบๆกายไปไม่รู้ว่าจะได้ผลไหม
“ผมไม่ค่อยชอบถูกถ่ายภาพอะพี่ ถ้าพี่สังเกตดีๆใน FaceBook ทั้งของผม ของเพื่อน ทั้งของกลุ่มห้องเรียน จะไม่มีภาพผมเลยสักใบนะ ว่านก็ด้วย แต่ว่านหนักกว่าผมเยอะ”
“เยอะ...ยังไง”
“ก็กับว่านนอกจากจะไม่ชอบถูกถ่ายภาพแล้ว ถ้ามีใครไปกดถ่ายแล้วมันเห็นนะ มันจะบังคับให้ลบรูปมันออกทันทีเลย ผมยังเคยถูกมันบังคับให้ลบเลยตอนที่เผลอไปถ่ายติดมัน”

               แล้วในขณะที่คุยกันอยู่นั้น จู่ๆคุณแม่น้องกายก็เข้ามาคุยอะไรกับน้องกายไม่รู้ แต่กายไม่ยอมวางสายผม ซึ่งผมเดาว่าน้องน่าจะใส่หูฟังอยู่ ผมเลยบอกน้องว่า “วางสายก่อนก็ได้” พอผมพูดจบน้องตอบกลับมาว่า “ครับ” ก่อนจะกดตัดสายไป
               ว่านไม่ชอบถ่ายภาพเหรอ....เรื่องนี้ผมก็รู้มาบ้างนะ....แต่ก่อนหน้านี้ผมเคยถ่าย VDO สอนท่า One Step ของเทควันโดอยู่ชุดหนึ่ง.....เป็นช่วงเดียวกับที่ถ่ายบีด้วยนั่นล่ะครับ....ว่านยอมให้ถ่ายแต่โดยดี.....ทั้ง VDO ทั้งภาพนิ่ง.....ซึ่งมาคิดดูดีๆแล้ว......ว่านที่เกลียดการถูกถ่ายภาพขนาดนั้นแต่กลับยอมถูกถ่ายทั้ง VDO ทั้งภาพนิ่งตามคำร้องขอของผม.....ผมจำได้ว่าไม่ได้พูดเยอะแยะมากมายเพราะถ้าว่านไม่เอมผมก็ถ่ายบีแทน แต่ว่านกลับรับปากง่ายๆตั้งแต่เอ่ยปากครั้งแรก แล้วระหว่างที่ผมคิดอยู่นั้นกายก็โทรกลับมา

“พี่ ผมถามว่านเรื่องที่มันไปบ้านพี่คนนั้นทุกวันแล้วนะ”
“มันว่าไง”
“มันบอกผมว่า ครูที่สอนเทควันโดไม่ให้มันไปซ้อม มันเลยไม่รู้จะไปไหน”
“อ่อ ครูป้อมให้ว่านพักจนกว่าเข่าจะหายเจ็บหน่ะ”
“อ่า...พี่เอๆ รู้ไหมว่าสาวที่มาจีบว่านคนนั้นหน่ะเป็นพี่สาวไอ่ปั่นนะ”
“ไอ่น้ำปั่นเพื่อนเรานะอะ”
“ใช่ๆๆ นั่นละ”
“โห.....พี่สาวเพื่อนเลยนะเนี่ยะ แล้วปั่นรู้ไหม”
“ผมว่ารู้แหละ ไปเล่นที่บ้านปั่นทุกวันแบบนี้”
“ปั่นว่าไงบ้างอะ”
“ไม่รู้พี่ ถามแล้วมาเห็นมันพูดอะไร แต่หลังๆผมเห็นมันจะสนิทกับว่านขึ้นมากนะไม่ใช่ผมคนเดียวนะพี่ที่รู้สึก พวกไอ่ริว ฟิว พลอย อะไรก็รู้สึก วานก่อนไอ่เกมยังล้อเลยว่ามันเป็นแฟนกัน ฮ่ะๆๆๆ”
“อืมม....สนิทนี่คือสนิทยังไง”
“ก็ปั่นมันดูแลว่านดีหน่ะพี่ ไปไหนไปด้วยกันตลอด ไปกินข้าวอะไรแบบนี้ เข้าห้องน้ำมันยังชวนกันไปเลย”
“อืมมมม”
“แต่เรื่องพี่สาวไอ่ปั่นหน่ะผมว่าว่านมันก็มีใจแหละ เห็นเลิกเรียนปั๊บก็รีบไปบ้านไอ่ปั่นทันที จะฝนตก แดดออก พายุเข้า มันก็ไม่สนใจ วันนี้ฝนตกมันยังสู้ตากฝนไปเลย”
“ฮ่ะๆ” ผมหัวเราะกลบไปเพราะไม่รู้จะพูดอะไรดี

              ผมคุยกับกายต่อไปอีกพักใหญ่....ไม่รู้ว่ามีเรื่องอะไรให้คุยมากมาย.....ระหว่างที่คุยคุณพ่อน้องกายมาเรียกให้กายไปนอนถึงสองครั้ง ครั้งแรกกายบอกคุณพ่อไปว่า “ขอ 10 นาที” พอครบ 10 นาทีคุณพ่อน้องกายเป็นอะไรที่ตรงเวลามากๆ น้องกายเลยขออีก 10 นาที พอครบ 10 นาทีอีกรอบ คุณพ่อน้องกายก็มาพูดกึ่งๆดุน้องพร้อมถามว่า “คุยกับใครดึกๆดื่นๆป่านนี้” กายไม่ได้ตอบคำถามนี้กลับไป แต่กลับตอบไปว่า

“ป๊า งั้นทดเวลาบาดเจ็บอีก 10 นาทีเน๊าะ” กายพูดด้วยน้ำเสียงทีเล่นทีจริง
สุดท้ายผมเลยบอกให้กายไปนอน “เดี๋ยวพรุ่งนี้โทรมาอีกก็ได้”
“ก็ได้ครับ ฝันดีนะพี่”

               ไม่รู้ว่าทำไมกายถึงเริ่มสนิทกับผมได้เร็วขนาดนี้ทั้งๆที่กายเองก็ไม่ใช่เด็กที่ยิม กิจกรรมร่วมกันก็มีน้อยมากเพราะขนาดเจอกันยังนับครั้งได้เลย อืมมมม....กายเหรอ.....อืมมมม.....พอบีไม่อยู่ว่านก็เข้ามา.....พอว่านไม่อยู่กายก็เข้ามา.....ฮ่ะๆ....ตลกดีนะชีวิตผม......หวังว่า....กายคงไม่วายนะ.....อย่าว่าอย่างนั้นอย่างนี้นะครับ ขนาด บี กับ ว่าน ที่ไม่น่าอยู่สายนี้ได้ยังหลุดมาได้เลย อิอิอิ



19 ก.ค.
           เพิ่งกลับถึงบ้านครับ หลังจากไปเที่ยวมาในช่วงหยุดยาว ตอนแรกคิดว่าไปแล้วจะสบายใจขึ้น....ที่ไหนได้แค่วันแรกโค้ชก็โทรมาโวยวายเรื่องที่ตัวเองถูกปลดซะงั้น คุยไปคุยมาก็คือว่า โค้ชเพิ่งรู้ว่าตัวเองถูกปลดเพราะพี่ป้อมเพิ่งบอก แล้วเค้าก็โทรมาถามถึงสาเหตุที่เค้าถูกปลด ผมเลยชี้แจงไปเป็นข้อๆ ข้อแรกมีน้องไปแจ้งกับทางกองว่าโค้ชหักเงินค่าเบี้ยเลี้ยงและค่าเหรียญ ข้อสองโค้ชไม่เคยติดต่อทำเรื่องยืมคืนอุปกรณ์ทุกๆหนึ่งปีตามที่กองเคยร้องขอ ข้อสามโค้ชไม่ค่อยเข้าประชุม ข้อสี่มีน้องๆยื่นหนังสือเรื่องการส่งนักกีฬาว่าโค้ชเลือกส่งแต่เด็กของตัวเอง
          พอผมพูดจบโค้ชก็พูดขึ้นมาประมาณว่า “เรื่องอุปกรณ์เอาไปคืนเค้าเลยก็ได้พรุ่งนี้ แล้วค่อยเบิกมาใหม่ แล้วเรื่องหักเงินใครไปฟ้องพอจะรู้ไหมว่าใครเป็นคนไปพูด เรื่องคนที่ไปยื่นหนังสือล่ะใครยื่นพอรู้ไหม” พอผมฟังจบผมรู้สึกว่าโค้ชไม่ได้มีความสำนึก หรือ ความละอายต่อความผิดที่ตัวเองก่อเลย ในทางตรงกันข้ามดูเหมือนจะมีท่าทีอาฆาตมาดร้ายคนที่ไปฟ้องด้วยซ้ำ ที่สำคัญเรื่องอุปกรณ์ถ้าไม่ถึงเวลาถูกลงมีดก็คงไม่คิดจะไปคืนเค้าประมาณว่าเวลานี้เหมือนว่าถ้าทางกองขออะไรมาโค้ชก็ยอมรับปากทำตามหมดแน่ขอแค่ไม่ถูกปลด ซึ่งเรื่องสับแต่รับปากผมกับพี่ป้อมเจอมาบ่อย พอพ้นช่วงเวลาวิกฤตเค้าก็จะกลับมาเป็นเหมือนเคยตลอด
           แล้วโค้ชก็ใช้สูตรเดิมๆที่ว่า “พี่ไว้ใจเอที่สุดนะ รู้ไหมเรื่องนี้พี่โกรธมาก พี่อยากรู้ว่าใครเป็นคนทำเรื่องปลดพี่” ก่อนจะบอกผมว่า “เอ เรียกประชุมน้องให้พี่หน่อย” ผมเลยบอกไปว่า “ผมมีเบอร์น้องไม่กี่คนหรอกพี่ แล้วเด็กชุดนี้ไม่ใช่เด็กผม แต่เป็นเด็กพี่ไม่ใช่เหรอ ผมไปสั่งเค้าเค้าจะมาเหรอพี่” โค้ชตอบกลับมาว่า “พี่รู้ว่าเอทำได้ เรื่องแค่นี้ทำให้พี่หน่อยไม่ได้หรือไง” โค้ชพูดด้วยน้ำเสียงโมโหขึ้นมาหน่อยๆ ผมเลยตอบไปว่า “ผมจะโทรหาคนที่ผมมีเบอร์แล้วกัน แต่ไม่รับปากนะว่าน้องจะมากัน”
            ถ้าใครเคยเล่นกีฬาน่าจะรู้สึกแบบเดียวกับผม.....คือโค้ชต้องมีเบอร์ติดต่อของนักกีฬาทุกคนซิ แล้วที่สำคัญเรื่องนักกีฬาชุดนี้ผมเองก็แค่คนเข้ามาช่วยช่วงท้าย แทบไม่มีความสำคัญอะไรในสายตาน้องๆเลยด้วยซ้ำถ้าจะว่ากันตามเนื้อผ้า สุดท้ายผมก็โทรไปบอกพี่ป้อม กับน้องมายเรื่องนี้ น้องมายบอกว่าทุกอย่างแล้วแต่ผม ส่วนพี่ป้อมแนะให้คุยกันก่อน ผมเลยคิดว่าจะนัดคุยให้เสร็จ ทั้งเรื่องส่วนรวมของชมรมกับมหาวิทยาลัย แล้วก็เรื่องส่วนตัวที่โค้ชชอบไปคุกคามน้องๆนักกีฬา ซึ่ง....ถ้าถึงเวลาพูดไม่ได้ แล้วโค้ชได้กลับมาในตำแหน่งเดิม ผมคงจะต้องถอนตัวแบบเต็มร้อย เพื่อให้โค้ชได้บทเรียนเช่นเดียวกับเรื่องยิมเวลานี้
          แต่ไปคราวนี้มันก็มีเรื่องทำให้อมยิ้มอยู่นะครับ...น้องกายโทรหาผมทุกวันเลย เหมือนว่าน้องจะเห่อผมพอควรเลย มีเอาเรื่องผมที่ผมเล่าไปเล่าให้ป๊าฟังต่อด้วย แถมยังเล่นกีต้าร์ให้ฟังหลายเพลงเลยทีเดียว มีวันหนึ่งกายโทรมาตอนผมอาบน้ำอยู่ ผมไม่ได้ยินเสียง กว่าผมจะโทรกลับก็หลังจากที่กายโทรมาเกือบสองชั่วโมง พอโทรไปคำแรกที่ได้ยินคือ “พี่เอ...ไปไหนมาครับ คิดว่าพี่จะไม่โทรกลับมาหาผมซะแล้ว” ผมฟังจบถึงกับมีรอยยิ้มเกิดที่มุมปากทันที ซึ่งเวลาที่คุยก็เหมือนๆทุกวันครับ คือคุยก่อนที่กายจะเข้านอนดังนั้นจะได้ยินเสียงม๊าน้องกายมาเรียกบ่อยๆ ซึ่งกายก็จะตอบแบบขอต่อเวลาไปเรื่อยๆ แต่ถ้าเป็นเสียงป๊ามาเรียกเมื่อไหร่กายจะรีบไปอย่างรวดเร็ว แล้วก็....คืนวันหนึ่งผมคุยกับกายไปเรื่อยเปื่อย จู่ๆกายก็พูดขึ้นมาว่า

“พี่เอ...ผมว่าว่านเป็นเกย์” กายพูดจบผมถึงกับเงียบไปแว๊บหนึ่งเพราะกายเปลี่ยนหัวข้อคุยแบบถ้าเป็นรถก็เบรกหัวทิ่ม
“หือ....ทำไมถึงคิดว่าว่านเป็นเกย์ละ” ผมถามกลับไป
“ไม่รู้ซิพี่....อะไรหลายๆอย่าง ผมคบกับมันมาสามปีแล้วนะ ผมรู้สึกได้”
“แต่พี่ก็เห็นสาวๆมากรี๊ดเค้าเยอะนี่นาเวลาแข่งกีฬา”
“สาวๆพวกนั้นกรี๊ดความสามารถเฉยๆละพี่”
“แล้วที่ว่านเคยบอกว่าชอบพวกสาวๆรุ่นพี่ล่ะ พวกเราเองก็เคยบอกพี่เรื่องนี้นี่นา”
“ผมว่ามันจีบบังหน้านะพี่ เพราะมันบอกแต่ชอบเค้า แต่ไม่เคยไปดูแลใส่ใจ สานความสัมพันธ์ หรือ แม้แต่จะพัฒนาความสัมพันธ์ด้วยซ้ำ”
“ขนาดนั้นเลย”
“ใช่พี่ ผมว่ามันคงรู้สึกผิดเลยจีบผู้หญิงเพื่อบรรเทาความรู้สึกผิดนั้นมั้ง”
“เหรอ”
“ใช่พี่”

          ถึงตรงนี้ผมเลือกที่จะเปลี่ยนเรื่องคุยกับกายดีกว่า ผมเองก็ไม่คิดว่ากายจะรู้สึกได้เหมือนผม.....เพราะว่านเองดูจากลักษณะภายนอกดูยังไงว่านก็ไม่น่ามาสายนี้เลย แต่ทว่าตอนนี้แม้แต่กายก็รู้สึกได้.....ถ้าว่านไม่หลุดอะไรที่ผิดปรกติให้เพื่อนสังเกตได้.....ก็คง...ผีเห็นผีเหรอ!!!
         เมื่อคืนตอนรอรถกลับบ้านผมโทรหาพลอย ผมก็คุยหยอกกับพลอยไปตามปรกติจนมาถึงคำถามของพลอยที่ว่า

“พี่เอ ตอนนี้พี่อยู่ไหน”
“อยู่ในใจพลอยไง”
“บ้า พี่เอก็ เลี่ยนเลยนะเนี่ยะ”
“จริงๆ อิอิอิ”
“อย่ามาอยู่เลยพี่เดี๋ยวมีคนหึง”
“ใครจะหึงพี่”
“ว่านไง ฮ่ะๆๆ” พลอยพูดจบก็หัวเราะ
“ว่านเหรอ เค้ามีสาวใหม่แล้วนี่นา เห็นคุยใน FaceBook ซะหวานหยด”
“ไม่หรอกพี่ ว่านกับพี่สาวปั่นไม่ได้เป็นแฟนกัน”
“อ่าว เห็นไปคุยซะหวานเลย”
“ไม่รู้เหมือนกันพี่ ริวมันเหมือนรู้ว่าเพราะอะไรว่านถึงทำแบบนั้น แต่มันไม่ยอมบอกหนู มันบอกแค่ว่า ว่านกับพี่สาวปั่นไม่ได้ชอบกันจริงๆ”
“เหรอ”
“ใช่พี่ กายเองก็สงสัยเรื่องนี้อยู่ แต่กายมันก็ไม่กล้าถามปั่น หนูลองถามว่านตรงๆแล้ว ว่านก็ไม่ตอบอะไรมาเลย”
“หืมมม กายสงสัยด้วยเหรอ”
“ค่ะพี่ กายสงสัยว่าสองคนนั้นจริงๆแล้วไม่ได้เป็นอะไรกัน แต่กายก็ไม่เข้าใจว่าทำไมว่านต้องทำแบบนั้น”
“อืมมม....”

              ถ้าว่าน....ไม่ได้ชอบพอกับพี่สาวปั่นจริงๆ....ทำไมว่านต้องทำแบบนั้นล่ะ.....เอ่อ....แล้วผมก็โพสเพลงไว้ที่ FaceBook พลอย ดังนี้ “คนดื้อดึง , งมงาย , ยิ่งรู้ยิ่งไม่เข้าใจ , ยิ้มทั้งน้ำตา , เกิดมาแค่รักกัน , อีกนานไหม , ขอให้เขารักเธอ , เทียนกลางฝน , ไม่มีความหมาย , รักเคยดีกว่านี้ , รับไม่ไหว , เจ็บจนวันนี้ , ความเจ็บปวด"

Ticket Night Trip RMX เพลงนี้ผมแปะเนื้อไปว่า
 “ฉันนอนบนเตียงที่เธอเคยนอน และยังกอดหมอนที่เธอเคยหนุนฉันฝันว่ามันยังคงอบอุ่น ด้วยรักของเธอไม่มีเปลี่ยนไป”

ฉันทำอะไรลงไป เพลงนี้ผมแปะเนื้อไปว่า
“ทุกๆ ก้าวที่ผ่านไปเจอเรื่องราวที่เคยเป็นเรา
ฉากเก่าๆ มันเร้ามันรุมคำถามในใจทุกๆ ภาพวันวาน มันเดินย้อนความที่เธอจากฉันไป เข้ามาเตือนจิตใจ ให้คอยถามตัวเอง
ว่าฉันทำอะไรลงไป ฉันเป็นคนเลวใช่ไหม อยู่ดีดีก็จากกันไป ความผิดอะไรก็ไม่เคยได้รู้
รักเธอไม่พอใช่ไหม เเม้นานเท่าไรยังตั้งคำถามอยู่ อยู่ในใจจนตาย หยุดซักทีจะได้ไหม”


หลังจากที่ผมโพสไปหนึ่งวัน ว่านก็โพสเพลง “สุดท้าย”
http://www.youtube.com/v/nQQVPfAqOCc?version=3&amp;hl=th_TH&amp;rel=0


20 ก.ค.
          ตอนนี้พี่ป้อมเหมือนจะหันหลังให้โค้ชแบบเต็มเหยียดแล้ว วันนี้ผมนั่งคุยกับพี่ป้อมเรื่องโค้ชกันแบบเปิดอกสรุปว่าผมกับพี่ป้อมเข้าใจแล้วก็รูั้้สึกตรงกัน
          อืมมม....เมื่อวานผมคุยกับกาย....ก่อนที่กายจะเข้านอนเหมือนทุกๆวัน เรื่องที่คุยค่อนข้างเืรื่อยเปื่อย กาย ชอบพูดถึงผู้หญิง คนนั้นสวย คนนี้น่ารัก เรื่องแฟนคนแรกของกาย เรื่องของผู้หญิงที่กายมีใจอยู่ตอนนี้ คุยไปคุยมากายก็พูดถึงเฟอเรโร่ รอชเชอร์ที่ผมให้กายไปคราวก่อนว่า

"เฟอเรโร่ ที่พี่ให้ผมมา ผมทานไปแค่ 1 ชิ้นเองนะ"
"อ่าว ทำไมล่ะ ไม่ชอบเหรอ"
"เปล่าครับ....ไม่เคยมีใครให้ช๊อกโกแลตผมเลย เพิ่งมีพี่คนแรกที่ให้ผม ผมยังเสียใจอยู่เลยที่กินไปแล้วชิ้นหนึ่ง"
"หืมมม แล้วที่เหลือล่ะ"
"ผมเก็บไว้ในตู้เย็น ว่าจะเก็บไว้อีกสักสิบยี่สิบปี คราวก่อนน้องผมมาขอกิน ผมยังไม่ให้เลย"
"ฮ่ะๆๆ....ทานไปเถอะ เดี๋ยวพี่ซื้อให้ใหม่ก็ได้"
"อ่าครับ...แล้ว....ตั้งแต่เกิดมาผมแทบไม่เคยได้ดอกกุหลาบเลย"
"จริงเหรอ"
"จริงครับ วันวาเลนไทน์ที่ผ่านมาผมได้จากม๊าแค่ดอกเดียวเอง"
"อืมมม...งั้นเดี๋ยววันวาเลนไทน์ปีหน้าพี่ซื้อให้ช่อหนึ่งเลยแล้วกัน"
"ขอบคุณครับพี่...พี่ใจดีจัง ดูแลผมดีขนาดนี้ ทั้งๆที่ผมก็ไม่เคยให้อะไรพี่เลย"
"หืมมม ดูแลเหรอ?"
"ก็....พี่คอยถามผมว่าทานข้าวหรือยัง เรียนเป็นไง สอบเป็นไง เหนื่อยไหม วันนี้ทำอะไรบ้าง อะไรแบบนี้ครับ ไม่เคยมีใครใส่ใจผมแบบนี้เลย แถมยังให้โน่นให้พี่ผมตั้งหลายอย่าง"
"เหรอ อืมมม.....ไม่กี่อย่างเองนี่นา"
"นั่นล่ะ ก็ถือว่าให้ล่ะครับ"


          ว่าแล้ววันนี้ผมแวะเอาหนังสือ ฮิกาซีน ไปให้น้องยืม เห็นน้องกายบอกว่าว่านเคยเอามาให้อ่านเมื่อนานมาแล้ว น้องชอบมาก แต่หาซื้อไม่ได้ แล้วก็เอาพวงกุญแจการ์ตูนนำเข้าที่น้องอยากได้ไปให้น้องด้วย....น้องกายเองก็ชวนผมไปดูหนังตามที่ผมเคยบอกน้องไปว่าต่อจากนี้ถ้าผมไปดูหนังผมจะพาน้องไปด้วย แต่น่าเสียดายที่ผมดูเรื่องที่น้องกายจะดูไปแล้วตอนกลับจากที่ไปพักผ่อน ผมเลยบอกกายว่าคราวหน้าอีกทีแล้วกัน ผมชอบท่าทางดีใจ แล้วก็สายตาเวลากายมองผมเวลาคุยของน้องกายจัง ฮ่ะๆ น่ารักชะมัด เห็นแล้วคิดถึงบีเลย เพราะเวลาบีคุยกับผมสายตาบีจะจ้องมาที่ตาผมตลอดเหมือนกายตอนนี้ไม่มีผิด อืมมม จะว่าไปกายเองก็เหมือนบีหลายอย่างนะ เหมือนโดยมิได้นัดหมาย อิอิ พูดถึงบี....วันที่ 9 ก.ย. นี้วันคล้ายวันเกิดบีอีกแล้ว...ปีนี้ผมจะให้อะไรบีดี....บีเคยขอกระต่ายให้กระต่ายบีสักคู่ดีไหมน๊า
หัวข้อ: Re: น้องชาย 2 ( Up เหตุการณ์ล่าสุด 13/07/11 )
เริ่มหัวข้อโดย: me_alone ที่ 14-07-2011 04:45:42
ยังไงซะแล้ว
:กอด1:




มาลุ้นปฏิกิริยาตอบกลับของน้องว่านค่ะ
เหมือนกับวัดกันครั้งสุดท้ายเลยอ่ะ
ผลจะเป็นยังไงก็ช่างแต่ตอนที่รอลุ้นนี่อยากให้คุณเอเผื่อใจไว้หน่อยนะคะ
ไม่ได้คิดแง้ร้ายอะไร แต่ถ้ามันไม่ได้เป็นแบบที่หวัง
จะได้ไม่เสียใจมาก

แต่จากการบอกเล่าจากเพื่อนน้องว่าน
เจ็บจี๊ดๆค่ะ มันเหมือนเด็กที่เรารู้จักเป็นใครก็ไม่รู้ เป็นอีกคนนึง อีกมุมที่ไม่เคยรู้

เป็นกำลังใจให้เหมือนเดิมนะคะ^^

ก็เตรียมใจในระดับหนึ่งครับ
เพราะมันก็เป็นไปได้ที่ว่านจะไม่อยากเจอผมอีก และ ต่อให้ง้อยังไงก็ไม่มีวันเหมือนเดิม
ที่ตลอดเวลาที่ผ่านมาผมอาจคิดไปเองว่าว่านก็ยังมีใจก็ได้ เพลงที่ว่านโพสอาจไม่ได้เกี่ยวอะไรกับผมเลยก็เป็นไปได้อีกนั่นล่ะ
เฮ้อ.....กำลังคิดอยู่ครับว่าวันนั้นผมจะทำยังไงดี....
หัวข้อ: Re: น้องชาย 2 ( Up เหตุการณ์ล่าสุด 13/07/11 )
เริ่มหัวข้อโดย: icyblue ที่ 14-07-2011 18:07:49
คงต้องรอดูตอนให้ของขวัญวันเกิดอีกที
ถ้าว่านไม่รับหรือเพิกเฉย เอคงต้องตัดใจจริงๆแหละ

เอเสน่ห์แรงจริงๆเลยมีแต่เด็กๆเข้าหา :z2:
ยังคงเป็นกำลังใจให้นะจ๊ะ :L2: :กอด1:
หัวข้อ: Re: น้องชาย 2 ( Up เหตุการณ์ล่าสุด 13/07/11 )
เริ่มหัวข้อโดย: kikumaru ที่ 14-07-2011 21:08:19
อะนะบางทีชีวิตเรามันก็ตลกร้ายเนาะคุณเอ
มักมีเรื่องมากให้เราขำทั้งน้ำตาได้เสมอ
ว่าไหมคะ
เอาเป็นว่ามีน้องกายเข้ามาวนเวียนในชีวิตอีกคนแล้ว
คุณเอจะได้หันไปสนใจอย่างอื่นบ้าง(555555)
ยังไงก็เป็นกำลังใจให้คุณเอเสมอนะ :o8:
หัวข้อ: Re: น้องชาย 2 ( Up เหตุการณ์ล่าสุด 13/07/11 )
เริ่มหัวข้อโดย: pobbmit ที่ 15-07-2011 08:11:36
พี่เอ นี่ดวงเรียกคู่จริงๆ บี มาว่าย แล้วไปกายต่อเลย

กายนี่หน้าตา บุคลิกเป็นยังไงเหรอครับ

ปล.รักน้องบีที่สุดเลยยยยย
หัวข้อ: Re: น้องชาย 2 ( Up เหตุการณ์ล่าสุด 13/07/11 )
เริ่มหัวข้อโดย: kokoky ที่ 15-07-2011 12:22:24
รอดูกันต่อไปค่ะ
โอกาสยังมีนะคะ
หัวข้อ: Re: น้องชาย 2 ( Up เหตุการณ์ล่าสุด 13/07/11 )
เริ่มหัวข้อโดย: iambeer ที่ 15-07-2011 23:58:10
อย่าปิดโอกาศคับ ความรักมันไม่มีเหตุผล เผลอมันวิ่งชนโดยไม่รู้ตัวคับ สู้ๆคับ
หัวข้อ: Re: น้องชาย 2 ( Up เหตุการณ์ล่าสุด 19/07/11 )
เริ่มหัวข้อโดย: me_alone ที่ 19-07-2011 07:21:22
คงต้องรอดูตอนให้ของขวัญวันเกิดอีกที
ถ้าว่านไม่รับหรือเพิกเฉย เอคงต้องตัดใจจริงๆแหละ
เอเสน่ห์แรงจริงๆเลยมีแต่เด็กๆเข้าหา :z2:
ยังคงเป็นกำลังใจให้นะจ๊ะ :L2: :กอด1:
:กอด1: ~ ขอบคุณครับ


อะนะบางทีชีวิตเรามันก็ตลกร้ายเนาะคุณเอ
มักมีเรื่องมากให้เราขำทั้งน้ำตาได้เสมอ
ว่าไหมคะ
เอาเป็นว่ามีน้องกายเข้ามาวนเวียนในชีวิตอีกคนแล้ว
คุณเอจะได้หันไปสนใจอย่างอื่นบ้าง(555555)
ยังไงก็เป็นกำลังใจให้คุณเอเสมอนะ :o8:
:กอด1: ~ ขอบคุณมากมายสำหรับกำลังใจครับ


พี่เอ นี่ดวงเรียกคู่จริงๆ บี มาว่าย แล้วไปกายต่อเลย
กายนี่หน้าตา บุคลิกเป็นยังไงเหรอครับ
ปล.รักน้องบีที่สุดเลยยยยย
กายเหรอครับ เด็กไทยเชื้อสายจีนอะครับ ผิวขาวๆ หน้าตาออกแนวๆเด็กเฮ้วๆกวนๆ ตาไม่โตแต่ก็ไม่ตี่ คิ้วหนาพอดู สูง 167 ตัวไม่ผอมมากมายกำลังพอดี



รอดูกันต่อไปค่ะ
โอกาสยังมีนะคะ
:กอด1: ~ ครับผม


อย่าปิดโอกาศคับ ความรักมันไม่มีเหตุผล เผลอมันวิ่งชนโดยไม่รู้ตัวคับ สู้ๆคับ
:กอด1: ~ ขอบคุณครับ
หัวข้อ: Re: น้องชาย 2 ( Up เหตุการณ์ล่าสุด 20/07/11 )
เริ่มหัวข้อโดย: kikumaru ที่ 23-07-2011 19:24:15
เห้อ  ได้แวะเข้ามาซักทีหลังจากทำงานหนักมากมาย(55555)
ดีใจกับคุณเอนะ  ที่วันนี้ดูเหมือนคุณเอจะปล่อยวางเรื่องว่านไปบ้างแล้ว
แต่ก็แอบขำนะ ที่น้องกายบอกว่านเป็นอะไร แล้วยังนึกตรงกับคุณเอเลยว่า
ผีเห็นผีรึป่าว ยังไงคุณเอก็รักษาสุขภาะด้วยนะช่วงนี้ฝนตกบ่อยเหลือหลาย
หัวข้อ: Re: น้องชาย 2 ( Up เหตุการณ์ล่าสุด 20/07/11 )
เริ่มหัวข้อโดย: Y2Y ที่ 24-07-2011 00:02:51
ฝาก Happy birthday น้องบีล่วงหน้าด้วยนะค่ะ

ที่จริง น้องบี คุณเอน่าจะผูกพันธฺ์กับน้องบีมากกว่านะ เพราะ ไหนๆ ก็เคยลึกซึ้งกันมากกว่าว่านซะอีก

ปล เรื่อง FB แอดจริงอะไรจริง
หัวข้อ: Re: น้องชาย 2 ( Up เหตุการณ์ล่าสุด 20/07/11 )
เริ่มหัวข้อโดย: naoki24 ที่ 24-07-2011 03:32:16
หุหุ ไม่ได้มาเยี่ยมนานเลย คุณเอคิดถึงผมป่าวหรือคิดถึงแต่น้องบี ว่าน กาย (แล้วน้องอ้นหายไปไหน)
ดูเหมือนเวลารักษาแผลใจ(หรือเลียแผลดีน๊า)ให้คุณเอดึขึ้นมาหน่อยแล้วนา
ยังไงๆก็อย่าผลีผลามจนเกินไปนะ
ส่วนเรื่องโค้ชไม่รู้นะคุณเอดำเนินการยังไง แต่อย่างว่าคุณป้อมน่าจะมีความรับผิดชอบ
และมีนิติภาวะที่สูงพอดู เชื่อใจเค้าและดำเนินตามอย่างปกติดีกว่า
เรื่องว่านก็.....อย่าลืมอวยพรวันเกิดให้น้องเค้าละกัน จะให้ดีนะ
.............บอกตรงๆ ตัวต่อตัวเลยดีกว่า น้องจะมีรีแอคชั่นยังไงช่างมัน
เราแค่ทำ ทำในฐานะที่เรามีต่อเค้าก็พอแล้วละ

ผมและลิง2ตัวที่นั่งข้างๆขอให้คุณเอมีความสุขมากๆในช่วงเข้าพรรษา
(โดนงดเหล้า T T ลิงมันไม่ยอมให้กินก่อนเข้าพรรษาอีกต่างหาก อดทั้งปีเลย)
หัวข้อ: Re: น้องชาย 2 ( Up เหตุการณ์ล่าสุด 27/07/11 )
เริ่มหัวข้อโดย: me_alone ที่ 25-07-2011 13:40:32
25 ก.ค.
          หลังจากที่ว่านโพสเพลงสุดท้ายเพลงนั้น....ว่านก็ไม่โพสเพลงอะไรอีกเลย...ส่วนผมเหรอ...ก็โพสต่อไป...ตามความรู้สึกที่มี ส่วนกายก็ขอ Add เป็นครอบครัวกับผมแล้ว กับกายผมยังรักษาระยะห่างอยู่ เนื่องจากยังไม่รู้จักน้องดีพอ อีกทั้งกายไม่เชื่อว่าผมกับพลอยคบกันจริงๆ เพราะกายบอกว่า ทั้งผมและพลอยต่างยังลืมคนรักเก่าไม่ได้ เลยเป็นไปไม่ได้ที่จะมารักกันได้ เหมือนว่าที่ขึ้นสถานะหมั้นกันเป็นแค่การทำประชดคนที่เคยชอบเท่านั้นเอง.....จะว่าไป...ถ้ากายรู้ว่าคนที่ผมเพ้อถึงบ่อยๆเป็นว่าน น้องกายจะทำหน้ายังไงนะ
           ส่วนพลอย...ผมไม่รู้ว่าพลอยคิดยังไง เพราะพลอยโทรมาทีไร หรือ แม้แต่ผมโทรไปจะต้องมีโผล่เรื่องของว่านไปด้วยทุกครั้ง....พลอยบอกว่าวันคล้ายวันเกิดว่านปีนี้ออกค่ายพอดีเลย คงต้องให้ของขวัญล่วงหน้า ผมกำชับพลอยไปว่าไม่ต้องอบกว่าใครให้ถ้าว่านไม่ได้ถาม แล้วผมจะ Add Face ว่านอีกที ถ้าถูกว่านปฏิเสธอีก....ผมน่าจะตัดใจได้ง่ายขึ้น เพราะมันก็เหมือนคำตอบที่บอกว่า "ไม่" ดีๆนั่นล่ะครับ
          ส่วนบี....อาจเป็นได้แค่น้องชายจริงๆนั่นล่ะครับ ชีวิตบีสูงไปผมตามไปไม่ถึง อีกอย่างมันไม่เหมือนนิยายทั่วไปที่ ใครคนหนึ่งฐานดีมากๆ จะตามเทคแคร์อีกคนอยู่ตลอดเวลา เพราะในชีวิตจริง ใครๆก็ต้องอยากหาอะไรที่มันไปข้างหน้า หรือ หาอะไรที่ดีกว่า น่าค้นหากว่าอยู่แล้ว ที่สำคัญบีอายุยังน้อยครับ มีเรื่องให้น้องต้องไปค้นหาอีกเยอะเลย อีอย่างบีเอง....ก็มีสาวๆมาติดไม่ใช่น้อยๆเลย
           ส่วนเรื่องโค้ช.....ตอนนี้ทุกคนที่อยู่ทั้งที่มหาวิทยาลัย ทั้งที่ยิมก็มานั่งข้างๆผมหมดไม่เว้นแม่แต่อาจารย์ใหญ่ของยิม ส่วนโค้ชก็ยังมีแค่ว่านคนเดียวที่นั่งข้างๆ ส่วนพี่ป้อม.....จะนั่งข้างโค้ชไหมนั้นผมว่ามันขึ้นอยู่กับการทำตัวของโค้ชแล้วล่ะครับ ถ้ายังขี้โกหก อวดเก่ง อวดดี ดีแต่พูด อยู่แบบนี้ พี่ป้อมคงไม่ยื่นมือลงไปช่วยแน่ ถึงตอนนี้พี่ป้อมจะบอกว่าเป็นกลางแค่ไหน ก็ยังเอียงมาหาผมอยู่ดีนั้นล่ะ
            จะว่าไปโค้ชก็น่าสงสารนะครับ ถูกทุกคนทอดทิ้งหมด แต่เค้าก็ยังคิดว่าทุกคนรักเค้า เคารพเค้า แถมตอนหลังมาเดินหมากผิดงัดกับคนกันเองซะงั้น ถูกผมทอดทิ้งคนเดียวมันคงไม่หนักขนาดนี้ แต่พี่ป้อมดันมาเข้ากับผมด้วย จนสุดท้ายโค้ชก็ถูกแบนจากยิมของตัวเอง เป็นผมผมเจ็บใจน่าดู
             :m13: ถ้าได้เขียนใหม่ผมอยากเขียนเป็นนิยายสนุกๆจัง   




26 ก.ค.
            เมื่อวานประมาณสองทุ่มกว่า ขณะที่ผมกำลังนั่งลงโปรแกรมหลังจากลง Window ใหม่เสร็จไปหมาดๆอยู่นั้น น้องกายก็โทรมาครับ เนื้อหาที่คุยกระมาณนี้

" สวัสดีครับ พี่เอ ว่างหรือเปล่า"
"คุยได้"
"พี่เรื่องที่พี่ว่าจะดู เรื่องอะไรนะครับ"
กายถามถึงเรื่องหนังที่ผมคุยกับกายคราวก่อน
"Captain america first avenger กับ Hanna อะเหรอ"
"ใช่ๆ"
"อยากดูเหรอ"
"ครับ อยากดู ถ้าพี่ไปวันไหนบอกผมด้วยนะผมไปด้วย"
"ปรกติพี่ไปวันพฤหัสครับ"
"งั้นเดี๋ยวผมโดดเรียนไปดูด้วย"
"เฮ่ย....ไม่ต้อง ถ้าจะไปด้วยจริงๆพี่เปลี่ยนวันไปก็ได้ แล้วกายว่างวันไหน"
"วันเสาร์ประมาณบ่ายสามพี่"
"แล้วจะชวนใครไปด้วยบ้างล่ะ"
"ไม่ได้ชวนไปกับพี่สองคน"
"อืมม แต่พี่ไม่แน่ใจนะว่าอาทิตย์นี้มันจะเข้าโรงที่บ้านเราไหม"
"อ่าครับ"
"เดี๋ยวไงพี่โทรบอกอีกทีแล้วกันเรื่องหนัง"
"ครับผม"


            แล้วผมก็คุยกับกายต่อไปเรื่อยเปื่อย หนึ่งในเรื่องที่คุยก็เกี่ยวกับว่านด้วยโดยกายบอกว่า "เรื่องพี่สาวปั่นกับว่านหน่ะ เป็นไปได้สูง เพราะพี่สาวปั่นจริงๆแล้วไม่มีแฟน แถมพี่สาวปั่นเองก็เป็นคนเริ่มจีบว่านก่อน แต่อย่างไรก็ตาม กายจะตามสืบต่อไปว่าเรื่องนี้จริงเท็จแค่ไหน" แล้วผมก็ชวนน้องคุยเรื่องอื่นไปเรื่อย ยิ่งคุยนานก็ยิ่งเริ่มรู้ว่ากายเองก็ไม่ได้สนิทกับกลุ่มเพื่อนของว่านเท่าไหร่ เมื่อก่อนผมคิดว่าเค้ากลุ่มเดียวกันซะอีก ผ่านไปสามสิบแปดนาทีจากที่เริ่มคุยก็ได้ยินเสียงคุณพ่อน้องกายมาเรียกให้น้องกายไปอาบน้ำ น้องกายก็ต่อรองว่าขออาบตอนสามทุ่มตรง

"หืมมม อาบดึกจัง"
"ดึกๆล่ะดีพี่น้ำเย็นดี"
"ไม่อาบน้ำอุ่นเหรอ"
"ไม่พี่ เดี๋ยวผิวแห้งเกิน เดี๋ยวไม่หล่อ อิอิอิ"


           พอถึงสามทุ่มตรงกายก็ขอตัวไปอาบน้ำ พอวางสายจากกายเสร็จผมก็นั่งดูนั่นดูนี่ต่อจนประมาณห้าทุ่มเศษกายก็โทรมาอีกครั้ง

"ดีครับพี่"
"คิดว่านอนไปแล้ว"
"กำลังจะครับพี่"
"อื่อ"
"โทรมาบอกว่าฝันดีนะครับพี่"
"ครับผม กายด้วยนะ"
"ครับ แล้วคุยกัน"


           อืมมม....กายคุยแบบนี้....คิดถึงบีจัง...วิธีคุย....คำพูด....น้ำเสียง.....แถมยังขี้อ้อนเหมือนบีอีก ไม่รู้ทำไมคุยกับกายทีไรคิดถึงบีทุกทีเลย ฮ่ะๆๆ

22.17 น.
          กายโทรมาอีกครั้งทันทีที่ผมรับโทรศัพท์กายพูดด้วยน้ำเสียงตื่นเต้นเหมือนเคย

"พี่พรุ่งนี้ผมสอบ"
"เหรอ อ่านหนังสือยัง"
"อ่านแล้วครับ แต่ผมอยากให้พี่อวยพรผม"
"หืมม อวยพรเหรอ ได้ซิขอให้ได้คะแนนสอบเยอะๆนะ"
"ขอบคุณครับ"
"ว่าแต่ทำไมไม่ให้ป๊า หรือ ม๊าอวยพรล่ะ"
"ไม่รู้ผมอยากให้พี่อวยพรมากกว่า"
"เหรอ ฮ่ะๆๆ"


         แล้วกายก็ชวนผมคุยไปเรื่อยเปื่อยอีก 20 กว่านาที จน ป๊ากายมาตามให้กายไปนอน กายถึงได้วางสาย....ก่อนวางสายกายบอกว่า "อื่อ ก่อนไปผมจะบอกว่า คืนนี้นอนหลับฝันดีนะพี่" จะว่าไป...กายเหมือนบีมากๆจริงๆนะครับ น่ารักดี แต่ยังไงก็ตามคงต้องดูต่อไป เพราะเบื้องต้นผมว่ากายไม่น่ามาสาย Y แต่มันก็ไม่แน่ไม่นอนหรอกจริงไหมครับ อิอิอิ



27 ก.ค.
          เช้าวันนี้ผมไปมหาวิทยาลัยเจอเด็กๆ ม.ต้น เพียบเลยครับ สอบถามอาจารย์ปรากฏว่ามีการสอบแข่งขันทักษะด้านวิทยาศาสตร์ ตกบ่ายผมก็เข้าประชุมกับน้องๆสมาชิกชมรมเทควันโดของมหาวิทยาลัย การประชุมวันนี้สบายๆครับ ไปนั่งกองๆกันที่โต๊ะหินอ่อนที่ทางมหาวิทยาลัยจัดไว้ให้ใต้ต้นไม้ใหญ่ คิดว่าที่ มหาวิทยาลัยอื่นๆน่าจะมีเหมือนกันที่เค้าจะเอาไม้หินอ่อนมาตั้งเยอะๆไว้ให้นักศึกษามาอ่านหนังสือ หรือ นั่งเล่นพักผ่อน แล้วระหว่างที่ผมนั่งดูน้องๆคณะกรรมการแล้วก็ประธานคนใหม่ชี้แจงเรื่องเกี่ยวกับชมรมอยู่นั้น....สายตาผมก็หันไปเจอนักเรียนกลุ่มหนึ่งเดินมาอย่างสะเปะสะปะอยู่ฝั่งตรงข้ามของถนนขนาดสองเลน....ไม่ซิต้องบอกว่ามีใครคนหนึ่งในเด็กกลุ่มนั้นทำให้ผมต้องหันไปมอง.....
         เด็กชายคนหนึ่งผิวสีแทนหน่อยๆที่ได้มาจากการไปเรียนว่ายน้ำช่วงบ่ายๆทุกวันเสาร์อาทิตย์ ทรงผมค่อนข้างยาวที่เป็นเอกลักษณ์ เสียงหัวเราะที่ผมคุ้นเคย......สายตาที่ดูร่าเริงสดใสได้ตลอดเวลา แต่กลับมีเสน่ห์ดึงดูดน่าทะนุถนอมด้วยหัวใจ และ รอยยิ้มที่ร่าเริงสดใสแค่ได้เห็นก็อดที่จะยิ้มตามไม่ได้อย่างไม่มีเหตุผล....ผมไม่ได้เห็นมาพักใหญ่แล้ว.......

"บี"

         ทันทีที่ผมมองไปหาน้อง ก็เหมือนว่าน้องจะรู้ตัวทันที บีหันหน้ามามองผมอย่างรวดเร็วราวกับว่ารู้อยู่ก่อนหน้าว่าผมอยู่ตรงไหน ทันทีที่น้องมองผม บีหันมายิ้มให้ แล้ว ทำท่าทาง งง เล็กน้อย ผมยิ้มกลับไปแล้วกวักมือเรียกบีให้มาหา......ทว่าบีกลับส่ายหน้าแล้วหันไปมองครูที่เดินนำหน้าแถวอยู่ ก่อนที่บีจะวิ่งไปหาอ้นที่เดินอยู่ไม่ห่างจากบี......แล้วบีจับมืออ้น......ก่อนจะเดินจูงมืออ้น.....จากนั้นบีก็หันมามองผมเล็กน้อยก่อนที่จะเดินจากไป.....
         หลังจากประชุมเสร็จ ผมก็ไปทานข้าวที่โรงอาหารกับน้องๆ แล้วระหว่างที่ทานอาหารอยู่นั้น....สายตาผมก็หันไปเจอเด็กชายคนเดิม......บีนั่งอยู่บนเก้าอี้หินอ่อนใกล้ๆกับโรงอาหารโดยมีเพื่อนๆโรงเรียนเดียวกันนั่งอยู่ด้วยหลายคน ทว่า...บีกลับนั่งแยกจากกลุ่มเพื่อน....แล้วบีก็ไม่ได้นั่งคนเดียว....ที่บ่าของบี...มีอ้นซบอยู่ แล้วบีก็เอาหัวพิงลงไปอีกที.....แถมบียังเอามือขวาของอ้นไปกุมไว้ด้วยมือทั้งสองข้างบนตักของตัวเอง

"พี่มองอะไรอยู่ค่ะ" มายถามขึ้นมาเบาๆ
"อะ...เอ่อ...เปล่าๆ ไม่มีอะไร พี่มองไปเรื่อยเปื่อยหน่ะ"
"เหรอค่ะ เห็นเหมือนพี่ใจลอย"
"คิดโน้นคิดนี่ไปเรื่อยอะครับ ฮ่ะๆ"




"ติ๊ดๆ....ติ๊ดๆ...."
'1 ข้อความใหม่ [15.45]'
From กาย
วันนี้ข้อสอบยากมากเลยพี่ โดยเฉพาะคณิตศาสตร์ผม งง มาก



          จริงๆผมเองก็เคยสงสัยในความสัมพันธ์ของบีกับอ้นนะ.....เพราะอ้นเป็นคนเดียวที่บียอมทุกอย่าง อ้นไปไหนบีไปด้วย อ้นทำอะไรบีทำด้วย อ้นชอบอะไรบีก็พยายามจะชอบด้วย ไม่ว่าอ้นคิด หรือ ตัดสินใจอะไร บีไม่เคยขัดเลย ที่สำคัญบีจะพยายามไม่ขัดใจอ้นในทุกๆเรื่อง ตอนแรกผมคิดว่าก็แค่บีมองว่าอ้นเป็นต้นแบบที่น่าลอกเลียนพฤติกรรม แต่ตอนนี้ผมว่า....มันไม่ใช่แค่อยากลองเลียนพฤติกรรมแล้วล่ะมั้ง

          แล้ววันนี้....สองทุ่มเศษกายก็โทรมาเหมือนทุกๆวันยังคุยเรื่องทั่วไปเหมือนเคย กายเล่าเรื่องที่โรงเรียน เรื่องเพื่อน เรื่องครู เรื่องที่บ้านให้ฟัง ก่อนที่ผมจะบอกกายเรื่องรอบหนังที่ว่าจะไปดู กายบอกว่ากายยังไม่รับปาก ต้องขออนุญาตที่บ้านก่อน ซึ่งกายบอกว่าโอกาสไปได้เกินครึ่ง จากนั้นผมก็คุยไร้สาระอะไรกับกายไปอีกไม่รู้ตั้งเกือบสี่สิบนาที ก่อนที่กายจะขอตัวไปอาบน้ำ พออาบเสร็จกายก็โทรมาอีกครั้ง....ทันทีที่ผมรับสาย

"พี่ผมจะนอนแล้ว เลยโทรมาบอกว่าฝันดีนะพี่"
"อื่อ กายด้วยนะ"
"พี่อวยพรอีก"
"อื่อได้ซิ ขอให้ข้อสอบพรุ่งนี้ออกตรงกับที่อ่านนะ"
"อิอิอิ ผมชอบให้พี่อวยพรให้จัง"
"อื่อ"
"งั้นผมไปนอนนะ ฝันดีครับ"


         ส่วนว่านเหรอ.....ผมว่ามันริบหรี่ลงทุกวันๆ.....แต่เมื่อคืนก็ยังไม่วาย...ที่จะฝันถึงว่านอีก
หัวข้อ: Re: น้องชาย 2 ( Up เหตุการณ์ล่าสุด 25/07/11 )
เริ่มหัวข้อโดย: me_alone ที่ 25-07-2011 13:50:17
@kikumaru
กายยังคุยแต่เรื่องสาวอยู่อะครับ ผมเองก็ไม่กล้า หยอดไปเท่าไหร่ หุหุหุ

@Aphrodite
กับบีอาจเป็นได้แค่พี่น้องอะครับ ส่วน FB Add ของผมแทนก็ได้ เดี๋ยวส่งให้หลังไมค์ครับ

@naoki24
น่าอิจฉานะครับ มีคนที่รักอยู่ใกล้ๆ ส่วนเรื่องโค้ช ผมทอดทิ้งเค้าพร้อมๆกับว่านแล้วอะครับ ( แค่โค้ชถูกทิ้งแบบไม่เหลือเยื่อใยเลย )
ต่างกับว่านที่ผมยังเหลือเยื่อใยอยู่เต็มไปหมด...ท่าทางจะตัดไม่ขาดง่ายๆด้วย T-T
หัวข้อ: Re: น้องชาย 2 ( Up เหตุการณ์ล่าสุด 25/07/11 )
เริ่มหัวข้อโดย: iambeer ที่ 25-07-2011 23:07:06
ติดตามเรื่องคุณโค้ชต่อไปคับว่าจะหมู่หรือจ่า
หัวข้อ: Re: น้องชาย 2 ( Up เหตุการณ์ล่าสุด 25/07/11 )
เริ่มหัวข้อโดย: me_alone ที่ 26-07-2011 00:30:47
@iambeer
ของคุณโค้ชผมมองว่าเวลานี้ มีวิธีเดียวที่เค้าจะกู้สถานการณ์ต่างๆกลับมาให้อยู่ฝั่งเค้าได้ คือเปลี่ยนนิสัยครับ
แต่ส่วนตัวผมว่ามันเป็นไปได้ยาก เพราะโค้ชเค้าอายุเข้า 30 แล้ว วัยนี้เปลี่ยนแปลงทัศนคติได้ยากแล้วล่ะครับ
อีกอย่างถ้าลงไปในเชิงลึกที่ผมไม่ได้ลงไป โค้ชเค้ามีความเชื่อมั่นในตัวเองสูงมาก ว่าตัวเองถูกที่สุด
เลยไม่ฟังใคร พอทักเค้าก็จะเอาเหตุผลที่ไม่เข้าท่ามาเถียงข้างๆคูๆไปเรื่อย ไม่ก็ใช้อำนาจความเป็นโค้ช หรือ รุ่นพี่บังคับรุ่นน้อง
แถมยังนิสัยขี้โม้อีก โม้จนเค้าคิดว่ามันเป็นเรื่องจริงซะเองด้วยซ้ำ ผมเคยลองทักแล้ว เค้าย้อนกลับมาซะผมอึ้งกิมกี่เลย
ตอนแรกคิดว่าเค้าหยอกเล่น ที่ไหนได้เค้าคิดจริง
นิสัยชอบพูดโอเวอร์เกินจริงนี่ก็อีกอย่างที่ทำให้คนเบื่อ ฟังโค้ชพูดทีไรต้องฟังหูไว้หูทุกที
นิสัยไม่มีความรับผิดชอบ คิดว่าเดี๋ยวคนอื่นก็ต้องมาแก้ให้
นิสัยเห็นแก่ตัว เอาแต่ได้นี่ก้อีกอย่างที่ทำให้ใครๆเกลียด ผมขอใช้คำว่าเกลียดนะครับ
นิสัยไม่มีมารยาท เห็นของชาวบ้านเป็นของตัวเอง วางแผนการใช้ของๆเค้า ทั้งๆที่ยังไม่ทันขอเจ้าของด้วยซ้ำ ไม่ก็ละลาบละล้วงของๆชาวบ้านเค้า กระเป๋า มือถือ netbook notebook สมุดจดส่วนตัว ฯ แกก็เปิดดู อ่าน แล้วก็วิจารณ์หมดอะครับ
นิสัยไม่ยอมรับผิด มีเหตุผลไม่เข้าท่าเถียงข้างๆคูๆให้ตัวเองถูกตลอด
นิสัยดูถูกคนอื่น เพื่อให้ตัวเองดูดี
นิสัยนินทาว่าร้ายใส่สีคนอื่นลับหลัง
นิสัยชอบวิจารณ์ชาวบ้านเสียๆหายๆ

ฯลฯ

เอาเป็นว่าผมพูดถึงแค่เรื่องที่พี่ป้อมพูดถึงตรงกับผมแล้วกัน จะได้ไม่ดูว่าผมคิดไปคนเดียว
ถ้าโค้ชเปลี่ยนนิสัยพวกนี้ได้.....เค้าก็จะเป็นที่รักของทุกคนได้ครับ

ส่วนตัวผมก็รอดูวันที่โค้ชพ้นกำหนดแบนของพี่ป้อม แล้วต้องมาสอนอยู่ยิมเดียวกันนี่ล่ะครับ ว่าโค้ชเค้าจะมอง หรือ ปฎิบัติกับน้องๆที่มาจากมหาวิทยาลัยยังไง
หัวข้อ: Re: น้องชาย 2 ( Up เหตุการณ์ล่าสุด 25/07/11 )
เริ่มหัวข้อโดย: icyblue ที่ 26-07-2011 00:53:59
พูดถึงโค้ช จะว่าไปเค้าก็ทำตัวเองแหละค่ะ

คนอย่างนี้ไม่เจอกับตัวก็ไม่สำนึก  เค้าควรจะได้รับผลของการกระทำที่ก่อเอาไว้  :beat:

อย่าสงสาร หรือเห็นใจ เพราะถ้ายังคิดไม่ได้ ไม่ปรับปรุงตัว คงจะเป็นภัยต่อวงการ และ ลูกศิษย์นะค่ะ

ส่วนเรื่องน้องว่าน ก็คงต้องลุ้นไปกับน้องเอค่ะ ว่าผลจะเป็นงัย จะ add?  จะรับของขวัญรึป่าว

 :กอด1: :L2: สู้ๆ ต่อไปค่ะ
หัวข้อ: Re: น้องชาย 2 ( Up เหตุการณ์ล่าสุด 26/07/11 )
เริ่มหัวข้อโดย: chaijian ที่ 27-07-2011 22:25:59
ตั้งนานกว่าจาได้แวะเข้ามา หวังว่าคงมะลืมกันนะครับ เฮ้อ อ่านของคุณเอ แล้วรู้สึกว่าสิ่งดีๆกำลังตามเข้ามาเรื่อยๆ แต่ผมสิ จากที่รายงานคุณเอไปว่ากำลังดีขึ้น ตอนนี้พังหมดทุกอย่างแบบไม่ได้ตั้งตัว  :seng2ped: เหมือนกำลังจะดีขึ้น แต่สุดท้ายเค้าก็เปรี้ยงมาแบบมะมีปี่มีขลุ่ย ว่าที่ผ่านมา อึดอัด มันมะช่ายตัวตนของเค้า  :L3: พอได้มาอ่านเรื่องคุณเอ ก็ได้แค่หวังแหละครับ ว่าสักวัน คงจะมีแบบนี้บ้าง มะหวังเรื่องใต้สะดือแระ แค่มีคนคอยคุยคอยเข้าใจ ก็จะพอ  :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: น้องชาย 2 ( Up เหตุการณ์ล่าสุด 26/07/11 )
เริ่มหัวข้อโดย: iambeer ที่ 27-07-2011 23:16:50
น้องกายนี่ชักยังไงๆแล้วนะครับนี่

ลองติดตามต่อไปมีลุ้นนะเนี่ย
หัวข้อ: Re: น้องชาย 2 ( Up เหตุการณ์ล่าสุด 27/07/11 )
เริ่มหัวข้อโดย: me_alone ที่ 28-07-2011 00:00:08
@icyblue
มารอลุ้นกันครับ ใหล้วันคล้ายวันเกิดว่านเข้ามาทุกทีทุกทีแล้ว

@chaijian
ง่าาา สู้ๆครับ อย่างน้อยๆก็ยังคุยกันอยู่ ส่วนของผมนี่ไม่ได้เจอกันเลย เลยไม่ได้แม้แต่จะคุยด้วยซ้ำว่ารู้สึกยังไง
ยังไงก็ขอเป็นกำลังใจให้นะครับ

@iambeer
กาย ส่วนใหญ่โทรมาคุยเรื่อง หญิง อะครับ
ผมเลยไมได้หวังอะไร แต่บางทีคำพูดของน้องก็ทำให้ผมยิ้มไม่ได้....จากบี จากว่าน ก็มีกายอีกคนที่ทำให้ผมยิ้มได้แบบนี้
หัวข้อ: Re: น้องชาย 2 ( Up เหตุการณ์ล่าสุด 27/07/11 )
เริ่มหัวข้อโดย: kritsada.s ที่ 28-07-2011 01:21:17
อ่านแล้วอึ้งนะ บีกับอ้น คุณเอคงอึ้งกว่าเพราะเจอกับตัวเอง เหอๆ ไม่รู้จะแสดงความคิดอะไรดีนะ ขนาดไม่ใช่ตัวคุณเอผมยังจุกและไปต่อไม่เป็นเลย

บีกับอ้น คงเป็นเพราะฟ้าลิขิตเนอะ(สุดท้ายก็หากันจนเจอ) ต่อไปอีกหน่อยทั้งคู่คงต้องแก้ปัญหากันต่อไปกับสิ่งที่จะเจอเมื่อเป็นอย่างนี้แล้ว  ที่แน่ะๆ ผมว่าบีคงรู้ว่าตัวเองเป็นอะไรยังไงก็เพราะคุณเอช่วยน้องเขาด้วย 55 เลยลงเลยอย่างนี้  เหอๆ
พิมพ์ไปใจก็หวิวไปเห้อ

เรื่องมันเศร้า  :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: น้องชาย 2 ( Up เหตุการณ์ล่าสุด 27/07/11 )
เริ่มหัวข้อโดย: me_alone ที่ 28-07-2011 01:51:26
@kritsada.s
จะว่าไปชีวิตจริงยิ่งกว่านิยายจริงๆนะครับ ฮะๆๆ
ใครจะคิดว่าจะมาเห็นกับตาแบบนี้ แล้วที่ไม่เห็นอีกล่ะ.....
เห็นทีแรกผมทำอะไรไม่ถูกเลย ตอนแรกกะว่าจะโทรหาบีหลังจากทานข้าวเสร็จ ถามเรื่องกระต่ายที่บีเคยขอ
เพราะเข้าใจว่าบีออกมาจากแถวมาหาไม่ได้เพราะอาจารย์อยู่ เลยกะว่าไว้โทรถามเอา

แต่มาเห็นอีกที.....จุกไปเลย.....แต่ใจหนึ่งก็ดีนะครับถ้าคนที่บีชอบเป็นอ้น
ถึงอ้นจะดุ จะว่าบียังไง อ้นก็ไม่เคยพาบีไปทำเรื่องไม่ดีเลยสักครั้งเดียว
จะพูดยังไงดี ใจหนึ่งก็แอบเสียใจ ถึงจะตัดใจเป็นพี่น้องแล้วก็เถอะ แต่ใจหนึ่งก็ดีใจถ้าบีจะคบกับอ้นจริงๆ
คนหนึ่งก็หล่อเท่ น่ารัก ผิวสีแทน หุ่นดี เล่นกีฬา ( ว่ายน้ำ เข้าสระทีมีสาวกรี๊ดด้วย ) เป็นนักกีฬาโรงเรียนอีก
อีกคนก็มาดขรึม ดูดีแทบจะทุกมุมมอง ( หน้าตาแนวเกาหลีอีก คือหล่อแบบหน้าสวย  ) เก่งวิชาการเรื่องเรียนไม่รองใคร

อืมมม สมกันดีครับ ฮ่ะๆๆ.....

ปล. พิมพ์ไปจุกที่อกไป...
หัวข้อ: Re: น้องชาย 2 ( Up เหตุการณ์ล่าสุด 27/07/11 )
เริ่มหัวข้อโดย: ummax ที่ 28-07-2011 04:03:12
สู้ ๆ ครับคุณเอ
 
จะคอยเป็นกำลังใจให้ครับ
 
มีอะไรหรือไม่มีก็ขอให้แวะมาเขียนหรือมาตอบทุกวันนะครับ
 
เพราะผมจะมาเปิดดูทุกวันครับ

ติดมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
เลยครับ
คิดถึงนะครับ
หัวข้อ: Re: น้องชาย 2 ( Up เหตุการณ์ล่าสุด 27/07/11 )
เริ่มหัวข้อโดย: kritsada.s ที่ 28-07-2011 13:42:12
ถึงแม้ว่าระหว่างบีกับอ้นจะลงเอยอย่างไร อย่างน้อยผมก็เชื่อว่าคุณเอก็คงดีใจกับน้องทั้งสองคน แม้ว่าในใจลึกๆ จะแอบเสียใจบ้างก็ตาม ช่วงแรกอาจจะทำใจลำบาก ขอเพียงแค่วันเวลาเป็นตัวขับเคลื่อนคุณเอก็คงจะทำใจได้มากขึ้น และค่อยๆ ลืมในสิ่งที่ทำให้เสียใจ ผมก็ขอให้คุณเอสู้ๆ น๊า  o13

วันนี้คู่แท้ของคุณเออาจจะยังมาไม่ถึง หรืออาจมาถึงแล้ว(กับน้องคนปัจจุบัน ฮ่าๆ) ก็ขอให้คุณเอทำปัจจุบันให้ดีที่สุด และมีความสุขกับทุกๆ วันนะครับ

ป.ล. ขอถาม คุณเอ เรียนเอกคอมพิวเตอร์ ทางด้านสายวิทยาศาสตร์ หรือทางด้านธุรกิจ
หัวข้อ: Re: น้องชาย 2 ( Up เหตุการณ์ล่าสุด 27/07/11 )
เริ่มหัวข้อโดย: me_alone ที่ 28-07-2011 14:43:20
@ummax
จะพยายามมาลงทุกวันนะครับ พอดีช่วงนี้ไม่มีอะไรใหม่เลยไม่ค่อยได้ลงครับ แฮะๆ
แต่ถ้ามีคนโพสตอบ ก็จะพยายามตอบกลับทุกวันนะครับ


@kritsada.s
คอมพิวเตอร์สาย Information Technology หรือ IT นั่นเองครับ
ส่วนเรื่องบีกับอ้นผมก็ว่าน้องเค้าสมกันดี เดี๋ยววันนี้จะลองโทรถามต้นกล้าดูว่าที่โรงเรียนคู่นี้เค้าเป็นไงบ้าง
หัวข้อ: Re: น้องชาย 2 ( Up เหตุการณ์ล่าสุด 30/07/11 )
เริ่มหัวข้อโดย: me_alone ที่ 28-07-2011 22:00:57
28 ก.ค.
          วันนี้ผมทำเรื่องยืมพื้นเบาะรองสำหรับฝึกซ้อมเทควันโดกับทางมหาวิทยาลัยไปแล้วครับ เค้าให้รอพรุ่งนี้บ่าย ไม่ก็วันจันทร์ ถึงจะรู้ว่ายืมได้ไหม พอตกตอนเย็นผมเข้ายิมก็ได้ข่าวจากพี่ป้อมว่า

"เมื่อกี้โค้ชเค้ามาเอาชุดของเค้า กับ แป้นเตะไปสองสามอันนะ"
"เค้าเอาไปทำอะไรเหรอพี่" ผมถามพี่ป้อม
"เห็นว่าเค้าจะเปิดยิมใหม่มั้ง"
พี่ป้อมหันมาตอบด้วยสีหน้าประมาณว่าระอาสุดๆ
"เปิดยิม ? ที่ไหนพี่"
"แถวบ้านแฟนเค้ามั้ง"
"แบบนี้ว่านก็ตามไปด้วยหน่ะซิ"
"พี่ก็ไม่รู้เหมือนกัน ก็ต้องแล้วแต่เค้า เราบังคับเด็กไม่ได้"
พี่ป้อมพูดจบก็นั่งลงบนพื้นข้างๆผม
"อืมมม"
"พี่ก็โทรไปหาว่านนะ ว่าขาหายเจ็บยัง เค้าก็บอกว่าดีขึ้นแล้ว พี่ก็เลยถามว่า ไม่เห็นแวะมาเล่นบ้าง เค้าก็บอกพี่ว่าเค้าลืม"
"แล้วพี่ว่าเค้าจะไหวไหม 4 ครั้งแล้วนะพี่ ที่พี่กับผมช่วยกันสร้างแล้วปล่อยให้เค้าดู สุดท้ายเด็กก็หายหมด"
ผมหันไปพูดกับพี่ป้อม
พี่ป้อมเงยหน้าลับตาก่อนจะสูดหายใจลึกๆหนึ่งเฮือกแล้วตอบมาว่า
"พี่ก็ไม่รู้ ว่าคนที่ไม่มีความรับผิดชอบแบบเค้า จะไปได้สักเท่าไหร่ พี่แนะนำให้หางานอื่น เค้าก็บอกว่าเค้าถนัดทางนี้"
"ถนัดทางนี้ ฮ่ะๆๆ"
ผมพูดซ้ำ ก่อนจะเผลอหัวเราะออกไปเบาๆ
"ถนัดจริงเหรอพี่ ทำยิมหวิดปิดตัวมากี่ครั้งแล้วก็ไม่รู้" ผมพูดต่อ
"นั่นซิ พี่เลยบอกให้มันลองหางานอื่นทำไง แต่มันก็ไม่ยอม ก็แล้วแต่เค้า ถ้าเค้าจะเอาเบาะ เอาอะไรไปก็ตามใจเค้า" พี่ป้อมพูดด้วยน้ำเสียงแบบไม่คิดจะง้อโค้ชเลยสักนิ๊ด
"เรื่องเบาะเอาของมหาวิทยาลัยก่อนก็ได้พี่ ยืมได้จนสิ้นปีการศึกษาล่ะครับ"
"อืมมม"
พี่ป้อมหันมายิ้ม ก่อนจะลุกไปสอนน้องต่อ

           ถ้าโค้ชเปิดยิมใหม่ผมว่าว่านตามไปแหง๋เลย

20.30 น.
           พลอยโทรมาครับ เล่าเรื่องสอบ กับเรื่องเพื่อนๆให้ฟัง ก่อนจะถามเรื่องยิม แล้วพลอยก็อาสาจะเอาตุ๊กตาไปให้ว่านในวันคล้ายวันเกิดว่านที่ค่ายเลย แล้วพลอยก็บอกว่า มีสาวมาชอบว่านเยอะขึ้น พอผมถามพลอยว่า ทำไมล่ะ พลอยก็บอกว่า "ก็ว่านหล่อ แถมเดียวนี้ว่านดูหน้าตาน่ารักขึ้นมากกว่าตอน ม.1 เยอะเลย"

21.07 น.
          กายโทรมาครับ กายเล่าเรื่องสอบให้ฟัง เรื่องเพื่อน แล้วก็เรื่องน้องชายที่ไม่สบายจนต้องมานอนห้องเดียวกับกาย พอดีว่าผมกำลังใจลอยเรื่องอะไรไม่รู้ ไม่มีสมาธิเท่าไหร่ ผมเลยขอวางสายก่อน แล้วจะโทรหากายอีกครั้ง สัก 4 ทุ่มดีไหม ?

ต้นกล้า
         ถามต้นกล้าแล้ว ต้นกล้าก็บอกว่า คู่นั้นเค้าไปไหนมาไหนด้วยกันตลอด ถึงจะอยู่กันคนละห้อง แต่ตอนเที่ยงก็ไปทานข้าวด้วยกัน ตอนเย็นก็ไปนั่งรอที่บ้านมารับด้วยกัน แถมยังนั่งซบกันแบบที่ผมเห็นบ่อยๆด้วย ต้นกล้าบอกว่า เคยมีคนมาเล่าให้ฟังว่า มีคนเห็นบีนั่งกอดอ้นบ่อยๆ พอถามว่านั่งกอดแบบไหน ต้นกล้าก็บอกว่าฟังจากที่พวกผู้หญิงพูดมา ก็ประมาณแบบเดียวกับที่ผมเคยนั่งกอดบีนั่นล่ะ แค่เปลี่ยนเป็น อ้นมานั่งพิงบี แล้วบีก็กอดอ้นแทนเท่านั้น

            เรื่องกาย เดี๋ยวรอน้องโทรมาเองดีกว่า แล้วผมจะเอามาลงเพิ่มให้แล้วกัน ไม่น่าเกิน 24.00 ครับ ^^

22.30 น.
          เสียงโทรศัพท์ผมดังขึ้น....'กาย Calling'

"กำลังว่าจะโทรหาพอดีเลย"
"อ่อครับ พี่ผมว่าจะนอนแล้ว เลยจะโทรมาบอกว่าฝันดี"
"อื่อกายด้วยนะ"
"แล้วที่ไปดูหนังพี่ชวนใครไปด้วยหรือเปล่าครับ"
"เปล่านะ"
"งั้นก็เท่ากับว่าผมไปกับพี่สองคน"
"คงงั้น กายจะชวนเพื่อนมาด้วยก็ได้นะ"
"อืมมม ผมไม่รู้จะชวนใครหน่ะพี่ ไปกับพี่สองคนก็ได้"
"อื่อ"
"งั้นผมไปนอนก่อนนะครับ"
"ครับผม"



29 ก.ค.
            ตอนพิมพ์ edit นี้ก็ปาเข้าไป 00.50 แล้ว ผมขอเริ่มเป็นวันใหม่เลยแล้วกัน เมื่อสักครู่พี่ป้อมโทรมาครับ พี่ป้อมโทรมาบอกว่า

"เอ เมื่อกี้โค้ชเค้าโทรมาหาพี่"
"ว่า..."
"เค้าถามพี่ว่าตกลงพี่เป็นโค้ชให้กับมหาวิทยาลัยใช่ไหม พี่เลยตอบไปว่าใช่ เพราะเค้าต้องการคนใน"
"ครับ"
"แล้วโค้ชเค้าก็ถามว่า พี่เป็นคนในด้วยเหรอ พี่ก็เลยบอกไปว่า พี่เป็นนักศึกษา ป.โท เลยถือว่าเป็นคนใน"
"ครับ"
"แล้วโค้ชเค้าก็บอกว่า เค้าก็เป็นคนในเหมือนกัน เพราะเค้าเรียนที่นี่ พี่เลยบอกไปว่าพี่ก็ไม่รู้เหมือนกัน"
"พี่ป้อมรู้ไหมครับว่าโค้ชเค้าจ่ายค่าเทอมครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่ แล้วเค้าเข้าเรียนครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่"
ผมถามพี่ป้อมด้วยน้ำเสียงผ่อนคลาย
"ไม่รู้ซิ"
"เท่าที่ผมทราบ โค้ชเค้าจ่ายค่าเทอมครั้งสุดท้ายเมื่อ 4 ปีก่อน แล้วเค้าเข้ามาเรียนที่นี่ครั้งสุดท้ายเมื่อ 4 ปีก่อนเช่นกัน แถมไม่ยังไม่จบด้วย เห็นว่ายังค้างอีกหลายวิชา ซึ่งตอนนี้ในทางกฏของทางมหาวิทยาลัย โค้ชเค้าพ้นสภาพการเป็นนักศึกษาตั้งแต่เมื่อสองปีก่อนแล้วครับ เพราะไม่มีการติดต่อใดๆกับทางมหาวิทยาลัยเลย"
"เอ ตรวจสอบดูแล้วเหรอ"
พี่ป้อมถามกลับด้วยน้ำเสียงไม่แน่ใจ
"ถ้าว่ากันตามกฏนะครับ แต่เดี๋ยวผมตรวจสอบให้ไม่ยาก"
"เฮ้อ....อะไรของมันอีกแล้ว" พี่ป้อมถอนหายใจพลางบ่นงึมงำๆ
"นั่นซิครับ เค้ามาแนวนี้ตลอดอะ เชื่อผมไหมครับ ถ้าพี่ไปพูดตามผม โค้ชจะตอบมาประมาณว่า 'ก็ผมไม่รู้' ไม่ก็เถียงต่อไปให้เราเสียเวลาไปตรวจสอบ ซึ่งสุดท้ายผลมันก็เหมือนเคย เหนื่อยเปล่า"

            สุดท้ายขนาดว่าเป็นแบบนี้แล้วโค้ชเค้าก็ยังไม่ทิ้งนิสัยแบบนี้อีก....ถ้าคนไม่รู้ก็อาจเชื่อเค้าได้ แต่คนที่รู้แบบเราๆก็ต้องเซ็งกับการคอยตามเช็ดตามล้างเรื่องที่เค้าทำทิ้งไว้ไปเรื่อยๆ ก็ดีแล้วที่เค้าไม่มายุ่งกับชมรมที่มหาวิทยาลัยอีก อ่อ ผมลืมเล่าไป....ก่อนหน้านี้ครับตอนที่โค้ชรู้ว่าตัวเองถูกปลดเค้าพยายามทำทุกอย่าง ไม่ซิต้องบอกว่าพูดว่าจะทำทุกอย่างมากกว่า เพื่อให้ตัวเองไม่ถูกปลด แต่พอถึงตอนที่ต้องลงมือทำ เค้าก็ไม่เป็นทำอะไรสักอย่าง แถมทำเป็นพูดกับพี่ป้อมว่า ได้ข้อมูลจากวงในมาว่า การจะปลดได้ต้องมี 2 กรณีคือ 1 ฉ่อโกง และ 2 ถูกโหวดออก ซึ่งโค้ชเค้าบอกว่าเค้าไม่เคยฉ่อโกง น่าจะเป็นถูกโหวดออกมากกว่า พอพี่ป้อมเล่าถึงตรงนี้ผมเกือบจะหลุดฮาออกมา
            อย่างโค้ชเนี่ยะนะไม่ฉ่อโกง....ยักยอกของเค้าไปเท่าไหร่แล้วล่ะจำได้ไหมนั่น ผมเลยอธิบายให้พี่ป้อมฟังเรื่องที่โค้ชยักยอกอุปกรณ์ของมหาวิทยาลัยมาเป็นของส่วนตัว จากนั้นพี่ป้อมก็พูดถึงจุดสำคัญว่า "โค้ชเค้าฝากพี่มาบอกพวกเราว่า ต่อจากนี้ไปห้ามเอ่ยชื่อเค้าอีก ถ้าใครถามก็ห้ามบอกว่าเค้าสอน หรือ ดูแลที่นี่ แล้วก็เวลาทำอะไรห้ามเอาชื่อเค้าไปอ้าง" ทันทีที่พี่ป้อมเล่าจบ ผมเผลอหัวเราะออกมาทันที พวกน้องๆคณะกรรมการที่มหาวิทยาลัยที่ได้ยินก็หัวเราะกันน้ำตาเล็ดเลย
            ระหว่างที่พวกผมหัวเราะพี่ป้อมก็ทำหน้า งงๆ ผมเลยอธิบายให้พี่ป้อมฟังว่าโค้ชทำอะไรบ้างที่มหาวิทยาลัย.....พอผมบอกพี่ป้อมจบพี่ป้อมก็ ฮา น้ำตาร่วงตามพวกผมทันที....ในช่วงเวลาแบบนี้โค้ชยังสำคัญตัวเองผิดได้อีก....ถ้าเป็นผมถอนตัวไปแล้วพูดแบบนี้ค่อยน่าฟังหน่อย เพราะที่มหาวิทยาลัยถ้าพูดถึงเทควันโดไม่มีใครเค้าคิดถึงโค้ชสักคน อยากเล่าให้ผู็อ่านฟังละเอียดๆจัง แต่มันไม่เกี่ยวกับน้องๆอะครับ ฮ่ะๆ

             เมื่อค่ำพลอยโทรมาหาผม....ระหว่างที่คุยกับผมอยู่นั้น....กายก็โทรมาหาพลอยพอดี.....เลยประชุมสายกัน 3 คน คุยกันเรื่อยเปื่อย....แล้วก็เป็นอีกครั้ง....ที่ผมรู้สึกว่า....ตรงนี้มันไม่ใช่ที่ของผม.....กายกับพลอยคุยกันอย่างสนุกสนาน ถึงกายจะคุยกับผมเป็นระยะๆก็เถอะ....แต่มันก็ดูเหมือนตรงนี้ไม่ใช่ที่ที่ผมจะยืนอยู่ดี....อืมม...แล้วกายบอกผมเรื่องที่ว่านล้มด้วย....ผมเลยบอกกายว่าผมทราบแล้ว กาย ถามกลับว่าผมทราบได้อย่างไร ตอนกายถามน้ำเสียงกายดูจะ งง ใหญ่เลย ผมเลยบอกกายไปว่า

"พี่เห็นพี่สาวปั่นเค้ามาบอกว่านว่า 'หายไว ๆ นะจ๊ะ ทีหลังก็อย่าวิ่งอีก ดูแลตัวเองหน่อย :")' มันเลยเดาไม่ยากครับ"

             ดูเหมือนวันนี้กายก็ยังไม่รู้เรื่องของผมกับว่าน....ระหว่างที่คุยพลอยเองก็ไม่ได้พูดอะไร.... อ่อ...เรื่องดูหนังด้วย สรุป กายไม่ได้ไปกับผมนะครับ.....กายบอกว่า "3 อาทิตย์ที่ผ่านมานี้กายไปทุกอาทิตย์เลย กลัวป๊าจะดุเอา" ผมเลยบอกกายไปว่าคราวหน้าก็ได้ จริงๆเรื่องกายผมไม่ได้หวังอะไรหรอกครับ อย่างที่บอก ถ้ามันจะมากกว่านี้ก็ให้เป็นเรื่องของอนาคตแล้วกัน ที่สำคัญ....ผมเพิ่งจะรู้ว่ากายโทรหาพลอยทุกวัน.....แล้วค่อยโทรหาผม....อืมมมม....เพราะงั้น.........ไม่หวังอะไรเลยดีกว่าจะได้ไม่เจ็บ.....
            เมื่อตอน 5 ทุ่มเศษ....โทรศัพท์ของผมก็ดังขึ้น....พร้อมประโยคเดิมจากกาย "ฝันดีนะครับพี่"



30 ก.ค.
          วันนี้ตอนเช้าวางแผนจะไปถ่ายภาพจนถึงบ่ายครับ แต่พอดีว่าวันนี้ฟ้าปิด ทำให้น้องนั่งจับเจ่าอยู่บ้านจนถึงบ่ายระหว่างนั้นเห็นกาย โพสใน FaceBook ว่า "เซ็งโว้ยยยยยยย"  ผมเลยตอบน้องไปว่า "หาทำอะไรแก้เซ็งดี" ก่อนที่จะออกไปดู Captain America: The First Avenger คนเดียว กลับมาถึงบ้านอีกทีก็ทุ่มกว่าๆ ก่อนจะทำกับข้าวทาน....ประมาณ 2 ทุ่มเศษ กายก็โทรมาเหมือนเคย รวมๆคือ กายบอกว่าวันนี้เซ็งมาก อยากไปดูหนังกับผมแต่คุณพ่อไม่ให้ไป ....ผมเลยถามกายว่าที่โพสใน FaceBook ว่า เซ็ง นี่ เซ็งเรื่องนี้เหรอ กายตอบว่า "เปล่าครับ แต่อยากรู้ว่าใครจะสนใจผมบ้าง พอเข้าไปอ่านก็เห็นพี่โพสอยู่คนเดียว" จากนั้นกายก็ชวนผมไปร้องเพลงพรุ่งนี้แทน ตอน 11.00 - 13.00 น. ก็ไม่อยากจะหวังอะไรมากมาย แล้วผมก็ขอกายวางสายก่อนจะไปทำกับข้าวต่อ จนประมาณ 4 ทุ่มเศษ กายก็โทรมาอีกครั้ง เพื่อบอกว่า "ฝันดีนะครับพี่ พรุ่งนี้เจอกัน"
หัวข้อ: Re: น้องชาย 2 ( Up เหตุการณ์ล่าสุด 29/07/11 )
เริ่มหัวข้อโดย: icyblue ที่ 29-07-2011 10:24:57
ไม่รู้น้องว่านจะตามโค้ชหลงตัวเองไปรึป่าว :เฮ้อ: 
ว่านดันเห็นกงจักรเป็นดอกบัว  ตัวเองจะแย่เอาล่ะสิ  น่าเป็นห่วง

ส่วนน้องบี ไปกับน้องอ้นซะแระ

มาช่วยลุ้นน้องว่านให้กับเอต่อล่ะกัน   :z2:

หัวข้อ: Re: น้องชาย 2 ( Up เหตุการณ์ล่าสุด 29/07/11 )
เริ่มหัวข้อโดย: aries ที่ 29-07-2011 10:53:03
ทำใจยากนะครับ เรื่องเเบบนี้ รักเขาห่วงเขาหมดใจ อยากให้เขาไปในเเนวทางของเขาเเต่ยังหวงเขาอยู่
ผมก็มีน้องอยู่คนนึง เลี้ยงมาตั้งเเต่ ม.1 ไม่ใช่พามาเลี้ยงนะครับ ก็ดูเเลเขา พาเที่ยว เขาจะไปไหนพาไป ไปรับที่โรงเรียน ฝนจะตกก็ออกไปสุดท้ายก็ติดฝน (ทั้งๆที่รู้ก็ไป ) ทำให้ทุกอย่าง โดนเเม่เขาตีผมก็ไป ถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต เเต่สุดท้ายพอโตเขาก็ไปตามทางของเขา มีเเฟน ผมกับน้องผมไม่มีอะไรกันเลยนะครับอย่างมากก็เเค่นอนกอดเเบบเอามือพาดตัวเขาไม่ได้เเนบชิดอะไรเเต่ไม่ได้ตั้งใจเพราะตื่นมาก็เป็นเเบบนั้นเเล้ว 555 เเต่ตอนนี้ก็ยังเหมือนเดิม มานอนที่บ้าน โทรมาขอนะครับ
น้อง:ออกมารึป่าว
ผม:ทำไม
น้อง:จะไปนอนด้วย ไม่ได้ไปนอนนานเเล้ว
ผม:ดูก่อน
น้อง:นะนะไม่อยากนอนบ้าน
ผม:อือๆๆ
เป็นเเบบนี้ทุกทีสุดท้ายก็ต้องไป เเต่เวลามานอน ก็ไม่ได้ทำอะไรกันเพราะไม่ได้ทำอะไรกันอยู่เเล้ว พูดตรงๆก็ยังทำใจไม่ได้ เเต่อยากให้น้องเขาเลือกทางเขาเองเราก็ต้องให้เขาทำไปเเต่เราก็ดูอยู่ห่างๆ
เมื่อก่อนเวลาทะเลาะกันก็จะพูดกันตรงๆเขาดูดบุหรี่(เเอบดูด)พอผมทราบผมไม่คุยด้วยเลยจนเขาถาม
น้อง:เป็นไร
ผม:ป่าว
น้อง:อืม
เเล้วก็เงียบกันไป หลายวัน ไม่ไปหา ไม่คุยไม่ทักเอ็ม จนน้องถามว่าเป็นอะไร ผมก็พูดไปเลยทะเลาะกัน เเต่สุดท้ายก็ อถัยให้บอกไปว่าเลิกได้ไหม เขาว่าจะพยายาม เขาก็หยุดได้เทอมเดียว55เเล้วก็ดูดต่อ ผมก็ปล่อย เเต่ขออย่างเดียวอย่าให้ผมเห็น
อยากจะบอกพี่เอว่า ไปหาเขาเถอะ คุยกันตรงๆไปเลย พี่ไปหาเขาคุยกับเขา ชนกันไปเลยว่าจะยังไงขาดเป็นขาด ก่อนที่จะซ้ำรอยเดิม เพราะตอนนี้กายเริ่มเข้ามาเเล้วถ้าพี่ยังรักว่านผมว่าพี่ห่างจากกายเถอะเพราะเด็กไม่ว่าจะ y หรือไม่ (พึ่งรู้ว่า y คืออะไร 555 ) ถ้าได้รักใครชอบใครเเล้วเขาจะฝังใจไปตลอด คุยกันตรงๆไปเลยเอาให้เเน่ใจถ้าน้องบอกว่าไม่ก็พูดซ้ำไปพูดไปอีกจนเขาเเน่ใจว่าที่เขาพูดนั้นจิงไม่ว่าจะโดนด่ายังไง เด็กอะดูง่ายว่าเขายังมีใจรึป่าวถ้าเสียงอ่อนลงเเสดงว่าเด็กมีใจ ถ้าเขาไม่ก็บอกเขาไปว่า ขอให้จากกันด้วยดีนะยังไงพี่ก็รักน้องห่วงน้องอยู่ ยอมเจ็บซักหน่อย เพื่อความสบายใจของเราเเละการก้าวไปข้างหน้าของเรา เอาใจช่วยนะครับ (ได้อ่านเเล้วอยากรู้จักพี่เอจังถ้าอนุญาตินะครับขอล่วงหน้าก่อน 555) จะได้มีคนเลี้ยงหนม 7-11
อีกอย่าง ภูมิใจมันก็เเค่รูปกายภายนอก สนิทใจมันอยู่ข้างใน ยังไงความสนิทใจก็อยู่ยืดยาวกว่าครับ ช่วงที่น้องเขายังไม่หายไปที่เขาไปยิมเพราะพี่เอนั้นเเหละครับ เเอบมองหลบหน้าเขาทำให้พี่รู้ทั้งนั้น (ไม่อย่างนั้นพี่จะรู้หรือว่าน้องเเอบมอง)ถ้าพี่ชนไปตั้งเเต่ตอนนั้นไม่ว่าเขาจะด่าว่าอะไรก็ตามชนกันไปเลยผมว่าอะไรก็ดีขึ้นเเล้วละ
ปิดท้ายเหมือนน้อง บี ฝานดีคร้าบๆๆๆๆๆ :bye2:
หัวข้อ: Re: น้องชาย 2 ( Up เหตุการณ์ล่าสุด 29/07/11 )
เริ่มหัวข้อโดย: naoki24 ที่ 29-07-2011 13:09:36
คุณ aries  rep 318 พูดได้ดีครับ ผมก็เคยบอกคุณเอไปแล้วเหมือนกัน แต่ของคุณต่างจากคุณเอคืน น้องว่านเดินหนีอ่ะ
เป็นผมผมก็ลำบากใจอ่ะนะ เลยต้องให้เวลากับผู้เชื่อมโยงช่วยคุณเอไปก่อน
ผมว่าคุณเอเค้าพร้อมคุยแล้วหละ เหลือแต่ว่าจำคุยยังไงไม่ได้ให้เค้าหนี ตอนนี้ผมรอผลวันเกิดคุณเอนั้นแหละ

อ้อลืมเลย สวัสดีคุณเอ วันนี้แอบมาอ่านก่อนกลัวลิงมันกวน
อ่านมา3อาทิตย์นี่รู้สึกว่าคุณเออะไรก็ดีขึ้นนะ
เว้นแต่ ทำไมน้องอ้นกับน้องบี......อ่ะนะ หรือว่าความเคยชินหรือิดถึงคุณเอกัน
ไม่ลองโทรไปหาอ้นหรอครับ(ไม่ใช่ผมนะถึงชื่อจะเหมือนกันก็เหอะ)ชวนมาเล่นเทควันโด ซึ่งไม่มีโค้ชตามที่น้องอ้นต้องการแล้ว
ถ้าน้องอ้นมาผมว่าน้องบีก็น่าจะตามมาเล่นด้วยเหมือนกันแหละเนอะะะะะะ

เอาละผมต้องเตรียมตัวไปรับลิงกลับบ้านละ ขอให้คุณเอโชคดีมีความสุข :z2:
หัวข้อ: Re: น้องชาย 2 ( Up เหตุการณ์ล่าสุด 29/07/11 )
เริ่มหัวข้อโดย: me_alone ที่ 29-07-2011 13:32:20
@icyblue
ถ้าบ้านแฟนโค้ชไม่ใกลจากโรงเรียนว่านมาก ผมว่าว่านไปครับ เด็กคนนี้ถ้าว่าจะทำอะไรล่ะก็ เค้าสู้สุดใจเลยทีเดียว



@aries
คือจริงๆก็อยากคุยนะครับ แต่ปัญหาคือว่านเดินหนีครับ ทั้งหนี ทั้งหลบเลย ทำให้ผมเข้าไปคุยกับน้องไม่ได้
โทรหาก็ไม่รับ MSN ก็ไม่เห็น On แถมใน FaceBook ก็ลบผมออกจากเพื่อนอีก
จริงๆผมก็อยากรู้ว่าที่ว่านเปลี่ยนไปแบบนี้เพราะอะไร มันเกี่ยวกับเรื่องเทควันโดไหม
ที่หลังๆโค้ชพยายามดูถูกผมกับพี่ป้อมอยู่เนืองๆ ทำให้ว่านหมดความศรัทธา แล้วเปลี่ยนเป็นดูถูกแทน
ซึ่งถ้าเกี่ยว นี่มันจะเป็นอะไรที่แย่มาก
หรือ....
ว่านยังทำใจรับเรื่องที่เกิดขึ้นไม่ได้ ?
หรือ....
ว่านก็แค่อยากทำแบบนั้นเพื่อให้ผมใส่ใจเค้า ง้อเค้า อ้อนเค้า แต่กลับเป็นว่าผมประชดคืนซะงั้น เรื่องเลยบานปลายไปอีก
สุดท้ายผมก็ได้แค่เดาไปต่างๆนาๆเพราะว่านไม่ยอมพูดว่ามันเกิดอะไรขึ้น T-T

ส่วนเรื่องกาย กายอาจจะแค่เหงา ไม่ก็เห่อผมมั้งครับ กายเป็นพี่ชายโคสุดในพี่น้อง 3 คน ( บีก็พี่ชายโตสุดในพี่น้อง 3 คนเหมือนกัน )
พอมีผมเป็นพี่เข้าไปอีกคนน้องเลยอยากอ้อนพี่บ้าง
กับกายผมว่า....Y ยากอะครับ เท่าที่คุยกายชอบพูดถึงเรื่องผู้หญิง แถมอายุ 14 ขวบ มีแฟน หญิงมาแล้ว 4 คน
ถึงคนที่ 4 น้องจะบอกว่ายังไม่เป็นแฟนก็เหอะ แต่กายก็ดูจะพยายามตื้อเค้าอยู่ไม่น้อย
กับกายผมเลยมองแค่เป็นน้องชายคนหนึ่งมากกว่าครับ ถ้ามันจะมากกว่านั้นก็ถือว่าเป็นเรื่องของอนาคตแล้วกัน ^^

เรื่องน้องของคุณaries ก็น่าเห็นใจ ดูแล้วว่าน่าจะดูแลน้องมานานมากมาย
ความผูกพันธ์น่าจะมากกว่าของผมเยอะเลย เพราะผมดูแลบีกับว่านมาแค่ 3 ปีเท่านั้น
ไม่ซิถ้านับเวลาดูแลว่านจริงๆจังๆมันก็แค่ 1 เดือนเศษเท่านั้นเอง ก่อนหน้านั้นว่านก็ได้แค่ตามบีไปเรื่อยๆเท่านั้นเอง


@naoki24
เรื่องอ้นกับบี.....รวบคู่เลยดีไหมครับ ฮ่ะๆๆๆ
ถ้าอ่านน้องชาย 1 จะรู้ว่าผมแอบลวนลามอ้นไปเหมือนกัน 5555+
แล้วผมก็คิดจะลองชวนอ้นมาเหมือนกัน เพราะผมเชื่อว่าถ้าอ้นมา บีตามมาแน่นอน....แต่...บีจะยังให้ผมกอดอยู่ไหมล่ะ
แล้วถ้าบีกับอ้นมานั่งสวีดกันต่อหน้าผม ผมจะทำยังไงดี.....
เข้าไปแจมด้วยดีไหม ฮ่ะๆๆ.....พูดเล่นหน่ะครับ
แต่ถ้าน้องให้แจมด้วย 3P เลยนะเนี่ยะ หุหุหุ
ล้อเล่นอีกรอบครับ แฮะๆๆ....

อืมมม จะว่าไปหลังๆพอมีกายมาคุยด้วยทุกวัน มันทำให้ผมผ่อนคลายความรู้สึกคำนึงถึงว่านไปได้ระดับหนึ่งเลยนะ
แต่เวลานอนบางคืน....ผมก็ยังฝันถึงว่านอยู่ดี.....
ผมนอนบนเตียงที่ว่านเคยนอน...ผมนอนกอดหมอนที่ว่านเคยหนุน...ห่มผ้าห่มที่ว่านเคยห่ม...แล้วมันจะลืมว่านได้ยังไงกัน T-T
หัวข้อ: Re: น้องชาย 2 ( Up เหตุการณ์ล่าสุด 29/07/11 )
เริ่มหัวข้อโดย: aries ที่ 29-07-2011 14:38:01
สวัสดียามบ่ายครับ
ช่วงนี้ว่างเยอะ 555 พึ่งลาออกจากงานช่วงเช้า เหลือเเต่งานช่วงเย็น(สอนพิเศษ) รอสอบ กพ เเละรองานใหม่ครับ (ธุรกิจส่วนตัว)
พี่เอ ทำใจสบายๆนะครับ ร่าเริงเข้าไว้ คนรอบข้างพี่เขาก็มองเเละยังห่วงพี่อยู่อีกเยอะ (รู้สึกว่าน้องๆจะหลายคน)เขาไม่อยากเห็นพี่เศร้าหรือเสียใจ อย่างน้อยพี่สบายใจน้องๆพี่ๆเขาก็สบายใจนะครับ ( เพื่อนๆในที่นี้ก็สบายใจไปด้วย )
ห่วงนะครับ 555 (ผมก็รอลูกลิงผมมาเรียนเหมือนกัน ลิงจิงๆ ปีนป่าย เกาะ ขี่คอ ส่วนไหนที่ผมรับน้ำหนักได้ปีนหมด ดีนะที่น้องมันรู้ ว่านั่งเเบบนกฮุกบนหัวผมไม่ได้ ไม่งั้นคงนั่งไปเเล้ว) ตลกให้ฟัง เเต่จิงน้อ
สู้ๆนะครับ
จิงๆอยากเรียนคาราเต้อะครับ ตอนเรียนมหาลัยเคยไปสมัครอยู่เขาให้ต่อยอยู่หน้ากระจก อายตัวเองเลยไม่เรียน 555 เเต่ก็ชอบนะครับ ศิลปการต่อสู้ เเต่ตอนนี้คงเรียนไม่ไหวเเล้ว
เเล้วเจอกันใหม่ครับ
หัวข้อ: Re: น้องชาย 2 ( Up เหตุการณ์ล่าสุด 29/07/11 )
เริ่มหัวข้อโดย: iambeer ที่ 30-07-2011 18:34:18
อ่านแล้วจุกแทนเลยคับ เหอๆ

ไม่รู้เค้าไปสปาร์คกันตอนไหน แต่เท่าที่ฟังดู น้องเค้าพยายามปรับตัวเข้าหาตลอด

มันจะทำให้คบกันไม่ยืดนะเนี่ย เพราะเราจะสูญเสียความเป็นตัวของตัวเอง

ก็ได้แต่เป็นกำลังให้เค้าทั้งสองคนเนอะคุณเอ เป็นกำลังใจให้คุณเอด้วยคับ
หัวข้อ: Re: น้องชาย 2 ( Up เหตุการณ์ล่าสุด 30/07/11 )
เริ่มหัวข้อโดย: nco1236 ที่ 31-07-2011 16:46:07
ยิ่งอ่านยิงเวียนเศียร ชุลมุนหมดแล้ว o2
หัวข้อ: Re: น้องชาย 2 ( Up เหตุการณ์ล่าสุด 02/08/11 )
เริ่มหัวข้อโดย: me_alone ที่ 01-08-2011 00:24:28
31 ก.ค.
               ตื่นมารอโทรศัพท์กายตั้งแต่ตอน 10.30 น. รอจนถึง 11.20 ก็ไม่มีวี่แวว เลยลองโทรไปเอง ได้ความมาว่า "กายเพิ่งตื่น ขอเวลาอาบน้ำ ทานข้าวก่อนแล้วจะโทรหาอีกที" แล้วไม่นานหลังจากที่น้อบอกให้คอย กายก็โทรมาให้มารับที่บ้านครับ วันนี้กายแต่งตัวน่ารักดีครับ เสื้อคอปกแขนสั้นสีดำมีลายคาดแดงเล็กน้อยที่แขนเสื้อยี่ห้อ Adidas กางเกงขาสั้นสีดำลายรับกัน น่าจะเป็นชุดที่เค้าขายเป็นชุด ( ทั้งเสื้อ และ กางเกง ) ส่วนรองเท้ากายใส่เป็นรองเท้าผ้าใบสีดำคาดแดงเช่นกัน
               พอกายขึ้นรถกายก็บอกว่า "วันนี้พลอยมาด้วย พลอยบอกให้รอหน้า KFC"  แล้วผมก็คุยกับกายแบบเรื่อยเปื่อยไปจนถึง KFC พอถึงผมกับกายก็ไปยืนรอพลอยใน KFC ก่อนที่ผมจะถามกายว่า

"หิวอะไรอีกไหม?"
กายหันมามองผมยิ้มๆแล้วพูดว่า "ผมทานข้าวผัดมาแล้ว"
"อืมมม ข้าวผัดอะไรเหรอ"
"ข้าวผัดไข่ครับพี่"
"บำรุงดีจริง"
"ทานอีกก็ได้ พี่ทานด้วยกันนะ"
กายพูดพลางยิ้มๆ
"อื่อ ก็ได้"

              แล้วผมกับกายก็เดินไปสั่งที่เค้าเตอร์ ผมเอาข้าวเขียวหวานไก่ ส่วนกายเอาข้าวยำไก่แซบ พอสั่งเสร็จถึงตอนจ่ายเงิน....กายควักใบพันออกมายื่นให้พี่พนักงานอย่างรวดเร็วแล้วบอกว่า

"คิดรวมครับ"
"คิดแยกครับพี่"
ผมรีบบอกพี่พนักงานทันที
"ไม่ต้องครับ คิดรวมเลยพี่"
"ไม่ๆ แยกบิลครับ"
ระหว่างที่ผมกับกายเกี่ยงกันนั้นพี่พนักงานคงอยากเอาเครื่องคิดเงินฟาดหัวพวกผมอยู่แน่ๆ ทว่ากายก็จบการเกี่ยงกันไปมาครั้งนี้ด้วยคำพูดที่ว่า
"พี่เอ...มื้อนี้มห้ผมเลี้ยงพี่เถอะ ถ้าพี่ไม่ยอมผมน้อยใจนะ" กายหันมาพูดด้วยสีหน้าแอบเครียดนิ๊ดหนึ่ง
"เอ่อ...จะว่าอะไรไหมถ้าพี่จะบอกพวกเราว่า จ่ายรวมแล้วไปจ่ายให้กันทีหลังก็ได้" พี่พนักงานสาวสวยพูดขึ้น ผมกับกายหันไปยิ้มให้พี่เค้าแบบประมาณว่าวางตัวไม่ถูกเลยทีเดียว

           หลังจากได้ข้าวแล้วผมกับกายก็เดินไปหาโต๊ะนั่งทาน แต่ยังไม่ทันจะได้ทานคำแรกพลอยก็มาแล้วผมกายพลอยก็นั่งคุยกันอย่างสนุกสนานถึงเรื่องทั่วๆไป ระหว่างที่คุยพลอยก็บอกว่ามีเวลาถึงแค่บ่ายโมงเพราะต้องไปเรียนพิเศษต่อ ส่วนกายก็มีเวลาถึงบ่ายสองก่อนจะไปเรียนพิเศษต่อเหมือนกัน หลังจากทานข้าวเสร็จ กาย เลยรีบเดินนำไปที่ห้องคาราโอเกะอย่างไว ก่อนจะเริ่มเลือกเพลงร้องกันอย่างสนุกสนาน อ่อ...ค่าห้องนี้ผมออกกับกายคนละครึ่งครับ ระหว่างเลือกเพลงกายก็หันมาถามผมตลอดว่า "เพลงนี้พี่ร้องได้ไหม" เพลงส่วนใหญ่ที่กายเลือกกายจะให้ผมร้องด้วย ส่วนพลอย ส่วนมากจะร้องคนเดียว มีบางเพลงที่กายแจมบ้าง
            แล้วช่วงเวลาแห่งความสุกก็จบลงอย่างรวดเร็ว แต่ถึงจะเร็วยังไงก็ทำให้พลอยไปเรียนพิเศษช้าไปเกือบหนึ่งชั่วโมง ระหว่างทางที่เดินลงมาทางลานจอดรถ กายก็ถามขึ้นว่า

"พลอยเคยบอกว่าพี่เอเจ็บเข่าเหมือนว่านเหรอครับ"
"อื่อ ใช่ แต่ว่านเข่าเสียเร็วกว่าพี่อีก อายุ 14 เอง เจ็บขนาดนั่งคุกเข่ายังปวกเข่าเนี่ยะหนัก"
ผมหันไปตอบกาย
"แล้วพี่เอดูแลตัวเองยังไงเหรอครับ" กายหันมาถามต่อ
"ก็ไม่ค่อยได้ดูแลตัวเองเท่าไหร่อะครับ ฮ่ะๆๆ"
"ใช่ซิ ไม่ค่อยได้ดูแลตัวเอง เพราะมัวแต่ดูแลใครก็ไม่รู้ อิอิอิ"
พลอยพูดขึ้นพลางหัวเราะ
"ดูแลใครเหรอพี่" กายถามด้วยน้ำเสียงสนใจไม่น้อย
"ไม่มีอะไรหรอก พลอยเค้าแซวเล่นหน่ะ"
"เหรออออ อิอิอิ"
พลอยพูดพลางหัวเราะชอบใจ

             หลังจากส่งพลอยเสร็จผมก็ไปส่งกายต่อ....วันนี้รวมๆสนุกดีครับ กายดูร่าเริงดี ค่อนข้างจะร่าเริงตลอดเวลาด้วย แถมพออยู่ด้วยจริงๆกายค่อนข้างจะดูแลแล้วก็ใส่ใจทุกคนมากๆ ถ้าเราไม่ให้เค้าใส่ใจจะมีแอบบ่นน้อยใจด้วย อ่อ กายมี PSP สีขาว เหมือนผม แถมเน้นใช้ฟังเพลงเหมือนกันอีก อิอิอิ แล้วก็...จะว่าไป...บี...ว่าน....กาย....หน้าตาคล้ายๆกันแฮะ หรือว่าเด็กไทยเชื้อสายจีนจะหน้าตาโทนเดียวกันหมดอยู่แล้ว


1 ส.ค.
01.43 น.
จู่ๆสาวที่กายชอบก็ทัก FaceBook ผมมา....ตอนนี้ก็ยังนั่งคุยกับผมอยู่........
02.53 น.
คุยเสร็จแล้วครับ แอบไปนอนก่อน ง่วงมากมาย...

              เมื่อวานได้คุยกับสาวที่กายชอบ คุยนานอยู่ครับ เท่าที่รู้คือสาวที่กายชอบนั้นเค้าก็บ่นๆว่าเค้าเองก็สงสารกายเพราะเค้าไม่มีเวลาให้กายเลย ไม่มีเวลาดูแลกายเลย แต่กายก็ยังตามดูแลใส่ใจเค้าอยู่เรื่อยๆ แถมน้องสาวคนนี้ยังมีท่าทีเป็นห่วงกายมากๆตอนที่ผมบอกว่ากายไม่สบาย แถมยังบ่นๆด้วยว่ากายไม่เห็นบอกเค้าเลย พอผมบอกว่ากายอาจไม่อยากให้เค้าเป็นห่วง เค้าก็บ่นไปว่า "ยิ่งไม่บอก ยิ่งเป็นห่วง" แล้วน้องเค้าก็บ่นๆเรื่องที่ว่ากายเองสุขภาพไม่สู้ดีเท่าไหร่ ป่วยบ่อยๆ อืมมม ดูว่าน้องเค้าเองก็ใส่ใจกายมาก ไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าที่กายใส่ใจเค้าเลยน่าอิจฉานะครับ ฮ่ะๆๆ
             วันนี้ตอน 10.46 น. กายส่ง SMS มาบอกผมว่า "พี่เอครับ ผมผ่านสังคมอะ" อืมมมม กับกาย....เป็นน้องชายก็ดีอยู่แล้วมั้งครับ...
              แล้วก็....อีก 7 วัน ก็ถึงวันคล้ายวันเกิดว่านแล้ว....


2 ส.ค.


ช่วงค่ำๆของวันที่ 1 ส.ค.

กาย : สวัสดีครับ
กาย : สวัสดีครับ
เอ : อ่าว มาตั้งแต่เมื่อไหร่
กาย : สักพักแล้วครับ
เอ : เหรอ ทานข้าวยัง
กาย : กำลังจะทานครับ
เอ : อื่อ ทานเสร็จค่อยคุยต่อก็ได้
กาย : ครับ

10 นาทีผ่านไป

กาย : พี่เอ
กาย : พี่เอ
กาย : พี่เอ
เอ : ครับ
กาย : เสร็จแล้วพี่
เอ : เหรอ ทานอะไรวันนี้
กาย : ผัดไทยครับ
เอ : ทานเยอะไหมวันนี้
กาย : ไม่พี่
เอ : ทำไมล่ะ
กาย : มันรู้สึกอิ่มๆ จุกๆ
เอ : เพราะมีเรื่องดีใจ หรือ เศร้าล่ะ
กาย : เศร้ามากกว่าพี่

             แล้วก็เป็นอีกวันที่กายพูดถึงเรื่องสาวที่เค้าชอบ...หัวข้อเดิมคือเค้าไม่มีเวลาให้ แล้วก็เป็นอีกวันที่ผมนั่งพิมพ์ปลอบกายบน FaceBook จากที่ฟังดูเหมือนว่ากายกับผู้หญิงคนนี้น่าจะมีปัญหาอะไรที่กายไม่ได้บอกผมอยู่ เพราะดูว่าผู้หญิงคนนี้ถึงจะดูเป็นห่วงกายมากๆ แต่กับกายเค้ากลับปฏิเสธที่จะไปไหนมาไหนกับกายตลอด ไม่ว่าจะเป็น ดูหนัง ทานข้าว หรือ แม้แต่ไปเดินเล่น ทั้งๆที่ถ้าเป็นคนอื่นชวนเค้าจะมีเวลาว่างให้ตลอด เว้นแค่กายเท่านั้นที่เค้าไม่เคยว่างให้เลย
            อืมม...วิธีเดียวที่กายจะเล่าให้ผมฟังในส่วนที่ขาดหายไป...คือผมต้องเล่าเรื่องของผมก่อนเพราะกายรู้ว่าผมยังตัดใจจากคนๆหนึ่งไม่ได้ แต่กายไม่ไม่รู้ว่าใครแค่นั้นเอง ผมเริ่มเล่าเรื่องว่านให้กายฟังแบบอ้อมๆ ไม่พูดชื่อ หรืออะไรที่เป็นตัวบ่งว่าคนที่ผมพูดถึงคือว่าน ผมบอกกายแค่ว่าผมทำอะไรให้เค้าบ้าง และ ผมรักเค้ามากแค่ไหน แต่สุดท้ายก็ต้องจากกันไปแบบไม่รู้ด้วยซ้ำว่าต้องจากกันเพราะเรื่องอะไร หลังจากที่ผมเล่าให้กายฟังจบ กายก็พิมพ์บอกผมว่า

"พี่...ผมขอโทรหาพี่นะ"

            ไม่นานหลังจากพิมพ์กายก็โทรมา แล้วสุดท้ายกายก็ยอมเล่าในส่วนที่กายไม่เคยพูดถึงออกมาเอง

"จริงๆผมเคยคบกับเค้าทีหนึ่งแล้ว ตอนนั้นผมอยู่ ป.6 ปลายๆ คบเค้าจนถึง ม.1 เทอมแรก แต่พอดีว่าผมคบควบสองคน ผมผิดเองแหละที่ทำแบบนั้น พี่....บางทีคนเราจะรู้ว่าอะไรมีค่ามากที่สุดสำหรับเรา บางครั้งก็ต้องเสียมันไปก่อน จริงไหมครับ" กายเล่าด้วยน้ำเสียงเศร้าๆ
"อื่อ...พี่ว่าแล้วเชียวว่าต้องมีอะไรที่กายยังไม่บอกพี่แน่ๆ เค้าคงยังโกรธอยู่มั้ง แล้วทำไมถึงได้คบกันอีกล่ะ" ผมถามกายต่อ
"ก็...ผมเจอเค้าบ่อยๆ....ก็นะพี่ผมเองก็ยังคิดถึงเค้าอยู่ ผมเลยมาขอคบเค้าใหม่ แต่เค้ายังไม่ตอบรับอะไรกลับมา แถมชวนไปไหนก็ปฏิเสธตลอดอีก"
"เค้าอาจยังโกรธอยู่ก็ได้มั้ง ผู้หญิงโกรธทีโกรธนานหน่ะ เคยได้ยินป่ะ ผู้หญิงลืมยาก" ผมพูดด้วยน้ำเสียงทีเล่นทีจริงออกไป

             แล้วกายก็บ่นน้อยใจต่อไป...ตอนหลังๆผมเลยลากกายไปคุยเรื่องอื่นแทน คุยไปคุยมากายร้องเพลงให้ฟังด้วย แต่คงจะร้องดังไปจนคุณพ่อน้องกาย รู้ว่าน้องกายยังไม่นอน เลยเปิดประตูมาว๊ากให้น้องกายไปนอน 1 ยก แต่กระนั้นน้องกายก็ยังไม่นอน ยังกลิ้งไปกลิ้งมาคุยกับผมบนที่นอนต่อ....ที่รู้ว่ากลิ้งเพราะมีกลิ้งทับ small talk ด้วย จากนั้นประมาณ 10 กว่านทีได้ คุณพ่อน้องกายก็เข้ามาว๊ากให้น้องกายนอนอีกรอบ แต่คราวนี้เหมือนว่าคุณพ่อน้องกายจะรู้ว่าน้องกายโทรศัพท์ แต่น้องกายก็ปฏิเสธไปว่าไม่ได้คุย แต่ฟังเพลงอยู่ เพราะดีเลยร้องตาม จากนั้นกายก็คุยกับผมต่อ ผมเห็นว่ามันดึกแล้ว...ผมเลยตัดบทไปว่า

"เดี๋ยวพรุ่งนี้คุยกันต่อเน๊าะ มีเรื่องอะไรจะคุยจดหัวข้อไว้เลยแล้วกัน เน๊าะๆ"
กายตอบมาว่า "ก็ได้ครับพี่ คืนนี้พี่ก็ฝันดีนะครับ"
"อื่อ กายด้วยนะ ฝันหวานๆ"
"ฝันหวานมากเดี๋ยวมดขึ้นทำไงพี่"
"งั้นก็ฝันต่อว่าไปซื้อซันเจี่ยมาแล้วกัน มดจะได้ไม่มายุ่ง"
"อิอิอิอิ"
กายหัวเราะชอบใจ


http://www.youtube.com/v/BVUgNCqDF5c?version=3&amp;hl=th_TH&amp;rel=0


           วันนี้ผมกับพี่ป้อมไปขนอุปกรณ์ที่มหาวิทยาลัยมาไว้ที่ยิมครับ หลังจากหนังสือที่ผมส่งไปได้รับการตอบรับเรียบร้อย แล้วผมก็พาพี่ป้อมไปแนะนำตัวกับอาจารย์ที่ดูแลกิจกรรมสายพละด้วยโดยก่อนพาไปแนะนำผมก็ไม่รู้ว่าทำไมผมถึงกำชับกับพี่ป้อมว่า "อย่าพูดว่าเราเกี่ยวข้องกับโค้ชคนเก่านะครับ ถ้าบอกว่าไม่รู้จักได้จะดีมากเลย" ตอนแรกที่ผมบอกแบบนั้นพี่ป้อมก็ทำหน้า งงๆ ส่วนอุปกรณ์ที่ยืมมาก็มีพื้นยางสำหรับฝึกซ้อมกีฬา (พื้นจิ๊กซอว์) จำนวน 194 แผ่น รวมถึงอุปกรณ์อื่นๆอีกมากมาย  ระหว่างที่ขนของพอพี่ต้อมรู้ว่าพี่ป้อมกับโค้ชคนเก่าไม่เกี่ยวกัน พี่ต้อมก็เล่าประวัติของโค้ชให้พี่ป้อมฟังอย่างถึงพริกถึงขิงเลยทีเดียว ตั้งแต่เอาของไปไม่คืน กระทั้งที่แอบไปสั่งของเกินงบแล้วไม่รับผิดชอบ หรือ แม้แต่เรื่องที่ไม่เข้าประชุม จนพี่ป้อมถึงบางอ้อทันทีว่าทำไมคนที่มหาวิทยาลัยถึงไม่ชอบเค้า เพราะที่พี่ป้อมฟังจากโค้ชมันเหมือนหนังคนละม้วนเลยทีเดียว หลังจากที่ช่วยพี่ป้อมขนของกลับยิมเสร็จ ผมก็ไปเรียนต่อ ก่อนจะกลับมาช่วยพี่ป้อมกับน้องๆจัดยิมอีกทีช่วงค่ำๆ พอมาถึงผมก็จัดแจงถูพื้นทันที ก่อนที่พี่ป้อมจะมาถูด้วยแล้วก็คุยกับผมไปด้วยว่า......

"เมื่อกี้ทีเค้าโทรมานะ" ( จากนี้ขอเรียก "โค้ช" ว่า "ที" แทนนะครับ เพราะเค้าไม่ได้เป็นโค้ชแล้ว )
"ครับ เค้าว่าไงบ้างครับ"
"เค้าก็ถามว่าเป็นไงบ้าง พี่เลยบอกว่าพี่เพิ่งไปเบิกอุปกรณ์กับทางมหาวิทยาลัย เบาะที่ปูที่ยิมตอนนี้ เป็นเบาะของทางมหาวิทยาลัยหมดเลย ส่วนของทีเอาไปเก็บไว้ในห้องเก็บของให้แล้ว"
"ครับ"
"ทีเค้าก็ถามพี่นะว่า ทำไมทีพี่ถึงได้เบาะมา แต่ตอนเค้าทำทำไมถึงไมได้ ตอนแรกพี่เกือบจะสวนกลับไปแล้วว่า แล้วแกทำอะไรบ้าง" พี่ป้อมพูดพลางยิ้มๆ
"ฮ่ะๆ นั่นซิครับ พี่เค้าไม่ทำอะไรเลย แล้วรอให้แต่คนอื่นประเคนมาให้ตลอด"
"แล้วพี่ก็บอกว่า ตอนนี้อาจารย์อิฐมาเป็นที่ปรึกษาชมรมแล้วก็ผู้จัดการทีมเรานะ พอพี่พูดจบ ทีพูดว่า อ้อ รู้แล้วทำไมเค้าถึงถูกให้ออกจากตำแหน่งโค้ช" พี่ป้อมพูดจบถึงกับหัวเราะออกมาทันที ก่อนจะพูดต่อว่า
"พี่หน่ะ อยากจะบอกเค้าจริงๆ ว่าเค้าไม่คิดว่าบ้างเหรอว่าเค้ามีความผิดอื่นๆด้วย เล่นโทษคนอื่นตลอดเลย จะว่าไปที่เอบอกไว้ก่อนก็ดีเหมือนกัน"
"บอก ?...เรื่องอะไรเหรอครับ" ผมถามพี่ป้อมแบบ งงๆ
"ก็เรื่องที่ไม่ต้องพูดว่าเราเกี่ยวข้องกับทีไง ไม่งั้นถ้าเค้ารู้ว่าเป็นทีมเดียวกันเค้าคงไม่กล้าให้ยืม ฮ่ะๆๆ" พีป้อมหัวเราะชอบใจ

             ดูเหมือนพี่ป้อมจะขยับจากตรงกลางมาใกล้ข้างผมเข้าไปทุกที...ทุกที...ที่สำคัญพี่ป้อมยังพูดในทำนองที่ว่า "พี่ไม่เชื่อหรอกว่ายิมที่ทีทำจะไปรอด ความรับผิดชอบแค่นี้ จะไปดูแลอะไรได้ ยิมนี้ถ้าไม่ได้พี่กับเอช่วยก็ล้มไปตั้งนานแล้ว พอพี่ท้วงเค้า เค้าก็จะบอกว่าตัวเองรับผิดชอบได้ ก็ดีนะไปเปิดเอง จะได้รู้ว่าความรับผิดชอบมันคืออะไร" แหม๋เสียดายไม่มีที่ให้กด Like

             หลังจากช่วยกันจัดยิมเสร็จกว่าจะถึงบ้านก็ปาไปเกือบๆสองทุ่มครึ่งแล้วครับ มาถึงก็จัดแจงเปลี่ยนเสื้อผ้าอาบน้ำก่อนจะมานั่งเล่นอยู่หน้าคอมแล้วก็คุยกับกายไปเรื่อยๆ ก็เหมือนๆทุกวันกายบ่นๆถึงสาวที่เค้าชอบแบบน้อยเนื้อต่ำใจ อ้อ วันนี้กายทานลูกชิ้นทอดด้วย ส่วนชุดนอนก็ใส่ชุดสีขาวตัดสีฟ้าอ่อนๆลายทางแบบชุดนักโทษ ( กายว่างั้น ) จากนั้นผมเลยแอบถามกายเรื่องว่าน...มีประเด็นหนึ่งที่จับมาคือ

"พี่ๆวานก่อนฝนตกใช่ม๊ะพี่"
"อื่อ ทำไมเหรอ"
"พอดีผมไปเล่นที่บ้านปั่นไง"
"แล้ว"
"ตอนพวกผมกำลังนั่งคุยกันอยู่ จู่ๆพี่สาวปั่นบอกว่า อยากเล่นกีต้าร์โปร่งของว่าน เท่านั้นแหละพี่รู้เปล่า ว่านรีบกลับไปเอากีต้าร์โปร่งจากที่บ้านมาให้พี่สาวว่านแทบจะทันทีเลยอะ"
กายเล่าด้วยเสียงระทึก
"หืมมม บ้านว่านกับปั่นใกลกันนี่นา แล้วว่านเค้าบอกว่าที่ไปบ้านปั่นเพราะไปรอแม่มารับไม่ใช่เหรอ แล้วไหงไปกลับได้ล่ะ"
"นั่นล่ะพี่ประเด็น ถ้าไปกลับได้ทำไมต้องมารอแม่ที่บ้านปั่นล่ะ แบบนี้จงใจมาเจอพี่สาวปั่นชัดๆ ที่สำคัญวันนั้นฝนตกด้วย มันยังสู้ไปกลับ พี่คิดดู"
"แล้วกายคิดว่าไง"
"ผมเหรอ คิดว่าชอบกันหน่ะซิ ผมเคยถามอยู่ เมื่อวานที่ว่านเอากีต้าร์โปร่งมาผมก็แซว แต่มันก็บอกว่าไม่ได้ชอบ ไม่ได้จีบ"

           อืมม....จะชอบไม่ชอบ....หรือว่านทำแบบนี้เพราะเหตุผลอะไรผมก็ไม่รู้....แต่ที่รู้ๆคือวันนี้....ผมรู้สึกว่าผมคิดถึงว่านน้อยลง...ไม่ใช่ไม่คิดถึงนะครับ....แต่คิดถึงแล้วมันไม่รู้สึกเจ็บมากมายเหมือนช่วงแรกๆ ส่วนกายเหรอ...ผมเหมือนเป็นที่ระบายของเค้ามากกว่า หลังจากที่คุยกันไปพักหนึ่งก็ได้ยินเสียงคุณพ่อน้องกายมาว๊ากอีกแล้ว

"ดึกแล้ว ทำไมยังไม่นอน" เสียงคุณพ่อน้องกายดังลอดเข้ามา
"โหยยย ป๊า ก็เมื่อกี้กำลังเคลิ้มเลยจะหลับแล้ว อีกนิ๊ดเดียวเอง ป๊ามาทักหมดอารมณ์นอนเลย" กายตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงแบบติดตลก
"นอนอะไรเมื่อกี้ได้ยินเสียงเหมือนคุยโทรศัพท์"
"ไม่ได้คุยป๊า ร้องเพลงกล่อมตัวเองอยู่"
"เออๆ รีบๆนอนเลยดึกแล้ว"
"โอเคพี่ ป๊าไปแล้ว คุยต่อๆ อิอิ"


         เหมือนบีเลยแฮะ....ฮ่ะๆๆ....ผมคุยกับกายต่อไปอีกพักหนึ่งก่อนจะวางสาย ก่อนวางกายถามผมว่า

"พี่พรุ่งนี้บ่ายๆพี่ว่างไหมครับ"
"ก็ อาจว่างมั้งมีอะไรเหรอ"
"คือผมอยากให้พี่มารับที่โรงเรียน"
"อื่อ ได้ซิ กี่โมง"
"ผมไม่แน่ใจพี่"
"ก็โทรมาแล้วกัน ถ้าว่างพี่จะออกมารับ"
"อืมมม เกรงใจพี่จัง"
"ไม่เป็นไร"
"งั้นเดี๋ยวผมถามเพื่อนก่อนแล้วกันเผื่อติดรถเพื่อนไป คือ...ผมเกรงใจพี่ยังไงก็ไม่รู้"
"อื่อ ถ้าไม่มีรถก็โทรบอกพี่แล้วกัน"
"ok ครับ"


       แล้วกายก็วางสายไป....แต่ไม่ถึง 10 นาทีกายก็โทรกลับมาใหม่

"ครับ ยังไม่นอนเหรอ" ผมถามกาย
"นอนแล้วพี่ แต่นึกได้ว่าเมื่อกี้ลืมบอกพี่ว่าฝันดี"
"ฮ่ะๆๆ อื่อ กายก็ด้วยนะ ฝันดีๆ"
"ครับพี่"
หัวข้อ: Re: น้องชาย 2 ( Up เหตุการณ์ล่าสุด 01/08/11 )
เริ่มหัวข้อโดย: aries ที่ 01-08-2011 12:01:32
ร่าเริงไว้นะครับพี่เอ น้องๆเขาชอบตอนพี่เอร่าเริงมากกว่า
เรื่องของผมก็เริ่มจะเศร้าเเล้วละครับ วันเกิดน้องน้องเขาไม่ชวนผม เมื่อวานเขา msn มาบอกว่าอาทิตหน้าไปดื่มกาเเฟกัน น้องเลี้ยงเอง (ก็รู้ละครับว่าเลี้ยงทำไม)
ผม:จะเลี้ยงทำไมชงดื่มที่บ้านได้
น้อง:ก็จะเลี้ยง
ผม:เลี้ยงทำไม
น้อง:ผมเก๋าไงถึงเลี้ยง
ผม:อืม ไม่ว่างอาทิตหน้าไม่อยู่ทั้งอาทิตไปกรุงเทพ
น้อง:.....
ผม:กาเเฟอะชงดื่มเองได้ไม่เป็นไร
555 เงียบไปเลย เเล้วเเต่เขาละครับ โตเเล้ว คิดเองได้เเล้ว เก่งเเล้วก็ปล่อยเขาไป
พี่ๆว่าผมทำถูกรึป่าว เเต่ผมว่าผมทำผิดนะ เเต่ก็ดีเเล้วละ จะได้รู้
เเค่นี้นะครับ ว่างมาทักใหม่ นั่งเศร้าก่อน หาเพลงเศ้าๆฟังเห้อ
หัวข้อ: Re: น้องชาย 2 ( Up เหตุการณ์ล่าสุด 01/08/11 )
เริ่มหัวข้อโดย: naoki24 ที่ 01-08-2011 20:18:27
@ คุณเอ

แต่เวลานอนบางคืน....ผมก็ยังฝันถึงว่านอยู่ดี.....
ผมนอนบนเตียงที่ว่านเคยนอน...ผมนอนกอดหมอนที่ว่านเคยหนุน...ห่มผ้าห่มที่ว่านเคยห่ม...แล้วมันจะลืมว่านได้ยังไงกัน T-T

ตอนนี้ผ่านมา2-3เดือนแล้ว คุณเอซักผ้าห่มยังเนี่ย o22

กับน้องอ้นและน้องบี 3pก็ดีเนอะ ให้เวลา3เดือนเก็บข้อมูลน้องอ้นกับน้องบีละกัน อุอุ (ล้อเล่นเหมือนกัน)

วันนี้ทะเลาะกับลิงมาเพราะผมจะกลับบ้านแล้วมันไม่ให้กลับ ผมเลยเดินไปลูบหัวมันเหมือนที่เคย
แล้วบอกกับมันว่า "หมูตอน พี่รักเรานะ พี่ไม่ได้ทิ้งเราซะหน่อย ถึงตัวเราห่างแต่ใจพี่ก็ยังอยู่กับแกเสมอนะ"(ลูกศิษย์นะไม่ใช่แฟน)

เท่าน้ันแหละเลยคิดถึงคุณเอขึ้นมาเลย อีกไม่นานเนอะก็ถึงวันเกิดน้องว่าน
อย่าทำอะไรกับกายจนกว่าจะถึงวันนั้นนะ และก็วันเกิดน้องต้องกอดหรือลูบหัวน้องว่านให้ได้นะ
น้องจะได้กลับมามีชีวิตชีวาที่ดีอีกครั้ง

โชคดีมีเฮครับ แล้วกลับมาเขียนให้อ่านอีกนะ ไม่รู็ว่าตอนที่ผมเขียนคุณเอตื่นยัง o13

@คุณ aries คุณทำผิดนิดนึงงะ เหมือนน้องอยากเจอคุณมากกว่าจะเลี้ยงคุณนะ
ผมเคยอยู่ที่ฉะเชิงเทราแล้วน้องผมโทรมาหาผมบอกว่า "พี่ครับ ผม ไม่รู้จะทำยังไง"แล้วมันก็ตัดสายไปผมก็ติดต่อไม่ได้
เท่านั้นแหละผมรีบไปหาน้องผมที่สมุทรปราการเลย (โทรมาตอน15.30 ผมไปถึง 18.00")
พอไปถึง....เห็นน้องมันวิ่งเล่นกะเด็กแถวบ้าน ผมเลยเดินไปถามว่า
"เราเป็นอะไรหรือเปล่า มีปัญหาอะไรมั้ย" ถามด้วยความห่วงสุด แต่คำตอบคือ
"คือผมจะถามว่า ผมไม่รู้ว่าวันเกิดพี่ผมจะซื้ออะไรให้พี่ดี วันพรุ่งนี้อ่ะ"
ผมเลยตอบกลับไป"แค่เนี่ยหรอ"ตอนนั้นผมรู็สึกว่าผมมั่วมาทำอะไรไร้สาระแบบนี้ก็ไม่รู้
แต่คำนึงที่ทำให้ผมน้ำตาไหลออกมาหลังจากคิดอะไรบ้าๆออกไปคือ "วันเกิดผมพรุ่งนี้"
ผมเลยยกเลิกงานที่รับทำไว้ 3วันรวด แล้วอยู่กับน้องผมเลย

ผมว่าคุณคงได้ข้อคิดอะไรบางอย่างจากเรื่องของผมนะ แนะนำว่าคุณชวนน้องคุณมากินกาแฟที่บ้านดีมั้ย :impress2:
หัวข้อ: Re: น้องชาย 2 ( Up เหตุการณ์ล่าสุด 01/08/11 )
เริ่มหัวข้อโดย: Y2Y ที่ 01-08-2011 22:11:33
อีก 7 วันจะถึงวันเกิดน้องว่านแล้วเหรองั้น ว่านก็เป็นหนุ่มเต็มตัวแล้วซินะ 15 เต็มใช่มั้ยเนี่ยะ

ลองดูอีกสักตั้งมั้ยน้องเอ เอาตัวเองผูกโบว์ไปเป็นของขวัญเลย  555  เผื่อโชคดี  คริคริ

 
หัวข้อ: Re: น้องชาย 2 ( Up เหตุการณ์ล่าสุด 02/08/11 )
เริ่มหัวข้อโดย: me_alone ที่ 02-08-2011 01:11:15
@naoki24
จากวันที่ว่านมาค้างบ้านผมผ่านมา 8 เดือน กับอีก 13 วันแล้วครับ ก็ประมาณว่ามันเป็นที่ว่านเคยมานอน มาอยู่มองไปก็ยังจำภาพวันนั้นๆได้อยู่เลย
ส่วนเรื่องวันเกิดว่าน...ผมไม่ได้เจอน้องเค้าหรอกครับ น้องเค้าไปเข้าค่ายพอดี แต่คิดว่าผ่านช่วงนั้นไปแล้วอะไรๆมันจะดีขึ้น หมายถึงความรู้สึกผมอะนะ
กับว่าน...ผมไม่อยากหวังอะไรมากมายให้เจ็บกว่านี้แล้วล่ะครับ


@aries
ผมคิดเหมือนคุณ naoki24 นะ
เรื่องกาแฟเป็นแค่ข้ออ้างอะครับ ประเด็นคือน้องอยากเจอมากกว่า
ไปเจอน้องเค้าเถอะครับ ^^


@Aphrodite
ครับ วันที่ 8 นี้ว่านก็ 15 ขวบ เต็มพอดี
วันเกิดว่านผมไมได้เจอน้องอะครับ ว่านไปเข้าค่าย 4 วันแน่ะ
หัวข้อ: Re: น้องชาย 2 ( Up เหตุการณ์ล่าสุด 02/08/11 )
เริ่มหัวข้อโดย: aries ที่ 02-08-2011 12:38:13
คร้าบ ขอบคุณคร้าบ ทั้งพี่ naoki24 เเละพี่เอ
ปรกติวันเกิดเขาเขาจะชวนไปทุกปีเพราะเเม่เขาจะบอกให้ชวนไปด้วย (เป็นอานะครับไม่ใช่อาเเท้ๆนะรู้จักกับอาผมอีกทีนึง) เเต่ไม่รู้ยังไงลืมกันหรือยังไงไม่รู้ ปีที่เเล้วก็ยังไป ผมยังช่วยออกเพราะน้องรักนี้ครับ เเต่มาปีนี้.......อีกอย่างอาทิตหน้าไม่ว่างจิงๆไปสอบที่กรุงเทพก็ได้จังหวะเเกล้งมันซักหน่อย เเต่ก็ดีเเล้วครับ ช่วงนี้ห่างๆออกมา เพราะเริ่มจะเข้าที่เข้าทางเเล้วบ้านเขา พ่อเเม่เเยกทางกัน อยู่กับเเม่กับน้องสาว เเม่ก็ดุพอตัว เด็กเลยเก็บกด ผมก็ช่วยออกมา คอยสอนคอยสั่ง ตอนนี้ดีขึ้นมาก บ้านสงบลงเยอะน้องก็ทำตัวดีขึ้นเยอะ น้องมีเเฟนก็ดีเเล้ว ดูเรียบร้อยขึ้น เมื่อก่อนอยู่กับผมไม่ห่างจนมีคนถาม ทำอะไรกันรึป่าว 555 ถามน้องผม น้องผมว่าบ้าเเล้ว 555นึกเเล้วยังขำ เห้อ เอาเถอะครับ ปล่อยไปตามทางของมันเพราะเริ่มเดินมาถูกทางเเล้ว เเต่ถ้ามีปัญหาอะไรผมค่อยเข้าไปช่วยละกัน
*** พี่เออย่าลืมนะครับยิ้มเเย้มไว้ อย่าเศร้า อย่าคิดมาก เดี๋ยวอะไรก็เข้าที่เข้าทางเองละครับ การกระทำของพี่ยังไงก็ไม่หายไปจากใจน้องหรอกครับ (ความรักที่พี่ให้ การดูเเล เอาใจใส่ )
*** ส่วนพี่ naoki24 เด็กๆที่พี่ดูเเลคงรักพี่มากเเน่ๆสงสัยว่าพี่จะเป็นคนน่ารักเเน่ๆ ขอเป็นน้องด้วยคนนะครับ
ไปละเหนื่อยต่องานๆๆๆใช้เเต่ความคิด ปวดหัว ค่อยไปเตะบอลผ่อนคายต่อ 555
หัวข้อ: Re: น้องชาย 2 ( Up เหตุการณ์ล่าสุด 02/08/11 )
เริ่มหัวข้อโดย: entirom ที่ 02-08-2011 23:47:03
คุณเอ เสน่ห์แรงน่ะ
มีแต่เด็กๆ มาชอบ

เป็นคนที่อบอุ่นมากล่ะซิ
เป็นคนคุยเก่ง คุยได้ทุกเรื่องเลยน่ะ
หัวข้อ: Re: น้องชาย 2 ( Up เหตุการณ์ล่าสุด 02/08/11 [เพิ่มเนื้อหาตอนเย็น ])
เริ่มหัวข้อโดย: me_alone ที่ 03-08-2011 00:18:01
@aries
คุณaries ก็สู้ๆนะครับ ผมเองก็รู้สึกว่าจะปล่อยๆตัวเองกับเรื่องความรักแล้ว
กับกายเองก็คงจะได้แค่นี้ล่ะครับ มันคงไม่มากไปกว่านี้แล้ว


@entirom
อืมมม....กับเด็กๆผมก็คุยเล่นไปเรื่อยอะครับ เพราะจะไปสาระอะไรมากมายน้องๆคงจะรับไม่ไหว
อีกอย่างน้อยๆเองก็มีแต่เรื่องทั่วๆไปมาคุย ไม่ค่อยมีอะไร แฮะๆ
หัวข้อ: Re: น้องชาย 2 ( Up เหตุการณ์ล่าสุด 02/08/11 [เพิ่มเนื้อหาตอนเย็น ])
เริ่มหัวข้อโดย: khuan ที่ 03-08-2011 00:34:33
มาอยู่เป็นเพื่อนคุณเอ....
หัวข้อ: Re: น้องชาย 2 ( Up เหตุการณ์ล่าสุด 02/08/11 [เพิ่มเนื้อหาตอนเย็น ])
เริ่มหัวข้อโดย: kritsada.s ที่ 04-08-2011 01:07:26
http://www.youtube.com/v/hqXijwjlTMg
หัวข้อ: Re: น้องชาย 2 ( Up เหตุการณ์ล่าสุด 02/08/11 [เพิ่มเนื้อหาตอนเย็น ])
เริ่มหัวข้อโดย: naoki24 ที่ 04-08-2011 14:40:16
@คุณเอ
แวะมาอ่านก่อนไปสอนหนังสือลิง  :oo1:คุณเอไม่ได้ซักที่นอนมา8เดือนแล้วหรอ!!!  ฮ่าๆๆล้อเล่น(หรือเรื่องจริง) 
ก็อ่ะน..พูดยาก คุณเอคงเคยได้ยินคำว่า หนามยอกเอาหนามบ่ง มาก่อน ในเมื่อคุณเอเจ็บเพราะพิษที่ชื่อว่านไม่เอายาที่ชื่อว่าว่านมาทาละครับ หรือคุณเอจะปล่อยให้มันเจ็บตลอดไปหรอ ไม่งั้นในอนาคตเมื่อคุณเอเห็นว่านที่เปลี่ยนไป(ในแง่มุมที่เกิดจากคุณเอ) คุณเอจะไม่เจ็บปวดตลอดเวลาเลยหรอ ที่พูดเพราะว่ายังไงน้องว่านกับคุณเอก็คงยังเจอกันแน่นอน ไม่ช้าก็เร็วอ่ะนะ
ผมเคยทิ้งลูกศิษย์คนหนึ่งจนเกือบเสียคน ตอนนั้นผมมองหน้าเค้าไม่ติดเลย สุดท้ายผมก็เค้าไปทักทายเค้าผ่านMSN 3เดือนจากนั้นเราก็กลับมาพูดคุยกัน และตัวเค้าก็ดีขึ้นมาก(ปีหน้ามันจะแต่งงานละ ข้ามหน้าข้ามตามาก) ตอนนี้ผมก็ยังคิดว่ายังไงใจที่คุณเอเจ็บก็เพราะว่าคุณเอยังหวังว่าว่านจะหลับมาเหมือนเดิมอีกครั้งหนึ่ง
 :call: อาเมน ลองคิดดูใหม่นะ อีกไม่กี่วันเอง ไม่ลองไปรับน้องกลับบ้านละ ถือกระเป๋าคนเดียวคงหนักเนอะยิงเป็นคนที่บ้าๆบอๆอยู่ด้วย  (ในค่ายคงจัดวันเกิดให้ว่านด้วย ควรหาคนไปเซอไพรส์ในงานเนอะ อิอิ) o13

@aries อยากเป็นน้องผม ต้องจ่ายค่าสมัครก่อนนะเด้อ อิอิ :z1:
มีแต่คนอยากเป็นตอนนี้มีน้องเกือบจะร้อยคนและ เลี้ยงแทบไม่ไหว
แต่น้องจริงๆที่รับดูแลอยู่มีแค่ 10 คน 3คนในนั้นผมรับเป็นลูกบุญธรรมไปและ (ผมเป็นพ่อทูลหัว)
อันนี้ไม่เกี่ยวกับความน่ารักนะ สำคัญอยู๋ที่คำพูดอ่ะเพราะผมมีกฎการเป็นพี่น้องอยู่ข้อเดียว
"พี่น้องกันห้ามโกหก" เหมือนกันถ้าคุณariesอยากเป็นน้องผมก็ทำข้อนี้ให้ได้ก็พองับ
แล้วเมื่อถึงเวลาผมจะพาไปจัด หนักๆ :oo1: เอ้ย!! o18 เอ้ย!!! คนละจัดกันแล้ว
โอเคแค่นี้ละกันพอหอมปากหอมคอ
หัวข้อ: Re: น้องชาย 2 ( Up เหตุการณ์ล่าสุด 02/08/11 [เพิ่มเนื้อหาตอนเย็น ])
เริ่มหัวข้อโดย: icyblue ที่ 04-08-2011 23:46:19
กายนี่ก็น่ารักดีเนอะ ติดเอจัง

สงสัยเอจะได้น้องชายเพิ่มอีกคนแระ  :z2:

หัวข้อ: Re: น้องชาย 2 ( Up เหตุการณ์ล่าสุด 02/08/11 [เพิ่มเนื้อหาตอนเย็น ])
เริ่มหัวข้อโดย: obab ที่ 05-08-2011 03:20:21
ไม่รู้ทำไมถึงยังชอบ น้องบี อยู่อ่ะ
>\\\<

อิอิ
หัวข้อ: Re: น้องชาย 2 ( Up เหตุการณ์ล่าสุด 02/08/11 [เพิ่มเนื้อหาตอนเย็น ])
เริ่มหัวข้อโดย: aries ที่ 05-08-2011 10:08:08
@naoki24
โหยพี่ naoki24 ก็จัดหนักอะไรอะครับ 555 ลองคุยกันก่อนก็ได้ครับไม่ปิดบังใครอยู่เเล้วครับรับประกันได้เลย อยากมีพี่คอยปรึกษาบ้างเพราะส่วนใหญ่เป็นที่ปรึกษาคนอื่นมากกว่าเห้อข้อมูลส่วนตัวผมมีที่ติดต่ออยู่นะฮะ
@พี่เอ
สวัสดีคร้าบ เรียนเป็นไงบ้างครับใกล้จบเเล้วน้อ สบายดีนะครับให้กำลังใจเสมอ อยากมีน้องชวนไปดูหนังบ้างเเต่ที่บ้านผมไม่มีโรงหนังอะซิจะดูทีข้ามจังหวัด 555 บ้านนอกมากๆ ส่วนใหญ่ก็ซื้อ dvd มาดูพอดูทีก็เกือบ 10 คนลูกลิงทั้งนั้น ปวดหัว เลยตั้งกดว่าใครเสียงดังโดนเตะ555

ผมก็เรื่อยๆครับสบายใจดี พอดีตอนนี้น้องผมเขาอกหัก เห้อสงสารเเต่เขาเลือกทางนั้นเองก็เเล้วเเต่เขาถ้าเขาเห็นเราสำคัญก็รอเขามาหาเองละครับ ตั้งเเต่วันที่ชวนดื่มกาเเฟ จนวันนี้ไม่ได้เจอไม่ได้คุยกันเลย ให้เขาเรียกหาเอง เเต่ส่วนใหญ่ก็เเบบนี้หละครับ พอมีปัญหาก็นึกถึงผมพอมีความสุขก็เงียบไป ชินซะเเล้ว ทำไงได้น้องรักนี้ครับ
ไปละครับล้างรถ เตรียมข้อมูลสอนต่อ 55
หัวข้อ: Re: น้องชาย 2 ( Up เหตุการณ์ล่าสุด 07/08/11 )
เริ่มหัวข้อโดย: me_alone ที่ 05-08-2011 21:01:36
5 ส.ค.
            ว่ากันว่าสิ่งที่เติมเต็มชีวิตมนุษย์ให้มีความสุข และ มีแรงฮึตสู้กับชีวิต เพราะจริงๆแล้วในจุดหนึ่ง มนุษย์มักจะไม่ได้อยู่เพื่อตัวเอง ถึงแม้ว่าจะทำอะไรไม่ได้แล้วในวัยที่ชราภาพ แต่ความรู้สึกลึกๆก็ยังหวังที่จะให้ใครสักคนที่เค้ารักมีความสุข
           ช่วงค่ำของวันที่ 4 หลังจากที่ผมกลับมาจากสอนน้องเสร็จ เมื่อผมมาถึงบ้าน...บ้านที่ไม่มีใครเหมือนทุกครั้ง ความมืดแล้วก็ลมเย็นๆพัดสวนตัวผมออกไปเบาๆเมื่อบานประตูถูกเปิดออก ประหนึ่งเหมือนเป็นคำต้อนรับสู่ความเงียบเหงาอีกครั้ง ผมเดินมานั่งตรงเก้าอี้หน้าคอมพิวเตอร์แล้วกดเปิดเครื่อง ก่อนจะเอนหลังลงไปช้าๆ ผมนั่งนึกอะไรไปเรื่อยเปื่อย จากนั้นก็เอนหลับมานั่งปรกติ ผมเปิดเพลงผ่าน window media player เพื่อให้เสียงเพลงขับไล่ความเงียบงันให้จางหายไป จากนั้นผมก็เปิดเวปเข้าดู E-Mail ตามด้วย Facebook แต่ยังไม่ทันที่ผมจะดู Wall ของ FaceBook ใครคนหนึ่งก็ทักมา

กาย : พี่เอ
ผม : ครับ
กาย : วันนี้ผมเครียดจังเลยพี่
ผม : เรื่อง ?
กาย : ใบปอ
ผม : อยากเล่าไหม ?

              แล้วก็เป็นอีกวัน....ที่กายเล่าเรื่องของคนที่เค้าชอบให้ผมฟัง จากนั้นไม่นานใครอีกคนก็ทักผมมา

ใบปอ : ดีค่ะพี่เอ
ผม : ดีครับ
ใบปอ : เมื่อคืนพี่เอ นอนดึกอีกแล้วอะ หนูบอกแล้วไงให้พี่รักษาสุขภาพด้วย
ผม : ใบปอก็นอนดึกเหมือนกันนั่นล่ะ จะเข้าสมาคมแพนด้ากับพี่เหรอ อิอิอิ
ใบปอ : ก็หนูทำงาน มันหลีกเลี่ยงไม่ได้
ผม : อะครับๆ
ผม : นี่ใบปอพี่ถามอะไรอย่างซิ....พี่สัญญาว่าพี่จะไม่บอกกายเรื่องนี้ แต่ถ้าไม่สะดวกไม่ต้องตอบก็ได้นะ
ใบปอ : ค่ะพี่ ?
ผม : ใบปอคิดยังไงกับกายเหรอ
ใบปอ : ......
ผม : ถ้าไม่สบายใจไม่เป็นไรก็ได้นะครับ
ใบปอ : เปล่าคะพี่....คือมันตอบยากนะ
ผม : อืมมมม
ใบปอ : หนูสงสารกายนะ หนูไม่ค่อยมีเวลาให้เค้าเลย
ผม : กายเค้าแคร์ใบปอมากนะ ทุกอย่างที่ใบปอทำ กายเค้าใส่ใจทุกอย่างเลย
ใบปอ : กายเค้าเป็นคนคิดมากหน่ะพี่
ผม : พี่ว่ามากขนาดนี้คงต้องเป็นคนพิเศษสำหรับเค้ามากแน่ๆ พี่ไม่ได้เชียร์กายนะ แต่ว่า....
ใบปอ : แต่ว่า อะไรค่ะ
ผม : พี่เคยชอบคนๆหนึ่ง พี่สนใจเค้ามาก แคร์เค้ามาก แต่สุดท้ายวันหนึ่งเค้าก็เดินจากไป โดยไม่พูดอะไรสักคำ พี่ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าอะไรที่ทำให้เค้าจากไป โทรหาเค้าก็ไม่รับ เวลาเจอเค้าก็หลบหน้า FaceBook เค้าก็ลบพี่ออกจากเพื่อน ขนาดว่าส่ง SMS ไปหาเค้ายังจะบล๊อกเลย
ใบปอ : โห....ขนาดนั้นเลยเหรอพี่ ทำไมล่ะค่ะ
ผม : พี่ก็ไม่รู้ว่าเพราะอะไร แต่รวมๆคือ....กายแคร์ใบปอมาก....ถ้ามีอะไรใบปอก็คุยกับกายเค้านะ
ใบปอ : คือจริงๆ หนูรักกายมาก รักมากที่สุดตั้งแต่คบกันตอนแรกๆแล้ว
ผม : เหรอ...ดีแล้วล่ะ ก็ดูแลกันดีๆ
ใบปอ : แต่หนูไม่ค่อยมีเวลาให้กายเลยพี่
ผม : ใบปอลองไปเดินเล่นกับกาย สักอาทิตย์ละ 10 - 20 นาที แค่นั้นก็อาจทำให้กายเค้าก็ยิ้มแฉ่งไปทั้งอาทิตย์เลยล่ะมั้ง
ใบปอ : จริงเหรอพี่
ผม : ฮ่ะๆๆ...ล้อเล่นหน่ะครับ จริงๆไม่ต้องนานมาก โทรคุยกันวันละ 5 - 10 นาที ถามว่าเหนื่อยไหม ทานข้าวยัง อาทิตย์หนึ่งไปเจอกันบ้างสักครั้ง อืมมม มันอาจดูเล็กน้อยนะ แต่กับบางคนหน่ะมันยิ่งใหญ่มากเลยรู้เปล่า
ใบปอ : จริงเหรอพี่
ผม : อิอิ



 :เฮ้อ:


6 ส.ค.
          วันนี้....ผมนั่งคุยกับน้องใบปออยู่หลายชั่วโมง....เหตุจากเมื่อวานที่ผมยุให้กายเอาใบปอขึ้นสถานะว่า "กำลังคบกับ" ผ่านไปไม่ถึง 1 ชั่วโมงหลังจากที่น้องใบปอตอบรับ....ก็มีคนมาแสดงความคิดเห็นไปในทางที่ทำให้ผมรู้สึกว่า...กายไม่ได้มีใบปอคนเดียว จากนั้นไม่กี่ชั่วโมงใบปอก็มาคุยกับผมทาง FaceBook แบบว่าบ่นเสียใจ ร้องให้อะไรแบบนี้ บ่นไปบ่นมาใบปอคงอึดอัดมาก ใบปอเลยทักผมมาว่า

ใบปอ : พี่เอ....กายเคยเล่าเรื่องพี่ชินให้ฟังไหม
ผม : หืมมม ใครเหรอ
ใบปอ : ไม่รู้ว่าหนูจะพูดดีไหม
ผม : เอาดิ
ใบปอ : พี่ห้ามบอกกายนะว่าหนูพูด
ผม : อื่อ

         ขอตัดตรงนี้ไปนะครับเอาเป็นว่าใบปอบอกผมว่า กายมีคนชอบแล้ว ชื่อชินเป็นผู้ชาย คบหากันมาตั้งแต่กายอยู่ ม.2 แล้วชินกับกายก็สนิทกันมากๆๆๆ ถึงตอนนี้กายกับชินก็ยังคบกันอยู่ นั่นเป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่ใบปอไม่ยอมไปไหนมาไหนกับกาย ณ จุดนี้ผมถึงบางอ้อเลยทีเดียว ว่าที่กายบ่นมาตลอดว่า ใบปอไม่มีเวลาให้ ชวนไปไหนก็ไม่ไป กับคนอื่นใบปอมีเวลาให้ตลอด ยกเว้นกับกายนั้นเป็นเพราะอะไร
        แล้วที่ผมเคยสงสัยเมื่อคราวก่อนที่จู่ๆกายเปิดประเด็นเรื่องเกย์มานั้น ผีเห็นผี หรือเปล่า บัดนี้ชัดเจนแล้วครับ สรุปว่าตอนนี้กายคบหากับผู้ชายคนหนึ่งอยู่หลังจากอกหักครั้งล่าสุด ก็ได้ผู้ชายคนนี้มาดามหัวใจ แต่แล้วไม่นานเท่าไหร่กายก็ได้พบกับคนรักเก่าคือใบปอ ด้วยเหตุผลบางอย่างทำให้ถ่านไฟเก่าที่ยังไม่มอดดับลุกโชดช่วงขึ้นมาอีกครั้ง กายตามง้อตามขอคืนดีใบปอ ส่วนใบปอเองที่มีใจให้กายมาโดยตลอดอยู่แล้วก็ยอมรับการขอคืนดีของกายแต่โดยดี ทว่า ใบปอกลับไม่ได้แสดงให้กายเห็น ด้วยความที่ว่าใบปอรู้ว่ากายกำลังคบรุ่นพี่ที่ชื่นชินอยู่ ใบปอจึงไม่สามารถแสดงความรู้สึกออกไปได้ด้วยความไม่มั่นใจในตัวกายนั่นเอง
        จนล่าสุดคาดว่ากายน่าจะพูดกับใบปอเรื่องนี้ ด้วยความห่วงหน้า ผวงหลังกายเลยไปพูดกับใบปอว่า "งั้นเอาสถานะลงก่อนไหม แล้วเดี๋ยวจะเปิด FaceBook ใหม่ ค่อยเอาขึ้น คนอื่นจะได้ไม่รู้" ตรงนี้แหละครับที่ทำให้ใบปอน้อยใจจนต้องมาบ่นกับผม ซึ่งผมก็ปลอบใจใบปอไปต่างๆนาๆ รวมๆคือเค้าอาจแค่สนิทกันเฉยๆก็ได้ ซึงใบปอก็บอกว่า "กายก็บอกว่าเป็นแค่พี่ชายเหมือนกัน" จากนั้นผมก็ขอ FaceBook ของ ชิน จากใบปอ....พอผมเข้าไปดูปั๊บ.....โอ๊ววว.....ถ้าใบปอคิดว่าเค้าเป็นพี่น้องกันจริงๆล่ะก็....ใบปอมองโลกในแง่ดีมากไป ไม่ก็อ่อนต่อโลกมากไปซะแล้วล่ะ

         ดังนั้น.....กายมีเจ้าของแล้วทั้ง ชาย และ หญิง เลยทีเดียว ชาวเล้าที่อ่านแล้วอาจลุ้นให้ผมกับกายคบกันนั้น ตอนนี้เห็นทีจะไม่ได้แล้วล่ะครับ 5555+ แล้วเรื่องของกายผมขอลงแค่บางส่วนที่เกี่ยวกับว่านพอนะครับ เพราะว่ามันจะไปเกี่ยวกับคนอื่นๆมากไป ( เกรงว่าเค้าจะเล่นเล้าเป็ดด้วยเดี๋ยวงานเข้า ) คนที่ Add Face ผมแล้วรู้ face กาย รบกวนว่าดูเงียบๆนะครับ

ปล. พรุ่งนี้เที่ยงกายนัดผมไปทานข้าวด้วย....อืมมม......พาพลอยไปด้วยดีกว่า......


7 ส.ค.
             งานเข้าแล้วครับพี่น้อง....ด้วยความไม่รู้ว่ากายมีใครคนอื่น เลยไปยุให้กายขึ้นความสัมพันธ์กับใบปอว่า "กำลังคบกับ" จากนั้นคนที่กายคบอยู่อีกคนก็โวยวายขึ้นมา เห็นว่าถึงขั้นร้องห่มร้องให้กันวุ่นวายกันมากมายทีเดียว ( มิน่าโทรมาบอกฝันดีเมื่อคืนเสียงฟังดูสะอื้นๆ ) มาถึงเวลานี้ดูเหมือนกายจะจับปลาสองมือเลย เพราะนอกจากไปปอแล้ว กายยังไปขอโทษขอโพยชิน แล้วก็ขอโอกาสแก้ตัวจากชินอีก ประมาณว่ากับชินเองกายก็ยังไม่ปล่อยไป แล้วก็ยังแคร์ชินมากพอควรเลยสังเกตจากที่พอชินทักปั๊บ กายถึงกับมาขอเอาความสัมพันธ์กับใบปอลงทันที
             โอ๊วววว....ความรักครั้งนี้จะเป็นอย่างไร น๊อออออ....ว่าแล้วก็ไปรับกายที่บ้านก่อนนะครับ เที่ยงนี้กายขอให้พาไปร้องเพลงด้วย เดี๋ยวกลับมารายงานต่อ


8 ส.ค.
           เมื่อวานกลับมาจากทานข้าวว่าจะมาลงเลย แต่พอดีกว่าติดออกทริปถ่ายภาพกับทางชมรมถ่ายภาพครับ ก็เมื่อวานที่ออกไปผมก็ไปรับกายที่บ้านครับ ก่อนจะไปที่ KFC ระหว่างที่รอพลอย...กายมีท่าทีกระวนกระวายนิ๊ดหน่อยเหมือนอยากพูดอะไร ซึ่งเวลานั้นผมเดาว่ากายอยากเล่าเรื่องใบปอแน่ๆ เพระาถ้าเป็นเรื่องอื่นกายคงพูดออกไปแล้ว

"น่าใบปอจะมาด้วยเน๊าะ"
"ครับ ผมชวนแล้ว ใบปอบอกไม่ว่าง"
"อืม ไม่ต้องเครียดเรื่องนี้หรอก ยังไงใบปอก็ชอบกายนะ ดูท่าทางเค้าจะดีใจนะที่กายเอาเค้าขึ้นสถานะว่าคบกันอยู่"
"ฮ่ะๆ ผมว่าจะเอาลงอยู่พี่"
"อ่าว ทำไมล่ะ" พอผมถามจบกายก็หันมามองผมแล้วพูดว่า
"ผมอาย"
"เฮ่ย ไม่เห็นเป็นไรเลย"
"คือ ผมจะไปสร้าง FaceBook อีกอัน ค่อยเอาเข้าขึ้นอีกที คนอื่นจะได้ไม่เห็น"
"ซะงั้น"

          แล้วระหว่างที่คุยพลอยก็มาพอดี ผม กาย แล้วก็พลอย เลยไปสั่งไก่มานั่งทานกัน ระหว่างทานก็พูดคุยเรื่องทั่วไปเน้นฮาเฮเข้าว่า ทว่าระหว่างการคุยจู่ๆกายก็พูดขึ้นว่า

"ชินโวยวายด้วย" กายพูดแล้วหันไปทางพลอย
"เรื่องอะไร" พลอยถามกลับ
"ก็เรื่องสถานะ"
"ก็พี่เค้าหึงเอ็ง เค้าเลยโวยไง" พลอยพูดพลางยิ้มๆ
"หึงอะไร เป็นแค่พี่น้องกัน"
"อ่าว ไม่ใช่เอ็งคบกับพี่เค้าอยู่เหรอ" พลอยถามขึ้นแล้วแสดงสีหน้า งงๆ
"เปล่า แต่ช่างเถอะ เดี๋ยวเขาแก้ปัญหาเอง" กายตอบกลับด้วยน้ำเสียงเครียดๆ

        ผมได้แต่นั่งฟังเฉยๆกับบทสนทนานี้....แล้วมันก็แสดงให้ผมเห็นว่านอกจาใบปอแล้ว มีคนอื่นรู้เรื่องนี้ด้วยเหมือนกัน จากนั้นกายก็ไม่พูดถึงเรื่องชินอีกตลอดการทานอาหาร แต่....กายกลับวนมาที่เรื่องของว่านแทน

"เออ เห็นว่านมันไปบ้านปั่นทุกวันเลย" กายหันไปพูดกับพลอย
"มันไปทำอะไร" พลอยถามขึ้น
"ไปหาพี่สาวปั่นมั้ง เห็นว่าจีบกันอยู่นี่"
"เออ นั่นดิ พี่ก็เห็นใน FaceBook โพสคุยกันซะมดตอมเลย"
"จริง"
กายพูดเสริม
"จริงน่ะ หนูถามว่านแล้ว ว่านมันบอกว่าไม่ได้จีบ"
"นี่เลย พี่เอผมจะเล่าให้ฟัง ที่เจอกันวันแรก วันนั้นไปทำงานบ้านปั่น มีผม ว่าน ปั่น ริว เกม ฟิว ไปด้วยกัน พอไปถึง พี่สาวปั่นก็มาขอเบอร์ว่านเลย"

"แรง" พลอยพูดขึ้น
"นั่นดิ ยังไม่ทันถามชื่อเลย ขอเบอร์แล้วอะ แถมยังถามว่า เล่น FaceBook ไหม เล่น MSN ไหม ด้วยนะ" กายพูดต่อ
"ขนาดนั้นเลย"
"ครับพี่"
"งั้นก็แสดงว่าพี่สาวปั่นออกตัวจีบว่านก่อนหน่ะซิ"
พลอยแสดงความเห็นขึ้นมา
"ถูกเลย"
"เสน่ห์แรงจริง ฮ่ะๆๆ" ผมพูดพลางหัวเราะ
"แต่ถ้าว่านกับพี่สาวปั่นชอบกันจริง ต้องมีคนแถวนี้เสียใจแน่เลย" พลอยพูดพลางยิ้มอย่างมีเลสนัย
"จะว่าไปนะครับ หลังๆผมคุยกับว่านแล้วพูดถึงพี่ทีไรว่านจะอารมณ์เสียใจผมทันทีเลยอะ" กายพูดแล้วมองมาที่ผม
"เหรอ...ฮ่ะๆ วันนี้ว่านน่าจะมาด้วยเน๊าะ"
"จะดีเหรอพี่" พลอยพูดขึ้นแล้วยิ้ม

            จากนั้นผมก็พากายหลบไปคุยเรื่องอื่น แต่ว่ากายก็ยังวนกลัมาเรื่องว่านกับผมได้อีก ซึ่่งแน่นอนไม่มีคำตอบ หรือ ความเห็นใดๆนอกจากการพากายไปคุยเรื่องอื่นแทน ซึ่งพลอยแอบยิ้มตลอดเลย อืมมม ส่วนคำถามที่กายถามหน่ะเหรอครับ ก็เช่น เดี๋ยวนี้ว่านไม่พูดถึงผมเลยทั้งๆที่เมื่อก่อนพูดถึงบ่อยมากหยั่งกับอยู่บ้านเดียวกัน ไม่เห็นคอมเม้น FaceBook กันเลย ไม่เห็นว่านเอาหนังสือหรืออะไรจากผมไปอ่านเหมือนเมื่อก่อน ไม่เห็นผมไปรับไปส่งว่านเหมือนเดิม ฯ หลังจากทานอาหารเที่ยงเสร็จเราทั้งสามคนก็ไปร้องคาราโอเกะต่อ จนถึงบ่ายสอง พลอยก็แยกตัวไปเรียนพิเศษ ผมก็ไปส่งกายที่้บ้านก่อนที่กายจะไปเรียนพิเศษต่อ ส่วนผมก็ไปถ่ายภาพกับชมรมถ่ายภาพต่อ
            กว่าจะกลับมาถึงบ้านก็ค่ำแล้ว....กว่าจะลงภาพ คัดภาพ ซักผ้า อาบน้ำ เสร็จก็ปาเข้าไปเกือบๆเที่ยงคืน พอมานั่งหน้าคอมพ์ปั๊บใบปอทักมาทันทีที่มือผมจับเม้าส์ แล้วผมก็คุยกับใบปอไปเรื่อย จนถึงตอน 00.00 ( ตามเวลาในเครื่องผม ) ผมก็กดส่ง SMS ที่พิมพ์เตรียมไว้ไปที่เบอร์ของว่านทันที "แฮปปี้เบิร์ดเดย์ครับ ขอให้มีความสุขมากๆตลอดทั้งปีนะครับ" จากนั้นผมก็เข้า FaceBook ก่อนจะ Add เพื่อนว่านไปอีกครั้ง
            ตอนนี้ยังไม่มีการตอบรับใดๆทั้งปฏิเสธ และ ตอบรับ....ส่วนตุ๊กตาที่ฝากพลอยไป....ก็ไม่รู้ว่าว่านจะรับไหม จะปาทิ้งลงพื้น หรือ ปาลงถังขยะก็ไม่รู้.... ตอนนี้สำหรับผมการกด Add คราวนี้ ไม่ว่าว่านจะรับ หรือ ไม่รับ ผมก็ขอนับเป็นคำตอบจากว่านแล้วกัน เพราะนานแล้วที่ผมไมได้ติดต่อไป ส่งข้อความ ส่งของขวัญ กด Add คราวนี้ ถ้าว่านยังปฏิเสธอยุ่ ผมก็คงได้แต่ทำใจแล้วล่ะครับ....ถึงมันจะยาก...แต่ผมก็ต้องทำใจให้ได้
            ตอนแรกผมว่าจะโทรหาว่านนะ.....แต่ตอนนี้ผมว่า....ไม่ดีกว่า.........



            แล้วก็...แฮปปี้เบิร์ดเดย์นะว่าน



http://www.youtube.com/v/Q3uOkvH5hyI?version=3&amp;hl=th_TH&amp;rel=0

ก็รู้ว่ามันเป็นวันสำคัญ ของเธอนะ
และฉันก็ไม่อยาก จะมารบกวนเท่าไหร่
ที่ฉันนั้นพอจะมีก็เพียง แค่ดอกไม้ กับข้อความที่ส่ง ให้เธอ
เธออาจจะรับมันไว้ หรือเธอจะโยนทิ้งไป
แต่ว่าไม่เป็นไร แค่อยากให้เธอได้รู้

สุขสันต์วันเกิด Happy Birthday
แม้ฉันจะไม่ได้เจอ แต่อยากส่งผ่านเพลงนี้ไป
สุขสันต์วันเกิด Happy Birthday
ถึงฉันต้องอยู่คนเดียว แต่จะฉลองให้เธอได้ไหม

ไม่รู้เธอกำลังมีความสุข กับใครนะ
แต่ฉันก็ไม่อยาก จะรับรู้อะไร
ก็ขอให้เธอจงมีความสุข ต่อไปนะ
ฉันจะขอคอยมองอยู่ แค่นี้ก็สุขใจ

เธออาจจะรับรู้ไว้ หรือเธอจะไม่ใส่ใจ
แต่ว่าไม่เป็นไร แค่อยากให้เธอฟังไว้

สุขสันต์วันเกิด Happy Birthday
แม้ฉันจะไม่ได้เจอ แต่อยากส่งผ่านเพลงนี้ไป
สุขสันต์วันเกิด Happy Birthday
ขอให้เธอมีความสุขเท่านั้น ฉันก็สุขใจ

สุขสันต์วันเกิด Happy Birthday
แม้ฉันจะไม่ได้เจอ แต่อยากส่งผ่านเพลงนี้ไป
สุขสันต์วันเกิด Happy Birthday
ขอให้เธอมีความสุขเท่านั้น ฉันก็สุขใจ
หัวข้อ: Re: น้องชาย 2 ( Up เหตุการณ์ล่าสุด 05/08/11)
เริ่มหัวข้อโดย: icyblue ที่ 06-08-2011 10:03:22
น้องกายมีพี่ชายที่แสนดี แถมยังเป็นพ่อสื่อสานสัมพันธ์ให้ด้วย

งานนี้น้องกายคงได้  :n1: กับน้องใบปอแน่ๆ   
หัวข้อ: Re: น้องชาย 2 ( Up เหตุการณ์ล่าสุด 05/08/11)
เริ่มหัวข้อโดย: kritsada.s ที่ 06-08-2011 12:14:53
น้องผู้หญิงนี่แปลกคนเนอะ -> หนูไม่ค่อยมีเวลาให้เค้าเลย ถ้าจบกันก็คงบอกเหตุผลไม่มีเวลาให้กัน จบ เหมือนพวกดารา ฮ่าๆ
จริงๆ แล้วก็พูดยากเนอะต่างคนก็ต่างมีเหตุผลเป็นของตัวเองทั้งนั้น อาจเป็นเพราะเด็กอยู่มั้ง ม.3 เอง เด็กๆ ส่วนใหญ่รู้ว่าชอบ ต่างฝ่ายพอใจซึ่งกันและกันก็คบกันตามกระแส เพราะเพื่อนยุบ้าง เพราะผู้หญิงหน้าตาดีบ้าง หรือไม่ก็ครั้งแรกปิ้งเลย มันไม่มีค่อยมีอะไรพิเศษหรอก ผ่านไปถ้าไม่ใช่คนที่ใช่ก็เบื่อไปเอง เมื่อมีคนใหม่เข้ามา เห็นว่าดีว่าคนเก่าก็มีใหม่ จะเอาอะไรมากมายกับชีวิตเนอะ เด็กๆ
เด็กทั้งสองคนจะรักกันอะมันต้องเรียนรู้กันเอง เห็นที่คุณเอเล่ามา โดยที่คุณเอเป็นคนสานความสัมพันธ์ ผมว่ามันก็ดีอยู่คือเห็นใจ แต่อย่าบ่อยอ่ะ ถ้าทั้ง 2 กลับมารักกันได้ เมื่อวันเวลาผ่านไปเรื่อยแล้วเกิดมีปัญหาอีกแล้วทั้ง 2 กับไม่พูดคุยกัน รอแต่ให้คนอื่นๆ ช่วย ผมว่าไม่รอดหรอกเรื่องความรักว่าม่ะ เวลาของพวกเขามีอีกตั้งเยอะแยะ แค่ ม.3 เอง กว่าจะม.ปลาย มหาวิทยาลัย วัยทำงาน
หัวข้อ: Re: น้องชาย 2 ( Up เหตุการณ์ล่าสุด 05/08/11)
เริ่มหัวข้อโดย: naoki24 ที่ 06-08-2011 20:55:30
 o13สวัสดีคุณเอ
วันนี้มานั่งอ่านกับลิงไม่เห็นมีบทคุณเอเลย
ตอนนี้ยิมเข้าที่หรือยัง แล้วสมาชิกเยอะมั้ย เด็กๆมีความสุขหรือป่าว
ผมก็ได้ที่สอนพิเศษเพิ่มอีก1บ้าน (2คน ชายทั้งคู่แถมแฝด ว่าจะเอามาเขียนนิยายแบบคุณเอจัง) อิอิ ล้อเล่น

น้องกายเหมือนลูกคนเดียวหรือเป็นลูกคนโตเนอะ ขาดคนที่อายุมากกว่ามาเป็นที่ปรึกษา
ส่วนน้องว่านก็รอลูกเดียว น้องบีกะน้องอ้นก็่อ่ะนะ ไปเข้าค่ายกะว่านด้วยป่าวหว่า??
น้องเค้าเคยมาอ่านที่คุณเอพิมพ์มั้ยเนี่ย น่าจะลองให้น้องเข้ามาอ่านนะ ผมว่าน้องคงเข้าใจอะไรเยอะ
แต่ถ้าน้องรับไม่ได้คงทำให้ทั้งน้องทั้งคุณเอเจ็บปวดป่าวๆ งั้นอย่าเลยเนอะ 5555
ตอนนี้ลิงมันไซ้ซอกคอจนอารมณ์ขึ้นแล้ว เด๋วลากลิงไปนอนก่อนแล้วจะกลับมาหาอะไรอ่านต่อครับ แล้วเจอกัน o13

ป.ล. @ aries
"ของหนัก" คิดว่าคุณก็คงรู้แต่เราไม่พูดถึง อึอึ (เหมือนเคยได้ยินคำนี้มาจากในหนังอะไรซักอย่าง)
ไปดูในข้อมูลส่วนตัวไม่มีที่ติดต่อเลย T T ผมเลยมาขอต่อติดข้อมูลที่นี่เอาละกันเนอะ เหอเหอ
เรื่องน้องคุณอ่ะนะ ปล่อยวางเขาเยอะๆ แล้วมาดูแลห่างๆแทน
ฝากทางเพื่อนหรือคนสนิทของเค้าช่วยดูแลต่อ แล้วเราคอยติดตามผล
ถ้าเค้าดี เราก็ตอบแทนเค้าบ้าง ถ้าเค้าร้ายเราก็ไปเยี่ยมเยือนบาง
แต่ไม่ใช่ไปด่านะ ไปพูดคุยเล่าเรื่องอะไรต่ออะไรให้เค้าฟังแล้วเอามาเปรียบเทียบกับตัวเค้าเป็นการสอน
เค้าจะค่อยๆซึมซับแล้วดีขึ้นเองแหละคับ
อีกอย่างตอนนี้คุณซึ่งเป็นพี่ไม่มีประโยชน์ต่อเค้าหรอก เด็กวัยนี้จะดีจะเลวอยู่ที่เพื่อนเค้าละครับ :impress2:
หัวข้อ: Re: น้องชาย 2 ( Up เหตุการณ์ล่าสุด 06/08/11)
เริ่มหัวข้อโดย: me_alone ที่ 07-08-2011 03:30:47
@icyblue
ว่าจะตอบตั้งแต่เมื่อวานแล้วครับ
แต่ว่าผมไม่แน่ใจเรื่อง กาย กับ ใบปอ เพราะรู้สึกว่าต่างคนต่างยังเล่าความจริงไม่หมด
สุดท้ายวันนี้ก็ได้ความจริงเพิ่มมาอีกอย่าง มันเกือบๆจะเฉลยได้หมดทุกปริศนา
ในเรื่องเหตุผลในเรื่องความสัมพันธ์ทั้งของกาย และ ของใบปอ
ยังขาดอีกอย่างเดียวที่ผมอยากรู้ก่อนจะรีบสรุป ฮ่ะๆๆ



@kritsada.s
ตอนนี้ผมพอทราบเกี่ยวกับเหตุผลของใบปอแล้วครับ
เพราะก่อนหน้านี้ที่ฟังจากฝั่งกายมันดูขัดแย้งมากมาย เพราะเวลาผมคุยกับใบปอ ก็ดูเค้าจะรักกันดี
เหมือนจะมีเหตุผลที่ทำให้เค้าสองคนแสดงออกกันได้ไม่เต็มที่ แล้ววันนี้ก็ได้มาอีกหนึ่งเหตุผล
ยังขาดอีกหนึ่ง.....



@naoki24
เหอๆๆ...จริงๆก็อยากให้มาอ่านนะครับ  จะได้เข้าใจผมมากขึ้น แล้วก็เข้าใจอะไรๆมากขึ้น
แต่มาคิดดูมันได้ไม่คุ้มเสียอะ ถ้าน้องมาอ่านจริงๆแบบนี้น้องก็รู้หมดซิครับว่าผมคิดอะไร เหอๆๆ
หัวข้อ: Re: น้องชาย 2 ( Up เหตุการณ์ล่าสุด 06/08/11)
เริ่มหัวข้อโดย: kritsada.s ที่ 07-08-2011 10:22:39
ฮ่าๆ กายนี่เอาทุกอย่างเลยเนอะ และกลายเป็นว่า งานเข้าคุณเอ ฮ่าๆ
ถ้าคุณเอไม่รู้เนี่ยสงสัยจะเป็นคนหนึ่งที่กายจะคบนะเนี่ย ปัญหามีไว้แก้ แก้กันต่อไป
ใกล้วันเกิดว่านแล้ว จะเป็นอย่างต่อไปเนี่ย ลุ้นจนเหนื่อย..

ปล. ถามหน่อยคุณเอ ผู้ชายคนนั้นของกาย ท่าทางยังคงผู้ชายแบบปกติทั่วไป หรือออกไปทางนั้นมากๆ จนเห็นได้ ชัดแล้ว ฮ่าๆ ขออภัยที่ถามเนอะ ก็คุณเอ "ดูปั๊บ.....โอ๊ววว"
หัวข้อ: Re: น้องชาย 2 ( Up เหตุการณ์ล่าสุด 06/08/11)
เริ่มหัวข้อโดย: me_alone ที่ 07-08-2011 12:13:16
@kritsada.s
ครับ ตอนแรกคิดว่ากายอายุแค่ 14 น่าจะเป็นเด็กใสๆไม่มีเหลี่ยมอะไรมากมาย
มาถึงตอนนี้ต้องเปลี่ยนความคิดแล้วล่ะ เพราะกายจงใจปิดผมเรื่องชิน
ที่สำคัญการเข้าหาของกายนั้น มันดูแปลกๆ ทั้งแต่การให้ความสำคัญ โทรหาก่อนนอนทุกวัน มันไม่ใช่อะไรที่ใครจะทำกัน
พูดง่ายๆคือมันดู...เปิดโอกาสให้เราพัฒนาความสัมพันธ์กับน้องเค้าได้อีก ( เปิดโอกาสให้เราจีบว่างั้น )

ส่วนเรื่องว่านผมฝากของไปกับพลอยแล้วครับเมื่อเช้า ก็รอดูกันต่อไปว่าน้องจะรับ จะปาทิ้งลงพื้นตรงนั้น หรือ จะปาทิ้งลงถังขยะ

ผู้ชายคนนั้นของกายเหรอครับ ดูปั๊บก็รู้ว่าสาวอะครับ
ส่วนประโยคที่ว่า "ดูปั๊บ.....โอ๊ววว" คือ ดู Wall ใน FaceBook เค้าครับ อ่านข้อความแล้ว ยังไงก็ไม่ใช่แค่พี่น้องแน่นอนครับ
หัวข้อ: Re: น้องชาย 2 ( Up เหตุการณ์ล่าสุด 06/08/11)
เริ่มหัวข้อโดย: llImBowmIll ที่ 07-08-2011 17:29:33
เค้าพึ่งมาอ่านแบบทีเดียวจบ(เฉพาะเรื่องของน้องว่านนะคะ)
อ่านแล้วแบบว่า
ว่านนิสัยคล้ายๆเราเลยอ่า><
แต่ก็พูดไรมากไม่ได้อ่ะค่ะ
แต่ยังไงเราก็เอาใจช่วยคุณเอนะ><
เราจะติดตามไปเรื่อยๆค่ะ
แต่เราก็ยังแอบเชียร์น้องว่านนะ
เชื่อเราสิถ้าคนเรามันเคยมีใจเคยหวั่นไหวหรือเคยคิดมากเร่ืองใครคนนึงแล้ว
มันก็เลิกคิดเลยไม่ได้หรอก
ก็เหมือนคุณเอที่พยายามปล่อย
แต่กลับเลิกไม่ได้สักที
มันคงฝังใจน่ะค่ะ
เราเชื่อว่าน้องเค้าก็อาจจะยังอยากคุยกับเออยู่ในใน
แต่ก็ฟอร์มไป
ยังไงถ้าจะปล่อยก็ปล่อยนะคะ
แต่ว่าถ้าคิดว่าปล่อยไม่ได้ก็รีบๆล่ะ
ก่อนที่เราจะเสียเค้าไปจริงๆ
 o13 o13
หัวข้อ: Re: น้องชาย 2 ( Up เหตุการณ์ล่าสุด 08/08/11 : แฮปปี้เบิร์ดเดย์นะว่าน )
เริ่มหัวข้อโดย: me_alone ที่ 08-08-2011 15:33:44
@llImBowmIll
จริงๆก่อนหน้านี้ผมก็พยายามจะคุยกับเค้านะครับ แต่เค้าหลบผมตลอดอย่างที่ลงไว้ในเรื่อง
ตอนหลังๆเองผมก็พยายามติดต่อเค้าอยู่ อาจเพราะก่อนหน้านี้ผมเองก็ทำอะไรหลายๆอย่างไม่ถูกด้วยเหมือนกันที่ไปประชดเค้าแบบนั้น
มาถึงเวลานี้ความหวังมันมีแต่คงจะน้อยมากๆแล้วล่ะครับ ว่านเป็นเด็กหน้าตาน่ารัก มีคนมาชอบเค้า เอาใจเค้ามากมาย
ในขณะที่เค้าโกรธผมด้วยเรื่องอะไรก็ไม่รู้จากนั้นพอไม่ได้เจอกัน ก็มีพี่สาวปั่นมาเทคแคร์
ฮ่ะๆๆ....ไม่รุ้ซิครับ ถ้าคิดในด้านบวก ก็คงจะเชื่อว่าสิ่งที่เค้าบอกพลอย บอกทุกๆคนว่าเค้าไม่ได้จีบพี่สาวปั่นมันเป็นเรื่องจริง
แต่ถ้ามองในด้านลบจากที่เค้าแสดงออกถึงกัน รวมถึงสิ่งที่ว่านแสดงออกกับกายเวลาพูดถึงผม มันก็หมายความว่ามันไม่มีทางกลับมาได้เหมือนเคย
จริงๆเวลานี้ผมใกล้ปิดเรื่องนี้เต็มที เพราะมันไม่มีเหตุผลมากมายที่ผมจะรั่งตื้อว่านไว้ ถ้าเค้ายังยืนกรานปฏิเสธอยู่

แล้วก็ขอบคุณนะครับสำหรับกำลังใจ....
หัวข้อ: Re: น้องชาย 2 ( Up เหตุการณ์ล่าสุด 08/08/11 : แฮปปี้เบิร์ดเดย์นะว่าน )
เริ่มหัวข้อโดย: llImBowmIll ที่ 08-08-2011 17:22:16
ค่ะ
ยังไงพี่เอก็พยายามเลือกทางที่พี่คิดว่าดีที่สุดสำหรับชีวิตแล้วกันนะคะ
อย่าลืมล่ะ  ว่าชีวิตเราน่ะ มันต้องก้าวไปข้างหน้า
การที่เราเสียใครไปนั้นไม่ใช่เรื่องแปลก
ถึงแม้นานเท่าไหร่เราจะยังเลิกคิดถึงเค้าไม่ได้
แต่การคิดถึงใครคนนึงก็ไม่ใช่เรื่องเสียหาย
อย่างน้อยพี่เอก็ได้รู้ว่า  ในวันหนุ่ง เราเคยมีประสบการณ์ที่ทำให้เราสบายใจและยิ้มออกกับน้องคนนี้
อย่างน้อยเราก็ได้รู้จักน้องเค้า
ถึงช่วงเวลามันจะสั้นไปสักหน่อย
แต่อนาคตยังมีอีกนานค่ะ
อาจจะมีคนที่ทำให้เรารู้สึกดีๆกับเค้ามากกว่านี้ก็ได้นะ><

ปล. พี่เอเรียนคณะไรอ่ะค่ะคือตอนนี้เราอยู่ ม.6กำลังเลือกคณะเรียนต่อแล้วอยากรู้ข้อมูลเกี่ยวกับคณะต่างๆน่ะค่ะ  คือเราชอบเกี่ยวกับคอมอ่ะค่ะ><
ปล2.  ภาพดิสพี่เอนี่รูปใครอ่ะน่ารักดี><
หัวข้อ: Re: น้องชาย 2 ( Up เหตุการณ์ล่าสุด 08/08/11 : แฮปปี้เบิร์ดเดย์นะว่าน )
เริ่มหัวข้อโดย: naoki24 ที่ 08-08-2011 18:12:06
 :sad4:อ่านแล้วน้ำตาจะไหล วันเกิดว่านแล้ว วันตัดสินแล้วสินะ
เค้าว่าคนเกิดเดือนสิงเรื่องรักตะรุนแรงมากมาย อีกทั้งยังมีความมั่นใจสูงซะ
ยังไงก็ขอแฮบปี้เบิดเดย์ให้ว่านด้วยและอวยพรให้ว่านแอดคุณเอเข้าไปในใจอีกที
 ป.ล. "ห่วงหน้า พะวงหลัง" ไม่ใช่ "ห่วงหน้า ผวงหลัง" เด๋วตีมือแตกเลย กลับไปแก้ด้วย ลิงผมสั่ง
หัวข้อ: Re: น้องชาย 2 ( Up เหตุการณ์ล่าสุด 08/08/11 : แฮปปี้เบิร์ดเดย์นะว่าน )
เริ่มหัวข้อโดย: aries ที่ 09-08-2011 11:35:05
555
@naoki24
คร้าบท่านพี่ ไม่ได้คุยกันนานพอดีขึ้นมาสอบ กพ ปวดหัวภาษาไทย ยากมาก (คนไทยป่าวเนี้ย) 555 รอบปีคลึ่งเลยได้นั่งรถเมล์ในกรุง (ปรกติขี่ มอไซ 555)
ผมaddไปเเล้วนะครับ รับด้วยรอความหวังอยู่น้อ
@พี่เอ
สงสารว่านเหมือนกันนะครับ ถ้ามองอีกมุมนึง ว่านคิดอะไร รักคนอื่นประชดพี่เอรึป่าว หรือว่าโกดจิง เเต่ยิ่งว่านยิ่งจมดิ่งลงไปเรื่อยๆว่านนั้นเเหละจะทรมาณ ผมอยากให้พี่เอรักว่านเหมือนเดิม ให้พาว่านใว้ในใจของพี่ ห่วงอยู่ห่างๆ ถามข่าวคราวบ้างอย่าตัดใจทิ้งไปเลย ส่วนพี่เอก็อย่าไปคิดอะไรมาก ตอนนี้ผม ว่าพี่ต้องรออย่างเดียวถ้าพี่อยากได้ว่านกลับมา
@me
ส่วนของผม ตอนนี้ตัวเล็กอกหัก 555 สะใจเเต่ก็สงสาร ก็ต้องค่อยๆดูเเลมันไปอีก เดี๋ยวนี้ทักมาทุกวัน กลับวันไหน ทำไรอยู่ เหอะๆๆ ทักมาเเต่ละอย่างไม่ดูใจเราเลยว่าเราคิดอะไรบ้าง เเต่ก็อย่างว่านะครับ น้องผมนิ เห้อ ต่อจากนี้คงมานอนที่บ้านบ่อยอีกเเระ มานอนทำใจ 555 (ไอเราก็ทำไรไม่ได้ กลุ้ม)
อย่าลืมรับผมเป็นน้องนะครับ พี่ naoki24
หัวข้อ: Re: น้องชาย 2 ( Up เหตุการณ์ล่าสุด 08/08/11 : แฮปปี้เบิร์ดเดย์นะว่าน )
เริ่มหัวข้อโดย: khuan ที่ 09-08-2011 15:38:02
ไม่มีไร .... เข้ามาทักเฉยๆ 

มาอัพเหตุการณ์ด้วย...เดี๋ยวตกข่าว

หุ หุ คุณเอ ไม่นอนดึกแล้วเหรอ เหอ เหอ เหอ
หัวข้อ: Re: น้องชาย 2 ( Up เหตุการณ์ล่าสุด 12/08/11 )
เริ่มหัวข้อโดย: me_alone ที่ 09-08-2011 20:36:17
9 ส.ค.
             เมื่อวานหลังจากที่ผมกด Add ไป....ผมก็คลิกวนดูหน้า FaceBook อยู่เป็นระยะๆ จนในที่สุดช่วง 1 ทุ่มเศษ ว่านก็เข้า FaceBook....ทว่า....ไม่มีทั้งการตอบรับ และ ปฏิเสธ.....หรือว่าว่านไม่ทันเห็น เพราะตอน 21.00 ว่านต้องรีบไปขึ้นรถโรงเรียนเพื่อไปเข้าค่ายที่จังหวัดแห่งหนึ่งในแถบภาคตะวันตก ว่านอาจเข้ามาแค่ดู Wall แล้วก็ออกไปเลยก็ได้....ยังไงก็ตามกายบอกผมว่าจะกลับมาวันที่ 11 สิงหาคม นั่นหมายถึงว่าผมต้องรอไปจนถึงประมาณวันที่ 11 - 12 ถึงจะได้คำตอบจาก FaceBook ว่าน
             ที่ทำไปเมื่อวาน...มันทำให้ผมรู้สึกสบายใจขึ้นมากมาย เหมือนกับว่าได้ปลดปล่อยพันธนาการภายในใจออกไปได้ส่วนหนึ่ง อย่างน้อยๆก็เป็นอีกครั้งที่ผมพยายามจะง้อว่าน ถึงความหวังมันจะริบหรี่ก็ตามที ตอนนี้ผมไม่หวังว่าว่านจะกลับมาเป็นเหมือนเคย....ขอแค่ให้เค้าไม่เกลียดผมก็พอ

             หลังจากสอนน้องเสร็จ.....ผมขับรถเล่นไปที่สะพานข้ามทางรถไฟที่ผมเคยมานั่งเล่นกับบี.....พอถึงจุดสูงสุดของสะพานผมก็จอดรถชิดริมกำแพงข้างทาง ก่อนจะนั่งมองท้องฟ้า...ฟังเสียงลม กับ รถที่นานๆจะมีวิ่งผ่านไปมาสักที....ถ้าตอนนี้มีใครสักคนมานั่งอยู่ด้วยก็ดีซินะ.....ผมหยิบโทรศัพท์ออกมาจากกระเป๋าแล้วเลื่อนรายชื่อลงไปหาชื่อของคนๆหนึ่ง....

"ตรู๊ดดดดดด........ตรู๊ดดดดดดดด......ตรู๊ดดดดดดด......ฮัลลโหลววว"
"ทำอะไรอยู่"
"เล่นคอม"
"เล่นเกมเหรอ"
"ไม่ๆ เล่นคอมเฉยๆครับ"
"อื่อ...แล้วเป็นไงบ้างไม่ได้คุยด้วยตั้งนาน"
"ก็สบายดี"
"บี....กระต่ายที่เคยขอพี่หน่ะ....ยังอยากได้อยู่ไหม"


....................


10 ส.ค.
               42 นาทีก่อนมาเริ่มเขียนวันนี้....หลังจากสอนน้องเสร็จผมขับรถช้าๆไปยังสะพานข้ามทางรถไฟ....ผมทำอย่างที่เคยทำ ที่นี่มากี่ครั้ง กี่ครั้งมันก็เหมือนเคย ความเงียบ ลมเย็นๆ กับเสียงรถที่นานๆจะผ่านมาสักที เหมือนชีวิตผม....เงียบๆ...นานๆจะมีใครผ่านมาสักที....แต่แล้วก็ผ่านไป ทิ้งไว้แต่ความเงียบงัน อยากนั่งเล่นตรงนี้นานๆจัง

"ichiban yari ore ga itadaki kirikomi-taichou Kagamine Len da" เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นมาท่ามกลางความเงียบงัน

"น้องบี Calling" ทันทีที่เห็นชื่อบนหน้าจอโทรศัพท์....รอยยิ้มก็ผุดขึ้นมาทันที.....

"ครับผม"
"พี่เอ....ซ้อมวันไหนบ้าง"
"จันทร์ถึงศุกร์เหมือนเดิม"
"เหรอครับ แล้วกี่โมง"
"ห้าโมงครึ่งถึงทุ่มหนึ่ง"
"ค่าเรียนล่ะครับ"
"เหมือนเดิมครับ"
"พี่เอ....ที่พี่ให้ผมคุยกับอ้นเมื่อวาน ผมคุยแล้วนะ เดี๋ยวอ้นกับผมจะกลับไปซ้อมคืน"
"อื่อ"
"แต่อ้นให้ผมมาถามย้ำว่าครูทีไม่มาแล้วจริงๆใช่ไหม"
"ก็ไม่มาช่วงนี้ล่ะครับ แต่ถึงจะมาอีกทีเค้าก็จะไม่มายุ่งกับน้องๆพี่แล้วก็ครูป้อมสอนหรอก"
"เหรอครับ พี่เอ...มีเพื่อนผมอีกคนเค้าอยากเรียนด้วยนะ"
"เอาดิ"
"ว่าแต่ตอนเย็นพี่มารับผมที่โรงเรียนได้ไหมครับ"
"ได้"
"รับอ้นด้วยนะ"
"ได้"
"เพื่อนผมล่ะ"
"ก็ได้เหมือนกัน"
"แฮะๆ เกรงใจพี่จัง"
"ไม่เป็นไร"
"งั้นแค่นี้ก่อนนะครับ"
"ครับ....บี"
ผมเรียกชื่อบีก่อนที่จะวางสาย...ตอนนั้นผมไม่รู้ว่าทันไหม
"ครับ" เสียงบีตอบกลับมา
"คิดถึงนะครับ"

                บี...จะกลับมาอีกแล้วซินะ.....ฮ่ะๆๆ....เฮ้อ.........อ้นก็มาด้วย.....แล้ว....บียังจะให้ผมกอดอยู่ไหมน๊าาา.......ว่าแต่บีจะรู้หรือเปล่าก็ไม่รู้ ว่าบีโทรมาแค่นี้.....ก็ทำให้ผมยิ้มไม่หยุดแม้ขณะที่กำลังวพิมพ์อยู่นี่ก็ตาม


11 ส.ค.
19.37 น.
"ตรู๊ดดดดดด......ตรู๊ดดดดดด....ฮัลโหลวว"
"บี ทำอะไรอยู่ครับ"
"ก็...อยู่บ้านคนเดียว เฝ้าบ้าน"
"คนอื่นล่ะ"
"เค้าออกไปทานข้าวกันหมด บีไม่อยากไป บีอยากอยู่บ้านมากกว่า"
"เหรอ....เหงาป่ะ"
.....

.................................


12 ส.ค.
เวลาประมาณ 18.13 น. ขณะที่ผมกำลังเดินหาซื้ออะไรทานที่ Big-C แจ้งฯ พลอยก็โทรเข้ามาครับ
"พี่เอ...หนูให้ตุ๊กตาว่านไปแล้วนะ"
"เหรอ....เค้าว่าไงบ้างอะ"
"ว่านมันรู้ว่าพี่ฝากมาอะ"
"อ่าว แล้ว...."
"แต่หนูบอกมันว่าหนูซื้อให้ ตอนแรกมันไม่เชื่อ แล้วจะเอาไปให้คนอื่นต่อซะงั้น"
"ให้ใครเหรอ"
"เพื่อนในห้องที่เกิดวันเดียวกันกับมันอะค่ะ"
"อืมมม...ก็แล้วแต่เค้า ถือว่าให้ไปแล้ว"
"ไม่ๆพี่ พอมันให้เพื่อนอีกคนไปหนูทำท่าจะร้องให้ มันเลยเอากลับมาคืน ตอนนี้มันเอากลับบ้านไปด้วยแล้วล่ะ"
"เหรอ"
"เมื่อกี้ๆมันโทรมาบอกหนูว่ามันวางใว้บนหัวนอน"



...............................


                หลังจากทานข้าวเสร็จผมก็เข้ามาดู FaceBook ตามเคย เพื่อดูว่าว่านรับ Add หรือยัง ปรากฏว่า....ว่านปฏิเสธครับ.....ก็......ตอนนี้อยู่ กทม ไม่สะดวกพิมพ์เท่าไหร่ เดี๋ยวกลับถึงบ้าน ค่ำๆวันที่ 14 ผมจะมาเขียนอะไรทิ้งท้ายแล้วกัน ^^
หัวข้อ: Re: น้องชาย 2 ( Up เหตุการณ์ล่าสุด 09/08/11 )
เริ่มหัวข้อโดย: kritsada.s ที่ 09-08-2011 20:56:01
โอ้โห ค้าง  :a5: ฮ่าๆ
หัวข้อ: Re: น้องชาย 2 ( Up เหตุการณ์ล่าสุด 09/08/11 )
เริ่มหัวข้อโดย: iambeer ที่ 09-08-2011 21:20:05
อ่านไปจี๊ดไป มาต่อครับจากไปค้างๆ สู้ๆครับเดี๋ยวก็วันที่ 11 12 แล้ว

แต่อย่ามัวแต่รอคำตอบจากน้องเค้า จนลืมบอกรักแม่ตัวเองนะครับ
หัวข้อ: Re: น้องชาย 2 ( Up เหตุการณ์ล่าสุด 09/08/11 )
เริ่มหัวข้อโดย: naoki24 ที่ 10-08-2011 12:27:05
 :sad4: เศร้าโคตรเลย ไปนั่งดูดาวคนเดียว ณ ที่เดิม
ยังดีนะเนี่ยน้องบียังคุยด้วย ถ้าน้องตอบว่า ไม่ว่างนี้ จะจี๊ดขนาดไหน
ถ้าไม่ดึกนี่น่าชวนน้องไปกินไรกันนะ แล้วไม่โทรหาน้องอ้นบ้างละ
เด๋วผมนั่งรอว่านเป็นเพื่อนละกัน มานั่งกะผมที่สะพานพะราม4 มาม่ะ
ช่วงนี้ฝนตกบ่อยดูแลสุขภาพด้วย :call:

แล้วเจอกันวันที่ผมไปหาลิง พอดีและว่านกลับมาแล้วคุณเอก็คงเขียนเสร็จพอดีถึงผลสรุป o13
หัวข้อ: Re: น้องชาย 2 ( Up เหตุการณ์ล่าสุด 10/08/11 )
เริ่มหัวข้อโดย: me_alone ที่ 10-08-2011 23:44:29
@llImBowmIll
พี่เรียนอยู่คณะวิทยาศาสตร์ครับ
ในดิสภาพน้องฟลุทครับ หน้าเหมือนบีมากมายเลยเอามาลง


@naoki24
แฮะๆ พิมพ์เพลินไปหน่อยครับ
สะพานแถวนั้นเงียบๆครับ เดี๋ยวคราวหน้าถ้าพกกล้องไปด้วยจะถ่ายให้ดูบรรยากาศ
ส่วนอ้น....คือ.....กลัวบีหึงมั้งครับ ฮ่าๆๆ
นี่ผมก็ให้บีชวนอ้นกลับมาซ้อมแล้ว กำลังรอบียืนยันอีกรอบอยุ่
ตอนเย็นจะได้ไปนั่งท่านก๋วยเตี๋ยวกับบีกับอ้นเหมือนเมื่อก่อน ^^


@aries
เป็นกำลังใจให้นะครับ


@khuan
ครับผม ^^


@kritsada.s
ปล่อยไว้ให้จิ้นกันเอาครับ อิอิอิอิ


@iambeer
แฮะๆ จงใจค้างให้จิ้นกันครับ ให้เดากันเล่นๆผมคุยอะไรกับบี


หัวข้อ: Re: น้องชาย 2 ( Up เหตุการณ์ล่าสุด 10/08/11 )
เริ่มหัวข้อโดย: entirom ที่ 11-08-2011 03:06:18
เอ้า สู้จ้า
ไม่ว่ายังงัย มันต้องจบสักเรื่อง
ไม่ว่าจบแบบไหน
ก้อขอเป็นกำลังใจให้จ้า
หัวข้อ: Re: น้องชาย 2 ( Up เหตุการณ์ล่าสุด 10/08/11 )
เริ่มหัวข้อโดย: naoki24 ที่ 11-08-2011 23:26:43
 o13เยี่ยมยอดไปเลย น้องบีของเรา ลากน้องอ้น เอ่อ..ไม่ใช่ลากมากอดกันในโรงยิมนะ เอามาซ้อมนะ
เด๋วพี่เอร้องไห้แงๆหนีกลับบ้านแน่ๆเลย อิอิ แต่ทำไมคุณเอไม่โทรไปหาน้องอ้นด้วยละ ผมว่าอันนี้สมควรกว่านะ

เรื่องว่านถ้ากลับมาแล้วจะเริ่มแบบไหนหรือ4p ว่าน บี อ้น หรืออ้นไปกับบี แล้วคุณเอกับว่าน
หรือ อ้น บี ว่าน แล้วคุณเอคนเดียว วุ้ยช่างมัน เอาเป็นว่า ให้ว่านกลับมาเป็นปกติก่อน

เออลืมบอกไป ที่นั่งพิเศษของคุณเอน่ะ จะแบ่งปันอย่างไรในเมื่อมีคน3คนพร้อมที่จะจับจอง
อย่าลืมแบ่งความรัก เวลา ความสำคัญให้คนรอบข้างในอัตราที่เค้าต้องการอย่างพอเหมาะละ
หลังจากนั้นว่ากันใหม่เนอะ ป่านนี้ว่านคงเตรียมตัวกลับแล้วมั้ง o13

 :L2: ดอกมะลิ ช่อขาว วางข้างตัก :3123:
 :L1: แม่ที่รัก ลูกขอ ตังสองร้อย  :a5:

อันนี้เอาฮาเทศกาลวันแม่  แล้วเจอกันทุกคนเลย
หัวข้อ: Re: น้องชาย 2 ( Up เหตุการณ์ล่าสุด 12/08/11 )
เริ่มหัวข้อโดย: Y2Y ที่ 12-08-2011 21:58:31
บี กลับมาพร้อม อ้น  เหอๆๆ   ไอ้ดีมันก็ดีอยู่หรอก
แต่จะให้ดี คงต้องถามคุณน้องเอว่า จะเลือก เดินไปข้างหน้า หรือ อยู่กับที่
เรื่องว่าน เสียใจด้วยนะค่ะ แสดงว่าเค้าคงอยากตัดขาดจากเราจริงๆ ไหนๆก็ไหนๆ แล้ว ลองให้ น้องคนที่ฝากตุ๊กตาไปให้ถามให้มันชัดๆเลยดีป่ะว่าโกรธ เกลียดอะไรกัน ถ้าเป็นแบบนี้มันคาราคาซังป่าว  อย่างน้อยๆ จะได้รู้สาเหตุว่าเกิดอะไรขึ้น อาจไม่ใช่เพื่อการแก้ไขหรือแก้ตัว
แต่เพื่อไขความกระจ่างแล้วจากลา 



ปล   ของฝากกกก  จาก กทม   555
หัวข้อ: Re: น้องชาย 2 ( Up เหตุการณ์ล่าสุด 12/08/11 )
เริ่มหัวข้อโดย: icyblue ที่ 13-08-2011 00:53:49
ถ้าคู่กันแล้วคงไม่แคล้วกันแหละ

เป็นกำลงใจให้สู้ๆ ต่อไปนะเอ  :กอด1: :L2:

หัวข้อ: Re: น้องชาย 2 ( Up เหตุการณ์ล่าสุด 15/08/11 )
เริ่มหัวข้อโดย: me_alone ที่ 15-08-2011 19:51:49
ขอปิดเรื่องในส่วนของว่านเลยนะครับ

            ก็หลังจากที่ผมรอว่านตอบรับเรื่องของการ Add FaceBook บางคนอาจคิดว่าผมไร้สาระที่เอา FaceBook มาเป็นเครื่องตัดสินความสัมพันธ์ มันก็อาจจริงว่าไร้สาระสำหรับบางคน แต่กับว่านถ้าเค้าจะปฏิเสธล่ะก็....ไม่ว่าทางไหนเค้าก็จะปฏิเสธครับ ดังนั้นเราต้องมีการหยั่งเชิงไปก่อนว่าเค้ารู้สึกดีกับผมมากขึ้นหรือยัง ถ้าดีแล้วเค้าก็น่าจะรับ Add ง่ายๆ ซึ่งสุดท้ายเค้าก็ปฏิเสธที่จะรับ Add ผม ฮ่ะๆๆๆ แล้วก็อย่างที่เคยบอกว่าผมแคร์ว่านมากมาย การที่ผมจะโทร หรือ ส่ง SMS ไปตื้อ มันยิ่งแต่ทำให้ว่านเกลียดผมมากขึ้น นี่ยังไม่รวมไปตื้อที่บ้านนะครับ ถ้าถามว่าทำไมผมถึงมั่นใจขนาดนั่นว่าทำแบบนั้นแล้วว่านจะเกลียด ก็เพราะว่าผมรู้จักว่านมา 3 ปีแล้วหน่ะซิครับ
            ก็เป็นอันว่า...เราน่าจะเดาๆกันออกแล้วว่าว่านคงต้องการตัดความสัมพันธ์แบบจริงจัง ผมก็คงไม่ตื้อให้ว่านต้องรำคาญใจอีก จะว่าไปก็ตั้งหลายเดือนแล้วที่ผมไม่ได้ติดต่อไปแบบจริงจังๆนอกจากเรื่องเพลงบน FaceBook แล้วก็หลังจากเพลง "สุดท้าย" ที่ว่านโพสคราวก่อน ว่านก็ไม่ได้โพสเพลงอะไรอีกเลย....มันคงต้องจบจริงๆแล้วล่ะครับ ส่วนที่ว่านเปลี่ยนไปเพราะอะไรนั้น...ก็คงไม่มีใครรู้นอกจากว่าน แม้แต่ผมเองก็คงเดาไปต่างๆนาๆซึ่งมันไม่ได้ช่วยอะไรให้ดีขึ้นเลย
            เฮ้อ....จะว่าไปตั้งแต่ว่านหายไป....อะไรๆในชีวิตผมก็เปลี่ยนไปนะครับ เมื่อก่อนเจอเรื่องอะไรสนุกสนานก็จะเก็บไว้หมด เอาไว้เล่าให้ว่านฟัง ไปเที่ยวไหนเจออะไรแปลกๆถ้าไม่ซื้อมาก็ถ่ายภาพไว้แล้วเอามาให้ว่านดู ทุกวันนี้ผมได้แค่มองแล้วมันก็ผ่านไป....ไม่รู้สึกตื่นเต้นดีใจอะไรเหมือนเมื่อก่อน ชีวิตดูจืดๆยังไงก็ไม่รู้....
            ถ้าเวลานี้ผมสามารถพูดคุยกับว่านได้ 2 ประโยค....ประโยคแรกผมจะถามว่านว่า "ว่านโกรธอะไรพี่เหรอ" แล้วไม่ว่าว่านจะตอบอะไรกลับมาก็ตามที ประโยคที่ 2 หลังจากที่ว่านตอบคำถามผมจบ ผมจะบอกว่านว่า "พี่รักว่าน" มันเป็นประโยคง่ายๆที่ผมไม่เคยพูดกับว่านเลย......นี่เป็น 2 ประโยคที่ผมหวังจะพูดกับว่านมาหลายเดือนแล้ว.....ซึ่งหลายเดือนที่ผ่านมาผมทำได้เพียงพูดบอกว่านในความฝันเท่านั้น.....แล้วในฝัน...ว่านก็ไม่โกรธอะไรผมเลยสักนิ๊ด แถมพอผมบอกว่ารักว่าน ว่านกลับยิ้มแบบเขินๆกลับมา....แบบเดียวกับที่ว่านเคยทำก่อนหน้านี้.....รอยยิ้ม เสียงหัวเราะ ท่าทีร่าเริงตามประสาของว่านซึ่งไม่ได้ต่างจากบีเท่าไหร่เลย......ผมได้เห็นอีกครั้ง.....ถึงแม้ว่ามันจะเป็นแค่ความฝัน......ผมก็มีความสุขมากมาย


--------------------------------------------------- จบ ---------------------------------------------------
หัวข้อ: Re: น้องชาย 2 ( ปิดเรื่อง 15/08/11 )
เริ่มหัวข้อโดย: monkaew ที่ 15-08-2011 21:26:15
พี่เอครับเดี๋ยวมันก็ผ่านไปแล้วนะ
หัวข้อ: Re: น้องชาย 2 ( ปิดเรื่อง 15/08/11 )
เริ่มหัวข้อโดย: khuan ที่ 15-08-2011 21:55:57
เฮ้อ......

จะว่าไงดีน๊า....

แต่คุณเอก็พยายามมากแล้วเหมือนกันนี่เน๊าะ

คิดซะว่าอะไรที่ใช่ อะไรที่เป็นของเราก็ต้องเป็นของเราละกัน

ถ้ายังไม่ใช่พยายามไปก็สูญเปล่า

สู้ต่อไป ทาเคชิ....

ปอลิง. ลองมองรอบๆตัวดูอีกที เผื่อคนที่ใช่คนนั้นแอบอยู่   :กอด1:
หัวข้อ: Re: น้องชาย 2 ( ปิดเรื่อง 15/08/11 )
เริ่มหัวข้อโดย: icyblue ที่ 15-08-2011 23:54:37
ถือซะว่าเคยมีคนที่ได้รัก และ ความทรงจำที่ดีล่ะกันเนอะ  :man1:

ต่อไปเอคงได้เจอคนที่เป็นของเอจริงๆแหละ

เพียงแต่ตอนนี้คงยังไม่เกิด  :laugh5: :laugh5: (ล้อเล่น) จะได้ไม่เครียด

fighting  :a9:  นะ  ถึงเรื่องว่านจะจบ แต่มาเล่าเรื่องน้องกาย หรือ เป็นตอนๆพิเศษก็ได้นะจ๊ะ

 :กอด1: :L2: เอ
หัวข้อ: Re: น้องชาย 2 ( ปิดเรื่อง 15/08/11 )
เริ่มหัวข้อโดย: ummax ที่ 16-08-2011 04:03:55
                         Palmy - Stay

อาจมีฝนที่หล่นมาชั่วคราว
และเมฆขาวที่ผ่านมาเพียงชั่วคืน
เจอะกับลมก็ปลิวไป
ไม่มีใครรื้อฟื้น
ไม่ได้เป็นความยั่งยืนเสมอไป

แต่กับเธอที่ผ่านมาชั่วคราว
และเรื่องราวที่เปลี่ยนไปชั่วข้ามคืน
กับอะไรที่เป็น ก็ยังไม่เคยลืม
เหมือนว่ามันเป็นส่วนหนึ่งของหัวใจ

เราไม่เคยจะรักกัน
มีแต่วันที่อ่อนไหว
ผ่านเลยไปและไม่เคยจะกลับมา

เป็นแค่ความประทับใจ
ที่ยังคงแน่นหนา
มีแต่ฝนมีแต่ฟ้าที่เข้าใจ

ใต้ต้นไม้ที่ไม่มีร่มเงา
กิ่งก้านมันไม่ได้สูงสักเท่าไร
แต่รากลึกลงในดินหยั่งลึกลงในใจ
มีความหมายมากมายตลอดมา

http://youtu.be/Q8iTxNqtrvQ
หัวข้อ: Re: น้องชาย 2 ( ปิดเรื่อง 15/08/11 )
เริ่มหัวข้อโดย: ummax ที่ 16-08-2011 04:08:39
ดีใจกับคุณเอด้วยนะครับที่ทำให้มันจบๆไปเสียที

แต่ก็ต้องเสียใจด้วยนะ(ตัวเอง)ที่นิยายมันต้องจบแล้วเฮ้อ

เสียดายอ่ะ แล้วจะอ่านไรเนี่ย

คิดถึงนะครับ
หัวข้อ: Re: น้องชาย 2 ( ปิดเรื่อง 15/08/11 )
เริ่มหัวข้อโดย: kikumaru ที่ 16-08-2011 11:49:57
เง้ออออออออออออ
ไม่ได้เข้ามานานคุณเอปิดเรื่องแล้วซะงั้น
เรื่องเหงานะอย่าไปใส่ใจมันเลย
เราก็เหมือนคุณเอแหละ
ยังเหงาๆคนเดียว แต่ก็ยังแฮปปี้ได้นะ
เดี๋ยวคนๆนั้นของคุณเอก็มาเอง เราเอาใจช่วย
หัวข้อ: Re: น้องชาย 2 ( ปิดเรื่อง 15/08/11 )
เริ่มหัวข้อโดย: me_alone ที่ 16-08-2011 14:26:50
@monkaew
ครับผม


@khuan
อืมมม....จะลองมองหาดูนะครับ


@icyblue
อ่าครับ เดี๋ยวเปิดตอน บ่น แล้วกัน อิอิอิ


@ummax
อาจจะมาลงต่อให้นะครับ แต่คงต้องหาประเด็นก่อน เพราะผมคงจะต้องวางเรื่องว่านลงไป ถึงมันจะยากแค่ไหน ก็ต้องทำให้ได้


@kikumaru
คนๆนั้นน่าจะเป็นน้องบีนะครับ ฮ่ะๆๆๆ
ล้อเล่นครับ
หัวข้อ: Re: น้องชาย 2 ( ปิดเรื่อง 15/08/11 )
เริ่มหัวข้อโดย: naoki24 ที่ 16-08-2011 22:30:09
 :m15: คุณเอครับ เล่นซะผมน้ำตาตกเลย
สุดท้ายแล้วที่พวกเราพยายามมาตลอด มันก็ไม่ได้สูญปล่าวนะครับ มันยังอยู่ในใจเสมอ
สิ่งดีๆที่มีกับว่าน ความสนุกสนานและเรื่องราวต่างตลอดสามปีที่ได้ทำร่วมกัน
ทั้งความเศร้าและความเจ็บปวดที่ร่วมกันผ่านมา (รวมถึงที่นอนที่ไม่ได้ซักมา9เดือน (รึป่าว))
มันจะตราตรึงไปในหัวใจว่านกับคุณเอและมันจะช่วยทำให้เราเติบโตขึ้นไปอีก
และเมื่อเวลาที่ทั้งคู่เติมโตกว่านี้แล้วได้มาเจอกัน เรื่องราวที่ผ่านมาจะเรื่องเรื่องเล่า
ทีสนุกสนานกลางวงสังสรรค์ และความเข้าใจกันก็จะกลับคืนมา

ขอเสียใจกับคุณเอด้วยเรื่องน้องว่าน ทั้งที่พวกเราก็พยายามแนะนำวิธีไปบ้าง
ให้ความหวังไปบ้าง แต่ผลลัพท์ที่ออกมามันก็ทำร้ายจิตใจหลายๆคน แต่ทุกคนก็เข้าใจดีและให้อภัย
และขอแสดงความยินดีที่คุณเอตัดสินใจกับชีวิตตัวเองได้และขอให้เริ่มต้นชีวิตใหม่
อย่างมีคุณค่าและมีเรื่องดีๆเข้ามาเยอะๆละกานนะ

ผมขออย่างหนึ่ง ว่างๆก็มาเขียนเรื่องราวต่างๆให้อ่านบ้างก็ดีนะ
เรื่องน้องบี น้องอ้น น้องกาย น้องพลอย และเรื่องคุณเอ
ผมและลิงทั้ง2ตัวยังคงเฝ้าดูเรื่องราวคุณเอต่อไปเน้อ
รักและติดตามผลงานเสมอ  o13

เออลืมไปเลย ว่างแอดมาสิงับ มาคุยกัน naoki_24อย่าแสดงเมลบนบอร์ด.com  Face-Naoki Victory
หัวข้อ: Re: น้องชาย 2 ( ปิดเรื่อง 15/08/11 )
เริ่มหัวข้อโดย: kokoky ที่ 17-08-2011 20:14:01
และแล้ว.........

รักตัวเองให้มากๆนะคะคุณเอ ถึงยังไงน้องก็จะเป็นความทรงจำดีๆของคุณตลอดไป

ขอให้ได้เจอคนที่พร้อมจะ"รัก"และ"เข้าใจ"คุณเร็วๆนะคะ
หัวข้อ: Re: น้องชาย 2 ( ปิดเรื่อง 15/08/11 )
เริ่มหัวข้อโดย: bbyuqin ที่ 18-08-2011 00:55:04
เป็นกำลังใจให้เอด้วยน๊า  :กอด1:

ขอให้เจอคนที่ใช่สำหรับเอ จริงๆ ส่วนเรื่องน้องบี น้องว่าน ก็เก็บไว้เป็นความทรงจำดีๆแล้วกันค่ะ ส่วนเรื่องที่ว่าชีวิตมันดูจืดชืดเกินไป ลองหากิจกรรมอะไรให้ตัวเองเพิ่มขึ้นดีมั้ย อย่างเช่นนัดเพื่อนๆออกไปสังสรรค์ ใช้ชีวิตแบบเด็กมหาลัยจริงๆบ้างเพราะเท่าที่อ่านมาเห็นเอเล่าแต่เรื่องที่ทุ่มเทชมรมเนอะ เลยเหมือนกับว่าเวลาช่วงหนึ่งกับเพื่อนๆหายไปรึปล่าว..

ยังไงก็สู้ๆนะคะ  :L2:
หัวข้อ: Re: น้องชาย 2 ( ปิดเรื่อง 15/08/11 )
เริ่มหัวข้อโดย: llImBowmIll ที่ 20-08-2011 19:42:11
อ่านของพี่เอแล้วน้ำตาไหลพราก
เสียดายที่พี่ไม่ได้พูดประโยคที่พี่ได้เตรียมเอาไว้
ในใจก็ยังลุ้นๆพี่อยู่
แต่ถ้าพี่จะวางหนูก็ไม่ว่าค่ะ
หนูจะคอยเอาใจช่วยนะคะ
อย่างน้อยเราก็ได้มีความรักครั้งนึงล่ะค่ะ
ยังไงก็สู้ๆนะคะพี่เอ
TT-TT
อย่าลืมมาอัพเดตต่อนะคะ
ถึงจะไม่ใช่เรื่องว่านก็ตาม
หัวข้อ: Re: น้องชาย 2 ( ปิดเรื่อง 15/08/11 )
เริ่มหัวข้อโดย: nco1236 ที่ 21-08-2011 12:20:01
ชีวิตไม่สิ้น ก็ต้องดิ้นกันต่อไป  :a2:
หัวข้อ: Re: น้องชาย 2 ( ปิดเรื่อง 15/08/11 )
เริ่มหัวข้อโดย: entirom ที่ 22-08-2011 03:24:20
ไม่รู้จะพูดยังงัย
เอาเป็นว่า
ขอให้ก้าวผ่านวันนี้ด้วยดี
เพื่อวันข้างหน้า
หัวข้อ: Re: น้องชาย 2 ( ปิดเรื่อง 15/08/11 )
เริ่มหัวข้อโดย: ummax ที่ 26-08-2011 04:12:44
แวะมาทักทายครับ

ยังคิดถึงคุณเอนะครับยังรอที่จะอ่านอะไรก็ได้ครับ

หัวข้อ: Re: น้องชาย 2 ( ปิดเรื่อง 15/08/11 )
เริ่มหัวข้อโดย: me_alone ที่ 26-08-2011 22:23:15
เปิดกระทู้ใหม่ครับ ไว้บ่นในห้องนิยาย อิอิอิ

A's Diary : http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=28465.0
หัวข้อ: Re: น้องชาย 2 ( ปิดเรื่อง 15/08/11 )
เริ่มหัวข้อโดย: TinyB ที่ 12-10-2011 21:01:27
หื้ม... แอบอึ้งกับเรื่องของ บีอ้น นิดหนึ่ง...  :a5:

ไปไงมาไงมาได้กันซะงั้น เอ๊ย ไม่ใ่ช่และ  o22

ตามอ่านมาจากเรื่อง น้องชาย1 ... เรื่องนี้ เป็นเรื่องของพี่เอกับว่าน...อื้ม...ผมจะพูดอะไรดี 5555.

อยากรู้จังว่าทำไมว่านถึงเย็นชากับพี่เอได้ขนาดนี้ อยากให้พี่เอสมหวังกับว่าน แต่ก็นั่นแหละ... เฮ้อ  :เฮ้อ:

ชีวิตจริงยิ่งกว่านิยายจริงๆ ขัดใจๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ว่าน ! 5555. พี่เออย่าเตะผมนะ

ขอเดานะ (ผมขอเดา) ที่ว่านเป็นแบบนี้ส่วนหนึ่งน่าจะมาจากโค้ชรึเปล่าหว่า

แบบตอนที่โค้ชอยู่กับว่านสองคน โค้ชใส่ร้ายป้ายสีอะไรพี่เอให้ว่านฟังรึเปล่า ว่านถึงเปลี่ยนไปขนาดนี้

ว่าแล้วก็ ขอ  :z6: แถมด้วย  :beat: ไอ้เชรี้ยที(โค้ช)สักทีเหอะ พูดถึงแล้วขึ้นมาก


ยังไงก็ขอบคุณพี่เอนะฮะ สำหรับนิยายน่ารักๆแบบนี้  :pig4:
หัวข้อ: Re: น้องชาย 2
เริ่มหัวข้อโดย: me_alone ที่ 14-10-2011 01:36:25
^
^
ถูกครับ ส่วนหนึ่งเพราะโค้ช เนื่องจากว่านเป็นเด็กโค้ช ทำให้โค้ชพยายามยกหางว่านมากๆเพื่อให้ดูว่าเค้าประสบความสำเร็จในการปั้นเด็กแถมในช่วงแรกว่านก็คงไม่ได้รู้สึกเลยว่าโค้ชเอาเค้ามาเป็นทัพหน้าที่จะชนผมกับพี่ป้อม
ที่เลวร้ายที่สุดคือว่านเชื่อโค้ชแบบสุดใจนี่แหละที่ทำให้ผมเจ็บใจมากที่สุด ส่วนหนึ่งตอนหลังอาจเพราะว่านอยากทำอะไรที่ต่อต้านผมมั้ง ( หลังจากช่วงที่ผมกับว่านเริ่มระหองระแหงกัน ) พอเห็นว่าแนวทางของผมกับโค้ชสวนกันเค้าเลยเลือกที่จะเข้ากับโค้ชเพื่อต่อต้านผม ในช่วงที่พี่ป้อมไม่อยู่ แต่ที่แน่ๆส่วนหนึ่งที่ว่านต้านผมขนาดนี้เพราะคำยุแยงของโค้ชแน่นอน เพราะนิสัยเค้า....เหยียบคนอื่นเพื่อให้ตัวเองดูดีเป็นปรกติอยู่แล้ว ไม่แปลกถ้าเค้าจะพูดเหยียบผมเพื่อให้ว่านดูเก่งกว่า

สุดท้าย....ทั้งว่านแล้วก็โค้ชคงไม่คิดว่าที่เค้าทำ....มันพลาดอย่างแรงที่เลือกฆ่ากันเอง เพราะหลังจากผมวางสถานะกึ่งถอนตัว ( ไม่เข้าไปในฐานะผู้สอน , ไม่สอน , ไม่แสดงความเห็น , ไม่ช่วยเหลือ ฯ )....ไม่นานเด็กก็หายหมดจนยิมอยู่ในสภาวะปิดตัวเพราะแค่เงินค่าเรียนของว่านคนเดียวไม่พอจ่ายค่าเช่ายิมหรอกครับ แล้วแทนที่โค้ชจะสำนึกผิดในสิ่งที่ตัวเองทำ.....เค้ากลับโทษคนอื่น แล้วก็บ่นอย่างเท่ๆว่า "เมื่อก่อนผมรักเทควันโดนะ แต่เดี๋ยวนี้ผมไม่รักแล้ว"

ไม่พูดดีต่อดีกว่ายิ่งพูดยิ่งของขึ้น  :serius2:
หัวข้อ: Re: น้องชาย 2
เริ่มหัวข้อโดย: IKeaw ที่ 17-10-2011 04:41:48
อ่า...มาตามติดเรื่องราวของเจ้าของกระทู้

ก็ อ่านตั้งแต่ส่วน หัวเรื่อง "น้องชาย 2" อยากจะบอกว่า แอบกรีดร้อง(ดีใจ)ตอนบีจะกลับมา

แต่หลังจากนั้น ก็เริ่มน้ำตาตก

ไม่รู้จะอธิบายยังไง แต่ที่แน่ๆ ผมขอเป็นอีกคนที่เอาใจช่วยนะครับ

พี่เป็นคนที่อดทนสูงมาก จนกระทั่งผมก็ยังอึ้ง(ในขณะที่อ่าน)

โดยเฉพาะเรื่องของน้องว่าน

เพราะความรักด้วยแหละ ที่ทำให้พี่อดทนมาตลอด

พี่จะตัดสินใจยังไง ก็เชื่อว่า คนในเล้าก็พร้อมที่จะอยู่เคียงข้างพี่อยู่แล้วนะครับ

(ผมเชียร์คนไม่เก่งด้วยแหละ แหะๆ)

หวังว่าต่อๆไป พี่คงจะได้พบกับความสุขอีกครั้งนะครับ

ปอลิงหนึ่ง อ่าน"น้องชาย2" บอกตรงๆ อยากกระทืบโค้ชมาก (แต่ไอ่เราก็ไม่มีสกิล ไปตื้บเค้า เค้าต่อยเราสลบแหงมๆ)

ปอลิงสอง อย่างน้อย ก็ยังดีที่ "น้องบี" ยังคุยกับพี่อยู่ ถึงแม้ว่าเค้าจะมีอ้น(?)แล้วก็ตาม

ปอลิงสาม อยากได้น้องชายแบบบีบ้างง่า เด็กอะไร๊ ร่าเริงตั้งแต่เริ่มจนปัจจุบัน >///<
หัวข้อ: Re: น้องชาย 2
เริ่มหัวข้อโดย: evz ที่ 27-10-2011 22:28:19
เพราะชีวิตจริงไม่ใช่นิยาย ตอนจบเลยไม่ด้มีแต่ความสุขเสมอไป เป็นกำลังใจให้พี่เอนะคะ

เรื่องเฉยชานี่คือมีประสบการณ์เหมือนกันแต่เป็นเรื่องแบบทะเลาะกับเพื่อนเลยไม่คุยกับเพื่อนแล้วไม่มองหน้า ไม่ทัก ไม่สนใจ ถึงเขาอยู่ใกล้ใกล้ก็ทำเหมือนเขาไม่มีตัวตน เป็นแบบนี้มาตั้งแต่ม.2จนตอนนี้ม.6แล้ว คือตอนนี้ก็จำอารมณ์ตอนโกรธตอนทะเลาะกันไม่ได้แล้วว่าทำไมถึงทำให้โกรธจนไม่คุยขนาดนี้ รู้แค่ว่ายังไงก็ต้องไม่คุย ด้วยความที่เราไม่คุยกับเขาก่อน พอนานเข้าก็ไม่รู้จะคุยกันยังไง เหมือนเขาเคยจะคุยด้วยบ้างแต่ด้วยความที่เราไม่คุยกับเขามานานแล้วก็เลยคุยอ่อ อืม ไม่ได้พูดอะไรเยอะ ว่านก็อาจจะเป็นกรณีนี้ก็ได้มั้งคะคือพอห่างไปแล้วก็ไม่รู้จะกลับมาคุยด้วยยังไงหรืออาจะไม่ใช่เพราะมีเหตุผลของเขาก็ได้ เหมือนมีอะไรจะพูดอีกแต่ก็ลืมแล้ว แฮ่แฮ่

อ่อ เรื่องอ้นบีนี่เพราะทั้ง2คนได้รับการชี้ทางจากพี่เอรึเปล่าคะนี่เลยค้นพบและตกหลุมรักกันและกัน 5555

เดี๋ยวตามไปเป็นกำลังใจต่อในไดอารี่พี่เอนะคะ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: น้องชาย 2
เริ่มหัวข้อโดย: ummax ที่ 14-04-2012 00:44:06
I miss you k.a.
nakrub








หัวข้อ: Re: น้องชาย 2
เริ่มหัวข้อโดย: Saantos ที่ 15-05-2013 02:55:07
เฮ้ออออออออออออออ

นี่สินะชีวิตจริง

เคยอ่านแต่นิยายจบแฮปปี้ๆ

เจอแบบนี้ไปไม่ถูกไปไม่เป็นเลย

 :mew2: :mew2: :mew2:
หัวข้อ: Re: น้องชาย 2
เริ่มหัวข้อโดย: me_alone ที่ 16-06-2013 21:29:31
I miss you k.a.
nakrub










Miss You To Krub ^^


เฮ้ออออออออออออออ

นี่สินะชีวิตจริง

เคยอ่านแต่นิยายจบแฮปปี้ๆ

เจอแบบนี้ไปไม่ถูกไปไม่เป็นเลย

 :mew2: :mew2: :mew2:

เดี๋ยวมาลงเพิ่มครับ ^^

หัวข้อ: Re: น้องชาย 2
เริ่มหัวข้อโดย: Tassanee ที่ 30-06-2013 05:32:45
ไม่รู้จะช้าไปไหม  ....  เพราะกระทู้ก็โพสจบไปเป็นปีแล้ว

ขอบคุณเรื่องราวต่างๆ ประสบการณ์มากมายที่เล่าสู่กันฟังค่ะ

จริงๆ ชอบอ่านเรื่องจริงชาวบ้านนะแหล่ะ   แต่ก็เกลียดความรู้สึกที่มันค้างคา มันติดอยู่ในใจ

เพราะเป็นคนอินไปกับทุกอย่าง  เวลาคนเขียนเสียใจเราก็พลอยรู้สึกไปด้วย(ทั้งๆที่ไม่รู้จักกันมาก่อน)

ทุกครั้งก็หวังให้มันจบลงด้วยดี ...  แม้ความจริงเราไม่สามารถกำหนดกฎเกณฑ์อะไรมันได้ก็ตาม

เป็นกำลังใจให้นะคะ ไม่รู้ตอนนี้คงมีแฟนไปแล้วหล่ะ (คิดว่านะคะ)

คนเราล้มได้ เสียใจได้ค่ะ....  แต่ยังไงก็ต้องลุกขึ้นยืนและเดินไปข้างหน้า  บางครั้งชีวิตเราก็ไม่ได้อยู่เพื่อคนๆเดียว

อย่างน้อย....  ก็ให้หันกลับไปมองครอบครับของเราบ้างค่ะ  (ประสบการณ์ตรงจากตัวเอง คบกันมาเป็นสิบปียังเลิกได้เลย)

สู้ๆ นะคะ เป็นกำลังใจให้....  หนทางมันยาวไกล  ค่อยๆ เดินไป ยังไงก็คงจะถึงจุดหมายเอง

หัวข้อ: Re: น้องชาย 2
เริ่มหัวข้อโดย: ummax ที่ 23-12-2013 23:55:36
แวะมาสวัสดีปีใหม่ครับ
ขอให้มีสุขภาพแข็งแรง
ร่ำรวยเงินทองตลอดปีและตลอดไปครับ
คิดถึงนะครับ
หัวข้อ: Re: น้องชาย 2
เริ่มหัวข้อโดย: paiwit ที่ 26-12-2013 23:16:14
 :เฮ้อ: :m31: เพิ่งเข้ามาอ่านครับ ผมพอเดาทางเรื่องนี้ได้ตั้งแต่แรกแล้วหละ  ไม่รู้นะ ผมว่า บางทีคุณเออาจจะรุกน้องว่านเร็วเกินไปก็ได้นะ เพราะน้องยังเด็ก ต้องใช้เวลา ให้น้องๆค่อยๆซึมซับความรักจากเรา เมื่อถึงเวลาที่น้องเค้าโต น้องคงจะตัดสินใจได้หละว่า เค้าควรจะรักเราหรือไม่ รัก อันนี้ก็แล้วแต่ความรู้กสึดกน้อง
  อีกอย่างมีคนเคยบอกว่า ความรักคือสิ่งสวยงาม ไม่ทำให้เจ็บ แต่สิ่งที่ทำร้ายเราก็คือ ความคาดหวังนั่นเอง เพราะเราคาดหวังให้น้องรักเราไง เราถึงเจ็บเมื่อน้อง ไม่ได้รักเรา ถ้าเป็นผมนะ จะเผื่อใจตั้งแต่แรกๆแล้วครับ เพราะยิ่งถลำลึก ก็ยิ่งเจ็บ สู้ตัดไฟแต่ต้นลมดีกว่า

ปล  ยังไงก็ขอเป็นกำลังใจให้นะครับ ยังไงชีวิตก็ไม่ได้มีอยู่แค่เรื่องนี้ ยังมีเรื่องอื่นอีกเยอะแยะ ยิ่งโต ยิ่งเจอคนเยอะบางทีกาลเวลาอาจช่วยบรรเทาความเจ็บปวด ให้เหลือเพียงความทรงจำเล็กที่อมยิ้มได้
หัวข้อ: Re: น้องชาย 2
เริ่มหัวข้อโดย: spyhico ที่ 24-10-2014 20:24:55
เพิ่งอ่านเรื่องนี้จบแบบรวดเดียว เลยละ
คือแบบว่ายังไงดี. คิดว่าเรื่องทั้งหมดที่เป็นแบบนี้อาจมีผลมาจาก คุณเอก็ได้นะ   ถ้าคุณเอจัดการปัญหาต่างๆตั้งแต่แรกทุกอย่างอาจจะไม่จบแบบนี้สินะ
ที่จริงอยากให้คุณเอ ไปคุยกับว่านเลยว่าอะไรเพราะอะไร ทำไมถึงเป็นแบบนี้ คือ ชนกับที่เดียวไปเลย  ถ้าจะเดินหนีปัญหาอีก chop kick สักที ไม่อยากให้จบแบบคาราคาซัง.

สุดท้ายขอบคุณเรื่องราวดีๆ ที่ท่ายทอดมาครับผม
หัวข้อ: Re: น้องชาย 2
เริ่มหัวข้อโดย: GMT101 ที่ 24-06-2017 18:51:37
 :mew1:
หัวข้อ: Re: น้องชาย 2
เริ่มหัวข้อโดย: armsa2531 ที่ 15-11-2017 23:55:20
อยากกีนนนเดกกกกกง่าาาาาาาาาา