ไม่รู้ว่า เบื่อมุของกันย์กันหรือยัง ถ้าเบื่อก็บอกได้นะคะ อิอิ
ตอนที่แล้วไม่ค่อยได้เล่นมุขเลย มาใส่ให้ตอนนี้แทนละกัน ตอนที่ 16 น่ารัก....น่า....
หมดกัน!! ความหวังพังทลาย คอยดู ผมจะโกรธพี่พุยันลูกบวช (ว่าแต่ถ้าผมยังชอบกิ๊งอยู่ผมจะมีลูกได้ยังไง?) เฮ้อ~~ ! ถอนหายใจอย่างเหน็ดเหนื่อยชีวิต ไอ้การจีบผู้ชายมันยากกว่าที่คิดเยอะเลยแฮะ...
อันที่จริง ไม่ต้องบอกก็รู้ครับว่ากิ๊งมันชอบผมอยู่แล้ว แต่ที่มันยังเล่นตัวอยู่ทุกวันนี้ผมก็ไม่รู้ว่าเป็นเพราะเหตุใด กำลังคิดอยู่ว่า เพราะมุขที่ใช้มันเสี่ยวไม่พอ หรือมันเสี่ยวเกินไปจนดูไม่จริงใจกันแน่ พยายามจะพูดจาหวานๆ ก็ไม่เห็นจะดีขึ้น จะเล่นไม้แข็งจับกดมันซะ ก็ชวดฉลูขาล แล้วไงต่อดีล่ะครับ ใครช่วยผมคิดที....
ผมกำลังปวดหัวขณะนั่งอยู่ที่ม้าหินอ่อนหน้าหอกิ๊ง รอให้มันออกมาแต่มันก็ไม่มาสักที
“อ้าวกันย์ มาทำอะไรที่นี่คะ” คนที่ทักผมก็ไม่ใช่ใครครับ เป็นฐาเพื่อนสาวของกิ๊ง นับวันก็ยิ่งสวยขึ้นนะครับ คงเพราะว่าผมยาวขึ้นจากเดิม...
“มาหากิ๊งน่ะ”
“อ้าว มันออกไปแล้วนี่ ไม่ได้นัดไว้เหรอ?”
“จริงเหรอ....” ผมหน้าเสียสิครับ เพราะอะไรน่ะเหรอ ก็ตั้งแต่เมื่อวานที่ผม “เล่นแรง” กับมันที่โรงยิม ปากก็บอกว่าไม่โกรธๆ แต่มันก็แทบจะไม่มองหน้าผมเลยครับ พูดด้วยน้อยคำมากๆ จนผมสุดแสนจะอึดอัด เรื่องโทรมานัดกันตอนเช้าก่อนไปเรียนมันไม่จำเป็นหรอกครับเพราะมันรู้ดีว่าผมมีตารางเรียนมันอยู่ ทุกวันผมก็มารับมันอยู่แล้ว และมันก็รอเป็นประจำ ถ้ามันไม่รอแบบนี้แสดงว่ามันต้องโกรธมากแน่ ทำไงดีล่ะเนี่ย!!
“ทะเลาะกันเหรอ” ฐาถามแสดงความเป็นห่วง “เรื่องอะไรล่ะ” ผมก็ได้แต่อ้ำอึ้ง เพราะไม่รู้จะเล่ายังไงดี
“กันย์คงไม่ได้ไปจับกดกิ๊งหรอกนะ” น้ำเสียงนั้นส่อแววล้อเล่นมากกว่าจริงจัง แต่อาการนิ่งไม่ตอบรับและปฏิเสธของผมทำให้อีกฝ่ายหุบยิ้ม
“ทำจริงดิ กรี๊ดดด...แล้วสำเร็จไหม?” ถามตรงมากๆ ครับ แถมทำท่าตื่นเต้นซะด้วยซ้ำ ผมก็ได้แต่ถอนใจแล้วก็ส่ายหน้า ขนาดไม่สำเร็จยังโกรธขนาดนี้ถ้าสำเร็จจะขนาดไหนวะเนี่ย...
“ชิ นึกว่าจะแน่” ฐาบ่นนิดๆ ท่าทางเกลือจะเป็นหนอนครับ ฐาคงจะเชียร์ผมอยู่ ไหนๆ ก็ไหนๆ ขอปรึกษาหน่อยคงไม่เสียหาย
“ฐา กันย์ขอถามอะไรหน่อยสิ ฐาพอจะรู้ไหมว่าทำไมกิ๊งถึงไม่ยอมตกลงคบกับกันย์สักทีน่ะ”
“ต๊ายยยยย ถามกันง่ายๆ อย่างนี้เลยเหรอคะ ไม่มีรางวี่รางวัลอะไรมาล่อบ้างหรือคะ” อ่า...นั่นสิ พอดีผมไม่ได้พกอะไรมาเซ่นไหว้เธอซะด้วยวันนี้
“ฐาอยากได้อะไรล่ะ กันย์จะหามาให้” ผมรีบบอกเอาใจคนตรงหน้าทันที
“ต๊าย พ่อบุญทุ่ม เราไม่เอาอะไรหรอก แค่รักเพื่อนเราอย่างจริงใจก็พอแล้ว” ฐาว่า ยิ้มแก้มปริ
“จะบอกอะไรดีๆ ให้ ที่กิ๊งมันไม่ยอมสักทีก็เพราะกลัวถูกกันย์กดนี่ล่ะ” เฮ้ย!! ผมทำหน้าเหวอ ถ้าเหตุผลอื่นก็ว่าไปอย่าง แต่การที่ต้องอยู่ใกล้คนที่เรารักมาก ทุกๆ วันแต่ให้เก็บไว้ดูเล่นเหมือนตุ๊กตา ใครจะทนไหว มันก็ต้องอยากได้ อยากเป็นเจ้าของกันทั้งนั้นแหละ
“อย่าเพิ่งทำหน้าอย่างนั้น เหตุผลต้นเหตุก่อนหน้านั้น คือกิ๊งมันกลัวเลือดกับกลัวเจ็บ ถ้ากันย์หาทางแก้ปัญหาสองอย่างนี้ได้ก็น่าจะโอเคแล้วล่ะ”
หือ....กลัวเลือดกับกลัวเจ็บเหรอ....
ครับ...เป็นปัญหาที่ทำให้อึ้งครับ เพราะที่จริงแล้วผมไม่เคยคิดถึงเรื่องนี้มาก่อนเลย ก็จริงเนอะ ผู้ชายกับผู้หญิงมันคงไม่เหมือนกันจริงๆ สงสัยแทนที่จะหาเวลาไปหามุขเสี่ยว ไปหาข้อมูลเรื่องแบบนี้ก็น่าจะดีเหมือนกันน่ะครับ
เอาเป็นว่าจนกว่าจะหาทางแก้ปัญหานี้ได้ผมจะพยายามใจเย็นๆ ไม่บุ่มบ่ามก็แล้วกันครับ
แต่ก่อนอื่น ต้องง้อมันให้ได้ก่อนใช่ไหม?
วิธีการง้อของผมน่ะเหรอครับ ไม่ยากมากหรอกครับเพราะผมมีตารางเรียนของมันในมือแล้ว ผมก็แค่ไปรอมันที่หน้าห้องก่อนมันจะเรียนจบ พอมันเห็นหน้าผมมันก็นิ่งแล้วก็เดินเลยโดยไม่ทัก ผมก็เดินตามลงจากตึกจนถึงข้างล่าง เพราะกิ๊งมันไม่ชอบให้ผมเดินคู่กันขณะลงบันไดครับมันบอกว่าอันตราย
“ไปกินข้าวกันกิ๊ง” ผมชักชวนเมื่อมันเดินมาถึงข้างล่าง
“ก็กำลังจะกินนี่ไง” มันตอบโดยไม่มองหน้า
“ไปกินที่ข้าวหลังมอกัน ที่นี่ไม่อร่อย” เอาของอร่อยมาล่อครับ
“กูมีเรียนต่ออีก กินอยู่นี่ดีกว่า มึงไปกินคนเดียวเหอะ”
“เหรอ งั้นกันย์กินอยู่นี่เป็นเพื่อนกิ๊งก็ได้”
“ทำไม ปากติดกันเหรอถึงต้องกินด้วยกัน” กิ๊งถามมากวนๆ
“ถ้าทำได้ก็อยากให้ติดกันตลอดเหมือนกัน เพราะกิ๊งเคลิ้มทุกทีเลยเวลาโดนจูบอ่ะ” เฮ้ย!! ทำไมมันตาเขียวแบบนั้นวะ ไอ้กันย์มึงปากหมาเข้าให้แล้ว จะง้อหรือยิ่งทำให้โกรธวะเนี่ย เปลี่ยนเรื่องดีกว่าครับ
“กิ๊ง อะไรติดนิ้วอ่ะ” ผมถามขึ้นด้วยน้ำเสียงตกใจเล็กน้อย มันยกมือขึ้นทั้งสองข้างขึ้นมาดู
“ไหนล่ะ ไม่เห็นมีอะไรเลย” มันบอกมา
“กิ๊งไม่เห็นหรอกเหรอ ที่นิ้วก้อยกันย์กับนิ้วก้อยกิ๊งไง” ผมยิ้มหวาน
“มันมีอะไรล่ะ”
“ด้ายแดง คนที่เป็นเนื้อคู่กันน่ะ เค้าว่าจะมีด้ายแดงเชื่อมอยู่นะ” ผมบอกแล้วใช้จังหวะที่มันกำลังอึ้งกับมุข เนียนจับมือมันมาแล้วเอานิ้วก้อยตัวเองเกี่ยวนิ้วก้อยมันไว้
“ดีกันนะกิ๊ง” ผมอ้อนวอนส่งสายตาน่าสงสารไปให้มัน มันถอนใจระอาแต่ก็ไม่ได้ดึงมือออก
“ดีอะไร ไม่ได้โกรธอะไรซะหน่อย” น้ำเสียงนั้นเรียบแต่ก็ไร้อารมณ์ครับ
“กันย์ขอโทษเรื่องเมื่อวาน ต่อไปกันย์จะใจเย็นๆ จะไม่ทำให้กิ๊งเจ็บ ไม่ทำให้เลือดออก”
“เฮ้ย!! ใครบอกมึงว่ากูกลัวสองอย่างนี้” เอ่อ ซวยแล้วครับ...
“ฐาเหรอ?” ซวยหนักเข้าไปอีก เมื่อผมไม่ตอบ มันก็ประมวลผลว่าใช่ ผมเห็นริมฝีปากบางขมุบขมิบว่า ‘อีเพื่อนทรยศ’ เบาๆ ไม่นานมันก็ถอนใจเหมือนปลงตก เปลี่ยนหน้ามุ่ยๆ เป็นยิ้มยกที่มุมปาก
“รู้ก็ดีแล้ว คราวหลังถ้าคิดจะกดกูก็ช่วยคำนึงถึงสถานที่และวิธีการหน่อย ไม่ใช่ที่ไหนเมื่อไรก็ได้” ผมพยักหน้ารัวๆ มันไม่เหมือนคำขู่ คำเตือนหรืออะไรครับ สำหรับผมมันคือคำเชิญชวนชัดๆ!!
ถ้าสถานที่ดีๆ ...วิธีการดีๆ ก็โอเคใช่ป่ะ?
เอาเป็นว่าผมง้อมันสำเร็จแล้วครับ อิอิ ไม่ยากเลยใช่ไหม มุขเสี่ยวมันก็พอมีประโยชน์อยู่บ้างไม่มากก็น้อยแหละ ฮาๆ ตอนนี้กิ๊งเรียนพละวิชาสุดท้ายจบแล้วและผมก็จะพามันไปส่งที่คณะครับ
“ให้นะ” กิ๊งยื่นของสิ่งหนึ่งมาให้ครับ มันเป็นถุงแพรมัดเชือก
“อะไรเหรอ?”
“เครื่องราง กิ๊งอุทิศผมตัวเองใส่ลงไปนิดหน่อย ก็เดี๋ยวพรุ่งนี้กิ๊งไม่ได้ไปเชียร์กันย์ใช่ไหม กันย์ก็เอาเครื่องรางไปด้วย ถือว่ามีกิ๊งไปด้วยไงจะได้ชนะ” พรุ่งนี้ผมมีแข่งบาสรอบชิงครับส่วนกิ๊งต้องแสตนด์บายรอแข่งลีดมือซึ่งยังไม่ได้จับฉลากว่าคณะที่เท่าไร
“เปลี่ยนจากเครื่องรางเป็นความรักแทนได้ไหม” ผมถามกลับด้วยนัยน์ตาหวานฉ่ำ
“ไม่ให้หรอกเดี๋ยวได้ใจ แต่ถ้ากันย์จะให้ กิ๊งจะรับไว้”
“ถ้าเป็นกิ๊ง กันย์ยอม...ให้ได้...ทั้งกายทั้งใจเลย””
“เออๆ พอแล้วพรุ่งนี้แข่งให้ชนะแล้วกัน”
“จ้า จะพยายามแต่บาสน่ะยังไงมันก็ต้องมีทั้งแพ้แล้วก็ชนะ แต่ความรักของกันย์ที่มีให้กิ๊งน่ะ ไม่มีแพ้มีชนะหรอกนะ”
“หือ...ทำไม?”
“เพราะว่ากันย์น่ะ รักกิ๊งเสมอไง ฮะ ฮะ ฮะ” ชงเองเล่นเองขำเองครับ แต่กิ๊งก็หัวเราะตามนะ
“วันอาทิตย์มีคอนเสิร์ตปิดกีฬามหา’ลัยด้วย กรูฟไรเดอร์จะมาด้วยแหละ ไปดูด้วยกันนะกิ๊ง”
“อือไปสิ” กิ๊งรีบตอบรับครับ ผมรู้ว่ามันชอบวงนี้มาก ซึ่งก็เหมือนผมแหละครับชอบมากเหมือนกัน
และแล้วกีฬามหาวิทยาลัยก็ผ่านพ้นครับ ผลก็ตามคาดคือคณะวิทยาศาสตร์ชนะเลิศบาสเกตบอลชาย ส่วนลีดมือได้ที่สามครับ ตอนที่เจอหน้ากิ๊งครั้งแรกหลังแข่งเสร็จผมก็กระโดดกอดมันเลยแหละแบบไม่อายผู้คนจนมันทำหน้าอึ้งไปนิด ผมตั้งมือขึ้นข้างหนึ่งเป็นเชิงขอโทษแล้วก็พามันไปกินนมครับ
ผมชอบร้านนมร้านนี้จังครับเพราะเขาเปิดเพลงเพราะ ส่วนทีวีจะเปิดบอลตลอด แล้วมีเกมให้เล่นระหว่างรอด้วย ผมเอาหมากรุกออกมาเล่นกับกิ๊งครับ ดูดชานมไปด้วย
“ชอบจริงนะชาน่ะเห็นกินได้ตลอด”
“ชอบชาเย็น แต่กันย์ไม่เย็นชานะ”
“เออๆ อย่าคิดนาน เดินได้ละ เก่งไม่กลัว กลัวช้าว่ะ” กิ๊งเร่งมา ทำให้ผมหันไปสนใจกระดานหมากรุกต่อ ไม่นานคิ้วคนหน้าสวยก็ขมวดมุ่น
“ขี้โกง กินกูหลายตัวแล้วนะ”
“เอ๋า ก็กิ๊งมันน่า....กินซะขนาดเนี้ยอ่า” มันเงยขึ้นมามองเคืองๆ แล้วเดินต่อ
“ก็เอาตัวเดินมาล่อไว้ไม่มีผูกมันก็ต้องโดนกินอย่างนี้แหละ” ผมบอกแล้วกินม้าของมันอีกตัว มันทำหน้ามุ่ยแล้วก็เดินสะเปะสะปะต่อไป ไม่นานก็บ่นอีก
“มึงจะรุกอะไรนักหนาฮะ กูหนีจนเหนื่อยแล้วนะ”
“หนีทำไมล่ะยอมๆไปเถอะ โดนรุกไม่น่ากลัวอย่างที่คิด” ผมทำเสียงทะลึ่ง
“เดี๋ยวจะโดน กันย์” มันทำตาเขียวใส่แล้วย้ายขุนหลบไปอยู่หลังเรือ เดินต่ออีกสองตาผมก็เดินม้ากระทบกระดานดังปั้ง!
“รุกฆาต!!!”
“เชี่ยมาก!!” กิ๊งสบถ ทำเอาผมแทบจะปล่อยกร๊าก
“กูเล่นเป็นก็ดีถมถืดแล้ว อะไรมึงจะโหดกะกูขนาดนี้ฮะ” มันโวยวายเพราะตั้งแต่เล่นมาผมไม่ได้ออมมือเลยครับกินเอาๆ รุกเอาๆ
“โหดสิ ไม่โหดแล้วเมื่อไรกิ๊งจะจนซะที...ช่วยไม่ได้ ก็อยากน่ารัก....ให้น่ารุกเองทำไม” ผมบอกมันแล้วมองมันด้วยรอยยิ้มหวานเชื่อม
ตั้งแต่เกิดมา.... มึงนี่แหละ....น่ารัก แล้วก็น่ารุก...ที่สุดแล้ว....
..........................................
เอาไปสั้นๆ ก่อนนะคะ อย่าไปเร่งรัดอะไรกิ๊งมากค่ะ อิอิ เป็นนิคงไม่อยากเสียตัวครั้งแรกในโรงยิมเท่าไรหรอก อย่างน้อยช่วยนึกถึงจิตใจอีกฝ่ายหนึ่งบ้างก็ยังดีว่ามันมีอารมณ์ร่วมมากแค่ไหน ไม่ใช่นึกอยาก....ก็จะเอาจะทำให้ได้อย่างเดียว ไม่ได้หรอกค่ะ คนนะคะไม่ใช่ตุ๊กตา....ยาง
อย่างกันย์ออกไปทางขี้เล่น แล้วก็ใจร้อนค่ะ นึกจะทำอะไรก็ปุบปับเหมือนเด็ก อิอิ....
แต่เป็นเด็กที่ทำให้กิ๊งเคลิ้มได้ตลอด ฮา....
ขอบคุณทุกๆคอมเม้นนะคะ จุ๊บๆ ขอตอบเม้นแต่ที่มีประเด็นนะคะ
ChCh13 ใครเอ่ยบอกว่า ถ้าแต่งเรื่องสั้นละจะไปตามอ่านว่าหื่นพอไหม ฮาๆ ขอความคิดเห็นหน่อยจิว่าหื่นพอยัง....
Mileson ถ้าไม่เสียอะไรไปก็ไม่เข้าใจหรอกค่ะ
litlittledragon ยังไม่มาค่ะ น่าจะอีกนาน
punchnaja ยังค่ะ แต่ก็สวีทกันกว่าคู่รักบางคู่อีกนะคะ
คนของเธอ อย่างน้อยกันย์ก็รู้แหละว่ากิ๊งชอบตัวเองอยู่ฮา ... กำลังจะหาทางรวบหัวรวบหางอยู่ ฮา
ZuuZuu คงเฉลยเร็วๆ นี่แหละค่ะ อิอิ
เล่นตัวมากนัก เดี๋ยวก็ไม่มีใครหรอก
อ่านเม้นท์แบบนี้แล้วเศร้าอ่า เหมือนจะบอกว่า..........เล่นตัวมากนัก เดี๋ยวก็ไม่มีใคร(อ่าน)หรอก แง้ๆๆ