สวัสดีครับทุกคน ขอโทษที่หายหัวไปนาน เกือบร่วมเดือน =w=/
หวังว่าคงยังไม่ลืมข้าน้อยไปนะครับ เนื่องจาก สอบกลางภาคนรก ตามด้วยซ่อมวิชาที่ตก ฮา
ละกิจกรรมต่างๆ เลยทำให้ไม่มีเวลามาแตะคอม แต่ ช่วงปีใหม่ หมกอยู่บ้านเลยมีเวลาได้นั่งแต่งต่อ
=w= หวังว่า ยังไม่ลืมกันจริงๆนะ
ถึงจะช้าไปนิดแต่ก็ สวัสดีปีใหม่ครับ ขอให้ทุกคนมีความสุขมากๆนะครับ เงินทองไหลเข้ามาเยอะๆ สุขภาพแข็งแรง
การเรียนได้เกรดดีๆ และขยันเยอะๆนะครับ ตอนนี้ผมรู้ซึ้งถึงความขี้เกียจของตัวเองแล้วล่ะ -w-\
เอาล่ะ ไปอ่านกันเถอะ
----------------------------------------------------------------------------------------------------
Beam side
ตอนบ่ายในคาบเรียนสังคม อ.กิจชัย นำใบสมัครค่ายบำเพ็ญประโยชน์ ของหมวดสังคมมาแจกในห้อง ซึ่งจะไปกันในอีกสองอาทิตย์หน้า เป็นวันศุกร์-อาทิตย์ ผมเองก็ลงสมัครไปเพราะอยากทำอะไรดีๆบ้าง พวกมายด์กับเอ็มก็ไปเหมือนกัน เป็นพวกที่ห่างกันไม่ได้สักนิด ไปแล้ว พี่ปอมเองก็ไปเหมือนกัน แต่ไปเป็นพี่เลี้ยง
5 วันก่อนถึงวันไปค่ายผมกับมายด์ตกลงกันว่าจะนอนด้วยกันสามคนเลย เพราะพี่ปอมต้องนอนกับเพื่อน แต่ได้ไปด้วยกันแค่นี้ก็โอเคแล้ว ตอนเย็นผมกับพี่ปอมไปซื้อถุงนอน ส่วนมายด์กับเอ็มนอนในถุงนอนเดียวกัน มันจะติดกันไปไหนเนี่ย!
พอถึงวันพฤหัสพี่ปอมก็ขอมานอนที่บ้านผม เพราะไม่อยากตื่นเร็วกว่าเดิม แค่ 10 นาทีก็ยังเอา ตอนเย็นผมต้องช่วยพี่ปอมเก็บของลงกระเป๋าใหม่ เพราะพี่แกเล่นไม่พับเลยกว่าจะเก็บทั้งหมดเสร็จก็ 3ทุ่มกว่า กว่าจะได้เข้านอน
ก็เกือบ 5 ทุ่ม พอ ตี 4 นาฬิกาปลุกก็ดัง ผมรีบไปอาบน้ำ แต่งตัว พอกลับเข้ามาในห้องพี่ปอมก็ยังไม่ตื่น กว่าจะตื่นได้ต้องใช้พลังงานไปเยอะ พอ ตี 5 ครึ่ง ผมกับพี่ปอมก็พร้อมออกจากบ้าน เราเดินไปที่หน้าหอพักของมายด์
พอเดินไปถึงเอ็มกับมายด์ก็นั่งรออยู่ข้างหน้า สัมภาระของมายด์น้อยกว่าเอ็ม เพราะเต็นท์กับถุงนอนเอ็มเป็นคนแบก จากนั้นพวกเราก็เดินไปโรงเรียนด้วยกัน พอมาถึงที่โรงเรียนก็มีคนมาเยอะแล้ว ค่ายครั้งนี้มีไปทั้งหมด 50 คน
อาจารย์ 5 คน พี่เลี้ยง 15 คน และน้องๆ ม.4 30 คน รถที่นั่งไปก็เป็นรถเมล์สองแถว(แบบรถบรรทุกเก่าๆ ส่วนใหญ่จะมีตามต่างจังหวัด) 2 คัน ส่วนอาจารย์ไปรถตู้กัน ระหว่างทางที่ไปก็ไม่มีอะไรมาก แต่พอ มาถึงทางเข้าที่จะขึ้นไปบ้านกร่างนั้น ในช่วงทางต้นๆยังเป็นลาดยาง แต่พอขับไปสักพักเป็นลูกรัง ฝุ่นกระจายขึ้นมาจนตลบไปทั้งคันรถ ผมต้องเอาผ้ามาปิดจมูกไว้ บางคนก็พันปิดทั้งหน้าเหลือไว้แค่ตา กว่าจะถึงที่พักก็ ใช้เวลาชั่วโมงกว่าๆ พอถึงแต่ละคนก็แทบจะเต็มไปด้วยฝุ่น หัวของผมก็เท่ไม่แพ้ ขาวไปทั้งหัวเลย! เอ็มก็ถ่ายรูปมายด์กับผมไว้เพียบ เตรียมเอาไปประจานเลยสินะ จากนั้นอาจารย์ก็ให้พวกเราไปเข้าแถวรวมกันบริเวณลานกว้าง หน้าที่บริการของอุทยาน
ผบ.ของอุทยานออกมากล่าวเปิด และตามด้วยเจ้าหน้าที่ป่าไม้ที่มาแนะแนวคร่าวๆของการอยู่ค่ายนี้ และคอยดูแลพวกเราด้วย จากนั้นก็เดินลงไปบริเวณลานตั้งแค้มป์ห่างจากที่พักของเจ้าหน้าที่ไม่มาก พวกผมช่วยกันตั้งเต็นท์ ส่วนเต็นท์ของพี่ปอมก็อยู่ข้างๆ เรียกว่าหันหน้าเข้าหากันเลยดีกว่า ส่วนเพื่อนของพี่ปอมอีกคนก็เป็นกันเองดี ชื่อ พี่ ปาล์ม เอ็มกับพี่ปอมช่วยกันตอกไม้ทำราวตากผ้า บริเวณทั้งตั้งแค้มป์มีห้องอาบน้ำกับห้องส้วมอยู่ไม่ไกล มีลำธารแบ่งกั้นป่าเอาไว้ พอตั้งเต็นท์เสร็จก็ไปรวมตัวกันที่ลาน เพื่อจะแบ่งงานกันไปทำ กลุ่มแรกทำฝายทดน้ำ ส่วนอีกกลุ่มทำดินโป่ง ผมเลือกที่จะขุดโป่งดินแทน ไม่อยากไปผจญกับฝุ่น เพราะกลุ่มทำฝายจะต้องนั่งรถออกไปทางที่เข้ามาประมาณ 10 กิโล เอ็มกับมายด์ก็เลือกเหมือนกัน หลังจากที่แบ่งกลุ่มเสร็จ พวกผมก็ขึ้นรถกระบะขับออกมาทางเดิมประมาณ 3-4 กิโลเมตร คราวนี้เจ้าหน้าที่ขับช้าลงและห่างกันพอสมควรฝุ่นเลยไม่ค่อยตลบเท่าไหร่ แต่ก็ระทึกน่าดูเพราะเส้นทาง มีทั้งขึ้นลง และชันมากๆ ถ้าไม่เกาะดีๆอาจได้กลิ้งลงไปแน่ พอมาถึงบริเวณขุดโป่งมันเป็นพื้นที่กว้างๆ มีต้นไม้ เถาวัลย์มากมายเราช่วยกันขนอุปกรณ์ลงจากรถ ฝั่งตรงข้ามที่ขุดโป่งเป็นแอ่งน้ำเราช่วยกันตักน้ำใส่ถังแล้วแบกมาไว้ใกล้ๆกับบริเวณที่จะขุด บริเวณที่ขุดเรากระจายกันเป็นกลุ่มเล็กๆ เพราะอาจารย์ตั้งเป้าไว้แล้วว่าวันนี้ต้องขุดให้ได้มากกว่า 10โป่ง ส่วนกลุ่มของผมก็มี ผม พี่ปอม เอ็ม มายด์ พี่ปาล์ม ผลัดกันขุดไปเรื่อยๆ เพราะจอบที่ใช้ขุดมีแค่สองอัน แต่ก็ขุดลำบากสุดๆ เพราะมีทั้งรากไม้ ก้อนหิน แถมดินก็ขุดยากมากๆ กว่าจะเสร็จก็แทบทรุด เพราะสภาพอากาศวันนี้ร้อนมากๆ พอขุดได้ความลึกกำลังดีก็ใส่เกลือ(เป็นเกลือที่อยู่ชั้นสุดท้ายติดกับดิน)ลงไป 2 กระสอบเล็กๆ แล้วเทน้ำผสมคลุกให้เข้ากับดิน รอจนน้ำซึมก็กลบปิดปากหลุม จากนั้นก็ทำอีก 3 หลุมเลยต้องหยุด เพราะเกลือหมด การทำงานวันนี้จึงสิ้นสุดลงแล้ว ขากลับสภาพของแต่ละคนไม่ต่างกันมากนัก แต่ก็ยังต้องผจญกับเนินชันที่ต้องช่วยกันจับ ไม่ให้พวกที่นั่งท้ายตกจากกระบะ แต่ก็เฮฮากันไปดีแถมได้เพื่อนเพิ่มด้วย พอถึงที่พักอาจารย์ก็ปล่อยให้ไปอาบน้ำ แล้วรอเวลามารวมตัวอีกที พวกผมลงไปอาบในลำธารที่อยู่ด้านล่าง น้ำสูงแค่หัวเข่า แต่ใสมากๆแล้วก็เย็นสุดๆเลย พี่ปอมใส่แค่กางเกงในตัวเดียวแบบไม่อายใคร แต่ผมอาย! ส่วนเอ็มกับมายด์ก็ผลัดกันถูหลัง
“บีม ขัดหลังให้พี่บ้างดิ”พี่ปอมมายืนตระหง่านอยู่ข้างหน้าผม
“ขัดเองไม่ถึงรึไง”
“- 3- ก็อยากให้ศรีภรรเมีย ขัดให้บ้างอ้ะ”
“ไม่ใช่เมียพี่ ฟะ แฟน ตะหาก!”
“งั้น ไม่เป็นไร ว่าที่ก็ได้ เดี๋ยวกลับไปจะให้แม่ไปขอนะ ^o^”
“ไม่ใช่ผู้หญิงนะ!!”
“เอาน่าๆ ขัดหลังให้พี่นะ เห็นไอ้คู่นั้นแล้วหมั่นไส้อ้ะ”พี่ปอมพูดพลางเหล่ไปทางคู่มายด์กับเอ็ม
ผมเลยต้องจำใจขัดให้พี่ปอม แต่แผ่นหลังพี่ปอมกว้างน่ากอดชะมัด! เฮ้ย! คิดไรเนี่ย ผมรู้สึกแปลกๆ จะหัวใจเต้นแรงทำไมเนี่ย! ผู้ชายเหมือนกัน ไม่รู้สึกอายๆ ผมท่องคำนี้ไปมา สักพักก็โดนพี่ปอมใช้สระผมยังกับเด็กเลย!
“มาบีม เดี๋ยวพี่ขัดหลังให้นะ”พี่ปอมยิ้ม ตาหยีลงเล็กน้อย ดูมีเล่ห์นัยอย่างบอกไม่ถูก
“ไม่เป็นไร บีมถูถึง”
“เอาน่า พี่จะทำเบาๆ ^w^”ผมกับพี่ปอมเลยเปลี่ยนที่กัน พี่ปอมขัดหลังผมเบาๆจนเหมือนจักจี๊มากกว่า
“อ๊ะ!! พี่ปอมทำไรอ่ะ!”ผมผงะทันทีเมื่ออยู่ๆพี่ปอมก็งับเบาๆที่ต้นคอ
“ก็ มันน่ากัดนี่นา”
“-////////-+ ไอ้พี่ปอมบ้า!”
“เขินล่ะสิ ฮ่าๆๆๆ” -///////-*
“แน่ๆ ทำไรกันอ้ะ”เอ็มมองมาทางผมแล้วยิ้ม
“ฮึๆๆ ทำแบบที่แฟนทำกันไง”พี่ปอมตอบกลับ
“แหมพี่ ไม่เกรงใจคนอื่นเลยนะ”
“น้องเอ็มก็เหมือนกัน พี่ว่าน้องน่าจะไปอาบแบบห้องดีกว่านะ ตรงนี้มันโล่งนะ เดี๋ยวจะมีคนมาเห็น ^ ^”
“ความจริงอยากเข้าแบบห้องอ่ะ แต่มายด์ไม่ยอมชอบให้คนเห็น อุ้ก!”มายด์กระทุ้งศอกใส่ท้องเอ็มเต็มๆ เล่นซะมันตัวงอกุมท้องไปเลย
“พี่ปอมอาบต่อเถอะครับ อย่าสนใจเอ็มเลย”มายด์ว่า พลางดึงแขนเอ็มเดินสวนน้ำขึ้นไป
“ไม่มีคนขัดแล้วต่อกันมั้ย ^ ^”
“-////////-!! ต่อบ้าอะไรเล่า ขึ้นได้แล้ว”ผมรีบเดินขึ้นจากน้ำไปหยิบผ้าขนหนูที่เกี่ยวไว้กับกิ่งไม้มาพันท่อนล่าง
“ขึ้นก็ได้ - 3-”พี่ปอมเดินตามขึ้นมาแบบเซ็งๆ
“ไม่ถอดกางเกงอ่ะ เดี๋ยวผ้าขนหนูก็เปียกหมดหรอก”
“จะไปถอดในห้องน้ำ”
“ถอดตรงนี้แหละ เดี๋ยวพี่ดูคนให้”ผมมองพี่ปอมแบบไม่ค่อยไว้ใจ แต่ก็เดินไปตรงที่มีต้นไม้พอจะบังคนที่มองมาจากด้านบนได้ ผมค่อยๆถอดกางเกงออกแต่สายตาก็เหลือบไปทางพี่ปอม(เพราะไม่ค่อยไว้ใจ) = =!! พี่ปอมนั่งยองๆอยู่แต่สายตาจ้องมาที่ผมแบบไม่ลดละ
“ก้นสวยจังเลยนะ อยากกัดจัง
”
“=////////=!!! ไอ้พี่ปอมบ้า!!!”
“น้องๆเข้าแถวครับ เราจะทานข้าวกันแล้ว”
“บีมเป็นไรอ้ะ เห็นทำหน้างี้ มาตั้งแต่อาบน้ำเสร็จ”
“ป่าวนิ” ผมตอบมายด์ไป แต่สายตาจ้องจิกไปทางพี่ปอม
“อ่านะ พี่ปอมทำไรหรอ?”
“ห่ะ รู้ได้ไง”ผมหันไปมองหน้ามายด์ รู้ได้ไงเนี่ย!
“ก็บีมเล่นจ้องพี่ปอมไม่ละแบบนั้น -.-ใครก็มองออก”
“อึ่ก! ไม่มีไรหรอกน่า ^ ^; หิวข้าวอ่ะ วันนี้เหนื่อยมากเลย”
“อืม ออกแรงแบบนี้จะมีกล้ามขึ้นบ้างมั้ยเนี่ย”มายด์ว่าพลางทำท่าเบ่งกล้าม
“อย่ามีเลยมายด์ แบบนี้ดีแล้ว -..-”เอ็มโอบรอบคอมายด์
“แมนดีออกไม่ใช่หรอ ถ้ามีกล้ามอ้ะ -.-”
“งั้นมายด์แบบนี้แหละดีแล้ว -w-”
ผมเหลือบไปมองทางพี่ปอมอีกรอบ พี่ปอมเองก็มองมาตีหน้าเศร้าใส่ ชิส์ ไอ้พี่ปอมลามก ปล่อยให้สลดแบบนั้นไปสักพักละกัน ผมเมินหน้าใส่พี่ปอมแล้วไปเข้าแถว พอถึงคิวผมก็ยื่นจานข้าวให้อาจารย์
“ตัวเล็กแค่นี้ ต้องกินเยอะๆ จะได้โตๆ ^ ^”อาจารย์ยิ้มอย่างอารมณ์ดีให้ผม แต่ อาจารย์ครับอย่าย้ำเรื่องไม่โตได้มั้ย T[]T เพราะผมหยุดสูงมา 1 ปีแล้ว แถมสูงกว่าพ่อแล้วด้วย แถมคนในบ้านก็ไม่มีสูงกว่านี้แล้วด้วย น่าเศร้ายิ่งนัก!
Pom side
“ปอมเป็มไรหว้ะ เห็นซึมตั้งแต่อาบน้ำเสร็จล่ะ”
“ที่รักกรุงอน T[]T”
“มีกับเค้าด้วยหรอ -.-”
“อ่าว มีดิว่ะ น่ารักโคตร >w<”
“ขนาดนั้นเลย”
“เออ เวลาอายงี้น่ารักโคตร”
“แอ๊บอ่ะดิ ไม่ว่า”
“ไม่ได้แอ๊บเว้ย แค่จับมือยังอายจนหน้าแดงเลย”
หรอ ผู้หญิงไงก็ดีกว่านั่นสินะ”
“ห๊ะ??”
“ไม่มีไร ช่างเถอะ หิวหว้ะ ไปต่อแถวล่ะ”ปาล์มเดินไปต่อแถวรับข้าว ผมเลยเดินตามไปแบบงงๆ
“บอกตอนไหนหว่า ว่าเป็นผู้หญิง”ผมอุทานเบาๆ เกาหัวอย่างงุนงง ระหว่างที่เดินผมก็มองหาบีม พอเห็นที่รักนั่งอยู่พลางทำหน้าเซงๆ ก็อยากจะเข้าไปแกล้งจริงๆ -w- ผมเลยรีบเดิน แล้วตรงไปยังโต๊ะที่บีมนั่งอยู่
“บีมจ๋า หายงอนพี่ยังอ่า”ผมขยับเก้าอี้ให้ใกล้บีมมากขึ้น บีมเมินหน้าใส่ผม
“อย่างอนดิ งอนนานไม่ดีนะ”บีมหันมามองเล็กน้อย แล้วหันไปกินต่อ
“โห งอนนานงี้ พี่ก็แย่นะ”
“พี่ปอมไปทำไรบีมไว้หรอ”มายด์มองหน้าผมแบบงงๆ
“อ่า ก็... แหม นะ แหะๆ”ผมไม่รู้จะตอบไงเลยเกาหัวแทน
“พี่ปอมนี่ใช่เล่นนะ ขนาดในค่ายนะเนี่ย”เอ็มกัดเล็กน้อยพลางแสยะยิ้มให้ผม
“แหม พี่คงสู้เราไม่ได้หรอก”
“บีมหายงอนนะ พี่จะไม่เผลอทำอีกแล้ว T^T”
“น่า บีมพี่เค้าไม่ได้ตั้งใจหรอก จริงมั้ยพี่ปอม”เอ็มพูดช่วยเล็กน้อย
“เอ่อ ก็มันอดใจไม่ไหวนี่ ผิวสีน้ำผึ้งเนียน น่ากัดชะมัด >w< มันอดใจไม่ไหวอ้ะ T/////T”
“ก็พอจะเข้าใจอ่ะนะ”เอ็มว่าพลางยิ้มที่มุมปาก
“ใช่มั้ยล่ะๆ”
“พอเลย เข้าข้างกันดีจริงๆเรื่องแบบนี้”บีมหันมามองหน้าผม
“น่า บีมเห็นใจพี่ปอมหน่อย อดทนได้ขนาดนี้ก็สุดยอดแล้ว”เอ็มช่วยเสริมให้
“ก็ได้ แต่อย่าให้มีครั้งต่อไปนะ คนอยู่ตั้งเยอะแยะถ้ามีคนมาเห็นจะทำไง”
“คร้าบๆไม่ทำแล้ว”
“ขอบใจนะเอ็ม ช่วยพี่เยอะเลย น้องรักจริงๆ”
“แหม ทีนี้รักกันทันทีเลยนะพี่ปอม”
“บีมแต่ถ้าเป็นที่บ้านก็ได้ใช่มั้ย?”ผมมองบีมแบบมีความหวังเล็กๆ
“-///////-!! ไม่รู้แล้ว กินข้าว”
อายน่ารักชะมัด -/////- ถ้าอยู่กันสองคน ผมคงจะห้ามใจไม่ไหวแน่ๆ
พอหลังจากทานอาหารเสร็จก็มีการนัดสำหรับกิจกรรมพรุ่งนี้อีกเล็กน้อยจากนั้นก็สวดมนต์และปล่อยให้เข้านอน แต่ก็ยังมีน้องบางส่วนที่เดินไปเดินมาระหว่างเต้น ส่วนผมก็นั่งเฝ้าที่รักอยู่หน้าเต็นท์ เพราะประตูหันชนกัน ตรงกลางเลยเอาพลาสติกมาปูไว้นั่ง ส่วนมายด์กับเอ็มมุดเข้าไปนอนในถุงนอนแบบคู่แล้ว อิจฉาชะมัด ผมก็อยากนอนกับบีมนะ! ส่วนปาล์มก็นอนไปแล้วเหมือนกันตอนนี้เลยมีแค่ผมกับบีมนั่งอยู่กันสองคน ไฟจากตะเกียงทำให้รู้สึกโรแมนติกไม่น้อย ผมเลยหยิบผ้าห่มในเต็นท์ออกมา นั่งข้างๆกับบีม แล้วกอดทั้งผ้าห่ม
“ทำไรเนี่ย!”บีมขัดขืนผมเล็กน้อย พยายามผลักออก แต่ก็ไม่ส่งเสียงดังนัก ผมเลยกอดกลับให้แน่นขึ้น
“อยู่แบบนี้สักพักนะ พี่หนาวมากเลย”
“หนาวก็เข้าเต็นท์ไปดิ”
“ไม่เอาอ่ะ ในเต็นท์ไม่มีบีมให้กอด ไม่อยากนอนอ่ะ”
“-//////-”บีมไม่ตอบกลับมา แต่ผมรู้ได้เขากำลังเขินอยู่แน่ๆ น่ารักชะมัด
“อยากอยู่แบบนี้นานๆจัง”
“ไม่เอาอ่ะ หนาวตายพอดี”
“งั้นเดี๋ยวพี่จะกอดให้แน่นๆนะ”
“ขาดใจตายกันพอดี”
“นู้นก็ไม่ดี นี่ก็ไม่ดี ละจะให้พี่กอดยังไงล่ะ”
“ไม่รู้ กอดๆไปเถอะ”บีมก้มหน้างุดลงไป ผมชักจะทนไม่ไหวแล้วนะเนี่ย! อย่างน้อยขอจูบก็ยังดี ขืนรอกลับจากค่ายต้องตายแน่ๆ!
“บีม พี่ขอไรอย่างได้มั้ย”
“ขอไร? บอกมาก่อนดิ”
“พี่ขอจูบบีมได้มั้ย?”
คนข้างหน้าไม่ยอมตอบไรกลับมา ได้แต่ก้มหน้างุดลูกเดียวเลย
“งั้นพี่ถือว่าตกลงนะ”
“อย่าตกละ..” จังหวะที่บีมหันหน้าผม ผมรีบจับคางไว้เบาๆแล้วจูบ ถึงจะดูฉวยโอกาสแต่ไม่ทำงี้ ชาตินี้คงอดแน่
ผมดูดเม้มริมฝีปากของบีม เมื่อปากเผยอออก ก็สอดลิ้นเข้าไป อีกฝ่ายพยายามจะหลบหนีแต่ก็ถูกผมดักไว้ได้ บีมขัดขืนอยู่สักพัก จนในที่สุดก็ยอมคล้อยตาม ถึงจะดูกล้าๆกลัวๆอยู่บ้าง แต่ก็ทำให้ดูน่ากินไม่น้อยเลย ไหล่ที่สั่นระริกเล็กน้อย ยิ่งทำให้ผมอยากกอดให้แน่นกว่าเดิม ไม่นานอีกฝ่ายก็เริ่มท้วง บีมทุบที่หน้าอกผมเบาๆ ผมเลยต้องจำใจผละออก ผมมองบีมที่พยายามหาอากาศเข้าปอด การหายใจที่หอบเหนื่อย
“ทำไมไม่หายใจล่ะ” บีมไม่พูดตอบแต่ยกมือ ประมาณว่า แปปนึง สักพักดูเหมือนจะดีขึ้นแล้ว
“ใครกันล่ะอยู่ดีๆ ก็เล่นคนอื่นไม่ทันตั้งตัวแบบนี้”
“ถ้าพี่ไม่ทำงี้ แล้วจะได้จูบหรอ”
“คนเจ้าเล่ห์”
“เจ้าเล่ห์เพราะรักบีมอ่ะ”ผมหอมแก้มบีมเบาๆ แต่อีกฝ่ายดูจะค้างไปซะแล้ว ถึงแม้จะมืดแต่ก็มองออกว่าอีกฝ่ายเขินแค่ไหน
“ไว้กลับไปแล้วพี่จะสอนหายใจเวลาจูบนะ”
“สอนเรื่องบ้าไรเนี่ย ไม่เรียน”
“จ๊ะๆ ไปนอนได้แล้ว เดี๋ยวพรุ่งนี้ไม่มีแรง”พอส่งบีมเข้านอนเสร็จ ผมก็กลับเข้ามาในเต็นท์ พยายามที่จะข่มตาหลับ เพราะหัวใจที่กำลังพองโตด้วยความสุขอย่างล้นเหลือ
Beam side
หลังจากที่ผมกลับเข้ามาในเต็นท์แล้ว ก็พยายามจะข่มตาหลับ ลบภาพในหัวออกไปให้หมด
“ฮึๆๆ จูบกันหน้าเต็นท์ ไม่กลัวใครเห็นหรอจ๊ะ”ผมหันไปมองต้นเสียง เอ็มที่ลืมตาโพลงกำลังมองมาทางผมแต่ก็ยังกอดมายด์อยู่
“นอนกอดมายด์ไปเถอะน่า”ผมรีบมุดเข้าถุงนอน แล้วหันหลังให้
‘บ้าชะมัดเลย -////-!! ไอ้พี่ปอมบ้า’
ตี 5 นาฬิกาปลุกก็ดังขึ้น ผมเลยเตรียมของไปล้างหน้าแปรงฟันจากนั้นก็ปลุกอีกสองหน่อที่นอนกอดกันกลม พอออกจากเต็นท์ความเย็นชื้นที่ปะทะเข้ากับใบหน้าจนชาไปหมด ผมต้องแข็งใจเดินไปเรื่อยๆ ส่วนสองหน่อก็กอดกันกลมเดินกันอย่างไม่แคร์สายตาชาวบ้านสักเท่าไร ผมเหลือบไปเห็นคนกลุ่มหนึ่งที่จ้องมาทางพวกเรา สายตาที่เหมือนดูถูกทำให้ผมรู้สึกแย่ชะมัด ผมพยายามไม่มองไปแล้วเปิดก๊อกน้ำแปรงฟัน
“นี่คนนั่นไงล่ะ เมื่อวานจูบกับรุ่นพี่หน้าเต็นท์ด้วยแหละ”
“จริงหรอ กล้าหว้ะ อึ๋ย ขนลุก กรุจะโดนเสียบมั้ยเนี่ย”เสียงนินทาที่ดังอยู่ไม่ไกล ผมหันหน้าไปมองทางต้นเสียง
“เฮ้ย! มองมาทางนี้แล้ว”พอผมหันไปมองสองคนนั้นก็ทำท่าไม่รู้ไม่ชี้ แล้วเดินไป
มายด์กับเอ็มก็ยังไม่สนใจ พวกนั้นเลยสักนิด ผมเลยทำแบบนั้นบ้าง หรือเพราะคนที่ถูกพูดไม่ใช่พวกนั้นเลยทำเป็นไม่สนใจนะ?
“นี่ นายนะ เป็นเกย์งั้นหรอ?”เสียงหนึ่งดังมาจากทางด้านข้างผม ผมชำเลืองตามอง เห็นผู้ชายรุ่นเดียวกับผม แต่ห้องท้ายๆยืนท้าวเอว พลางยิ้มเย้ยหยันส่งมา ผมทำเป็นไม่สนใจ แปรงฟันต่อ
“นี่ กรุพูดกับมรึงอยู่นะ อีตุ๊ด!!”เสียงตะคอกที่ดังกว่าเดิม ทำให้คนรอบข้างๆมองมา รู้สึกอับอายชะมัด เอ็มกับมายด์เองก็หันมองมาเช่นเดียวกัน แต่เป็นนัยสงสัยมากกว่า
“ต้องให้ตะโกนรึไง ถึงจะหันมาห๊ะ?”
“ทั้งๆที่ตัวเองก็ทำเรื่องหน้าไม่อาย หน้าเต็นท์แท้ๆ”สายตาเหยียดหยามที่ส่งมานั้นยิ่งทำให้ผมรู้สึกเจ็บที่อก เกิดมาไม่เคยถูกเหยียดหยามแบบนี้มาก่อนเลย ทั้งอับอายและด้านชา
“ถ้า ทำตัวน่ารักๆ บางทีกรุอาจยอมให้มรึงเอาก็ได้นะ”
"ชั้นไม่ใช่คนใจง่ายแบบนั้นนะ!!!"ผมตวาดกลับไปสุดเสียง
"งั้นไหนแสดงให้ดูสิ ว่านายไม่ใช่คนใจง่ายแบบที่นายพูด"มือหยาบหนาที่ตรงเข้ามาดึงตัวผมเข้าไป แค่ชั่ววินาทีเดียว ริมฝีปากหนาก็ถูกประทับลงบนปากผม!