ทุกๆตัวอักษรจากนี้เป็นความคิดเห็นส่วนตัวของป้าแต่เพียงผู้เดียว ไม่เกี่ยวกับใครทั้งสิ้น ป้าจิ้นของป้าเอง ชีวิตจริงของศิลปินจะเป็นอย่างไร อันนี้ป้าก็อยากรู้ แต่ไม่อยากถาม เก็บเอาไว้จิ้นเองดีกว่า
งานนี้เกิดระหว่างอาการนอยด์ส่วนตัวของป้า แวะเข้ามาดูในเล้าก็แสนจะเงียบเหงา
ป้าก็เลยคลิกๆๆ ไปเรื่อย คลิปนี้ ของคุณ DaphneAnn999 เจ้าเก่า ขาประจำ ขอบคุณมากนะคะ
http://www.youtube.com/user/DaphneAnn999#p/c/4FFB123DC42C0F19/7/NJlwnmN4b9Qทำให้ป้าหาทางออกในชีวิตได้ จะนอยด์ไปใย เติมเลือด ... วาย ... ให้ตัวเองดีกว่า ...
Fiction Analysis # 2 จำทำไม
ป้าดูคลิปที่ Nakornkara ไปเรื่อยๆ จนมาสะดุดกับเพลง .. จำทำไม .. เห็นสีหน้าอาการของหนูซินแล้วป้าว่ามันแปลกๆ น้องนัทเค้าอุตสาห์พูดซะเยอะเพื่อเข้าเพลงที่แสนจะมีความหมายกับเค้า แต่ดูนักร้องจะไม่อินไปกับมือกีตาร์เอาซะเลย ทำเป็นยิ้มไปเรื่อย แต่เป็นยิ้มที่ดูแสนจะอึดอัดยังไงพิกล แถมยังมีทำเสียง ฮู๊ยย (โฮ๊ยย ฮึ๊ยยย ... เลือกออกเสียงได้ตามถนัด) แบบประมาณว่า หมั่นไส้ รำคาญ ไม่อยากฟัง พอเห๊อะ ... แล้วก็หันไปพูดคุยกับแฟนเพลง ... น้องนัทหันมาถาม ประมาณ ... พร้อมยัง (อ่านปากของฉันนะ ...)
หนูซินก็ทำหน้า ประมาณ ... เออ หลังจากนั้นสีหน้าของหนูซินสลดมากกกกกกก จนถึงตอนร้องเลย และงานนี้ถ้าป้าเป็นมือกีตาร์นะ คงแบบเสีย self ... ไรวะ คนกำลังอิน อารมณ์กำลังเศร้า ไม่สนใจกูเล๊ย ...
ป้าว่าคืนนี้คอนเสิร์ตจบ แต่เรื่องไม่จบแน่ ...ขาเรียวก้าวยาวๆ ตรงไปยังรถตู้ของบริษัทที่จอดรอพวกเขาอยู่ คนเดินตามหลังทำหน้ามึนๆ ไม่เข้าใจว่านักร้องของเขาผีเข้าหรือยังไง หลังจากกล่าวลาแฟนเพลง ก็หันหลังลงจากเวที ไม่พูดไม่จากับใครอีกเลย
นัทเลือกนั่งติดประตู เว้นเบาะตรงกลางเอาไว้ เพราะรังสีอำมหิตจากคนที่เข้ามานั่งรออยู่ก่อน แผ่ซ่านจนเขาไม่อยากเข้าใกล้ในตอนนี้
“ พี่ครับ รบกวนวันนี้ไปส่งที่บ้านซินก่อนนะครับ “ นัทพูดขึ้น ทำลายความเงียบที่แสนอึดอัด
คนหน้าตึงที่นั่งหันหน้ามองออกนอกหน้าต่างอยู่ตลอดเวลา ขมวดคิ้วเป็นปมกับคำพูดของมือกีตาร์
นัททำไม่รู้ไม่ชี้ นั่งหลังพิงเบาะ กอดอก สายตามองตรงไปเบื้องหน้า ปล่อยให้ความเงียบเข้ามาครอบงำบรรยากาศในรถตู้อีกครั้ง
ซินบดริมฝีปากเข้าหากัน รู้สึกแน่นในอก ...
คงจะไม่กลับบ้านล่ะสิท่า ถึงได้ให้รถไปส่งเขาก่อน... รถตู้จอดเทียบริมรั้วสีขาว ในจุดที่เคยมาส่งกันเป็นประจำ
นัทเปิดประตูรถ แล้วลงมายืนรอ เพื่อให้คนที่นั่งข้างใน ได้ก้าวออกมาได้อย่างสะดวก
ซินออกมายืนนอกรถ ชะโงกหน้ากลับเข้าไปกล่าวขอบคุณพี่คนขับรถ แล้วหันหลังกลับ เอื้อมมือไปปลดล็อกกุญแจรั้วอย่างเคยชิน ... เสียงกุญแจกระทบกับขอบประตู ทำให้เขาฟังไม่ถนัดว่าคนที่อยู่ข้างหลังกระซิบกระซาบอะไรกับพี่คนขับรถ ซึ่งเขาก็ไม่อยากใส่ใจซักเท่าไหร่ ...
จะไปไหนกับใคร ก็ไม่เกี่ยวกับเขาเสียงประตูรถถูกปิดลง พร้อมกับเสียงเครื่องยนต์ที่เคลื่อนตัวห่างออกไป ... ซินถอนหายใจเบาๆ ผลักบานประตูให้เปิดออก จู่ๆ ร่างสูงของใครบางคนก็แทรกเบียดเข้ามายืนอยู่ข้างๆ ยื่นแขนยาวผลักบานประตูให้กว้างขึ้น นำตัวเองเข้าไปยืนในบริเวณบ้าน ก่อนผู้เป็นเจ้าของ
ซินสะดุ้งสุดตัว ... มองผ่านแสงไฟริมรั้ว ก็เห็นมาเฟียหน้าโหด ยืนจ้องหน้าอย่างเอาเรื่อง
ตากลมโตมองตอบอย่างไม่ยอมแพ้
“ ทำไร “ ถามออกไปด้วยอารมณ์โกรธ แต่กัดฟันปล่อยให้เสียงเล็ดลอดออกมาอย่างแผ่วเบา
ด้วยเวลานี้ดึกมากแล้ว เขาไม่อยากให้ป๊ากับม๊าตื่นมารับรู้ว่า มือกีตาร์ คู่ดูโอของเขา บุกรุกมาหาเรื่องเขาถึงบ้าน
นัทไม่ตอบคำถาม แต่กลับคว้าข้อมือคนตัวเล็ก ผลักบานประตูรั้วให้ปิดลง ฉุดร่างบางให้เดินตามเขา
“ เข้าบ้าน ... “
ซินขืนตัวพยายามจะสะบัดข้อมือเพื่อให้หลุดจากการเกาะกุมของอีกฝ่าย ปากสวยเผยอ ... เตรียมจะประเคนคำด่าให้กับคนข้างหน้า ที่ตอนนี้ทำตัวมาเฟียได้อย่างสมกับฉายา ... แต่ช้ากว่าคนตัวสูงที่ยื่นนิ้วมากดที่ริมฝีปากอิ่ม
“ ชู่ววววว ... อยากให้คุณลุง คุณป้าตื่นใช่ไม๊ ... “ ได้ผล ... คนตัวเล็กหยุดดิ้น สะกดอารมณ์โกรธที่ตอนนี้ถ้าเป็นปรอทก็ปริ่มๆ จะแตกเต็มที
ยกข้อมือที่ถูกกุมไว้แน่น ขึ้นสูง มองหน้ามาเฟียด้วยสายตาเยือกเย็น
“ ปล่อย ... “
นัทยอมปล่อยแต่โดยดี เพราะคิดว่าถึงตอนนี้ ยังไงซินก็ไม่สามารถไล่เขากลับบ้านได้แล้ว
ซินเดินเบี่ยงตัวหลบผู้บุกรุก ไขกุญแจเข้าบ้าน เดินตรงขึ้นบันได ไปยังห้องนอนของตัวเอง ปล่อยให้อีกคนจัดการปิดล็อกประตู แล้วค่อยเดินตามขึ้นมาอย่างเงียบเชียบ เพราะเกรงว่าผู้ใหญ่ทั้งสองที่นอนอยู่ห้องชั้นล่างจะตื่นขึ้นมาพบว่า เขามาบุกรุกบ้านในยามวิกาล
ซินโยนกระเป๋าสะพายสีดำคู่ใจไปกองไว้ที่โซฟาสีขาวตัวโปรด กอดอกแน่น บอกไม่ถูกเหมือนกันว่าในเวลานี้เขาอยู่ในอารมณ์ใดกันแน่
นัทเปิดประตูตามเข้ามา พยายามปิดอย่างเบามือแล้วกดล็อก ... มองร่างบอบเบาที่ถูกอาบด้วยแสงจันทร์ ที่ลอดผ่านม่านสีขาวบนหน้าต่างกระจกบานยาว ... เขารู้ว่าคนสวยกำลังอยู่ในอารมณ์โกรธสุดเหวี่ยง ถ้าเป็นวันอื่นๆ เขาคงจะเดินเข้าไปโอบเบาๆ และถามนุ่มๆ ว่าโกรธอะไรเขา แต่วันนี้ เขาไม่อยู่ในอารมณ์นั้น เขารู้สึกว่าคนตัวเล็กเอาแต่ใจเกินไป เวลาอารมณ์ดีก็หยอกล้อกับเขาบนเวที ซะจนบางทีไม่ห่วงว่าจะเป็นข่าว แต่บทจะไม่พอใจอะไรขึ้นมา ก็ไม่มีเหตุมีผล อยากจะเงียบก็เงียบไปดื้อๆ จะชวนคุย จะถามอะไร ยังไง ก็ทำเป็นไม่สนใจ เขาต้องคอยง้อจนเริ่มจะท้อ เพราะพักหลังนี้ นางฟ้าขาวีน จะเกิดอาการอารมณ์ดับบนเวทีถี่เหลือเกิน ... บอกตรงๆ ว่าวันนี้เขาไม่อยากง้อ แต่อยากจะรู้ว่าเป็นอะไรนักหนา
“ เป็นไร ... เฮอะ “ นัทท้าวสะเอว ถามออกมาด้วยน้ำเสียงหงุดหงิด
... เงียบ ... อีกคนยังคงยืนกอดอกหันหลังให้กับผู้ที่เข้ามาทีหลัง
“ เป็นอะไร ทำไมไม่พูด ตั้งแต่อยู่บนเวทีละ อยู่ดีๆ ก็ทำเหมือนกับว่า ซิงกูลาร์เป็นศิลปินเดี่ยว ... กูยืนดีดกีตาร์อยู่เนี่ย เป็นหัวตอไง “
จากคำแทนตัวว่า “ กู “ ทำให้ซินรู้ว่านัทกำลังโกรธเช่นกัน เพราะถึงแม้พวกเขาจะใช้ กู มึง กันอยู่บ้าง แต่นั่นก็เฉพาะเวลาที่พูดคุยกันเล่นๆ ขำๆ
... ซินถอนหายใจ พยายามจะคลายอารมณ์โกรธของตัวเองให้ลดลงบ้าง เพราะรู้ดีว่า ... คืนนี้ ... ยาว
... กับอาการนิ่งของซิน ทำให้นัทยิ่งเพิ่มความหงุดหงิดขึ้นอีก สาวเท้ายาวๆ ยื่นมือไปจับต้นแขนของคนที่กำลังยืนหันหลัง ให้หันมาเผชิญหน้ากับเขา
“ ว่าไง๊ ... ตอบ “ นัทกระแทกเสียง ... มือกีตาร์ไม่เคยขึ้นเสียงกับเขาขนาดนี้มาก่อน ทำให้อารมณ์โกรธจากการถูกบุกรุก และอารมณ์น้อยใจ ถูกกระตุ้นให้เพิ่มมากขึ้น ...
ใช่ ...
เขาน้อยใจมือกีตาร์มาเฟียตรงหน้า โดยที่อีกฝ่ายคงไม่มีทางล่วงรู้ได้ว่าเพราะเหตุใดนัทบีบแขนเล็กเต็มแรง ด้วยอีกฝ่ายยังคงเงียบ แต่กลับเชิดหน้ามองตอบด้วยสายตากร้าว
“ เจ็บนะ ... ปล่อย ... “ ซินสะบัดแขนสุดแรง ... นัทปล่อยมือจากแขนเรียว ถึงเขาจะหงุดหงิดคนตัวเล็กนี้แค่ไหน ก็ยังไม่อยากทำให้เจ็บอยู่ดี
“ งั้นก็ตอบดิ เป็นไรวะ ... ห๊ะ ... เมนส์ไม่มาไง “
“ ไอ้เชี่ยนัท ... “ ซินหน้าร้อนผ่าว กำหมัดสองข้างระดมทุบใส่มาเฟียปากร้ายไม่ยั้ง
นัทยกสองแขนตั้งการ์ด ป้องกันตัวเอง
“ เอ๊า! จะฆ่ากันให้ตายไง เดี๋ยวลูกกำพร้าพ่อนะเออ “ นัทพูดปนหัวเราะ ... คนสวยยิ่งโกรธยิ่งดู Hot!
“ ไอ้ ... “ ซินหยุดมือจากการทุบ กำกำปั้นแน่น พยายามนึกหาคำด่า ...
“ ไอ้มาเฟียบ้า ไอ้เกรียนตัวพ่อ “ ด่าเสร็จ ยกมือกอดอก สะบัดหน้าหนี
“ เอ๊า ... มาเป็นชุด ... จัดมาอีกครับคุณซิน ”
“ ไอ้มาเฟียโรคจิต “ บ่นพึมพำกับตัวเอง คล้ายไม่อยากให้อีกฝ่ายได้ยิน
“ เออ ... กูได้ยินครับ ... ด่าจบก็ช่วยบอกด้วยครับว่าเป็นเชี่ยไร ถึงได้ทอดทิ้งกูให้เดียวดายตั้งค่อนคืน ... กูคู่ดูโอนะครับไม่ใช่แบ็คอัพ ... อยู่ดีๆ อยากจะมีโลกส่วนตัวขึ้นมากระทันหัน ... พักนี้เป็นบ่อยไปไม๊ครับคุณนักร้อง “
นักร้องสะบัดหน้าหันกลับมาจ้องหน้ามือกีตาร์ อย่างจะกินเลือดกินเนื้อ
“ ใครกันแน่ที่ตกอยู่ในโลกส่วนตัว ... นี่มันเวทีการแสดง ... ไม่ใช่รถไฟฟ้า ... ทำไม ... เป็นไรมากไม๊ ... ชอบมากใช่ไม๊เพลงนี้ ฟังแล้วมันลืมไม่ลงใช่ไม๊ ... “
“ ใครเป็นไร เพลงอะไร แล้วมันเกี่ยวไรกับรถไฟฟ้า ... ยอมรับตรงๆ กูงงครับผม “ นัทยกมือขึ้นเกาหัวแกรกๆ ... เพลงเชี่ยไรเกี่ยวกับรถไฟฟ้า ... นัทพยายามเค้นความคิด ...
หรือว่าปัญหามันมาจากเพลงที่เขาชอบ และซินก็เลือกมา cover ในงานโชว์ตัวของพวกเขา 3-4 งานหลังๆ นี้ ... ซึ่งเป็นช่วงที่นักร้องของเขาเริ่มมีอาการเหวี่ยงใส่เขาพอดี
“ ...จำทำไม... เหรอ ... เป็นไร ... ซินไม่ชอบเพลงนี้ไง ... ไม่ชอบแล้วเลือกมาร้องไมล่ะ ก็เลือกเองนี่ “
“ ก็เห็นชอบไง “ ซินเหวี่ยงตอบประชดประชัน
“ ไม่เป็นไรหนิ ถ้าซินไม่ชอบก็ไม่เห็นต้องร้อง ไม่เห็นต้องแคร์เลยว่านัทชอบรึเปล่า ... แล้วมันเป็นไรนักหนากับเพลงนี้ ห๊ะ “
“ เออสิ มันเป็นไรนักหนา เล่นทีไรทำท่าจะตาย “
“ ใครทำท่าจะตาย เป็นไรมากไม๊ นัทก็เล่นของนัทปกติ ซินสิผิดปกติ ร้องจบก็ไม่คุยกับนัทอีก ... ถ้าไม่ชอบก็ไม่ต้องใส่ในลิสต์สิ ขี้เกียจจะต้องมาคอยตามง้อ “
“ ใครขอให้ง้อ ไม่ต้องมาง้อ ไม่ได้มีความสำคัญอะไรขนาดนั้น “
“ นั่นไง เยอะแล้วไง “ นัทถอนหายใจ
“ ใครว่าซินไม่สำคัญ ถ้าไม่สำคัญจะตามมาถึงนี่เหรอ คิดได้ไม๊เนี่ย “
“ สำคัญอะไร ขนาดยืนอยู่ข้างๆ กันตลอดเวลา ยังไม่มีค่าพอจะให้จดจำได้เท่ากับแค่ผู้หญิงที่เค้าทำให้นัทต้องเสียใจด้วยซ้ำ “
...
อึ้งครับ ... มาเฟียประมวลผลจากข้อมูลทั้งหมดอย่างรวดเร็ว แล้วระเบิดหัวเราะออกมาจนตัวงอ
“ อ๊ากกกก วะฮะฮ่า โอ๊ย ... นี่นัทขอสรุปว่า คุณนักร้องคนสวยของนัท ... หึง ... นัทใช่ไม๊ครับ “
“ ใครหึง “
“ ก็เนี่ย ยืนทำหน้างอจนปากจะชนจมูกอยู่เนี่ย ” นัทท้าวสะเอว เอียงคอยืนมองคนหน้างอ
“ ไม่เคย ... อย่าเข้าข้างตัวเอง “
“ อ้าว ... จริงดิ ... ตกลงนี่เมนส์ไม่มาจริงดิ ... ไอ้เราก็นึกว่าหึงซะอีก ”
“ ไอ้ ... “ กำปั้นคู่เล็กยกขึ้น เตรียมระดมตุ๊บใส่คนที่กำลังยืนหัวเราะชอบใจกับคำพูดของตัวเอง
“ อ๊ะ ... “ นัทยกสองมือคว้าข้อมือเรียวเอาไว้ ก่อนจะได้ปล่อยตุ๊บใส่เขา
“ เดี๋ยวตุ๊บๆ ชอบความรุนแรงไงครับคุณ ” นัทรั้งข้อมือคู่เรียวเอาไว้ ลดแขนลงมา แล้วดึงให้แขนคู่เรียวมาโอบไว้ที่รอบเอวของเขา ร่างบางถลามาซุกอยู่กับอกของมาเฟียตัวร้าย
นัทออกแรงรวบข้อมือเล็กทั้งสองข้างไว้ด้วยกัน กดแน่นไว้เหนือเอวเบื้องหลังของเขา
“ อย่าดิ้น ... ยิ่งดิ้นยิ่งเจ็บนะ ”
“ กลัวเจ็บก็ปล่อยสิ ”
“ ไม่ปล่อย ... คุยให้รู้เรื่องก่อน แล้วจะปล่อย ”
“ งั้นคุย ” ซินเงยหน้าสบตามาเฟีย แม้ตากลมโตจะยังไม่ลดแววหงุดหงิด แต่เสียงก็อ่อนลงพอสมควร ... เพราะร่างกายที่เบียดกันอยู่อย่างนี้ มันทำให้เขาอึดอัด อยากจะหลุดให้พ้นเร็วที่สุด
“ ครับผม ... ฟังนะ ... ถ้าซินไม่ชอบเพลงนี้ ซินก็เอาออกไปจากลิสต์ซะ ถึงนัทจะชอบเล่นเพลงนี้ แต่มันก็แค่เพลงๆ นึง มันไม่ได้มีความหมายอะไรกับนัทอีกแล้ว “
“ ไม่ ... ซินจะร้อง จะใส่ในลิสต์ทุกโชว์เลยด้วย “
“ เออ ... เอาสิ ร้องแล้วก็ไม่ต้องมาจินตนาการต่างๆ นาๆ ไปคนเดียว แล้วมางอนนัทอีกนะ เพราะจะไม่ง้อแล้ว “
“ ไม่ต้องง้อ ... จะร้องๆๆๆๆ จะร้องทุกงาน จะใส่ไว้ในลิสต์ไปจนถึงปีหน้า ... “
“ เออ ก็ร้องดิ ... นางฟ้าโรคจิต ”
“ ว่าใคร ... ไอ้มาเฟียโรคจิต ”
“ หึ หึ หึ ไม่ได้โรคจิตอย่างเดียวนะครับ ผมเป็นมาเฟีย ...หื่น ... ซะด้วย “ มาเฟียรวบข้อมือเล็กที่ยังคงถูกตรึงอยู่ด้านหลังของเขา เอาไว้ด้วยมือข้างเดียว อีกมือเอื้อมไปซุกใต้ผมนุ่ม ประคองศรีษะสวยได้รูป แล้วก้มประกบปากของเขาลงบนปากอิ่ม บดแน่นและดื่มด่ำ ...
ฤทธิ์มากนักนะนางฟ้าของนัท ขอนัทเอาคืนบ้างเหอะ ...
.
.
.
“ ป๊า ... เงียบแล้ว ”
“ อืม ... นอนต่อเถอะ ... คงเคลียร์กันได้แล้วมั้ง “
“ แต่ ... ”
“ น่า ... เรื่องของเด็กน่ะม๊า ... นอนเถอะ ”
.
.
.
“ เตรียมแก้ตัวป๊ากับม๊าเหอะ ว่าทำไมมาค้าง ”
นางฟ้านอนซุกตัวหนุนแขนมาเฟีย พูดขึ้นในขณะที่ใช้นิ้วชี้เรียวเล็กเขี่ยวนๆ ที่อกขาวเนียนของอีกฝ่าย
มาเฟียเขี่ยปอยผมที่ระอยู่บนแก้มใสของนางฟ้า หัวเราะหึๆ ในลำคอ
“ ก็บอกตรงอ่ะครับ ... มาดูแลแฟน ยิ่งกำลังท้องกำลังไส้อยู่ด้วย “
... ตุ๊บ ... โดนเข้าไปเต็มๆ กลางอก บอกได้คำเดียวว่า ...
จุกครับ ...
ป.ล. ขอขอบคุณทุกๆคนสำหรับรูปสวยๆ คลิปดีๆ และฟิคสนุกๆ นะคะ