สั้นอีกแล้วค่ะ อ่านเล่นๆ เย็นใจนะคะ^^ ผมเป็นแฟนกับไอ้คนที่นอนเสียวอยู่ด้านล่างนี่มาได้สามวันแล้วคุณอาจคิดว่าผมแรดแค่สามวันก็มานอนกะมันได้แล้ว แต่จริงๆ นะคุณผมแรดกว่านั้นอีก ก็ไม่อะไรมากแค่ตอบรับเป็นแฟนมันก็สอยกันเลย ก็ง่ายๆแค่เนชแค่ชวนผมมาเที่ยวบ้าน ชวนไปดูหนังด้วยกันในห้องสองต่อสองบนเตียง ในวันที่บ้านไม่มีคนอยู่ แล้วมันก็ขอเป็นแฟนด้วย ผมก็แค่พยักหน้ารับ ดูหนังอยู่ด้วยกันมันเลื้อยผมก็เฉย พอมันถอดผมก็ถอดด้วย พอมันกดผมก็แค่สมยอม แหมคนหล่อหน้าตาดีน้อยๆ อย่างผมเล่นตัวนักก็ชวดดิครับ
วันแรกก็โดนไปหลายรอบเจ็บระบมจนแทบไม่อยากกระดิกตัวนัก แต่ด้วยความอยากรู้ว่ามันมีแผลหรือเปล่าแต่จะบอกให้คุณสามีดูให้ก็กะไรอยู่เลยค่อยไปเลื่อนโต๊ะอ่านหนังสือจากข้างเตียงไปหน้ากระจกเอาตัวพาดไว้หันก้นส่องกระจกค่อยๆแหวกออกดูเห็นแต่มันแดงบวม ถึงว่าระบมเชียว
แต่มันเจ็บเลยต้องปล่อยมันไปก่อนแต่ที่ไหนได้กะว่าจะเอาโต๊ะกลับไปเก็บที่เดิมซะหน่อยไอ้คุณสามีก็มาอุ้มผมขึ้นวางบนโต๊ะให้ผมเอนพิงตัวเค้าไว้ หันหน้าหากระจกจับขาผมยกแยกออก
“มองซิโอ้ อยากเห็นไม่ใช่หรอ ท่านี้เห็นชัดกว่าอีกนะดูซิของนายทั้งแดงทั้งบวมเลย”แล้วเนชก็เอานิ้วมาลูบเบาๆ แต่ทำเอาผมสะดุ้งมือกำที่ต้นแขนเค้าแน่นผมรู้สึกได้ว่ามีอะไรแข็งๆมาทิ่มอยู่ที่หลังผม เค้าเอาขาผมแยกคร่อมโต๊ะไว้แล้วดันให้ผมนอนคว่ำหน้าราบลงไป
“ไม่ว่าจะในกระจกหรือตัวจริง นายนี่มันช่างยั่วจริงๆ แล้วเค้าก็ดันเจ้าน้องชายที่ตื่นตัวจนทิ่มหลังผมเข้ามาช้าๆ
“เจ็บ อืออ เบาๆ ครับ เนช อึ๊ก อ๊ะ อ๊ะ อ๊ะ” พอเข้ามาได้หมดเค้าก็เอื้อมมือมาจับให้ผมเงยหน้าขึ้นมองไปที่กระจก แล้วเค้าก็ขยับกระแทกเข้ามาพอเค้ากระแทกเข้าตัวผมก็ขยับตามไปด้วย ยิ่งแรงยิ่งเร็วหน้าตาเค้าก็ยิ่งแสดงอารมณ์มากยิ่งขึ้นตอนนี้สายตาผมกลับมองอยู่แต่ที่หน้าของเค้าในกระจก แล้วอยู่ๆ เนชก็หยุดแล้วถอนตัวออก ก่อนที่จะจับผมพลิกเป็นนอนหงายแต่คราวนี้เค้าให้ผมหันข้างหากับกระจกแล้วยกขาผมขึ้นจนเกือบเป็นตั้งฉาก
“ อ๊ะ ฮืมม” จากในกระจกผมเห็นเค้าค่อยๆ เอาน้องชายเค้ามาจ่อแล้วผมก็เห็นมันค่อยมุดหายเข้ามาในตัวผมที่ละนิดผมทั้งเห็นและรู้สึกไปพร้อมกัน มันเป็นความรู้สึกที่บอกไม่ถูกจริงๆ จนมันเข้าไปหมดแล้วเค้าก็ค่อยดึงมันกลับออกมาใหม่ก่อนที่จะกระแทกเข้ามาอย่างแรงจนตัวผมกระเทือนวันนั้นเราทำอยู่หน้ากระจกบานนั้นกันจนหมดแรงจะเดินเลยด้วยซ้ำ ตั้งแต่วันนั้นเราก็ย้ายกระจกบานนั้นมาอยู่ใกล้เตียงมากขึ้น
เราคบกันมาได้เดือนนึงแล้ว เราเจอกันที่เรียนเกือบทุกวันกินข้าวด้วยกัน ไปเดินห้าง ดูหนังบ้าง ทุกวันศุกร์เนชจะพาผมมาค้างที่บ้าน และมาส่งผมกลับบ้านตอนค่ำๆ วันอาทิตย์ ตอนค่ำที่เค้ามาส่งผมที่บ้านเนชแค่บอกผมว่าวันศุกร์ให้เตรียมของไปค้างที่บ้านเหมือนเดิม แล้วก็หายไปเลย ไม่มาเรียน ไม่โทรหา วันนี้วันศุกร์ เย็นมากแล้วด้วยผมยังไม่เห็นเนชเลย ผมค่อยๆ เดินจากตึกลงมา แล้วผมก็เจอคนที่ผมอยากเจอ คนที่ผมเฝ้าคิดถึงกำลังนั่งรอผมอยู่ พอเห็นผมเท่านั้น เนชก็ลากผมไปที่รถอย่างรีบร้อน แล้วขับพาผมไปบ้าน ที่บ้านยังเงียบเหมือนเดิม เนชลากผมต่อไปที่ห้องอย่างเร็ว พอเปิดเข้าไปห้องมันแคบมากไม่เหมือนเดิมเลย แต่มันกลับมีห้องอีกห้องซ้อนอยู่ เนชดันผมไปที่ห้องเล็กนั้น เนชให้ผมเปิดประตูแล้วดันผมเข้าไปแล้วปิดประตูตาม
“ว้าววว เจ๋งว่ะ เจ๋งโคตรโคตรเลยเนช” ผมมองไปรอบห้องเล็กที่กว้างกว่าเตียงคู่ที่ตั้งอยู่เพียงแค่พอคนยืนได้เท่านั้น
“ใช่มะ ถูกใจมั้ย”
“มากเลย มากถึงมากที่สุด เนชรู้ได้ไงว่าเราอยากได้ห้องแบบนี้อะ”
“ก็เราเป็นคนคนเดียวกัน ใจเดียวกัน ก็ต้องคิดเหมือนกันซิโอ้” ผมหันไปกอดมันอย่างดีใจมากๆ ถ้าคุณเดาถูกว่าห้องใหม่เป็นยังไงคุณก็มีใจเดียวกันกับผมสองคนแน่เลย.....................
...........
....
..
.
ห้องใหม่ที่ผมมองอยู่ในตอนที่ผมนั่งขยับอยู่เหนือร่างเนชทำให้ผมสามารถที่จะมองเห็นตัวผมได้จากทุกด้านไม่ว่าจะด้านซ้าย ด้านขวา ด้านหน้า แม้มันจะกลับซ้ายเป็นขวา ขวาเป็นซ้าย แต่มันก็ทำให้ผมมองเห็นตัวเองได้ แม้แต่ด้านหลังที่ผมกำลังมองอยู่ในขณะนี้ เมื่อผมยกตัวเองขึ้นเจ้าไอติมแท่งที่ผมใช้ร่างกายกลืนกินมันอยู่ก็จะเผยโฉมออกมา
“อ๊า” ยกตัวน้อยๆ ก็หลุดออกมาน้อย
“โอ้วว” ยกสูงๆ ก็ออกมามากแล้วผมก็จะกดตัวลงไปเพื่อรับมันเข้าไปใหม่
“อ๊ะ อ๊า อู้วว โอ้วว อ๊าาาาาา” ช้าบ้าง เร็วบ้าง แรงบ้าง ตามแต่ที่ผมปรารถนา
“อ๊า ผมมีความสุขจัง ..........................
...................แล้วคุณล่ะ........................
The end