ดีใจจังที่รู้ว่าในนี้มีคนวัยเกิน 40 เหมือนผมด้วย ตอนแรกกะว่าจะมาโพสบอกความรู้สึกครั้งเดียว เพราะคิดว่าเด็กๆ เขาคงไม่อยากสนใจคนวัยผมหรอก เข้ามาดูอีกที อือมีมากกว่า 1 ขอบคุณครับคุณ วัฒน์ ที่บอกเข้าใจ
ที่จริงอารมณ์นี้มันไม่เกิดกับผมมานานมากแล้วจริงๆนะ เหมือนที่บอกด้วยวัย ประสบการณ์ และความเข้าใจโลก กับ การได้ศึกษา และปฏิบัติธรรมะมาบ้าง แต่อ่านแล้ว ภาพอดีตตัวเองกลับมาหมดเลย ผมจึงบอกว่า ส่วนตัวเชื่อว่าโครงเรืื่องมาจากเรื่องจริง ผมไม่ค่อยอินกับอารมณ์คุณเป็ดเท่าไร แต่อินกับพระมาก เพราะวิถีชีวิต เหมือนกันเกือบหมด ต่างกรรรม ต่างเวลาเท่านั้นเอง จะสรุปที่เหมือนให้ฟังคร่าวๆนะครับ
ชีวิตผมเกิดกับริมน้ำ เป็นลูกคนเดียว พ่อตายก่อนจะจำความได้ แม่มีผมตอนอายุมากแล้ว เกิดมาเริ่มจำความได้แม่ก็ไม่แข็งแรงเท่าไร เท่าที่รู้จากญาติๆ และแม่บ้าง ทราบว่าพ่อกินเหล้า เล่นการพนัน และซ้อมแม่ แต่ผมไม่เคยเห็นหรอก จำความไม่ได้
แม่เป็นทุกสิ่งทุกอย่างของผม และก็จากผมไปตอนผมจบ ป.6 ชีวิตหลังจากนั้นมัน ขวัญเสีย กลัว เหงา เศร้า ทุกอย่าง สุดท้ายต้องอยู่วัดเป็นลูกศิษย์วัดเหมือนกัน ไม่มีพระประจำตัวหรอก เวลาที่เทศกาลบวช พระรูปไหนไม่มีลูกศิษย์ ผมก็จะไปเป็นลูกศิษย์ให้ พอครบพรรษาส่วนใหญ่ก็จะศึกกัน ผมก็จะอยู่กับ หลวงพ่อ กับพระที่พรรษามากๆ อีกไม่กี่รูป เพื่อนๆของผมก็เหมือนพระอ้อย มีเป็นรุ่นๆ พอหมดพรรษาเขาก็กลับบ้านกันไปพร้อมกับพระ แต่ผมก็ยังอยู่วัดเหมือนเดิม
วัดที่ผมอยู่ อยู่ติดริมน้ำ เวลาพระบิณฑบาตร จะพายเรือ สมัยผมเป็นเด็ก อำเภอที่ผมอยู่ยังไม่มีถนนครับ มีแต่คลอง กับคลอง ก็เหมือนในกรุงเทพ มีถนนใหญ่ และมีซอย แยกไปในแต่ละถนนอย่างนั้น
เวลาเย็นๆ ถ้าไม่มีอะไรผมชอบจะมานั่งดูน้ำ ดูแสงสีส้มๆ ดูพระอาทิตย์ เหมือนที่บอก มันทำให้ผมสงบ แรกๆจะรอ้งให้คิดถึงแม่ ตอนหลังไม่ร้องแล้วครับ จบ ม.6 มาเรียนรามฯ ทำงานตอน 10.00 -19.00 ขายของที่เดอะมอลล์ รามคำแหง ได้วันละ 60 บาท ไม่พอค่าหอค่ากิน ต้องทำงานเพิ่มเป็น Operator รับโทรศัพท์ 22.00- 6.00 ที่หอพักสตรีหลังราม เป็นยามไปด้วยในตัว ทำอยู่แบบนี้ 3 ปีเรียนจบ และต่อมาได้ทำงานที่ ธนาคารแห่งหนึ่ง กระทั่งปัจจุบัน
ชีวิตที่ผ่านมา มันเงียบเหงา โหยหาความรักมาตลอด ทุกครั้งที่มีโอกาสได้รักใคร ก็จะรักแบบตายแทนไ้ด้ขอเพียงได้อยู่ใกล้ พร้อมจะยอมทำทุกอย่างให้คนที่รัก พอใจ รักเรา ไม่จากเราไป แต่ก็พบกับความสูญเสียและเจ็บปวดเรื่อยมา
เมื่อได้อ่านเรื่องของคุณเป็น ผมถึงอินกับพระอ้อยมาก เข้าใจความรู้สึกทุกอย่าง รู้ว่าทำไมพระอ้อยถึงเลือกหอที่อยู่ใกล้คลอง และมีศาลาริมน้ำ อินกับประโยคที่ว่า
เป็ดเวลามึงเข้ากะดึกมาค้างกับกู แล้วเย็นๆ เรามานั่งเล่นที่ศาลาริมน้ำกัน มันมีความหมายมากมายเหลือเกินครับ
เข้าใจเหตุผมด้วยว่าทำไมพระถึงเลือกที่จะบวช ทั้งๆที่ตอนท้าย คุณเป็ด ก็เสนอทางเลือกให้มากมาย ประเด็นอยู่ที่ ประโยคนี้ครับ
กรูไม่กล้าคิดหรอกว่ามันจะกลับไปเป็นเหมือนเดิมอีกรึ ป่าว ใจคนน่ะเมิงกรูเจอมาเยอะ เมิงตอบตัวเองให้ได้ก่อนเหอะว่าถ้าห่างกรูไปแล้ว เมิงยังจะรู้สึกแบบนี้กับกรูอีกมั๊ย สำหรับกรูนะ กรูไม่ไว้ใจเมิง กรูถึงอยากจะอยู่ใกล้เมิง จริงๆครับ ใจคนน่ะ อยากบอกว่าผมก็เจอมาเยอะเหมือนกัน
ผมเลือกคล้ายพระอ้อยครับ แต่ไม่เหมือนกันบางกรณี คือ หลังๆเลือกที่จะ เป็นผู้เลือกวิธีเปลี่ยนแปลง หรือวิถีชีวิตเอง ทางจิตวิทยาเป็นเรื่องปฏิกริยาอัตโนมัติในการปกป้องตนเอง ให้เจ็บปวด เหงา เศร้า น้อยลง และลดการสูญเสียความภูมิใจในตัวเองด้วย อีกวิธีที่คล้ายพระอ้อย คือเริ่มศึกษา และปฏิบัติธรรมมะ ทำให้เข้าใจสัจจธรรมชีวิตมากขึ้น
เสียดายที่หนังไม่ได้สร้างแบบที่คุณเป็ดเขียนทั้งหมด ไม่งั้นผมว่าหนังเรื่องนี้จะเป็นเรื่องที่เป็นตำนานอีกเรื่อง เดี๋ยวนี้คนโลกทัศน์กว้างขึ้นครับ เขาดูแล้วเข้าใจว่า ไม่ใช่หนังเกย์ แต่เป็นหนังรักที่บริสุทธิ์ ดูได้ทุกเพศ แต่เหมาะกับอายุ 18 ขึ้นไปจริงๆ
สมัยที่ หนัง Brokeback mountain ว่าซึ้งๆแล้วนะแต่ยังไม่เท่า เซ็งเป็ด เพราะนั่นเป็นเรื่องของหนังต่างประเทศ แต่ก็เล่นเอาเคยชวนเพื่อนสนิทที่มีอยู่ 3 คนรวมทั้งตัวผมด้วยก็ 4 คนบอกว่า เฮ้ย เราไปหาหุบเขานี่กับมั่งเหอะ เพื่อนมันบอกว่า
มึงจะไปหาที่ฝังกระดูกหรือ จบข่าว