สวัสดีครับทุกคน กระผมยอดชายนายโฟมคนเดิมกำลังจับลิงอาบน้ำอยู่ครับ ผมยังคิดไม่ตกว่าจะกลับไปดีหรือเปล่า จริง ๆ พ่อแม่ผมสอนให้ผมเห็นแก่ตัวมาก ๆ อะไรที่ทำแล้วมีความสุขก็ให้ผมทำ เพราะกลัวว่าวันข้างหน้าหรือแม้แต่นาทีต่อไปถ้าผมตาย...จะได้ไม่เสียดายที่เกิดมาเสียชาติเกิด แต่เชื่อเหอะ...ถ้าผมตายผมไปเล่าให้ยมบาลฟังท่านต้องยกนิ้วให้แน่ ๆ ที่ผมท้องได้ เยี่ยม
เข้าเรื่องสะที...ขอโทษครับที่อ้อมไปนู้นเลย นั่งตั่งเล็ก ๆ มองเจ้ารบเจ้าปราชญ์สาดน้ำกันในอ่างไม่ใหญ่ไม่โตนัก เฮ้อ..... ผมถอนหายใจจนไม่เหลือแม้แต่ดอกเบี้ยในธนาคารแล้วครับ วันนี้วันที่ 6 แล้ว ผมเหลือเวลาคิดอีกไม่เกินค่ำคืนผมต้องตัดสินใจว่าจะยอมตายหนีความเจ็บปวด ทิ้งให้สองหน่อนี้อยู่กับพ่อของมันโดยที่ไม่มีผมจะเป็นการดีกว่า หรือวา...ผมจะกลับไปยอมรับชะตากรรมว่าควรมีชีวิตต่อไปให้ได้เห็นลูกเติบโตเป็นผู้ใหญ่แล้วค่อยตายทีหลังดี
“ม๊ะฮับ! เมื่อใหย่พ่อจะมา” น้องปราชญ์นั่งลองกับอ่างน้ำ แล้วจับมือของผมที่ยังคงวักน้ำอุ่นในอ่างเล่น ที่แม่ละเรียกไม่ช๊ะ...ทีพ่อละเรียกชัดจังเลย น้อยใจโว้ย
“แม่กำลังคิดอยู่ครับ ว่าเราจะไปหาพ่อดีหรือเปล่า” ผมจับเจ้าตัวน้อยลอยวืดมาอยู่ในตักของผม แล้วห้อยหัวนอนลงกับตักของผม คิดอะไรกันครับ...ผมแค่จะสระผมให้เจ้าปราชญ์ ผมยาวเชียว
“ดีฮั๊ป! ปาดเบื่ออยู่นี้แอ้ว” ผมยิ้มให้กับเจ้านักปราชญ์แสนพูดมากที่นอนเล่นจับสร้อยพระของผมที่แกว่งไปมาตรงหน้าของเค้า เห็นตาโต ๆ แก้มป่อง ๆ แล้วแอบภูมิใจเชื่อแม่มันแรงลูกออกมาน่ารักน่าชังแก้มเป็นกาละมังแบบนี้
“ลบก็เบื่อแล้ว...อยากออกเจิมตี” ผมมองตาพี่ชายของเด็กชายแก้มป่องที่นั่งขัดสมาธิช่วยผมสระผมให้น้องไม่ไกล
“นักรบอยากไปไหนละลูก...ไปเที่ยวสวนดอกแบบเมื่อวานไหมแม่พาไป”
“ม้ายอาว...ลบเบื่อ คิดถึงไฮโย” ผมแอบขำนิด ๆ ที่เจ้านี้บ่นถึงไฮโลมาสองสามวันได้แล้ว ผมค่อย ๆ ตักน้ำอุ่นรดบนหัวเจ้าแก้มป่องในตัก ผมสีน้ำตาล...เชื้อพ่อ
“เอาเป็นว่าเดี่ยวเราอาบน้ำกินข้าว ดีกว่าพรุ่งนี้แม่มีเรื่องจะบอกหนูแน่ ๆ”
“หนุกไหมฮั๊ป!” น้องปราชญ์ยกมือมาจับปากของผมแล้วยิ้มแก้มปริ
“สนุกแน่ ๆ รีบอาบน้ำเร็ว”
++++++
ห้องนอนของผมยังคงบรรยากาศเดิม ๆ ไม่เปลี่ยน ไม่ว่าจะครีมบำรุงผิวของโฟม เสื้อผ้าของโฟม แปรงสีฟันของโฟม หมอนของโฟม โต๊ะของโฟม อะไรที่เป็นของโฟมยังเหมือนเดิมรวมทั้ง...ผมด้วย
ผมลุกจากโต๊ะทำงานก้าวเข้าไปหาเจ้าของร่างที่หลับสนิทบนเตียงเกือบ 7 เดือนเข้าไปแล้ว ร่างกายโฟมยังคงสมบูรณ์ทุกอย่างเพราะแพทย์พยาบาลที่ผมให้เข้ามาตรวจร่างกายโฟมทุกวัน อาหารที่มีสารอาหารครบตามที่ร่างกายของโฟมต้องการ อาหารทุกอย่างถูกส่งผ่านทางสายยาง....
ผมของโฟมยาวขึ้นมาก...ผมลูบแก้มนวลของโฟมช้า ๆ เหมือนเค้าแค่หลับไปอีกไม่เกินนาทีเค้าก็ต้องตื่นมาเพราะผมกวนเค้าอยู่แบบนี้ ผมคิดแบบนี้ทุกครั้งที่สัมผัสผิวของโฟม...แต่ผลที่ได้มันก็แค่ความหวังลม ๆ แล้ง ๆ หมอบอกกับผมเย็นนี้ว่าโฟมครบกำหนดคลอดอีกไม่กี่วันข้างหน้า และมีโอกาสคลอดก่อนกำหนดเพราะเป็นเรื่องธรรมดา แต่ที่ไม่ธรรมดาคือการที่ผมต้องเลือกระหว่างโฟมกับลูก
มันไม่ใช่ว่าถ้าผมเลือกโฟมแล้วโฟมยังคงอยู่แบบนี้ต่อไปได้ปกติ มันไม่ใช่...ถึงแม้ผมจะเลือกโฟมไม่คิดจะเก็บเจ้าตัวน้อยไว้ก็คงเป็นไปไม่ได้ มีแค่ต้องเปิดท้องของโฟมออกแล้วให้ลูกของผมปลอดภัย...ส่วนแม่ต้องแล้วบุญแต่กรรม ผมเสาะหาหมอที่เก่งที่สุดในโลกนี้ตลอด 6 เดือนที่ผ่านมา แต่การคลอดลูกจากชายก็เป็นอันตรายมากอยู่แล้ว แต่โฟมกำลังท้องแฝด แทบไม่มีโอกาสให้แม่ได้รอดชีวิตเลยด้วยซ้ำถ้าแม่ยังหลับแบบนี้
“โฟม...ตื่นซะทีเถอะ พี่ยอมโฟมแล้ว ยอมทุกอย่าง...ยอมจริง ๆ พี่รักโฟมมากนะ ได้โปรดอย่างทิ้งพี่ไป”
++++++
“ว่าไง...เจ้าพวกลิงค่างมันหลับหมดแล้วหรอ ทำไมพวกมันซนบรรลัยอย่างงี่นะ”
ยายบ่นพึมพำ...ก็ไม่อะไรมากหรอกครับ ก็แค่เจ้าสองลิงอยู่ ๆ ก็ไปนั่งกลางโต๊ะอาหาร แล้วตักโน้นตักนี้ให้ผม ตาแล้วก็ยายสะเละไปหมด ไม่พอยังป้อนข้าว ป้อนน้ำ...เอาช้อนตักแกงไปตักน้ำในแก้วใส่ปากให้ตา ใช้มือหยิบผักยื่นให้ผม หรือแม้แต่ก้มลงไปกินข้าวในจานเหมือน....นั้นแหละ พอจะจับให้ลงโต๊ะ...ก็วิ่งวุ่นบนโต๊ะเหมือนสนามฟุตบอล ผู้ใหญ่ ผู้แก่ก็ตกใจกลัวโต๊ะจะพังแล้วตกลงมาทั้งคู่ แต่ดูเจ้าสองลิงมันจะสนุกกับการวิ่งหนีพวกผมบนโต๊ะ เสียงหัวเราะเอิ๊กอ๊ากดังลั่น...ถ้าคนไหนโดนจับได้อีกคนก็ช่วยให้หลุดออกมาได้
ผมเหนื่อยก็เลยนั่งมองเค้าวิ่งบนโต๊ะอย่างปลง ๆ ถ้าตกลงมาก็ถือว่าเป็นครูแล้วกันจะได้จำ ที่ไหนได้...เค้าสองคนเห็นผมนิ่งคิดว่าผมโกรธร้องไห้จ้าไม่ยอมหยุด ใครปลอบก็ไม่หยุดเป็นผมเองต้องปลอบแล้วอุ้มกระเตงไปอาบน้ำ แล้วอุ้มมาใส่เสื้อผ้า ยังครับ...ยังไม่เลิกร้องไห้กันหรอก แผดเสียงดีไม่มีตกเหมือนตอนผมท้องแดกนกหวีดไม่ก็เที่ยวผับบ่อยอย่างนั้น ผมก็เลยต้องอุ้มทั้งสองคนบนบ่ากล่อมจนหลับ
“ตากับยายตามใจกันเกินไปนี้ครับ เลยไม่ฟังกันเลยทีนี้” ผมเดินมานั่งใกล้ ๆ กับยายที่กำลังจิบชาอยู่
“คิดได้แล้วนะสิ..ถึงมาหายายเวลานี้” ผมยิ้มให้ยาย...ยายนี้รู้ลึกรู้จริงยิ่งกว่าครอบครัวข่าว 3 อีกนะครับ ผมพยักหน้าให้ยาย
“ยายผมจะกลับไปคลอด...ส่งผมกลับไปเลยฮะ”
“คิดถูกแล้ว” ยายลูบหัวผมเบา ๆ แล้วก็
วู๊บบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบ ผมลืมตาขึ้นมาอีกครั้ง ผมกรอกตามไปรอบ ๆ มันมีแต่ความมืดสนิทคงมีแต่เพียงแสงจันทร์ที่ที่สาดส่องลอดเข้ามาจากหน้าต่างให้ผมพอรู้ว่าภายในห้องเป็นยังไง ผมรู้สึกปวดเมื่อย..ชาไปทั่วร่างกาย แขนขาหนักแถบขยับไม่ได้
“โฟม.....ตื่นแล้วหรอ” ผมหันไปมองคนข้าง ๆ ที่ตาปรือมองผม
“ฮะ....พี่หลับต่อเหอะ” พี่ทรีกอดผมแน่นขึ้น ปากของเค้ากำลังจูบขมับผมอยู่
“พี่รักโฟมนะ......” ผมนิ่งไปซักพักขยับตัวเบา ๆ รู้สึกว่าแขนขามีแรงกว่าเกา จึงค่อย ๆ ยกตัวเองขึ้น ผมมองแขนของพี่ทรีที่โอบท้องของผมไว้ไม่ห่าง
“พี่รักโฟมนะ.....” อยู่ ๆ ไอ้พี่ทรีก็พูดขึ้นมาเฉย ๆ ทำเอาผมตกอกตกใจหมด ที่แท้มันละเมอครับ ผมลูบหัวทุย ๆ (หัวควาย ๆ นั้นแหละครับ) ของพี่ทรีไปมา
“ผมก็รับพี่นะ...” ผมพูดเบา ๆ พูดเล่น ๆ ไปงั้นมันกลับยิ้มใหญ่เลย
ผมลุกขึ้นจากเตียงเซเกือบขมำหน้าไปจูบราตรีสวัสดิ์กับพื้น ลืมคิดไปว่าตอนนี้ท้องผมใหญ่โตมากมาย...โหยใหญ่จริง ๆ ครับทำเอาผมแบกซะปวดหลังไปหมด ผมใช้แขนด้านขวาพยุงท้องเอาไว้เหมือนโอบบาตรพระ แล้วเดินไปริมหน้าต่างช้า ๆ ผมเปิดหน้าต่างสูดอากาศเข้าเต็มปอด เอ๊ะ...ไม่ยักก็หนาวแหะ มันแค่เย็นสบาย ๆ เหมือนเปิดแอร์ 25 องศาช่วยชาติเท่านั้นเอง
ผมชะโงกลงไปเห็นบ้านของไอ้โฮโลแล้วคิดถึงความเดิมตอนที่แล้วโน้น ไอ้หมาจอมหักหลัง..ทำกับผมได้ ผมยิ้มให้กับวีรกรรมหนีผัวอันห้าวหาญของผม แต่มาโดนหมาหลอกแบบไม่เป็นท่า..คิดแล้วเสียหมาจริง ๆ ครับ
ผมหันหลังกลับเข้าไปในห้องยืนจ้องพี่ทรีอยู่เงียบ ๆ ถ้าผมหนีไปตอนนี้จะดีไหมนะ....ผมคิดได้อย่างงั้นก็สาวเท้าออกจากห้องไป แสงไฟจากโคมให้แสงสว่างพอเพียงกับผมอยู่แล้ว แต่ค่อยข้างจะเดินลำบากเพราะท้องโตสักหน่อย ผมค่อย ๆ เกาะราวบันไดไฮโซลงมาด้านล่าง เสียงนาฬิกาตีดังสนั่นชั้นล่าง 5 ครั้ง ทำให้ผมรู้ว่าตอนนี้มันจะเช้าแล้ว..จะทำอะไรก็จงรีบทำให้ไว
บันได้ขั้นสุดท้ายหมดลงพร้อมกับเท้าของผมเหยีบกับพื้นหินแกรนนิตขัดมัน ผมค่อนข้างเหนื่อยง่ายไปหน่อยแค่ลงบันได้ไม่ได้ใช่สมองมาก แต่มันเหนื่อยจริง ๆ ... ผมพักเพียงอึดใจก็สาวเท้าออกจากบ้านไป มีเสียงคนเดินไม่ไกลมากนัก....ตายละหว่าทำไงดีครับ ผมรีบสาวเท้าไปหลับอยู่หลังผ้าม่านประตู.... ผมแอบมองเห็นป้านองบีเดินมาที่ผมยืนอยู่เมื่อกี้แล้วมองซ้ายขวา ซักพักป้าก็วิ่งไปอย่างเร็ว...ดีครับไปเร็ว ๆ เลย
ผมย่องออกจากบ้านรำลึกวิชามารกลับบ้านเช้า (เพราะเที่ยวเพลิน) จากตอนที่ยังเป็นหนุ่ม ๆ ประตูบานใหญ่ค่อย ๆ เปิดออกเพราะแรงผลักของผม
....แอ๊ดดด........................................................... เสียงสยองขวัญสุด ๆ ผมเดินลัดเลาะไปทางข้าง ๆ บ้าน พยายามใช้ต้นข่อยบังตัวผมจากยามรักษาความปลอดภัยที่เดินมากันสามคน แต่อะเด๊ะ! อะไรเปียก ๆ มาอยู่ใกล้ ๆ กับตูดของผม
“เฮ้ย....อุ๊บ” ผมรีบปิดปากตัวเองแน่นแล้วหมอบตัวให้พุมข่อยบังตัวผมอยู่
“ไอ้ไฮโล...แกอยากให้ชั้นหัวใจวายตายก่อนเห็นหน้าลูกรึไงฮะ มาดี ๆ ไม่มา...ดันมาดมก้นทักทาย” ผมด่ามันเสียงกระซิบ แต่มันนะสิครับนั่งหลังตรงกระดิกหน้า ทำหน้าระริกระรี้ (ผมคิดว่าแบบนั้นนะ)ส่งมาให้ผม
“เฮ้อ....เอาวะ ไม่ด่าแกก็ได้” ผมพูดอย่างปลง ๆ ไอ้ไฮโลก็เข้ามาดมท้องผม ไม่พอยังมาเลียหน้าผมอีก อี๊....สกปรกไฮโซอย่างโฟมรับไม่ด๊าย!
“พอแล้ว...ไอ้ไฮโล หยู๊ดดดด..” ผมด่ามันด้วยเสียงกระซิบ มือก็พยายามดันหน้าหมา ๆ ของมันออกจากหน้าของผม กว่ามันจะมานั่งกระดิ๊กหางทำหน้ากวนตีนผมอีกทีเอาผมหอบเลยทีเดียว
“รู้ว่าแกคิดถึง...แต่ช่วยคิดถึงแบบปกติได้ไหมฮะ”
อ๊าววู้ววววววววววววววววววววววว........... อ๊าว อ๊าว อ๋าววู้ววววววว เอ๋อ....มึงจะหอนทำด๋อยทำไมวะ กูคนไม่ใช่ผีนะโว้ย!... ระ...หรือว่ามันไม่ได้หอนผม แต่มันหอนอย่างอื่นที่ไม่ใช่ผม ไอ้ไฮโลยังคงหอนต่อไปทำผมต้องลงไม้ลงมือตบกระบาลมันหนึ่งที ผมเลยหยุดหอนแล้วยิ้มลิ้นห้อยมองผมตาปริบ ๆ ผมค่อย ๆ ลุกขึ้นเดินไปยังศาลตายาย โดยมีไอ้หมาคอยดูด้านหลัง (มันช่วยรึหรอ)ให้ ผมเงยหน้ามองศาลพระภูมิตากับยายแล้วผมก็ยิ้มขึ้นมาเฉย ๆ
“ยายจ๋า..ตาจ๋าโฟมกลับมาแล้วนะ ไม่ต้องเป็นห่วงโฟมจะเลี้ยงสองลิงนี้เอง” ผมยกมือขึ้นกราบแล้วจึงหันหลังกลับเพื่อออกจากพื้นที่บริเวณบ้านนี้โดยเร็วก่อนที่ไอ้เจ้าของบ้านจะตื่น
ผมใช้ต้อนข่อยเป็นฐานกำลับผมเช่นเคย ผมค่อย ๆ เลาะไปตามแนวจนมาโผล่ที่บ้านไอ้ไฮโลอีกครั้ง ผมก้มตัวลงแล้วลูบหัวมัน
“โซโล...ครั้งแรกนะเนี๊ยะที่ชั้นเรียกชื่อแกถูก...ฉันไปแล้วนะน้องก็ไปด้วย ดูแลพ่อแกดี ๆ แหละ” ผมลูบหัวไอ้ไฮโลแล้วมันครองหงิง ๆ เหมือนจะรู้ครับ
“
โฟม!!! โฟมอยู่ไหน!!! โฟมอย่าหนีพี่ไป!!!! พวกแกออกตามหาเมียฉันให้ทั่ว!!! ถ้าไม่ได้เมียชั้นกลับมาไม่ต้องเอาหน้ามาให้ชั้นเห็นอีก!!!”
เสียงโวยวายจากเสียงที่ผมไม่ได้ยินมานานดังขึ้นจากด้านบนของหัวผม ไฟทั้งบ้านเปิดสว่างพร้อมกันทันที ไม่เว้นแม้แต่ไฟที่เปิดให้ความสว่างกับบ้านไอ้ไฮโล
“ทำไงดี! ทำไงดี๊” ผมเดินวนไปมา ก็คนมันไม่รู้นี้ครับจะไปทางซ้ายหรือว่าไปทางขวา ขวาก็ตาย..ซ้ายก็ตาย
“โฮ่ง!” ผมหันไปมองที่เสียงเห็นไอ้ไฮโลมันนั่งอยู่ประตูบ้านหมา ๆ ของมันรอผมอยู่
“เห๊อะ...ความนี้แกไม่ได้กินชั้นหรอกโว้ย! ไอ้หมาจอมหักหลัง!” ผมกอดอกมองมันแบบนี้ทัน เรื่องเก่งกับหมาไอ้กระผมนะถนัดนัก
“
พวกแกไปดูด้านหลัง สาวอีกกลุ่มไปดูด้านหน้า...เฝ้าทางออกทุกทางไว้อย่าให้คราดสายตาไปได้” เสียงของอาเมทดังขึ้นไม่ไกล ผมที่หันหลังต้องหันไปดูเห็นบรรดาพ่อบ้าน ยาม คนสวนวิ่งกันไปดักหน้าหลัง ประตูอย่างที่อาเมทบอก มีกลุ่มหนึ่งกำลังวิ่งมาทางผม
“ตายห่า..... เอาวะ” ผมรีบคลานเข้าไปในบ้านหมาอย่างทุเรศทุรัง ผมเข้าไปด้านในสุดเจอกับพรมนุ่น ๆ เอาไว้ให้หมาของพวกไฮโซนอน แถมมีตุ๊กตาอีกด้วย....ไอ้ไฮโลมันรู้หน้าที่เดินมานอนบังทางออกซะมิด ข้างนอกก็คงไม่เห็นผม
เอ้อ! ก็ดีเหมือนเกินเดินนานจนเมื่อยหลัง เมื่อยขาไปหมด...ขอเอนหลังเสียหน่อย ตอนนี้ก็คิดไปพราง ๆ ก่อนว่าแผนออกจากบ้านจะทำยังไง ต้องมีแผนหลัก แผนรอง แผนย่อย แผนแขวง แผนตำบล แผนซอย เอาให้ละเอียดยิ๊บชนิดฝอยทองเรียกพี่ ด้วยความฉลาดหลักแหลมของไอ้โฟมคงหาทางออกจากที่นี้ไม่ยาก
เสียงฝีเท้าวิ่งกันผ่านตัวผมไปมา ผมสังเกตไอ้ไฮโลว่ามันจะตุกติกหรือเปล่า....แต่มันก็ทำหน้านิ่งมองคนโน้นวิ่งผ่านมันไปที เดี่ยวอีกฝูงก็วิ่งมาดีด้าน.... ห๊าว...... แจ๊บ ๆ อู้ย ปวดหลัง .......แจ๊บ ๆ