One man story 12
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: One man story 12  (อ่าน 59390 ครั้ง)

@^_^@PeaZa@^_^@

  • บุคคลทั่วไป
Re: One man story 1,2,3,4,5,6,7,8,9,10
«ตอบ #60 เมื่อ28-09-2007 22:53:42 »

อยากรู้แล้วน้าว่าเป็นไงต่ออะ  :m15: :m15: :m15:

Red....[em]

  • บุคคลทั่วไป
Re: One man story 1,2,3,4,5,6,7,8,9,10,11,12 จบ
«ตอบ #61 เมื่อ30-09-2007 16:12:44 »

One man story  11


“ไดปล่อยนะ!ปล่อย! จะทำอะไรชั้น” คาสุม่าร้องโวยวายทันทีที่ได้ยินไดสุเกะสั่งให้ยังคุมิเลี้ยวรถเข้าไปยังสถานที่แห่งหนึ่ง เขาพยายามสลัดตัวเองให้หลุดออกจากวงแขนแกร่งที่กอดรัดอยู่ในรถตรงเบาะนั่งด้านหลังอย่างเอาเป้นเอาตาย แต่ไม่ว่ายังไงก็ยังไม่มีทางที่จะหลุดออกจากไดสุเกะได้

“หยุดดิ้นได้แล้วน่าคาสุม่า นายน่ะยั่วโมโหชั้นก่อนนะ อยู่ดีๆไม่ว่า อยากให้ชั้นโกรธนักใช่มั้ย...?... ทีไปจูบกับไอ้หัวตั้งนั้นทำไมไม่คิดก่อนล่ะห๊า?” ไดสุเกะจับข้อมือเล็กกดลงกับเบาะรถ แล้วตะคอกเข้าใส่

“ชั้นอยากจะทำอะไรมันก็เรื่องของชั้น ทำไมจะต้องไปคิดและต้องกลัวว่านายจะโกรธด้วย!” คาสุม่าก็ไม่ยอมน้อยหน้า ตะคอกกลับบ้าง

ด้วยความปากกล้าปากเก่งปานลิงเขาวังอย่างเขาเหรอจะแสดงออกให้รู้ว่าข้างในมันลนลานและกลัวไดสุเกะคุงมากแค่ไหน แถมยังแรงรั้นและไม่ยอมลงให้ใครง่ายๆเอาแต่ใจตัวเองของเขา ที่พูดออกไปแบบนั้นก็เท่ากับเอาน้ำมันไปราดบนกองไฟดีๆนี้เอง

“งั้นชั้นจะทำอะไรมันก็เรื่องของฉันซินะ  ไม่ต้องคิดถึงนายด้วยไงคาสุม่า” อารมณ์ที่กำลังร้อนได้ที่ ลุกขึ้นมาด้วยเชื้อเพลิงที่เติมเข้ามาอีก ไดสุเกะยิ้มเหี้ยมที่มุมปาก

คาสุม่าเริ่มหน้ามืดตามัวแล้ว  เมื่อมองเห็นว่ไดสุเกะหูแหลมตาวาว เหมือนซาตานในหนังสือการ์ตูนเล่มละสามสิบห้าบาทยังไงยังงั้นเลย

ในเมื่อไม่มีเยื่อใยให้กันแล้วจริงๆ ก็ให้มันรู้ไปคาสุม่า!!!

ไดสุเกะสบถอยู่ในใจด้วยก็ต้องการเอาชนะร่างเล็กเหมือนกัน

“ไอ้บ้าไดปล่อยซิเว้ย!ไอ้ๆ... ปล่อย!ไอ้นิ่มปล่อยชั้นนะ!” คาสุม่ากลับเข้าสู่โหมดปากไวใจกล้าด่าเจ็บอีกรอบ มองเห็นกลุ่มควันโขมงออกจากหูและตาของไดสุเกะ เขาซาตานบนหัวเริ่มงอกออกมาเมื่อรถจอดสนิท แล้วไดสุเกะก็ฉุดกระชากลากแขนให้ลงจากรถรวบตัวเขาเอาไว้แน่นไม่ยอมปล่อยหรือให้ดิ้นหลุดหนีไปทางไหน

คาสุม่าทำได้ก็เพียงแต่กระทืบเท้าลงบนพื้นคอนกรีตด้วยความเจ็บใจ ปนเปกับความกลัว เห็นชัดตาว่าที่ไดสุเกะคุงพาเขาเข้ามานั้นมันเป็นสถานที่ใช้ทำอะไรกัน

แรงเท่าหนูตะเภาปั่นกงล้อหรือจะไปงัดกับแรงถึกของควายป่าที่มีเขาโค้งยาวได้...

แล้วในที่สุดคาสุม่าก็ถูกไดสุเกะลากถูลู่ถูกังเข้าไปในห้องได้สำเร็จ

 
.................................

“เฮ้ย!รถไอ้ไดสุเกะมันเลี้ยวเข้าโรงแรมม่านรูดแล้ววะ” เสียงของกองกำลังสนับสนุนพกพาแรงเชียร์ ตามมากันอีกขบวนรถหนึ่งตะโกนลั่นบอกเพื่อนพ้อง

ไคย์แหกปาก ม่านตาขยายกว้างด้วยความอะแมซซิ่งปนความแปลกใจในรสนิยมของเพื่อนไดสุเกะที่เขาไม่เคยรู้ว่าไอ้ไดสุเกะมันจะชอบทำกิจกรรมใต้ร่มผ้าในสถานที่แปลกใหม่ที่เห็นอยู่เบื้องหน้าเช่นนี้มาก่อนเลย

แผ่นป้ายที่มีหลอดไฟเล็กๆรายรอบให้สีสันสะดุดตา โชว์ชื่อหลาบอกยี่ห้อสถานบริการอยู่นั้นก็รู้แจ้งเห็นจริงขึ้นมาว่ามันเป็นอะไร

*********** ปีบอิน************อะล่าง!!!

“อัยหย๋า!ชื่อโรงแรมไรวะท็อตจิ ไม่เคยได้ยินมีอยู่ในญี่ปุ่นด้วยหรือเนี้ย?” ไคย์หันไปถามเอากับเพื่อน ที่นั่งคู่มากับมิยาบิทางด้านเบาะหลังด้วยความอะแมซซิ่งไม่หายกับชื่อสถานบริการ

“ไม่รู้วะไคย์ กูก็ไม่เคยใช้บริการไอ้ปีบอินนี้เหมือนกัน” ยอดชายใบหน้าคมหัวใจหลายกิ๊กอย่างท็อตจิทำหน้านึกก่อนที่จะตอบไป จำได้ว่าไม่เคยพาสาวหรือตุ๊ด กระเทย เกย์ที่ไหนเข้าโรงแรมชื่อนี้มาก่อนด้วยซ้ำ

เรียวหัวเราะเบาๆ กับความบ๊องตื้นของเพื่อนเกลอ แล้วเขาก็พารถเลี้ยวตามเข้าไปทันที ตรงเข้าไปจอดในช่องทางของอีกห้องที่ติดกับห้องที่มีรถไดสุเกะจอดอยู่ก่อนหน้า

พนักงานต้อนรับ ของโรงแรมวิ่งกระหืดหระหอบเข้ามาด้วยหน้าตาแตกตื่นเมื่อเห็นพวกเขาก้าวขาลงมาจากรถทั้ง 4 คน พลางอดคิดในใจไม่ได้

“แมร่งอีพวกนี้ เล่น 4 เลยหรือวะ?”
........................................................
...................................................

“น้องจะจ้องตูดพี่อีกนานมั้ย? ระวังเสียค่าลวนลามทางสายตาให้พี่นะ เปิดห้องนี้ให้ด่วนเลยก่อนที่พี่จะเงี้ยนแล้วลากน้องเข้าร่วมด้วยอีกคน”ไอ้จี้โพล่งขึ้นด้วยมาดของหนุ่มเพลย์บอยรักสนุก แต่ในใจของเขานั้นกำลังเป็นห่วงคาสุม่า อยากจะไปเคาะห้องที่ติดกันเรียกไดกับคาสุม่าออกมาให้รู้แล้วรู้รอด

แต่เขาก็รู้นิสัยของไดสุเกะดี ลองท่าได้โกรธไม่ว่าใครหน้าไหนก็เอาไม่อยู่ ยิ่งกับคาสุม่าซึ่งมีนิสัยไม่ต่างกันนัก เขาก็ไม่อยากคิดเลยว่ามันจะออกมาแบบไหน

“เอ่อๆแหะๆๆ ขอโทษครับ เชิญครับเชิญ”พนักงานหนุ่มหัวเราะแก้เก้อ ก่อนที่จะเปิดประตูเชิญเข้าสู้ห้องที่เต็มไปด้วยกระจกและแสงสลัวน่าตื่นตาตื่นใจเป็นยิ่งนัก TT__TT

 

...
อีกฟากหนึ่ง ห้องของไดสุเกะ

..............................
...........................................

ไดสุเกะคุงกดล็อคประตูห้อง เขาจับข้อมือของผมไว้แน่นจนเจ็บไปหมด ในตอนนี้ผมพอจะเห็นเค้าลางๆแล้วว่าไอ้ไดมันจะทำอะไรกับผม
 
ไม่รู้ว่ามันไปตายอดตายยากที่ไหนมา
มันจะบ้ามากเกินไปแล้ว ถ้าคิดจะข่มเหงรังแกผมง่ายๆก็ตายกันไปข้างหนึ่งเถอะ!!

ผมคิดได้ดังนั้นก็กัดเข้าที่แขนของมันไปเต็มๆเมื่อมันเผลอ

“โอ้ย!คาสุม่า!” มันร้องลั่นทำหน้าเหยเกด้วยความเจ็บพลางยกแขนขึ้นมาดู ผมจึงได้โอกาสรีบถลาวิ่งออกมาจากตัวมันจากนั้นก็ตรงไปที่ประตูทันที

“จะไปไหนคาสุม่า ร้ายนักนะ!” โธ่!ยายยังคุมิหน้าวอก ก้าวเข้ามายืนขวางประตูไว้อีก

ชะนีหอก!
อกอีนี่ตูมจริงๆเลยครับ...ชีคิดจะเอาหน้าอกประทะผมเอาไว้...
ทำให้ผมหยุดชะงักอยู่กับที่ เห็นชัดๆว่ายายนี่ คงไม่ปล่อยให้ผมออกไปได้ง่ายๆ ไอ้ครั้งจะให้ทำร้ายผู้หญิงก็ทำไม่ได้ด้วยซิ ผมหันรีหันขวาง

“กลัวด้วยเหรอคาสุม่า ก็ไหนว่าเก่งนักหนาไง ไม่เห็นจะต้องหนีกันแบบนี้นะ” แล้วในที่สุดไอ้ไดมันก็ตามมารวมตัวผมไว้ได้อีก

“ชั้นไม่ได้เก่งในเรื่องแบบนี้โว้ย!นายจะไปหูดำ หน้าหม้อมุดกระโปรงใครนายก็ไปเลยนะได อย่ามาทำแบบนี้กับช้านนน!”

“มันจะมีใครที่ไหนที่ทำให้ชั้นยากด้วยอีกล่ะม่า” โธ่ว้อย!!

แค่มันกระซิบคำเลี่ยนๆข้างๆหูผมก็ฉุนกึกแล้วครับ ถ้าอารมณ์ปกติ ไม่แน่ผมอาจหลงลมกับคำพูดของมันก็ได้ แต่นี้มันไม่ใช่เวลาแบบนั้น

ผมสลัดตัวจากวงแขนแกร่งของมันให้ตายเท่าไหร่ก็ไม่มีทีท่าว่าจะหลุดเลยซักนิด ยิ่งดิ้นยิ่งเถียงมันก็ยิ่งรัด

“นายไม่เคยเป็นแบบนี้เลยนะได! ไม่เคยทำแบบนี้กับชั้นเลยด้วย!! เป็นบ้าไปแล้วเหรอไง!!!” ผมร้องว่าให้มันออกไปด้วยความกลัวนิดๆ ไอ้ไดที่ผมรู้จักมันอ่อนโยนใจดี ไม่ได้น่ากลัวและบังคับผมด้วยสีหน้า น้ำเสียง และท่าทางที่น่ากลัวเช่นนี้ มันเหมือนกลายร่างเป็นสัตว์ป่าไปแล้ว

ทำไมต้องมาทำแบบนี้กับผมด้วยล่ะไดสุเกะคุง...

“ใช่ไง ที่ฉันเป็นบ้าแบบนี้จะเพราะใครเสียอีกล่ะ ใครกันคาสุม่าที่ทำให้ฉันคลั่งอย่างนี้ได้ ใครกันที่ตามหึงตามหวงนายๆลืมไปแล้วเหรอ นายก็น่าจะรู้ดีที่สุดไม่ใช่เหรอไงม่า!”

ทั้งๆที่ใบหน้าแทบจะติดกันจนสามารถรับรู้ลมหายใจเข้าออกของกันและกัน แต่ไดก็ยังตะคอกเสียงดังเข้าใส่ผมอยู่ดีนั้นแหละ

“ไดปล่อย ได้โปรดเถอะไดปล่อยชั้น!” มันไม่ฟังคำร้องห้ามของผมอีกแล้ว

ผมถูกมันผลักลงบนที่นอนโดยที่มันไม่ออมแรงให้ซักนิด และไม่ปรานีผมอีก จากนั้นมันก็ตามลงมาทาบทับ ทิ้งน้ำหนักตัวกดผมเอาไว้ไม่ให้ดิ้นหนีไปทางไหนได้

อยากชกมันซักเปรี้ยง แต่ให้ตายเถอะครับ มันเอาหน้าหล่อๆโหดๆของมันยื่นใกล้เข้ามา พร้อมกับที่จมูกคมโด่งของมันก็ซุกไซ้ลงมาที่ซอกคอของผม

ผมเห็นยังคุมิยิ้มเยาะให้ ชีกอดอกยืนพิงประตูดูผมที่ถูกไดรังแกด้วยสายตาสมเพช คงจะนึกว่าผมเป็นของเล่นของไดสุเกะแบบนั้นซินะ

“ได...ไหนบอกว่ารักชั้นไงล่ะ แล้วทำไมถึงทำแบบนี้กับชั้นด้วยล่ะได” เมื่อไม้แข็งใช้กับมันไม่ได้ผล ก็ลองใช้ไม้อ่อนดู พูดดีๆกับมันบ้างนะครับ

“เพราะรักไงม่า รักมากไม่อยากให้นายไปเป็นของใครทั้งนั้น อยากให้นายอยู่กับฉัน...”

มันเข้าขั้นเพ้อ...ใบหน้าคมเข้มของมันก็ยังซุกไซ้อยู่ทั่วใบหน้าลำคอและบนหน้าอกของผมไปทั่ว

“แต่นายก็ไม่จำเป็นต้องทำแบบนี้กับชั้นนะได เราพูดกันดีๆก็ได้”

“ก็เพราะนายไม่เคยนึกถึงชั้นเลยคาสุม่า เคยนึกบ้างมั้ยว่ามีชั้นอยู่ตรงนี้ทั้งคน ถ้านายนึกถึงชั้น คิดถึงชั้น นายคงไม่ปั่นหัวชั้นเล่นอยู่อย่างนี้หรอก”

โธ่ไอ้ทึ่มไดเอ้ย! ผมล่ะอยากหาอะไรมาเคาะหัวแดงๆของมันเหลือเกิน ผมไม่รู้จะสรรหาคำด่าอะไรมาด่ามันได้อีกแล้ว จะต้องให้บอกกี่ครั้งกันนะ ความรักของผมไม่จำเป็นจะต้องบอกด้วยคำพูด

ความรู้สึกและการกระทำต่างหากที่มันจะยืนยันความรักของผมได้
แสดงว่าความรู้สึกที่ผมถ่ายทอดออกมาและการกระทำต่างๆที่ผมมีให้มันมาตลอดนั้น มันไม่เคยรับรู้บ้างเลยเหรอ? ไดคุงไม่รู้ดูไม่ออกว่าผมรักเขามากแค่ไหนอย่างงั้นเหรอ? โธ่ว้อย!ทั้งนิ่มทั้งทึ่ม เป็นควายดึกดำบรรพถ์จริงๆ


“นายเล่นจนป่วนไปหมดอย่างนี้ แล้วนายยังไปจูบกับไอ้หัวตั้งนั้นอีก จะให้ชั้นเข้าใจว่ายังไงม่า  ไอ้แยงกี้นั้นมันเป็นแฟนนายยังงั้นซิ มันรักนายมากกว่าชั้นใช่มั้ย?... นายถึงไม่ยอมรับรักและบอกรักชั้นเลย ใช่มั้ยม่า?”

ขอเข้าใจว่ามันคงกรึมๆเบียรนะครับ...กลิ่นแอลกอฮอล์นี้หึ่งเชียว

“ไม่ใช่นะได ไม่ใช่” ด้วยไอ้ท่าทางอ้อนๆขี้น้อยใจของมัน สามารถเรียกคะแนนสงสารจากผมได้ทุกที

ผมเผลอร้องปฏิเสธลั่นส่ายหน้าไปมา มันกำลังเข้าใจผิดและน้อยใจให้ผมยกใหญ่ ริมฝีปากสวยของมันจูบลงมาบนใบหน้าของผมแบบไม่ลืมหูลืมตา

“ไม่ใช่อะไรม่า ชั้นรักนายจนจะคลั่งอยู่แล้ว นายจะแกล้งกันไปถึงไหน...ไม่สงสารชั้นบ้างเลยหรือไง ไม่รักกันทำไมไม่บอกกันตั้งแต่แรก เข้ามาหลอกเข้ามาทำให้ชั้นรักปล่อยให้ถลำลึกทำไมกันม่า?”

มันชักจะเพ้อไปกันใหญ่แล้วนะ ผมจะทำยังไงดีให้มันหยุดฟังผม..แค่คำกระซิบบวกสัมผัสของมันแค่นี้ก็เล่นเอาน้ำตาของผมคลอขึ้นมาได้ไม่ยาก

“ชั้นเปล่านะได ชั้นเปล่าทำ ฮึก!” ผมอยากจะบอกถึงเหตุผลทั้งหมดให้มันได้รู้อยู่หรอก เมื่อไม่มีพวกเพื่อนๆอยู่ด้วยแบบนี้ แต่ก็ยังติดอยู่ที่ยังคุมิ ผมไม่ชอบ ไม่อยากให้ใครมารับรู้เรื่องของผมกับมัน ผมอยากให้ไดคุงรู้แค่คนเดียว ที่ได้เห็นผมในแบบที่เขาอยากให้เป็น ไม่อยากให้ใครรู้ว่าผมกับเขาคบกันและมีอะไรกันหรอก! มันน่าอายจะตาย

ผมอยากอ้อนมัน อยู่กับมันแค่ 2 คน ผมรักช่วงเวลาที่ได้อยู่ในอ้อมกอดของมันมากที่สุด...ได้อิงแอบแนบชิดตัวติดกัน ได้ออดอ้อนให้มันเอาใจ ผมชอบเวลาแบบนั้นมากกว่า เวลาที่ได้อยู่กับมัน 2 ต่อ 2

แต่ว่าในขณะนี้มันไม่ใช่อีกแล้ว ทุกคนกำลังจะรับรู้ว่าผมกับมันมีอะไรกัน ทุกคนกำลังจะรู้ว่าผมกับมันมีความรักที่ผิดธรรมชาติต่อกัน

“บอกซิม่า ถ้ารักฉันก็บอกชั้นหน่อยได้มั้ย? ยืนยันความรู้สึกให้ชั้นมั่นใจหน่อยได้มั้ยม่า?”

ไดคุงควบคุมอารมณ์ไม่อยู่แล้ว เสื้อเชิ้ตสีขาวของผมถูกมันกระชากออกจนกระดุมขาด ไดใช้ฝ่ามือลูบคลำไล้ไปทั่วแผงอก ร่างกายของผมทำให้มันหน้ามืดตามั่วได้เพียงนี้เชียวหรือ?ริมฝีปากก็พรมจูบไปทั่วใบหน้าและแผงอกไม่รู้จักอิ่มจักพอ  บดบี้นิ้วมือลงบนเม็ดติ่งตรงหน้าอกของผมครั้งแล้วครั้งเล่า ผมต้องบังคับและฝืนตัวเองแค่ไหนที่ไม่ให้ร่างกายรู้สึกคล้อยตามสัมผัสของมันไปด้วย

กลิ่นของสุราปนออกมากับลมหายใจของมันทำให้ผมรู้ว่าที่มันเป็นไปได้ถึงเพียงนี้ก็เพราะร่างกายมันมีฤทธิ์ของแอลกอฮอล์อยู่มากโขนี่เอง

แต่ทว่า.. ทำไมผมจะต้องมายอมให้มันบังคับ รังแกกันอย่างนี้ด้วย มันไม่แฟร์เลย พูดกันดีๆก็ได้ รอให้หายเมาแล้วคุยกันก็ได้ จะให้มันสัมผัสผมด้วยอารมณ์แบบนี้ไปตลอดไม่มีทางหรอก ไดกำลังหลงลืมตัวเอง

แค่คำว่ารัก นายต้องการมากเลยเหรอได?
 แล้วสิ่งที่ชั้นปฏิบัติต่อนายในตลอดเวลาที่ผ่านมาล่ะ มันไม่มีความหมายของคำว่ารักจากชั้นแฝงอยู่ให้นายรับรู้บ้างเลยเหรอ?
ความรู้สึกของนาย ไม่เคยรับรู้ถึงความรักของชั้นบ้างเลยเหรอได...?

โธ!ไอ้งั่งไดเอ้ย!

“ไดปล่อยชั้นนะ!ปล่อย!!ไอ้บ้าปล่อยเว้ย!!!”

แล้วในที่สุดเมื่อคิดได้ดังนี้ความอดทนของผมมันก็หมดให้กับการอ่อนข้อพูดดีๆกับมันอีกต่อไป มันก็ไม่ยอมฟังผมแล้วแน่ๆ

ผมฮึดดิ้นสุดแรงเกิดอีกครั้งเมื่อร่างกายมันปะทะเข้ากับความเย็นของเครื่องปรับอากาศในห้อง ที่บอกได้เป็นอย่างดีว่าเนื้อตัวของผมแทบไม่เหลืออะไรปกปิดอยู่ ความน้อยใจและความอายมันทำให้ผมโกรธขึ้นมาอีก หลับหูหลับตาทุบตีมันลูกเดียว ผลักหน้าอกมันแรงๆ ร้องตะโกนด้วยความโกรธและน้อยใจคับอก มันกำลังมั่วเมาหลงใหลกับร่างกายผมอยู่

ผมน้อยใจและโกรธให้มันอย่างที่ไม่เคยเป็นแบบนี้กับมันมาก่อน ถ้าจะทำแล้วอยู่กันแค่ 2 คนผมจะไม่เสียใจเท่านี้เลย แต่นี้ต่อหน้าคนอื่น มันข่มเหงรังแกผมต่อหน้าคนอื่น ไม่ให้เกียรติผมซักนิด

ขณะที่ผมลุกขึ้นจากเตียงได้แล้ว มันก็ยังตามมากระชากแขนผมไว้อีก นิ้วแกร่งบีบแน่นจนเจ็บไปถึงกระดูก

นี่มันจะทำกับผมให้ได้เลยใช่มั้ย? บ้าไปแล้ว มันจะหื่นมากไปแล้วนะได!


แล้วด้วยความรู้สึกที่ประดังกันเข้ามาจนผมสุดทนได้อีกต่อไป มันทำให้ผมอดไม่ได้ที่จะซัดฝ่ามือลงบนใบหน้าของมันไปเต็มๆ

ไดแค่ชะงักไปไม่กี่วินาที แล้วก็ไม่สนใจว่าผมจะร้องด่าอะไรมันอีก ระดมจูบหนักๆลงมายิ่งกว่าเก่า แล้วมันก็ส่งผลทำให้ผมยิ่งดิ้นรนและตะโกนก้องกลัวและโกรธคับอก ทุบตีมันใหญ่และเผลอซัดฝ่ามือลงบนใบหน้ามันอีกครั้ง จริงๆแค่หวังให้มันรู้สึกตัวว่าทำอะไรผมอยู่

ในตอนนี้มันกลายเป็นคนที่ผมไม่รู้จัก กลายเป็นคนแปลกหน้า เป็นไอ้บ้าหื่นกามไปแล้ว!

ความรู้สึกทั้งหมดที่มันตีตื่นขึ้นมาคับอก ทำให้ผมอดน้ำตาคลอไม่ได้จริงๆ  ถึงจะโกรธมากแค่ไหน แต่ก็ ไม่เคยน้อยใจ เสียใจอะไรมากมายเหมือนเช่นนี้มาก่อนเลย ทั้งๆที่ผมนึกว่ามันเข้าใจผมมาตลอด แต่ก็...ไม่เลย ...ไม่เลยซักนิด


ผมเบือนหน้าหนีหันไปทางอื่น ไม่อยากสบตากับมันหรอก สายตาที่สายแววเจ็บปวดเสียใจของมัน ซึ่งมันก็คงไม่ต่างกับผมเท่าไหร่

และมันก็ไม่ยอมขยับตัวไปทางไหนอีกเลยเมื่อถูกผมตบหน้าไป 2 ครั้งติดกัน มือใหญ่ที่จับผมไว้แน่นในตอนแรกนั้นก็ค่อยๆคลายออกช้าๆ ให้อิสระแก่ผม ไม่รั้ง ไม่ว่า ไม่ด่า ไม่ตะคอก ไม่พูดอะไรกับผมเลยซักคำ

.....................

...เงียบ...ปราศจากเสียงพูดของใครแม้ซักคน ห้องทั้งห้องกำลังตกอยู่ในความเงียบ ได้ยินก็แต่เสียงของเครื่องปรับอากาศกับเสียงลมหายใจของตัวเองแค่นั้น

ผมไม่ปล่อยให้ความอึดอัด และความเงียบควบคุมอยู่นานอีกต่อไป ตัดสินใจคว้าเสื้อและกางเกงถลาลงจากเตียงทันที ถึงแม้ในใจนึกเสียใจต่อการกระทำเมื่อครู่แค่ไหน แต่มันก็ไม่ใช่เวลานี้ ไม่ใช่เวลาที่จะมาขอโทษ  ก็เพราะมันบังคับและข่มเหงกันมันก็สมควรแล้วไม่ใช่หรือ?

“หลีกไปอย่ามาขวางนะ!” ตะโกนไล่ยังคุมิไม่ไว้หน้า เมื่อหล่อนมายืนขวางประตูเอาๆไว้อีกครั้ง

“ไดสุเกะซังแบบนี้จะดีเหรอค่?” ยายยังคุมิหันไปถามมัน ไม่สนใจผมซักนิด มันก็ไม่ตอบในทันทีหรอก

ยังนั่งนิ่งเป็นหุ่นอยู่บนเตียง หันข้างให้ผมกับยังคุมินานนับหลายนาที จนอึดอัดและทำให้ผมหวั่นใจอย่างบอกไม่ถูก

“มันคงจบแล้วล่ะมั้งม่า?” ไอ้บ้าไดมันพูดอะไรออกมา ผมเริ่มทำนิสัยเสียอีกจนได้ เมื่อได้ยินประโยคนี้ของมัน เสื้อของตัวเองที่อยู่ในมือถูกขว้างออกไปปาหน้าของมันเต็มๆ

ไม่อยากได้ยินไอ้คำแสลงหูที่ผมพอจะเดาออกว่ามันจะพร่ำว่าอะไรต่อไป

“ปล่อยเขาไปยังคุมิ” อ๋อแน่ะ! ไม่โกรธอีก ไอ้ไดมันยังนั่งนิ่งไม่ยอมหันมามองผมอยู่ดี

“ไดซังค่ะ”

 ไอ้นิ่มไดมันน้อยใจผมยังงั้นเหรอ?

แต่ผมกำลังเดือดให้มันเต็มที่เลยล่ะ ไหนว่ารักมากไง บอกจบกันง่ายๆแบบนี้ใครจะยอมล่ะ  ที่ผมเตือนสติมันก็เพื่อให้มันรู้สึกตัว ใจเย็นลงแล้วค่อยคุยกันต่างหาก

“ถ้านายออกจากห้องนี้ไป เราก็คงจบกันที่นี่ และ...วันนี้” ผมกำมือแน่นจิกเล็บลงเนื้อเลยล่ะครับ เมื่อได้ยินคำที่ผมไม่อยากฟังจากมัน

“...  .....”

“ฉันเหนื่อยไม่อยากบังคับหัวใจและ ความรู้สึกของนายอีกแล้วล่ะม่า” น้ำตามันมาคลออยู่เต็มเบ้าตาเมื่อไหร่กัน! ใจหายวาบ ไอ้ควายดึกดำบรรพถ์ไดจะบังคับกันอย่างงั้นเหรอ?

“...   ...  ...”

“ฉันรักนาย... แต่ในเมื่อมันเป็นความรู้สึกที่รับรู้ได้แค่ฝ่ายเดียว... มันก็คงไม่มีประโยชน์อะไรอีก…”

“…  …  …   …”

“ขอโทษด้วยกับทุกเรื่องที่ทำให้ลำบากใจ...”

“...   ..... .... .......................”อยากให้จบจริงๆเหรอวะ? ผมยิ่งไม่ค่อยจะมีน้ำอดน้ำทนอยู่ด้วย

“ไปหาคนที่เขารักนายมากกว่าชั้น...เรื่องระหว่างเราให้มันจบลงที่นี้วันนี้...”


“...............................................................”

“จะลืมว่ามีฉันเคยอยู่บนโลกนี้ไปเลยก็ได้นะ ไปซะคาสุม่า มันจบแล้ว ไปหาคนที่เข้าใจนายคาสุม่า ฉันมันไม่ได้รักนายหรอก ฉันไม่ได้เข้าใจนายเลยซักนิด ลาก่อนคาสุม่า...ไปซี้!”

“โธ่ว้อย!! ขอกูอีกซักทีเถอะ”ผมยัวะจัด สบถคำด่าออกมาพร้อมกับทำนิสัยไม่ดีพาลกันให้เห็นจะๆตา ความโกรธส่งผลให้เก้าอี้ข้างเตียงถูกผมถีบล้มระเนระนาดก่อนที่จะถึงตัวไอ้งี่เง่าไดด้วยซ้ำ แล้วผมก็ฟังฟ้าฟังฟืนอะไรทั้งนั้นแล้วครับซัดฝ่ามือลงบนใบหน้าเฉยชานั้นเข้าไปอีกครั้งเต็มแรง

ความรู้สึกต่างๆนาๆ ผสมปนเปกันไปหมด โกรธ เสียใจ น้อยใจ ไม่เข้าใจ ไอ้งี่เง่าไดที่สุดในโลก!!

น้ำตาเจ้ากรรมก็พาลแต่จะคอยไหลออกมาเสียให้ได้ มันเป็นอะไรกันไปหมด เป็นอะไรกันไปหมดวะ!!!?
นายเป็นอะไรไปคาl6,jk? นายเป็นอะไร...?เป็นบ้าอะไร!!!!
ไม่เข้าใจโว้ยๆ! ไม่เข้าใจตัวเองโว้ย!
ผมได้แต่พาล


“งี่เง่าที่สุดเลยได! ไอ้บ้า!!นายไม่เคยเข้าใจชั้นเลยจริงๆนั้นแหละ ...เสียแรง..ๆ ฮึก!” ผมหยุดคำพูดเอาไว้ถ้าพูดออกไปต้องร้องไห้แน่ๆ ไอ้บ้าไดยังนั่งนิ่งไม่ไหวติ่ง ไม่แม้แต่จะหันมามองผม

ไอ้งี่เง่า!ไอ้ซื่อบื้อ! ไอ้บ้าๆๆๆ...

“มันจบแล้วแบบนั่นเหรอwf..จบแล้วเหรอ.... ดี!!!” ผมเหลืออดกับมันแล้ว!
กำหมัดแน่นแล้วซกเปรี้ยงเข้าใส่ใบหน้ามันให้ลงไปนอนหงายทันที...


To be continue…


Red....[em]

  • บุคคลทั่วไป
Re: One man story 1,2,3,4,5,6,7,8,9,10,11,12 จบ
«ตอบ #62 เมื่อ30-09-2007 16:19:48 »

One man story  12

“หมัดนี้ให้กับความซื้อบื้อและงี่เง่าของนายได!ในเมื่อเราไม่ได้เป็นอะไรกัน เราก็ไม่จำเป็นต้องรู้จักและคุยกันอีก!!พอเสียทีๆ!!...ลาก่อน!”

ผมตามเก็บเสื้อที่แทบไม่เหลือกระดุมซักเม็ดมาใส่ แล้วหุนหันพลันแล่นออกจากห้องไปทันที ก่อนที่ทำนบน้ำตาจะแตกลงมาให้ทั้งไดและยายยังคุมิเห็น

ไม่เคยเสียใจอะไรมากมายเท่านี้มาก่อนเลยซักครั้ง...อารมณ์และความคิดที่จะยับยั้งความรู้สึกของตัวเองเอาไว้แตกพ่ายออกเป็นเสี่ยงๆ ทั้งตัวและหัวใจไม่มีกะจิตกะใจไปห้ามน้ำตาเอาไว้ได้อีกต่อไป น้ำตามากมายไหลออกมาไม่หยุด ช่างมัน!

2 ขาของตัวเองพาผมวิ่งออกมาไกลไม่รู้ทิศทาง ไม่รู้ว่าพาตัวเองไปที่ไหน...ผมไม่รู้ ไม่อยากมองหน้าเจ้าบ้านั้น...ผมเสียใจ....

ความรักที่เกิดจากความใกล้ชิด สนิทสนมเพียงชั่วระยะเวลาสั้นๆ ทำไมจะต้องไปแคร์และเสียใจมากมายขนาดนี้ด้วย...ตาบ้านั้นยังไม่เห็นจะแคร์หรือเสียใจเลย...ในเมื่อพูดตัดรอนออกมาแบบนั้นได้ ผมก็พูดได้เหมือนกัน!

“ไอ้บ้าได!ไอ้บ้า!คนบ้า!!บ้าที่สุด!!ไปลงนรกซะไป๊ฮึก!!!”

ต้นไม้ข้างถนนถูกผมชกลงไปตามจำนวนคำด่าด้วยความเจ็บใจ เนื้อบางส่วนหลุดติดเปลือกไม้จนได้เลือด กระดูกข้อมือลั่นจนเจ็บจี๊ดขึ้นมาแต่ผมก็ไม่สน จะเจ็บแค่ไหน แต่มันยังเทียบไม่ได้กับข้างในซักนิด!

“รักมากเหรอ ไอ้คนโกหก!ไอ้คนลวงโลก!!เก็บไว้ไปบอกแม่มึงเลยไป๊!!!”เท้าที่ยังว่างก็ถูกยกขึ้นมาใช้งานตามสภาวะอารมณ์ที่เดือดดาลของผมด้วยเช่นกัน...

ไอ้ทุเรศๆๆ!!!

“คาสุม่า!คาสุม่าหยุดนะ!!” และในขณะที่ผมกำลังเมามันกับการทำอะไรงี่เง่า อาละวาดแม้แต่ต้นไม้ระบายอารมณ์อยู่นั้น เสียงที่คุ้นเคยก็ตะโกนลอยมาตามสายลม

น้ำเสียงเฉียบขาดสามารถหยุดอาการกระฟัดกระเฟือนของผมได้ แต่เมื่อหันไปเห็นว่าเป็นใคร เท้ามันก็พาผมเดินหนีมันไปทันที

มันจะตามผมมาทำหอกอะไรอีก!!!
 
“หยุดนะคาสุม่า!ได้โปรด ...หยุดก่อน...ม่า!”

มึงไม่ต้องมาทำเสียงอ้อนตีนกูเลยไอ้ได!

ผมออกวิ่งบ้างเดินบ้างไปตามฟุตบาทข้างถนน ไม่อยากเห็นหน้ามันอีกแล้ว...จะตามมาอีกทำไมกัน!!

“ขอร้องล่ะม่า!ฟังฉันก่อน...ฉันขอโทษ”ไม่อยากได้ยินแล้ว...ผมยกมือทั้งสองข้างขึ้นปิดหูตัวเอง...ดูงี่เง่าและไม่เข้าท่าเท่าไหร่ แต่ผมก็ไม่รู้จะทำยังไงเหมือนกัน

“ม่าขอโทษ...ฉันขอโทษ!”ไอ้ไดมันยังตามมาไม่หยุด ผมเห็นมันวิ่งอยู่บนทางเท้าอีกฝั่งของถนน พลางตะโกนลั่นเพื่อให้ผมได้ยินคำพูดของมัน

“อย่าตามมานะ!!”ผมตะโกนสั่งลั่น ยังเดินหนีต่อไป ใจผมในตอนนี้ไม่พร้อมที่จะฟังอะไรทั้งนั้นผมอยากอยู่เงียบๆ ถ้าให้ผมกับมันคุยกัน ไอ้ไดมันต้องเละด้วยตีนผมแน่ 

เริ่มรู้สึกเจ็บที่ข้อนิ้วขึ้นมาแล้วครับ มันปวดรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ

“ฉันเสียใจ...เสียใจคาโอรุ...”

แล้วนึกว่ากูไม่เสียใจอย่างนั้นเหรอ..!!!
บ้าชะมัด!!!

ผมตวัดสายตาไม่พอใจกลับไปมองหน้ามันที่เห็นในระยะไกลอย่างแค้นเคือง หน้ามันดูเหมือนหรือไม่แตกต่างจากคนที่กำลังจะร้องไห้เท่าไหร่..

มึงไม่ต้องมาพูดอะไรเลย…มึงไม่ต้องมาทำสายตาแบบนั้นด้วย!!
มึงรู้มั้ยกูเจ็บ!!
กะอีแค่คำบอกเลิกของมึง...กูจี๊ดเลย...
กูจี๊ด กูจี๊ด!!!
กูเสียใจโว้ย!
กูเหลียดมึงแล้วด้วย!!!
กูเจ็บใจ...กูไม่อยากเห็นหน้ามึง!!
กูโกรธมึงแล้ว!!!

ไอ้เจ้าร้องเท้าคู่ชีพถูกผมถอดปาหัวมันด้วยความโกรธ...แต่ว่าไอ้ไดมันเสือกรับได้ครับ มันถือร้องเท้าวิ่งตามมาผมก็เลยหยุดวิ่งแต่มือนี่ชี้หน้ามันเลยครับ อยากด่าไปถึงพ่อมัน...แต่สามัญสำนึกของผมมันก็นึกได้ว่า ท่านไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรด้วย อย่าเอาท่านมาลามปามเลยครับ

ผมหยุดยืนนิ่งกำมือชิดหน้าขาตัวเองเอาไว้แน่น ...ก้อนสะอื้นขึ้นมาจุกที่หน้าอกจนอึดอัด แทบจะระเบิด...ก่อนที่มันจะพูดทำไม่ไม่เห็นเสียใจ...ทำไมมันไม่คิด!!

“ม่าขอร้อง...ฟังฉันนะ ...ขอโทษ...จะให้ทำอะไรก็ยอม แค่นายอย่าไปจากฉัน...ฉันรักนายนะ!!”

มันยังตะโกนด้วยความหอบเนื่องจากมันคงเหนื่อยที่วิ่งตามผมมา ตอนนี้ไอ้ไดมันหยุดยืนอยู่ฝั่งตรงกันข้ามถนนกับผม ใบหน้าคมดุที่ผมหลงใหลอ่อนแสงลง...แววตาของมันทั้งขอร้องและอ้อนวอน ถึงแม้จะมองเห็นอยู่ในระยะที่ห่างกันก็ตามแต่ผมก็เห้นแววสั่นระริกในดวงตาของมัน

ผู้คนที่เดินไปมาในยามค่ำคืนเริ่มหันมามองผมและไอ้ไดด้วยความสนใจบ้างแล้ว ...แต่ทั้งผมและมันคงไม่มีอารมณ์ที่จะสนใจสิ่งรอบข้างไปมากกว่าความรู้สึกของตัวเองหรอกครับในเวลานี้

“ไม่ต้องมาพูด!”ผมสะบัดหน้าหนี เดินต่อไปอีกครั้ง ไม่ได้เล่นตัวหรือตั้งแง่ตั้งงอนอะไรทั้งนั้น...ความโกรธและความเสียใจมันยังไม่หายไปมากกว่า

“ม่า!โธ่!ม่าฟังก่อนซิ” เห็นมันเริ่มออกไล่ตามอีก...มันทำให้ผมยิ่งเร่งเท้าหนี

“...เราห่างกันซักพักเถอะนะได!!!”

ผมหันไปบอกมันทั้งน้ำตา รู้ตัวเองดีว่านิสัยตัวเองเป็นยังไง อารมณ์ของผมและได ยิ่งร้อนใส่กันเท่าไหร่ก็มีแต่จะแผดเผาให้เสียใจกันทั้งคู่...ความไกลห่างไม่เห็นกันซักระยะ บางทีอาจทำให้มองเห็นข้อผิดพลาดและเข้าใจกันและกันยิ่งขึ้นก็ได้

ผมหันไปตะโกนบอกทั้งที่ยังเดินอยู่ไม่คิดจะหยุดให้เสียเวลา แต่แล้วผมก็ได้รู้ว่าผมพลาดไปเสียแล้ว คำพูดเมื่อกี้เท่ากับบอกเป็นนัยให้มันเข้าใจว่าผมใจอ่อน ไม่นะ ไม่เด็ดขาด ในสมองมันสั่งให้หนีเท่านั้น...หนีตัวเอง หนีได หนีความรู้สึก...ยิ่งเห็นหน้าอีกฝ่ายนานเท่าไหร่...ก็ไม่ดีกับตัวเองเท่านั้น ...ผมกลัว...

ผมมองเห็น สี่แยกไฟแดงอยู่ข้างหน้า

“ขอฉันอยู่เงียบๆคนเดียว!อย่าตามฉันมาอีก!ขอร้องได...” ผมตะโกนบอกมันออกไปบ้าง อยากให้มันเข้าใจผม ก่อนที่ผมจะตัดสินใจก้าวเดินแยกไปอีกทางเพื่อที่มันจะได้ไม่ตามผมมาอีก แสงไฟของรถยนต์ที่วิ่งผ่านไปมาทำให้มองเห็นใบหน้ามันได้ชัดจากอีกฝั่งถนน

“ไม่นะม่า...ไม่นะ...อย่าพึ่งไป ฉันไม่ยอมให้นายหนีไปแบบนี้หรอก...มันจะต้องไม่เป็นแบบนี้ม่า!”มันยังตะโกนกลับมาลั่น พลางทำเรื่องบางอย่างด้วยความบ้าดีเดือดของมันซึ่งก็คงจะมีไม่ต่างจากผมเท่าไหร่...แต่ว่ามัน

มันต้องบ้าแน่ๆ...ไอ้ไดมันต้องบ้าแน่ๆ

สัณญาณไฟแดงที่กำลังจะเปลี่ยนเป็นไฟเขียว ทำให้ผมต้องชะงักเท้า กลับไปยืนมองมันเต็มตา

จะบ้าเหรอไง?!!
ไอ้เวรเอ๊ย!!บ้าบอที่สุด งี่เง่า อยากตายเหรอไง อย่านะได!!!!

มันส่ายหน้าไม่ยอมฟังผม...ลงจากฟุตบาทเดินมุ่งหน้ามาทางผมที่ยืนตะลึงอยู่ทันที

ผมหลับตาปี้ กำมือแน่น หัวใจหล่นวูบ!!!
ไฟเขียวแล้ว!

มันไม่สนใจเสียงแตรรถที่ดังสนั่นและสัญจรไปมาซักนิด เสียงเบรกลั่นเอี๊ยดเต็มท้องถนน บ้างกรนด่า บ้างโบกมือให้หนีวุ่นวายไปหมด จนผมแทบหยุดหายใจยืนนิ่งมองสิ่งที่มันกำลังทำตาค้าง

“ไดไม่นะ!!!”แล้วผมก็ต้องตะเบ็งเสียงร้องห้ามความบ้าบิ่นเข้าขั้นอันตรายของมันออกไปสุดเสียง รู้สึกเหมือนขาดอากาศหายใจไปเฉยๆ...หายใจไม่ออก...หน้ามืดไปหมด

ไอ้บ้าได!!

“อยากตายเหรอไง!”ไม่ว่าจะตะโกนห้ามอย่างไร ไดมันก็ไม่มีทีท่าว่าจะหยุด มันยังคงเดินฝ่าฝูงรถมากมายมุ่งหน้ามายังผมด้วยความมุ่งมั่น

ไอ้งี่เง่ามึงไม่ใช่แบรทพีท อย่างในเรื่องเดอะแมตทริคน!

“จะบ้าไปแล้วเหรอ?เสียสติไปแล้วหรือไง!!?”ความกระวนกระวายแทบคลั่งของตัวเอง จนพาตัวเองลงไปยืนอยู่ข้างล่างฟุตบาทโดยไม่รู้ตัว ซ้ำยังตวาดด่าด้วยความเหลืออดเข้าใส่ไดมัน

“ใช่เสียสติ!!!”มันยักไหล่อย่างไม่แคร์ชีวิตตัวเอง ไม่แคร์ต่อสิ่งที่มันทำ

“บ้าบอคอแตกที่สุด!ไดระวัง!!!!”ได้ยินตัวเองแผดเสียงลั่น

ไม่นะ!!! ม่ายยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย

ผมหน้าถอดสี... แข้งขาแทบไม่มีแรงยกมือขึ้นปิดปาก คนที่เสียสติมันต้องกลายเป็นผมแน่ๆ รถคันหนึ่งวิ่งมาด้วยความเร็วสูงก่อนที่จะเบรกจนคนขับตัวโก่ง เสียงล้อรถบดกับถนนลั่นเอี๊ยดดังเข้าหูบวกเสียงอื้ออึงและแสงไฟละลานตาจนผมตาลายมองไม่เห็นหน้าไอ้ไดมันไปดื้อๆ...หัวใจหล่นวูบ...แทบล้มทั้งยืน

ไม่นะได...มึงต้องไม่เป็นอะไรนะ....มึงอย่าเป็นอะไรนะ

“ไอ้เชี้ย!สิ้นคิด!! อยากตายเหรอไง!!!”ได้ยินเสียงคนขับเปิดกระจกรถแล้วกนด่าด้วยความตกใจด้วยความโกรธก่อนที่จะเหยียบรถหนีจากไป

“ดะ...ได...”ผมไม่อยากรับรู้อะไรแล้ว แข้งขาอ่อนลงไปนั่งกองกับพื้นตั้งแต่ตอนไหนยังไม่รู้สึกตัวด้วยซ้ำ

……………………

………………………….

“คะ..คาสุม่า”ได้ยินเสียงมันมาเรียกอยู่ข้างตัว อยู่ใกล้ๆ แต่ผมไม่อยากมอง

“ฉันขอโทษ”

อยากตายมากนักใช่ไหม!!!?ถ้ารถคันเมื่อกี้หยุดไม่ทันมึงจะเป็นยังไง!...แล้วกูล่ะจะเป็นยังไง!!?..กูจะทำยังไง!!!?...กูจะอยู่ยังไง!!!

“คาสุม่า...โอเค.ฉันขอโทษที่พูดออกไปแบบนั้น แต่ได้โปรดอย่าเมินเฉยใส่กันแบบนี้ได้ไหม?...ฉันอาจงี่เง่าไปบ้างแต่ทั้งหมดมันเกิดขึ้นกับนายเท่านั้น ฉันรักนาย ไม่ว่าจะยังไงก็ไม่อยากให้นายคลาดสายตา...ไม่อยากให้นายเป็นของใครทั้งนั้น ไม่ยกให้ใครทั้งนั้น  ...เรื่องทั้งหมดฉันหึง หวงนายไม่เข้าท่าเอง...แต่ฉันผิดด้วยเหรอ? มันผิดมากนักเหรอไงม่า ฉันไม่มีสิทธิ์ที่จะทำอย่างนั้นได้เลยหรือไง? ถึงมันจะดูไม่มีเหตุผล..แต่พอได้ยินคำว่าลาก่อนจากนายแล้ว...ฉันทนไม่ได้...ทนไม่ได้ที่จะเห็นนายไปกับใครๆหรือจากไป...นะ...คะ-คาสุม่า...”

ประโยคที่ไม่ได้ผ่านการเรียบเรียงมาก่อน ฟังดูสับสนวุ่นวายและยากต่อการเข้าใจ พูดพร่ำละลำละลักอยู่ข้างตัวผม บ่งบอกว่าเจ้าของประโยคต้องการสื่ออะไร ด้วยสีหน้าท่าทางไม่สะทกสะท้านว่าเมื่อซักครู่ตัวเองทำอะไรเสี่ยงตายและเกือบทำให้ผมหัวใจวายตายไปแล้ว

ไอ้ไดเข้ามาพยุงผมให้ลุกขึ้น มันจับมือข้างที่เป็นแผลของผมขึ้นมาแล้วพันด้วยผ้าหรือเสื้ออะไรบางอย่างที่ผมไม่รู้ว่ามันเอามาจากไหน ...สายตาที่เลื่อนลอยคิดไปไกลของผม ผมไม่อยากรับรู้อะไรทั้งนั้น...ไม่แม้แต่จะมองหน้ามัน

อาการใจหายใจคว่ำยังไม่หายไป แล้วนี้วินาทีนี้ความโกรธที่มีเป็นทุนเดิมอยู่แล้วยิ่งเพิ่มระดับขึ้นมาอีก

“กลับบ้านด้วยกันนะ...”ถึงแม้น้ำเสียงกระซิบจะนุ่มนวลน่าฟัง แต่ผมในขณะนี้คงไม่สามารถรับรู้ความรู้สึกที่แฝงมาด้วยนั้นได้ ความตื่นตระหนกจากเรื่องที่เจ้าตัวก่อไว้เมื่อกี้ยังติดชัดอยู่ที่ลูกกะตา...กระบอกตาร้อนผ่าวขึ้นมาเสียอย่างนั้น ...จะด้วยความโล่งอกหรือเห็นว่าปลอดภัย...ผมก็ไม่อยากรับรู้มันอีก

“อย่ามายุ่งกับฉัน!"สะบัดตัวออกจากมัน น้ำตาไหลลงมาอย่างกลั้นไม่อยู่ ตวัดสายตากร้าวใส่ด้วยความโกรธ

มันจะทำอะไร จะเป็นยังไง ทำไมต้องไปห่วงมันด้วย!!!
ทำไมมึงต้องสนใจมันด้วยตาสุม่า!!

เคืองตัวเองนัก ผมสะบัดแขนจนหลุด เดินหนีมันอีกครั้ง ไม่เป็นอะไรแล้วก็ไปเสียทีซี้!!

“ม่า...ฉันขอโทษ”

"……………………….."

คำขอโทษของมันยังตะโกนตามหลังผมมา

“ฉันอาจงี่เง่า บ้าบอ โง่ในสายตานาย”

"......................................................"

“แต่...ฉันอยากทำอะไรบ้าบออย่างนั้นกับนายแค่นั้นนะ”

ผมยกมือขึ้นปิดหูน้ำตาไหลไม่หยุด...ไม่อยากฟัง!ไม่อยากฟัง!! ไม่อยากฟัง!!!ตั้งแต่ตอนไหนกันนะที่อ่อนแอแบบนี้...?

“ไม่รักฉันหรือไง...?”

ไอ้งั่ง! ยังจะมาถามอะไรบ้าบอคอแตกตอนนี้อีก

คำถามแทงใจดำ จนทำให้เท้าตัวเองแทบสะดุดกึกหยุดเดินลงไป

ไม่รักโว๊ย!กูไม่เคยรักผู้ชายสมองกลวงๆอย่างมึง...ไม่เคยห่วงหรือหึงไอ้บ้าอย่างมึง...ไม่เคยรัก... ซะ...ซะเมื่อไหร่กัน...โธ่โว๊ยยยย!!!

“แต่...ฉันรักนายนะ!!”

ไม่อยากได้ยินหรอก!เก็บเอาไปบอกยายยังคุมิหน้าวอก อกภูเขาไฟนั้นเลยไป๊!!

“รักนายที่สุด...ม่า”

จะแหกปากร้องตะโกนให้ชาวบ้านได้ยินด้วยเหรอไงเจ้าบ้า!มึงไม่อายแต่กูอายนะเว้ย!!

ผู้คนข้างถนนเริ่มมองผมกับมันอีกครั้ง คงจะนึกสงสัยว่าทะเลาะกันหรือจะตะโกนคุยกันหรือว่าง้องอนกันอยู่แน่

“จะไม่หึงหวงนายโดยไม่มีเหตุผลอีกแล้ว”

ลองทำอีกครั้งดูซิ...มึงตายแน่!อ๊ะ...ผมคิดอะไรตามคำพูดของมันออกไป

“โธ่!ม่าทำยังไงนายถึงจะเข้าใจฉัน”

ผมยืนอยู่นิ่งๆ ชี้หน้ามันไม่ให้มันตามมาอีก...ขอผมสงบสติอารมณ์คนเดียวซักพัก

“ฉันยอมให้นายหมดทุกอย่างแล้วนะม่า”

แน่ใจ...ถ้างั้นมึง...

ผมหยุดเดินพลางหันไปมองมันที่หยุดเดินตามไปด้วย...จะเพราะอะไรก็แล้วแต่ หรือเพราะว่าเหตุการณ์ท้าความตายของไอ้บ้าไดเมื่อซักครู่...
 
ที่ทำให้นึกแปลกใจตัวเองไม่น้อย จะว่าเพราะคำว่ารักของอีกฝ่ายหรือเพราะความเพี้ยนที่ทำให้ผมใจหายใจคว่ำ ถึงทำให้ผมเข้าใจตัวเอง


“จะให้ทำยังไงบอกมาซิ...ที่มันจะทำให้นายหายโกรธม่า?”มันยืนร้องถามอยู่ห่างจากผมสามสี่เมตร

รักกูงั้นเหรอ?...อยากทำให้กูหายโกรธใช่ไหม? ทำยังไงก็ได้ใช่ไม๊!?

ผมไม่ได้ตอบมันหรอก แต่กลับทำในสิ่งที่มันไม่คาดคิดแทน...วิ่งตรงหรี่เข้าไปหา ในเมื่อมันบ้าดีเดือดมาก่อน ผมก็บ้าดีเดือดได้เหมือนกัน

“ถ้างั้น...นี่! ...ให้กับความงี่เง่าของนาย!”ถึงมือขวาจะใช้งานไม่ถนัดเพราะตอนนี้มันชาไปหมดทั้งแถบจากแผลเมื่อก่อนหน้า แต่ว่าข้างซ้ายผมยังทำงานได้ดี...แม้ว่าหมัดมันจะไม่หนักเท่าข้างขวาก็เถอะ

เอาไปเลย กับความงี่เง่าที่ไม่รู้ว่าคนที่ตัวเองนอนหนีบใช้เป็นหมอนข้างอยู่ทุกคืนคิดกับตัวเองยังไง!เสร่อที่สุด!!

“และนี่...ให้กับความบ้าบอสิ้นคิด...ชีวิตคนเรามันมีได้แค่ครั้งเดียวเว้ย!” แก้มซ้ายของไดสะบัดไปตามแรงที่แขนซ้ายของผมยกขึ้นกระแทกออกไปอีกครั้ง

หมัดนี้ให้กับความบ้าบอสิ้นคิด!...ถ้าถูกชนขึ้นมา...ทำไมไม่คิดถึงตัวเอง คิดถึงผมบ้าง!...ไม่รู้หรือไงว่าผมเป็นห่วงแค่ไหน...ห่วงพอๆกับ...

“สุดท้าย...กับ...รักไอ้บื้อที่ไม่รู้อะไรเลยอย่างนาย!!”จากที่เตรียมจะชกอีกครั้งแต่สุดท้ายผมก็ทำได้แค่ให้ฝ่ามือตัวเองกระแทกไปบนใบหน้าของมันเบาๆเท่านั้น

ไม่มีแรงแล้ว...น้ำตาบ้านี่ก็ไหลไม่ยอมหยุดตั้งแต่กำปั้นแรกกระแทกหน้าของไอ้ไดด้วยซ้ำ...จะมาใจอ่อนอะไรกันตอนนี้นะ!กะอีแค่แก้มตอบๆของมันเป็นรอยซ้ำขึ้นมาแล้วก็แค่มุมปากบางมีเลือดออกมานิดหน่อยก็เท่านั้นเอง

………………….

…………………….

Red....[em]

  • บุคคลทั่วไป
Re: One man story 1,2,3,4,5,6,7,8,9,10,11,12 จบ
«ตอบ #63 เมื่อ30-09-2007 16:21:58 »

..............

......................

ความเงียบเข้ามาคลอบคลุมเรา 2 คนเอาไว้ชั่วขณะ ไร้เสียงห้ามจากมันหรือร้องโอดอวยด้วยความเจ็บ...ไอ้ไดยอมยืนนิ่งให้ผมชกหน้าตาย ไม่ขัดขืนต่อต้านหรือชกผมกลับแต่อย่างใด

ผมก้มหน้านิ่ง ทรุดตัวลงไปนั่งกองกับพื้น ความเงียบเข้าครอบคลุมให้ต่างคนต่างตกใจและตกอยู่ในความสับสนไปชั่วขณะ แต่ในขณะนั้น...

กำปั้นซ้ายของตัวเองก็กระแทกลงบนใบหน้าของผมบ้าง หน้าขาของผมเองบ้าง หนำซ้ำมือข้างขวาที่แทบไม่รู้สึกนั้นก็เข้าช่วยกันทุบลงบนตักหรือพื้นถนนบ้างด้วยความเจ็บใจ...ฟูมฟายร้องไห้ไม่หยุดโดยไม่ทราบสาเหตุ รู้แต่ว่าผมอึดอัด ในอกตอนนี้แทบประทุด้วยแรงอัดอั้นมหาศาลอยากระบายมันออกมา อยากทำอะไรก็ได้ที่ทำให้ตัวเองสบายใจ ในตอนนี้ผมคงดูงี่เง่าบ้าบอเสียสติซินะ...

"คาสุม่าหยุดนะ!!"ไดเข้ามากระชากมือผมไปจับไว้ทันที

"บอกให้หยุด"ยื้อยุดฉุดกระชากตะโกนบอกด้วยน้ำเสียงตกใจ คงไม่คิดว่าผมจะทำแบบนี้

"ม่า...ได้โปรด...อย่าทำแบบนี้..ม่า"เสียงทุ้มนุ่มแทบร้องไห้ของไอ้ไดกระซิบบอกด้วยความอ่อนโยนอยู่ข้างหู ลำแขนแกร่งโอบรอบเอวสวมกอดผมเอาไว้ให้หายคลั่งเพื่อให้ได้สติก่อนที่จะพรมจูบไปทั่วหน้า

"ได.. ฮึก!!"ไม่รู้ความอายมันหายไปไหนหมด ทั้งเรียกมันและรั่วกำปั้นลงบนอกมันไปเบาๆ เสียใจ เจ็บใจ โกรธ หึง หวง ห่วง และรัก ประดังกันเข้ามาในเวลาเดียวกันจนเกินที่ผมจะรับได้ ความรู้สึกทั้งหมดมันรุนแรงและมีให้กับคนๆเดียวเท่านั้น ร้องไห้อยู่ที่หน้าอกของมันอยู่เป็นนานจนเสื้อของไดชุ่มไปด้วยน้ำตาของผม



“คะ...คาสุม่า”เสียงเรียกของไดบ่งบอกว่าไม่ได้โกรธที่ผมทำกับเขาแบบนั้น...เขาโยกตัวผมไปมาคล้ายกับปลอบเด็กเล็กๆอยู่ก็ไม่ปาน ความเหนื่อยและความเพลียทำให้ผมยอมอยู่นิ่งๆสงบอาการลง

ไดนั่งทรุดเข่าลงกับพื้นอยู่ข้างๆตัวผมไปด้วยอีกคน ฝ่ามือใหญ่ที่สัมผัสถึงความอ่อนโยนและใจดีคว้าเอื้อมโอบรอบตัวผมเอาไว้แน่น มันไม่ได้พูดอะไร ปล่อยให้ความอบอุ่นจากวงแขนที่ผมหลงใหลรัดแน่นอยู่รอบตัว

ทำไมถึงได้รู้สึกว่า...อ้อมกอดนี้ผมได้กลับมาแล้ว ทั้งๆที่เมื่อครู่ผมยังรู้สึกว่ามันหายไป...ความรู้สึกหล่นวูบเหมือนเขาจะจากไปและไม่มีอ้อมกอดนี้อีกต่อไป...ตอนนี้ผมได้กลับมาแล้ว...ผมยกแขนขึ้นกอดตอบเจ้าแดงของผมเอาไว้บ้าง...แม้แต่วงแขนแกร่งคู่นี้ผมก็หวงแหนเกาะเกี่ยวเอาไว้ด้วยแขนของผมเอง

"ขอโทษนะม่า ...ขอโทษที่ทำให้รู้สึกแบบนี้...หายโกรธฉันนะ..."ไดกระซิบเกาะกอดผม

"ได ฮึก!!"ผมก็ได้แต่ร้องไห้ กลายเป็นเด็กขี้แยไปเสียแล้ว ทั้งพยักหน้าและร้องไห้ น้ำหูน้ำตายังคงไหลไม่หยุด...มือทั้งสองข้างถูกไดคุงยกขึ้นมาเป่าเบาๆ ก่อนที่จะกุมเอาไว้แนบใบหน้ามันและจุมพิตแผ่วเบาลงบนรอยแผลที่ซ้ำจนได้เลือด

ความอ่อนโยนและนุ่มนวลของไดเรียกความรู้สึกดีๆที่เคยมีให้กันค่อยๆกลับมาทีละนิดจนหมด มีแต่ความเต็มตื้นที่เคยมีกันและกันเข้ามาแทนที่

“ช่วยพูดอีกครั้งได้ไหม...?”มือใหญ่ประคองใบหน้าผมให้สบตาแล้วไล้ปลายนิ้วเช็ดน้ำตาให้เมื่อเห็นว่าผมสงบลงไปและหายร้องไห้ไปได้ซักพัก

“อะไร...?”ไม่รู้ความโกรธมันหายไปไหนหมดเมื่อผมเงยหน้าขึ้นมันชัดๆ

เพียงแค่ใบหน้าปุบๆยับยู่ยี้จากหมัดของผมอยู่เพียงแค่เอื้อม ก็เรียกความสงสารจากผมได้หมดสิ้นทันที ใบหน้าคมดูตกตะลึงและเหมือนจะดีใจไปในตัว..ทำให้น้ำตาที่หยุดไปแล้วนั้นของผมเริ่มหลั่งรินออกมาอีกครั้ง

“ก็...ที่พูดเมื่อกี้...หยุดร้องเหอะตาบวมหมดแล้ว...”ไดถามอีกครั้ง ผมมั่นใจว่าเขาหูไม่ฝาดหรอก ก็ผมตะโกนบอกออกดังพร้อมกับตบแรงขนาดนั้น...ปลายนิ้วแกร่งยังเช็ดน้ำตาให้ผมช้าๆ ...ความอ่อนแอที่ให้มันเห็นคนเดียว

“พูดอะไร? อยากโดนตบอีกเหรอไง?... เจ็บมากไหม?”ใบหน้าร้อนผ่าวขึ้นมาจนผมแน่ใจว่ามันคงแดงไปถึงไหนต่อไหน ก่อนที่ผมจะแกล้งตอบทำไม่รู้เรื่องถึงสิ่งที่สารภาพไป...ยกปลายนิ้วไล้ตรงมุมปากของไดบ้าง ริมฝีปากบางที่ขึ้นสีแดงเริ่มเปลี่ยนเป็นสีเขียวคล้ำเข้าไปทุกที

“ฉันยอมให้นายชกหรือตบอีกกี่ครั้งก็ได้...”มันยังทำท่าไม่ยอม

 ความรู้สึกของผมที่ไดอยากได้ยินมาตลอด และผมก็ไม่เคยได้บอกกับมันซักครั้งจนมันกลายเป็นความไม่มั่นใจ ไม่ไว้ใจ แล้วในที่สุดก็กลายเป็นโกรธจนสร้างทิฐิ ไม่มีใครยอมใครเป็นเรื่องเป็นราวขึ้นแบบนี้

“ฉันลืมไปแล้ว”ผมแกล้งไม่สบตาตาได แต่ปลายนิ้วก็ไล้มุมปากบางไปมาเบาๆอย่างนึกเสียใจต่อการกระทำรุนแรงของตัวเอง

“คาสุม่า?”ไดเน้นเสียงไม่พอใจใส่อีกครั้ง...บังคับให้สบตาด้วย ท่าทางถ้าผมไม่พูดก็คงไม่ได้ย้ายตัวเองไปที่ไหนแน่

“ก็บอกมาก่อนซิ...เจ็บมากมั๊ย?”ผมยอมมองสบตากับดวงตาเหงาๆเศร้าๆนั้น

“อื้อ...ก็เจ็บ...แต่หายแล้วนะ”ผมเลื่อนมือตัวเองไปลูบมุมปากของมันเบาๆ มันตอบอย่างเอาใจ ก่อนที่จะประคองใบหน้าผมเอาไว้อย่างเดิม

“ฉันขอโทษ / ฉันขอโทษ”คำขอโทษของผมกับไดถูกเอ่ยขึ้นในเวลาพร้อมๆกัน...จนเผลอมองตากันเลิกลักอยู่เป็นครู่ ถึงได้ยินเสียงหัวเราะของตัวเองและไดดังขึ้นนานนับหลายวินาที...ทิฐิ ความสับสน ความโกรธ อันตรธานหายไปหมดแล้ว เหลือไว้แค่ความโล่งอกและความเข้าใจกันเท่านั้น

หน้าผากของมันชนกับหน้าผากของผมเบาๆก่อนที่ปลายจมูกโด่งจะกดลงไปพร้อมกับริมฝีปากสวยกดจูบย้ำลงไปอีกที

“ฉันขอโทษกับทุกๆอย่าง... ขอโทษที่ทำให้ร้องไห้...” น้ำเสียงนุ่มทุ้มดังคลออยู่ข้างแก้ม...จนทำให้น้ำตาที่หยุดไหลไปแล้วนั้นกลับมาคลอเอ่ออยู่เต็มเบ้า และพร้อมที่จะไหลออกมาได้อีกทุกเมื่อ

“ฉันก็ต้องขอโทษไดด้วย...ขอโทษที่เอาแต่ใจ นิสัยไม่ดี พาลไม่เข้าเรื่อง ขอโทษทั้งหมดเหมือนกันฮึก!” เมื่อย้อนนึกไปถึงสาเหตุที่ทำให้ทะเลาะกันใหญ่โตแล้วน้ำตามันก็ไหลออกมาอีกจริงๆ...ไม่เข้าท่าเลยซักนิดคาสุม่า…เหมือนความรักของเด็กอนุบาลเลย

“ฉันผิดเองที่ไม่หนักแน่นพอ”

“ไม่ ฉันผิดเองที่เอาแต่ใจ ดื้อด้านไม่เข้าเรื่องเข้าราวได”ผมกับไดคุงเริ่มเกี่ยงกันอีกแล้ว

“แต่ฉันต้องการจากนายมากเกินไป โดยลืมคิดถึงความรู้สึกนาย”

“แต่ฉันก็ปากแข็ง ลืมคิดไปว่ามันอาจทำให้นายเสียใจด้วยเหมือนกัน”ผมพูดออกไปอย่างที่ใจคิด

“เอาเป็นว่าเราผิดด้วยกันทั้งคู่...?”มันพูดขึ้น มองตาผมเขม็ง อมยิ้มน้อยๆ

“อื้อ..ก็น่าจะใช่”ผมเริ่มพูดอะไรไม่ออก...มันยอมผมถึงขนาดนี้เลยเหรอ?

ริมฝีปากสวยจูบซับทางน้ำตาให้โดยที่ผมไม่รู้ตัว ในขณะที่ผมกำลังจะเงยหน้ามองเจ้าแดงของผม

“ม่า..ฉันไม่ยอมยกนายให้ใครทั้งนั้นนะ”แก้มร้อนผ่าวถูกมันจูบและหอมไปทั่วบริเวณแล้วครับ...ความหน้าหนาของมันเริ่มออกมาแล้ว

“ไม่ให้ใครทั้งนั้น...”ก่อนที่จะประคองให้ผมสบตาอีกครั้ง สายตาที่ดุดันอยู่เสมออ่อนแสงลง มองผมด้วยความอ่อนโยน และสื่อความในใจทั้งหมดช่วยยืนยันคำพูดของเจ้าตัว

“ดะ...ได”ทำไมนะ ทำไมผมถึงได้คิดเอาตอนนี้ว่าคำรักของไดคุงที่เขาคอยบอกผมอยู่เสมอนั้นมันมีค่าและมีความหมายมากแค่ไหน

“อย่าทำแบบนี้อีกนะม่า เจ็บมากมั๊ย?รีบกลับห้องแล้วใส่ยาดีกว่ามั้ง?”ไดยกมือขวาของผมขึ้นมาดูด้วยความเป็นห่วง ก่อนที่จะปรามด้วยสายตาดุกับสิ่งที่ทำลงไป

“ไม่เจ็บแล้ว” มันชาไปหมดต่างหาก

“ไปหาหมอที่คลินิกให้หมอดูกระดูกนิ้วมือให้ก่อนดีกว่านะ”มันยังคงพูดไปและค่อยๆยกมือขวาของผมพิจารณาไป...ผมมองเจ้าแดงของผมนิ่ง ความในใจล้นทะลัก เอ่ออยู่เต็มอก อยากให้ไดรับเอามันไปเสียที

“ดะ..ได...ฉันก็ไม่ยอมยกไดให้ใครทั้งนั้นนะ...”ผมรีบโพล่งขึ้นทันที ก่อนที่ไดคุงจะหันไปสนใจแผลของผมมากกว่านี้ จนลืมสิ่งที่เขาเรียกร้องจากผมอยู่เสมอ

อยากให้ไดคุงรู้ เขาเป็นของผม ผมเป็นของเขา...เราเป็นของกันและกัน

“ม่า”ไดคุงดูตะลึงไปชั่วขณะ คงไม่นึกว่าจะได้ยินประโยคนี้จากคนปากแข็งอย่างผมซินะครับ

“ฉันรักได รักมากที่สุด...ลองนายไม่รักฉันดูซิ ฉันทำมากกว่าชกไดแน่!”ผมกระซิบบอกมันที่ริมฝีปากสวยเบาๆอย่างหน้าด้านสุดๆใบหูและหน้าตาร้อนผ่าวอายจนไม่รู้จะทำยังไงจนต้องแกล้งทำเป็นขู่มันกรายๆตบท้ายประโยคไปด้วย

ไดคุงอึ้งและนิ่งเกินไป...ผมชักใจเสียขึ้นมาเมื่อเห็นมันไม่มีปฏิกิริยาตอบรับคำสารภาพจากผม

“ได ๆ”อยากตบเรียกสติอีกซักยกด้วยความหมั่นไส้ แต่ก็เกรงว่าใบหน้าหล่อๆของมันจะเสียโฉมไปมากกว่านี้ ผมจึงทำได้แค่เรียกอยู่ข้างหูเบาๆ แต่มันก็ยังคงนิ่งเป็นหุ่นเหมือนเดิม

“ไอ้บ้า!บอกว่ารักไง...ได้ยินมั๊ย?”ผมชักหงุดหงิดขึ้นมา จึงตะโกนใส่หูมันเสียงดังลั่น พลันหุนหันเบี่ยงตัวเองออกมาจากวงแขนแกร่งลุกเดินหนีหน้าเสร่อๆและดูตกตะลึงนั้นทันที

“คาสุม่า...ฮ่าๆๆ”ไอ้ไดบ้าไปแล้วแน่ๆ แค่คำว่ารักของผมทำให้มันเพี้ยนได้ถึงขนาดนี้เชียว

วงแขนแกร่งของมันรีบสวดกอดผมเอาไว้อย่างเก่า ไม่ยอมให้ลุกหนีไปไหน ใบหน้าคมนั้นก็ซุกซบอยู่ที่ซอกคอเรียกชื่อผมครั้งแล้วครั้งเล่า หัวเราะอย่างคนเสียสติก็ไม่ปาน

“คาสุม่า”....ยิ่งเรียกมันก็ยิ่งรัดแน่น

“คาสุม่า ฮ่าๆๆ”....เอาละสิไอ้หล่อไดยื่นจมูกทำฟุดฟิดๆอยู่แถวไหปลาร้าของผมแล้ว

“คา..สุ...ม่า...”...ใบหน้าคมสันที่ผมมองว่าหล่อสุดๆของไดเลื่อนขึ้นมาอยู่ห่างจากหน้าผมเพียงแค่ปลายจมูกแตะกันเท่านั้น

อาการเสียสติไปชั่วขณะของมันท่าจะหายไปแล้ว แววตาดีใจเหมือนเด็กได้ของเล่นถูกใจแวววาวจนผมแอบขำ

“อะไร!จะเรียกทำเมียหรือไง เรียกติดๆกันอยู่ได้”จะว่าเขินก็เขินแหละครับ ก็เลยขึ้นเสียงเข้มดุเจ้าแดงออกไปอีกหนึ่งชุด

“อื้อ...ฮ่าๆก็อยากเรียกทำเมีย”มันยิ้มกว้างจนปากแทบฉีก ก่อนที่จะหยุดแล้วก้มลงฉกฉวยจูบจากผมไปได้เพียงแค่ชั่วพริบตาเดียว

“ฉันดีใจ ดีใจที่สุด”เจ้าตัวไม่มียางอายซักนิด นอกจากจะจูบผมแล้วยังทำท่าจะปล้ำผมเอาข้างถนนเสียอีก เมื่อความดีใจของมันถูกแสดงออกด้วยการกอดรัดแน่น ทั้งจูบทั้งหอมไปทั่ว ทั้งปากและมือไม้ก็สารพัดที่จะฉกฉวยเอาจากผมให้ได้มากที่สุด

“จะบ้าเหรอได!ปล่อยได้แล้ว อายเขา”ผมดุเสียงเข้มเมื่อมันชักลามปามไม่หยุดและทั้งผมและมันต่างก็ตกเป็นเป้าสายตาของคนกลุ่มขนาดย่อมๆได้แล้วในเวลานี้

“ฮ่าๆๆ”

“ก็นายน่ารัก...กลับห้องเรานะม่า?”

“ทะลึ้ง!”สายตาคมทั้งเจ้าเล่ห์และทะเล้นบอกใบ้ให้เข้าใจว่ากลับห้องไปต้องถูกทำมากกว่านี้...ไดจึงถูกผมด่าไปอีกครั้งโทษฐานลามกไม่เป็นเวล่ำเวลาและลวนลามทางสายตา

“ฮ่าๆๆ” เจ้าตัวดีไดหัวเราะดังลั่น ก่อนที่จะพยุงผมลุกขึ้น


“เฮ้!หวัดดีผองเพื่อนต้องการรถด่วนขบวนพิเศษ ไม่คิดตังค์ไหม?” เสียงตะโกนโหวกเหวกคุ้นหูดังลั่นอยู่บนถนน

...ไคย์นั้นเอง ใบหน้ากลมแป้นยิ้มอย่างทะเล้นโบกไม้โบกมือให้ ก่อนที่จะหันไปขยิบตาให้พี่เรียวซึ่งเป็นโซเฟอร์จำเป็น และเจ้าจี้ที่นั่งอยู่เบาะหลังพร้อมกับมิยาบิเพื่อนร่วมวงของผมที่ส่งยิ้มอย่างกระอักกระอ่วนให้มา

ผมหันไปมองไดคุง...เพื่อปรึกษาและลงความเห็น...ยกขบวนมาล้อกันแบบนี้คงแอบดูลาดเลาของผมกับไดอยู่นานแล้วแน่ๆ ถึงได้โผล่เข้ามาแซวยกชุด

“ไม่ไปฉลองกันหน่อยเหรอ พรุ่งนี้เย็นฉันต้องกลับปารีสอีกแล้วนะ กะทิ้งห้องให้เป็นรังรักของพวกนายเลยอะ...ไปฉลองให้หน่อยเป็นไง”ไอ้เจ้าจี้ตัวดีหน้าทะเล้นกว่าใครเพื่อน ยื่นหน้าออกมาจากกระจกรถแหกปากถาม

“ดีๆกันแล้ว ก็จะรีบกลับไปฉลองความสุขกันสองคนเหรอวะ?”เฮียไคย์พลอยหัวเราะร่วมไปด้วยอีกคน

แต่ว่าไดมันไม่สนครับ ผมเห็นมันอมยิ้มแล้วจูงมือผมเดินไปเรื่อยๆ ส่ายหัวนิดๆก่อนที่จะยิ้มกว้างตอบให้เจ้าพวกนั้น

“ไม่ล่ะ...เอาไว้วันหลังวันนี้ขอตัว ใช้บริการแท็กซี่ดีกว่า”มันตะโกนบอกไคย์ ในขณะที่พี่เรียวก็พารถแล่นเอื่อยๆไปช้าๆ

ส่วนผมนั้นไม่กล้าพูดอะไรเท่าไหร่....เขินครับ เขิน ได้แต่ยิ้มแห้งๆให้เจ้าพวกตัวดีทั้งหลายในรถไปเท่านั้น

“เอ่อไม่เป็นไร กูเข้าใจวะ..ไงๆก็เพลาๆ เบาๆกันบ้างนะฮ่าๆๆ”ไอ้ๆๆ

ไอ้เตี้ยเฮียไคย์พูดจบพร้อมกับทิ้งเสียงหัวเราะกวนเบื้องล่างที่ประสานกันดังขึ้นเอาไว้ ก่อนที่พี่เรียวจะรีบเหยียบพารถแล่นหายปะปนไปกับคันอื่น ไม่ทันให้ผมและไดได้ด่าหรือโต้กลับอะไร

ผมมองหน้าไดคุงด้วยความอายที่ซ่อนไม่มิดจากคำพูดของเอ๊ยไคย์มัน เห็นมันจ้องอยู่ก่อนแล้วก็ยิ่งเขิน ได้ยินเสียงหัวเราะเบาๆจากคนตัวโตกว่าก่อนที่มือใหญ่จะกระซับเกาะกุมมือของผมเอาไว้แน่น รอยยิ้มจริงใจ สายตาอบอุ่นดูอ่อนโยนทั้งมั่นคงและมุ่งมั่น เป็นหลักประกันให้ผมฝากชีวิตไว้ในอนาคตอันยาวไกลได้ทอดมองมายังผม

ผมยิ้มตอบมันด้วยความรู้สึกทั้งหมดของผมที่มีให้มันบ้าง ต่อไปนี้ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นผมเชื่อว่าความรัก ไว้ใจและมั่นคงของผมและไดจะไม่ทำให้เราต้องเสียใจและทะเลาะกันอีก

ผมเกาะแขน เขย่งเท้าขึ้นเพื่อขโมยหอมแก้มไดบ้างอย่างรวดเร็ว ก่อนที่จะเปลี่ยนมาจับกระซับมือใหญ่ตอบกลับ เรียกรอยยิ้มและเสียงหัวเราะของไดได้อีกครั้ง

ก่อนที่ไดคุงจะโบกแท็กซี่ข้างทางพาผมกลับห้องพักด้วยความสุขที่ล้นทะลักหัวใจของเราสองคน

อ๊ะ...ส่วนแผลที่มือของผม...คงต้องรอให้ออกจากห้องได้ก่อนเถอะครับถึงจะได้ไปให้หมอรักษา...ตอนนี้...ให้ไดคุงและผมได้รักษาหัวใจของกันและกันให้แน่นสนิทและมั่นใจว่าได้กันและกันกลับมาเหมือนเดิมแล้วก่อนนะครับ


The end.

จบแล้ว โล่งเลยเรา
ขายผ้าเอาหน้ารอดไปได้อีกเรื่อง แฮ่ๆๆพูดเล่นครับ พูดเล่น
บ้า ดี เดือด และเพี้ยนได้ขนาดนี้มีแต่ไอ้ม่าเท่านั้นที่สามารถแฮ่ๆๆ

จบแบบนี้ทำให้ใครค้างคาใจบ้างไหม...?
ขอบคุณทุกคอมเมนต์ ทุกเสียงที่ถามไถ่เรื่องนี้มา และทุกคนที่เข้ามาอ่านมากๆเลยครับ

ออฟไลน์ ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น

  • Administrator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6853
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1320/-22
Re: One man story 1,2,3,4,5,6,7,8,9,10,11,12 จบ
«ตอบ #64 เมื่อ30-09-2007 19:16:14 »

บ้าดีเดือดจริงๆอ่ะแหละ คงเหมาะสมกันที่สุดแล้วทั้งคู่
นี่เพิ่งเริ่มๆนะ มีหวังอยุ่ด้วยกัน
สงสัยมีเลือกตกยางออก
 :m18: :m18: :m18:


ขอบคุณคนเขียนด้วยนะครับที่เขียนเรื่องดีๆมาให้อ่านกัน
 :m27: :m27: :m27:

@^_^@PeaZa@^_^@

  • บุคคลทั่วไป
Re: One man story 1,2,3,4,5,6,7,8,9,10,11,12 จบ
«ตอบ #65 เมื่อ02-10-2007 22:24:18 »

สนุกน้าจะไม่ลืมเลยหละ ว่าแต่จริงๆน้าจะเขียนได้ยาวกว่านี้นะ
 :bye2: :bye2: :bye2: :bye2:

byzantines

  • บุคคลทั่วไป
Re: One man story 1,2,3,4,5,6,7,8,9,10,11,12 จบ
«ตอบ #66 เมื่อ07-10-2007 02:59:00 »

 o14 สนุกครับสนุก บอกได้คำเดียว สั้นๆหนักๆหน่วงๆแบบนี้ถูกใจครับ มีทุกอารมณ์ครับ แต่ขาดตอนสุดท้ายครับ ถ้าเป็นผมคิดนะครับ แหะๆ น่าจะมีหวานๆมาแกล้มสักกะนิดอะครับ  :m29:  เพราะ น่าจะ 2 ตอนหลังนะครับ อ่านแล้วจุกอกปวดท้องอะครับ  :m17: มันบีบหัวจิตหัวใจดีครับ ยังไงก็บอกได้คำเดียวครับ ว่าไม่ค้างครับ อารมณ์มันก็จบอยู่ แต่นึกถึงตอนง้อกัน มันหวิวๆ ฮุๆ ยังไงถ้ามีนิยายเรื่องใหม่หรือเรื่องอยากให้ผู้ชมติดตาม อย่าหาว่าขี้เกียจน้าครับ ส่ง จม.มาตามกันไปอ่านเลยน้าครับ ขอๆ  :m5: แฮะๆๆๆๆ  ติดตามต่อไปแน่นอนครับ  ขอบคุณอย่างสุดซึ่งครับผม  o14

Red....[em]

  • บุคคลทั่วไป
ง่า...ลืมฟิคเรื่องนี้ของตัวเองไปเสียสนิท!!!

ขอบคุณทุกคนและทุกรีพลายมากๆเลยนะครับสำหรับกำลังใจติดตามกันมาตลอดฮี่ๆๆ

ขอบคุณมากครับ

kik_guide

  • บุคคลทั่วไป
ขอบคุณมากมายคร้าบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบ

sirasyung

  • บุคคลทั่วไป
สนุกมากเลยคร๊าบบบบบ

โหดได้จายเจง ๆ  :serius2:

ขอบคุณคร๊าบ  :pig4:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






thopia

  • บุคคลทั่วไป
สนุกจริงๆค่ะ  อ่านแล้วรู้สึกหน้าร้อนเห่อ ความหวานนี่พุ่งทะลุเพดานเลย  :o8:
แหมแต่ตอนทะเลาะนี่อยากขอบอกว่าทิฐิล้วนๆเลยนะนั่น เถียงกันทีได้ใจมั๊กมากกกก   อิอิ  :m20:

singsayam

  • บุคคลทั่วไป
ตามมาอ่านจนจบแล้วละหลาน

ลุงจิ้มให้แล้วละนะ

dekchin

  • บุคคลทั่วไป

echisen

  • บุคคลทั่วไป
อ่านจบแล้วฮับ โหดจิงๆๆๆเรื่องนี้ แต่ก้อชอบนะ อย่างฮาอ่ะ ตลกมากๆๆ อ่ะ มีแอบซึ้งด้วย  น่ารักดี
อ่านแล้วเลือดกำดาวจะไหล  :o8: ชอบฮับบบบ o13 o13 o13 o13

eoeo

  • บุคคลทั่วไป
อ่านจบแล้วหนุกแต่โหดกันจัง

ออฟไลน์ patee

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3732
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +276/-3
โคตรโหดเลย ทั้งสองคนเลย 

แต่ก็สมกันแล้วละ  :laugh: :laugh:

bossbuyking

  • บุคคลทั่วไป
เรื่องนี้แม่งสุดยอดของสุดยอด o13 :a1: o7

ให้คะแนน +10000 ไปเลย :m4: :m4:

ไม่รู้จะสุดยอดไปถึงใหน :o :man1:

หึงได้ใจ รักได้ใจจริงๆ :a2: :a2:

ขอบคุณมากนะคับที่เอามาให้อ่าน o13 o13

รักคนแต่งมากๆเลยคับผม  :oni2: :oni2:

Dangerous_patz

  • บุคคลทั่วไป
เรื่องนี้โหด ได้ใจอ่า





ชอบๆๆๆ





 :jul1: :jul1: :jul1:

yunjaelover

  • บุคคลทั่วไป
อ่านจบแย้ว เย้

ลุ้นจนตอนจบเลย

โหดสมชื่อจริงๆ นี้ถ้าไม่ดีกัน สักที ไม่ตายกันไปข้างเลยหรอ

ไม่มีตอนพิเศษหรอ ตอนง้อกันหลังจากนั้นอ่ะ ในห้องอ่ะ อิอิ :z1:

----------
ขอบคุณนะค่ะ  :3123:

nartch

  • บุคคลทั่วไป
เคยอ่านไปรอบแล้ว...กลับมาอ่านอีกรอบ
ก็ยังถึงพริกถึงขิง เผ็ดร้อนเหมือนเดิม... :laugh:

แปลกใจทำไมอ่านรอบแรกไม่ได้ ment หว่า...  :o8:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






kittyfun

  • บุคคลทั่วไป
เพิ่งตามมาอ่านค่ะ

คู่พระนายเรื่องนี้โหดพอกันเลยค่ะ

ได้ใจมากค่ะ

hours

  • บุคคลทั่วไป

tamtam

  • บุคคลทั่วไป
มาขอบคุณคนแต่งค่ะ
สนุก โหด น่ารัก
 :pig4:

ออฟไลน์ the_pooh9

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 941
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +71/-3
บ้าเว่อร์เลย

ทั้งได ม่า จี้ ไคย์ พี่เรียว

ชอบอ่ะ อิหอย(แรด)  :m20:

Red....[em]

  • บุคคลทั่วไป
 :a5:


อ่า...เปงอีกเรื่องที่แต่งเอามาลง แต่ไม่ค่อยได้เข้ามาตอบเม้นท์เท่าไหร่เลย

ไอ้เอ็มขอขอบคุณทุกคนมากๆเลยนะครับสำหรับทุกๆรีเพล ขอบคุณมากๆคร๊าบ


 :pig4:

cake

  • บุคคลทั่วไป
น่ารักอ่ะ   :-[ :-[

 :pig4:

ออฟไลน์ เกริด้า(๐-*-๐)v

  • ไม่อยากคิดอะไรทั้งนั้นแหละ
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3191
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +349/-29
แอบปั้มไว้ก่อน ^^ อิอิ~ ปกติไม่ชอบอ่านฟิค..แต่ก็เป็นบางอารมณ์อ่ะนะ~~

ออฟไลน์ yaoigirl

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 151
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
Re: One man story 12
«ตอบ #87 เมื่อ13-03-2011 15:27:12 »

ขอบคุนมากค่า  o13 o13 o13


เพิ่งได้แวะเข้ามาอ่าน


บ้า  ดีเดือดทั้งคู่  ฮ่าๆๆ

ออฟไลน์ Bejae

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1386
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +43/-2
Re: One man story 12
«ตอบ #88 เมื่อ13-03-2011 21:55:53 »

บางทีไอ้ไดมันก้งี่เง่าไปนะ 5555555555555555
ม่าก้ปากแข็งเกิ๊น นน
แต่เราชอบไคย์นะ :กอด1:

 :laugh: :laugh:

tatar*

  • บุคคลทั่วไป
Re: One man story 12
«ตอบ #89 เมื่อ30-03-2011 03:44:57 »

อารมณ์เดือด ร้อนแรง ทั้งคู่

= = เป็นความรักที่โคตรจะฮาร์ดคอร์


ฮ่าๆ สนุกมากค่ะ


ขอบคุณนะคะ o13

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด